พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. ake7440

    ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    มันจะง่วงครับ หุหุ
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  3. คีตา

    คีตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +4,309
    พี่ๆครับ ขออนุญาตแทรกนิดนึงครับ ผมได้ภาพเป็นไฟล์ละเอียดมาแล้ว สามารถโหลดได้ที่กระทู้นี้เลยครับ



    ขอบคุณมากเลยครับ และขออนุโมทนาด้วยครับ

    [​IMG]
     
  4. dragonlord

    dragonlord เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    541
    ค่าพลัง:
    +1,541
    อนุโมทนาด้วยคะคุณคีตา

    ปล.คุณน้องหนูเดินเวียนเทียนซัก 6 รอบสิคะ ฝากเดินสามรอบ
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    สำหรับคุณlord of the ring น่าจะฝากท่านโดจิ เดินแทนนะครับ

    ว่าไงครับท่านโดจิ

    .
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ชาวพุทธฯ ตะลึงเกิด 4 อัศจรรย์ ในวันมาฆบูชา

    http://hilight.kapook.com/view/33630

    [​IMG]

    [​IMG]



    ชาวพุทธฯ ตะลึงเกิด 4 อัศจรรย์ครั้งเดียวในโลก วันมาฆบูชา (อ.ส.ม.ท.)

    วันมาฆบูชา หมายถึง การบูชา ตรงกับวันเพ็ญเดือนมาฆะ (ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3) นับเป็นวันพิเศษ ที่เกิดเหตุการณ์สำคัญทางพระพุทธศาสนา เพราะในวันนี้นอกจากเป็นวันเพ็ญเดือนมาฆะแล้ว ยังเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์ ซึ่งประกอบด้วยความพิเศษ 4 ประการที่เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต นั่นคือ เป็นวันที่พระสงฆ์ จำนวน 1,250 รูป มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย พระสงฆ์เหล่านั้น ล้วนเป็นเอหิภิกขุ คือ ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้า และล้วนเป็นพระอรหันต์ผู้ได้อภิญญา 6 จึงเป็นการเกิดเหตุการณ์อัศจรรย์เป็นครั้งแรก และเป็นเพียงครั้งเดียวในสมัยพุทธกาล

    เมื่อพระองค์ยังทรงพระชนมชีพอยู่และทรงประทับอยู่ ณ วัดเวฬุวัน กรุงราชคฤห์ ก่อนเข้าพรรษาที่ 2 (หลังจากตรัสรู้ 9 เดือน) ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าจึงเห็นเป็นโอกาสเหมาะ ที่จะแสดงโอวาทปาติโมกข์ อันเป็นการประกาศหลักการ อุดมการณ์ และวิธีการปฏิบัติ ในการเผยแพร่พุทธศาสนา ให้นำไปใช้ได้ในทุกสังคม ซึ่งมีเนื้อหาโดยสรุปคือ ให้ละความชั่วทุกชนิด ทำความดีให้ถึงพร้อม และทำจิตใจให้ผ่องใส ซึ่งหลักธรรมคำสอนดังกล่าว จะเรียกว่าเป็นธรรมนูญแห่งพุทธศาสนา หรือ หัวใจของของพุทธศาสนาก็ได้ ดังนั้น โอวาทปาติโมกข์ จึงชี้ชัดถึงความเป็นสมณะ และบรรพชิตในพระพุทธศาสนาที่ แตกต่างจากศาสนาอื่น อันเป็นรากฐานที่ทำให้พระพุทธศาสนา มั่นคงอยู่มาจนถึงปัจจุบัน​

    สำหรับในประเทศไทยนั้น พิธีบูชาเนื่องในวันมาฆบูชา เริ่มมีเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ทรงปรารภ ถึงความสำคัญของวันมาฆบูชาว่า มีเหตุการณ์สำคัญ 4 ประการ ที่เรียกว่า จาตุรงคสันนิบาต เกิดขึ้นในวันมาฆบูชา จึงเห็นสมควรที่พุทธศาสนิกชนจะได้ทำการบูชา เพื่อระลึกถึงความสำคัญของวันดังกล่าว โดยโปรดให้มีการประกอบพระราชกุศลในเวลาเช้า ด้วยการนิมนต์พระสงฆ์เจริญ พระพุทธมนต์ และฉันภัตตาหารในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในเวลาค่ำพระองค์จะเสด็จออกฟังพระสงฆ์ทำวัตรเย็น สวดโอวาทปาติโมกข์ และทรงจุดเทียนเรียงรายตามราวรอบ พระอุโบสถ จำนวน 1,250 เล่ม พระภิกษุเทศนาโอวาทปาติโมกข์ พระสงฆ์จำนวน 3 รูป สวดมนต์รับเทศนา เป็นเสร็จพิธี

    ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระองค์ทรงนำพิธีบูชา เนื่องในวันมาฆบูชาไปประกอบในสถานที่อื่นๆ นอกพระบรมมหาราชวัง ในคราวเสด็จประพาสต้น เช่นบางปะอิน, พระพุทธบาท, พระพุทธฉาย, พระปฐมเจดีย์, พระแท่นดงรัง เป็นต้น ประชาชนได้นำเอาพิธีบูชา เนื่องในวันมาฆบูชา ไปปฎิบัติกันอย่างกว้างขวาง และสืบมาจนถึงปัจจุบัน​


    [​IMG]


    [​IMG] แนวทางที่พึงปฏิบัติสำหรับ พุทธศาสนิกชนเนื่องในวันมาฆบูชา

    1. ให้ทาน ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสามเณร ในช่วงเช้า หรือเพล บริจาคทรัพย์ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ยากไร้ และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์​

    2. รักษาศีล สำรวมระวังกายและวาจา ด้วยการรักษาศีล 5 หรือศีล 8 พร้อมทั้งบำเพ็ญเบญจธรรมสนับสนุน​

    3. เจริญภาวนา บำเพ็ญภาวนา ด้วยการไหว้พระสวดมนต์ และปฏิบัติธรรมและวิปัสสนาตามแนวสติปัฏฐาน 4 ได้แก่ ​

    [​IMG] กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน ให้พิจารณากายนี้สักแต่ว่ากาย มิใช่สัตว์ ตัวตน บุคคล เรา เขา​

    [​IMG] เวทนานุสติปัฏฐาน ให้พิจารณาเวทนา คือ สุข ทุกข์ และไม่สุข ไม่ทุกข์ เป็นอารมณ์ ว่า เวทนานี้สักว่า เวทนา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา​

    [​IMG] จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน ให้พิจารณาใจที่เศร้าหมอง หรือผ่องแผ้ว เป็นอารมณ์ว่าใจนี้ก็สักว่าใจ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา​

    [​IMG] ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน ให้พิจารณาธรรมที่เป็นกุศล และอกุศล ที่บังเกิดกับใจเป็นอารมณ์ว่า ธรรมนี้ก็สักว่า ธรรม ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา​

    เนื่องในโอกาสที่วันมาฆบูชา อันเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา ได้เวียนมาบรรจบอีกครั้ง ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติกระทรวงวัฒนธรรม จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ประพฤติปฏิบัติธรรม โดยการนำครอบครัวไปบำเพ็ญกุศล การทำบุญใส่บาตรในตอนเช้า ไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรม และฟังพระธรรมเทศนา ในตอนเย็นพาครอบครัวไปเวียนเทียนที่วัด เพราะวันสำคัญทางศาสนา ถือเป็นอีกวันหนึ่ง ที่ทุกคนในครอบครัว ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ดำเนินกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน เพื่อสร้างความสุขและความอบอุ่นในครอบครัว รวมทั้งนำหลักธรรม มาเป็นแนวทางปฏิบัติ เมื่อทุกคนมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับความสำคัญของวันมาฆบูชาแล้ว ก็สามารถดำเนินชีวิตตามหลักธรรม เกิดความศรัทธาและรู้จักปฏิบัติตนตามหน้าที่ ของพุทธศาสนิกชนที่ดีได้อย่างถูกต้อง และมีความสุขตลอดไป​



    ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือวันมาฆบูชา ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ

    ข้อมูลข่าว : ฐานิกร ดอกพงษ์กลาง ศูนย์ประชาสัมพันธ์วัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ​


    [​IMG]


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก อสมท.​
    http://variety.mcot.net/type11
    [​IMG]
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
    ศศิวิมล​
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ภัยคุกคามข้อมูล

    http://hilight.kapook.com/view/33631

    [​IMG]


    ภัยคุกคามข้อมูล (อ.ส.ม.ท.)

    ศูนย์วิจัยเทรนด์แล็ปส์ บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ จัดทำรายงานสรุปภัยคุกคามข้อมูลที่พบมากที่สุด 8 ประเภทในปี 2551 พบว่า

    1. แพร่ระบาดสูงสุด:สร้างอันตรายในวงกว้าง

    การโจมตีที่มีเป้าหมายไปยังกลุ่มผู้ใช้เฉพาะและเว็บไซต์ยอดนิยม มีเว็บไซต์หลายประเภท ทั้งบันเทิง การเมือง ช็อปปิ้งออนไลน์ เครือข่ายทางสังคมถูกใช้แพร่ระบาดมัลแวร์ ภาวะอันตรายนี้เกิดสูงสุดในเดือนพฤษภาคม มีเว็บไซต์ทั่วโลกที่ติดโค้ดร้าย ส่งไปถึงผู้ใช้อินเตอร์เน็ต ดูเหมือนว่าแนวโน้มนี้ยังคงเกิดต่อเนื่องเกินกว่าที่คาดหมายไว้​

    2. ฝังแน่นที่สุด : บ็อตเน็ต

    บ็อตเน็ตเปรียบเสมือนสิ่งชั่วร้ายที่มีอยู่ในทุกที่ โดยตัวอันตรายสำคัญอย่าง Storm, Kraken, Mega-D/Odzok, MayDay และ ASProx ปรากฏขึ้นเป็นระลอกๆ ตลอดปี 2551 และมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เมื่อนักวิจัยบ็อตเน็ตดำเนินการตรวจสอบ แม้มีการปิดเว็บไซต์ McColo ผู้สนับสนุนอาชญากรรมไซเบอร์รายใหญ่ไปแล้วเแต่ก็แค่หยุดกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านบ็อตชั่วคราว ที่พวกเขาจะค้นหาเครื่องมืออื่นๆ มาใช้ในการแพร่ระบาดอีกครั้ง​

    3. แคมเปญจัดจำหน่ายใหญ่ที่สุด:โปรแกรมป้องกันไวรัส (ของปลอม)

    ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสลวง แบ่งทำงานเป็น 2 ขั้น ขั้นแรกจะหลอกผู้ใช้ว่าระบบของพวกเขาติดมัลแวร์แล้วด้วยการสร้างอาการติดเชื้อหลอกๆ ขึ้นมา ขั้นต่อมาจะชักชวนให้ผู้ใช้ซื้อโปรแกรมป้องกันไวรัสปลอม เพื่อล้างการติดเชื้อลวงนั้นภัยคุกคามนี้ใช้ช่องทางติดเชื้อและมาในหลายรูปแบบ ตั้งแต่สแปมไปจนถึงการวางอันดับเว็บของตนให้ติดในเว็บไซต์ค้นหายอดนิยม (SEO) เพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อซึ่งยังรวมถึงการฝังตัวอยู่ในเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายหลายแห่งด้วย​

    4. ติดตามได้ยากที่สุด:ตัวเปลี่ยน DNS

    เทรนด์ ไมโคร ตรวจพบมัลแวร์สองตัวที่เปลี่ยน DNS ได้แก่ TROJ_AGENT.NDT และ BKDR_AGENT.CAHZ ถือเป็นอันตรายต่อโฮสต์ต่างๆ ในเครือข่ายย่อยภายในองค์กร โดยจะติดตั้ง Dynamic Host Configuration Protocol (DHCP) Server ปลอมบนเครือข่ายมัลแวร์เหล่านี้จะตรวจสอบการรับส่งข้อมูลและดักจับ แพคเก็ตที่ร้องขอจากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ในเครือข่าย จากนั้นตอบกลับการร้องขอที่ดักจับได้นั้นด้วยแพคเก็ตที่มี DNS server เป็นอันตรายให้ผู้ได้รับแพคเก็ตถูกเปลี่ยนทิศทางไปยังเว็บไซต์อันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ​


    [​IMG]


    5. อัตโนมัติที่สุด : ช่องโหว่

    หนอน .DLL ชื่อ WORM_DOWNAD.A ได้ใช้ช่องโหว่ MS08-067 แสดงชุดคำสั่งที่ทำให้นักวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยเชื่อว่าจะเป็นส่วนประกอบสำคัญในการพัฒนาบ็อตเน็ตใหม่ขึ้นมาโดยมีโฮสต์ที่ไม่ซ้ำกันกว่า 500,000 แห่งที่แพร่ระบาดหนอนตัวนี้ไปยังในประเทศต่างๆ แล้ว และมีข้อบกพร่องซีโร่เดย์ใน Internet Explorer นำไปสู่ภัยคุกคามข้อมูลออนไลน์ขนาดใหญ่ 2 อย่างด้วยได้แก่ การขโมยข้อมูลและโจมตีแบบ SQL Injection (ใช้คำสั่ง SQL เพื่อช่วยในการแฮกระบบ) ซึ่งเกิดกับเว็บไซต์ 6,000 แห่ง อาชญากรไซเบอร์ใช้ประโยชน์ข้อบกพร่องเหล่านี้โดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อย​

    6. ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงสุด : รูตคิตส์

    รูตคิตส์ MBR (Master Boot Record) เริ่มแพร่ระบาดช่วงต้นปี 2551 ตรวจพบรูตคิตส์ที่ชื่อว่า TROJ_SINOWAL.AD ซึ่งจะค้นหาพาร์ติชันที่สามารถบู๊ตได้ของระบบที่ติดเชื้อ จากนั้นจะสร้าง MBR อันตรายใหม่ขึ้นมาเพื่อโหลดส่วนประกอบของรูตคิตส์ที่ชื่อว่า RTKT_AGENT.CAV ลงไว้ในระบบ แล้วทำการบันทึกไว้ในเซกเตอร์ภายในพาร์ติชันที่บู๊ตได้​

    7. อันตรายสูงสุด : มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware)

    มัลแวร์เรียกค่าไถ่ GPcode รุ่นใหม่ที่ เทรนด์ ไมโครตรวจพบชื่อว่า TROJ_RANDSOM.A พบในเดือนพฤศจิกายน มัลแวร์ตัวนี้จะค้นหาและเข้ารหัสไฟล์ที่พบในไดรฟ์ที่อ่านและเขียนได้ของระบบจากนั้นก็จะแสดงให้ผู้ใช้เห็นว่าไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ดังกล่าวได้ถ้าไม่มีคีย์เข้ารหัสลับเหยื่อจะได้รับแจ้งว่าต้องซื้อเครื่องมือถอดรหัสลับซึ่งจะมีการทิ้งไฟล์ข้อความไว้ในแต่ละโฟลเดอร์ที่มีไฟล์ที่ถูกเข้ารหัสลับไว้​

    8. น่ารำคาญที่สุด : มัลแวร์แบบรันอัตโนมัติ (AUTORUN)

    ไดรฟ์แบบถอดได้และไดรฟ์ที่ใช้งานจริงถือเป็นแหล่งติดเชื้อสูงสุดอันดับ 4 ของโลกโดย 15% ของการติดเชื้อทั้งหมดในเอเชียและออสเตรเลียมาจากมัลแวร์ที่เกิดจากไดรฟ์แบบถอดได้ประเทศในเอเชียส่วนใหญ่จะมีมัลแวร์แบบรันอัตโนมัติเป็นตัวติดเชื้อสูงสุดและเป็นมัลแวร์ที่ติดเชื้อมากที่สุดในพีซีของประเทศในภูมิภาคยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกา (EMEA) ด้วย นอกจากนี้มัลแวร์ดังกล่าวยังสามารถผ่านเข้าไปยังเครือข่ายของนาซาและกระทรวงกลาโหมสหรัฐได้สำเร็จแล้วด้วย ​


    [​IMG]



    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก อสมท.​
    http://variety.mcot.net/V3031
    [​IMG]
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ส่งโทรจันโอนเงินจากมือถือ
    http://variety.mcot.net/V3104


    อาชญากรรมไซเบอร์แบบใหม่ ส่งโทรจันโอนเงินจากมือถือ

    แคสเปอร์สกี้ แลป เผยตรวจพบอาชญากรรมไซเบอร์รูปแบบใหม่ เขียนโทรจัน ส่งข้อความให้มือถือเหยื่อโอน เงินเข้าบัญชี แนะผู้ใช้ทดลองใช้ระบบเตือนภัยและอัพเดท โปรแกรมป้องกันไวรัสเสมอ

    รายงานข่าวจากแคสเปอร์สกี้ แลป ซอฟต์แวร์เพื่อการป้องกันข้อมูลจากการคุกคามทางไซเบอร์ แจ้งว่า ผู้เชี่ยวชาญ ของแคสเปอร์สกี้ได้ค้นพบภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในโทรศัพท์มือถือบนซิมเบี้ยนแพลตฟอร์ม ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายในประเทศอินโดนีเซีย โดยโทรจันที่พบเป็นภาษาไพธ่อน สามารถส่งข้อความเพื่อให้โทรศัพท์ของกลุ่มเป้าหมายโอนเงินเข้าอีกบัญชีหนึ่งได้อย่างง่ายดาย นับเป็นอาชญากรรมไซเบอร์ใกล้ตัวที่น่ากลัว และผู้ถูกล่วงละเมิดยังไม่รู้ตัวอีกด้วย

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]


    ปัจจุบันการตรวจพบตัวแปรของ Trojan-SMS. Python.Flocker มีอยู่ 5 ตัวด้วยกัน ตั้งแต่ .ab ถึง .af และจำนวนเงินที่พบว่า มีการลักลอบโอนนั้นอยู่ระหว่าง 0.45-0.90 เหรียญสหรัฐ หากการทำอาชญากรรมไซเบอร์ด้วยโทรจันในรูปแบบนี้ขยายวงกว้างขึ้น เชื่อว่าจะมีความเสียหายจำนวนมหาศาลเกิดขึ้นตามมา

    นายเดนิส มาสเลนนิคอฟ นักวิเคราะห์มัลแวร์อาวุโส แคสเปอร์สกี้ แลป กล่าวว่า เหตุผลหลักของคนที่เขียน โทรจันขึ้นมา คือ การยักยอกเงิน การใช้กลไกในการโกงเงินในรูปแบบนี้เริ่มเด่นชัดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีผู้คนจำนวนหนึ่งคิดว่าภัยคุกคามโดยการส่งข้อความนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะแต่ในประเทศรัสเซียเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงจะเห็นได้ว่าภัยดังกล่าวกลับกลายเป็นปัญหาระดับโลกไปแล้วในเวลาไม่นาน จึงแนะนำให้ผู้ใช้ทดลองระบบเตือนภัยเวลาที่ใช้โทรศัพท์ในการต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ต และควรจะอัพเดท โปรแกรมแอนตี้ไวรัสให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อรับมือกับทุกอันตรายในมือถือได้ตลอดเวลา.

    ที่มา : เดลินิวส์
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
  10. littlelucky

    littlelucky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,938
    <table id="post1853941" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;" id="currentPost">[​IMG] 04-02-2009, 12:20 PM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #27964 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> :::เพชร::: <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1853941", true); </script>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    อายุ: 44
    ข้อความ: 5,771
    <if condition=""></if> พลังการให้คะแนน: 3446 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_1853941" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> ปัจจัย ที่เหลือจากการ xerox พัสดุ และค่าใช้จ่ายในการจัดส่งหนังสือพุทธประวัติอารมณ์จิตจากพระโอษฐ์ จำนวน 1,463 บาทได้มอบให้พี่ท่านหนึ่งเพื่อมอบให้คุณย่าปราณี ชาประดิษฐ์เพื่อการจัดพิมพ์หนังสือเป็นธรรมทานครั้งต่อๆไป ขอโมทนาด้วยครับ
    <!-- / message --> <!-- sig --> __________________
    พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้...
    ทำบุญกับพระที่กำลังอาพาธ(ป่วย)ด้วยโรคมะเร็งกระดูก
    <!-- / sig --> </td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> [​IMG] [​IMG] <script type="text/javascript"> vbrep_register("1853941")</script> [​IMG] </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> <!-- controls --> [​IMG] [​IMG] [​IMG]</td></tr></tbody></table>
    อนุโมทนาด้วยครับ ท่านใดได้รับหนังสือไปแล้วควรเก็บไว้ในที่ ๆ เหมาะสม (ที่สูง ๆ) ด้วยความเป็นห่วงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2009
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    มาตรฐานการตัดสินใจ
    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd053PT0=&day=TWpBd09TMHdNaTB3Tnc9PQ==

    คอลัมน์ หน้าต่างศาสนา

    สมชาย สุรชาตรี ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดปทุมธานี



    ศาสนาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวปลูกฝังให้คนกระทำความดีในทุกอิริยบถ ดังเช่น การคิดแต่สิ่งดีและแสดงออกหรือกระทำความดี

    อีกทั้งพระพุทธศาสนาสอนให้คนรู้จักใช้ปัญญาไตร่ตรองก่อนลงมือกระทำ ก่อนจะเชื่อ หรือตัดสินใจทำอะไรก็ยังสอนให้คิดทบทวนแยกแยะเท็จจริง พิจารณาด้วยเหตุผลอย่างไม่บังคับให้หลงเชื่อ ต้องเชื่อ

    ท่านผู้อ่านทราบดีถึงคำสอนของพระพุทธองค์ ที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก คือ กาลามสูตร ซึ่งมีความสำคัญ 10 ประการ คือ

    หนึ่ง อย่าเชื่อโดยฟังตามกันมา

    สอง อย่าได้ถือโดยลำดับสืบๆ กันมา

    สาม อย่าได้ถือโดยความเชื่อว่าได้ยินว่าอย่างนี้ๆ

    สี่ อย่าได้ถือโดยอ้างตำรา

    ห้า อย่าได้ถือโดยเหตุนึกตาม

    หก อย่าได้ถือโดยนัยหรือคาดคะเน

    เจ็ด อย่าได้ถือโดยตรึกตามอาการ

    แปด อย่าได้ถือโดยชอบใจว่าต้องกันกับลัทธิของตน

    เก้า อย่าได้ถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้

    และสิบ อย่าได้ถือโดยความนับถือว่าเขาเป็นครูของเรา

    ทั้ง 10 ประการในกาลามสูตรถือได้ว่าเป็นมาตรฐานการตัดสินใจที่สำคัญของคนเรา ถึงแม้จะสอนกันมากกว่าสองพันห้าร้อยปี แต่ทุกวันนี้กลับเพิ่มความจำเป็นต้องสอนกันให้มากๆ

    เริ่มตั้งแต่เด็กเล็กจนจบมหาวิทยาลัย ทั้งนี้ เพราะคนเราชอบเฮตามกันไปเป็นแฟชั่นนิยม บางพวกเชื่อแกนนำอย่างสนิทใจโดยไม่คิดทบทวน ใครปล่อยข่าวอะไรก็เชื่อไว้ก่อนซึ่งอันตรายมาก สักวันคงถึงจุดตัดสินใจแตกหัก

    ท่านทั้งหลายที่มีอำนาจในแวดวงการศึกษารวมถึง แวดวงทางสังคม สมควรนำกาลามสูตรมาเป็นมาตรฐานการตัดสินใจให้เกิดขึ้นทุกภาคส่วน

    อย่าปล่อยให้อนาคตของชาติ ตกเป็นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดด้วยความเชื่อตามกันไป
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    กูรูแนะ 7 วิธี น.ศ.จบใหม่ฝ่าวิกฤต หางานอย่างไรให้ ได้งาน !!
    http://www.matichon.co.th/prachacha...g=02edu01050252&day=2009-02-05&sectionid=0222


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    วิกฤตเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่ลุกลามไปทั่วโลก ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ในปี 2552 มีการคาดการณ์ว่าอัตราของคนว่างงานจะสูงกว่า 1 ล้านคนและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มถึง 2 ล้านคน ทั้งจากผู้ที่ถูกปลดออกจากงานและบัณฑิตจบใหม่ที่ไม่มีตำแหน่งงานรองรับ เมื่องานดีๆ มีจำนวนจำกัด การสมัครงานอย่างไรให้ได้งานจึงเป็นเรื่องที่หลายคนคิดหนักว่าจะเตรียมตัวอย่างไรให้เป็นที่ต้องการของนายจ้างโดยเฉพาะกับบัณฑิตจบใหม่ที่ต้องเจอศึกหนักในปีนี้

    การเกิดขึ้นของโปรแกรม "THE GRAD" ของบริษัทควอลิตี้โปรไฟล์ จะเป็นเหมือนตัวช่วยให้ผู้สมัครมีความมั่นใจในการสมัครงานและค้นพบศักยภาพของตนเองได้ง่ายขึ้น

    "คนส่วนใหญ่ที่สมัครงานแล้วไม่ได้งานก็เพราะไม่รู้จักการเตรียมความพร้อม หรือคนรอบข้างที่เป็นที่ปรึกษาไม่ได้มีความรู้จริง เราพยายามเป็นเหมือนโค้ชให้เด็กว่าทำอย่างไรให้เขาโดนใจนายจ้าง สื่อให้ผู้จบการศึกษาใหม่เข้าใจ ที่ผ่านมาไม่ได้นำเสนอความรู้ความสามารถที่จะทำให้บริษัทมั่นใจที่จะรับเข้าทำงาน เพราะบริษัทย่อมแสวงหาคนที่จะไปช่วยสร้างความเจริญเติบโตมากกว่าจะรับคนที่มีแนวโน้มจะไม่สร้าง ผลงานเข้าทำงาน ผู้สมัครงานที่อยากจะได้งานก็ต้องมองว่าตนเองสามารถให้อะไรกับองค์กรได้บ้าง และเตรียมพร้อมให้ดี" ปิยะมิทน์ รังษีเทียนไชย กรรมการบริหารบริษัท ควอลิตี้โปรไฟล์ จำกัด กล่าว

    นอกเหนือจากการมีโปรแกรมเป็นตัวช่วยแล้ว สิ่งที่บัณฑิตควรรู้เพื่อเตรียมพร้อมเบื้องต้นก็ไม่ควรละเลย จากประสบการณ์กว่า 15 ปีของ "ปิยะมิทน์" ที่ทำงานด้านการแนะแนวให้คำปรึกษาและสรรหาบุคลากรให้กับบริษัทชั้นนำ และมองเห็นปัญหาของผู้สมัครงานมามากมายเขาได้แนะแนวทางก่อนเข้าการสมัครงานโดยสรุปได้ 7 ข้อต่อไปนี้

    1.รู้จักตนเอง ว่ามีศักยภาพด้านไหน รู้จุดอ่อนจุดแข็งของตนเองเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก การรู้จักตนเองก็ต้องเริ่มจากการที่เราลองไล่ดูว่าเราต้องการอะไร อยากเป็นอะไร คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้จักตนเองเพราะใกล้ตัวเกินไปจึงไม่ใส่ใจ ลองคิดดูว่าในระหว่างที่เรียนอยู่ในระดับอุดมศึกษาเราเรียนรู้อะไรมากขึ้น จากตอนมัธยมบ้าง นั่นคือการมองย้อนไปดูประสบการณ์ที่เรามี และต้องย้อนกลับมาถามตนเองว่า ถ้านายจ้างจะจ้างเรา ทุกวันนี้ก็มีโปรแกรมมากมายที่จะช่วยทดสอบ วิเคราะห์ความถนัดในแต่ละด้านหรือบุคลิกภาพของคน

    2.รู้ความต้องการตลาด ว่าต้องการคนแบบไหน มีอะไรที่เราสามารถไปสร้าง ประโยชน์ให้กับบริษัทเหล่านั้นได้บ้าง จากนั้นค่อยกลับมาดูว่าเราสนใจงานด้านไหน เมื่อหางานที่เราชอบได้ความกระตือรือร้นที่จะทำความรู้จักและพิชิตงานนั้นให้ได้ก็จะตามมา เหมือนเวลาเราไปชอบใครสักคนหนึ่ง ก็ต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับคนคนนั้นให้มากที่สุดเพื่อที่จะชนะใจเขาให้ได้

    3.หาองค์กรที่เหมาะกับเรา เป็นใครก็คงต้องการทำงานอยู่ในองค์กรขนาดใหญ่และมั่นคง จึงมีแห่คนไปสมัครจำนวนมากทั้งๆ ที่อาจไม่เหมาะกับตนเอง ในตลาดยังมีองค์กรอีกมากมายที่ไม่ได้ต้องการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจึงไม่ได้ต้องการคนที่เก่งที่สุด เพราะการรับคนที่พร้อมจะเติบโตไปกับองค์กรจะสามารถสร้างประโยชน์ได้มากกว่าทั้งกับตัวองค์กรเองและคนทำงาน ในขณะที่คนที่มีความสามารถมากๆ เข้าไปทำงานในองค์กรแบบนี้จะรู้สึกเบื่อหน่ายและเกิดปัญหากับองค์กร

    4.เตรียมตัวให้พร้อม เพื่อก้าวไปสู่ การเป็นมืออาชีพจะต้องเรียนรู้การพัฒนาบุคลิกภาพให้น่าสนใจและฝึกตนเองให้มีคุณสมบัติเหล่านี้ คือ ขยัน อดทน ซื่อสัตย์ มีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ รู้จักพึ่งพาตนเองและให้ความช่วยเหลือผู้อื่น คุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยทำให้เราก้าวไปสู่การมีทักษะในการทำงานร่วมกับผู้อื่นได้

    5.การนำเสนอข้อมูลส่วนบุคคล การเขียนประวัติส่วนบุคคลหรือเรซูเม่อาจหาตัวอย่างได้ทั่วไป แต่ทางที่ดีควรเขียนด้วยตนเองและเรซูเม่ก็ไม่ควรยาวเกินไปควรเขียนให้สั้นและกระชับจบได้ภายใน 1 หน้า อธิบายเฉพาะเนื้อหาสำคัญ อย่างเช่น ประวัติการศึกษา ประสบการณ์ที่ทำในระหว่างเรียน หรือสิ่งที่เรียนมาเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัครอย่างไร หากพิมพ์ด้วยโปรแกรมไมโครซอฟท์เวิร์ด การเลือกใช้แบบตัวอักษรก็สามารถบ่งบอกถึงบุคลิกภาพหรือความสามารถของผู้สมัครได้ จึงควรเลือกแบบตัวอักษรให้เหมาะสมกับตำแหน่งที่สมัครงาน เมื่อเขียนเสร็จตรวจทานระวังอย่าให้มีข้อมูลที่ผิดพลาดอย่างปี พ.ศ.เกิด เพราะอาจแสดงให้เห็นว่าเราไม่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กน้อย สุดท้ายอย่างลืมคัดเลือกรูปถ่ายที่ดูดีที่สุดเพราะบุคลิกภาพก็มีส่วนสำคัญในการรับคนเข้าทำงาน

    6.กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน ถ้าไม่กำหนดเป้าหมายในชีวิตของตนเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะเดินไปถึงเป้าหมาย นั่นสิ่งที่หลายคนลืมที่จะวางแผนเส้นทางชีวิตของตนเอง พอเราได้รับการบรรจุงานก็จะคิดว่านายจ้างเป็นคนกำหนดการก้าวไปสู่ตำแหน่งที่ใหญ่โตขึ้น แต่จริงๆ แล้วคือตัวเราเองที่ต้องมองว่างานของเรามีพัฒนาการไปถึงไหน มีประสบการณ์พอแล้วหรือยัง เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมีระยะเวลาเป็นตัวกำหนด เราต้องวางแผนว่ากี่ปีเราจะก้าวไปสู่ผู้เชี่ยวชาญ มืออาชีพ และก้าวไปสู่ผู้บริหาร เมื่อรู้ระยะทางก็จะถึงจุดหมายเร็ว หากเดินเป็นเส้นตรงก็จะถึงเร็ว แต่ปัญหาของคนคือจะมี สิ่งเร้าเข้ามาทำให้เดินหลงทางจนต้องใช้เวลานานกว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต ถ้าเราวางแผนชีวิตและรู้ศักยภาพตนเอง แม้นายจ้างมองไม่เห็นเราก็สามารถเปลี่ยนไปสมัครงานในตำแหน่งที่สูงกว่าได้

    7.พัฒนาตนเองอยู่เสมอ เมื่อมีการวางเป้าหมายของชีวิต การพัฒนาตนเองจะทำให้เราก้าวไปสู่จุดที่มุ่งหมายได้ ไม่ว่าจะเป็นการรู้จักการจูงใจผู้อื่น มีความสามารถในการนำเสนอผลงาน จัดการประชุม การเจรจาต่อรอง และมีวิสัยทัศน์ทางธุรกิจ รู้ว่าจะจัดการองค์กรอย่างไรให้เจริญเติบโตก้าวหน้า เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม ทักษะเหล่านี้จะทำให้ก้าวไปสู่การเป็นผู้บริหารที่ดีในอนาคต

    แม้เศรษฐกิจจะตกต่ำ แต่โอกาสยังเปิดรับให้กับคนที่พร้อมเสมอ
     
  13. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,310
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>แนวทางที่พึงปฏิบัติสำหรับ พุทธศาสนิกชนเนื่องในวันมาฆบูชา
    1. ให้ทาน ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสามเณร ในช่วงเช้า หรือเพล บริจาคทรัพย์ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ยากไร้ และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์

    2. รักษาศีล
    สำรวมระวังกายและวาจา ด้วยการรักษาศีล 5 หรือศีล 8 พร้อมทั้งบำเพ็ญเบญจธรรมสนับสนุน

    3. เจริญภาวนา
    บำเพ็ญภาวนา ด้วยการไหว้พระสวดมนต์ และปฏิบัติธรรมและวิปัสสนาตามแนวสติปัฏฐาน 4 ได้แก่

    - กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
    ให้พิจารณากายนี้สักแต่ว่ากาย มิใช่สัตว์ ตัวตน บุคคล เรา เขา

    - เวทนานุสติปัฏฐาน
    ให้พิจารณาเวทนา คือ สุข ทุกข์ และไม่สุข ไม่ทุกข์ เป็นอารมณ์ ว่า เวทนานี้สักว่า เวทนา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา

    - จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน
    ให้พิจารณาใจที่เศร้าหมอง หรือผ่องแผ้ว เป็นอารมณ์ว่าใจนี้ก็สักว่าใจ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา

    - ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน
    ให้พิจารณาธรรมที่เป็นกุศล และอกุศล ที่บังเกิดกับใจเป็นอารมณ์ว่า ธรรมนี้ก็สักว่า ธรรม ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา

    เนื่องในโอกาสที่วันมาฆบูชา อันเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา ได้เวียนมาบรรจบอีกครั้ง ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติกระทรวงวัฒนธรรม จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ประพฤติปฏิบัติธรรม โดยการนำครอบครัวไปบำเพ็ญกุศล การทำบุญใส่บาตรในตอนเช้า ไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรม และฟังพระธรรมเทศนา ในตอนเย็นพาครอบครัวไปเวียนเทียนที่วัด เพราะวันสำคัญทางศาสนา ถือเป็นอีกวันหนึ่ง ที่ทุกคนในครอบครัว ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ดำเนินกิจกรรมทางศาสนาร่วมกัน เพื่อสร้างความสุขและความอบอุ่นในครอบครัว รวมทั้งนำหลักธรรม มาเป็นแนวทางปฏิบัติ เมื่อทุกคนมีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับความสำคัญของวันมาฆบูชาแล้ว ก็สามารถดำเนินชีวิตตามหลักธรรม เกิดความศรัทธาและรู้จักปฏิบัติตนตามหน้าที่ ของพุทธศาสนิกชนที่ดีได้อย่างถูกต้อง และมีความสุขตลอดไป


    **** ข้อมูลอ้างอิงจากหนังสือวันมาฆบูชา ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. Shinray01

    Shinray01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,675
    ค่าพลัง:
    +2,310
    หลักธรรมวันมาฆบูชาที่ควรนำไปปฏิบัติ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>หลักธรรมที่ควรนำไปปฏิบัติได้แก่ โอวาทปาติโมกข์ หมายถึงหลักคำสอนคำสำคัญของพระพุทธศาสนาอันเป็นไปเพื่อป้องกันและแก้ปัญหาต่าง ๆ ในชีวิตเป็นไปเพื่อความหลุดพ้น หรือคำสอนอันเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา หลักธรรมประกอบด้วย หลักการ ๓ อุดมการณ์ ๔ วิธีการ ๖ ดังนี้

    หลักการ ๓

    ๑. การไม่ทำบาปทั้งปวง ได้แก่การงดเว้น การลด ละเลิก ทำบาปทั้งปวง ซึ่งได้แก่ อกุศลกรรมบถ ๑๐ ทางแห่งความชั่ว มีสิบประการ อันเป็นความชั่วทางกาย ทางวาจา และทางใจ

    ความชั่วทางกาย ได้แก่ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม
    ความชั่วทางวาจา ได้แก่ การพูดเท็จ การพูดส่อเสียด การพูดเพ้อเจ้อ
    ความชั่วทางใจ ได้แก่ การอยากได้สมบัติของผู้อื่น การผูกพยาบาท และความเห็นผิดจากทำนองคลองธรรม

    ๒. การทำกุศลให้ถึงพร้อม ได้แก่ การทำความดี ทุกอย่างซึ่งได้แก่ กุศลกรรมบถ ๑๐ เป็นแบบของการทำฝ่ายดีมี ๑๐ อย่าง อันเป็นความดีทางกาย ทางวาจาและทางใจ

    การทำความดีทางกาย ได้แก่ การไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ทำร้ายเบียดเบียน ผู้อื่นมีแต่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การไม่ถือเอาสิ่งของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ มาเป็นของตน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และการไม่ประพฤติผิดในกาม
    การทำความดีทางวาจา ได้แก่ การไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดคำหยาบ และไม่พูดเพ้อเจ้อพูดแต่คำจริง พูดคำอ่อนหวาน พูดคำให้เกิดความสามัคคีและพูดถูกกาลเทศะ
    การทำความดีทางใจ ได้แก่ การไม่โลภอยากได้ของของผู้อื่นมีแต่คิดเสียสละการไม่ผูกอาฆาตพยาบาทมีแต่คิดเมตตาและปรารถนาดีและมีความเห็นความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม เช่น เห็นว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

    ๓. การทำจิตให้ผ่องใส ได้แก่ การทำจิตของตนให้ผ่องใส ปราศจากนวรณ์ซึ่งเป็นเครื่องขัดขวางจิตไม่ให้เข้าถึงความสงบ มี ๕ ประการ ได้แก่
    ๑. ความพอใจในกาม (กามฉันทะ)
    ๒. ความอาฆาตพยาบาท (พยาบาท)
    ๓. ความหดหู่ท้อแท้ ง่วงเหงาหาวนอน (ถีนะมิทธะ)
    ๔. ความฟุ้งซ่าน รำคาญ (อุทธัจจะกุกกุจจะ) และ
    ๕. ความลังเลสงสัย (วิกิจฉา) เช่น สงสัยในการทำความดี ความชั่วว่ามีผลจริงหรือไม่

    วิธีการทำจิตให้ผ่องใส ที่แท้จริงเกิดขึ้นจากการละบาปทั้งปวงด้วยการถือศืลและบำเพ็ญกุศล ให้ถึงพร้อมด้วยการปฏิบัติสมถะและวิปัสสนา จนได้บรรลุอรหัตผล อันเป็นความผ่องใสที่แท้จริง

    อุดมการณ์ ๔

    ๑. ความอดทน ได้แก่ ความอดกลั้น ไม่ทำบาปทั้งทางกายวาจา ใจ
    ๒. ความไม่เบียดเบียน ได้แก่ การงดเว้นจากการทำร้ายรบกวน หรือ เบียดเบียนผู้อื่น
    ๓. ความสงบ ได้แก่ ปฏิบัติตนให้สงบทั้งทางกาย ทางวาจาและทางใจ
    ๔. นิพพาน ได้แก่ การดับทุกข์ ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนาเกิดขึ้นได้จาการดำเนินชีวิตตามมรรคมีองค์ ๘

    วิธีการ ๖

    ๑. ไม่ว่าร้าย ได้แก่ ไม่กล่าวให้ร้ายหรือ กล่าวโจมตีใคร
    ๒. ไม่ทำร้าย ได้แก่ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
    ๓. สำรวมในปาติโมกข์ ได้แก่ ความเคารพระเบียบวินัย กฎ กติกา กฎหมาย รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีของสังคม
    ๔. รู้จักประมาณ ได้แก่ รู้จักความพอดีในการบริโภคอาหาร หรือการใช้สอยสิ่งต่าง ๆ
    ๕. อยู่ในสถานที่ที่สงัด ได้แก่ อยู่ในสถานที่สงบมีสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
    ๖. ฝึกหัดจิตใจให้สงบ ได้แก่ ฝึกหัดชำระจิตให้สงบมีสุขภาพ คุณภาพและประสิทธิภาพที่ดี

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    เก็ยไว้สูงมากบนหลังตู้ข้างหิ้งพระค่ะ ทีนี้เวลาจะเอาลงมาอ่านต้องเอาบันไดมาปีนทหยิบทุกครั้งเลย
     
  16. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    วันนี้ไปทำบุญที่วัดพุทธบูชา มีคุณdragonlordฝากปัจจัยมา เลยขออนุญาตใช้พื้นที่นะคะ

    [​IMG]

    [​IMG]


    วัดสวยงามใหญ่โตค่ะ สะอาดมาก
    [​IMG]

    นี่อศาลาที่ทำบุญค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00059.jpg
      DSC00059.jpg
      ขนาดไฟล์:
      429.5 KB
      เปิดดู:
      492
    • DSC00060.jpg
      DSC00060.jpg
      ขนาดไฟล์:
      619.5 KB
      เปิดดู:
      443
    • DSC00621.jpg
      DSC00621.jpg
      ขนาดไฟล์:
      409.4 KB
      เปิดดู:
      423
  17. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    ทุกเสาร์ต้นเดือนจะมีหลวงปู่ หลวงตาเจ้าอาวาสวัดป่าสายพระอาจารย์มั่นจากหลายจังหวัดมารับบาตรและให่โอกาสคนกรุงเทพได้ทำบุญโดยไม่ต้องเดินทางไปไกลๆ
    [​IMG]
    ต่างคนก็ตักข้าวใส่บาตรที่วางไว้ให้

    [​IMG]
    จัดอาหารใส่ถาดที่ทางวัดเตรียมไว้ แต่ละครั้งมีนับร้อยๆถาด

    [​IMG]

    บรรยากาศในศาลาจะเห็นมณฑปที่มีพระบราสารีริกธาตุที่จะนำไปบรรจุในมหาเจดีย์วัดพุทธบูชาที่กำลังสร้างอยู่ ด้านขวาของภาพจะเป็นที่นั่งของหลวงปู่หลวงตา จะเห็นคนกำลังเดินถวายของและหย่อนปัจจัยทำบุญในกล่องของแต่ละวัด
    [​IMG]

    หลวงปู่หลวงตาและพระติดตามจาก เกือบ20 วัด ประมาณ 30รูป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00624.jpg
      DSC00624.jpg
      ขนาดไฟล์:
      329 KB
      เปิดดู:
      405
    • DSC00628.jpg
      DSC00628.jpg
      ขนาดไฟล์:
      316 KB
      เปิดดู:
      442
    • DSC00626.jpg
      DSC00626.jpg
      ขนาดไฟล์:
      328.7 KB
      เปิดดู:
      530
    • DSC00629.jpg
      DSC00629.jpg
      ขนาดไฟล์:
      274 KB
      เปิดดู:
      572
  18. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    อันนี้เป็นกล่องที่หยอดปัจจัยให้น้องอุ้ม ตู้ละ 100 บาท7รายการนะคะ โมทนาบุญด้วยค่ะ ของพี่หมียวได้ทำครบทุกตู้เลยค่ะ[​IMG]

    บรรดากล่องต่างๆที่วางให้ทำบุญจุใจ
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00630.jpg
      DSC00630.jpg
      ขนาดไฟล์:
      279 KB
      เปิดดู:
      385
    • DSC00631.jpg
      DSC00631.jpg
      ขนาดไฟล์:
      210.9 KB
      เปิดดู:
      369
    • DSC00632.jpg
      DSC00632.jpg
      ขนาดไฟล์:
      258.4 KB
      เปิดดู:
      83
    • DSC00633.jpg
      DSC00633.jpg
      ขนาดไฟล์:
      203.9 KB
      เปิดดู:
      357
    • DSC00634.jpg
      DSC00634.jpg
      ขนาดไฟล์:
      218.1 KB
      เปิดดู:
      353
    • DSC00636.jpg
      DSC00636.jpg
      ขนาดไฟล์:
      188 KB
      เปิดดู:
      359
    • DSC00637.jpg
      DSC00637.jpg
      ขนาดไฟล์:
      268 KB
      เปิดดู:
      349
    • DSC00635.jpg
      DSC00635.jpg
      ขนาดไฟล์:
      246.7 KB
      เปิดดู:
      359
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2009
  19. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    เวลาถวายภัตตาหารต้องตั้งแถวช่วยกันยกให้หลวงปู่หลวงตาตัก ทุกองค์ฉันมื้อเดียวในบาตร เพราะอาหารเยอะมากๆจึงใช้เวลาประเคนประมาณ สามสิบนาทีเป็นอย่างน้อย
    [​IMG]

    [​IMG]

    เดือนนี้หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดแก้วธุดงคสถาน อำเภอบ้านด่าน บุรีรัมย์ เป็นประธานค่ะ ท่านน่ารักดีนะคะ

    หลังจากถวายภัตตาหาร หลวงปู่หลวงตาฉัน แล้วฆราวาสก็รับประทานอาหาร จากนั้นกรวดน้ำ รับพร ฟังธรรมเทศนา วันนี้พิเศษเพราะมีการไถ่ชีวิตโคกระบือ16ตัว ถวายพระเจ้าอยู่หัว มีเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังมารับโคกระบือเข้าโครงการด้วยค่ะ

    อิ่มบุญไปทั้งวัน โมทนาบุญร่วมกันด้วยนะคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC00640.jpg
      DSC00640.jpg
      ขนาดไฟล์:
      218.8 KB
      เปิดดู:
      409
    • DSC00644.jpg
      DSC00644.jpg
      ขนาดไฟล์:
      262.7 KB
      เปิดดู:
      759
  20. คีตา

    คีตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +4,309
    อนุโมทนากับคุณ katicat ด้วยครับ ได้ความรู้เยอะเลย

    พี่ครับ ดูว่าเขาดาวโหลด ดูตรงไหนครับ หาไม่เจอเลย


    แล้วรูปอยู่ตรงไหนครับ ยิ่งหาไม่เจอใหญ่เลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...