ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. widya

    widya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +13,214



    ท่านใดสนใจจะไปร่วมถวายด้วย ก็ไปพบกันที่วัดบุรณศิริฯ

    หรือบ้านคุณน้ำใส หรือจะไปรอที่บ้านโฮโลคัพ ถนนสามเสน บางลำภูก่อน ก็ได้นะครับ

    หรือจะนำสิ่งของใดไปร่วมเป็นสังฆทาน ก็ตามอัธยาศัยนะครับ เวลาประมาณ ๑๓.๐๐ น. เป็นต้นไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 เมษายน 2013
  2. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,331
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,276
    1.ร่วมบุญ เป็นเจ้าภาพถวายดวงแก้วสิริรัตนโรจน์ฤทธิ์ แด่ครูบาวิฑูรย์
    จำนวน 100 บาท โอนแล้ว ธ.กสิกรไทย วันที่ 3 เม.ย.56


    2.ร่วมบุญ บูรณะศาลาปริยัติธรรมที่เก่าทรุดโทรม ณ.วัดดงมัน อ.เมือง จ.สุรินทร์
    จำนวน 100 บาท โอนแล้ว ธ.ไทยพาณิชย์ วันที่ 3 เม.ย.56


    ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา

    อนุโมทนาบุญทั้งหมดกับทุกท่านด้วยนะครับ สาธุ สาธุ
     
  3. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    ว้าว พี่กระต่ายน้อยมาแล้ววว
    คิดถึงมากค่ะ โดยเฉพาะเรื่องเล่าก่อนไปไหว้ครูที่บ้านพี่น้ำใส




    ไม่ทราบว่ามีใครถูกไหมคะ บอกกันโต้ง ๆ เลยทีเดียว อิอิ
     
  4. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376

    น่าไปร่วมถวายสังฆทานด้วยมาก ๆ ค่ะท่านวิทยา
    สาวตจว.ขอส่งใจไปเอาบุญด้วยนะคะ
    สาธุ สาธุ ขอโมทนาบุญกับทุกท่านทุกประการค่ะ
     
  5. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ก่อนอื่น ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ร่วมบุญทั้งสองอย่างค่ะ ขณะนี้ยอดปัจจัยมีดังนี้

    ๑.ถวายดวงแก้วแด่ครูบาวิฑูรณ์ ยอดปัจจัยขณะนี้(๑๙.๕๓น.) จำนวน ๑,๒๐๐ บาท

    ๒.ร่วมบุญผ้าป่าบูรณะศาลาชำรุด วัดดงมัน จ.สุรินทร์ ยอดปัจจัย ๑,๐๐๐ บาท สำหรับบุญผ้าป่าฯ ได้นำพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐม พระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปัจจุบัน และพระอรหันตธาตุ ไปถวายเป็นบริวารผ้าป่าด้วยค่ะ

    ในการที่ท่านร่วมบุญนี้ ส่วนหนึ่งนำไปบูชาเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ๓ ชั้นด้วยค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  6. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,331
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,276
    ขอบคุณ พี่น้ำใส มากนะครับ ที่ได้ให้โอกาสในการทำบุญดีๆอีกครั้งหนึ่งนะครับ
    นั่งพิมพ์ไปยิ้มไป ปลื้มใจมากๆ และนึกถึงนางแก้วขึ้นมาทันที แผ่บุญให้เธอได้รับและโมทนาบุญร่วมกันครับ

    ยิ่งเปิดมาเจอประวัติดวงแก้วดีใจมาก ปูเสื่อรออ่านเลยครับ
    ขอบคุณมากอีกครั้งครับ พี่น้ำใส
     
  7. prapaanpong

    prapaanpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +7,992
    ขอร่วมบุญถวายดวงแก้วด้วยครับ
    โอนเงินจำนวน 300 บาท เข้าบัญชีแล้วครับ
    ขอโมทนาท่านวิทยา พี่น้ำใส และทุกท่านด้วยครับ สาธุ
     
  8. prapaanpong

    prapaanpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    891
    ค่าพลัง:
    +7,992
    โอนเงิน 200 บาท
    ร่วมบุญบูรณะศาลาที่เก่าชำรุด วัดดงมัน จ.สุรินทร์ ครับ
    ขอโมทนาบุญทุกท่านด้วยครับ สาธุ
     
  9. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    วันนี้โอนเงินร่วมบุญ
    1. (ธ.กสิกรไทย) ถวายดวงแก้วสิริรัตน์โรจน์ฤทธิ กับท่านวิทยา = 200 บาท
    2. (ธ.ไทยพาณิชย์) ร่วมบุญบูรณะศาลาปริยัติธรรม จ.สุรินทร์ = 200 บาท


    ผู้ร่วมบุญนี้ น้องเจน น้องเอ็ม พี่เยาว์ เอ๋ จันทรกาล

    สาธุๆ ขอให้มีสมบัติอัศจรรย์ทันใช้ ในปัจจุบันด้วยเถิดเจ้าค่ะ ทั้งผู้ทำบุญและผู้ที่ร่วมโมทนาบุญทุกๆท่านค่ะ

    จันทรกาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 เมษายน 2013
  10. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติดวงแก้วสัจจรัตนบดี ตอน ๖ เข้าสมาบัติแก้กรรม...

    IMG_20130131_171958.jpg

    อยู่ต่อมาวันหนึ่งสิริจันทราดาบสินีเกิดระลึกชาติได้ว่า กาลก่อนนางเคยทำให้บุรุษหนึ่งต้องสิ้นชีวิตไป กรรมนั้นจะตามมาส่งผลนางในไม่ช้า ก่อนตายได้ตั้งสัจจะว่าจะต้องได้ครองคู่กับนางในชาติต่อไป กรรมนี้ส่งผลให้เป็นอุปสรรคในการประพฤติพรหมจรรย์ ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้ นางจึงได้ย้อนอดีตขึ้นไปอีกนับอสงไขย จึงได้ทราบว่า..

    กรรมนี้เคยเกิดมาซ้ำ ๆ เกิดจากนางได้เคยขวางการประพฤติพรหมจรรย์ของผู้ที่เป็นคู่บารมี เมื่อนางคิดจะประพฤติพรหมจรรย์ ทำให้มีบุรุษที่เคยเป็นคู่ในอดีตขวางการปฏิบัติธรรมของนางบ้าง แม้ชาตินี้ นางจะเข้าฌานถอดกาย เพื่อหนึการมีคู่ ดังเช่นในชาติก่อน ๆ ย่อมไม่สามารถทำให้สิ้นสุดกรรมนั้นได้ นางต้องยอมรับผลของกรรมนั้น

    สิริจันทราได้จึงทราบว่า เหตุนี้นี่เองที่ท่านอาจารย์ให้ฝึกการแผ่เมตตาแบบอัปปมัญญา เพื่อให้ปล่อยวาง และทำใจยอมรับกรรมที่จะเกิดขึ้น นางจึงคิดว่า ช่วงนี้ควรเข้าสมาบัติ เพื่อทำใจให้สงบเยือกเย็น นางจึงกล่าวแก่กระต่ายน้อยว่า ..

    “เจ้าตัวน้อย เราจะปลีกวิเวกในถ้ำ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากนี้นัก ขอเจ้าจงอย่ารบกวนเรา ให้อุปัฏฐากดูแลพระอาจารย์ และพระมารดาของเราให้ดีนะ เราจะไปกราบเรียนพระอาจารย์ และพระมารดาก่อนนะ เรื่องของเจ้าเราจะฝากกับพระอาจารย์ไว้นะเจ้าไม่ต้องห่วง ”

    กระต่ายน้อยเข้าใจที่นางพูดทุกคำ รู้สึกว่าการเข้าสมาบัติของนางครั้งนี้ยาวนานนัก แต่ก็ทำตามที่นางกล่าว จากนั้นสิริจันทราดาบสินีได้ไปกราบเรียนท่านสาฤาษี และพระศศิรัตนดาบสินี ขอเข้าสมาบัติ เพื่อรวบรวมบุญเก่าในอดีตมาช่วยให้วิบากกรรมเก่าเบาบางกรรมลง และได้ฝากฝังเรื่องการเปลี่ยนร่างของกระต่ายน้อยกับผู้เป็นอาจารย์ ท่านสาฤาษีได้รับคำไว้

    จากนั้นนางได้เข้าในถ้ำเกล็ดแก้วนั้น (เป็นถ้ำเดียวกันที่นางเคยเข้าสมาบัติอธิษฐานจักรแก้วมาแต่อดีต)
    ในวันแรกของการอยู่ในถ้ำนางได้ใช้ปุพพสันนิวาสนญาณ ทราบว่า นางเคยทำกรรมคล้ายกันแก่ ๒ บุรุษในอดีตชาติ ชาตินี้ต้องใช้กรรมนั้น จึงได้พยายามแผ่เมตตาให้แก่บุรุษทั้งสองนั้น จึงได้อธิษฐานว่า..

    “กรรมนี้หากต้องชดใช้กรรมนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอให้ผลบุญอันบริสุทธิ์ที่เราได้กระทำมาช่วยให้ผ่อนหนักเป็นเบา ขอเพียงผู้ที่เป็นคู่อันดับ ๑ ของเราเท่านั้นที่จะทำให้เราเคลื่อนจิตออกจากพรหมโลกได้ เราจึงจะอภิเษกกับบุคคลนั้น

    หากไม่มีใครที่สามารถกระทำได้ เราสละกายสังขารนี้ เพื่อเป็นการบูชาครูบาอาจารย์ทั้งหลาย ขอยอมละสังขารก่อนเวลา ขอคำสัจจ์นี้จงเป็นผลสำเร็จด้วยเถิด”


    เมื่อนางอธิษฐานจบมีลมกระโชกแรง เทวดาทั้งหลายต่างเป็นสักขีพยานแก่นาง จากนั้นนางได้เข้าสมาธิกลั่นกายให้ใส กลั่นเข้าภายในเรื่อยๆ กายซ้อนกายเป็นชั้น ๆ ใสในใส จนกายนั้นเป็นธาตุที่บริสุทธิ์ จากนั้นได้ถอดกายไปยังพรหมโลกชั้น ๑๑ เพื่อเข้าสมาบัติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2013
  11. เพชร2545

    เพชร2545 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    454
    ค่าพลัง:
    +4,248
    สวัสดีค่ะคุณน้ำใสและญาติธรรมทุกท่าน
    วันที่4/4/2556 เวลาประมาณ14.45 น.โอนผ่านเคาเตอร์ไทยพาณิชย์. จำนวน4000 บาท
    ขอร่วมบุญ
    1.ถวายดวงแก้วสิริรัตน์โรจน์ฤทธิิกับท่านวิทยาจำนวน 2000 บาท
    2.ร่วมบุญบูรณะศาลาปริยัติธรรมจำนวน 2000 บาท
    ในนาม. คุณพ่อลิบฮึง. แซ่อึ๊ง. และลูกหลาน. เพ็ชรรัตน์. แซ่อึ๊ง และครอบครัว. ชออุทิศให้ญาติผู้ล่วงลับ และน้อมถวายบุญแด่เทพเทวาทุกชั้นฟ้าชั้นดิน. ขอเชิญมาโมทนาบุญทุกท่านเทอญ
    อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านค่ะ
     
  12. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วสัจจรัตนบดี ตอน ๗ เจ้าชายจักราธิราช เสี่ยงทาย


    ขอย้อนหลังไปก่อนหน้าสิริจันทราเทวีเข้าสมาบัติ ๓ เดือน มีเมืองหนึ่งนามว่า “สุบรรณคีรีนคร” เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเขาสูงชัน สภาพเป็นภูเขา มีความอุดมสมบูรณ์ ปกครองโดยพระเจ้าสุตตรัตน์ และพระนางวิสุทธินีเทวี มีพระโอรส-ธิดา ๕ พระองค์ นามว่า...

    “เจ้าชายจักราธิราช-เจ้าชายจักรบวร-เจ้าชายอมรทัศน์สิทธิ์-เจ้าหญิงปุรรัศมี-เจ้าชายฐิติรัฐ”

    พระเจ้าสุตตรัตน์ได้ปกครองเมืองด้วยความร่มเย็นเป็นสุขเรื่อยมา วันหนึ่งพระราชาได้ให้ปุโรหิตทำนายอนาคตของพระโอรส-ธิดาของพระองค์ จึงได้ทำนายว่า..
    “พระโอรสองค์โต มีกรรมบางอย่างชดใช้ต้องจากบ้านเมืองไปไกลจะได้ดีกลับมา”

    พระเจ้าสุตตรัตน์นั้นมิได้อยากให้พระโอรส-ธิดาองค์ใดออกจากเมือง แต่เมื่อปุโรหิตทำนายเช่นนั้น ก็ทรงยินยอม จึงได้ถามว่า ควรเดินทางไปทางทิศใด ปุโรหิตได้ให้เดินทางไปทางทิศเหนือ พระเจ้าสุตตรัตน์ได้สั่งให้องครักษ์ติดตามเจ้าชายไป ๒ องค์ นามว่า “อิทธิเดช” และ”สุวรรณโชติ” ทั้งสองเป็นเพื่อนเล่นกันกับเจ้าชายมาแต่อดีต ทั้งหมดจึงได้ออกเดินทางในวันรุ่งขึ้น

    เจ้าชายจักราธิราชนั้น แม้ไม่ค่อยเชื่อเรื่องในคำทำนายของปุโรหิต ทรงดำริ การออกเดินทางครั้งนี้ เราจะต้องได้วิชาดีกลับมา เราจะแสวงหาพระอาจารย์ อย่างน้อยการเดินทางนี้จะไม่สูญเปล่า จึงควบม้าไปทางทิศเหนือตามปุโรหิตบอก ผ่านมาแต่ก็ไม่พบพระอาจารย์ตามที่พระองค์ปรารถนา จึงตั้งจิตอธิษฐานว่า..

    “ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจงช่วยเปิดทางแก่ข้าพเจ้า หากแม้มีผู้มีฤทธิ์ที่สามารถรับข้าพเจ้าเป็นศิษย์ขอท่านจงปรากฏ หรือนำทางข้าพเจ้าไปด้วยเถิด”


    ปรากฏมีพายุฝน ลมกระโชกแรงลมนั้นทำให้ม้าของเจ้าชายแตกตื่นวิ่งหนีจากทหารองครักษ์ไปทางทิศตะวันออก องครักษ์ทั้งสองไม่สามารถติดตามได้ทันเวลา ม้านั้นได้วิ่งตรงไปยังป่าศักดิ์สิทธิ์ที่วิณฑุสฤาษี ได้พาพระเจ้านิลสิทธิ์ เจ้าหญิงจินตมณีที่กำลังเดินทางกลับมายังที่พำนักของท่าน

    เหตุที่ท่านไม่ได้ใช้ฤทธิ์นำทางดังกาลก่อนนั้น เพียงเพื่อท่านต้องการฝึกพระเจ้านิลสิทธิ์ และเจ้าหญิงจินตมณีให้มีความอดทนต่อความยากลำบาก เพื่อฝึกวิชาให้ต่อไป
    เจ้าชายจักราธิราชนั้นมีสติทำให้ไม่ตกจากม้า เมื่อม้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าท่านวิณฑุสฤาษี ได้แย้มเล็กน้อย กล่าวว่า...“เจ้าชายท่านจะรีบไปไหนหนอ”

    เจ้าชายนั้น เมื่อพบพระฤาษีตามที่ตนอธิษฐาน ก็รู้สึกปิติใจยิ่งนัก จึงได้ลงจากม้า และก้มกราบเท้าท่านวิณฑุสฤาษี กล่าวว่า..
    “ข้าฯท่านผู้ทรงศีล โปรดรับกระผมเป็นลูกศิษย์ด้วยเถิด”

    ท่านวิณฑุสฤาษีได้กล่าวว่า...“ในเมื่อท่านอธิษฐานถึงครูบาอาจารย์อย่างนี้ มีหรือเราจะปฏิเสธความตั้งใจของท่าน นี่ก็ใกล้ที่พักแล้ว เมื่อถึงค่อยคุยกันใหม่นะ”

    เมื่อไปถึงอาศรมที่พัก ท่านวิณฑุสฤาษีจึงได้ให้ทั้งหมดพักผ่อน โดยเนรมิตที่พักให้แก่พระเจ้านิลสิทธิ์ เจ้าหญิงจินตมณี และเจ้าชายจักราธิราช เนื่องจากทราบว่าทั้งหมดนั้นยังไม่เคยชินกันการอยู่ป่า ท่านจึงให้อยู่สบาย เพื่อให้มีกำลังใจในการประพฤติธรรม

    พระเจ้านิลสิทธิ์นั้น เมื่อถึงสถานที่แห่งนั้น เกิดความรู้สึกประหลาดใจว่า สถานที่นี้เคยพบมาก่อน รู้สึกว่าอยากพบผู้หนึ่ง แต่ไม่รู้ว่า เป็นใคร

    ต่อมาท่านวิณฑุสฤาษีได้พบกับท่านสาฤาษี และพระนางศศิรัตนฯดาบสินี ทราบว่า สิริจันทราดาบสินีได้เข้าสมาบัติก่อนหน้านั้น ๑ วัน และทราบเรื่องความปรารถนาของสิริจันทราดาบสินีต้องการให้กระต่ายนั้นกลายเป็นมนุษย์ จึงได้ให้นำของใช้ของสิริจันทราดาบสินีมาทำเป็นหุ้นจากนั้นได้เสกให้สิ่งนั้นกลายเป็นมนุษย์ และให้สอนให้กระต่ายถอดจิตของในกายนั้น

    จากนั้นท่านให้อาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ในถ้ำ เพื่อประสานกายเป็นเวลา ๗ วัน เป็นอันเสร็จพิธี
     
  13. winaiwon

    winaiwon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +6,577
    ขอร่วมบุญ 500บาท โดยแบ่งเป็น บุญละ 250บาท ครับ...

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านครับ..
     
  14. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติดวงแก้วสัจจรัตนบดี ตอน ๗ นางสิริมณฑาจุติ..


    เมื่อครบ ๗ วันแล้ว กระต่ายน้อยได้ออกจากถ้ำ ท่านวิณฑุสฤาษีจึงได้ตั้งนามแก่นางว่า “สิริมณฑา” นางมีความงามด้วยบุญเก่าที่เคยสั่งสมมา ความจริงวิชาที่ใช้มิได้เป็นการฝีนกรรมแต่อย่างใด สิริมณฑานั้นใกล้หมดอายุขัยจากการเป็นกระต่าย เพียงแต่เปลี่ยนจากกายเดิมมากายใหม่นั่นเอง และนางไม่ต้องจุติแบบมนุษย์ทั่วไปเท่านั้นเอง

    ท่านวิณฑุสฤาษีจึงได้แนะนำให้ทุกคนรู้จักกัน พระศศิรัตนดาบสินีนั้น ได้ขอตัวไปปฏิบัติธรรมต่อ เนื่องจากพระนางปรารถนาจะก้าวหน้าในธรรม เนื่องจากทราบตนเองเหลืออายุขัยไม่มากนัก


    ส่วนเจ้าหญิงจินตมณีนั้นได้พบสิริมณฑา จึงรู้สึกรักใคร่ชอบพอ เนื่องจากอายุห่างกันไม่มากนัก จึงขอเป็นเพื่อนกันกับนาง สิริมณฑานั้นได้บอกแก่เจ้าหญิงจินตมณีว่า..

    “ความจริงหม่อมฉันมีพี่สาวอีกคน ท่านฤาษีไม่ได้บอกเรื่องนี้ นางเข้าอยู่ระหว่างเข้าสมาบัติ พระอาจารย์ไม่ให้ไปกวน เจ้าหญิงจินตมณีนั้น ยังเป็นเด็กย่อมมีความซุกชนอยู่ จึงถามว่า นางอยู่ที่ใด สิริมณฑาได้บอกว่า อยู่ในถ้ำ เจ้าหญิงปรารถนาที่จะไปดูถ้ำนั้น"

    สิริมณฑานั้นความจริง อายุไม่ห่างจากเจ้าหญิงจินตมณีจึงได้พาไปยังถ้ำเกล็ดแก้ว ไปยังสถานที่เข้าสมาบัติของสิริจันทราดาบสินี สิริมณฑานั้นไม่กล้าเข้าไป เนื่องจากถูกห้ามไว้ แต่ด้วยความซนของเจ้าหญิงจินตมณีได้แอบเข้าไปข้างใน พบว่า..



    ถ้ำนั้นมีความงดงามมาก จึงเดินเข้าไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพบกับสิริจันทราดาบสินี นางเป็นผู้มีความงามสงบเยือกเย็น อยู่ใกล้แล้วเป็นสุข เจ้าหญิงจินตมณีรู้สึกประทับใจ อยากให้นางออกจากสมาบัติไว ๆ เพื่อจะได้สอนวิชาแก่นางบ้าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2013
  15. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติดวงแก้วสัจจรัตนบดี ตอนจบ ถอนคำสาป..ขออโหสิกรรม..


    เมื่อกลับจากถ้ำแล้ว เจ้าหญิงเก็บความลับไว้ไม่อยู่ จึงได้แอบบอกกับพระบิดา พระเจ้านิลสิทธิ์นั้น เพียงได้ยินชื่อของสิริจันทราดาบสินีแล้ว ก็รู้สึกอยากพบหน้าอย่างประหลาด จึงได้ขอให้เจ้าหญิงจินตมณีแอบพาไปเวลากลางคืน

    คืนนั้น พระจันทร์เต็มดวง ทั้งสองพระองค์ได้แอบไปยังถ้ำเกล็ดแก้ว ท่านวิณฑุสฤาษีนั้นได้ทราบความเป็นไป แต่ต้องนิ่งเสีย คิดว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกรรม เมื่อถึงถ้ำเกล็ดแก้วแล้ว เจ้าหญิงได้พาพระบิดาไปพบสิริจันทราดาบสินี ได้นั่งในท่าสมาธิไม่ไหวติ่ง เมื่อพระเจ้านิลสิทธิ์ได้พบนางก็รู้สึกเสน่หาอย่างรุนแรงขึ้นมาอย่างประหลาด สะกดกลั้นอารมณ์ไม่ได้ แตะต้องตัวของสิริจันทราดาบสินี โดยไม่ทราบว่า นั้นเป็นสิ่งที่ผิด


    ด้วยคำอธิษฐานของสิริจันทราดาบสินี หากผู้ใดมิใช่คู่อันดับ ๑ จะไม่สามารถทำให้นางเคลื่อนออกจากสมาบัติ ทำให้มีความรู้สึกว่า นางตายแล้ว


    เมื่อสัมผัสมือของสิริจันทราดาบสินี พระเจ้านิลสิทธิ์เข้าใจว่า นางเสียชีวิต จึงเศร้าโศกเสียใจมาก ถึงกับตรอมใจตาย เจ้าหญิงจินตมณีนั้น รู้สึกเสียใจที่ความซนของตนเป็นเหตุให้พระบิดาสวรรคต จึงได้แต่ร่ำไห้


    ท่านวิณฑุสฤาษีนั้นได้ทราบเหตุการณ์โดยตลอดท่านทราบว่า คู่บารมีที่แท้จริงของสิริจันทราดาบสินีนั้น คือเจ้าชายจักราธิราช เพื่อต้องการให้แก้ไขกรรมแต่อดีต นางจำเป็นต้องสละการประพฤติพรหมจรรย์ ท่านจึงพาเจ้าชายไป

    เมื่อเจ้าชายจักราธิราชได้พบสิริจันทราดาบสินีก็เกิดความรักนางขึ้นมาทันที ท่านวิณฑุสฤาษีกล่าวว่า ก่อนพระนางจะเข้าสมาบัติได้อธิษฐานไว้ว่า..

    “ผู้ที่จะทำให้นางเคลื่อนจากสมาบัติได้ ต้องเป็นคู่บารมีอันดับ ๑ ของนางเท่านั้น หากท่านสามารถทำให้นางลืมตาได้ ท่านจะสมปรารถนา”
    เมื่อเจ้าชายจักราธิราชทราบ รู้สึกปิติใจ จึงได้หาดอกไม้หอมนอกถ้ำ สีขาวมีกลิ่นหอมนามว่า “มธุรชาติ” พระองค์นำมาวางบนมือของนาง และอธิษฐานว่า ...


    “หากนางเป็นคู่บารมีของข้าพเจ้าขอให้นางได้สัมผัสกลิ่นหอมของดอกไม้นี้ และลืมตาด้วยเถิด”


    คำอธิษฐานนั้นมีความรุนแรงมาก ทำให้จิตของสิริจันทราเทวีหวั่นไหว นางได้ตกจากสมาบัติ และลืมตาในที่สุด เมื่อสิริจันทราดาบสินี รู้สึกประหลาดใจที่นางพบพระฤาษี และคิดว่า ท่านนี้น่าจะเป็นศิษย์ผู้พี่ของพระอาจารย์ จึงได้ก้มลงกราบ เมื่อได้เห็นพระเจ้านิลสิทธิ์สวรรคต ก็รู้สึกเสียใจ จึงได้อธิษฐานว่า...


    “กรรมใดที่ข้าพเจ้าเคยสาปแช่งบุคคลท่านนี้มาแต่อดีตก็ตาม ด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม ข้าพเจ้าสำนึกว่า สิ่งนั้นไม่ดี ข้าพเจ้าขอถอนคำสาปแช่งทั้งปวงแก่ท่านผู้นี้..

    พันธนาการใด ๆ ที่เคยกระทำไว้แก่ท่านผู้นี้ ข้าพเจ้าขอถอนพันธนาการทั้งปวง ขอให้พ้นจากเวรภัย ณ.บัดนี้ ขอผลบุญที่ข้าพเจ้าเข้าสมาบัติเป็นเวลา ๙ วัน ส่งผลให้ท่านผู้นี้ ฟื้นคืนชีพด้วยเถิด

    ข้าพเจ้าปรารถนาจะมีคู่เพียงผู้เดียว ขอท่านผู้นี้ จงเมตตาแก่ข้าพเจ้าดุจพระกนิษฐา อย่าได้คิดในเรื่องเสน่หาอีกเลย ขอคำกล่าวของข้าพเจ้าจงเป็นผลสำเร็จด้วยเถิด ”


    จากนั้นสิริจันทราดาบสินีได้นำน้ำทิพย์ในถ้ำนั้นราดบนตัวพระเจ้านิลสิทธิ์ พระองค์ได้ฟื้นคืนชีพด้วยคำอธิษฐาน และน้ำศักดิ์สิทธิ์ในถ้ำนั้น


    เมื่อฟื้นขึ้นมาแล้ว พระเจ้านิลสิทธิ์ได้ลืมอดีต และความรู้สึกเดิมไป เหลือไว้แต่ความเมตตาดุจน้องสาว ดังคำอธิษฐานของนาง


    ต่อมาท่านวิณฑุสฤาษีได้สอนวิชาต่าง ๆ แก่พระเจ้านิลสิทธิ์ พระศศิรัตนฯ เจ้าชายจักราธิราช เจ้าหญิงจินตมณี สิริจันทราดาบสีนี และสิริมณฑา ตามความถนัดของแต่ละคนจนครบ ๓ เดือนสำเร็จวิชาต่าง ๆ

    กาลต่อมา พระศศิรัตนฯ ได้ละสังขารไปเกิดในพรหมโลกชั้น ๘ สิริจันทราดาบสินีได้ออกจากการประพฤติพรหมจรรย์ ได้เดินทางกลับพร้อมเจ้าชายจักราธิราช และสิริมณฑา ต่อมาได้อภิเษกสมรสกับเจ้าชายจักราธิราช


    ส่วนพระเจ้านิลสิทธิ์ และเจ้าหญิงสิริมณฑานั้นได้กลับเมืองของตน พระองค์ปรารถนาจะผูกสัมพันธ์กับเมืองสุบรรณคิรีนคร ได้ส่งเครื่องบรรณาการไปให้พระเจ้าสัตตรัตน์ และเจ้าชายจักราธิราช ฝ่ายพระเจ้าสัตตรัตน์ได้ส่งราชทูตมาสู่ขอเจ้าหญิงจินตมณีให้เป็นคู่หมั้นของเจ้าชายจักรบวร พระโอรสองค์รอง

    ต่อมาทรงแต่งตั้งให้เจ้าชายโขมพัตรเป็นกษัตริย์อย่างสมบูรณ์ปกครองเมืองต่อไปด้วยความร่มเย็น ส่วนพระเจ้านิลสิทธิ์ หลังจากเสร็จภารกิจต่าง ๆ พระองค์ได้ปลีกวิเวก ได้สอนพระมเหสีทั้งสองจากความรู้ทึ่ได้เรียนมา จากนั้นทั้งสามพระองค์ได้ประพฤติพรหมจรรย์จนสิ้นอายุขัย


    ฝ่ายเจ้าชายจักราธิราชนั้นทราบว่า สิริจันทราดาบสินีนั้น มิได้ปรารถนาทางโลก พระองค์เองก็ทรงเบื่อหน่ายทางโลกเช่นกัน จึงได้ขอให้พระบิดายกตำแหน่งรัชทายาทแก่เจ้าชายจักรบวร พระองค์ และพระชายาได้ออกบวชอยู่ในป่าท้ายพระราชวัง หากใครสนใจฝึกวิชาทั้งสองยินดีถ่ายทอดวิชาให้ โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ

    สิริมณฑานั้นอภิเษกกับเจ้าชายฐิติรัฐในกาลต่อมา เมื่อพระเจ้าสัตตรัตน์ และพระมเหสีสวรรคต เจ้าชายจักรบวรได้ขึ้นครองราชย์ต่อไป อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงจินตมณี ครองราชย์ต่อไปด้วยความร่มเย็นเป็นสุข


    ประวัติดวงแก้วสัจจรัตนบดีขอจบเพียงเท่านี้

    ขอผลบุญในการให้ธรรมทานนี้ จงบังเกิดแก่ทุกท่าน ขอให้ท่านมีดวงปัญญาสว่างไสว สิ่งใดติดขัดขอให้ผ่านพ้นด้วยดี และเจริญทั้งทางโลก และทางธรรมค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ติดตามกระทู้มาโดยตลอดค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2013
  16. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    โอ้โห แม่หญิงจินตมณี ซุกซนมาจนถึงชาตินี้จริง ๆ...ฮ่า

    เจอพี่น้ำใสครั้งแรกก็รู้สึกอย่างนี้เหมือนกันค่ะ อิอิ
    และเจอพี่กระต่ายน้อยครั้งแรกก็รู้สึกว่าชอบโดยไม่มีสาเหตุเช่นกันค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2013
  17. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    กรรมใดที่เคยล่วงเกินพี่น้ำใส และคุณ World999 เอาไว้
    ระลึกได้หรือระลึกไม่ได้ก็ดี ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี
    หนูขออโหสิกรรมต่อกรรมนั้นด้วยนะเจ้าคะ...
     
  18. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใส ในธรรมทานทั้งหมดทั้งมวล นะเจ้าค่ะ


    เอ๋ จันทรกาล
     
  19. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ข้อคิดที่ได้จากประวัติดวงแก้วสัจจรัตนบดี..

    ก่อนอื่นขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ร่วมถวายดวงแก้วสิริรัตนโรจน์ฤทธิ์แด่ครูบาวิฑูรณ์ และร่วมบุญผ้าป่าบูรณศาลาชำรุด วัดดงมัน จ.สุรินทร์ด้วยค่ะ

    จากเรื่องนี้ ให้ทราบว่า ทุกคนย่อมเป็นไปตามกรรม ใครทำกรรมใด ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น

    ๑. กรณีของสิริจันทราดาบสนีกับพระเจ้านิลสิทธิ์นั้น เกิดจากกรรมในชาติเมื่อนานมานับอสงไขยไม่ถ้วน สิริจันทราดาบสินีเคยเกิดเป็นธิดาพญานาค ชื่อนางมณีเมขลา และพระเจ้านิลสิทธิ์เป็นมนุษย์ ในตระกูลกษัตริย์ นามว่า เจ้าชายคตสิทธิ์


    นางเกิดความรักในเจ้าชายคตสิทธิ์มาก แต่พระเจ้านิลสิทธิ์ชาตินั้นมิได้รักนาง แต่หวังประโยชน์จากนาง ต่อมานางได้ทราบความจริงภายหลัง จึงตรอมใจตาย ก่อนตายได้สาบแช่งว่า ...

    "ภพชาติต่อไป ๆ ขอให้เจ้าชายคตสิทธิ์รักนางยิ่งกว่าที่นางรักในชาตินี้ และขอให้สุดท้ายต้องตรอมใจตายด้วยความรักนั้น และขอให้นางอย่าได้มีความรักตอบเลย"

    ๒.เมื่อวิบากกรรมส่งผลแล้ว อย่าท้อแท้ ขอให้ตั้งใจสร้างกรรมดี เร่งหนีวิบาก วิธีที่วิบากกรรมตามไม่ทัน คือ การถือศีล และเจริญพระกรรมฐาน หรือหากฝึกการเข้าสมาบัติได้จะดีที่สุด

    ๓.การกลั่นกายให้ใส ช่วยให้รวมบุญเก่าแด่อดีตได้ดีที่สุด ส่งผลได้เร็ว

    ๔.การอธิษฐานจิต อธิษฐาน เป็น ๑ ในบารมี ๑๐ เป็นการตั้งเป้าว่า เราจะทิศทางไปทางใด ผุ้ปรารถนาพระนิพพานก็ให้หมั่นอธิษฐานจิตบ่อย ๆ จะส่งผลให้เราเข้าถึงธรรมได้ง่าย สำหรับผู้ที่มีบุญแต่กาลก่อนอธิษฐานสิ่งใดย่อมสำเร็จง่าย

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  20. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    พี่อโหสิกรรมทุกประการค่ะ กรรมใดที่เคยล่วงเกินน้องตาล เพื่อขออโหสิกรรมด้วยนะจ๊ะ

    ขอให้เจริญในธรรมค่ะ

    Numsai
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...