ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905


    สนใจมากค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับคุณsun2555 ทุกประการค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
    และขอขอบคุณที่คุณsun2555 ได้นำเอาสิ่งดีๆ มาให้ชาวเมืองได้อ่านกันค่ะ

    จันทรกาล :cool:
     
  2. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905


    ขออนุโมทนาบุญ ทั้งหมดทั้งมวล กับพี่น้ำใสค่ะ ขอสาธุ ดังๆเลยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ


    อ่านแล้วปลื่มใจไปกับพี่น้ำใสด้วยม๊ากๆเลยค่ะ

    จันทรกาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 มีนาคม 2013
  3. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วโชติรัตนชยางกูร ตอน ๗ พระนางสุนทริยาเทวี สร้างโรงทาน

    กล่าวถึงพระเจ้ามัทธนะ นายสรณะ และสหายได้กลับโดยสวัสดิภาพ หลังจากพระเจ้ามัทธนะได้กลับไปสะสางกิจต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ได้ขบวนขบวนเสด็จไปสู่ขอนางสุนทรีย์จากบิดามารดา และนายสรณะ

    จากนั้นต่อมาได้อภิเษกสมรสกับนางสุนทรีย์ ทรงแต่งตั้งให้เป็นพระมเหสี มีพระนามว่า พระนางสุนทริยาเทวี ส่วนสรณมานพก็เดินทางกลับไปยังป่า เพื่ออุปัฏฐากพระฤาษีทั้งสองตามความปรารถนา


    เมื่อพระนางได้เป็นพระมเหสี ทรงขอพระสวามีสร้างโรงทานในเมืองนี้ ซึ่งพระนางได้เห็นตัวอย่างของวิสุทธิโชติพราหมณ์ เมื่อครั้งพระนางได้ไปเยี่ยมสรณะมานพ พระเจ้ามัทธนะทรงเห็นด้วย จึงให้เปิดโรงทาน ๘ แห่ง โดยแต่ละแห่ง แยกออกเป็นโรงทานสำหรับฆราวาส และโรงทานสำหรับนักบวช เพื่อง่ายต่อการดูแล

    พระเจ้ามัทธนะนั้น มีพระอนุชา และพระกนิษฐาต่างมารดาอีก ๘ พระองค์ มีดังนี้ เจ้าชายมิตตะ เจ้าชายอิทธิราช เจ้าชายสุรนารท เจ้าหญิงอมิตตา เจ้าหญิงเมขลา เจ้าชายอนุรุทธะ เจ้าหญิงยโสริยา และเจ้าชายอิทธิเดช เจ้าชายและเจ้าหญิงต่างก็รักพระเจ้ามัทธนะมาก เมื่อพระองค์ทรงอภิเษกสมรส ทุกพระองค่ก็ให้ความเคารพพระนางเช่นกัน


    เจ้าหญิงอมิตตา และเจ้าหญิงเมขลานั้น ขออาสาในการช่วยเรื่องการบริจาคทาน

    กาลต่อมาพระเจ้ามัทธนะให้สั่งให้สัณฐานมานพ มุทธภีร์มานพ ฑัณตะมานพ และปารมีมานพ เข้าเฝ้าเพื่อรับราชการ ทรงแต่งตั้งให้สัณฐานมานพ เป็นเสนาบดีฝ่ายขวา ดูแลการทหาร โดยให้มุทธภีร์เป็นรองเสนาบดี

    ส่วนฑัณตะมานพให้เป็นเสนาบดีฝ่ายซ้าย ดูแลการเสบียงการคลัง โดยให้ปารมีมานพ เป็นรองเสนาบดี ส่วนเสนาอำมาตย์ที่มีอยู่เดิม ทรงแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษา เพิ่มเบี้ยหวัดให้ ทำให้เหล่าเสนาอำมาตย์ทั้งหลายพึงพอใจ พระองค์ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยความสุข

    สัณฐานเสนาบดีนั้น เกิดความเสน่หาเจ้าหญิงเมขลา ต่อมาพระเจ้ามัทธนะก็ทรงทราบ จึงเรียกสัณฐานเสนาบดีในฐานะพระสหาย สัณฐานเสนาบดีได้บอกความในใจทั้งหมด พระเจ้ามัทธนะได้ตรัสถามความสมัครใจของเจ้าหญิงเมขลา เจ้าหญิงเมขลาเองก็มิได้รังเกียจสัณฐานเสนาบดีแต่อย่างใด พระเจ้ามัทธนะทรงอภิเษกสมรสแก่ทั้งสองในกาลต่อมา ทั้งสองได้ครองรักกันอย่างมีความสุข

    ต่อมาพระนางสุนทริยาเทวีทรงพระครรภ์ ประสูติพระโอรส พระนามว่า “เจ้าชายมัทธจักร” พระเจ้ามัทธนะได้ปกครองบ้านเมืองด้วยความสงบสุขเรื่อยมา ..
     
  4. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วโชติรัตนชยางกูร ตอน ๘ กำเนิดดวงแก้วโชติรัตนชยางกูร...


    เมื่อบ้านเมืองสงบสุขพระเจ้ามัทธนะทรงระลึกถึงพระฤาษีผู้เป็นอาจารย์ ทรงจัดส่งเสบียงผลไม้แห้ง ผ้ากำพลสีเขียวขี้ม้าอย่างดี ส่งไปถวายแด่ครูบาอาจารย์เป็นประจำ หากอาศรมพระฤาษีชำรุด ทรงส่งช่างไปซ่อมแซม หากไม่มีภารกิจมากนัก พระองค์จะทรงเดินทางไปด้วยตนเอง

    ฝ่ายสรณะมานพนั้น ได้อยู่อุปัฏฐากพระฤาษีทั้งสองเป็นเวลาหลายปี จนพระสินธุฤาษีเห็นควรให้บวชเป็นพระฤาษี เพื่อศึกษาวิชาอื่น ๆ โดยมีพระวิสุทธิฤาษีเป็นผู้ฝึกหัดวิชาให้ วันหนึ่งพระวิสุทธิฤาษีทรงใช้ทิพยจักขุญาณทราบว่า อีก ๓ ปีข้างหน้าจะเกิดภัยพิบัติแห้งแล้ง ข้าวยากหมากแพง ทรงปรึกษากับพระสินธุฤาษี พระสินธุฤาษีนั้น ได้ส่งให้พระวิสุทธิฤาษีไปเรียนวิชากับพระฤาษีผู้เป็นสหายของท่านยังป่าอีกแห่งหนึ่ง

    เมื่อสำเร็จวิชาแล้ว พระวิสุทธิฤาษีได้เข้าสมาบัติเป็นเวลา ๓ เดือน จากนั้นทรงอธิษฐานดวงแก้วมณีขึ้นมา ๑ ดวง นามว่า “ดวงแก้วโชติรัตนชยางกูร”

    กาลต่อมาพระเจ้ามัทธนะได้นำของมาถวายครูบาอาจารย์ พระวิสุทธิฤาษีได้มอบให้พระองค์ แล้วบอกว่า..

    “ดวงแก้วโชติรัตนะฯ นี้เป็นแก้วสารพัดนึก ขอให้เจ้าจงรักษาไว้ให้ดี กาลต่อไปข้างหน้า เป็นวิบากกรรมโดยรวมของมนุษย์ จะมีภัยพิบัติแห้งแล้งจะเกิดข้าวยากหมากแพง หากมีดวงแก้วนี้ไว้จะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา ให้ชาวเมืองรักษาศีล ๕ เป็นปกติจะช่วยให้ไม่เดือดร้อน”

    เมื่อได้ดวงแก้วมณีมาแล้ว พระองค์ทรงให้จัดการฉลอง ๗ วัน ๗ คืน แต่การฉลองนั้น งดเว้นการฆาสัตว์ตัดชีวิต ต่อมาพระองค์ทรงสั่งสอนให้ชาวเมืองรู้จักการให้ทาน รักษาศีล ๕ และรักษาอุโบสถศีลในวันพระ

    ด้วยอานุภาพแห่งดวงแก้วมณี ประชาชนต่างก็รู้จักการแบ่งปันกัน มหาเศรษฐีผู้มีทรัพย์มากในเมือง ต่างก็นำทรัพย์ของตนมาบริจาค เพื่อเป็นของส่วนกลาง เพื่อใช้ในอนาคต ทำให้เมืองนี้อยู่ด้วยกันอย่างมีสุข
     
  5. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วรัตนสิทธิโชค-โชติรัตนชยางกูร ตอน ๙ กำเนิดดวงแก้วรัตนสิทธิโชค

    กล่าวถึงพระวิสุทธิฤาษี ท่านทราบว่า ในกาลข้างหน้าอีก ๓ ปีจะเกิดภัยพิบัติแก่มวลมนุษย์ทั่วไป จึงนึกถึงจันทรอาสนะ ผู้เป็นลูกบุญธรรม และศิษย์คนแรก

    เหตุที่ท่านยกให้จันทรอาสนะเป็นศิษย์คนแรกนั้น เนื่องจากท่านได้สอนวิชาดูลักษณะมนุษย์ และวิชาเมตตามหานิยมแก่จันทรอาสนะ ทำให้ทราบว่า ผู้ใดควรค้าขายหรือผุ้ใดไม่ควรค้า วิชาเมตตามหาส่งผลให้ค้าขายดี

    จึงได้กล่าวแก่สรณะฤาษีว่า “เราจะเข้าสมาบัติเป็นเวลา ๑ เดือน ขอให้เจ้าดูแลพระอาจารย์ให้ดี เราจะเนรมิตดวงแก้ว เพื่อมอบแก่บุตรบุญธรรมของเรา”

    สรณะฤาษีได้นำความไปบอกแก่พระสินธุฤาษี ผู้เป็นอาจารย์ใหญ่ พระสินธุฤาษีนั้นได้ทราบด้วยญาณทัสสนะ คิดว่า ตัวท่านอีกอาจจะละสังขารก่อนจะถึงภัยพิบัติใหญ่ จึงได้ถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ แก่สรณะฤาษี ส่วนใหญ่ท่านเน้นการสอนในเรื่องวิปัสสนาญาณ การเรียนรู้ทางจิต จนสรณะฤาษีมีความรู้แตกฉานในวิปัสสนาญาณ

    ครั้นเมื่อครบ ๓ เดือน พระวิสุทธิฤาษีได้เนรมิตดวงแก้วขึ้นมาอีก ๑ ดวง นามว่า “ ดวงแก้วรัตนสิทธิโชค” จากนั้นได้กราบลาพระสินธุฤาษีไปยังบ้านเกิดของตน

    เมื่อไปถึงเรือนของจันทรอาสนเศรษฐี เป็นเวลาใกล้รุ่ง ท่านได้ปรากฏยังห้องปฏิบัติของจันทรอาสนะ เกิดแสงสว่างไปทั่วเรือน ทำให้คนรับใช้แตกตื่น ไปปลุกจันทรอาสนะเศรษฐี เมื่อตื่นขึ้น รีบไปยังห้องปฏิบัติ เขาได้พบกับพระวิสุทธิเศรษฐี อยู่ในห้องนั้น ถึงกับร้องไห้จนสลบด้วยเขาคิดว่า

    “ท่านวิสุทธิฤาษีได้เสียชีวิตไปแล้ว”

    หลังจากฟื้นขึ้นมาต่างคนต่างทักทายกัน พระวิสุทธิฤาษีได้แจ้งแก่จันทรอาสนเศรษฐีว่า ต่อไปอีก ๒ ปีจะเกิดภัยพิบัติแห้งแล้ง พระราชาเมืองนี้ไม่อยู่ในศีลธรรม จะเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ท่านให้จันทรอาสนเศรษฐีให้คนในเรือนของตนรักษาศีลให้บริสุทธิ์ หากใครไม่ประสงค์รักษาศีล มอบทรัพย์ส่วนหนึ่งให้ออกจากเรือนไป

    เหตุท่านต้องทำเช่นนี้ เนื่องจากหากคนในเรือนไม่รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ดวงแก้วมณีไม่สามารถคุ้มครองปกปักษ์ให้พ้นภัยพิบัติได้ ความอดอยากยากจนจะบังเกิด พระวิสุทธิ์ฤาษี สั่งให้มีการปลูกต้นไม้เป็นกำแพงโดยรอบ เพื่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์
     
  6. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วรัตนสิทธิโชค-โชติรัตนชยางกูร ตอนจบ ภัยพิบัติ..มหันตภัยแก่มนุษย์โลก

    ซึ่งจันทรอาสนเศรษฐีได้ทำตามคำแนะนำของพระฤาษีทุกประการ พระวิสุทธิ์ฤาษีพำนักที่เรือนจันทรอาสนะได้ ๗ วันก็ลากลับเนื่องจากมีกิจต้องขอความช่วยเหลือจากเหล่านาคทั้งหลาย

    จากนั้นได้เหาะไปยังเมืองของพระเจ้าสิงหร และพระนางมัณฑนา ได้แจ้งเรื่องภัยแล้งที่จะเกิด โดยขอให้เหล่าพญานาคราชทั้งหลายไปปกป้องคุ้มครองเมืองของพระเจ้ามัทธนะ และเรือนของจันทรอาสนะเศรษฐี

    พระเจ้าสิงหรทรงตรัสว่า ให้พระเจ้ามัทธนะ และจันทรอาสนาเศรษฐี ขุดสระใหญ่ในเมืองหลาย ๆ แห่ง ท่านจะให้เหล่าพญานาคทั้งหลายเคลื่อนไปยังสถานที่นั้น ๆ ทำให้น้ำไม่แห้ง และภัยแล้งจะไม่มีผลใด ๆ

    ครั้นเมื่อถึงเวลาตามกำหนด ด้วยอานุภาพแห่งดวงแก้วมณี และพญานาคราชทั้งหลาย ทำให้เมืองของพระเจ้ามัทธนะ และเรือนของจันทรอาสนะไม่เดือดร้อนต่อภัยพิบัติดังกล่าว กลับมีความอยู่เย็นเป็นสุข เป็นเรื่องแปลกว่า


    ผู้ที่เข้ามายังเมืองของพระเจ้ามัทธนะ และเรือนของจันทรอาสนะได้นั้น เป็นผู้ที่รักษาศีลบริสุทธิ์เท่านั้น

    กาลต่อมา หลังจากการภัยแห้งแล้ง กาลต่อมาเกิดโรคระบาดต่าง ๆ ทำให้ผู้คนล้มตาย บ้านเมืองอื่นได้ร้างไป ทำให้พระเจ้ามัทธนะได้ขยายอาณาเขตเพื่มขึ้น ทรงแบ่งให้พระอนุชาในส่วนแบ่งเท่า ๆ กัน ส่วนพระกนิษฐา ภายหลังได้อภิเษกกับผู้ที่เหมาะสมครองเรือนอย่างมีความสุข

    ฝ่ายจันทรอาสนเศรษฐีนั้น ผู้คนมีศีลต่างอพยพมาอยู่เรือนของเขามากมาย หลังภัยพิบัติ พระราชาองค์เดิมได้ป่วยตายจากโรคระบาด ชาวเมืองจึงแต่งตั้งให้จันทรอาสนะเป็นเจ้าเมืองต่อไป พระเจ้าจันทรอาสนะได้ครองเมืองอย่างมีความสุขเรื่อยมา


    และทั้งสามเมือง คือเมืองของพระเจ้ามัทธนะ เมืองของพระเจ้าจันทรอาสนะ และเมืองของพระเจ้าสิงหร ต่างให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ภายหลังใน ๓ ตระกูลต่างดองกันโดยให้โอรส-ธิดา อภิเษกสมรสกัน ทำให้บ้านเมืองสงบสุขตลอดมา

    ฝ่ายพระสินธุฤาษีได้ละสังขารก่อนมีภัยพิบัติ พระวิสุทธิฤาษีได้พาท่านสรณะฤาษีไปยังป่าลับแล (ผู้ที่สามารถเข้าไปได้เฉพาะผู้ได้อภิญญาเท่านั้น) ท่านทั้งสองได้ละสังขารในป่าแห่งนั้น ต่างไปเกิดในพรหมโลกชั้น ๑๑ มีวิมานใกล้กัน


    ขอจบประวัติดวงแก้วรัตนสิทธิโชค และดวงแก้วโชติรัตนชยางกูร แต่เพียงเท่านี้


    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
    Numsai
     
  7. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ผู้ที่เกี่ยวเนื่องในประวัติครั้งนี้

    พระวิสุทธิฤาษี – พระเกษรีฤาษี

    จันทรอาสนะ /พระเจ้าจันทรอาสนะ – คุณam12

    จิตรี /พระนางจิตตเทวี - คุณ sereenon

    สรณะมานพ/ท่านสรณฤาษี – คุณ mooom

    พระเจ้ามัทธนะ –คุณ sun2555 /พระนางสุนทริยาเทวี - คู่บารมีในชาตินี้

    สิงหรองครักษ์/พระเจ้าสิงหร – คุณ world999

    พญาณสุทธนนาคราช –หลวงพ่อวิชิต

    อัฐกริชนาคราช – ท่าน widya

    สิทธินารทนาคราช –half wave

    เจ้าหญิงอมิตตา – น้องหนูดี

    เจ้าหญิงเมขลา – น้องน้ำตาล

    เจ้าชายมัทธจักร- น้องธรรมวิวัฒน์


    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  8. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,334
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,280
    อนุโมทนาในธรรมทาน และการเล่าเรื่องราวของพี่น้ำใสด้วยนะครับ
    สนุก และลุ้นทุกตอน เริ่มเข้าใจในสิ่งที่พี่น้ำใสเคยว่าไว้ คือคนในเมืองนี้
    ก็เกี่ยวเนื่องกันมานะครับ จากประวัติดวงแก้วรัตนสิทธิโชค-โชติรัตนชยางกูร
    ที่เพิ่งอ่านจบไปนะครับ ถ้ารวมบุคคลใน 3 เมืองที่ดองกัน ก็หลายสิบชีวิต
    กว่าจะถึงสมัยพระวิปัสสีพุทธเจ้า ก็เวียนว่ายตายเกิด กันไปตามบารมีและวาระกรรม
    ของแต่ละบุคคล อ่านเสร็จก็รู้สึกถึงความผูกพันที่มีต่อกันมาอย่างนานแสนนาน
    นึกถึงเพลง สายลมที่หวังดี ของ ทราย เจริญปุระ คงจะเข้ากับความรู้สึกในตอนนี้ของผมนะครับ

    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ ขอให้สำเร็จสมปรารถนาในสิ่งที่อธิษฐานไว้นะครับ
    และขอให้คุณศรีพระรัตนตรัย คุ้มครองกาย วาจา ใจให้ทุกท่านเจริญในธรรมะคำสั่งสอน
    ของพระพุทธองค์ในทุกลมหายใจเข้า-ออกครับ สาธุ สาธุ

    :z15
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2013
  9. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทานพี่น้ำใสด้วยค่ะ และทุกท่านในเมื่องนี้ สาธุ สาธุ สาธุ

    อ่านแล้วรู้สึกได้ว่า พลังอันบริสุทธิ์ ของการรักษาศีล 5 ซึ่งเป็นคุณธรรมพื้นฐานของมนุษย์เราๆนี้
    แต่มีพลังอันบริสุทธิ์มหาศาล สามารถช่วยคุ้มครองมนุษย์ ยามเกิดภัยต่างๆได้
    อยากให้ชาวไทยเราทุกคน หันมารักษาศึล 5 กันนะค่ะ


    จันทรกาล
     
  10. marisa23

    marisa23 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +575
    อนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใสและทุกท่านนะคะ
    เพิ่งได้ทราบตัวเองเหมือนกันค่ะ
    ตอนนี้อยู่ในโหมดเศร้าอยู่ค่ะกำลังปรับอารมณ์ให้ใจใสๆ
    ยิ้มสู้ชะตาชีวิตแม้หัวใจจะร้องไห้
    อยากไปต่อแต่ไม่ค่อยมีแรงเลยค่ะ ลาไม่ขาดเสียที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มีนาคม 2013
  11. Paktawadee

    Paktawadee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2012
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,570
    สาธุ สาธุ สาธุ หนูดีขออนุโมทนาบุญธรรมทานกับพี่น้ำใสด้วยค่ะ
    ได้อ่านเรื่องเล่าต่างๆของพี่น้ำใส รู้สึกปลื้มปิติมีความสุขค่ะ


    หนูดีขอเล่าเรื่องต่อ เมื่อวันที่16 มีนาคม56 ณ บ้านพี่น้ำใสระหว่างนั่งสมาธิช่วงเช้า
    หลังสวดมนต์ทุกท่านได้ร่วมนั่งสมาธิ ด้วยที่ว่าหนูดีได้มโนนิดหน่อยค่ะระหว่างนั่งจิตนิ่ง
    หนูดีเห็นหลวงพ่อพระราชพรมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)เมื่อเห็นก็น้อมจิตกราบท่าน
    และถามท่านว่าวิมาณ พระนิพานเป็นแบบได ในความรู้สึกตอนนั้นท่านนำไปที่ไหนสักแห่ง
    แล้วก็เห็นเหมือนตัวเองเดินชมวิมาณด้านบนลักษณะเป็นแก้วใสมากๆ ก็มีความรู้สึกว่า
    ทำไมเหมือนที่ศาลาหลักร้อยที่วัดท่าซุง แต่ด้านบนจะสวยมากกว่า ด้วยความสวยงาม
    ของวิมาณหนูดีเดินไปก็สวดบทเงินล้านไปด้วยเหมือนเดินไปร้องเพลงไป และได้ยินท่านบอกว่า
    เรานะซนลงไปนั่งสมาธิได้แล้ว ภาพวิมาณก็หายไป แต่ก็ยังเห็นหลวงพ่อพระราชพรมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    อยู่และเห็นท่านลุกขยับผ้าจีวร ภาพหลวงพ่อก็หายไป และพื้นบ้านพี่น้ำใสก็สั่นๆ เห็นเท้า
    ใครไม่ทราบใหญ่มากๆ และหลังจากออกสมาธิพี่เอ๋คนสวยถามหนูดีแผ่นดินไหวหรือบ้าน
    พี่น้ำใสสั่นๆ และทุกท่านที่นั่งสมาธิก็รู้สึกเหมือนกันว่าบ้านสั่นๆ หนูดีบอกพี่เอ๋ว่าไม่ใช้
    แผ่นดินไหว แต่เห็นเท้าใครไม่ทราบใหญ่มากๆ จึงเก็บความสงสัยถามพี่น้ำใส
    เฉลยความสงสัยโดยพี่น้ำใสว่าเป็นท่านพระเกษรีฤาษีค่ะ


    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้านางพักตราวดี ถมกลางได้บำเพ็ญมาดีแล้วขอถวายบุญกุศลนี้
    แก่ครูบาอาจารย์ ท่านพ่อและท่านแม่แต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผลบุญใดๆที่ให้ผลแก่ข้าพเจ้า
    ขอผลบุญนั้นจงเกิดกับท่านทั้งหลายที่ได้เข้ามาอ่านธรรมทานในกระทู้นี้ด้วยเถิดสาธุ


    ปล.อีกอย่างที่ได้ยินที่หลวงพ่อบอกคือ ทำจิตให้ใสๆเดียวทรัพย์ก็จะมาเอง

    หนูดี:)
     
  12. ส้มจุก

    ส้มจุก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    62
    ค่าพลัง:
    +1,054
    ขอขอบคุณน้องน้ำใสมากนะคะ พี่ได้รับดวงแก้วแล้ว ปลื้มปิติอย่างมากค่ะ
    พี่อยากถามน้องว่าพี่ควรบูชาอย่างไรคะและต้องสวดมนต์บทไหนเป็นพิเศษมั้ยคะ
    แล้วดวงแก้วนี้มีกายสิทธิ์ด้วยมั้ยคะ เพราะพี่เป็นมือใหม่ค่ะ คงไม่รบกวนน้องน้ำใสมากไปนะคะ ขอบคุณอีกครั้งคะ

    และขออนุโมทนากับทุกๆท่านในบ้านนี้ด้วยนะคะรู้สึกอบอุ่นและสบายใจทุกครั้งที่ได้อ่านค่ะ

    พี่ส้มจุก
     
  13. NamfonBaanfa

    NamfonBaanfa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +7,086
    วันนี้ เวลา ๒๐.๓๔ น. ได้โอนปัจจัยที่หามาได้ด้วยความบริสุทธิ์ จำนวน ๑,๐๐๐ บาท (ประจำเดือนเมษายน ๒๕๕๖) เข้ากองทุนสมเด็จพระพุทธ วิปัสสีโภคมหาบพิตร (แก้วบรมจักรพรรดิ์) ... ขอกราบอนุโมทนาบุญกับผู้ร่วมบุญในกองทุนฯนี้ทุกท่านด้วยค่ะ _/|\_

    Bank Reference No. 48760997
    Date: 23 Mar 2013
    Time: 20:34:07 Bangkok, Thailand (GMT +7:00)
    Transfer From: Account BBL 048-0-025410
    Account Name: น้ำฝน อมรสุรกานต์
    Date to Deduct Funds: 23 Mar 2013
    Transfer To: Account SCB 0802550227
    Account Name: PHUTTARA ROJJ / กองบุญดวงแก้วบรมจักรพรรดิ
    Send SMS: 084 465 2691
    Date to Receive Funds: 23 Mar 2013
    Amount: 1,000.00
    Reference: ประจำเดือนเมษายน 2556
     
  14. NamfonBaanfa

    NamfonBaanfa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +7,086

    ด้วยความยินดีค่ะ ขอเชิญชาวเมืองทั้งหมดเกาะไปด้วยกันเลยนะคะ ^_^
     
  15. world999

    world999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +1,992
    รอติดตามคุณน้ำใสนำเสนอเรื่องดีๆต่อครับ
     
  16. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905

    ขออนุโมทนาบุญกับน้องหนู๋ดี ทุกประการค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ


    มิน่าละ วันนั้นน้องหนู๋ดี นั่งยิ้มๆๆๆ ตลอดเลย อิอิ พี่ก็ยิ้มตามไปด้วย คริ คริ คริ


    จันทรกาลyimm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 มีนาคม 2013
  17. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    ช่วงเวลา ที่รอฟังธรรมทานจากพี่น้ำใส นั้น
    ขอขั้นเวลานิสหนึ่งจ้า พอดีได้อ่านเจอ
    บทอธิษฐานจิต ขอขมากรรมสำนึกผิด บทนี้เลยนำมาแชร์ให้ชาวเมืองนี้ได้อ่านกันค่ะ


    บทอธิษฐานจิต บทนี้ก็ดีมากค่ะ
    บทอธิษฐานจิต ขอขมากรรมสำนึกผิด(โดยหลวงพ่อชุมพล พลปญฺโญ)

    ด้วยเดชะ พุทธบารมี ธัมมบารมี สังฆบารมี ข้าพเจ้าจะขอน้อมอัญเชิญ สิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทวดาทั้งหมื่นโลกธาตุ แสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล มาเป็นพยานในการขอขมาลาโทษ ขออโหสิกรรม สำนึกผิด ตั้งจิตใหม่ ของข้าพเจ้า ในกาลบัดนี้ด้วยเทอญ

    ข้าพเจ้าจะขอตั้งความใฝ่ดี ความละอายต่อบาป และความเกรงกลัวต่อบาป ไว้เป็นเบื้องหน้า จะกราบแทบเท้าขอขมา ขอลาโทษ กระทำคืนความผิดของตน ต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดังนี้

    ๑. สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกิน ต่อพระพุทธเจ้าทุกทุกพระองค์ พระธรรมเจ้าทุกทุกพระธรรมขันธ์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์สาวกทุกทุกองค์ และปูชนียวัตถุสถานอันเกี่ยวเนื่องกับพระรัตนตรัยและสิ่งมีคุณทุกทุกสิ่งสถาน มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

    ๒. สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกิน ต่อพระโพธิสัตว์ทุกทุกองค์ และท่านผู้ทรงคุณ ซึ่งกำลังขวนขวายสร้างบารมี อยู่ในเส้นทางเครือข่ายแห่งพุทธะทั้งปวง มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

    ๓. สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกิน ต่อบิดามารดาผู้มีพระคุณชุบเลี้ยงข้าพเจ้ามาตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอย มีการไม่รู้จักสำนึกบุญคุณที่ท่านชุบเลี้ยงมา ดื้อด้านไม่ฟังคำสั่งสอน ต่อล้อต่อเถียงทำให้ท่านเสียใจ ไม่กระทำตามโอวาทที่ท่านสอนสั่ง ไม่ขวนขวายตอบแทนบุญคุณท่าน มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น
     
  18. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    ๔. สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกิน ต่อครูบาอาจารย์ผู้สอนสั่งด้วยหวังดี โอบอ้อมอารีมีพระคุณเกื้อหนุนด้วยเมตตา โดยทำให้ท่านต้องระอา เพราะความดื้อด้านถือตัวหัวแข็ง บ้างก็แข่งดีเข้าใจว่าตัวเองนี้เก่งกล้า ทั้งที่สงวนรักษาความโง่เขลาเบาปัญญาไว้อย่างประคบประหงม ไม่น้อมรับโอวาทที่ท่านเมตตาสอนสั่งด้วยห่วงใย ทำให้ท่านผู้หวังดีต้องคับแค้นแน่นใจ มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

    ๕. สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยหักหลัง ทรยศ คดโกง ต่อท่านผู้มีพระคุณ ผู้มีบุญคุณ ต่อท่านผู้มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดี จริงใจต่อข้าพเจ้า มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

    ๖. สิ่งใดที่ข้าพเจ้า ได้เคยลบหลู่ล่วงเกิน ต่อท่านผู้มีคุณธรรมอันสูงส่ง เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี หรือเพราะความเย่อหยิ่งถือดี ยกตนข่มท่าน มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

    ๗. สิ่งใดที่ข้าพเจ้า ได้เคยแสดงความไม่ยำเกรง ต่อจิตวิญญาณ ทั้งในภูมิชั้นสูง ภูมิชั้นกลาง ภูมิชั้นต่ำ ได้เคยล่วงเกินทำร้ายทำลายให้ท่านเดือดร้อน ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น
     
  19. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905
    ๘. สิ่งใดที่ข้าพเจ้า ได้เคยทำให้ท่านผู้ใกล้ชิดสนิทแน่น ทั้งเป็นญาติมิตรสามีภรรยาลูกหลานเหลนสืบสายโลหิต ต้องคับแค้น ขัดข้อง ผิดหมองใจ โดยการแสดงนิสัยอันธพาลมารโหดร้ายต่อคนใกล้ชิด มองข้ามคนสนิทไปสนใจแต่คนนอก ทำให้ท่านต้องน้อยใจ เสียใจ น้ำตาตก เพราะว่าข้าพเจ้าถือทิฏฐิหยาบกระด้าง เอาแต่ใจและความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่ มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

    ๙. สิ่งใดที่ข้าพเจ้า ได้เคยกระทำไปโดยไม่สมควรแก่ศักดิ์ศรีและฐานะ กระทำไปโดยไม่ละอายต่อบาป ไม่เกรงกลัวต่อบาป ผิดสัจจะ ผิดศีล ผิดธรรม ไม่ยำเกรงต่อโอวาทของพระศาสดา โดยละเมิดข้อห้าม หรือไม่เอื้อเฟื้อกระทำตามที่พระองค์สั่งสอน มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น

    ๑๐. สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยกระทำการกักขฬะ เหี้ยมโหด เลวร้าย อาฆาต พยาบาท สาปแช่ง จองเวร อิจฉา ริษยา ไม่อยากให้คนอื่นได้ดี ทั้งด่าว่า ใส่ร้ายป้ายสี นินทา กล่าววาจาส่อเสียดยุยงให้แตกสามัคคีกัน ปั้นโยนความผิดให้ผู้อื่นโดยไม่เป็นความจริง หรือพูดจาพล่อย ๆ โดยไม่ยั้งคิดไม่รับผิดชอบ อันเป็นเหตุให้ผู้อื่นต้องลำบากเดือดร้อน มาในอดีตชาติก็ดี ปัจจุบันชาติก็ดี เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ทั้งหมดทั้งสิ้น ด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ข้าพเจ้าขอตีแผ่ความจริงใจ ในการยอมรับสำนึกผิดของข้าพเจ้า ไปตลอดหมื่นโลกธาตุ แสนโกฏิจักรวาล อนันตจักรวาล ขอพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกทุกพระองค์ ได้โปรดเมตตามาเป็นพระประธาน ในการขอขมาลาโทษของข้าพเจ้าในกาลครั้งนี้ด้วยเทอญ ขอแสดงอาการ ละพยศ ลดมานะ ละทิฐิ ขอสำนึกผิดในบาปกรรมที่ทำมา ต่อไปนี้จะตั้งตา ละชั่ว ประพฤติดี ทำจิตให้ขาวรอบ เชื่อฟังพระพุทธเจ้า เคารพพระธรรม เดินตามพระอริยสงฆ์ ด้วยอำนาจเดชพระเมตตาของพระบรมศาสดาจารย์เจ้า ในวาระโอกาสที่ข้าพเจ้าได้กราบขอขมาลาโทษ ยอมรับสำนึกผิดในกาลครั้งนี้ ขอให้ญาณบารมีของข้าพเจ้า ได้ผุดเกิดใหม่ ภายใต้ร่มธรรมรอยพระพุทธบาท ปกเกล้า ปกเกศ ให้ข้าพเจ้าได้เจริญรุ่งเรือง ร่มเย็นเป็นสุข ในเส้นทางธรรมยาตราของพระพุทธองค์ตลอดไป

    ในวาระมงคลโอกาส ที่ข้าพเจ้าได้เกิดใหม่ ภายใต้ร่มพระบารมีธรรมญาณของพระองค์เจ้านี้ ข้าพเจ้าจะพึงแสดงออก ซึ่งกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อันประกอบด้วยกุศลและเมตตา ต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ข้าพเจ้าจะตั้งจิตยำเกรงอย่างแรงกล้า ต่อพระพุทธเจ้า ต่อพระธรรมเจ้า ต่อพระสงฆเจ้า มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป มีความยินดีในการบริจาคทาน ในการรักษาศีล ในการเจริญภาวนา ในการสร้างบารมี ในการสร้างความดี ในการสร้างกุศลจิต ในที่ทุกสถาน ในกาลทุกเมื่อเพราะว่าข้าพเจ้าได้มีศรัทธาความเชื่ออย่างแรงกล้า ในเรื่องกฎแห่งกรรม ว่าบุคคลกระทำการสิ่งใด ไม่ว่าดีหรือชั่วก็ตาม ตนเองนั่นแล ที่จะเป็นผู้รับทั้งผลดีและผลชั่ว ไม่ใช่ผู้อื่นจะมาเป็นผู้รับผล ตนเองนั่นแลที่จะเป็นผู้รับผลอย่างเต็มที่ อย่างถี่ถ้วนทุกคดี ไม่ว่าชั่วหรือดี เป็นกฎตายตัว ตลอดกาลนาน จนสิ้นโลก

    ข้าพเจ้าขอตีแผ่ความจริงใจไปตลอดโลกธาตุ ประกาศโทษตน ด้วยความละอายต่อบาป และความเกรงกลัวต่อบาป ข้าพเจ้าจะขวนขวายปรับปรุงตนเป็นคนใหม่ จะเห็นโทษในความชั่วแม้เล็กน้อย แล้วไม่ฝืนกระทำ จะเห็นคุณในความดีแม้เล็กน้อย แล้วขวนขวายกระทำโดยเคารพเอื้อเฟื้อ จะไม่ประมาท ไม่ทอดธุระ ไม่เชือนแช ต่อความดีและคนดีทั้งปวง จะไม่ทำตัวให้คุ้นเคยเป็นสหายใกล้ชิด ต่อความชั่วและคนชั่วทั้งปวง จะขวนขวายคบหากัลยาณมิตรผู้เป็นบัณฑิต เพื่อเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ในเส้นทางแห่งการปฏิบัติบูชา ด้วยความยำเกรงอย่างแรงกล้าต่อพระธรรม ไปจนกว่าที่จะถึงซึ่งพระนิพพาน ในอนาคตกาลอันใกล้นี้ด้วยเทอญ

    พระชุมพล พลปญฺโ เขียนเพื่อเป็นพุทธบูชา ในวันวิสาขบูชา ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓

    (บทขอขมากรรมสำนึกผิดนี้ ถ้าใครใช้ทุกวันจะช่วยแก้ไขวิบากเวรกรรมให้เบาบางลง และช่วยให้เจริญก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง)
     
  20. world999

    world999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +1,992
    ขอบคุณสำหรับการนำเสนอสิ่งดีๆ และขออนุโมทนาบุญกับคุณจันทรกาล ครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...