ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ขออนุโมทนาใหญ่ กับผู้ทำได้ ****

    ทุกท่านที่ทำได้...มีส่วนช่วยในการเบี่ยงเบนกรรม
    เพราะ...เป็นไปตาม สัจจะธรรม
    ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน....จึงช่วยได้เมื่อถึงเวลาที่กรรมปรากฏ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** หลักปกครอง ****

    ข้อ ๑. ประชาชนต้องรู้จักปกครองตนเอง ด้วยสัจจะทำ
    ข้อ ๒. ....
    ข้อ ๓. ...

    ประเทศไทย คนเรายังไม่ได้ปกครองตนเองเลย
    -
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** แล้วท่านจะเชื่ออะไรต่อไป ****

    ผู้นำ....ไม่เชื่อ สัจจะ
    ประชาชน...ไม่มี สัจจะ
    แผ่นดิน....ขาด สัจจะทำ
    บ้านเมือง...ลุกโหมเป็นไฟ
    เพราะ....นิสัยคนบนดิน
    แผ่นดิน...ก็ลุกเป็นไฟไหลไปได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตอนนี้มีคนเข้ามาดูกระทู้นี้อยู่พร้อมกันถึง 195 คน

    [​IMG]
    [​IMG]


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    ต้องเห็นกรรม เห็นทุกข์ก่อน ...ต้องหลั่งน้ำตาก่อน
    ผู้คน....ถึงจะวิ่งมาทำ
    ใครจะโชคดี... เป็นผู้ทำตนด้วยสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สุเทพ ย้ำจุดยืนไม่สนับสนุนนิรโทษกรรม

    [​IMG]

    26 มี.ค. - นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทยเสนอร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ซึ่งมีเรื่องนิรโทษกรรมอยู่ด้วย ว่า ต้องติดตามดูว่ามีเป้าหมายและจุดประสงค์ที่แท้จริงอย่างไร แต่จุดยืนของรัฐบาลคือ การนิรโทษกรรมไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ เพราะเป็นเรื่องของความผิดที่เกิดขึ้น และกระบวนการยุติธรรมได้ดำเนินการไปจนถึงที่สุดแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ลูกวาฬน้อยลาโลกหลังเกยตื้นหาดออสซี่ซ้ำสอง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 มีนาคม 2552 16:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันนำวาฬปล่อยคืนสู่ทะเล หลังวาฬฝูงใหญ่ขึ้นมาเกยตื้น

    เอเอฟพี – เจ้าหน้าที่เผย ลูกวาฬเพิ่งเกิด ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากการเกยตื้นครั้งใหญ่ของฝูงวาฬเกือบ 100 ตัวบนชายหาดฝั่งตะวันตกของออสเตรเลีย ลาโลกแล้ว หลังกลับมาเกยตื้นอีกครั้ง ทำให้ในขณะนี้เหลือวาฬที่ยังมีชีวิตอยู่จากการเกยตื้นดังกล่าวเพียง 3 ตัวเท่านั้น

    วาฬนำร่องครีบยาว 11 ตัวถูกเครนยกขึ้นรถบรรทุก เพื่อนำไปปล่อยในอ่าวที่ปลอดภัย หลังจากเกยตื้นที่อ่าวแฮเมอลิน ทางใต้ของเมืองเพิร์ธ ในวันจันทร์ (23) ที่ผ่านมา ซึ่งมีวาฬ และโลมาหัวขวดเกือบ 90 ตัวขึ้นมาเกยตื้นบนหาดดังกล่าว แต่ส่วนใหญ่ตายก่อนที่พวกมันจะได้รับความช่วยเหลือ​

    วาฬน้อยตัวนี้นับเป็นตัวที่ 7 ที่ตายหลังจากกลับมาเกยตื้นอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมได้กล่าวถึงรายงานที่ระบุว่า เหลือวาฬที่ยังมีชีวิตอยู่เพียง 3 ตัวเท่านั้น​

    ด้านเจ้าหน้าที่จะคอยดูแลบริเวณชายหาดจากทางอากาศต่อไป เพื่อให้แน่ใจว่าวาฬตัวที่รอดชีวิตสามารถลงน้ำลึกได้แล้ว และจะไม่กลับมาเกยตื้นอีก​

    ทั้งนี้ ในรอบ 4 เดือนที่ผ่านมา มีวาฬมากกว่า 400 ตัวขึ้นมาเกยตื้นรอบหาดทางใต้ของออสเตรเลีย และแทสเมเนีย รวมถึงการเกยตื้นครั้งใหญ่ ที่มีวาฬมากกว่า 200 ตัวบนเกาะคิง ไอส์แลนด์ เมื่อต้นที่ผ่านมาด้วย​

    ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีวาฬกว่า 150 ตัวตาย หลังจากขึ้นมาเกยตื้นบนชายฝั่งทางตะวันตกของแทสเมเนีย และในเดือนมกราคมที่ผ่านมา และวาฬหัวทุยอีก 48 ตัวตายบนสันทราย ทางตอนเหนือของเกาะ​

    อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์การเกยตื้นของสัตว์น้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนมเหล่านี้ รวมถึงสาเหตุการเกิดยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันอยู่ในปัจจุบัน​

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เมื่อปลาวาฬ กลายเป็นวาฬ เสียเฉยๆ
    โดยคุณ วิกหลุด

    [​IMG]

    เมื่อฝรั่งเขาพบว่าปลาวาฬไม่ใช่สัตว์เลือดเย็น แต่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนสัตว์บกอย่างเรา ๆ ก็เลยเผยแพร่เป็นรายงานทางวิทยาศาสตร์ออกมา ซึ่งก็เผยแพร่มานานแล้วละครับ แน่นอนครับ ข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ ทำให้เราสามารถจำแนกแยกแยะสิ่งต่าง ๆ ในโลกได้ชัดเจนขึ้น แต่ว่าข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ ก็เป็นเพียงเรื่องของ "ข้อเท็จจริง" หาใช่เรื่องเดียวกันกับ "ภาษามนุษย์" ไม่

    เหตุที่ฝรั่งเขาบ้าค้นคว้าวิจัย ก็คงเป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นเป็นพิเศษ อันนี้ถ้าใครอ่านหนังสือเรื่อง "ประวัติย่อของเกือบทุกสิ่ง" เขียนโดย บิล ไบรสัน ก็คงทราบดีว่าตั้งแต่ยุคโบราณมาแล้ว ที่ฝรั่งนั้น "ล่องไพร" กับ "ออกทะเล" เพื่อหาข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์แปลก ๆ ควบคู่ไปกับการหาดินแดน เราจึงมีคนอย่าง ชาร์ลส ดาร์วิน ที่ไปไกลถึงหมู่เกาะกาลาปากอส และใครต่อใครอีกมากมายมหาศาลเลยนะครับ

    แต่เอาเป็นว่า แม้แต่ในปัจจุบัน เราก็ยังสำรวจโลกของเราได้ไม่หมดครับ เช่นใต้ทะเลลึก แต่ในขณะเดียวกัน สิ่งมีชีวิตก็สูญพันธุ์ไปแทบจะเรียกได้ว่าตลอดเวลา โดยเฉพาะสายพันธุ์ชีวิตเล็ก ๆ เพราะการรังแกสิ่งแวดล้อมของมนุษย์ "โฮโมเซเปียนส์" อย่างเรานี่แหละ แล้วก็การค้นพบสิ่งมีชีวิตที่เริ่มทำกันมาจนปัจจุบัน เราพบว่ามีสิ่งมีชีวิตจำนวนไม่น้อย ที่เราไม่รู้ว่าจะจัดมันให้อยู่ในประเภทไหน กล่าวคือ จะเป็นสัตว์ หรือเป็นพืชกันแน่ เพราะฉะนั้น การที่พบว่าปลาวาฬเป็นสัตว์เลือดอุ่น ก็เกิดจากการพยายามจำแนกแยกแยะว่า "อะไรเป็นอะไร" เท่านั้นเองครับ

    แต่ว่าพอมาถึงเรื่องของคำเรียก ปัญหาคือเมื่อเราพบแล้วว่าปลาวาฬ ไม่ได้เป็นเหมือนปลาทั่วไป เราจะยังคงเรียกมันว่าปลาอยู่หรือไม่ ก็ปรากฏว่า มี"ผู้รู้" ได้เรียกชื่อเสียใหม่ว่า "วาฬ" นัยว่าเมื่อไม่ใช่ปลาเสียแล้ว ก็ต้องตัดคำว่า "ปลา" ออกไป ทำนองว่าเรียกตามฝรั่งเขา

    แต่หากเราลองดูภาษาฝรั่งกันสักนิด ปลาบางประเภทเขาก็จะมีคำว่า Fish อยู่ด้วย เช่น Sword Fish, Cat Fish แต่บางชนิดก็เป็นชื่อเฉพาะไปเลย เช่น Dolphin, Tuna, Trout, Shark และรวมถึง Whale เขาไม่มีคำว่า Dolphin Fish หรือ Whale Fish ผมเองนั้นไม่เชี่ยวชาญในภาษา แต่ดูแล้วเดาว่า ปลาประเภทที่รู้จักกันดี เช่นฉลาม โลมา เทร๊าท์ แซลมอน ฝรั่งจะตั้งชื่อเฉพาะ"ให้แล้ว" จึงไม่มีความสับสนว่า Shark หมายถึงอะไร จึงไม่ต้องเติมคำว่า fish เข้าไปหลังคำว่า Shark อีก

    แต่กับปลาบางประเภท ถ้าไม่เติมคำว่า Fish ลงไป คนจะไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร เช่น ปลาดุก หรือ Cat Fish จำเป็นต้องเติมคำว่า Fish ลงไป เพราะมิฉะนั้นจะหมายถึงแมว ! หรือ Sword ที่แปลว่าดาบ เป็นต้น เพราะฉะนั้น ฝรั่งมันจึงเรียกปลาวาฬว่า Whale มา"แต่ไหนแต่ไร" แล้ว เพียงแต่มาพบภายหลังว่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

    ฝรั่งมันจึงไม่มีการแก้ไขถ้อยคำจาก Whale Fish มาเป็น Whale เฉย ๆ แต่อย่างใด แต่เราเองกลับมาเปลี่ยนคำเรียกจาก "ปลาวาฬ" เป็น "วาฬ" ซึ่งไม่ถูกต้องครับ เหตุผลที่ไม่ถูกต้อง มีดังนี้

    ผมเข้าใจเอาเองว่า ภาษาไทยของเรานั้น เรียกสัตว์ที่ว่ายน้ำ มีครีบที่ตัวและที่หางว่า "ปลา" โดยเราเรียกตามลักษณะที่ปรากฏต่อสายตา คือลักษณะที่ "ร่วมกัน" ของสิ่งมีชีวิตชนิดนั้น เราไม่ได้ไปวิจัยว่าปลามันเป็นสัตว์เลือดอุ่นหรือเลือดเย็น เราไม่ได้ไปสนใจลักษณะทางวิทยาศาสตร์ ทางชีววิทยาของปลา หรือของสัตว์ใด ๆ อย่างฝรั่งเขา เพราะฉะนั้น ถ้ามีตัวอะไรว่ายน้ำมา ก็มักจะเรียกว่า "ปลา" เสียหมด เราไม่เรียกกันสั้น ๆ ว่า ดุก ช่อน ทู ทอง หางนกยูง หรอกนะครับ แต่เราจะเติมคำว่า "ปลา" ด้วยเสมอ

    ทีนี้ปลาวาฬก็เป็นสัตว์ที่อยู่ในน้ำ มีครีบ เราก็เลยเรียกว่าปลาวาฬ มาแต่ไหนแต่ไร ไฉนเลยเราจะต้องเปลี่ยนไปเรียก "วาฬ" เฉย ๆ ละครับ ก็ถ้าฝรั่งมันเรียก "วาฬ" เฉยๆ ก็เพราะภาษาเขาเป็นแบบนั้น และเขาเรียกของเขามานมนานแล้ว ถ้าถามต่อไปว่า เมื่อรู้แล้วว่าปลาวาฬเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จึงต้องเปลี่ยนองค์ความรู้เสียใหม่ โดยเรียกเสียใหม่ให้ถูกต้องนั้น ผมก็ไม่เห็นด้วย เพราะเหตุที่ว่า เราคนไทยไม่ได้ไปแบ่งชื่อเรียก ตามลักษณะชีววิทยาอย่างที่ผมกล่าวมาข้างต้นนี้เอง

    หากแต่เป็นเรื่องของการเรียนการสอนในชั้นเรียน ที่จะศึกษาว่า "ลักษณะ" ของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าปลานั้น มีทั้งสัตว์เลือดเย็นและสัตว์ประเภทอื่นด้วย เพราะมิฉะนั้นแล้ว ถ้าเราไม่เข้าใจรากภาษาวัฒนธรรม เราก็ต้องเรียกทุกสิ่งใหม่หมด เช่น วันดีคืนดี เราอาจพบว่ามีนกที่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (Primate) เราก็เลยเรียกเสียใหม่สั้น ๆ เช่นเรียกว่า "กระจอก" แทนที่ "นกกระจอก" อย่างนี้เป็นต้น

    ส่วนสัตว์บางชนิดที่ไม่ใช่ปลา ไม่มีลักษณะของปลา คือ ไม่มีครีบ เช่น ปลาหมึก ปลาดาว เราก็ยังเติมคำว่าปลาลงไป ก็คือเราไม่ได้ "เคร่งครัด" และ "เคร่งเครียด" กับลักษณะทางชีววิทยาของมันน่ะสิครับ จึงเป็นอย่างที่ผมบอกว่า เรื่องนี้คือเรื่องของภาษา หาใช่เรื่องของวิทยาศาสตร์ไม่ แต่คนก็ยังไปเปลี่ยนเป็น ดาว หรือดาวทะเล !!!

    เหมือนอย่างกรณีของพม่า เปลี่ยนชื่อเป็นเมียนม่าร์ เราก็เกือบจะเป๋ เรียกเขาใหม่ว่าเมียนม่าร์ ความจริงแล้วเราเรียกเขาอย่างไร ก็ต้องเรียกไปตามเดิมครับ เพราะนั่นคือชื่อทางการของเขา ซึ่งอาจจะต่างจากชื่อที่เราเรียกก็ได้ เช่นเราไม่เรียกญี่ปุ่นว่า นิปปอน และก็ไม่ได้เรียกว่า เจแปน ตามฝรั่งเขา ดังนั้น เราจึงเรียกพม่าว่าพม่าตามเดิม อย่างที่ตอนนี้กลับมาเรียกกันน่ะ ถูกแล้วครับ เรื่องของปลาวาฬก็เช่นกัน มันคือ "ปลา" ครับ เพียงแต่เป็นปลาที่วิวัฒนาการจากบกลงน้ำนั่นเอง

    ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=354228
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. สู้เพื่อลูก

    สู้เพื่อลูก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +27
    สาธุ....__/|\__ ขอให้เมืองประเทศไทย สงบสุข ตั้งแต่วันนี้พรุ่งนี้เป็นต้นไป
    ขอเชิญสมาชิก เว็บพลังจิต ร่วมกันสงบนิ่ง อธิษฐานจิตให้เมืองไทยสงบสุข พร้อมกันครับ
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** เตือนตน ****

    คุณทักษิณ... ระวังตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มก่อการ
    สงบตนเองได้....เรื่องก็สงบ คลี่คลายได้
    ผู้ถืออาวุธ....ขอให้นึกถึง คำปฏิญาณสาบานตน
    ขอให้ทุกคน...จะทำอะไร ก็ขอให้นึกถึง สัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ถึง ผู้มีอำนาจทุกคน ****

    ขอให้ทุกท่าน... อยู่ในความสงบ
    กรรมกำลังปรากฏ ....เราไม่ควรซ้ำเติมคนมีกรรม
    ตัวทะยานอยากของตนเอง ...เป็นสาเหตุให้ทำลายล้างชีวิตมนุษย์ได้ไม่ยาก
    แต่เมื่อทำไปแล้ว ....บ้านเมืองจะระส่ำระสาย ข้าวยากหมากแพง เดือดร้อนไปหมด
    คนรอบบ้าน... เขาจ้องรอจังหวะบุกยึด ทวงดินแดน
    จะทำสิ่งใด ก็ขอให้นึกถึง....สัจจะ คำปฏิญาณสาบานตนที่ให้ไว้
    ดินฟ้าอากาศ... เป็นสักขีพยาน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. หล่อลากดิน

    หล่อลากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,202
    ค่าพลัง:
    +235
    อยู่ครบกันถ้วนหน้าเลยนะท่าน

    ทั้งท่านเกษมจอมก๊อปปี้ และลิงน้อยตกมันส์ ที่เพ้อเจ้อทุกวี่ทุกวัน

    ครบหน้าครบตากันดีจัง ผ่านมากี่ปีแล้วหล่ะที่พวกท่านประโคมข่าวอัปมงคลเหล่านี้

    สุดท้ายแล้ว หมอดูหมอเด้าก็เว้ากันไป คงจะฉิบหายหล่ะทีนี้

    สาธุ ... จงลง จงลง
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ลูกเห็บถล่มพิษณุโลก พายุซัดบุรีรัมย์-สตูล

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    พายุลูกเห็บถล่ม ต.แก่งโสภา 100 หลังคาพัง หมูตาย 1 เจ็บอีก 10 ที่บุรีรัมย์บ้านพัง 275 หลัง ฟ้าผ่าหญิงตาย 1 ที่สตูลถล่ม 60 หลังพัง ต้นไม้ล้ม

    สื่อข่าวรายงานกรณีช่วงคืนวานนี้ เกิดพายุลูกเห็บพัดถล่มในหลายหมู่บ้าน ต.แก่งโสภา อ.วังทอง พิษณุโลก พายุพัดนานร่วมชั่วโมงและมีลูกเห็บกระหน่ำลงมาเกิดความเสียหายบริเวณกว้าง

    ล่าสุดวันนี้(26 มี.ค.) สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)แก่งโสภา และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 หมู่ 5 หมู่ 6 และหมู่ 13 ต.แก่งโสภา อ.วังทอง ออกสำรวจพื้นที่เสียหายเพื่อให้หน่วยงานราชการเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัย

    โดย นายฉลวย บุญอาจ สมาชิก อบต.หมู่ 13 บ้านใหม่เขาน้อย เปิดเผยว่าพายุลูกเห็บพัดถล่มตั้งแต่เมื่อวานช่วงเวลาประมาณ 17.00 -19.00 น.ที่ผ่านมา ส่งผลให้หมู่ที่ 13 ได้รับความเสียหายอย่างมาก เนื่องจากเป็นพายุลูกเห็บขนาดเท่าลูกมะนาวตกใส่หลังคาบ้านเรือนประชาชนเสียหายประมาณ 100 หลังคาเรือน

    ซึ่งส่วนใหญ่มีจานดาวเทียมบนหลังคาบ้าน ก็ถูกลูกเห็บถล่มเสียหาย นอกจากนี้ พื้นที่ปลูกข้าวโพดของหมู่บ้านร่วม 1,000 ไร่ที่ออกฝักแล้ว อีก 1เดือนจะได้เวลาเก็บเกี่ยว ก็ถูกลูกเห็บถล่มได้รับความเสียหายหมด ทั้งใบและฝักข้าวโพด

    นายจรูญ จันทร์เป อายุ 61ปี ชาวบ้านหมู่ 13 ต.แก่งโสภา เปิดเผยว่า ระหว่างเกิดพายุลูกเห็บ ตนกำลังอยู่ในไร่ข้าวโพด ได้ใช้ถัง กะละมัง คลุมหัว เนื่องจากอยู่ในพื้นที่โล่ง แต่ถึงกับถังทะลุทั้งหมด โดยลูกเห็บพุ่งใส่ทั้งแขน ขา ระดมไปหมด ต้องเข้าหลบใต้ถุนห้างนา เมื่อพายุสงบได้ออกมาสำรวจความเสียหาย พบว่าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลูกไว้ 10 ไร่เสียหายหมด ขอวิงวอนให้หน่วยงานราชการเข้ามาช่วยเหลือด้วย

    นายประเชิญ สิทธิยศ อายุ 60ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/2 หมู่ 13 เช่นกัน กล่าวว่า ตนทำฟาร์มเลี้ยงหมูประมาณ 100 ตัว ระหว่างเกิดพายุลูกเห็บถล่ม ความแรงของพายุทำให้หลังคาฟาร์มหมูทะลุแตก ลูกเห็บตกกระหน่ำใส่หมูในฟาร์มนานร่วมชั่วโมง ลูกหมูอายุ 3เดือนตัวหนึ่งเสียชีวิตคาที่ อีก 10ตัวมีอาการแย่ ตามตัวแดงช้ำเต็มไปหมด ขณะนี้เริ่มมีอาการหงอย ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบพายุลูกเห็บรุนแรงเท่าครั้งนี้เลย ส่วนหมูที่ตายได้มอบให้ชาวบ้านไปประกอบอาหาร แลกกับมาช่วยซ่อมหลังคาฟาร์มหมูที่ถูกพายุพัดไป

    นางนวล นวลพุ่ม อายุ 50ปี อยู่หมู่ 6 บ้านหลานย่า ต.แก่งโสภา กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยพบพายุรุนแรงเท่าครั้งนี้มาก่อนเลย มีทั้งฟ้าร้องและลูกเห็บที่ตกลงมานานร่วมชั่วโมง จนพื้นดินขาวโพลนไปหมด บ้านตนหลังคาเปิด โรงเก็บของถูกพายุพัดพัง

    พายุฝนถล่มบุรีรัมย์พัง 275 หลัง-ฟ้าผ่าตาย 1

    คืนวานนี้(25 มี.ค.) เกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎรพังเสียหายในจังหวัดบุรีรัมย์ โดยเฉพาะ อ.เมือง 4 ตำบล 11 หมู่บ้าน เสียหาย 72 หลังคาเรือน โกดังเก็บของเก่า พังทั้งหลัง ป้ายโฆษณา และต้นไม้หักโค่นล้ม และฟ้าผ่าเสียชีวิต 1 ศพเป็นผู้หญิง ที่ตำบลสวายจีก อ.เมือง องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)สวายจีก เร่งสำรวจรายงานต่ออำเภอ เพื่อการช่วยเหลือต่อไป

    นายพรเชษฐ์ แสงทอง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รับรายงานเกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนราษฎรพังเสียหาย 275 หลังคาเรือน ใน 15 อำเภอ 31 ตำบล 67 หมู่บ้าน เดือดร้อน 340 คน อำเภอที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ได้แก่ อ.เมือง นางรอง พลับพลาชัย ประโคนชัย บ้านกรวด และอ.กระสัง

    โดย วัด โรงเรียน ยุ้งข้าว คอกสัตว์ โรงเรือน เสียหาย รวม 24 หลัง กระบือ 42 ตัว ต้นยางพาราของเกษตรกรถูกกระแสลมพัดหักโค่นเสียหายกว่า 6 ไร่ รวมมูลค่าเสียหาย 780,249 บาท แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มแต่อย่างใด ขณะที่ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อเสนอรายงานผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉิน และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าวต่อไป

    ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากวาตภัย โดยบ้านเรือนที่ถูกพายุพัดพังเสียหายทั้งหลัง จะได้รับเงินช่วยเหลือไม่เกิน 30,000 บาท ส่วนหลังที่เสียหายบางส่วนจะได้รับเงินช่วยเหลือตามความเป็นจริงแต่ไม่เกิน 20,000 บาท พร้อมได้แจ้งเตือนให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมพร้อมในการเฝ้าระวังป้องกันลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน หากเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่ม เนื่องจากช่วงนี้มีสภาพอากาศแปรปรวน

    พายุฤดูร้อนถล่มสตูลเสียหาย 60 หลัง

    เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 26 มี.ค.52 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนชาวบ้านในเขตพื้นที่ หมู่ 4 บ้านใหม่ และ หมู่ 5 บ้านเกาะเนียง ต.ควนโพธิ์ อ.เมืองสตูล โดยบ้านเรือนราษฎรถูกพายุพัด และต้นไม้ล้มทับบ้านเสียหาย 60 หลังคา เสียหายเกือบทั้งหลัง 7หลังคาเรือนรถยนต์ของชาวบ้านเสียหาย 1คัน

    ส่วนที่สำนักสงฆ์บ้านเกาะเนียง หมู่ 4 พายุพัดต้นไม้เช่นต้นพะยอม อายุกว่า 100 ปีโค่นล้ม 7ต้นและล้มทับหลังคากุฏิพระฉาย อายุ 60 ปี บาดเจ็บที่ศีรษะเล็กน้อย

    ส่วนที่ ร.ร.บ้านใหม่ หมู่ 5 พายุพัดต้นไม้ล้มทับกำแพงโรงเรียนได้รับความเสียหาย มัสยิดบ้านใหม่ พายุพัดหลังคามัสยิดซึ่งเป็นหลังคากระเบื้องเสียหายนับสิบแผ่น ในขณะที่ต้นยางพาราของชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้านถูกพายุพัดโค่นล้ม ประมาณ 20 ไร่ ทำให้ไฟฟ้าในหมู่บ้านดับหมดทั้ง 2 หมู่บ้าน

    หลังเกิดเหตุนายกูเนาะ ยาแบโด กำนัน ต.ควนโพธิ์ เร่งออกสำรวจและรายงานสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สตูล เพื่อหาสิ่งของอุปโภคไปช่วยเหลือในเบื้องต้น ต่อไป
    <!-- Tags Keyword -->
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 26 มีนาคม 2552 18:02

    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    โยนระเบิดใส่รถทหารยะลาบาดเจ็บ 4 นาย

    [​IMG]

    ยะลา 26 มี.ค.- เมื่อเวลา 16.35 น. วันนี้ (26 มี.ค.) พ.ต.อ.เกกฤต วิริยะภาพ ผกก.สภ.อ.เมืองยะลา รับแจ้งเหตุระเบิดบนถนนสายมาลายูบางกอก-พงยือไร ม.1 ต.สะเต็ง อ.เมือง จ.ยะลา ทหารพรานสังกัด ร้อย ร.4714 กรมทหารพรานที่ 47 ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย

    ถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา คือ อส.ทพ.สิทธิพร ไตรสุวรรณ อายุ 30 ปี อส.ทพ.เพิ่ม แก้วสว่าง อายุ 30 ปี อส.ทพ.พรชัย เชื้อภัมย์ อายุ 23 ปี และ อส.ทพ.นิกร วงศ์ศรี อายุ 30 ปี โดยก่อนเกิดเหตุทหารพรานชุดดังกล่าวนั่งรถกระบะเพื่อกลับฐานปฏิบัติการ ระหว่างทางมีรถจักรยานยนต์พร้อมชาย 2 คน นั่งซ้อนท้ายมาใช้ระเบิดขว้างใส่รถเจ้าหน้าทีก่อนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว.- สำนักข่าวไทย

    2009-03-26 19:28:56

    ยิงถล่มเจ้าของร้านชำนราฯ ล่อบึ้ม ตร.เจ็บ 3 นาย

    [​IMG]

    นราธิวาส 26 มี.ค. - คนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิงเจ้าของร้านขายของชำ ล่อตำรวจบาเจาะ จ.นราธิวาส เข้าตรวจสอบ แล้วกดระเบิดซ้ำ ทำให้ตำรวจบาดเจ็บ 3 นาย

    นายจรูญ รัตนบุญ เจ้าของร้านขายของชำ เลขที่ 107 ถ.เพชรเกษม เขตเทศบาลตำบลบาเจาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ห่างจากสถานีตำรวจบาเจาะประมาณ 100 เมตร และนางสุชาดา รัตนบุญ ภรรยา ถูกคนร้าย 2 คน ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. จ่อยิงบาดเจ็บสาหัส

    ขณะ ร.ต.ท.อรรถวุฒิ เพชรแก้ว ร้อยเวร ตำรวจภูธรบาเจาะ นำกำลังเข้าตรวจสอบ และลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล คนร้ายจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องชนิดแอมโมเนีย น้ำหนัก 5 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนไว้บริเวณเกิดเหตุ ด้วยโทรศัพท์มือถือ ทำให้ ร.ต.ท.อรรถวุฒิ ส.ต.ท.ศุภชัย อิทธรรมระ และ ส.ต.ต.สุรชล วงศ์ทอง บาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบาเจาะ

    ล่าสุดนางสุชาดา ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตแล้ว ขณะที่นายจรูญ อาการสาหัส ถูกส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์. - สำนักข่าวไทย

    2009-03-26 02:14:14

    ตำรวจยะลายิงปะทะดับ 2 ป่วนใต้

    [​IMG]

    ยะลา 26 มี.ค.- เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (26 มี.ค.) พล.ต.ต.สายันต์ กระแสแสน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา รับแจ้งเหตุยิงปะทะกันระหว่างตำรวจ สภ.ปะแต กับผู้ก่อเหตุในพื้นที่บ้านดือลง ม.4 ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา ตำรวจบาดเจ็บ 1 นาย อีกฝ่ายเสียชีวิต 2 ราย และยังไม่สามารถนำเจ้าหน้าที่บาดเจ็บออกมาได้ เนื่องจากพื้นที่เป็นป่าลึก ต้องประสานขอเฮลิคอปเตอร์ตำรวจและทหารเข้าไปช่วยเหลือ.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-26 16:34:02

    ครูปัตตานีถูกยิงเสียชีวิต-บาดเจ็บในโรงเรียน

    [​IMG]

    ปัตตานี 26 มี.ค.- พ.ต.ท.นุกูล ธานีรัตน์ สว.สภ.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 11.45 น.วันนี้ (26 มี.ค.) มี 2 คนซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เข้ามาภายในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามมูฮัมมาดียะ ม.8 บ้านสลาม ต.นาประดู่ และใช้ปืนยิงใส่กลุ่มครูที่นั่งประชุมกันอยู่ กระสุนถูกนายภูวนารถ อิจิ เสียชีวิต ส่วนนายซอลาฮุดดีน หะยีแวกือจิ ผู้จัดการโรงเรียนได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่งโรงพยาบาลโคกโพธิ์.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-26 14:59:31

    พระราชทานเพลิงศพ ส.ต.สุรพงษ์ ดูแลชายแดนใต้

    [​IMG]

    นครศรีธรรมราช 26 มี.ค.- เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (26 มี.ค.) พล.ต.โอฬาร รักษพรรณ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 41 กองทัพภาคที่ 4 เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญหีบเพลิงพระราชทาน ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ส.ต.สุรพงษ์ จันทร์ปาน อายุ 31 ปี สังกัดกรมทหารพรานที่ 4403 จังหวัดปัตตานี

    ที่วัดหมื่นระงับรังสรรค์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ซึ่ง ส.ต.สุรพงษ์ เสียชีวิตจากเหตุลอบวางระเบิดขณะปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยในจังหวัดปัตตานีเมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยกองทัพบกนอกจากมอบเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นแก่ครอบครัว ส.ต.สุรพงษ์ ยังเสนอชั้นยศ เลื่อนเป็น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ทำชั่ว ไม่ต้องสาปแช่ง

    [​IMG]

    "ทำชั่ว ไม่ต้องสาปแช่ง" บทความโดยคุณสลิล

    วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2551

    เสาร์นี้ไม่ได้เห็นด้วยกับฝ่ายใดในเรื่องการเมือง ที่แม้การชุมนุมประท้วงต่างๆ ได้ยุติลงแล้ว แต่ความขัดแย้งยังคุกรุ่นและตั้งอยู่อย่างยากจะหายไปได้ง่าย

    อยากเห็นคนไทยเลิกทะเลาะกัน ใครมีเรื่องราวก็ว่ากันไปตามเหตุและผล อะไรที่พอยกโทษให้อภัยได้ก็ควรให้อภัยกัน เพราะคนไทยก็เป็นญาติพี่น้องกันทั้งนั้น อะไรที่ผิดหนักหนาก็คงต้องรับผลรับผิดกันบ้าง ไม่อยากให้คนส่วนใหญ่ต้องได้รับความทุกข์เดือดร้อนลำบากกาย ลำบากใจ และไม่อยากเห็นความแตกแยกในสังคม โดยเฉพาะการกล่าวโจมตีกันรายวัน ซึ่งนานเข้าจะมีแต่มิจฉาวาจาแพร่หลายไปในสังคม ผลนั้นย่อมออกมาไม่ดีเพราะเป็นกรรมชั่ว หากสิ่งเหล่านี้ยังดำเนินต่อไป ก็รังแต่จะเกิดผลร้ายต่อสังคมไทย

    [​IMG]

    วันนี้จึงขอนำเรื่องของพระเทวทัต จากเทวทัตตสูตร มาคุยกันเป็นอุทาหรณ์ เพราะเมื่อผู้ใดกระทำกรรมชั่วแล้ว เขาย่อมได้รับผลกรรมเอง โดยไม่ต้องให้ผู้อื่นสาปแช่งหรือกระทำตอบ

    ในสมัยที่พระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบ พวกเดียรถีย์พากันโพนทะนาว่า พระเทวทัตถูกพระพุทธเจ้าของเราสาปแช่ง จึงถูกแผ่นดินสูบ ภิกษุได้ยินก็นำมากราบทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์จึงทรงตรัสให้ทราบความว่า ตถาคตไม่ให้การสาปแช่งแก่ใครๆ ที่พระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบตกนรกก็โดยกรรมของตนนั่นแหละ

    แล้วจึงทรงอธิบายเหตุสรุปได้ว่า ก็เพราะปาปิจฺโฉ คือ พระเทวทัตมีความปรารถนาลามก (ปรารถนาชั่ว) โดยประสงค์จะประกาศคุณความดีของตนที่ไม่มีอยู่ คือ ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้า ต้องการจะปกครองหมู่สงฆ์ มีความต้องการที่จะอวดคุณความดีของตนซึ่งเป็นความดีที่ยังไม่เสร็จกิจ (คือยังไม่บรรลุมรรคผล) แต่สำคัญว่าเสร็จกิจ (คิดว่าบรรลุมรรคผลแล้ว) โวสานํ อาปาทิ แม้พระเทวทัตจะได้ความมีชื่อเสียงว่าเป็นผู้คงแก่เรียน และได้เจริญานสมาบัติ และอภิญญาคือกระทำฤทธิ์ได้ก็ตาม แต่ก็ยังไม่ได้ละเหตุแห่งทุกข์ คือยังไม่เข้าถึง ซึ่งความเป็นพระอริยบุคคล ยังไม่ได้กระทำให้แจ้งซึ่งนิพพาน

    ปาปมิตฺตตา คือ พระเทวทัตมีมิตรชั่ว คบหาอสัตบุรุษเป็นมิตร ถูกความเป็นผู้มีมิตรชั่วครอบงำให้ทำความชั่ว ไม่มีกัลยาณมิตรคอยห้ามปราม มีแต่มิตรชั่วคอยสนับสนุนให้ทำชั่ว

    เมื่อมีความปรารถนาชั่วและคบมิตรชั่ว จึงถึงซึ่งความประมาท ไม่ประมาณตน ต้องการจะเทียบกับพระพุทธเจ้า ปมาทมนุจิณฺโณ อาสชฺช นํ ตถาคตํ ต้องการตีเสมอ เช่น พระพุทธเจ้าทรงมีฤทธิ์ พระเทวทัตก็ว่าเราก็มีฤทธิ์ เป็นต้น ไปจนถึงเบียดเบียนพระพุทธองค์

    ด้วยอาศัยความประมาทนั้นฤทธิ์จึงเสื่อม ฌานจึงเสื่อม และกระทำอนันตริยกรรมจนเป็นเหตุให้ตกนรก เพราะผลของบาปกรรมที่ตนเองเป็นผู้กระทำ พระพุทธเจ้าเป็นผู้หมดกิเลสแล้ว ไม่ได้ทรงโกรธตอบพระเทวทัต
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2009
  16. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    ที่คุณหล่อพูด แม้จะดูโอหัง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นความจริง
    ธรรมที่เป็นของแท้ ต้องทนต่อการทดสอบ เป็นอกาลิโก คือไม่แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ธรรมเทียม กาลเวลาจำตัดสินเอง
    ปัญหาคือผู้ไม่รู้มักจะอวดตัวว่าเป็นผู้รู้และประกาศความเห็นของตัวออกไปทำให้คนจำนวนมากหลงเชื่อ ทำให้ผู้รู้ที่แท้จริง ไม่อาจพูดอะไรได้มาก คนจำนวนมากจึงพลาดที่จะได้รับรู้รับฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือผู้รู้ ****

    เพราะ...ความจริงถูกบดบัง
    ประชาชน จึงไม่เห็นค่าของ "สัจจะ"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** หลักสัจจะธรรม ****

    หลักสัจจะธรรม...ไม่ใช่ความเห็น
    หลักสัจจะธรรม....เป็นความจริง เป็นแก่นสาร เป็นแก่นสารความจริง
    พระพุทธเจ้า จึงได้กล่าวไว้...ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน
    เมื่อศึกษาพิจารณาให้ดี....ก็จะพบความจริงได้
    ความจริง...คือ ความจริง เหมือนเส้นตรงที่มีหนึ่งเดียว
    แต่ ความเห็น....มีมากมาย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. โนอาร์

    โนอาร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +82
    หุหุ มารมาอีกแล้ว มารไม่มีบารมีไม่เกิด ก็เหมือนกับโลกของเรา ซึ่งมีทั้งด้านมืด และ ด้านสว่าง ดังนั้นปล่อยให้เบื้องบนกำหนดเองครับ ถ้าเราคิดตามมันก็เหมือนเราหลงกลมารมัน
     
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    เรื่อง สัจจะ ....เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าพระโคดม
    วันนี้...ท่านยังไม่เชื่อ
    วันหน้า....ท่านก็ต้องเชื่ออยู่ดี
    เพราะ...คือเรื่องจริง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

แชร์หน้านี้

Loading...