ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Pew Pew

    Pew Pew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +1,807
    โลกเราแย่แล้ว! ขาดทั้งน้ำและอาหาร
    [​IMG]

    วันนี้หนูอุ่มต้องลุยเรื่องเครียดๆ แต่เป็นสภาวะจริงที่กำลังเกิดขึ้น เป็นสัจธรรรมที่มนุษย์โลกทุกคนไม่อยากฟัง
    นั่นก็คือปัญหา การขาดแคลนน้ำและอาหารนั่นเองค่ะ

    มาช่วยหนูอุ่มรับรู้ปัญหา และหาทางแก้ไขด้วยกันนะคะ (พ่อแม้พี่น้องเอ้ย...)
    เริ่มแรกขอเป็นเรื่องของวิกฤตการณ์น้ำก่อนนะคะ จากแผนที่โลกที่จัดทำโดยนิตยสารสำหรับผู้สนใจด้านเศรษฐกิจและการเมืองอย่าง Economist บอกว่าที่ไหนบนโลกใบนี้ที่ขาดแคลนน้ำมากที่สุด

    สีแดงคือขาดแคลนอย่างหนัก และค่อยๆ ลดระดับมาเรื่อยๆ ในรายละเอียดของข่าวระบุว่าผู้คนกว่า 1.2 พันล้านคนกำลังอดอยากจากภาวะขาดแคลนน้ำในที่พื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก แต่พอมาดูของไทยยังเป็นพื้นที่สีฟ้า ค่อยรู้สึกโล่งอกไปหน่อยนะคะ

    ต่อมาเป็นเรื่องของการขาดแคลนอาหารค่ะ


    จากบทความเรื่อง "วิกฤตการณ์อาหารโลก" ของ ภราดา ดร. บัญชา แสงหิรัญ อธิการบดี มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ที่กล่าวว่า

    มนุษยชาติมีแหล่งอาหารมากมายมหาศาลบนโลกใบนี้ ทำไมประชากรกว่า 850 ล้านคนถึงยังหิวโหยและประสบภาวะทุพโภชนาการ ทำให้เด็กกว่า 18,000 คน ต้องอดตายในทุกๆ วัน?

    อีกทั้ง องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ระบุว่า ขณะนี้มีถึง 37 ประเทศ ที่กำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์อาหารโลกอย่างแท้จริง

    ซึ่งปัญหาราคาอาหารแพงขึ้นทั่วโลกนี้ ทางสหประชาชาติเรียกว่าเป็น “Perfect storm of conditions” และทุกครั้งที่มีวิกฤตราคาพลังงานเกิดขึ้น วิกฤตด้านราคาอาหารก็จะเกิดตามมาเป็นวัฏจักร เนื่องจากการเคลื่อนย้ายของธุรกิจพลังงานเข้ามาแย่งวัตถุดิบไปจากพืชอาหารเพื่อเอาไปผลิตพลังงาน ส่งผลให้ราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้น
    ราคาอาหารที่แพงสูงขึ้น เกิดจากปัจจัยแทรกซ้อนหลายๆ ปัจจัยภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ คือ

    1. การเก็งกำไรและสภาวะเงินดอลลาร์ของสหรัฐอเมริกาที่ตกต่ำ
    2. นโยบายเรื่องการส่งเสริมพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก
    3. สภาวะโลกร้อนที่ส่งผลให้สภาพอากาศแปรปรวน
    4. ราคาน้ำมันที่แพงขึ้นและดูจะต่อเนื่องยาวนาน จนต้องหันไปใช้ไบโอดีเซลทดแทน
    5. การบริโภคสินค้าที่เพิ่มขึ้นมากของบรรดากลุ่มประเทศตลาดใหม่
    เมื่อมองกลับมายังบ้านเรา ท่านให้ความเห็นว่า...

    สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รับรู้ของประชาคมโลกว่า อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์ธัญญาหาร เพราะเราเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกสินค้าภาคเกษตรรายใหญ่ของโลก ย่อมหนีไม่พ้นกับผลกระทบด้านราคาอาหารแพง ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคงไม่พ้นประชาชนผู้ยากจน รวมไปถึงชนชั้นกลาง ซึ่งถือว่าเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่รัฐบาลต้องกำหนดมาตรการเพื่อวางนโยบายและดำเนินการอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันความเดือดร้อนจากราคาอาหารที่แพงสูงขึ้น แต่ไม่สอดรับกับรายได้ของประชาชน

    โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า ขณะนี้ คงต้องเน้นที่ความสำคัญของการบริหารจัดการ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) ของประเทศ เพื่อส่งเสริมผู้ที่เป็นเกษตรกรและผู้ผลิต ให้คงได้รับผลประโยชน์จากภาคการตลาด ส่วนประชาชน ผู้บริโภคทั้งหลาย ก็ต้องเข้าถึงอาหารทั้งโอกาสและการกระจายรายได้ที่เพิ่มขึ้น เช่นกัน

    แต่ถึงอย่างไรก็ตามน่าจะเป็นโอกาสที่ดีของประเทศไทยมากกว่า ที่ได้เกิด “วิกฤตการณ์อาหารโลก” ขึ้น เนื่องจากเราเป็นประเทศผู้ผลิตอาหารส่งออกที่สำคัญของโลก มีปริมาณอาหารเพียงพอทั้งการบริโภคภายในประเทศ และส่งออกได้พร้อมๆ กัน อีกทั้งเรายังมีพื้นที่นิเวศน์อันอุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์เลี้ยงที่เป็นอาหารมากมายนานาชนิด “ข้าว” ซึ่งนับว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้และแปรวิกฤตให้เป็นโอกาสได้ ภายใต้แผนพัฒนาด้านศักยภาพของความเป็นแหล่งอาหารโลกเพื่อรองรับแนวโน้มทางการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เพราะอาหารก็คือทรัพยากรที่มีความสำคัญมากขึ้นทุกๆวัน

    รัฐบาลควรกำหนดนโยบายพัฒนาประเทศที่เป็นระบบ ทำให้เรากลายเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีเอกภาพ เน้นการเพิ่มผลผลิตด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ขยายพื้นที่ภาคการเกษตรควบคู่กับการบริหารจัดการน้ำ และร่วมกันส่งเสริมทุกภาคส่วน โดยเน้นการจัดแบ่งพื้นที่เพาะปลูก พืช ธัญญาหารให้มากกว่าพื้นที่ปลูกพืชพลังงานทดแทน เช่น อ้อยและมันสำปะหลังสามารถนำมาผลิตเป็นเอทานอล
    กล่าวโดยสรุปว่า นับว่าเป็นความโชคดีของเราที่เป็นประเทศส่งออกอาหารสุทธิที่สำคัญของโลก จึงได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์อาหารน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ อีกหลายๆ ประเทศ การบริโภคภายในประเทศจึงไม่ต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลน และยังได้รับอานิสงส์จากราคาสินค้าภาคเกษตรที่สูงขึ้นด้วย


    พอฟังเรื่องทั่งหมดแล้ว บอกตรงๆ ว่า มันทำให้หนูอุ่มเครียดน่ะคะ
    ไม่อยากจากโลกที่มีสีสันใบนี้ไปเลย แต่ภาวะขาดแคลนแบบนี้ก็อาจทำให้หนูอุ่มก็ผอมลงได้ ซึ่งคุณแม่จะดุเอาค่ะ
    ฉะนั้นเรามาร่วมใจกันบริโภคแบบพอเพียงกันดีกว่านะคะ วันนี้ปัญหาอาจจะไม่เกิดที่เรา
    แต่ทุกอย่างบนโลกนี้ถูกผูก และโยงเข้าหากันเป็นห่วงโซ่ ฉะนั้นเราก็อาจจะได้รับกระทบไม่ทางตรงก็ทางอ้อมอยู่ดี

    ร่วมใจกัน กิน ใช้ และ จ่าย อย่างพอเพียงกันนะคะ
     
  2. Pew Pew

    Pew Pew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +1,807
    หนังตัวอย่างของภัยพิบัติ

    ที่มา : http://mblog.manager.co.th/greenmblog/th-32595/


    ตะลึง!มหาวิบัติจากภัยธรรมชาติ

    [​IMG]


    ลองเปลี่ยนอารมณ์จากหลากหลายเรื่องของหมวด "ธรรมชาติงดงาม" ที่หนูชอุ่มได้แนะนำให้พี่ๆ ชมกันก่อนหน้านี้
    อาทิ สัตว์น้อยน่ารักในอิริยาบทต่างๆ หรือภาพถ่ายธรรมชาติฝีมือช่างภาพมืออาชีพ ที่ดูแล้วหยุดอารมณ์ได้อย่างเป็นอย่างดี

    แต่ครั้งนี้หนูอุ่มอาจจะนำภาพที่ "ทำร้ายความรู้สึกคนดู" อย่างคุณๆ แต่มันเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นแล้ว นั่นก็คือ "มหาวิบัติจากภัยธรรมชาติ" ที่นอกเหนือจากจะพาความสูญเสียครั้งมโหฬารให้กับทรัพย์สินแล้ว ยังพาความโศกเศร้ามาสู่จิตใจของมนุษย์ ที่นับเป็นความสูญเสียที่ประเมินค่าใดมิได้เลย ซึ่งหลายต่อหลายภัยพิบัติจากธรรมชาตินี้ไม่ใช่เพราะ "ธรรมชาติโหดร้าย" แต่เป็นเพราะ "คน" หลายคนบนโลกนี้เป็นผู้รังแกธรรมชาติเสียเองค่ะ


    ย้อนกลับไปปี 1994 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกรท อลาสกัน อเมริกาเหนือ
    วัดได้อัตรา 9.2 ริกเตอร์ พื้นที่กว่า 1 แสนตารางไมล์ถูกถล่ม

    [​IMG]

    [​IMG]
    2008 แผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน

    [​IMG]

    ความเสียหายครั้งยิ่งใหญ่ก่อนที่จะเปิดฉากงานกีฬาโอลิมปิก ที่จีนเป็นเจ้าภาพครั้งแรกในประวัติศาสตร์
    ความสั่นสะเทือนวัดได้ 8.0 ริกเตอร์ ผู้คนล้มตายนับ7 หมื่น บาดเจ็บอีก 118,000 คน
    รวมถึงหนูน้อยที่เป็นลูกคนเดียวอีกนับหมื่นๆ คน ที่ก็ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่อายุยังน้อย
    และขณะนี้มีผู้คนกว่า 4.8-11 ล้านคนต้องไม่มีบ้านพักอาศัย

    [​IMG]



    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/KKMTSDzU1Z4&color1=0xb1b1b1&color2=0xcfcfcf&hl=en&fs=1 width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true"></EMBED> สึนามิ เกาะสุมาตรา ปี 2004

    [​IMG]
    หลังจากคริสต์มาส เทศกาลแห่งความสุขผ่านไปไม่นาน ก็เป็นครั้งแรกที่ทำให้คนทั้งประเทศไทยหวาดกลัวกับคำว่า "สึนามิ" คลื่นยักษ์ที่เกิดจากรอยแยกของพื้นโลก ทำให้เกิดแผ่นดินไหวใต้น้ำความรุนแรงระดับ 9.1 ริกเตอร์ และทั่วโลกก็ต่างให้ความช่วยเหลือประเทศในแถบเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้รับผลกระทบจากอภิมหาคลื่นยักษ์นี้ อันได้แก่ ศรีลังกา อินโดนีเซีย รวมถึงไทยด้วย มีผู้เสียชีวิตจากประเทศต่างๆ รวมทั้งหมดกว่า 3 แสนศพ คลื่นยักษ์สูง 100 ฟุต ถาโถมเข้ามายังชายหาดของประเทศต่างๆ และกลืนกินทุกอย่างที่ขวางหน้าในเวลาอันรวดเร็ว โดยไม่มีใครคาดการณ์ล่วงหน้ามาก่อน
    <EMBED src=http://www.youtube.com/v/0NfKZAiWRoE&color1=0xb1b1b1&color2=0xcfcfcf&hl=en&fs=1 width=425 height=344 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true"></EMBED>
    หลุมดำกลางเมืองกัวเตมาลา

    [​IMG]
    หลุมกลมความลึกเท่าตึก 30 ชั้น ถล่มลงมาเพราะการผุกร่อนของระบบท่อน้ำทิ้ง ซึ่งนับเป็นโชคอย่างใหญ่หลวงที่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพียง 2 คน และ 1000 คนต้องอพยพ

    ยังมีอีกหลายภัยิพิบัติที่เป็นครูสอนมนุษย์เราอยู่

    ที่จริงมี Video clip หลายอันที่ ก๊อปแล้วมันไม่มาด้วย ใครสนใจก็ลองลิงค์ไปดูต้นฉบับจริงเอาก็แล้วกัน เช่น ตอนก่อนเกิด สึนามิ ที่อินโดนีเซีย ตกใจเรื่องแผ่นดินไหว 9.1 ริกเตอร์กันมาก ดูไว้เป็น case study เอาไว้ หากเวลาที่เราเจอเอง จะได้เตรียมตัวเตรียมใจได้ทัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2009
  3. Pew Pew

    Pew Pew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +1,807
    English Version

    ที่มา : http://webecoist.com/2008/10/01/most-devastating-deadly-natural-land-disasters/

    8 of the Most Devastating Deadly Land Disasters

    Written by Ecoist on October 1st, 2008 - Topics: Animals and Habitats, Geography and Travel, History and Trivia, Nature and Ecosystems


    <CENTER><SCRIPT type=text/javascript><!--ch_client = "derami";ch_type = "mpu";ch_width = 468;ch_height = 120;ch_color_title = "0D3700";ch_color_text = "333333";ch_non_contextual = 4;ch_vertical ="premium";ch_font_title = "Tahoma";ch_font_text = "Tahoma";ch_sid = "Chitika Premium";var ch_queries = new Array( );var ch_selected=Math.floor((Math.random()*ch_queries.length));if ( ch_selected < ch_queries.length ) {ch_query = ch_queries[ch_selected];}//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://scripts.chitika.net/eminimalls/amm.js" type=text/javascript></SCRIPT>
    <IFRAME id=ch_ad154 style="DISPLAY: none" name=ch_ad154 marginWidth=0 marginHeight=0 src="about<b></b>:blank" frameBorder=0 width=0 scrolling=no height=0 allowTransparency></IFRAME></CENTER>[​IMG]
    (Part 1 in a 4-Part Exclusive WebEcoist Series on Incredibly Destructive Natural Disasters)

    Just as beautiful landscapes of nature can inspire, nature can equally well terrify with her deadly force. Here, captured in images, videos and stories are some of the most stunning natural disasters in recent human memory. From earthquakes to landslides and sinkholes, nature’s power is awe-inspiring and, at times, lethal - particularly land disasters which are often the most deadly to the Earth’s humans inhabitants.

    Incredible and Catastrophic Earthquakes

    1964 Great Alaskan Earthquake, North America

    [​IMG]
    (Images via Popular Mechanics, wvdhsem.gov, P. Scott Cummins and NOAA)

    Though it’s one of the older lethal disasters on record, the tremendous Great Alaskan Earthquake of 1964 was an earthquake so bad it triggered a tsunami. The 9.2 earthquake released underwater landslides that created devastating tsunamis all along the North American coastline - from San Francisco to British Columbia. The earthquake - North America’s largest ever and the second largest in recorded human history - sloshed 100,000 square miles of Prince Edward Sound so violently, the ground beneath the sea gave way to landslides and the result was a massive tsunami.
    [​IMG]
    (Image via NOAA)

    Three children were lost on a beach in Oregon to the 415-mph waves; 10 people perished in Crescent City, California. (The tsunami even reached Hawaii and Japan.) In Alaska, in some places the ground was pushed 30 feet into the air while in others it caved beneath homes, city streets and passerby. The earthquake itself lasted 4 minutes and shook land as far away as Texas and Florida. Over 115 people died just in Alaska, with at least 130 total deaths. In addition to causing tsunamis the earthquake’s sheer magnitude caused 5 massive landslides as well. Miraculously, few were killed compared to historic earthquake fatality rates.
    2008 Sichuan Earthquake, China
    [​IMG]
    (Images via 2008Earthquake.com/China Daily, Wikimedia and The New Yorker)

    This devastating 8.0 earthquake of May 12, 2008 - called the Great Sichuan Earthquake - had its epicenter in Sichuan province but could be felt over 1,000 miles away in Shanghai and over 900 miles away in Beijing.
    [​IMG]
    (Image via Dainty Flair)

    Tragically, many were killed. Nearly 70,000 souls were lost, with over 118,000 more injured seriously and thousands still missing and presumed dead. This quake destroyed the region, quickly turning the massive local population homeless (estimates range from 4.8 million to 11 million).


    The powerful quake, according to leading scientest Yuji Yagi, “lasted about two minutes and released 30 times the energy of the Great Hanshin earthquake of 1995 in Japan, which killed over 6,000 people.” Thousands were instantly buried by Mother Nature’s blunt force. People in Russia, Nepal, Thailand, Bangladesh, Taiwan, Hong Kong, Macau, Pakistan, Mongolia and India could feel the aftershocks. Strangely, right before the quake struck, hordes of toads swarmed the streets. Note: out of sensitivity to the souls lost, graphic images are not shown.
    The Indian Ocean Earthquake, Sumatra, 2004
    [​IMG]
    Images via Nomad4Ever and Crystalinks

    Sadly, in the last century hundreds of thousands of people have been lost to large earthquakes. 50,000 in Iran in 1960; 60,000 in Pakistan in 1935; 66,000 in Peru in 1970; 200,000 in China in 1920 and 70,000 in China in 1932 in the same region; 200,000 in another region of China in 1927 and more recently a quarter million lives in China in 1976; 100,000 in Italy in 1908; 110,000 in the USSR in 1948; 143,000 in Japan in 1923, These earthquakes typically ranged from 7.5-8.5 on the Richter scale.




    But the day after Christmas, 2004, a combination 9.1-9.3 earthquake-tsunami in the Indian Ocean created untold destruction and took nearly 300,000 lives. Tsunami waves up to 100 feet high wiped out coastlines of eleven countries and that coupled with the earthquake designates this quake as one the worst in history, according to experts. Indonesia, India, Thailand and Sri Lanka suffered the greatest losses and damage. A global outpouring raised over $7 billion in aid and efforts were undertaken to improve the tsunami alert service and technology for these regions.
    Deadly and Destructive Landslides

    Kansu, China
    [​IMG]
    (Representational images via Telegraph, Draper City and NRCAN)

    In 1920, the world’s worst landslide ever to occur slammed Kansu, China (near the border of Tibet). An earthquake triggered massive landslides of dry, rocky mountainsides and loess banks. Loess is a fine, powder mixture of silt and clay that is very susceptible to slides and mudflows. In China, these loess banks were created over millions of years by winds bringing in fine dust from the northern Gobi desert. When the landslides were triggered, all of these cliffs - and the thousands of cliffside cave dwellings and hundreds of small towns and tiny villages - fell into valleys below. Over 180,000 people were killed. (Note: few photos exist of this event; images are representational only.)
    Khait, Tajikistan (formerly USSR)
    [​IMG]
    (Image via unu.edu)

    The 1949 landslide at Khait is the second most deadly landslide on record. It killed over 12,000 people. Like many landslides it was triggered by a marginally powerful quake, but the landslide itself proved to be lethal. It is widely considered by experts to be in the top 5 worst landslides in history, and second only to Kansu for most lethal landslide.
    Shocking and Sudden Sinkholes

    Guatemala City, Guatemala
    [​IMG]
    Images via DVDHardware.net

    Fortunately this massive disaster, while shocking, did not cause many deaths. Residents of a Guatemala City heard strange rumblings for weeks but weren’t sure what was happening beneath them. Then, in late February 2007, a near-perfect circle of earth dropped some 30 stories almost instantly. It’s amazing how neat the hole is. Two people died and over 1,000 had to be evacuated; the sinkhole resulted from a corroded sewage system deep beneath the surface (apparently the odor coming from the hole was intolerable).
    Agrico Gypsum Stack
    [​IMG]
    (Image via Fluoride Alert)

    Florida is plagued by sinkhole erosion, but this disaster in 1994 was one of the most devastating by far. A 15-story sinkhole tore open right beneath an 80-million-ton pile of gypsum stack (toxic industrial waste). The hazardous soup contaminated 90% of Florida’s drinking water and cleanup efforts ran into the millions of dollars. The 2 million cubic foot hole soon was nicknamed the “Journey to the Center of the Earth”, as if to indicate that it was the newest Disney World attraction. Though no one died, millions were put in danger due to the water contamination.
    Berezniki, Russia
    [​IMG]
    (Images via English Russia)

    Berezniki’s sinkhole began in 1986 and just grows worse with each passing year. It’s unstoppable. Currently it’s over 200m deep, 80m long and 40m wide. Though thankfully no one has died, 10% of the world output of potash comes from this area, and the sinkhole is very close to destroying the mine’s sole rail line.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2009
  4. Pew Pew

    Pew Pew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +1,807
    6 Chilling Ice Storms, Tsunamis and Floods

    Written by Ecoist on October 8th, 2008 - Topics: Geography and Travel, History and Trivia, Nature and Ecosystems

    <CENTER><SCRIPT type=text/javascript><!--ch_client = "derami";ch_type = "mpu";ch_width = 468;ch_height = 120;ch_color_title = "0D3700";ch_color_text = "333333";ch_non_contextual = 4;ch_vertical ="premium";ch_font_title = "Tahoma";ch_font_text = "Tahoma";ch_sid = "Chitika Premium";var ch_queries = new Array( );var ch_selected=Math.floor((Math.random()*ch_queries.length));if ( ch_selected < ch_queries.length ) {ch_query = ch_queries[ch_selected];}//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://scripts.chitika.net/eminimalls/amm.js" type=text/javascript></SCRIPT>
    <IFRAME id=ch_ad693 style="DISPLAY: none" name=ch_ad693 marginWidth=0 marginHeight=0 src="about<b></b>:blank" frameBorder=0 width=0 scrolling=no height=0 allowTransparency></IFRAME></CENTER>[​IMG]
    (Part 2 in a 4-Part Exclusive WebEcoist Series on Incredibly Destructive Natural Disasters)

    Nature’s famous duality - beautiful landscapes of nature and terrifying natural disasters - fills all of us with a reverence for her power. Here are some of the most powerful and surprising water disasters in recent history, from sudden ice to racing tsunamis to vast floods, captured in words, images and videos.

    Ice Storms

    Perhaps most unusual of all nature’s liquid weapons are the ice storms. Coating areas in a thick and impenetrable layer of freezing ice, these storms are not only sudden, but truly extreme in some cases.
    North American Ice Storm
    [​IMG]
    (Images via John Ferguson, nature blog, Dark Roasted Blend)

    Quebec famously ground to a halt in 1998 when freezing rain enveloped the city in a layer of cement-like ice. It’s beautiful, certainly, but when you consider that just an inch of ice can create several pounds of weight, and then imagine everything - plants, garden equipment, power lines, cars, roofs - being weighed down by 6, 10 or 12 inches of ice, you can imagine why it can take weeks to get “out from under” the ice and repair the damage. This devastating storm caused 30 deaths and weeks of power outages to millions of Canadians. The electrical grid had to be rebuilt.
    Versoix, Switzerland
    [​IMG]
    (Images via floccipics and Category Five)

    But it’s not just New England and Canada that are prone to freezing rain storms. (The warm air from the Mississippi mixes with shallow cool air at the St. Lawrence and Ottawa valleys, leading to frozen rain in areas like Quebec, Montreal and even New York, though typically these frozen rain storms only deposit an inch or less of condensation.) The small town of Versoix, outside Geneva City, Switzerland, experienced a fluke freezing rain storm in January 2005 and the resulting ice created memorable images for miles.
    [​IMG]
    (Images via Category Five)

    Scraping the ice off the car just took on whole new meaning: from chore to career.
    Tsunamis

    Tsunamis used to catch humans by surprise. With modern technology, preparations can generally be made - except in the tragic case of the world’s worst tsunami in 2004.
    Indian Ocean Tsunami
    [​IMG]
    (Images via Nomad4Ever and Crystalinks)

    Tsunamis in the past have been devastating - such as the 1883 Krakatau tsunami in Indonesia, triggered by a 15-mile-high volcanic explosion heard 2,500 miles away - but the most deadly tsunami in human history was triggered by the Indian Ocean Earthquake of Sumatra in 2004.


    According to Natural Disasters: Earthquakes, “the the day after Christmas, 2004, a combination 9.1-9.3 earthquake-tsunami in the Indian Ocean created untold destruction and took nearly 300,000 lives. Tsunami waves up to 100 feet high wiped out coastlines of eleven countries and that coupled with the earthquake designates this quake as one the worst in history, according to experts. Indonesia, India, Thailand and Sri Lanka suffered the greatest losses and damage. A global outpouring raised over $7 billion in aid and efforts were undertaken to improve the tsunami alert service and technology for these regions.”
    Chilean Tsunami
    [​IMG]
    (Images via USGS, Washington.edu and NIWA)

    The Chilean Tsunami of 1960 flooded 500 coastal miles of Chile with a massive 30-foot wave and created crashing waves as far away as Hawaii. The tsunami destroyed 1 in 3 homes in the region and was triggered by the largest earthquake in the 20th century - a 9.5 on the Richter Scale. Over 2,000 people died.
    Floods

    People the world over have to deal with floods that come from earthquakes, storms, seasonal weather patterns - even global warming. Here are just two stunning examples of the power of floods.
    The Great Flood
    [​IMG]
    (Images via NASA, geology news and Minnesota Storm Chasers)

    The Great Flood of 1993 stunned American Midwesterners with its endless volume. One of the worst floods in American history, it lasted a mind-boggling seven months and encompassed areas near both the Mississippi and Missouri rivers and their tributaries.
    [​IMG]
    (Images via Wikipedia)

    30,000 square miles of flooded land cost over $15 billion to repair - the most expensive in U.S. history. By some standards it was the worst flood ever to hit North America. In places, the water crested 10 feet above the flood line. The images above show satellite imaging of normal water levels (lower left) and the Great Flood levels.
    South Asia Floods
    [​IMG]
    (Images via Skywatch, Watthead and bdix)

    In 1997 and again in 1998, some of the worst floods in human memory occurred in South Asia. India, Bangladesh and Nepal saw damage to such a great extent that 30 million people were injured, displaced or affected (by conservative estimates). Water at heights of 10 feet or more literally marooned people into rooftop and hilltop clusters. South Asia had a particularly devastating decade of floods from 1987-1997, with billions in damage.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2009
  5. Pew Pew

    Pew Pew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +1,807
    6 Worst Raging Fires and Explosive Volcanoes

    Written by Ecoist on October 15th, 2008 - Topics: History and Trivia, Nature and Ecosystems, Science and Research
    <CENTER><SCRIPT type=text/javascript><!--ch_client = "derami";ch_type = "mpu";ch_width = 468;ch_height = 120;ch_color_title = "0D3700";ch_color_text = "333333";ch_non_contextual = 4;ch_vertical ="premium";ch_font_title = "Tahoma";ch_font_text = "Tahoma";ch_sid = "Chitika Premium";var ch_queries = new Array( );var ch_selected=Math.floor((Math.random()*ch_queries.length));if ( ch_selected < ch_queries.length ) {ch_query = ch_queries[ch_selected];}//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://scripts.chitika.net/eminimalls/amm.js" type=text/javascript></SCRIPT>
    <IFRAME id=ch_ad581 style="DISPLAY: none" name=ch_ad581 marginWidth=0 marginHeight=0 src="about:blank" frameBorder=0 width=0 scrolling=no height=0 allowTransparency></IFRAME></CENTER>[​IMG]
    (Part 3 in an Exclusive 4 Part WebEcoist Series on Natural Disasters)

    The blast of heat from a volcano can be fierce enough to cause damage thousands of miles away; the hungry flames of a fire can destroy whole forests. While displays of fire and light in nature can be artistically breathtaking - from sundogs to lightning bolts to fire whirls - nature can also wield destructive, burning force. This post explores some of the most explosive fire related natural disasters in recent history.

    Fires Then and Now

    [​IMG]
    (Image via Top News)

    Nearly everyone has heard of the Great Chicago Fire of 1871. The three-day fire only consumed 4 square miles, but that land happened to be in the middle of urban Chicago. The damage left behind made the Great Chicago Fire famous as one of the worst fires ever to strike a city. Yet not as many people know about the Peshtigo Fire, which occurred at the exact same time in Wisconsin (it lasted a few days longer than the fire in Chicago). Considered the worst fire in American history in terms of lives lost, the Peshtigo Fire claimed 1,500 souls and destroyed 3.8 million acres. In the last century technology and preparedness have advanced considerably, yet experts say we are under greater threat today from wild fire than ever before - and that’s largely due to global warming. Wild fires are increasing in number and severity; here are a few of the most recent and dramatic blazes.
    Australia
    [​IMG]
    (Images via Australia BOM, Gunghalin and NASA)

    In 2003 a wild fire roared to life and rapidly claimed a swath of land the size of Texas. 500 homes, thousands of livestock, and 4 people were lost to the fire. The fires haven’t abated; 2006 and 2007 saw months of rainless weather that produced bush fire after bush fire, with firefighters and authorities having difficulty drawing sufficient resources to manage the ever-increasing blazes. Due to global warming, the threat of forest fire will jump some 20 to 30% in the coming decade in Australia.
    Portugal
    [​IMG]
    (Images via ArtSpirit and fire.uni)

    Global warming’s effect on weather patterns has also caused a deadly impact in Portugal. In 2003 and 2005 the small country experienced fires so ravaging that collectively at least 10% of total forest land was lost - along with dozens of lives. The 2003 fire destroyed 350,000 hectares and was caused by hot winds and dry air (humidity has decreased in the region as global temperatures have risen). In 2005, the fires came back, destroying 300,000 more acres thanks to a prolonged drought in this once healthy, wooded region.
    Indonesia
    [​IMG]
    (Images via Art Diamond, fire.uni and RSS)

    Indonesia has been plagued by horrific fires for over 15 years. At some intervals, fires caused such a reduction in air quality that residents living near burn areas were taking in the equivalent of 80 packs of cigarettes a day simply by breathing. 1997, 2006 and 2007 saw some of the worst fires on record, but the original 1982-1983 drought-driven fire was an unforgettable blaze marked as one of the worst fires of the 20th century. It’s not global warming to blame in recent years, however (at least, not directly). Rainforest is slashed and burned to make way for growing cash crops (in some cases, biofuels). Though natives have historically managed forest fires to open up agricultural land, foreign investors, arsonists and other aggressive parties have encouraged intentional forest fires in Indonesia that have unfortunately escalated into uncontrollable blazes.
    Volcanic Explosions

    [​IMG]
    (Image via blogger)

    From the times of Pompeii, volcanoes have awed and terrified us with their power. As human civilization has advanced, the ability to monitor and even predict volcanic activity has improved greatly. Yet even recent volcanic explosions have not been without dramatic impact and deadly force. There are numerous active volcanoes all around the globe, broken by scientists into 12 general regions. Most are famously found on the Pacific “Ring of Fire“, where there are 452 volcanoes - 75% of the world’s active and dormant domes. (By the way, 90% of the world’s earthquakes also occur on the Ring of Fire.) Here are a few of the most devastating volcanic explosions in recent history.
    Mt. St. Helens, Oregon, United States
    [​IMG]
    Images via Cascade Volcanoes, USGS, Thinkquest and Earth Observatory

    This volcanic mountain of St. Helens, part of the Cascade Mountain range that runs through the Pacific Northwest into Canada, is famous for its violent explosion in May of 1980 that devastated the region, killed 57 people, and sent a cloud of ash and debris around the world. Over 200 square miles of forestland were flattened and turned to ash. A new lava dome has continually grown in the decades since, and with steam escaping daily and mild tremors, scientists keep a close eye on it. As you can see from the lower right image, the land has gradually begun to rebound, with light vegetation and animals beginning to return - until the next eruption. (Read more here.)
    Nevado del Ruiz, Colombia
    [​IMG]
    (Images via Wisconsin University, Colombian Flowers and Scarborough Schools)

    Armero was a town located on a mountainside debris fan in Colombia. It was destroyed several times throughout history by mudslides resulting from Nevado del Ruiz’ volcanic activity. Yet after 140 years of dormancy, people appeared to have forgotten the historic danger and rebuilt the town to a sizeable population. When Nevado del Ruiz exploded in 1984, the resulting mudslide buried the town and killed over 23,000 people despite over a year of warnings from experts. The disaster was an agonizing event for Colombia; families were torn apart, children lost. For years efforts were made to reconnect families in the hopes of there being survivors. The trauma was truly a national tragedy.
    Pinatubo, Luzon, Phillipines
    [​IMG]
    (Images via Treehugger, Volcano Child and Wisconsin University)

    In 1991 Mount Pinatubo, at the intersection of several Phillipine provinces on the island of Luzon, had eroded substantially and was covered in a luxuriant tropical rainforest that fed, clothed and housed the Aeta, residents who had migrated centuries earlier when fleeing the Spanish. The eruption of the unassuming Pinatubo, a mountain many barely were aware of as existing, was 500 years in the making and is considered the most massive and destructive volcanic explosion of the 20th century. It was ranked as a VEI (volcanic explosivity index) 6 - Mt. St. Helens was a 5. It caused a global sulfuric haze, a global .9 degree (Fahrenheit) drop in temperatures and a spike in ozone damage. Though residents were mostly evacuated in time, the billions of tons of ash, magma and debris destroyed the region.
     
  6. Pew Pew

    Pew Pew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +1,807
    Terrifying Tornadoes, Wind Storms and Hurricanes

    Written by Ecoist on October 22nd, 2008 - Topics: Animals and Habitats, Geography and Travel, History and Trivia, Nature and Ecosystems


    <CENTER><SCRIPT type=text/javascript><!--ch_client = "derami";ch_type = "mpu";ch_width = 468;ch_height = 120;ch_color_title = "0D3700";ch_color_text = "333333";ch_non_contextual = 4;ch_vertical ="premium";ch_font_title = "Tahoma";ch_font_text = "Tahoma";ch_sid = "Chitika Premium";var ch_queries = new Array( );var ch_selected=Math.floor((Math.random()*ch_queries.length));if ( ch_selected < ch_queries.length ) {ch_query = ch_queries[ch_selected];}//--></SCRIPT><SCRIPT src="http://scripts.chitika.net/eminimalls/amm.js" type=text/javascript></SCRIPT>
    <IFRAME id=ch_ad351 style="DISPLAY: none" name=ch_ad351 marginWidth=0 marginHeight=0 src="about<b></b>:blank" frameBorder=0 width=0 scrolling=no height=0 allowTransparency></IFRAME></CENTER>[​IMG]
    (Part 4 in an Exclusive 4 Part WebEcoist Series on Natural Disasters)

    The hurricane that swipes a town off the map. The month of tornadoes that won’t quit. A dust storm that has to be seen to be believed. While sudden volcanic explosions, massive earthquakes and terrifying tsunamis are examples of Mother Nature’s unexpected acts around the globe, some parts of the planet also experience ravaging tornadoes and hurricanes as reliably as the seasons. The damage these massive storms cause, however, is anything but predictable. In North America, residents in places like Florida and Kansas have learned to prepare for these wild disasters. But sometimes no amount of planning is enough.

    Hurricane Ike
    [​IMG]
    [​IMG]
    (Images via Boston.com)

    13 days, 114 lives, $10 billion in damage. Most recent in memory is the devastating but brief Hurricane Ike. Boston.com has a stunning picture gallery of Hurricane Ike and the destruction throughout Cuba, Haiti and the United States.
    [​IMG]
    [​IMG]
    (Images via Boston.com)

    This home in Winnie, Texas was spared. Notice the horse grazing in the floodwater. Hurricane Ike was the first hurricane since Katrina to cause so much damage to mainland cities. Galveston was essentially wiped off the map, seeing damage only outdone by a storm in 1900.
    The New England Hurricane
    [​IMG]
    (Images via Popular Mechanics)

    Hurricanes famously strike the Southern seaboard of the United States, but they can also reach as far north as New England. In 1938 a 120-m.p.h. hurricane slammed into New York, Connecticut, Massachusetts, Vermont and Rhode Island. 700 people were killed and 63,000 were instantly homeless in what is widely considered one of the worst storms of the last century. The hurricane created forceful two-story waves that flooded urban areas in New York and beyond.
    A National Tragedy: Hurricane Katrina
    [​IMG]
    (Images via Killed That, About.com, Biggest Tsunami, Geology.com, Why Files and Dismal World)

    The tragedy was unspeakable; the initial response was shameful. A combination of a lack of preparedness - despite warnings - and a lack of adequate response in the face of one of the most powerful hurricanes in U.S. history created an epic disaster that many critics argued became the defining failure of the Bush Administration and the federal government. Tens of thousands were displaced, injured and homeless; thousands still live in temporary housing provided by FEMA. What made Category 5 Katrina so devastating was not only its blunt wind force (175 mph winds) - it was the hurricane combined with the massive waves that caused the levee breach.
    Much of the city was flooded beyond all repair or hope of habitation. As 20,000 agonized without sufficient supplies in the Superdome and another 30,000 tried to escape the city, stifling heat and putrid conditions turned New Orleans into a shocking story of government neglect. According to Popular Mechanics, “The city they left behind had been nearly wiped off the map, but Hurricane Katrina affected 90,000 square miles in Louisiana, Mississippi and Alabama. Well over 1300 people were killed across the region, and bodies were still turning up in condemned homes eight months later. The financial tally as of July 2007 was approaching $200 billion; some predict it will top $300 billion after all the checks are written.” The nation was horrified at the management of the disaster and an outpouring of aid and celebrity involvement continues well into 2008.

    Hurricanes from Above
    [​IMG]
    (Images via Boston.com)

    Going through the experience of a hurricane is terrifying - and in some tragic cases, deadly. Seen from above, however, hurricanes appear surreal, almost protective. The contrast is nothing short of unsettling. These are images of Hurricane Ike, Hurricane Gordon and Hurricane Ivan.
    Tornadoes Caught on Film
    [​IMG]
    (Image via mediaright)


    Tornadoes are both terrifying and captivating. They are the products of thunderstorms and their whirling vortexes frequently reach up to 300 mph. As residents of the notorious Midwest’s Tornado Alley know, tornadoes can pop up suddenly and without much warning. In many tornado-prone areas residents have tornado shelters they can retreat to in the sudden event of a tornado. The following videos show incredible close-up moments.

    In this amazing video, a boat outruns twin cyclones.


    This person caught a tornado coming within a hair’s breadth of their property in 2005.


    Scientist Tim Samaras achieved the unthinkable in 2003: he created a camera that was able to withstand the tornado so that we could get a first-time look inside the storm. The footage is simply breathtaking.


    Sensitive viewers may want to skip this graphic video montage that shows footage of various tornadoes in Texas, Kansas and Georgia throughout the last 50 years.
    Up Close: Tornado Chasers

    [​IMG]
    (Image via NYTimes via Gizmodo)

    A resident of Orchard, Iowa snapped this image seconds before the tornado passed by their home. It’s not an isolated case; people can’t seem to resist catching twisters on film despite the risks.
    [​IMG]
    (Images via Backing Winds)

    Photographer Ryan McGinnis captured these stunning formations in 2006.
    The Tri-State Tornado
    [​IMG]
    (Images via Popular Mechanics)

    Did you know there was a time when weather experts weren’t allowed to discuss tornadoes? The severe Tri-State Tornado in 1925, one of the worst storms of the last century, brought social awareness and paved the way for public alerts. The country’s longest-lasting tornado destroyed 15,000 homes in four states and killed hundreds.
    Driving Through a Dust Storm


    Though dust storms are less sensational than hurricanes or tornadoes, they can wreak tremendous damage. This incredible footage of driving through a dust storm is a rare live example. Dust storms, or sand storms, are common in arid regions, though they rarely grow as large or devastating as the two-day Dust Bowl, the infamous dust storm that struck the Southwestern United States.
    See Even More Incredible Natural

    ที่มา : http://webecoist.com/2008/10/22/air-disasters-dust-wind-storms-tornadoes-hurricanes/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2009
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เกิดพายุฤดุร้อนพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนใน จ.เชียงใหม่

    [​IMG]

    เชียงใหม่ 21 มี.ค. - เกิดพายุฤดูร้อน พัดถล่มบ้านเรือนประชาชนในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ สร้างความเสียหายนับร้อยหลังคาเรือน

    เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ชาวบ้านในหมู่บ้านป่าเดื่อ บ้านสันทรายก๋อม บ้านท่ามะโอ บ้านขัวมุง และบ้านปากเหมือง อำเภอสารภี เร่งสำรวจความเสียหายและซ่อมแซมบ้านเรือน หลังพายุฤดูร้อนพัดถล่มอย่างรุนแรง ทำให้หลังคาบ้านปลิวเสียหาย บางหลังถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับ ชาวบ้านบอกว่าเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี พายุยังทำให้ต้นลำไยที่กำลังออกดอกหักโค่นนับร้อยต้น รวมทั้งต้นยางนายักษ์ ชาวบ้านจึงเตรียมฟ้องร้องทางแพ่งเรียกค่าเสียหายแล้ว เพราะเคยให้เจ้าของตัดแต่งกิ่ง แต่ไม่ยอมปฏิบัติตาม. -สำนักขาวไทย

    2009-03-21 16:06:55

    พายุฤดูร้อนถล่มตัวเมืองเชียงใหม่ ป้ายโฆษณาล้ม-ไฟดับวงกว้าง

    [​IMG]

    เชียงใหม่ 21 มี.ค.-เกิดพายุฤดูร้อนขึ้นที่ จ.เชียงใหม่ แรงลมกระโชกแรง ทำให้ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่โค่นล้มหลายจุด ไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง

    ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและมีลมกระโชกแรงในตัวเมืองเชียงใหม่นานเกือบ 20 นาที ทำให้ป้ายโครงเหล็กโฆษณาขนาดใหญ่สูงเท่าตึก 3 ชั้น บริเวณสี่แยกแจ่งหัวริน ย่านถนนห้วยแก้วในตัวเมืองเชียงใหม่ โค่นลงมาทับกำแพงคอนกรีตและหลังคาบ้านชาวบ้านเสียหาย โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมีอีกหลายจุดที่ป้ายโฆษณา รวมทั้งต้นไม้ที่ปลูกริมถนนโค่นจำนวนมาก จนสายไฟฟ้าขาด หม้อไฟฟ้าระเบิด ทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ทั้งในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ต.ป่าแดด รวมทั้งถนนหน้าสถานีตำรวจภูธรช้างเผือก.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-21 01:18:01

    ตชด.ตากช่วยหมู่บ้านชายแดนไทย-พม่า สร้างฝายแก้ภัยแล้ง

    [​IMG]

    ตาก 20 มี.ค.- พ.ต.ต.รินณวัฒน์ ภูวัฒนติกานต์ ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 346 อ.แม่สอด จ.ตาก เปิดเผยว่า อำเภอแม่สอดมีหลายพื้นที่ประสบภัยแล้ง เนื่องจากอยู่บนเขาสูง ซึ่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นอีกหนึ่งภารกิจของกองร้อย ตชด. 346 กก.ตชด. 34

    ขณะนี้ได้ส่งกำลังพลเข้าไปสมทบกับชาวบ้าน แม่กุหลวงและชาวพม่าบ้านเอ่งจีเมี้ยว จังหวัดเมียวดี ประเทศพม่า ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ช่วยกันทำฝายเก็บน้ำชั่วคราวกั้นแม่น้ำเมย เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในพื้นที่ สามารถใช้ประโยชน์แก้ปัญหาภัยแล้ง หรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเล่นน้ำคลายร้อนช่วงฤดูร้อน และเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งชาวบ้านไทย-พม่า ทั้งสองหมู่บ้านมีความสามัคคีทำกิจกรรมกันมาตลอด ทั้งด้านการกีฬา การค้าขาย และดับไฟป่า รวมทั้งพัฒนาการท่องเที่ยวและแก้ปัญหาภัยแล้ง.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-20 15:20:50

    ชาวไร่สับปะรดประจวบฯเจอภัยแล้งผลผลิตเสียหายกว่า 70%

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    ประจวบคีรีขันธ์ 21 มี.ค.- ภาวะภัยแล้งสร้างผลเสียหายต่อเกษตรกรที่ปลูกสับปะรดใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังพบว่า สับปะรดผลอ่อนเสียหายกว่าร้อยละ 70 ของพื้นที่เพาะปลูก และทำให้ราคาที่ส่งหน้าโรงงานขยับสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 5-6 บาทแล้ว

    นายอานนท์ โลดทนงค์ เลขาธิการสมาคมชาวไร่สับปะรดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้เกษตรกรใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประสบปัญหาภัยแล้งอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบให้สับปะรดผลอ่อนได้รับความเสียหายกว่าร้อยละ 70 ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งจังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ปลูกสับปะรดส่งแปรรูปเพื่อการส่งออกมากที่สุดในประเทศไทย ทำให้ขณะนี้ราคาสับปะรดหน้าโรงงานสูงถึงกิโลกรัมละ 5 - 6 บาท แต่ในฤดูกาลเก็บเกี่ยวสับปะรดช่วงเดือนพฤษภาคม และมิถุนายนนี้ หากทางราชการยังไม่มีมาตรการเยียวยาผลกระทบจากภัยแล้ง จะส่งผลกระทบกับการแปรรูปสับปะรดกระป๋องเพื่อการส่งออกที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท

    นายสงกรานต์ ภักดีคง เกษตรกรใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ปัญหาภัยแล้งปีนี้มีแนวโน้มรุนแรงกว่าทุกปี จากการสำรวจพื้นที่เพาะปลูกสับปะรดโซนเหนือตั้งแต่ อ.หัวหิน ถึง อ.กุยบุรี พบว่า มีเกษตรกรประสบปัญหารุนแรงมากที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่เพาะปลูกของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน มีปัญหาผลผลิตไม่เป็นไปตามเป้าหมาย คาดว่าจะส่งผลกระทบกับการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ

    นายสงกรานต์ กล่าวว่า ภัยแล้งที่เกิดขึ้นยังส่งผลกระทบกับพื้นที่ปลูกมะพร้าวที่มากที่สุดของประเทศใน อ.ทับสะแก และ อ.บางสะพาน เพราะขณะนี้แมลงดำหนามยังระบาดอย่างหนัก และมีด้วงหัวดำศัตรูพืชตัวใหม่ที่เข้ามาระบาดอย่างรุนแรงในสวนมะพร้าวและปราบยากกว่าแมลงดำหนาม ทำให้ผลผลิตมะพร้าวปีนี้มีแนวโน้มตกต่ำ.- สำนักข่าวไทย

    2009-03-21 12:04:28

    ระยองเร่งหาต้นตอปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำดิบผลิตประปา

    [​IMG]

    ระยอง 20 มี.ค.- เจ้าหน้าที่ จ.ระยอง พบปัญหาน้ำคลองใหญ่เน่าเสียรุนแรง ชาวบ้านรุดแจ้งความให้เร่งหาตัวการก่อปัญหา ด้าน ผจก.ประปา ยอมรับมีผลกระทบ เพราะเป็นแหล่งน้ำดิบใช้ผลิตประปา พร้อมหาทางแก้ไขเบื้องต้น

    นายมานพ กิจหว่าง กำนันตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง พร้อมชาวบ้านเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านค่าย ไว้เป็นหลักฐานในวันนี้ (20 มี.ค.) เพื่อให้สืบหาแหล่งที่มาทำให้น้ำคลองใหญ่มีสภาพเป็นสีดำและกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง ไม่สามารถนำมาใช้ในพื้นที่การเกษตรได้ โดยเชื่อว่ามีโรงงานอุตสาหกรรมบางแห่งแอบปล่อยน้ำเสียลงคลอง

    ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และสำนักงานประปาระยอง ร่วมตรวจสอบสภาพน้ำในคลองใหญ่ บริเวณฝายกั้นน้ำสถานีส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย เบื้องต้นพบว่าสภาพน้ำเกือบตลอดสายระยะทางนับสิบกิโลเมตร รวมถึงคลองย่อยส่งน้ำต่าง ๆ ที่รับน้ำจากคลองใหญ่มีกลิ่นเน่าเหม็น และสัตว์น้ำทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ลอยตายเกลื่อน

    ด้านนายไพฑูรย์ อรชร ผู้จัดการประปาระยอง กล่าวว่า ผู้ใช้น้ำประปาในจังหวัดระยอง อาจได้รับผลกระทบ เพราะเป็นแหล่งน้ำดิบที่นำไปใช้ผลิตน้ำประปา การแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ประสานไปยังโครงการชลประทานระยอง ให้ปล่อยน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหลลงมาไล่น้ำเสียในคลองใหญ่ เพื่อให้เกิดความเจือจาง พร้อมปล่อยน้ำเข้าเครื่องกรองน้ำให้ช้าลง และเติมปริมาณคลอรีนลงในน้ำให้มากขึ้น เพื่อฆ่าเชื้อโรคและกำจัดกลิ่นเหม็น.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-20 16:40:48

    แม่ฮ่องสอนขยายผลแก๊งค้ายาบ้านับแสนเม็ดหลังปะทะที่ชายแดน

    [​IMG]

    แม่ฮ่องสอน 20 มี.ค.- เมื่อเวลา 10.00 น วันนี้ (20 มี.ค.) พล.ต.สุทธิ์ศักดิ์ วิทยาเอนกนันท์ ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร แถลงที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 17 จ.แม่ฮ่องสอน ถึงทหารชุดลาดตระเวนยิงปะทะกับคาราวานยาเสพติดจำนวน 6 คน

    บริเวณชายแดนไทย-พม่า ถนนสายบ้านป่าแปก-บ้านไม้ลัน ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน นานประมาณ 10 นาที จากนั้นกลุ่มยาเสพติดหลบหนีเข้าไปในเขตประเทศพม่า เมื่อเย็นวานนี้ (19 มี.ค.) โดยเจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย และการตรวจสอบพื้นที่สามารถควบคุมตัวนางเมือง อายุ 30 ปี ชาวพม่า พร้อมของกลางกระสอบ 2 ใบ ใส่ยาบ้า 81 ห่อ รวม 126,000 เม็ด ขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลจากนางเมือง และถือว่าเป็นการจับกุมขบวนการค้ายาบ้ารายใหญ่.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-20 13:48:23

    อธิบดีกรมทรัพยากรฯ พอใจแผนซ้อมเตือนภัยดินถล่มลำปาง

    [​IMG]

    ลำปาง 20 มี.ค. - นายอดิศักดิ์ ทองไข่มุกต์ อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยภายหลังติดตามการซ้อมแผนเตือนภัยของบ้านปางปง-ปางทราย หมู่ 9 ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง วันนี้ (20 มี.ค.) ว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งการประสานงานของเจ้าหน้าที่และชาวบ้านในชุมชน ทันทีที่หอกระจายข่าวของหมู่บ้านแจ้งเตือนภัยฝนตกหนัก น้ำท่วม และดินถล่ม ชาวบ้านสามารถอพยพไปยังจุดปลอดภัยที่วัดบ้านปางปง-ปางทราย ซึ่งอยู่บนเขาได้อย่างรวดเร็ว

    การซ้อมแผนถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งพื้นที่เสี่ยงภัยทั่วประเทศมีอยู่ใน 51 จังหวัด ส่วน จ.ลำปาง เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มและน้ำป่า จึงต้องซ้อมแผนทุกระยะ และตั้งเครือข่ายแจ้งเหตุธรณีพิบัติภัย เพื่อไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนกเมื่อเกิดเหตุขึ้นจริง. - สำนักข่าวไทย

    2009-03-20 14:51:08

    ดักระเบิดรถทหารปัตตานีเสียชีวิต 4 นาย

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    ปัตตานี 19 มี.ค.- เมื่อเวลา 14.30 น. วันนี้ (19 มี.ค.) ตำรวจ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุระเบิดในพื้นที่ ม.8 บ้านบือแนดาแล ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ ขณะที่รถกระบะของชุดทหารพราน 4403 จำนวน 4 นาย เดินทางกลับจากตรวจสุขภาพประจำปี ที่ จ.ยะลา มุ่งหน้ากลับฐานปฏิบัติการใน อ.กะพ้อ

    แรงระเบิดทำให้ทหารพรานเสียชีวิตทั้ง 4 นาย และรถยนต์พังเสียหาย ซึ่งชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและเจ้าหน้าที่กองวิทยาการปัตตานี ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่องซุกซ่อนไว้ใต้ผิวถนน.-สำนักข่าวไทย

    2009-03-19 16:41:45

    ปัตตานีเข้มปัญหาไข้เลือดออก-ชิคุนกุนยา

    [​IMG]

    ปัตตานี 18 มี.ค. - นายพิศาล ทองเลิศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ปล่อยขบวนรถยนต์ 26 คัน กระจายสู่ 12 อำเภอ เพื่อรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออกและชิคุนกุนยา พร้อมฉีดพ่นสารเคมีตามชุมชน โดยมีอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) กว่า 2,000 คน เดินเคาะประตูบ้าน พร้อมแจกแผ่นปลิว 2 ภาษา คือ ไทยและยาวี เพื่อสื่อสารให้เข้าใจกว่า 600 หมู่บ้าน ในการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ตามมาตรการ 5 ป. อย่างจริงจัง

    ด้าน นพ.อุดมเกียรติ พูลสวัสดิ์ นายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.เป็นต้นมา พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกแล้ว 207 ราย โดยเฉพาะ อ.เมือง มีการระบาดมากที่สุด 143 ราย ส่วนผู้ป่วยโรคชิคุนกุนยา มีจำนวน 1,583 ราย พบมากสุดใน อ.สายบุรี 650 ราย ส่วนใหญ่เป็นหญิงมากกว่าชาย กลุ่มอายุ 45-50 ปี แต่ไม่มีรายงานผู้ป่วยทั้งสองโรคเสียชีวิต. - สำนักข่าวไทย

    2009-03-18 17:48:26

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ขาดการตัดลดนิสัย ****

    สมณะ...ไม่หยุดอารมณ์จากนิสัย การทรงศาสนาไม่สำเร็จ นิสัยสะสมพอกพูน
    น้ำจากสมณะ....เสมือน น้ำจากภูเขาสูง ไหลลงพื้นราบ
    สัตว์โลกจะเดือดร้อน...ชุ่มท่วมนองไปหมด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นักวิชาการชี้ "หวัดนก-ไข้หวัดใหญ่" เริ่มกลายพันธุ์ ดื้อยา แนะเปลี่ยนสต็อกสูตรยาระดับชาติ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 มีนาคม 2552 13:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    นักวิชาการชี้ไข้หวัดนกเริ่มกลายพันธุ์ ดื้อยาแล้ว แนะเปลี่ยนสต็อกสูตรยาไข้หวัดนกระดับชาติ ส่วนไข้หวัดใหญ่ 16 สายพันธุ์ดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ ไตรมาสสุดท้ายปี 51 ดื้อกว่า 90 % ด้านกรมควบคุมโรคระบุยังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ ไม่มีข้อมูลการดื้อยา จึงยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนยาในสต็อก

    ศ.นพ.อมร ลีลารัศมี อาจารย์ประจำสาขาวิชาโรคติดเชื้อและอายุรศาสตร์เขตร้อน ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์การดื้อยาของเชื้อไวรัส โดยเฉพาะไวรัสไข้หวัดใหญ่ รวมถึงไข้หวัดนกเอช 5 เอ็น 1 ที่ถือว่าเป็นสายพันธุ์ไข้หวัดใหญ่ที่เกิดในคน ซึ่งพบว่า มีแนวโน้มในการดื้อยาแล้ว เนื่องจากเมื่อ 2 ปีก่อนยังพบว่าเด็กและเสือที่เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดนกพบว่าเชื้อดังกล่าวดื้อต่อยารักษาโรคไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก โอเซลทามิเวียร์แล้ว

    “เรื่องดังกล่าวจำเป็นต้องมีการเตรียมการเกี่ยวกับเรื่องการสต็อกยาระดับชาติเพื่อป้องกันโรคไข้หวัดนกในอนาคตหากเกิดการระบาดขึ้น เพราะขณะนี้ในสต็อกมีเพียงยาโอเซลทามิเวียร์เท่านั้น จึงจำเป็นต้องสต็อกยาให้ดี หากเกิดการระบาดร้ายแรง หากไม่สต็อกยารักษายาสูตรอื่น ยาที่มีอยู่ก็ไม่มีความหมายใดๆ เพราะเชื้อดื้อยาไปหมดแล้ว”ศ.นพ.อมร กล่าว

    ศ.นพ.อมร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้การรักษาโรคไข้หวัดนกรวมถึงไข้หวัดใหญ่ในคนนั้น มียา 3 ขนานได้แก่ 1. ยาโอเซลทามิเวียร์ชนิดเม็ด 2. ยาซานามีเวียร์(Zanamivir)ชนิดพ่นและ 3. ยาไรมานทีดีน(Rimantidine)ชนิดเม็ด ซึ่งในรายที่มีอาการในทางเดินหายใจ หรือโรคทางปอด ไม่สามารถใช้ยาชนิดดังกล่าวได้ ก็จำเป็นต้องใช้ยาไรมานทีดีนร่วมกับการทานยาโอเซลทามิเวียร์ด้วย ซึ่งขณะนี้พบข้อมูลทางการวิชาการว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนกยังไม่ดื้อยาทั้ง 2 ชนิด อีกทั้งพบว่า หาการดื้อยาซานามิเวียมีผลต่อการเจริญเติบโตของไวรัส หากดื้อยาก็จะทำให้ไวรัสชนิดนี้ตายไปด้วย

    ศ.นพ.อมร กล่าวต่อว่า นอกจากไวรัสไข้หวัดนกที่พบว่ามีการดื้อยาแล้ว ไวรัสไข้หวัดใหญ่ในคน เอช 1 เอ็น 1 ก็พบว่ามีการดื้อยาโอเซลทามิเวียร์ทั่วโลกแล้ว ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาแต่อย่างใด เพราะแม้แต่ประเทศในแถบแอฟริกาใต้ ที่พบว่าไม่มีการใช้ยาใดๆเลย ก็มีการดื้อยา แต่เชื้อดังกล่าวไม่ดื้อยาซานามีเวียร์ ซึ่งเป็นเพราะเชื้อไวรัสได้มีการกลายพันธุ์ โดยข้อมูลเบื้องต้นของศูนย์การร่วมมือไทยสหรัฐด้านสาธารณสุข พบว่ามีการดื้อยาโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ เอช 3 เอ็น 2 ดื้อยาไรมานทีดีน แต่ไม่ดื้อยาซานามีเวียร์ อย่างไรก็ตามเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้กลายพันธุ์ให้เกิดการดื้อยาในประเทศไทยแล้วประมาณ 1-2 ล้านคน แต่ยังไม่สามารถระบุตัวเลขได้แน่ชัด เพราะยังไม่มีการศึกษารายละเอียดอย่างแท้จริง

    “แพทย์ทั่วไปเริ่มพอที่จะทราบแนวทางการรักษาที่โรคไข้หวัดใหญ่นอกเหนือจากการใช้ยาโอเซลทามิเวียร์ มาใช้ยาซานามิเวียร์หรือยาไรมานทีดีนบ้างแล้ว แต่แนวทางการรักษาที่ปฏิบัติส่วนใหญ่เพียงแค่สงสัยว่ามีอาการไข้หวัดใหญ่ก็ให้ยาแล้ว เพราะยาดังกล่าวจะต้องให้ภายใน 48 ชั่วโมงที่เกิดอาการ ให้หลังจากนั้นจะทำให้ไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร ดังนั้นการนำเชื้อไปตรวจวิเคราะห์อาจไม่ทันเวลา แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงกว่านื้คือ แพทย์ส่วนใหญ่มักวินิจฉัยโรคปอดบวมว่าเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย แต่ไข้หวัดใหญ่ที่มีอาการรุนแรงก็จะมีอาการดังกล่าวด้วยเช่นกัน ”ศ.นพ.อมร กล่าว

    นางจิรนันท์ วราชิต เดอ ซิลวา นักวิจัยศูนย์ไข้หวัดใหญ่แห่งชาติ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า จากการที่กรมฯร่วมมือกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค ประเทศสหรัฐอเมริกา (ยูเอส-ซีดีซี) ทำการเฝ้าระวังเชื้อดื้อยาและการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ไวรัสไข้หวัดใหญ่ พ.ศ.2551 โดยการเก็บตัวอย่างเชื้อที่ป้ายจากลำคอของผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่จำนวน 3,736 ตัวอย่าง จากโรงพยาบาลและสถานบริการสาธารณสุขรวม 10 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ รพ.แม่สอด รพ.หนองคาย รพ.พระปกเกล้า รพ.หาดใหญ่ รพ.แม่จัน รพ.เชียงแสน รพ.เกาะช้าง รพ.กรุงเทพ-สมุย รพ.เกาะสมุย และศูนย์บริการสาธารณสุข 17 กทม.ระหว่างเดือนม.ค.-ธ.ค. 2551

    นางจิรนันท์ กล่าวอีกว่า พบว่า ระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม ไม่พบเชื้อไข้หวัดใหญ่ดื้อยาโอเซลทามีเวียร์ เดือนเมษายน – มิถุนายน พบเชื้อดื้อยา 12.5% เดือนกรกฎาคม-กันยายน พบเชื้อดื้อยาร้อยละ 55 เดือนตุลาคม-ธันวาคม พบเชื้อดื้อยากว่า 90% และเดือนม.ค.2552 พบดื้อยาประมาณ 90%เช่นกัน โดยเมื่อนำเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มาแยกสายพันธุ์และวิเคราะห์หาสายพันธุ์ที่ดื้อยา ทำให้ทราบว่าเชื้อไวรัสดื้อยาที่แยกได้มี 16 สายพันธุ์ โดยเฉพาะเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอช1 เอ็น 1 ซึ่งเป็นสัญญาณที่น่าเป็นห่วงว่าการรักษาผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่ติดเชื้อเอช1 เอ็น 1 ด้วยยาโอเซลทามิเวียร์ไม่ได้ผลดีอีกต่อไป ดังนั้น แพทย์ควรติดตามข้อมูลเฝ้าระวังเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ดื้อยาอย่างต่อเนื่อง และใช้ประโยชน์จากข้อมูลนี้ในการวางแผนให้การรักษาและสั่งยาต้านไวรัสที่เหมาะสมให้กับผู้ป่วยสงสัยไข้หวัดใหญ่ต่อไป

    นพ.ศุภมิตร ชุณห์สุทธิ์วัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักโรคติดต่ออุบัติใหม่ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยไข้หวัดนกรายใหม่ ทำให้ไม่มีข้อมูลว่าเชื้อมีการดื้อยา จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนการสต็อคยาจากยาโอเซลทามิเวียร์เป็นยาตัวอื่น ส่วนโรคไข้หวัดใหญ่จะไม่มีการให้ยาโอเซทามิเวียร์กับผู้ป่วยอยู่แล้ว ยกเว้นเฉพาะรายที่มีอาการรุนแรง โดยส่วนใหญ่จะเน้นการป้องกันด้วยการฉีดวัคซีน ซึ่งเชื้อไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น วัคซีนที่นำมาใช้จะต้องเปลี่ยนแปลงทุกปีด้วย จึงไม่ต้องวิตกกังวลว่าจะมีการดื้อยาของไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนก

    นพ. วิทิต อรรถเวชกุล ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม(อภ.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบข้อมูลผลการวิจัยติดตามการดื้อยาและการเปลี่ยนแปลงสาย พันธุ์ไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่พบว่า ขณะนี้มีแนวโน้มเชื้อเอช1เอ็น 1 ที่ดื้อยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้การรักษาผู้ป่วยด้วยยาดังกล่าวอาจไม่ได้ผล ซึ่งอภ.ได้ยึดตามแนวทางขององค์การอามัยโลก ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดว่า ควรใช้ยาตัวใดในการควบคุมโรคเป็นหลัก แต่หากพบว่ามีการดื้อยาก็ต้องเตรียมหายาต้านไวรัสตัวใหม่ ซึ่งอภ.มีหน่วยงานที่ศึกษาวิจัยเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะอยู่แล้ว ส่วนวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่นั้น ก็มีการนำเชื้อที่มีการระบาดในปีนั้นๆ มาผลิตเป็นวัคซีน ซึ่งไวรัสมีหลายสายพันธุ์ การผลิตวัคซีนจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปทุกปี

    ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9520000032334
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2009
  10. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775

    ประมาณสองปีครับ สำหรับน้ำแข็งขั้วโลก

    จากข้อมูลใหม่พบว่าอัตราเร่งในการละลายเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้มากครับ

    แต่ข้อมูลนำออกเผยแพร่ไม่ได้ไม่งั้นหลายประเทศ ถูกประชาคมโลกฟ้องร้องแน่
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ ลงมือทำสวนผักในทำเนียบขาว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 มีนาคม 2552 13:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    มิเชล โอบามา สตรีหมายเลขหนึ่งแห่งทำเนียบขาว

    เอเจนซี - มิเชล โอบามา สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ เริ่มลงมือทำแปลงผักสวนครัวแห่งใหม่ที่สนามหญ้าทางทิศใต้ของทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (20) เพื่อใช้ปลูกผักสดให้บุตรสาวและผู้มาเยือนทำเนียบขาวได้รับประทาน

    มิเชล โอบามา นำทีมเด็กนักเรียนในท้องถิ่นราว 20 คน ไปช่วยกันขุดดินทำแปลงผักสวนครัว ซึ่งเป็นแปลงผักแรกในทำเนียบขาว นับแต่ เอลีนอร์ รูสเวลต์ ภริยาของอดีตประธานาธิบดีแฟรงคลิน ดี รูสเวลต์ ทำสวนผัก​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มีนาคม 2009
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สัจจะความจริง ****

    ผู้นำและบริวารใกล้ชิด...ต้องแสดงให้ผู้ตามเห็น
    ต้องทำให้เกิดขึ้นจริง ....ต้องทำได้จริงก่อน
    ไม่ใช่การสร้างภาพ...แต่ต้องทำด้วยสัจจะ
    ศรัทธา...จึงจะเกิดได้
    ถ้า ผู้นำไม่ทำ...ผู้ตามเขาก็ไม่ทำ
    เพราะ เขาจะทำตามผู้นำ
    แล้วตัวเรา....นำตนเองได้แล้ว หรือยัง !!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ข่าวนี้ก็เหมือนกันครับ จะเร็วและรุนแรงกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้อย่างแน่นอนครับ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อีก 20 ปีที่ราบใหญ่เวียดนามเข้าสู่ยุค Water World </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 มีนาคม 2552 20:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    <CENTER>บรรยากาศของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ฤดูกาลต่างๆ กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง มองไปยังอนาคตอีกเพียง 20 ปี จังหวัดต่างๆ ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงจะเข้าสู่กลียุค </CENTER>
    <CENTER></CENTER><CENTER></CENTER>
    ASTVผู้จัดการรายวัน-- สถาบันวิจัยเกี่ยวกับสภาพการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงเวียดนาม ได้เผยแพร่ผลงานศึกษาวิจัยในสัปดาห์นี้ระบุว่า อีก 20 ปีข้างหน้าคือในปี 2570 ที่ราบอู่ข้าวอู่น้ำใหญ่ที่สุดของประเทศเกือบทั้งหมดจะจมอยู่ใต้น้ำทะเลราว 1 เมตร

    ไม่เพียงแต่กำลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ในฤดูน้ำหลากเท่านั้น แต่ในฤดูแล้งอาณาบริเวณที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของประเทศแห่งนี้จะเกิดความแล้งเข็ญไปทั่วอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สถาบันวิจัยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Climate Change Research Institute) มหาวิทยาลัยนครเกิ่นเทอ (University of Can Tho) ออกเผยแพร่ผลงานวิจัยชิ้นนี้ในวันพฤหัสบดี (19 มี.ค.)

    ฤดูแล้งเข็ญในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงจะอยู่ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.ค.ของทุกปี มีฝนตกน้อยหรือไม่มีเลย ตลอดเวลาเกือบครึ่งปี โดยช่วงแห้งแล้งอย่างรุนแรงที่สุดจะอยู่ระหว่างปลาย เม.ย.-ต้น พ.ค. กับ ปลาย ก.ค.-ต้น ส.ค.

    หมายความว่า ในเขตที่ราบอู่ข้าวใหญ่นี้จะทำนาได้เพียงครั้งเดียว หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวฤดูใหญ่ต้นปีแล้วเสร็จจะไม่สามารถทำนาได้อีก และ กลางปีก็จะเริ่มช่วงเดือนแห่งน้ำท่วมใหญ่ ไม่สามารถทำนาปีได้ตามปกติ จนกว่าจะถึงปลายปี

    "ในปี 2570 ปริมาณน้ำในระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคมจะลดลงราว 20% เทียบกับเมื่อปี 2523 การลดลงของปริมาณน้ำฝนกับฤดูฝนที่ล่าช้าออกไปจะทำให้เกิดช่วงฤดูแล้งยาวนานและเกิดความแล้งเข็ญ" รายงานระบุ

    [​IMG]

    <CENTER>อาณาบริเวณที่ราบปากแม่น้ำเมืองมองจากห้วงหาว ทั่วอาณาบริเวณจะแล้งจัดในฤดูร้อนที่ยาวนานเกือบครึ่งปี น้ำท่วมสูงในหน้าฝน และ เขตอู่ข้าวใหญ่ที่สุดของประเทศจะทำนาได้เพียงฤดูเดียว มีเพียงป่าสงวนแห่งชาติสองแห่ง ใน จ.ด่งท๊าป กับ จ.ลองอาน เท่านั้นที่จะรอดพ้น "น้ำท่วมโลก" </CENTER>
    <CENTER></CENTER>
    น้ำฝนจะลดลง 25% กินพื้นที่กว้างขวางตั้งแต่เขตชายฝั่งทะเลอ่าวไทย จ.เกียนยาง (Kien Giang) และทะเลจีนใต้ด้าน จ.ก่าเมา (Ca Mau) กับเขตเขาใน จ.อานยาง (An Giang) และ เมื่อฤดูแล้งมาถึงจะมีพื้นที่เหลืออยู่น้อยนิด จะมีเพียงเขตป่าสงวนสองแห่งใน จ.ด่งท๊าป (Dong Thap) ที่รอดพ้นจากภัยแล้งเข็ญ

    และเมื่อเข้าสู่ยุคแล้งเข็ญก็จะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลเอ่อล้น ขณะที่หิมะขั้วโลกละลายเข้าผสมโรง ระดับน้ำทะเลจะท่วมขึ้นสูงถึง 1 เมตร เอ่อเข้าไปถึงลำน้ำสาขาทุกสาย ทำให้เกิดน้ำท่วมกินอาณาบริเวณปากแม่น้ำโขงเกือบทั้งหมด

    "น้ำท่วมที่จะเกิดขึ้นนี้จะอยู่ในระดับเหนือการคาดคิดของมนุษย์และจะเห็นได้จริงในปี 2573 ปริมาณน้ำฝนในช่วงเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายนจะไม่ลดลงเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำฝนในปี 2523 หรือเมื่อ 20 ปีก่อน.. น้ำท่วมจะรุนแรงมากอันเนื่องมาจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น"

    เมื่อน้ำทะเลสูงขึ้นถึง 1 เมตร หลายจังหวัดในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขงจะจมน้ำ หนักหน่วงมากที่สุดคือ จ.เบ๊นแจ (Ben Tre) ซึ่งกว่า 51% ของพื้นที่จังหวัดนี้จะจมอยู่ใต้น้ำ รองลงไปเป็น จ.ลองอาน (49.4%) และ นครเกิ่นเทอ ถูกท่วมน้อยที่สุด (24.7%)

    จังหวัดที่ไม่เคยถูกน้ำท่วมเลยในปัจจุบันคือ ซ๊อกจาง (Soc Trang) กับ บั๊กเลียว (Bac Lieu) จะถูกน้ำท่วมครอบคลุม 43.7% และ 24.7% ของพื้นที่ และ นครโฮจิมินห์ที่อยู่เหนือขึ้นไป 43% ของตัวเมืองจะจมอยู่ใต้น้ำ

    เมื่อเกิดความแห้งแล้งรุนแรง น้ำท่วมกินอาณาบริเวณกว้าง ก็จะทำให้เกิดพายุพัดกระหน่ำรุนแรงตามธรรมชาติและจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่าง กระทบถึงการพัฒนาเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการว่างงานเพิ่มขึ้น เกิดความหิวโหยเนื่องจากผลิตอาหารได้น้อยลง เกิดโรคระบาด เกิดมลพิษ และความหลากหลายทางชีวะภาพในท้องถิ่นต่างๆ เสื่อมลง

    อาหารสำคัญที่เคยผลิตได้ในเขตที่ราบปากแม่น้ำโขง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทะเลและข้าว จะไม่สามารถผลิตได้อีก.

    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9520000032385
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2009
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สธ.เตือนแม่ค้าแมลงทอด เก็บดักแด้หนอนไหมไม่ดีเกิดสารก่อภูมิแพ้เสี่ยงถึงชีวิตผู้บริโภค

    [​IMG]

    กรุงเทพฯ 22 มี.ค.-โฆษกกระทรวงสาธารณสุข เตือนคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด เลี่ยงเปิบตัวดักแด้หนอนไหมหรือตัวต่อทอด ระบุอาจเกิดอาการแพ้รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ เนื่องจากผลการตรวจวิเคราะห์พบมีสารก่อภูมิแพ้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2009
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มหกรรมชำระล้างแผ่นดิน (ภาคต่อ)

    [​IMG]

    เมื่อวันก่อน ได้เล่าเรื่องมหกรรมล้างแผ่นดิน ไว้เป็นสามภาค หรือ Episode i ii iii และมีคนพยายามที่จะรู้ว่า จะเริ่ม เมื่อใดได้สนทนากับผู้ที่มีหน้าที่กดปุ่มเริ่มต้นแล้ว ได้ความยาวค่อนข้างยาวแต่จะขอย่อมาไว้ดังนี้ ​

    1. มหกรรมนั้นที่จริงจะเริ่ม ตั้งแต่ปี 2547 แต่บรรดา หลวงปู่ หลวงพ่อ ศักดิ์สิทธิ์ของพวกคนไทย นับร่วมสิบ ได้ขอใช้บารมี เลื่อนออกไป ​

    2. เมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ก็จะได้กำหนดอีกครั้ง ก็ถูกขอเลื่อนไปได้อีกครั้ง โดย หลวงปู่ หลวงพ่อ ทั้งหลาย การขอเลื่อนสองครั้ง ทำให้บารมีหมดลงไปมาก และเบื้องบนยินยอม แต่ในครั้งที่สามนี้ บารมีของหลวงปู่หลวงพ่อ ทั้งหลายจะไม่มากพอ ที่จะเลื่อน ​

    การกวาดล้างเป็นไปตามธรรมชาติกำหนด เพื่อล้างสิ่งที่เลวร้ายทั้งคน วิญญาณ และสภาพแผ่นดิน นิเวศน์วิทยาให้ลดลง สิ่งที่ตามมาคือ สภาพสังคม สภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าและชีวิตที่ดีกว่า น้ำหนักของกรรมนั้นบัดนี้เต็มตราชั่งแล้วแต่ ที่ยังกดปุ่มไม่ได้ เพราะน้ำหนักของกรรม (คนบาป คนเลว) ยังกระจายอยู่นอก Killing Zone หรือ พื้นที่กำจัด ​

    ในไม่ช้าจะต้องมีการดลใจและชักนำทางอ้อม ให้เป้าหมาย เคลื่อนย้ายเข้าสู่ คิลลิ่งโซน เมื่อครบน้ำหนัก มหกรรมนั้นก็จะเริ่ม

    เหมือนปลาในบ่อใหญ่ หรือตามคลองหน้าวัด ธรรมดา จะกระจายกันอยู่ ทั่วท้องน้ำ วิธีที่ปลาจะมาออรวมกัน ก็คือ ต้องมีสิ่งล่อใจ เช่น ตามลานบุญ ในวัด ตามหน้าวัด ที่มีการให้อาหารปลา เมื่อมาเต็ม ก็โยนระเบิดปลาใส่ ก็จะจบเรื่อง..เรื่องนี้ก็จะทำนองเดียวกัน

    เมื่อรู้หลักนี้แล้วก็คงจะรู้ไม่ยากว่า การกดปุ่มจะเริ่มเมื่อใด ลองไล่ปฏิทินดู การตายของมนุษย์ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เพราะเป็นการเปลี่ยนสภาพจากเดิม ไปเป็นรูปอื่นที่เป็นเหตุเป็นผลกับกรรมที่ได้ทำไว้ครับ

    โดย อ.อาชวิน(ตาที่สาม)​

    ที่มา http://scratchpad.wikia.com

    หมายเหตุ

    เหตุและปัจจัยของการเกิดภัยสึนามิ เริ่มเข้ามารวมตัวกันอีกแล้วครับ เมื่ออากาศแห้งแล้งร้อนจัด 40-42 องศา คนก็อยากจะไปเที่ยวชายทะเลกันมาก ยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์เดือนเมษายน ซึ่งเป็นปีใหม่ของไทยเราด้วยแล้ว คนยิ่งแห่กันไปเที่ยวชายทะเลกันมากเป็นพิเศษ ​

    การเกิดคลื่นยักษ์พัดเข้าถล่มชายฝั่ง เกิดขึ้นได้ด้วยหลายสาเหตุด้วยกัน เช่นแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง หรือแผ่นดินยุบในอ่าวไทย หรือเกิดพายุใหญ่พัดเข้าชายฝั่งอ่าวไทยแบบพายุนากีส ที่เคยเกิดกับประเทศพม่า หรืออาจเกิดพายุทอร์นาโด พายุงวงช้าง พัดพาเอาน้ำทะเลจำนวนมหาศาลขึ้นมาตามชายฝั่งทะเล หรืออาจจะเกิดจากภูเขาไฟใต้น้ำระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง ก็มีความเป็นไปได้ทั้งสิ้นครับ​

    การตระหนักถึงภัยอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เป็นการตื่นตระหนกแบบกระต่ายตื่นตูม แต่เป็นการตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท เพราะมีตัวอย่างให้เห็นเป็นประจักษ์พยานแล้ว หลายครั้งหลายหนในประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่นประเทศพม่าก็เคยเจอกับพายุนากีส ที่คร่าชีวิตคนที่อยู่ตามชายทะเลไปนับแสนคนมาแล้วครับ ​

    ********************************************​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2009
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ศึกช้างชนช้างกำลังจะเกิดในเร็วๆนี้
    โดยหมอนิด ทำนายเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.51
    [​IMG]
    [​IMG]

    (โปรดใช้วิจารญาณในการอ่าน)

    ประเทศจีนจุดไฟโอลิมปิค...แต่ประเทศไทยมีรัฐมนตรีบางคน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • kk_dn20.jpg
      kk_dn20.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.6 KB
      เปิดดู:
      1,629
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60 KB
      เปิดดู:
      2,757
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2009
  17. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    เออพึ่งนึกออกว่า จากคำเล่าของพี่คนหนึ่ง ที่ได้รับฟังจากพระอาจารย์ บอกว่าซึนามิคราวก่อนเกิดจากแผ่นดินเคลื่อนตัว แต่คราวต่อไปนี่จะเกิดจากภูเขาไฟใต้ทะเลระเบิด และจะเกิดซึนามิเข้าทางอ่าวไทย (คราวนี้จะแรงกว่าคราวก่อนมหาศาล) หลังจากได้ข้อมูลก็ลองๆ ไปหาภูเขาไฟดู ถ้าเกิดทางอ่าวไทยต้องมาทางมาเลย์ ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย หรืออะไรแถบๆ นี้

    ลองๆ ดูเอ่ ไม่เห็นมีอะไรที่น่าจะเป็นไปได้ แต่พอดูภูเขาไฟใต้ทะเลตรงตองก้าระเบิด อือๆ มันมีสิทธิ์ ทำให้ภูเขาไฟใกล้เคียงระเบิด แล้วตรงนั้นสามารถก่อคลื่นยักษ์ชิ่งเข้าอ่าวไทยได้(มั๊ง)
    [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]
    [​IMG]
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เหตุการณ์ในประเทศไทย
    ตลอดปี พ.ศ.2552
    ทำนายโดย...หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)

    [​IMG]

    ในปี 2552 นี้ เป็นปีฉลูซึ่งมีดิถีธาตุดินทั้งดิถีล่างและดิถีบน เป็นปีวัวบ้าที่ดุร้ายมาก จะมาทำลายทั้งเศรษฐกิจ การเมืองที่ร้อนแรงดุเดือด ภัยธรรมชาติที่โหดร้าย นับว่า อันตรายมีทุกด้านครบเครื่อง

    ขอเริ่มที่ เศรษฐกิจ ก่อน ปีนี้จะมีโรงงาน หรือบริษัทหลายแห่งต้องปิดโรงงาน หรืออย่างน้อยก็ต้องลดจำนวนคนงานลงเพื่อความอยู่รอด คนจะตกงานจำนวนมาก แม้แต่คนที่เพิ่งจบออกมาก็ยังหางานไม่ได้ พ่อค้านักธุรกิจจะเครียดกับปัญหาต่างๆ เพราะการค้าซบเซา คนจำนวนมากไม่มีกำลังซื้อ อีกทั้งเงินเฟ้อมาพร้อมกับเงินฝืด ประชาชนส่วนมากจะ “จนพร้อมเพรียงกัน” หรือเรียกว่า จนกระจายไปทั่วทุกหย่อมหญ้า

    พ่อค้าประชาชนไม่หน้าเหี่ยวก็หน้าแห้ง โจรผู้ร้ายจะชุกชุม คดีการปล้นจี้จะเกิดขึ้นมากมาย ยาเสพติดยังระบาดหนักทุกแห่งหน การขายบริการทางเพศจะเกิดขึ้นในหมู่เด็กวัยรุ่นจนน่ากลัว ธนาคาร หรือ สถาบันการเงิน จะต้องตามทวงหนี้มากขึ้นพร้อมทั้งการยึดบ้าน ยึดรถ จะมีมากมาย คดีฟ้องร้องจะรกโรงรกศาลเต็มไปหมด บ้านและที่ดินจะลดราคาลงอีก เพราะผู้คนไม่มีกำลังซื้อแต่จะเป็นโอกาสของคนรวยที่จะซื้อบ้านหรือที่ดินในราคาถูกลง อสังหาหมู่บ้านจัดสรรต่างๆ คงต้องซึมไปอีกอย่างน้อย 2 ปี เต็นท์รถมือสองระส่ำระสาย เพราะตลาดรถเงียบเหงาจนบางเต็นท์ต้องเลิกกิจการไปในที่สุด ราคาน้ำมันในปี 2552 จะไม่สูงบ้าเลือดเหมือนปีที่ผ่านมา คิดว่า อย่างมากก็คงจะขึ้นไปไม่น่าเกิน 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    อัคคีภัยจะเกิดขึ้นหลายแห่ง ทั้งที่ชุมชน โรงงาน บ้านเรือน ภัยแล้งจะมาเยือน ฝนจะน้อยผู้ที่ต้องใช้น้ำในการเกษตรจะเดือดร้อนไปทั่ว ทำให้พืชผลการเกษตรมีปัญหา โรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอจะประสบปัญหารุนแรงจนต้องปิดโรงงานหลายแห่ง รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมรถยนต์ จะได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะยอดขายตกวูบ ตลาดหุ้นจะผันผวนอย่างรุนแรงอย่าประมาทเด็ดขาด ให้ซื้อและตัดกำไรช่วงสั้นๆไปก่อน

    การท่องเที่ยว จะดูซบเซาต่อเนื่อง หากได้เท่ากับปีที่ผ่านมาก็นับว่าดีแล้ว ภัยธรรมชาติ ปีนี้อย่าได้ประมาทกับภัยทางน้ำ สามารถจะเกิดขึ้นและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงทั้งชีวิตและทรัพย์สิน เป็นภัยธรรมชาติที่จะเกิดจากทะเล หากไม่เกิดทางภาคใต้ก็อย่าประมาทภาคตะวันออกซึ่งที่ผ่านมายังไม่เกิดขึ้นมาก่อน ปีนี้ต้องระวัง และขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อย่าประมาทเด็ดขาด

    ผู้ที่มีบ้านเรือนอยู่ริมทะเล หรือผู้ที่มีเรือประมง และเรืออื่นๆ ต้องระวังเป็นพิเศษ แม้แต่ภัยจากแผ่นดินไหวก็สามารถเกิดขึ้นได้อีกในปีนี้ หากเกิดภัยธรรมชาติจากทะเล การท่องเที่ยวจะตกวูบ เศรษฐกิจที่ไม่ดีอยู่แล้วจะยิ่งหนักเป็นทวีคูณ ผู้คนจะแตกตื่นตกใจ และคงจะมีการย้ายที่อยู่จำนวนมาก เพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยอีก

    การเมือง ขอให้จับตามองการเมืองให้ดี เพราะจะเป็นตัวบอกเหตุได้ดีที่สุด ในปลายปี พ.ศ. 2551 ติดต่อถึงปี พ.ศ. 2552 การเมืองจะร้อนแรงและจะเกิดเหตุการณ์ “เลือดทาดิน” ครั้งใหญ่เกิดขึ้น และทหารจะต้องมีบทบาทสำคัญอีกครั้ง สุดท้ายแล้ว ประเทศไทยจะต้องหยุดพักการเลือกตั้งไปชั่วคราว และจะมีนายก ที่มาจากคนกลางหรือ “ฟ้าประทานมา” เพื่อสมานใจประชาชนให้รวมเป็นหนึ่ง

    นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ดวงยังเหนือกว่าพรรคเพื่อไทยอยู่บ้าง แต่กำลังย่างเข้าสู่ปีเคราะห์ใหญ่

    ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2551 และดาวเคราะห์จะเข้าเต็มที่ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2552 ตลอดทั้งปี ดวงของคุณอภิสิทธิ์ไม่ดีมากๆ เตรียมรับศึกหนัก ทั้งปัญหาเศรษฐกิจก็จะแก้ไม่ได้ผล คณะรัฐมนตรีก็ทำงานไม่ได้เต็มที่ประชาชนจะรวมตัวกันชุมนุม เป็นเหตุที่จะนำไปสู่ความรุนแรงถึงขั้นปะทะกัน หรือมีการวางเพลิง วางระเบิดป่วนไปทั่วแทบทุกแห่ง เหตุการณ์จะเริ่มระอุรุนแรงนับตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ได้เป็นนายก และอาจจะอยู่ในตำแหน่งไม่นาน

    ด้าน ดวงของพรรคเพื่อไทย หากได้เป็นรัฐบาล ใครจะเป็นนายกฯ ก็ตาม กฎหมายก็จะตามเล่นงานพรรคเพื่อไทย หรือต้องมีเหตุต้องผจญกับสารพัดมรสุม จนยากที่จะอยู่ได้เช่นกัน เพราะผู้ที่อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทยหลายคน ล้วนแล้วแต่ดวงปิดสนิท ยากมากที่จะควบคุมอำนาจได้ตลอดรอดฝั่ง รับรองจอดไม่ต้องแจว และเป็นไปได้สูงมากที่จะดับอนาคตของผู้ที่อยู่เบื้องหลังพรรคเพื่อไทยไปนานหลายปีทีเดียว

    เหตุการณ์นองเลือดจะเกิดแรงมาก เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล และมีสิทธิ์ที่ทหารจะต้องออกมาหยุดยั้ง หรือทำการปฎิวัติรัฐประหารหากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และการโยกย้ายเปลี่ยนแปลงข้าราชการ หน่วยงานสำคัญต่างๆ จะเกิดขึ้น การเลือกตั้งคงจะต้องปิดปรับปรุงชั่วคราว พร้อมกับหน่วยงาน ป.ป.ช. กกต. สำนักงานดีเอสไอ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะโดนระนาว ไม่เหลือแม้กระทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ หลายจังหวัด

    สิ่งที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ คือบุคคลดัง จะดับชีพ หรือสูญหายก็เป็นไปได้ จะมีพระเถระชั้นสูงมรณภาพ หรือบุคคลสำคัญเจ็บป่วย ประชาชนจะทุกข์ใจเศร้าหมอง บ้านเมืองจะวุ่นวาย ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และความปั่นป่วนจากการเมืองที่แรงที่สุด จนมีคนเสียชีวิต และบาดเจ็บพิการจำนวนมาก

    สุดท้ายบ้านเมืองจะสงบสุขได้ คงหนีไม่พ้นที่จะต้องมี “นายกฯ ที่มาจากฟ้าประทาน” และจะให้สงบสุขยืนยาวจริงๆ นายกฯคนกลางต้องอยู่ยาวประมาณ 4-5 ปี และต้องสรรหาคณะรัฐมนตรีเก่งๆ ใจซื่อมือสะอาด ขยันทำงาน เข้าพบประชาชนทุกจังหวัดเพื่อประสานรอยร้าว หล่อหลอมให้เป็นหนึ่งเดียวทั้งประเทศก่อน จึงค่อยมาจัดการเรื่องการเลือกตั้ง แต่ทหารไม่ควรที่จะมารับตำแหน่งให้เปรอะไปหมดเหมือนในอดีต จึงจะชนะใจประชาชนได้ในที่สุด

    ที่มา: หนังสือพิมพ์ คม.ชัด.ลึก ฉบับวันที่ 29 ธ.ค. 51

    <O:phttp://www.mornid.com/popitems.php?id=598</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • san_fermin.jpg
      san_fermin.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.5 KB
      เปิดดู:
      1,615
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2009
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    เหนือความเชื่อมนุษย์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เตรียมจัดงานน้ำไร้พรมแดนเนื่องในวันน้ำโลก

    [​IMG]

    สำนักข่าวไทย 22 มี.ค. - กรมทรัพยากรน้ำเตรียมจัดงาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...