ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

พบเด็กอัจฉริยะ 6 ขวบ อ่านหนังสือ-บวกเลขหลักแสนได้แม่นยำ​

​

อุบลราชธานี 10 ม.ค.- ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ม.ค.) ที่โรงเรียนเทศบาลวารินวิชาชาติ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้มีการทดสอบสติปัญญาและความสามารถของ ด.ช.วีรพัฒน์ ท่อนจันทร์ หรือน้องน๊อต อายุ 6 ปี นักเรียนชั้นอนุบาล 3/4 ซึ่งเป็นเด็กปัญญาเลิศ มีความสามารถอ่านหนังสือ และบวกเลขหลักแสนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งปกติเด็กในวัยนี้ยังไม่สามารถทำได้ โดยมีคณะครู ผู้ปกครอง และสื่อมวลชนร่วมเป็นสักขีพยาน

ทั้งนี้ในการทดสอบ คณะกรรมการได้นำหนังสือมาให้น้องน๊อตทดลองอ่านออกเสียง ซึ่งน้องน๊อตก็สามารถอ่านได้อย่างสบาย จากนั้นได้ตั้งโจทย์ให้คูณเลขหลักพัน และให้บวกเลขหลักแสน น้องน๊อตก็สามรถคิดคำตอบได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

นางวราพรรณ ท่อนจันทร์ มารดาของน้องน๊อต เปิดเผยว่า ซื้อแบบฝึกหัดการอ่านและการบวกเลขมาให้บุตรชายดูตั้งแต่เล็ก จนกระทั่งอายุได้ 3 ขวบ เมื่อพูดได้ก็จะอ่านออกเสียงจากนิตยสารที่ซื้อมาให้ฟัง ซึ่งการอ่านเริ่มแรกก็ยังไม่คล่อง แต่ต่อมาก็สามารถอ่านได้และบวกลบคูณหารเลขได้อย่างแม่นยำ ผิดจากเด็กวัยเดียวกัน เบื้องต้นทราบว่า จะพบเด็กปัญญาเลิศในประเทศไทยได้ประมาณ 1 ต่อ 200,000 คน และมีการกำหนดหลักสูตรการเรียนการสอนเฉพาะขึ้น ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร

ด้านนางวิไลวรรณ บุญปรุง ครูประจำชั้นของน้องน๊อต เปิดเผยว่า พฤติกรรมของน้องน็อตขณะเรียนรวมกับเพื่อน ๆ ในห้องเรียนนั้น จะโดดเด่นมาก เช่นเมื่อครูให้ทดลองอ่านผสมคำแบบง่ายๆ น้องน๊อตก็จะอ่านออกเสียงขึ้นทันทีหลังจากที่ครูเขียนโจทย์บนกระดานจบ หรือเมื่อตั้งโจทย์ให้ทดลองบวกเลข น้องน๊อตก็จะหาคำตอบได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับบอกเพื่อน ๆ ถึงวิธีการทำ ซึ่งครูต้องคอยเตือนน้องน๊อตไม่ให้บอกเพื่อน ต้องปล่อยให้เพื่อนทดลองทำเองเพื่อเสริมพัฒนาการของแต่ละคน สำหรับการเรียนการสอนของน้องน๊อต ปัจจุบันต้องจัดหาแบบฝึกหัดของชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 2 มาให้เรียน เพราะหลักสูตรชั้นอนุบาลน้องน๊อตสามารถเรียนรู้ได้หมดแล้ว โดยน้องน๊อตจะชอบการบวกลบคูณหารทางคณิตศาสตร์มากที่สุด.- สำนักข่าวไทย

2009-01-10 11:05:16

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

ติดตามอ่านมานาน เอาใจช่วยพี่เกษมครับ ถึงแม้ว่าห้องนี้จะเปลี่ยนไป๋ แต่พี่เกษมก็ยังเหมือนเดิมนะครับ น่าจะเปลี่ยนชื่อห้องได้แล้ว เป็น ......

 

ขอบคุณครับที่คอยเอาใจช่วยให้ผม ความจริงห้องนี้ยังรักษาอุดมการณ์เหมือนเดิมครับ เพียงแต่เราแบ่งงานการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ออกเป็นหลายฝ่ายครับ ผมอยู่ฝ่ายด้านข้อมูลข่าวสาร ก็ให้ข่าวสารไป

ฝ่ายที่อยู่ด้านเตรียมความพร้อมของจิตวิญญาณ เพื่อเข้าสู่โลกยุคใหม่ ก็ให้ความรู้ด้านการฝึกสมาธิ การฝึกอภิญญา การอบรมธรรมะ ให้คนมีจิตวิญญาณที่สูงขึ้นเพื่อเตรียมใช้พลังจิตของตนเอง ในด้านอภิญญาสมาบัติ เข้าช่วยเหลือคนดีมีศีลธรรมให้อยู่รอดต่อไปครับ

ฝ่ายที่อยู่ด้านกองการกุศลต่างๆ ก็ออกชักชวนสมาชิกให้มาร่วมกันทำบุญ สร้างพระ สร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมและหลบภัย เพื่อเป็นการคัดกรองคนดีมีศีลธรรม ให้ออกมาอยู่รวมกัน แยกแยะคนไม่มีศีลธรรมออกไปไม่ให้มาปะปนกัน เพราะภัยพิบัติต่างๆจะเกิดในสถานที่ที่คนไม่ดี ไม่มีศีลธรรมไปรวมตัวกันอยู่มากๆ ครับ

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ก็จะช่วยกันพิมพ์หนังสือธรรมะ และ cd vcd ธรรมะออกเผยแพร่เป็นวิทยาทาน และพิมพ์หนังสือข่าวสารเรื่องภัยพิบัติแจ้งเตือนให้คนทั่วไปได้รับทราบครับ รวมทั้งคอยติดต่อกับกลุ่มปฏิบัติธรรมสายต่างๆ ที่เตรียมตัวเรื่องภัยพิบัติแบบไม่เปิดเผย ให้เข้ามาเชื่อมโยงและช่วยเหลือกันได้ในตอนที่เกิดภัยพิบัติครับ

ฝ่ายตระเวณหาสถานที่หลบภัยในต่างจังหวัด ก็คอยไปสำรวจสถานที่ว่า ที่แห่งไหนพอจะปลอดภัย ที่จะให้คนไปใช้เป็นที่หลบภัยได้บ้าง คอยทำแผนที่การเดินทางที่สามารถหลีกเลี่ยงจากภัยอันตรายต่างๆ ได้ คอยสำรวจชัยภูมิที่เหมาะสมที่จะใช้เป็นแหล่งเก็บเสบียงอาหาร และของใช้ที่จำเป็นในตอนที่เกิดภัยพิบัติครับ

สรุปก็คือกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ แบ่งงานออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ครับคือกลุ่มช่วยเหลือทางด้านร่างกายหรือรูปธรรม กับกลุ่มที่คอยช่วยเหลือทางด้านจิตใจหรือเรียกว่านามธรรมครับ แต่งานช่วยเหลือทางด้านนามธรรมคนทั่วไป มักมองไม่ค่อยเห็นกัน จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญ เช่นการทำเหรียญทำน้ำมนต์ไปอธิษฐานจิตหย่อนไว้ตามแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อป้องกันโรคระบาด ที่จะแพร่มาตามแหล่งน้ำให้กับชุมชนต่างๆ

ที่เห็นกันว่าห้องภัยพิบัตินี้เปลี่ยนไป ก็ด้วยเหตุผลที่ผมได้อธิบายมานี้แหละครับ แต่เป็นการเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เพราะการทำงานของกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ได้ขยายตัวออกไปในหลายๆด้านนั่นเองครับ

 

ท่านผู้เป็นเจ้าภาพโครงการแจกเหรียญทำน้ำมนต์ ได้บอกถึงจุดประสงค์ของการแจกจ่ายวัตถุมงคลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆก็เพื่อที่จะสร้างเขตป้องกันภัย โดยการขอกำลังของพระรัตนตรัย และครูบาอาจารย์ทั้งหลายให้ช่วยลงมาปกป้องทั้งตัวบุคคล และเขตพื้นที่ต่างๆที่ได้มีการนำวัตถุศักดิสิทธิ์ต่างๆไปอธิฐานจิตทำน้ำมนต์บ้างหรือรับพระบรมสารีริกธาตุไปปฏิบัติบูชาบ้าง<O</O
<O</O
ในช่วงที่เกิดสงครามนิวเคลียร์ครั้งใหญ่น้ำฝนที่ตกลงมาในช่วงนั้น จะปนเปื้อนอย่างรุนแรง ซึ่งกัดกร่อนได้กระทั่งเหล็กการที่เรานำเหรียญหรือลูกแก้วจักรพรรดิ์ไปอธิษฐานทำน้ำมนต์อธิษฐานให้น้ำที่ระเหยเป็นเมฆฝนเป็นน้ำมนต์และการรับพระบรมสารีริกธาตุไว้บูชา จึงสามารถช่วยลดความเสียหายอันจะเกิดขึ้นกับบริเวณนั้นๆได้เป็นอย่างดียิ่งเราสามารถช่วยเหลือกันกระจายให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆให้ทั่วทั้งประเทศก็จะยิ่งเป็นการSaveตัวเรา และเพื่อนมนุษย์และหมู่สัตว์ต่างๆให้รอดพ้นภัยให้ได้รับความเสียหายน้อยที่สุด จริงๆแล้วข้อมูลเชิงลึกยังมีอีกเยอะครับ <O</O
<O</O
ตอนนี้งานสำคัญเร่งด่วนที่จะต้องช่วยกันทำให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดก็คืองานทำแหล่งน้ำให้เป็นน้ำมนต์ และปรับภพภูมิสร้างเขตป้องกันภัยนี่หล่ะครับ ดังนั้นใครที่พอจะช่วยเหลือกันได้ ก็เข้ามาอาสาช่วยเหลือ ตามภูมิลำเนาของท่านได้เลยครับ เรามาช่วยเหลือกัน ตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเกิด บุญคุณพ่อหลวงของเรา และที่สุดคือบุญคุณของพระรัตนตรัยที่มากมายจนหาประมาณมิได้ ขอย้ำว่างานของพวกเราไม่ใช่พุทธพานิชย์ แต่เราทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเป็นหัวใจหลักครับ<O</O
<O</O
ขอรับเหรียญและวัตถุมงคลได้จากกระทู้นี้เลยครับ <O</O
http://palungjit.org/showthread.php?t=142323 <O</O
<O</O
ใครอยู่เขตไหนก็เข้าไปช่วยเหลือตามภูมิลำเนาที่อาศัยได้เลยครับ<O</O
http://palungjit.org/showthread.php?t=67366 กลุ่มเชียงใหม่<O</O
http://palungjit.org/showthread.php?t=157813 กลุ่มอีสาน<O</O
http://palungjit.org/showthread.php?t=160677 กลุ่มอุบลราชธานี<O</O
http://palungjit.org/showthread.php?t=152148 กลุ่มชลบุรี<O</O
http://palungjit.org/showthread.php?t=66315 กลุ่มสายน้ำชี<O</O
http://palungjit.org/showthread.php?t=65746 กลุ่มอุดรธานี<O</O
http://palungjit.org/showthread.php?t=160346 กลุ่มขอนแก่น<O</O
http://palungjit.org/showthread.php?t=167637 กลุ่มภาคใต้<O</O

ท่านใดนำเหรียญไปอธิษฐานจิตแล้ว ก็ช่วยโพสบอกกลุ่มท่านด้วยนะครับ หากไม่มีกลุ่มก็โพสในกระทู้แจกเหรียญได้เลย จะได้รวบรวมจดบันทึกเอาไว้ต่อไป ขอบคุณครับ...

 

กรมอุตุ ฯ เผยทุกพื้นที่ของประเทศไทยอากาศหนาวเย็น​

​

กรุงเทพฯ 11 ม.ค.- กรมอุตุนิยมวิทยา เผยสภาพอากาศในเช้าวันนี้ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยต่อไปอีก ทำให้บริเวณประเทศไทยมีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2552 อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง สำหรับกรุเทพมหานคร (กทม.) อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 13-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-28 องศาเซลเซียส ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอากาศหนาวจัดในบางพื้นที่ รวมทั้งบริเวณยอดดอย ยอดภู และบริเวณเทือกเขาสูงจะมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ในบางพื้นที่

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ยังคงมีกำลังแรง ทำให้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไปถึงนราธิวาส มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยคลื่นสูง 2-4 เมตร และบริเวณชายฝั่งของภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีคลื่นลมแรงพัดเข้าหาฝั่ง ขอให้ชาวเรือและชาวประมงระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือเล็กในอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 11-15 มกราคม 2552 .-สำนักข่าวไทย

2009-01-11 07:57:40

อีสานหนาวเย็นแม่คะนิ้งภูกระดึง-ใต้อ่าวไทยคลื่นแรง​

​

เลย, สงขลา 11 ม.ค.- นายคำพัน บุตรราช หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาเลย เปิดเผยว่า ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังแผ่ปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศหนาวเย็นลงต่อไปอีกกับมีลมแรง และคาดว่าอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส

โดยเช้าวันนี้ (11 ม.ค.) อุณหภูมิทั่วไปที่ อ.ภูเรือ อยู่ที่ 6 องศาฯ ต่ำสุดอยู่ที่เขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึง 2 องศาฯ เกิดน้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้งบนยอดหญ้า

นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 11-14 ม.ค.ความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนยังแผ่ปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร การเดินเรือยังต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ซึ่งขณะนี้เรือประมงหลายลำต้องหลบมรสุมเข้าเทียบเท่าอีกครั้ง เพื่อรอให้คลื่นลมสงบ ขณะเดียวกันตามแหล่งท่องเที่ยวชายหาดเจ้าหน้าที่ปักป้ายเตือนให้ระมัดระวังคลื่นซัดขณะลงเล่นน้ำ.- สำนักข่าวไทย

2009-01-11 09:40:20

สธ.มอบหนังสือพระมหาชนกเป็นของขวัญแก่เด็กที่เกิดในวันนี้​

​

นครศรีธรรมราช 10 ม.ค.- ก.สาธารณสุขมอบหนังสือพระมหาชนก ฉบับการ์ตูนให้เป็นหนังสือเล่มแรกสำหรับเด็กที่เกิดในวันเด็กแห่งชาติ 10 ม.ค.52 ตั้งเป้าแจกเด็กเกิดใหม่ปีนี้ 800,000 เล่ม

นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ได้มอบหนังสือพระมหาชนก ฉบับการ์ตูน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เป็นหนังสือเล่มแรก หรือบุ๊คสตาร์ท แก่เด็กที่เกิดในวันเด็กแห่งชาติ ที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 12 คน และอีก 2,500 เล่ม สำหรับเด็กที่เกิดในโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ ในวันนี้ (10 ม.ค.) เพื่อเป็นสื่อให้พ่อ แม่ ลูกใช้หนังสือเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี มีเวลาอยู่ร่วมกันมากขึ้น และเป็นการสอนให้เด็กไทยสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรียนรู้หลักของความขยันหมั่นเพียรและอดทน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ของเด็กไทย

 

อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง

​

ต้นปีนี้อากาศหนาวเย็นมากเป็นประวัติการณ์ครับ บ้านผมอยู่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอุณหภูมิในตอนเช้ามืดประมาณ 14 - 15 องศาเซลเซียส ซึ่งไม่เคยเจออากาศหนาวเย็นแบบนี้มากว่า 30 ปีแล้ว นับว่าเป็นเรื่องแปลกมาก สงสัยปลายปีนี้ อาจจะมีหิมะตกทางภาคเหนือของประเทศไทยก็เป็นได้ครับ

 

ฤดูหนาวในจีนรุนแรงมากขึ้น พื้นที่ส่วนใหญ่อากาศเย็นจัด​

​

จีน 10 ม.ค. - ฤดูหนาวในจีนรุนแรงมากขึ้น พื้นที่ส่วนใหญ่อากาศเย็นจัด ส่งผลกระทบต่อการขนส่งและการเดินทางทั่วประเทศในขณะที่วันตรุษจีนกำลังจะมาถึง

จำนวนยานพาหนะบนถนนทางหลวงของจีนที่เชื่อมมณฑลต่างๆ เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อวันตรุษจีนใกล้เข้ามา แต่สภาพอากาศที่หนาวเย็นส่งผลกระทบต่อการเดินทาง ที่มณฑลกวางต่ง ทางหลวงเชื่อมกรุงปักกิ่งกับเมืองจูไห่ บางส่วนถูกหมอกและน้ำแข็งปกคลุม ทางหลวงทางตะวันตกเฉียงใต้ก็ได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน ถนนหลายสายมีน้ำแข็งปกคลุมทำให้เกิดอุบัติเหตุหลายแห่งและรถติดยาวเหยียด ส่วนทางเหนือที่ทะเลโป๋ไห่ เรือประมงต้องหยุดหาปลาเพราะทะเลเป็นน้ำแข็ง การขนส่งทางเรือถูกปิดบางส่วน เนื่องจากกระแสลมแรงที่มาพร้อมกับอากาศหนาว

ขณะเดียวกันการไฟฟ้าทางใต้ได้เตรียมอุปกรณ์ทำความร้อนไว้เพื่อป้องกันไม่ให้สายไฟฟ้าเย็นเป็นน้ำแข็ง ส่วนการรถไฟของจีนได้เตรียมรถเพิ่มไว้อีก 50 กระบวน และเครื่องปั่นกระแสไฟฟ้า 100 เครื่อง สำหรับใช้ยามฉุกเฉินเพื่อให้แน่ใจว่าการจราจรระหว่างตรุษจีนจะดำเนินไปอย่างราบรื่น. -สำนักข่าวไทย

2009-01-10 19:45:47

ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวคอสตาริกาเพิ่มเป็น 34 คน​

​

วารา บลังกา 11 ม.ค.- ทางการคอสตาริกา ยืนยัน ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวทางภาคกลางค่อนไปทางเหนือของประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 34 คนแล้ว ส่วนผู้สูญหายมี 64 คน

เหตุแผ่นดินไหวในคอสตาริกาเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.1 ตามมาตรริกเตอร์ ด้านโฆษกกระทรวงโครงสร้างพื้นฐาน ระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ทั้งยังได้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว 200 ชีวิต ที่ติดอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งออกมาได้สำเร็จ และได้นำตัวพวกเขาไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว

ผู้ที่รอดชีวิตมาได้ ต่างระบุว่า เหตุแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในฉับพลันทันที ส่งผลให้ดินหินพังถล่มลงมา อาคารบ้านเรือนพังทลายย่อยยับ ก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง ทางรัฐบาลสหรัฐได้ส่งเจ้าหน้าที่กองทัพ 34 นาย และเฮลิคอปเตอร์ 4 ลำ ไปช่วยเหลือ เนื่องจากพื้นที่ประสบภัยบางแห่ง ยากต่อการเข้าถึง จึงต้องพึ่งเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยอพยพคนบาดเจ็บ และโยนสิ่งของช่วยเหลือลงไปให้ผู้ประสบภัย

ด้านเจ้าหน้าที่กาชาดเผยว่า มีประชาชนมากกว่า 1,200 คน ติดค้างอยู่ในบ้านหรือในเมือง โดยถูกตัดขาดจากโลกภายนอก.- สำนักข่าวไทย

2009-01-11 12:06:54

ผู้นำฮามาสระบุการโจมตีต่อเนื่องของอิสราเอล ปิดโอกาสสร้างสันติภาพ ​

​

ฉนวนกาซา 11 ม.ค. - อิสราเอลยังคงถล่มโจมตี กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้นำฮามาส ระบุการโจมตี ที่เกิดขึ้น ทำให้โอกาสที่จะสร้างสันติภาพกับอิสราเอลจากการเจรจายุติลง

นายคาเหล็ด เมชาล ผู้นำฮามาส ซึ่งอยู่ที่กรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย กล่าวว่าการถล่มโจมตี ของอิสราเอล เป็นการทำลายล้างครั้งใหม่ ซึ่งทำให้โอกาสที่จะหาทางยุติการโจมตีด้วยการเจรจาหมดไป อย่างไรก็ตามเขายังคงเปิดช่องสำหรับการเจรจาหยุดยิงเพื่อให้อิสราเอลยุติการโจมตีฉนวนกาซา แต่ก่อนที่การเจรจาจะเริ่มขึ้น อิสราเอลจะต้องยุติการโจมตี ถอนกำลังออกจากฉนวนกาซา และยุติการปิดล้อมเมืองกาซาเสียก่อน นายเมชาล ยังได้เรียกร้องให้ชาวอาหรับออกมาชุมนุมประท้วง เพื่อกดดันบรรดาผู้นำและประชาคมโลกด้วย

สำหรับสถานการณ์การสู้รบนั้น ในช่วงรุ่งเช้าวันนี้ กองกำลังอิสราเอลยังคงโจมตีเมืองกาซา อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ได้มีการเตือนว่าจะขยายการโจมตีออกไปเป็นวงกว้างมากขึ้น การโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว เกือบ 900 คน ส่งผลให้มีการชุมนุม ประท้วงในหลายประเทศ โดยที่กรุงวอชิงตันของสหรัฐ เมื่อวานนี้ ได้มีประชาชน อย่างน้อย 1,000 คน ออกมาเดินขบวนประท้วงตามถนนสายต่างๆ

ข้ามไปทางยุโรป ที่กรุงปารีส ของฝรั่งเศส ประชาชนหลายพันคน พากันเดินขบวนไปตามถนนสายต่าง ๆ และมีการเผาธงชาติอิสราเอล รวมทั้งมีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลด้วย ส่วนที่กรุงลอนดอน ของอังกฤษ ประชาชน ราว 20,000 คน ได้จัดการชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์ในสวนสาธารณะไฮด์ พาร์ค แต่ต่อมา สถานการณ์รุนแรงขึ้น มีการทำร้ายตำรวจปราบจลาจล จนมีผุ้ถูกจับกุมไป 24 คน.-สำนักข่าวไทย

2009-01-11 12:53:19

อิสราเอลโปรยใบปลิวในกาซา ย้ำเตือนจะขยายปฏิบัติการทางทหาร​

​

เยรูซาเลม 11 ม.ค. - อิสราเอลโปรยใบปลิวในกาซา และส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือเป็นภาษาอาหรับ เตือนให้ชาวปาเลสไตน์เพิ่มความระมัดระวัง และให้อยู่ห่างไกลจากที่ทำการของกลุ่มฮามาส เพราะอิสราเอลเตรียมจะขยายปฏิบัติการทางทหารในกาซาให้เข้มข้นขึ้น

อิสราเอลระบุว่า การโจมตีกาซานับจากวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้อิสราเอลกวาดล้างสถานที่สำคัญของกลุ่มติดอาวุธฮามาสไปแล้วหลายสิบแห่ง ทั้งแหล่งซ่องสุมอาวุธ อุโมงค์ลักลอบขนอาวุธ และสถานที่ที่กลุ่มฮามาสใช้เป็นจุดยิงจรวดเข้ามาโจมตีอิสราเอล

ด้านเจ้าหน้าที่แพทย์ในกาซา บอกว่า ยอดผู้เสียชีวิตในกาซาพุ่งเกิน 850 คนแล้ว หลังถูกอิสราเอลโจมตีนาน 16 วัน โดยจำนวนผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย เด็ก 270 คน ผู้หญิง 93 คน และมีเจ้าหน้าที่แพทย์เสียชีวิตร่วมด้วย 12 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมีสูงถึง 3,490 คน. -สำนักข่าวไทย

2009-01-11 09:00:23

อัล กออิดะห์ในอิรักเรียกร้องให้ต่อต้านยิวและโจมตีสหรัฐ​

​

ดูไบ 10 ม.ค. - ผู้นำกลุ่มกองกำลังที่เชื่อมโยงกับ อัล กออิดะห์ ในอิรัก ได้โพสต์ในเว็บไซต์อิสลามเรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์ทั่วโลกลุกขึ้นโจมตีชาวยิวและสหรัฐ เพื่อแก้แค้นให้กับพี่น้องชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ที่ถูกอิสราเอลโจมตีจนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากในขณะนี้

คำแถลงดังกล่าวเป็นของนายอาบู โอมาร์ อัล บักดาดี ผู้นำรัฐอิสลามแห่งอิรัก พร้อมกันนั้นก็เรียกร้องให้ชาวอิรัก ซึ่งเป็นชาวอาหรับเช่นเดียวกับชาวปาเลสไตน์ต้องไม่ปล่อยให้ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ต้องตกเป็นเหยื่อความโหดร้ายของอิสราเอลโดยไม่ทำอะไรเลย จะต้องร่วมกันตอบโต้ด้วยการโจมตีพวกอเมริกันที่มายึดครองอิรัก

คำกล่าวนี้เป็นการสนับสนุนคำแถลงชองนายไอยมาน อัล ซาวาห์รี ผู้นำอันดับ 2 ของเครือข่ายก่อการร้ายอัล กออิดะห์ ที่ออกมาเรียกร้องเมื่อวันอังคาร ให้ชาวมุสลิมทั่วโลกลุกฮือขึ้นมาโจมตีเป้าหมายต่าง ๆ ในโลกตะวันตกและอิสราเอลเพื่อแก้แค้นให้กับพี่น้องชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา.- สำนักข่าวไทย

2009-01-10 15:15:00

ประชาชนหลายพันคนชุมนุมประท้วงเหตุโจมตีฉนวนกาซาในสหรัฐ​

​

อิสราเอล 10 ม.ค. - ประชาชนหลายพันคนชุมนุมในนครชิคาโกของสหรัฐเพื่อประท้วงที่อิสราเอลโจมตีฉนวนกาซา

ผู้ประท้วงคนหนึ่ง บอกว่า เขาชุมนุมประท้วงเพื่อแสดงให้เห็นว่า เขาสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ ผู้ประท้วงอีกคนหนึ่งบอกว่า การประท้วงแสดงให้เห็นว่าคนจำนวนหนึ่ง รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในโลกโดยเฉพาะในปาเลสไตน์ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ต้องยุติลง การประท้วงที่นครชิคาโกเกิดขึ้นในขณะที่ทั้งอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ต่างไม่สนใจเสียงเรียกร้องให้หยุดยิงของสหประชาชาติ อิสราเอลเริ่มโจมตีทิ้งระเบิดฉนวนกาซาตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 ธันวาคมโดยอ้างเหตุผลว่าเพื่อยุติกลุ่มฮามาสไม่ให้ยิงจรวดโจมตีภาคใต้ของอิสราเอล ความรุนแรงทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตแล้วเกือบ 800 คน ในจำนวนนี้เป็นสตรีและเด็กถึงครึ่งหนึ่งส่วนชาวอิสราเอลเสียชีวิต 13 คน. -สำนักข่าวไทย

2009-01-10 15:14:15

ยุโรปประท้วงอิสราเอลโจมตีฉนวนกาซา​

​

ยุโรป 11 ม.ค. - หลายประเทศทั่วยุโรปชุมนุมประท้วงสงครามในตะวันออกกลางที่เข้าสู่วันที่ 15 แล้ว ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ

ที่กรีซ กลุ่มพันธมิตรยับยั้งสงคราม ร่วมกับชาวบ้านและชุมชนชาวอาหรับ รวมตัวประท้วงที่หน้าสถานทูตอิสราเอลในกรุงเอเธนส์ เพื่อเรียกร้องให้อิสราเอลถอนทหารออกจากฉนวนกาซา ส่วนที่บอสเนีย ชาวกรุงซาราเยโวร่วมกับกลุ่มนักศึกษาชาวปาเลสไตน์ ร่วมชุมนุมกันที่จัตุรัสกลางเมืองหลวง เรียกร้องให้อิสราเอลยุติการเข่นฆ่าพลเรือนในกาซา

ขณะที่กรุงปารีสของฝรั่งเศส กลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคนออกมาแสดงพลังสนับสนุนปาเลสไตน์ และต่อต้านอิสราเอล แม้ว่าหลายฝ่ายได้พยายามที่จะหาทางยุติการสู้รบระหว่างกองกำลังอิสราเอลกับกลุ่มนักรบฮามาส แต่ทั้งสองฝ่ายกลับไม่สนใจข้อเรียกร้องให้หยุดยิง ขณะที่เจ้าหน้าที่การแพทย์ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 821 คนแล้ว. -สำนักข่าวไทย

2009-01-11 05:05:56

โบอิ้งประกาศจะปลดคนงานกว่า 4,000 คน ​

​

สหรัฐ 10 ม.ค. - โบอิ้ง บริษัทผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของสหรัฐประกาศจะปลดคนงานประมาณ 4,500 คน หรือ 7 % ของจำนวนคนงานในส่วนเครื่องบินพาณิชย์

โบอิ้งประกาศแผนดังกล่าวเมื่อวานนี้ โดยอ้างความต้องการเครื่องบินใหม่ที่ลดลง ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจโลกที่ทรุดหนักมากขึ้น การปลดคนงานจะเริ่มขึ้นที่โรงประกอบเครื่องบิน สำหรับเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ในเมืองซีแอตเทิล และในพื้นที่อื่นๆ ภายในปลายปีนี้จำนวนนักเดินทางโดยเครื่องบินลดลงทั่วโลก ท่ามกลางความตกต่ำทางเศรษฐกิจ คำสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารใหม่ของโบอิ้งลดลงเหลือ 662 ลำ เมื่อปีที่แล้ว ลดลงจากปีก่อนถึง 53 เปอร์เซ็นต์ โบอิ้งตัดสินใจปลดคนงานเพื่อรับมือกับการลดลงของคำสั่งซื้อเครื่องบิน จากบริษัทสายการบิน. -สำนักข่าวไทย

2009-01-10 15:15:21

คนอังกฤษแห่ทิ้งสัตว์เลี้ยงในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี​

​

ลอนดอน 11 ม.ค.- แม้อังกฤษจะเป็นชนชาติที่ได้ชื่อว่ารักสัตว์ แต่องค์กรการกุศลหลายแห่งระบุว่า คนอังกฤษแห่ทิ้งสัตว์เลี้ยงกันมากขึ้น ในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา เพราะพวกเขาไม่มีเงินมากพอที่จะเลี้ยงดูสัตว์อีกต่อไป

หน่วยงานสงเคราะห์สัตว์หลายแห่ง ต่างวิตกว่า สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจอังกฤษเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ องค์การสงเคราะห์สัตว์แห่งชาติ บลู ครอสส์ ระบุว่า เมื่อปีที่แล้ว มีคนอังกฤษแห่ทิ้งสัตว์เลี้ยงกันมากขึ้นถึงร้อยละ 56 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เพราะประสบปัญหาทางการเงิน ส่วนสัตว์ที่ถูกนำมาปล่อยทิ้งกลางถนนมีเพิ่มขึ้นร้อยละ 67

แบทเทอร์ซี ดอกส์ แอนด์ แคทส์ โฮม ซึ่งเป็นองค์การสงเคราะห์สัตว์อีกแห่งในกรุงลอนดอน รายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า พบสุนัขจรจัดในกรุงลอนดอนเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ตัว เป็นผลมาจากปัญหาเศรษฐกิจซบเซา และการปรับเปลี่ยนข้อกฎหมาย ที่ทำให้สุนัขจรจัดมีมากขึ้น

แบทเทอร์ซี ดอกส์ แอนด์ แคทส์ โฮม ยังแนะนำวิธีเลี้ยงสุนัขและแมวแบบประหยัดในช่วงเศรษฐกิจฝืดเคือง โดยบอกว่าควรให้พวกมันได้กินอาหารแห้งแทนที่จะเป็นอาหารกระป๋อง และควรซื้ออาหารสัตว์แบบขายส่งแทนที่จะซื้อแบบขายปลีก เพราะจะมีราคาถูกกว่า ส่วนของเล่นและที่นอนที่ผลิตขึ้นมาเฉพาะสัตว์เลี้ยง ก็ไม่ควรซื้อมาใช้ เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองรายจ่ายมากกว่าเดิม. -สำนักข่าวไทย

2009-01-11 11:07:07

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

ช่วงนี้เท่าที่สัมผัสได้ มีภัยหนาวอันเป็นภัยเงียบเข้ามาในช่วงเวลานี้ เมื่อเช้านี้มีผู้สูงอายุในต่างจังหวัดหลายท่านเสียชีวิตเนื่องจากสู้อากาศหนาวแบบเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ไปหลายท่านแต่ไม่มีข่าวเนื่องจากเป็นการวินิจฉัยว่า เกิดจากความสูงอายุ

ช่วงนี้รักษาสุขภาพกันเอาไว้มากๆครับ ห่มผ้าหนาๆ ใส่เสื้อหนาวเอาไว้ให้อุ่นไว้

 

รอดตายมาได้เพราะเรียนรู้วิธี
"เอาตัวรอดจากภัยพิบัติ"​

​

นายสกล การพจน์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/288 แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. ได้พา นายชลสิทธิ์ การพจน์ อายุ 24 ปี บุตรชาย ประกอบอาชีพอาจารย์สอนถ่ายภาพ และกราฟฟิกดีไซน์ ที่ Art Institute แคลิฟอเนียร์ สหรัฐอเมริกา เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุเพลิง ไหม้ผับซานติก้า พร้อมกับขอตรวจสอบทรัพย์สินที่เจ้าหน้าที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ โดยพบกล้องถ่ายภาพยี่ห้อแคนนอน EOS 10D พร้อมแฟลชในสภาพเสียหายถูกไฟไหม้เกรียม

นายสกล กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุลูกชายได้ไปเที่ยวที่ซานติก้าพร้อมกับพี่ชาย คือ นายเมธี การพจน์ อายุ 30 ปี อาชีพครูสอนภาษาอังกฤษที่สถานบันภาษาแห่งหนึ่งที่ห้างเซ็นทรัล สาขาปิ่นเกล้า เพื่อฉลองปีใหม่ ลูกชายเล่าให้ฟังว่าก่อนเกิดเหตุตอนนั้นทั้งสองอยู่หน้าเวทีแสดงดนตรี โดยชลสิทธิ์ กำลังถ่ายภาพบรรยากาศภายในผับอยู่ ขณะนั้นก็เห็นว่าบทเวทีมีการใช้เอฟเฟ็กซ์ประกอบการแสดงเป็นลูกไฟพุ่งขึ้นไป ลักษณ์เป็นสะเก็ดไปโดนของตกแต่งภายในร้านที่ห้อยอยู่ด้านบน นอกจากนี้ยังมีเอฟเฟ็กซ์บางส่วนที่อยู่หลังวงดนตรีก็ทำให้เกิดสะเก็ดไฟติด ผ้าม่านของตกแต่งเช่นกัน

นายสกล กล่าวด้วยว่า หลังผ่านไปประมาณ 30 วินาทีไฟก็ลามไปทั่ว คนในร้านก็แตกตื่น ส่วนชลสิทธิ์ กับพี่ชายก็พยายามหาทางหนี แต่ถูกฝูงผลักดันจนแยกกันไปคนละทาง โดยนายชลสิทธิ์ มาทางบันไดลงชั้นใต้ดิน เห็นผู้หญิงหกล้มกองกันอยู่หลายคน จึงทิ้งกล้องแล้วเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็ถูก ดันลงไปตามบันได ช่วงนั้นก็ได้ยินเสียงดังขึ้นคล้ายของชิ้นใหญ่หล่นจากเพดานลูกชายเลยคิดว่า กลับขึ้นไปไม่ได้แล้วจึงพากลุ่มแขกที่หลงมาด้วยกันเป็นชาย 5 คน หญิง 15 คนช่วยกันหาทางออกที่ชั้นใต้ดินแต่ก็ไม่พบ จึงนำพวกเขาเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตูกันไฟลามเข้า

โดยลูกชายได้แนะนำให้ทุกคนช่วยกันเอาน้ำในชักโครกออกมาราดที่พื้น และให้นำเสื้อไปชุบน้ำมาปิดจมูกไว้เพื่อกันควัน จากนั้นทั้งหมดได้นั่งรออยู่ในห้องน้ำกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้ามา ช่วยเหลือออกไปได้ นายสกล กล่าวว่า ส่วนบุตรชายคนโตนั้นมาทราบภายหลังว่ารอดชีวิตมาได้แต่อาการสาหัสตามร่างกาย ถูกไฟไหม้ไปกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู ชั้น 3 โรงพยาบาลเจ้าพระยา เพื่อรอดูอาการอีกครั้ง ทั้งนี้ตนดีใจที่เห็นลูกชายทั้งสองคนรอดชีวิตมาได้

โดยเฉพาะลูกชายคนเล็กซึ่งเกิดและศึกษาอยู่ที่สหรัฐ ซึ่งเขาบอกว่า ในชั้นเรียนที่สหรัฐนั้นเขาจะสอนวิธีการเอาตัวรอดจากภัยพิบัติ ต่างๆ เช่น ถ้าเกิดแผ่นดินไหวต้องทำอย่างไร ถ้าไฟไหม้ต้องคลานต่ำเพราะควันจะลอยสูง หรือถ้าเข้าที่อับให้เอาผ้าชุบน้ำปิดจมูกช่วยการหายใจ ให้กับเด็กและเยาวชนในประเทศของเขา ซึ่งจุดนี้ทำให้ลูกชายนำมาใช้เอาตัวรอดและช่วยเหลือคนอื่นๆ จากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้มาได้

ที่มา http://news.sanook.com/crime/crime_333808.php

การช่วยเหลือเมื่อเกิดไฟไหม้

เมื่อเกิดไฟไหม้ ให้ควบคุมสติ ผู้ใหญ่ต้องช่วยเด็กที่อยู่ในที่นั้นออกมา ด้วยวิธีการดังนี้

1. ใช้ผ้าห่มหนา ๆ ห่อหุ้มเด็ก แล้วรีบหาทางออกจากสถานที่เกิดเหตุนั้นทันที

2. ถ้าที่เกิดเหตุมีควัน ห้ามวิ่งออกไป เพราะว่า 80%ของผู้เสียชีวิตในกองเพลิง เกิดจากการสำลักควันและขาดอากาศหายใจ ที่เป็นก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์และไอร้อน ดังนั้น วิธีหนีควันไฟ คือ คว่ำหน้าหมอบลงกับพื้นแล้วค่อย ๆ คืบคลานไปสู่ทางออก ให้ใช้ผ้าชุบน้ำปิดปาก ปิดจมูกเพื่อป้องกันการสำลักควัน

3. หากไฟไหม้ในห้องที่ไม่มีคนอยู่ และไม่มีใครอยู่ในนั้นแน่นอน ให้รีบปิดประตูห้องนั้นให้มิดชิด ไฟที่กำลังไหม้จะลดกำลังลงและอาจดับไปได้เอง อย่าเปิดห้องเป็นอันขาด เพราะจะทำให้ไฟลุกลามมากขึ้น รอให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาจัดการดูแลต่อไป

4. ถ้ามีความจำเป็นจริงๆ ที่ต้องเปิดประตูห้องที่ไฟกำลังลุกท่วมนั้น หาผ้าหนา ๆ ชุบน้ำพันที่ลูกบิดประตู และเปิดประตู เข้ามาหาตัวผู้เปิด โดยผู้เปิดยืนอยู่หลังประตู เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟที่ลามออกมาเผาตัวผู้เปิด

5. ถ้าเข้าไปติดอยู่ในห้องที่ไฟกำลังลุกลามใกล้มาถึง ให้ใช้ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว ชุบน้ำเปียก ๆ แล้วอุดไว้ตามร่อง ประตูและช่องต่าง ๆ ในห้อง เพื่อกันไม่ให้ควันไฟเล็ดลอดเข้ามาได้ แล้วตะโกนเรียกคนช่วย โทรศัพท์แจ้ง 191 และโทรศัพท์เรียกรถดับเพลิง

6. ควรมีซ้อมป้องกันอัคคีภัย ที่เป็นวิธีการฝึกการเรียนรู้ การควบคุมอารมณ์ การวางแผนการหนีเพลิง และอื่น ๆ

การปฐมพยาบาลเมื่อพบผู้บาดเจ็บจากไฟไหม้

1. ใช้น้ำสะอาด ราด รด หรือแช่ผู้บาดเจ็บจากไฟลวก เพื่อลดความเจ็บปวดของบาดแผล หยุดการทำลายจากความร้อน

2. หากผู้บาดเจ็บสวมแหวน นาฬิกา กำไล ให้รีบถอดออก เพราะไม่นานบริเวณที่ถูกความร้อนจะเกิดอาการบวม

3. ปิดแผลด้วยผ้าปิดแผล ถ้าหาไม่ได้ให้ใช้ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอนหรือผ้าปูที่นอนพันบาดแผลไว้ และรีบนำส่งโรงพยาบาล

ที่มา ศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัย และป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก

http://www.csip.org/csip/index_new.php

วีดีโอแนะนำ ข้อปฏิบัติ และ คำเตือนต่างๆ เมื่อเกิดอัคคีภัย คลิ๊กดูได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

http://dsin.blogspot.com/2008/08/blog-post_03.html

 

โปรดช่วยกันดูแลคนดี ​

​

เพลงโปรดช่วยกันดูแลคนดี

กว่าจะมีคนที่ดี ดี ซักคน ยอมอุทิศตนเพื่อคนส่วนใหญ่
กว่าจะเจอคนที่เราเห็น ว่าเป็นคนใช่ ต้องรอนานเท่าใดจึงได้มา

แต่คนดีก็อยู่กับเราไม่นาน โดนแรงเสียดทานโถมจนพ่ายล้า
ใครโง่ไม่เป็น ใครเด่นเกินไป ต้องโดนคนว่า ทำถูกใจช้า ยังด่าทอ

ใช้คนดีเปลืองฝืดเคืองคำชม โยนเรื่องทับถมถึงทนก็ท้อ
เมื่อทำดียากใครอยากจะทำดีต่อ ก่อนที่คนดีจะท้อจึงร้องขอแรงส่งมา

* โปรดช่วยรักษาคนดี เชิดชูคนที่เสียสละ
ไม่ถูกใจบ้างบางเวลา อย่าด่วนกล่าวหาจนถอดใจ
โปรดช่วยดูแลคนดี ให้มีศักดิ์ศรีและยิ่งใหญ่
ปกป้องคนดีให้มีชัย เพื่อให้ใครใครอยากทำความดี

อยากให้มีคนที่ทำดี มากมาย ยืนหยัดสู้ไหวแรงใจมากมี
กว่าจะเจอก็อยากนักหนา ควรรักษาให้ดี ใช้เพชรที่เรามี อย่างรู้ค่า


<LI class=album>อัลบั้ม / Album : ชุดที่ 2 ถนนค้นฝัน <LI class=artist>ศิลปิน / Artist : ตั๊กแตน ชลดา ค่ายเพลง / Label : GMM

ที่มา http://radio.sanook.com/lyric.php?songID=72329

 

มะรุจิ เรามองไปในอนาคตแล้วรุสึกว่าอีก 60 ปีค่อยเกิดอะนะ -*-


(ปล. คำทำนายของผู้อ่อนหัดจ้า -*-)

 

ผมคิดว่าเจ้ากรรมนายเวร เขาคงไม่ยอมทนรอนาน ถึงขนาดนั้นหรอกครับ

​

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>

ภาพวาดพระอรหันต์จี้กง​

พระพุทธะจี้กงประทับทิพย์ญาณเมตตาว่า...​

กัปป์สุดท้ายกาลจวนเจียน เจ้ากรรมนายเวรติดตามทวงหนี้ ต่างก็รอบุญกุศลและให้โอกาสแล้วมาร้อยกว่าปี แต่มาบัดนี้ไม่มีใครสร้างบุญกุศลชดใช้ ไม่ตั้งใจปฏิบัติบำเพ็ญ เจ้ากรรมนายเวรได้กราบทูลร้องขอความเป็นธรรมต่อพระแม่องค์ธรรม ​

พระแม่องค์ธรรมได้ตรวจสอบดูก็เป็นเช่นนี้จริง จึงบัญชาอนุญาตให้เจ้ากรรมนายเวร ติดตามทวงหนี้ประชิดตัวได้อย่างเต็มที่ได้ทุกเวลาทุกวินาที ไม่ต้องมีการต่อรองเวรกรรมกับพระวิสุทธิอาจารย์เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ใครมีหนี้กับใครก็จัดการทวงหนี้เลยได้ทันที (เก็บคนชั่วไม่บำเพ็ญ) ​

เนื่องจากคนก่อกรรมทำชั่วไว้มากมาย ถึงแม้สิ่งศักดิ์สิทธิ์พระพุทธะ พระโพธิสัตว์ทั้งหลายต่างก็ลงมาโปรดกล่อมเกลาส่งเสริม หลายต่อหลายครั้ง แต่เวไนยก็ยังหลงไม่รู้ตื่น สร้างบาปมากมาย อีกทั้งยังไม่สร้างบุญกุศลบรรลุปณิธาน ศิษย์อย่าได้ชะล่าใจจะไม่ทันกาล ตอนนี้ต้องเร่งรับส่งเสริมนำพาเวไนยปฏิบัติงานธรรม เน้นที่สุดส่งเสริมคนทั้งหลายเร่งปฏิบัติบำเพ็ญจริง ทุกๆขณะเวลาให้เห็นงานอริยะสำคัญกว่างานอื่นใด ​

บัดนี้เป็นการร่อนตะแกรงฟ้าครั้งสุดท้าย ภัยพิบัติครั้งนี้มีเพียงแต่ผู้บำเพ็ญมุ่งมั่นปฏิบัติธรรมจริงจะมีชีวิตรอด (20%) และจะเป็นผู้เก็บศพเวไนย ภัยจะเกิดทุกวัน ให้ระวังทุกขณะ สิ่งใดที่มนุษย์สร้างขึ้นใหม่ก็จะกลับคืนสู่ธรรมชาติ สิ่งใดมาจากทะเลกลับคืนสู่ทะเล อาจจะมีบางประเทศหายไป ภัยรอบตัวหน้าหลังซ้ายขวา​

ศิษย์ที่มั่นคงพร้อมไม่กลัว ต้องสำนึกด้วยใจจริงแท้ และจากนี้ไป การบำเพ็ญธรรมจะยากลำบากขึ้น ของตั้งใจให้ดี ศิษย์เอ๋ยบัดนี้พระอาจารย์ไม่สามารถแบกรับหนี้กรรมให้ลูกศิษย์ได้อีกแล้ว โอกาสสุดท้ายแล้วในครั้งนี้มุ่งมั่นทำงานธรรม เร่งรีบสร้างบุญกุศลบรรลุปณิธาน มุ่งมั่นทำงานฟ้า ฟ้าไม่ทอดทิ้ง ละทิ้งอัตตากิเลสวางส่งเสริมงานธรรม ​

ณ พุทธสถานเฉิงเต๋อ ประเทศมาเลเซีย
วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2548
ชั้นเรียนส่งเสริมทบทวนพิเศษ 1 วัน​

</TD></TR><TR><TD align=middle>

ที่มา http://thai.mindcyber.com/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=314​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

อุบัติภัยใกล้ตัวอย่างหนึ่ง คือภัยจากคน

ในยุคแห่งการล่อลวงและเบียดเบียน โดยผู้มาจากนรกภูมิ







"กราบแทบเท้าแม่ที่เคารพรักเป็นอย่างสูง

แม่ครับ ตอนนี้ผมโดนจับที่อินเดีย นี่ก็เป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้ว ก็ไม่รู้จะได้กลับเมื่อไร คดียังไม่เสร็จ เดินเรื่องช้ามาก

จะติดต่อให้ทูตช่วยก็ติดต่อไม่ได้เลย ที่ผมได้ส่งจดหมายมาได้เพราะ ได้เจอกับทหารไทยที่มาประเทศอินเดีย เขาให้ความช่วยเหลือเป็นธุระช่วยส่งจดหมายให้ผม

ตอนนี้ผมก็ลำบากพอสมควร เพราะทางเถ้าแก่เมืองไทย เขาไม่รับผิดชอบให้ความช่วยเหลืออะไรเลย

มีแต่ทางอินเดีย ที่เขาให้เพียงแต่ข้าวกินไปวันหนึ่ง เสื้อผ้า สบู่ ยาสีฟัน ของใช้ต่างๆ ก็ไม่มีเงินให้ซื้อ

แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผม ผมทำใจได้ เป็นห่วงเพียงแม่คนเดียว

สุดท้ายนี้ ผมขออำนาจของหลวงพ่อทวด ช่วยคุ้มครองแม่ผมให้มีสุขภาพที่แข็งแรง ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บ มีอายุยืนยาวตลอดไปด้วยเทอญ"



รักและเทิดทูนแม่เสมอ

" ลูกแม่ "





จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายฉบับสุดท้ายที่ลูกเรือประมงไทยรายหนึ่งได้เขียนถึงแม่ของเขา ด้วยความหวังว่าจะได้กลับมาอยู่ดูแลแม่หลังจากออกจากคุกที่ประเทศอินเดีย แต่สุดท้าย สิ่งที่ผู้เป็นแม่ได้รับกลับเป็นเถ้ากระดูกของลูกชายเพียงเท่านั้น...

นี่เป็นเพียงหนึ่งในจดหมายหลายฉบับของลูกเรือประมงไทยที่โดนกักกันและถูกจับกุมคุมขังอยู่ในคุกต่างแดน หลังจากที่พวกเขาได้ตรากตรำทำงานหนักกลางทะเล ไม่รู้วันไม่รู้เวลา มีชีวิตที่เสี่ยงตายอยู่ทุกวินาทีท่ามกลางทะเลมรสุม เพื่อแลกกับค่าแรงที่แสนต่ำ และเป็นผู้รับกรรมจากความโลภมากและความเห็นแก่ตัวของผู้ประกอบการที่ไม่ได้คำนึงถึงขอบเขตน่านน้ำในการหาปลาที่ถูกต้องตามกฎหมาย สุดท้ายถูกจับ กลายเป็นนักโทษ ต้องทนทุกข์อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ โดยไม่ได้รับการเหลียวแลจากผู้ประกอบการ ไร้หนทางกลับบ้าน และมีชีวิตอยู่อย่างสิ้นหวัง...

เรือโฉบ
"เรือประมงไทยส่วนใหญ่ในอ่าวไทยหาปลาไม่ได้ เรือที่หาปลาได้คือเรือที่ไปวันเดียวหรือไปสองวันสามวันกลับ พวกที่ออกไปไกลต้องรับสัมปทาน คือมีไลเซ่นส์ (ใบอนุญาต) เรือประมงไทยมีเป็นพันๆ ลำครับส่วนหนึ่งขอสัมปทาน ส่วนหนึ่งไม่ขอ พวกนี้, ภาษาของคนเรือเรียกว่า 'เรือโฉบ' คือโฉบไปเอา (ปลา) เลย พวกนี้โฉบไปสักประมาณเดือนสองเดือน ล้ำน่านน้ำเข้าไป ตักเลย แล้วก็รีบวกกลับเข้ามา

"แต่บางกรณีโฉบไปแล้วไม่ทัน คือโฉบรอบหนึ่งเป็นล้านนะครับ ดังนั้นเขาบอกว่านี่เป็นสิ่งที่ต้องลงทุน ผมคุยกับผู้ประกอบการเรือบางคน เขาบอกว่า โฉบกันทั้งนั้น โดยเฉพาะที่อินโดนีเซียเกาะแก่งมันเยอะ และมีกระแสน้ำเย็นกับน้ำอุ่นไหลมาชนกันดังนั้นจึงเป็นที่ที่มีปลาเยอะมาก เรือก็ไปโฉบ ปรากฏว่าพวกโฉบถูกจับ พอถูกจับปุ๊บ โดยปกติแล้วเจ้าของเรือต้องไปไถ่เรือกับไถ่ลูกเรือออกมา แต่บางที่มันทิ้งเลย ไถ่แต่เรือ 5 ล้านบาท เรือลำหนึ่งมูลค่า 10 ล้าน มันไถ่แต่เรือ 5 ล้าน แต่ลูกเรือไม่ไถ่..."

เอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ปฎิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเรือประมงไทย เอกลักษณ์ทำงานต่อต้านการค้ามนุษย์มาเป็นเวลาห้าปี เขาเอาตัวเองลงไปคลุกคลีอยู่กับตำรวจ โจร และผู้คนสารพัด งานถนัดของเขาส่วนมากจะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงอันตรายทั้งนั้น หมั่นคอยหาข่าว และเฝ้าสังเกตดูสถานที่และพฤติกรรมของบุคคลที่น่าสงสัย ดูๆ ไปการทำงานของเขาก็ไม่ต่างกับสายลับเท่าไหร่...

"...หลังจากนั้นลูกเรือจะถูกจับติดคุก ถูกจับปล่อยเกาะ ที่อินโดนีเซียมีหลายเกาะ โดยเฉพาะมีเกาะหนึ่งชื่อ 'เกาะตรวน' ที่นั่นมีลูกเรือไทยติดอยู่เป็นร้อยคน ติดทั้งคุก ติดทั้งแบบถูกปล่อยทิ้งไว้ ลูกเรือจะเขียนจดหมายกลับมาเพื่อขอความช่วยเหลือ บอกว่าจะมีทางไหนที่จะช่วยเหลือเขาได้บ้าง ที่อินโดนีเซียก็จะเป็นแบบว่า มึงต้องจ่ายเงินไถ่ คือไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะเจ้าหน้าที่เขาอยากให้ลูกเรือไถ่ตัว เขาต้องการเงิน ไม่ต้องการให้ติดคุก แต่เจ้าของเรือไม่สนใจ มึงถูกจับติดไป กูหาลูกเรือใหม่ เขาก็ติดคุกอยู่อย่างนั้น ก็จะมีลูกเรือเขียนจดหมายมาหาครอบครัว, ครอบครัวก็พยายามประสานงาน ตอนนี้เรากำลังช่วยเหลือเคสแรงงานแบบนี้อยู่ที่อินโดนีเซีย 8 คน"

ขาดแคลนแรงงานกว่า 10,000 อัตรา
ภาวะการขาดแคลนแรงงาน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความต้องการแรงงานเพื่อป้อนสู่ตลาดและกระบวนการผลิต เป็นลักษณะอุปสงค์ และอุปทาน เมื่อมีความต้องการมาก จึงมีความพยายามในการนำแรงงานลงเรือประมงด้วยวิธีการและรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันอุตสาหกรรมประมงและประมงต่อเนื่องมีอัตราการขาดแคลนแรงงานกว่า 10,000 อัตรา

"จะบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี น้ำมันแพงอะไรก็แล้วแต่ ยังไงเรือก็ต้องออกหาปลา เพราะว่าเรือเขาทำมาลำหนึ่งเป็นสิบล้าน แล้วออกไปรอบหนึ่ง บางทีได้เงินคืนมานับสิบล้านเลย รอบเดียว ปีเดียว สิบล้าน แล้วออกไปอีกมันก็เป็นกำไร คือมันมหาศาล เพราะว่าประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศที่หาปลาได้มากที่สุดในโลก เราเป็นประเทศเล็กๆ แต่ติด 1 ใน 5 ของโลก ดังนั้นลองคิดดูว่าติด 1 ใน 5 เรือประมงจะเยอะขนาดไหน แต่ตัวเลขเรือประมงที่แท้จริงมันหาคำตอบลำบากมาก เพราะว่าเรือผีเยอะ"

เมื่อมีความต้องการแรงงานเยอะ ดังนั้นจึงเกิดอาชีพนายหน้าคอยล่อลวงคนไปขายให้เรือประมง

"นายหน้ามันจะได้ค่าหัว, หัวหนึ่ง 10,000-30,000 ต่อคน นั่นหมายความว่าถ้ามันเอาคนไปส่งสิบคนมันจะได้เท่าไหร่ สามแสน! ใช่ไหมครับ มันเลยหากินกับเรื่องนี้กันเป็นว่าเล่นเลย ไอ้พวกนี้เวลาคนลงรถมามันจะเข้าไปถามเลย น้องไปไหน มีรถไหม มันจ้องอยู่แล้ว คนที่ลงรถมาเหลอๆ หลาๆ แบบไม่รู้จะไปไหน นั่นแหละ โดน!"

ส่วนใหญ่คนที่ตกเป็นเหยื่อจะเป็นคนที่มากรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก พูดตรงๆ ว่ามาจากบ้านนอก การศึกษาน้อย แล้วไม่มีงานทำ ไม่มีที่ไป กลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยง และเป็นเพศชายร้อยเปอร์เซ็นต์ อายุ 14 - 60 ปี ส่วนลักษณะและวิธีการล่อลวงก็มีหลายแบบ เช่น ใช้วิธีการพูดคุยชักชวนแบบปกติ ใช้สารออกฤทธิ์ต่อประสาท ใช้สารเสพติด - ของมึนเมา และใช้กำลังประทุษร้าย...

"อย่างที่สมุทรปราการมียามสามคนโดนหลอกลงเรือ ไปโผล่ที่สงขลา คุยกันถูกคอ เขาเลี้ยงกาแฟ ตื่นขึ้นมาอีกทีก็อยู่บนเรือแล้ว เรามีเคสเด็ก 15 ปีจากบุรีรัมย์ บอกว่าเดินอยู่ที่ห้องน้ำที่หมอชิต เดินแล้วก็มีคนเดินสวนออกมา แล้วรู้สึกว่าตัวเองมือไม้อ่อน แล้วก็หมดสติ จนมารู้ตัวอีกทีก็อยู่บนเรือแล้ว นอกจากนี้ยังมีวิธีการล่อลวงโดนปิดประกาศรับสมัครงานตามสถานีขนส่งต่างๆ มันเป็นพวกงานที่ไม่ค่อยบอกรายละเอียด อย่าง รับสมัครพนักงานด่วน ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ รายได้ดี แล้วก็มีเบอร์โทรศัพท์ ก็ไม่รู้ว่างานอะไร เนี่ย, ป้ายประกาศลักษณะนี้ต้องระวังไว้ให้ดี"

คาราโอเกะของคนหลอกลวง
นอกจากนี้ยังมีการเปิดร้านคาราโอเกะเอาไว้ล่อลวงคนไปขายอีกด้วย...

"มีร้านคาราโอเกะที่สงขลา ที่น่าสนใจ ผมให้ดูรูป (เอกลักษณ์เปิดรูปร้านคาราโอเกะที่ว่าให้ดู) ร้านคาราโอเกะที่สงขลามีลักษณะเป็นร้านค่าหัว คือบางร้านทำร้านไว้เฉพาะเพื่อการนี้เลย ให้ดื่มกินจนเมามาย เต็มที่เลย เช็กบิลมาเป็นหมื่น อ้าว, มึงไม่มีเงินเหรอ ลงเรือใช้หนี้ มีผู้หญิงไว้บริการด้วย กินฟรี เอาฟรี เต็มที่ แล้วก็ใช้หนี้ หรือบางทีกินให้เมา มึน หลับไป ยกลงเรือ เดี๋ยวมันมีภาพที่น่าสนใจอยู่ร้านหนึ่ง ร้านนี้ขึ้นชื่อเลย สายเราบอกว่าร้านนี้เป็นร้านค่าหัวแน่นอน ชัวร์, พอคนเมาแล้วมันก็เอาไปขังไว้ข้างบน คือลักษณะหน้าต่างจะตีปิดตายจากข้างนอก ดูสิครับ (ชี้ให้ดูภาพหน้าต่างที่ถูกปิดตาย) มันตีปิดตายเลย กันไม่ให้คนออกมา"

เอกลักษณ์บอกว่าตั้งแต่ปี 2549 ศูนย์ปฎิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้รับเคสเกี่ยวกับเรื่องคนถูกล่อลวงมาจนถึงปัจจุบันประมาณ 60 กรณี ตอนแรกเป็นเรื่องคนหายออกจากบ้าน พ่อแม่มาแจ้งว่าลูกตัวเองมาทำงานกรุงเทพฯ แล้วขาดการติดต่อไปเลย

"เราก็นึกว่าไปทำงานที่ไหนหรือเปล่า สุดท้ายลูกกลับมาบอกว่า ถูกหลอกไปลงเรือประมง มันก็มีเคสเข้ามาเรื่อยๆ จนถึง 60 กว่ากรณี คราวนี้เราลงพื้นที่ไปที่จังหวัดสงขลา หน่วยงานที่นั่นเขาบอกว่ามีเคสเข้ามาปีละประมาณ 50 เคสที่ถูกหลอก อันนี้เฉพาะที่เข้าถึงนะครับ หมายถึงเข้ามาแจ้งว่าตัวเองถูกหลอก ถูกค่าหัว ภาษาค้ามนุษย์เรียกว่า 'ถูกค่าหัว' เราก็เข้าไปดูข้อมูล ปรากฏว่ามีแก๊งต่างๆ อยู่จริง โดยเฉพาะเรื่องประมงนอกน่านน้ำ ออกเรือไป 1-5 ปีไม่กลับเข้าฝั่ง ต้องการคนไปทำงานตั้งแต่ 20-50 คนต่อเรือหนึ่งลำ ส่วนใหญ่เจ้าของเรือจะจ้างไต้ก๋ง คือผู้ควบคุมเรือ บอกว่าเอาไปเลยหนึ่งล้าน จัดการทั้งหมด ไต้ก๋งก็จะเป็นคนหาคน ดังนั้นไต้ก๋งก็เลยพยายามลดต้นทุนของตัวเองโดยการไปซื้อคนแบบนี้มาโดยไม่ต้องจ่ายค่าจ้าง หมายความว่าเขาจ่ายให้นายหน้าสามหมื่นบาทเพื่อไปหาคนให้เขา เขาก็ไม่ต้องจ่ายค่าแรงของคนคนนี้แล้ว ดังนั้นมันจึงเกิดภาวะแบบนี้ขึ้นมา"

นายหน้า, ขาใหญ่!
เอกลักษณ์บอกว่าลักษณะของนายหน้าจะมีอยู่ 3 กระบวนการ คือ นายหน้ารายย่อย อยู่ตามหมอชิต สนามหลวง หัวลำโพง วงเวียนใหญ่ และสวนรมณีนาถ (หน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร) ตรงนี้เป็นแหล่งใหญ่ และมีคนโดนหลอกเยอะ

"ขบวนการมันเป็นอย่างนี้ครับ คือ นายหน้ารายย่อยส่งให้นายหน้ารายใหญ่ ไอ้พวกนี้มาส่งปุ๊บทีละคนสองคน ขังไว้จนได้ประมาณ 5-6 คน แล้วค่อยเอาไปส่งที่ท่าเรือ แล้วก็จะมีนายหน้าที่ท่าเรือคอยรับป้อนตามเรืออีกทอดหนึ่ง (เอกลักษณ์เอาภาพถ่ายให้ดู) นี่เป็นเครือข่ายจริงๆ นะครับ ผู้ต้องหาจริง คนนี้ (ชี้ไปที่ภาพใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่ง) ปฏิบัติการอยู่ที่หลังวัดดงมูลเหล็ก โซนพวกนี้จะเดินตามหมอชิต สนามหลวง วงเวียนใหญ่ ผลัดเปลี่ยนกันไป"

(ชี้ไปที่ภาพบ้านหลังหนึ่งที่ปิดประตูและมีซี่ลูกกรงเหล็กล้อมรอบแน่นหนา) "แล้วนี่ก็คือบ้านของพวกมันที่ใช้ในการขังคน ผมไปเฝ้ามาแล้ว ลักษณะบ้านวางรั้วลวดหนามไว้ มีคนโดนซ้อมในนี้ วิ่งหนีออกมาขอความช่วยเหลือ แล้วก็ถูกลากกลับไป พวกนี้วางสายไว้เป็นวินมอเตอร์ไซค์ตามซอยต่างๆ เวลามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจะถูกเคลียร์หมด และที่สำคัญจะมีรถแท็กซี่มาส่งเหยื่อประมาณตีสี่ตีห้าทุกวัน คือพวกแท็กซี่ส่วนหนึ่งแอบแฝงเป็นนายหน้าในการหาคนมาส่งที่บ้านหลังนี้"

ถามว่าบ้านผิดสังเกตขนาดนี้ ชาวบ้านเขาไม่สงสัย และไม่แจ้งตำรวจหรือ ?

"มันเส้นใหญ่ครับ! เขาแจ้งไปแล้ว แต่พวกนี้มีสายป่าน บ้านหลังนี้เสิร์ชในอินเตอร์เน็ตปรากฏว่า ถูกจับไม่ต่ำกว่าสิบครั้งแล้ว แต่มันดำเนินการอะไรไม่ได้... (เอกลักษณ์เอาภาพเด็กหนุ่มคนหนึ่งให้ดู) อันนี้คือผู้เสียหายจริงๆ นะครับ เขากำลังชี้ให้ดูจุดเกิดเหตุบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สนามหลวง เขาถูกมอเตอร์ไซค์รับจ้างหลอก เดินๆ อยู่มอเตอร์ไซค์รับจ้างขับมาเทียบ ถามว่าจะไปไหน เด็กบอกว่ามาหางานทำ อ๋อ, เดี๋ยวพาไปส่ง แล้วเขาก็พามาส่งที่นี่(ชี้ไปที่บ้านหลังเดิมในแฟ้ม) ชุมชนหลังวัดดงมูลเหล็ก บ้านหลังนี้ล่ะครับ อันนี้ผมพาผู้เสียหายไปชี้มาแล้ว"

(เปิดภาพบริเวณสนามหลวง) "และนี่เป็นที่สนามหลวงครับ คนนี้ญาติมาแจ้งว่าหลานหาย จนกระทั่งหลานกลับมา บอกว่าถูกหลอกไปลงเรือ คนนี้ชื่อตั๊กไปลงเรือที่สงขลา แล้วก็ออกมาเพราะว่าเรือไปแวะเติมน้ำมันกับไปแสตมป์ตั๋ว เขาหนีไปให้ตำรวจจับ ติดคุกที่มาเลเซีย 4 วัน แล้วถูกผลักเข้ามาทางด่านสุไหงโก-ลก คนนี้หนีออกมาได้ อยู่ในระหว่างการดำเนินคดี"

เอกลักษณ์บอกว่าวงเวียนใหญ่น่าสนใจตรงที่มีบริษัทจัดหางานอยู่ 5 ที่ เขาปลอมตัวเข้าไปสมัครงานทั้ง 5 ที่ เขาพบว่างานที่ติดประกาศไว้ตามป้าย พอเข้าไปสอบถามดู คนข้างในจะบอกว่าเต็มหมดแล้ว แต่มีงานให้ทำที่มหาชัย ไม่พูดรายละเอียดเรื่องงาน บอกแต่เพียงว่าเก็บกระเป๋าแล้วมาเลย ทุกที่เป็นเหมือนกันหมดคือไม่บอกรายละเอียดเรื่องงาน นั่นหมายความว่าถ้าเป็นคนจากต่างจังหวัดมาไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ตกรถมา ยืนอยู่วงเวียนใหญ่ ยังไงก็เจอพวกมันแน่นอน

ขาใหญ่มาก!
(เอกลักษณ์เปิดภาพให้ดูอีก) "อันนี้สวนรมณีนาถ ที่มีการหลอกลวงกัน เดี๋ยวผมให้ดูอีกภาพหนึ่ง (เอาภาพบรรดานายหน้าทั้งหลายให้ดู) มันมีโครงสร้างโครงข่ายของมันทั้งหมดเลยนะพวกนี้ มีเอเย่นต์ มันก่อคดีอะไรยังไงบ้าง มีหมด มีลูกน้องกี่คน เนี่ย, ไอ้คนนี้ขาใหญ่มาก (ชี้ไปที่ภาพผู้ชายคนหนึ่ง) ผมจับมันมาสองครั้งแล้ว แต่มันหลุดทุกครั้ง ขาใหญ่, ไอ้หมอนี่ทำมาเป็นสิบปีแล้ว (ชี้ไปที่ภาพผู้ชายอีกคน) ไอ้ตัวนี้ก็ทำเหมือนกัน แต่ว่าถูกยิงตายไปแล้ว ทำอยู่ที่บ้านหลังนี้แหละ ส่วนไอ้หมอนี่ปัจจุบันมันก็ยังทำอยู่ ถูกจับแล้ว อีกวันหนึ่งมันก็ทำต่อ"

ที่ได้ข้อมูลมาขนาดนี้ เป็นเพราะเอกลักษณ์ลงพื้นที่ไปคุยกับตำรวจบ้าง คุยกับโจรบ้าง คุยกับหลายคน เขาเอาตัวเองเข้าไปในหลายๆ จุดที่ไม่ปลอดภัย บางอย่างต้องใช้เงินซื้อ ซื้อสาย ซื้อข่าว คุยกับตำรวจบางคนที่ไว้ใจได้ แต่ตำรวจบางคน เอกลักษณ์บอกว่า มันเป็นพวกเดียวกับโจร!

"ตำรวจน้ำดีก็มีที่เขาทำมา แล้วเอาข้อมูลมาจอยกัน เรามีผู้เสียหายมาชี้รูปให้ดู มีคนส่งอีเมลมาหาผมบอกว่า ถ้ามีปัญหาเรื่องการค้นข้อมูลอะไรให้ส่งอีเมลหาเขาได้เลย ผมไม่รู้จักว่าเขาเป็นใคร แต่ผมเข้าใจว่าเขาเป็นตำรวจ เขาก็จะส่งรูปส่งอะไรต่างๆ มาให้ผม คือมันก็มีตำรวจน้ำดีบางคนเขาอยากช่วยเหลือ แต่เขาออกหน้าออกตาไม่ได้ แต่บางอย่างต้องจ่ายเงิน"

นอกจากนี้ยังมีจดหมายลับๆ ส่งมาถึงเขา ไม่ลงชื่อ ไม่ลงอะไร บอกแค่ว่ามีข้อมูลตรงนั้นตรงนี้... "เฮ้ย, น้องเอาจดหมายที่เขาส่งมาให้พี่หน่อย"(เอกลักษณ์ตะโกนบอกน้องทีมงานผู้หญิง, เราหันมองตาม โอ... - เออว่ะ แปลกดี, สายลับสมัยนี้เป็นเด็กแนวด้วย)

"นั่นแหละ มีคนส่งมาที่นี่หลายฉบับเลย คนนี้มีสายสัมพันธ์กับคนนี้นะ คนนี้อะไรกับคนนี้ยังไงบ้าง บางคนเขาก็เตือนว่า พวกคุณน่ะทำอะไรเขาไม่ได้หรอก พวกนี้เขาเส้นใหญ่! มีสายสัมพันธ์ที่... พอสืบดูจริงๆ แล้วจะรู้ว่า ผู้ประกอบการส่วนหนึ่งมีฐานมาจากเรื่องการเมือง เป็นนักการเมือง อยู่ตามกรรมาธิการต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญที่แบบ โอ้โห... มันก็แก้ยากจริงๆ คือเขาก็จะมองในแง่ของการปกป้องสิทธิ์ตัวเอง... เนี่ย, (หยิบจดหมายมาให้ดู) ส่งมาโดยตรงถึงผมเลย แล้วพิมพ์ดีดมาเพื่อไม่ต้องการให้รู้ว่าเป็นใคร ไม่ใส่ที่อยู่ ไม่ใส่อะไร แต่มาจากสมุทรสาคร คือแหล่งท่าเรือประมง แล้วดูเนื้อในเขาพิมพ์มาเลย เขาบอกละเอียดเลยว่ามีกลุ่มไหนบ้าง มีห้องเย็นไหนบ้าง มีรถบรรทุกใครบ้าง โรงงานไม่มีชื่อ มีบ้านพักคนงานละ 60-70 คน เป็นข้อมูลแบบลับๆ มีคนที่มีตำแหน่งใหญ่โตด้วย"

เป่าคดี...
(เอกลักษณ์เปิดแฟ้มภาพคนร้ายให้ดูอีก) "เนี่ย! พวกนี้ไปจับมาหมดแล้วนะครับ ไอ้คนนี้(ชี้รูปชายคนหนึ่ง) อยู่ที่หมอชิต เป็นขาใหญ่ ชื่อไอ้... ไปจับมาแล้ว แต่หลุด คดีหลุด คือท้ายสุดแล้วผมคิดว่าผู้บังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะตำรวจก็มีปัญหาพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหน่วยไหน ตำรวจพื้นที่ก็ไม่กล้าขยับอะไรมาก เพราะว่าสายสัมพันธ์ความเป็นเจ้าของเรือ ความเป็นนักการเมืองท้องถิ่นมันบีบให้เขาทำอะไรมากไม่ได้ ปัญหาภายในก็เยอะพอสมควร และที่สำคัญคือผมเชื่อว่ามันมีการคอรัปชั่นเกิดขึ้นในหน่วยงาน หลายคดีไปแบบ... ถ้าพูดภาษาเทคนิค บางอย่างมีการเป่าคดี บางอย่างมีการเรียกรับเงิน คือคดีล้มไปเลย หรือแบบพนักงานสอบสวนไม่ดำเนินการต่อ บางทีไม่เรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำ ไม่ดำเนินการ แล้วก็ปล่อยให้เรื่องมันเงียบหายไป จนตัวผู้เสียหายเองไม่อยากดำเนินคดี"

เอกลักษณ์บอกว่าตอนนี้เคสที่อายุต่ำสุดคือ 14 ปี โดนหลอก เด็กคนนี้บ้านอยู่บุรีรัมย์ กำลังรอขึ้นรถไฟที่หัวลำโพง เพื่อกลับบ้าน...

"เด็กถูกหลอกบริเวณนี้ครับ (ชี้ที่เกิดเหตุบริเวณด้านข้างก่อนขึ้นสถานีรถไฟใต้ดิน) เด็กคนนี้นั่งอยู่ มีคนมาชวนคุย เป็นชั่วโมง ไม่ได้คุยเรื่องงานเลย คุยเรื่อง... เอ้ย, จะไปไหนไอ้หนู เด็กก็บอกจะกลับบ้าน เออ, มาอยู่กรุงเทพฯ เป็นยังไง... พูดคุยแบบไว้เนื้อเชื่อใจกันเลย เหมือนเป็นคนบ้านนอกด้วยกัน สุดท้ายก็บอกว่า ไปทำงานก่อนไหม ตอนนี้เอ็งไม่มีเงินกลับบ้าน, กลับบ้านไปก็อายเขา ไปทำงานก่อนไหม เดือนละเก้าพัน ไปทำแค่สามเดือน กินอยู่พร้อม

"เด็กเขาก็ซื้อตั๋วกลับบ้านแล้วนะครับ เขารอขึ้นขบวนรถไฟตอนเช้ามืด ขนาดเขาซื้อตั๋วกลับบ้านแล้วเขายังหลงเชื่อ เด็กก็ไปกับเขา มันก็พาไปปากน้ำ ไปที่ชุมชนตรอกมะพร้าว

แล้วก็พาเด็กลงเรือ พอเด็กลงเรือไปก็ เฮ้ย! กูถูกหลอกหรือเปล่าวะ คนบนเรือ ก็คือคนที่เคยไปทำงานมาแล้ว แบบพวกไปแบบสมัครใจ

เขาก็บอกเด็กว่า เฮ้ย, เอ็งน่ะถูกขายมาแล้ว นั่นแหละ เด็กก็เลยกระโดดน้ำ ตรงปากอ่าวไทย ไกลพอสมควร ออกไปประมาณครึ่งชั่วโมงจากปากน้ำ แล้วตรงนั้นมันจะมีทุ่นลอยน้ำอยู่ เป็นทุ่นนำร่องน้ำลึก

เด็กเห็นทุ่นก็เลยกระโดดน้ำ แล้วว่ายน้ำไปลอยคออยู่ครึ่งชั่วโมง คือถ้าไม่มีทุ่นเด็กก็ตาย จนกระทั่งมีเรือน้ำมันมาช่วย"





เด็กคนนี้อาจจะโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ แต่แรงงานประมงโชคร้ายหลายคนยังคงรอคอยความช่วยเหลือ สิ่งที่พวกเขาต้องการก็เพียงได้กลับสู่ผืนแผ่นดินไทยอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอน และพวกเขาก็ได้แต่เฝ้าตั้งตารอ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี... ถึงแม้หนทางจะดูริบหรี่ แต่เราก็ได้แต่หวังว่า สักวันหนึ่งพวกเขาจะได้กลับบ้าน...





ติดต่อ : ศูนย์ปฎิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา
โทรศัพท์ 02-642-7991-2 ต่อ 11, โทรสาร 02-642-7991 ต่อ 18
อีเมล : info@notforsale.in.th
www.notforsale.in.th , www.mirror.or.th














<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ค้ามนุษย์! จดหมายฉบับสุดท้าย... จากแรงงานประมงไทย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 มกราคม 2552 19:51 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เมื่อทำบุญ คุณหวังสิ่งใด<O</O
<O</O

ทำบุญเพื่อจรรโลงใจ สิ่งที่ได้คือความปีติ<O</O
คิดดี พูดดี ทำดี สิ่งเหล่านี้ ก็คือบุญ<O</O
รู้จักคิด รู้จักทำ รู้จักให้ ถ้าทำได้ นี้ก็บุญ
อย่ายึดติดกับสิ่งใด ถ้าทำได้ ยิ่งมีบุญ<O</O
ความสุข หามิยาก ถ้าทุกข์ยาก หมั่นทำบุญ<O</O
<O</O

ความสุขที่เราได้ จงจำไว้ อย่าละบุญ<O</O
มนุษย์เรามีสิ่งใด เมื่อจากไป ทิ้งแต่บุญ
ทำดี เมื่อยังอยู่ ท่านเขารู้ ผู้มีบุญ<O</O
ความดีมิไปไหน อยู่ใกล้ๆ คนมีบุญ
จงจำไว้ให้มั่น อยากหมดกรรม หมั่นทำบุญ


<O</Oด้วยความปรารถนาดีจาก... ลุงสามตา...
<Oขออนุโมทนา สาธุบุญ ในความเพียร</O
<Oในการทำความดีของท่านทุกๆคนด้วยเถิด</O​

 

พระมหากษัตริย์ผู้ต่อสู้กับความยากจนของประชาชน จากคำบอกเล่าของพระอรหันต์

<TABLE class=tborder id=post1674769 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 20-11-2008, 06:47 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #897 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>worawee watsanachin<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1674769", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Feb 2005
อายุ: 41
ข้อความ: 82
<IF condition="">
</IF>พลังการให้คะแนน: 61


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1674769 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->เรื่องต่อไปเป็นเรื่อง ปาฏิหาริย์สมเด็จพระนเรศวร
จาก http://palungjit.org/showthread.php?t=83864

เกร็ดย่อย

โดยส่วนตัว ผมคิดว่าท่านที่มาแสดงปาฏิหารย์ให้ปรากฏ น่าจะเป็นพรหมหรือเทพองค์ใดองค์หนึ่งที่มีบารมีใกล้เคียงกัน มาทำหน้าที่ปกปักรักษาพระบรมอัฐิ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแทนพระองค์ที่วัดวรเชษฐ์

เพราะเคยได้อ่านเรื่องเล่าของครูบาอาจารย์หลายองค์ที่กล่าวไว้ว่า สมเด็จพระนเรศวรท่านมาเกิดแล้วเกิด คราวนี้พระองค์ก็ยังคงทำสงครามอยู่ตลอดชีวิตของท่าน สงครามคราวนี้ไม่ใช่สงครามที่ใช้อาวุธรบราฆ่าฟันกัน แต่เป็นการทำสงครามที่ต่อสู้กับความยากจนของประชาชน ซึ่งเป็นพสกนิกรของพระองค์ท่าน..
<O
ผมมาต่อให้อีกนิด... หลวงปู่บุดดา ถาวโร เคยกล่าวกับลูกศิษย์ใกล้ชิดว่า พระนเรศวรในชาตินี้ ท่านมาเกิดและโตในต่างประเทศ และจะกลับมาเป็นพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย ถ้าเอาให้ใกล้อีกนิด ท่านเกิดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่มลรัฐอะไรหลายคนน่าจะรู้แล้ว....

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=148528&page=45

 

ประชาชน 7,000 คน อพยพหนีอุทกภัยในมาเลเซีย​

​

กัวลาลัมเปอร์ 12 ม.ค. - ตำรวจมาเลเซีย กล่าวว่า ฝนมรสุมที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้สถานการณ์น้ำท่วมเลวร้ายลงอีกในรัฐซาราวัก บนเกาะบอร์เนียว ของมาเลเซีย ชาวบ้านกว่า 7,000 คน ต้องอพยพออกจากพื้นที่

ผู้บัญชาการตำรวจรัฐซาราวัก กล่าวว่า ประชาชน 7,042 คน ต้องย้ายไปที่ศูนย์อพยพชั่วคราวในเช้าวันจันทร์ ภายหลังน้ำท่วมบ้านเรือนในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ฝนหยุดตกแล้ว แต่อาจมีคลื่นสูงซัดเข้ามา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นท่วมพื้นที่ต่ำในวันจันทร์ และอังคารนี้ แต่สถานการณ์อาจดีขึ้นในวันพุธ ทั้งนี้ มาเลเซียมักประสบภัยพายุฝน และน้ำท่วมทางภาคตะวันออก ในช่วงฤดูฝนระหว่างเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ทุกปี .-สำนักข่าวไทย

2009-01-12 11:52:34

เรือล่มที่อินโดนีเซียพร้อมคนบนเรือ 250 คน​

​

จาการ์ตา 11 ม.ค. - กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียแจ้งว่า เรือข้ามฟากพร้อมผู้โดยสาร 250 คนอับปางท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายทางฝั่งตะวันออกของประเทศ ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่ามีผู้รอดชีวิตเท่าใด

นายจัสมาน ไซอาฟี ดจามาล รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียเผยว่า ได้รับแจ้งว่ามีผู้ถูกนำตัวขึ้นจากเรือข้ามฟาก 150 คน แต่ไม่ทราบว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเสียชีวิตแล้ว ขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารบนเรือ 250 คน สภาพอากาศเลวร้ายเพราะมีพายุทำให้เกิดคลื่นสูง 5-6 เมตร ก่อนหน้านี้โฆษกกระทรวงคมนาคมแถลงสั้น ๆ ว่า ได้รับแจ้งว่ามีผู้รอดชีวิต 18 คน

ด้านนายเทาฟิค บูลู หัวหน้าฝ่ายความปลอดภัยทางทะลที่ท่าเรือปาเรปาเรเผยว่า เรือข้ามฟากแล่นออกจากท่าของเกาะสุลาเวสีเมื่อวันเสาร์เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองซามารินดา จังหวัดคาลิมันตันตะวันออกแต่ประสบปัญหาคลื่นลมรุนแรงและอับปางลงเมื่อเวลา 04.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น.

 

*** คลาดแคล้วด้วยสัจจะ ****

ภาพที่ท่านแสดง คือ กรรมมาถึงตัว
พระพุทธเจ้า มีตัวกระทำ ด้วยสัจจะทำ
กรรมเก่าๆที่เคยทำ จึงตามไม่ทันถึงตัว

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6619 ข่าวสดรายวัน


วังผู้ดีโร่ขอโทษ-เจ้าชายหมิ่นมุสลิม



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 11 ม.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สำนักพระราชวังประเทศอังกฤษออกแถลงการณ์ขอโทษสังคมแทน "เจ้าชายแฮร์รี่" องค์รัชทายาทลำดับ 3 ภายหลังหนังสือพิมพ์หัวสีชื่อดัง "นิวส์ออฟเดอะเวิลด์" นำคลิปวิดีโอมาเปิดแฉว่าพระองค์ใช้คำพูดไม่เหมาะสม ดูหมิ่นเหยียดหยามคนเชื้อสายเอเชีย อาหรับ และชาวมุสลิม

รายงานแจ้งว่า คลิปดังกล่าวบันทึกไว้ช่วงที่เจ้าชายแฮร์รี่เข้ารับการฝึกทางทหารที่โรงเรียนนายร้อยแซนด์เฮิร์สต์ เมื่อปี 2549 มีทั้งทรงถ่ายทำเองและพระสหายเป็นคนถ่าย ล่าสุด กองบรรณาธิการนิวส์ออฟเดอะเวิลด์นำมาโพสต์ลงในเว็บไซต์เผยแพร่ไปทั่วโลก

คลิปชิ้นแรก เจ้าชายแฮร์รี่ถ่ายขณะเพื่อนทหารนอนรอเครื่องบินกองทัพอากาศมารับไปฝึกในไซปรัส เมื่อหันกล้องไปเจอทหารหนุ่มเชื้อสายเอเชีย พระองค์ตรัสว่า "ดูสิมีใครอยู่แถวนี้อีกมั่ง, โอ้..นั่นไงเพื่อนปากีตัวน้อยของเรา, อาเหม็ด" ซึ่งคำว่า "ปากี" ในสังคมอังกฤษถือเป็นคำดูหมิ่นคนเชื้อสายเอเชียใต้จากยุคอาณานิคม ป?ญญาชนไม่สมควรใช้คำนี้

คลิปที่เป็นปัญหาอีกชิ้นบันทึกโดยพระสหายเจ้าชายแฮร์รี่หลังเดินทางไปถึงไซปรัสแล้ว พระองค์คุยล้อเล่นกับเพื่อนร่วมหน่วยที่เอาผ้ามาคลุมหัว ทำให้เผลอพูดออกไปสนุกๆ ว่า "แดนให้ตายเถอะ นายดูเหมือนพวกแร็กเฮดจริงๆ" ซึ่ง "แร็กเฮด" หรือ "ไอ้แขกโพกหัว" คือคำที่ชาวอังกฤษใช้พูดเหยียดหยามคนเชื้อสายอาหรับ-มุสลิมอย่างรุนแรง นอกจากนั้น ในคลิปชุดเดียวกันยังมีภาพพระองค์ตรัสล้อเลียนควีน หรือสมเด็จพระราชินี อลิซาเบธที่ 2 พระอัยยิกาด้วย

สำนักพระราชวังอังกฤษแถลงว่า เจ้าชายแฮร์รี่เข้าใจดีว่า "ปากี" เป็นคำไม่สมควรพูด แต

 

พึ่งดูข่าวมาเรือขนคนที่อินโดล่ม กลางทะเล คนหายไป250ชีวิต น่าสงสารคนที่รอดมากค่ะรอดแค่20คนเอง

 

​

^^ มาร่วมแผ่เมตตากันค่ะ ^^​

http://watthummuangna.com/Praysound.htm​

​

เชิญพระเข้าตัว แผ่บุญปรับภพภูมิส่งวิญญาน ​

สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา
พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง
อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส ​

( 5 จบ ) ​

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD style="PADDING-LEFT: 20px; PADDING-BOTTOM: 15px"></TD><TD class=Article_Detail style="PADDING-RIGHT: 10px; PADDING-LEFT: 5px; PADDING-BOTTOM: 15px"></TD></TR></TBODY></TABLE>
<O</O
พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ​

( ให้อธิฐานจิตแผ่ )​

เก็บไฟล์เข้าเครื่องกด ​

Download (wmv) Download (mp3)​

VDOสวดมนต์พระบรมมหาจักรพรรดิตอน 20.30 น. ณ ถ้ำใหญ่วัดถ้ำเมืองนะ (wmv)​

ดาวน์โหลดแผ่นพับบทสวดเป็น File WORD​

<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR ondblclick=edit_attachment_name_157856();><TD width=7></TD><TD width=285>

" แผ่นพับบทสวดจักรพรรดิ "




​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR ondblclick=edit_attachment_name_158193();><TD></TD></TR><!-- function edit_attachment_name_158193() { document.getElementById('attachment_filename_158193').innerHTML = '' do_add_attachment_filename_edit = new vB_AJAX_Handler(true) do_add_attachment_filename_edit.onreadystatechange(add_attachment_filename_edit_Done_158193) do_add_attachment_filename_edit.send('ajax.php?do=edit_attachment_filename&attachmentid=158193&form=no') } function add_attachment_filename_edit_Done_158193() { if (do_add_attachment_filename_edit.handler.readyState == 4 && do_add_attachment_filename_edit.handler.status == 200) { fetch_object('attachment_filename_edit_158193').innerHTML = do_add_attachment_filename_edit.handler.responseText } } function save_attachment_name_158193(save, attachmentid) { attachment_name = document.getElementById('attachment_name_' + attachmentid) attachmentextension = document.getElementById('attachmentextension_' + attachmentid) do_save_attachment_filename = new vB_AJAX_Handler(true) do_save_attachment_filename.onreadystatechange(save_attachment_filename_Done_158193) do_save_attachment_filename.send('ajax.php?do=save_attachment_filename&attachmentid=' + attachmentid + "&attachment_name=" + attachment_name.value + "&attachmentextension=" + attachmentextension.value + "&save=" + save) document.getElementById('attachment_filename_edit_158193').innerHTML = '' } function save_attachment_filename_Done_158193() { if (do_save_attachment_filename.handler.readyState == 4 && do_save_attachment_filename.handler.status == 200) { fetch_object('attachment_filename_158193').innerHTML = do_save_attachment_filename.handler.responseText } } //--><TR ondblclick=edit_attachment_name_158203();><TD></TD><TD>แผ่นพับตัวอย่างคำอธิษฐานจิตที่แนะนำให้ใช้เป็นประจำ</TD></TR></TBODY></TABLE>​

<O</O