ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สหรัฐฯเตือนฮามาสหยุดยิงแต่ไม่ห้ามอิสราเอลโจมตีกาซา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 ธันวาคม 2551 03:49 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=335 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=335>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ชาวปาเลสไตน์ที่ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอล</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเจนซี - ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์(29) ฮามาส ควรหยุดยิงจรวดเข้าใส่อิสราเอลและยินยอมหยุดยิงอย่างยั่งยืน หลังจากอิสราเอลโจมตีทางอากาศใส่ฉนวนกาซาจนคร่าชีวีตชาวปาเลสไตน์มากกว่า 300 คนในช่วง 3 วันที่ผ่านมา

    สหรัฐฯ ไม่ได้เรียกร้องให้อิสราเอลหยุดโจมตีฉนวนกาซาซึ่งควบคุมโดยกลุ่มฮามาส แต่วางภาระหน้าที่ความรับผิดชอบสำหรับการยุติความรุนแรงให้แก่กลุ่มฮามาส ที่ทางวอชิงตันมองว่าเป็นองค์กรก่อการร้าย

    "สหรัฐฯเข้าใจว่าอิสราเอลจำเป็นต้องลงมือเพื่อปกป้องตนเอง" กอร์ดอน จอห์นโดร โฆษกทำเนียบขาวกล่าวเมื่อถูกถามว่าปฏัติการของอิสราเอลมีเหตุผลเพียงพอหรือไม่

    วอชิงตัน กล่าวโทษการยิงจรวดโจมตีของฮามาสที่ไปกระตุ้นอิสราเอล หลังจากฮามาสประกาศสิ้นสุดข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวกับอิสราเอลซึ่งมีอายุ 6 เดือน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม

    "อีกครั้งที่ฮามาสได้แสดงนิสัยที่แท้จริงของพวกเขาในฐานะองค์กรก่อการร้ายซึ่งปฏิเสธแม้แต่ยอมรับสิทธิ์ความเป็นอยู่ของอิสราเอล" จอห์นโดร กล่าว "ในคำสั่งสำหรับหยุดความรุนแรง ฮามาสควรหยุดยิงจรวดเข้าไปในอิสราเอลและยอมเคารพการหยุดยิงที่ยั่งยืน"

    ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู.บุช ซึ่งกำลังพักผ่อนอยู่ที่ไร่ในเท็กซัส ยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นกับสาธารณชนต่อความรุนแรงครั้งนี้นับตั้งแต่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศเมื่อวันเสาร์(27)

    บุช ได้สนทนากับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ของจอร์แดนในช่วงเช้าวันจันทร์(29)และได้บอกกับพระองค์ว่าสหรัฐฯต้องการเห็นความรุนแรงยุติในกาซาแต่ต้องเป็นหนทางที่ถาวร จอห์นโดรระบุ

    นอกจากนี้บุช ยังได้หารือกับกษัตริย์อับดุลเลาะห์ของซาอุดีอาระเบียในช่วงสุดสัปดาห์ ขณะที่ คอนโดลิซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศก็ติดต่อกับรัฐมนตรีต่างประเทศของชาติต่างๆในภูมิภาคเช่นกัน ในจำนวนนั้นรวมไปถึงจากอิสราเอล อียิปต์และซาอุดีอาระเบีย เพื่อหาทางหยุดยิงอย่างถาวร

    บุช ซึ่งหวังบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ในช่วงก่อนสิ้นสุดวาระดำรงตำแหน่ง 20 มกราคม จะส่งมอบภาวะความตึงเครียดในตะวันออกกลางที่ทวีความรุนแรงขึ้น เช่นเดียวกับสงครามอัฟกานิสถาน สงครามอิรักและภาวะเศรษฐกิจถดถอยให้กับว่าที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE> ที่มา http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000153152
     
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>10 ยอดผลงานวิทยาศาสตร์ประจำปี 2551 </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>นิตยสารไทม์จัด 10 อันดับการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในปี 2551 คือ

    แอลเอชซี

    เมื่อวันที่ 10 กันยายน องค์กรวิจัยนิวเคลียร์ (Europea-Organizatio-for Nuclear Research) แห่งยุโรป หรือ CERN เดินเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ Large Haldro-Collider (LHC) เพื่อค้นหาคำตอบว่า จักรวาลเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ซึ่งการทดลองนี้เปรียบเหมือนกับการทดลองสร้างจักรวาลในหลอดแก้ว

    การทดลองเดินเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี นับเป็นการทดลองครั้งใหญ่ที่สุด ใช้งบประมาณมากที่สุดของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ เพราะเป็นการทดลองเพื่อไขความลับของเอกภพ ใช้นักฟิสิกส์กว่า 2,000 คน จาก 30 กว่าประเทศ และใช้เงินกว่า 4,000 ล้านปอนด์ หรือ 260,000 ล้านบาท สร้างอุโมงค์ขนาดยักษ์ขดเป็นวงกลมยาว 18 ไมล์ ลึก 300 ฟุต ที่พรมแดนประเทศสวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส แถบนครเจนีวา

    การไขความลับเอกภพนี้ ยังเป็นการพิสูจน์ ทฤษฎีอนุภาคพระเจ้า หรือ "God Particle" หรือ "Higgs Boson" ของ ศ.ปี เตอร์ ฮิกส์ นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยเอดินเบิร์กระบุว่า อนุภาคนี้มีอยู่จริง แม้แอลเอชซี จะได้ชื่อว่าเป็นเครื่องมือทางวิทยา ศาสตร์ที่น่าทึ่งที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างมา แต่กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่นำโดย นายออตโต รอสเลอร์ นักเคมีชาวเยอรมัน กลับเห็นว่า มันมีโอกาสสร้างหลุมดำ ที่จะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างเข้าไป ส่งผลกระ ทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ไปยังอวกาศและเวลา

    หลังจากที่เดินเครื่องเพียง 9 วันเท่านั้น เครื่อง "แอลเอชซี" ก็เสียเพราะมีปัญหาที่ระบบไฟฟ้า ทำให้ต้องหยุดโครงการชั่วคราว แต่คาดว่าเครื่องน่าจะซ่อมเสร็จในปลายเดือนมิถุนายน 2552

    2.เมื่อเดือนพฤษ ภาคมที่ผ่านมา ยานฟีนิกซ์ของนาซ่า ลงจอดที่ขั้วเหนือของดาวอังคาร พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างดินมาวิจัย

    3.ดร.เจ เครก เวนเตอร์ นักพันธุกรรมศาสตร์ ซึ่งเป็น 1 ใน 2 นักวิทยาศาสตร์ที่ทำแผนที่จีโนมมนุษย์ เปิดเผยว่า ทำการสร้างชีวิตได้แล้ว ด้วยการ นำพันธุกรรม 582,000 คู่ สร้างแบคทีเรียขึ้นมาใหม่

    4จีนประสบความสำเร็จในการให้นายไซ่ ไซ่กัง นักบินอวกาศย่ำบนอวกาศ ซึ่งนายไซ่ ได้ลอยตัวในอวกาศเป็นเวลา 15 นาที สร้างประวัติศาสตร์ให้จีนกลายเป็นประเทศที่สามของโลก ในการบรรลุภารกิจย่ำอวกาศ หลังจากสหรัฐและสหภาพโซเวียต

    5. สมาคมอนุรักษ์าสัตว์ป่า พบว่า ทางตอนเหนือของคองโกเป็นถิ่นที่อยู่ของกอริลลาถึง 125,000 ตัว มากกว่าที่คาดไว้ถึง 2 เท่า

    6. เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายไมเคิล แมร์ นักดาราศาสตร์ชาวสวิตเซอร์แลนด์พบ "เอ็กโซแพลเน็ต" หรือดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะถึง 45 ดวง และมีอยู่ดวงหนึ่งใหญ่กว่าโลกถึง 4.2 เท่า

    7. นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ สหรัฐอเมริกา ประกาศว่า สร้างเสื้อคลุมล่องหนได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีนาโน

    8. ศ.สตีเฟ่น ชุสเตอร์ นักชีวเคมีจากมหาวิทยาลัยเพนสเตต สหรัฐอเมริกา ประกาศว่า ทำการประกอบจีโนมของช้างแมมมอธได้ 80% แล้ว

    9. จากการสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกน พบว่า แม้ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา สหรัฐจะประดิษฐ์สิ่งของทางวิทยาศาสตร์มากมาย แต่มีชาวอเมริกันเพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่อ่านและเข้าใจข่าววิทยาศาสตร์

    10. พบโครงกระดูกอายุ 4,600 ปี กอดกันที่เยอรมนี แสดงให้เห็นว่า มนุษย์มีความรักในครอบครัวกันมานานหลายพันปีแล้ว

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เอเชีย-แปซิฟิกอาจเกิดภัยธรรมชาติใหญ่ บาดเจ็บล้มตายทีละล้าน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>หนังสือพิมพ์รายวัน “ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์” เสนอข่าวว่า สำนักงานธรณีศาสตร์ ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐบาล ได้กล่าวเตือนว่าอาณาบริเวณเอเชีย-แปซิฟิก กำลังตกอยู่ ภายใต้อันตรายของมหันตภัยธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่อาจจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายของมนุษย์ ทีละเรือนเป็นล้าน โดยมีอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และจีนเสี่ยงกับอันตรายมากที่สุด

    นสพ.กล่าวว่า รายงานของสำนักงานได้พบหลักฐานว่า ความร้ายแรงของภัยธรรมชาติ อย่างเช่น แผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ ในปีที่กำลังจะมาถึงข้างหน้านี้ จะยิ่งใหญ่โตขึ้น ด้วยเหตุที่ปริมาณของประชากรได้เพิ่มมากขึ้น และความเปลี่ยนแปลงของดินฟ้าอากาศ รายงานดังกล่าวถึงกับเป็นต้นเหตุให้ นายกรัฐมนตรี เควิน รุดด์ ของออสเตรเลีย กับประธานาธิบดี สุสิโล บัมบัง ยุทโยโน จับมือกันร่วมกันก่อตั้งศูนย์ฝึกอบรมและวิจัยมหันตภัยขึ้น

    คณะนักวิทยาศาสตร์ออสเตรเลียได้ศึกษาวิเคราะห์โอกาสที่จะเกิดมีแผ่นดินไหว พายุไซโคลน คลื่นยักษ์สึนามิ และการระเบิดของภูเขาไฟ ในอาณาบริเวณนี้ พร้อมกับคาดประมาณยอดผู้บาดเจ็บล้มตายไว้ด้วย

    การศึกษายังได้พบว่า บรรดาเมืองต่างๆในอาณาบริเวณ แถบหิมาลัย จีน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ อาจจะต้องเผชิญกับมหันตภัยแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีผู้ล้มตายมากถึงคราวละ 1 ล้านคนได้ ทั้งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ยังอาจเจอกับภัยของแผ่นดินไหว ซึ่งอาจจะกระทบกระเทือนถึงผู้ที่อยู่ตามชาติแถบที่ลุ่มเรือน อย่างเช่น บังกลาเทศ ด้วยฤทธิ์เดชของคลื่นยักษ์สึนามิ อุทกภัย และพายุไซโคลน จำนวนเป็นแสนๆคน.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. นาคา

    นาคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,378
    ค่าพลัง:
    +12,917
    แจ้งข่าวครับ
    เนื่องจาก อาจจะมีกระแสลม ในพื้นที่ จ.สุราษฏฯ
    ทำให้ การไฟฟ้า ระบบไฟฟ้า ในพื้นที่ พังงา ,ภูเก็ต ,สุราษฎร์ธานี ดับทั้งหมเ เมื่อเวลา 17.00 น. โดยประมาณ - ขณะนี้
    ทั้งนี้ การไฟฟ้า ทางพังงา ,สุราษฎร์ธานี ใด้จ่ายกระแสไฟฟ้า มาให้บางส่วน ครับ
    ในพื้นที่ภูเก็ต ไฟฟ้า ยังจ่ายให้ไม่หมดทั้งจังหวัด ครับ 20.15 น.

    สวัสดี ปีใหม่ 2552 ด้วย จตุพรชัยมงคลทุกประการ แด่ทุกท่านครับ
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อุตุฯ ใต้ เตือนระวังฝนกระหน่ำช่วงปีใหม่

    [​IMG]

    สงขลา 30 ธ.ค. - นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย ผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.สงขลา รายงานสภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ว่า

    ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมา ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ มีกำลังแรงขึ้น ช่วงวันที่ 1-4 มกราคม 2552 อ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย มีฝนหนักบางพื้นที่ ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราช ลงมา ขอให้ระมัดระวังการเดินทางบนท้องถนนจากฝนตกถนนลื่น รวมถึงผู้เดินทางท่องเที่ยวทางทะเลอาจเจอคลื่นลมแรง.- สำนักข่าวไทย

    2008-12-30 14:49:53

    ที่มา http://news.mcot.net/local/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    แบบจำลองสถานการณ์ช่วงวิกฤติ
    โดย ฤษีแปลงสาร<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_437660", true); </SCRIPT> สมาชิก

    [​IMG]

    [​IMG]

    ชุมชนเมืองจะอยู่อาศัยไม่ได้ ไม่ปลอดภัย คนจนในเมืองกลายเป็น อาชญากร คนรวยมีเงินมากมายแต่ไร้ค่า ไม่มีใครยอมขายอาหารให้ ต้องหลบซ่อนตัวในที่พัก ปกป้องทรัพย์สินของตน ชุมชนชนบท ไม่มีข้าวกินเพราะขายข้าวไปหมดแล้ว ได้เงินมาก็ใช้หมดแล้ว ลงทุนเพาะปลูกไปแล้ว ยังไม่ได้ดอกผล อาหารจะรวมกันที่โรงสี และศูนย์อาหารในเมือง การกระจายอาหารที่ไม่ดี ทำให้คนจนก่ออาชญากรรม คนรวยถูกฆ่าง่ายๆ คนดีไม่มีข้าวกิน แม้แต่น้ำก็ขาดแคลน

    กลยุทธ์การกัน, แก้ และก้าว ในคราวเดียว
    (ก่อนเกิดกันได้, หากเกิดเหตุแก้ได้, ไม่เกิดก็ก้าวหน้าได้)

    ประกาศโครงการ "ชุมชนพอเพียงเพื่ออนาคต" โดยรณรงค์ว่า จะให้ชนบทเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำรายได้เข้าชุมชนโดยตรง ตามโครงการพัฒนาชุมชน เป็นการปิดข่าวสงคราม คนไม่แตกตื่น และการทำแบบนี้คือการเตรียมตัวรับสถานการณ์อย่างแนบเนียน ชุมชนชนบทจะมีเต้นท์สำรอง, น้ำสำรอง, อาหารสำรอง, ที่พักเครื่องกันหนาวสำรอง โดยบอกว่าเตรียมไว้เพื่อรับนักท่องเที่ยวในอนาคต ซึ่งจะทำเงินให้ประเทศ แต่แท้จริงแล้ว เตรียมไว้ช่วยคนเมือง ที่จะหนีภัยสงคราม และซึนามิที่ท่วมเกือบครึ่งประเทศมา เมื่อคนจากเมืองไร้บ้านมา สามารถเปิดบ้านต้อนรับได้ทันที

    เตรียมสังคมเมตตาธรรม โดยการรณรงค์การต้อนรับประทับใจ โดยการให้ไปฝึกความเมตตา, พรหมวิหารสี่ โดยมีศูนย์กลางการฝึกที่วัด มีบุคลากรอาสาสมัครไปสอนงาน เช่น การเตรียมตัวป้องกันและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ได้รับภัย สร้างมาตราฐานความปลอดภัย เป็นต้น ฝึกซ้อมแบบนี้สามารถช่วยคนที่ตกยากมาได้ทันที แต่บอกว่าเป็นการฝึกการบริการที่ดี เพื่อเตรียมเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เราจะปิดไม่ให้เขารู้ตัวว่า เป็นการเตรียมตัวช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน เมื่อยามสงครามและน้ำภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ ฟื้นฟูวัฒนธรรมควาเมตตาอารีย์ที่ถูกขายไปนาน ให้กลับมาสู่แดนดินไทย

    เตรียมศูนย์กลางชุมชน ได้แก่ ศูนย์กลางเสบียง ซึ่งมียุ้งฉางกลาง เก็บเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ ทั้งที่กินได้ทันที เช่น พวกถั่ว พวกที่ต้องนำไปเพาะแต่โตเร็ว เช่น ผัก และเมล็ดพันธุ์ข้าว ให้สามารถช่วยเหลือคนทั้งหมู่บ้านได้ นอกจากนี้ยังมีศูนย์กลางปฐมพยาบาล และศูนย์เก็บสมุนไพรประจำตำบล ที่สามารถรองรับการรักษาโรคได้อย่างทันท่วงทีและทั่วถึง ทั้งยังเตรียมบุคลากรไว้ให้พร้อมด้วย ส่วนศูนย์กลางการสื่อสารนั้นก็จำเป็นเช่นกัน เพื่อประกาศข่าวต่างๆ ให้ความรู้ได้ทันที เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้าย ประชาชนจะรู้ได้ว่าควรทำอย่างไร อย่างไรก็ตาม ศูนย์กลางข่าวสารนี้ ควรคำนึงถึงเวลาขาดไฟฟ้าด้วย

    เตรียมแหล่งน้ำจำนวนมาก ควรพิจารณาแหล่งน้ำสำรองจากใต้ดิน บ่อน้ำบาดาลควรมีจำนวนมาก เพราะจะปลอดภัยจากฝุ่นกำมันตรังสีและอาวุธเชื้อโรค ที่อาจแพร่มาทางแม่น้ำโขง ดังนั้นจึงควรรณรงค์ให้แต่ละชุมชนมีบ่อน้ำบาดาลใช้ร่วมกัน กระจายอย่างทั่วถึง น้ำเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะเขตอีสาน หากน้ำทะเลท่วมหนุน น้ำใต้ดินมีเกลือมาก จะขุดกินน้ำบาดาลไม่ได้ แม่น้ำโขงก็มีอาวุธเชื้อโรคแพร่ระบาด แต่เราต้องไม่บอกประชาชนตรงๆ บอกว่าฟื้นฟูวัฒนธรรม บอกว่ารสนิยมฝรั่งเขาชอบมาดูแบบนี้ เป็นเอกลักษณ์ที่ประเทศอื่นไม่มี เราจะทำให้เป็นจุดขาย และใช้กินได้ทันทีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นหน้าแล้งหรือหน้าน้ำก็ตาม โดยเราจะสอนการกรองน้ำ, ต้มน้ำ และช่วยกันทำเครื่องกรองแจกให้ทั่ว

    การลงทุนสร้างที่พักอาศัยใหม่ จะใช้เวลานานและไม่ทันการณ์ ต้องใช้ชุมชนเดิมเป็นรากฐาน โดยต้องอาศัยอาสาสมัครทำงานนี้ ให้ครอบคลุมทั่วไทย กระจายทั้งด้านยุทโธปกรณ์, บุคลากร ฯลฯ ซึ่งต้องลาออกจากงานมาทำงานรับใช้ชาติเต็มตัว งานนี้จึงจะสำเร็จได้ หาไม่แล้ว ก็ไม่มีผู้ใดลงมือช่วยเหลือ สังคมไทยถูกทอดทิ้ง คนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ตายไม่รู้ตัว คนที่รู้มากเห็นแก่ตัวก็ถูกอาชญากรปล้นฆ่าตาย บ้านเมืองไหน ไม่เตรียมสังคมพุทธไว้ บ้านเมืองนั้นเป็นอันต้องล่มสลายสิ้นชาติ

    กลยุทธนี้เดินหมากเกมเดียว ใช้ได้ทั้ง กัน, แก้ และก้าว รับศึกได้ทุกแบบ ทุกทิศ ทุกสถานการณ์ มีสมดุลในตัว เติบโตได้ ยืดหยุ่นได้ พลิกแพลงต่อได้ และเหมาะสมสอดคล้องกับรากฐานความเป็นไทย ทุกประการ ซึ่งหากไม่เกิดอะไรขึ้น ชุมชนไทยจะเข้มแข็งเป็นชุมชนพึ่งพาตนเองได้ทันที พร้อมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมได้ในอนาคตอย่างพอเพียงอีกด้วย วัฒนธรรมก็ถูกฟื้นฟู ความสามัคคีของคนในชาติก็กลับคืนมา แต่ถ้าเกิดเหตุขึ้นมา จะเป็นแหล่งพึ่งพาอาศัยและอยู่ร่วมกันได้ยามวิกฤติ

    ภัยใดไม่เท่าภัยจากมนุษย์ด้วยกัน ขาดน้ำและอาหารอยู่ได้หลายวัน ขาดอากาศหายใจอยู่ได้ไม่เกินสี่นาที แต่มนุษย์ด้วยกันนี้ ฆ่ากันได้ในพริบตาเดียว ขอให้คนดีช่วยเหลือกัน เราเสียสละส่วนตน สองสามปี สร้างชาติใหม่ ไทยพุทธจะครองโลก สามัคคี, เมตตาธรรม, ขันติ, อุเบกขา และปัญญา จะทำให้รอดพ้นภัยพิบัติสู่ยุค "ศรีวิไล" แฮ...

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ธันวาคม 2008
  6. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    [​IMG]
     
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    *** วัด และ หมู่บ้านในชนบท ***


    [​IMG]

    วัดและหมู่บ้านในชนบท คือทางรอดของชาวไทย และผู้พลัดถิ่นจากต่างแดน...ตั้งแต่นี้ต่อไป...พอมีเวลาค่อยๆ ลองไปสำรวจวัด และชนบทที่น่าจะปลอดภัย สามารถรับผู้อพยพได้...

    แล้วกลับมานำเสนอ เพื่อหาทางช่วยกันคิด ช่วยเหลือพัฒนาให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น...ต้องค่อย ๆ ทำอย่าให้ชาวบ้านแตกตื่นตกใจ....เข้าไปในฐานะคนใจบุญทั่วๆไป....งานนี้ จำเป็นต้องกระจายกันทำในพื้นที่ของตนเอง แล้วกลับมารายงานให้ "ผู้รวบรวมข้อมูล" รับทราบ....

    ขอให้ช่วยกันทำ ช่วยกันเสียสละออกทุนกันเอง...เจตนา "ช่วยชีวิตคน" ได้บุญมาก...ทุกคนจะมี "ตัวกระทำ" สะสมติดตัวไว้...หากไม่มั่นใจตนเอง ให้จุดธูป ๗ ดอก "ถวายสัจจะต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า จะช่วยสานต่อพระพุทธศาสนา ตลอดชีวิต" และขออำนาจของ "สัจจะ" ช่วยคุ้มครองให้ข้าพเจ้าทำงานสำเร็จทุกประการ...

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    10-01-2007, 07:13 AM


    *** อาหารยังชีพ ****


    [​IMG]

    เรื่องอาหารช่วงนั้นสำคัญมาก พยายามพึ่ง "เทคโนโลยีดั้งเดิม" ไว้ก่อน....ค้นหา "แม่บ้านทำอาหาร" เป็นชาวบ้านที่มีประสบการณ์ประกอบอาหารเลี้ยงคนจำนวนมาก จะเป็นแกนนำสำคัญในการช่วยผู้อพยพจำนวนมากได้...

    ส่วนใหญ่แล้ว ประเพณีตามชนบท มักร่วมกันทำอาหารจำนวนมากเวลามีงานเลี้ยงใหญ่....สิ่งสำคัญอุปกรณ์ด้านอาหาร เช่นเตา หม้อ ถ่าน จาน ชาม ช้อน ฯลฯ ส่วนใหญ่จะเก็บไว้ตาม "วัด" เป็นของๆ วัด...ซึ่งพวกเรามักถูกสอนไว้ว่า "ไม่ให้นำของๆ วัดมาเป็นสมบัติส่วนตัว"....

    เมื่อถึงเวลาสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาลปรากฏ... "ของๆ วัดเหล่านี้จะช่วยชีวิตคนดีจำนวนมากได้".....ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ในอนาคต....พวกเราต้องช่วยกัน ช่วยประกาศให้ทำบุญเป็น "ถวายอุปกรณ์ทำและเลี้ยงอาหารให้กับวัด"

    ยิ่งมีสะสมมาก ยิ่งมีผลดีในอนาคต....จะได้ไม่ต้องแย่งกัน เมื่อมีคนจำนวนมากอพยพขึ้นทางภาคเหนือ และภาคอีสาน...วัดทั้งสองภาคนี้จึงต้องช่วยกันเป็นพิเศษ ภาคกลาง และชายฝั่งทะเลจะมีภัยอันตรายอย่างยิ่ง...ฝากไว้ด้วย ท่านกาขาว

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    10-01-2007, 05:11 AM


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    *** น้ำ ***

    เรื่องน้ำกิน เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง...เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า "น้ำบนผิวดิน" จะไม่ปลอดภัย หลังมีการใช้ระเบิดปรมาณู ระเบิดนิวเคลียร์....การเตรียมการเกี่ยวกับน้ำ เท่าที่อ่านดู(ในเว็บพลังจิต) จะไม่สามารถรองรับผู้อพยพจำนวนมากในระดับมหภาคได้....

    ดังนั้น ให้หันหลังกลับไปมอง "เทคโนโลยี่ดั้งเดิม" ที่มีความมั่นคงสูง....ซึ่งก็คือ "บ่อน้ำบาดาล" ที่มีอยู่แล้วตามชนบท....แต่เมื่อคิดในเรื่องปริมาณ "จำนวนบ่อน้ำบาดาล" ที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันทั้งภาคเหนือและอีสานแล้ว คงไม่สามารถรองรับได้แน่....เรื่อง "การขุดบ่อน้ำบาดาล" จึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่งยวดไม่น้อยไปกว่าเรื่องทางด้านอาหาร...

    ต้องออกสำรวจเช่นกัน....แล้วกลับมารายงานข้อมูล เพื่อคิดวางแผนว่าจะต้องขุดเพิ่มตาม "วัด และ ชุมชน" แห่งใดบ้าง....ขอให้ผู้มีประสบการณ์และมีความรู้ด้านบ่อน้ำบาดาล....ลองคิดคำนวณว่า "น้ำ ๑ บ่อ จะสามารถรองรองการใช้งานดื่มกิน ได้กี่คน ต่อวัน"...

    เมื่อเราทราบก็จะคำนวณหา จำนวนที่เหมาะสมได้ เช่น มีวัดหนึ่ง ที่รองรับคนเข้ามาพักได้ ๑,๐๐๐ คน จำเป็นต้องมีบ่อน้ำ จำนวน ๑๐ บ่อ แต่วัดนั้น มีบ่อน้ำบาดาลเพียง ๑ บ่อ ดังนั้นจึงต้องขุดเพิ่ม อีก ๙ บ่อ....

    จึงเป็นหน้าที่ของพวกเราอีก ที่จะต้องช่วยกันหาผู้ใจบุญขุดบ่อน้ำบาดาล ถวายวัด...เรื่องนี้ ต้องระวังประชาชนแตกตื่นเช่นกัน อาจจะบอกพวกชาวบ้านและพระว่า ปีนี้(2007)เขาว่าจะแห้งแล้งมาก จึงอยากทำบุญเรื่องน้ำกันมากๆ คาดว่าชาวบ้านในพื้นที่จะยินดี แล้วก็แบ่งไปขุดใจกลางชุมชนเพิ่ม...เป็นการทำบุญ บริจาค ช่วยเหลือกันไป.....

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    10-01-2007, 07:43 AM

    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=51726&page=15<!-- / message --><!-- / message -->
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นิทานอีสปเรื่อง ชายชรากับม้าและหลานของเขา

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชีวิตสามชีวิตกำลังเดินทางแสนไกล เพื่อให้ไปถึงจุดหมายปลายทางที่พวกเขาฝันไว้ สามชีวิตนั้นประกอบด้วย ชายชรา หลานของเขา และ ม้าตัวหนึ่ง

    ระหว่างที่ทั้งสามชีวิตกำลังเดินทางไปยังจุดหมาย เขาก็เจอผู้คนมากมายที่เดินผ่านมาแล้วก็เดินผ่านไป มีอยู่ครั้งหนึ่ง ชายชรา กับ หลาน กำลังจูงม้าเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายอยู่ ก็มีผู้คนกลุ่มหนึ่งเดินผ่านมาบอกกับพวกเขาทั้งสามว่า

    "ทำไมโง่จัง…มีม้าแต่ไม่ยอมขี่"

    ชายชราได้ยินดังนั้นก็นึกขึ้นได้ว่า ทำไมตัวเองถึงโง่อย่างงี้นะ เลยให้หลานของ
    เขากระโดดขึ้นไปขี่ม้า แล้วชายชรา ก็เดินจูงม้า แล้วเดินทางต่อไป หลังจากนั้นไม่นานก็เจอผู้คนอีกกลุ่มผ่านมา บอกกับทั้งสามชีวิตว่า

    "ทำไมแย่จัง ทรมานคนแก่…ปล่อยให้คนแก่จูงม้าอยู่แต่หลานกลับนั่งสบายใจเฉิบอยู่บนหลังม้าได้ยังไง"

    เมื่อหลานได้ยินดังนั้นก็รู้สึกผิด ยอมลงจากม้าแล้วให้ชายชราขึ้นไปขี่ม้า แล้วตัว
    เองลงมาจูงม้าแทน ทันใดนั้นก็มีคนอีกกลุ่มผ่านมาแล้วบอกพวกเขาว่า

    "ทำไมแย่จังทรมานเด็กตัวนิดเดียวแบบนี้ได้ยังไง...ให้ผู้ใหญ่ขี่ม้าในขณะที่เด็กตัวเล็กๆมาเดินจูงม้า...ทรมานเด็กจริงๆ"

    เมื่อชายชราได้ยินดังนั้นก็รู้สึกผิดอีกแล้ว…ทีนี้ชายชราตัดสินใจ เอาทั้งตัวเอง
    และ หลานของเขาขึ้นไปขี่ม้าทั้งคู่เลย ดูซิว่าผู้คนที่เดินผ่านมาจะพูดว่าอะไรเขาได้อีก หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนอีกกลุ่มเดินผ่านมา บอกพวกเขาว่า

    "คนแก่กับหลานคู่นี้นิสัยแย่มาก…ขึ้นไปขี่บนม้าได้ยังไงตั้งสองคน…ทรมานสัตว์จริงๆ"

    นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…หากเราคิดจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ถ้าไม่ผิดทำนองคลองธรรมแล้ว ก็ไม่ต้องไปฟังคน
    อื่นมากหรอก เพราะเขาก็หาเรื่องมาว่าเราได้ทั้งนั้นแหละ

    ที่มา http://xchange.teenee.com/index.php?showtopic=65591&pid=840813&mode=threaded&show=&st=&
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2009
  9. Pew Pew

    Pew Pew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +1,807
    [​IMG]

    ภูเขาไฟคอร์ยัคสกีในรัสเซียปะทุ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=615 border=0><TBODY><TR><TD class=default13 vAlign=top>[​IMG] รัสเซีย 31 ธ.ค. - ภูเขาไฟคอร์ยัคสกีในรัสเซียปะทุพ่นเถ้าถ่านและกลุ่มควัน หลังจากที่เคยเกิดการระเบิดรุนแรงครั้งสุดท้าย เมื่อกว่า 5,000 ปีมาแล้ว
    ภูเขาไฟคอร์ยัคสกีในคาบสมุทรคัมชัตกา ความสูง 3,456 เมตร เกิดปะทุพ่นเถ้าถ่านและกลุ่มควันหนาทึบลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงนับร้อยเมตร จนอาจส่งผลกระทบต่อการสัญจรทางอากาศของเครื่องบินพาณิชย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว ระบุว่า มีความเป็นไปได้มากที่ภูเขาไฟคอร์ยัคสกีจะปะทุรุนแรงมากขึ้น หลังจากที่เคยเกิดการระเบิดครั้งใหญ่มาแล้ว เมื่อประมาณ 3,000-5,000 ปีก่อน และว่า จะต้องติดตามสถานการณ์การปะทุของภูเขาไฟอย่างใกล้ชิด
    สำหรับคาบสมุทรคัมชัตกาของรัสเซีย มีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่มากถึง 29 ลูก ซึ่งการปะทุหลายครั้งก่อนหน้านี้ ทำให้ถนนและทางวิ่งของสนามบินหลายแห่งได้รับความเสียหาย. - สำนักข่าวไทย

    อัพเดตเมื่อ 2008-12-31 02:21:44 </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    สวัสดีปีใหม่ค่ะ


    [​IMG]


    จาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
  12. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    [​IMG]
    สวัสดีปีใหม่ 2552 ค่ะ
    ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย คุ้มครองท่านและครอบครัว
    ขออวยพรให้ท่านและครอบครัว มีความสุข ความเจริญ
    ทั้งทางโลก และทางธรรมตลอดไป พรประเสริฐอันใด
    ที่เป็นพลปัจจัยไปสู่หนทาง แห่งพระนิพพาน
    ขออำนวยอวยพรนั้น ให้จงบังเกิดแก่ทุกดวงจิต
    และกัลยาณมิตรทุกท่านเทอญ
     
  13. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD background=images/corner_line_left.gif></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=top width="100%" align=left><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><!--เนื้อหา--><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><!--Middle--><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=left>จำนวนคนอ่านล่าสุด 959 คน <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6608 ข่าวสดรายวัน[/FONT]


    [FONT=Tahoma,]สคส.ในหลวง2552 ทรงเปิดตัว สุนัข"คุณนายแดง"[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]เป็นแม่ของคุณทองแดง ทรงอวยพร-ไม่ประมาท![/FONT]



    [FONT=Tahoma,][​IMG]ในหลวงพระราชทานส.ค.ส. 2552 เป็นรูปพระบรมฉายาลักษณ์ ทรงฉายกับคุณทองแดง สุวรรณชาด และคุณนายแดง แม่ของคุณทองแดง พร้อมกันนี้ พระราช ทานพรปีใหม่แก่ประชาชนชาวไทย ขอให้ทุกๆ คนมีความสุขความเจริญ ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท ทั้งทรงขอบพระทัยที่ร่วมจัดงานพระศพให้ "พระพี่นาง" อย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพรปีใหม่ พุทธศักราช 2552 แก่ประชาชนชาวไทย มีความว่า ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ เป็นเวลาที่เราควรระลึกถึงกัน และอวยพรแก่กันด้วยความปรารถนาดีก่อนอื่น ข้าพเจ้าต้องขอขอบใจทุกท่านเป็นอย่างมาก ที่ร่วมกันจัดงานพระศพพี่สาวข้าพเจ้าอย่างยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ ทั้งอุตสาหะมาร่วมในงานเดือนพ.ย. ด้วยใจภักดีและระลึกถึง กับขอส่งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ท่านทุกๆ คนให้มีความสุขความเจริญ[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ความสุขความเจริญนี้ เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาอย่างยิ่งของคนเรา แต่ความสุขความเจริญนั้นจะสำเร็จผลเป็นจริงได้ ก็ด้วยการที่ทุกคนตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท มีสติรู้ตัวและปัญญารู้คิดกำกับอยู่ตลอดเวลา กล่าวคือ ไม่ว่าจะประพฤติปฏิบัติการใด ก็ใช้สติปัญญาพิจารณาไตร่ตรองจนถ้วนถี่ ให้เห็นกระจ่างถึงผลดี ผลเสีย ทั้งใกล้ไกล ทุกแง่ทุกมุม ความรู้ความเข้าใจชัดถึงผลดีผลเสีย ย่อมจะทำให้แต่ละคนเล็งเห็นแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง ว่าสิ่งใดควรละเว้น และสิ่งใดควรปฏิบัติ เพื่อให้บังเกิดผล เป็นประโยชน์ที่แท้จริงและยั่งยืน ทั้งแก่ส่วนตัวและส่วนรวม <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG][/FONT]
    [FONT=Tahoma,][/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [FONT=Tahoma,]ในปีใหม่นี้จึงขอให้ประชาชนชาวไทยได้ตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท จะคิดจะทำสิ่งใดให้คิดหน้าคิดหลังให้ดีให้รอบคอบทำให้ดี ให้ถูกต้องผลของการคิดดี ทำดีนั้นจะได้ส่งเสริมให้แต่ละคนประสบแต่ความสุขความเจริญ และทำให้ชาติบ้านเมืองมีความเรียบร้อย และอยู่เย็นเป็นสุข ดังที่ทุกคนทุกฝ่ายตั้งใจปรารถนา[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยเราเคารพบูชา จงอภิบาลรักษาท่านทุกคนให้ปราศจากทุกข์ ปราศจากโรค ปราศจากภัย ให้มีความสุขกาย สุขใจ และความสำเร็จสมหวัง ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]วาระนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน ส.ค.ส. ปีพุทธศักราช 2552 แก่ประชาชนชาวไทย[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ส.ค.ส.พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว ในพุทธศักราช 2552 นี้ เป็นพระบรมฉายา ลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฉลองพระองค์สากลสีน้ำตาลอ่อน ผ้าปักพระกระเป๋าสีฟ้าสดใส ฉลองพระองค์ชั้นในเป็นเชิ้ตขาว ทรงผูกเนกไทสีฟ้าอ่อน ประทับบนพระเก้าอี้ ทรงฉายกับคุณทองแดง สุวรรณชาด ที่นั่งอยู่ข้างพระเก้าอี้ และคุณนายแดง แม่ของคุณทองแดง ที่หมอบเฝ้าอยู่อีกข้างหนึ่ง [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ฉากหลังของ ส.ค.ส. เป็นสนามหญ้าในบริเวณพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน มีต้นไม้ใหญ่และต้นชวนชมดอกสีชมพู[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]มุมบนด้านซ้าย มีตราสัญลักษณ์ 2 ตรา คือ ตราพระมหาพิชัยมงกุฎ และผอบทอง ระหว่างตราสัญลักษณ์ทั้งสอง มีตัวหนังสือพิมพ์ด้วยสีเหลืองว่า ส.ค.ส.๒๕๕๒ ใต้ลงมามีข้อความภาษาอังกฤษ Happy New Year 2009[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]มุมบนด้านขาว มีข้อความเป็นตัวหนังสือพิมพ์ด้วยสีเหลืองว่า สวัสดีปีใหม่ ขอจงมี...ความสุข...ความเจริญ ด้านล่างขวา มีตัวเลขสีแดง ระบุวันเดือนปีที่ทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ว่า 2008 12 17 / 17:11[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]กรอบของ ส.ค.ส.พระราชทานฉบับนี้ เป็นภาพหน้าคนเล็กๆ เรียงกันด้านละ 3 แถว ทุกหน้า มีแต่รอยยิ้ม[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ในกรอบด้านล่างมีข้อความ ก.ส.9 ปรุง 192231 ธ.ค. 51 พิมพ์ที่โรงพิมพ์สุวรรณชาด ท.พรหมบุตร, ผู้พิมพ์โฆษณา Printed at the Suvarnnachad publishing, D Bramaputra, Publisher[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้อยู่หัวพระราช ทานพรปีใหม่และส.ค.ส.พระราชทานปี 2552 แก่ปวงชนชาวไทยนั้น คุณทองแดง สุวรรณชาด ได้หมอบเฝ้าอยู่แทบพระบาทหลังพระเก้าอี้ตลอดเวลา[/FONT]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09TMHdNUzB3TVE9PQ==</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    จำนวนคนอ่านล่าสุด 100 คน <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TD vAlign=top align=left>[FONT=Tahoma,]วันที่ 01 มกราคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6608 ข่าวสดรายวัน[/FONT]


    [FONT=Tahoma,]คอลัมน์ เวทีเยาวชน[/FONT]



    [FONT=Tahoma,]<TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG][/FONT]
    [FONT=Tahoma,][/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>สวัสดีปีใหม่..ไชโย!

    [FONT=Tahoma,]เห็นบัตรอวยพรเต็มหน้าอย่างนี้ พี่ขลุ่ยเห็นจะไม่ต้องพูดอะไรมาก แต่ขอเป็นตัวแทนทีมงานหน้าเยาวชนข่าวสด อวยพรให้แฟนๆ หน้าเยาวชน ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ สดชื่นแจ่มใส ร่างกายแข็งแรง ฟิตพร้อมสู้ปัญหาต่างๆ ที่จะเข้ามา ไม่ว่าเข้ามาแบบไหลมาเทมา หรือซัดกระหน่ำ ขอให้เข้มแข็ง สู้...สู้ มีสติและกำลังใจ[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]เข้ากระแสให้ทันโลก ก็ขอให้ช่วยกันลดใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง และมีน้ำใจเผื่อแผ่กัน เราจะได้มีความสุขไปจนถึงวาระสวัสดีปีใหม่ครั้งหน้านะ[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]รักทุกคน (อิอิ)[/FONT]



    [FONT=Tahoma,]สวัสดีปีใหม่ จะขอใคร่ พี่น้องไทย[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]มีสุขพร้อมอวยชัย กันทั่วผองแผ่นดินทอง[/FONT]



    [FONT=Tahoma,]สวัสดีปีฉลูเพื่อนๆ แฟนคลับเวทีเยาวชน สบายดีหรือเปล่า ? ขอให้ทุกคนมีความสุข สนุกสนาน กับในปีใหม่นะคะ คิดสิ่งใดก็ให้สมปรารถนา ขอให้โชคดีตลอดทั้งปี "สวัสดีปีใหม่ค่ะ"[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ด.ญ.รังสิมา รัศมิทัต จ.สุโขทัย[/FONT]



    [FONT=Tahoma,]ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆ นะคะ [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]HAPPY NEW YEAR 2009[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ด.ญ.อารีวรรณ ครุฑจับนาค <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG][/FONT]
    [FONT=Tahoma,][/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    [FONT=Tahoma,]โรงเรียนเทศบาลเมืองสวรรคโลก จ.สุโขทัย [/FONT]



    [FONT=Tahoma,]น้อมขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์อธิษฐาน[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]โปรดบันดาลพรปีใหม่ให้พร้อมพรั่ง[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]เลิศอายุ วรรณะ สุขะ พลัง[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]สมสิ่งหวังเกษม สันต์นิรันดร์เทอญ[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]May you enjoy all the happiness, profitable business and success throughout the year and forever.[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ด.ช.ศุภสิทธ์ ณ นคร จ.พิษณุโลก [/FONT]



    [FONT=Tahoma,]ขอให้พี่ขลุ่ยและครอบครัวมีความสุขนะครับ ขอให้พี่ขลุ่ยอยู่กับทีมงานและขอให้ทีมงานมีความสุขตลอดไปครับ [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ด.ช.สนา แขม [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]โรงเรียนบ้านหนองสองห้อง จ.ฉะเชิงเทรา[/FONT]



    [FONT=Tahoma,]สวัสดีปีใหม่ 2552[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]HAPPY NEW YEAR 2009[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ด.ช.สหรรสวรรษ คำแดง โรงเรียนความหวังเวียงป่าเป้า จ.เชียงราย[/FONT]



    [FONT=Tahoma,]ส.ค.ส.2552[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]สวัสดีปีใหม่ หนูขออวยพรให้เพื่อนๆ และประชาชนทั่วไป จงรักกัน สามัคคี ทำความดีเพื่อถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ด.ญ.ชุติกาญจน์ ไวศยวรรณวงศ์[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษา <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG][/FONT]
    [FONT=Tahoma,][/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    [FONT=Tahoma,]สวัสดีปีใหม่ ปี 2552 [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]เนื่องในวันปีใหม่ ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุข ความเจริญกันถ้วนหน้านะคะ ทุกคน[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ด.ญ.จุฑามาศ สุวรรณเทศ [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]โรงเรียนวัดไทร (สินศึกษาลัย)[/FONT]



    [FONT=Tahoma,]ด.ญ.นราวรรณ หนูแก้ว จ.ปทุมธานี [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ขอให้เพื่อนมีความสุขมากและในวันปีใหม่เพื่อนๆ ทุกคนจงอย่าดื้อกับคุณพ่อ คุณแม่ นะคะ ถ้าใครดื้อจะเป็นเด็กไม่ดีและในวันปีใหม่ขอให้พี่ขลุ่ยและเพื่อนๆ มีความสุขนะครับ ในวันปีใหม่นี้ สุขสันต์วันปีใหม่[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]เจี๊ยบ[/FONT]



    [FONT=Tahoma,]ด.ช.ทัติยพงศ์ คำสี จ.ฉะเชิงเทรา [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ขอให้ทุกคนมีความสุข มีสุขภาพที่แข็งแรง ร่ำรวยเงินทอง[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]สุวิสา โพธิพันธุ์ [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]โรงเรียนวัดไทร (สินศึกษาลัย)[/FONT]



    [FONT=Tahoma,]ขออวยพรให้เพื่อนๆ เวทีเยาวชนมีแต่ความสุขกาย สุขใจ ไร้โรคภัย สมปรารถนาในสิ่งที่มุ่งมั่น ตั้งใจ พบคนดีๆ และสิ่งดีๆ นะคะ[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ด.ญ.ชลธิชา รัตนวัน [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]โรงเรียนวัดสุทธิสะอาด จ.กรุงเทพฯ [/FONT]



    [FONT=Tahoma,]ขอให้ทุกๆ คนมีความสุขในวันปีใหม่ และขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงและสมบูรณ์และขอให้สมปรารถนา โอมเพี้ยง...[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ด.ญ.ปานตะวัน แก้วเขียว โรงเรียนวัดไทร (สินศึกษาลัย)[/FONT]



    [FONT=Tahoma,]พรปีใหม่ พ.ศ.2552[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ขออาราธนาพระพุทธชินราช[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]บุญอำนาจ บันดาลให้ ได้สุขสันต์[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]สมเด็จ พระนเรศวร พระเดชอนันต์[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ทั่วถ้วนกัน พาลผองภัย มลายลง[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]พ.ศ.สองพันห้าร้อยห้าสิบสอง[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ให้สำเร็จ สมที่หวัง ดังประสงค์[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ลดกิเลส ลดยากได้ ให้ปลดปลง[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ทุกข์ที่คง จงที่สุด หลุดหายไป[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]อายุยืน อย่างรื่นรมย์ สมสุขถ้วน[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]วรรณะ ล้วนผ่องแผ้ว งามสดใส[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]จิตตะ มีดีทุกครั้ง ทั้งกายใจ[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]พละได้ งานเงินเพิ่ม เสริมปัญญา[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ด.ญ.พิชญกาญจน์ ศิระไตรรัตน์ [/FONT]

    [FONT=Tahoma,]โรงเรียนธีรดา จ.พิษณุโลก[/FONT]



    [FONT=Tahoma,]ปีใหม่นี้เกต ก็ขออวยพรให้พี่ ขลุ่ยและเพื่อนๆ ที่ส่งเรียงความมามีความสุขมากๆ นะคะ..[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]วิจิตรา แผ่นทอง จ.ตราด [/FONT]



    [FONT=Tahoma,]ขอให้สุขสมหวังดังมุ่งมาด ทั้งแคล้วคลาดภัยร้ายพิบัติความขัดสน[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]อานุภาพสิ่งศักดิ์บันดาลดล บรรลุผลสัมฤทธิ์ในปีใหม่เทอญ...[/FONT]

    [FONT=Tahoma,]ด.ญ.อภิพร ฉันท์ใด จ.สุโขทัย [/FONT]


    http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNeE1RPT0=&day=TWpBd09TMHdNUzB3TVE9PQ==

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>81 เรื่องของ “ในหลวง” ที่คนไทยควรรู้</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=right>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=bottom background=/images/linedot_hori.gif align=middle>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=bottom width=1 align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle>[​IMG]</TD><TD><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center background=/images/linedot_vert.gif width=1 align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD height=1 vAlign=top width=1 align=right>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=top background=/images/linedot_hori.gif align=middle>[​IMG]</TD><TD height=1 vAlign=top width=1 align=left>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=center width=165 align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ตลอดเวลา 60 ปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ “ในหลวง” ของปวงชนชาวไทยทรงครองสิริราชสมบัตินั้น พระองค์ทรงตรากตรำพระวรกาย ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขแห่งพสกนิกรไทยกว่า 64 ล้านคน
    พระมหากรุณาธิคุณนี้ได้ประจักษ์ต่อทุกดวงใจมิเพียงแต่ชาวไทยเท่านั้น แม้แต่ชาวต่างชาติก็รู้จักในหลวงของเราว่า... ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนักที่สุดและเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยทุกคน

    ในฐานะคนไทยแล้ว คุณคิดว่า คุณรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับพระองค์ดีหรือยัง หากว่ายังลองเข้าไปอ่าน 81 เรื่องราวของในหลวง ซึ่งบางเรื่องคุณอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อนก็เป็นได้....


    ** เมื่อทรงพระเยาว์

    1. ทรงพระราชสมภพเวลา 08.45น.(เวลาท้องถิ่น สหรัฐฯ)

    2. นายแพทย์ผู้ถวายการคลอดชื่อ ดับบลิว สจ๊วต วิตมอร์ มีน้ำหนักแรกประสูติ 6 ปอนด์

    3. พระนาม "ภูมิพล" ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7

    4. พระยศเมื่อแรกประสูติ คือ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า ภูมิพลอดุลยเดช

    5. ทรงมีชื่อเล่นว่า “เล็ก” หรือ “พระองค์เล็ก”

    6. เสด็จนิวัตสู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อพระชนม์ 2 พรรษา พร้อมด้วยสมเด็จพระชนกและสมเด็จพระชนนี

    7. ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนีหรือสมเด็จย่า อย่างสามัญชนว่า "แม่"

    8. สมัยทรงพระเยาว์ ทรงได้ค่าขนม อาทิตย์ละครั้ง

    9. แม้จะได้เงินค่าขนมทุกอาทิตย์ แต่ยังทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้ไปขาย เมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผักมาปลูกเพิ่ม

    10. สมัยพระเยาว์ทรงเลี้ยงสัตว์หลายชนิดทั้งสุนัข กระต่าย ไก่ นกขุนทอง ลิง แม้แต่งูก็เคยเลี้ยง ครั้งหนึ่งงูตายไปก็มีพิธีฝังศพอย่างใหญ่โต

    11. สุนัขตัวแรกที่ทรงเลี้ยงสมัยพระเยาว์เป็นสุนัขไทย ทรงตั้งชื่อให้ว่า "บ๊อบบี้"

    12. ทรงฉลองพระเนตร(แว่นสายตา)ตั้งแต่พระชันษายังไม่เต็ม 10 ขวบ เพราะครูประจำชั้นสังเกตเห็นว่าเวลาจะทรงจดอะไรจากกระดานดำจะต้องลุกขึ้นบ่อยๆ

    13. สมัยพระเยาว์ทรงซนบ้าง หากสมเด็จย่าจะลงโทษ จะเจรจากันก่อนว่า โทษนี้ควรตีกี่ที ในหลวงจะทรงต่อรองว่าทีเดียวก็พอ

    14. ระหว่างประทับอยู่สวิส จะทรงใช้ภาษาฝรั่งเศสกับสมเด็จพระเชษฐาและสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ แต่จะใช้ภาษาไทยกับสมเด็จย่าเสมอ

    15. ในหลวงทรงเชี่ยวชาญในภาษาต่างประเทศหลายภาษา เช่น ภาษาฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมันและลาติน

    16. ทรงได้รับการอบรมให้รู้จัก "การให้" โดยสมเด็จย่าจะทรงตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า "กระป๋องคนจน" หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไร จะต้องถูก "เก็บภาษี" หยอดใส่กระปุกนี้ 10% ทุกสิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่าจะเอาเงินในกระป๋องนี้ไปทำอะไร เช่น มอบให้โรงเรียนคนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน

    17. ครั้งหนึ่ง ในหลวงกราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้รถจักรยาน เพราะเพื่อนคนอื่นๆเขามีจักรยานกัน สมเด็จย่าตอบว่า "ลูกอยากได้จักรยาน ลูกก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิ หยอดกระป๋องวันละเหรียญ ได้มาก ค่อยเอาไปซื้อจักรยาน"

    18. กล้องถ่ายรูปกล้องแรกของในหลวง คือ Coconet Midget ทรงซื้อด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์ เมื่อพระชนม์เพียง 8 พรรษา

    19. ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงปั่นจักรยานไปโรงเรียนแทนรถพระที่นั่ง

    ทรงศึกษาวิชาการต่าง ๆ

    20. ทรงเคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมาแตร์เดอี เพราะช่วงพระชนมายุ 5 พรรษา ทรงเคยเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ 1 ปี มีพระนามในใบลงทะเบียนว่า "H.H Bhummibol Mahidol" หมายเลขประจำตัว 449

    21. ทรงเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยโลซานน์ แผนกวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์
    22. หลังจากที่เสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังประเทศสวิสเซอร์แลนด์อีกครั้งเพื่อทรงศึกษาวิชาใหม่ คือกฎหมาย และการปกครอง เนื่องจากต้องรับพระราชภาระเป็นพระมหากษัตริย์ ในด้านวิชาภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ ทรงศึกษาเปรียบเทียบระหว่างประเทศไทยกับนานาประเทศ เกี่ยวกับพื้นฐานและวัฒนธรรมของแต่ละชาติ เพื่อเป็นแนวปรับปรุงแก้ไขประเทศไทยให้เจริญขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชปรารภอยู่เสมอว่า ประเทศไทยของพระองค์ยังล้าหลังประเทศอื่นอยู่มาก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ และการศึกษา ฯลฯ

    ** พระอัจฉริยภาพ

    23. พระอัจฉริยภาพของในหลวง มีพื้นฐานมาจาก “การเล่น” สมัยทรงพระเยาว์ เพราะหากทรงอยากได้ของเล่นอะไร ต้องทรงเก็บสตางค์ซื้อเอง หรือ ทรงประดิษฐ์เอง ทรงเคยหุ้นค่าขนมกับสมเด็จพระเชษฐา เพื่อซื้อชิ้นส่วนวิทยุทีละชิ้นๆ แล้วทรงนำมาประกอบเองเป็นวิทยุ แล้วแบ่งกันฟัง

    24. สมเด็จย่าทรงสอนให้ในหลวงรู้จักการใช้แผนที่และแผนภูมิประเทศของไทย โดยโปรดเกล้าฯให้โรงเรียนเพาะช่างทำแผนที่ประเทศไทยเป็นรูปตัวต่อ เลื่อยเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆเพื่อให้ทรงเล่นเป็น จิ๊กซอว์

    25. ในหลวงทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด แต่ทรงโปรดแคลริเนท , แซกโซโพนและทรัมเป็ตมากที่สุดแต่เครื่องดนตรีชิ้นแรกที่ทรงหัดเล่นคือ หีบเพลง (แอกคอร์เดียน)

    26. ทรงสนพระทัยดนตรีอย่างจริงจังราวพระชนม์ 14-15 พรรษา ทรงซื้อแซกโซโฟนมือสองราคา 300 ฟรังก์มาทรงหัดเล่น โดยใช้เงินสะสมส่วนพระองค์ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งสมเด็จย่าออกให้

    27. ครูสอนดนตรีให้ในหลวง ชื่อ เวย์เบรชท์ เป็นชาว อัลซาส

    28. ทรงพระราชนิพนธ์เพลงครั้งแรก เมื่อพระชนมพรรษา 18 พรรษา เพลงพระราชนิพนธ์แรกคือ “แสงเทียน” จนถึงปัจจุบันพระราชนิพนธ์เพลงไว้ทั้งหมด 48 เพลง

    29. ทรงพระราชนิพนธ์เพลงได้ทุกแห่ง บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดนตรีช่วย อย่างครั้งหนึ่งทรงเกิดแรงบันดาลพระทัย ทรงฉวยซองจดหมายตีเส้น 5 เส้นแล้วเขียนโน้ตทำนองเพลงขึ้นเดี๋ยวนั้น กลายเป็นเพลง “เราสู้”

    30. วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน 2506 เสด็จทรงปลูกต้นนนทรี 9 ต้นที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน พร้อมทั้งทรงดนตรีเป็นครั้งแรกร่วมกับวง”อ.ส.วันศุกร์” ซึ่งมีอาจารย์และศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ร่วมด้วย คือ ศ.ดร.ระพี สาคริก และนายอวบ เหมะรัชตะ

    31. ทรงมีพระอัจฉริยภาพทางด้านการช่าง ซึ่งทรงโปรดหุ่นจำลองต่าง ๆ เช่นเรือใบ เรือรบ เป็นต้น ในคราวเสด็จนิวัตเมืองไทย ตอนก่อนสงครามโลก ได้ทรงจำลองเรือรบหลวงศรีอยุธยาจนเป็นผลสำเร็จ ครั้นแล้วเจ้าพระยารามราฆพก็ได้ทูลขอพระราชทานไปสำหรับให้พ่อค้าประชาชนได้ประมูลราคากันเพื่อเก็บเงินบำรุงโรงพยาบาลปราบวัณโรค ทรงถ่ายรูปไว้แล้วพระราชทานให้ไปตามประสงค์ ปรากฏว่า น.ส.เลอลักษณ์ เศรษฐบุตร ได้ประมูลซื้อไปเป็นเงินถึง 20,000 บาท อนึ่ง แม้แต่รูปเรือลำนั้นที่ทรงถ่ายโดยฝีพระหัตถ์ นายสหัส มหาคุณ เป็นผู้ประมูลซื้อไปถึงรูปละ 3,000 บาท

    32. นอกจากทรงโปรดการถ่ายภาพแล้ว ยังสนพระทัยการถ่ายภาพยนตร์ด้วย ทรงเคยนำภาพยนตร์ส่วนพระองค์ออกฉาย เพื่อนำเงินรายได้มาสร้างอาคารสภากาชาดไทย ที่ รพ.จุฬาฯ โรงพยาบาลภูมิพล รวมทั้งใช้ในโครงการโรคโปลิโอและโรคเรื้อนด้วย

    33. พระราชนิพนธ์เรื่อง ”นายอินทร์” และ “ติโต” ทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์ แล้วให้เสมียนพิมพ์ แต่เรื่องพระมหาชนกทรงพิมพ์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์

    34. ทรงเล่นกีฬาได้หลายชนิด แต่กีฬาที่ทรงโปรดเป็นพิเศษได้แก่ แบดมินตัน สกี และเรือใบ ทรงเคยได้เหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค ในกีฬาแหลมทอง(ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ”กีฬาซีเกมส์”) ครั้งที่ 4 ปี 2510

    35. ครั้งหนึ่งในหลวงทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นกลับฝั่งและตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯว่า เสด็จกลับเข้าฝั่งเพราะเรือแล่นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวล์ ทั้งๆ ที่ไม่มีใครเห็น แสดงให้เห็นว่าทรงยึดกติกามากแค่ไหน

    36. ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับสิทธิบัตรผลงานประดิษฐ ์คิดค้นเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่มลอย หรือ “กังหันชัยพัฒนา” เมื่อปี 2536

    37. ทรงเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาเชื้อเพลิงน้ำมันจากวัสดุการเกษตรเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน เช่น แก๊สโซฮอล์ และ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20ปีแล้ว

    38. องค์การสหประชาชาติ ได้ถวาย รางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่ในหลวงเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2549 เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวไทย โดยมี นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางมาถวายรางวัลด้วยตนเอง

    ** เรื่องส่วนพระองค์

    39. ทรงหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2492 ณ พระตำหนัก “วิลลาวัฒนา” และจัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ณ วังสระปทุม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493

    40.ในพระราชพิธีอภิเษกสมรส ในหลวงทรงพระราชทานของที่ระลึกแก่พระบรมวงศานุวงศ์และพระญาติ คือ หีบเงินขนาดเล็กมีพระปรมาภิไธยคู่ปรากฏบนหีบนั้น

    41. หลังอภิเษกสมรส ทรงเสด็จ “ฮันนีมูน” ที่หัวหิน

    42. ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 พระนามเต็มของในหลวงคือ... พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

    43. พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการเป็นสัจวาจาว่า “ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม”

    44. ทรงผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2499 และประทับจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน

    45. ระหว่างทรงผนวช พระอุปัชฌาและพระพี่เลี้ยง คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า(หม่อมราชวงศ์ชื่น นพวงศ์ฉายา สุจิตฺโต ป.๗) วัดบวรนิเวศวิหาร

    46. ในหลวงไม่ทรงโปรดสวมเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ ของมีค่าต่างๆ ยกเว้น นาฬิกา

    47. พระเกศาที่ทรงตัดแล้ว ส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่ธงชัยเฉลิมพลเพื่อมอบแก่ทหาร อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้สร้างวัตถุมงคล เพื่อมอบแก่ราษฎรที่ทำคุณงามความดีแก่ประเทศชาติ

    48. หลอดยาสีพระทนต์ ทรงใช้จนแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษ


    พระราชกรณียกิจ

    49. โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จนถึงปัจจุบันมีจำนวนกว่า 3,000 โครงการ

    50. ทุกครั้งที่เสด็จฯไปยังสถานต่างๆจะทรงมีสิ่งของประจำพระองค์อยู่ 3 สิ่งคือ แผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเอง(ตัดต่อเอง ปะกาวเอง) กล้องถ่ายรูป และดินสอที่มียางลบ

    51. ในหลวงทรงงานด้วยพระองค์เองทุกอย่างแม้กระทั่งการโรเนียว กระดาษที่จะนำมาให้ข้าราชการที่เข้าเฝ้าฯถวายงาน

    52. ครั้งหนึ่งเมื่อในหลวงเสด็จเยี่ยมโครงการห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง ปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเปียกฝนกันทุกคน เมื่อทรงเห็นดังนั้น จึงมีรับสั่งให้องครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงเยี่ยมข้าราชการและราษฎรทั้งกลางสายฝน

    53. ทรงศึกษาลักษณะอากาศทุกวัน โดยใช้ข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิทยานำขึ้นทูลเกล้าฯร่วมกับข้อมูลจากต่างประเทศที่ทรงหาเอง เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจก่อความเสียหายแก่ประชาชน

    54. โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เริ่มต้นขึ้นจากเงินส่วนพระองค์จำนวน 32,866.73บาท ซึ่งได้จากการขายหนังสือดนตรีที่พระเจนดุริยางค์ จากการขายนมวัว ก็ค่อยๆเติบโตเป็นโครงการพัฒนามาจนเป็นอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้

    55. เวลามีพระราชอาคันตุกะเสด็จมาเยี่ยมชมโครงการฯสวนจิตรลดา ในหลวงจะเสด็จฯลงมาอธิบายด้วยพระองค์เอง เนื่องจากทรงรู้ทุกรายละเอียด

    56. ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามว่า เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่ ในหลวงตอบว่า “ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ”

    57. ทรงนึกถึงแต่ประชาชน แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลังในอีก 5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน

    58. ตั้งแต่ปี2539 เป็นต้นมา ทรงพระราชทานแนวทางดำรงชีพแบบ “เศรษฐกิจพอเพียง” และ “ทฤษฎีใหม่” เพื่อให้ราษฎรได้พึ่งพาตนเองได้

    ** ของทรงโปรด

    59. อาหารทรงโปรด : โปรดผัดผักทุกชนิด เช่น ผัดคะน้า ผัดถั่วงอก ผัดถั่วลันเตา

    60. ทรงเสวย ข้าวกล้อง เป็นพระกระยาหารหลัก

    61. ไม่เสวยปลานิล เพราะทรงเป็นผู้เลี้ยงปลานิลคนแรกในประเทศไทย โดยใช้สระว่ายน้ำในพระตำหนักสวนจิตรลดาเป็นบ่อเลี้ยง แล้วแจกจ่ายพันธุ์ไปให้กรมประมง

    62. เครื่องดื่มทรงโปรด : โปรดโอวัลตินเป็นพิเศษ เคยเสวยวันหนึ่งหลายครั้ง

    63. ทรงโปรดข่าวช่องฝรั่งเศส เพื่อทรงรับฟังข่าวสารจากทั่วโลก

    64. ทรงฟัง จส.100 และเคยโทรศัพท์ไปรายงานสถานการณ์ต่างๆใน กทม.ไปที่ จส.100 ด้วย โดยใช้พระนามแฝง

    65. ตอนเช้าเมื่อตื่นบรรทม ในหลวงจะเปิดดูหนังสือพิมพ์รายวันทั้งไทยและเทศ ทุกฉบับ และก่อนเข้านอนจะทรงอ่านนิตยสารไทม์ส นิวสวีก เอเชียวีก ฯลฯ ที่มีข่าวทั่วทุกมุมโลก

    66. ร้านตัดเสื้อของในหลวง คือ ร้านยูไลย เจ้าของชื่อ ยูไลย ลาภประเสริฐ ถวายงานตัดเสื้อในหลวงมาตั้งแต่ปี 2501 เมื่อนายยูไลยเสียชีวิต ก็มี ลูกชาย นายสมภพ ลาภประเสริฐ มาถวายงานต่อจนถึงปัจจุบัน

    67. ห้องทรงงานของในหลวง อยู่ใกล้ห้องบรรทม บนชั้น 8 ของตำหนักจิตรลดาฯเป็นห้องเล็กๆ ขนาด 3x4 เมตร ภายในห้องมีวิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องพยากรณ์ แผนที่ ฯลฯ

    68. สุนัขทรงเลี้ยง นอกจากคุณทองแดง สุวรรณชาด สุนัขประจำรัชกาล ที่ปัจจุบันอยู่ที่พระราชวังไกลกังวล แล้ว ยังมีสุนัขทรงเลี้ยงอีก 33 ตัว


    69. อาชีพของในหลวง เมื่อผู้แทนพระองค์ไปติดต่อเอกสารสำคัญใดๆทรงโปรดฯให้กรอกในช่อง อาชีพ ของพระองค์ว่า “ทำราชการ”

    70. ในหลวงทรงพระเนตรเทียมข้างขวา เป็นผลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ รถพระที่นั่งชนกับรถบรรทุกอย่างแรง ทำให้เศษกระจกเข้าพระเนตรข้างขวา ตอนนั้นมีพระชนม์เพียง 20 พรรษา และทรงใช้พระเนตรข้างซ้ายข้างเดียว ในการทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนชาวไทยมาตลอด

    71. ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์อเมริกันลงข่าวลือเกี่ยวกับในหลวงว่า แซกโซโฟนที่ทรงอยู่เป็นประจำนั้นเป็นแซกโซโฟนที่ทำด้วยทองคำเนื้อแท้บริสุทธิ์ ซึ่งได้มีพระราชดำรัสว่า “อันนี้ไม่จริงเลย สมมติว่าจริงก็จะหนักมาก ยกไม่ไหวหรอก”

    72. ปีหนึ่งๆ ในหลวงทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่ง ใช้เดือนละแท่ง จนกระทั่งกุด

    73. ในหลวงเคยประชวรหนักจนพระหทัยเต้นไม่ปกติ เนื่องจากติดเชื้อไมโครพลาสมา ขณะขึ้นเยี่ยมราษฎรที่อำเภอสะเมิงติดต่อกันหลายปี

    74. รู้หรือไม่ว่า ในหลวงเป็นคนประดิษฐ์รูปแบบฟอนต์ภาษาในคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้อย่าง ฟอนต์จิตรลดา ฟอนต์ภูพิงค์

    75. ในหลวงทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดในโลก

    76. ในงานเฉลิมฉลองครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มีพระราชวงศ์จากทั่วโลกเสด็จมาร่วมงาน 25 ราชวงศ์

    77. ในนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จัดขึ้นที่อิมแพ็ค มีประชาชนเข้าชมรวม 6 ล้านคน

    78. ในหลวงเริ่มพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2493 จน 29 ปีต่อมาจึงมีผู้คำนวณว่าเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร 490 ครั้ง ประทับครั้งละ 3 ชม. ทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทาน 470,000 ครั้ง น้ำหนักปริญญาบัตรฉบับละ 3 ขีด รวมน้ำหนักทั้งหมด 141 ตัน

    79. ดอกไม้ประจำพระองค์ คือ ดอกดาวเรือง

    80. สีประจำพระองค์คือ สีเหลือง

    81. ทรงรับสั่งกับข้าราชบริพารเสมอว่า การนั่งรถคนละคันเป็นการสิ้นเปลือง ให้นั่งรวมกัน ไม่โปรดให้มีขบวนรถยาวเหยียด


    * * * * * * * *



    http://www.manager.co.th/MetroLife/ViewNews.aspx?NewsID=9510000143902



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2009
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    สวัสดีปีใหม่ครับ...

    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ซิ่งรถชนคนตาย! ศพติดบนหลังคา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เมื่อเวลา 00.20 น. วันที่ 30 ธ.ค. ขณะที่ พ.ต.ท.อุทัย นันตาเวียง สารวัตรเวร สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ปฏิบัติ หน้าที่บนโรงพัก

    ได้มีนายหย่วน กองแก้ว อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 311 หมู่ 3 ต.เชียงม่วน อ.เชียงม่วน จ.พะเยา ขับรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน ซันนี่ สีเขียว สภาพเก่า ทะเบียน ก 3599 พะเยา สภาพหน้ารถมีรอยชน กระจกหน้าแตก โดยบนหลังคารถมีศพชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40-45 ปี สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสกอตสีน้ำตาล นุ่งกางเกงยีนส์ สภาพมีรอยถูกชนจนแขนขาหัก หน้าท้องเป็นแผลเหวอะหวะหวิดขาดออกเป็น 2 ท่อน
    หลัง พ.ต.ท.อุทัย นันตาเวียง ชันสูตรศพในเบื้องต้น ได้สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยนายหย่วนลำดับเหตุการณ์ ว่า ตนเป็นอดีต ส.จ.พะเยา ปัจจุบันทำงานเป็นที่ปรึกษา นายไพรัตน์ ตันบรรจง นายก อบจ.พะเยา

    ก่อนเกิดเหตุ ได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวออกจากบ้านที่ จ.พะเยา เพื่อไปทำธุระใน จ.เชียงใหม่ ระหว่างวิ่งมาตามถนนสายเชียงราย-เชียงใหม่ ช่วง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ปรากฏว่าถนนมืดมาก จู่ๆรถเกิดพุ่งชนวัตถุของหนักบางอย่างจนกระเด็น กระแทกขอบกระจก แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร พยายามตั้งสติประคองรถแล้ววิ่งต่อมาเรื่อยๆโดยไม่กล้าจอดรถลงไปดู เนื่องจากถนนค่อนข้างเปลี่ยวกลัวว่าจะไม่ปลอดภัย

    นายหย่วนให้การอีกว่า ปรากฏว่าระหว่างวิ่งเข้าเขตพื้นที่ อ.สันทราย ได้มีรถยนต์ที่วิ่งตามหลังบีบแตรเหมือนส่งสัญญาณอะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้สนใจ

    กระทั่งเลยจุดเกิดเหตุราว 10 กม. มีคนขี่รถ จยย.คันหนึ่งได้ตะโกนบอกว่ามีศพอยู่บนหลังคา ด้วยความตกใจจึงรีบจอดรถลงไปดูพบศพชายดังกล่าว ขณะนั้นรู้สึกกลัวมากจนทำอะไรไม่ถูก เลยบอกให้คนขี่รถ จยย.ซึ่งเป็นคนพื้นที่ช่วยขี่นำทางพาไปโรงพัก เพื่อแจ้งความตำรวจให้สืบหาว่าผู้ตายเป็นใคร อย่างไรก็ตาม ตอนแรกที่ชนไม่นึกว่าเป็นคนและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าศพติดหลังคารถ

    ด้าน พ.ต.ท.อุทัย นันตาเวียง เปิดเผยว่า จากการตรวจชันสูตรศพผู้ตายไม่พบหลักฐานใดๆ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นพวกคนเมาเดินข้ามถนน

    อย่างไรก็ตาม เท่าที่สอบถามนายหย่วนพบว่า จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด แต่จำไม่ได้ว่าจุดไหน ทั้งนี้ จะได้ประสานพนักงานสอบสวน สภ.ดอยสะเก็ด เจ้าของท้องที่ช่วยตรวจสอบต่อไป ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้ประสานหน่วยกู้ภัยพิงคนครและแพทย์ รพ.สันทราย มาร่วมชันสูตรอีกครั้ง ก่อนส่งไปเก็บ ไว้ที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อรอญาติมาติดต่อรับไป

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center bgColor=#e2e2e2 border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>จับพระเมาเหล้าลวนลาม นศ.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center border=5><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>เชียงราย 31 ธ.ค. - ตำรวจรวบตัวพระลูกวัดแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย หลังดื่มสุราฉลองปีใหม่แล้วเมาขาดสติ พยายามลวนลามนักศึกษา

    ตำรวจเชียงรายสอบปากคำพระฉลอง ตปสัมปันโน พระลูกวัดแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย ซึ่งอยู่ในอาการเมาสุราขาดสติ พูดจาไม่รู้เรื่อง พระฉลอง ให้การว่า นั่งดื่มสุราอยู่กับ รปภ. ที่หน้าโรงเรียนพาณิชยการแห่งหนึ่ง เพราะอยู่วัดเหงา เมื่อเห็นนักศึกษาสาว 2 คน เดินผ่านมา จึงพูดจาแทะโลม และพยายามลวนลาม แต่ไม่สำเร็จ

    จนนักศึกษาทั้ง 2 คน พาผู้ปกครองไปแจ้งความ

    เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งเจ้าอาวาสวัดมารับตัวพระฉลองไปทำการสึก และควบคุมตัวไปดำเนินคดีข้อหาเมาสุรา ประพฤติตัวไม่เหมาะสม และใช้วาจาลวนลามผู้หญิงอายุไม่เกิน 18 ปี ที่มิใช่ภรรยาของตน. - สำนักข่าวไทย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ตำนานพระเจ้าพรหมมหาราช

    [​IMG]

    ในสมัยโยนกนคร พระเจ้าพังคราชบรมกษัตริย์ พระองค์เสวยราชสมบัติตั้งแต่อายุ 18 ปี พออายุได้ 20 ปี ขอมดำยกทัพมา พระเจ้าพังคราชได้เตรียมทัพออกรบ เพื่อประวิงเวลาในการให้ เด็ก สตรี และ คนชรา หลบหนี พร้อมทั้งเตรียมขนย้ายทรัพย์สมบัติไปซ่อนไว้ แถวดอยตุงบ้าง แม่สายบ้าง การรบครั้งแรกก็ได้ปะทะ กับทัพหน้าของขอมดำ พระเจ้าพังคราชก็มีชัยชนะ แต่พอทัพหลวงทัพซ้ายทัพขวาของขอมดำมาถึง ซึ่งกำลังพลมากกว่าเรากว่า 4 เท่า ในที่สุดพระเจ้าพังคราชก็ยอมแพ้ เมื่อเห็นว่าผู้คนที่ให้หลบหนีไป ปลอดภัยแล้ว

    เจ้าขอมดำเมื่อมีชัยชนะ ได้จับพระเจ้าพังคราช ไปพิจารณาโทษ แต่มีอำมาตย์ของขอมดำชื่อ พันจาม เป็นแม่ทัพคนสำคัญ ได้กราบทูลเจ้าขอมดำว่า "พระเจ้าพังคราชไม่มีความผิด เพราะไม่ได้ยกทัพตีเรา แต่เรายกทัพมาตีเขา ถ้าจะฆ่าพระเจ้าพังคราช ก็ผิดความมุ่งหมายไปมาก เพราะเราต้องการพื้นที่ ควรจะส่งพระเจ้าพังคราชไปอยู่ที่ วังสีทอง อยู่ทางแม่สาย ให้เนื้อที่อยู่อาศัย ประมาณแสนไร่ และให้ส่งส่วยเป็นทองคำปีละ 20 ชั่ง"

    เมื่อพระเจ้าพังคราช และประชาชนคนไทยถูกต้อนไปอยู่ยังวังสีทอง ความเจ็บปวดแสนสาหัส ความทุกข์ทรมานที่ถูกขอมดำย่ำยี อย่างโหดร้าย ลูกใคร เมียใคร ที่มันต้องการ มันจะบังคับเอาตามอำเภอใจของมัน หรือจะฆ่าจะทำร้ายใครก็ทำได้ เพราะเป็นนโยบายของเจ้าขอมดำ ที่จะกำจัดคนไทยให้หมดภูมิภาคนี้

    เวลาผ่านไป พระมเหสีของพระเจ้าพังราช ทรงพระครรภ์ และคลอดพระราชโอรส ให้นามว่า ทุกภิกข แปลว่าเกิดมาในท่ามกลางความทุกข์ เพราะคนไทยในขณะนั้น ต้องอยู่อย่างอดทน ต่างก็ช่วยกันทำมาหากิน พร้อมกับออกไปร่อนทอง เพื่อเป็นส่วยส่งให้ขอมดำ แม้แต่พระเจ้าพังคราชก็เสด็จไปร่อนทองด้วย

    คนไทยซึ่งมีความเคารพในพระพุทธศาสนา มากมีความเมตตาเป็นปกติ แต่ต้องมาทนทุกข์ทรมาน มีความอดอยากลำบากยิ่ง ทั้งยังถูกขอมดำกดขี่ขมเหง แต่คนไทยยังมีการไหว้พระ มีการภาวนา และเจริญพระกรรมฐานเป็นปกติ ท้าวโกสีสักเทวราช คือ พระอินทร์ ทราบว่ากรรมเก่าของพระเจ้าพังคราช และราษฎรคนไทยได้สลายตัวแล้ว จึงแปลงกายเป็นเด็กอายุประมาณ 12 ปี เดินมาจากป่าตรงไปหาพระเจ้าพังคราช

    ทีแรกบรรดาประชาชนก็กันไว้ แต่พระเจ้าพังคราชบอกว่าอย่ากัน "จะเป็นใครมาจากไหนก็ตาม เราถือว่าเป็นคนเหมือนกัน เราจะต้องอยู่ร่วมกันได้" แล้วเด็กคนนั้นก็เข้าไปหาพระเจ้าพังคราช แนะนำวิธีทำทอง โดยบอกส่วนผสมที่ใช้ในการหลอมทำทอง คือ แร่เพรียงไฟ ดีบุก แร่ทองแดง สารปากนกแก้ว และสารอีกชนิดหนึ่ง(ขอปิดไว้) พร้อมบอกสถานที่มีสารแร่เหล่านี้ และทำให้ดูเป็น ตัวอย่าง จะได้ทองคำ 100%

    หลังจากนั้นพระเจ้าพังคราช และราษฎรคนไทยก็มีความเป็นอยู่ดีขึ้น ผ่านไป 3 ปี ในขณะนั้น "ท้าวผกาพรหม" ได้ไปเรียก "สัพเกศีพรหม" บอกว่า ขณะนี้คนไทยลำบากอยู่ ท่านจะมาเสวยสุขอยู่เฉพาะผู้เดียว โดยไม่เหลียวแลคนไทยที่อยู่ข้างหลังไม่เป็นการสมควร ท่านควรจะลงไปเกิดเป็นลูกชายพระเจ้าพังคราช แล้วช่วยกู้ชาติไทย ให้ปลอดภัยจากความเป็นทาส

    หลังจากนั้น ท้าวผกาพรหมก็ประกาศว่า มีพรหมองค์ใดที่นับถือ พระพุทธศาสนา เคยเกิดเป็นคนไทยมาก่อน จะลงไปช่วยคนไทยบ้าง ก็มีพรหมอีก 250 องค์ ลงไปเกิดพร้อมๆกันเป็นสหชาติ และมีพรหมอีก 3 องค์ บอกว่าจะมาช่วยไปเกิดเป็นช้างคู่บารมี ต่อมาสัพเกศีพรหม พร้อมด้วยพรหมอีก 250 องค์ ก็ได้มาเกิดพร้อมกันทุกองค์ ต่างมีรูปร่างผิวพรรณสวยงามมาก เพราะต่างก็มาจากพรหม โอรสพระเจ้าพังคราชมีนามว่า "พรหมกุมาร"

    หลังจากพรหมกุมารและสหชาติทั้ง 250 ได้มาเกิด ความอุดมสมบูรณ์ ก็ปรากฏแก่ประชาชนชาวไทย และพวกขอมดำก็ลดตัวในการข่มเหงคนไทยลง เพราะคนไทยเกิดความแข็งแกร่งในจิต ในวัยเด็กพรหมกุมารและสหชาติได้เป็นเพื่อเล่นกัน ที่โปรดปรานมากคือ การเล่นสงคราม การฝึกอาวุธ สร้างอาวุธ ขี่ม้า เป็นต้น

    เมื่อพรหมกุมารอายุได้ 12 ปี คืนหนึ่งได้ฝันว่า วันรุ่งขึ้นให้ไปที่แม่น้ำโขงจะมีช้าง 3 เชือก ถ้าจับช้าง เชือกที่หนึ่งได้ จะได้เป็นจ้าวโลก ถ้าจับช้างเชือกที่สองได้ จะปราบชมพูทวีปได้หมด ถ้าจับช้างเชือกที่สามได้จะปราบขอมได้หมด

    พอตื่นเช้าขึ้นมา พรหมกุมารก็กราบทูลให้พระราชบิดาทราบ พระบิดาจึงอนุญาตให้ไปดักช้างได้ ในตอนสายของวันนั้น พรหมกุมารและสหชาติ ได้ไปดักจับช้างตามที่ฝัน แทนที่จะเห็นช้าง กลับเป็นงูหงอนแดง ตัวใหญ่ขาวโพลนเลื้อยมาตามลำแม่น้ำโขง ก็ปล่อยไป ตัวที่สองก็เป็นงูหงอนแดงอีก ก็ได้ปล่อยไปอีก รออยู่พักหนึ่งงูหงอนแดงตัวที่สามเลื้อยผ่านมา

    พรหมกุมารจึงให้สหชาติช่วยกันจับ พอโดดขึ้นจับคองูหงอนแดงก็กลายเป็นช้างเผือกขาวโพลน เดินทวนน้ำมาได้ทั้งๆ ที่น้ำไหลหลากมาก แต่ช้างไม่ยอมขึ้นฝั่ง พรหมกุมารจึงให้สหชาติไปกราบทูลพระราชบิดา ให้ทรงทราบ พระเจ้าพังคราชจึงให้โหรทำนาย โหรได้บอกว่า ต้องเอากระพังทองไปตีล่อ ช้างเผือกจึงจะขึ้นมา

    ในที่สุดพรหมกุมารก็ได้ช้างพลายประกายแก้ว มีความสวยงดงามมาก มีสีขาวเป็นประกายคล้ายแก้วการ เลี้ยงดูก็ปล่อยเป็นอิสระ ช้างพลายประกายแก้วจะไปไหนจะเข้าป่า ก็ไม่มีสัตว์ตัวใดกล้าทำร้าย ช้างป่าก็เข้ามาเป็นบริวารมากมายโดยไม่ต้องไปต่อหรือไปดึงมา

    เมื่อพรหมกุมารอายุได้ 16 ปี พระเจ้าพังคราชให้แต่งงานมีภรรยา ต่อมาพรหมกุมารกราบทูลพระราชบิดาว่า "ต่อไปนี้เราจะไม่เป็นผู้แพ้ ดินแดนของเราอยู่เพียงไหน เราจะยึดเอามาให้หมด แล้วจะยึดพื้นที่อีกไม่น้อยกว่า 4 เท่า"

    พรหมกุมารก็เริ่มสะสมอาวุธ ฝึกการรบ เตรียมไพร่พลเพื่อกู้เอกราช เมื่อเตรียมการเสร็จก็ได้งดส่งส่วยให้ขอมดำ เมื่อขอมคำรู้ว่าคนไทยงดส่งส่วย แสดงว่า แข็งเมือง จึงยกทัพมาตี ฝ่ายไทยเตรียมพร้อมอยู่แล้ว จึงจัดทัพออกไปรบทันที การรบแม้ไทยมีกำลังน้อยกว่าถึง 4 เท่า แต่การรบครั้งนี้ กำลังใจของคนไทยแข็งแกร่งมากเพราะการรบครั้งนี้ รบเพื่อหวังประโยชน์สองอย่าง คือ

    1.รบเพื่อหวังอิสรภาพ ไทยต้องเป็นไท
    2.รบเพื่อขับไล่ขอมดำให้ออกไปนอกเขตแดนไทย

    ในที่สุด พรหมกุมาร และสหชาติ ใช้กลยุทธต่าง ๆ ในการรบ จนสามารถขับไล่ขอมออกไปจากเขตแดนไทยได้

    แต่ในการไปตีเมืองขอม ภรรยาของพรหมกุมาร ซึ่งได้ออกรบด้วย ได้ถูกขอมฆ่าเสียชีวิต ทำให้พรหมกุมารโกรธแค้นขอมมาก ได้ไล่ล่าฆ่าขอมเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน จึงหยุดพักทหารแล้วจึงเคลื่อนทัพ ไล่ฆ่าขอมต่อไป ขึ้นชื่อว่าขอมจะต้องไม่มีชีวิตอยู่ ไล่ไปจนถึงเมืองกำแพงเพชร

    พระอินทร์เห็นว่า ถ้าปล่อยให้ฆ่าต่อไปจะบาปมากเกินไป จึงให้ท่านวิษณุกรรมเทพบุตร มาทำให้ทหารหมดกำลัง และสร้างกำแพงแก้วกั้นทัพของพรหมกุมารไว้ ซึ่งพรหมกุมารเองก็คิดว่า การกวาดล้างขอมก็มากแล้วแค่นี้ก็พอ และเจ้าเมืองกำแพงเพชรก็ไม่ต้องการจะทำศึก จึงได้ยกพระธิดาให้สมรสกับพรหมกุมาร

    ในขณะที่ทำศึก พรหมกุมาร ก็ได้กราบทูลพระราชบิดา ขอเป็นกษัตรย์ชั่วคราว เพื่อสะดวกในการออกคำสั่ง เมื่อเสร็จศึก พรหมกุมารจึงได้เชิญพระราชบิดา ขึ้นเสวยราชสมบัติ ให้พี่ชายคือเจ้าชายทุกภิกขเป็นอุปราช ส่วนพรหมกุมารอยู่รักษาเมืองกำแพงเพชร รวมเวลาทั้งหมดที่พระเจ้าพังคราชเป็นทาสขอมดำ 22 ปี

    ต่อมาพระพุฒโฆษาจารย์ ซึ่งเป็นไทยใหญ่ ท่านได้นำพระไตรปิฎก และพระบรมสารีริกธาตุมาถวายพระเจ้าพังคราช พระองค์ได้ให้โอรสทั้งสององค์ ร่วมกันบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบนดอยน้อย คือ พระธาตุจอมกิตติ แล้วสร้างเจดีย์ โดยใช้แผ่นทองคำหุ้มองค์เจดีย์ เวลาต่อมาพระเจ้าผาเมือง ทรงสร้างเจดีย์องค์ใหญ่ทับไว้อีกชั้น

    สมเด็จพระพุฒโฆษาจารย์ ท่านได้ชี้จุดบนดอยน้อย ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประทับ ณ ที่นี้ทรงอธิษฐาน ให้เส้นพระเกศาของพระองค์ หลุดติดพระหัตถ์มา 3 เส้น เมื่อทรงเสยเกษา แล้วพระพุทธองค์ทรงฝังเส้นพระเกศา โดยการอธิษฐานให้จมลงไปบนดอยน้อยนั้น แล้วทรงพยากรณ์ว่า

    "เขตแดนนี้ ต่อไปจะมีนามว่า โยนกนคร จะมีความเจริญรุ่งเรืองมาก จะสามารถรักษาพระพุทธศาสนา ไว้ได้ครบ 5,000 ปี"

    พรหมกุมารก็ได้เสวยราชสมบัติต่อจากเจ้าชายทุกภิกข มีพระนามว่า พระเจ้าพรหมมหาราช ปกครองโยนกนครสืบมา พระองค์ก็เจริญพระกรรมฐาน ทรงฌานสมาบัติ เมื่อทรงทิวงคตก็ไปเป็นพรหมตามเดิม

    ปัจจุบัน อนุสาวรีย์พระเจ้าพรหมมหาราช มีอยู่ทั้งที่หมู่บ้านป่าไม้แดง หมู่ 9 ต.หนองบัว อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย เพราะถือเป็นกษัตริย์มหาราชแห่งล้านนา

    ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=81692
    <!--MsgFile=29--><!--MsgFile=28-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2009
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ภาพเบื้องหลังกองถ่าย
    วีรชนคนกล้าแห่งสยามประเทศ “พระเจ้าพรหมมหาราช”

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    เอาเบื้องหลังกองถ่ายกันตนามาฝากค่ะ พอดีมีพี่ที่รู้จักมีโอกาสไปถ่ายรูปมา เลยเอามาฝาก โครงการละครโทรทัศน์ชุด “วีรชนคนกล้าแห่งสยามประเทศ”จะมีหลายตอนนะค่ะ ตอนที่เอาภาพมาฝากเป็นตอน “พระเจ้าพรหมมหาราช” (พระมหาราชองค์แรกของแผ่นดินสยาม)

    หลายท่านอาจจะไม่เคยทราบประวัติของพระพรหมมหาราชมาก่อน เราเองก็เพิ่งทราบเหมือนกันว่าท่านเป็น พระมหาราชองค์แรกของแผ่นดินสยาม

    บทสัมภาษณ์บางส่วน

    เหมือนว่า ‘หนุ่ม’ นี่จะดูเป็นโลโก้ของละครเพื่อชาติเลยนะ

    “ก็ ตัวผมเองก็คงจะต้องกราบขอบพระคุณครับ ทางผู้จัดไม่ว่าจะเป็นทางบริษัทกันตนาก็ตามหรือว่ามูลนิธิ 5 ธันวามหาราช ที่ให้โอกาสผมและก็ให้เกียรติผม
    ผมก้รู้สึกทราบซึ้งทั้งกับตัวเองและก็ครอบครัวด้วย ก็ต้องทำให้ดีที่สุดน่ะครับ ต้องทำให้ดีที่สุด”

    ได้มารับบทเป็น ‘พระเจ้าพรหมมหาราช’ ในละครเทิดพระเกียรติ ‘วีรชนคนกล้าแห่งสยามประเทศรู้สึกยังไงบ้าง

    “ก็คงเป็นความรู้สึกเดิมน่ะครับ เป็นการกู้เอกราชให้กับประเทศชาติ ผืนแผ่นดินไทย ต้องรู้สึกดีมากๆ อยู่แล้ว

    ตอนเค้าติดต่อมาล่ะ

    “รู้สึก ดีครับ เพราะว่าเรารู้สึกว่า ไม่ได้เล่นละครพีเรียดมานานมากแล้ว และก็ได้มีโอกาสได้เอาเทปเรื่อง สายโลหิตมาดู เมื่อไม่นานมานี่เอง สักสองสามเดือนนี้ เราก็รู้สึกว่า เราก็อยากได้ประสบการณ์หรือความสุขอะไรแบบนี้ด้วย”

    ทำไมถึงหยิบขึ้นมาดู เพราะว่าต้องเล่นเรื่องนี้หรือเปล่า

    “เปล่าครับ คือคุณแม่ท่านจะชอบดูหนังเก่าๆ ของผมก็เลยขอยืมมาดูบ้าง”


    จากคุณ : <!--MsgFrom=2-->น้ำตาล..ขม..อมเปรี้ยว - [ <!--MsgTime=2-->22 ธ.ค. 51 13:39:31 <!--MsgIP=2-->]

    ลักษณะของโครงการ

    โครงการละครโทรทัศน์ชุด“วีรชนคนกล้าแห่งสยามประเทศ” เป็นการผลิตละครโทรทัศน์ โดยนำเนื้อหาจากประวัติศาสตร์มาสร้างสรรค์ จำนวน 12 เรื่อง ความยาวเรื่องละ 10 ชั่วโมง ออกอากาศเผยแพร่สัปดาห์ละ 4 วัน วันจันทร์ – พฤหัสบดี โดยออกอากาศวันละครึ่ง ชั่วโมงออนแอร์ ทางช่อง 5 วันที่ 5 มกราคม 2551 เป็นต้นไป ออกอากาศ 18.00-18.30 น. <!--MsgFile=27-->

    แนวคิดสำคัญของละคร เสนอให้เห็นถึงวีรกรรมอันกล้าหาญ ของวีรชนในประวัติศาสตร์ ทั้งในด้านประวัติ คุณความดี และวีรกรรมต่างๆ โดยยึดความถูกต้องตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์เป็นสำคัญ

    สังเขปเนื้อหาในแต่ละตอน

    1.พระเจ้าพรหมมหาราช

    พระเจ้าพรหมมหาราช เป็นเรื่องราวของพรหมกุมาร รัชทายาทแห่งโยนกนคร ได้รวบรวมผู้คนเพื่อทำสงคราม ปลดแอกจากอำนาจของขอม ที่ครอบครองเมืองของพระองค์และยังกดขี่ข่มแหงราษฎร จนกระทั่งพระองค์ได้รับชัยชนะ และทำให้อาณาจักรของไทย มีความเป็นปึกแผ่นต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน และทรงเป็นกษัตรย์ที่ทรงดำริ ให้หล่อพระพุทธชินราชพระพุทธรูปที่ได้รับการยกย่องว่า สวยงามที่สุดในประเทศไทยขึ้น และนำมาประดิษฐานไว้ ณ.วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ(วัดใหญ่) จ.พิษณุโลกในปัจจุบัน นำแสดงโดย ศรราม เทพพิทักษ์

    2.จอมนางจามเทวี ...นำแสดงโดย วรัทยา นิลคูหา

    3.ขุนพลสุพรรณภูมิ

    4.พญามือเหล็ก

    5.กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

    ช่วงแรกนี้ทำ 5 ชุดก่อน

    ผลที่คาดว่าจะได้รับ

    1.ละครโทรทัศน์ชุดนี้ จะทำให้ผู้ชมได้ทราบถึงวีรกรรมอันกล้าหาญของวีรชนในประวัติศาสตร์ไทย ทำให้ผู้ชมเห็นความสำคัญของประวัติศาสตร์ไทย ในฐานะศาสตร์ ที่แสดงถึงความเป็นชาติมากยิ่งขึ้น

    2.ละครโทรทัศน์ชุดนี้จะทำให้ผู้ชม เกิดสำนึกรักชาติ รักแผ่นดิน และราชบัลลังก์ โดยยึดถือแบบอย่างจากวีรชน ที่เป็นตัวละครสำคัญในแต่ละเรื่อง

    3.ละครโทรทัศน์ชุดนี้ จะเป็นการบันทึกเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ไว้ในรูปแบบของสื่อสมัยใหม่ อันจะทำให้เนื้อหาประวัติศาสตร์และสำนึกรักชาติ ได้เผยแพร่ในวงกว้างยิ่งขึ้น และสามารถใช้เป็นสื่อการเรียนการสอนในโรงเรียนได้


    จากคุณ : <!--MsgFrom=25-->จากไป - [ <!--MsgTime=25-->22 ธ.ค. 51 15:19:26 <!--MsgIP=25-->]

    ที่มา http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A7347378/A7347378.html
    <!--MsgFile=25--><!--MsgFile=2-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • A7347378-5.jpg
      A7347378-5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      82.9 KB
      เปิดดู:
      2,597
    • A7303925-35.jpg
      A7303925-35.jpg
      ขนาดไฟล์:
      124.6 KB
      เปิดดู:
      69
    • A7303925-37.jpg
      A7303925-37.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129.1 KB
      เปิดดู:
      70
    • A7303925-38.jpg
      A7303925-38.jpg
      ขนาดไฟล์:
      140.2 KB
      เปิดดู:
      82
    • A7347378-0.jpg
      A7347378-0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      150.7 KB
      เปิดดู:
      2,486
    • A7347378-1.jpg
      A7347378-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.8 KB
      เปิดดู:
      70
    • A7347378-2.jpg
      A7347378-2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      142.8 KB
      เปิดดู:
      72
    • A7347378-3.jpg
      A7347378-3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      106.8 KB
      เปิดดู:
      89
    • A7347378-4.jpg
      A7347378-4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.2 KB
      เปิดดู:
      72
    • A7347378-6.jpg
      A7347378-6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.1 KB
      เปิดดู:
      79
    • A7347378-7.jpg
      A7347378-7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.9 KB
      เปิดดู:
      58
    • A7347378-9.jpg
      A7347378-9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      121.2 KB
      เปิดดู:
      86
    • A7347378-10.jpg
      A7347378-10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      129 KB
      เปิดดู:
      2,868
    • A7347378-11.jpg
      A7347378-11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      122 KB
      เปิดดู:
      77
    • A7347378-12.jpg
      A7347378-12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.4 KB
      เปิดดู:
      66
    • A7347378-13.jpg
      A7347378-13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      103 KB
      เปิดดู:
      88
    • A7347378-14.jpg
      A7347378-14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.6 KB
      เปิดดู:
      93
    • A7347378-25.jpg
      A7347378-25.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.6 KB
      เปิดดู:
      90
    • A7347378-26.jpg
      A7347378-26.jpg
      ขนาดไฟล์:
      81.5 KB
      เปิดดู:
      86
    • A7347378-27.jpg
      A7347378-27.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.9 KB
      เปิดดู:
      95
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มกราคม 2009
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สวัสดีปีใหม่ พ.ศ.2552 ครับทุกๆท่าน

    ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ได้อวยพรปีใหม่มาให้ผม ผมก็ขอให้ทุกๆ ท่านได้รับพรอันประเสริฐนั้นๆ เช่นเดียวกันครับ พอดีผมได้เก็บภาพชุดไทยโบราณสวยๆ เอาไว้ในเครื่องคอมฯ เลยขอนำมาฝากทุกๆ ท่านที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้ เป็นของขวัญปีใหม่ครับผม

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เจ้าสัวซีพี แนะนายกรัฐมนตรี ใช้ทฤษฎี 2 สูง รับมือวิกฤติเศรษฐกิจ

    [​IMG]

    กรุงเทพ ฯ 23 ธ.ค. - นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวในงาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...