ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

สถานที่ติดต่อ โลกุตตระ ในอดีต ถูกทุบถึง 2 แห่ง คงถึงคราวจริงๆ แล้ว สวดมนต์กันให้มากๆ นะคะ

 

เรื่องเล่าจากคุณ Denverguy<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1218769", true); </SCRIPT>
สมาชิก เว็บพลังจิต



​

สวัสดีครับ ผมเพิ่งมาถึงเมืองไทย เพิ่งได้เนทก็เลยแวะมาอัพเดท น้าผมไปหาหลวงปู่เกษม มาก็ได้ลองถามท่านดู ท่านว่าครูบาอาจารย์หลวงตาบัว พระอรหันต์และตัวท่านเองก็ต่อรองกับพวกอำมาตย์มาร เสนามาร(เพราะพญามารคือท่านวัสสวัตตีมาร ท่านปราถนาพุทธภูมิแล้ว มีสัมมาทิฐิแล้วจึงไม่เกี่ยวกับการณ์นี้)ที่มาประชิดมนุษย์โลกเตรียมลงมือกับประเทศไทย ตอนนี้พวกมารเล่นงานโลกโดยเฉพาะเมืองที่นับถือพุทธแต่ทำกันแบบผิดศีล ผิดธรรม

หลวงปู่เกษมท่านก็ได้ต่อรองเพราะพวกมารกะฆ่าไม่เลือกหน้า ท่านก็ต่อรองว่าก็เว้นผู้มีศีล มีธรรม เอาเฉพาะผู้มีเวรกับท่านก็พอ ตอนนี้จึงเป็นการแยกคนดีคนชั่วไว้ แล้วค่อยลงมือ ท่านว่าพวกมารแค่เข้าอธิษฐานจิตปุ๊บ ทุกอย่างก็พรึบ คือเก็บกวาดได้ทันที ท่านก็ว่าไม่ต้องห่วงเหตุการณ์ที่หนักก็จะเป็นเบา ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นชาวพุทธหันมาศึกษาทำตามพระไตรปิฏก รู้จักอุทิศบุญ อย่าคิดว่าการอุทิศบุญเป็นสิ่งนอกศาสนา เพราะมันเป็นกรรมฐานกองหนึ่ง มีอยู่ในพระไตรปิฏกเล่มที่สอง ฉะนั้นถ้าจะให้ดีศึกษาให้ดี ทำการอุทิศบุญกันให้เยอะๆ ทุกอย่างก็จะดีขึ้น เบาขึ้น แต่เหตุการณ์ภัยก็ต้องเกิดขึ้นบ้าง เป็นการสั่งสอน ภัยทางลมจะมี คนจะได้ร้องไห้เที่ยวหาญาติมิตรกันก็มีอยู่ แต่คงไม่หนักขนาดเมืองจีน แต่ก็มีการสูญเสีย ครูบาอาจารย์พระอรหันต์ท่านช่วยกันอยู่ พวกเราก็ต้องเร่งช่วยตัวเองด้วย

ตอนนี้เมืองลาวเขาเอาจริง พระสังฆราชลาวได้มีโอกาสฟังเทศน์ หลวงปู่เกษม เรื่องพระไม่รับเงิน เรื่องการเบิกบุญ อุทิศบุญ ก็ได้ให้พระไปค้นพระไตรปิฏกมาเทียบเคียงแล้ว เห็นว่าตรงกัน ก็ได้เริ่มแก้ไข ประกาศให้พระเมืองลาวไม่รับเงิน งานฉลองเจดีย์พระธาตุหลวงที่เมืองลาว ที่เตรียมจัดงานกันอย่างเอิกเกริก พระสังฆราชลาวท่านสั่งให้งด ให้ยกเลิกหมด เพราะมันผิดพระธรรมวินัย ท่านกำลังฟื้นฟู พระศาสนา แล้วทางราชการเองก็ขานรับ พร้อมให้ความร่วมมือ แล้วเรามาค่อยดูกัน ว่าเมืองลาวจะเจริญกว่าไทยให้เห็นในไม่ช้า ถ้าเมืองไทยไม่แก้ไขให้ถูกธรรมวินัย พระเรา ฆราวาสเรา ยังไม่ตื่นตัวแก้ไขกัน ก็ยังไม่มีทางดีขึ้น ช่วยๆ กันรักษาธรรมวินัย ทั้่งพระทั้่งโยม สิ่งใดผิดก็ยกเลิก แก้ไขซะ ทุกอย่างจะได้ดีขึ้นเจริญขึ้นแต่ฝ่ายเดียว ไม่เหมือนตอนนี้ ทำบุญไปแบบผิด มีผลทั้งบุญปนบาป ก็ไม่ได้ผลดีเต็มร้อยอย่างทุกวันนี้

ยังไงผมก็ขออภัยมา ณที่นี้ หากผมทำิสิ่งใดผิด หรือล่วงเกินผู้ใดก็เตือนด้วยเจตนาดี เรื่องภัยพิบัตินั้น ตอนนี้ก็อาจจะชะลอออกไป หรืออาจจะไม่เลื่อนแต่อาจจะเบากว่าที่แจ้งไปแต่ต้น ก็ต้องเฝ้าระวังด้วยความไม่ประมาท แต่ก็อย่าตื่นตูม จนเกินเหตุ มีทุกอย่างไว้พร้อมรับมือ อยู่หรือตายอย่างผู้ไม่ประมาท ด้วยการรักษาศีล มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง ละกังวล ศึกษาพระไตรปิฏก แล้วลงมือบำเพ็ญกรรมฐาน ที่ถูกจริตของตนๆ ไป ให้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้รักษาตน และศาสนาให้ดำรงอยู่ต่อไป จนครบห้าพันปี..


ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=126019&page=9
<!-- / message -->

<!-- / message -->​

 

ดร.วลัยภรณ์ นาคพันธุ์(Toutou)​

ผลงานอันยอดเยี่ยมของ อ.ตู๋ ที่ทำให้กับเว็บพลังจิต ดูได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

ให้ช่วยกันหาพิกัด ของสถานที่ปลอดภัย/จุดนัดพบ
http://palungjit.org/showthread.php?t=69448

<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ให้ช่วยกันหาพิกัด (ละติจูด, ลองติจูด) รายละเอียด และภาพถ่าย ของสถานที่ปลอดภัย/จุดนัดพบต่อไปนี้ เพื่อ Toutou จะเอาไปปักหมุดต่อไป

ภาคกลาง
1.วัดโพธิ์สุทธาวาส ตำบลโคกหม้อ อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ 2.สำนักสงฆ์ธรรมยาน บ้านเขาน้อย ตำบลนาเฉลียง อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์
3.วัดจันทาราม (วัดท่าซุง) ตำบลน้ำซึม อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี
4.วัดเกาะพระฤาษี ตำบลนิคมสหกรณ์ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
5.วัดท่าขนุน ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
6.วัดพุทธบริษัท ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
7.วัดถ้ำทะลุ ตำบลนิคมสหกรณ์ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนาบุรี
8.วัดพุน้ำร้อนรัตนคีรี หมู่ที่ 12 ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
9.วัดห้วยสมจิตรเจริญธรรม หมู่ที่ 5 ตำบลสหกรณ์นิคม อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

ภาคอีสาน
1.วัดบ้านโนนสมบูรณ์ อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี 2.สำนักสงฆ์ธรรมวิโมกข์ บ้านพิทักษ์ไทย หมู่ 10 ตำบลบ้านก่อ อำเภอชานุมาน จังหวัดอำนาจเจริญ
3.วัดป่าสุทธิธรรมวิเวก บ้านบะตากา ตำบลหนองใหญ่ อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
4.วัดป่าแสงธรรมคำบง บ้านโคกสี ตำบลชุมพร อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด
5.วัดป่าโคกดินแดง บ้านป้อง ตำบลโพธิ์ศรีสว่าง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด
6.วัดป่าสวนสวรรค์เทพพาราม บ้านตาดซ้อ ตำบลเขาแก้ว อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
7.วัดป่ากุงไตรรัตน์ประสิทธิ์ บ้านหินตั้ง ตำบลจอมศรี อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
8.วัดป่าโคกกลาง ตำบลจันทร์เพ็ญ อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร
9.วัดป่าโพธาชัย ตำบลบ้านจัน อำเภอบ้านคุง จังหวัดอุดรธานี
10.สำนักสงฆ์ถ้ำผาทอง ตำบลศรีแก้ว อำเภอเลิงนกทา จังหวัดยโสธร
11.วัดภูดอกม้า อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร
12.วัดป่าภูน้อย อำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์
13.วัดบ้านโนนสะอาด ตำบลบ้านคู อำเภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์
14.วัดศรีสว่าง ตำบลท่าดอกคำ อำเภอบึงโขงโหลง จังหวัดหนองคาย
15.วัดถ้ำศรีวิไลวราราม ตำบลหนองเข็ม อำเภอบึงกาญจน์ จังหวัดหนองคาย

ภาคเหนือ
1.วัดพระพุทธบาทสี่รอย ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
2.วัดชมพู ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
3.สำนักปฏิบัติธรรมอารามประทานพร ตำบลทุ่งปี อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
4.วัดท่าช้าง ตำบลทุ่งบิ๊ อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่
5.วัดพระธาตุมุงเมือง อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา
6.วัดใหม่สุขุมาราม ตำบลวังตะกู อำเภอบางมูลนาค จังหวัดพิจิตร
7.วัดหนองนกชุมเหนือ อำเภอทุ่งทราย จังหวัดกำแพงเพชร
8.วัดป่าสว่างอินทราราม อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร

ภาคใต้
1.วัดพรหมนิวาส ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส

ในการหาพิกัดที่แน่นอนคงต้องเป็นคนที่รู้จักพื้นที่นั้นดี และใช้โปรแกรม GoogleEarth ช่วยคะ ประกอบกับข้อมูลในเว็บนี้

ตัวอย่างการปักหมุดสถานที่ปลอดภัย


(คลิ๊กที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่)

วัดพระพุทธบาทสี่รอย

<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1>
<!-- / icon and title --><!-- message -->ปักหมุดวัดพระพุทธบาทสี่รอยแล้วคะ

ไปที่ http://toutou.siamtalks.com/ แล้วคลิ้กที่ปุ่มภาคเหนือ

พิกัดบนแผนที่ทางหลวง (+19&deg; 1'3.9'', +98&deg; 45'44.7'') เมื่อแปลงเป็นระบบทศนิยมแล้ว จะได้ (19.017750, 98.762417) โดยการพิมพ์ +19&deg; 1'3.9'', +98&deg; 45'44.7'' เข้าไปในกล่องค้นหาของกูเกิ้ลแมพในเว็บนี้คะ http://maps.google.com/

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=69448

 

แผ่นดินไหวเสฉวน ทำลายตึกไป 5.5 ล้านหลัง ยอดคนตายพุ่ง 55,000 คน

​

ปักกิ่ง 23 พ.ค.- รองผู้ว่าการมณฑลเสฉวน ของจีน เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พุ่งขึ้นเป็น 55,239 คน สูญหายอีก 24,949 คน และบาดเจ็บ 281,066 คน

แผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 8 ตามมาตราริกเตอร์ ยังส่งผลให้อาคารบ้านเรือนเกือบ 5.5 ล้านหลัง พังทลายในมณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทั้งยังพบชาวจีนต้องกลายเป็นคนไร้บ้านมากถึง 5.47 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดว่า จะมีผู้ไร้บ้านประมาณ 5.2 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย

2008-05-23 10:23:11

ทนายชี้รัฐบาลทหารพม่าไม่สามารถยืดเวลากักบริเวณ ซู จี

​

พม่า 23 พ.ค. - ทนายความของ นางอ่องซาน ซูจี ผู้นำฝ่ายค้านของพม่า ระบุ รัฐบาลทหารพม่าไม่มีอำนาจขยายเวลาการกักบริเวณ นางซูจี ซึ่งจะสิ้นสุดลงในสุดสัปดาห์นี้ได้อีก

จาเร็ด เก็นเซอร์ ทนายความของ นางซูจี กล่าวว่า ภายใต้กฎหมายพม่า ทางการจะควบคุมตัวบุคคลโดยไม่ตั้งข้อหา หรือการพิจารณา ได้นานเพียง 5 ปี ดังนั้น นางซูจี จะ ต้องได้รับอิสรภาพภายในเที่ยงคืนวันเสาร์นี้ ซึ่งจะครบรอบ 5 ปี ที่ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ภายในบ้านพัก ในนครย่างกุ้ง

ขณะที่ในวันอาทิตย์จะมีการประชุมของสหประชาชาติ และสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน เพื่อช่วยเหลือเหยื่อพายุไซโคลนนาร์กีส ซึ่งหาก นางซูจี ได้รับการปล่อยตัว นางก็อาจจะออกไปร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

2008-05-23 10:13:16

นักวิทยาศาสตร์สหรัฐร่วมประเมินค่าความเสียหายแผ่นดินไหวหากเกิดในสหรัฐ

​

วอชิงตัน 23 พ.ค.- นายเดวิด แอพเพิลเกต หัวหน้าศูนย์สำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐ กล่าวต่อรัฐสภาว่าหากแผ่นดินไหวระดับความรุนแรง 8 ริคเตอร์ ที่จีนเกิดขึ้นที่รัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,800 คน และบาดเจ็บ 50,000 คน สร้างความเสียหายมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
คณะนักวิทยาศาสตร์จำลองสถานการณ์โดยให้มีลักษณะที่คล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นในจีน เมื่อวันที่ 12 พ.ค. โดยให้เกิดแผ่นดินไหวจากรอยเลื่อนซาน แอนเดรส ที่พาดผ่านรัฐแคลิฟอร์เนียที่มีประชากรอยู่อาศัยมากที่สุดในสหรัฐ โดยที่ศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ทางใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าการจำลองสถานการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นกรณีเลวร้ายที่สุด แต่เป็นเพียงโอกาสที่น่าจะเกิดขึ้นได้

อย่างไรก็ดี นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าด้วยมาตรการแจ้งเตือนภัยที่ดีพร้อม จะทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตไม่มากเหมือนที่จีน โดยคาดว่าจะมีคนตายราว 1,800 คน ตึกรามบ้านช่องในรัศมี 24 ก.ม.จะพังราบ และอาคารอีกกว่า 600,000 หลัง จะได้รับความเสียหาย ทำให้มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยและไร้งานทำหลายพันคน แผ่นดินไหวจะทำลายสะพานสำคัญ ท่อประปา สายส่งกระแสไฟฟ้า เส้นทางรถไฟ และเครือข่ายโทรคมนาคม

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าอิทธิพลจากแผ่นดินไหวจะสร้างความเสียหายรุนแรงแก่ระบบประปา คาดว่าต้องใช้เวลาถึง 6 เดือน จึงจะสามารถส่งน้ำหล่อเลี้ยงอาคารได้เพียงบางแห่ง

การวิเคราะห์และจำลองสถานการณ์ครั้งนี้เป็นการระดมสมองจากผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์กว่า 300 คน ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่ใช้ในการฝึกรับมือเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่จะจัดขึ้นในเดือน พ.ย.นี้ ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย.-สำนักข่าวไทย

2008-05-23 09:56:22

นายกฯ จีน เยือนเป๋ยฉวน รอบที่ 2 ย้ำไม่ทิ้งประชาชน

​

จีน 23 พ.ค. - ผู้นำของจีน ไปเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวในเมืองเป๋ยฉวน เป็นรอบที่ 2 พร้อมย้ำรัฐบาลไม่ทิ้งประชาชน

นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ของจีน ประกาศต่อบรรดาเจ้าหน้าที่กู้ภัย และประชาชนผู้ประสบภัยในเมืองเป๋ยฉวน ซึ่งเป็นพื้นที่หนึ่งที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากแผ่นดินไหว 7.9 ริกเตอร์ ว่า รัฐบาลและประชาชนทั่วประเทศจะไม่ลืมเหตุการณ์ และเหยื่อผู้ประสพภัยภัยแผ่นดินไหว และจะนำความโศกเศร้า มาเป็นแรงขับดันในการสร้างบ้านเมืองขึ้นมาใหม่

การเยือนเป๋ยฉวน ของนายกรัฐมนตรีเวินครั้งนี้ นับเป็นการลงพื้นที่ในมณฑลเสฉวน ครั้งที่ 2 แล้ว นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ทางการยืนยันยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 54,151 คน เพิ่มขึ้นจาก 1 วัน ก่อนหน้านี้เกือบ 10,000 คน ขณะที่ยังมีที่สูญหายอีก 29,328 คน และอีกเกือบ 300,000 คน ได้รับบาดเจ็บ.- สำนักข่าวไทย

2008-05-23 09:27:46

พบเหยื่อรอดตายแผ่นดินไหวที่จีนอีก 1 คน​

​

จีน 23 พ.ค. - แม้เหตุแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนจะผ่านมานานกว่า 10 วัน แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจีนสามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากใต้ซากปรักหักพังเพิ่มอีกราย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้รอดชีวิตรายล่าสุดที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยดึงขึ้นมาจากซากปรักหักพัง เป็นหญิงชาวจีนวัย 35 ปี ชื่อ กุ้ย จางฮุย ซึ่งติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังในอุโมงค์ผันน้ำ บริเวณจุดก่อสร้างของโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำเมืองฮ่งไป๋ นานถึง 216 ชั่วโมง หรือกว่า 9 วัน นับเป็นผู้รอดชีวิตรายเดียวที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยค้นพบและสามารถช่วยเหลือขึ้นมาได้ในวันพุธที่ผ่านมา ก่อนที่เธอจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเมืองซีฟาง ในสภาพแขนและกระดูกซี่โครงหัก แต่ล่าสุดอาการพ้นขีดอันตรายแล้วหลังได้รับการผ่าตัด

นางกุ้ย เปิดเผยว่า เธอเอาชีวิตรอดมาได้เนื่องจากรับประทานปัสสาวะของตัวเองถึง 3 ครั้ง และเธอเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะต้องหาเธอพบและช่วยเหลือเธอได้อย่างแน่นอน. -สำนักข่าวไทย

2008-05-23 06:17:11

ที่มา http://news.mcot.net/international/index.php?page=1

 

รวมคำทำนายของหมอดูการเมืองทั้งหลาย​

"ช้างชนช้าง"​

ของแถมเรื่อง

 

*** ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ****

การกระทำของท่าน เที่ยงหรือยัง !!!
เป็นที่พึ่งได้ หรือยัง !!!!

วันนี้...ท่านมีสัจจะทำดีอะไร ???

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ตอนนี้แถวหัวลำโพง/สี่พระยา/ตลาดน้อย ฟ้าร้องฮึ่มๆ และครึม+ดำ มากคะ เมื่อวานท้องฟ้าน่ากลัว แต่แถวตลาดน้อยฝนตกไม่หนักมาก

 

สถานที่ติดต่อ โลกุตตระ...ที่อังกฤษ
กำลังรื้อค้น...แล้วพบอะไร !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อนุโมทนา....สาธุ กับคณะผู้จัดทำสถานที่นัดพบด้วย นะครับ

แต่ยังอยากจะตั้งข้อสังเกตไว้ว่า สถานที่ดังกล่าวคงจะปลอดภัยจริงในแง่ของการหลบภัย แต่ขอให้พิจารณาจำนวนบุคคลที่จะเข้าไปแออัดกันอยู่ในที่เหล่านั้นด้วยว่า สับปายะจะเพียงพอให้หลบกันได้มากน้อยแค่ไหน

แล้วถ้าในระยะยาวจะมีปัญหาในการหาอาหารหรือปัจจัยอื่นใดมาดำรงชีวิตโดยไม่ต้องไปรบกวนพระคุณเจ้าในสถานที่แห่งนั้นด้วย นะครับ

ควรจะมองหาบริเวณที่กว้างขวางพอที่บรรจุคนเข้าไปได้มากขึ้นหน่อย และมีแหล่งน้ำสะอาดตลอดจนพื้นที่เพาะปลูกพืชอายุสั้นไว้ด้วย เพราะถึงเวลานั้นจริงๆจะวิกฤตมากในทุกๆด้าน

แล้วที่สำคัญก็คือ อย่าได้คาดหวังว่าใครจะมาช่วย (เช่น กาชาดสากลหรือยูเอ็น) เพราะเวลานั้นไม่ทราบว่าหน่วยงานเหล่านั้นจะเอาตัวเองรอดไปได้หรือเปล่าเลย ครับ ฉะนั้นจึงต้องเพื่อระยะเวลาที่ต้องดำรงชีวิตด้วยตนเองให้ยืนยาวขึ้นด้วย ครับ


(||) (||) (||) (||) (||) (||) (||) (||)

 

*** สำนึกในหน้าที่ รับผิดชอบ ****

หาก...บ้านเมืองมีภัยพิบัติ
งานในหน้าที่ ความรับผิดชอบของท่าน....
จะสามารถช่วยเหลือ รื้อฟื้นบ้านเมือง อะไรได้บ้าง ?

คน กำลังพล...เครื่องมือ เครื่องจักร
ในไทย...มีอยู่มาก
แต่ กระจายกันอยู่ !!!!!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

http://palungjit.org/showpost.php?p=588349&postcount=242

รูปวัดพระพุทธบาทสี่รอยครับ

 

ขออภัยครับ ลิ้งค์แผนที่เก่าใช้ไม่ได้ขอเปลี่ยนใหม่ เป็นที่นี่ครับ

แผนที่แสดงตำแหน่งจุดนัดพบ/สถานที่ปลอดภัยยามเกิดภัยพิบัติ(BETA) Powered by Google Maps

สนใจคลิกดูที่ http://maps.palungjitrescuedisaster.com/



กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ... โดยคุณคณานันท์ ทวีโภค (kananun) มีสมาชิกแรกเริ่ม ที่รวมตัวกันในหมู่ที่เชื่อและรับทราบข้อมูลในเรื่อง ภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่ เป็นสมาชิกของเวบไซต์พลังจิต และด้วยการให้เกียรติของท่านเจ้าของเวบไ์ซต์พลังจิต คุณ WebSnow ได้ช่วยตั้งชื่อให้กับกลุ่มทำงานนี้ว่า "กลุ่มพลังจิต พิชิตภัยพิบัติ"

.. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ...

1. เพื่อให้ข่าวสารข้อมูลในเรื่องการเกิดภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งในด้านคำทำนาย ทั้งจากพระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ท่านต่างๆ และคำทำนายจากต่างประเทศ รวมทั้งการใช้ข้อมูลอ้างอิงทางด้านข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ ในความเป็นไปได้ในการเกิดภัยพิบัติทั้งทางธรรมชาติ และที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์ด้วยกัน

2. เพื่อรวบรวมข้อมูลในการเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมร่างกายให้พร้อมรับกับภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยหวังไว้เพื่อเป็นการช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม แก่ทุกคน ทุกชาติ ทุกศาสนา

3. เพื่อช่วยกระตุ้นเตือน ให้มนุษย์หวนย้อนกลับมา สู่ศีลธรรม ความดีงาม ของจิตใจ การให้คุณค่า ในจริยธรรม ความดี ความเสียสละ ความเมตตา และความรับผิดชอบในการอยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้

4. เพื่อหาทางรอดของประชาชนชาวไทย และการธำรงความเป็นชาติไทย การรักษาพระพุทธศาสนาให้ครบห้าพันปี และ ความจงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์เอาไว้

ท่านที่มีความเสียสละต่อส่วนรวม โดยไม่หวังผลตอบแทน และอยากที่จะทำงานเพื่อการช่วยเหลือส่วนรวมจึงได้มารวมตัวกัน ทำงานต่างๆเหล่านี้ โดยการเสียสละ เวลา การทำงาน การพักผ่อน ทุนทรัพย์ของตนเองในการทำงานเพื่อหวังว่าจะช่วยชีวิต ผู้อื่นให้ได้มากที่สุด

ทุกท่านที่มาร่วมทำงานล้วนแต่ทำหน้าที่ที่ตนเองต่างรู้ได้ด้วยตัวเอง เพราะเป็นคำสัญญา คำอธิษฐาน ที่ต่างคน ต่างได้สัญญาไว้ในอดีตกาล ก่อนที่จะมาได้พบเจอกัน ทำให้งานประสานกันและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

ถ้าท่านเห็นว่าสิ่งที่ทำนี้จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและตัวท่านเอง ขอให้ท่านได้อาสาเข้ามาช่วย เข้ามาทำงานในจุดที่ท่านชำนาญและมีความถนัดได้ทุกเวลา ในครั้งแรกเริ่มเราได้รวมตัวกันที่เว็บพลังจิตในหมวด "ภัยพิบัติและการเตรียมการ"

ตอนนี้เราได้รวมตัวกันเปิดเวบไซต์เฉพาะกิจของกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติโดยเฉพาะแล้ว จัดทำโดย Nakamura และ Toutou

สนใจคลิกดูที่ http://maps.palungjitrescuedisaster.com/

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>

 

สงสัยว่า ถ้ามีขบวนการขายชาติจริง สมคบกับต่างชาติ

โดยดึงต่างชาติมากอบโกย ผูดขาด และเอาเปรียบคนไทย

จะทำให้ ภัยพิบัติ เกิดขึ้นเร็วขึ้นใหม

เพราะหยุดขบวนการทั้งหมด

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD colSpan=3><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="92%">โดย สำนักข่าวไทย [ 23-05-2551 | 16:44:40 น. ]</TD></TR><TR><TD> </TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top> </TD><TD vAlign=top colSpan=2><TABLE borderColor=#666666 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="2%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="93%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width="7%"> </TD><TD width="93%">เนปิดอว์ 23 พ.ค.- รัฐบาลทหารพม่าตัดสินใจ ไม่ผิดที่ย้ายเมืองหลวงจากย่างกุ้ง ไปเป็นเนปิดอว์ ทั้งที่เดิมทีเนปิดอว์เป็นพื้นที่ห่างไกล รกร้าง แต่หลังจากได้รับการสถาปนาให้เป็นเมืองหลวง พื้นที่แห่งนี้ ก็ได้รับการพัฒนาจนมีความทันสมัย ในขณะที่ย่างกุ้งกลับเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ และล่าสุดยังถูกไซโคลนนาร์กีสพัดถล่ม จนทั่วทั้งเมืองได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
พม่าเป็นประเทศที่ผู้คนเชื่อเรื่องโชคลาง และนิยมดูหมอ การย้ายเมืองหลวงจึงเป็นไปตามคำแนะนำของโหราจารย์ ที่นายทหารระดับสูงของพม่า ให้การยอมรับนับถือ คำว่า “เนปิดอว์” หมายถึง “ถิ่นพำนักของพระราชา” การย้ายเมืองหลวงมีขึ้นเมื่อช่วงปลายปี 2548 ซึ่งในเวลานั้น เนปิดอว์ ยังไม่มีแม้กระทั่งร้านขายของชำ โรงเรียน หรือสถานพยาบาล เครือข่ายโทรศัพท์ได้รับการจัดวางเพียงเล็กน้อย
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
เอ.......

เราน่าจะย้ายเมืองหลวงบ้างนะ

 

ถ้าคุณหล่อลำน้ำไม่เชื่อเรื่องหมอดู ก็ไม่ควรจะเดือดร้อนอะไรนี่ครับ ใครเขาอยากจะทำนายอะไรก็เป็นเรื่องของเขา ถ้าคุณคิดว่าไม่ใช่เรื่องจริงซะอย่างเดียวมันก็หมดเรื่องไป แต่นี่คุณหล่อลำน้ำแสดงอาการร้อนรนออกมาอย่างนี้ก็แสดงว่า คุณก็แอบเชื่อว่ามันอาจจะเป็นไปได้ใช่ไหมล่ะ ถึงได้พยายามมาใช้คำพูดถากถางต่างๆ นานา เพื่อลดความกลัวในใจของตัวเองให้มันลดน้อยลงไป

เรื่องของภัยพิบัติไม่มีใครเขาต้องการให้มันเกิดหรอกครับ พวกเราถึงได้พยายามหาวิธีป้องกันตัว มาบอกเล่าให้เพื่อนๆ สมาชิกได้เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับภัยบัติได้ทันท่วงที ถ้ามันจะเกิดมาแบบปุ๊บปั๊บไม่รู้เนื้อรู้ตัว ชาวพม่าและชาวจีนที่ประสบกับภัยพิบัติ เขาก็คิดเหมือนกับคุณหล่อลำน้ำกำลังคิดอยู่ในขณะนี้เหมือนกันว่า เรื่องภัยพิบัติเป็นเรื่องเหลวไหล ไม่มีทางที่จะเกิดกับพวกเขาได้ แต่ในที่สุดมันก็เกิดแบบที่เขาไม่สามารถจะเตรียมตัวอะไรได้ทันเลย

หมอดูเขาก็มีหลักวิชาในการทำนายทายทักของเขา ไม่เช่นนั้นวิชาโหราศาสตร์ ซึ่งมีมานานนับเป็นพันๆ ปีคงจะสูญหายไปหมดแล้วไม่อยู่ยืนยาวมาจนถึงทุกวันนี้ การที่ผมรวบรวมคำทำนายจากที่ต่างๆ มาให้เพื่อนๆ ในเว็บพลังจิตนี้ได้อ่านกัน ก็เพื่อจะได้เตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ ได้ทันเวลาถ้าหากมันจะเกิดขึ้นมาจริงๆ แต่ถ้ามันไม่เกิดก็ไม่เห็นจะเสียหายอะไร ที่เราจะเตรียมพร้อมเพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง กับคนที่เรารักให้อยู่รอดปลอดภัยไว้เสมอ จริงไหมครับ

ถ้าคุณหล่อเห็นว่ากระทู้นี้ไม่มีสาระ ไม่น่าเชื่อถือแล้วยังจะเฝ้าเพียรพยายาม เข้ามาดู เข้ามาด่าว่ากระทบ กระแทกคนโน้นคนนี้อยู่ทำไมเล่าครับ สู้เอาเวลาไปทำเรื่องอื่นที่มันมีสาระกว่านี้ ดีกว่าครับ.....

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"อาหารยุคอวกาศ" ช่วยชีวิตพม่าสนับแสน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>23 พฤษภาคม 2551 15:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพอาหารเสริมสำเร็จรูป Plumpy'nut มีลักษณะคล้ายกับเนยถั่วซึ่งให้พลังงานประมาณ 500 แคลลอรี่ ประกอบไปด้วยสารอาหารที่สำคัญครบถ้วน (ภาพ : www.flickr.com)</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ผู้จัดการออนไลน์- พลัมพีนัท (Plumpy'nut) และ BP-5 เป็นอาหารที่ไม่สามารถหาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป แต่อาหารยุคอวกาศนี้ (space-age foods) ได้กลายเป็นอาวุธชิ้นเยี่ยมในการต่อสู่กับความหิวโหยโดยเฉพาะในช่วงหลังจากเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ เช่นพายุนาร์กิสพัดถล่มในพม่า

อาหารยุคอวกาศสามารถขนย้ายได้อย่างสะดวกและยังพร้อมรับประทานได้ทันที รวมทั้งยังสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานกว่าอาหารทั่วไป ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ดีในการนำไปช่วยเหลือผู้ที่กำลังเผชิญกับความหิวโหยจากเหตุการณ์พายุพัดถล่มในพม่า ที่มีเด็กเป็นจำนวนมากที่กำลังป่วยจากภาวะการขาดแคลนอาหาร

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=230 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=230> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>เด็กชายชาวเอธิโอเปียกำลังกินอาหารเสริม Plumpy'nut ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประสบปัญหาขาดสารอาหารอย่างรุนแรง (ภาพ : www.imcworldwide.org).</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เด็กๆ ดูท่าทางที่จะชอบเจ้าอาหารอวกาศนี้เสียด้วย

"อาหารอวกาศนี้มีคุณสมบัติที่เหมือนกับยาทั่วไป" นายบรูซ โคกิล (Bruce Cogill) ผู้ประสานงานด้านโภชนาการของโลกซึ่งได้รับการสนุบสนุนจากกองทุนเพื่อเด็กขององค์การสหประชาชาติ หรือ UNICEF กล่าว

"นี่เป็นผลิตภัณฑ์ชั้นสูง เมื่อไม่สามารถนำไปยังเขตภัยพิบัติได้ เด็กๆ ก็จะได้กินแต่ข้าวต้ม" สำนักข่าวเอเอฟพีอ้างคำกล่าวของนายโคกิล

อาหาร BP-5 เป็นที่รู้จักกันดีในรูปของขนมปังอบกรอบที่ให้พลังงานสูง ซึ่งเต็มไปด้วยสารอาหารและมักจะถูกนำไปใช้เมื่อในกรณีที่เกิดภาวะการขาดอาหารในระดับปานกลาง

ส่วน Plumpy'nut คิดค้นขึ้นโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว มีลักษณะเหมือนแท่งขนมอบแห้งรสเนยถั่ว (Peanut Butter) ห่อด้วยกระดาษฟอยล์ วัตถุประสงค์การคิดค้นนี้ก็เพื่อนำไปใช้ในกรณีที่เกิดภาวะการขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง

อาหารทั้ง 2 ชนิดนี้ได้ช่วยแก้ไขปัญหาที่มีมานาน คือ ทำอย่างไรที่จะสามารถช่วยให้ผู้ที่กำลังเผชิญกับความหิวโหยมีชีวิตอยู่ต่อได้

องค์กรความช่วยเหลือต่างๆ กล่าวว่า Plumpy'nut สามารถช่วยให้เด็กเพิ่มน้ำหนักได้มากถึงสัปดาห์ละ 2 กิโลกรัมซึ่งอาหารยุคอวกาศนี้มีความหมายต่อความเป็นความตายในพม่าได้

ทั้งนี้ มูลนิธิ Save the Children กล่าวว่ามีเด็กๆ หลายพันคนที่กำลังเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเนื่องจากไม่ได้รับอาหารเพียงพอ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>อาหารเสริมยุคอวกาศ BP-5 ที่บรรจุกล่อง โดยสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 5 ปี เป็นความก้าวหน้าอีกขึ้นหนึ่งของในต่อสู้กับความหิวโหย (ภาพ : www.necc.no).</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ข้อดีอีก 2 ข้อของอาหารดังกล่าวนี้คือ ลักษณะของบรรจุภัณฑ์นั้นทำให้สามารถนำไปแจกจ่ายโดยการทิ้งร่มจากอากาศยานได้ และพ่อแม่สามารถนำไปให้ลูกๆ กินได้เลย โดยไม่ต้องไม่ปรึกษาแพทย์ ทำให้ผู้ใหญ่สามารถดูแลเด็กๆ ได้เอง

"อาหารนี้สามารถนำไปแจกจ่ายได้จากสถานที่ซึ่งอยู่ไกลออกไป และผู้รับก็เพียงแค่มาเอามันไป" นายแฟรงค์ สมิธิอุส ( Frank Smithuis) ผู้อำนวยการประจำพม่าขององค์การแพทย์ไร้พรมแดน (Medecins sans Frontieres) กล่าวกับเอเอฟพี

"ก่อนหน้านี้ เราเคยนำอาหารไปส่งถึง 6 ครั้งต่อวัน โดยใช้เจ้าหน้าที่ในการดูแลเพียงคนเดียวเท่านั้น" นายสมิธิอุสดล่าว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=230 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=230> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพอาหารเสริม BP-5 ที่อุดมไปด้วยสารอาหารนานาชนิดซึ่งสามารถรับประทานได้ทันทีเช่นเดียวกับขนมปังกรอบ หรือนำไปผสมน้ำรับประทานในลักษณะเดียวกับข้าวต้มก็ได้ (ภาพ : www.idpas.org).</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ส่วนนายโคกิลกล่าวว่า "ถ้าเด็กๆ ไม่สามารถกลืนลงไปได้ พวกเขาสามารถแบ่งมันออกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วค่อยรับประทาน ทั้งหมดนี้สามารถจัดการได้ในสถานการณ์ที่ไม่ต้องมีการดูแลทางการแพทย์แต่อย่างใด"

ขนมเนยถั่วซึ่งให้พลังงานประมาณ 500 แคลลอรี่นี้ เคยถูกนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบกับภาวะขาดอาหารในประเทศไนเจอร์และในเขตดาร์ฟูประเทศซูดาน และสามารถช่วยแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วในสถานการณ์ที่ไม่มีเวลามากนัก

"อาหารนี้เต็มไปด้วยวิตามินต่างๆ โดยเฉพาะสังกะสี (zinc) ซึ่งสามารถช่วยในการต่อต้านการติดโรคได้" นาย มาร์คัส ไพเออร์ (Marcus Prior) โฆษกโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติหรือ WFP กล่าว

โฆษกผูนี้ยังกล่าวอีกว่า หากนึกถึงความยากลำบากในการกู้ภะยพิบัติระดับโลก ผลิตภัณฑ์ทั้งสองชนิดนี้นับว่าช่วยได้มาก เนื่องจากสามารถเก็บไว้ได้นาน

"อาหารยุคอวกาศทั้ง 2 อย่างนี้ไม่มีรสชาดที่ดีนัก แต่เมื่อเด็กๆ อยู่ในภาวะที่ขาดอาหาร รสชาดก็ไม่สำคัญอีกต่อไป" นาง ชันตา โบลแมน (Shantha Bloeman) โฆษกขององค์การ UNICEF กล่าว.
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000060072

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายงานชี้ อิเหนาขาดแคลนอาหารหนักยิ่งกว่าแอฟริกา ต้นเหตุจากโลกร้อน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>23 พฤษภาคม 2551 17:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เด็กๆ ชาวอินโดนีเซียต้องอยู่ในสภาพขาดแคลนอาหารจำนวนมาก โดยเฉพาะในสภาวะโลกร้อน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี

 

ถ้าคุณหล่อเห็นว่ากระทู้นี้ไม่มีสาระ ไม่น่าเชื่อถือแล้วยังจะเฝ้าเพียรพยายาม เข้ามาดู เข้ามาด่าว่ากระทบ กระแทกคนโน้นคนนี้อยู่ทำไมเล่าครับ สู้เอาเวลาไปทำเรื่องอื่นที่มันมีสาระกว่านี้ ดีกว่าครับ.....

***** เห็นด้วยอย่าแรง *******<!-- / message --><!-- edit note -->