ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** สัจจะ ****

ผู้มีสัจจะ...
เข้มแข็ง กล้าหาญ เสียสละ อดทน....

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ผู้ทำชั่วบาปช้า แม้นแต่ร่างกายเเละวิญญาณย่อมทรยศ

ผู้ทำดีมีศีลธรรม แม้นอยู่ที่มีภัยพิบัติจักเป็นผู้ช่วยเหลือผู้คนด้วยบารมี

ทุกอย่าง ย่อมเป็นไปตาม วิถีแห่งกรรม

 

*** สัจจะ พารอดพ้นกรรม ****

นำ จิตใจตนเองได้
ก็ นำพา ผู้อื่นได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อืมผมว่าน่าจะเป็นแนวรอยต่อขอบแผ่นทวีปเดิมเมื่อสมัยที่ยังไม่ได้เป็นแผ่นดินใหญ่น่ะครับ แล้วเกิดเลื่อนตัวมาชนกันกลายเป็นแผ่นดินผืนใหญ่ ได้เป็นประเทศไทยในปัจจุบัน ซึ่งแนวนี้ก็เป็นแนวที่เคยเกิดภูเขาไฟมาก่อน แต่นานมากๆๆๆๆแล้วครับ สงบไปหมดแล้ว ตามความคิดทางธรณีวิทยา เราเชื่อว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก เช่นการปะทุของภูเขาไฟต่างๆ
แต่ตามการทำนาย การคาดการภัยพิบัติต่างๆ ผมสังเกตุว่าจะบอกว่าภูเขาไฟจะประทุบ้าง เมื่อกำหนดพื้นที่แล้วล้วนแต่อยู่แนวเดิมนี้หมดเลย คือ เลย พิจิตตร์ น่าน อุตรดิตถ์ ลำปาง สุโขทัย พิษณุโลก ไล่ลงมาถึง นครนายก บุรีรัมภ์ สระแก้ว จันทบุรี ตราด ผมไม่รู้เหมือนกันนะครับ เพราะว่าการที่จะกระตุ้นรอยเดิมมันคงต้องเป็นแรงมหาศาล มาก
อันนี้ก็ไม่ทราบครับ

 

จีนระดมทหารเพิ่มสองเท่าเพื่อกู้ภัยแผ่นดินไหว​

​

เฉิงตู 14 พ.ค.- สำนักข่าวซินหัวรายงานวันนี้ทางการจีนจะส่งทหารอีก 20,000 คนเข้าไปช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวซึ่งเชื่อว่ายังมีคนอีกหลายหมื่นคนถูกฝังอยู่ใต้ซากหักพัง

เวลานี้มีทหาร 20,000 คนกำลังค้นหาผู้รอดชีวิตในมณฑลเสฉวนซึ่งเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงถึง 7.9 ริกเตอร์ทำให้บ้านเรือน โรงเรียนและโรงพยาบาลในมณฑลนี้พังเสียหายอย่างรุนแรง และเมืองที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดถูกตัดขาด

จำนวนผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวของทางการจีนทะลุ 13,000 คนแล้ว และเชื่อว่าน่าจะพุ่งขึ้นมากกว่านี้หลังสื่อรายงานว่ามีคนถูกฝังอยู่ใต้ซากหักพังเพียงจุดเดียวเกือบ 20,000 คน

นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า เดินทางไปอำนวยการกู้ภัยในที่เกิดเหตุด้วยตนเอง เขาบอกว่าสิ่งสำคัญอันดับแรกคือการช่วยชีวิตประชาชน และจะต้องตรวจอาคารที่พังลงมาทุกหลังอย่างละเอียด แต่ความเสียหายอย่างหนักในเมืองต่าง ๆ และพื้นที่แถบภูเขาทำให้มีความเป็นไปได้ว่าทหารที่จะส่งเข้าไปเพิ่มจะพบศพผู้เสียชีวิตมากกว่าผู้รอดชีวิตภายใต้ซากหักพังของอาคารบ้านเรือน
ที่อำเภอเป่ยฉวน นักเรียนและครูอย่างน้อย 1,000 คน ถูกฝังอยู่ใต้ซากอาคารสูง 7 ชั้น และอพาร์ทเมนท์หลายแถวพังราบลงมา สำนักข่าวซินหัวบอกว่าชาวเมืองนี้อาจเสียชีวิตถึง 8,000 คน ผู้รอดชีวิตเล่าว่าคนที่หนีรอดออกมาจากอาคารได้ก็ถูกแผ่นดินถล่มทับหายไป เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ซึ่งทหารเพิ่มเริ่มเข้าไปถึงหลังจากเกิดฝนตกหนักและถนนถูกตัดขาด

สื่อของทางการจีนรายงานว่าหมู่บ้านหลายแห่งในเมืองเหวินฉวนซึ่งอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงและประชาชนประมาณ 60,000 คนในเมืองนี้ยังหาไม่พบ.-สำนักข่าวไทย

2008-05-14 09:14:37

หน่วยกู้ภัยยังเร่งค้นหาร่างเหยื่อแผ่นดินไหวจีน ​

​

จีน 14 พ.ค. - หน่วยกู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาร่างผู้สูญหายใต้ซากปรักหักพัง จากเหตุแผ่นดินไหวความรุนแรง 7.9 ริกเตอร์ ที่มณฑลเสฉวน ขณะที่มีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์ขณะเกิดแผ่นดินไหวออกมาเพิ่มเติม

ผู้สื่อข่าวและช่างภาพของสถานีโทรทัศน์ญี่ปุ่น บันทึกภาพขณะเกิดแผ่นดินไหวที่สนามบินเมืองเฉิงตู สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้คนจำนวนมากที่ต่างแตกตื่นหนีตายอพยพออกจากพื้นที่ ขณะที่ความพยายามกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทหารและตำรวจกว่า 50,000 นาย ยังคงเร่งค้นหาร่างผู้เคราะห์ร้ายจากซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือน โรงงาน และโรงเรียนจำนวนมากในพื้นที่ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ซึ่งคาดว่ายังมีผู้สูญหายอีก 18,645 คน ติดอยู่ใต้ซากความเสียหาย มีรายงานว่า ในเมืองหยินซู น่าจะเหลือผู้รอดชีวิตเพียง 2,300 คน จากจำนวนประชากรทั้งหมดเกือบ 10,000 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงกว่า 13,000 คนแล้ว

ด้านกระทรวงต่างประเทศจีน ยืนยันว่า นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 31 คน ที่มีรายงานว่าสูญหายระหว่างท่องเที่ยวที่ศูนย์อนุรักษ์และเพาะพันธุ์แพนด้าว่อหลง ในเมืองเฉิงตู ปลอดภัยดี รวมถึงแพนด้าทั้งหมดในศูนย์ฯ แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน 12 คน รวมถึงชาวอเมริกันเชื้อสายจีน 2 คน และนักท่องเที่ยวชาวไทยอีก 1 คน ที่สูญหายในมณฑลเสฉวน. - สำนักข่าวไทย

2008-05-14 06:28:06

ยูเอ็นเตือนพม่าอาจเผชิญภัยพิบัติซ้ำสอง​

​

ย่างกุ้ง 14 พ.ค. - สหประชาชาติแถลงเตือนว่า พม่าอาจเผชิญกับหายนะภัยซ้ำสองภายหลังจากพายุไซโคลนนาร์กีสกระหน่ำไปเมื่อต้นเดือน ซึ่งอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตนับแสนคน หากรัฐบาลทหารพม่ายังไม่รีบขนส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ทั้งทางน้ำและทางอากาศโดยเร็ว

รัฐบาลทหารพม่ายังคงไม่ทำตามกระแสกดดันจากนานาประเทศในการเปิดรับความช่วยเหลือจากต่างชาติ โดยยืนกรานว่าสามารถดำเนินการได้เอง ขณะที่สหประชาชาติแสดงความไม่พอใจยิ่งขึ้นที่รัฐบาลพม่ายังไม่สามารถให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตราว 1.5 ล้านคนซึ่งจำเป็นต้องได้รับการบรรเทาทุกข์อย่างเร่งด่วน ผู้รอดชีวิตหลายคนกล่าวว่า พวกเขายังคงไม่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลภายหลังเผชิญกับพายุไซโคลนไปเมื่อ 10 วันก่อน และไม่เข้าใจที่ผู้นำพม่ายังคงไม่ยอมรับความช่วยเหลือที่หลั่งไหลมาจากทั่วโลก

ด้านองค์กรบรรเทาทุกข์ กล่าวเตือนว่า ผู้ประสบภัยยังคงไม่ได้รับอาหาร น้ำ และการจัดสรรที่อยู่อาศัยอย่างเพียงพอ ซึ่งสหประชาชาติเกรงว่า การให้ความช่วยเหลือล่าช้าอาจทำให้ตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงขึ้นถึง 100,000 คน ขณะที่หลายฝ่ายต่างพยายามกดดันพม่าให้ยอมรับความช่วยเหลือจากต่างชาติและให้คณะผู้เชี่ยวชาญเข้าไปปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ในพม่าโดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นนายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ที่กล่าวขอร้องให้รัฐบาลพม่าคำนึงถึงชีวิตประชาชนก่อนเป็นลำดับแรก รวมทั้งนายเดวิด มิลิแบนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ และดร.คอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่ประกาศไม่สนใจเรื่องทางการเมือง และพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนชาวพม่าอย่างดีที่สุดตามหลักมนุษยธรรม.-สำนักข่าวไทย

2008-05-14 08:54:35

มาเลเซียจัดตั้งกองทุนช่วยเหยื่อไซโคลนพม่า​

​

กัวลาลัมเปอร์ 13 พค. - นายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ อาหมัด บาดาวี ของมาเลเซีย จัดตั้งกองทุนระดมเงินช่วยเหลือเหยื่อไซโคลนในพม่า ภายหลังจากทีมช่วยเหลือของมาเลเซียเดินทางถึงนครย่างกุ้งแล้ว

สำนักข่าวเบอร์นามาของทางการมาเลเซีย รายงานว่า นายกรัฐมนตรีอับดุลเลาะห์ เรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันบริจาคเงินสมทบทุนให้พม่า โดยมอบหมายให้กระทรวงต่างประเทศเป็นฝ่ายกำกับดูแล ผู้นำมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียช่วยเหลือพม่าบนพื้นฐานของมนุษยธรรม โดยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง ขณะเดียวกัน ทีมกู้ภัยของมาเลเซียนำสิ่งของบรรเทาทุกข์มูลค่า 156,000 ดอลลาร์สหรัฐ มาถึงนครย่างกุ้งแล้ว ประกอบด้วย ผ้าห่ม อาหารสำเร็จรูป ยา เสื้อผ้า ยาเม็ดทำความสะอาดน้ำ และเต็นท์ ด้านสหประชาชาติคาดว่า อาจมีผู้เสียชีวิตกว่า 1 แสนคน และได้รับความเดือดร้อนอีก 2 ล้านคนจากไซโคลนกระหน่ำพม่าเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา. - สำนักข่าวไทย

2008-05-13 18:49:32

เกิดแผ่นดินไหวที่จังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซีย​

​

จาการ์ตา 13 พ.ค. - สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีฟิสิกส์ในอินโดนีเซีย รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.7 ริกเตอร์ ห่างไปทางชายฝั่งตะวันตกของจังหวัดอาเจะห์ในอินโดนีเซียวันนี้ ยังไม่มีรายงานแนวโน้มการเกิดคลื่นยักษ์สึนามิและทรัพย์สินเสียหาย

ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.29 น.ตามเวลาท้องถิ่น (เวลาเดียวกันในไทย) โดยอยู่ลึกใต้พื้นดิน 68 กิโลเมตร ห่างไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองบันดาอาเจะห์ราว 112 กิโลเมตร ขณะนี้ไม่มีแนวโน้มว่าจะมีคลื่นสูงและไม่มีรายงานความเสียหาย ทั้งนี้จังหวัดอาเจะห์เคยประสบภัยแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อปี 2547 ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 170,000 คน .- สำนักข่าวไทย

2008-05-13 18:34:47
​

เกิดแผ่นดินไหวในไต้หวัน​

​

ไทเป 14 พ.ค

 

หลวงปู่ครูบาธรรมชัยใช้มือบังขุมทองที่ปัตตานีหลวงปู่ครูบาธรรมชัยใช้มือบัง

เรื่องเกิดขึ้นนานมาแล้วครับที่จังหวัดปัตตานี ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นที่อ.โคกโพธิ์ ซึ่งเคยเป็นเหมืองเก่าที่ได้เลิกขุดกันไปแล้วเพราะคนเชื่อว่าสายแร่ทองคำคงจะหมดไปแล้วซึ่งสถานที่นั้นมีน้ำตกด้วยและเล่ากันมาว่าหลวงปู่ทวดท่านเคยมาบำเพ็ญเพียรอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ด้วย และในครั้งที่คณะของหลวงพ่อฤาษีเดินทางไปที่ภาคใต้ก็ได้แวะยังสถานที่นี้ด้วยซึ้งก็มีหลวงพ่อสิมกับครูบาธรรมชัยร่วมอยู่ในคณะด้วย ครั้งพอมาถึงหลวงพ่อฤาษีท่านก็บอกว่าสายแร่ทองคำยังไม่น่าจะหมดไปจากสถานที่นี้ได้จึงใช้ญาณเพ่งลงไปใต้ดิน แล้วท่านก็บอกว่าข้างใต้ยังมีขุมทองจำนวนมหาศาลอยู่ ครูบาธรรมชัยท่านจึงลองมั่งก็เห็นแบบเดียวกันคือขุมทองนี้อยู่ลึกมาก มนุษย์ยังไม่สามารถขุดไปถึงได้ หลวงพ่อสิมท่านจึงลองบ้าง แต่ปรากฏว่า ท่านบอกกับหลวงพ่อฤาษีกับครูบาว่า ไม่เห็นอะไรเห็นแต่อะไรไม่รู้สีดำๆคล้ายมือคนแต่ใหญ่มาก ทั้งหลวงพ่อฤาษีกับครูบาท่านจึงหัวเราะขำๆแล้วครูบาท่านจึงยกมือแล้วบอกให้หลวงพ่อสิมลองดูอีกที คราวนี้ปรากฏว่าเห็นขุมทอง แล้วท่านจึงเข้าใจว่าที่ครูบายกมือขึ้นเมือครู่แล้วบอกให้ลองดูใหม่ความจริงมือขนาดใหญ่สีดำนั้นแท้จริงแล้วก็คือมือของครูบานั้นเองที่ท่านเย้าหลวงพ่อสิมเล่นก็เท่านั้นเอง จากนั้นครุบาท่านก็กราบขอโทษหลวงพ่อสิมที่เย้าเล่นเมื่อครู่หลวงพ่อท่านไม่ว่าอะไรกลับกล่าวกับครูบาว่าไม่ถือๆสนุกดีๆ จากนั้นหลวงพ่อฤาษีจึงถามหลวงพ่อเกี่ยวกับขุมทองนี่ หลวงพ่อสิมท่านจึงเข้าญาณดูสักครู่ท่านจึงบอกว่าขุมทองนี้มีเทพคอยรักษาอยู่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา แต่ขุมทองจำนวนมหาศาลนี้จะเป็นของคู่พระบารมีของพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลต่อไปซึ่งจะปรากฎเมื่อถึงเวลาอันสมควร และท่านยังบอกอีกว่าในรัชสมัยต่อไปประเทศไทยจะเจริญรุ่งเรืองมาก

 

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ
ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลาย สมดังความปราถนาเถิด สาธุ สาธุ สาธุ

 

อินเดีย - ปากีสถาน : นิวเคลียร์​

​

ใน พ.ศ. 2541 ทั้งอินเดียและปากีสถานต่างทดลองอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดินหลายครั้ง โดยที่ทั้งสองประเทศต่างปฏิเสธที่จะร่วมลงนามในสนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ แม้ว่าปากีสถานได้แสดงความจำนงว่ายินดีจะลงนามถ้าอินเดียยินยอมลงนามก่อน ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไม่ค่อยจะราบรื่นนัก นับแต่กรณีของแคว้นแคชเมียร์ และต่างแข่งขันกันสะสมอาวุธนับแต่ทศวรรษ 80 (พ.ศ. 2523 - 2533) โดยสหรัฐฯ หนุนหลังอินเดียและปากีสถานได้รับการสนับสนุนจากรัสเซีย จนเมื่อ พ.ศ. 2537 การสนับสนุนจากสองประเทศใหญ่ได้ระงับลง แต่ประเทศจีนซึ่งเริ่มให้ความสนใจ กับการใช้และผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้ให้การหนุนหลังปากีสถานในด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ แทน

• สำหรับประเทศอินเดีย มีการพัฒนาการใช้พลังนิวเคลียร์อยูในระดับที่สามารถกล่าวได้ว่าครบวงจร เพราะมีทั้งโรงงานประกอบมัดเชื้อเพลิง โรงงานผลิตน้ำมวลหนัก มีการออกแบบรวมทั้งการก่อสร้าง ตลอดจนการสกัดเชื้อเพลิงและการขจัดกาก นอกจากนั้นยังมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ชนิดเพาะเชื้อเพลิงขนาดเล็กซึ่งมีแผนพัฒนาเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ อินเดียมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็กอยู่ถึง 14 หน่วย กำลังผลิตโดยรวม 2548 เมกะวัตต์ แต่ละหน่วยกำลังผลิตประมาณ 200 เมกะวัตต์ ได้ต้นแบบมาจากหลายประเทศ บางหน่วยมีต้นแบบจากสหรัฐ บางหน่วยมาจากแคนาดา บางหน่วยมาจากรัสเซีย อินเดียกำลังก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ขึ้นอีก 2 หน่วย เลียนต้นแบบจากรัสเซีย และวางแผนจะก่อสร้างอีก 10 หน่วย ใน พ.ศ. 2543 อินเดียใช้พลังนิวเคลียร์ผลิตไฟฟ้าเป็นสัดส่วน 3.1% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% ใน พ.ศ. 2548
• การใช้พัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ของอินเดียนั้นมิได้พึ่งเทคโนโลยีหรือความช่วยเหลือจากต่างประเทศแต่อย่างใด อีกประการอินเดียไม่ต้องนำเข้ายูเรเนียมจากต่างประเทศ แต่สามารถผลิตเชื้อเพลิงได้เอง จึงเป็นที่คาดหมายว่า อินเดียได้ผลิตพลูโตเนียมจากการใช้พลังนิวเคลียร์ เป็นปริมาณมากพอที่จะผลิตหัวรบนิวเคลียร์ได้ถึงร้อยหน่วย
• อินเดียให้ความสนใจต่อการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ โดยอ้างถึงการพัฒนาการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของจีนและการสนับสนุนปากีสถาน ซึ่งในอดีตอินเดียและจีนต่างมีกรณีพิพาทและทางอินเดียเป็นฝ่ายปราชัยมาแล้ว
• ปากีสถานให้ความสนใจต่อการผลิตหัวรบนิวเคลียร์ เนื่องจากมียูเรเนียมธรรมชาติเป็นจำนวนมาก และมีโรงงานที่สามารถทำเชื้อเพลิงให้เข้มข้นภายในประเทศด้วย ปากีสถานมีความสามารถผลิตหัวรบจากยูเรเนียมเข้มข้นได้ถึง 40 หน่วย ได้ทำการทดลองที่ใกล้เมือง Madras ทางใต้ของอินเดียใน พ.ศ. 2541
• อินเดียและปากีสถานต่างทำสงครามระหว่างศาสนามาเป็นเวลานานมากนับแต่ศตวรรษที่ 12 ปากีสถานพ่ายแพ้อินเดียสองในสามครั้งและครั้งสำคัญคือ สงครามที่บริเวณอ่าวเบงกอลซึ่งปัจจุบันคือประเทศบังคลาเทศ
• สหรัฐอเมริกาพยายามอย่างยิ่งที่จะระงับการเพิ่มแสนยานุภาพทางอาวุธนิวเคลียร์ของทั้งสองประเทศไม่ว่าทางการเจรจาโดยตรงหรือทางอ้อม คือการชลอความช่วยเหลือทางการเงินแต่ยังไม่เป็นผล
• ข้อตกลงการลดอาวุธระหว่างเกาหลีเหนือและสหรัฐกลายเป็นกรณีศึกษาของทั้งสองประเทศ และข้อตกลงที่อินเดียยอมรับก็เพียงแต่จะไม่เป็นผู้เริ่มการใช้อาวุธก่อน ทั้งอินเดียและปากีสถานยังคงพัฒนาการใช้พลังนิวเคลียร์ต่อไปทั้งในการผลิตพลังงานและการผลิตอาวุธ นิวเคลียร์

ที่มา http://www.egat.co.th/me/nuc/nucnews/suthipong/NOWBRIEF/brf12-indiaPaki.html

 

*** คนไทยโชคดี ****

ประเทศไทย...โชคดี
อยู่บน สันเขา

ขอให้เชื่อ...สัจจะ มีผลตอบแทน
ปฏิบัติเอง....รู้ได้เอง
ทำได้...ส่งผลทันที

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

อนุโมทนาบุญทุกๆท่านครับ ที่ช่วยกันเผยแพร่ข่าวสารเตือนภัย.....ตอนนี้ถ้าจะเกิดภัยพิบัติสิ่งใดที่เราบอกให้คนรอบข้างให้เขาเตรียมระวังภัย เขาไม่สนใจ ไม่เชื่อ ก็แล้วแต่กรรมของแต่ละคน วางอุเบกขาดีที่สุดครับ....

 

*** พลังชาติไทย ****

๑. พระเจ้าแผ่นดิน
๒. กรุงเทพมหานคร
๓. ศาสนาพุทธ

ไม่ยุยงสงเสริมให้แตกแยก
ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
ไม่เชื่อก่อนพิจารณา
ตั้งใจทำความดีทุกวัน

แล้ว โจรจะปรากฏเอง !!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

"ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติ ปฏิบัติธรรม"

"ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติ ปฏิบัติธรรม" พระอรหัต์คือผู้ดับไฟ สุดท้ายไทก็ยังเป็นไท.....ไม่มีที่ใดเสมอเหมือน"

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>พวกค้ากามเด็กออกล่า-ตะครุบเหยื่อนาร์กิส</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 พฤษภาคม 2551 00:36 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพถ่ายจากเมืองเบ๊าะกาเลย์ (Bokalay) วันที่ 13 พ.ค.2551 เด็กๆ หลายคนมีภาระหนักต้องช่วยครอบครัว หลายคนไม่มีผู้ปกครองอีกแล้ว ขณะที่พวกนักค้ามนุษย์กำลังออกตามล่าและจ้องตะครุบ เจ้าหน้าที่ยูเอ็นเป็นกังวลเรื่องนี้ (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
ผู้จัดการออนไลน์-- องค์การสหประชาชาติออกเตือนพวกค้ามนุษย์กำลังตามไล่ล่าเด็กๆ ในพม่าที่ได้รับภัยพิบัติไซโคลนนาร์กิส และ ที่ผ่านมาสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 2 รายแล้ว แต่พวกนั้นก็ยังพยายามอยู่ต่อไป

เจ้าหน้าที่สหประชาชาติออกเตือนเรื่องนี้ในวันอังคาร (13 พ.ค.) ขณะที่ผู้ประสบภัยที่อาจจะมีจำนวนถึง 2 ล้านคน กำลังแสวงหาที่พักพิง ขาดน้ำดื่มและขาดอาหาร

"มีพวกนายหน้าไปถึงคายที่พักและพยายามมองหาเด็กๆ" นายแอนน์-แคลร์ ดิวเฟย์ (Anne-Clair Dufay) เจ้าหน้าที่ฝ่ายพิทักษ์เด็กขององค์การยูนิเซฟประจำพม่ากล่าว

"เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปดูแลเรื่องนี้และจับตัวไป" นางดิวเฟย์กล่าว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 13 พ.ค.2551 เด็กสาวคนนี้กำลังหาบน้ำเข้าบ้านที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งชานกรุงย่างกุ้ง เด็กๆ กำลังรับภาระนัก เครียด เสี่ยงต่อการที่จะถูกพวกนักค้ามนุษย์หลอกลวงได้ง่ายที่สุด (ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เจ้าหน้าที่ยูนิเซฟกล่าวอีกว่า ขณะนี้เด็กๆ กำลังพลัดพรากจากผู้ปกครอง หลายคนอาจจะเป็นเด็กกำพร้าไปแล้ว ตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับความรุนแรงในชีวิต กำลังสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ขาดทั้งน้ำดื่มและอาหาร มีโอกาสที่จะตกเป็นเหยื่อแก๊งค้ามนุษย์ได้โดยง่าย

เจ้าหน้าที่แสดงความเป็นห่วงความเป็นอยู่ของแค้มป์ที่พักที่จัดให้เด็กๆ กับสตรีพลัดถิ่น ซึ่งจะต้องมีน้ำดื่ม มีห้องน้ำห้องส้วมที่สะอาด มีที่ทิ้งขยะให้ถูกสุขอนามัย เพื่อขจัดความเครียดลดปัญหาต่างๆ ป้องกันมิให้เด็กและสตรีเหล่านั้นต้องหนีออกจากแหล่งพักพิงใหม่

แคที่ บาร์เน็ต (Katy Barnett) ที่ปรึกษาฝ่ายพิทักษ์เด็กแห่งองค์การ Save the Children ในกรุงย่างกุ้งกล่าวว่า ได้ทราบเรื่องการจับกุมและทราบถึงปัญหาต่างๆ แล้ว และเชื่อว่าปัญหาการค้ามนุษย์ในสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้จะมีมากขึ้น

"มันเป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่คาดเอาไว้แล้ว มันเป็นสิ่งที่แน่นอนว่าจะเกิดเหตุการณ์ข้างเคียงกับวิกฤติเช่นนี้ขึ้นเสมอๆ" นางบาร์เน็ตกล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี

"พวกนักค้ามนุษย์สามารถชักจูงเด็กๆ ที่ไม่มีผู้ดูแลหรือแยกตัวออกไป โดยให้ความหวังว่าเด็กๆ เหล่านั้นว่าจะมีชีวิตที่ปลอดภัยและดีกว่า" เจ้าหน้าที่คนเดียวกันกล่าว

นางบาร์เน็ตแสดงความเป็นห่วงพอๆ กัน ที่มีผู้ออกเสาะหาเด็กสาวจากเขตภัยพิบัติ โดยให้เหตุผลว่าจะให้ไปทำงานบ้าน ซึ่งพวกนักค้ามนุษย์มักจะใช้กล่าวอ้างเสมอๆ องค์การศาสนาแห่งหนึ่งกำลังติดตามเรื่องนี้

นักค้ามนุษย์พวกนี้จะเข้าไปยังครอบครัวต่างๆ ที่กำลังลำบากในขณะนี้เพื่อเสนอให้ลูกสาวเข้าไปทำงานบ้านในตัวเมือง และคนพวกนั้นก็ยังพยายามอยู่ในขณะนี้ เจ้าหน้ากล่าว.
</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000056039

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เหยื่อแผ่นดินไหวพุ่งทะลุ 1.3 หมื่นศพ กว่า 6 หมื่นชีวิตยังไม่รู้ชะตากรรม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 พฤษภาคม 2551 10:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

ยอมรับเหยื่อ "พสุธาพิโรธ" พุ่งทะลุ 1.3 หมื่นศพ อีกกว่า 6 หมื่นชีวิตยังไม่รู้ชะตากรรม ด้าน "เวิน เจียเป่า" เดินหน้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วนตนเอง

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตเฉพาะที่มณฑลเสฉวน เพิ่มขึ้นเป็น 12,012 รายแล้ว และยังมีผู้เสียชีวิตในอีก 5 มณฑล และเทศบาลนครฉงชิ่งรวม 323 ราย และคาดว่ายังมีผู้ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีกหลายหมื่นคน เพราะเฉพาะที่เมืองเหมียนหยาง มีผู้ติดอยู่ใต้เศษซากคอนกรีตราว 18,645 คน ส่วนที่เมืองเหวินฉวน ที่เป็นจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ยังไม่ทราบชะตากรรมของประชาชนอย่างน้อย 60,000 คน นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บจากแผ่นดินไหวในหลายเมืองรวมกว่า 26,000 คน

ส่วนชะตากรรมของเด็กนักเรียนจำนวนมากที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารเรียนที่พังถล่มในโรงเรียนหลายแห่ง ปรากฏว่ามีเด็กนักเรียน 12 คน ในโรงเรียนหยิงหัว ได้รับความช่วยเหลือขึ้นมาอย่างปลอดภัย ขณะที่จีนบอกว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานชาวต่างชาติได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ามีรายงานก่อนหน้านี้ว่ายังไม่สามารถติดต่อนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 15 คน ที่ติดค้างในมณฑลเสฉวน

ซึ่งความช่วยเหลือยังคงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ขณะที่มีฝนตกอย่างหนัก และมีสิ่งกีดขวางการจราจรทางถนนตลอดเส้นทาง อีกทั้ง บริเวณศูนย์กลางเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.9 ริกเตอร์ ครั้งนี้ เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยภูเขา และมีดินถล่มห่างออกไปราว 100 กิโลเมตรจากพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครเฉิงตู

ขณะที่นายกรัฐมนตรี เวิน เจียเป่า ของจีนได้อุทิศตนอย่างเต็มกำลังให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์กว่า 3,000 คนลงพื้นที่มณฑลเสฉวนเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย

ที่มา http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000056109

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nova_analai

ภัยพิบัติทั้งหลายที่กำลังเกิดขึ้นหลายแห่งในโลก เกิดจากอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของมนุษย์ที่ร่วมกันจดจ่อไปในทิศทางเดียวกัน พี่นักเขียนขอผนึกกำลังกับคุณจีนทาร่อน และชวนพวกเราห้องวิทย์ฯร่วมกันจดจ่อกับความปลอดภัย ความโอบอ้อมอารี และการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ให้จะหลั่งไหลไปสู่ทุกหย่อมหญ้าที่กำลังประสพภัยพิบัติอยู่ในขณะนี้

ขอให้พวกเราร่วมกันตั้งจิต ด้วยการจินตนาการถึงสิ่งสร้างสรรค์ที่งดงาม ความสมบูรณ์พูนสุข ตลอดจนการร่วมแรงร่วมใจและเกื้อกูลซึ่งกันและกัน แทนที่จะจดจ่อกับความเศร้าสลดและการทำลายล้าง เพราะอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของมวลมนุษย์ที่ร่วมกันจดจ่อไปในทิศทางเดียวกัน ก่อให้เกิดเหตุการณ์ทางกายภาพในทิศทางนั้นเสมอๆ เราจึงพบเห็นภัยพิบัติที่เกิดขึ้นเสมือน domino effect หากพวกเราร่วมกันตั้งจิตเพื่อสร้างกระแสในทิศทางใหม่ขึ้นได้มากเพียงใด กระแสนั้นๆก็จะอ่อนตัวลง และเปลี่ยนแปลงเป็นกระแสใหม่ได้เร็วขึ้นเท่านั้น

ขอเชิญร่วมกันผนึกกำลังจิตจดจ่อกับ :
ความสงบสุข ความสมบูรณ์พูนสุข และความงดงามใน Rangoon-ประเทศพม่าและ Shendu-ประเทศจีน (rose)
</TD></TR></TBODY></TABLE>

มาร่วมช่วยกันครับ ผนึกกำลังส่งไปถึงที่อื่นๆในโลกรวมทั้งประเทศไทย
เนื่องจากเบื้องหลังเหตุการณ์ต่างๆที่เราเห็น ทั้งความคิด+การแสดงออก ก่อให้เกิดกระแสพลังงานก่อตัวขึ้นมาคล้ายๆแบบพิมพ์เขียว และจะชัดเจนขึ้นตามลำดับหากการจดจ่อนั้นยังดำเนินต่อไปในทิศทางนั้น

กระแสพลังจากความเชื่อความศรัทธาของพวกเราจะช่วยเปลื่ยนทิศทางในเรื่องที่ดูเหมือนจะร้ายแรงต่างๆได้มาก-น้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับการตั้งจิตของพวกเราทุกๆคน ขอให้เป็นพลังอันบริสุทธ์ อิสระ สดใส ที่จะนำไปสู่เรื่องความปลอดภัยในทุกๆเรื่อง ขอให้จดจ่อกับข่าวสารต่างๆทั้งหลายไปในทิศทางที่เป็นบวกเสมอๆด้วยความมีสติและไม่ประมาทไปพร้อมๆกัน รวมไปถึงการส่งกำลังใจและการช่วยเหลือกันช่วยผู้ประสบภัยในเบื้องต้น ช่วยได้มากครับ (y)

 

<TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD class=subtitle colSpan=8>รายงานแผ่นดินไหวในรอบ 15 วัน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#d9d9d9 cellSpacing=0 borderColorDark=#ffffff cellPadding=3 width="100%" borderColorLight=#d9d9d9 border=1><TBODY><TR class=RH><TD>วันที่</TD><TD>เวลา</TD><TD>จุดศูนย์กลาง</TD><TD>ละติจูด</TD><TD>ลองจิจูด</TD><TD>ขนาด</TD><TD>ลึกจากพื้นดิน</TD><TD>หมายเหตุ</TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>14 พ.ค. 51</TD><TD>04:48</TD><TD align=left>LUZON, PHILIPPINES</TD><TD>16&deg; 33' 00'' N</TD><TD>122&deg; 18' 00'' E</TD><TD>5.3 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>13 พ.ค. 51</TD><TD>21:14</TD><TD align=left>LUZON, PHILIPPINES</TD><TD>16&deg; 36' 00'' N</TD><TD>122&deg; 20' 24'' E</TD><TD>5.3 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>13 พ.ค. 51</TD><TD>17:29</TD><TD align=left>NORTHERN SUMATRA, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 32' 24'' N</TD><TD>95&deg; 11' 24'' E</TD><TD>5.6 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>13 พ.ค. 51</TD><TD>05:57</TD><TD align=left>TAIWAN REGION</TD><TD>24&deg; 02' 24'' N</TD><TD>122&deg; 38' 24'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>12 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 พ.ค. 51</TD><TD>13:27</TD><TD align=left>มณฑลเสฉวน ประเทศจีน</TD><TD>31&deg; 54' 00'' N</TD><TD>102&deg; 42' 00'' E</TD><TD>7.6 </TD><TD> </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>04 พ.ค. 51</TD><TD>14:55</TD><TD align=left>อ. ปลายพระยา จ. กระบี่ ประเทศไทย</TD><TD>8&deg; 38' 20'' N</TD><TD>98&deg; 44' 10'' E</TD><TD>2.7 </TD><TD> </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>04 พ.ค. 51</TD><TD>13:59</TD><TD align=left>ประเทศพม่า</TD><TD>21&deg; 34' 10'' N</TD><TD>98&deg; 04' 49'' E</TD><TD>3.6 </TD><TD> </TD><TD align=left>จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจาก อ.เมืองเชียงราย ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ประมาณ 256 กิโลเมตร </TD></TR><TR class=RF><TD> </TD><TD>เวลาไทย</TD><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD><TD>ริกเตอร์</TD><TD>กิโลเมตร</TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขออนุญาติ เอาข้อมูลไปเเบ่ง ปัน เด็กห้องวิทย์นะคะ

เพราะ เพื่อน ห้องวิทย์ ไม่ค่อยขึ้นมากันข้างบน

เลย เอา คอมเม้นท์ ดีๆ ไป สร้างกระทู้ ในห้องวิทย์

ตอนนี้ มียอด คนชม ประมาณ 30 คนเหมือนกันคะ

 

*** หลักฐานพุทธโบราณที่หลงเหลือ ****

บทสวดเก่าแก่...ที่ ปัตตานี
เป็นของดั้งเดิม....

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เก็บกลับคืน สามานย์ชน

เหลือไว้ ผู้ประเสริฐ เมล็ดพันธุ์บ่มเพาะ


บ้างมี สิ้นหน้าที่ ในวาระ วางวาย สู่สรวง



"ท่านทั้งหลาย ยังอยู่อีกมาก"