ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

หมาที่บ้าน ชอบเห่าตอนกลางคือสงใสมันร้อนหนะ

ส่วนแมงมุมที่เลี้ยงไว้ พฤติกรรมปกติ อิอิ -0-

 

หนูตัวเล็กๆ เรียกชื่อไม่ถูกเหมือนกัน มีเด็กเขาให้เป็นของขวัญแฟน พอเจอหน้าคนมันชอบปั่นล้อโชว์เรื่อยๆ ไม่รู้ว่าเป็นพฤติกรรมระวังภัย หรือหนูติ๊งต๊อง555ชอบโชว์

 

เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.2 ริกเตอร์ ที่ชิลี
ชิลี 25 มี.ค. - เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในชิลี แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

เหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว เกิดขึ้นทางตอนเหนือของชิลี เมื่อเวลา 03.39 น. ตามเวลาในบ้านเรา วัดความรุนแรงได้ 6.2 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ในเทือกเขาแอนดิส ติดกับพรมแดนของโบลิเวีย ทางการชิลี เปิดเผยว่า ในขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน แต่แรงสั่นสะเทือนได้สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนในเมืองท่าอีกีเก ขณะที่ระบบไฟฟ้าและโทรศัพท์ ขัดข้องชั่วระยะเวลาหนึ่งจากแรงของแผ่นดินไหว. -สำนักข่าวไทย

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=626 align=center border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD class=text5 width=626 bgColor=#414141 height=97>กรมอุตุฯ ระบุสภาพอากาศปีนี้จะแปรปรวนที่สุดในรอบ 3 ปี</TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=626 border=0><TBODY><TR><TD width=14 bgColor=#414141></TD><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=599 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=599><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width=599 border=0><TBODY><TR><TD class=text4>10:46 น.

<DD>นายต่อศักดิ์ วานิชขจร รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า สภาพอากาศปีนี้ของประเทศไทยถือว่ามีความรุนแรงและแปร
<DD>ปรวนมากที่สุด เมื่อเทียบกับ 3 ปีที่ผ่านมา และอุณหภูมิของประเทศไทยเฉลี่ยสูงสุดปีนี้จะสูงถึง 41 องศาเซลเซียส เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้น ซึ่งสภาพอากาศที่มีพายุฤดูร้อนของประเทศไทยเกิดจากสภาพอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมลงมาจึงทำให้เกิดพายุฤดูร้อน และเชื่อว่าจะทำให้มีพายุฤดูร้อนยาวนานถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ อย่างไรก็ตาม เตือนประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลาง ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดพายุฤดูร้อนให้เตรียมรับมือกับภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้น และรับฟังข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยา
<DD>สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงเดือนเมษายนนี้ จะมีลมกระโชกแรง และอาจทำให้ป้ายโฆษณาล้มลงมาใส่บ้านเรือนเสียหายได้ จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเตรียมป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ระบุด้วยว่า สภาพอากาศร้อนของประเทศไทยกลางเดือนเมษายนนี้ จะสูงสุดอยู่ที่ไม่เกิน 41 องศาเซลเซียส และในปีนี้วันที่ 27 เมษายน จะเป็นวันที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับประเทศไทย แต่จะมีความร้อนอยู่ที่ 36-37 องศาเซลเซียสเท่านั้น</DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สัญญานเตือนภัยจากหนู​

​

กองทัพหนู 2 พันล้านตัว บุกมณฑลในจีน
ข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ 12 ก.ค. 2550 ​

สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานมณฑลหูหนานทางภาคกลางของประเทศกำลังเผชิญการคุกคามเทียบเท่าระดับภัยพิบัติจากหนู 2,000 ล้านตัว ที่อาศัยอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบใหญ่ตงถิง แต่หลังเกิดน้ำท่วมที่ทะเลสาบดังกล่าว ประชากรหนูได้อพยพขึ้นฝั่ง รุกรานเรือกสวนไร่นาของประชาชน สร้างความเสียหายแก่พื้นที่เกษตรกรรมราว 6 ล้านไร่ใน 20 เมือง เกษตรกรช่วยกันใช้พลั่วตีหนูและวางยาเบื่อจนสามารถฆ่าหนูได้น้ำหนักรวมกว่า 90 ตัน ขณะที่บางอำเภอฆ่าหนูได้ มากถึง 2.3 ล้านตัว

เกษตรกรคนหนึ่งกล่าวว่า เหมือนตกอยู่ในภาวะสงคราม พวกเขาไม่เหลืออะไรแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่รัฐบาลกล่าวว่า นับเป็นภัยพิบัติจากหนูที่เสียหายรุนแรงสุดในรอบ 10 ปี เจ้าหน้าที่ได้นำซากหนูจำนวนมหาศาลเหล่านั้นไปเผาหรือฝังลึกใต้ดิน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อจากหนู รายงานระบุกองทัพหนูเริ่มรุกรานตั้งแต่ 23 มิ.ย. หลังระดับน้ำในทะเลสาบตงถิงเพิ่มสูงขึ้น

ขณะเดียวกัน สำนักข่าวซินหัวยังรายงานถึงความเสียหายจากอุทกภัยที่จีนเผชิญในช่วงฤดูร้อนนี้ว่า น้ำท่วมและดินถล่มยังผลให้มีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 360 ศพ สร้างความเสียหายแก่พื้นที่เกษตรกรรมกว่า 15 ล้านไร่ บ้านเรือน เสียหาย 217,000 หลัง ประชาชนกว่า 66.3 ล้านคน ได้รับความเดือดร้อน อุทกภัย ปีนี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนคิดเป็นมูลค่า 24,300 ล้านหยวน.

ที่มา http://www.thairath.co.th/news.php?section=international&content=53679

จับข่าวมาขยำแล้วเล่าสบาย ๆ สไตล์ ปฐม

เรื่องนี้ผมได้เล่าเมื่อ วันพฤหัสที่ 12 กรกฏาคม 2550 เป็นเรื่อง หนู ครับ หนูที่เรารังเกียจและหาทางฆ่ากันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนี่แหล่ะ ตอนนี้มันไปป่วนที่ มณฑล (หรือ เมือง ไม่ค่อยแน่ใจนัก) มันหนีน้ำจากลุ่มน้ำแยงซีที่เพิ่มระดับสูงขึ้นจนท่วมรูของมัน ที่มีทอดยาวตลอดลำน้ำ พอน้ำท่วมขึ้นอีกครั้งหนูกว่า สองพันล้านชีวิตบุกเข้าเรือกสวนไร่นาชาวบ้าน อย่างบ้าคลั่งและฉีกกัดกินผลผลิตทางการเกษตร

ข่าวลงเพียงให้เห็นถึงความเดือดร้อนของชาวบ้านนะครับ ที่ต้องสู้รบปรบมือกับหนูเหล่านั้นแต่ผมว่า มันไม่ใช่แค่นั้นน่ะซิครับ เพราะในประเพณีชาวเรือก็มีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องหนูเหมือนกัน ถ้าหนูอพยพและยกโขยงเป็นจำนวนมากนั้นเป็นเหตุบอกให้เห็นว่า จะเกิดเรื่องร้ายทางธรรมชาติ เพราะหนูเป็นสัตว์ที่มีสัญชาติญาณ มีคนเคยพูดแบบติดตลกกับผมว่า ถ้าโลกหมดสิ้นแล้วซึ่งสิ่งมีชีวิต แมลงสาป อาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่มีชีวิตสิ่งเดียวที่เหลืออยู่ แต่ หนู ก็น่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตรองสุดท้ายที่จะเหลืออยู่

ดังนั้นถ้าตัดความเชื่อบ้าบอนั่นออกไป เรามามองต้นเหตุครับ แปลกไหมว่า ในรอบห้าปีมานี้เราไม่เคยได้ยินเรื่องราวแบบนี้มาก่อน (อาจจะมีแต่ผมไม่เคยได้ยิน) ในบริเวณนั้น ดังนั้นการที่น้ำสูงระดับขึ้นแบบนั้นมันบ่งบอกอะไรได้มากกว่าที่เรารู้หรือไม่ ระดับน้ำที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วมิใช่เรื่องดีนะครับ เพราะเราต้องเข้าใจว่า การที่คนจะอยู่ริมลำน้ำได้นั้น ต้องเคยชินและมีการเตรียมตัวกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น ดังนั้นเรื่องนี้นับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ผิดธรรมชาติไปหน่อยหรือไม่

ดังนั้นเราจะมองให้เข้าประเด็นเรื่องโลกร้อนได้หรือไม่... มันมองได้นะครับถ้าจะมองจีนตอนนี้ ขยับตัวรุกเข้าชิงพื้นที่ทางธุรกิจอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ดังนั้นเรื่องนี้จะเป็นสัญญาณเตือนอะไรหรือไม่ผมไม่รู้ แต่อะไรที่ผิดปกติธรรมชาติเช่นนี้ ผมขอมองเชิงลบก่อนเป็นอันดับแรก ดังนั้นผมจะขอรณรงค์ตามเรื่องราวนี้ต่อไป เพื่อลดภาระของโลก

http://www.oknation.net/blog/pathom/2007/07/11/entry-2

ขนลุก! หนูนับพันบุก กระทรวงสาธารณสุข



นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการควบคุมสัตว์ แหล่งรังโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ว่า ปัญหาจำนวนประชากรหนูที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก นอกจากจะก่อปัญหาในแง่ของการแพร่เชื้อโรคแล้ว ยังสร้างความวุ่นวายและก่อความรำคาญเป็นอย่างมาก เฉพาะในกระทรวงสาธารณสุขเอง หนูได้ออกมาเพ่นพ่านกัดสายไฟ สายคอมพิวเตอร์ กัดแทะเอกสาร สิ่งของต่างๆ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ถ้าปล่อยทิ้งไว้จนถึงช่วงที่เกิดอุทกภัยในหน้าฝน อาจจะทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรงขึ้น เช่น โรคระบาด จึงจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการในการกำจัดหนูอย่างเป็นรูปธรรม

นพ.ไพจิตร์กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะประชากรหนูล้นโลก ส่วนหนึ่งมาจากสภาวะโลกร้อนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ เช่น สภาพอากาศที่รุนแรง แผ่นดินทรุดต่ำ ภาวะน้ำท่วม น้ำทะเลหนุน และการกัดเซาะชายฝั่งทะเลที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น สัตว์อพยพไร้ที่อยู่ การเคลื่อนย้ายของประชากรหนู ผลที่ตามมาคือการเจ็บป่วยและการตายของโรคที่มากับน้ำท่วม โดยเฉพาะโรคเลปโตสไปโรซีส เป็นต้น

ผอ.สำนักโรคติดต่อทั่วไปกล่าวด้วยว่า เฉพาะใน กระทรวงสาธารณสุข คาดว่าน่าจะมีประชากรหนูมากกว่า 1 หมื่นตัว ขนาดที่สำนักโรคติดต่อทั่วไปแค่ 2 ชั้นของตึก ดักจับหนูเพียง 1-2 วัน ได้หนูถึงเกือบ 50 ตัว ถ้าดักจับ ทุกตึก ทุกกรม และหน่วยงานรอบๆ กระทรวง คาดว่าจะได้หนูมากกว่าหมื่นตัวแน่นอน ขนาดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนหน้านี้ กรมอนามัย กรมควบคุมโรค ไปช่วยดักจับหนู ยังได้หนูถึง 3 หมื่นตัว สาเหตุอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้หนูมีปริมาณมากจนน่าตกใจ มาจากการทิ้งเศษอาหารโดย ไม่มีการเก็บให้มิดชิด หนูจึงออกมาคุ้ยเขี่ย ร้านอาหารในหน่วยงานทิ้งเศษอาหารลงท่อ กลายเป็นแหล่งอาหารที่ดี เหมือนกับเป็นภัตตาคารของหนู ทำให้หนูแพร่พันธุ์ ได้มากขึ้น กลายเป็นแหล่งรังโรคที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาที่เกิดจากหนูที่นอกจากการแพร่เชื้อโรคแล้ว ล่าสุด หนูได้ออกมากัดสายไฟจนลิฟต์หลายตัวขัดข้อง ลิฟต์ค้างบ่อย เป็นอันตรายมาก

ขณะที่นายสัตวแพทย์พลายยงค์ สักการะเศรณี นายสัตวแพทย์ 9 สำนักโรคติดต่อทั่วไป ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ คณะกรรมการอำนวยการควบคุมสัตว์แหล่งรัง โรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หนูเป็นสัตว์ที่แพร่พันธุ์เร็วมาก ตั้งท้องแค่ 14 วัน ก็ออกลูกมา ครอกหนึ่งๆ นับสิบตัว และอีกไม่นานก็ตั้งท้องใหม่ ปีหนึ่งๆ หนู สามารถตั้งท้องได้หลายครั้ง จึงแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็ว อย่างในประเทศจีน มีรายงานว่า มีการอพยพเคลื่อนย้ายของประชากรหนูกันอย่างมโหฬาร โดยเฉพาะในช่วงที่เกิด อุทกภัยในจีน การเคลื่อนย้ายของหนูไปกันเป็นกองทัพ นับล้านตัว สร้างปัญหาอย่างมาก ปัญหาที่จะตามมาอีกอย่าง หนึ่งหลังจากมีแหล่งรังหนูคือ งูจะออกมามาก โดยเฉพาะงูเหลือม งูหลาม ที่มากินหนูซึ่งเป็นอาหารอันโอชะ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาหนูก่อความรำคาญใน กระทรวงสาธารณสุข เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาระยะหนึ่งแล้ว โดยหนูได้ออกหากินตามห้องทำงาน และตามตึกต่างๆอย่าง สบายใจ แม้แต่ในห้องผู้สื่อข่าว หนูก็ออกมาเดินหากินอย่างไม่กลัวคน ทำให้บริเวณพุ่มไม้ข้างๆตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ใกล้ๆกับที่จอดรถของนายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข มีงูเหลือมมานอนขดรอกินหนู โดยไม่กลัวคน สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้สื่อข่าวและข้าราชการอย่างมาก นอกจากนี้ ในส่วนของโรงพยาบาลขนาดใหญ่หลายแห่งที่มีการขายอาหารบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล และพ่อค้าแม่ค้าชอบทิ้งเศษอาหาร หรือเทน้ำซุปที่เหลือจากหม้อก๋วยเตี๋ยวลงท่อ ทำให้เกิดปัญหาหนูมีจำนวนมาก และขึ้นไปก่อความรำคาญ กัดสายไฟ ข้าวของ จนถึงกัดแทะเฝือกหรือข้าวของของเจ้าหน้าที่และ ผู้ป่วยถึงบนหอผู้ป่วย ทำให้กระทรวงสาธารณสุขต้องหาวิธีกำจัดอย่างเร่งด่วน

ที่มา http://hilight.kapook.com/view/21897

 

พฤติกรรมผิดปกติของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
(เมื่อตอนเกิดแผ่นดินไหว)

สุนัข
ตอนที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ มีรายงานว่าสุนัขจะแสดงพฤติกรรมแปลกๆ มากที่สุด สุนัขเป็นสัตว์ใกล้ชิดกับคน จึงสังเกตความผิดปกติของสุนัขได้ง่าย และพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหว สุนัขจะมีอาการตื่นตระหนก วิ่งไปวิ่งมา บางตัวก้าวร้าวขึ้น ส่วนบางตัวก็เห่าและหอน

แมว
ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แมวส่วนใหญ่จะหาที่หลบ ญี่ปุ่นมีคำโบราณกล่าวไว้ว่า "ก่อนแผ่นดินไหว แมวจะปีนขึ้นต้นไม้สูง" และมีคนเห็นเช่นนี้จริงๆ ก่อนเกิดแผ่นดินไหว แมวบางตัวแสดงอาการงุ่นง่าน วิ่งไปมา และส่งเสียงร้องอย่างกระวนกระวาย

หนู
เมื่อ ค.ศ. 1923 ก่อนเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่คันโต หนูพากันหลบหนีไปหมด และตอนเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โกเบ ก็พบปรากฎการณ์หนูพากันหลบหนีเช่นกัน นอกจากนี้ยังพบว่าก่อนเกิดแผ่นดินไหวจะมีหนูติดกับดักเพิ่มขึ้น และหนูบางตัววิ่งพล่านไปทั่ว

<TABLE width="80%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD><TD>

​

</TD></TR><TR><TD>

สุนัขที่เคยเชื่อง แสดงอาการดุร้ายขึ้นทันที ​

</TD><TD>

แมววิ่งไปมาอย่างงุ่นง่าน หรือปีนขึ้นต้นไม้สูง ​

</TD><TD>

หนูพากันหลบหนี ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<HR>แหล่งที่มา

หนังสือการ์ตูนวิทยาศาสตร์ช่วยให้เด็กฉลาด
(เรื่อง..เอาชีวิตรอดจากแผ่นดินไหว)
​

ที่มา http://geothai.net/2008/index.php?op...d=48&Itemid=62

 

*** หลักฐานศาสนศาสตร์คู่โลก ****

หลักฐานพระพุทธเจ้ากุกุกสันโท โกนาคม กัสปะ...มีอยู่บนโลก
เก่าแก่มาก จนคนคิดว่าเป็นยุคพระโคดม !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** สัจจะ ตั้งใจสร้างพระสร้างวัด...หยุดอารมณ์ กิเลสตัญหา แต่ละวัน ****

พระในศาสนาพุทธ สร้างศาสนสถาน...ด้วย "สัจจะ" ทุกวัน
เพื่อเป็นหลักฐาน...ศาสนาปรากฏบนโลก
พระพุทธเจ้า สอนให้.... "ตัด"
ไม่ยึดติด...วัตถุ และ พิธีกรรม
ใครจะทุบ ทำลาย...ก็เป็นเรื่องของเขา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ประวัติศาสตร์ ตำราที่เขียนขึ้น
ถูกต้องแล้วหรือ !!!
เหตุใด...เราจึงเชื่อเขาง่าย
ทำไม....จึงไม่พิจารณา พยายามพิสูจน์ ค้นหาความจริง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

จำได้ไหม....
พระพุทธเจ้า สั่งสอนไว้... อย่าพึ่งเชื่อ !!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ท่านเคยคิดบ้างไหม !!!

สัจจะ...สำคัญอย่างไร ?
สัจจะ....เกี่ยวข้องกับ "หลักสัจจะธรรม" อย่างไร ?
สัจจะ...ใช้ลดกิเลสนิสัย ได้อย่างไร ?

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** มดทวงถาม ****

มดตัวหนึ่งใกล้ตาย...ร้องต่อว่า ผู้ถือศีลคนหนึ่ง

" ท่านบอกคนไปทั่วว่า ท่านถือศีลไม่ฆ่าสัตว์
แล้วท่านมาเหยียบย้ำชีวิตน้อยๆ ของข้าพเจ้าทำไม ???
ท่านพูดแล้ว เพราะเหตุใดท่านจึงไม่ทำอย่างที่พูด
ท่านพูดไม่จริง วิญญาณฉันจะจดจำไว้ไม่ลืม "

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ข้าพระเจ้าจะทำอย่างไรดี ****

พระพุทธเจ้า...รู้ว่าศีลเป็นเรื่องใหญ่ กว้างมาก
มนุษย์ทำกันไม่ได้
จึงสอนให้... "เดินสายกลาง"
ตั้งใจทำในสิ่งที่พอทำได้จริง พอหยิบพอเอื้อมถึง

ท่านจงให้ "สัจจะกับตนเอง" ...ไม่ฆ่าสัตว์ใหญ่ ๔ ขา ตลอดชีวิต
เมื่อ ท่านได้พูดไปแล้ว ขอให้การกระทำต่อไป เป็นไปตามสิ่งที่ท่านพูด
ท่านจึงได้ชื่อว่า... "ผู้มีสัจจะ"

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

สัจจะ... คือ สัญญาใจตนเอง
ดินฟ้าอากาศ.... เป็นสักขีพยาน
จึงไม่มี...พิธีกรรม

ใจ วาจา การกระทำ...เป็นสิ่งสำคัญ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** จะหลุดพ้น ต้องเริ่มตัด ****

พิธีกรรม...เป็นเรื่องวัตถุ
จึงเกิด ผลประโยชน์ตามมา
เกิดเป็น ธุรกิจตามมา

พิธีกรรม....ก่อให้เกิดการสะสม
พระพุทธเจ้า...จึงสั่งสอนให้ "ตัด" สิ่งสะสมออกไป
จะหลุดพ้นได้....ต้องเริ่มตัด

เมื่อ ท่านตัดได้...ท่านจะรู้ได้เอง
คือ ตัดแล้วรู้
ทุกวันนี้เรียกว่า...ตรัสรู้
ตัดสิ่งสะสมได้ ท่านจะรู้จักความสุขที่แท้จริงได้เอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ดูตน เตือนตน ระวังตน ****

ใจ กับ ปาก...บอกจะช่วยบำรุงพุทธศาสนา
แต่ กาย การกระทำ....ไม่ตรง ใจ กับ ปาก
ยังเชื่อ ยังปฏิบัติ...ตามพิธีกรรมนอกคำสอน !!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** พยามยาม ****

ตั้งใจ ควบคุม... กาย วาจา ใจ ให้ตรงกัน
เกิดเป็น "ความจริง" เป็น "สัจจะ" ขึ้นมาในชีวิต

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ใช้ชีวิตด้วยความจริง ****

ความจริง...คือ สัจจะธรรม
ใช้ชีวิตด้วย หลักสัจจะธรรม .... คือ ทำความจริงให้เกิดขึ้นมาในชีวิต
การปฏิบัติ ปาก ใจ ตรงกัน ... คือ ความจริง เป็น สัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ถ้า ....คนไทยหันมาถือสัจจะ...เหมือน พระพุทธเจ้า
ประเทศไทย... ก็จะเปลี่ยนปลงไปในทางที่ดี

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ก่อนที่กรรมจะตามทัน !!!

 

สัจจะ...คือ สิ่งที่ท่านต้องใช้รองรับ พระไตรปิฎก

- " หนุมาน ผู้นำสาร "