ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. จักรพนธ์

    จักรพนธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +4,622
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom background=images/brkn_red_midtop.gif>ประจำวันที่ 2 กันยายน 2550
    [​IMG]
    [​IMG][​IMG]<!--[​IMG]-->[​IMG][​IMG]</TD><TD width=8>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width=1 bgColor=#000000>[​IMG]</TD><TD bgColor=#dddddd><!-- CONTENT --><TABLE height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="85%">
    <!--<TABLE width=501 cellpadding=0 cellspacing=0 align=center border=0>--><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><!--<TD width=1 bgcolor="#000000">[​IMG]</TD>--><TD width=468 bgColor=#dddddd>[​IMG]
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>พายุเฟลิกซ์กลายเป็นเฮอร์ริเคนมุ่งหน้าหมู่เกาะแถบแคริบเบียน </TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>14:32 น. พายุโซนร้อน"เฟลิกซ์" ทวีกำลังแรงเป็นพายุเฮอร์ริเคนแล้วเมื่อคืนวันเสาร์ ซึ่งนับเป็นเฮอร์ริเคนลูกที่สองในมหาสมุทรแอตแลนติก และกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าไปยังทะเลแคริบเบียน โดยขณะนี้พายุเฟลิกซ์มีความเร็วลม 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นเฮอร์ริเคนที่มีความรุนแรงระดับ 1
    ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ คาดว่า พายุจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้หรือมุ่งหน้าไปทางเหนือของเกาะอารูบา โบแนร์ และคูราเซา ซึ่งทั้งหมดเป็นดินแดนอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ในคืนวันเสาร์หรือเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีความเป็นไปได้ว่าพายุจะมีกำลังแรงขึ้นเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 3 ขณะอยู่ในทะเลแคริบเบียนช่วงกลางสัปดาห์หน้า แต่ยังไม่มีสัญญาณว่าพายุลูกนี้จะพัดไปถึงอ่าวเม็กซิโกหรือไม่ ขณะที่พายุโซนร้อนเฮนเรียต ที่มีความเร็วลม 104 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังพัดเข้าใกล้เม็กซิโก ทำให้มีฝนตกหนักในเมืองอาคาพูลโก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน เกิดดินถล่มปิดกั้นทางหลวงสายหนึ่ง และทางการต้องปิดโรงเรียนกว่า 1,000 แห่ง รวมทั้งคลื่นที่สูง 1.5 เมตรซัดชายฝั่งทำให้เรือประมงลำเล็กต้องงดออกทะเล และศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ คาดว่า พายุลูกนี้อาจมีกำลังแรงขึ้นกลายเป็นพายุเฮอร์ริเคนในเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น แต่คาดว่าจะไม่พัดขึ้นฝั่งในเม็กซิโก
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=right width="65%" bgColor=#ededed>[​IMG]</TD><TD align=right width="35%">[​IMG] [​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>เนชั่นทันข่าว
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. vichai2500

    vichai2500 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    600
    ค่าพลัง:
    +2,877
    (b-2love)

    ณ สถานที่แห่งหนึ่ง เวลาหนึ่ง

    โยม"พระอาจารย์ครับ เรื่องร้ายๆ จะเกิดเมื่อไหร่ครับ"
    พระ "เทวดา มาบอกว่า เร็วๆ นี้ อย่าประมาท"
    โยม" ระบุวัน เวลา ได้ไหมครับ"
    พระ" เทวดา บอกเร็วๆนี้ แต่อย่าลืมว่า เวลาของเทวดา กับมนุษย์ เร็วต่างกันมาก เร็วของเขาอาจจะนานของเราก็ได้"
    โยม"เข้าใจแล้วครับ"
    พระ"เราก็อย่าประมาท เมื่อเกิดแล้ว จะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ"

    [b-wai] [b-wai] [b-wai]
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เชียงรายฝนถล่มน้ำหลากท่วมบ้านเรือนเชิงดอยนางนอน

    [​IMG]

    เชียงราย 2 ก.ย.- ผู้สื่อข่าวรายงานถึงภาวะฝนตกหนักในจังหวัดเชียงรายช่วงบ่ายที่ผ่านมา (2 ส.ค.) นานกว่า 3 ชั่วโมง ทำให้น้ำจากเทือกเขาดอยนางนอนไหลหลากฉับพลันเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรใน 2 หมู่บ้าน ของตำบลโป่งงาม อำเภอแม่สาย กว่า 50 หลังคาเรือน ในระดับ 30 เซนติเมตร

    ซึ่งชาวบ้านขนย้ายสิ่งของไม่ทัน จึงได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ น้ำยังท่วมถนนระหว่างหมู่บ้านและพื้นที่การเกษตร ขณะเดียวกัน สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงรายประกาศเตือนราษฎรบริเวณที่ลาดเชิงเขาและลุ่มแม่น้ำเตรียมพร้อมรับมือไว้ล่วงหน้า เนื่องจากพบว่าบริเวณบนเทือกเขาดอยนางนอนและบริเวณต้นน้ำแม่น้ำสายฝนยังตกหนัก อาจทำให้ลำน้ำสาขาปริมาณเพิ่มสูงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว.- สำนักข่าวไทย

    [ 2007-09-02 : 18:24:27 ]

    ภูเก็ตฝนตกหนักท่วมขังฉับพลันกลางใจเมือง

    [​IMG]

    ภูเก็ต 2 ก.ย. - ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเกิดฝนตกหนักช่วงสายที่ผ่านมา (2 ก.ย.) ทำให้ถนนหลายสายในตัวเมืองน้ำท่วมขังฉับพลัน การสัญจรไม่สะดวก โดยเฉพาะย่านการค้ารถติดขัดอย่างหนัก

    นอกจากนี้ ถนนเทพกระษัตรีย์ เส้นทางไปสนามบินจังหวัดภูเก็ตน้ำท่วมผิวการจราจรทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก เป็นช่วง ๆ ตั้งแต่ 100 - 300 เมตร โดยจุดที่มีน้ำท่วมมาก คือ บริเวณหน้าห้างซุปเปอร์ซิป ระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร อีกทั้งน้ำยังทะลักเข้าท่วมลานจอดรถ ทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระดมกำลังฝ่ายป้องกันองค์การบริหารส่วนตำบลหลายแห่งเร่งระบายน้ำท่วม

    ล่าสุด ระดับน้ำเริ่มลดลง ยกเว้นหน้าห้างซุปเปอร์ซิปยังอยู่ระหว่างการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง. - สำนักข่าวไทย

    [ 2007-09-02 : 14:49:16 ]

    เตือนครึ่งแรกเดือนนี้อาจมีพายุหมุนเขตร้อนผ่านด้านตะวันออกไทย

    [​IMG]

    สำนักข่าวไทย 2 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนครึ่งแรกเดือนกันยายนนี้ อาจมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่านด้านตะวันออกของไทย ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่นในบางช่วงอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งขึ้นได้ในบางพื้นที่ และอาจเกิดพายุคลื่นซัดบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก

    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศในช่วงครึ่งแรกของเดือนกันยายน (1
     
  4. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    จังโก้ดินถล่ม-เฟลิกซ์เฮอร์ริเคนระดับ 2

    [3 ก.ย. 50 - 05:05]


    เมื่อ 1 ก.ย.เกิดเหตุดินและหินถล่มทับบ้านเรือนราษฎรหลายหลังในอคาพุลโก เมืองท่องเที่ยวสำคัญของเม็กซิโก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย รวมทั้งเด็ก 5 คน หลังเกิดฝนตกหนักจากฤทธิ์พายุโซนร้อน “เฮนเรียตต์” ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯเตือนพายุเฮนเรียตต์อาจก่อตัวเป็นเฮอร์ริเคนลำดับต่อไป
    ขณะเดียวกัน พายุโซนร้อน “เฟลิกซ์” ก่อกำลังเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 2 เมื่อเย็นวันเสาร์ และได้พัดเข้าหมู่เกาะเล็กๆของเวเนซุเอลาแถบทะเลแคริบ-เบียน คาดว่าจะมุ่งหน้าพัดถล่มชายฝั�งตะวันออกของนิการากัวและฮอนดูรัส ทั้งนี้ “เฟลิกซ์” นับเป็นพายุลูกที่ 6 ของฤดูมรสุมแถบแอตแลนติกที่กินเวลานาน 3 เดือน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “ดีน” ถือเป็นเฮอร์ริเคนลูกแรก พัดถล่มทางใต้ทะเลแคริบเบียน คร่าชีวิตผู้คนจากมาร์ตินิคไปจนถึงเม็กซิโกร่วม 30 ราย วันเดียวกันนี้ มีรายงานเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.9 ริกเตอร์ ใต้ท้องทะเลในหมู่เกาะโซโลมอน แต่ไม่มีการเตือนภัยสึนามิ หรือมีรายงานความเสียหาย.

    http://www.thairath.co.th/news.php?section=international&content=59696
     
  5. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    n@gmail.com> wrote:
    แก้นิดนึงมีสามรอยจริงๆคะ ตามรูปภาพ เส้นแดงๆสามเส้นนั้นล่ะคะ

    On 15/08/07, Piakgear24 <piakgear24@gmail.com> wrote:
    ช่วยตอบคำถามคุณพรทิวาหน่อยครับ

    ---------- Forwarded message ----------
    From: Porntiva < cfporn@samart.co.th>
    Date: 15-Aug-2007 12:09
    Subject: รบกวนช่วยตอบข้อสงสัย
    To: piakgear24@gmail.com

    ดิฉันชื่อพรทิวา วิมลสวรรค์ เป็นสมาชิกของพลังจิต เพื่อนบ้านทราบข่าวจากทางวิทยุซึ่งจำไม่ได้ว่าสถานนีไหนมีอยู่สองเรื่อง รบกวนอยากทราบข้อมูลที่แท้จริงมีดังนี้ค่ะ
    1. ดอกเตอร์อานนท์แจ้งว่าห่างจากภูเก็ตมีภูเขาประมาณ 300 กม มีภูเขาไฟอยู่ ไม่ทราบจริงหรือไม่
    2. ทางดอกเตอร์สมิท ธรรมสโรช แจ้งว่าหลังจากมี 2547 ที่เกิดแผ่นดินไหวครังใหญ่และประเทศไทย มีรอยแยกเพิ่ม 3 รอย และรอยหนึ่งพาดเข้ามาที่กรุงเทพ ที่ไหนคะ และอีกสองรอยเลื่อนอยู่ที่ไหนบ้าง
    อยากทราบจริง ๆค่ะ
    รบกวนช่วยตอบด้วยค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
    พรทิวา




    --


    พลังจิตพิชิตภัยพิบัติ
    http://palungjitrescuedisaster.com ​


    1. ดอกเตอร์อานนท์แจ้งว่าห่างจากภูเก็ตมีภูเขาประมาณ 300 กม มีภูเขาไฟอยู่ ไม่ทราบจริงหรือไม่

    เท่าที่ ทราบ ครับ มีภูเขาใต้ทะเล ห่างจาก เกาะภูเก็ต จริงๆ ครับ ประมาณ 3- 4 ลูก ที่รอการประทุ ออกมา ครับ

    ซึ่งถ้ามีการระเบิด จากใต้ทะเล .....ย่อมทำให้เกิด สึนามิ คลื่นยักษ์ ใหญ่ กว่า ครั้ง ที่แล้ว 26 พย. นั้น แน่นอน ครับ


    แต่ ทั้งนี้ หลวงปู่สุภา กันตสีโล (อายุ113ปี ในวันที่ 17 กย. 2550 นี้ ) ท่านใด้ ให้ เหล่า นาค ในเขต พระพุทธศาสนา เมืองเกาะแก้ว ภูเก็ต นำ สิ่งบางอย่าง เข้าไป ปิดปาก ถ้ำ ใต้ ทะเล แล้ว

    แต่ วิบากกรรม ยังคงมี ต่อไป ครับ ตามวัฏจักร์ ที่ หลีกหนี ไม่ใด้ ดังที่ ว่า...

    ....เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ...

    ที่เกาะแก้วพิสดาร มีรอยพระพุทธบาท 2 รอย ครับ

    ตามประวัติ ที่ จารึก ที่ฐาน พระพุทธลีลา บนเกาะแก้วฯ นั้น เล่า ว่า พญามิจจุลินทร์ พญานาค ท่านนี้ พร้อม บริวาร ใด้ รับ บัญชา ให้ ดูแล รอย พระพุทธ อยู่ ครับ

    สำนักสงฆ์เกาะ แก้วพิสดาร ปัจจุบัน หลวงพ่อเสือ ท่านดูแล อยู่ครับ ( วันพระ หลวงพ่อ จะมารับ คนเอง หรือ อาจจะมี เรือจากวัด มารับ คน ครับ โดยสาร ฟรี ดู ที่เรือ จะมี ธงพุทธศาสนา ครับ ...แต่ ถ้า วันเวลา ปกติ ค่าเรือ โดยสาร เหมา 800 บาท ไปกลับ ครับ )

    แฮะๆๆๆๆ

    สึนามิ ที่ผ่าน มา คลื่นลม แหวก ทางให้ ครับ

    ทราบข่าวจาก คุณ จ๊ะ คนกิเสลหนา มาว่า.......หลวงพี่เล็ก ( วัดท่าขนุน กาญฯ ) ท่านกล่าว ว่า ภูเก็ต มี หลวงปู่สุภา ท่านดูแล ตรงนี้ ครับ หลวงปู่สุภา ท่าน ยอมเสงขาร ท่าน เข้าแลก เมื่อมี สึนามิ รอบต่อไป.....

    ทั้ง กลุ่มเพื่อน ใน ทางคนเมืองบัวภูเก็ต เล่า มาแบบนี้ เหมือนกัน ครับ

    ตามประวัติ หลวงปู่ทวด ท่าน มาจารึก รอยพระพุทธบาท แห่งนี้ ต่อมา พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ท่านมาสร้าง มนฑฎ ครอบ รอยพระพุทธบาท ครับ ( แต่ เนื่องจาก โดนทั้ง ลม แดด ฝน ผ่ามาตามกาลเวลา ทำให้ มณฑฎ ผุพังตามกาลเวลา )


    เมื่อไม่กี่เดือนนี้ ครับ หลวงปู่ละมัย ร่วมกับ หลวงปู่นะ และญาติธรรม ร่วมบุญ สร้าง มณฑบ ครอบ รอย พระพุทธบาท อีกครั้ง ครับ


    ก่อน สึนามิ หลวงปู่สุภา ท่าน ย้ำ เรื่อง การ อัญเชิญ สมเด็จพระอุปคุต ใว้ 4 มุมเมืองภูเก็ต แต่ไม่มี ใคร กระทำตามหลวงปู่ บอก

    หลัง สึนามิ ศิษย์ จึง อัญเชิญ ตั้ง 4 มุมเมืองภูเก็ต แล้ว


    ทั้ง บนยอดเขา นาคเกิด มี ญาติธรรม สาย หลวงพ่อ จรัญ ร่วมสร้างบุญ พระใหญ่ยิ่งเมืองภูเก็ต ด้วย ครับ ( พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคาคีรี )

    ตามประวัติ ที่ พระพุทธองค์ สมณะโคคม ท่าน มาโปรด ชาว เมืองนาค ที่เกาะแก้วพิสดาร แล้ว ชาวเมืองนาค บางท่าน ละสังขาร ไปเกิด เมื่อชาวบ้านเห็น เป็น ดวง ลอยจากยอดเขา จึงเรียก ว่า นาคไปเกิด แล้ว ( เขา นาคเกิด )

    นาค บางตน ที่ยังคง รักษา และบำเพ็ญ บารมี จึง ทูล ขอ พระพุทธองค์ ประทับ รอย ใว้ เพื่อ การสักการบูชา และ มิ่งมงคล......ท่านจึงประทับรอย ใว้ ...



    ทั้งนี้ ผม และเพื่อน ญาติธรรม หลายฝ่าย พยายามแก้ไข ให้ เกาะภูเก็ตเป็น สถาน ที่ ที่ดำรงเพื่อ รอย พระพุทธองค์ ต่อไป ครับ แต่ แล้ว แต่ กรรม ...

    ตราบ เท่า ที่หลวงปู่สุภา ท่าน ยังคงสังขาร อยู่ .....หลังจากนั้น คงแล้วแต่ ยะถากรม ซึ่งผมเอง ยังไม่ไม่มั่น ใจ เลย ว่า จะรอดพ้นภัยพิบัติ ตรงนี้ ไหม

    ปู่ ท่านหนึ่ง ที่ อุบลฯ ท่าน ว่า เมื่อถึงเวลา เจ้าจะรู้เอง เหมือน เราหลับตา แล้ว ร่างเจ้า จะลอย ไป รวมกลุ่ม กับคนปฏิบัติ ธรม และ ช่วยเหลือ เพื่อนมนุษย์ ในยาใน้น พอดี ......

    แฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ




    ในโอกาส ต่อไป อ.คนเมืองบัว จะ ร่วมบุญ สร้าง และ อัญเชิญ สมเด็จ องค์ปฐม หน้าตัก กว้าง ( ........ ) เพื่อประดิษฐาน ใว้ 4 มุมเมืองภูเก็ต เช่นกัน ครับ...



    แนบภาพ รอยพระพุทธบาท ที่เกาะแก้วพิสดาร ครับ


    ขออนุโมทนา ครับ

    <HR SIZE=1>Park yourself in front of a world of choices in alternative vehicles.
    Visit the Yahoo! Auto Green Center.
    [​IMG]
     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    ตอนนี้มีโครงการสร้างพระธาตุแห่งใหม่ขึ้นที่เพชรบูรณ์ครับ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางองค์เจดีย์ 7 เมตร คลอบพระธาตุเดิมที่ชำรุด ด้านล่างเป็นพระธาตุองค์เดิม ด้านบนทำสถานที่สักการะและปฎิบัติสมาธิ

    มีพระท่านหนึ่งท่านรับคำจากเบื้องบนมาเพื่อเป็นประธานในการสร้าง ให้คุณอลงกรณ์ออกแบบไว้ตามรูปข้างล่างนี้ครับ (คุณคณานันท์บอกว่าเป็นนายช่างสมัยแอตแลนตีสมาเกิด) Project นี้คงมีโอกาสได้ร่วมบอกบุญกันในเร็วๆนี้ครับ..พระธาตุแห่งพระพุทธเจ้าสามารถน้อมนำพลังงานแสงทิพย์อันบริสุทธิ์ลงมาสู่โลกบริเวณนั้น สามารถปกป้องคลอบคลุมพื้นที่นั้นได้ด้วยพลังงานอันเข้มข้นสูงสุด..บริเวญนั้นจากที่หนักก็จะกลายเป็นเบาหรือปลอดภัยมากขึ้นด้วยครับ
    ใครที่คิดจะไปอยู่จังหวัดเพชรบูรณ์คงปลอดภัยขึ้นอีกมากครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2007
  7. จักรพนธ์

    จักรพนธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    373
    ค่าพลัง:
    +4,622
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=10 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD height=70>พายุ "เฟลิกซ์" แรงขึ้นเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 5 </TD></TR><TR><TD vAlign=top bgColor=#ededed>08:30 น. พายุเฮอร์ริเคน "เฟลิกซ์" ทวีกำลังแรงอย่างรวดเร็วขึ้นเป็นระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดแล้วเมื่อวันอาทิตย์ โดยมีความเร็วลมสูงถึง 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่ประเทศแถบอเมริกากลาง หลังพัดกระหน่ำเกาะหลายแห่งในแถบทะเลแคริบเบียน ได้แก่ อารูบา โบแนร์ และคูราเซา ซึ่งต่างเป็นดินแดนอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ พายุเฟลิกซ์ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงในเกาะทั้งสาม ส่งผลให้กระแสไฟฟ้าดับ แต่สร้างความเสียหายเพียงเล็กน้อย โดยที่เกาะคูราเซา มีบ้านเรือนไม่กี่หลังถูกน้ำท่วม และบ้านหลังหนึ่งในอารูบาถูกต้นไม้โค่นทับ ขณะที่นักท่องเที่ยวหลายพันคนบนเกาะทั้งสามต้องพักอยู่แต่ในโรงแรม ด้านศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ เตือนว่า พายุเฟลิกซ์ยังอาจมีกำลังแรงขึ้นอีก หลังพัฒนาความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจากพายุโซนร้อนเมื่อวันเสาร์จนเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 5 ในวันอาทิตย์ และคาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวผ่านชายฝั่งฮอนดูรัสไปขึ้นฝั่งที่เบลิซในวันพุธ นอกจากนี้อาจพัดปกคลุมตั้งแต่นิคารากัวไปจนถึงคาบสมุทรยูคาทานของเม็กซิโกด้วย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ปั่นป่วน ***

    "คุณผู้หญิง"... รับเงินไปมาก
    จะเดินทางไกลจากยุโรป
    ทำลายภาพพจน์ ผู้บริหารบ้านเมืองสุวรรณภูมิ

    สุดท้าย...ฝรั่งทั้งกลุ่ม ก็แพ้อำนาจเงินไทยหนึ่งคน
    ขอเพียงเงิน...กับผลประโยชน์ให้ฝรั่งอย่างฉัน
    คุณให้เงินฉัน...ฉันจะช่วยคุณเอง
    คุณนี้แย่...ฉันก็แย่
    แต่ทำไง...เงินเท่านั้น เงินตัวเดียว

    เพราะ ฉันเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ฉันทำได้
    เพราะ ฉัน คือ "คุณผู้หญิง"
    You คือ คุณ
    อี คือ ฉัน ผู้หญิง

    รับรอง...คุณไทยนายจ้าง ไม่ต้องห่วง
    ฉันจะปั่น จะป่วน...คนบ้านคุณ
    เพราะ คนบ้านคุณ...ทำอะไรไม่จริงจัง
    ฉันมันพวก... อธรรม
    ฉันกลัว...คนพูดจริง ทำจริง
    เพราะ...ฉันไม่เคยทำจริง ตามที่พูดเลย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    แล้วสุดท้ายน้ำจะท่วมโลก???

    ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ เก็บข้อมูลทะเลไทย 50 ปี ชี้ระดับน้ำลดลงเฉลี่ย 0.4 มม.ต่อปี จากปรากฏการณ์เอลนีโญ่และแผ่นดินไหว ค้านทฤษฎีน้ำท่วมโลกซึ่งจะเกิดในประเทศแถบอเมริกาและยุโรปเท่านั้น
    ศ.ดร.สุภัทท์ วงศ์วิเศษสมใจ ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำและสิ่งแวดล้อม บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด และนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติประจำปี 2543 สาขาวิศวกรรมศาสตร์และอุตสาหกรรมวิจัย จากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ กล่าวถึงผลจากการสำรวจพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทย ด้วยการสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ทำนายแนวโน้มของระดับน้ำทะเลว่า จากการเก็บข้อมูลในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา พบระดับน้ำทะเลในอ่าวไทยลดลง 0.4 มิลลิเมตรต่อปี หรือเท่ากับ 36 มิลลิเมตร ใน 100 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นระดับที่ไม่รุนแรงอย่างที่กังวลกัน


    ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของอังกฤษ ที่ระบุว่าประเทศในเขตเส้นรุ้งต่ำ หรือบริเวณอ่าวไทย คาบสมุทรอินโดจีน คาบสมุทรเกาหลีและทะเลญี่ปุ่น ระดับน้ำทะเลจะลดลง 0-50 มิลลิเมตร ใน 75 ปีข้างหน้า


    “ก่อนหน้านี้มีการเผยแพร่ข้อมูล จากนักวิจัยบางกลุ่มที่ออกมาบอกว่า ระดับน้ำทะเลในประเทศแถบเอเชีย รวมถึงประเทศไทยจะมีแนวโน้มสูงขึ้น จากอิทธิพลของหิมะและน้ำแข็งขั้วโลกละลาย ซึ่งเป็นข้อมูลที่ผิด แต่สภาพดังกล่าวจะพบในแถบอเมริกาและยุโรปที่อยู่เหนือเส้นรุ้ง ซึ่งใกล้ชิดกับแหล่งหิมะและธารน้ำแข็ง ขณะที่ประเทศในเขตร้อนอยู่ในละติจูดต่ำ จึงไม่ได้รับอิทธิพลของหิมะและน้ำแข็งขั้วโลกละลาย" นักวิจัย กล่าว
    นักวิจัยในยุโรปและอเมริกาได้ศึกษาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ เพื่อคำนวณการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเลอย่างแพร่หลาย โดยคณะทำงานระหว่างรัฐบาลว่าด้วยอากาศเปลี่ยนแปลง (ไอพีซีซี) ทำนายว่า ใน 100 ปีข้างหน้า น้ำทะเลจะสูงขึ้น แต่ไม่ได้ระบุพื้นที่ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดที่อาจส่งผลเสียต่อการป้องกันที่ไม่ตรงจุด และเสี่ยงต่อการสิ้นเปลืองงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ ผลจากการเก็บข้อมูลระดับน้ำในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา สามารถยืนยันได้ว่า ระดับน้ำทะเลในอ่าวไทยลดลง แต่อยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วง ปัจจัยเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ประกอบกับการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว รวมทั้งปัญหาการสูบน้ำบาดาลเพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำในนิคมอุตสาหกรรม

    http://www.oknation.net/blog/nuumnimm
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    เตือน!! คำทำนายน้ำท่วมโลก !!!


    มีคำถามที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในปี 2551หลั่งไหลเข้ามาหาผู้เขียนค่อนข้างมาก หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เศร้าสลดเมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 อันเกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่น ขยับตัว และซ้อนเกยกันบริเวณเหนือเกาะสุมาตรา ซึ่งอยู่ห่างจากประเทศไทยประมาณ 400 กิโลเมตร มีอัตราการสั่นไหว 9 ริกเตอร์ เป็นเหตุให้ประเทศไทยได้รับความสูญเสีย โดยได้คร่าชีวิตผู้คนที่พักอยู่อาศัย และมาท่องเที่ยวใน 6 จังหวัดริมฝั่งทะเลอันดามัน โดยพบศากศพมากกว่า 5,000 ศพ บาดเจ็บมากกว่า 10,000 คน และยังสูญหายอีกมากกว่า 3,000 คน โดยมีผู้คนของประเทศต่างๆอีกหลายประเทศ ที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเล เมื่อนับจำนวนซากศพผู้ที่เสียชีวิตในคราวเกิดคลื่นยักษ์สึนามิครั้งนี้ ก็มีจำนวนมากกว่า 220,000 ศพ

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปลายปี 2547 นี้ หากเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในปี 2551 หรือ ปี 2560 นั้น ถือได้ว่าเป็นเหตุการณ์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะเหตุการณ์ในปี 2551 หรือ ปี 2560 นั้น จะเป็นเหตุการณ์ที่เรียกว่า “อภิมหามหันตวิปโยคสุดแสนโศกสลด” ทั้งนี้ เพราะจะมีผู้คนเสียชีวิตมากกว่าเหตุการณ์ช่วงปลายปี 2547 ประมาณ 1,000 เท่า

    เหตุการณ์อะไรเล่า ที่ทำให้มีคนตายประมาณ 220 ล้านคน ในปี 2551 (ปลายปี 2547 เหตุจากคลื่นสึนามิได้คร่าชีวิตผู้คนไปหลายประเทศรวมกัน มากกว่า 220,000 คน)เหตุการณ์ในปี 2551 หรือ ปี 2560 มิได้มาจากเหตุการณ์ใดเหตุการณ์เดียว แต่มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในปีเดียว คือปี 2551 หรือ ปี 2560 ตลอดทั้งปี เสมือนพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกถูกถล่มด้วยพระราหู ทั้งนี้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่เปลือกโลกหลายแผ่นมีการขยับเคลื่อนตัว และเกยทับกัน (การเกยทับกันเพียงเล็กน้อยของชั้นเปลือกโลก บริเวณเหนือเกาะสุมาตราเพียงจุดเดียว เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม 2547 เป็นเหตุให้เกิดการไหวของแผ่นดินถึง 9 ริกเตอร์ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์วิ่งไปถึงชายฝั่งอัฟริกา ซึ่งมีระยะห่างกันหลายพันกิโลเมตรได้) ในปี 2551 หรือ ปี 2560 นั้น จะมีการเกยทับกันทั้งในบริเวณใต้ทะเลลึก และบริเวณที่เป็นพื้นแผ่นดินในหลายทวีป ความรุนแรงมีขนาดตั้งแต่ 9.5 ริกเตอร์ขึ้นไป (ปกติถ้ามีการไหวของแผ่นดินเพียง 6.5 ริกเตอร์ ก็เป็นเหตุให้อาคารบ้านเรือน ตึกรามอาคารบ้านช่อง ถนนหนทางถล่มทลาย สามารถสร้างความเสียหายได้แล้ว แต่ถ้าเกิดการไหวของเปลือกโลกบริเวณใต้ทะเลลึก ประมาณ 7.5 ริกเตอร์ จะเกิดคลื่นสึนามิ (คลื่นยักษ์) ซึ่งในปี 2551 หรือ ปี 2560 จะมีการเกิดแผ่นดินไหว ศูนย์กลางแผ่นดินไหวมีขนาด 9.5 ริกเตอร์ขึ้นไป)


    สำหรับในประเทศไทยเอง ผลกระทบจากการเคลื่อนตัวของชั้นเปลือกโลกในปี 2551 หรือ ปี 2560 นั้น จะเกิดบนพื้นแผ่นดินประมาณ 3 – 4 จุด ซึ่งในทะเลก็มีทั้งบริเวณเหนือเกาะสุมาตรา และบริเวณใกล้เกาะบอร์เนีย และอีก 2 รอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลก ซึ่งจะมีผลทำให้เขื่อนใหญ่ 2 เขื่อนแตก และ ตึกราม บ้านเรือน สะพานและถนนหนทางพังพินาศทลายลงเป็นจำนวนมาก


    สำหรับจังหวัดชายฝั่งทะเล ก็จะได้พบกับสึนามิ หรือคลื่นยักษ์อีกครั้ง ด้วยความรุนแรงของการเกยทับของแผ่นเปลือกโลกอีกครั้งด้วยความแรงมากกว่าเดิม คือ ขนาด 9.5 ริกเตอร์ ขึ้นไป แม้ระบบเตือนภัยจะทำงานในอนาคต แต่ความเร็วของคลื่นสึนามิใช้ความเร็วในทะเลประมาณ 500 กม./ ชั่วโมง นักวิชาการบางท่านบอกว่ามีความเร็วระหว่าง 600 – 800 กม./ ชั่วโมง ผู้คนจำนวนมากยังไม่ใส่ใจคำเตือน คนจำนวนมากหนีไม่รอด ศพตายเป็นเบือ โผล่ให้เห็นในน้ำยิ่งกว่าดอกเห็ด แม้จะได้ทราบคำเตือน แต่ความประมาทของประชาชนที่ไม่ติดตามข่าวสารก็คงยากที่จะป้องกันความเสียหายชีวิตของผู้คนและทรัพย์สินที่อยู่ชายฝั่งทะเล ยกเว้นท่านต้องร่นให้อยู่ห่างจากชายฝั่งทะเลให้มากหน่อย โดยมีต้นไม้ใหญ่เป็นกำแพงกั้น หรือภูเขาสูงบังไว้

    สิ่งสำคัญที่ทุกคนที่อยู่ริมฝั่งทะเลต้องรับทราบ คือ เมื่อใดมีเหตุการณ์ขึ้นลงของน้ำทะเลอย่างรวดเร็ว ต้องรีบหนี 2 วิธี คือ วิ่งเรือออกสู่กลางทะเลลึก ถ้าขณะนั้นอยู่บนเรือในทะเล ห้ามกลับเข้าชายฝั่งทะเลเป็นอันขาด อีกวิธี คือให้วิ่ง หรือขับรถขึ้นที่สูงที่มีความมั่นคงแข็งแรงโดยเร็ว ดังนั้น เมื่อใดที่อยู่บริเวณชายทะเลในปี 2551 หรือ ปี 2560 กรุณามองทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้าก็มีส่วนช่วยให้อยู่รอดปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง
    [​IMG]
    เป็นแผนที่จำลอง แผนที่โลกในอีก 50 ล้านปีข้างหน้า คำนวณโดยซุปเปอร์คอมพิวเตอร์
    โดยพิจารณาจากการเคลื่อนที่ของเปลิอกโลก การหายไปของขั้วโลกเหนือ
    และการผ่านยุคน้ำแข็งอีกประมาณ 2 ครั้ง
    ความคิดเห็นส่วนตัว : เรื่องน้ำท่วมโลกนี้มันเป็นสิ่งที่เป็นเหมือนสิ่งมหัศจรรย์ ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเราลองดูจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นล้วนรุนแรงขึ้น และทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง เช่น การเกิดสึนามิ การเกิดแผ่นดินไหว น้ำแข็งทั่วโลกละลาย และอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้นเราควรที่จะช่วยกันรักษ์ธรรมชาติถึงแม้ว่ามันจะแก้ปัญหาไม่ได้แต่ก็คงช่วยลดผลที่จะเกิดขึ้นได้บ้าง

    credit : Saran
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ระวัง ****

    หนทางทำลายสถาบันหลักของสยาม
    คือ ชาติ ศาสนา...มีมากมาย
    เสนอ...ภาพเลวร้าย
    ป้อน....ความเชื่อผิดๆ
    ยุ....ให้เกิดอารมณ์เสีย เกลียด เครียด
    หลอก...ให้หลงทาง
    พา....ให้หลงจมไปกับวัตถุ
    ดึง...ให้ห่างคำสอน ห่างพระธรรม
    ปั่น....หัวทุกสังคม
    จุด...ประเด็นแตกแยก
    แหย่....ให้ตีกันเอง
    พา...ศัตรูมารุมกินโต๊ะ
    ฉวย....โอกาสทำลายเสาบ้าน
    แอบ...ซุ่ม ดัก ลอบ
    ยิง....

    นี่แหละ...
    ผลของคนไทย ที่ขาด "สัจจะ"
    จึงไม่สามารถรอดพ้นกรรมไปได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** โชคดี...ที่ปรากฏและยังไม่ปรากฏ ****

    ไทย...โชคดี ที่มีศาสนา
    ไทย....โชคดี ที่มีกษัตริย์
    ไทย....โชคดี ที่กษัตริย์เป็นผู้เมตตา
    ไทย...โชคดี ที่มีโลกุตตระมาปรากฏ
    ไทย....โชคดี ที่โลกุตตระมามอบธรรมนำพาให้สัตว์หลุดพ้น
    ไทย...โชคดี ที่มีผู้เรียนรู้และเข้าใจในหลักสัจจะธรรมจากโลกุตตระ
    ไทย....โชคดี ที่มีคนเชื่อและปฏิบัติสัจจะ
    ไทย...จะ โชคดี ที่พระพุทธเจ้ากำลังปรากฏ
    ไทย....จะ โชคดี ที่พระพุทธเจ้าจะนำสัจจะมาโปรด
    ไทย...จะ โชคดี ที่จะได้พบสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
    ไทย....จะ โชคดี ที่ได้ร่วมปฏิบัติสัจจะทั้งชาติ
    ไทย...จะ โชคดี ที่จะรอดพ้นจากกรรมที่กำลังมา
    ไทย....จะ โชคดี ที่ผลของการปฏิบัติคือกรรมเที่ยง
    ไทย...จะ โชคดี ที่ผลของสัจจะ จะย้อนกลับมาตอบแทนทั้งชาติ
    ไทย....จะ โชคดี ที่จะมีพระมหากษัตริย์ประดุจดังพระพุทธเจ้า
    ไทย...จะ โชคดี ที่จะเป็นดินแดนแห่งศาสนาศาสตร์หนึ่งเดียวในโลก
    ไทย....จะ โชคดี ที่จะมีพระอรหันต์มากมาย
    ไทย...จะ โชคดี

    โชคดี ในวันหน้า ....คือ ผลจากสัจจะที่ทำในวันนี้
    -
     
  13. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    เรือท่องเที่ยวดำน้ำเกาะพีพีล่มกลางอ่าวมาหยาดับ1เจ็บ6คน <table align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr bgcolor="#cccccc"><td valign="center"> </td></tr> <tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr><tr><td align="center">
    </td></tr></tbody></table>
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> ระทึก เรือบรรทุกนักท่องเที่ยวไปดำน้ำบนเกาะพีพี จ.กระบี่ ล่มกลางทะเล

    เบื้องต้นบาดเจ็บ 6 รายเสียชีวิตคาที่1 ราย เจ้าหน้าที่ระดมกำลังช่วยเหลือ
    เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กระบี่ รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกนักท่องเที่ยวล่มกลางทะเลช่วงอ่าวมาหยา

    โดยนายศิวะ ศิริเสาวักษณ์ ผู้ว่าราชการ จ.กระบี่ เปิดเผยว่า

    เหตุดังกล่าวเป็นเรือบรรทุกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 65 คน เพื่อไปดำน้ำที่เกาะพีพี โดยเกิดเหตุขณะที่เรือแล่นออกจากอ่าวมาหยา จากนั้นเกิดอุบัติเหตุเรือล่มกลางทะเล เจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังช่วยเหลือ เบื้องต้น พบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้รับบาดเจ็บ 6 รายและมีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล เสียชีวิต1 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัย และ ปภ.จังหวัดอยู่ระหว่างการให้ความช่วยเหลือและนำนักท่องเที่ยวขึ้นสู่ฝั่งได้แล้วเบื้องต้นจำนวน 25 คน

    อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการจ.กระบี่ยังกล่าว่า ก่อนหน้านี้ ทางจังหวัดได้ออกประกาศเตือนให้ชาวประมงและเรือท่องเที่ยวต่างๆ ระมัดระวังการเดินเรือในช่วงนี้ เนื่องจากเกิดมรสุมรุนแรง จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
    <!-- End Show Detail -->
    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top">

    ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวคุณภาพดีจาก

    </td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" valign="top"><table border="0" cellpadding="2" cellspacing="2" width="95%"><tbody><tr><td valign="top"> <table align="center" bgcolor="#f5f5f5" border="0" cellpadding="2" cellspacing="2"><tbody><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  14. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    สัญญาณจากจักรวาล


    ข้อมูลเพิ่มเติมจาก


    http://www.universal-signal.com/html/armagedon/diaster_theendofworld.htm


    ลองเข้าชมเอง มีข้อความกำหนดเวลาที่อาจเกิดภัยมาเสริมข้อมูลเดิมที่เคยกล่าวไว้ว่าในปีพศ.2567 ความเจริญทางศาสนาจะมาถึง
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr valign="top"><td class="style50" colspan="3">
    "มหันตภัยล้างโลกได้เริ่มขึ้นแล้ว ไม่เกินอีก ๑๒ ปีข้างหน้าเป็นการเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ "
    </td></tr><tr valign="top"><td class="style50" colspan="3"> </td></tr><tr valign="top"><td class="style50" colspan="3"><table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td width="2%"> </td><td width="96%">ปัจจุบันนี้ ความเคลื่อนไหวของผิวเปลือกโลกแสดงการมีแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด น้ำท่วมฝนแล้ง พายุหิมะ ลมพายุ พายุฝน ไฟป่า สึนามิ และภัยพิบัติอื่นๆ นี่คือสัญญาณอันตราย ที่บ่งบอกถึงความไม่สมดุลของวัตถุโลกและพลังงาน มนุษย์ยังไม่สนใจ เพราะจิตถูกใจที่ครอบด้วยอวิชชา ตัณหา อุปาทาน ความรุนแรงของภัยทั้งหลายทวีความรุนแรงขึ้นในทุกขณะ และในที่สุดมหันตภัยล้างโลกก็เริ่มเกิดขึ้นแล้ว ด้วยอัตราเร่งอย่างรวดเร็ว ตามกิจกรรมมนุษย์ที่ทำลายสมดุลแห่งธรรมชาตินั่นเอง อาการที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของโลก ปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่เคลื่อนเข้าใกล้ของมหันตภัยนั้น เริ่มจากหลายร้อยพันล้านปี จากการที่มนุษย์สร้างพลังงานเสียต่อสภาวะแวดล้อมเพิ่มขึ้น และต่อเนื่อง ผลทำให้เกิดความไม่สมดุลขนาดหนัก เกิดขึ้นอย่างแสนสาหัสในขณะนี้ ความเลวร้ายที่มนุษย์ยัดเยียดให้กับโลก จนต้องสูญเสียสนามแม่เหล็กที่สมดุลไป การล้างโลกจึงบังเกิดขึ้นแล้วด้วยการเคลื่อนโดยที่มีอัตราเร่ง เริ่มที่ 5000 ปี (ตามพุทธกาล) ที่ พ.ศ. 2500 เริ่มปรากฏความไม่สมดุลทั้งวัตถุและจิตของมนุษย์ รวมทั้งสัตว์ทั้งหลายดุร้ายขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระหว่างปี พ.ศ. 2500-2547 มนุษย์ทำลายธรรมชาติมาก จนกระทั่งมีผลให้ใน พ.ศ. 2547 เกิดการเร่งเวลาของมหันตภัยล้างโลกให้เคลื่อนเข้ามาเหลือเพียง 48 ปี และเหลือเพียง 24 ปี เมื่อถึงปี พ.ศ. 2549 สุดท้ายวันนี้ คือ วันที่ 30 มกราคม 2550 สัญญาณจากจักรวาลบอกเราว่า เป็นการเริ่มนับเวลาจากนี้ไป ที่มนุษย์จะพบภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น จนประสบมหันตภัยล้างโลกในที่สุด ในเวลาอีก 12 ปีข้างหน้า คือ ประมาณต้นถึงกลางปี พ.ศ. 2562 มนุษย์ทั้งหลาย จงตื่นจากความโง่เขลา จงตื่นจากความเห็นแก่ตัว คิดแต่อยากได้ทรัพย์ หรือวัตถุ จนไม่รู้ว่าธรรมชาติจะเอาชีวิตไปในไม่ช้านี้แล้ว และพึงรักษาธรรมชาติให้สมดุล รักษาจิตให้บริสุทธิ์ร่วมกัน เพื่อลดความรุนแรงของมหันตภัย ให้เกิดน้อยลงมากที่สุด เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของโลกในเวลานี้ ผู้นำประเทศทั้งหลาย หรือผู้ใดที่มุ่งหวังอำนาจ และกระหายสงคราม จงจำไว้ว่าผู้นำเหล่านั้น หรือผู้นั้นเป็นผู้ทำลายโลกที่ร้ายกาจ

    สภาพของการเกิดมหันตภัยในระยะเวลา 12 ปี สามารถแบ่งโดยความรุนแรงเป็น 3 ช่วงเวลา คือ
    1. ช่วงแรก เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2550-2551 ระยะเวลา 2 ปีแรก เกิดแผ่นดินไหวต่อเนื่อง ตามรอยต่อของแผ่นทวีปทั้งหมดที่แตกร้าวไปทั่วดาวดวงนี้ สัตว์ และมนุษย์มีวิธีทำร้ายกัน แบบดุร้ายป่าเถื่อนมากยิ่งขึ้น สัตว์ขนาดเล็กเตรียมปรับตัวรับวิกฤติดังกล่าวแล้ว และเตรียมปรับตัวเพื่อทำลายล้างมวลมนุษย์อีกด้วย โดยการสะสมถ่ายทอดโรค ที่ร้ายแรงมากขึ้น นอกจากนั้นทั่วโลกยังเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงกว่าเดิม และเกิดอุบัติเหตุที่แปลกๆ โดยมนุษย์หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ เช่น ระหว่างปีใหม่ ( พ.ศ. 2550) ที่ผ่านมาเครื่องบินภายในประเทศอินโดนีเซียสูญหายระหว่างบินอยู่เมืองสุราเวสี ไม่สามารถค้นพบได้จนบัดนี้ สาเหตุที่มนุษย์คาดไม่ถึง ก็คือ เกิดจุดตัดสนามแม่เหล็กโลก เกิดขึ้นบริเวณนั้นพอดี เนื่องจากความไม่สมดุล จึงดูดเอาเครื่องบินลำนี้ ออกนอกมิติของโลก เข้าสู่มิติมืดที่ว่างเปล่า หรือเป็นปรากฏการณ์ที่มนุษย์เข้าใจแล้วว่า เสมือนสามเหลี่ยมเมอมิวดา ในแกนกลางมหาสมุทร นั่นคือหลุมมิติในน้ำ แต่ที่จริงแล้ว ยังมีหลุมมิติในอากาศ (ที่เครื่องบินหายไปในช่องหลุมมิติ) และหลุมมิติบนพื้นโลก (ทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเนื่องจากมิติซ้อนกันทำให้มองไม่เห็นกัน) เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งลี้ลับ แต่มนุษย์ไม่สามารถเข้าใจได้ด้วยสมองที่มีแต่ความอยาก และความต้องการในวัตถุทั้งหลาย

    2. ระยะที่ 2 ตั้งแต่ พ.ศ. 2552-2556 ระยะเวลา 5 ปี โลกร้อนขึ้นด้วยอัตราเร่ง เกิดภัยพิบัติร้ายแรงขึ้นมากกว่าเดิม และต่อเนื่องจนมนุษย์ทั้งโลกหวาดกลัว กลุ่มมนุษย์ที่มีจิตต่ำจะก่อกวนมนุษย์ด้วยความรุนแรงเหมือนไม่ใช่คน เกิดหลุมมิติมากมายเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง อย่างที่มนุษย์คาดไม่ถึง มีการตายของมนุษย์เป็นกลุ่มใหญ่จำนวนมาก ด้วยอุบัติเหตุและภัยพิบัติ น้ำแข็งขั้วโลกละลาย พื้นโลกบางส่วนยุบตัวลง เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด อากาศร้อนขึ้นอย่างมาก และอากาศหนาวก็มากขึ้นเช่นกันของแต่ละพื้นที่ จะเริ่มมีพื้นที่ที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยของมนุษย์น้อยลง ความแห้งแล้งมากขึ้น น้ำในทะเลยกระดับสูงขึ้นจากสาเหตุการยุบตัวของโลก น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และการนำน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้สมทบด้วยอีกแรงหนึ่ง เริ่มเกิดโรคระบาดจากเชื้อไวรัส และแบคทีเรียที่ผุดมาจากดินที่ไม่เคยมีมาก่อน เชื้อเหล่านี้ทนทานต่อการทำลาย เพราะปรับตัวจากที่ที่เย็นจัดหรือปรับตัวจากที่ที่ร้อนจัดจึงทนต่อสภาวะที่เปลี่ยนไป

    3. ระยะที่ 3 ตั้งแต่ พ.ศ. 2557-2561 ระยะเวลา 5 ปี โลกร้อนขึ้นด้วยอัตราเร่ง พอที่จะละลายน้ำแข็งเกือบทั้งหมดของขั้วโลกทั้งสอง เกิดน้ำท่วมโลก โดยที่พื้นที่อาศัยของมนุษย์จะหายไปอย่างน้อยก็ 2 ใน 3 ส่วน ได้แก่ ที่ริมทะเลปากแม่น้ำ และที่ราบลุ่มต่างๆ คงเหลือพื้นที่ราบสูงพื้นที่บนภูเขา ซึ่งส่วนมากเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะกับกับการเกษตรนัก จึงเกิดการขาดแคลนอาหาร เฉพาะพื้นที่ประเทศไทยนั้นเหลือเพียงภาคเหนือ ภาคอีสาน นอกจากนั้นที่เหลือก็มีสภาพเป็นเกาะแก่งเล็กๆ สรุปได้ดังนี้ บนพื้นดินที่อยู่ตรงกลางทวีปทั้งหลาย ก็จะแห้งแล้งด้วยความร้อนจากใต้ผิวดินประทุขึ้นมา พื้นที่ที่อยู่ริมบริเวณชายฝั่ง หรือค่อนมาทางริมขอบทวีปทั้งหลาย ก็จะถูกน้ำทะเลกลืนกิน บางที่ก็จะยุบหายไป บางที่ก็จะถูกเหวี่ยงออกไปแยกตัวเป็นอิสระ มีแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ทั่วโลก มนุษย์จะเผชิญกับสภาพความแล้งจัด จนต้องอดตาย พบโรคใหม่กับสัตว์สายพันธุ์ดุร้าย และมีพิษ คร่าเอาชีวิตมนุษย์ทั่วไป ทั้งโลกนี้เช่นกัน จากความรู้ที่ได้รับคลื่นสัญญาณจากจักรวาลพอสรุปให้ได้ดังนี้

    เริ่มต้นขึ้นที่ขณะนี้มันเกิดอะไรขึ้น เวลานี้โลกมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ใครๆ ก็รับรู้ได้บ้างแล้วว่า ตกอยู่ในสภาวะโลกร้อน มีข่าวสารที่แสดงให้มนุษย์เห็นหลายรูปแบบ จากการเฝ้าสังเกตติดตามของมนุษย์ที่สนใจในสภาวะแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงของโลก จะเห็นว่าน้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายลงมามากแล้ว ภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะตั้งแต่หลังเกิดเหตุสึนามิเมื่อปลายปี 2547 หลังจากนั้นมา ความเปลี่ยนแปลงของโลกก็ได้ปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ มีเหตุการณ์การปรับตัวของโลก ตามจุดต่างๆ ไล่กันเรื่อยมาตลอดมา หลังเกิดสึนามิไม่นาน ก็เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่ปากีสถาน ใหญ่มากถึงขนาดที่ ทำให้พื้นดินสะเทือนเลื่อน เป็นคล้ายระลอกคลื่น และหลังจากนั้นเกิดต่อเนื่องกันมา หนักบ้างเบาบ้างอีกหลายๆ ครั้ง หลายๆ ครา จนในที่สุด ถ้ามนุษย์ติดตามข่าวสารจะเห็นได้ว่า เวลานี้เกิดขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะในย่านภูมิภาคแถบที่เป็นรอยต่อรอยเลื่อนทวีป แผ่นดินที่เราอาศัยอยู่นี่แหละเป็นเขตที่เกิดบ่อยที่สุด แทบจะทุกๆ 12 ชั่วโมง ก็คือ อาณาเขตของประเทศอินโดนีเซีย แถบทะเลมูรุกะ ตามมาด้วยอาณาเขตของประเทศญี่ปุ่นและไต้หวัน ตามมาอย่างติดๆ นอกจากนั้น ก็เกิดขึ้นประปรายตามพื้นที่ต่างๆ ในดินแดนเหล่านี้ ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า อยู่ใกล้น้ำอยู่ริมน้ำ เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยต่อไปข้างหน้า จะเกิดภาวะล้างโลกในรูปแบบหนึ่ง มนุษย์ที่อยู่บนภาคพื้นทวีป ก็จะมองเห็นภาวะที่เปลี่ยนแปลงไป อากาศทุกวันนี้ ไม่เหมือนกับช่วงที่ผ่านมา ความหนาวเย็นที่ปรากฏ เป็นปรากฏการณ์อย่างหนึ่งของความรู้ คือ การนำความร้อนไปใช้ละลายน้ำที่ขั้วโลก มนุษย์จงนึกถึงน้ำแข็งที่อยู่ในแก้ว ตัวน้ำแข็งก็คือน้ำแข็งที่อยู่ที่ขั้วโลก เมื่อนำเอาออกมาจากเครื่องทำความเย็น อุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น น้ำแข็งละลายตัวน้ำแข็งที่อยู่ในแก้ว จะดึงเอาความร้อนรอบตัว มาใช้ในการละลาย น้ำที่เราใส่ไปในแก้วนั้น จึงมีความเย็นขึ้นมาในทันที ความเย็นนั้น ลามไปถึงตัวแก้วที่บรรจุอยู่ด้วยซ้ำ มันก็เหมือนกับภาวะที่มนุษย์เจอกันอยู่ทุกวันนี้นั่นแหละ ใครบอกว่าโลกร้อน หนาวจะตาย โดยแท้จริงแล้วอุณหภูมิของโลกโดยรวมเพิ่มขึ้น แต่เรากำลังถูกดึงดูดเอาพลังงานความร้อนไปใช้ในการละลายน้ำแข็ง เหมือนเราเป็นน้ำที่อยู่ใกล้กับน้ำแข็งนั้น และสภาวะรอบน้ำแข็งนั้นไม่ใช่ช่องแข็งเสียแล้ว มันกลายเป็นอุณหภูมิธรรมดา น้ำแข็งจึงกำลังละลาย ผู้ที่สังเกตเฝ้าติดตามอยู่ นักวิทยาศาสตร์บ้าง นักภูมิศาสตร์บ้างจะถ่ายทอดข้อมูลความรู้เหล่านี้ตามข่าวสารต่าง ๆ อยู่เป็นประจำว่า ชั้นน้ำแข็งที่ขั้วโลกมีขนาดบางลง มีหน่วยวัดมาตราเป็นแบบของมนุษย์ อาณาบริเวณขั้วน้ำแข็งของโลกก็หดเข้ามาจากเดิมเกือบครึ่งหนึ่งแล้ว ถ้ามนุษย์มีความรู้ ตรวจดูข่าวสารอยู่เป็นประจำ ก็จะพบได้ว่า มันไม่ใช่เรื่องที่เกินความเข้าใจของมนุษย์เลย มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วทางกายภาพ เห็นมั้ย มนุษย์ทั้งหลายมันปรากฏขึ้นแล้ว ภายหลังจากที่สัญญาณจากจักรวาลได้เตือนเจ้ามาไม่นานนี้ เมื่อความร้อนกับความเย็นกระทบกัน สิ่งที่ตามมาก็คือ ภาวะภูมิอากาศที่แปรปรวน ความหนาวเย็นที่มาจากขั้วโลกถูกหอบมาด้วยลมที่พัดเข้าสู่ศูนย์กลางเส้นศูนย์สูตร นำพาเอาลมเย็นมาจากทางเหนือ ระลอกแล้วระลอกเล่า เมื่อความเย็นกระทบกับความร้อนที่แถบบริเวณศูนย์สูตร ความรุนแรงของความร้อน และความเย็นที่ตัดกันทำให้เกิดพายุต่างๆ ลมมรสุมธรรมดาก็แปรสภาพกลายเป็นไต้ฝุ่น ลมมรสุมธรรมดาที่พัดเข้าหาฝั่ง ก็กลายสภาพเป็นคลื่นลมที่รุนแรง เกือบจะถึงขั้นสึนามิอยู่บ่อยๆ อย่างที่ประจักษ์แก่มนุษย์แล้ว แค่เพียงลมมรสุมที่เข้ามาธรรมดา ก็ทำลายชายฝั่งขอบหินถนนที่มนุษย์สร้างขั้น เอารถขนาดใหญ่รถบรรทุกสิบล้อวิ่งผ่านยังคงทนอยู่ได้ เจ้าพายุเหล่านี้ มีความสามารถพัดสิ่งที่เจ้าคิดว่าแข็งแรงคงทนแข็งแรงนี้ ให้พังทลายได้ ความรุนแรงของธรรมชาติที่โอบล้อมตัวเราเหล่านี้มาจากอะไร ถ้าเรามองด้วยสายตาของมนุษย์ เห็นได้ชัดทีเดียวว่า มนุษย์นั้นหละตัวทำลาย มนุษย์เป็นผู้ทำให้โลกร้อน นี่พูดแบบอย่างมนุษย์พูดกัน มองเห็นได้ พิสูจน์ได้ จับต้องได้ก็พูดอย่างนี้ อธิบายให้มนุษย์ผู้เขลาฟังอย่างนี้ เป็นเรื่องที่ไม่มหัศจรรย์เกินไป ให้มนุษย์เตรียมตัวเตรียมอย่างไร มนุษย์จะต้องรู้ว่า เมื่อเหตุมาอย่างนี้แล้ว ผลจะเป็นอย่างไร
    ต่อไปแผ่นทวีปที่เคลื่อนตัวก็ยังเคลื่อนตัวอย่างไม่หยุดยั้ง ความร้อนภายใต้เปลือกโลก ยังดันขึ้นมาอยู่เสมอ หรือที่สุดของแรงบีบเค้นของเปลือกโลก มันอย่างนี้นะ ข้าไม่ได้สรรหาภาษาขึ้นมาเอง ข้าดึงเอาภาษาของมนุษย์มาใช้ มนุษย์เรียกมันว่า แรงเค้นของเปลือกโลก หมายถึง การชนกันและบีบอัดโดยน้ำหนักที่ทิ้งตัวและถ่วงลงไป เมื่อแรงเค้นบีบอัดจนเต็มที่แล้ว เกิดภาวะทำลาย จากแผ่นใหญ่เบียดอัดแผ่นเล็ก แตกออก หักออก การเหวี่ยงหมุนของโลกผิดปกติเนื่องจากแผ่นทวีปแต่ละแผ่นมิใช่ผืนเล็ก เป็นผืนใหญ่ทีเดียว การเคลื่อนน้ำหนักย้ายมวลจากองศาหนึ่งไปอีกองศาหนึ่ง ทำให้โลกมีแรงเหวี่ยงหมุนที่ผิดปกติไป แม้เพียงเล็กน้อย ก็ทำให้สัณฐานโลกผิดรูปไปจากเดิม การหมุน คือ การทำให้ตัวเองคงสภาพ อยู่ในรูปทรงกลมแป้น การหมุนจึงจัดตัวเอง จัดน้ำหนัก จัดส่วนที่เป็นของเหลว กับส่วนที่เป็นของแข็ง เหมือนกับการที่เราเขย่าอะไรให้เข้าที่โดยการหมุน จะทำให้เกิดความสมดุลขึ้น พื้นโลกบางส่วนที่บอบบางก็จะยุบลงไป พื้นโลกบางส่วนที่แข็งและเบียดกัน ก็จะดันขึ้นมากลายเป็นภูเขา น้ำก็จะท่วม ส่วนของพื้นดินที่ถูกดันเข้าไปสูง ผู้คนรอดตายจากการทำลายของน้ำ แต่ภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงความร้อนใต้พื้นผิวโลกปะทุขึ้นมา ความแห้งแล้งจึงเกิดขึ้น คนรอดตายอยู่บนที่สูงก็จะตายด้วยความอดยาก พืชพรรณธัญญาหารที่ถูกทำลายลง จะเพาะปลูกขึ้นมาอีกได้ยากหนักหนาด้วยความแห้งแล้งของผิวโลก คนที่อยู่ตามชายฝั่งก็จะตายด้วยน้ำที่โถมทับไม่ทันตั้งตัว บางส่วนอยู่บนพื้นแผ่นดินที่ยังทรุดลงไป ก็จะถูกกลืนกินด้วยธรณี มนุษย์ที่เหลืออยู่ ก็คือมนุษย์ที่มีแรงบุญกุศลที่นำพาให้ตัวเอง มีชีวิตอยู่ได้ในโลกยุคใหม่ โลกที่มีแผ่นที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากทีเดียว ประเทศต่าง ๆ จะต้องวาดแผ่นที่กันใหม่ วัดอาณาเขตกันใหม่ เริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ มนุษย์เหล่านั้น อาจจะยังเหลือส่วนที่มีกรรมหนัก มีความหนักของจิตตกค้างอยู่ ยังไม่พอ การล้างโลกยังดำเนินการต่อไป ด้วยความผิดปกติของสารเคมีต่างๆ และสนามแม่เหล็กที่เปลี่ยนไป ทำให้สัตว์ต่างๆ รวมทั้งมนุษย์เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไป ตามแรงของสนามแม่เหล็กโลก พฤติกรรมของสัตว์ต่างๆ เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม สัตว์บางอย่างไม่เคยกินเนื้อ กินเลือด หันมากินเนื้อกินเลือด สัตว์บางชนิดได้รับสารเคมีที่ผิดปกติไป ทำให้เกิดพิษขึ้นในตัว สิ่งที่เห็นร้ายแรงที่มนุษย์จะต้องดำรงชีวิตอยู่กับพวกมันให้อยู่รอดได้ ก็คือ แมลงตัวเล็กๆ ที่เปลี่ยนแปลงเป็นดุร้ายขึ้น ยุงก็จะนำพาเอาเชื้อโรคชนิดหนึ่งมาทำลายล้างมนุษย์ เมื่อกัด จะมีอาการตัวร้อน ร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ คนที่อ่อนแอจะตายภายใน 1 วัน อาการที่ปรากฏก็คือ เป็นไข้สูง ช็อก และหัวใจวายคนที่มีความแข็งแรง จะสามารถทนอยู่ได้ประมาณไม่เกิน 3 วัน
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td>

    </td><td>
    </td></tr></tbody></table>ส่วนแมลงอีกชนิดหนึ่งที่มีพิษที่ต้องระวังมากๆ ก็คือ ตัวลิ้นทะเล ริ้นดำ หรือที่มนุษย์ทางภาคเหนือเรียกว่า ตัวคุ่น ตัวเล็กกัดแล้วจะทำให้เกิดอาการแพ้ขึ้นที่ผิวหนัง ต่อไปก็จะลุกลามเข้าสู่น้ำเหลือง เลือด และเข้าสู่หัวใจได้เช่นเดียวกัน ตั้งแต่ถูกกัดและมีอาการจนถึงเข้าสู่หัวใจจะใช้เวลา 7 วัน สิ่งที่ข้าเตือนสองอย่างนี้ คือ แมลงตัวนี้ กับยุง อย่าคิดว่าอีกนาน ขอให้รู้ไว้ว่า เวลานี้ ยุงได้เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองแล้ว เพียงแต่พิษยังไม่ร้ายแรงมากนักเท่านั้น แต่มันจะเปลี่ยนแปลงและสร้างตัวเองอย่างรวดเร็วทีเดียว ฉะนั้น เวลานี้ ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ให้ระมัดระวังแมลง 2 ประเภทนี้ไว้ก่อน พิษเริ่มมากขึ้นกว่าปกติแล้ว อันนี้พิสูจน์ได้ เห็นได้ สิ่งที่ควรจะบอกกับมนุษย์ก็คือ ให้มนุษย์รู้ว่าการกระทำใดๆ ก็ตาม เริ่มตั้งแต่ ความคิดไปจนถึงพฤติกรรมที่แสดงออกมานั้น ส่งผลในลักษณะพลังงานที่สะท้อนเชื่อมโยงกันไปทั้งหมด มนุษย์ควรรู้เรื่องกรรมดี เป็นกรรมเบาที่ช่วยปัดเป่าวิบากที่จะเกิดกับโลก อันเนื่องมาจากผลการกระทำของมนุษย์นั้น ให้เบาบางลงได้ และก็เชิญชวนมนุษย์ให้รู้จักสนามพลังแห่งมนุษยชาติ และร่วมกันอย่าได้ช้า สร้างสนามพลังงานที่ดีเพื่อลดวิบากของโลก สามารถบอกกับมนุษย์ได้ว่า วิบากที่เราสร้างขึ้นนั้น กี่ภพ กี่ชาติ เราไม่สามารถเรียบเรียงได้หมด การร่วมกันสวดมนต์นอกจากจะช่วยโลกได้ ยังช่วยตัวเองได้เป็นประการแรกด้วยซ้ำ การสวดมนต์และแผ่เมตตาออกไป จะทำให้เจ้ากรรมนายเวรได้รับผลอันนั้น แล้วอโหสิกรรมให้กับเรา ลด ละ เลิกการจองเวรกับเรา ใครยิ่งมีทุกข์มากยิ่งสวดมาก ยิ่งดีขึ้นเร็ว แล้วก็เป็นผลดีกับโลกไปด้วย อันนี้สามารถเชิญชวนได้แบบนี้ ใครอยากเห็นข้อพิสูจน์ให้เข้าไปดูข้อมูลที่ http://www.universal-signal.com หัวข้อ การสร้างสนามพลังแห่งมนุษยชาติและการแผ่เมตตา และมีข่าววิกฤติการณ์ของโลก ซึ่งจะมีข่าวสารที่นำเสนอขึ้นไปตลอดเวลา การแสดงความคิดเห็นของบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถต่าง ๆ เราจะเอามาร่วมประชุมกันไว้ในเว็บไซต์นี้ โดยพวกเราจงช่วยกันหามาให้คนได้ขึ้นไปดู จะได้เห็นได้รู้ว่าโลกนี้ที่กว้างใหญ่เขารู้อะไรกันบ้างแล้ว มนุษย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นคนไทยนั้นล้าหลังเพียงใด ตอนนี้ควรจะรับรู้และช่วยกันได้แล้ว นี่แหละวิธีการพูดของข้า..สัญญาณจากจักรวาล สอนเจ้าด้วยพลังแห่งธรรมชาติ... จงตื่นพัฒนาจิตตนและรักษาสมดุลธรรมชาติ... ก่อนที่เจ้าจะเหลือแต่จิตที่ขุ่นมัว
    </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ข่าวร้ายสำหรับคน โลมาอิรวดีเหลือไม่ถึง 1,000 ตัว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 กันยายน 2550 16:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ปลาโลมาอิรวดีมีเหลืออยู่ทั่วโลกเพียงไม่ถึง 1,000 ตัวแล้ว ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชากรปลาโลมาอิรวดีลดลงคือสภาพน้ำที่เป็นพิษ (ภาพ: www.cites.org) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    จำนวนประชากรปลาโลมาอิรวดีหรือโลมาแม่น้ำ กำลังลดน้อยลงอย่างมาก โดยขณะนี้อาจเหลืออยู่เพียงไม่ถึง 1,000 ตัว เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่เป็นพิษซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ด้วยเช่นกัน

    การประชุมสัมมนาว่าด้วยแม่น้ำประจำปี ครั้งที่ 10 ซึ่งนับเป็นการประชุมการจัดการเกี่ยวกับแม่น้ำครั้งใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย มีตัวแทนประมาณ 500 คน จาก 40 ประเทศเข้าร่วมงานในเมืองบริสเบน (Brisbane) เพื่อหารือกันเกี่ยวกับสภาพแม่น้ำ การสร้างเขื่อน ความแห้งแล้ง และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

    แอนนา ฟอร์สลันด์ (Anna Forslund) ผู้ประสานงานเริ่มแรกเกี่ยวกับโลมาแม่น้ำของกองทุนสัตว์ป่าโลก กล่าวว่า แม่น้ำแยงซีของจีน แม่น้ำโขงในกัมพูชา แม่น้ำคงคาในอินเดีย และ แม่น้ำสินธุในปากีสถาน เป็นแม่น้ำที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากที่สุดในโลก ซึ่งเห็นได้จากจำนวนประชากรโลมาแม่น้ำที่มีเบาบางมาก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=329 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=329>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>โลมาอิรวดีแสดงความน่ารักร่วมกับโลมาสีชมพู 2 ตัว (www.mongabay.com) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ฟอร์สลันด์กล่าวว่า ผู้คนจำนวนมากไม่รู้จักโลมาแม่น้ำ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าโลมาทะเลที่มีจมูกและปากยาวกว่า และ หลายตัวมักจะตาบอด แต่พวกมันเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ชนิดหนึ่งของโลกซึ่งมีจำนวนเหลืออยู่ไม่มาก ซึ่งเชื่อว่าตอนนี้มีเหลืออยู่ระหว่าง 1,000 ตัวลงไปจนถึงเพียงไม่กี่ตัว

    โลมาดังกล่าวต้องทนทุกข์ทรมานจากการสร้างเขื่อน การจับปลามากเกินไป การเกษตรแบบผิดๆ การทำเหมือง มลภาวะเป็นพิษ และน้ำเน่าเสีย ตั้งแต่ช่วงคริสตศตวรรษที่ 1970

    "เราสามารถมองเห็นถึงความเชื่อมโยงกัน โลมาแม่น้ำต้องพึ่งพาอาศัยน้ำและผู้คนต้องพึ่งพาอาศัยน้ำเช่นกัน ดังนั้นระดับความเป็นพิษในคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวอาจมีค่าเท่ากัน จำนวนโลมาน้อยลงแสดงให้เห็นถึงน้ำที่ไม่ดีต่อสุขภาพ" ฟอร์สลันด์กล่าว

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>หากผู้คนตระหนักถึงความสำคัญและช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งบนบกและในน้ำ โลมาอิรวดีก็จะมีให้เห็นอยู่เช่นนี้ไปอีกนาน (ภาพ: www.panda.org) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> นายเจมี่ พิตท๊อค (Jamie Pittock) ผู้อำนวยการโครงการเกี่ยวกับน้ำจืดทั่วโลกของกองทุนสัตว์ป่าโลก กล่าวว่า ผลจากกรณีศึกษาของโลมาแม่น้ำเป็นข่าวร้ายสำหรับมนุษย์

    "พวกมันเปรียบเหมือนเป็นนกคีรีบูนแห่งแม่น้ำ หากประชากรโลมาแม่น้ำอยู่ในสภาพสมบูรณ์ แม่น้ำก็มีสภาพดีด้วยเช่นกัน" นายพิตท๊อคกล่าว

    "ประชาชนหลายล้านคนกำลังทรมานอยู่ในขณะนี้ และพวกเขาจะยิ่งต้องทนทุกข์มากขึ้นหากโลมาแม่น้ำสูญพันธุ์ เนื่องจากการสูญพันธุ์ของโลมาหมายความว่า แม่น้ำมีสภาพเป็นพิษ มีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ ปลาล้มตายลงเรื่อยๆ และประชาชนของประเทศดื่มน้ำจากแม่น้ำเหล่านี้"

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=380 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=380>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>นอกจากสภาพน้ำเป็นพิษจะอันตรายต่อโลมาอิรวดีแล้วยังส่งผลกระทบต่อชาวบ้านด้วยเช่นกัน (ภาพ: chlim01.blogspot.com) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> นายพิตท๊อกกล่าวว่าผู้คนไม่ค่อยตระหนักว่ามนุษย์ก็มีความอ่อนไหวต่อสิ่งแวดล้อมพอๆกับสัตว์

    ตัวแทนจากกองทุนสัตว์ป่าโลกประมาณ 50 คนกำลังทำงานในประเทศต่างๆ เพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศน์ด้วยการช่วยชีวิตโลมา ให้การศึกษาเกี่ยวกับการทำเกษตร และลดความยากจน เพื่อที่ชาวบ้านจะได้มีวิธีในการดูแลสิ่งแวดล้อมรายรอบตัว

    ความสำเร็จจากโครงการดังกล่าวน่าจะโน้มน้าวให้นักวิทยาศาสตร์และผู้สนับสนุนด้านการเงินจากออสเตรเลียเข้าไปมีส่วนร่วมได้.
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9500000104282
     
  16. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    "ความผิดปกติของสารเคมีต่างๆ และสนามแม่เหล็กที่เปลี่ยนไป ทำให้สัตว์ต่างๆ รวมทั้งมนุษย์เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไป ตามแรงของสนามแม่เหล็กโลก พฤติกรรมของสัตว์ต่างๆ เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรม สัตว์บางอย่างไม่เคยกินเนื้อ กินเลือด หันมากินเนื้อกินเลือด สัตว์บางชนิดได้รับสารเคมีที่ผิดปกติไป ทำให้เกิดพิษขึ้นในตัว"



    ขณะนี้ได้เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นจริงๆแล้วครับ ผมได้เห็นกับตาตนเอง นกพิราบ ที่เป็นสัญญลักษณ์ของเสรีภาพที่แต่ก่อนกินแต่พืชแต่เมล็ดพันธุ์ ถั่วงา ปัจจุบัน นกพิราบแถบบ้านผม มีอยู่ฝูงหนึ่ง กินซากสัตว์ กินโครงกระดูกจากร้านเป็ดตุ๋น สภาพของนกฝูงนี้ดูน่ากลัวกว่านกพิราบฝูงอื่นๆ ผอม โทรม ขนดูเปียก ลีบ

    "สิ่งที่เห็นร้ายแรงที่มนุษย์จะต้องดำรงชีวิตอยู่กับพวกมันให้อยู่รอดได้ ก็คือ แมลงตัวเล็กๆ ที่เปลี่ยนแปลงเป็นดุร้ายขึ้น ยุงก็จะนำพาเอาเชื้อโรคชนิดหนึ่งมาทำลายล้างมนุษย์ เมื่อกัด จะมีอาการตัวร้อน ร้อนจัดขึ้นเรื่อยๆ คนที่อ่อนแอจะตายภายใน 1 วัน อาการที่ปรากฏก็คือ เป็นไข้สูง ช็อก และหัวใจวายคนที่มีความแข็งแรง จะสามารถทนอยู่ได้ประมาณไม่เกิน 3 วัน

    อย่าคิดว่าอีกนาน ขอให้รู้ไว้ว่า เวลานี้ ยุงได้เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองแล้ว เพียงแต่พิษยังไม่ร้ายแรงมากนักเท่านั้น แต่มันจะเปลี่ยนแปลงและสร้างตัวเองอย่างรวดเร็วทีเดียว ฉะนั้น เวลานี้ ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ให้ระมัดระวังแมลง 2 ประเภทนี้ไว้ก่อน พิษเริ่มมากขึ้นกว่าปกติแล้ว อันนี้พิสูจน์ได้ เห็นได้ "


    มีข่าวว่ามียุงทางภาคใต้ และทางภาคเหนือ พัฒนาตัวเองจนมีขนาดใหญ่จนกลายเป็นยุงยักษ์ไปแล้ว และการระบาดของไข้เลือดออกก็มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นต้องระมัดระวังตัวกันด้วยครับ
     
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "บุช"แย้มลดทหารในอิรัก-โพลออสซี่ชี้เป็นผู้นำชั่วร้ายสุด

    [​IMG]
    ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

    โพลของสำนักแกแล็กซี่จัดทำให้สมาคมการแพทย์เพื่อป้องกันสงคราม (เอ็มเอพีดับเบิลยู) ของออสเตรเลีย เผยแพร่ที่นครซิดนีย์ เมื่อ 4 ก.ย. ระบุว่า ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่ 52% เห็นว่านายจอร์จ ดับเบิลยู. บุช เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยนายโรเบิร์ต มาร์ โฆษกของเอ็มเอพีดับเบิลยู ชี้แจงว่า ชาวออสเตรเลียไม่ได้ต่อต้านคนอเมริกัน แต่ต่อต้านนโยบายของบุช โดยเฉพาะการบุกอิรัก และนายกฯจอห์น โฮเวิร์ด ของออสเตรเลีย ผู้สนับสนุนบุชและนโยบายของเขาอย่างแนบแน่นนั้น เข้าใจผิดที่คิดว่าการต่อต้านบุชเป็นการต่อต้านความเป็นพันธมิตรอันยาวนานระหว่างสหรัฐฯกับออสเตรเลีย เพราะชาวออสเตรเลียมีเหตุผลพอที่จะแยกแยะประธานาธิบดีที่ไม่ได้เรื่องกับชาวอเมริกันดีๆ ได้

    ก่อนหน้านี้ 1 วัน บุชเดินทางไปเยือนอิรักครั้งที่ 3 อย่างไม่คาดหมายหลังวางแผนลับล่วงหน้าถึง 5-6 สัปดาห์ โดยไปเยี่ยมทหารที่ฐานทัพอากาศอัล อาซาด ใน จ.อันบาร์ และกล่าวแย้มเป็นครั้งแรกว่าเป็นไปได้ที่จะลดทหารสหรัฐฯ ในอิรักลง ถ้าแนวโน้มความสำเร็จในการรักษาความมั่นคงในอิรักดังเช่นที่ จ.อันบาร์ ซึ่งกลุ่มชาวสุหนี่หัวรุนแรงหันมาร่วมกับกองกำลังสหรัฐฯกวาดล้างกลุ่มก่อการร้าย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2007
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    คาถาป้องกันยุง

    คาถาบทนี้ ของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

    ระลึกถึงหลวงปู่ศุข เป็นที่ตั้ง แล้วตั้งนะโม 3 จบ ว่า คาถาดังนี้ ยันต์ทู สัตตะทัง สมาธิ ยามิ ท่องไปเรื่อย ๆ นึกภาพว่า มีมุ้งมากางครอบตัวเรา หรือไปเสก หิน 4 ก้อน ว่าภาวนาคาถา แล้ววางไว้ 4 มุม แล้วท่องบริกรรมคาถานี้ ไปเรื่อย ๆ จนหลับ หรือจะนั่งสมาธิตามป่า ตามถ้ำ กลัวยุงจะกัดให้บริกรรมคาถานี้ก็จะไม่มียุงมารบกวน คาถาบทนี้ชื่อ คาถากางมุ้ง

    ที่มา http://www.ov3rsky.com/backup/p628-2007-03-04-11:52:54.html
     
  19. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ขอขอบพระคุณพี่เกษมมากๆๆ เลยครับ ตอนนี้ออกทริปแต่ล่ะที่ ยุงเยอะมากๆๆๆๆ เลย
     
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,134
    ค่าพลัง:
    +62,441
    เดี๋ยวนี้เห็นมีพวกกุญแจ คลื่นเสียงไล่ยุง+ไฟฉายในตัว อันละ 99 บาท
    ตอนหลับใช้อันนี้คงได้ผลครับ (+คาถาจากพี่เกษมครับ)
    http://www.elleroom.com/template/a10/showproduct.php?pid=981913&shopid=17547
     

แชร์หน้านี้

Loading...