ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    พอดีได้เข้าไปอ่านกระทู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ยังชีพน่ะค่ะ
    มีอยู่ 2 อย่างที่หาข้อมูลไม่ได้เลย คือ ผ้าห่มอวกาศ(space blanket) กับเทียนที่จุดได้ 8 ชม. ไม่ทราบว่าในประเทศไทยจะหาซื้อได้ที่ไหนคะ รบกวนผู้รู้ด้วยค่ะ
    ขอบคุณมากค่ะ
     
  2. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    อัพเดต!!
    เจ้าหน้าที่เตรียมสลายการจลาจลคืนนี้ หากการเจรจาไม่เป็นผล
    สถานการณ์ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังทั้งหมด กว่า 300 นาย เข้าไปควบคุมภายในเรือนจำของผู้ต้องขังหญิง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องขังที่ก่อจลาจลเข้ามาก่อเหตุ และได้เตรียมรถดับเพลิง และรถกระเช้าเข้ามาเสริมรอบๆ เรือนจำ เพื่อให้พลแม่นปืนขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่ หากผลการเจรจายังไม่ได้ข้อยุติ และผู้ต้องขังที่ก่อจลาจลยังไม่ยอมอยู่ในความสงบ เจ้าหน้าที่อาจตัดสินใจเข้าสลายการชุมนุมในคืนนี้
    —————————————————————————————————————————–
    นักโทษ เรือนจำลพบุรีก่อจลาจล ยึดโรงอาหาร เผาทรัพย์สินวอด
    นักโทษชายเรือนจำกลางลพบุรี ได้ก่อเหตุจลาจลทุบทำลายสิ่งของ และนำมาเผาภายในเรือนจำ พร้อมถืออาวุธขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และเจ้าหน้าที่เรือนจำหลายร้อยนาย ต่างระดมกำลังปิดล้อมพื้นที่ เพื่อระงับเหตุ แต่นักโทษมีอาการคึกคะนอง เพราะสูดดมสารทินเนอร์ และทำลายข้าวของเสียหาย มีการเผาอาคารเรือนนอน เกิดควันไฟพวยพุ่งหลายจุด และมีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
    [​IMG]
    [​IMG]

    สำหรับสาเหตุของการก่อจลาจลครั้งนี้ อาจเป็นเพราะความไม่พอใจ หลังเจ้าหน้าที่ยึดโทรศัพท์มือถือของนายไพโรจน์ พานพบ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดคนสำคัญ จึงมีการปลุกระดมเพื่อก่อเหตุดังกล่าว ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ต้องเดินทางไปควบคุมสถานการณ์ด้วยตนเอง
    นายประเสริฐ ป้ำกระโทก ผู้บัญชาการเรือนจำ และนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เข้าเจรจากับแกนนำนักโทษ เพื่อให้ยุติการเผาทำลายสิ่งของ แต่ยังมีนักโทษบางส่วนอยู่ในอาการเมาทินเนอร์ ถืออาวุธยืนคุมเชิงไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปภายใน จึงมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จากเรือนจำใกล้เคียง และตำรวจทุกท้องที่ พร้อมอาวุธครบมือเข้าระงับเหตุ รวมทั้งกระจายกำลังรอบบริเวณเรือนจำ หากมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น พร้อมเข้าปฏิบัติการทันที

    สาเหตุเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เกิดจากการเข้มงวดตรวจค้นนักโทษภายในเรือนจำ เนื่องจากก่อนหน้านี้ตรวจพบโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง ภายในเรือนนอน

    <LI class=news_src_item>[​IMG]<LI class=news_src_item>
     
  3. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ดีเปรสชั่นถล่มสงขลา ลิง 300 ชีวิตไม่มีที่อยู่และขาดอาหาร</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    นายสมชาย เมฆาอภิรักษ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนคร(ทน.) สงขลา เปิดเผยว่า พายุพัดถล่มทำต้นไม้เขาน้อยขนาดใหญ่หักโค่นเสียหายร้อยละ 80 ของต้นไม้ทั้งหมด ทำให้แหล่งพักผ่อนและสวนสุขภาพและสถานที่ท่องเที่ยวหมด ยังส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของลิงประมาณ 300 ตัวอีกด้วย

    นายสมชายเปิดเผยว่าลิงต้องลงไปหาอาหารที่บ้านของประชาชนในบริเวณใกล้เคียงและ บางส่วนต้องไปขออาหารจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหาดสมิหลา สร้างความเดือดร้อนและรำคาญให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ทน.เองจำกัดงบด้านประมาณที่มาซื้ออาหารลิง จึงต้องลดให้อาหารลิงเหลือสัปดาห์ละ 1วันเท่านั้น

    นายสมชาย กล่าวว่า จึงต้องเร่งฟื้นฟูเขาน้อยให้เร็วที่สุด ให้ทันกับการใช้งาน ด้วยการปลูกต้นไม้ใหญ่ทดแทน เพื่อให้เป็นแหล่งที่อยู่และอาหารของลิงกลับคืนมาแล้ว ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติกลับคืนมา ขอร้องให้รัฐบาลเข้ามาให้การช่วยเหลืองบประมาณด้วย

    <!--อ่านล่าสุด คน--><TABLE style="MARGIN-TOP: 20px; MARGIN-BOTTOM: 10px" border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=650><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>
    <!--[​IMG]-->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ปภ.เตือนเหนือ-อีสานหนาวลงอีก 1-4 องศา </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

    เตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศหนาวเย็น เนื่องจากอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-4 องศาเซลเซียส โดยรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและอบอุ่นอยู่เสมอ สวมใส่เสื้อผ้าหนาๆ ห่มผ้าให้หนากว่าปกติ เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย รวมถึงเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบกิจกรรมที่เกี่ยวกับไฟทุกประเภททั้งการประกอบอาหารจุดธูปเทียน สูบบุหรี่ เป็นต้น เนื่องจากฤดูหนาวสภาพอากาศแห้งและลมพัดแรง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยและไฟป่าสูงกว่าปกติ

    การขับขี่รถในช่วงที่มีหมอกลงจัด ควรเปิดไฟต่ำหรือไฟตัดหมอกจะช่วยให้มองเห็นเส้นทาง
    ชัดเจนขึ้น ไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ

    นอกจากนี้ เกษตรกรควรสร้างสิ่งปกคลุมผลผลิตทางการเกษตร เพื่อป้องกันผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหายจากน้ำค้างแข็ง หากประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศหนาวเย็น สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ส.ส.เกาหลีใต้เผยเกาหลีเหนือใช้จรวดโจมตี</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>โซล 25 พ.ย.-นายปาร์ค ซังอึน ส.ส.เกาหลีใต้ นำปลอกจรวดจากเหตุเกาหลีเหนือโจมตีเกาะแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ไปแสดงในที่ประชุมแกนนำพรรคจีเอ็นพีวันนี้ พร้อมชี้ว่า เกาหลีเหนือได้ยิงจรวดอานุภาพทำลายล้างสูงโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือน

    นายปาร์ค ซึงอึน ส.ส.พรรครัฐบาล นำปลอกจรวด 2 ชิ้น แสดงต่อหน้ากล้องของสื่อมวลชน

    พร้อมเปิดเผยว่า จรวดส่วนใหญ่ที่ตกลงบนเกาะยอนพยองล้วนมาจากเครื่องยิงหลายลำกล้อง โดยจรวดเหล่านั้นไม่ได้ตกใส่เฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น แต่ยังสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือน สำนักงานฝ่ายบริหาร และศูนย์การแพทย์ โดยนายปาร์คเปิดเผยว่า เขาพบปลอกจรวดชิ้นหนึ่งใกล้กับค่ายทหารและอีกชิ้นที่หลังที่ทำการไปรษณีย์บนเกาะดังกล่าว

    ทางการเกาหลีใต้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ราว 170 นัดตกในเขตชายแดนเกาหลีใต้

    ในจำนวนดังกล่าวมี 80 นัดตกลงบนเกาะยอนพยอง ทำให้มีนาวิกโยธิน 2 นาย และพลเรือน 2 คน เสียชีวิต โดยพบผู้บาดเจ็บ 18 คน นอกจากนี้ เหตุโจมตีดังกล่าวยังสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนราว 20 หลัง รวมทั้งทำให้เกิดไฟไหม้ป่าและทุ่งหญ้าอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ยังมีแนวโน้มที่จะเกิดความรุนแรงในคาบสมุทรเกาหลีอีกมาก เพราะยังมีการส่งกองเรือรบของสหรัฐเข้าไปอีก 75 ลำพร้อมเรือบรรทุกเครื่องบิน

    สถานการณ์ต้องจับตาดุการซ้อมรบร่วมของเกาหลีใต้และสหรัฐว่าจะกลายเป็นการยั่วยุ เกาหลีเหนือเพียงใด

    หากเหตุการณ์ลุกลามเป็นสงครามใหญ่ ก็น่าห่วงว่าจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจการเงินโลกแน่นอน

    เร่งสร้างอู่ข้าว อู่น้ำ กันเอาไว้
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เทียนตะไคร้หอมกันยุง
    [​IMG]

    ผมไม่ทราบว่าในประเทศไทยมีใครสั่งเข้ามาขายหรือยัง ถ้าคุณพลอยรุ้งอยากได้จริงๆ คงต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศครับ แต่ในความเห็นส่วนตัวของผมแล้ว คิดว่าใช้อุปกรณ์ที่สามารถหาได้ง่ายๆ จากของใกล้ตัวเราก่อนจะดีกว่านะครับ อย่างเทียนตะไคร้หอมกันยุง 1 อันจุดได้นานถึง 4 ชั่วโมง ทั้งยังสามารถไล่ยุงไม่ให้มารบกวนเราได้ด้วยครับ

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ตลับนาค<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1050630", true); </SCRIPT> สมาชิก

    จากรูปเป็นอุปกรณ์ยังชีพ
    - เข็มทิศ Silva
    - Sog Seal Pup fixed blade knife
    - ถุงใส่ขยะ 50-gallon drum liners
    - ลวดความยาวสิบฟุต
    - ไฟฉายแบบติดศีรษะ
    - เทียนแบบจุดได้แปดชั่วโมง
    - ไม้จุดไฟ fire starter stick
    - lip balm
    - นกหวีด
    - Leatherman wave multi-tool
    - Magnesium fire starter
    - 25 strike anywhere matches in waterproof match case
    - Ibuprofen tablets
    - UV sunglasses
    - Stainless steel cup
    - 1-pint Kelly kettle
    - 5x7 foot space blanket
    - 4x1.25 foot reflectix insulation sheet

    พวกของยังชีพเหล่านี้สามารถจะนำมาเป็นอุปกรณ์ยังชีพพื้นฐานที่จะเป็นทั้งจุดไฟ แสงสว่าง เชลเตอร์และป้องกันความหนาวเย็น<!-- google_ad_section_end --> นำมาจากเว็บ survivaltopics ครับ ยังมีบทความที่มีประโยชน์อีกหลายอัน

    http://www.survivaltopics.com/surviv...ave-your-life/

    เดี๋ยวนี้ใครๆก็สามารถจะหาซื้อชุดดำรงชีพแบบสำเร็จได้ทั่วไป แต่ปัญหาสำหรับวิธีนี้ก็คือชุดที่ซื้อมานั้น อาจจะไม่ใช่แบบที่ต้องการสำหรับความจำเป็นของคุณ หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ที่ให้มาไม่ดีเท่าของที่คุณมีอยู่แล้ว ดังนั้นชุดดำรงชีพที่ดีที่สุด ก็จะทำขึ้นมาจากผู้ที่จะใช้มันนั่นเอง

    ความสำคัญของชุดดำรงชีพ

    สำหรับผู้ที่เดินทางเข้าไปในป่าบ่อยๆ การที่จะมีชุดดำรงชีพติดไปด้วยสักอันก็เป็นเรื่องจำเป็น ผู้เดินป่านั้นก็จะต้องมีอุปกรณ์นี้ติดมืออยู่ตลอดเวลาและเตรียมพร้อมที่จะหยิบมาใช้ยามจำเป็น อันนี้เป็นเพราะว่านักเดินป่าที่ชำนาญ จะรู้ว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดอาจจะเกิดขึ้นโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

    ความช่วยเหลือหรือหน่วยกู้ภัยก็มักจะไม่ได้มาได้ทันที ดังนั้นการช่วยเหลือตัวเองให้ได้จึงเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่งเลย การรวบรวมอุปกรณ์ดำรงชีพด้วยการเลือกสรรอย่างระมัดระวัง จึงเป็นก้าวแรกไปสู่การมีชีวิตรอด

    ด้านล่างนี้เป็นบทสนทนาเกี่ยวกับการทำอุปกรณ์ดำรงชีพขึ้นมาเอง บางที่มันก็ต้องอธิบายกันยาวหน่อย เพราะผมเชื่อว่ามันจำเป็นที่จะรู้เกี่ยวกับว่า ทำไมของบางอย่างจะต้องเอามารวมอยู่ในชุดนี้ แทนที่จะทำตามคำบอกอย่างเดียวโดยไม่สนใจจะรู้ว่าจะเอามันไปด้วยทำไม

    ทำไมถึงต้องรวบรวมอุปกรณ์ดำรงชีพเอง

    ลองนึกถึงการทำอุปกรณ์ดำรงชีพขึ้นมาเองก่อนที่จะไปซื้อหาตามท้องตลาด ของที่ซื้อมาจากร้านเหล่านี้อาจไม่จำเป็นที่จะทำมาเพื่อสภาพการใช้งานที่คุณจะไปพบเจอก็เป็นได้ มีบ่อยครั้งที่อุปกรณ์พวกนี้ทำมาจากวัสดุที่ด้อยคุณภาพ หรือไม่ก็ขาดอุปกรณ์สำคัญในสภาวะการณ์ฉุกเฉินนั้นคุณก็คงจะไม่ต้องการเจอว่าอุปกรณ์ชุดสำเร็จทำให้ผิดหวัง อุปกรณ์ที่คุณภาพต่ำไม่ได้ให้ความปลอดภัยเลยในสภาพป่าแบบนั้น

    การทำชุดดำรงชีพขึ้นมาเองจะเพิ่มข้อได้เปรียบเข้าไปอีกอย่างก็คือ เราจะรู้ว่าทำไมแต่ละชิ้นถึงสำคัญ เมื่อคุณทำหรือรวบรวมอุปกรณ์เหล่านี้ขึ้นมาเอง มันก็จะทำให้คุณคุ้นเคยกับของแต่ละชิ้นที่อยู่ในคอลเลคชั่นของคุณ

    ต่างคนก็ต่างอุปกรณ์

    ไม่มีอะไรสามารถจะแทนที่ประสบการณ์จริงได้ และการรวมชุดอุปกรณ์ช่วยชีวิตสำหรับแต่ละคนก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ชุดอุปกรณ์ยังชีพที่ทำขึ้นมาเองจากนักดำรงชีพมักจะประกอบขึ้นมาจาก สิ่งที่เขาเหล่านั้นอยากจะให้มีหรือถนัด,ประสบการณ์,สภาวะแวดล้อม และการประมาณสถานะการณ์ที่อาจจะต้องพบเจอ

    ดังนั้นชุดยังชีพของคุณที่ทำขึ้นมาอย่างน้อยก็จะมีอะไรต่างจากของที่คนอื่นเตรียมไว้ไม่มากก็น้อย ตัวอย่างชัดๆคือถ้าจะต้องไปเจอสภาวะของหน้าหนาว ชุดดำรงชีพ ก็ต้องออกแบบสำหรับสภาพภูมิอากาศหนาวเย็น ซึ่งก็จะมีการรวมอุปกรณ์บางตัวที่ไม่ได้ใช้ในสภาพอากาศร้อนชื้น ชุดดำรงชีพสำหรับทะเลทรายก็จะหลายรายการที่มีความต่างจาก อุปกรณ์ยังชีพสำหรับการท่องเทียวทางน้ำ ของจำเป็นสำหรับแต่ละบุคคล อย่างเช่นยาประจำตัวจะต้องรวมอยู่ในชุดยาฉุกเฉินเมื่อทำอุปกรณ์ขึ้นมาด้วย

    ถ้าเราไม่นับเรื่องของสภาพแวดล้อมและเหตุการณ์ที่จะเตรียมไปใช้ ตัวหลักๆของอุปกรณ์ยังชีพก็จะเหมือนๆกันไม่ว่าคุณจะใช้เดินทางไปที่ไหน ชุดอุปกรณ์ยังชีพนี้ควรจะสามารถทำให้คุณมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่พึ่งความช่วยเหลือจากภายนอกเป็นเวลาสามวัน นับเป็น 99% ที่การช่วยเหลือสามารถจะจัดการได้เรียบร้อย

    อุปกรณ์ต่างๆของชุดอุปกรณ์ยังชีพที่ทำขึ้นมาเอง

    ชุดอุปกรณ์ที่ทำขึ้นสามารถทำขึ้นมาจากพื้นฐานเหล่านี้ และก็อาจจะเพิ่มเติมอุปกรณ์ที่คุณคิดว่าจำเป็น และ ที่เรามีประสบการณ์มาในสถานะการฉุกเฉินต่างๆ การก่อไฟคือความสำคัญของการรอดชีวิตความสามารถในการก่อไฟ และเลี้ยงมันไว้มีความสำคัญมากสำหรับผู้รอดชีวิต สำหรับอุปกรณ์ที่เราเตรียมเองควรจะมีมากกว่าหนึ่งวิธีที่จะก่อไฟขึ้นมา แค่พกไม้ขีดไปบ้างอาจจะไม่เพียงพอ

    ไม่ขีดจะเป็นที่จะต้องเก็บไว้ไม่ให้โดนน้ำและมันก็เป็นไปได้ว่าคุณใช้มันหมด หรือว่ามันเปียกใช้ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ชุดยังชีพจะต้องมีวิธีอื่นที่จะก่อไฟได้ด้วย ผมแนะนำเลยว่าน่าจะพก แมกนีเซียมจุดไฟน้ำหนักเบา (หินเหล็กไฟ หรือถ่านไฟแช๊ค โดยมีอีกส่วนเป็นแมกนีเซียมเป็นเชื้อ, magnesium fire starter) หรือ Swedish firesteelก็จะมีข้อได้เปรียบคือว่ามันไม่กลัวน้ำ แมกนีเซียมเมื่อติดไฟแล้วจะให้ความร้อนสูง สามารถจะก่อไฟได้แม้กระทั่งไม้ที่ไม่ค่อยจะแห้งดี

    เมื่อไม้ที่คุณจะใช้ก่อไฟมันชื้นหรือเปียก เอาสำลีชุบวาสลิน (petroleum jelly)จะช่วยเป็นเชื้อไฟให้ได้และจะติดจนกระทั่งไม้นั้นติดไฟต่อได้เอง

    - 20 strike anywhere matches หรือไม้ขีดฉุกเฉิน และอยู่ในภาชนะกันน้ำ
    - magnesium fire starter
    - เครื่องช่วยติดไฟ หรืออาจจะพวกขี้ไต้

    เหล็กไฟเหล่านี้สามารถใช้งานได้เป็นหมื่นครั้ง และก็สามารถใช้ได้แม้ในที่เปียกจุดไฟเพื่อความปลอดภัย ผมจะพกไฟฉายคาดศีรษะติดตัวไปเสมอในกรณีที่จำเป็นต้องเดินตอนกลางคืน มีอยู่หลายครั้งผมก็กะเวลาผิดสำหรับการเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ถ้าไม่มีแสงไฟเสีย มันก็คงจะต้องตั้งหลักกันอยู่ตรงนั้นไปต่อไม่ได้

    สำหรับทุกกรณีชุดอุปกรณ์ยังชีพของคุณควรจะรวมอย่างน้อยก็ไฟฉายที่มันไม่โปเก ในความมืดมันลำบากมากที่จะทำอะไรโดยมองไม่เห็น เพิ่มขึ้นมาจากไฟฉายคุณก็ควรจะมีเทียนแบบจุดติดนาน (เขาแนะนำ 8-hour candle) ในชุดอุปกรณ์ของคุณด้วย เทียนนี้มีประโยชน์นอกจากจะให้แสงแล้ว
    มันก็ยังให้ความอบอุ่นแก่เต้นท์ หรือช่วยทำให้ไม้แห้งสำหรับการก่อไฟต่อไป

    ทำเชลเตอร์หลบภัย

    อีกอย่างที่ผมจะติดไปเสมอคือ ผ้าห่มอวกาศขนาด 5x7ฟุต (space blanket)ผ้าห่มอวกาศนี้สามารถใช้เป็นผ้ายางกันน้ำได้ด้วย สำหรับปูหลังคาเต้นท์หรือ เชลเตอร์กันฝุ่น หรือหิมะ หรือคุณอาจจะเอาไว้ห่อตัวเองก็เป็นได้ ผ้าห่มอวกาศนี้สามารถใช้งานได้มากกว่าเอามาทำเชลเตอร์ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ผ้าห่มนี้เป็นผ้าห่มธรรมดา, ใช้รวมรวมน้ำ, หรือใช้ส่งสัญญาณโดยใช้ด้านที่สะท้อนแสงก็ได้ หรือใช้บังฝนแรงๆที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว

    อุปกรณ์ first aid ผมรู้สึกว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องแบกชุดปฐมพยาบาลใหญ่ๆเกะกะไปด้วยในสนามอะไรก็ตามที่มันแย่กว่า แผลเล็กๆ หรือฟกช้ำดำเขียว ก็จะต้องพึ่งแพทย์ในเมืองแน่นอน สิ่งที่คุณหวังว่าจะทำได้ในป่าในตอนนั้นก็คือทำให้สภาพอาการมันคงตัว และขอความช่วยเหลือได้ ชุดที่พกไปควรจะสามารถทำพวกเหล่านี้ได้: ทำเฝือกชั่วคราวสำหรับกระดูกหัก, แหนบหรือปากคีบเพื่อใช้ดึงเสี้ยนหรือเศษไม้ที่ตำอยู่ออก, ผ้าพันแผลสำหรับรอยแผลเปิดใหญ่หน่อยหรือรอยช้ำ

    ชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลที่ดีควรจะทำมาจากผ้าพันแผลหลายๆขนาด ผ้าพันแผลแบบบาง(gauze)ที่สเตอร์ไรด์แล้ว มีดผ่าตัดขนาดเล็ก แหนบ ที่ปิดแผลแบบมียาปฏิชีวนะ และแน่นอนว่ายาที่ใช้ส่วนตัวต้องพอสำหรับระยะเวลาหลายวันก็ต้องรวมไว้ด้วย

    เชือกและลวดสามารถช่วยให้คุณรอดชีวิต

    ควรจะรวมเชือกที่แบบ 550 parachute cord (สายร่ม) ยาวสัก 50 ฟุตไว้ในชุดอุปกรณ์ของคุณด้วย สายร่มแบบนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการใช้งานหลายอย่างเกี่ยวกับการยังชีพรวมทั้ง การติดตั้งเชลเตอร์ การซ่อมอุปกรณ์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งเอามาทำเชือกรองเท้า ให้แน่ใจว่าได้ของจริงมา ข้างในจะเป็นเจ็ดเส้นเล็กม้วนเข้าด้วยกันอยู่ด้านใน ส่วนด้านนอกเป็นเปลือกหุ้มอยู่อีกชั้นหนึ่ง

    อีกอย่างที่ใช้ประโยชน์ได้ดีสำหรับการยังชีพคือเส้นลวดความยาวสักสิบฟุต เส้นลวดนี้สามารถใช้งานได้อเนกประสงค์รวมทั้งการซ่อมอุปกรณ์ การสร้างเครื่องมือเครื่องใช้หรืออาวุธ รวมทั้งทำกับดัก

    วิธีการที่จะทำน้ำให้สะอาดเพื่อการดื่ม

    น้ำมักจะเป็นทรัพยากรณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการดำรงชีวิตในป่า คุณสามารถมีชีวิตโดยไม่มีอาหารเป็นหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ แต่ว่าขาดน้ำเพียงวันเดียวโอกาสรอดชีวิตมีน้อยมาก

    ในช่วงที่ดำรงชีพอยู่นั้นถ้ามันกินเวลาหลายวัน มันอาจจะยากหรือเป็นไปไม่ได้เลยที่จะพกน้ำไปด้วยในปริมาณที่้พอเพียงทั้งหมด นั่นแปลว่าคุณจะต้องขึ้นกับแหล่งน้ำแถวนั้นที่จะนำมาบริโภค แต่คุณก็จะต้องระลึกไว้เสมอว่าน้ำนั้นอาจจะมีการปนเปื้อนด้วยเชื้อโรค

    ชุดอุปกรณ์ดำรงชีพหลายๆอันได้ให้เครื่องกรองน้ำ หรือเครื่องทำน้ำให้บริสุทธิ์ไว้ด้วยจากประสบการณ์พบว่าวิธีการเหล่านี้ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จนัก เครื่องกรองน้ำทั้งหลายไม่ค่อยจะเชื่อถือได้อย่างที่คุณคิด ในความเป็นจริงแล้วมีเครื่องกรองน้ำเพียงไม่กี่ยี่ห้อที่สามารถกรองเชืื้อโรคออกได้จริงๆ จากน้ำที่เรามองดูว่ามันสะอาดอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นถ้าตัวที่กรองเกิดสกปรกหรือชำรุดขึ้นมา หรือใช้งานแบบไม่ถูกต้อง ผลที่ออกมาก็จะไม่น่าพอใจ

    ผมแนะนำให้วิธีการต้มให้สุกเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดและเชื่อถือได้ของการทำน้ำให้สะอาด นั่นหมายความว่าคุณจะต้องมีหม้อต้มน้ำสักอันนึงอยู่ในชุดยังชีพด้วยเพื่อที่จะใช้ไฟต้มให้เดือด อันนี้อาจจะทำได้จากวัสดุที่หาได้เช่นกระป๋องกาแฟที่เป็นโลหะเก่าๆ และหม้อต้มน้ำนี้ก็ทำหน้าที่อีกอย่างได้เป็นที่ใส่ของได้ด้วย และก็สามารถนำมาใช้ทำอาหารได้เหมือนกัน

    โดยส่วนตัวแล้วผมจะพกหม้อ Kelly kettle ขนาด 1-pint (ไพนท์ เป็นขนาดวัดของเหลวของอังกฤษคิดเป็น 568cc) อุปกรณ์อันนี้จะสามารถต้มน้ำเดือดได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้เชื้อเพลิงได้แทบทุกชนิดที่จะหาได้ นอกจากนี้ผมก็ใช้มันประกอบอาหารอย่างง่ายๆได้โดยเอาหม้อหรือถ้วยโลหะไปวางด้านบนตรงที่เปลวไฟมันพุ่งออกมา ของทุกอย่างสำหรับยังชีพที่ผมพกไปก็สามารถจะแพคลงในเตานี้หมด

    (Kelly Kettle หลักการเหมือนกับหม้อไฟต้มยำบ้านเรา จุดไฟจากรูด้านล่าง มีปล่องให้ไฟหรือควันออกด้านบน ส่วนที่บ้านเราเอาใส่น้ำแกงอันนี้จะเป็นภาชนะปิดแทนมีรูออกให้รูนึงเพื่อใส่น้ำที่จะต้มลงไป) มันยังมีกระทู้เกี่ยวกับการยังชีพอีกอันชื่อ คุณจะต้องใช้เวลาต้มน้ำเท่าไหร่? ซึ่งจะมีข้อมูลที่คุณจำเป็นที่จะต้องรู้

    อาหารยังชีพ

    มันเป็นการดีที่จะมีอาหารสำรองสำหรับยังชีพติดไปบ้าง และความสามารถที่จะทำเครื่องดื่มร้อนๆมา้บวกไปในชุดยังชีพด้วย Granola bar ผลไม้แห้ง ถั่วและธัญยพืชต่างๆ ก้อนปรุงอาหารสารพัด และซองน้ำผึ้ง จะช่วยบรรเทาความอ่อนล้าเหน็ดเหนื่อย ความหนาวเย็น และหวามหิวกระหายของผู้ยังชีพ ในสถานะการณ์ที่ต้องยังชีพส่วนมาก อาหารมักจะไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญมากที่จะให้รอดชีวิตกลับออกมา คุณสามารถอยู่ได้หลายวัน หรือหลายสัปดาห์โดยไม่ได้ทานอะไรมากเลย

    การนำทางเป็นกุญแจสำคัญในการเอาตัวออกมา ใครก็ตามที่เข้าไปผจญภัยในป่าควรจะมีแผนที่ของบริเวณแถวนั้น เข็มทิศ และรู้ว่าควรจะใช้มันอย่างไร ถ้าคุณมี GPS มันก็ดี แต่ว่าอย่าไปไว้ใจมันทั้งหมด เพราะถ่านมันหมดกันได้ และตัวดาวเทียมเองก็อาจจะถูกทางรัฐปิดบริการเอาดื้อๆโดยไม่บอกให้ทราบล่วงหน้า ระบบ GPS สามารถล่มได้ จากหลายเหตุดังนั้นจึงควรจะมี แผนที่และเข็มทิศติดตัวไว้เสมอ

    การให้สัญญาณขอความช่วยเหลือ

    อย่างเพิ่งไปเชื่อว่าคุณจะสามารถไว้ใจเจ้ามือถือของคุณเพียงอย่างเดียว ในการติดต่อกับโลกภายนอกเพื่อขอความช่วยเหลือ ในบางพื้นที่ๆกันดาร ป่าเขา หรือเขตภูเขาการรับสัญญาณของโทรศัพท์มือถือจะมีได้เป็นหย่อมๆ หรือไม่มีเอาเลย

    ทุกๆชุดยังชีพที่ทำขึ้นมาเองควรจะมีวิธีให้สัญญาณไว้หลายๆอย่าง เช่นนกหวีดยังชีพสักอันที่เบาๆและใช้พื้นที่น้อยแต่ว่าส่งเสียงไปได้ไกล คุณสามารถจะตะโกนได้มากเท่าที่คุณจะมีแรงแต่ว่าคุณจะเป่านกหวีดได้ทั้งวันถ้าต้องการ

    วิธีการให้สัญญาณอื่นๆรวมทั้งสัญญาณไฟและควันจากกองไฟ หรือกระจกสะท้อนแสงแบบแสวงเครื่องโดยใช้การสะท้อนของวัสดุที่มีความวาวอย่างเช่นหม้อหรือผ้าห่มอวกาศ

    ใบมีดและเครื่องมือยังชีพ

    ตอนที่คุณรวบรวมอุปกรณ์ยังชีพให้แน่ใจว่าคุณรวมพวก multitools หรือมีดพับที่มีเครื่องมือต่างๆอย่างเช่น Leatherman Wave เข้ามาด้วย เครื่องมือหลายอย่างรวมทั้ง มีดอันเล็ก คีม เหล็กแหลม และเครื่องมืออื่นๆ จะมีประโยชน์ในการใช้งานหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสถานะการณ์เกี่ยวกับการยังชีพหรือไม่ก็ตาม

    ผมขอแนะนำว่าอย่างไรเสียคุณก็ควรจะพกมีดที่เป็นแบบไม่พับไปด้วย (fixed blade)สำหรับจัดการกับงานที่ขนาดใหญ่ขึ้น หรือไว้ป้องกันตัวเอง มีดนี้สามารถจะใช้ในการแร่เนื้อ ทำหอก ทำเชลเตอร์ และอื่นๆ ยังมีกระทู้อีกเกี่ยวกับ การเลือกมีดอย่างไร?

    อุปกรณ์สารพัดประโยชน์สำหรับการยังชีพ

    แล้วก็ยังมีอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆหลายแบบ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการทำอุปกรณ์ยังชีพ ของที่ผมชอบอันนึงก็คือถุงพลาสติดเปล่าทนๆขนาดใหญ่ (50-gallon plastic drum liner) ถุงขยะใหญ่ๆนี้สามารถนำมาใช้ได้หลายประโยชน์รวมทั้งทำเป็นถุงนอนฉุกเฉิน เป็นม่านประตูกันฝุ่นสำหรับเข้าที่พัก ไว้กันแดด ไว้รวบรวมน้ำแล้วก็เป็นเสื้อกันฝนฉุกเฉินได้ด้วย

    นอกจากนี้แล้วก็อย่าลืมหยิบ เข็มกลัด เข็ม อลูมีเนียมฟอล์ย และ (bandana) ติดไปด้วยในชุดอุปกรณ์ยังชีพที่ทำขึ้นมา ของพวกนี้สามารถจะช่วยทำงานจิปาถะ ได้เป็นจำนวนมากอย่างเช่น ปะเย็บเสื้อผ้าและซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ ปรุงอาหาร กรองโคลนและทรายออกจากน้ำก่อนที่จะเอาไปต้ม

    การทำอุปกรณ์ยังชีพขึ้นเอง

    นั่นแหละคุณก็ได้เห็นเบสิคการเตรียมอุปกรณ์เหล่านี้ขึ้นมาแล้ว ด้วยประสบการณ์คุณก็จะสามารถเพิ่มอุปกรณ์หลากชนิดสำหรับยังชีพที่และนำไปแล้วได้ หรือนำบางอย่างออกขึ้นกับสถานการณ์และสภาพที่คุณจะไปเผชิญ แล้วมันก็จำเป็นที่คุณจะพกอุปกรณ์ยังชีพพวกนี้ไปไม่ว่าคุณจะไปไหน แล้วก็รู้ว่ามันจะช่วยชีวิตคุณได้อย่างไร<!-- google_ad_section_end -->

    ที่มา สิ่งของจำเป็นที่ควรมีเพื่อที่จะต้องใช้ในการหนีภัย - หน้า 3 ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2010
  6. lemon112233

    lemon112233 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +287

    สมัครไปแล้วค่ะ

    อนุโมทนาบุญนะคะ

    ดีมากๆ
     
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ไทยตอนบนอุณหภูมิลด1-3องศา ใต้คลื่นลมแรง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2553

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรง จากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นเนื่องจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังแรงขึ้น และคลื่นลมในอ่าวไทย จะมีกำลังค่อนข้างแรง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้


    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


    ภาคเหนือ
    อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศา
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-13 องศา
    อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา กับมีหมอกในตอนเช้า
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.



    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    อากาศเย็นอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 17-21 องศา
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    ภาคกลาง
    อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



    ภาคตะวันออก
    อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาวอุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร



    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่ง
    บริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และ สงขลา
    อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง มากกว่า 2 เมตร



    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก
    )
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่งส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
    อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 33 องศา
    ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร



    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
    อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา
    อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ดับ1นักโทษเรือนจำลพบุรีก่อจลาจลเดือด </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>เรือนจำลพบุรีสลายการประท้วงเดือด ใช้กระสุนยางระดมยิงจนสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

    แต่ทำให้นักโทษเสียชีวิต 1 คน และเจ็บสาหัสอีก 2 ราย หลังนักโทษก่อจลาจล เนื่องจากไม่พอใจเจ้าหน้าที่จับขาใหญ่ “กบ หน้าลาย” ขังเดี่ยว เพราะตรวจพบว่ามีส่วนพัวพันกับการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่องเข้าไปในเรือนจำ รวมตัวกันกว่า 300 คนประท้วงดุเดือด ทุบทำลายข้าวของ สุมไฟเผาควันพวยพุ่ง ผู้ว่าฯ-นายกเล็กเข้าเจรจาจนบางส่วนยอมสลายตัว แต่กลุ่มหัวโจกไม่ยอมวางอาวุธ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ต้องใช้ไม้แข็งเพื่อปิดเกมก่อนพลบค่ำ

    วานนี้ (25 พ.ย.) พ.ต.ท.วีระชัย เหลืองวิไล สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.ลพบุรี รับแจ้งจากนายประเสริฐ ป้ำกระโทก ผบ.เรือนจำกลางลพบุรี

    ว่าเกิดเหตุนักโทษในเรือนจำกลางลพบุรี ก่อเหตุประท้วงทุบทำลายและเผาทรัพย์สินภายในเรือนจำ หลังจากที่ได้รับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผวจ.ลพบุรี พล.ต.ต.ชาติชาย แตงเอี่ยม ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.ธวัฒชัย เกิดโภคทรัพย์ ผกก.สภ.เมืองลพบุรี นายธวัชชัย โสตเนียม นายอำเภอเมืองลพบุรี นายสุบรรณ จิระพันธุ์วาณิช นายก อบจ.ลพบุรี และนายจำเริญ สละชีพ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี

    ในที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ของเรือนจำกลางลพบุรี

    กำลังวางกำลังควบคุมพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องขังในส่วนของจุดควบคุมชายออกมาด้านนอก โดยมี ผบ.เรือนจำกลางลพบุรี ยืนอำนวยการอยู่ และทราบว่ามีนักโทษชายที่รวมตัวก่อเหตุกันอยู่ประมาณ 300-400 คน ซึ่งได้ส่งเสียงตะโกนโห่ร้องอยู่ภายในเรือนจำ รวมทั้งขว้างปาสิ่งของและทุบทำลายลำโพงที่ติดตั้งไว้บริเวณลานกิจกรรมในเรือนจำจนได้รับความเสียหาย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>หลังจากที่ได้มาตรวจสอบ และได้รับรายงานถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในเรือนจำกลางลพบุรีแล้ว

    นายฉัตรชัยได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและสารวัตรทหารของมณฑลทหารบกที่ 13 มาทำการระงับเหตุ และขอสนับสนุนรถดับเพลิงจากทางเทศบาลเมืองลพบุรี และเทศบาลใกล้เคียงรวมนับสิบคันมาเตรียมฉีดน้ำสกัดผู้ต้องขังที่ก่อเหตุด้วย ขณะที่ ผบ.เรือนจำกลางลพบุรี ได้สั่งการให้ผู้คุมจัดเตรียมอาวุธปืนลูกซอง 5 นัดเข้าคุมพื้นที่ และขอกำลังจากเรือนจำใกล้เคียงมาช่วยด้วย

    ในเวลาต่อมาก็พบว่าภายในเรือนจำมีกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นมา ตรวจสอบพบว่านักโทษได้จุดไฟเผายางรถยนต์บริเวณกลางลาน

    เพื่อเป็นการอำพรางไม่ให้เจ้าหน้าที่ได้เห็นการปฏิบัติการของนักโทษที่กำลังก่อเหตุอยู่ โดยทางผู้คุมพร้อมอาวุธครบมือได้จัดกำลังขึ้นรถบันไดของทางเทศบาลเมืองลพบุรี ได้ยิงปืนขู่กลุ่มนักโทษที่กำลังก่อเหตุอยู่ ทำให้นักโทษวิ่งหลบเข้าที่กำบัง แต่พอเสียงปืนสงบลงกลุ่มนักโทษก็ออกมาขว้างปาใส่อาคาร และทุบทำลายร้านค้าสวัสดิการภายในเรือนจำอีก ขณะที่นักโทษอีกหลายคนเข้าไปในโรงงานช่างไม้ นำทินเนอร์ และกาวมาแจกจ่ายให้นักโทษที่ก่อเหตุสูดดมจนเกิดอาการมึนเมา

    จนในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและสารวัตรทหาร พร้อมกับอุปกรณ์การปราบจลาจลจำนวน 5 กองร้อยได้เข้าไปในเรือนจำ

    โดยมีนายฉัตรชัยและนายจำเริญ นายกเทศมนตรีเมืองลพบุรี ใช้เครื่องขยายเสียงพูดคุยกับนักโทษเป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นทาง ผวจ.ลพบุรี ได้ออกมาเปิดเผยว่า สาเหตุที่นักโทษก่อเหตุจลาจลในครั้งนี้ เนื่องมาจากเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ของเรือนจำกลางลพบุรี ได้ตรวจพบว่ามีการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปในเรือนจำฯ จำนวน 4 เครื่อง

    หลังจากที่ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า โทรศัพท์มือถือดังกล่าวส่งเข้าไปให้กับ นายไพโรจน์ พานนบ หรือฉายา “กบ หน้าลาย” นักโทษคดียาเสพติด

    ที่เข้ามาอยู่ในเรือนจำได้เพียง 2 เดือน ทางเจ้าหน้าที่จึงจับแยกขังเดี่ยว ทำให้ลูกน้องของนายไพโรจน์ไม่พอใจ และเรียกร้องให้ยกเลิกขังเดี่ยว เมื่อไม่ได้รับการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องดังกล่าว บรรดานักโทษซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักโทษคดียาเสพติดจำนวนประมาณ 300 คน จึงรวมตัวประท้วงและก่อจลาจลขึ้นดังกล่าว อย่างไรก็ตามจากการพูดจาเกลี้ยกล่อมมีนักโทษบางส่วนยินยอมวางอาวุธและสลายตัวไป

    ต่อมานายชาติชาย สุทธิกรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากรมราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ชุดสวาทของกรมราชทัณฑ์ และจากหน่วยข้างเคียงพร้อมอาวุธครบมือ ได้เดินทางมารับฟังการสรุปสถานการณ์ ก่อนจะกำลังเจ้าหน้าที่ดังกล่าวประมาณ 50 นาย เข้าไปภายในเรือนจำฯ เพื่อเคลียพื้นที่ และตรวจสอบนักโทษที่ยังไม่ยอมวางอาวุธ

    ในระหว่างนั้นเองได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจำนวนหลาย 10 นัด พร้อมกับเจ้าหน้าที่ได้ร้องขอรถมูลนิธิฯให้เข้าไปในเรือนจำ

    ซึ่งตอนออกมาพบว่ามีคนเจ็บที่เป็นนักโทษชายนำส่ง รพ.พระนารายณ์มหาราช จำนวน 3 คน ทราบชื่อต่อมาว่า นายเกรียงไกร มีโต ถูกยิงเข้าที่ชายโครงซ้ายและเสียชีวิตในเวลาต่อมา นายปิยะพงษ์ นิลโต ถูกยิงเข้าที่ราวนมซ้าย และนายณรงค์ฤทธิ์ พุตซ้อน ถูกยิงเข้าที่ชายโครงขวา อาการสาหัส โดยทั้ง 3 คนถูกยิงด้วยกระสุนยางของเจ้าหน้าที่ ส่วนเหตุวุ่นวายภายในเรือนจำเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
    นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า หลังจากที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เดินทา

    งมาถึง ซึ่งก็ได้มีการเจรจากับกลุ่มนักโทษ แต่แกนนำนักโทษไม่ยินยอม

    รวมทั้งนักโทษส่วนมากอยู่ในอาการมึนเมาจากสารระเหยประเภททินเนอร์ ที่ได้ขโมยออกมาจากแผนกช่างไม้ ดังนั้นอธิบดีกรมราชทัณฑ์ จึงได้ตัดสินใจใช้กำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการสลายกลุ่มนักโทษ แต่เนื่องจากกลุ่มนักโทษมีอาวุธเป็นมีด ไม้ และท่อนเหล็ก เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้กระสุนยางยิงเข้าใส่ เพื่อป้องกันการเสียชีวิต และไม่ต้องการให้เหตุการณ์บานปลาย และยืดเยื้อไปจนถึงกลางคืน จึงตัดสินใจใช้กำลังเข้าสลายให้เสร็จก่อนพลบค่ำ

    ทางด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุที่นักโทษในเรือนจำกลางลพบุรี
    ก่อเหตุจลาจลว่า นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ได้รายงานให้ตนทราบแล้ว เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ไปแก้ปัญหาในเรื่องยาเสพติด ซึ่งเรือนจำหลายแห่งเป็นเครือข่ายใหญ่ของยาเสพติด

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เร่งสร้างอู่ข้าว อู่น้ำ กันเอาไว้

    [​IMG]

    เกษตรกรพอเพียง..
    ยวง เขียวนิล

    อาทิตย์นี้เราไปเที่ยวที่สวนเกษตรพอเพียงของคุณลุงใจดี ยวง เขียวนิล ซึ่งได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ พิพิธภัณฑ์ดิน ซึ่งเราไปกันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วให้ไปเรียนรู้ต่อยอดกันที่นี่ สวนของคุณลุงนั้นเป็นไร่นาสวนผสม แบบเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริ และคุณลุงยังยึดแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักในการดำรงชีวิต สวนคุณลุงอยู่ที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรีนี่เอง พอเราไปถึงคุณลุงก็ออกมารับแล้วพาไปที่ลานร่มรื่นด้านหน้าบ้าน

    [​IMG]

    คุณลุงแนะนำตัวว่า เคยทำงานรับราชการอยู่เกือบสิบปี แล้วก็ลาออกมาเปิดบริษัทเจอพิษเศรษฐกิจก็เลยหันมาทำไร่ทำนา แล้วก็หันไปกินเหล้าจนกระทั่งเป็นพิษสุราเรื้อรัง คุณลุงยังเอารูปเก่าๆซึ่งใส่กรอบอย่างดีมาให้เด็กๆดู เป็นรูปสมัยที่ลุงยวงนอนเมาข้างถนนมีเจ้าตูบมารุมดมแล้วภรรยาคุณลุงได้ถ่ายรูปไว้ แล้วก็สอนเด็กๆว่าทำอย่างนี้ไม่ดี ครูสุถามเด็กๆต่อว่า "กินเหล้านั้นผิดศีลข้ออะไร" เด็กๆตอบกันพร้อมเพรียงว่า "ข้อห้าครับ"

    [​IMG]

    สุดท้ายลุงยวงก็เลิกเหล้าโดยไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แล้วรักษาตัวอีกเป็นปี คุณลุงสอนเด็กๆว่า "จงทำมาหาเก็บ มิใช่ทำมาหากิน" คือไม่ใช่ว่าหามาแล้วใช้หมดไป แต่ให้เก็บไว้ด้วย คุณลุงได้ยินมาว่า ในหลวงท่านมีพระราชดำริ เรื่อง การทำเกษตรผสมผสานทฤษฏีใหม่ คุณลุงยวงสนใจเพราะถ้ามีคำว่าทฤษฏี แสดงว่าได้ผ่านการปฏิบัติมาแล้ว ทำให้คุณได้ลองปฏิบัติตามโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ โดยคุณลุงได้แบ่งพื้นที่เป็น แหล่งน้ำ 30%, ไม้ยืนต้นและต้นไม้ที่เก็บกินได้ 30%, นาข้าว 30% และที่อยู่อาศัย 10%

    [​IMG]

    ระหว่างทางคุณลุงเก็บเม็ดแมงเม่า หรือมะเม่าให้เด็กๆชิม รสเปรี้ยวๆ ชุ่มคอดีค่ะ

    [​IMG]

    ดูสิคะ..เด็กๆจดกันใหญ่เลย เด็กประถมหนึ่งที่ยังเขียนไม่คล่องก็คอยหันมาถามคุณครูถึงการสะกดคำต่างๆ เลยเป็นห้องเรียนภาษาไทยไปด้วยนะเนี่ย

    [​IMG]

    จากนั้นก็มาถึงการกลั่นตะไคร้ไล่ยุง ที่เห็นคุณลุงถืออยู่คือ ขวดน้ำตะไคร้ไล่ยุงค่ะ สีขาวๆขุ่นๆแต่กลิ่นหอมตะไคร้มาก

    [​IMG]

    เค้าจะต้มตะไคร้ในหม้อทรงกระบอกที่มีกระทะวางไว้ด้านบน พอไอน้ำตะไคร้ลอยขึ้นมากระทบกับความเย็นของก้นกระทะด้านบนซึ่งใส่น้ำอุณหภูมิห้องเอาไว้ ไอน้ำก็จะควบแน่นเป็นหยดน้ำ คุณลุงใช้ตะหลิว(บิดให้ด้านแบนกลับไปอีกด้าน) รองไอน้ำไว้ น้ำก็ไหลมาตามด้ามตะหลิวทะลุออกไปลงขวดด้านนอก (เจาะรูด้านข้างหม้อสำหรับให้ตะหลิวทะลุออกมาได้) เป็นนวัตกรรมที่แม่ต้องร้อง..ว้าว! อุปกรณ์ง่ายๆอย่างตะหลิวก็สามารถดัดแปลงมากลั่นตะไคร้ไล่ยุงได้

    [​IMG]

    ต่อมาคุณลุงพาเด็กๆไปดู เตาเผาถ่าน คุณลุงใช้ถังน้ำมันมานอนตะแคงทำเป็นเตา ใส่กิ่งไม้ที่เป็นเศษจากการตัดแต่งกิ่งต้นไม้ในสวนเนี่ยล่ะ แล้วก็เผาจนกระทั่งมันมอดเอง คุณลุงเล่าว่าการเผาถ่านทั่วไปจะขุดหลุมเผาถ่านไปพร้อมกับแกลบพอเสร็จแล้วก็พรมน้ำ แต่วิธีของคุณลุงจะเป็นการเผาถ่านในอุณหภูมิที่สูงกว่าทำให้ได้ "ถ่านบริสุทธิ์" ซึ่งจะมีปริมาณน้ำมันดิน (Tar) ที่เป็นสารก่อมะเร็งลดลง

    [​IMG]

    ระหว่างที่เผาถ่าน ควันที่ออกมาก็ถูกดักให้ลอยผ่านกระบอกไม้ไผ่เจาะรูไว้ด้านล่าง ของเหลวที่ควบแน่นออกมาจะหยดลงกระป๋องที่รองเอาไว้ ของเหลวนี้จะต้องตั้งทิ้งเอาไว้ 3 เดือน เพื่อให้ของเหลวนั้นแยกตัวออกมาเป็น 3 ชั้น ชั้นบนจะเป็นน้ำมัน ชั้นล่างจะเป็นสาร Tar ส่วนตรงกลางจะเป็นน้ำวิเศษที่เรียกว่า น้ำส้มควันไม้ มีประโยชน์ในการป้องกันและกำจัดศัตรูพืช ช่วยเพิ่มผลผลิต ฟื้นฟูดินเสื่อม

    [​IMG]

    จากนั้นคุณลุงก็พาเด็กๆเดินไปดูนาข้าวที่คุณลุงหว่านไว้เมื่อเดือนก่อน ตอนนี้ต้นข้าว อ่อนๆชูดยอดสีเขียวขจีเต็มทุ่ง

    [​IMG]

    ระหว่างทางก็ยังได้เห็นพืชผักสวนครัวที่คุณลุงปลูกไว้ ทั้งพริก กระเพรา และโหระพา ใบงามๆทั้งนั้น และยังมีสมุนไพรอย่างฟ้าทะลายโจรด้วย แต่ที่ทำให้เด็กๆได้เพลิดเพลินที่สุดคือ เมล็ดต้อยติ่ง ก็ดอกสีม่วงบานเต็มสองข้างทาง คุณลุงบอกว่าตอนแรกจะถางต้นต้อยติ่งออกเพื่อให้เดินง่าย แต่เห็นว่าดอกสีสวยพรึ่บพรั่บอย่างนี้ เลยเก็บไว้อวดเด็กๆดีกว่า

    [​IMG]

    เด็กๆพอเห็นเม็ดต้อยติ่งสีน้ำตาลเข้มชูช่อเต็มไปหมด อดใจไม่ไหว เก็บเม็ดต้อยติ่งกันใหญ่เลย จนไม่ยอมฟังคุณลุงยวงกันเลย จนครูเจนบอกว่า เก็บไปเยอะๆนะ เดี๋ยวจะได้ให้ทานกับข้าวเที่ยง โอ๊ะ..โอ..เด็กๆเลยชะงัก หยุดเก็บกันไปพักใหญ่ (อย่าว่าแต่เด็กๆเล้ย แม่อ้อยังต้องหักห้ามใจอย่างยากเย็นที่จะไม่เก็บเจ้าเม็ดต้อยติ่งสีน้ำตาลที่อยู่กันเป็นทุ่งขนาดนั้น อิอิ)

    [​IMG]

    ระหว่างทางคุณลุงชี้ให้ดูรังนกกระจาบที่ทำรังอยู่บนต้นไม้ รังที่เห็นเป็นสีเขียวอยู่ด้านซ้ายล่างนั้นเป็นรังที่เพิ่งสร้างโดยนกกระจาบตัวผู้ แต่ถ้าเป็นรังที่สร้างมานานแล้วก็จะเป็นสีน้ำตาล ยิ่งถ้าคุณนกกระจาบตัวผู้สามารถหาคู่ได้ก็จะกลับมาต่อเติมรังเดิมให้มีส่วนยื่นออกมาเผื่อต้องวางไข่ (รังสีน้ำตาลที่อยู่ด้านบนซ้าย) แล้วคุณลุงยังสอนเด็กๆให้ดูความเพียรพยายามของนกกระจาบเป็นตัวอย่างด้วย

    [​IMG]

    [​IMG]

    เรายังได้เห็นการเพาะเห็ดในโอ่งด้วย เห็ดดอกใหญ่มากค่ะ นึกว่าเป็นเห็ดยักษ์ซะอีก

    [​IMG]

    จากนั้นคุณลุงก็บอกว่าจะแสดงให้เห็นถึงเกษตรพอเพียงว่าอยู่ได้อย่างไร แล้วคุณลุงก็คว้าเอาถุงพลาสติกมาเท สิ่งที่กองอยู่บนพื้นก็คือใบไม้ ซึ่งคุณลุงเก็บจากต้นไม้ระหว่างทางที่เราเดินผ่านมา

    [​IMG]

    แต่ไม่ใช่ใบไม้ธรรมดาค่ะ คุณลุงค่อยๆหยิบขึ้นมาทีละกิ่ง แล้วอธิบายถึงว่าเราเอามาทำอะไรกินได้ และมีประโยชน์อย่างไร ทั้งตำลึง ยอดชะอม หน่อไม้หวาน ใบหม่อน ตะลิงปลิง ผักหนาม ใบมันปู ลูกฟักข้าว และอีกมากมาย เอาเป็นว่าคุณลุงไม่ต้องไปตลาดเพื่อหาซื้อผัก แค่เดินเข้าไปในสวนไม่มีอดแล้ว

    [​IMG]

    หลังจากได้ความรู้มากมายในช่วงเช้าแล้ว เราพักตั้งวงทานข้าวบนเสื่อ
    ท่ามกลางแมกไม้

    [​IMG]

    ใครอยากรู้ว่าเด็กๆเอาอะไรมากิน ก็ไปดูได้ที่อัลบั้มรูปนะคะ แม่อ้อขอลงรูป ข้าวกล่องยอดเยี่ยมของน้องมดตะนอยรูปเดียวค่ะ ดูซะก่อน..แม่แป้งของน้องมดตบแต่งข้าวเป็นรูปหน้าคนด้วย ! ลุงยวงยังใจดีเก็บมะม่วงสดๆจากสวนมาให้พวกเราทานกับ น้ำปลาหวานรสเด็ดของคุณลุงด้วยค่ะ

    [​IMG]

    หลังจากอิ่มท้องก็มีกำลังเดินลุยสวนกันต่อ คราวนี้เดินกันรอบใหญ่ขึ้น ถึงแม้แดดจะแรงแต่ต้นไม้ใหญ่ก็ให้ความร่มรื่นแก่พวกเรา คุณลุงร้องถามว่า เดินกันไหวไหม? เด็กๆตะโกนแข่งกันว่า "ศรีทนได้.." ตามโฆษณาสียี่ห้อหนึ่ง แต่น้องมดตะนอยที่เดินรั้งท้ายกลับบอกว่า "ศรีทนไม้ได้้ค่ะ" ฮ่า..ฮ่า..

    [​IMG]

    ระหว่างทาง คุณลุงยังเก็บมะม่วงสุกมาปอกกันสดๆให้เด็กๆได้ทาน หวานอร่อยเหลือเกินค่ะ

    [​IMG]

    พอเดินมาถึงต้นกระท้อน ก็ได้กินกระท้อนเม็ดหวานฟูกันอีก

    [​IMG]

    ซักพักคุณลุงก็ชวนเด็กๆมาปีนบ้านต้นไม้ธรรมชาติกัน ซึ่งจริงๆแล้วก็คือ ต้นไทรซึ่งแตกกิ่งก้านสาขาแน่นขนัด แต่ที่น่าตื่นเต้นเป็นเพราะมันยื่นเข้าไปในน้ำ ถ้าใครตกลงมาล่ะก็..โอว..ไม่อยากจะคิด แต่สุดท้ายเด็กๆก็ใช้สัญชาตญาณลิงเกาะกิ่งไม้กันอย่างเหนียวแน่น ไม่มีใครหล่น ท่ามกลางเสียงของลุงยวงที่ตะโกนว่า "อย่าถีบเพื่อนนะครับ!!"

    [​IMG]

    [​IMG]

    ทั้งสวนนี้ คุณลุงลงแรงทำอยู่คนเดียวไม่ต้องไปจ้างใคร ถ่านก็เผาเอาเอง ยาฆ่าแมลงหรือปุ๋ยก็ไม่ต้องซื้อ ลุงยังบอกอีกว่า ถ้าเกิดสงครามขึ้นมาล่ะก็ ลุงน่ะอยู่ได้สบายๆไม่มีอดตาย แต่คนกรุงเทพฯอย่างพวกเราเนี่ย..ไม่รอดหรอก โอว..เห็นภาพเลยค่ะคุณลุง

    ตอนนี้คุณลุงยวงยังทำกิจกรรมเพื่อชุมชน โดยการเป็นครูพิเศษด้าน เกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ ครูภูมิปัญญาท้องถิ่น เป็นวิทยากรอบรมด้านการเกษตรการเลี้ยงปลา การทำบัญชีรายรับ-จ่าย และเป็นหมอดินอาสาในการปรับปรุงดิน

    [​IMG]

    วันนี้เด็กๆได้สนุก อิ่ม ตื่นเต้น และความรู้มากมายที่สวนลุงยวง นอกจากนั้นการได้สัมผัสวิถีการดำเนินชีวิตของลุงยวงที่ขยัน อดทน พอเพียง และทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นนั้น..ช่างเป็นบทเรียนที่ประเมิณค่ามิได้ของเด็กๆ กราบขอบพระคุณคุณลุงยวง เขียวนิล ค่ะ

    ข้อมูลลุงยวง : http://www.moac.go.th/builder/moac/article/articleupdate.php?id=232
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG-8464.jpg
      IMG-8464.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.8 KB
      เปิดดู:
      2,848
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2010
  9. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ผ้าห่มอวกาศ ที่ว่า คือ Emergency Blanket ครับ หรือ ผ้าห่มฉุกเฉิน เป็นพลาสติก ฉาบด้วยอลูมิเนียม ทำหน้าที่ กักเก็บความร้อนจากร่างกาย เท่านั้น ใช้ได้เพียง 2-3 ครั้ง เท่านั้น และมันจะขาด หรือ อลูมิเนียมที่ฉาบไว้ หลุดลอกไป ใช้ เพื่อฉุกเฉินอย่างเดียว ไม่ได้ถือเป็นผ้าห่มถาวร อย่างที่หลายคนอาจเข้าใจกัน

    มันเหมาะสำหรับ ผู้ที่สูญเสียความร้อนในร่างกายอย่างรวดเร็ว เช่น ภาวะที่อยู่ในน้ำเย็น หรือ แช่อยู่ในน้ำเย็น หรือ น้ำแข็ง ต้องการความอบอุ่นอย่างรวดเร็ว และ ผ้าห่มตัวนี้ เพื่อกันความร้อนออกจากร่างกายครับ

    และมันก็เหมาะสำหรับ ผู้ที่ เป็นไข้สูง รู้สึกหนาว ผ้าห่มตัวนี้ให้ความอบอุ่นได้ดีครับ

    ---

    เรื่องเทียน แนะนำเทียน ที่หาซื้อได้ทั่วไป โดยเลือกเทียนที่อันใหญ่ มีลักษณะอ้วนๆ หน่อยครับ จะจุดได้ค่อนข้างนาน

    เทียนตะไคร้หอม ก็ดีครับ แต่เก็บไว้นาน ก็ไม่ดีเหมือนกัน กลิ่นมันจะแรงมาก พาลให้กลิ่นไปติดกับอุปกรณ์อื่นๆ ด้วยครับ บางทีมันไปติดพวก หลอดกรองน้ำ มันจะไม่ค่อยดีครับ
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กองทัพเผยการตอบโต้ของเกาหลีใต้ทำให้เกาหลีเหนือเสียหายหนัก

    [​IMG]

    โซล 26 พ.ย. - สำนักข่าวยอนฮัพรายงานว่า เจ้าหน้าที่กองทัพเกาหลีใต้เชื่อว่าการตอบโต้ของเกาหลีใต้สร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับเกาหลีเหนือ จากการโจมตีกลับเกาหลีเหนือที่ยิงปืนใหญ่ใส่เกาะเกาหลีใต้ในสัปดาห์นี้

    สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า ศูนย์นาวิกโยธินบนเกาะยอน-พยอง ซึ่งตกเป็นเป้าโจมตีของเกาหลีเหนือเมื่อวันอังคาร แถลงปกป้องตนเองจากเสียงวิจารณ์ที่ว่าพวกเขาตอบโต้น้อยและช้าเกินไป หลังเกาหลีเหนือโจมตีกะทันหัน โดยนาวาโท จู จอง ฮวา คาดว่าเกาหลีเหนือได้รับความเสียหายอย่างหนัก การโจมตีของเกาหลีเหนือทำให้นาวิกโยธินเกาหลีใต้เสียชีวิต 2 คน และพลเรือนเสียชีวิตอีก 2 คน แต่ยังไม่ทราบจำนวนผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตฝ่ายเกาหลีเหนือ

    ด้านนาวาเอกคิม จอง ซู กล่าวว่า คำกล่าวที่ว่าเกาหลีใต้ตอบโต้ช้าไม่เป็นความจริง เพราะทหารทุกนายประจำการช่วงที่ถูกระดมโจมตี และพร้อมตอบโต้ทันทีเมื่อได้รับคำสั่ง ขณะที่รัฐบาลจะทบทวนการอนุญาตให้กองทัพตอบโต้ให้หนักหน่วงมากขึ้นหากจำเป็น ภายหลังเสียงวิจารณ์จากสื่อเกาหลีใต้ที่เรียกร้องให้แก้แค้นเกาหลีเหนือ. -สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 26 พ.ย. 2553

    ส.ส.เกาหลีใต้เผยเกาหลีเหนือใช้จรวดโจมตี

    [​IMG]

    โซล 25 พ.ย.-นายปาร์ค ซังอึน ส.ส.เกาหลีใต้ นำปลอกจรวดจากเหตุเกาหลีเหนือโจมตีเกาะแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ไปแสดงในที่ประชุมแกนนำพรรคจีเอ็นพีวันนี้ พร้อมชี้ว่า เกาหลีเหนือได้ยิงจรวดอานุภาพทำลายล้างสูงโจมตีเป้าหมายที่เป็นพลเรือน

    นายปาร์ค ซึงอึน ส.ส.พรรครัฐบาล นำปลอกจรวด 2 ชิ้น แสดงต่อหน้ากล้องของสื่อมวลชน พร้อมเปิดเผยว่า จรวดส่วนใหญ่ที่ตกลงบนเกาะยอนพยองล้วนมาจากเครื่องยิงหลายลำกล้อง โดยจรวดเหล่านั้นไม่ได้ตกใส่เฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น แต่ยังสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือน สำนักงานฝ่ายบริหาร และศูนย์การแพทย์ โดยนายปาร์คเปิดเผยว่า เขาพบปลอกจรวดชิ้นหนึ่งใกล้กับค่ายทหารและอีกชิ้นที่หลังที่ทำการไปรษณีย์บนเกาะดังกล่าว

    ทางการเกาหลีใต้เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ราว 170 นัดตกในเขตชายแดนเกาหลีใต้ ในจำนวนดังกล่าวมี 80 นัดตกลงบนเกาะยอนพยอง ทำให้มีนาวิกโยธิน 2 นาย และพลเรือน 2 คน เสียชีวิต โดยพบผู้บาดเจ็บ 18 คน นอกจากนี้ เหตุโจมตีดังกล่าวยังสร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนราว 20 หลัง รวมทั้งทำให้เกิดไฟไหม้ป่าและทุ่งหญ้าอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 26 พ.ย. 2553

    อินเดียทดลองยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์

    [​IMG]

    อินเดีย 26 พ.ย. - อินเดียประสบความสำเร็จในการทดลองขีปนาวุธพิสัยกลางที่สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ในระหว่างการซ้อมรบ

    โฆษกกระทรวงกลาโหมอินเดีย เปิดเผยว่า ขีปนาวุธอัคนี-1 รุ่นปรับปรุง ถูกยิงออกจากฐานปล่อยบนเกาะแห่งหนึ่งนอกชายฝั่งรัฐโอริสสา ทางตะวันออกของประเทศ ขีปนาวุธน้ำหนัก 12 ตันลูกนี้ สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์และมีพิสัยยิงไกล 700 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีระบบนำร่องที่ก้าวหน้าทันสมัยและสามารถบรรทุกหัวรบที่มีน้ำหนัก 1,000 กิโลกรัม

    ซึ่งในการทดสอบปรากฏว่า ขีปนาวุธยิงถูกเป้าหมายในอ่าวเบงกอล อินเดียและปากีสถานซึ่งเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์ในเอเชียใต้ มักทดลองขีปนาวุธอยู่เป็นประจำ ซึ่งในครั้งนี้ปากีสถานได้รับแจ้งจากอินเดียแล้วว่าจะมีการทดลองขีปนาวุธ. - สำนักข่าวไทย

    วันศุกร์ ที่ 26 พ.ย. 2553

    ยอดเสียชีวิตจากอหิวาต์ระบาดเฮติเกิน 1,600 คน

    [​IMG]

    ปอร์โตแปรงซ์ 26 พ.ย. - กระทรวงสาธารณสุขเฮติ รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโรคอหิวาต์ระบาดในเฮติเพิ่มขึ้นถึง 1,603 คนแล้ว เมื่อวานนี้ จากเดิม 1,415 คน เมื่อสองวันก่อน

    การระบาดของอหิวาต์ในเฮติ ทำให้มีผู้ติดเชื้อ 69,776 คน นับตั้งแต่ตรวจพบครั้งแรกเมื่อกลางเดือนตุลาคม ในจำนวนนี้ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล 29,871 คน เจ้าหน้าที่เกรงว่าเชื้อโรคอหิวาต์จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วที่กรุงปอร์โตแปรงซ์ เนื่องจากประชาชนอาศัยกันอย่างแออัดและขาดสุขอนามัยที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีรายงานกรณีโรคอหิวาต์นอกเฮติ เช่น สาธารณรัฐโดมินิกัน 4 ราย และนครไมอามี รัฐฟลอริดา 1 ราย .- สำนักข่าวไทย


    วันศุกร์ ที่ 26 พ.ย. 2553

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. littlelucky

    littlelucky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,938
    [​IMG]
    สารานุกรมเสรี <!-- /tagline --> <!-- subtitle --> <!-- /subtitle --> <!-- jumpto --> ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    <!-- /jumpto --> <!-- bodytext --> คลองลัดโพธิ์ เป็นชื่อคลองเดิม บริเวณเขตจังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพมหานคร (ต.ทรงคะนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ) เดิมที่มีลักษณะตื้นเขิน ต่อมาได้จัดสร้างเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริ เป็นการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร โดยยึดหลักการ "เบี่ยงน้ำ" (Diversion) ภายใต้การดูแลของหน่วยงานหลัก 3 หน่วยงานคือ กรมชลประทาน กรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) มีหลักการคือ จากสภาพของแม่น้ำเจ้าพระยาเดิมที่มีลักษณะไหลวนคดเคี้ยวบริเวณรอบพื้นที่ บริเวณบางกระเจ้านั้นมีความยาวถึง 18 กิโลเมตร นั้นทำให้การระบายน้ำที่ท่วมพื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครเป็นไปได้ช้า ไม่ทันเวลาน้ำทะเลหนุน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯจึงมีพระราชดำริให้พัฒนาใช้คลองลัดโพธิ์ ซึ่งเดิมมีความตื้นเขินมีความยาวราว 600 เมตร ให้ใช้ระบายน้ำที่หลากและน้ำที่ท่วมทางสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาลงสู่ทะเล ทันทีในช่วงก่อนที่น้ำทะเลหนุน และปิดคลองลัดโพธิ์เมื่อน้ำทะเลหนุน เพื่อหน่วงน้ำทะเลไม่ให้ขึ้นลัดเลาะไปตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยาที่คดโค้งถึง 18 กิโลเมตรก่อนซึ่งใช้เวลามากจนถึงเวลาน้ำลง ทำให้ไม่สามารถขึ้นไปท่วมตัวเมืองได้
    คลองลัดโพธิ์ เป็นคลองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงมีกระแสร์พระราชดำรัสถึง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ว่าเป็นสถานที่ตัวอย่างของการบริหารจัดการน้ำ ที่ต้องการความรู้เรื่องเกี่ยวกับเวลาน้ำขึ้นน้ำลง หากบริหารจัดการให้ถูกต้องจะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ และทรงเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคไปทรงเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ และทรงเปิดสะพานภูมิพล 1 ภูมิพล 2 ในวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
    เนื้อหา

    [ซ่อน]


    • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับคราวน้ำท่วมปี พ.ศ. 2548 เมื่อ 4 ธันวาคม 2549 ถึงการบริหารจัดการน้ำของคลองลัดโพธิ์ว่า "สมเด็จพระบรมฯ กับสมเด็จพระเทพฯ ไป มันต้องมีเรื่องเวลาให้เหมาะสม ให้ถูกต้อง"
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr><td style="padding: 10px;" valign="top" width="20">[​IMG]</td> <td>
    ที่พระประแดง ที่มีอุปกรณ์ที่เวลาน้ำขึ้น กักเอาไว้ แล้วเวลาน้ำลง ปล่อยให้ลง คือ ที่คลอง คนแก่จำไม่ได้แล้ว และได้ทำโครงการที่จะปล่อยน้ำไปได้ เวลาน้ำลง แล้วก็เวลาน้ำขึ้นก็ปิดเอาไว้ ดังนั้น คลอง 600 เมตร ถ้าเปิด มันก็ทะลักเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยา ถ้าปิด น้ำจะอ้อมไป นี่วิธีที่จะบริหารน้ำให้ดี ก็คือ วิธีการให้ทราบว่าเวลาไหนน้ำกำลังขึ้น ปล่อยให้ออกไป พอไปทางคลองเตย กว่าจะถึงตรงปลาย น้ำก็ลง พอน้ำขึ้นเป็นเวลา แล้วเวลาลงเป็นเวลา แต่ว่าเวลาน้ำขึ้น เขียนเอาไว้ว่าขึ้นเวลานั้นๆ สูง 2 เมตร 2 เมตรกว่า เวลาน้ำลง น้ำก็จะลง ลงไป ทำให้เป็นจังหวะ ถ้าไม่ได้จังหวะ เปิดประตูน้ำเวลาน้ำขึ้น มันก็ทะลักเข้ามา ก็เข้ามาอาจจะท่วมได้ น้ำอาจจะขึ้นไปสูงกว่า 2 เมตร น้ำมันขึ้น 2 เมตร 20 - 2 เมตร 30 แต่ว่าถ้าเราปิดในเวลานั้น น้ำก็ไม่ทะลักมาในถนนในกรุงเทพฯ เวลาน้ำลงก็ปล่อย หมายความว่า ต้องให้ตรง มันเป็นเวลา ถ้าทำเป็นเวลาแล้วน้ำไม่ท่วมกรุงเทพฯ เดี๋ยวนี้กรุงเทพฯ ก็ต้องท่วม แต่ว่าถ้าไม่ทำให้ถูกต้อง ถูกเวลา ถ้าฝนตกด้วย ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่น่าจะฝนตก แต่ว่ามีฝนตกน้ำท่วม ถ้าน้ำท่วมรถแล่นไปก็จมน้ำ
    ฉะนั้น ผู้ที่มีหน้าที่ไม่ได้ทำ แต่ตอนนี้เขาต้องทำ บอกเขา เขาทำให้ ปล่อยน้ำเวลาน้ำมันลง น้ำขึ้นก็กักเอาไว้ มีทุกอย่าง มีแห่งเดียวที่มีอุปกรณ์ ที่อื่นก็ควรจะทำ รอมาหลายปีแล้ว ควรจะทำได้ แต่ต้องลงทุนไม่ใช่น้อย ข้อสำคัญต้องลงแรง ตามคลองชายทะเลก็เคยมี เมื่อ 9 ปี เมื่อปี 38 ส่งองครักษ์ไปดู ไปดูส่วนมากเป็นตอนกลางคืน เห็นคนนอนหลับสบายที่ชายทะเล ปกติไปทางใต้เพราะว่า จะเปิดไหม เพราะว่าเขาไม่ได้บอกให้เปิดก็ไม่ปิด ปิดหรือเปล่า เขาไม่ได้บอกให้ปิด น้ำทะลักเข้ามาก็ท่วมในคลอง คลองก็มาท่วม จากชายทะเลแต่ถ้าทำถูกจังหวะน้ำไม่เกิด ตอนที่ทำทางฝ่ายรัฐบาลก็จะไม่รู้เรื่องว่าจะเป็นอย่างไร คนที่ชายทะเล ที่นอนสบายเขาบอก คุณมาจากไหน รู้ได้อย่างไร น้ำขึ้นจริงๆ นะ เขานึกว่า ทำไมมาบอก รู้ว่าขึ้นทำไมไม่ปิด รู้ว่าลงไม่เปิด แล้วเขาถาม เป็นนายพล นายพลมาจากไหน มาจากในวัง ก็เลยเข้าใจว่ารู้เรื่อง ทำไมรู้เรื่อง เขาก็เชื่อ แต่ว่านายไม่เชื่อ นายผู้ใหญ่ต่างๆ เขาไม่ได้สั่งว่าเวลานั้นเวลานั้นต้องเปิดต้องปิด ที่ต้องเปิดต้องปิดเวลานี้ เพราะว่าน้ำไม่คอยใคร น้ำขึ้นน้ำลง ท่านเป็นทหารเรือก็รู้เรื่องว่าน้ำขึ้นลงเวลาไหน ต้องรู้ น้ำขึ้น น้ำลง แล้วช่วยป้องกันไม่ให้น้ำท่วม ตัวเขานอนสบายแต่ว่าคนที่อยู่ข้างในทุกข์
    ฉะนั้น เดี๋ยวนี้ยังมีเวลาที่จะแก้ไข ไม่อย่างนั้นถึงปีใหม่น้ำก็ท่วมอีก ก็เลยบอกว่าท่านที่มีหน้าที่ไปดู เราต้องไป เขาไม่เห็นแต่อย่างไรก็น่าจะไป 2 วัน 3 วันนี้ ก็จะไปดู เพราะว่ายังจำเป็นที่จะดู แต่ว่าเห็นเป็นอย่างนี้ อาจจะไปไม่ได้ ปวดหลัง ก็เลยไม่ได้ไป แต่ที่สมเด็จพระบรมฯ กับสมเด็จพระเทพฯ ไป มันต้องมีเรื่องเวลาให้เหมาะสม ให้ถูกต้อง ทางกรมชลประทาน บอกว่า ปลายปีก็หมดแล้ว ปลายปีนี้ยังมีอีกเดือน แล้วฝนก็ยังไม่หมด ต้องทำให้ถูกต้อง เพราะเชื่อว่า มันจะไม่ช้าเกินไป จวนจะหมดฤดูกาลแล้ว แต่ว่ามาพูดเพราะว่าที่ผ่านมาพูดไม่มีใครได้ยิน เสียงมันแหบ วันนี้เสียงนับว่าดี ได้แจ้งให้ทราบว่าจะต้องทำอย่างไรสำหรับในน้ำท่วม"
    พระราชดำรัสของของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ 4 ธันวาคม 2549<sup id="cite_ref-5" class="reference">[6]</sup>
    • "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ และทรงเปิดสะพานภูมิพล 1 ภูมิพล 2 ที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา 16.30 น. นับเป็นการเสด็จพระราชดำเนินทางชลมารคครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยประทับเรือพระที่นั่งอังสนา ทั้งนี้โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจจะมีการถ่ายทอดสดการเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ตั้งแต่เวลา 17.30 น.
    <sup id="cite_ref-6" class="reference">[7]</sup>


    ที่มา:คลองลัดโพธิ์
    จะมีใครสังเกตเห็นสัญญาณเตือนบ้างไหมหนอ?
    </td> <td style="padding: 10px;" valign="bottom" width="20">[​IMG]</td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2010
  12. littlelucky

    littlelucky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,938
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สมเด็จพระสังฆราชถวายพระพรในหลวง"ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการรายวัน</TD><TD class=date vAlign=center align=left>25 พฤศจิกายน 2553 23:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD>[​IMG]
    จากอินเตอร์เน็ต

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ASTVผู้ จัดการรายวัน - สมเด็จพระสังฆราชถวายพระพุทธภาษิตแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา “ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ” ขอให้พสกนิกรเป็นผู้คิดดี ไม่มุ่งร้ายผู้อื่น ห่างไกลกิเลส ย่อมทำให้พ่อหลวงมีความสุข

    (25พ.ย.) สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พระพุทธศักราช 2553 ความว่า พระพุทธภาษิตบทหนึ่ง ซึ่งเป็นพระพุทธพรสำคัญ พึงอัญเชิญไว้เหนือเศียรเกล้า เพื่อปกปักรักษาชีวิตให้สวัสดี มีความร่มเย็นเป็นสุข แม้กำลังอยู่ในท่ามกลางโลกที่ร้อนแรงเช่นในปัจจุบัน

    พระ พุทธภาษิต หรือ พระพุทธพร บทนั้นมีความว่า “ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ” และ “ใจของเรามีค่าสูงสุด ไม่พึงนำไปแลกกับสิ่งใดทั้งสิ้น“

    พระ พุทธภาษิต บทนี้ เป็นพระพุทธพรที่สำคัญที่สุดประการหนึ่ง นั่นคือ ผู้ใดปฏิบัติตามที่ทรงมีพระพุทธเมตตาภาษิตสอน ผู้นั้นย่อมได้รับพระพุทธพร จากสมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเป็นพระพุทธพรที่มีผลประเสริฐสุด หาที่เปรียบมิได้ จะเกิดผลเลิศล้ำที่สุดแก่ผู้เข้าใจ และมุ่งมั่นปฏิบัติรักษาใจของตนให้ดีที่สุด

    ให้พ้นจากความคิดไม่ดีทั้งปวง เพื่อผลดีจะเกิดแก่ตน เพื่อผลไม่ดีจะไม่เกิดแก่ตน
    ความคิดที่ไม่ดีทั้งหลาย เช่น คิดมุ่งร้ายต่อผู้หนึ่งผู้ใด ผลไม่ดีอาจไม่เกิดแก่ผู้ถูกมุ่งร้ายได้ แต่ผลไม่ดีต้องเกิดแน่นอน แก่ผู้มีใจคิดมุ่งร้าย


    เป็นไปตามพระพุทธภาษิตที่ว่า

    “ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ” ความนึกคิดใดเกิดขึ้นในใจของผู้ใด ผลสำเร็จย่อมปรากฏแก่ใจผู้นั้น เป็นความสุขความทุกข์ตามความคิดในจิตใจผู้นั้น


    พระพุทธพรบทนี้ สำคัญที่สุด จะเกิดผลเลิศล้ำที่สุด แก่ผู้มุ่งมั่นปฏิบัติรักษาใจของตนให้ดีที่สุด ให้พ้นจากความคิดไม่ดีทั้งปวง เพราะความคิดไม่ดีของตนเอง จะเกิดผลแก่ตนเองแน่นอนเสมอไป นอบน้อมอัญเชิญพระพรนี้ มาในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา ด้วยมุ่งมั่นขอรับพระราชทานเป็นพระพรชัยมงคลจากสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า แก่พสกนิกรไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินทั่วหน้า เพื่อให้ความดีในจิตใจมากหลาย อันเกิดจากได้รับพระราชทานพระพุทธพรนี้ มีพลังพิชิตความร้อนแรงแห่งกิเลส ที่รุนแรงหนักหนาขึ้นทุกที ย่อมจะยังพระราชหฤทัยให้ไกลความเศร้าหมองน้อยใหญ่ได้ ตามพระพุทธพรสมเด็จพระบรมศาสดา พระผู้ทรงเหนือพรหมเทพมนุษย์สัตว์ ขอพระราชทานถวายพระพุทธพร.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ---------------
    Daily News - Manager Online -

    ที่มา-
    สมเด็จพระสังฆราชถวายพระพรในหลวง"ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ"
     
  13. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
     
  14. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088

    ขอบคุณมากๆเลยค่ะ คุณ Kongp :cool:
    ดิฉันไม่ทราบจริงๆ นึกว่ามันจะใช้ได้นานแบบผ้าห่มทั่วไปซะอีก
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลอีกครั้งค่ะ
     
  15. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    25 พ.ย. 53


    ปริศนาบ้านสองเชียง

    ผมเคยอ่านบทความหนึ่งในเว็บฯนี้ ได้กล่าวถึงพื้นที่ปลอดภัย บทความนี้
    ได้เขียนเป็นปริศนาไว้ว่าบ้านสองเชียงเป็นพื้นที่ๆปลอดภัยแห่งหนึ่ง มาวันนี้
    ผมได้ค้นพบว่าที่จังหวัดเลยมีคำว่า เชียง อยู่ถึงสองแห่งด้วยกันคือ เชียงคาน
    (เป็นอำเภอ) เชียงกลม (เป็นตำบลหนึ่งในอำเภอปากชม)และที่แปลกคือสอง
    เชียงนี้มีพื้นที่ติดกันด้วย

    และยังได้ข่าวมาว่า คนในรั้ว ใน....มีโครงการจะมาอาศัยอยู่ที่เมืองเลย
    เช่นเดียวกัน



    26 พ.ย. 53


    นิมิตใหม่

    คนอายุห้าหรือหกสิบขึ้นคงเคยเห็นสตางค์รูซึ่งคนสมัยก่อนนำมาใช้ซื้อขายกัน
    ในภาพผมได้ถือสตางค์รูพวงหนึ่งอยู่ในมือ ในความฝันบอกผมว่าเงินไม่มีค่าแล้ว





    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน

    *************************************
    ท่านใดสนใจที่จะหลบภัยที่ฐานผาแบ่น อำเภอเชียงคาน
    จังหวัดเลย ขอให้มาพบผมวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ย.นี้ ที่หน้า
    สถานีรถไฟดอนเมือง ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ บริเวณหน้าห้อง
    ขายตั๋ว เวลา 11.00น. (คอย 1ชั่วโมง)
    สังเกตุชายสะพายย่าม

    *************************************
    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาสิเป็นของจริง"

    [​IMG]
    ภาพเงินที่ไร้ค่าของประเทศซิมบับเว จนเด็กๆถือเอามาเป็นของเล่นได้

    คงจะไม่มียุคใดของสังคมไทยที่สภาพสังคมจะสะท้อนความจริง สัจธรรมของคำพูดข้างต้นได้ดีเท่านี้อีกแล้ว หม่อมเจ้า สิทธิพร กฤดากร เจ้าของวาจาสิทธิ์ดังกล่าวซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์ที่ผันตนเองมาเป็นชาวนา พัฒนาการเกษตร จนได้รับยกย่องให้เป็น “บิดาแห่งเกษตรแผนใหม่” ของไทย ด้วยความเชื่อว่าเกษตรคือพื้นฐานของประเทศ จากวิศวกรที่จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศอังกฤษ แต่กลับมิได้หลงใหลได้ปลื้มกับยศถาบรรดาศักดิ์และความเจริญก้าวหน้าทางวัตถุเทคโนโลยี ด้วยมองเห็นในแก่นของชีวิตว่า แท้ที่สุดแล้ว มนุษย์ต้องพึ่งพาข้าวปลาอาหาร

    เงินทองเป็นเพียงสิ่งสมมุติเท่านั้น แต่สังคมที่ก้าวหน้าด้วยวัตถุอย่างทุกวันนี้ จิตกลับตาลปัตรมองเห็นมายาเป็นของจริง เห็นของจริงเป็นมายา และทุ่มเททั้งชีวิต แม้กระทั่งทะเลาะเบาะแว้งฆ่าฟันกันเพื่อแย่งชิงสิ่งที่เป็น “มายา” ด้วยสารพัดวิธี หากไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องได้ด้วยกล และถ้ายิ่งเป็นผู้มีอำนาจด้วยแล้ว กิเลสของ “มายา” นี้ก็สามารถสร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า สร้างความวิบัติได้คณานับ อันตัวอย่างมีให้เห็นโดยไม่ต้องพูด

    ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยจะต้องหันกลับมามองความจริงให้ทะลุ อย่าหลงอยู่ในโมหภูมิ จงเชื่อในสัจธรรมข้อนี้ เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาสิเป็นของจริง เร่งสร้างข้าวปลาอาหารให้สมบูรณ์ให้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้ อย่าปล่อยให้ความสมบูรณ์ของทรัพยากร ผืนดิน ป่า น้ำ ที่บรรพบุรุษได้สร้าง และสืบทอดกันมาต้องถูกทำลาย ถูกปล้นไปด้วยแรงโมหะ โลภะ เกษตรกรหลายคนกำลัง “ตาโต” ขายที่อันเป็นสมบัติที่ปู่ย่าตายายรักษามาด้วยความลำบากให้กับคนต่างชาติ และสุดท้ายเปลี่ยนตนเองให้เป็น “แรงงาน” รับจ้างราคาถูกในเมือง มีชีวิตอยู่อย่างไร้ศักดิ์ศรี

    ในยุคที่โลกกำลังประสบภาวะวิกฤตด้านอาหาร “ผืนดิน” คือปัจจัยการผลิตที่สำคัญที่สุด และจะกลายเป็นสิ่งที่ถูกจับจ้องขโมยเอามาครอบครองจาก “ทุน” เพราะสุดท้ายมนุษย์ขาดน้ำมันได้ แต่มนุษย์ขาดอาหารไม่ได้ “ทุนใหญ่” จะร่วมมือกันแย่งชิง ผืนดิน จากเกษตรกรรายเล็กรายน้อยเอามาเป็นของตนเองด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา อำนาจรัฐผนวกกับอำนาจเงินจะทำให้ ที่ดิน ค่อย ๆ หลุดมือจากเกษตรกรเจ้าของตัวจริงไปตกอยู่ในอุ้งมือของ “ทุนใหญ่” ประวัติศาสตร์กำลังจะซ้ำรอยเหมือนกับที่เจ้าของร้านโชห่วยรายเล็กรายน้อยทั่วประเทศที่ต้อง “ร้องไห้” อยู่ในอาการเจ๊งหรือปิดกิจการเพราะไม่อาจสู้กับทุนใหญ่ได้โดยที่รัฐไม่ได้เหลียวแล (หรือรัฐอาจจะมีเจตนาให้เป็นไปอย่างนี้เพราะรัฐก็คือ ทุนใหญ่ ผู้ได้ผลประโยชน์นั่นเอง)

    ประเทศไทยได้ถูก “มายา”ของเงินทอง ทำให้ประเทศกลายเป็นแหล่งอุตสาหกรรม เป็นที่กักเก็บของสารพิษทั้งในดิน ในน้ำ ในอากาศ จนมีผลไปถึงสารพิษในคน ทรัพยากรแร่ธาตุจำนวนมากถูกกอบโกยไปเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรม ทั้งเหล็ก ดีบุก ตะกั่ว สร้างความมั่งคั่งให้กับ “ทุนใหญ่” จนประเทศแทบไม่เหลืออะไรแล้ว ขณะนี้ประเทศกำลังถูกจับจ้องอีกครั้งเพื่อขโมยความมั่งคั่งของ “ผืนดิน” ไปให้ต่างชาติ ด้วยความช่วยเหลือของ “ทุนไทย” ไร้สำนึก คงปฏิเสธไม่ได้ว่าขณะนี้คนไทยจำนวนมากทำตัวเป็น “นอมินี” ให้กับต่างชาติ ในการกว้านซื้อที่ดินทั้งที่กฎหมายกำหนดไม่ให้ต่างชาติถือครอง ในยุคที่ “เงิน” อยู่เหนือ “สำนึก” อีกไม่ช้าคนไทย ก็คงจะเป็นแค่ “ผู้อาศัย” เหมือนผู้คนในประเทศอาร์เจนตินาที่คนส่วนใหญ่เป็นแค่ “แรงงานรับจ้าง” เท่านั้น

    หากที่ดินจำนวน 320 ล้านไร่ของไทย เป็นของต่างชาติจนหมดสิ้นแล้วเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้น เราคนไทยทุกคนคงต้องแปลงสภาพเป็น “แรงงานทาส” ในประเทศของตนเองอย่างช่วยไม่ได้ การกลับมาท่องจำคำว่า “เงินทองเป็นของมายา ข้าวปลาสิของจริง” ก็คงสายไปเสียแล้ว

    บทความ อ.ยักษ์

    แหล่งที่มา: คม ชัด ลึก 7 มิถุนายน 2551
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 พฤศจิกายน 2010
  17. Mr.tom

    Mr.tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    269
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,185
  18. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368





    เป็นบทความที่ดีมากค่ะ ขอน้อมจิตกราบ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมเด็จพระสังฆราช และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา

    และขอบพระคุณเจ้าของกระทู้ และสำนักข่าวมากค่ะ

    กราบโมทนาด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    “ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ”

    “ใจของเรามีค่าสูงสุด ไม่พึงนำไปแลกกับสิ่งใดทั้งสิ้น“
     
  19. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=VqNC86z0aUA&feature=player_embedded"]YouTube - 19-7-53 สมิทธเตือนไทยเกิดภัยพิบัติใหญ่[/ame]#!
     
  20. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    มติสภา อนุมัติ บึงกาฬ เป็นจังหวัดที่ 77 พร้อมเล็งตั้ง อ.ฝาง เป็นจังหวัดต่อไป
    Mthai news: ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบในหลักการร่างพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดบึงกาฬ ด้วยคะแนน 318 เสียงไม่ลงคะแนน 19 เสียง โดยสาระสำคัญคือให้ตั้งจังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดที่ 77 โดยตั้งกรรมาธิการจำนวน 36 คน แปรญัตติ 7 วัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวสนับสนุนการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬเพื่อเพิ่มการให้บริการประชาชนสะดวกมากขึ้น แต่ต้องไม่เป็นภาระการใช้จ่ายงบประมาณโดยเฉพาะการเพิ่มหน่วยงานสถานที่ราชการ
    ขณะเดียวกัน สนับสนุนให้จัดตั้งจังหวัดฝาง เพราะอำเภอฝางมีพื้นที่ห่างจากอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่มาก การเดินทางไม่สะดวก โดยจะผลักดันร่างกฎหมายที่เสนอโดยประชาชนให้บรรจุวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพราะรัฐบาลเหลือวาระอีกกว่า 1 ปี และเพื่อให้รัฐบาลใหม่เดินหน้าพิจารณากฎหมายฉบับนี้ต่อไปได้
    ขณะที่ด้านนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ย้ำถึงจำนวนประชากรที่จะจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬว่า สามารถแบ่งเป็น 1 เขตเลือกตั้ง หรือ ส.ส. จำนวน 3 คน เช่นเดียวกับ จังหวัดหนองคาย ส่วนจำนวน ส.ว.เลือกตั้ง ที่เพิ่มขึ้นอีก 1 คน เป็น 77 คนนั้น จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการสรรหา ส.ว.ในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ที่ยังเดินหน้าต่อไปได้ จำนวน 74 คน เพราะต้องการสรรหา ส.ว.ชุดใหม่ที่ต้องใช้เวลา 3 ปี ส่วนที่ว่าการอำเภอบึงกาฬจะใช้เป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัด พร้อมย้ำถึงผลดีในด้านเศรษฐกิจการค้า และการลงทุนบริเวณชายแดน และรัฐบาลจะสนับสนุนการปลูกยางพารา โดยให้กองทุนสงเคราะห์สวนยางมาช่วยดูแล
    นอก จากนี้ในที่ประชุม นายเทวฤทธิ์ นิกรเทพ ส.ส.สัดส่วน พรรคกิจสังคม ซึ่งเป็นผู้เสนอร่าง พรบ.การจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ ยังได้กล่าวขอบคุณ ส.ส.ทุกคนที่สนับสนุนการจัดตั้งจังหวัดบึงกาฬ หรือ อาจใช้ชื่อตามประวัติศาสตร์ว่าเป็นเมือง ไชยบุรี ซึ่งสามารถพิจารณาในขั้นตอนการแปรญัตติได้
    โดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]<TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ตะลึง! 3 หนุ่มดวงแข็ง ลอยเรือกลางทะเล 50 วัน รอดชีวิต</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    [FONT=′Tahoma′] บีบีซีรายงานว่าพบวัยรุ่นชาย 3 คน ลอยเรืออยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิกใต้เป็นเวลา 50 วัน มีแต่มะพร้าวและน้ำจืดเล็กน้อยประทังชีวิต กระทั่งเรือประมงจับปลาทูน่าช่วยเหลือทั้งหมดมาได้ใกล้ประเทศฟิจิและนำส่งโรงพยาบาลเนื่องจากถูกแดดไหม้อย่างรุนแรง[/FONT] [FONT=′Tahoma′] ทั้งสามคน ได้แก่ ซามู เปเรซ และฟิโล ฟิโล วัย 15 ปี พร้อมเอ็ดเวิร์ด นาเซา วัย 14 ปี หายไปหลังจากนำเรืออลูมิเนียมออกทะเลจากเกาะอตาฟู หนึ่งในหมู่เกาะโตวเคเลาของนิวซีแลนด์ ในระหว่างการแข่งขันเรือประจำปี เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งสันนิษฐานว่าทั้งหมดเสียชีวิตแล้วหลังจากกองทัพอากาศนิวซีแลนด์หาตัวไม่พบ[/FONT]
    [FONT=′Tahoma′][FONT=′Tahoma′] เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเรือประมงลำหนึ่งพบทั้งสามคนทางตะวันออกเฉียงเหนือของฟิจิและนำเรือเข้าไปใกล้ เมื่อถามทั้งสามคนว่าต้องการความช่วยเหลือไหม ทั้งหมดเปล่งเสียงว่า ใช่ ลูกประมงจึง[/FONT][/FONT][FONT=′Tahoma′][FONT=′Tahoma′]ช่วยปฐมกันพยาบาล[/FONT][/FONT][FONT=′Tahoma′][FONT=′Tahoma′] นายไท เฟรดิคเซน ไต้ก๋งเรือกล่าวว่าเด็กทั้ง 3 คน มีมะพร้าวเหลือเพียงเล็กน้อยซึ่งคงจะหมดลงใน 2 วันข้างหน้า พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินมะพร้าวและดื่มน้ำจืดที่ใช้ผ้าใบรองไว้ตอนกลางคืนและเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน พวกเขาจับนกทะเลได้ซึ่งเป็นโชคดีมากๆ และยกย่องว่าทั้งสามคนมีจิตใจเข้มแข็งมาก แม้ร่างกายถูกแดดเผาอย่างรุนแรง[/FONT][/FONT]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ถ่านไฟฉายที่แบตหมดแล้วให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#fac963 cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#ffffcc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...