ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 08 กันยายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7223 ข่าวสดรายวัน


    พัฒนาพันธุ์"ข้าวทนน้ำ" ช่วยชาวนารับมืออุทกภัย




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ปัจจุบัน สภาพอุทกภัยที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในหลายจังหวัด ทำให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ โดย ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล มีนโยบายสนับสนุนให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาวิธีการนำเทคโนโลยีมาช่วยเหลือเกษตรกรไม่ให้ต้องประสบภัญหาซ้ำซากอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติต่างๆ

    เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ที่ผ่านมา ดร.วีระชัยเปิดเผยว่า ปัญหาน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่การเกษตร โดยเฉพาะนาข้าวต่างๆ ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของเกษตรกรที่มักประสบปัญหาอันมีผลมาจากภาวะภัยธรรมชาติต่างๆ ทั้งนี้ ได้เร่งให้สวทช. ซึ่งมีองค์ความรู้เรื่องพันธุกรรมข้าวหลายด้านเร่งเสนอมาตรการและแนวทางที่จะช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวแล้ว <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "ขณะนี้ สวทช. โดย "ศูนย์ไบโอเทค" ได้ร่วมมือกับสำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พัฒนาและปรับปรุงพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ให้ทนน้ำท่วมฉับพลันโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพทางด้านเครื่องหมายพันธุกรรมในการปรับปรุงสายพันธุ์ดังกล่าว เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำในการคัดเลือกและลดระยะเวลาดำเนินการ อีกทั้งยังประหยัดงบประมาณได้ด้วย

    "ผลงานวิจัยดังกล่าว ทำให้ข้าวสายพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 สามารถทนอยู่ใต้น้ำได้ประมาณ 15-21 วัน โดยต้นข้าวไม่ตายแต่กลับฟื้นตัวหลังน้ำท่วมได้ดีกว่าสายพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 พันธุ์เดิม" ดร.วีระชัย ระบุ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    รัฐมนตรีวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า นอกจากข้าวพันธุ์ดังกล่าวมีคุณสมบัติทนน้ำท่วมแล้ว ก็ยังมีคุณสมบัติต้านทาน "โรคขอบใบแห้ง" ไปพร้อมกันด้วย


    ซึ่งพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ทนน้ำท่วมฉับพลันที่ได้วิจัยนี้เป็น "พันธุ์ข้าวหอม" ไวต่อช่วงแสง ปลูกได้เฉพาะนาปี

    เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่นาน้ำฝนในเขตภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีความเสี่ยงในการเกิดอุทกภัยในแต่ละปีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 8,000 ล้านบาท

    ในส่วนตัวมองว่า ในปัจจุบันและอนาคตอันใกล้นี้ "วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" จะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในภาคการเกษตร ซึ่งเป็นหัวใจหลักของประเทศไทย ทั้งในแง่การนำองค์ความรู้วิจัยพัฒนาต่างๆ เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา ตลอดจนเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถ และผลิตภาพการผลิต

    "สำหรับพันธุ์ข้าวทนน้ำท่วมนี้ จะได้นำเข้ารายงานที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางขยายผลและรองรับปัญหาน้ำท่วมขังนาข้าวซึ่งมักเกิดซ้ำๆ กันทุกปีต่อไป" ดร.วีระชัยกล่าว

    ปิดแล้วโรงเรียนนราฯเกือบ 400 แห่ง หวั่นครูตกเป็นเหยื่อโจรใต้

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    ภายหลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนเอ็ม.16 ประกบยิง นายวิลาศ เพชรพรหม อายุ 54 ปี ครู คศ. 2 โรงเรียนบ้านมะนังกาหยี ต.มะนังตายอ และนางคมขำ เพชรพรม อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นภรรยา และเป็นครู คศ.2 โรงเรียนบ้านทุ่งโต๊ะดัง ต.มะนังตายอ เหตุเกิดขณะที่ 2 สามีภรรยาขี่รถ จยย.นำข้าวโพดไปขายเป็นรายได้เสริมที่ตลาดตันหยงมัส อ.ระแงะ เหตุเกิดเมื่อเวลา 06.10 น. วันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา บริเวณบ้านแกแม ม.9 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นั้น

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.ย. สถานศึกษาในพื้นที่ทั้ง 3 เขตการศึกษาของ จ.นราธิวาส ทั้ง 13 อำเภอ ซึ่งมีโรงเรียน จำนวน 365 โรง พบว่าในช่วงเช้าของวันนี้ โรงเรียนที่ปิดการเรียนการสอนมีจำนวนกว่า 300 โรงตามมติของสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากครูส่วนใหญ่ร้อยละ 90 เกรงไม่มีความปลอดภัยในชีวิตขณะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ส่วนโรงเรียนอีกกว่า 60 โรง ที่เปิดการเรียนการสอนนั้น ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในพื้นที่เขตเมืองและชุมชน แต่ถึงอย่างไรก็ตามตามสถานศึกษาต่างๆ ยังคงมีเจ้าหน้าที่ทหารในแต่ละเขตพื้นที่รับผิดชอบ ยังคงเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยสถานศึกษาเช่นเดิม เนื่องจากผู้บังคับบัญชายังไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ที่กลุ่มคนร้าย อาจจะลอบแฝงตัวเข้าไปลอบวางเพลิงเพื่อสร้างสถานการณ์ในตรึงเครียดในพื้นที่ จ.นราธิวาส เหมือนกับในช่วงอดีตที่ผ่านมา

    รายงานข่าวแจ้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เดินทางมาร่วมงานรดน้ำศพครู 2 สามีภรรยาในช่วงเย็นของวานนี้ เปิดเผยว่า มติในที่ประชุมคณะกรรมการสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ร่วมลงความเห็นว่า ให้ครูใน จ.นราธิวาส ทั้ง 3 เขตการศึกษา ที่ปฏิบัติหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียนทั้ง 365 โรงเรียนหยุดการเรียนสอนเป็นเวลา 3 วัน 2. ให้นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรี ยกระดับปัญหาเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นปัญหาที่สำคัญ และต้องรีบแก้ปัญหาให้คลี่คลายลงให้ได้โดยเร็ว 3. ให้บำเหน็จความชอบของข้าราชการครูที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ตามกฎของคณะกรรมการข้าราชการและบุคลากรทางการศึกษา ด้วยการเลื่อนยศตามชั้นยศเหมือนการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่กองกำลัง

    ปาฏิหาริย์นิวซีแลนด์ ดินไหวมีแต่เกิด-ไม่มีตาย

    สกู๊ปพิเศษ



    [​IMG]เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 80 ปี ของนิวซีแลนด์ ในเมืองไครสต์เชิร์ช เมืองใหญ่อันดับ สองของนิวซีแลนด์ สร้างความเสียหายกว่า 3 หมื่นล้านบาท แต่มีผู้บาดเจ็บสาหัสเพียง 2 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต บรรดาชาวนิวซี แลนด์ต่างนำเรื่องราวในนาทีการเอาชีวิตรอดของตนมาแลกเปลี่ยนกัน

    นายซาเวียร์ เทราส์เซล็อต-โรดส์ อายุ 16 ปี เล่าว่า กำลังหลับอยู่บนเตียงที่ชั้นสองของบ้าน ขณะที่แผ่นดินไหวราวตีสี่ครึ่ง แรงสั่นสะเทือนเหวี่ยงตนลงจากเตียง กลิ้งไปหากำแพงบ้านที่หลุดแยกออกจากตัวบ้านพาตนหล่นลงไปกระแทกกับรถยนต์ที่จอดอยู่เบื้องล่าง

    "ผมสวมบ๊อกเซอร์นอนอยู่ ดังนั้น ผมจึงไม่มีอะไรป้องกันเลย" โรดส์กล่าว ว่าดีใจมากที่พี่ชายไปค้างแรมที่อื่นในคืนนั้น เพราะถ้ายังอยู่ที่บ้านอาจไม่รอด หลังเตียงของพี่ถูกเศษหลังคาถล่มฝังจมมิด

    "มีบางอย่างพยายามปกป้องพ่อ ผม และพี่ชาย ต้องเป็นเพราะพระเจ้าแน่ๆ" เจ้าหนุ่มกล่าว
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    น้องหนูเกิดหลังแผ่นดินไหว


    นายซาเวียร์ เทราส์เซล็อต-โรดส์

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    นางไบรดี้ สวีตแมน ผู้รอดชีวิต กล่าวว่า ตนเข้าไปดื่มน้ำในห้องครัวและกลับขึ้นมานอนบนเตียงเพียงไม่กี่นาทีก่อนที่แผ่นดินไหวจะเขย่าเมืองทั้งเมืองจนห้องครัวของตนถูกปล่องไฟขนาดใหญ่จากข้างบ้านลอยพุ่งเข้าใส่จนพังราบไปทั้งห้อง "ฉันเพิ่งออกจากห้องนั้น มาเมื่อ 20 นาทีที่แล้วเอง โชคดี ที่ยังไม่ตาย พระเจ้าอวยพรแท้ๆ" นางสวีตแมนกล่าว

    ขณะที่ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งสร้างหน้าของตนบนเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ว่า "ฉันรอดตายจากแผ่นดินไหวที่ไครสต์ เชิร์ช 4 ก.ย. 2010" โดยมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตเข้าร่วมกว่า 9,500 คน

    นายจอห์น เฟาเทน ผู้รอดชีวิตย่านโกฟเวอร์เนอร์ เบย์ ในเมืองไครสต์เชิร์ช เขียนในจดหมายถึงสื่อมวลชน บอกเล่าเรื่อง "40 วินาทีสยองที่สุดในชีวิตผม" ว่าตกใจตื่นขึ้นมาด้วยเสียงกึกก้องของแผ่นดินไหว และพบว่าบ้านของตนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ตอนนี้ยังผวาไม่หายเวลาเดินผ่านห้องนอน หรือเข้าห้องน้ำ พวกเราเกือบตายไปแล้ว <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    นางมาร์ชา ไวต์ฮิรา ซึ่งรอดชีวิตอย่างหวุด หวิด กล่าวว่า ปกติอยู่บ้านคนเดียว แต่เพื่อนที่บังเอิญ นอนค้างหลับอยู่บนโซฟาในบ้านวันนั้นช่วยชีวิตตนไว้ โดยฉุดขาตนและลากลงจากเตียงเพียงไม่กี่วินาทีก่อนก้อนอิฐจะหลุดจากกำแพงหล่นลงมาเฉียดหัวของตนไป

    "ฉันวิ่งหนีลงมาถึงประตูทางออก ไม่กี่นาทีต่อมาทุกอย่างในบ้านรอบๆ ตัวก็ถล่มลงมา ถ้าเขาไม่อยู่ที่นั่น ฉันคงไม่ได้มานั่งเล่าให้ฟังอยู่นี่แล้วล่ะ"

    ด้านโฆษกหญิงโรงพยาบาลเมืองไครสต์ เชิร์ช ระบุว่า มีทารกคลอดออกมาดูโลกถึง 21 คน ภายใน 24 ชั่วโมงหลังแผ่นดินไหว โดยคนแรกคลอดออกมาลืมตาดูโลกใน 10 นาทีแรกขณะที่เมืองทั้งเมืองกำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง

    นางมิเรียม การ์เซีย ซึ่งกำลังคลอดลูกอยู่ที่บ้านขณะที่แผ่นดินไหวเริ่มเขย่าเมืองไครสต์เชิร์ช กล่าวว่า ตนแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเวลามันจะมาตรงกัน

    "เจ็บท้องจะคลอดมาหลายครั้งแล้วสัปดาห์นี้ พอจะคลอดจริงดันมีแผ่นดินไหวเนี่ยนะ!" นางการ์เซียกล่าวหลังคลอดลูกสาวชื่ออมีเลีย ใน โรงพยาบาลไครสต์เชิร์ชให้หลังแผ่นดินไหว 2 ชั่วโมง

    ขณะที่อีกรายหนึ่ง นางดานิก้า วีกส์ เล่า ว่า กำลังจะคลอดลูกอยู่ในโรงพยาบาลดังกล่าวขณะที่แผ่นดินไหวเริ่มเขย่าโรงพยาบาล สิ่งแรกที่จำได้คือ เห็นเครื่องกู้ชีพสองเครื่องวิ่งถลาเข้ามาหา

    "ฉันคิดประมาณว่า โอ้พระเจ้า นี่ฉันกับลูกทำรึเปล่า คลอดทีเปลือกโลกเคลื่อนเลยหรือ" นางวีกส์กล่าว หลังคลอดลูกชายชื่อ ลินคอร์น พร้อมระบุว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวนั้นรุนแรงมากขนาดทำให้สาวท้องแก่ทั้งหลายถึงกับเจ็บท้องต้องคลอดลูกกันได้เลยทีเดียว

    ผวารำลึก9/11เผา"กุรอาน"



    เมื่อ 7 ก.ย. เอเอฟพีรายงานว่า พลเอก เดวิด เพเทรอัส ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐในอัฟกานิสถานเตือนกลุ่มเคร่งศาสนาคริสต์ในรัฐฟลอริดาของสหรัฐว่า อย่าเผาคัมภีร์อัลกุร อาน ซึ่งเป็นคัมภีร์สอนศาสนาของชาวมุสลิม ในวันครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์วินาศกรรมสหรัฐ 11 กันยายนที่กำลังจะมาถึง เพราะทหารสหรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในประเทศมุสลิมจะเป็นอันตรายจากความโกรธแค้นของพี่น้องมุสลิม ขณะที่อิหร่านขู่ว่าถ้ามีการเผาคัมภีร์ชาวมุสลิมจะตอบโต้อย่างรุนแรง


    โจลี่รุดปากีฯวอนช่วยเหยื่อน้ำท่วม



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 7 ก.ย. เอเอฟพีรายงานว่า แองเจลิน่า โจลี่ ดาราสาวฮอลลีวู้ด วัย 34 ปี ในฐานะทูตสันถวไมตรีของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสห ประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) เดินทางไปเยี่ยมเหยื่อน้ำท่วมในปากีสถานที่ยังรอคอยความช่วยเหลือจากทั่วโลกในเหตุการณ์น้ำท่วมที่ร้ายแรงที่สุดของประเทศ เพื่อจะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาคมโลกยื่นมือเข้าช่วยเหลือปากีสถาน หลังจากเงินบริจาคช่วยปากีสถานรวมถึงความช่วยเหลืออื่นๆ เป็นไปอย่างล่าช้า

    โจลี่ลงพื้นที่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือ พื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด ซึ่งมีผู้ลี้ภัยกว่า 1.7 ล้านคน อาศัยอยู่ตามเต็นท์และที่พักพิงชั่วคราว พร้อมกล่าวเรียกร้องให้ทั่วโลกบริจาคเงินช่วยเหลือชาวปากีสถาน 21 ล้านคน ที่ประสบภัย ส่วนตัวเองบริจาคให้แล้ว 3 ล้านบาท ซึ่งการไปเยี่ยมปากีสถานครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ของโจลี่ ตั้งแต่ได้เป็นทูตสันถวไมตรี เมื่อปี 2544


     
  2. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    วันที่ 08 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 19:34:40 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->
    <center></center>
    [FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]พิษน้ำท่วมพิจิตรไร่นายับกว่าแสนไร่ลำน้ำปาว ลำน้ำชีเอ่อ

    [/FONT][FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]เมื่อ วันที่ 8 กันยายน ที่ จ.พิจิตร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำยม อ.สามง่าม น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน หมู่ที่ 4 ต.สามง่าม รวมทั้งน้ำกัดเซาะตลิ่งริมแม่น้ำพัง ทำให้บ้านนาย เสกสรร จิตรมั่น เลขที่ 123/1 หมู่ที่ 4 ต.สามง่าม เสียหายทั้งหลัง ต่อมานายประมวล ปิ่นมาศ นายกเทศบาลตำบลสามง่าม มอบเงินช่วยเหลือ 30,000 บาท พร้อมประกาศเตือนชาวบ้านที่อาศัยริมตลิ่งแม่น้ำยม ให้ขนย้ายสิ่งของออกมาในที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม มีรายงานสรุปความเสียหายจากน้ำท่วม 12 อำเภอ 65 ตำบล 555 หมู่บ้าน ไร่นาถูกน้ำท่วมเสียหาย 121,629 ไร่ ถนนเสียหาย 57 สาย ทำนบพัง 17 แห่ง ท่อระบายน้ำ 16 แห่ง บ่อปลา 6 บ่อ สวนสาธารณะ 4 แห่ง บ้านเรือนถูกน้ำท่วม 25,939 ครอบครัว ประชาชนเดือดร้อน 76648 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 คน

    ที่ จ.กาฬสินธุ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วม หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ติดกับลำน้ำปาว ลำน้ำชี ในเขต อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย อ.ยางตลาดและ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ทำให้นาข้าวได้รับความเสียหายแล้ว 6 หมื่นไร่ ทางจังหวัดกาฬสินธุ์ประกาศให้พื้นที่อย่างน้อย 12 อำเภอ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วม

    ด้านนายวิศว ศะศิสมิต ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า สถานการณ์น้ำมีปริมาณสูงขึ้นใกล้ถึงขีดอันตราย หลายอำเภอริมแม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มมีปัญหาน้ำท่วม จึงตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจแก้ปัญหาน้ำท่วมที่ศาลากลางจังหวัด พร้อมสั่งองค์กรปกครอง่สวนท้องถิ่น (อปท.) ทุกแห่งเตรียมตรวจวัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและเฝ้าระวังติดตาม สถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะมีแนวโน้มระดับสูงขึ้นจะเกิดพื้นที่อันตรายหลายแห่ง จึงประกาศพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินในพื้นที่เสี่ยงภัย 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ป่าโมก ไชโย วิเศษชัยชาญ และโพธิ์ทอง เพื่อช่วยเหลือได้ทันท่วงที
    [/FONT]
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    Planet X (Nibiru)
    ดาวแห่งตำนานที่จะกลับมาเยือน !!!

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    Anunnaki จาก Nibiru พระเจ้าของชาวสุเมเรียน

    เมื่อครั้งอดีตกาล มีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากนอกโลก ได้เคยลงมาตั้งหลักแหล่งในพื้นพิภพของเรา ได้ทำการเปลี่ยนแปลงโลกเราจนกลายเป็นอาณานิคม สิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกับ "พระเจ้า" ที่พูดกันในคัมภีร์พันธสัญญาเก่า พวกเขาทำเรื่องเซอร์ไพรส์มนุษย์ยุคหลังอย่างเราไว้มากมาย โดยเฉพาะ เรื่องราวที่พวกเขากระทำและมีบันทึกไว้ในบทเยเนซิสของไบเบิ้ล ว่าด้วยการสร้างมนุษย์โดยการดัดแปลง DNA ในไบเบิ้ลไม่ได้ระบุเอาไว้ว่าสรวงสวรรค์ของเอโลฮิม หรือพระเจ้าเหล่านี้อยู่ที่ไหนกันแน่ แต่ในจารึกของชาวสุเมเรียน ซึ่งถือได้ว่าเป็นต้นตอเดียวกัน ระบุเอาไว้อย่างชัดแจ้งว่าพระเจ้า หรือ Anunnaki ของพวกเขานั้น มาจากดาวเคราะห์ที่ชื่อว่า Nibiru

    ดาวพลูโตเพิ่งถูกค้นพบโดยไคร์ ทอมบอร์ เมื่อปี ค.ศ.1930 แต่ชาวสุเมเรียนกล่าวถึงดาวพลูโตเมื่อกว่า 4,000 ปีมาแล้ว

    จากการถอดรหัสอักษรคูนิฟอร์ม มากกว่าสองพันชุดที่จารึกเรื่องราวในดินแดนแถบอ่าวเปอร์เซียเอาไว้ บางจารึกมีอายุถึงหกพันปี บางจารึกก็แตกหักไม่สมบูรณ์แถมยังกระจายอยู่ตามพิพิธภัณฑ์ทั่วโลก มีจารึกคูนิฟอร์มชิ้นนึงที่ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ในประเทศเยอรมันกล่าวถึงรายละเอียดทางดาราศาสตร์บางประการ โดยเฉพาะที่ชี้ว่าโลกถือเป็นดาวเคราะห์ดวงที่เจ็ดหากนับจากดาวพลูโตนี่แหละค่ะ ชาวสุเมเรียนโบราณเค้ารู้จักดาวพลูโตกันได้อย่างไร น่าทึ่งนะคะ ยังมีสิ่งน่าทึ่งกว่านี้อีก ในจารึกของชาวสุเมเรียนโบราณบอกไว้อย่างชัดแจ้งว่าพวกเขามาจากห้วงท้องฟ้า ที่เรียกกันว่า Nibiru

    The Planet X ?

    โลกของเราเป็นหนึ่งในสมาชิกของระบบสุริยจักรวาล หรือ Solar System และพวกเราก็เรียนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า ระบบสุริยะมีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง และมีบริวารเป็นดาวเคราะห์ทั้งสิ้น 9 ดวง แต่มีอยู่สองดวงคือเนปจูนและพลูโตที่มีอาการแปลกๆ นักดาราศาสตร์ใหญ่ทั้งหลายต่างก็กังขากันใหญ่ว่ามันจะมาจากอิทธิพลของดาว เคราะห์ดวงที่สิบหรือไม่?

    ในปี 1841 John Couch Adams เริ่มตะหงิดๆใจกับการโคจรแบบแปลกๆของดาวยูเรนัส คล้ายๆกับมีปฏิกิริยากับแรงดึงดูดอะไรซักอย่าง จากการค้นพบของ Adams ทำให้หลายๆคนเริ่มค้นคว้าเรื่องนี้กันมากขึ้น ในปี 1845 เลอวาริเยร์ (Urbain Le Verrier ) ได้เริ่มค้นหามันด้วยเช่นกัน เพราะอาการของดาวยูเรนัสนี้ต้องเป็นผลมาจาก แรงดึงดูดของดาวเคราห์อีกซักดวงเป็นแน่ นั่นคือการนำมาของการค้นพบดาวเคราะห์ดวงที่แปด เนปจูน เดือนกันยายนปี 1846 เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังมีการค้นพบดาวเนปจูน Le Verrier ยังคงสงสัยว่าน่าจะมีดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่ง ที่มีอิทธิพลกับดาวยูเรนัสแน่นอน ล่วงมาถึงเดือนตุลาคมปีเดียวกัน มีการค้นพบดวงจันทร์ขนาดยักษ์ที่เป็นดาวบริวารของดาวเคราะห์เนปจูน หลายคนคิดว่าตัวเองได้คำตอบเรื่องแรงดึงดูดกับดาวยูเรนัสแล้ว แต่มันจะไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ..ว่ามั๊ย

    ในปี 1879 นักดาราศาสตร์ชื่อ Camille Flammarion ได้ให้ข้อสังเกตไว้ว่า มันต้องมีดาวเคราะห์อีกซักดวง ที่อยู่ถัดจากดาวเนปจูออกไปแน่ๆ โดยอาศัยการคำนวณเรื่องวงโคจรของดาวหางและอุกาบาตเป็นหลัก เปอร์ซิวาล โลเวล เจ้าของงานเขียนเรื่องคลองบนดาวอังคารอันลือลั่น ได้เริ่มศึกษาและค้นหาดาวเคราะห์ดวงที่ยังไม่มีการค้นพบอย่างเงียบๆในรัฐอริโซนา โลเวลเรียกการค้นคว้าของเขาในครั้งนี้ว่า การค้นหา Planet X โลเวลพยายามหลายๆต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จแต่อย่างใด ด้วยความบังเอิญ เปอร์ซิวาล โลเวลของเรา จับตำแหน่งดาวเคราะห์ที่ยังไม่มีใครรู้จักได้หลายครั้ง แต่นั่นเป็นเวลาก่อนที่จะค้นพบดาวพลูโต ใครๆเลยคิดกันว่าดาวที่โลเวลพบเป็นดาวพลูโตไป (ดาวพลูโตถูกค้นพบในปี 1930)

    ปัจจุบัน ดร.โทมัส ซี แวน แฟลนเดิร์น แห่งราชนาวีสหรัฐ ได้ยืนยันถึงการศึกษาของทางราชนาวี และให้สมมุติฐานว่าน่าจะมีดาวเคราะห์อีกดวงที่อยู่ถัดไปจากดาวพลูโต เป็นดาวขนาดค่อนข้างใหญ่เสียด้วย ใหญ่พอๆกับ Jupiter เชียวหละ

    ครั้งล่าสุดที่มีการบักทึกไว้อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับ Planet X คงจะเป็นปี 1982 เมื่อเจ้าหน้าที่ขององค์การ NASA ประกาศว่าค้นพบ "วัตถุลึกลับซึ่งคาดว่าจะเป็นดาวเคราะห์ในแถบบริเวณของดาวเคราะห์วงนอก" หนึ่งปีต่อมาหลังจากการยิงดาวเทียม IRAS (Infrared Astronomical Satellite) ขึ้นสู่วงโคจร เจ้าดาวเทียมนี้จับภาพวัตถุคล้ายดาวเคราะห์ขนาดใหญ่ได้ เล่นเอาฮือฮาไปตามๆกัน Gerry Neugebauer หัวหน้าหน่วยวิจัย IRAS ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ว่า "เจ้าวัตถุที่ว่ามีขนาดใหญ่ยักษ์ยังกะดาวพฤหัส มันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของดาวบริวารในระบบสุริยะ เราพบมันในทิศทางเดียวกับกลุ่มดาวนายพราน บอกได้อย่างเดียวครับว่าเราไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นอะไรกันแน่"

    โลกเป็นเพียงดาวเคราะห์ที่มีครึ่งดวง!!!

    ตามจารึกโบราณบอกว่า Nibiru มันโคจรรอบดวงอาทิตย์สองดวง ชื่อ Nemesis ที่นักดาราศาสตร์ตั้งสมมุติฐานและคาดว่าเป็นดวงอาทิตย์คู่กับ The sun ของเรา แต่อ่อนแสงลงมากแล้ว วงโคจรของ Nibiru กินเวลา 3,600 ปีแน่ะ รอบวงปีนี้ชาวสุเมเรียนเรียกว่า Shar และพระเจ้าของชาวสุเมเรียนที่ชื่อ Anunnaki ผู้มาจาก Nibiru ได้มาเยือน พัฒนาและครอบครองโลกของเราเป็นระยะเวลามากกว่า 124 Shar (คูณกันเอาเอง) มีการจัดตั้งรัฐบาล อาณานิคม การทำเหมืองเพื่อขุดค้นทรัพยากร จนกระทั่งวาระสุดท้ายของอารยธรรมนี้ ที่ถูกกลืนหายไปในไฟสงคราม สงครามขนาดใหญ่ซึ่งทำลายอารยธรรมของเมโสโปเตเมีย อียิปต์ และลุ่มน้ำสินธุบางส่วนไป เหตุการณ์ตรงนี้เกิดขึ้นเมื่อสองพันปีก่อน ค.ศ. หรือว่าประมาณห้าพันปีมาแล้ว

    ทุกคนที่เคยเรียนภูมิศาสตร์กันมาน่าจะเคยเรียนทฤษฎีที่ว่า ในสมัยที่โลกยังอายุเยาว์อยู่ แผ่นดินบนโลกนี้เคยติดกันอยู่เป็นทวีปเดียว ทฤษฎีนี้เพิ่งมาศึกษากันเมื่อร้อยกว่าปีมานี้แต่ชาวสุเมเรียนรู้ล่วงหน้าพวกเราถึงหกพันปี แถมมีแผนที่จารึกอยู่บนแผ่นดินเหนียวเสียด้วย

    การที่โลกแบ่งออกเป็นทวีปๆก็เพราะ Continental Drift หรือการเคลื่อนตัวของแผ่นดินนั่นเอง มันเป็นไปอย่างช้ามาก และค่อยเป็นค่อยไป จนกลายเป็นแผ่นดินที่พวกเราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน หากดูแผนที่ดีๆเราจะสามารถเอาทวีปต่างๆ มาต่อกันเป็นชิ้นเดียวได้เหมือนจิ๊กซอว์เลย ถึงงั้นก็เถอะแผนที่ที่ต่อกันมันจะยังดูแหม่งๆคล้ายกับขาดอะไรไป นักภูมิศาสตร์ที่รู้สึกถึงเจ้าความแหม่งที่ว่าเลยพากันศึกษากันใหญ่และได้ ข้อสรุปที่น่าตกใจออกมา "โลกเป็นเพียงดาวเคราะห์ที่มีครึ่งดวง" เหมือนลูกบอลดินเผาที่โดนชนกระจุยหายไปส่วนหนึ่ง นักภูมิศาสตร์บางท่านบอกว่า หากสูบน้ำออกจากมหาสมุทรต่างๆได้หมด เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า โลกได้หลุดหายไปกระบิหนึ่ง และไอ้ส่วนที่เคยเป็นกระบิที่หายไปนั่นแหละคือมหาสุทรต่างๆในปัจจุบัน

    ชาวสุเมเรียนเค้าตอบให้ได้เสร็จสรรพเลยว่าทำไมจึงเป็นแบบนี้ พวกเค้าบันทึกเอาไว้ว่าโลกโดนดาว Nibiru เฉี่ยวเอา ไม่มีบันทึกแน่ชัดว่านานเท่าไหร่แล้ว แต่ผลจากการกระทบไหล่ของดาวเคราะห์ทั้งสองดวงนี้ี้ ทำให้โลกของเราแหว่งไปส่วนหนึ่ง เศษชิ้นส่วนของดาวเคราะห์ทั้งสองกระจัดกระจายกลายเป็นวงแหวนดาวเคราะห์น้อย โคจรอยู่รอบดวงอาทิตย์นั่นเอง (บางตำราได้กล่าวว่า ดวงจันทร์ 1 ใน 4 ที่ชื่อไทมัสของนิบิรุต่างหากที่ชนโลก)

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    การกลับมาอีกครั้ง ของ Nibiru

    จากบันทึกของชาวสุเมเรียนบอกว่า ดาวดวงนี้เจิดจ้ามาก แสดงว่ามันต้องใหญ่มากๆ จากภาพโบราณที่พบในเมือง Nippur ภาพนี้ จะเห็นว่า เกษตรกรที่กำลังทำกสิกรรมอยู่นั้น มองไปยังดาว Nibiru ซึ่งแทนด้วยสัญลักษณ์กากบาท (ชาวสุเมเรียนโบราณเรียก Nibiru ว่า Planet of the Cross และแทนมันด้วยสัญลักษณ์กากบาท)

    และยังได้เอ่ยถึงคำทำนายล่วงหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อดาวดวงนี้โคจรมาอยู่ใกล้โลก ภัยพิบัติเช่นแผ่นดินไหวและน้ำท่วมก็จะตามมา ก็แน่ล่ะ ออกจะใหญ่โตซะขนาดนั้น แรงดึงดูดที่ส่งผลต่อโลกย่อมทำให้เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ชาวฮีบรูว์ก็รู้จักดาวดวงนี้ดี พวกเขาถือว่าการปรากฏของ Nibiru บนท้องฟ้านับเป็นนิมิตแห่งการเริ่มต้นยุคใหม่ของโลก ที่มาของภัยพิบัติทั้งหลายในคัมภีร์พันธสัญญาเก่า ก็น่าจะมีสาเหตุมาจาก Nibiru นี่แหละ

    เมื่อไรก็ตามที่ดาวเคราะห์ยักษ์ดวงนี้โคจรเข้ามาเฉียดโลกอีกวาระหนึ่งแล้วหละก็ เมื่อนั้นคำกล่าวของเอไสยะในพระคัมภีร์ก็จะไม่มีใครกังขาอีกต่อไปว่า คำกล่าวนี้กล่าวถึงกองทัพของพระเจ้า หรือพลานุภาพจากแรงดึงดูดของดาวเคราะห์ดวงนี้กันแน่ มีคนเห็นเหมือนกัน แต่เห็นแบบไม่สามารถจับจุดวงโคจรของดาวดวงนี้ได้ ยังไม่มีการสรุปออกมาเป็นเชิงวิชาการ มีแต่ข้อสันนิษฐานค่ะ แต่มีการส่องกล้องพบมันจริงๆ

    ตามตำราและการค้นคว้ากล่าวไว้ว่า ช่วงเวลาล่าสุดที่ Nibiru โคจรเข้ามาใกล้กับโลกนั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่กล่าวถึงในพระคัมภีร์ไบเบิล นั่นคือ Exodus อันเป็นช่วงเวลาที่ชาวยิวหนีออกมาจากอียิปต์ ไม่แน่ใจว่า Exodus มันกี่ปีแล้ว แต่ประมาณว่า 4,000 กว่าปี ถ้าคาบวงโคจรของ Nibiru เป็น 3,600 ปี ตอนนี้ มันน่าจะยังอยู่ไกลมากทีเดียวแหละ

    [​IMG]

    แถมๆ อยากให้ดูเล่นๆ ภาพของกษัตริย์ปากาลแห่งมายา ขณะเดินทางด้วยพาหนะเพื่อไปพบพระเจ้าบนสวรรค์

    ***อ่านแล้ว อย่าเพิ่งตัดสินใจเชื่อ ควรใช้พิจารณญาณในการอ่าน***

    โพสต์ข้อความโดยคุณ BlackBerry วันพฤหัสฯที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2009 11:04 am

    ที่มา http://board.dragonica.in.th/viewtopic.php?f=9&t=1132&start=0&sid=57147e0877221b6ef76f0756b51fe1cf
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "ความฝัน เทพสังหรณ์" สัญญานเตือนจากเบื้องบน

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Heureuse<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3745796", true); </SCRIPT> สมาชิก

    เมื่ออาทิตย์ก่อนฝันเห็นเมืองไทย โดยมองอยู่บนอากาศ เห็นเป็นเเนวยาวเหมือนภูเขาลากตั้งเเต่ภาคเหนือลงมา จนถึงอ่าวไทย ส่วนภาคตะวันออกอีสานเห็นว่าเเผ่นดินมีระดับต่ำลง อันที่จริงไม่รู้เป็นเพราะว่าเเนวตะวันตกที่ยกตัวขึ้นหรือว่าตะวันออกที่ยกตัวลง เเต่เห็นว่ามีความต่างของทั้งสองเเผ่นดิน

    [​IMG]

    เเนวที่สูงเหมือนภูเขา คือที่วงเอาไว้ ส่วนภาคอื่นๆไม่รุ้ว่าเเผ่นดินต่ำลงหรือระดับเท่าเดิม​

    [​IMG]

    จำได้ไม่ค่อยละเอียดเท่าไรจำเส้นเเยกได้ไม่ค่อยชัด ตอนเเรกคิดว่าจะไม่เล่า เพราะรู้สึกว่าอาจจะไร้สาระก็ได้​

    [​IMG]

    เเผ่นตะวันตก เเละเเผ่นตะวันออก<!-- google_ad_section_end --> ​

    04-09-2010, 04:42 PM

    [​IMG]

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sagi_kaew<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3742217", true); </SCRIPT> สมาชิก

    สวัสดีค่ะ หนูได้เข้ามาอ่านอยู่บ่อยๆ ครั้งนี้จะขอแชร์ความฝันที่เพิ่งฝันมาเมื่อคืนให้ฟังบ้าง

    เมื่อคืน..ฝันว่านั่งทานข้าวอยู่บนตึกสูง แล้วเห็นคล้ายๆเครื่องบินกำลังดิ่งลงมาแบบไร้การควบคุม หนูก็ตกใจมาก คิดว่าเครื่องบินตกแน่ๆ พอมันถึงพื้น ก็เห็นเป็นควันแล้วก็ไฟไหม้ คนวิ่งหนีกันอลหม่าน

    แต่ในฝันครั้งนี้ หนูรู้ตัวว่าหนูฝันอยู่ เพราะยังคิดอยู่เลยว่า ถ้าตื่นแล้วจะไปหาข่าวดู ว่ามีข่าวเครื่องบินตกอะไรแบบนี้มั้ย พอตื่นมาทบทวนเรื่องราวในฝัน พอนึกถึงรูปร่างของวัตถุที่หนูคิดว่าเป็นเครื่องบิน คือในฝัน จิตเราบอกว่าเป็นเครื่องบิน แต่ตาเราเห็นว่ามันอะไรที่คล้ายๆกับขีปนาวุธ แล้วตรงที่หางมีรูปธงของประเทศอิสราเอลติดอยู่ด้วย<!-- google_ad_section_end -->

    นอกจากนี้เคยฝันว่า....

    1) ช่วงเดือนมีนาคม 53 ...ฝันว่าที่ อ.เมือง เชียงใหม่ ตรงประตูเชียงใหม่ มีแต่ไฟลุกท่วมเมือง มีควัน คนบ้าคลั่ง เสื้อผ้าขาด มีคนตายเต็มไปหมด คนที่เหลือก็เป็นบ้า ขาดสติ ทำร้ายกันเอง

    2) ผ่านจากฝันครั้งแรกไปประมาณ 2-3 อาทิตย์ ....ฝันว่า ที่สะพานแก้วนวรัฐ เชียงใหม่ มองเข้าไปตาม ถ.เจริญเมือง เห็นแต่ควันไฟตามตึก ละก็ศพคนนอนประปรายตามถนน คล้ายเหมือนเมืองร้างในหนังเลยค่ะ

    3) ช่วงกลางๆเดือนเมษา...ฝันว่า เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เชียงใหม่ แล้วหลังจากนั้นหนูก็รีบขับรถเข้าไปในมช. เพื่อไปบอกเพื่อนๆว่า เดี๋ยวจะมีน้ำท่วม แล้วก็จะท่วมในมช.ด้วย แต่ไม่มีคนเชื่อ ก็พาเพื่อนหนีมาได้บ้างบางคน

    4) ช่วงมิถุนายน...ฝันว่า เกิดโรคระบาด คือคนมีเลือดออกตามผิวหนัง เห็นเด็กเลือดเต็มหน้าแล้วร้องไห้ ไม่ใช่บาดเจ็บหรืออะไร แต่มีคนบอกในฝันว่าเป็นโรคระบาด

    5) ช่วงกรกฎา....อันนี้ชัดเจนมากๆค่ะ ฝันว่า ไปเดินเที่ยวคล้ายๆตลาด แต่ว่าอยู่ในป่า 2 ข้างทางเป็นต้นไม้ มีคนขายของเหมือนถนนคนเดิน (ขายกับข้าว น้ำ ขนม) แต่ว่าก็จะมืดๆ มีแค่แสงเทียนสลัวๆ แต่ว่าหนูก็ไม่ได้กลัว

    แต่ที่สำคัญคือมีงูอยู่เต็มไปหมด งูเยอะมาก นอนขดอยู่ตามถนนที่เราเดิน นอนบนต้นไม้ เยอะมากๆๆๆๆๆ เป็นร้อยๆเลย มีทั้งตัวใหญ่ตัวเล็ก แต่ว่าก็ไม่ทำอะไร แค่นอนแล้วก็มองเรา หนูก็กลัวนิดหน่อย คือกลัวจะไปเหยียบเค้า แต่ว่าไม่ได้รังเกียจหรือขยะแขยง

    หลังจากนั้น...มีเสียงคนตะโกนขึ้นมาจากด้านหน้าว่า "หนีเร็ว" แล้วทุกคนก็วิ่งแตกตื่นกันใหญ่ แล้วก็มีคนบอกว่า "ตามงูไปเลย" แล้วหนูก็เห็นงูทุกตัวเลื้อยด้วยความเร็วไปตามถนน ซึ่งคล้ายๆถนนขึ้นดอย คืองูเต็มถนนเลยค่ะ แล้วคนก็วิ่งๆตามกันไป

    ซักแป๊ป ทุกคนก็มาอยู่บนภูเขาสูง..มีทางเดินขึ้นบันได แล้วก็มีคล้ายๆกับศาลากว้างๆอยู่ 1 หลัง แต่ก็ไม่เชิงเป็นศาลาเท่าไหร่ มันดูกลมๆรีๆ แต่ใหญ่มากกกก คือคนเข้ามาเรื่อยๆก็ไม่เต็ม มีหลังคา มีเก้าอี้ให้นั่ง แล้วก็มีคนบอกว่า ให้รออยู่ในนี้ เพราะข้างนอกจะเกิดแผ่นดินไหว จะเป็นอันตราย

    อยู่ในนั้นไปซักแป๊ป ก็ได้ออกมา แล้วออกมายืนดูข้างนอก ก็เห็นเมืองเชียงใหม่ (คล้ายๆมุมมองจากจุดชมวิวบนดอยสุเทพ) มีแต่ควัน ตึกพังไปเยอะมาก

    หลังจากนั้น หนูกับเพื่อนก็เข้าไปสำรวจเมืองกัน เพื่อหาคนที่ติดอยู่ในตึก คือเมืองเละมากเลยค่ะ เห็นเหล็กที่มันอยู่ในเสาโผล่ออกมา ควันฝุ่น คนที่ออกมาได้ก็มีแต่ฝุ่นมีแต่แผล อันนี้.....น่ากลัวสุดๆ

    ก็ประมาณนี้ค่ะ..ที่ฝันมาเป็นแนวนี้ เลยเอามาแชร์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกันค่ะ

    <!-- google_ad_section_end -->03-09-2010, 04:37 PM

    ที่มา http://palungjit.org/threads/ความฝัน-เทพสังหรณ์-สัญญานเตือนจากเบื้องบน.79471/page-137
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  5. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    เรื่องเครื่องทำโอโซน เข้าใจแล้วค่ะ เมื่อวานมีเวลา เลยเซิจเข้าไปดู นึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อน(สมัยมีใหม่ๆมังคะ) เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ แต่ลืม คุณคณานันท์ไม่ต้องเข้ามาตอบก็ได้ค่ะ
    เรื่องความฝันต่างๆที่เข้ามาเตือนกัน ก็ดีนะคะ เป็นการเตือนสติ ให้ไม่หลงลืมว่า อันตรายอาจอยู่ใกล้กว่าที่คิด อย่าคิดว่าเมืองเราประเทศเราจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าเกิดกับเราจริง จะได้พอมีทางหนีทีไล่ หรือถ้าเกิดกับเพื่อนฝูง คนรู้จัก (ในกรณีที่ไม่ได้เกิดทุกพื้นที่) จะได้พอมีทางช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้บ้าง ถึงจะไม่เกิด ก็เป็นการเตือนใจเอาไว้ในใส่ใจในการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นผลดีแก่ตนเอง ไม่เสียหลายค่ะ มีแต่ทางได้
    อนุโมทนา สาธุ กับผู้บอกบุญทุกท่านค่ะ
     
  6. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
     
  7. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • A1.JPG
      A1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      66.6 KB
      เปิดดู:
      1,099
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ตอนบนของประเทศไทยมีฝนมากขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ประเทศไทยตอนบน มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ขณะที่ กทม.ยังมีฝน 60% ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง...

    กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 9 ก.ย.2553 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

    ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศลาวตอนบน และภาคเหนือของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะนี้


    อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน กำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะฮ่องกงและประเทศจีนตอนใต้ ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย


    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ และ เพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเลย ชัยภูมิ หนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม และมุกดาหารอุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรีอุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และ นครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตรส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>อีก30ปีข้างหน้า อุณหภูมิไทยจะสูงขึ้น3-4องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>จุฬาฯเผยผลวิเคราะห์แบบจำลองสภาพภูมิอากาศของไทยช่วงปี พ.ศ.2588 – 2608 พบอีก 30 ปีข้างหน้าอุณหภูมิประเทศเฉลี่ยสูงขึ้น 3-4 องศา น้ำทะเลชายฝั่งอ่าวไทย “กทม.-ระยอง–เพชรบุรี-นราธิวาส” สูงขึ้น 14-15 ซ.ม. ...


    เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ผศ.ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( SEA START RC ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    กล่าวในเวทีวิชาการเรื่อง การคาดคะเนผลกระทบเชิงกายภาพของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อประเทศไทย จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ว่า จากการวิเคราะห์แบบจำลองสภาพภูมิอากาศของประเทศไทยในช่วงปี พ.ศ.2588 – 2608 ในขอบเขต 8 พื้นที่ตามลักษณะของสภาพทางธรณีวิทยาและภูมิประเทศ ตั้งแต่บริเวณเทือกเขาสูง ที่ราบลุ่มและชายฝั่งทะเล โดยใช้องค์ความรู้ที่มีอยู่ เช่น การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝนและระดับน้ำทะเลในการศึกษา พบว่า อีก 30 ปีข้างหน้าอุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทยจะสูงขึ้นอีก 3 – 4 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาทางภาคเหนือจะมีอุณภูมิสูงขึ้นมากกว่าพื้นที่อื่น

    ทั้งนี้ยังพบว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะเกิดขึ้นในฤดูฝนและหนาว ส่งผลให้ในอนาคตฤดูร้อนกับฤดูหนาวของประเทศไทยจะไม่แตกต่างกันมากนัก

    นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังเป็นปัจจัยเสริมให้เกิดโดมความร้อนที่รุนแรงขึ้นในเขตเมือง ในทุกช่วงเวลาทั้งกลางวัน กลางคืนและทุกฤดูกาล ซึ่งอันตรายที่เกิดจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นในหน้าร้อนจะเพิ่มขึ้น หากความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูง ส่งผลให้ระบบเมตาบอลิซึมในร่างกายล้มเหลวเป็นอันตรายถึงชีวิต


    ผศ.ดร.อานนท์ กล่าวอีกว่า จากแบบจำลองดังกล่าวยังคาดการณ์ว่าระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 14 – 15 เซนติเมตร

    ซึ่งจะทำให้ชายฝั่งบริเวณอ่าวไทยได้ผลรับผลกระทบเป็นอย่างมาก ชายฝั่งที่ประสบปัญหารุนแรง คือ กรุงเทพมหานครและบริเวณใกล้เคียงที่ตั้งอยู่ใกล้ปากแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก รวมถึงชายฝั่งจังหวัดระยอง เพชรบุรีลงไปถึงนราธิวาส ไม่เพียงเท่านี้ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยยังมีแนวโน้มแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ โดยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันตกจะมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยลดลงถึง 70 – 100 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวเกิดความแห้งแล้งและขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค ในขณะที่บางพื้นที่บริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกกลับมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยต่อปี สูงขึ้นมากถึง 300 มิลลิเมตร ซึ่งจะส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมตามหัวเมืองใหญ่ แหล่งท่องเที่ยวและเขตเศรษฐกิจต่างๆ

    นอกจากนี้ แบบจำลองสภาพภูมิอากาศจากหลายๆประเทศทั่วโลก ยังชี้ว่าในปีพ.ศ.2643 เหตุการณ์น้ำท่วมรุนแรงจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า โดยมีโอกาสเกิด 3 – 6 ครั้ง ในช่วง 100 ปี ซึ่งต่างจากสมัยก่อนที่เกิดเพียง 1 ครั้งต่อ 100 ปี ทั้งนี้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มที่จะเกิดฝนตกหนักและน้ำ ท่วมบ่อยครั้งขึ้น

    “ประเทศไทยมีความอ่อนไหวต่อสภาวะน้ำท่วมและแผ่นดินถล่ม ดังนั้นจึงต้องให้ความสำคัญต่อการตั้งถิ่นฐานริมฝั่งแม่น้ำหรือชายฝั่งทะเล เพราะพื้นที่เหล่านี้จะเสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยในอนาคต ซึ่งหากยังไม่เตรียมการป้องกันย่อมส่งผลต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศโดยรวม ” ผศ.ดร.อานนท์ กล่าว.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ปมไม่ยอมขายที่ ทรพีฆ่าพ่อ พยานแอบเห็น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle>ภาพประกอบข่าวจากอินเตอร์เนท</TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ตำรวจอุบลฯ รวบลูกทรพี ร่วมมือกับพ่อตา ฆ่าพ่อแท้ๆ ของตัวเอง เหตุไม่ยอมขายที่ดิน ก่อนอำพรางศพเป็นอุบัติเหตุ พร้อมทำเนียนเข้าแจ้งความ ตำรวจไม่ปักใจเชื่อเหตุสภาพศพผิดปกติ ต่อมามีพยานที่แอบเห็นเหตุการณ์โผล่ให้การมัดตัว

    เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 8 ก.ย. พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ แสงจันทร์ ผกก.สภ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี และ พ.ต.ท.อดุลย์ สุรำไพ รอง ผกก.ปป. นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายอุเทน บาทสุวรรณ อายุ 39 ปี นายบุญยิ่ง บาทสุวรรณ อายุ 38 ปี และนายแต้ ทำสะอาด อายุ 50 ปี ชาว ต.นากระเซง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดเดชอุดม เลขที่ 124-126/53 ลงวันที่ 8 ก.ย. 53 ข้อหาร่วมกันฆ่าบุพการี โดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ ขณะหลบหนีอยู่ภายในกระท่อมนาทิศเหนือบ้านคำประเสริฐ ต.นากระแซง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี

    สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมชาย ผ่องเมืองปัก พงส.สบ.2 สภ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในขณะนั้น รับแจ้งจากนายอุเทน ว่าพบศพนายผ่าน บาทสุวรรณ บิดาของตนประสบอุบัติเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ตกคลองน้ำ ติดกับถนนบ้านหนองเงินฮ้อย-บ้านเตย ต.นากระแซง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี หลังรับแจ้งจึงได้ออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่พบว่า สภาพศพผู้ตายที่นอนเสียชีวิตคร่อมรถจักรยานยนต์อยู่บริเวณคลองน้ำนั้นผิดปกติ อีกทั้งผลชันสูตรจากแพทย์ยังแจ้งว่าเสียชีวิตเนื่องจากคอหัก จึงเชื่อว่าจะเป็นการฆาตกรรม แล้วนำศพมาทิ้งอำพรางคดี มากกว่าเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ โดยห่างจากจุดเกิดเหตุไม่มากนัก ยังพบผ้าห่มเปื้อนเลือดของผู้ตายตกอยู่ด้วย เจ้าหน้าที่จึงออกสืบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง

    กระทั่งพบพยานปากสำคัญ (ขอสงวนนาม) ยอมให้การว่า ในคืนวันที่ 10 มิ.ย. 53 ขณะที่ตนนอนพักผ่อนอยู่ภายในกระท่อมนาบ้านเตย ต.นากระแซง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ได้ยินเสียงนายอุเทน นายบุญยิ่ง ลูกชายนายผ่าน และนายแต้ พ่อตานายบุญยิ่ง กำลังรุมทำร้ายนายผ่าน อยู่ภายในกระท่อมนาใกล้ๆ กัน โดยทั้งหมดพยายามบังคับให้นายผ่านเอาที่ดินไปขาย เพื่อจะได้เงินมาแบ่งกัน เพราะภรรยาตายแล้ว เหลือนายผ่านเพียงคนเดียว แต่นายผ่านไม่ยอม ซึ่งพยานดังกล่าวได้ยินก็ตกใจ เกรงจะโดนฆ่าปิดปากไปด้วย เลยหนีออกจากกระท่อม ไปทำงานต่างจังหวัดหลายเดือน และเพิ่งกลับมาเยี่ยมบ้านเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มาขอสอบปากคำเกลี่ยกล่อมอยู่นาน กว่าจะยอมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง จนทำให้มีการออกหมายจับกุมดังกล่าว

    ขณะที่ พ.ต.อ. สิทธิศักดิ์ แสงจันทร์ ผกก.สภ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เปิดเผยถึงคดีดังกล่าวว่า เป็นคดีอุจฉกรรจ์ สะเทือนขวัญประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะฆาตรกรกลับเป็นลูกของผู้ตายเอง อีกทั้งก่อนหน้านี้ไม่มีผู้ใดยอมเป็นพยานเลย กระทั่งพยานปากสำคัญยอมเปิดปาก พยานคนอื่นๆ ก็พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วย ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาทั้ง 3 ยังให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่า พยานหลักฐานที่มีอยู่ จะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ ทั้งนี้ยังคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ด้วย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2010
  9. nut_20036

    nut_20036 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +1,776
    <TABLE border=1 cellSpacing=0 borderColor=blue cellPadding=5 width=600 bgColor=white><TBODY><TR><TD bgColor=blue align=middle>จับตา พายุหมุนเขตร้อนเมอรันตี</TD></TR><TR><TD>
    <TABLE border=0 width=590 align=center><TBODY><TR><TD>Tropical Storm 11W Meranti พายุโซนร้อน 11W เมอรันตี เมื่อ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา พายุได้เคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือพร้อมๆกับทวีกำลังขึ้นอีกเล็กน้อย ในขณะพายุมีศูนย์กลางห้างจากกรุงไทเปเกาะใต้หวันไปทางตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 210 กิโลเมตร หรือ 22.2 ัเหนือ 119.2 ํตะวันออก กำลังเคลื่อนที่ไปทางเหนือค่อนตะวันตกด้วยความเร็ว 9 น๊อต หรือ 16 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความเร็วลมรอบศูนย์กลางประมาณ 45 - 55 น๊อต หรือ 83 - 102 กิโลเมตรต่อชัวโมง ความกดอากาศ 995 มิลลิบาร์ พายุลูกนี้จะทวีกำลังขึ้นไปอีก และไม่มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย
    [​IMG]

    [​IMG]




    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ประมงได้ลาภ ตกปลายักษ์ ตัวเดียว 150,000 หยวน!

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 กันยายน 2553 14:25 น.

    [​IMG] <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table width="500" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="500" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ตัวเดียว อิ่มไปทั้งปี! ชาวบ้านผู้โชคดี กำลังคร่อมถ่ายรูปกับปลายักษ์ ที่เขาจับได้จากแม่น้ำเฮย์หลงเจียง ในอู่หยุน เมืองอวีย์ชุน มณฑลเฮย์หลงเจียง โดยคาดว่าปลาหนักเกือบ 500 ก.ก.ตัวนี้ จะขายได้ราคาสูงถึง 150,000 หยวน (ภาพเอเยนซี) </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> เอเยนซี-พี เพิ่ลเดลี่ สื่อจีนรายงานข่าวภาพ เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ว่าพี่น้องแซ่หย่ง จากหมู่บ้านเซิ่งลี่ ในอู่หยุน เมืองอวีย์ชุน มณฑลเฮย์หลงเจียง ได้โชคตกปลาตัวเดียว หายอดอยากไปทั้งปี

    พี่น้องแซ่หย่ง โชคดี ปลาเสตอร์เจียนยักษ์ติดเบ็ดขณะออกหาปลาในแม่น้ำเฮย์หลงเจียง รายงานข่าวกล่าวว่า ปลายักษ์ตัวนี้มีน้ำหนักมากกว่า 500 กิโลกรัม และยาวประมาณ 3 เมตร โดยคาดว่าจะขายได้ราคาสูงถึง 150,000 หยวน

    รายงานข่าวระบุว่า ปลาตัวนี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Huso dauricus เป็นสายพันธุ์เสตอร์เจียน (sturgeon) ที่มีต้นกำเนิดมาในโลกเมื่อ 130 ล้านปีที่แล้ว

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table width="500" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="500" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table width="500" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="500" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table width="500" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="500" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table width="470" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="470" align="center" valign="Top"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">แม่น้ำเฮย์หลงเจียง หรือ "แม่น้ำมังกรดำ" อันอุดมสมบูรณ์ ที่แนวต่อชายเแดนระหว่างจีนกับรัสเซีย (ภาพเอเยนซี) </td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  11. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    วันที่ 09 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 14:25:12 น. มติชนออนไลน์
    <center></center>
    ตร.ชี้ระเบิดป่วนเมือง 3 จุดทำคนเดียว ได้ร่องรอยพยานหลักฐานคน-รถต้องสงสัย "เหลิม"ฟันธงคงยืดฉุกเฉิน

    <style>p { margin: 0px; }</style> เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่ห้องประชุมปารุสกวัน 1 กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา (สบ10) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เจ้าหน้าที่จากหน่วย บก.สส. บช.ส. สพฐ. และสภ.เมืองจังหวัดนนทบุรี ร่วมประชุมกรณีพบวัตถุระเบิด 3 แห่งของเมื่อคืนที่ผ่านมาคือ 1.หน้าโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย เขตพญาไท ถนนศรีอยุธยา ท้องที่ สน.พญาไท 2.ลานจอดรถเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ท้องที่ สภ.เมืองนนทบุรี และ3.ลานจอดรถข้างสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ท้องที่ สภ.เมืองนนทบุรี

    พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. ได้กำชับตนให้เข้ามาดูแลคดีระเบิดที่เกิดขึ้นทั้งหมด ส่วนกรณีการพบวัตถุระเบิดทั้ง 3 แห่งนั้นจากการสรุปในที่ประชุมส่วนประกอบทั้งหมดรวมทั้งวงจรต่างๆ เป็นคนร้ายชุดเดียวกันทั้งหมด โดยมีเจตนาเพื่อให้เกิดความหวาดกลัวไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทาง พล.ต.อ.วิเชียร ก็ฝากผ่านตนมาว่า “ขอขอบคุณประชาชน รปภ.และพลเมืองดีที่มีส่วนในการแจ้งข่าวทั้ง 3 เหตุการณ์ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบจนสามารถเก็บกู้ระเบิดได้ทัน” ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ประชาชนควรจะช่วยกัน

    ผู้สื่อข่าวถามรูปแบบของระเบิดมีลักษณะเป็นอย่างไร รองผบ.ตร. กล่าวว่า เป็นการใช้ถังดับเพลิงโดยการไปขโมยมา 3 ถัง และเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบว่ามาจากที่ใด ส่วนรูปแบบของระเบิดนั้นเป็นการใช้ถังดับเพลิงและบรรจุอุปกรณ์ต่างๆต่อวงจร ที่สามารถตั้งเวลาได้ประมาณ 7 วัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดเป็นเพียงการข่มขู่

    ถามต่อน่าจะเป็นประเด็นการเมืองหรือการก่อวินาศกรรม พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า คนที่ทำไม่หวังดีต่อชาติและบ้านเมือง แต่การไม่หวังดีของคนกลุ่มนั้นก็ไม่ทราบว่าต้องการอะไรซึ่งทางตำรวจก็จะตรวจ สอบอีกครั้ง

    ถามต่อมีการเทียบเคียงระเบิดกับทางภาคใต้ว่ามีลักษณะเหมือนกันหรือ ไม่ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ กล่าวว่า มีลักษณะไม่เหมือนกันทีเดียวแต่ไม่เหมือนกับทางใต้ ส่วนลักษณะระเบิดในพื้นที่กทม.และปริมณฑลผู้ชำนาญการได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่า ทั้ง 3 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่เคยมีการประกอบระเบิดลักษณะนี้มาก่อน แต่ระเบิดทั้ง 3 จุดที่วางเมื่อคืนที่ผ่านมาเป็นผู้ประกอบระเบิดเพียงคนเดียวทั้งหมด ทั้ง 3 จุดนั้นทางตำรวจได้ร่องรอยพยานหลักฐาน รถต้องสงสัยรวมถึงบุคคลต้องสงสัยด้วยเช่นกัน และจะมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งหมดอีกครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ขอเวลาในการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งเพื่อดำเนินการจับกุมคนร้าย ต่อไป

    “ทาง ผบ.ตร.ก็เน้นย้ำมาว่าเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้มีการปรับแผนเรื่องการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทั้งนี้ขอเน้นย้ำว่าอย่าตื่นตระหนก หากพบเห็นวัตถุต้องสงสัยก็ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขอขอบคุณประชาชนที่ทำให้ตำรวจได้เบาะแสจากการ แจ้งข่าวที่รวดเร็วและทำให้สามารถเก็บกู้วัตถุระเบิดได้ทันที” พล.ต.อ.ภาณุพงศ์กล่าว

    ถามต่อการดูแลความปลอดภัยสถานีรถไฟฟ้ามีมาตรการอย่างไร รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า มีมาตรการดูแลต่อเนื่องมาตลอดเพื่อป้องกันกลุ่มที่ไม่ประสงค์ดีก่อเหตุร้าย
     
  12. ยาล้างตา

    ยาล้างตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +3,539

    ห่างเวปไปนาน ไม่ทราบข่าว คุณก้อง คงแข็งแรงขึ้นแล้วนะครับ
    2009 ระบาดมากจนกลายเป็นหวัดตามฤดูกาลไปแล้ว
     
  13. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เป็นเครื่องทำโอโซนครับ ซึ่งโอโซนนั้นจะช่วยฆ่าเชื้อโรคในอากาศได้ เพียงแต่ห้ามใช้ในปริมาณมากเกินไปครับ

    วันนี้พาคุณแม่ไปหาหมอ ที่รพ.สมิติเวช ปรากฏว่า ทุกเตียงในรพ.เต็มหมด รถติดมากๆ มีแต่คนใส่หน้ากากกันเชื้อครับ

    เรื่องนี้น่ากลัวแต่กลายเป็นเรื่องธรรมดา เพราะมีการปรับลดให้ไข้หวัด2009 เป็นไข้หวัดประจำถิ่นไปแล้ว นั่นคือจะไม่มีมาตราการอะไรเป็นพิเศษ ในการป้องกัน การกักบริเวณโรค การเฝ้าดูอาการ

    สรุปว่าทุกๆคนควรดูแลตนเองและครอบครัวให้มีสุขภาพดีครับ
     
  14. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    น่านเสี่ยงหลุมยุบ11อำเภอ

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


    <!-- Begin Media Content --><SCRIPT type=text/javascript>$(function() {$('#media-content').tabs();});</SCRIPT><!-- Media Picture content --><!-- Begin More Pics-->[​IMG]


    <!-- End More Pics -->
    <!-- End More picture--><!-- Begin Thumb More picture -->



    <!-- End Box Tools and more Picture-->สำนักธรณีวิทยาฯ เตือนน่านเสี่ยงเกิดหลุมยุบ 30 ตำบล 11 อำเภอ
    <!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>--><SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1284046071&num_ads=3&channel=8724309246&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.0.22.87&url=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2Fdetail%2Fpolitics%2Flife%2F20100909%2F352291%2F%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B8%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%9A11%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%AD-%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B23%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%88.html&dt=1284046071117&shv=r20100818&jsv=r20100903&correlator=1284046071117&frm=0&adk=2393667399&ga_vid=565365586.1267097779&ga_sid=1284046071&ga_hid=18571810&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=4&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1003&bih=592&ref=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2F&fu=0&ifi=1&dtd=16"></SCRIPT>
    นายธวัช เพชรวีระ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน เปิดเผยว่า สำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ส่งผลการตรวจสอบกรณีเหตุหลุมยุบ ที่บริเวณร่องน้ำของแปลงทดลองปลูกพืช ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรน่าน บ้านผาตูบ หมู่ 7 ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน เมื่อวันที่ 3 ส.ค .ที่ผ่านมา

    โดยพบว่า พื้นที่ดังกล่าวรองรับด้วยหินปูนและบางจุดเป็นโพรงหินปูน เมื่อเพดานโพรงพังทลาย เนื่องมาจากระดับความดันภายในโพรงเปลี่ยนแปลง จึงเกิดเป็นหลุมยุบขึ้น ซึ่งพื้นที่ ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน เป็นพื้นที่มีโอกาสเกิดหลุมยุบ

    นอกจากนี้ จังหวัดน่านยังมีพื้นที่มีโอกาสเกิดหลุมยุบอีกจำนวน 30 ตำบล ใน 11 อำเภอ จากทั้งหมด 15 อำเภอ ส่วนการป้องกันเฝ้าระวัง ในขั้นต้น ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะส่งเจ้าหน้าที่ออกไปให้การแนะนำให้เจ้าหน้าที่ของศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรน่าน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 11 อำเภอ

    ให้ดำเนินการล้อมรั้ว ปักป้ายเตือนภัยหลุมยุบ หลังจากนั้นใ ห้ทำการกลบหลุมโดยใช้ หิน กรวด ทราย ที่หาได้ในพื้นที่ และปิดทับด้วยดิน ซึ่งหากยังพบว่าพื้นที่ที่กลบหลุมไปแล้ว ยังมีการยุบตัวอยู่อีก จะได้แจ้งให้ทางกรมทรัพยากรธรณีฯ ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป

    และประกาศแจ้งประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ หากพบเห็นการแยกตัว หรือคล้ายหลุมยุบ ให้รีบแจ้งให้ทางราชการในพื้นที่ทราบทันที่ เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตรวจสอบและป้องกันได้ทันท่วงที
     
  15. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    เพิ่งมีข่าวระวังน้ำผึ้งหยดเดียว คริสเตียนอเมริกัน จะเผาคัมภีร์ อัล กุรอาน ก็มีข่าวนี้อีก

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อึ้ง!รองเลขาฯUNจากจีน'เมา'จวก'บันคีมูน'-โวยเกลียดมะกัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>9 กันยายน 2553 22:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ซา จู่คัง รองเลขาธิการด้านเศรษฐกิจและสังคมของยูเอ็น </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - เป็นเรื่องเพราะปากเสียแล้ว เมื่อรองเลขาธิการสหประชาชาติ ซึ่งเป็นนักการทูตจีน ระดับอาวุโสที่สุด ในองค์การโลกแห่งนี้

    เกิดอาการเบรกแตกกะทันหันหลังเมาจนได้ที่ ด้วยการระบายความอัดอั้นตันใจ และจวกใส่บัน คีมูน นายใหญ่ของยูเอ็น อย่างไม่ไว้หน้า

    พร้อมกับแสดงอาการจงเกลียดจงชังคนอเมริกันอย่างตรงไปตรงมา ในระหว่างการประชุมสัมมนาอย่างไม่เป็นทางการ ที่เมืองเอลป์บัก ออสเตรีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    ทั้งนี้ ตามรายงานที่ลงในเว็บไซต์ของนิตยสารฉบับหนึ่งเมื่อวันพฤหัสบดี (9)

    นิตยสาร “ฟอเรจ์น โพลิซี” รายงานผ่านทางเว็บไซต์เมื่อวันพฤหัสบดี (9) ระบุว่า ซา จู่คัง รองเลขาธิการด้านเศรษฐกิจและสังคมของยูเอ็น อยู่ในสภาพที่เมามายมาก ก่อนที่จะโพล่งความอัดอั้นตันใจออกมากลางงานเลี้ยงอาหารค่ำในระหว่างการ “รีทรีต” ที่ออสเตรียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

    “คุณไม่เคยชอบหน้าผม คุณเลขาธิการใหญ่ ดีล่ะ ผมเองก็ไม่เคยชอบหน้าคุณเหมือนกัน” เจ้าหน้าที่อ้างคำกล่าวของซา ซึ่งคว้าไมค์มาพูดหลังจากที่เขาบอกว่า ในขณะที่ไวน์กำลังทำให้เมานั้น เขาต้องการจะบอกสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ

    นอกจากนี้ ซา วัย 62 ปี ยังต่อว่าต่อขานบัน ด้วยว่า “พยายามที่จะกำจัด” เขาออกไป และอาจไล่เขาออกได้ “ทุกเมื่อ”

    “ผมไม่ต้องการมานิวยอร์กเลย มันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมต้องการจะทำ” นักการทูตอาวุโสชาวจีนผู้นี้บอก ก่อนจะสงบสติอารมณ์ลงได้เล็กน้อย และกล่าวคำพูดดีๆ บ้างเกี่ยวกับตัวเลขาธิการยูเอ็นผู้นี้

    “ผมเกิดรักยูเอ็นขึ้นมาแล้วล่ะ และผมก็กำลังเกิดความชื่มชมบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับตัวคุณ” ซา บอก

    เรื่องที่ทำท่าจะจบลงด้วยการเข้ามาห้ามปรามของแคเธอลีน แบร็กก์ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม แต่แล้วเขาก็ยังดึงดันที่จะพล่ามต่อไปอีก เขากล่าวพาดพิงถึงเพื่อนร่วมงานของเขาที่ชื่อ บ็อบ ออร์ โดยระบุว่าเขาไม่ชอบออร์ เนื่องจากเขาเป็นคนอเมริกัน พร้อมกับทิ้งท้ายว่า “ผมไม่ชอบพวกอเมริกันจริงๆ ให้ตายสิ”

    ทั้งนี้รายงานนี้ระบุว่า พฤติการณ์ทำลายบรรยากาศของงานและทำเอาผู้คนในงานนั่งอึ้งกันคราวนี้ เป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล ถึงแม้ว่าเขาจะดื่มไปเพียงไม่กี่แก้วเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม ซา ผู้ซึ่งรับตำแหน่งรองเลขาธิการยูเอ็น เมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2007 ได้กล่าวขอโทษบันในวันรุ่งขึ้น รายงานฉบับนี้ระบุ

    “ซา จู่คัง กล่าวขออภัยอย่างสุดซึ้งในระหว่างที่เข้าพบกับเลขาธิการใหญ่เป็นการส่วนตัวในช่วงเช้าของวันถัดมา” ฟาร์ฮัน ฮัก โฆษกยูเอ็นให้สัมภาษณ์ฟอเรจ์น โพลิซี

    ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บัน เคยถูก อินกา-บริตต์ อาห์เลนิอุส อดีตผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับตรวจสอบภายในแห่งสหประชาชาติ (โอไอโอเอส) ด่าทอว่า ไม่มีคุณสมบัติการเป็นผู้นำ และกำลังทำให้ยูเอ็นเน่าเฟะอีกด้วย โดยเธอเขียนทิ้งไว้ในรายงานการทำงานฉบับทิ้งทวนของเธอก่อนที่จะลาออกจากตำแหน่ง


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618

    [​IMG]

    อาการไม่กินเส้น (เกาเหลา) ของคนที่ศรศิลป์ไม่ต้องกัน แต่อาจจะบานปลาย ให้ฝ่ายที่ไม่เกี่ยว เดือดร้อนไปตามๆ กัน
     
  17. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ที่บ้านผม เป็นครอบครัวหมอ ตอนมีไข้หวัด 2009 ระบาดหนัก ปีที่แล้ว

    ผมก็ฟังที่บ้านพูดกันนะครับ ดูเป็นเรื่องธรรมดา มากเลย

    หรือบางทีสื่อ ก็อาจทำให้คนตื่นตระหนก ก็เป็นไปได้ จำได้ว่า ก็มีข่าวที่เป็นไข้หวัดใหญ่ธรรมดา เสียชีวิตต่อปี หลายคนเหมือนกันครับ

    ตอนแรกก็คิดว่า ที่มองเป็นเรื่องธรรมดา เพราะหมอเห็นคนป่วยจนชิน

    แต่พอตัวเองเป็นเอง และได้ยาทามิฟลู นอนอยู่กับบ้านปกติ ครับ พยายามทำตามคำแนะนำของคุณพ่อ ตลอดเวลา ครับ

    ผมคิดว่าส่วนใหญ่คนยังขาดความเข้าใจ เรื่องการรักษาตัว ระหว่างเป็นไข้มากกว่าครับ บางทีไม่ชอบพักผ่อน

    ผมนี่นอนบ้านมา เป็นวันที่ 4 แล้วครับ ตอนนี้ดีขึ้น แต่จะดีตอนอยู่นิ่งๆ แต่ถ้าเดินไปไหน ก็มึนๆ เล็กน้อยครับ
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เผย จีนปิดข่าว “อหิวาฯระบาด”</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>5 กันยายน 2553 15:38 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    คนงานสาธารณสุขจีนกำลังฉีดยาฆ่าเชื้อโรคที่ห้องเรียน ในเมืองเหมิงเฉิง มณฑลอันฮุย เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2553 เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรค ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จีนปกปิดการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรค เป็นเวลาถึง 12 วัน ด้วยว่าเกรงประชาชนอาจแตกตื่น หากเผยแพร่ข้อมูลโรคมรณะ (ภาพเอเอฟพี)

    [​IMG]
    ในภาพเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2553 เจ้าหน้าที่ตำรวจจีนกำลังแจ้งต่อผู้ปกครองว่า โรงเรียนปิดการเรียนการสอน จากเหตุระบาดของอหิวาตกโรค ในเมืองเหมิงเฉิง มณฑลอันฮุย (ภาพเอเอฟพี)

    เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่จีนปกปิดการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรค เป็นเวลาถึง 12 วัน ด้วยว่าเกรงประชาชนอาจแตกตื่น หากเผยแพร่ข้อมูลโรคมรณะ

    ข้อมูลหน่วยงานสาธารณสุขมณฑลอันฮุย เผยวันอาทิตย์(5 ก.ย.) ว่า ตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค. เป็นต้นมา มีผู้ติดเชื้ออหิวาตกโรคแล้ว 38 คน และเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวในขั้นเบื้องต้น ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อฯกำลังลดลง และมีเพียง 5 คน ที่ยังอยู่ในโรงพยาบาล

    การตรวจสอบพบว่า การแพร่ระบาดของอหิวาตกโรคครั้งนี้มีสาเหตุมาจากร้านขายนมถั่วเหลืองในเมืองเหมิงเฉิง มณฑลอันฮุย

    แม้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นไม่ได้รายงานถึงผู้เสียชีวิตจากอหิวาตกโรคครั้งนี้ แต่มีข่าวลือทางอินเทอร์เน็ตว่ามีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวจำนวนมาก

    เป่ยจิง นิวส์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ศูนย์กลางควบคุมโรคมณฑลอันฮุยได้ยืนยันถึงการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรค แต่พึ่งจะเผยแพร่ข่าวสารในวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปิดบังข้อมูลการแพร่ระบาดถึง 12 วัน

    นายหวัง เจี้ยนจวิน รองผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมโรคอันฮุย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่มีอำนาจในการประกาศเตือนการระบาดของโรค อีกทั้งจำเป็นต้องรอการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ที่มีระดับสูงกว่า

    สำหรับอหิวาตกโรค จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการท้องเสียรุนแรงและอาเจียนอย่างหนัก ส่งผลให้ร่างกายเสียน้ำมาก อีกทั้งอาจเสียชีวิตหากไม่รีบเข้ารับการรักษา และโดยทั่วไปโรคดังกล่าวจะแพร่ระบาดในพื้นที่เสื่อมโทรมและมีสุขอนามัยที่ย่ำแย่

    ทั้งนี้ ภาวะสุขอนามัยที่ย่ำแย่และคุณภาพอาหารที่ไม่ได้มาตรฐานเป็นสาเหตุของปัญหาด้านสุขภาพของชาวจีนอยู่เป็นประจำ

    สื่อทางการจีนรายงานว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีเด็กนักเรียน 87 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากกินโยเกิร์ตปนเปื้อน ที่โรงเรียนอนุบาล ในมณฑลกันซู่

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000124274

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เหยื่อเห็บกัดในเหอหนัน ดับแล้ว 18 คน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>9 กันยายน 2553 17:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ภรรยาของนายเป่า เสียงอี้ ซึ่งอาศัยอยู่ในมณฑลเหอหนัน กำลังโชว์ภาพสามีที่เสียชีวิตหลังจากถูกเห็บกัดเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา (ภาพเอเยนซี)

    [​IMG]
    แผลจากการถูกเห็บมรณะกัด (ภาพเอเยนซี)

    เอเยนซี - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำมณฑล เผยวันพุธ(8 ก.ย.) ว่า ผู้ติดเชื้อจากการโดนเห็บกัดในเมืองซิ่นหยัง มณฑลเหอหนัน เสียชีวิตเพิ่มเป็น 18 คน

    หน่วยงานสาธารณสุขประจำมณฑลเหอหนัน ระบุว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 18 ราย อยู่ในกลุ่มต้องสงสัยว่าเป็นโรคฮิวแมน กรานูโลไซติก อะนาพลาสโมซิส (HGA) ที่ตั้งแต่ปี 2550 มีจำนวนผู้ติดเชื้อ 557 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตซังเฉิงและกวงซันของเมืองซิ่นหยัง และเขตซือเหอ กับเขตผิงเฉียว อีกทั้งผู้ติดเชื้อมักเป็นผู้ที่มีอายุระหว่าง 40 ถึง 70 ปี

    โรคดังกล่าวเกิดจากเชื้อโรคแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่สามารถติดต่อสู่คนโดยมีแมลงอย่างเห็บ หมัด เป็นพาหะ

    ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคประจำมณฑลเหอหนัน ได้เริ่มเฝ้าติดตามเพื่อพิสูจน์หาสาเหตุของโรคดังกล่าวตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 พ.ค. โดยได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยเหลือแพทย์ประจำท้องถิ่นในการวินิจฉัยและยับยั้งการแพร่กระจายของโรคเมื่อช่วงเดือนเม.ย. ถึง เดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

    ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นโรค HGA จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดจะลดลง ส่งผลให้การทำงานของอวัยวะต่างๆล้มเหลวและเสียชีวิตได้ แต่สามารถรักษาให้หายได้ หากเข้ารับการรักษาทันเวลา นอกจากนี้ หากไม่มีการระมัดระวัง ผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน

    ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000126719
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2010
  19. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ขอให้เรื่องเผาคัมภีร์ ไม่บานปลายเป็นไฟลามทุ่ง ขอให้คำทำนายของทวดวานก้า คราวนี้พลาด

    http://www.f0nt.com/forum/index.php?topic=13037.0

    2010 - เริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3 ( พฤศจิกายน 2010 - ตุลาคม 2014 ) ตอนแรกก็ใช้อาวุธธรรมดา ต่อมาก็ตามด้วยนิวเคลียร์และอาวุธเคมี การนำอาวุธนิวเคลียร์มาใช้


    ทำให้ซีกโลกเหนือ จะไม่เหลือทั้งพืชและสัตว์ จากนั้นพวกมุสลิม จะใช้อาวุธเคมีเข้าจัดการกับชาวยุโรปที่ยังหลงเหลืออยู่ ผู้คนจะป่วยเป็นฝีหนอง และมะเร็งผิวหนังกันมาก จากผลของอาวุธเคมี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กันยายน 2010
  20. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เตือน14จังหวัดเหนือ-อีสานระวังฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    ประกาศเตือนภัย
    "ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน"
    ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 10 กันยายน 2553



    ร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าว มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ อุตรดิตถ์ หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม ระวังอันตรายจากภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกในระยะนี้

    อนึ่ง พายุโซนร้อน “เมอรันตี” (MERANTI) ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งที่มณฑลฟูเจี้ยนของประเทศจีนแล้ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ
    มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา
    ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
    มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดหนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร และนครพนม
    อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา
    ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


    ภาคกลาง
    มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี และสระบุรี
    อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    ภาคตะวันออก

    มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
    อุณหภูมิต่ำสุด 25 องศา สูงสุด 33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
    ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
    มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัด
    เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
    อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 33 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร


    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
    มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัด
    ระนอง พังงา ภูเก็ต และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
    ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร


    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

    มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 26 องศา สูงสุด 34 องศา
    ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>กทม.เตรียมรับมือน้ำทะเลหนุนริมฝั่งเจ้าพระยา </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top>ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยเตรียมรับมือน้ำทะเลหนุนริมฝั่งเจ้าพระยา

    วันนี้ 9 ก.ย. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาริมสองฝั่ง แม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่เขตพระนคร ดุสิต บางพลัด และบางกอกน้อย ว่า ขณะนี้กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการก่อสร้างก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมเพิ่มเติม แล้วเสร็จ 6 กิโลเมตร ยังเหลืออีก 1 กิโลเมตร บริเวณท่าน้ำราชวงศ์ ซึ่งยังดำเนินการก่อสร้างอยู่ คาดว่า จะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 53 การลงพื้นที่ในวันนี้ เพื่อตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมที่สร้างแล้วเสร็จ บริเวณวัดราชาธิวาส และเตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำท่วม ในช่วงนี้ระดับน้ำทะเลจะขึ้นสูง และมีน้ำจากทางเหนือไหลลงมา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 1.30 เมตร จากการคาดการณ์ระดับน้ำจะมากในช่วงปลายเดือน ก.ย.จนถึงต้นเดือน ต.ค. แต่ระดับน้ำจะไม่ถึงขั้นวิกฤต และไม่มีผลกระทบต่อกรุงเทพมหานคร เพราะได้รับการป้องกันจากแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว

    สำหรับพื้นที่นอกแนวป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานครได้วางกระสอบทรายเป็นแนวป้องกันชั่วคราว

    ส่วนบริเวณที่มีบ้านเรือนปลูกสร้างรุกล้ำบริเวณแนวก่อสร้างแนวป้องกันน้ำ ท่วมกรุงเทพมหานครยังได้เจรจากับประชาชนในพื้นที่แล้ว โดยจะเร่งก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมที่เหลือให้แล้วเสร็จภายในปี 53 ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครยังได้เตรียมกระสอบทรายไว้จำนวน 4 ล้านใบ ไว้ป้องกันบริเวณที่ยังก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมไม่เสร็จ รวมถึงพื้นที่เสี่ยงอีกด้วย.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ชาวปทุมฯผวา ปลิงควาย มากับน้ำท่วม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ชาวปทุมธานีผวา! ปลิงควายตัวเขื่องมากับน้ำท่วมเต็มบ้าน ขณะที่โรงเรียนเตรียมพิจารณาหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดกับเด็กเล็ก เนื่องจากน้ำท่วมถึงห้องเรียนสูงประมาณ 30-60 ซม.แล้ว…


    วิกฤติน้ำท่วม ปลิงควายอาละวาดจนชาวบ้านหวาดผวา เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ย.

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนวัดสำแล อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ระดับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมเพิ่มมากกว่าเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ครูและนักเรียนต้องรีบช่วยกันขนย้ายสิ่งของ หนังสือเรียน โต๊ะเรียน ขึ้นไปไว้ที่ห้องเรียนชั้นบน และย้ายนักเรียนชั้นล่างของอาคารขึ้นไปเรียนที่ชั้นบนเช่นกัน เนื่องจากระดับน้ำได้ท่วมเข้าถึงภายในห้องเรียน สูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร อย่างไรก็ดี ทางโรงเรียนจะเฝ้าดูสถานการณ์น้ำ หากระดับน้ำยังไม่ลดลงและปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยายังเพิ่มขึ้นอีก คงต้องปิดการเรียนการสอนชั่วคราว เพื่อป้องกันอันตรายจะเกิดขึ้นกับเด็กเล็ก



    นายปราโมทย์ ศรีสมัคร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/3 หมู่ 2 ต.บางโพธิเหนือ อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ชาวบ้าน

    เปิดเผยว่า ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา อ.สามโคก ต่างรีบขนย้ายข้าวของขึ้นในที่สูง และจากสภาพน้ำที่ท่วมเข้าบ้านเรือนและพื้นที่นาโดยรอบ ส่งผลทำให้ปลิงควายที่มักอยู่ในบ่อเลี้ยงวัวควาย ออกอาละวาดเข้ามาในพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน สร้างความหวาดผวาเป็นอย่างมาก เนื่องจากปลิงที่หลุดออกมา มีขนาดใหญ่ ขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต้องคอยฟังข่าวสารจากสถานการณ์น้ำที่มาจากทางจังหวัดอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือหากเกิดน้ำเข้าท่วมฉับพลัน.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    โดย :หมูอ้วน (ทีมงาน TeeNee.Com) โพสเมื่อ [ วันพฤหัสบดี ที่ 9 กันยายน 2553 เวลา 15:37 น.] [​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...