ประสบการณ์ ธรรมะ พระเครื่อง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 14 ตุลาคม 2009.

  1. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    ถ้าเป็นผมเลือกเบอร์ 3 คร้าบ :cool:
     
  2. เด็กมือใหม่

    เด็กมือใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,476
    ทำไมเหรอครับน้องบอย เพราะว่าชอบเรื่องกรรมฐานรึเปล่าครับ เห็นพี่ที่เเจกมาจากเวปวัดถ้ำเรียกท่านว่า หลวงพ่อเฉียบ เนื่องจากกำนั่งกรรมฐานเเล้วเข้าสมาธิไวมากรึเปล่าครับ? :cool:
     
  3. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    เข้าสมาธิไวไม่ไวผมก็ไม่ทราบนะครับ แต่ทราบจากศิษย์หลวงปู่ดู่ท่านหนึ่งบอกว่า พระพิมพ์สมเด็จถือเป็นพิมพ์หลักมาตรฐานของวัดสะแก ที่หลวงปู่ดู่ท่านตั้งใจเทและแจกให้แก่ผู้ที่มานมัสการท่านให้นำไปนั่งสมาธิครับ ใครไปกราบหลวงปู่ท่านก็จะมีพานวางอยู่ ใครมาก็จะหยิบพระไปกี่องค์ก็ได้ซึ่งจะเป็นพิมพ์สมเด็จนี่แหละครับ :cool:
     
  4. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    ใช้ให้เป็น

    [​IMG]

    พระสุทิน อายุวัฒโก (หลวงพี่จ่า) เมื่อครั้งท่านยังเป็นฆราวาสได้มากราบนมัสการหลวงปู่ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๐๙ โดยมี ส.ท.อุดม เผ่าทหาร เป็นผู้ชักชวน ซึ่งสมัยก่อนมาวัดสะแกโดยทางเรือ หลังจากกราบนมัสการหลวงปู่แล้ว ส.ท.อุดม พูดนำว่า

    "วันนี้ ผมพาลูกพี่มาหาหลวงปู่ เขาจะมาขอพระหลวงปู่ ลูกพี่เขาอยากได้"

    ความจริงแล้ว ส.ท.อุดม อุปโลกน์ขึ้นเอง หลวงปู่ตอบว่า

    "ข้าไม่มีพระอะไรจะให้ ถ้าอยากได้ก็ต้องฝึกวิธีใช้ให้เป็นเสียก่อน
    เหมือนอย่างข้าให้ควายแกไป แกไม่มีเชือกสะพายจูงไป มันจะเอาไปลำบาก"

    จากนั้น ท่านให้พระ ๑ องค์ เป็นรูป หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด แล้วจึงให้เข้าไปปฏิบัติ ซึ่งเป็นกุศโลบายของหลวงปู่ ที่ต้องการให้ปฏิบัติ และรู้ถึงอานุภาพของพระเครื่อง เพราะท่านเคยบอกเสมอว่า

    "ของดีต้องใช้ให้เป็น จึงจะรู้ว่าเป็นของดี"

    เพราะในปัจจุบันอย่างที่เรารู้กันว่า เจ้าของคุ้มครองพระโดยเอาไปฝากไว้ในธนาคาร ไม่ได้นำมาใช้ ทำให้ผู้เขียนนึกถึงคำพูดของหลวงพ่อวัดปากน้ำ ที่กล่าวว่า "ทำบุญให้เป็น ใช้บุญให้เป็น" โดยเฉพาะการภาวนานั้นถือเป็นการทำกุศลสูงสุดในพระพุทธศาสนา หลวงปู่เคยบอกกับผู้เขียนถึงพระที่ท่านอธิษฐานจิตว่า

    "ข้าว่าของของข้าไม่เป็นรองใครในแผ่นดิน
    อยู่ที่คนนำไปใช้ว่าถึงหรือเปล่า ถ้าถึงจริงๆ แล้วก็ไปนิพพานได้"

    คำกล่าวของหลวงปู่นี้มีความหมายอย่างยิ่ง คือ เปลี่ยนจิตจากศรัทธาจนเป็น อจลศรัทธา นั่นเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 9.jpg
      9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      138.6 KB
      เปิดดู:
      1,346
  5. เด็กมือใหม่

    เด็กมือใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,476
    ผมเพิ่งทราบนี่ละครับ กำนั่งมาเเต่ไม่รู้ว่าท่านตั้งใจเเละอยากเเจกให้ศิษย์ปฏิบัติธรรม คิดเเล้วปิติครับ สาธุ:cool:
     
  6. @un

    @un เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    238
    ค่าพลัง:
    +1,415
    ************************

    ผมเลือกเบอร์ 2 ครับ หากินคล่องครับ อีกทั้งยังใช้กำนั่งได้ด้วย :cool:
     
  7. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    ช่วงนี้ประเทศเรามีสถานการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นมากมาย ขอให้ทุกคนสามัคคีกันไว้นะครับ

    หลวงปู่รักในหลวงมาก

    [​IMG]

    โดย พี่สิทธิ์

    ในสมัยที่หลวงปู่มีชีวิต ท่านจะกำชับให้ลูกศิษย์ของท่าน

    "เอาบุญจากการภาวนา รวมเข้ากับบุญของพระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกทั้งหลาย ถวายให้ในหลวง รวมทั้งแผ่เมตตาให้เทพเทวาผู้ปกรักษาพระองค์ท่านให้มีความสุข แล้วก็กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวรของพระองค์ท่านให้ไปเกิดในสุคติภูมิ"

    หลวงปู่กล่าวว่า

    "หากไม่มีในหลวง พระพุทธศานาก็ตั้งอยู่ไม่ได้"

    หลายครั้ง ที่ลูกศิษย์จะรับทราบได้ว่าหลวงปู่จะเข้าที่เพื่ออธิษฐานช่วยในหลวง(ในยามที่พระองค์ทรงพระประชวร) นอกจากนี้ ท่านยังกำชับให้แผ่เมตตาให้ประเทศชาติ ดังเช่นการอธิษฐานช่วยประเทศชาติของ หลวงปู่เกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ด้วยเช่นกัน

    *(หลวงปู่เกษมจะมีคาถากำกับด้วยว่า รัฐะ ปาลา สมัคคา สทา โหนตุ)

    สรุปก็คือ

    "นักปฏิบัติต้องไม่ลืมประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
    เพราะสามสถาบันนี้เกื้อกูลให้เราได้รับความร่มเย็นเป็นสุข
    ได้รับความสัปปายะแก่การปฏิบัติธรรมสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน"

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ใครที่คิดร้ายกับบ้านเมืองสุดท้ายก็จะมีอันเป็นไปอย่างแน่นอนค่ะ ตามอ่านทุกวันแต่ไม่ค่อยได้เขียนค่ะ
     
  9. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    Credit : พี่ก๊อบ LeoZenith

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • sp5.jpg
      sp5.jpg
      ขนาดไฟล์:
      163.2 KB
      เปิดดู:
      1,065
  10. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    พระพิมพ์เศียรพรหม

    จากหนังสือพรหมปัญโญเถระ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      175.5 KB
      เปิดดู:
      1,519
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      150 KB
      เปิดดู:
      1,551
    • 3.jpg
      3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      148.3 KB
      เปิดดู:
      1,510
    • 4.jpg
      4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      136.5 KB
      เปิดดู:
      1,486
  11. m@c

    m@c เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +2,435
    [​IMG]


    อรหังสัมมา สัมพุทโธ ภควา
    พุทธัง ภควันตัง อภิวาทเทมิ
    สวขาโต ภควาตา ธรรมโม
    ธรรมัง นมัสสามิ
    สุปติปัณโน ภควาโต สาวกสังโฆ
    สังฆัง นมามิ

    ภาพข้างบน ก็พระเหนือพรหม ของแท้ค่ะ
    สาธุ


     
  12. m@c

    m@c เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +2,435
    ส่งดอกไม้มาไหว้พระค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010065_01.JPG
      P1010065_01.JPG
      ขนาดไฟล์:
      75.7 KB
      เปิดดู:
      45
    • P1010050_01.JPG
      P1010050_01.JPG
      ขนาดไฟล์:
      78.7 KB
      เปิดดู:
      56
    • P1010090_01.JPG
      P1010090_01.JPG
      ขนาดไฟล์:
      79.5 KB
      เปิดดู:
      50
    • P1010118.JPG
      P1010118.JPG
      ขนาดไฟล์:
      76.7 KB
      เปิดดู:
      43
    • P1010121.JPG
      P1010121.JPG
      ขนาดไฟล์:
      81.4 KB
      เปิดดู:
      65
  13. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    หลวงปู่หายตัว

    [​IMG]

    โดย พี่สิทธิ์

    หลวงปู่เป็นพระที่ระมัดระวังในเรื่องวินัยสงฆ์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะในเรื่อง อวดอุตริมนุษธรรม

    หลวงปู่มักไม่ปรารภถึงภูมิจิตภูมิธรรมของตนเอง หากจะปรารภก็มักปรารภในทางถ่อมตัว เช่น "ข้ายังมืดอยู่เลย" (แท้จริงแล้ว น่าจะหมายถึงจุดมืดอันเล็กน้อยที่ยังมีในดวงจิตของพระโพธิสัตว์เจ้า ที่เป็นตัวเหนี่ยวรั้งไม่ให้ท่านตัดกระแสเข้าสู่นิพพาน --ความเห็นส่วนตัว)

    หลวงปู่ดักทายใจและล่วงรู้ความเป็นไปของลูกศิษย์ได้อย่างไม่มีที่ปกปิด
    แต่ท่านก็ไม่เคยพูดออกมาตรง ๆ แต่ลูกศิษย์ต่างก็มีประสบการณ์ตรงในเรื่องนี้

    ดังเช่นครั้งหนึ่งที่ข้าพเจ้ากราบเรียนถามหลวงปู่ว่าเวลาปีติเกิดขึ้น มักจะรู้สึกเหมือนลงลิฟต์ ลึกลง ๆ อย่างหาที่จบไม่ได้ หลวงปู่ก็ถามกลับว่าให้สังเกตดูว่าแกนั่งก้มเกินไปหรือเปล่า ข้าพเจ้ากลับมานั่งที่บ้านคืนนั้น พอเกิดปีติอย่างเก่าก็ลืมตาขึ้นมาดูตัวเอง ผลคือ ข้าพเจ้าต้องตกใจ เพราะข้าพเจ้าก้มหน้าอย่างมาก ด้วยความที่เรามีอาการคล้ายจะเค้นปีตินั้นให้แรงขึ้น (ตามประสาคนหลง) โดยที่ตัวเราเองก็ไม่รู้ตัว แต่เหตุไฉน หลวงปู่จึงทราบได้ ทั้งที่ เรานั่งปฏิบัติอยู่ที่บ้าน อีกทั้งเชื่อว่าอาการปีติอย่างนี้ ก็ใช่ว่าจะเป็นเพราะการก้มหน้าเค้นปีติเพียงอย่างเดียว

    กับลูกศิษย์บางคนที่ยังต้องอาศัยเรื่องฤทธิ์เดชมาเป็นเครื่องล่อ หลวงปู่ก็ได้สร้างความอัศจรรย์ให้ปรากฏอีก เช่น คราวหนึ่ง หลวงปู่เดินมาคุยกับเพื่อนของข้าพเจ้าที่มุมหนึ่งบนหอสวดมนต์ กำลังคุยกันอยู่ดี ๆ เพื่อนของข้าพเจ้าหันกลับมาทางหลวงปู่ ก็ไม่เห็นท่าน เขาต้องตกตะลึงเมื่อหลวงปู่ไปยืนยิ้มอยู่อีกมุมหนึ่งของหอสวดมนต์ภายในเสี้ยววินาที ทั้ง ๆ ที่ท่านชราภาพมากแล้ว แต่ปรากฏการณ์ทำนองนี้ หลวงปู่ก็ไม่เคยพูดอวดออกมาเลย น้อยหนึ่งก็ไม่มี เพราะท่านยังคงมั่นคงต่อการมุ่งเน้นที่ธรรมะปฏิบัติ

    เรื่องอัศจรรย์ หากไม่โยงไปที่ศรัทธาในพระรัตนตรัย หรือศรัทธาและความเพียรในการปฏิบัติขัดเกลาตนเอง ความอัศจรรย์นั้นก็จะกลับทำให้เราลุ่มหลงและเสียเวลาอันมีค่าไปได้ ดังที่หลวงปู่กล่าวย้ำเสมอ ๆ ว่า

    "เวลาเหลือน้อยแล้ว ให้รีบพากันปฏิบัติ"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. earn1

    earn1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +651
    ขออนุญาติคุณบอยครับ เข้าไปเว็บวัดถ้ำมา อ่า่นแล้วโดนใจเลยเอามาฝากสมาชิกที่ติดตาม คำสอนหลวงปู่ดู่ครับ ไม่รู้ว่าคุณบอยเคยเอามาลงหรือยัง ถ้าลงแล้วก็ขออภัยในที่นี้ด้วยครับ

    ขอบคุณพี่ วิมุติมรรค ครับ
    ====================================================

    [​IMG]


    มี "พุทธภาษิต" ตอนหนึ่งมีใจความว่า
    ไม่มีบาปอกุศลกรรมใด ที่บุคคลผู้มีปรกติกล่าวคำเท็จ...จะทำไม่ได้

    นี่ยอมแสดงว่า...
    คนที่กล่าวคำเท็จโดยเจตนาเสมอ ๆ เป็นบุคคลที่น่ากลัวมาก
    เพราะคนชนิดนี้สามารถทำบาปที่หนักขึ้นไปได้ เรื่อย ๆ อย่างไม่มีขีดจำกัด
    ซึ่งสาเหตุอย่างหนึ่งอาจมาจากการที่เจ้า ตัวมีเหตุผล (ของกิเลส) ให้กับตัวเองเสมอ
    กระทั่งไร้ซึ่ง "ความละอายใจต่อบาป"


    ดูเอาเถิด คนยุคสมัยนี้ สามารถพูดโกหกหน้าตาเฉย แล้วผลเป็นอย่างไร
    ผลก็คือ เขาเป็นบุคคลที่สามารถทำบาปทำกรรมชนิดที่คนทั่วไปคาดไม่ถึงจริง ๆ
    รวม ทั้งสามารถเนรคุณ แม้กับบุคคลที่เคยมีบุญคุณ


    "หลวงปู่ดู่" ท่านทราบดีถึงทุกข์โทษ ที่เกิดจากการบ่มเพาะนิสัยพูดโกหก
    ดังนั้น ท่านจึงไม่เลี้ยงกิเลสชนิดนี้ให้เป็นภัยในภายหน้า


    ในสมัยที่คนเริ่มมากราบหลวงปู่มากขึ้น
    วันหนึ่ง มีสตรีท่านหนึ่ง เผลอทำแหวนทองตกลงไปที่ใต้ถุนบริเวณหน้ากุฏิหลวงปู่
    ลูก ศิษย์ของหลวงปู่คนหนึ่ง อาสาเดินอ้อมลงไปใต้ถุนเพื่อหาแหวนให้
    แต่พอเขา เดินขึ้นมา เขากลับบอกว่าหาไม่พบ (ทั้ง ๆ ที่มีคนมองลอดลงไปก็ยังเห็นว่า แหวนตกอยู่จริง)


    เข้าใจว่า คงไม่มีใครสามารถคาดคั้นเอาแหวนคืนจากเขาได้ แต่หลวงปู่ท่านคงทราบ
    ดัง นั้น ท่านจึงเอ่ยปากขับศิษย์ผู้นั้น ออกจากวัดไปนับแต่วันนั้น
    เพราะดัง พุทธพจน์ข้างต้น คนที่สามารถโกหกหน้าตาเฉยเช่นนี้
    ต่อไป ๆ เขาก็จะสามารถเป็นผู้ที่ทำบาปอกุศลกรรมใด ๆ ก็ได้
    ถ้าเขามีเชื้อแห่ง ความดี ที่สามารถรับคำตักเตือนเพื่อปรับปรุงตัวเองก็ดีไป
    แต่หากไม่เป็น เช่นนั้น สู้ให้ออกไปเสีย เพื่อลดโอกาสในการทำบาปทำกรรมที่วัดก็จะดีกว่า


    ครูบาอาจารย์ท่านถือมากในเรื่องสัจจะความจริง ดังที่ว่า
    "จงทำอย่างที่พูด และ จงพูดอย่างที่ทำ"


    ถ้าจะคบใครซักคน ควรเลือกคบ "คนที่ไม่พูดโกหก" ...เป็นดีที่สุด
    เพราะคนพูดโกหกจัดว่าเป็น พาล
    และการไม่คบคนพาล ก็เป็นมงคลสูตรข้อแรกทีเดียว
    หากพลาดข้อนี้แล้ว ก็เป็นอันพลาดไปหมด


    สมดังพระพุทธวจนะที่ว่า...
    "มี ศัตรูเป็นบัณฑิต ก็ยังดีกว่ามีมิตรเป็นพาล"



    *** จากบทความของ คุณสิทธิ์
    ที่มา Luangpudu.com / Luangpordu.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤษภาคม 2010
  15. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    ยังไม่เคยลงครับผม อนุโมทนาครับ :cool:
     
  16. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    แจ้งข่าวจากวัดสะแกครับ

    [​IMG]

    โครงการปฏิบัติพระกรรมฐานตามแนวทางหลวงปู่ดู่เมตตาสอน
    ครั้งที่ ๑

    วันศุกร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓
    ปฐมบทในวันมหามงคลอันเป็นวันวิสาขบูชาและวันคล้ายวันเกิดหลวงปู่ดู่
    เข้ารับการแนะนำแนวทางการปฏิบัติพระกรรมฐาน และร่วมปฏิบัติบูชาถวายหลวงปู่ดู่

    ผมได้ปรึกษากับพี่ๆ ที่วัดสะแกแล้วเห็นว่าน่าจะรวมกันทำเป็นโครงการต่อไป
    และได้กราบเรียนให้หลวงลุงบุญเสริม รักษาการเจ้าอาวาสทราบแล้ว
    ซึ่งท่านเมตตาอนุญาต และอนุโมทนาบุญกับผู้ปฏิบัติทั้งหมด
    แต่ในเบื้องต้นนี้ จะทำในรูปแบบง่ายๆ โดยนำสมาชิกวัดสะแก.com
    เข้าร่วมกันปฏิบัติกับทางหมู่คณะของพี่ๆ ที่วัดสะแก
    ซึ่งได้ทำอยู่แล้วเป็นประจำทุกเดือนๆ ละ ๑ ครั้ง
    เพื่อรับการแนะนำการปฏิบัติกรรมฐาน สนทนาธรรมกันโดยมีกำหนดการดังนี้

    ๑๘.๐๐ น.
    ทำวัตรเย็น (๔๕ นาที)
    ๑๘.๔๕ น.
    ปฏิบัติกรรมฐานรวม (๔๕ นาที)
    ๑๙.๓๐ น.
    สนทนาธรรม พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้และข้อธรรม
    ๒๐.๑๕ น.
    ปฏิบัติกรรมฐาน สวดพระพุทธมนต์ (แยกย้ายกันปฏิบัติส่วนตัว)
    ๒๑.๐๐ น.
    ปฏิบัติกรรมฐานรวม (๔๕ นาที)

    หลังจากนั้น หากท่านใดต้องการกลับบ้านหรืออยู่ค้างแรมเพื่อปฏิบัติกรรมฐานต่อไป
    สามารถทำได้ตามความสะดวกของแต่ละท่านครับ

    หากท่านต้องการเข้าร่วมปฏิบัติพระกรรมฐาน
    กรุณาลงชื่อแจ้งไว้ในกระทู้นี้ครับ
    เพื่อทราบจำนวนผู้เข้าร่วมในการเตรียมการต่างๆ
    เช่น หนังสือทำวัตร แผ่นพับอาราธนาพระกรรมฐาน ฯลฯ
    ท่านใดไม่สะดวกในการเดินทาง หรืออื่นๆ
    สามารถแจ้งทุกอย่างไว้ในกระทู้นี้ได้เช่นกันครับ

    ขออนุโมทนาในกุศลที่พึงบังเกิดขึ้นทั้งหมดทั้งมวลครับ

    สนใจตาม Link นี้ไปเลยครับ :
    เชิญลงชื่อร่วมโครงการปฏิบัติพระกรรมฐานครั้งที่ ๑
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • untitled.jpg
      untitled.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.5 KB
      เปิดดู:
      1,396
  17. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    22/05/2553

    วันนี้ผมโอนเงินร่วมบุญงานบุญใหญ่ 2 รายการ
    มาแบ่งบุญให้อนุโมทนากันครับ

    1.โอนเงินร่วมบุญงานเปิดโลกธาตุ วัดป่าบ้านตาด กับ หลวงตามหาบัว 500 บ.

    [​IMG]

    2.โอนเงินร่วมบุญสร้างเจดีย์ศรีอุบล วัดนาอุดม (หลวงปู่ญาท่านสวน) 300 บ.

    [​IMG]

    แบ่งบุญให้ทุกท่านอนุโมทนากันครับ

    ขออานิสงค์นี้จงส่งถึงข้าพเจ้า หมู่คณะ และผู้เกี่ยวข้องทุกคน ให้ได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานชาตินี้ หากชาตินี้ยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่มี ไม่ได้ ไม่รู้ อย่าได้บังเกิด ตั้งแต่วันนี้ไปตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ.<!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.4 KB
      เปิดดู:
      55
    • 2.jpg
      2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      61.2 KB
      เปิดดู:
      60
  18. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    พระชำรุด

    [​IMG]

    คนส่วนใหญ่มักจะไม่นิยมนำพระที่แตกหรือหักมาไว้ในบ้าน โดยเฉพาะพระที่ทำด้วยปูนมักแตกหักได้ง่าย ผู้เขียนเรียนถามหลวงปู่ถึงเหตุผล

    หลวงปู่ "สมัยก่อนข้าเป็นฆราวาส ก็ห้อยพระหักเพราะเสียดายของ เมื่อก่อนเขาใช้ลวดถัก เดี๋ยวนี้ก็ยังเห็นเขาใช้กัน ไม่เห็นเป็นไร"

    ผู้เขียน "แล้วความจริงเป็นอะไรหรือไม่ เพราะเคยฟังมาว่าแม้แต่พระสมเด็จวัดระฆังที่แตกหัก ยังนำชิ้นส่วนมาแกะเป็นองค์เล็กๆ ใช้กันได้"

    หลวงปู่ "พระที่ทำด้วยปูนหรือโลหะ

    ข้าอธิษฐานว่าเมื่อใดก็ตามที่ของที่ทำละลายเป็นน้ำ เมื่อนั้นจึงขอให้หมดอานุภาพ

    แล้วเมื่อไรจะละลายเป็นน้ำละแก"

    ดังนั้น ถ้าพระของหลวงปู่หัก ไม่ต้องตกใจหรือเสียกำลังใจ เพราะคำตอบมีอยู่อย่างชัดเจน หลวงปู่เพียงแต่บอกว่า

    "ใครทำพระข้าหัก จะเสียใจไปตลอดชีวิต"

    ทั้งนี้เพื่อให้ทุกท่านมีความระมัดระวัง เนื่องจากของที่หักแล้วมักเกิดตำหนิ มองดูไม่สวยงามเท่าของที่สภาพสมบูรณ์

    ผู้เขียน "การซ่อมแซมพระพุทธรูปองค์ใหญ่ๆ ที่คอหักหรือชำรุดนั้น มีอานิสงส์มากหรือน้อยกว่าการสร้างใหม่"

    หลวงปู่ "ตามพระไตรปิฎกกล่าวว่า

    ซ่อมมีอานิสงส์มากกว่าการสร้างใหม่"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 พฤษภาคม 2010
  19. เด็กมือใหม่

    เด็กมือใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    474
    ค่าพลัง:
    +1,476
    พอดีผมได้หนังสือ นพรัตน์ ที่ระลึกครบรอบ 84 พรรษา พระคุณเจ้าหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะเเก เเละ
    พระผู้จุดประทีปในดวงใจ อนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ พันตรีศักดิสิทธิ แสงจันทร์ มาน่ะครับ เนื้อหาเหมือนของน้องบอยเลย อ่านเเล้วเพลินความรู้มากๆครับ สาธุ

    ปล. พยายามหาอยู่ครับว่าตอนไหนน้องบอยไม่เคยลง จะลงมาแบ่งปันความรู้ ครูบาอาจารย์ เเต่ไม่รู้ตอนไหน เพราะว่าเยอะมาก จำไม่ได้ อิอิ<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
     
  20. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    อนุโมทนาด้วยครับผม เรื่องราวที่ผมเก็บสะสมไว้ก็ยังมีอีกเยอะครับ ก็จะค่อยๆทยอยๆลงแต่บางทีลงเองก็ยัง งง ว่าลงซ้ำไปบ้างหรือเปล่า หุหุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...