" นิมิต นาคา " ความผัน..หรือสัมผัสอัศจรรย์?

ภาพจากในฝัน

มีอยู่ครั้งนึงที่ฝันเกี่ยวกับนาค และสถานที่ก็มีอยู่จริง ไม่ไกลจากบ้านเกินไปนัก

ความฝันอันแสนเศร้า ฝันว่าโดนพ่อดุด่าทุบตี แล้วก็ขังไว้ในห้องบนบ้าน
พอถึงเวลากลางคืนก็เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ถอดกลอนหน้าต่างแล้วปีนหนีออกมาทางระเบียง
หนีออกจากบ้านโดยทางน้ำ เดินเลียบลำห้วยไปเรื่อยๆจนถึงจุดที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำ
เดินทวนน้ำไปถึงสะพานซึ่งเป็นถนนหลวง แล้วก็เดินไปจนถึงอ่างเก็บน้ำห้วยสายนาเวียง
จึงได้นั่งพัก นั่งกอดเข่าร้องไห้แบบหมดอาลัยตายอยากอยู่ริมน้ำ ใต้ต้นไม้ ( ในภาพ )
ใจก็คิดว่าจะหนีไปไหนดีหนอ หนีไปไหนก็ไม่พ้นถูกตามหาจนเจออยู่ดี พรไม่มีที่ไป
อย่ากระนั้นกระนี้เลย หนีไปอยู่ในโลกหน้าซะให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยเป็นไง จะได้ไม่มีใครหาเจอ
เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดขาว จุดธูป 7 ดอกปักไว้ที่ริมน้ำ ขอให้ท่านพ่อส่งคนมารับลูกด้วยเถิด
เขียนจดหมายลาแม่ทิ้งไว้พร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า ที่ๆพรจะไปคงไม่ต้องใช้เสื้อผ้าเหล่านี้
เพียงครู่เดียวก็มองเห็นนาค 4 ตนชูคอรออยู่ในห้วงน้ำ พรก็เดินลุยน้ำลงไปหา
พวกเค้ามาล้อมเอาไว้ข้างหน้า 2 ข้างหลัง 2 พรอยู่ตรงกลาง เมื่อเดินลงไปจนน้ำลึกถึงคอ
ก็หันหลังกลับมามองแผ่นดินครั้งนึง ก่อนจะเดินหน้าต่อจนน้ำท่วมมิด ไม่เหลือร่องรอยอะไรบนผิวน้ำ
ในการเดินทาง พรเหมือนอยู่ในลูกแก้วทรงรี เหมือนไข่ ข้างในน้ำไม่เข้า มองเห็นสิ่งรอบตัวโดยตลอด
พรเหนื่อยจากการเดินทางด้วยเท้าจึงล้มตัวลงนอน คิดว่าเมื่อถึงแล้วพวกเค้าคงปลุกเองแหละ
ตอนที่ตัวของพรในความฝันหลับไป แต่ทำไมพรถึงยังเห็นภาพต่างๆอยู่นะ เพียงแต่เหมือนเป็นแค่คนดู
ตอนที่หลับไปนั้นอยู่ในระยะกลางทาง จู่ๆก็มีแสงสว่างสีทองส่องลอดผ่านผิวน้ำลงมา
แสงจับอยู่ที่ไข่แก้วซึ่งมีพรนอนอยู่ข้างใน แสงนั้นดึงตัวพรกลับคืนมา พวกนาคไม่สามารถทำอะไรได้เลย
แสงสว่างสีทองให้ความรู้สึกที่อบอุ่น นุ่มนวล เต็มเปี่ยมไปด้วยความเมตตาอันอ่อนโยน...

พรตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะรู้ว่าตัวเองนั้นน้ำตาไหลไปกับความฝันอันแสนเศร้า
แล้วก็เลยร้องไห้ต่อซะให้มันสะใจไปเลย...สุดแสนจะเซ็งในอารมณ์ ขนาดจะตาย ( ในฝัน ) ก็ยังตายไม่ได้เลย

เจ้านาย ท่านยังไม่ยอมให้ตาย จะตายได้อย่างไร --_-- '' ยังไม่ได้ทำหน้าที่ตามที่ได้สัญญาเอาไว้เลยนี่นา
นั่นเป็นพลังใจที่ทำให้ฮึดลุกขึ้นมาสู้ต่อ เอาเถอะน่า ทนๆเอา อดทนและรอคอย จนกว่าจะถึงวันของเรานะ.

 

ไม่เห็นใครเข้ามาเล่ามั่งเลย

เล่า ( โม้ ) อยู่คนเดียวมันก็เหงาแย่สิ เรื่องความฝันเกี่ยวกับพญานาค น่าจะมีคนฝันถึงอยู่หลายคน
ผลัดกันเล่ามั่งก็ดีนะ จะได้มีกิจกรรมร่วมกัน แลกเปลี่ยนกันบ้าง

วันนี้หัวข้อคือ ฝันว่าโดนนาคหรืองูใหญ่รัด ตามตำราทำนายฝัน ท่านว่าจะได้พบเนื้อคู่
ตอนบ่ายจึงจะเข้ามาเล่า ช่วงเช้านี้ยังรีบๆอยู่ เดี๋ยวตอนบ่ายค่อยเจอกันค่ะ ^^

 

แต่ก่อนฝันเห็นงูใหญ่บ่อยมาก แต่เป็นคนไม่จำ เลยเล่าไม่ได้ ชีวิตจริงเคยจมน้ำตายแล้วฟื้นทีนึง กลัวน้ำ ว่ายน้ำไม่เป็น จิตใจลึกๆ มีความรู้สึกว่าเป็นมิตรกับงู ในฝันจะเป็ฯจ้าวนางงูเสียส่วนใหญ่ แต่งตัวโบราณๆ คงเกี่ยวกับอดีตชาติ(คิดเอาเอง)

 

นาคกับเนื้อคู่ !?

ค่ะ ^^ ตอนเด็กๆพรเองก็เกือบจมน้ำตายอยู่บ่อยครั้ง ดีที่มักจะมีคนช่วยไว้ทัน เลยรอดตายมาได้

อืม ถ้าฝันว่านาคหรืองูใหญ่รัด ตำราทำนายฝันจะตีเป็น 2 ความหมาย 1 คือจะได้พบเนื้อคู่
2 คือ ถ้ามีคู่อยู่แล้ว และในฝันนั้นได้จับต้องตัวพญานาคด้วย แปลว่าจะได้ผู้ใหญ่อุปถัมภ์

:d แต่ตำรานั้นจะเอามาใช้กับพรก็ไม่ได้ เพราะพรฝันเห็นพญานาคบ่อยๆ โดนกอดรัดก็บ่อย !?
ขนาดพรยังเคยคุยเล่นกับเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทกัน ถ้าคุณฝันถึงพญานาคบ่อยๆแบบพรเมื่อไหร่
คุณจะแยกไม่ออกเลยว่าฝันอย่างไหนกันแน่ที่แปลว่าจะได้พบเนื้อคู่ !?

พรเปรียบได้กับเป็นสมาชิคใหม่ เป็นน้องเล็กของพวกพี่ๆ ถ้าเป็น ' ผู้ใหญ่ ' ก็จะมองดูอยู่ห่างๆ
แต่ถ้าเป็นรุ่นพี่ที่ยังมีอายุไม่มากนัก ก็มักจะมาเข้าฝัน เข้ามากอดแรงๆด้วยความรัก ( และมันเขี้ยว :d )
มีนาคหนุ่มๆมาจีบด้วยนะเอ๊า !? แต่เอาไว้เล่าทีหลังดีกว่า เล่าให้จบเป็นเรื่องๆไป
สำหรับพรนั้น เมื่อจะได้เจอชายที่เข้ามาเพื่อเป็นคู่ชีวิต ( คู่เวรคู่กรรม ) พรก็มีฝันบอกเหตุอยู่เหมือนกัน
ฝันว่ากลับไปเที่ยวที่บ้านคุณยาย หมู่บ้านอยู่ติดกับภูเขา มีวัด มีถ้ำบนภูเขาด้วย ก็ขึ้นไปไหว้พระ ไปเที่ยวถ้ำ
แม่เล่าว่าเมื่อก่อน ตอนที่แม่ยังเป็นเด็ก ในถ้ำมีงูเหลือมตัวมหึมาอาศัยอยู่
ตอนกลางคืน นานๆครั้งจะออกมาหากินเป็ดไก่ของชาวบ้าน แต่ไม่มีใครกล้าฆ่างูใหญ่
ฝันต่อมาว่ามานั่งอยู่บนชะง่อนหินเหนือปากถ้ำ อยากเห็นงูเหลือมตัวนั้นว่าจะใหญ่สักแค่ไหน
จุดธูปที่ปากถ้ำ ' ออกมาให้เห็นหน่อยสิ เราอยากดู ' แล้วงูใหญ่ก็เลื้อยออกมาจริงๆด้วย
แต่งูไม่ได้ออกมาเพียงตัวเดียว มีงูอยู่ 2 ตัว ต่างก็เป็นงูเผือกตัวขาวจั๊วะเชียว เลื้อยพันกันออกมา
งู 2 ตัวกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างไม่สนใจว่าใครจะมอง กอดพันกันจนดูเหมือนงูในตำรานาคสมพงค์

แต่โชคร้าย งูทั้ง 2 ตัวต่างก็เป็นตัวผู้ค่ะ !! แล้วมันจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันไปทำไมล่ะนั่นน่ะ !?
ดูให้ดีจึงเห็นว่าที่รัดกันน่ะ ไม่ใช่รัดด้วยความพิสวาทอะไรเลย มันกำลังต่อสู้กันอยู่ต่างหาก
เหมือนงูเห่าเวลาต่อสู้เพื่อแย่งชิงตัวเมีย มันจะไม่กัดกัน เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีพิษร้ายแรง
จึงต้องตัดสินกันด้วยกำลัง กอดรัดกัน ตัวไหนอยู่ข้างบนแปลว่ามีกำลังมากกว่า สู้กันจนกว่าจะชนะ

แล้วพรก็ได้กลับไปเยี่ยมญาติที่บ้านคุณยายหลังจากที่ฝันแบบนั้นไม่ถึงเดือน เหมารถไปกันทั้งครอบครัว
ความจริงอันเหลือเชื่อในเวลาต่อมาก็คือ คู่ชีวิตของพรคือชายเจ้าของรถที่ครอบครัวพรเหมาไปนั่นเอง
ตอนนั้นพรยังไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ ไปถึงแล้วก็พาเพื่อนบ้านที่ไปด้วยกันไปเที่ยวบนภูเขา ไหว้พระและชมถ้ำ
ชายคนนั้นก็เข้าไปเที่ยวถ้ำด้วยกัน อืมม์...โชคชะตานี่มันแปลกดีพิลึกเลยว่ามั้ย ?
พรยังจำได้ว่างูในฝันมันกอดรัดกันเพราะมันสู้กันนะ ไม่ได้รัดกันเพราะรักเลย
ชีวิตคู่ของพรถึงได้ลุ่มๆดอนๆไง ^^'' ( แล้ว งูใหญ่ อีกตัวนี่มันอะไรกันเหรอ ? )

 

นาคเล่นน้ำ...

ภัยพิบัติเรื่องน้ำกำลังมาแรง มองไปทางไหนก็เห็นมีแต่ข่าวน้ำท่วม ในกระทู้ก็มีพายุงวงช้าง หรือนาคเล่นน้ำ
พรมิใคร่จะแปลกใจเท่าไหร่เมื่อได้เห็นภาพที่เรียกว่า พญานาคเล่นน้ำ
เพราะพรเคยเห็นมาก่อนจากในความฝัน พรเรียกมันว่าทอร์นาโดน้ำ หรือเสาน้ำ
พรฝันเห็นไม่บ่อยครั้งนัก แต่มีอยู่ครั้งนึงที่น่าจดจำ จะเล่าให้ฟัง
คงจะไม่ผิดศีลข้อมุสา เพราะเล่าจากที่ฝันเห็น แล้วพรก็มักจะจดความฝันแปลกๆเอาไว้ในสมุดบันทึก
ความฝันเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเทวา เหตุการณ์บางอย่างที่ยังไม่เกิด แต่อาจจะเกิด
จดเอาไว้ทั้งหมด เวลาเหตุนั้นๆเกิดขึ้นจริง เราจะได้กลับไปดูว่าตรงกับที่ฝันเห็นหรือไม่
เช่นเดียวกับความฝันเรื่องทอร์นาโดน้ำที่จะเล่าให้ฟัง ในวันพรุ่งนี้ เพราะวันนี้เวลาว่างไม่พอค่ะ ^^

 

นาคเล่นน้ำ 2

ครั้งนึงที่ฝันเห็นเสาน้ำเคลื่อนที่ เป็นคืนของวันคล้ายวันเกิดของพรเมื่อต้นปี ปีนี้ จึงจดจำได้แม่นยำ
ฝันเห็นปรากฏการณ์พญานาคเล่นน้ำ พอเห็นเท่านั้นแหละพรก็หลบทันที
ขอซ่อนตัวอยู่ในบ้านชาวบ้าน ทอร์นาโดน้ำเคลื่อนที่อยู่บนพื้นถนน เคลื่อนตัวผ่านไปช้าๆ
เมื่อลูกแรกเลยผ่าน โล่งใจขึ้นเยอะ ออกมาจากที่ซ่อน
พอมองจากทางหน้าต่างจึงเห็นว่าอีกลูกกำลังเคลื่อนมา จึงเข้าไปซ่อนตัวในตู้อีกครั้ง
เสาน้ำเคลื่อนผ่านหน้าบ้านไป แล้วจู่ๆก็วกกลับมาอีกครั้ง เข้ามาห่อหุ้มบ้านหลังนั้นไว้
ชาวบ้านที่พรเข้าไปขออาศัยมีอาการเหมือนขาดอากาศหายใจ หนีไปไหนก็ไม่ได้เพราะน้ำปิดทางเข้าออก
พรสงสารชาวบ้านจึงออกมาจากที่ซ่อนตัว ' พรจะไปกับท่านก็ได้ ได้โปรดอย่าทำอะไรพวกเค้าเลย '
กำแพงน้ำได้คลายออก พรออกมายืนอยู่นอกบ้าน แล้วน้ำก็พุ่งขึ้นจากพิ้นดินเหมือนน้ำพุ ดันตัวพรขึ้นไปบนท้องฟ้า
แล้วหมู่เมฆก็แหวกออก ในกลุ่มเมฆนั้น มีชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนเฝ้ารอคอยอยู่ ท่าทีคล้ายผู้สูงศักดิ์
เมื่อท่านเห็นพร ก็เอื้อมมือมาคว้าเข้าไปกอดเอาไว้แนบอก พรสะดุ้งเฮือก ' ตัวท่านเย็นจังเลย '
ท่านคลายอ้อมกอด พูดหัวเราะๆ 'ตัวเจ้าสิอบอุ่นดี มาเถอะ ไปกับเรา' พื้นล่างเสาน้ำได้คลายตัวลงแล้ว
ท่านพาพรไปยังบึงน้ำกว้างใหญ่แห่งนึง 'รอเราอยู่ตรงนี้ก่อน เรายังมีธุระที่จะต้องไปทำให้แล้วเสร็จ'

เมื่อท่านไม่อยู่ ปล่อยให้เหล่านางบริวารเป็นผู้ดูแล พรไม่มีอะไรจะทำก็ลงเล่นน้ำ
บึงนั้นใหญ่มากอย่างกับทะเลสาปย่อมๆ ดอกบัวแดงบานเต็มไปหมด ที่นี่มันที่ไหนกัน มีอยู่จริงหรือเปล่านะ ?
ลึกๆในใจต้องการที่จะหนีอยู่ตลอดเวลา พรกลัวท่านผู้นี้ ทำไมก็ไม่รู้นะ คือรู้สึกว่าความรักของท่านช่างร้อนแรง
ความรักที่พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาเป็นอุปสรรคขัดขวาง
เป็นความรักที่อันตราย นั่นทำให้พรหนีท่านเรื่อยมา
เมื่อเหล่านางบริวารเผลอ ก็เด็ดดอกบัวเอาสายบัวต่างท่ออากาศ ดำน้ำหลบซ่อนตัวอยู่
เมื่อท่านกลับมาและรู้ว่าพรหายตัวไปที่บึงน้ำ ท่านกริ้วมาก พวกผู้หญิงหน้าซีดตัวสั่น แล้วท่านก็ออกมาตามหาด้วยตัวเอง
ท่านระเบิดน้ำ !! น้ำในบึงระเบิดตูมเป็นหย่อมๆจนแหวกออก ดอกบัวแทบว่าจะถูกถอนรากถอนโคนเพราะแรงระเบิด
แล้วพรก็ถูกหาเจอ ท่านเข้ามาคว้าเข้าไปกอดไว้แน่นๆเหมือนจะลงโทษ ' ทีหน้าทีหลังอย่าทำอะไรแบบนี้อีก
เรารักเจ้า อย่าหนีพี่ไปไหนอีกเลย ' พรแสนจะกลัวท่าน แต่ไม่ได้เกลียด ฝันถึงท่านทีไรพรก็หนีทุกที หนีพ้นบ้างไม่พ้นบ้าง

เฮ้อ~เราอยู่ต่างภพกันแล้วนะ เราเป็นคนแต่ท่านไม่ใช่ ความฝันเหล่านี้เป็นความทรงจำส่วนหนึ่งของอดีตชาติหรือไร ?
พรไม่มีความทรงจำของชาติที่ผ่านพ้น ไม่ว่าชาติไหน แม้จะฝันถึงบ้างเป็นบางครั้ง แต่มันทำให้รู้สึกเศร้ามากกว่าจะเป็นสุข
เมื่อมาเกิดใหม่ ชาติภพที่แล้วย่อมจบไป การโยงใยมากไปรังแต่จะทำให้สับสนวุ่นวาย เจ็บปวดใจเปล่าๆ
พรจะไม่เอ่ยนามท่าน เพราะตราบใดที่พรยังไม่แน่ใจ พรจะไม่เรียกขาน แม้พรจะมีนามนั้นอยู่ในใจก็ตาม
เพราะชื่อที่พรรู้ และเรียกขานในใจ อาจจะเป็นนามของท่านจริงๆ หรืออาจจะเกิดจากจิตปรุงแต่ง คิดไปเองก็เป็นได้
ปีนี้ ฝันเห็นท่านในคืนวันคล้ายวันเกิด ท่านหาพรเจอแล้ว...พรจะต้องระวังเรื่องคู่ของพรให้มากสินะ...

ดังนั้น เมื่อในปีนี้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ พญานาคเล่นน้ำ พรจึงไม่แปลกใจ
แล้วเรื่องภัยธรรมชาติทางน้ำ พรก็ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก
ปีนี้น้ำคงจะท่วมหนักกว่าทุกปี หลายๆที่ในหลายๆประเทศต่างก็เจอปัญหาพายุฝนฟ้ากระหน่ำ น้ำท่วม ก็ ท่านมา..นี่นา

 

ขวัญหาย...

เมื่อตอนท้ายปีของปีที่แล้ว พรไม่สบายมาก ล้มหมอนนอนเสื่ออยู่เป็นเดือน
ตอนที่เริ่มป่วยนั้น ฝันว่ากลับบ้าน...กลับไปหาท่านพ่อ
ทางเหมือนบันไดทอดลงไปเรื่อยๆ จนถึงส่วนที่เป็นประตูกำแพงเมืองชั้นนอก
เมื่อเดินผ่านประตูเมืองเข้าไป ข้างในมีชาวเมืองจำนวนมากคอยรอรับอยู่
พวกเขายิ้มแย้มแจ่มใส ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี มีการบรรเลงดนตรีและขบวนแห่
หญิงสาวหลายนางเข้ามารุมล้อม พาไปอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ เร็วๆเถอะเจ้าค่ะ ท่านเจ้าเมืองรออยู่
การแต่งตัวแบบเจ้าหญิงในเรื่องจักรๆวงศ์ๆไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าไม่มีผู้ช่วย แต่ก็ออกมาเรียบร้อยดี

ขบวนแห่เดินทางมาได้กึ่งทางก็หยุดพักเพราะมืดค่ำ เขาจัดพลับพลาให้พัก มีการแสดงดอกไม้ไฟด้วย
ก็เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 ของที่ซึ่งเขาจัดให้เป็นที่ชมดอกไม้ไฟ ไปนั่งดูดอกไม้ไฟพร้อมพวกนางกำนัล
นั่งดูได้สักพักนึงก็รู้สึกเหมือนถูกมองจากข้างหลัง พอหันไปดูก็เห็นพวกผู้ชายมานั่งอยู่ถัดออกไป
ท่าทางจะเป็นเจ้านายหนุ่มๆจากหัวเมืองใกล้เคียง ไม่รู้ว่ามานั่งมองอยู่ตั่งแต่เมื่อไหร่
เราไม่ชอบการแอบมาดูตัวแบบนี้ ก็เลยขอตัวกลับก่อน ( ที่จริงคืออายสุดๆเลยเอาความหงุดหงิดมาบังหน้า )

ตอนนั้นจึงไม่สบายอยู่นาน เพราะขวัญไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขวัญแอบหนีเที่ยวไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้ ^^''

 

ถูกจีบ !?...

ลูกสาวของท่านพ่อเป็นสมาชิคที่เพิ่งยื่นวีซาร์และเดินเรื่องขอเป็นพลเมือง ได้รับการอนุมัติมาหมาดๆ
สมาชิคเก่าหลายท่านได้ ( เข้าฝัน ) เข้ามาทำความรู้จักด้วย ในขณะเดียวกันก็ถูกหนุ่มๆจีบด้วย
เพราะเป็นสมาชิคใหม่ ยังไม่มีคู่ การดูตัวจึงน่าจะเป็นเรื่องธรรมดา ช่วงนึงจึงฝันว่าถูกจีบอยู่บ่อยครั้ง

( นี่กำลังเล่าเรื่องความฝันนะ อย่าคิดอะไรเป็นจริงเป็นจัง ฟังแค่สนุกๆก็พอ อ่านไปเถอะ อย่าคิดมาก )

ฝันว่าถูกนาคหรืองูใหญ่รัด อันนี้บ่อย ลืมเรื่องเนื้อคู่ไปได้เลย ไม่งั้นก็มีคู่เป็นสิบแล้ว !?
บางฅนเค้าก็น่ารัก มาด้วยร่างนาค ว่ายน้ำมาใกล้ๆ คาบดอกไม้ไว้ในปาก เด็ดดอกไม้มาฝากพร
จำได้ว่าเป็นดอกชบาหางหนู ทำไมจึงเป็นชบาหางหนู ? เพราะพรมักจะร้อยมาลัยโดยใช้ดอกไม้ชนิดนี้ทำอุบะ
นาคหลายฅนก็เกเร ฝันถึงก็เข้ามาอุ้ม จะมาพาไปอยู่ด้วยเอาดื้อๆเลย ( ร่างมานพหนุ่ม )
ไม่สนใจด้วยนะว่าฝ่ายหญิงเค้าไม่เล่นด้วย แต่ดิ้นรนอย่างไรก็ไม่หลุด กอดแน่นจะตายชัก
แต่สุดท้ายก็แอบหนีได้ทุกที เพราะพรไม่สมัคใจ แต่ในบางครั้ง นาคตนนั้นก็มีฤทธิ์แก่กล้า
พรหนีด้วยตัวเองไม่ได้ ครั้งนึงเกือบถูกปล้ำในความฝันไปแล้ว กำลังถูกตบจูบตบจูบอย่างกะหนังซาร์ดิส
พรได้แต่ร้องไห้ดิ้นรนเพราะสู้ไม่ได้ แล้วลำแสงนึงก็สาดส่องลงมาจากฟากฟ้า ตวัดฟาดเอานาคเกเรตนนั้น
พอถูกลำแสงนั้นกระทบเข้าเท่านั้นแหละ ถึงกลับกระเด็นไปตกไกลออกไป เลือดกลบปาก ลนลานหนีไป
ใครเป็นเจ้าของลำแสงนั้น ?...เจ้านาย...นายท่าน ที่เมตตาคอยคุ้มครองดูแลพรอยู่ พรรู้แค่นั้น

ถ้าจะมีคู่...สำหรับชาติภพเบื้องหน้า พรก็อยากจะเลือกเองมากกว่า อยากเป็นฝ่ายเลือกมากกว่าเป็นฝ่ายถูกเลือก
พรเคยฝันถึงใครคนนึง...แม้จะไม่บ่อยครั้งนัก คนที่เคยเด็ดดอกบัวหยิบยื่นให้...
อืมม์...ถ้าเป็นท่านผู้นี้ พรก็มีใจยินดีด้วย... ครั้งนึงในความฝัน พรเคยเอ่ยนามท่าน
ตอนนั้นฝันว่าโดนผีตามหลอก หนีไปไหนผีก็ตามหลอน จากความกลัวก็กลายเป็นความโกรธ
' ด้วยศักดิ์แห่งธิดาท้าววาสุกรีนาคราชผู้เป็นใหญ่แห่งบาตาล ด้วยพลังแห่งท่านท้าว...พระสวามีได้ประทานเอาไว้ให้
พวกเจ้า ( ผี ) อย่าได้บังอาจมากำแหงกับเรา ถ้ายังตามรังควาญเราไม่เลิก
เราจะไปเข้าเฝ้า ทูลฟ้องท่านท้าวเวสสุวรรณ นายผีเหนือหัวของพวกเจ้า แล้วอย่าหาว่าเราใจดำ
ด้วยนามที่เอ่ยอ้างมานั้น ทำเอาพวกผีๆทั้งหลายหลบลี้หนีหายกันไปหมด
ตื่นขึ้นมาแล้วก็เขินเป็นบ้าเลย !? ไปเอ่ยนามท่านว่าเป็นพระสวามี โอย...ฝันอะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้ อ๊ายอาย [Embarrass

แล้วพรก็ฝันถึง...อันนี้ไม่เล่าดีกว่าเพราะว่าพรเขินเป็นอยู่เหมือนกัน สรุปว่าพรมีคู่หมั่นทางจิตวิญญาณแล้ว
จากนั้นเป็นต้นมา พวกนาค หนุ่มๆ ก็ไม่กล้าเข้ามาจีบพรอีกเลย คงเกรงใจ เกรงกลัวท่าน

ส่วนพรก็คิดถึงความฝัน คิดถึงนามท่านทีไร เป็นให้จั๊กเดียมใจทุกครั้งไปสิน่า ฝันอะไรอย่างนี้ก็ไม่รู้ [Embarrass !!!???

 

เมื่อก่อนฝันเห็นงูบ่อยมาก ฝันเห็นเป็นฝูงและก็ฝันว่างูพูดบ้าง เมื่อตอนเด็ก จะฝันเป็นเป็นงูขนาดปกติ แต่พอโตขึ้นฝันเห็นแต่ตัวขนาดอนาคอนด้าตลอดเลย เหอๆ ที่จำได้นะพวกงู
ที่มีขนาดปกติน่ะ มาไม่ถึงตัวเราซักกะตัว ตายเพราะคนอื่นหมดเลย ยกเว้นงูยักษ์

 

พรที่ได้ขอ...

ครั้งนึงในความฝัน ช่วงเวลาก่อนที่จะขอเป็นลูกสาวท่านพ่อ
( พรเล่าโดยไม่ได้ลำดับช่วงวันเวลาก่อน-หลัง คิดถึงเรื่องไหนได้ก่อนก็เล่าก่อน )
ครั้งนึงฝันว่าได้ยามาหม้อนึง เห็นว่าเป็นยาวิเศษสามารถรักษาได้สารพัดโรค
ใครมอบให้ก็จำไม่ได้ซะแล้ว พรมีโรคประจำตัวที่ยังรักษาไม่หาย ผู้ให้ คงต้องการรักษาโรคให้กับพร
เมื่อได้รับหม้อยาก็ถือติดมือมา ยังไม่ได้ใช้ ฝันว่าเดินขึ้นเขา ต้องการที่จะไปวัดบนยอดเขา
ได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวจนแผ่นดินสะเทือน ก็เดินเลียบเขาทางด้านที่เป็นหน้าผาไปดู
ที่พื้นราบก้นหุบเขาด้านนั้น งูใหญ่ 2 ตัวที่กำลังต่อสู้กันอยู่ ได้รู้ผลแพ้ชนะกันแล้ว
แต่ด้วยความที่คงจะสู้กันมาเป็นเวลาหลายวันหลายคืนติดต่อกัน ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว
ได้แต่นอนแน่นิ่ง หายใจหอบแรงด้วยความเหนื่อย เลือดชุ่มโชกไปหมดทั้งสองตัว
เมื่อพรเห็นดังนั้นก็มีใจสงสาร ในมือมียาหม้ออยู่ ยาในหม้อนี้คงจะมีประโยชน์ต่อพวกเขามากกว่าเราเป็นแน่แท้
ก็โยนหม้อลงไป หม้อดินกระทบเข้ากับลำตัวงูก็แตกออก ตัวยาได้กระจายชโลมไปทั่วตัวงูทั้งสองตน
บาดแผลได้รับการเยียวยาจนหายสิ้น ทั้งยังเรียกเรี่ยวแรงให้ฟื้นคืนมา งูตัวที่แพ้ก็เลื้อยเข้าป่าไป
ส่วนงูอีกตนกลับชูคอยกศรีษะสูงขึ้นจนถึงจุดที่พรยืนอยู่ เขามองดูพร ดวงตามีแววประหลาด...บอกไม่ถูก
( ตาโตเท่าโอ่งมังกร คิดดูเอาเถิดว่าลำตัวจะใหญ่โตมโหระทึกแค่ไหน ไม่เคยฝันเห็นงูตัวโตเท่านี้มาก่อน )
แล้วเขาก็ลดคอลง เลื้อยหายเข้าไปในป่า ส่วนพรก็เดินขึ้นเขาต่อ ไปจนถึงวัดบนยอดเขา
ที่นั่นมีพระสงฆ์อยู่สามรูป ได้ถวายข้าวปลาอาหารแก่พระสงฆ์ ฟังเทศนาธรรมและรับพร
ตอนนั้นเองได้มีชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินเข้ามาในศาลา เข้ามาฟังธรรมด้วย
จิตรับรู้ นี่คืออีกร่างหนึ่งของงูใหญ่ตนที่จ้องมองพร ว่าแต่เขามาที่นี่ทำไมอีกกัน ?
เมื่อพระท่านฉันเสร็จก็เลื่อนคืนถาดสำรับส่งให้ พรรับมาแล้วก็ว่าจะรับประทานต่อจากท่าน
แต่ก็เปลี่ยนใจ ยกสำรับนั้นให้เขาได้รับประทาน คิดว่าเขาน่าจะหิว เพราะไม่รู้ว่าต่อสู้กันมานานแค่ไหน
เขายินดีรับ และลงมือทานอาหาร พรได้แต่มอง พิจารณาเขา ( อืม! คนอะไรไม่รู้ หล่อเป็นบ้า !?
ท่าทีมีสง่าราศี กิริยามารยาทเรียบร้อย อกผายไหล่ผึ่งสมชาย เวลารับประทานอาหารด้วยมือก็ยังดูดี ไม่น่าเกลียดเลย )
เมื่อเขารับประทานเสร็จ พรเก็บสำรับแล้ว แล้วเราก็นั่งคุยกัน
เขาว่าพรมีคุณต่อเขา ได้ช่วยเหลือรักษาบาดแผลให้ ทั้งยังให้ข้าวปลาอาหารให้เขาได้รับประทานจนอิ่มท้อง
' เราจะให้พรแก่เจ้า ปรารถนาสิ่งใดก็จงขอมาเถิด หากไม่เกินวิสัยของมนุษย์ เราก็จะให้ '
ตอนนั้นพรยังคิดอะไรไม่ออก เขา-ท่านเลยบอกว่า เอาไว้คิดออกเมื่อไหร่ค่อยขอก็ได้
ให้คิดถึงท่านแล้วก็อธิฐานเอา อืมม์...พรตื่นขึ้นมาในตอนเช้า คิดถึงความฝันของตัวเอง แล้วก็อธิฐาน
ข้าแต่พญางู ( นาค ) ผู้เจริญ เราขอให้อสรพิษทั้งหลายทั้งปวง อย่าได้มีพิษมีภัยแก่เรา
ขอให้งูทั้งหลายอย่าได้ทำร้ายเรา ขอให้เราจงเป็นมิตรแก่กันเถิด นี่คือพรที่เราจะขอจากท่าน

นับตั่งแต่นั้นมา พรก็ไม่กลัวงูอีกเลย ( อันที่จริงก็ไม่เคยกลัวมาตั่งแต่แรกอยู่แล้วล่ะ )

 

จากความฝัน .....สู่ การ นั่งธรรมะ ในถ้ำเขาทะลุ อ.ทองผาภูมิ กาญจฯ
อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดย นาคา
เมื่อ 2-3 วัน ก่อน ครับ หลังจาก ที่ ทำความสะอาด ห้อง พระ และเพลีย นอนหลับไป ตอนกลาง วัน ใน ห้อง พระ ( ช่วง เข้าพรรษา 2550 ประมาณ 2-3 วัน )
ในงานแต่งงานเพื่อน พัก ที่ห้องรับรอง มีเพื่อน คนหนึ่ง เค้า ว่า จะคุย กับ พญานาค ไหม.. .ผมถาม ว่า อ้าว จะเชิญ ท่าน มาฤา
-----------------------------------------------------------------------
เค้า ยืน ประมาณ 2 นาที่ รู้สึก ว่า น้ำ ใน บึงใหญ่ ที่อยู่ ใกล้ๆ หมุน เป็น วงกลม จาก ระดับ ใต้ บึงลึก หลาย ร้อยเมตร ( น่าจะเป็น ถ้ำ มากกว่า )
-----------------------------------------------------------------------
มี พลัง ลมเย็น มาปะทะ ความรู้สึก ว่า พญานาค องค์ใหญ่ สุดประมาณ ท่าน ยืด ลำตัว เข้ามา มาหยุด รอ ที่หน้าต่าง ผมเปิด หน้าต่าง ออก
พญานาค องค์ สีเขียวมรกต สวยงามมาก ผงก หัว เข้ามา ฉก ที่ มือ ด้วย ความรัก และเมตตา เรา มากกว่า อย่างอื่น และ ไม่มีอันตรายใดๆๆ และก้อ รู้สึก ว่าจะคาย....ให้
แต่ ตื่น พอดี ....ในจิต คิด ว่า พญานาคี คงมาบอก อะไร หลายๆอย่าง..

30 สค.2550 มีโอกาสมาเยือนบ้านยายผีป่าที่อ.ทองผาภูมิ ขณะที่ยายผีป่า นำไปดูห้องพระ สักพักหนึ่งยายผีป่านำเพื่อนในกลุ่มทานอาหารค่ำ แต่ผมเองขอตัว เนื่องจาก อย่ในช่วงเข้าพรรษาปี2550 ผมนั่งกำหนดจิต สักพักมีพญานาค สีเขียวมรกตใส สวย มาชลอที่หน้าต่าง และยืดลำตัวเข้ามาทักทาย (เหมือนในความฝัน เลยครับ ซึ่งน่าจะเป็น ย่าพญานคี ผมถามว่า ท่านมีนามใด ท่านบอกว่า ก้อ ท่านรู้อยู่แล้ว เนี่ย... จากนั้นจึงเดินทางไปพัก ที่ถ้ำเขาทะลุ นอน ในถ้ำ 3 คน ( ก่อน นอน ทางพระหลวงพี่เผื่อน และ คนที่มาส่ง บอก ว่าไหว ไหม มานอน ที่ ศาลา พระ ดี ไหม ... แต่ เรา ยืนยัน เดินยัน ขอนอนสมาธิ ในถ้ำ ........... เจอ เพื่อน / ญาติ ต่าง มิติ เหล่า นาค ) ----- โปรดใช้วิจารญาณ ---
นั่ง - นอน สมาธิ เกือบตลอดคืน ตอน กลางคืน นั่งธรรมะ ภายในถ้ำ ขณะ ที่ อีก 2 ท่าน เริ่ม ทำท่าจะนอน สมาธิ กันแล้ว ปรากฏ ว่า
หลวงปู่ใหญ่ ท่าน เมตตา มาดูแล ผม จึง เอ๋ย คำอารธนาท่าน
" พุทโธ คุนัง อรหังพุทโธ " " โย มหาเถโร นามะอุตโร..." โลกุตตโล ....."

ทั้ง 2 ท่าน และ ผม หลับตา อารธนา หลวงปู่ใหญ่ ปรากฏ ว่า...

เทียน พรรษา เล่มพอประมาณ มีลมพัด มาช้าๆๆๆๆๆๆ และเทียนเริ่มจะ มอด มืด นิดหนึ่งประมาณ 1 นาที ในจิต ผม บอก ว่า .
ปู่ใหญ่ พร้อม ทั้ง ปู่นาคราช เหล่านาค เจ้านาง พระน้องนาง....นาค มา....
สักพัก เทียน เริ่ม สว่างต่อ......
ต่อมา ประมาณ 04.00 หลวงพี่เผื่อน ท่านเดิน มาบนถ้ำ ผมนิมนต์ ท่าน คุยนิดหนึ่ง จากนั้น พระ สวดมนต์ ทำวัตรเช้า ที่ศาลา ในวัด
ส่วนผม นั่งสวดมนต์ ทำวัตรเช้า ในถ้ำต่อ จากนั้น สวดมนต์ ธรรมจักร์ ฯ เพื่อส่งกระแสจิต ถึง เหล่า นาค , เพื่อน ต่าง มิติ

เมื่อ มอง ในมิติ จึงออกมาคล้ายในความฝัน แฮะๆๆๆ...
-------------------------------------------------------------------
เค้า ยืน ประมาณ 2 นาที่ รู้สึก ว่า น้ำ ใน บึงใหญ่ ที่อยู่ ใกล้ๆ หมุน เป็น วงกลม จาก ระดับ ใต้ บึงลึก หลาย ร้อยเมตร ( น่าจะเป็น ถ้ำ มากกว่า )-
------------------------------------------------------------------
รุ่งเช้า มีเพื่อน ท่านหนึ่ง ลงมาที่ศาลา แล้ว แต่ ยังไม่ใด้ กล่าวขอบคุณ พญานาคราช หรือ เทพ..... เท้าก้าวย่าง ตรงพื้นลานหน้าบรรใด นาค ลื่นล้ม....( เจ้าตัว บอกว่า ปู่นาคราช ท่าน ...มากระทบ....แฮะๆๆๆๆ )
ตามปกติ บางครั้ง หลัง จากที่ สวดมนต์ นั่งธรรมะ ตามปกติ แล้ว เมื่อ มีเวลา ผม มักจะ แผ่ เมตตาจิต ให้ กับ พญานาค ๑๔ เหล่า ครับ
ซึ่ง เมื่อผมลงมาจาก บันได ทางขึ้นถ้ำ สังเกตุ ว่า ด้านหลังเรา มี น้องนางหนึ่ง มาด้วย จึงหันไปดู .... น้องเค้ามาส่ง ที่ บันได สุดท้าย ...ก้อ กำหนดจิต บอกว่า ....เรากำลังสร้างบารมี น่ะ แล้ว จะส่งพลังบุญ ให้ สักวันหนึ่ง น้อง คงใด้พบกันที่ ดาวดึงส์
มีท่านใดแวะเยียม ยายผีป่า แห่ง บ้านถ้ำเขาทะลุ ลองถามยาย..ดูว่า...น้องนาคี นั่น ชื่อนามใด....ซึ่งผมเอง ทราบในจิต แล้ว และใด้ตั้งชื่อน้องใว้ที่ดาบ.
ภาพ ส่วนหนึ่งที่ถ้ำเขาทะลุ

ภาพ1-2.ถ่ายด้านหน้าสมเด็จองค์ปฐม ในถ้ำ

ภาพ4.บันไดที่เจอน้องนาคี.. ราชกุมรีศรี...
http://palungjit.org/showthread.php?p=759989#post759989

 

อนุโมทนาด้วยค่ะ

ดีจังเลย~มีผู้สนใจเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันบ้างแล้ว ดีใจจัง ^-^
นึกว่าจะต้องเล่าอยู่คนเดียวซะแล้วสิ ( ทู่ซี้เล่าอยู่คนเดียว มันก๊ะเขิน~เหงาแย่เลย~ )
แล้วก็ดีจังเลยเนอะ~ได้เห็น ได้มีจิตสัมผัสกับท่านทั้งหลายในสถานที่ที่คุณได้ไปถึง
ขออนุโมทนาด้วย พรเสียอีก ยังไม่เคยได้รับประสบการณ์โดยตรงซะที ได้พบกันแค่ในความฝัน
เพราะโลกของพรยังแคบค่ะ ยังไม่ค่อยจะได้เดินทางไปต่างจังหวัดมากนัก อย่างมากก็แค่ไปเยี่ยมญาติ
มีที่ๆอยากจะไปมากอยู่หลายแห่ง ตั่งเป้าเอาไว้เลย สักวันหนึ่งจะต้องไปให้ได้
ก็ อยากไปดูปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค แล้วก็ไปที่คำชะโนด ( เรียกถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ )
ที่นั่นตามที่รู้มาคือพรหมประกายโลก ( ถ้าพิมพ์ผิดก็ต้องขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วย )
มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อันเป็นทางเข้าออกของเหล่าพญานาค เชื่อมโยงระหว่างโลกมนุษย์ สู่นาคพิภพ

บางเวลา พรได้แต่เหงาๆด้วยความคิดถึง คิดถึง คำนี้ใครไม่เคยสัมผัสก็คงไม่รู้ อืม คิดถึงจังเลย...

 

ว๊าว !? งู !!

คงเพราะที่นาของพรอยู่ติดกับป่าละเมาะและลำห้วย งูจึงออกจะชุกชุม
แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด ก็ไม่ได้กลัวงูมาตั่งแต่เด็กๆแล้ว ( ค่อนข้างชอบซะอีก )
บางวันระหว่างที่ถอนหญ้าในแปลงนา มีตัวอะไรไม่รู้ลื่นๆเย็นๆไต่อยู่ที่หลังเท้า ใจหายวาบ !?
รีบก้มหน้าลงไปดู ปัดโธ่โว้ย !? งูนั่นเอง แห๊ม !? ใจหายหมด นึกว่าปลิงซะอีก !!
นั่นแปลว่าพรกลัวปลิงมากกว่ากลัวงู แหม ก็งูน่ะ ต่อให้เป็นชนิดที่มีพิษร้ายแรงแค่ไหน
เค้าก็ไม่ทำร้ายคนก่อนหรอก สัตว์คนเป็นสัตว์ที่น่ากลัวที่สุด สังเกตุดูเอาเถอะ
งูเจอคนเมื่อไหร่ มันเผ่นแน๊บทุกทีสิน่า ( เรื่องอะไรจะอยู่รอให้ตัวเองกลายเป็นเมนูเปิบพิสดารวะ !? )
อย่างมากถ้าเดินๆไปจ๊ะเอ๋กันที่กลางทางรกๆ ต่างฝ่ายต่างก็หยุดซะงักเพื่อดูท่าทีกันก่อน
พอเห็นว่าไม่น่าจะมีอันตรายอะไร ต่างก็หลีกทางให้แก่กัน แยกย้ายกันไปก็หมดเรื่อง
ส่วนปลิง มันอยากจะกินเลือดเราว่ะ !? ต่อให้เห็นลอยน้ำมาไวๆ พยายามเดินหนีแล้วอย่างไม่อยากจะมีเรื่อง
มันก็ยังอุส่าห์ลอยตามมาถึงตัว และเกาะกินเลือดเราจนได้สิน่า เลยต้องได้ฆ่าปลิง แห๊ม บาปกรรม

เมื่อเร็วๆนี้ฝนตกห่าใหญ่ สามีได้ทำเครื่องดักปลาเอาไว้ ภาษาถิ่นภูไทเรียก ซั้ง ภาษากลางคงจะเป็น ชั่ง ล่ะมั้ง ?
ปกติจะไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะไปเก็บปลาในชั่ง แต่วันนั้นไม่มีใครว่าง เค้าใช้ให้เราไป เราก็ต้องไป
ในพงหญ้าใกล้ปากชั่ง มองเห็นสัตว์อะไรสักอย่างเคลื่อนไหวอยู่ ตอนแรกนึกว่าปลากำลังจะลงชั่ง
คิดว่าจะไล่ปลาลงชั่งจึงเดินเข้าไปใกล้ๆ ที่ไหนได้ งูนี่หว่า เห็นแต่หางสีน้ำตาลเลื้อยหนีอยู่ไหวๆ
ด้วยความที่อยากรู้ว่าตัวใหญ่แค่ไหน ก็เดินตามไปดู แหม เลื้อยหนีเข้าพงหนามไปแล้ว เลยอดดูเลย !!
คิดในใจว่า เอาเถอะ สักวันหนึ่ง แล้วเราจะได้พบกัน

แล้วหลายวันต่อมาฝนก็ตกหนักในตอนกลางคืน ตอนเช้าเค้าก็ใช้ให้เราไปเก็บปลาอีก
ชั่งแรกเจองูขนาดกลางที่มักจะพบได้โดยทั่วไป มันติดอยู่ในชั่งหนีออกไปไม่ได้ เจอคนมาพบก็ดิ้นหนีน่าดู
ใจเย็นๆ ไม่ต้องกลัวน่า เราไม่ได้เป็นศัตรูกับเจ้า เราจะช่วยปล่อยเจ้าออกไป มานี่มา มาหาแม่ม๊ะ
( โว้ย !? ว๊อย !? ไหง๋เรียกตัวเองว่าแม่อย่างนั้นล่ะ เราไม่ได้มีลูกเป็นงูไปได้หรอก
แล้วมันก็ไม่ใช่ลูกแมวลูกหมาที่น่ารัก ซึ่งคนเลี้ยงมักจะเรียกคำแทนตัวเองว่าแม่ด้วย !? )
แต่เราก็ช่วยจับมันปล่อยออกไปจนได้นั่นแหละน่า ถ้ามันยอมให้จับ ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
ทีนี้เดินไปถึงชั่งใหญ่ ก๊ะเจอเข้ากับคู่กรณีที่เข้าไปติดแหง๊กอยู่ในชั่ง งูตัวโตสีน้ำตาลตัวนั้นนั่นเอง
ว๊าว !? ตัวโตดีแท้ นี่ดีนาที่เราเป็นคนมาเจอ ไม่งั้นเจ้าก๊ะเตรียมตัวกลายเป็นสุดยอดเมนูเปิบพิสดารได้เลย
แล้วก็โชคดีที่มันไม่ใช่งูพิษ การช่วยจึงไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ ส่วนเรื่องดิ้นหนีก็เป็นเรื่องธรรมดา
การจับงูต้องช้าๆค่อยเป็นค่อยไป พอมันรู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นอันตรายต่อมัน มันก็จะผ่อนคลายท่าทีลง
แล้วก็ต้องจับลำตัวส่วนหางให้ได้ก่อน แล้วค่อยช้อนลำตัวส่วนท้องของมัน ก็เป็นอันเรียบร้อย
การได้จับงูตัวใหญ่ๆตามธรรมชาตินี่ ให้ความรู้สึกตื่นเต้นดีกว่าจับงูที่คนเค้าเอามาแสดงเป็นไหนๆ
พอปล่อยลงพื้นมันก็รีบเลื้อยเข้าป่าไป คงจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วล่ะ มันคงจะไม่มาติดชั่งอีกหรอกนะ ?

การได้จับงูเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นหวาดเสียวดีทีเดียว อย่างน้อยในชีวิตประจำวันอันแสนจะจืดชืด
ได้ตื่นเต้น ได้เล่นอะไรสนุกๆแบบนี้ ก็ทำให้รู้สึกว่าวันนั้นช่างเป็นวันที่มีชีวิตชีวาดีเสียนี่กระไร :d

ดูรูปนี้ซะ แล้วจะรู้ว่าทำไมพรถึงได้กลัวปลิงนัก !? ส่วนใหญ่มันจะตัวเล็กๆ แต่ที่ตัวโคตรๆกว่านี้ก็ยังมีนะ !!!!
นี่น่ะ ตัวจริงเลยล่ะ เพียงแต่ว่ามันตายแล้ว และก่อนตายด้วยอาการกระอักเลือด มันตัวโตกว่านี้เป็นเท่าตัว !!!!

 

กำไลนาค ?

เชือกหนังงูที่ท่านพ่อให้มา ( ในความฝันนะ ดูเหมือนจะกลายเป็นกำไลข้อมือไปแล้ว )
พรไม่ค่อยฝันว่าตัวเองสวมกำไลข้อมือเท่าไหร่ ทำให้บางทีก็นึกสงสัย กำไลงูของพรหายไปไหน ?
ของที่มาจากอีกมิติหนึ่งย่อมไม่ปรากฏให้เห็นอย่างแน่นอน แล้วมันยังอยู่หรือเปล่าหนอ ?

เคยฝันว่าเรียกงูตัวนึงให้เลื้อยเข้ามาพันแขน ก็งูของพรนี่แหละ แต่มันแอบไปเล่นที่ไหนมาก็ไม่รู้
แล้วสาวนางนึงก็อิจฉาอยากเอาอย่างบ้าง จับส่วนหางของงูไว้แล้วดึงมันออกจากแขนของพร
ทีนี้เจ้าหล่อนก็เอางูไปพาดไหล่ทำเท่ แต่งูมันไม่ได้เชื่องกับคนอื่นหรอกนะ มันก็เลยกัดต้นคอของหล่อนเข้าให้
งูที่ท่านพ่อให้มามีพิษร้ายแรงมาก พอเธอโดนฉกก็ล้มพับสลบไป พรเรียกงูกลับเข้าที่ตามเดิม
ในฝัน มันเลื้อยเข้ามาในข้อมือแล้วหายวับไป ส่วนพรก็ใช้เลือดของตัวเองหยดลงบนปากแผล แก้พิษให้หล่อน

อีกครั้งนึงที่ฝันเห็นงูตัวนั้น พรฝันว่าถูกพ่อแม่บังคับให้แต่งงาน แต่พรไม่ยอม ก็วิ่งหนีสุดกำลัง
วิ่งมาถึงหน้าผา ข้างล่างเป็นแม่น้ำที่น้ำกำลังไหลเชี่ยว พ่อแม่ตามมาหมายจะจับตัวให้ได้
เมื่อไม่มีทางหนีแล้วก็กระโดดหน้าผาลงไปในแม่น้ำ ให้กระแสน้ำพัดพาไป
ตอนที่กำลังจะจมน้ำตายได้ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ในแม่น้ำนั้นไม่มีใครอยู่เลย
ที่ริมแม่น้ำอีกฟากฝั่งหนึ่ง มีต้นไม้ใหญ่ลอยอยู่ในน้ำ ต้นไม้ใหญ่ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ
จึงลอยน้ำข้ามแม่น้ำมาเพื่อให้พรได้อาศัยเกาะพยุงตัว และพาไปส่งยังชายฝั่งอันปลอดภัย
เมื่อเท้าถึงพื้นดินแล้วก็เดินขึ้นจากแม่น้ำ ไปตามทางที่ลดเลี้ยวจนถึงบ้านหลังหนึ่ง
เจ้าของบ้านเป็นชายชาวอินเดีย ที่บ้านของเขามีเทวรูปทางฮินดูมากมายอย่างกับเทวาลัย
พรจึงขอเข้าไปไหว้เทวรูปที่พรเองก็เคารพบูชา กราบบูชาท่านแล้วก็อธิฐานในใจ
อนาคตของข้าพเจ้า วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรนั้น ก็สุดแท้แต่จะมีน้ำพระทัยเมตตาเทอญ
หลับตาลง นั่งสมาธิโดยแบมือทั้งสองข้างวางหงายไว้บนหัวเข่า รู้สึกเหมือนฝ่ามือข้างนึงถูกยกขึ้นมาจูบ
ลืมตาขึ้นเห็นชายเจ้าของบ้านกำลังจุมฝ่าพิตมือของตนอยู่ก็ตกใจ รู้สึกไม่ค่อยดี จึงชักมือออกและเดินหนีเสีย
( ทั้งที่ธรรมเนียมของบางประเทศ การจุมพิตที่มือหมายถึงการแสดงความรักและเคารพ )
เดินมาถึงตลาด ( ทำไมถึงฝันว่าเดินอยู่ในตลาดสดของอินเดียก็ไม่รู้ ) ผู้คนเขาแตกตื่น
มีงูตัวใหญ่เลื้อยตามหลังพรมา พวกหมองูอยากจะได้จึงขอกับพร พรกำลังเบลออยู่ก็บอกว่าตามใจสิ
พอพวกหมองูทำท่าว่าจะจับเท่านั้นแหละ งูใหญ่ก็แสดงท่าทีดุร้ายขึ้นมาจนหมองูขยาด
งูไม่ยอมเชื่องให้ใครจับได้เลย นั่นทำให้พรคิดออก หรือจะเป็นงูของเราหว่า ?
คิดแล้วก็ย่อตัวลง ยื่นมือให้ ถ้าเจ้าเป็นของๆเราก็กลับมาสิ งูก็เลื้อยมาพันที่แขนแล้วก็หายวับไปอีกตามเคย

นั่นคือความฝันที่เกี่ยวข้องกับนาคบาศ เชือกหนังงู ? ที่ท่านพ่อมอบให้ หวังว่ามันคงจะไม่ได้หายไปไหนอีกนะ :d

 

พอนึกถึงก็ฝันเห็นเชียว

เมื่อวานนี้เล่าเรื่องนาคบาศ กำไลงูของพร คำถามสุดท้ายคือมันยังอยู่ไหมนะ ? รึแอบไปเที่ยวอีกแล้ว
เมื่อคืนนี้ก็เลยมาเข้าฝันให้เห็นเลยเชียว ฝันว่ามันเลื้อยเข้ามาหา
แหม !? ฝันว่าจับงูเห่าสีดำตัวใหญ่ได้เต็มไม้เต็มมือนี่มันจะหมายความว่าเป็นอะไรได้อีกหรือเปล่านะ ?
ในฝันพอมันถูกเราจับก็ดีดดิ้นพอเป็นพิธี ดูออกว่ามันงอนนิดหน่อยเพราะปกติมันเชื่องกับเราออกจะตาย
สงสัยจะน้อยใจที่พรทำท่าว่าไม่ค่อยเชื่อในเรื่องการมีตัวตนอยู่ของมัน แหม~ เป็นงูที่ขี้ใจน้อยจริงๆเลยน๊า ^^''

 

เข้ามารออ่านค่ะคุณพรหมพร ส่วนตัวเราเองก็ชอบอ่านเรื่องพญานาคเหมือนกันค่ะ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปดูบั้งไฟพญานาคเลย อยากเห็นของจริงเหมือนกันค่ะ ได้แต่ดูภาพในโทรทัศน์ เข้ามาเล่าต่อนะคะ รออ่านอย่างใจจดใจจ่อค่ะ

 

ท่านพ่อ * * -- _ -- * *

แหะแหะ [Embarrass ไม่ยักกะรู้ว่ามีแฟนกระทู้รออ่านอยู่เหมือนกัน ทำเอาออกจะเขินอยู่เหมือนกันนะเนี้ย :d

หลายครั้ง ฝันว่าพยายามหาทางกลับบ้าน ก็อยากพบท่านพ่อนี่นา แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้พบ
คือถ้าไปอย่างเป็นทางการ ก็จะเจอด่านชาวเมือง เผลอๆก็จะยุ่งๆกับพวกเค้าเพลินจนลืมเรื่องท่านพ่อไปซะสนิท
บางทีก็ฝันว่าไปโผล่ที่เมืองใกล้เคียง มีอะไรที่ทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจก็ตามเค้าไป เลยอดเฝ้าท่านพ่อ
ส่วนใหญ่ก็จะแวะดูอะไรข้างทางซะเรื่อย เลยไปไม่ค่อยถึงจุดหมายปลายทางเท่าไหร่ ^^''
มีอยู่ไม่กี่ครั้งเองที่ได้พบท่านพ่อ ได้เข้าเฝ้าใกล้ชิด ได้สัมผัสโอบกอดกันอย่างรักใคร่ตามประสาพ่อลูก
ครั้งนั้นฝันว่าเข้าสู่เมืองบาตาล พยายามซ่อนตัวไม่ให้ใครเห็น พรที่อยู่ในความฝันมีร่างเป็นนาคี
พอเลื้อยเข้ามาถึงอุทยานท้ายวัง ในสวนมีดอกไม้สวยงามก็เลยเลื้อยช้าๆ ชมสวนไปเรื่อย
พอถึงทางแยกก็จ๊ะเอ๋เข้ากับพญานาคตนหนึ่ง พรชะงักด้วยความแปลกใจ ท่านผู้นี้คือใครกัน ?
พญานาคราชมองมาที่พร มีกระแส...ความรู้สึกที่แผ่ออกมากระทบว่าท่านกำลังหัวเราะๆอย่างอารมณ์ดี
แล้วพญานาคราชก็แสดงฤทธิ์แผ่พังพานออกให้เห็นเป็นสามเศียร พรเห็นดังนั้นก็จำได้
ร้องเรียกเสียงดังด้วยความดีใจ ท่านพ่อ พลางกลายร่างเป็นเด็กมนุษย์ แล้วรีบวิ่งเข้าไปสวมกอดท่านด้วยความยินดี
( อย่าแปลกใจเลย เพราะพรไม่เคยเห็นร่างท่านในรูปนาคราชมาก่อน ทุกทีท่านมักจะมาให้เห็นในรูปงูใหญ่ )
ท่านพ่อหัวเราะมากกว่าเดิม ท่านเองก็คงยินดีที่ได้พบกับพรเช่นกัน แล้วท่านก็ค่อยๆกลายร่างเป็นเทพบุตร
เมื่อท่านพ่อเริ่มมีรูปกายอย่างมนุษย์ พรก็คลายอ้อมแขนออก แล้วท่านก็ใช้ท่อนแขนพาดไหล่พร เดินไปด้วยกัน
( ก็อย่างที่บอก เวลาพรอยู่กับท่านพ่อ พรจะมีรูปเป็นดรุณีแรกรุ่น น่าจะไม่เกิน 12 ขวบ )
ท่านพ่อทรงบ่นพลางหัวเราะพลาง อย่าซนนักสิลูก เร่งปฏิบัติตนเข้าเถิด จงทำตัวให้ดี จะได้เป็นที่รักที่เมตตา...
ลูกจะจำใส่ใจไว้ค่ะท่านพ่อ...ช่วงเวลาที่ฝันว่าได้พบกัน ได้อยู่ด้วยกันนั้นช่างสั้นนัก
เวลาแห่งความสุขมักสั้นและผ่านไปเร็วเสมอ เหลือแต่ภาพฝันไว้ในความทรงจำให้ได้คิดถึง...คิดถึงจังเลยพ่อจ๋า...

 

มีคำถามอยากถามคุณพรหมพรคะ
คือว่า เคยมีความฝันแปลกๆเหมือนกัน เมื่อประมาณหลายเดือนก่อน แต่ติดตามาตลอดเลย
ฝันว่า ตัวเองเป็นพญานาคตัวสีเขียวเหมือนมรกตมีหงอนสีทอง นี่คือสิ่งที่รู้ในใจ แต่ร่างที่ปรากฏในฝันตอนแรกเป็นตัวเราที่เป็นคน กำลังเดินอยู่ในวัด และช่วยเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บพาไปส่งที่ท่าน้ำ พอไปส่งเราก็กลัวว่าเขาจะไม่ปลอดภัย บอกให้เขากลายร่างให้ดู เราถึงจะสบายใจว่าเขาปลอดภัยแล้ว เขาก็กลายร่างให้ดูนะ ตัวสีเขียวหงอนสีทองเหมือนกัน ต่อมาเราก็เดินกลับขึ้นจากท่าน้ำ จู่ๆ มีพ่อและพี่ชายอีกสองคนเดินมาหา รูปร่างเป็นคนนะ แต่หน้าตาไม่เหมือนพ่อเราจริงๆ แต่งตัวเหมือนคนสมัยโบราณ มาตามให้เรากลับบ้าน ในฝันเราเหมือนรู้ว่าคนๆนี้เป็นพ่อและเป็นพี่ชายนะ เราก็บอกเขาไปว่ายังไม่อยากกลับหรอก อยากอยู่ที่นี่ พ่อก็พยายามเกลี่ยกล่อมให้กลับ แต่เราก็ดื้อนะ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมกลายเป็นคนเอาแต่ใจขนาดนี้ แล้วจู่ๆก็ได้ยินคนตะโกนให้ไปช่วย เราก็รีบไปนะ ไปเจองูตัวใหญ่มากๆประมาณสองเท่าของคน ลำตัวสีเงินแวววาวหงอนก็สีเงินกำลังแผ่แม่เบี้ยอยู่เราโกรธมาก จู่ๆศีรษะก็กลายเป็นพญานาคสีทอง แล้วก็พ่นไฟออกมาได้ด้วย แต่งูตัวนั้นก็ไม่เป็นไรนะ ปรากฏว่า พ่อตามมาบอกว่า อย่าไปยุ่งกับเขา ท้องฟ้าและท้องน้ำดูปั่นป่วนน่ากลัวมาก แล้วพ่อก็บอกว่า ให้เราอยู่ที่นี่แหละ ปลอดภัยที่สุดแล้ว ยังกลับบ้านไม่ได้มันอันตราย เรากลับดื้อจะกลับบ้านแทนและถามว่า ทำไมต้องกลัวเขาด้วย พ่อเราเก่งกล้าสามารถมากที่สุดนี่นา แต่พอก็ไม่ตอบ กลับลงน้ำไปพร้อมกับพี่ชาย แล้วเราก็ตะโกนเรียกพ่อจนเหนื่อย จู่ๆก็สดุ้งตื่นขึ้นมา
อยากรู้ว่าเรื่องที่ฝันนี้ มันคืออะไรกันแน่ อยากรู้คำตอบมานานแล้ว

 

แหม !? ฝันออกจะพิสดารกว่าของพรเยอะเลย

น่าจะเป็นสัญญา ความทรงจำเก่าๆในอดีตชาติค่ะ มันจะฝังลึกอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของจิตใจ
และสะท้อนออกมาให้เห็นในรูปแบบของความฝัน เพราะคนเราไม่ได้เพิ่งจะเกิดมาเพียงชาติเดียวนี่คะ
บางครั้ง บางที พวกเราในเวปนี้หลายคนก็เคยเกิดเป็นนาคมาก่อนที่จะมาเกิดเป็นคนในชาตินี้
นาคเป็นเผ่าพันธุ์ที่รักพวกพ้อง มีอายุขัยมากกว่าคนเรามากมายนัก เมื่อเรามาเกิดใหม่ แต่จิตก็ยังเป็นดวงเดิมอยู่
พวกเขาจะจดจำเราได้จากการสัมผัสกันของจิตวิญญาณ แต่แน่นอน เราจำอะไรในชาติภพที่แล้วไม่ได้เลย
แล้วก็จะมีบางครั้งบางทีใช่ไหม ที่คนเรามักจะฝันเห็นอะไรแปลกๆ คือเราอีกคนนึง จิตรับรู้ว่านั่นคือตัวเรา
แต่รูปร่างหน้าตาไม่ใช่เรา บางทีก็เป็นอีกเพศนึงไปเลย เพราะกว่าที่จะมาเป็นเราในชาติภพนี้
เราผ่านการเวียนว่ายตายเกิดมาหลายชาติภพนัก เคยก่อมาแล้วทั้งนั้นทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว
เพราะต้องชดใช้หนี้กรรมเก่าๆ ( กรรมชั่ว ) และเสวยผลบุญ ( กรรมดี ) ทั้งยังสร้างสมกรรมใหม่ๆขึ้นมา
นั่นทำให้เรายังไม่อาจหลุดพ้นจากชาติภพเหล่านี้ได้ ถ้ายังไม่บรรลุธรรมขั้นสูง สู่พระนิพพานอันเป็นที่สิ้นสุด

อ้าว !? นี่พรเถลไถลออกนอกเรื่องนอกราวไปถึงไหนแล้วล่ะ ? ^^'' ขอโทษทีนะ บางทีมือมันก็พาไป
สรุปว่าเป็นความทรงจำบางส่วนของอดีตชาติที่ยังตกค้างอยู่ในจิตใต้สำนึก
อีกทีก็ เวลาที่กายเนื้อกำลังหลับ จิตวิญญาณ=กายทิพย์ก็จะออกจากร่าง ไปเที่ยวเล่นถึงไหนต่อไหน ^^''
อีกส่วนคือ พ่อแม่พี่น้องของเราในชาติภพที่แล้ว เค้ายังรักและเป็นห่วงเราอยู่เสมอ
ทำให้เค้าติดตามมา คอยดูแลอยู่ห่างๆ เป็นเทวดาประจำตัวก็ยังได้เลย
พรก็...มีบ้าง...เลือดเนื้อเชื้อไขของพ่อที่ได้ไปเกิดยังโลกมนุษย์ สักวันหนึ่ง จะได้กลับคืนสู่มาตุภูมิอันเป็นที่รัก
นั่นคือถ้อยคำที่ได้ยินในความฝัน และในฝันนั้น พรเดินลุยน้ำ พยายามหาทางกลับบ้าน...

พรประสบการณ์ยังน้อย ไม่เคยได้เห็น หรือสัมผัสกับท่านทั้งหลายได้ด้วยตาเนื้อ
พรมีเพียงความฝันเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง ยังความสุขเล็กๆน้อยๆให้ชุ่มชื่นใจ ความหวานอันแสนเศร้า
พรคงจะตอบได้ไม่ตรงประเด็นนัก ก็มีพื้นฐานคือความไม่รู้เหมือนกันนี่นา เห็นว่าฝันสนุกดีก็เลยเล่าให้เพื่อนๆได้ฟังบ้าง
ดีใจที่มีเพื่อนหลายคนที่นี่มีความสนใจ มีความฝันเกี่ยวกับพญานาคเหมือนกัน นำมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะ ^^

 

ภาพประทับใจ

รูปปั้นและภาพพญานาคนี่สวยจังเลยนะ วัดบางแห่ง ช่างเค้ามีฝีมือดี ทำออกมาได้งดงามมาก
โดยเฉพาะเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เป็นภาพที่มองทีไรก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย ช่างมีมนต์ขลังอย่างน่าประหลาด

มีอยู่ครั้งนึง ฝันว่าเดินเล่นอยู่ในป่าหิมพานต์ ( ไม่เคยเห็นป่าหิมพานต์หรอกน่า แต่จิตบอกว่าอย่างนั้น )
ที่สระน้ำใจกลางป่า เป็นสระที่สวยมาก น้ำใสสะอาดจนมองเห็นพื้นกรวดทรายเบื้องล่าง
ที่นั่นได้พบกับพญานาคตนนึง ท่านงามมากจนพรแลตะลึงในรูปโฉม เรือนกายใหญ่โตแต่ได้สัดส่วน
เกล็ดสีขาวมุกดา ขอบเกล็ดขลิบทองเป็นเส้นบางเบา หงอนและครีบหลังเป็นสีทองเปล่งปลั่ง
ท่านขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอนอาบแดดอยู่บริเวณน้ำตื้น เกล็ดขาวกระสบแสงแดดเห็นเป็นรัศมีพราวระยับ
พอท่านสังเกตุเห็นพรก็...เหมือนท่านจะยิ้มให้ เป็นคลื่นความรู้สึกที่ส่งมากระทบน่ะ ท่านใจดีนะ ไม่ดุหรอก
ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านมีนามว่าอย่างไร ไม่เคยเห็นมีใครเล่าว่ามีพญานาคสีขาวอยู่ด้วย
ว่ากันว่าพญานาคมีสี เขียว แดง ทอง แล้วก็ดำ อืมม์ ถ้าอย่างนั้นพญานาคที่ป่าหิมพานต์ตนนั้นก็ออกจะพิเศษอยู่สินะ

เป็นภาพฝันที่ประทับใจจัง ไม่ใช่ว่านาคสีอื่นจะไม่งาม ก็งามทั้งนั้นแหละ แต่ที่ทำให้พรตะลึงมองได้ก็มีแต่ท่านนี้ ^^

( เมื่อคืนนี้ใครค่อนในใจว่าพรเป็นกบในกะลา หรือปัญญาเท่าหางอึ่งบ้างหือม์
แต่พรก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ^^ เพราะพรก็ไม่ได้ฉลาดอะไร คงจะปัญญาเท่าหางอึ่งและเป็นกบในกะลาจริงดังว่า
ฝันเห็นกบหรืออึ่งเต็มครุถังเลย ไม่เคยฝันเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อน มันบอกเหตุนะเออ
เช่นเดียวกับที่มีคนกำลังนินทาและเรารับสัมผัสได้ด้วยการจามติดๆกัน แถมยังขนลุกขนชันอีกตะหากนั่นแหละ )