นิทาน เรื่อง "พญานาค"

ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่มาตั้งแต่เด็ก ไม่รู้เรื่องแนวนี้เลยแฮะ -..-

 

ของเราแม่ไม่ฝันเห็นอะไรเลย แต่ชอบกินมะละกอสุกมากๆ หลวงพี่เล่าให้ฟังว่าตอนที่เราคลอดออกมา ตอนเล็กๆ มีขวัญทั้งตัวเลย พอโตขึ้นมาหน่อย ยายก็จะชอบเอาฝ่าเท้าของเราไปดู และบอกกับแม่ว่าลูกคนนี้เป็นคนมีบุญมาเกิด ต่อไปจะได้พึ่ง เลี้ยงง่ายแต่ร้องไห้เก่ง เพราะว่าอยากจะพูดแต่พูดไม่ได้ มันอัดอั้นตันใจก็เลยร้องไห้อย่างเดียว

 

แล้วมีดหมอเป็นไงบ้างครับ ดีกว่าพระขรรรึป่าว

 

พกอาวุธไปอีกและ เดี๋ยวก็ไปเผลอทำร้ายใครอีกหรอก เป็นห่วงนะเนี่ย....

 

สดๆร้อนๆตอนเราท้องลูกคนนี้ ไม่มีอาการแพ้เลยไม่รู้ว่าตัวเองท้องด้วยซ้ำ..ไม่อยากทานเนื้อสัตว์ อยากแต่ผลไม้
ชอบไปทำบุญไม่เคยดูรูปเด็กน่ารักดูแต่เรื่องนรกสวรรค์ ..เปรต พี่ที่สนง.บอกเป็นคุณแม่ที่แปลกจริงๆ และเราจะฝันดีตลอด
ฝันเห็นงานบุญยกฉัตรเก้าชั้น..ได้กราบเท้าคนแก่เยอะมากๆ(ไม่รู้จัก)ฝันเห็นพญานาค ฝันได้ลงไปไหว้พระปางป่าเลไลในถ้ำใต้น้ำและได้สร้อยพระมา 1 เส้นแต่ลูกเราเป็นผู้หญิง ตอนเกิดมีปานคล้ายดอกจันที่หลังแม่เบี้ยงูที่ท้ายทอย เมื่อโตมันหายไปเองค่ะ และปานแดงที่เท้าขวา ที่แปลกคือเราจำได้ไม่ลืมเลย

 

มีญาติคนหนึ่ง ตอนท้องทานได้แต่ผลไม้ เนื้อสัตว์แค่ได้กลิ่นยังไม่ไหวครับ

เด็กคลอดน้ำหนักน้อยมาก แต่ต่อมาก็แข็งแรงดีครับ ก่อนท้องนั้นไปอธิษฐาน

ขอพรจากเจ้าแม่กวนอิมครับ

 

เขาเคยถามผมว่า เด็กนั้นมาจากไหน ตอบได้เลยว่า

มาจากแม่อดีตที่เป็นพญานาคสีเขียวครับ เด็กเมื่อโตขึ้นว่ายน้ำเก่ง

และรักความสวยงาม เล่นน้ำได้ทั้งวันครับ

 

มีคำถาม..มาถามเพื่อนๆ

หากคุณอยู่ในเหตุการณ์ เห็นเสือกำลังจะกินเด็กทารก คุณจะทำอย่างไร??
1.ช่วยเด็ก ซึ่งก็คือต้องฆ่าเสือตัวนั้น
2.ไม่ช่วย ปล่อยไปตามกรรมของเด็ก

เหตุผล ....

 

ตอบยากนะ เป็นปัญหาเชาวน์หรือเปล่า?
...ฆ่าเด็กแล้วเอาให้เสือกิน...

 

"ศึกรบ" ที่ว่าแน่...ยังต้องพ่ายแพ้แก่ "ศึกรัก"
ขอเอาใจช่วยให้ท่านคุรุวาโรทำใจได้เร็วๆ นะคะ ^_^

 

ว่าพระคาถาเสาร์ห้า ป้องกันตัวเด็กครับ แล้วไล่เสือไปครับ

 

เรื่องแปลกๆของผมเกิดขึ้นตอนอายุประมาณ 8-9 ขวบ วันนั้นผมเดินออกไปที่นอกบ้านแล้วก็อยู่ก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วก็เห็นเมฆก่อตัวเป็นลักษณะพญานาคห้าเศียรหนะครับ ไม่ได้นึกไปเองนะครับ แล้วการก่อตัวของเมฆก็เป็นแบบสมมาตรกัน ดูสวยงามไม่ใช่ว่าเป็นแบบนิ้วมืออะไรแบบนั้นนะครับ หลังจากจ้องมองอยู่ประมาณสี่ห้าวินาที ผมก็ลองหลับตาแล้วคราวนี้ก็ลืมตาขึ้นมองดูใหม่ ก็พบว่าเมฆก้อนนั้นได้เปลี่ยนรูปทรงกลายเป็นรูปนาคเศียรเดียว สิ่งนี้แหละที่ค้างคาใจผมมาตลอดไม่ทราบว่าพอจะทำนายอะไรเกี่ยวกับผมได้บ้างไหมครับผม ขอบคุณครับ

 

ในที่สุดเราก็มีนาคาหนุ่ม อยู่ในกระทู้จนได้ ธิดาพญานาคต้อนรับสมาชิกใหม่หน่อยนะครับ

นิมิตเฆมนั้น แสดงว่า เหล่าพญานาคที่เป็นญาติคุณในอดีตนั้นอยากสื่อสารด้วยครับ

อดีตนั้นคุณมาจากพญานาคบนสวรรค์ครับ

 

พกอาวุธไปอีกและ เดี๋ยวก็ไปเผลอทำร้ายใครอีกหรอก เป็นห่วงนะเนี่ย....<!-- google_ad_section_end -->

งั้นเราใช้พระคาถาเสาร์ห้าแล้วกัน แต่ใช้ได้แค่ครั้งเดียวในหนึ่งวัน

ถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่ดี ก็ขอให้เทวดาอารักษ์ช่วยอีกเหมือนเดิมแล้วกันครับ

(ถ้าเทวดาอารักษ์รู้ เทพธิดาก็รู้ครับ) เดี๋ยวก็ห้ามอีกหรอกครับ

 

ขอบคุณครับคุณคุรุวาโร อยากจะเรียนถามว่าในการปฏิบัติธรรมของผมนี้ควรจะดำเนินไปในแนวใดหนะครับ ตอนนี้ผมก็พยายามฝึกสมาธิในแบบสติปัฏฐานสี่ โดยผมข้ามด่านของการดูกาย มาเป็นดูเวทนา แล้วก็ข้ามไปดูจิตเลย แต่ว่าก็เหมือนว่าเกิดอาการติดขัดอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนสักทีครับ ขอบคุณครับ

 

การเจริญกรรมฐานแบบดูจิตนั้น จะดีตอนแรก แล้วจะติดขัดเพราะ...

อ่านหลวงปู่เทศน์ดีกว่าครับ

นัยที่ ๑-๑ เมื่อเอาสติไปตั้งลงที่กาย โดยแยกสติกับใจออกจากกายดังได้อธิบายมาแล้ว แล้ว ให้เพ่งดูเฉพาะกายเฉย ๆ ไม่ต้องไปแยกแยะกายให้เป็นธาตุ-อสุภอันใดทั้งหมด แม้แต่คำว่า กายหรือ ว่าตน ก็ไม่ต้องไปคำนึงถึง ให้ตั้งสติเพ่งอยู่อย่างนั้น เมื่อจิตแน่วแน่ตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์อันเดียวแล้ว อารมณ์อื่นนอกนั้นมันก็จะหายไปเอง ในขณะนั้นจิตจะไม่ส่งส่ายไปในอดีต อนาคต แม้แต่จะสมมุติ บัญญัติว่าอันนั้นเป็นนั่น อันนี้เป็นนี่ก็จะไม่มี กายที่จิตไปเพ่งดูอยู่นั้นก็จะเห็นเป็นแต่สักว่าวัตถุ อันหนึ่งเท่านั้น มิใช่เรามิใช่เขา หรือสัตว์ตัวตนบุคคลอะไรทั้งหมด นี่เรียกว่า จิตเข้าถึงเอกัคคตารมณ์ นั่นจึงจะถึงสติปัฏฐานภาวนาโดยแท้
<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o> </o>
เมื่อจิตไปเพ่งวัตถุอันนั้นอยู่โดยไม่ถอนสักพักหนึ่งแล้ว วัตถุอันนั้นก็หายวับไป เมื่อสติไม่มีที่ หมายสติก็หมดหน้าที่ สติก็จะหายไปพร้อม ๆ กัน แล้วจิตกับวัตถุภาพนั้นก็จะรวมเข้าเป็นจิตอันเดียว ซึ่งลักษณะคล้าย ๆ กับคนนอนหลับ แต่มิใช่หลับ เพราะมันยังมีความรู้เฉพาะตัวมันอยู่ต่างหาก แต่จะ เรียกว่าความรู้ก็ยังเรียกไม่ถูก เพราะมันนอกเหนือจากความรู้ทั่วไป นี่เรียกว่า เอกัคคตาจิต การเจริญ สติปัฏฐานถึงที่สุดเพียงเท่านี้
<o> </o>
สติปัฏฐานข้ออื่น ๆ ก็ทำนองเดียวกันนี้ ฉะนั้น ข้ออื่น ๆ ผู้สนใจพึงให้เข้าใจตามนี้ แล้วผู้เขียน ก็จะไม่อธิบายซ้ำอีก ผู้ไม่เข้าใจหรือยังไม่เคยเจริญสติปัฏฐานอาจเข้าใจไปว่าตนนั่งหลับหรือเดินผิด ทางไปเสียแล้ว บางท่านที่ปรารถนาจะเอาแต่ปัญญาถ่ายเดียวก็จะหาว่าโง่ไม่เกิดปัญญาอะไร พอจิตจะปล่อยวางอารมณ์ คือวัตถุที่เพ่งอยู่นั้น ถ้าเกิดวิตกหรือลังเลอะไรขึ้นมาสักนิดเดียวในขณะนั้นแล้ว จิตก็จะไม่รวมเป็นหนึ่งได้ เพราะมีอาการก็เลยเป็นสองขึ้นมา ต่อนั้นจิตก็จะถอนมาวุ่นส่งส่ายอะไรต่อ มิอะไรอยู่ตามเดิม จิตที่เป็นเอกัคคตารมณ์ก็จะหายไปตามกัน เอกัคคตาจิตที่ว่านี้จะตั้งอยู่ได้ก็ไม่นาน อย่างมากก็ราว ๒-๓ ชั่วโมง แล้วก็ถอนออกมา เมื่อถอนออกมาก็ไม่ได้มาตั้งอยู่ที่เอกัคคตารมณ์ อันดับถอยออกมาจากเอกัคคตาจิตนั้น แต่มันจะถอนออกมาอยู่ตามสภาพเดิม เหมือนเมื่อเรายังไม่ได้ฝึกอบรมสติปัฏฐาน แต่ที่ดีวิเศษกว่าเดิมก็คือ อารมณ์ที่เกิดจากอายตนะทั้ง ๖ นั้นเราไม่ต้องรักษา แต่มันจะรู้เท่าเข้าใจเห็นตามสภาพความเป็นจริง แล้วมีแต่จะปลงธรรมสังเวชสลดใจ แล้วให้เกิด ความเบื่อหน่ายในสิ่งนั้น ๆ เป็นเครื่องอยู่
<o> </o>
พูดกันง่าย ๆ เรียกว่า การเจริญสติปัฏฐานเบื้องต้นก่อนจิตจะเข้าถึงเอกัคคตารมณ์ เอกัคคตา จิตนั้น เป็นอาการของจิตทำงาน จะเรียกว่าต่อสู้หรือผจญหรือเพ่งพิจารณาอะไรก็แล้วแต่ เมื่อการงาน ของจิตสำเร็จแล้วจิตก็พักผ่อน (คือรวมเข้าเป็นเอกัคคตาจิต) เมื่อพักผ่อนพอควรแก่เวลาแล้ว จิตก็ ออกตรวจ-จัดระเบียบ-ชมผลงานของตน พร้อม ๆ กับเกิดความปราโมทย์ร่าเริงบันเทิงในผลของ งานนั้น ๆ
<o> </o>
ผลของการเจริญสติปัฏฐานทุก ๆ ข้อจะมีอาการคล้าย ๆ กันนี้ทั้งนั้น อาจมีผิดกันบ้างบางคน ซึ่งเป็นเพราะบุญบารมีนิสัยไม่เหมือนกัน หากได้อยู่ใกล้ผู้ที่ท่านฉลาดชำนาญในการนี้แล้ว ขอให้ท่าน ชี้ช่องทางให้ก็จะเจริญก้าวหน้าไปได้ด้วยดี ฉะนั้น เรื่องนี้ข้ออื่น ๆ ผู้เขียนจะไม่นำมาอธิบายซ้ำอีก
<o> </o>
ความจริงการงานของกายกับงานของจิตก็คล้าย ๆ กัน ผิดที่งานของกายทำด้วยวัตถุที่ยังไม่ สำเร็จให้สำเร็จแล้วก็พัก งานของจิตทำด้วยนามธรรม (ปัญญา) ที่ยังหลงไปยึดไม่รู้เท่าเข้าใจตามเป็น จริง เมื่อชัดเจนแจ่มแจ้งด้วยปัญญาอันชอบ หมดหน้าที่แล้วก็ปล่อยวางพักเอง
<o> </o>

 

ชอบอ่านเรื่องพญานาคคับ

ฝากเนื้อฝากตัว

^__^

 

อ้างอิง:
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ คุรุวาโร
ในที่สุดเราก็มีนาคาหนุ่ม อยู่ในกระทู้จนได้ ธิดาพญานาคต้อนรับสมาชิกใหม่หน่อยนะครับ
นิมิตเฆมนั้น แสดงว่า เหล่าพญานาคที่เป็นญาติคุณในอดีตนั้นอยากสื่อสารด้วยครับ
อดีตนั้นคุณมาจากพญานาคบนสวรรค์ครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
งั้นเวลาไปเที่ยวเมืองสวรรค์ ก็ไม่ต้องกลัวอะไรแล้วสินะคะ เพราะมีคนนำทางแล้ว อิอิ
ยินดีต้อนรับ คุณ Prichasamart สู่วังบาดาลของท่านคุรุวาโรค่ะ

 

เทวดาอารักษ์คุ้มครองอยู่แล้วค่ะ ไม่ห้ามหรอก (เพราะมันเป็นหน้าที่)

 

ชอบอ่านเรื่องพญานาคคับ

ฝากเนื้อฝากตัว


ธิดาพญานาคว่าอย่างไร เขาฝากเนื้อฝากตัว ให้เขาเล่าอะไรให้ธิดาพญานาคฟังดีครับ หรือว่าไม่ต้องเล่าครับ