ที่นี่มีใครบรรลุธรรมตั้งแต่ขั้นโคตรภูญาณขึ้นไปบ้าง PMมาหน่อยดิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เทพอาถรรพ์, 12 สิงหาคม 2009.

  1. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ผมก็ตอบไปตามประสาคนผ่านทาง web นี้สมาชิกเป็นแสน คงมีคนรู้จริงบ้าง อยากรู้อะไร ลองถามไว้แล้วกัน เผื่อผู้รู้จริง(ไม่ใช่ผมแน่) จะเมตตามาตอบให้ คำตอบอาจสำคัญ แต่มีอีกสิ่งที่สำคัญเช่นกันที่จะมีผลต่อการได้รับคำตอบ นั่นคือ


    " เจตนาในการถามคำถามนั้น " ^-^
     
  2. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    พิจารณาแล้วว่าพูดไปก็ "ไม่ครับ"<!-- google_ad_section_end --> ^^
     
  3. ดั่งมายา

    ดั่งมายา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +51
    พระอริยเจ้าที่บรรลุธรรมสูงสุด
    แตกต่างตรงที่เค้าไม่มีกิเลสหลงเหลือไงค่ะ ถ้าบรรลุธรรมแล้วเนี่ยเค้าไม่โกรธแน่นอนค่ะ แต่เค้าจะสงสารในผลกรรมที่รุนแรง ที่คนกล้าทำจะได้รับ และอโหสิกรรมให้คุณค่ะ เพราะคนที่บรรลุธรรมแล้วเนี่ยท่านไม่สงสัยแล้วค่ะ คำถามนี่ตอบง่ายหน่อยค่ะไม่ค่อยเกินความรู้


    แต่ก็มีคนที่บรรลุธรรมที่ไม่หมดจดเช่นกันค่ะ
    เอาแค่บรรลุธรรม ที่เป็นธรรมชาติของตัวเองนี่ก็ยากมากแล้ว . มันก็ต้องมีระดับความระเอียดในการบรรลุธรรมต่างกัน อย่างดิฉันก็ต้องโกรธค่ะ แน่นอนถ้าตบแรงก็ต้องเจ็บ ไม่แรงก็ไม่ค่อยเจ็บ.สำหรับดิฉันต้องมีคำถามตามมาแน่นอนค่ะ ตบทำไม (ไม่ต้องไปคิดเรื่องกรรมเก่าหรอก) เอาปัจจุบันนี้แหล่ะค่ะ
    ว่าดิฉันทำอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจเหรอค่ะถึงมาตบกบาลกันหน่ะ คงต้องโวยวายแน่นอน เพราะไม่ได้บรรลุธรรมตลอดเวลานิ เอาเป็นว่าต้องดูว่าคนตบ ตบดิฉันตอนที่บรรลุธรรม หรือว่า ตบตอนเป็นคนธรรมดานี่แหล่ะค่ะ
     
  4. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137


    เกิด เป็นอย่างไร
    การเกิดนี้เป็นธรรมชาติของสภาวะธรรม ที่มีการเกิดขึ้น การเกิดนี้ เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัย ปัจจัยตัวนี้คือ อวิชา เมื่อมี ปัจจัย ย่อมมีการเกิด
    อุปมา ขนมปัง มีผู้ต้องการกิน ก้ย่อมนำไปสู่การปรุงขึ้นเพื่อความพอใจ เพื่อความต้องการ หรือ ตันหา จึงเกิดขนมปังขึ้น ตามความทะยานอยากอย่างนี้เป็นการเกิด
    อุปมา ความหิว ใจนี้มีความทยานอยาก จึงมีกาย มีปากมีกระเพาะเข้ามารับเอาอาหาร
    การเกิด นี้เกิดขึ้นเพราะปัจจัยและส่งผลกันเป็นทอดๆ

    ดับ เป็นอย่างไร
    การดับ ก้เป็นสภาวะธรรม ของสิ่งที่ประกอปกันขึ้นนั้นย่อมคงทนอยู่ไม่ได้ด้วยเพราะไม่ใช่ตัวตนที่แท้เป็นเพียงเพราะปรุงขึ้นประกอปกันขึ้น จึงต้องแยกต้องแตกสลายออก เป็นธรรมดา
    อุปมา ขนมปัง ที่เกิดขึ้นเพราะความต้องการทยานอยากจึงถูกสร้างขึ้น เมื่อไม่มีผู้ใดนำไปใช้ย่อม เสื่อม ย่อมพัง ย่อมเน่าเสีย เปลี่ยนแปลงไป ทนอยู่ในสภาวะเดิมไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่เที่ยงแท้ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นตัวตนของมันเอง จึ้งแตกออก แยกออก สลายไปเป็นธรรมดา อย่างนี้เป็นการดับ
    อุปมา ความหิว ดับอย่างไร เมื่อจิตทะยานอยากแล้วเกิดกายเกิดทวาร เข้ามารับ
    เมื่อรับแล้วหมดหน้าที่แล้วกายนี้ เป็นของปรุงขึ้น แต่งขึ้นเพราะความทะยานอยาก จึงไม่คงทนเพราะไม่ใช่เนื่อแท้ไม่ใช่สิ่งที่เป็นตัวตนโดนแท้ กายจึงเปลี่ยนแปลงไปตามกาล และแตกแยกสลายออกเมื่อถึงกาลอันควร อย่างนี้เรียกดับ
    การดับ ดับนี้เพราะตั้งขึ้นด้วยปัจจัยไม่ใช่ของเที่ยงของแท้ของตัวมันเองจึกแตกจึงแยกจึงดับสลายยไป


    แล้วเห็นการเกิด-ดับ แล้วมันได้อะไร

    เมื่อเห็นการเกิดดับ เท่ากับเห็นสภาวะสิ่งต่างๆๆนี้ไปตามความเป็นจริงที่ว่ามันไม่มีสิ่งใด เที่ยงแท้ มันไม่มีสิ่งใดที่ตั้งอยู่ได้ เพราะต้องเปลี่ยนแปลงไป และไม่มีสิ่งใดที่เป็นตัวตนที่แท้จริง ต่างประกอปกันขึ้นด้วยปัจจัย การเห็นการเกิดดับนี้
    เรียกว่า ปัญญา เพราะปัญญานี้ ส่องให้เห็นถึงสภาวะที่ เกิดขึ้นจากปัจจัย ตั้งอยู่เพราะปัจจัย และดับไปเพราะ ไม่เที่ยงแท้ ไม่มีตัวตน ที่แท้
    ถามว่าปัญญานี้เกิดได้อ่างไร จากการฟังก้ได้ การอ่านก้ได้ การคิดก้ได้
    งั้นลองพิจารนาดูไห้ดีว่า การเห็นการเกิดดับนี้ เราสามารถรุ้เห็นเองได้เท่าทันหรือมีผู้บอกผู้สอนเอาไว้ว่ามันเป็นเช่นนี้ จริงๆแล้วเพราะมีผู้ประเสิทได้เห็นความจริงอันประเสิทนี้ว่า มันเกิดเพราะเหตุปัจจัยใด จึงส่งผลเช่นไร และเห็นตัวปัจจัยที่ส่งผลนี้ และวิทีการดับปัจจัยเหล่านี้ รู้ว่าท่าปราศจากปัจจัยแล้วมีผลเช่นไร เป็นการเห็น อริยสัจ การเห็นนี้ไม่ใช่เห็นด้วย สัญญา แต่ต้องเห็นด้วย ปัญญา
    จึงจะได้อะไรที่เป็นประโยชน์ คือเห็นปัจจัย เพื่อทำลายปัจจัยนั้น

    และเห็นการเกิด-ดับ แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับการบรรลุธรรม

    งั้นต้องรู้ก่อนว่าการบรรลุธรรมนี้คือบรรลุในอะไร การบรรลุธรรม เป็นการ รู้ ในเหตุแผลรู้ในปัจจัย และ กระบวนการเกิดปัจจัย เมื่อการเห็นเกิดขึ้น เห็นสภาวะธรรมตามความเป็นจริง หรือ ปัญญาเกิด รู้เท่าทัน อวิชาปัจจัย เห็นการเกิด และดับ เห็นการก่อตัว ตั้งขึ้น และดับไป เรียกว่า เห็นอริยะสัจ นี้ เห็นความไม่มีตัวตนทำไห้ละคลายความยึดมั่นถือมั่น คลาย ทุข คลายความเป็นตัวตน จึงเกิดความเที่ยงขึ้น หรือ นิพพาน สภาวะที่สิ้นปัจจัย อวิชา

    เบื่อหน่ายอย่างไร
    ความเบื่อหน่ายนี้ยังไม่ถึงทีสุดเพราะจิตยังกระสับกระส่ายหาความพอใจ หาที่ตั้ง จึงเบื่อหน่ายกับความไม่พอใจ ความเบื่อหน่ายนี้ยังอยุ่ในขั้นการ ส่งผลของปัจจัยอยู่

    กำหนัดอย่างไร
    ความกำหนัด นี้เพราะปัจจัยไม่ส่งผล เมื่อไม่ทยานอยาก ก้ไม่เกิด ไม่ดับ ไม่ก่อตัว จึงไม่ต้องละและไม่ต้องวาง แต่เพราะ รู้ จึงไม่ก่อเกิด เรียกว่าหลุดพ้น พ้นจากความทะยานอยาก จากอวิชา พ้นแค่ไหน รู้เท่าทันแค่ไหน ก้เป็นสุขแค่นั้นแล

    อุปมา
    จิตบริสุทและจิตที่ไม่บริสุทจึงเกิดดับเพราะปัจจัย ผู้เกิดปัญญา ในขั้นต้น จึงมีปัญญารู้เท่าทันเพียงบางส่วน จึงมีการเกิดับของจิต ที่บริสุทและไม่บริสุทปนกันอยู่ เพราะยัง รู้ ไม่เท่าทันปัจจัย อวิชานี้ที่ส่งผล หากพัทนา ให้รู้เท่าทันทุกปัจจัยที่เกิดก้จะไม่ก่อตัว ไม่หลงไป ไม่เกิด ไม่ดับ เพราะไม่เกิดจากปัจจัยอันความไม่รู้นี้ทยานอยากไห้เกิด และไม่ดับเพราะความเที่ยวแท้ไม่ประกอปกันขึ้น

    อนุโมทนาจิตผู้บริสุทแล้วรุ้เท่าทันการเกิดดับนี้ทำไห้ปัจจัยไม่ส่งผลไม่ก่อตัวในจิตเป็นบางส่วน ผู้ที่ได้ดวงตาเห็นธรรม

     
  5. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    ธรรมใดเกิดแต่เหตุ ตถาคต แสดงเหตุแห่งธรรมนั้น พร้อมวิทีการและผลของการหลุดพ้น

    หากฟังแล้วปัญญาเกิด เท่าทัน ก้คงได้ดวงตาเห็นธรรมเช่นพระสารีบุตร

    เพราะฉนั้นจงรุ้ไว้ว่า ปัญญา บารมี ที่ยังไม่ถึงพร้อม ฟังธรรมแล้วเกิดความเห็นที่แตกต่าง ตามระดับปัญญาของตนนั้น ตรงส่วนนี้เป็นปัจจัตตัง

    อย่าได้ขุ่นมัวอย่าได้เศร้าหมอง เพราะการปติบัติย่อมนำพาไห้เกิดปัญญาในที่สุด ตามจริต ตามกาลของแต่ละบุคคลนั้น

    จะให้ผู้ใดชี้ไห้เห็นนั้นต้องขึ้นอยู่ที่ปัญญาของตนด้วยว่าสามารถ รู้ เห็น เข้าใจ ตามได้หรือไม่
     
  6. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,462
    ค่าพลัง:
    +1,137
    ท่าอยากเห็นการเกิดดับ

    1 รูปที่มีจิตครอง ?
    และ รุปที่ไม่มีจิตครอง ?

    2 นามจิต ที่มีสติรู้ ?
    และ นามจิตที่ไม่มีสติรู้ ?

    3 นามจิตที่มีสติรู้ เกิดปัญญา เห็น ?
    และ นามจิตที่มีสติรู้ แต่ไม่เกิดปัญญา เห็น ?

    4 สภาวะจิตที่เกิดปัญญา เห็น ?
    และ สภาวะจิตที่ไม่เกิดปัญญา เห็น ?

    5 ปัจจุบันขนะจิต ที่มี สติ ปัญญา ครบถ้วน ที่มีกาย ?
    และ ปัจจุบันขนะจิต ที่มี สติ ปัญญา ครบถ้วน ไม่มีกาย ?
     
  7. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    เทพอาถรรพ์ให้ยืมมือตบ แต่หลบก่อนวุ้ยเดี๋ยวเจอเท้าตบ ^-^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2009
  8. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ตาน้าหมอ กรุณาหลีกเลี่ยง การแบ่งฝักแบ่งฝ่าย โดยเอาเครื่องมือทางการเมือง ของฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งมาใช้ด้วยครับ ^-^
     
  9. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072

    เอ้อ..จริงด้วย ลืมนึกไป นึกอะไรไม่ค่อยจะออก แท้งค์มากที่เตือนกัน

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. Amoxcycol

    Amoxcycol Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +65
    คุณเจ้าของกระทู้นี้เขาไม่อยากได้ความรู้จริง ๆ หรอก เอาความรู้ไปให้เขา เขาก็ไม่รับไง
    คุณเจ้าของกระทู้เขาต้องการมากกว่านั้น ......หากอุเบกขาไม่พอก็ถอยห่างดีกว่านะ
    เพราะเราจะแพ้ตัวเราเอง จะแสดงความโกธรออกมา ก็เราแพ้ซะหล่ะ
    ถอยห่าง ๆ ดีกว่า
     
  11. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    อ้างอิงคุณ amoxcycol ชื่อเหมือนยาแก้ไข้เลย เห็นด้วยคราบ ผมจำอุปมาบางอย่างได้ไม่ทราบของท่านหรือของใคร ก็เห็นคำถามแล้วรู้สึกเหมือนน้ำที่เต็มแก้วแล้ว และน้ำที่เต็มแก้วแล้วผู้มีปัญญาย่อมทราบว่าเทลงไปอีกก็ไม่มีประโยชน์ เสียของหกเลอะเทอะ เก็บน้ำไว้ทำประโยชน์ที่เป็นปรโยชน์เกื้อกูลกันและได้ประโยชน์จริงๆดีกว่า ถ้าเราทั้งหลายคิดว่าการฝึกจิตเพื่อความหลุดพ้น นั้นเป็นเพื่อมาใช้ตอบสนองตัณหาความทะยานอยากแสดงว่า การปฏิบัตินั้นผิดทางมาตั้งแต่เริ่มแล้ว ไม่ใช่ทาง แต่หากบางท่านอยากตอบก็ด้วยเมตตาหาใช่รู้น้อยเสียเมื่อไหร่ อันนี้ผมรู้ว่ามีผู้บรรลุธรรมแล้วจริงๆ
    ขอท่าน อะมอกซีไซลีนอล เจริญในธรรมเช่นกันครับ
     
  12. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ถ้าสิ่งนั้นคุณเรียกปัญญาแต่ผมเรียกอวิชชาตัวเป้งๆเลย ไม่รู้ว่าใครจะเห็นเหมือนผมบ้าง ตอบไปเพราะสังเวชหรอกถึงได้ตอบ
     
  13. ป้าแมวดาวพระศุกร์

    ป้าแมวดาวพระศุกร์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +3
    อิฉันไม่เห็นด้วยเลยเจ้าค่ะ

    ทำไมหละเจ้าคะ ทำไมต้องหลีกเลี่ยง หากคุณเทพอาถรรพ์ของอิฉันจะต้อง การเอาความรู้ เอาปัญญาที่กลั่นออกมาจากการทำสมาธิอันยิ่งยวดของท่าน มาตีแผ่ มาแจกแจงให้ดูว่า ขณะที่ท่านทำสมาธินั้นท่านไม่ได้ใช้การดูจิตดูกาย ดูเวทนาดูธรรมอะไรเลย ท่านก็ทำสมาธิได้ และเกิดปัญญามากมาย จนกระทั่ง มั่นใจว่าการดูกายดูจิตดูเวทนาดูธรรม ไม่ได้เกี่ยงอะไรกับการทำสมาธิ การปฏิบัติ เลยแม้แต่น้อย

    สมาธิเท่านั้นเจ้าค่ะ ที่ทำให้ละสักกายทิฏฐิ สมาธิเท่านั้นเจ้าค่ะ ที่ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย สมาธิเท่านั้นเจ้าค่ะ ที่ทำให้เกิดความคลายกำหนัด เห็นไหมหละเจ้าคะท่านเทพอาถรรพ์ของอิฉันไม่ได้พึ่งพาการดูจิตดูใจเลยแม้แต่น้อย

    เนี่ยะท่านเทพอาถรรพ์ของอิฉันกำลังทำให้ทุกท่านเลิกลืมความเป็นจริงอยู่นะเจ้าคะ ไม่ได้มาด้วยอคติลำพังกับคำว่า "ดูจิตดูใจ" นะเจ้าคะ อย่าปรักปรำกัน ต้องเห็นสิเจ้าค่ะว่าสมาธิต่างหากที่ทำให้เกิดปัญญา ไม่เห็นต้องพึ่งพิงอิงอาศัยการดูจิตดูกายดูเวทนาดูธรรมเพื่อให้ละสักกายทิฏฐิ เบื่อหน่าย คลายกำหนัดเลย แค่ฝึกสมาธิก็พอเจ้าค่ะ ไม่เชื่อพวกคุณลองทำสมาธิให้ถึงที่สุดสิเจ้าคะ ใครมาตบหัว เอาเข็มจิ้ม ก็ไม่โต้ตอบเจ้าค่ะ เนี่ย บริสุทธิทั้งแท่งเลย

    ท่านเทพอาถรรพ์ของอิฉันเป็นของจริงเจ้าค่ะ อิฉันเชียรสุดใจเขากะลา
     
  14. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ก็เพราะว่าคำถามที่จะวินิจฉัยไงครับ มันเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะติดหมดทุกระดับพร้อมกันทีเดียว มันมีลำดับขั้นตอนค่อนข้างตายตัวครับ คือ ถ้าการสนทนาธรรม ยกมาเป็นข้อแล้ววินิจฉัยร่วมกัน มันก็อีกแบบ อย่างเช่น ของพี่ธรรมภูต แต่การวินิจฉัยวิปัสสนาญาณซึ่งเป็น สันทิกฐิโก นั้น นอกจากจิตใจของตนเองแล้วไม่มีใครทราบได้ว่า เวลานี้ ขุ่นหมอง หรือ ลำพองใจ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นกิเลสฝ่ายอกุศล พระอริยะบุคคลทั้งหลาย ไม่มักจะทำหรือปฏิบัติเช่นนั้น แต่ไอ้การจะเจียรนัยเป็นข้อๆตามนั้น ผมว่ามันได้ประโยชน์น้อยกว่าการทำไปทีละขั้นตอนอย่างถูกต้อง ไม่ใช่ จะประกาศว่า ถ้าใครไม่เป็นอย่างเราคนนั้นยังไม่บรรลุธรรม ถามใจตัวเองดูว่าจริงแล้วต้องการแสดงอะไร แสดงปัญญา หรือ แสดง อวิชชา
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    โอ้โห... คุณป้าแมว สรุปได้ตรงประเด็น โชะ โชะ โชะ เลยค่ะ
    ชัดเจนในข้อความ และแสดงจุดยืนให้เห็นชัดแจ้ง ไม่คลุมเคลือ
    แทงทะลุตัดขั้วหัวใจ ดิ้นกระแด่วๆ ไปเลยค่ะ ท่าน
    แบบว่า อ่านแล้วเข้าใจตามท่านที่ต้องการสื่อเลย ไม่ต้องแปลความ
    ถ้าทุกคนแสดงความในใจ ตามที่เข้าใจ ได้ซักเสี้ยวธุลีหนึ่งของท่าน
    ก็คงไม่ต้องมานั่งสื่อสารกันให้มากความ เห็นแล้วก็ตัดสินใจได้
    ว่าจะเดินตาม หรือ จะคอนเวิร์สไปคนละทางดี

    [​IMG]
     
  16. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    แว็ปเดียวมันก็วิ่งเข้าสู่หัวใจ เลยไม่อยากอ่านมาก ทางเข้ามีสามทาง ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นอาวุธ เดินลุยเข้าไปสามทางนั้น ทุกข์หนึ่ง อนิจจังหนึ่ง อนัตตาหนึ่ง ทางไหนก็ได้แล้วแต่ชอบ ครับ ถึงจะเห็นของจริง
     
  17. ขำ

    ขำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +26
    ท่านขันแตก มาสมัครใหม่ เปลี่ยนชื่อเป็น เทพอาถรรพ์ กับ ป้าแมวดาวพระศุกร์
    แล้วก็ถามเองตอบเอง เลิกเป็นผู้กำกับซะทีเถอะ "ท่านขันแตก"
    รู้สึกว่าจะบ้าไปใหญ่แล้วท่าน ธาตุไฟแทรกหรือไง
     
  18. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ตอบให้ ว่าคำถามเหล่านั้น ต้องถามกับ พวกดูจิต ถูกแล้ว

    แต่ หากจะถามปัญหาธรรมะของจริง อันมาจากการปฏิบัติ ก็เชิญถามกับผมได้

    แต่จะต้อง ถามด้วยความกระหายใคร่รู้ ไม่ใช่ถามด้วยความอยากลอง แล้วจะตอบให้
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ตอบให้ ว่าคำถามเหล่านั้น ต้องถามกับ พวกดูจิต ถูกแล้ว

    แต่ หากจะถามปัญหาธรรมะของจริง อันมาจากการปฏิบัติ ก็เชิญถามกับผมได้

    แต่จะต้อง ถามด้วยความกระหายใคร่รู้ ไม่ใช่ถามด้วยความอยากลอง แล้วจะตอบให้
     
  20. 2ชาติตรัสรู้

    2ชาติตรัสรู้ គ្រប់គ្រាន់ รักษาดวงใจ.គ្រប់គ្រាន់

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +1,558
    โฮะ ๆ ๆ ๆ^^ คนแยะดีแฮะ ท่าทาง เทบอาถัน ไม่อยากรู้แล้วมั๊งเงียบไปเยย

    หุหุหุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...