ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่ไปอยู่แล้วครับ จะเอาเงินที่ไหนไป คนจนก็ดีแบบนี้น่ะครับ 555
    Piyacheep S. Vatcharobol

    ญี่ปุ่นตอนนี้อันตรายหนักนะครับแนะนำว่าอย่าไปจะดีที่สุด
    ข่าวที่ได้รับเช้านี้สรุปสั้นๆง่ายว่า น้ำที่ปนเปื้อนกำมันภาพรังสีในแท๊งค์เกอดรั่วและเกิดปฎิกิริยาแก๊สไฮโดรเจน ที่หากมีไฟฟ้าสถิตย์มากไปก็สามารถระเบิดได้ และเมื่อระเบิดที่ถังแรกแล้วจะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ ระเบิดต่อเนื่องในถังต่อๆไป ซึ่งทุกถังคือระเบิดลูกมหึมา
    เมื่ตามข่าววงในเชิงลึกแล้ว ถังที่จะระเบิดเมื่อระเบิดแล้วก็จะมีค่าแบบ Fatman and Little Boy ที่ทิ้งใส่ฮิโรชิม่า กับ นางาซากิ คือปรามนูนะครับ
    ทีนี้ทั้งภูเขาไฟจะระเบิด ซึ่งมีปฏิกิริยาฟ้าผ่าแน่นอน ปฏิกิริยาทางไฟฟ้านี้ มีโอกาศกระทบไฟฟ้าในอากาศได้ แม้นโอกาสจะน้อยก็ตาม
    ลองนึกภาพภูเขพาระเบิดสั่นไหวแผ่นดินแรงๆ คลื่นแผ่นดินไหวไปไกลถึงโรงงานไฟฟ้าฟูกุชิมา ถังมีการสั่นเขยือนตามเกิดไฟฟ้าสถิตย์เคลื่อน แล้วอาจมีประกายไฟเป็นตัวจุดระเบิด
    คิดมากดีกว่าคิดน้อย พยายามอย่าไปเที่ยวได้นะดีที่สุดครับ หากเกิดภัยในต่างแดน เราไม่ใช่พลเมืองเขา การช่วยเหลืออาจติดขัดได้นะครับ มาตามดู ๕ วันอันตรายถึง ๑ มิถุนายนนี้ว่าภูเขาไฟ ซากุระชิมา กับ ฮาโกเน่ ลูกไหนจะระเบิดก่อนกันนะครับ
    เกิดมาแล้วต้องไม่ประมาทในทุกขณะจิตตามคำสอนของพระพุทธองค์นะครับ

    <iframe width="640" height="390" src="https://www.youtube.com/embed/8FCnOCi0eJk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    https://www.youtube.com/watch?v=8FCnOCi0eJk
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศูนย์กลางข่าวสารแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น โดย สนญ. และ สนทญ.

    [​IMG]

    แผ่นดินไหวที่โตเกียวเมื่อวาน (วันที่ 25 พฤษภาคม 2558 เวลา 14.28 น.) หยุดเครื่องเล่นที่ Tokyo Disney Sea ตรงจุดที่กำลังจะทิ้งตัวพอดี!!!!

    สุดท้ายทุกคนปลอดภัยถึงแม้จะไม่ได้ดิ่งตัวลงมาจากเครื่องเล่นเนื่องจากเหตุผลทางด้านความปลอดภัยจึงต้องเดินลงบันไดลงมาจากเครื่องเล่นเอง

    Earthquake Stops Tokyo Disney Ride at the Worst Possible Point
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rabeab Lokmai

    จากการตรวจดีเอ็นเอของโรฮิงยามีข้อน่ากังวลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือในช่วงปี 2552 ตรวจพบชาวโรฮิงยาถือบัตรสัญชาติมาเลเซียเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

    "หมอพรทิพย์" เผยพบชาวโรฮิงยาเข้ารับการฝึกกับกลุ่มอาร์เคเค ก่อเหตุ 3 จว.ชายแดนใต้ วันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 09:26:59 น.

    แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยผลการตรวจดีเอ็นเอของกลุ่มมุสลิมโรฮิงยา จำนวนกว่า 800 คนที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายว่า บางรายมีการใช้สารเสพติด แต่ไม่พบว่ามีสารประกอบระเบิดตามร่างกาย ทั้งนี้ ยังไม่ปรากฏข้อมูลว่ามีความเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดหรือไม่ ทั้งนี้ จากการตรวจดีเอ็นเอของโรฮิงยามีข้อน่ากังวลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือในช่วงปี 2552 ตรวจพบชาวโรฮิงยาถือบัตรสัญชาติมาเลเซียเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ยังสงสัยว่าเข้ามาเส้นทางใด เพราะชาวโรฮิงยาไม่มีศักยภาพพอที่จะลอยเรือไปขึ้นฝั่งที่มาเลเซียได้

    นอกจากนี้ จากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ยังพบว่า ในกลุ่มของผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองมีการนำวัตถุระเบิดจากประเทศอินเดียเข้ามาด้วย ดังนั้น จึงน่าสงสัยว่ามีขบวนการช่วยเหลือเคลื่อนย้ายคนกลุ่มนี้หรือไม่ แม้จะมีการผลักดันคนเหล่านี้กลับประเทศ แต่ในความเป็นจริงชาวโรฮิงญาจะถูกส่งขึ้นฝั่งที่ จ.สตูล จ.ระนอง และจังหวัดอื่นๆ ขณะที่บางส่วนจะถูกส่งต่อเข้าไปมาเลเซีย

    อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบขยายผลถึงที่พักกลุ่มโรฮิงญาผู้ต้องหา 2 รายให้การรับสารภาพว่า ชาวโรฮิงยาที่อพยพมาจากชายแดนด้านแม่สอด ได้มาอาศัยอยู่ที่สุไหง-โกลก ก่อนจะถูกส่งตัวไปฝึกกับกลุ่มอาร์เคเค และกลับเข้ามาก่อเหตุในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ประเด็นนี้น่าเป็นห่วงมาก เนื่องจากรัฐบาลไทยยังไม่มีนโยบายชัดเจนว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร

    "หมอพรทิพย์" เผยพบชาวโรฮิงยาเข้ารับการฝึกกับกลุ่มอาร์เคเค ก่อเหตุ 3 จว.ชายแดนใต้ : มติชนออ
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    InPics & Clips : ฝนถล่ม!!เมืองฮิวสตันจมใต้บาดาล ยอดตายสหรัฐฯ-เม็กซิโกรวมเกือบ20ศพ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤษภาคม 2558 01:02 น.

    เอเอฟพี - ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำพื้นที่ส่วนใหญ่ของฮิวสตัน จมอยู่ใต้น้ำในวันอังคาร(26พ.ค.) แฟนบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอติดค้างที่สนามแข่งขัน ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบ 20 ศพทั้งในสหรัฐฯและเม็กซิโก

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/25ZFq3R7EHg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/IA7057D1eOA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="420" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/u1OO8AOOi_w" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    มลรัฐเทกซัสและโอคลาโฮมา ทางภาคใต้ของสหรัฐฯและทางเหนือสุดของเม็กซิโก ต้องประสบกับความทุกข์ยากจากสภาพอากาศรุนแรงมานานหลายวันแล้ว ในนั้นรวมถึงพายุทอร์นาโดที่ซัดกระหน่ำ ซึ่งทำชาวบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดนของสองประเทศ เสียชีวิต สูญหายและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

    ในเมืองฮิวสตัน มลรัฐเทกซัส มีฝนตกลงมาอย่างหนักหนาถึง 10 นิ้ว และแค่ไม่กี่ชั่วโมง เมืองก็ต้องประสบกับอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบทศวรรษ และมีรายงานว่าเหล่ากองเชียร์ที่ออกไปชมบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอของฮิวสตัน ร็อคเก็ตส์ ในนัดมันเดย์ไนท์ ต้องติดค้างอยู่ที่สนามแข่งขันเป็นจำนวนมาก

    ภาพข่าวจากเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสในฮิวสตัน เผยให้เห็นรถยนต์นับร้อยคันที่ถูกทิ้งไว้จมอยู่ใต้น้ำตามถนนสายต่างๆ ขณะที่ท้องถนนกลายสภาพเป็นสายน้ำที่เวิ้งว้าง ประชาชนบางส่วนติดอยู่ในรถยนต์ บางส่วนหลบภัยอยู่ในบ้าน

    แอนนี พาร์คเกอร์ นายกเทศมนตรีฮิวสตันเผยเมื่อค่ำคืนวันจันทร์(25พ.ค.) มีผู้เสียชีวิตท่ามกลางอุทกภัย 2 คน แต่คาดหมายว่ายอดเหยื่ออาจพุ่งสูงกว่านี้ "ดิฉันขอร้องและเรียกร้องทุกคนจงอยู่ในความระมัดระวัง และตระหนักว่าเราอาจเจอฝนตกลงมาเพิ่มเติม" เธอแถลงกับผู้สื่อข่าว พร้อมแนะนำให้ประชาชนในเมืองที่มีประชากรมากที่สุดลำดับ 4 ของสหรัฐฯ อยู่แต่ภายในบ้าน

    "เราเห็นรถยนต์ถูกทิ้งไว้ทั่วเมือง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ฉุกเฉินพยายามเข้าไปตรวจสอบรถยนต์เหล่านั้น เพื่อดูว่าใครติดอยู่ภายในหรือไม่" เธอกล่าว พร้อมเผยว่าย่านกลางเมืองฮิวสตัน อันเป็นที่ตั้งของสนามกีฬาโตโยต้า เซ็นเตอร์ อารีนา รังเหย้าของฮิวสตัน ร็อคเก็ตส์ ไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม แต่กองเชียร์ราว 200 คนยังติดค้างหลายชั่วโมงไม่สามารถกลับบ้านได้ เพราะถนนจมอยู่ใต้บาดาล

    ท่ามกลางความกังวลที่มากขึ้นเรื่อยๆ มีรายงานว่ามีประชาชนที่ยังสูญหายในเฮย์ส เคาน์ตี ของเทกซัส อย่างน้อย 12 คน หลังจากก่อนหน้านี้ยืนยันผู้เสียชีวิต 1 คนในเทกซัสและอีก 2 คนในมลรัฐโอคลาโฮมา ที่อยู่ติดกัน

    ข้ามพรมแดนไปทางใต้ เม็กซิโก ก็ต้องเผชิญภัยพิบัติทางธรรมชาติเลวร้ายเช่นกัน โดยพายุทอร์นาโดลูกยักษ์ได้ซัดถล่มเมืองชิวดัด อาคูนา ตอนรุ่งสางวันจันทร์(25พ.ค.) คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 13 ศพและบ้านเรือนหลายน้อยหลังพังราบเป็นหน้ากอง ในเหตุซัดถล่มนองเลือดในเวลาเพียงแค่ 6 วินาที

    เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังตะเกียกตะกายตามหาทารกรายหนึ่งที่พรากจากพ่อแม่ท่ามกลางทอร์โดที่มีกำลังลมสูงถึง 270-300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง "ทารกอยู่กับพ่อแม่ แต่พวกเขาถูกพายุเหวี่ยงจนปลิว และเรายังหาทารกไม่พบ" เลนิน เปเรซ นายกเทศมนตรีเมืองอีวาริสโตกล่าว

    ประธานาธิบดีเอนริเก เปนญา เนียโต เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเมืองที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักแห่งนี้ในวันอังคาร(26พ.ค.) หลังพักคืนในพื้นที่ประสบภัยเพื่อเสนอมอบความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลาง ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยมีบ้านเรือนหลายร้อยหลังได้รับความเสียหาย และในนั้นจำนวนมากพังพินาศยับเยิน

    ด้านฟรานซิสโก มาร์ติเนซ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันพลเรือนแห่งรัฐโกอาวีลา บอกกับเอเอฟพีว่ามีประชาชน 44 คนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลและอีก 242 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ควีนอังกฤษเตรียมแถลงแผนลงประชามติอียู | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „ควีนอังกฤษเตรียมแถลงแผนลงประชามติอียู สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ เตรียมแถลงแผนการของรัฐบาลในการลงประชามติ ในช่วงเปิดสภาประจำปี วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2558 เวลา 8:55 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่27 พ.ค.ว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2 แห่งอังกฤษจะทรงแถลงถึงแผนการของรัฐบาลเกี่ยวกับการลงประชามติว่าด้วยการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป(อียู) โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2จะทรงแถลงถึงรายละเอียดในแผนการดังกล่าวของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ช่วงเปิดสภาประจำปีซึ่งรัฐบาลใหม่อังกฤษเตรียมผ่านร่างกฎหมายหลายฉบับในปีแรกของการบริหารประเทศ รวมถึงการจัดลงประชามติในในสิ้นปี2560 นายกรัฐมนตรีคาเมรอนบอกว่า เขาพร้อมจัดลงประชามติก่อนปี2560หากเขาเสร็จสิ้นการเจรจาแต่เนิ่นๆ แต่ตอนนี้นายกฯตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากส.ส.บางคนอย่างเช่นนายเลียม ฟ็อกซ์ส.ส.อาวุโสของพรรคอนุรักษ์นิยมฝ่ายรัฐบาลและอดีตรมว.กลาโหมอังกฤษ ต้องการอภิปรายกันอย่างละเอียดและใช้เวลา ทั้งนี้นายกฯคาเมรอนเผชิญแรงกดดันให้อธิบายว่าจะจัดลงประชามติเมื่อไหร่และสิ่งที่ต้องการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในอียู ขณะที่ นายกฯคาเมรอนชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่7 พ.ค.ได้กลับมากุมอำนาจอีกครั้ง หลังเขาให้คำมั่นจะปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ใหม่กับอียูก่อนไฟเขียวอังกฤษลงประชามติว่าจะอยู่ต่อหรือออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป“

    อ่านต่อที่ : ควีนอังกฤษเตรียมแถลงแผนลงประชามติอียู | เดลินิวส์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ให้วัว50ตัวขอลูกสาวผู้นำสหรัฐ | เดลินิวส์

    „ให้วัว50ตัวขอลูกสาวผู้นำสหรัฐ ทนายความชาวเคนยาเสนอตัวว่าจะให้วัว 50 ตัวและสัตว์เลี้ยงอื่นๆอีก เพื่อขอลูกสาวของประธานาธิบดีสหรัฐมาแต่งงานด้วย วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2558 เวลา 7:26 น.

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไนโรบีประเทศเคนยา เมื่อวันที่27พ.ค.ว่านายเฟลิกซ์ คิโปรโนทนายความชาวเคนยาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์เดอะ ไนโรเบียน ฉบับวันอังคารที่26พ.ค.ว่าเขาพร้อมที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อวัว50ตัว ตามมาด้วยแกะ70ตัวและแพะ30ตัวเป็นสินสอดเพื่อนำไปสู่ขอน.ส.มาเลียโอบามา บุตรสาววัย 16ปีของประธานาธิบดีบารัคโอบามา ผู้นำสหรัฐอันจะเป็นการเติมเต็มความฝันของเขาที่แสดงความสนใจในตัวเธอมาตั้งแต่ปี2551ซึ่งขณะนั้นประธานาธิบดีโอบามากำลังลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรกและ มาเลียก็เพิ่งจะมีอายุ10ขวบเท่านั้น นายคิโปรโนกล่าวต่อไปอีกว่าเขาเองก็ยังไม่ได้คบหากับใครเลยและสัญญาว่าจะซื่อสัตย์กับเธอเขาบอกเรื่องนี้กับครอบครัวเขาแล้วซึ่งทุกคนก็พร้อมจะช่วยหาสินสอดมาเพิ่มเติมเขาจะนำเรื่องการสู่ขอบุตรสาว

    ประธานาธิบดีโอบามามาพูดกับผู้นำสหรัฐและคาดหวังว่าผู้นำสหรัฐจะนำบุตรสาวมาด้วยในโอกาสที่จะเดินทางมาเยือนประเทศเคนยาประเทศบ้านเกิดของผู้นำสหรัฐคนปัจจุบันในเดือนก.ค.ที่จะถึงนี้ ส่วนคุณย่าของประธานาธิบดีโอบามานั้นมีอายุ 90ปีแล้วอาศัยอยู่ที่เมืองโคเกโลทางตะวันตกของเคนยาซึ่งก็มีญาติหลายคนอาศัยอยู่ที่นั่นเช่นกัน ทนายความชาวเคนยากล่าวอีกว่ากำลังจะร่างจดหมายเพื่อส่งถึงประธานาธิบดีโอบามาขอให้พาบุตรสาวมาเยือนเคนยาด้วยและหวังว่าสถานทูตสหรัฐจะช่วยส่งต่อจดหมายของเขาถึงประธานาธิบดีโอบามาด้วย นายคิโปรโนยังปฏิเสธด้วยว่าเขาไม่ได้หวังเกาะใครกินเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขาความรักต่างหากที่เป็นเรื่องจริง

    ทนายความหนุ่มชาวเคนยาซึ่งไม่ได้เปิดเผยอายุบอกอีกว่า เขาวางแผนไว้แล้วเรื่องการขอแต่งงานซึ่งจะทำขึ้นบนเขาใกล้กับหมู่บ้านในชนบทและในงานแต่งงานจะไม่มีแชมเปญแต่จะมีเครื่องดื่มตามประเพณีเป็นนมเปรี้ยวเรียกว่า“Mursik”เมื่อได้เป็นคู่สามีภรรยากันแล้วเขาก็จะสอนมาเลียให้รู้จักการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายสอนให้รู้จักการรีดนมวัวทำอาหารและเตรียมทำนมเปรี้ยวเหมือนผู้หญิงพื้นเมืองของเคนยา“

    อ่านต่อที่ : ให้วัว50ตัวขอลูกสาวผู้นำสหรัฐ | เดลินิวส์
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายกฯยิวขอเจรจาสันติภาพปาเลสไตน์ | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „นายกฯยิวขอเจรจาสันติภาพปาเลสไตน์ หนังสือพิมพ์ของอิสราเอลเปิดเผยว่า นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเสนอให้รื้อฟื้นการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ขึ้นใหม่ วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม 2558 เวลา 18:58 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่26พ.ค.ว่า หนังสือพิมพ์ฮาเรตซ์ของอิสราเอลรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเผยกับนางเฟเดริกา โมเกรินี หัวหน้าคณะกรรมาธิการการต่างประเทศของสหภาพยุโรปว่า เขาต้องการรื้อฟื้นแผนเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ขึ้นใหม่ เพื่อบรรลุข้อตกลงเรื่องเขตแดนในอนาคตและการเดินหน้าจัดตั้งนิคมชาวยิวในอิสราเอล

    ทั้งนี้อิสราเอลได้บุกยึดเขตเวสต์แบงก์ในสงครามตะวันออกกลางเมื่อปี2510 ขณะที่ปาเลสไตน์ต้องการตั้งประเทศของตัวเองขึ้นในอนาคตซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากนานาชาติ โดยอ้างว่าการสร้างนิคมชาวยิวในพื้นที่ยึดครองของอิสราเอลนั้นเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามอย่างน้อยที่สุดนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูยังคงต้องการให้มีการสร้างนิคมชาวยิวต่อไปภายในพื้นที่ของอิสราเอล

    ด้านนายริยาด อัล-มัลกี รมว.กระทรวงการต่างประเทศปาเลสไตน์ได้ออกมาโต้ตอบว่า นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูพยายามหลอกลวงคนทั้งโลกด้วยแผนเจรจาสันติภาพที่ไร้ความหมาย“

    อ่านต่อที่ : นายกฯยิวขอเจรจาสันติภาพปาเลสไตน์ | เดลินิวส์
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนสั่งตรวจอาคารทั่วประเทศ | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „จีนสั่งตรวจอาคารทั่วประเทศ ทางการจีนสั่งตรวจอาคารสถานที่ต่างๆทั่วประเทศ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังเหตุเพลิงไหม้บ้านพักคนชราที่มณฑลเหอหนาน คร่าชีวิตผู้คนไป 38 ศพ วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2558 เวลา 3:58 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่งประเทศจีน เมื่อวันที่ 27พ.ค.ว่าสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่าทางการจีนได้สั่งให้ตรวจสอบด้านความปลอดภัยอาคารสถานที่ต่างๆทั่วประเทศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาหลังจากเกิดเพลิงไหม้บ้านพักคนชราที่เมืองผิงติงซาน มณฑลเหอหนานทางตอนกลางของประเทศจีนเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมายังผลให้มีผู้เสียชีวิต 38ศพและบาดเจ็บ6คนในจำนวนนี้อาการสาหัส 2รายบ้านพักคนชราซึ่งเป็นกิจการของเอกชนถูกเพลิงเผาผลาญวอดวายเหลือแต่โครงศพผู้เสียชีวิตก็ไหม้เกรียมจนไม่ทราบว่าเป็นใครและรถเข็นก็เป็นเพียงซากที่เหลือ

    สำนักข่าวซินหัวรายงานอีกว่าผู้สูงวัยหลายคนในจำนวน 51คนของบ้านพักคนชราแห่งนี้อยู่ในสภาพเปราะบางเกินไปที่จะหลบหนีออกจากเพลิงไหม้ได้ซึ่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลาเกือบ1ชั่วโมงถึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

    ผู้ดูแล12คนของบ้านพักคนชราถูกตำรวจคุมตัวมาสอบสวนและยังติดตามอีก 3คนส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ยังไม่ทราบแน่ชัด

    เหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นจุดกระแสสังคมขึ้นมาในประเทศจีนที่ซึ่งมักจะหละหลวมเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยเจ้าของอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจมักจะยอมจ่ายเงินสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตเพื่อความสะดวกดังนั้นกระทรวงความมั่นคงสาธารณะจึงมีคำสั่งให้ตรวจสอบในทันทีสำหรับบ้านพักสถานสงเคราะห์ทั้งหลายโรงเรียนอนุบาล ศูนย์เด็กเล็กและ โรงพยาบาลทั่วประเทศ“

    อ่านต่อที่ : จีนสั่งตรวจอาคารทั่วประเทศ | เดลินิวส์
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐสภาอาเซียนประณามเมียนมาออกกฎหมายควบคุมประชากร | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „รัฐสภาอาเซียนประณามเมียนมาออกกฎหมายควบคุมประชากร รัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน ประณามกฏหมายควบคุมประชากรของเมียนมา ซึ่งเป็นขั้นตอนที่นำไปสู่การล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อย โดยเฉพาะชาวโรฮีนจา วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2558 เวลา 11:13 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตาประเทศอินโดนีเซีย เมื่วอันที่27 พ.ค.ว่า บรรดาสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน(เอพีเอชอาร์)เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า การผ่านกฎหมาย”ควบคุมประชากร”ฉบับใหม่ของรัฐบาลเมียนมาเป็นอีกหนึ่งมาตรการในนโยบายจัดการและล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวโรฮีนจานอกจากนี้ กฎหมายควบคุมประชากรน่าจะถูกนำมาบังคับใช้โดยมีเป้าหมายเพื่อจำกัดการขยายเผ่าพันธุ์ของชนกลุ่มน้อย และประธานาธิบดีเต็งเส่ง ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อันจะทำให้รัฐบาลมีอำนาจในการควบคุมการห้ามมีลูกเป็นเวลา3ปีในเขตพื้นที่ที่กำหนด

    นายชาร์ลส์ซานติเอโก สมาชิกรัฐสภามาเลเซียในฐานะประธานเอพีเอชอาร์กล่าวว่า กฎหมายนี้ของเมียนมาซึ่งเป็นรากฐานของการเลือกปฏิบัติ และมีความชัดเจนอยู่แล้วว่ารัฐบาลเมียนมาจ้องดำเนินการต่อชนกลุ่มน้อยในประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งชาวโรฮีนจา และชาวมุสลิม ขณะเดียวกัน รัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนยังเตือนว่า กฎหมายควบคุมประชากรของเมียนมายังจำกัดสิทธิในการขยายเผ่าพันธุ์และส่งเสริมการใช้ความรุนแรงต่อชนกลุ่มน้อยในเมียนมาโดยเฉพาะชาวโรฮีนจา อีกทั้งกฎหมายควบคุมประชากรยังละเมิดสิทธิของผู้หญิงในการเลือกที่จะมีบุตรเมื่อใดก็ได้ ดังนั้นกฎหมายฉบับนี้ของเมียนมา ถือว่าขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ

    กฎหมายควบคุมประชากรเป็นหนึ่งในสี่กฎหมายที่มีชื่อเรียกว่าร่างกฎหมายคุ้มครองศาสนาและชาติพันธุ์แรกเริ่มร่างกฏหมายนี้เสนอโดยกลุ่มชาวพุทธหัวรุนแรงจากองค์กรแห่งชาติเพื่อการคุ้มครองชาติพันธุ์และศาสนาหรือมา บา ธา อย่างไรก็ตาม รัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนยังคงวิตกต่อร่างกฎหมายอีก3ฉบับซึ่งจำกัดการแต่งงานข้ามศาสนา เปลี่ยนความเชื่อทางศาสนาและการมีคู่ครองหลายคน ซึ่งร่างกฎหมายเหล่านี้กำลังอยู่ในระหว่างการอภิปรายในรัฐสภาเมียนมา “

    อ่านต่อที่ : รัฐสภาอาเซียนประณามเมียนมาออกกฎหมายควบคุมประชากร | เดลินิวส์
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐ,เกาหลีใต้,ญี่ปุ่นหารือรื้อฟื้นเจรจานิวเคลียร์โสมแดง | เดลินิวส์

    [​IMG]

    „สหรัฐ,เกาหลีใต้,ญี่ปุ่นหารือรื้อฟื้นเจรจานิวเคลียร์โสมแดง ผู้แทนสหรัฐ เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ร่วมหารือกันที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ เพื่อหาทางรื้อฟื้นการเจรจานิวเคลียร์ 6 ฝ่ายกับเกาหลีเหนือ หลังหยุดชะงักไปนาน วันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2558 เวลา 9:57 น.

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่27 พ.ค.ว่า บรรดาทูตพิเศษจากเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐประชุมกันที่กรุงโซลเมื่อวันพุธเพื่อหาหนทางไปสู่การรื้อฟื้นเจรจา6ฝ่ายกับเกาหลีเหนือกรณีโครงการอาวุธนิวเคลียร์ หลังการเจรจาดังกล่าวต้องหยุดชะงักไปนาน ซึ่งความพยายามของตัวแทนสามชาติมีขึ้นเนื่องจากเกาหลีเหนือออกมาประกาศถึงศักยภาพการทำหัวรบนิวเคลียร์ให้มีขนาดเล็กลง

    นายฮวางจุน-กุก ผู้แทนพิเศษเพื่อสันติภาพและความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีของเกาหลีใต้เปิดเผยว่าเรากำลังเผชิญความก้าวหน้าทางนิวเคลียร์และขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องของเกาหลีเหนือคำกล่าวนี้มีขึ้นก่อนการประชุมร่วมกับนายซุงคิม ผู้แทนพิเศษของสหรัฐและนายจุนอิชิ อิฮาระเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่น แต่หลังจากประชุมเสร็จสิ้น ผู้แทนของสหรัฐและเกาหลีใต้จะเดินทางไปกรุงปักกิ่งเพื่อหารือกับนายอู๋ ต้าเหว่ย เจ้าหน้าที่ระดับสูงจีนต่อไป

    อย่างไรก็ตามนอกจากเกาหลีเหนืออ้างถึงศักยภาพการทำให้หัวรบนิวเคลียร์มีขนาดเล็กลงแล้ว โสมแดงยังอวดอ้างถึงความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ในการทดสอบยิงขีปนาวุธวิถีโค้งจากเรือดำน้ำอีกด้วย แต่ผู้เชี่ยวชาญภายนอกมองว่า เกาหลีเหนือพูดขยายเกินกว่าความจริง และประเมินว่าเกาหลีเหนือยังคงต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะได้ครอบครองเทคโนโลยียิงขีปนาวุธจากเรือดำน้ำอย่างแท้จริง“

    อ่านต่อที่ : สหรัฐ,เกาหลีใต้,ญี่ปุ่นหารือรื้อฟื้นเจรจานิวเคลียร์โสมแดง | เดลินิวส์
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “บิ๊กตู่” จ่อชงฐานเรือลอยน้ำแก้โรฮีนจา สาวขบวนการค้ามนุษย์ อัดนักเลือกตั้งชอบซ่อง-บ่อนนักหรือ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    26 พฤษภาคม 2558 18:53 น. (แก้ไขล่าสุด 26 พฤษภาคม 2558 20:22 น.)

    [​IMG]


    นายกรัฐมนตรี เตรียมเสนอโมเดลช่วยเหลือชาวโรฮีนจาในที่ประชุมว่าด้วยการย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ตั้งศูนย์ช่วยเหลือต้นแบบ เครื่องบินลาดตระเวน - ฐานเรือลอยน้ำ แจงเน้นความปลอดภัย ดูแลมนุษยธรรม แต่บังคับกลับประเทศต้นทางไม่ได้ ชี้ ทะเลาะกันไม่ได้ อาเซียนยึดหลักไม่ยุ่งกิจการกันและกัน โวยประโคมข่าวไปเรื่อยๆ แก้ปัญหาไม่ได้ อีกด้านเผยกำลังสอบสวนขบวนการค้ามนุษย์ ตรวจสอบสมาคมที่เกี่ยวข้องว่าถูกกฎหมายหรือไม่ อัดพวกนักเลือกตั้งที่เลือกมาชอบบ้านเมืองสกปรก มีบ่อน - มีซ่อง นักเหรอ

    วันนี้ (26 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการประชุมว่าด้วยการย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย ในวันที่ 29 พ.ค. นี้ ว่า ได้สั่งการไปหมดแล้วในทุกเรื่อง ทั้งยังได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ย้ำว่า นโยบายของเราชัดเจนโดยประการแรก คือ ต้องให้ชาวโรฮีนจารับทราบภาระของเราในเรื่องของการดูแล โดยมีตั้งแต่การตั้งศูนย์อพยพที่พักพิงในอดีต ซึ่งข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ดูแลอยู่ และให้งบประมาณเรามาก็แทบจะไม่พออยู่แล้ว

    นอกจากนี้ ชาวโรฮีนจายังมีลูกหลานออกมาอีก เราก็ต้องให้หากินอยู่ในนั้น มีการฝึกอาชีพให้ เพราะถ้าปล่อยออกมาโดยเสรีก็จะกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ โดยเราทำตามมติของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มาโดยตลอด 20 - 30 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ได้หารือกับประเทศเพื่อนบ้านแล้วว่า เมื่อเขาพร้อมเราก็จะส่งกลับ ปัญหาอยู่ที่ว่าตามกติกาของยูเอ็นนั้น การจะเอาคนไปอยู่ไหนต้องอยู่ที่การสมัครใจของเขาเอง ซึ่งคนเหล่านี้ได้บอกว่ายังไม่สมัครใจจึงทำให้เป็นเกิดปัญหา อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 29 พ.ค. เราจะมีการเสนอการตั้งศูนย์ช่วยเหลือต้นแบบ ทั้งเครื่องบินลาดตระเวน และฐานเรือลอยน้ำ นอกจากนี้ ยังต้องดูถึงความเป็นไปได้ในการเสนองบประมาณจากยูเอ็น โดยต้องดูถึงค่าใช้จ่ายของเราทั้งค่าน้ำมัน และเครื่องบิน เบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ รวมทั้งการดูแลชาวโรฮีนจาที่ถูกควบคุม

    “เวลามาแล้วเป็นอย่างนี้หมด จึงต้องระวัง แต่ไม่ใช่เราไม่เห็นชีวิตว่ามีคุณค่า มาตรการกับโรฮีนจา คือ เอาความปลอดภัยของเขาเป็นหลักไว้ก่อน โดยตอนนี้ได้จัดเรือลอยลำ และเครื่องบินลาดตระเวนแต่ก็ยังไม่พบ มันเป็นหน้าที่ของทุกประเทศในการดูแลชาวมนุษยชาติ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องไปประชุมกับใคร เวลาเขาเชิญก็ไม่ต้องไป มันไม่ใช่ เราต้องรับพันธสัญญาเหล่านี้มาแล้วจะดูแลอย่างไร รัฐบาลต้องชัดเจน ถ้าเจอเรือในเขตรอยต่อ หรือเขตเสรีต้องถามเขาว่าจะไปไหน สมัครใจหรือไม่ ถ้าสมัครใจแล้วจะบังคับให้ขึ้นฝั่งไทยมันก็ไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ต้องมีการจัดระเบียบชาวโรฮีนจาก่อนไปยังประเทศปลายทาง ยืนยันว่าเรามีเรือไปดูแลในเรื่องมนุษยธรรม โดยมีทั้งยาและน้ำมันต่างๆ นั่นคือ การอำนวยความสะดวกแต่ไม่ได้ขึ้นฝั่งเรา แต่ที่จะต้องบังคับให้มาขึ้นฝั่งเราคือผู้ป่วยใกล้ตาย เพราะผิดกติกาโลก เราจะปล่อยให้คนตายต่อหน้าไม่ได้ ก็ไม่ได้มีมากมาย และจะไม่มีการแยกครอบครัวผู้ป่วยที่นำมารักษา อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาสมัครใจไปที่อื่น ไม่กลับมายังประเทศต้นทาง เราก็บังคับไม่ได้ แม้แต่ยูเอ็นก็บังคับไม่ได้ ส่วนประเทศอินโดนีเซีย และ มาเลเซีย ที่มีศูนย์พักพิงชั่วคราวถือเป็นการรองรับระยะที่ 1 แต่กฎหมายเราทำไม่ได้ โดยเมื่อเราควบคุมตัว เราก็ต้องส่งเข้าไปศูนย์พักพิงชั่วคราวของประเทศเขา วันนี้ประเทศปลายทางได้ขอความช่วยเหลือเรื่องงบประมาณจากยูเอ็น ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะมีการคุยกันในวันที่ 29 พ.ค. ด้วย โดยเรายืนยันว่าอยู่ในขั้นของการอำนวยความสะดวก และดูแลตามหลักมนุษยธรรม ดำเนินการตามหลักกฎหมาย ส่วนต้นทางสาเหตุที่ต้องมีการอพยพนั้นยูเอ็นต้องดูเอง โดยให้การช่วยเหลือเขาที่ต้นทางจะได้ไม่ต้องออกมานอกพื้นที่

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เราจะทะเลาะกัน โยนกันไปกันมาไม่ได้ ประเทศอาเซียนต้องจำไว้ว่า พูดอะไรออกมาต้องระมัดระวัง เพราะอาเซียนมีหลักการอยู่แล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกิจการของกันและกัน ทั้งนี้ ต้องมีการหารือร่วม แต่ก็มีเหตุมีผลของแต่ละประเทศ ซึ่งยูเอ็นต้องเข้ามาดูว่าจะช่วยอย่างไร วันนี้ถ้ายิ่งพูดก็ยิ่งเพิ่มความขัดแย้งมากขึ้น อาเซียนก็จะแตกกันอีก ซึ่งประเทศต้นทางก็ไม่ได้รับรู้อะไร โดยจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลยถ้ามัวแต่ตีกันด้วยข้อมูลข่าวสาร ตนจึงพยายามไม่พูดอะไรที่จะไม่ให้เกิดผลกระทบต่อทุกเรื่อง ทั้ง ไอยูยู ประมง ค้ามนุษย์ แต่ยืนยันว่า มีสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่ ซึ่งเราต้องแก้ไขและรับผิดชอบ ก็ขอให้ช่วยกันเพราะสิ่งเหล่านี้เกิดมายาวนาน ถ้าตนพูดไปก็จะไปพาดพิงรัฐบาลอื่นอีก

    “เรือที่ถูกจับมาเราก็เอากลับมาได้เรื่อยๆ ถ้าเอาแต่ประโคมข่าวไปเรื่อยๆ จะแก้ปัญหาได้ไหม ถามว่าคุณไปทำผิดกฎหมายเขาหรือเปล่า ถ้าทำแล้วโดนจับแล้วผมจะไปเอาออกมาได้อย่างไร ถ้าเอาแต่ประโคมไปมาก็โดนจับไปทั้งหมด ไประเบิดทิ้งอยู่นั้นแหละ ตรงนั้นคือสิ่งที่เป็นอันตรายของเรา ไม่ใช่เราไม่ดูแลแต่เป็นกฏหมายของเขา เหมือนใครมาบ้านเราทำผิดกฎหมายแล้วเรายอมไหม แยกกันให้ออกหน่อย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการดูแลชาวโรฮีนจาในประเทศไทยนั้น กำลังสอบสวนอยู่ว่าเกี่ยวข้อง หรืออยู่ในกระบวนการอย่างไร เพราะผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ก็มีชาวโรฮีนจาอยู่ด้วย สมาคมเหล่านี้มีการประโคมข่าวกันหรือไม่ เพราะปัญหาเกิดมาเป็น 10 ปีแล้ว ขณะเดียวกันถ้ามีปัญหาการเมืองในไทยด้วย ก็เป็นมุมมองในเรื่องความมั่นคงอีกด้าน แต่จะไม่เอาประชาชนและชาวโรฮีนจาเป็นตัวประกัน โดยต้องสาวให้ครบว่าข่าวบางข่าวออกมาได้อย่างไร แล้วสมาคมเหล่านั้นมาอย่างไร ถูกกฎหมายหรือไม่ ถ้าถูกต้องเมื่ออยู่ในไทยก็ต้องอยู่ภายใต้กฏหมายของไทย โดยเราต้องหาความชัดเจนให้ได้ ไม่ใช่ไปลงโทษ เดี๋ยวสื่อไปเขียนว่าตนไปรังเกเขาอีก ที่ผ่านมาสมาคมที่เกี่ยวข้องกับชาวโรฮีนจามีการให้ข่าวอย่างไร ก็ต้องมาช่วยบอกว่ารู้อะไร จากที่ไหน ก็ต้องมาช่วยเรา

    “มันทำความผิดมาตั้งแต่ต้นแล้ว ทุกเรื่องผมมารื้อ แล้วควรได้รับคำตำหนิอย่างนี้หรือเปล่า หรือจะปล่อยให้มันคลุมเครืออย่างนี้ มีเงินใช้สบายใจทุกที่ จะเป็นโสเภนี ขอทาน ก็ได้ ผมพูดแรงหน่อยนะ แต่นั้นคือสิ่งที่หายไป นั้นคือเศรษฐกิจที่ท่านต้องการ จะค้าขายตรงไหนแกะกะทางเท้าตรงไหนก็ได้ พอผมทำก็ติเตียนเดือดร้อน หาว่าทำลายคนจน แล้วไอ้คนที่ทำลายคนจนโดยที่ไม่รู้ตัว คือ การปล่อยปละละเลย แทนที่จะทำแบบที่ผมทำคือสร้างความเข้มแข็งให้ทุกคนมีรายได้ที่ยั่งยืน กลับปล่อยปละละเลยมันไป นั่งคือสิ่งที่ผ่านมาทั้งหมด ผมก็ไม่รู้ว่าท่านเลือกอย่างนั้นกันมาเอง ประชาธิปไตยไม่ใช่หรอ วันนี้ผมไม่ให้เป็นอย่างนั้น ไม่ให้มันบิดเบือน แน่นอนมันต้องมีผลกระทบ ท่านจะอยู่อย่างนั้นต่อไปหรือ แล้ววันหน้าใครจะมีเที่ยวประเทศไทยถ้ามันสกปรก มีทั้งบ่อน ทั้งซ่อง เยอะแยะไปหมด ชอบอย่างนั้นหรือไง ถ้าชอบก็บอกมา” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้เศรษฐกิจตก ซึ่งมันต้องตกแน่นอน เพราะเศรษฐกิจโลกก็ตก อะไรที่เขาว่าดีก็ฟังบ้าง ตนพูดให้ตายก็ไม่ฟังแล้วเอามาตีกันอยู่นั้น แล้วท่านต้องการอะไรจากประเทศ ต้องการความหวังอะไรจากตน บางคนเขียนวิพากษ์วิจารณ์ไม่ใช่เรื่อง แน่นอนตนต้องหวุดหวิด เพราะเหนื่อยกับการคิดและทำ ไม่ได้ลอยหน้าลอยตาไปที่ไหนทุกวัน 1 ปี เต็มๆ ไม่ได้หยุดคิดซักเวลา ทำงานแบบนี้ยังได้แค่นี้ แล้วทำงานแบบเก่าจะได้แค่ไหน เวลาเลือกตั้งให้ไปถามว่าเขาว่า จะทำแบบที่ตนทำและโครงการที่ตนทำเขาจะทำต่อหรือไม่ ไปถามมาว่านโยบายเขาทำอย่างไร ใช้เงินที่ไหน เป็นอย่างไรใครเกี่ยวข้อง ขอถามว่าที่ทำมา 1 ปี มีอะไรผิดตรงไหน สื่อก็ต้องช่วยชี้แจงให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ขรก.“ฉะเชิงเทรา-ระยอง” ต้องทำการบ้านหนัก! หลัง “บิ๊กตู่” ขู่ลงพื้นที่ตอบไม่ได้สั่งย้าย! โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2558 19:10 น. (แก้ไขล่าสุด 26 พฤษภาคม 2558 20:14 น.)

    [​IMG]

    “บิ๊กตู่” จ่อลงพื้นที่ ตรวจการบ้านบริหารน้ำ “ระยอง - ฉะเชิงเทรา” วันจันทร์นี้ หลัง ขู่ในที่ประชุม ครม. สั่ง รมต. ลงพื้นที่ จี้ถามงานข้าราชการ หากใครตอบไม่ได้สั่งย้ายออกทันที ด้าน “รมว.เกษตรฯ” รับลูก ใครไม่ทำงาน รัฐบาลก็ไม่มีทางเลือก คงต้องปลด

    วันนี้ (26 พ.ค.) จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แสดงความเป็นห่วงต่อการทำงานของข้าราชการระดับล่าง ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)

    พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรีสั่งแสดงความเป็นห่วงการทำหน้าที่ของข้าราชการ โดยให้เวลารองนายกรัฐมนตรี หรือ รัฐมนตรี ลงตรวจพื้นที่ราชการแล้วให้ทำการไล่บี้ถามถึงรายละเอียด และข้อมูลงานกับข้าราชการระดับปฏิบัติ หากตอบไม่ได้ แปลว่า “ไม่มีความรู้ในเรื่องงานนั้นๆ หรือไม่ได้ทำงานจริง ให้ทำการปรับย้ายตามสมควร”

    ที่อาคารรับรองเกษะโกมล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้แต่ละกระทรวงไปดูว่ามีข้าราชการที่ไม่ดำเนินการหรือไม่ เมื่อระดับบนขยับแล้ว แต่ระดับล่างไม่หมุนตาม เพื่อทำให้งานต่างๆ ช้า ซึ่งรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงต้องไปดู ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย ทางรัฐมนตรีต้องรับไปดูว่าข้าราชการระดับล่างทำงานตามที่นายกฯต้องการหรือไม่

    ส่วนจะมีการคาดโทษงดบำเหน็จหรือบำนาญ หรือไม่ เห็นว่า คงยังไม่ถึงขนาดนั้น แต่งดบำเหน็จสามารถทำได้ แต่งดบำนาญคงทำไม่ได้เพราะเกษียณไปแล้ว แต่กรณีของบำเหน็จนั้น ถ้าข้าราชการคนนั้นไม่ทำงานก็ต้องถูกงด ทั้งนี้ รัฐมนตรีประจำแต่ละกระทรวงจะเป็นผู้พิจารณา ถ้าข้าราชการคนไหนไม่ทำงาน ก็ต้องถูกโยกย้ายเพื่อปรับเปลี่ยนให้คนทำงานมาทำหน้าที่แทน

    ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเรียกข้าราชการระดับสูงเข้าประชุมนัดพิเศษ ว่า ไม่พอใจที่ข้าราชการกระทรวง ในระดับภูมิภาคไม่เข้าหาชาวบ้าน หลายคนไม่วางแผน การปฏิบัติงาน และไม่รู้กระทั่งนโยบายของกระทรวงจึงทำงานไม่ได้

    “ผมขอเตือนผู้บริหารทุกคนว่า ตอนนี้เราอยู่ในสถานการณ์พิเศษ คนของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ช่วยติดตามการทำงาน ถ้าท่านไม่ทำงาน รัฐบาลก็ไม่มีทางเลือก คงต้องปลด ท่านต้องแสดงความสามารถให้ได้งานตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะ 2 - 3 เรื่องที่สั่งการไว้ สำคัญที่สุดคือการประเมินภาคชนบท ที่รับปากผมไว้ต้องทำให้เสร็จ ไม่อย่างนั้นจะทำงานช้ากว่าคนอื่นทุกครั้ง แล้วก็ถูกนำไปรายงานรัฐบาลว่ากระทรวงเกษตรฯไม่ทำงาน จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง โยกย้ายผู้บริหารกระทรวงแน่นอน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ แต่ไม่ได้โยกย้ายตามรายชื่อที่ปรากฏตามสื่อก่อนหน้านี้”

    ดังนั้น งานของกระทรวงที่ทุกหน่วยงานต้องไปรวบรวมทั้งหมดจะต้องแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ประกอบด้วยงาน 3 ช่วง คือ 1. เตรียมแผนงานมาให้ชัดเจน ตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี 2. แผนงานในปีเพาะปลูก 58/59 และ 3. เตรียมการปฏิรูปพื้นฐานการเกษตร ที่จะส่งต่อรัฐบาลใหม่ ประกอบด้วย แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรและต้นทุนผลิต เพิ่มรายได้ วางแผนผลิต

    “ผมสงสัยว่าช่วง 10 ปีที่ผมไม่อยู่ที่นี่ พันธมิตรของกระทรวงหายไปไหนหมด ต้องระวังให้ดี มิฉะนั้นบารมีของกระทรวงจะลดลงเรื่อยๆ”

    มีรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 1 มิถุนายนนึ้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ เช่น พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จะเดินทาง ไปที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และ จังหวัดระยอง เพื่อพบปะประชาชนและตรวจโครงการบริหารจัดการน้ำ พร้อมรับทราบปัญหาของเกษตรกร ซึ่งนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับเดินทางไปพบปะประชาชนในจังหวัดต่างๆ

    “จะมีการติดตามความคืบหน้าโครงการบริหารจัดการน้ำ เช่น โครงการที่กรมชลประทานได้จัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) การดำเนินการสูบผันน้ำท่อส่งน้ำเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำประแสร์ - อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ร่วมกับการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) และบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ โครงการผันน้ำทางท่อจากคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตมาลงอ่างบางพระ ชลบุรี เพื่อเพิ่มความมั่นคงน้ำในภาคตะวันออกตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ใช้งบก่อสร้างประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังทดสอบไม่ได้ เพราะมีน้ำเหลือน้อย”

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Vda Nong ได้แชร์รูปภาพของ The Surveyor

    บันทึกนักสำรวจที่ 029 “ดินถล่ม”

    [​IMG]

    ช่วงนี้เริ่มเข้าหน้าฝนแล้ว เรามารู้จักภัยใกล้ตัวที่มักเกิดขึ้นในช่วงหน้าฝนกันซะหน่อยนะคับ กับ "ดินถล่ม" ภัยเงียบที่ป้องกันได้

    ดินถล่มหรือโคลนถล่ม คือ การเคลื่อนที่ของมวลดินและหินลงมาตามลาดเขาด้วยอิทธิพลของแรงโน้มถ่วงโลก และจะมีน้ำเข้ามาเกี่ยวข้องในการ ทำให้มวลดินและหินเคลื่อนตัวด้วยเสมอ ดินถล่มมักเกิดตามมาหลังจากน้ำป่าไหลหลาก ในขณะที่เกิดพายุฝนตกหนักรุนแรงต่อเนื่อง หรือหลังการเกิดแผ่นดินไหว

    จากการสำรวจของกรมทรัพยากรธรณีโดยการเก็บข้อมูลทางธรณีวิทยาและสภาพแวดล้อม พบว่าใน 51 จังหวัดทั่วประเทศมีลักษณะพื้นที่เสี่ยงภัยต่อดินถล่มอยู่บริเวณลาดเชิงเขาและที่ลุ่มใกล้เขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าวมีความเสี่ยงภัยต่อดินถล่มมาก เนื่องจากเมื่อมีพายุฝนตกหนักต่อเนื่องจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มตามมาได้ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน ดังนั้นประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจึงควรให้ความสนใจและระมัดระวังเป็นพิเศษ ลักษณะที่ตั้งของหมู่บ้านเสี่ยงภัยดินถล่มมีข้อสังเกตดังต่อไปนี้
    - อยู่ติดภูเขาและใกล้ลำห้วย
    - มีร่องรอยดินไหลหรือดินเลื่อนบนภูเขา
    - มีรอยแยกของพื้นดินบนภูเขา
    - อยู่บนเนินหน้าหุบเขาและเคยมีโคลนถล่มมาบ้าง
    - ถูกน้ำป่าไหลหลากและท่วมบ่อย
    - มีกองหิน เนินทรายปนโคลนและต้นไม้ ในห้วยใกล้หมู่บ้าน
    - พื้นห้วยจะมีก้อนหินขนาดเล็กใหญ่อยู่ปนกันตลอดท้องน้ำ

    ถ้ารู้อย่างนี้แล้วร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเตือนภัย ด้วยการแชร์! เพื่อเตือนสติครับ ครับพี่น้องชาวไทย

    ที่มา กรมทรัพยากรธรณี

    ติดตามชมรายการ The Surveyor รายการท่องเที่ยวเชิงสำรวจ ด้วยดวงตาจากอวกาศ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 11:00 น. ทางช่อง ‪#‎ThaiPBS‬

    สนับสนุนสาระความรู้ดีๆทางด้านภูมิศาสตร์ โดย
    ‪#‎กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี‬
    ‪#‎GISTDA‬ "นำคุณค่าจากอวกาศ เพื่อพัฒนาชาติและสังคม"
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanakorn Aranyakasemsuk ได้แชร์รูปภาพของ Elzindu Constantine​

    ‪#‎Earthquake‬ ‪#‎Thai‬+‪#‎Nepal‬
    /// เมื่อเนปาลไหว ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะมาถึงไทยเช่นไร ///
    27/05/15

    [​IMG]

    ตอนนี้คลื่นแรงแผ่นดินไหวเนปาลระลอกแรกผ่านยูนนาน
    ไปถึงรอยเลื่อนแม่น้ำแดง และวนขวา เข้าไปที่รอยเลื่อนเเมืองฮุน รอยเลื่อนเดียนเบียฟู ส่วนที่อยู่ในลาวแล้ว

    50 ล้านปีที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ เปลือกโลกอินเดียยังคงดันเข้าหาเปลือกโลกยูเรเซียตลอดเวลา ขอบขวาของแผ่นเปลือกโลกอินเดียนั้นส่งแรงเป็นทอดๆผ่านรอยเลื่อนที่ตัดขวางมาถึงรอยเลื่อนสำคัญ 2 รอย คือรอยเลื่อนแม่น้ำแดง และรอยเลื่อนสะแกง ซึ่งทั้งคู่เป็นรอยเลื่อน strike slip ชนิดเลื่อนขวาขนาดใหญ่ มีความยาวหลายพันกิโลเมตร ผลจากนี้ไปอีกหลายปีในช่วงแรกคือการขยับตัวของรอยเลื่อนในยูนนานและพม่า ถัดไปจากนั้นรอยลื่อนแขนงที่อยู่ระหว่างรอยเลื่อนแม่น้ำแดงและรอยเลื่อนสะแกงก็จะได้รับผลเหมือนชั้นหนังสือ นั่นคือในอีกหลายสิบปีข้างหน้า รอยเลื่อนน้ำมาในลาวซึ่งเป็นก็รอยเลื่อน strike slip ชนิดเลื่อนซ้ายขนาดเล็กกว่าจึงจะเริ่มขยับตัวและในที่สุดก็จะมาถึงแขนงรอยเลื่อนเล็กทางภาคเหนือของไทย เช่น รอยเลื่อนแม่จัน เป็นต้น

    ส่วนรอยเลื่อนที่น่าจับมอง คือรอยเลื่อนสะแกง หรือสะเกียงในประเทศพม่า เพราะรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ เป็นรอยเลื่อนแขนงของลอยเลื่อนสะแกง เพราะมีเขื่อนศรีนครินทร์ตั้งอยู่ โดยในปี 2526 เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ริกเตอร์ เหนือเขื่อนศรีนครินทร์ประมาณ 60 กม.แต่ไม่ได้ส่งผลเสีย และสร้างความเสียหายกับเขื่อน ดังนั้น ควรต้องมีแผนป้องกันภัย แผนเตือนภัย แผนอพยพ และแผนจัดการ เมื่อเกิดภัยพิบัติ นอกจากนี้ ยังรวมถึงรอยเลื่อนในภาคเหนือของไทยด้วย ส่วนรอยเลื่อนขนาดใหญ่นอกประเทศนอกจากรอยเลื่อนสะแกงแล้ว ยังมีรอยเลื่อนแม่น้ำแดง ในประเทศเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ถือว่าประเทศไทยโชคดีที่บรรพบุรุษเลือกพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเกิดแผ่นดินไหวค่อนข้างต่ำ

    ถึงแม่ว่าเนปาลจะ ห่างจากประเทศไทยมาก ผลที่ส่งมา เหมือนลักษณะโดมิโน ทางที่ดีความเตรียมพร้อมเพราะพลังสะสม และถ่ายทอดแรง ต้องใช้เวลาอีกหลายปี แต่ไทยก็ควรต้องมีมาตราการในการรับมือไว้ก่อนเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียในอนาคต

    Tip:
    ‪#‎กลุ่มรอยเลื่อนท่าแขก‬ กลุ่มรอยเลื่อนนี้มีแนวการวางตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออก
    เฉียงใต้ พาดผ่านขอบที่ราบสูงโคราช ตั้งแต่อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม หรือตรงกันข้ามกับแขวง
    ท่าแขก ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ผ่านขึ้นมาที่อำเภอท่าอุเทน อำเภอศรีสงคราม
    ของจังหวัดนครพนม เรื่อยมาถึงอำเภอบุ่งคล้า ของจังหวัดหนองคาย และต่อเนื่องเข้าไปในดินแดน
    ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวอีกครั้งหนึ่ง รวมความยาวเฉพาะในส่วนของประเทศไทย
    ประมาณ 140 กิโลเมตร รอยเลื่อนนี้ตัดผ่านชั้นหินกลุ่มหินโคราชของมหายุคมีโซโซอิก ลักษณะการ
    วางตัวขนานกับกลุ่มรอยเลื่อนแม่น้ำแดง (Red River Fault Zone) ในประเทศเวียดนาม และมีการ
    เลื่อนตัวตามแนวระดับเหลื่อมขวา

    ขอบคุณ
    Jimmy's Blog – Thai Blog about Science, Technology and Maker Movement,
    Oknation.com
    Dmr.go.th

    เรียบเรียง Elzildur constantine
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชุมนุมดวงอาทิตย์ 300 ล้านล้านดวง
    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 25 พ.ค. 2558 08:01

    [​IMG]
    (ภาพ : REUTERS)

    นักดาราศาสตร์พบความมหัศจรรย์มากที่สุดในจักรวาล เท่าที่เคยพบมาทั้งหมดเป็นการไปเจอกลุ่ม ดวงดาวที่มองเห็นเป็นทางช้างเผือก สุกใสเท่ากับมีดวงอาทิตย์ ไม่น้อยกว่า สามร้อยล้านล้านดวง มาชุมนุมกันอยู่นักดาราศาสตร์ของห้องปฏิบัติการขับเคลื่อนด้วยไอพ่นของสหรัฐฯ เผยว่า “เรากำลังได้เห็นขั้นวิวัฒนาการของกลุ่มดวงดาว อันเข้มข้นแสงเจิดจ้าที่สุดนี้ อาจจะมาจากหลุมดำของกลุ่มดวงดาว”

    นักดาราศาสตร์แจ้งว่า การเกิดหลุมดำนี้ เป็นเรื่องปกติของกลุ่มดวงดาว กลุ่มดาวที่พบนี้ อยู่ห่างจากโลกเรามาก เป็นระยะทางประมาณ 12.5 ล้านล้านปีแสง สิ่งที่เราเห็นกัน เป็นเพียงอดีต อายุ 12.5 พันล้านปีแสงของมัน ที่เพิ่งเดินทางมาถึงโลกเราเท่านั้นเอง.

    ชุมนุมดวงอาทิตย์ 300 ล้านล้านดวง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "รู้" เพื่ออยู่รอด! โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 19 พ.ค. 2558 05:15

    [​IMG]

    จับตาภัยใกล้ตัว “14 รอยเลื่อน” เสี่ยงแผ่นดินไหวในประเทศไทย

    ประเทศไทยจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงหรือไม่?

    คำถามที่มาพร้อมกับความหวาดหวั่นของคนไทยทั้งประเทศ หลังเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่สุดที่ประเทศเนปาล ที่มีความสั่นไหวรุนแรงขนาด 7.8 แมกนิจูดและ 7.4 แมกนิจูดตามลำดับ ถึง 2 ครั้ง 2 คราว ในเวลาห่างกันไม่ถึง 20 วัน คือจากวันที่ 25 เม.ย.และ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา และตามมาติดๆด้วยอาฟเตอร์ช็อกอีกหลายสิบครั้ง

    ที่สำคัญหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาลครั้งแรก ที่ประเทศไทยก็เกิด เหตุการณ์แผ่นดินไหวในทะเลใกล้เกาะยาว อ.เกาะยาว จ.พังงา หลายครั้งติดต่อกัน ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 6 พ.ค. และวันที่ 7 พ.ค.2558 ขนาด 4.7 แมกนิจูด โดยแรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะ ภูเก็ต พังงา และ กระบี่ และถัดมาไม่กี่ชั่วโมงวันเดียวกันก็เกิดแผ่นดินไหวบนบก ที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 2.4 แมกนิจูด

    เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้และประเทศไทย หรือว่าแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ทำให้โลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป?

    แต่ที่แน่ๆ ทุกคนเริ่มตระหนักแล้วว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวไม่ใช่เรื่องใหม่หรือเรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะในประเทศไทยเองมีรอยเลื่อนที่มีพลังอยู่ถึง 14 รอยเลื่อนและพร้อมที่จะปลดปล่อยพลังงานออกมาได้ทุกขณะ หากได้รับการกระตุ้น

    หากยังจำกันได้เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2557 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 แมกนิจูด มีศูนย์กลางอยู่ที่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ครั้งนั้นอาคารบ้านเรือน วัด และโรงเรียนได้รับความเสียหายจนยากจะฟื้นฟู เป็นต้น

    นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีความเสี่ยงจากแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ซึ่งเกิดขึ้นในแถบประเทศเพื่อนบ้าน คือ พม่า ลาว รวมทั้งในทะเลอันดามันและประเทศอินโดนีเซีย ที่ส่งผลกระทบมาถึงประเทศไทยด้วย โดยเหตุการณ์ครั้งใหญ่และรุนแรงที่สุดก็คือ การเกิดแผ่นดินไหวในทะเลอันดามัน ขนาด 9.1-9.3 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2547

    “โลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์แผ่นดิน ไหวรุนแรงที่เนปาล ขณะที่ประเทศไทยก็มีความเสี่ยงแผ่นดินไหวมากและรุนแรงขึ้น เนื่องจากอยู่ในแนวแผ่นเปลือกโลกเดียวกับเนปาลที่เกิดแผ่นดินไหวจากการชนของแผ่นเปลือกโลกอินเดียกับยูเรเชียแล้วทอดยาวลงมาถึงพม่า สุมาตรา อินโดนีเซียและปาปัวนิวกินี แนวดังกล่าวมีรอยเลื่อนสะแกงหรือสกายที่ขนานกับรอยเลื่อนของไทยคือรอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน-ตาก รอยเลื่อนแม่เมย-ปิง พาดผ่าน จ.ตาก จ.กำแพงเพชร รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ พาดผ่าน จ.กาญจนบุรี รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ พาดผ่าน จ.กาญจนบุรี จ.สุพรรณบุรี จ.อุทัยธานี จ.ตาก เมื่อเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่เนปาล อาจจะมากระตุ้นรอยเลื่อนสกายและรอยเลื่อนของไทยที่มีพลังอยู่แล้วให้ขยับจนเกิดแผ่นดินไหวได้ จังหวัดที่น่าเป็นห่วงคือแม่ฮ่องสอน ตาก กำแพงเพชร เชียงใหม่ตอนล่าง กาญจนบุรี สุพรรณบุรีและนครปฐม โดยเฉพาะ จ.ตากมีความเสี่ยงมากสุด ถ้าเกิดแผ่นดินไหวอาจรุนแรงระหว่าง 6–7 แมกนิจูด” นายสมบุญ โฆษิตานนท์ ผอ.สำนักธรณีวิทยา สิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

    ผอ.สำนักธรณีวิทยาฯยังบอกด้วยว่า หลังแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ยังมีการขยับตัวของรอยต่อของเปลือกโลกหรือวงแหวนไฟ (Ring of Fire) ด้านตะวันตกขนาด 5 แมกนิจูดและเกินกว่า 5 แมกนิจูด ถึง 20 ครั้งตั้งแต่ประเทศรัสเซีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ ปาปัวนิวกินี อินโดนีเซียต่อไปถึงนิวซีแลนด์ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อไทยโดยตรงเพราะอยู่คนละแนว แต่ชี้ให้เห็นว่าโลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

    ขณะที่ในมุมมองของนักวิชาการหลายรายระบุว่า แม้ประเทศไทยจะไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นที่ “วงแหวนไฟ” ซึ่งเป็นจุดที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง แต่พื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณชายฝั่งเกาะสุมาตราของอินโดนีเซียหรือพม่า พบว่ามี “รอยเลื่อนมีพลัง” (Active Fault) พาดผ่าน ซึ่งรอยเลื่อนเหล่านี้หากเกิดแผ่นดินไหวขึ้น ประเทศไทยย่อมเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบไปด้วย

    โดย ผศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ คณะ วิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แผ่นดินไหวที่เนปาล ไม่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทย เพราะอยู่ห่างไกลกันมาก แต่แหล่งกำเนิดแผ่นดินไหว ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและส่งผลกระทบต่อประเทศไทยนั้น ได้แก่ แนวมุดตัวสุมาตรา­–อันดามัน และกลุ่มรอยเลื่อนสกาย ที่ผ่านพาดเมืองมิตจีนา เนปิดอว์ และมัณฑเลย์ของพม่า ซึ่งกลุ่มรอยเลื่อนนี้เคยเกิดแผ่นดินไหวมาแล้ว 12 ครั้ง ความแรงสุดสูงถึง 8.0 แมกนิจูด และประเทศไทยเคยได้รับแรงสั่นสะเทือนถึงกรุงเทพฯ จึงเป็นรอยเลื่อนที่น่าเป็นห่วง

    ขณะที่ ศ.กิตติคุณ ดร.ปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ระบุว่า จากการศึกษาของนักธรณีวิทยาพบว่า รอยเลื่อนขนาดใหญ่ใน จ.เชียงรายหรือกาญจนบุรี มีศักยภาพทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7–7.5 แมกนิจูด หรือน้องๆ ของเนปาลเลยทีเดียว

    ส่วน รศ.ดร.เป็นหนึ่ง วานิชชัย สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย หัวหน้าโครงการวิจัยลดภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวในประเทศไทย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวว่า รอยเลื่อนมีพลังที่พาดผ่านประเทศไทยมีทั้งหมด 14 รอยเลื่อน จากการศึกษาพบว่า ในอดีตรอยเลื่อนทั้งหมดเคยเกิดแผ่นดินไหวที่ความรุนแรงขนาด มากกว่า 6.0 แมกนิจูดมาแล้ว ดังนั้น 14 รอยเลื่อนในประเทศไทยจะมีโอกาส เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่มากกว่าขนาด 6.0 แมกนิจูดอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือและจังหวัดกาญจนบุรีที่อยู่ในแนวพาดผ่านของรอยเลื่อนมีพลัง ทางที่ดีเราควรเตรียมความพร้อมรับมือ

    ทีมข่าวสิ่งแวดล้อม มองว่า แม้ ณ วันนี้โอกาส เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในประเทศไทยจะเหมือนน้อยมาก แต่คงไม่มีนักวิเคราะห์คนใดสามารถ หยั่งรู้หรือคาดการณ์ได้ล่วงหน้าว่าแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่ไหน และรุนแรงมากน้อยเพียงใด

    เราจึงอยากขอฝากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้คือการเตรียมความพร้อมให้กับประชาชน ด้วยการให้ความรู้ชนิดครบวงจร ตั้งแต่พื้นที่ซึ่งเป็นจุดเสี่ยง การสังเกตสิ่งที่จะเป็นสัญญาณเตือนภัย การปฏิบัติตัวเพื่อรับมือทั้งก่อน ขณะที่เกิดและหลังเกิดแผ่นดินไหว
    ถึงเวลาแล้วที่คนไทยต้อง “รู้” เพื่ออยู่รอด!

    ทีมข่าวสิ่งแวดล้อม

    "รู้" เพื่ออยู่รอด! - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กลุ่มงานเลื่อนเงินเดือน สพร.สพฐ.

    [​IMG]

    [​IMG]

    ปรับค่าตอบแทนพนักงานราชการ(ปรับเพดานบัญชีและค่าตอบแทน) ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 2557 รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.ocsc.go.th/ocsc/th/files/GEIS/GES_Comp8th.pdf
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถอดบทเรียน 'ทีวีพูล' ดิจิตอลทีวี ทะยอยเจ๊ง!
    โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 26 พฤษภาคม 2558 21:53 น.

    [​IMG]

    ดิจิตอลทีวี เริ่มเป็นที่คุ้นหูคุ้นตาของผู้คนในสังคมไทยมากขึ้น ขณะที่การคาดการณ์ว่าดิจิตอลทีวีไปไม่รอด ถึงขั้นตีธงว่าขาดทุนย่อยยับก็ตกเป็นกระแสวิจารณ์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด กรณี ทีวิพูล ยื่นขอยกเลิกช่องดิจิตอลทีวี ไทยทีวี และ โลก้า(LOCO) ต่อทาง กสทช. กลายปรากฎหลักฐานโชว์หราว่าความคงอยู่ช่องดิจิตอลทีวีนั้นไม่ง่ายเลย

    'ทีวีพูล : 9 บทเรียนสื่อธุรกิจบันเทิง ในธุรกิจทีวีดิจิตอล' บทความโดย ธาม เชื้อสถาปนศิริ นักวิชาการ สถาบันวิชาการสื่อสาธารณะ (สวส.) ตีแผ่บทเรียนสำคัญของธุรกิจทีวีดิจิตอล เขาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Time Chuastapanasiri ความว่า

    “บทเรียนของทีวีดิจิตอลในมือเจ๊ติ๋ม แห่งทีวีพูลนั้น ดูจะไม่เกินคาด และก็เป็นไปตามการณ์ที่ควรจะเกิด คือ ยกเลิก ซึ่งก็ถือว่า เจ๊ติ๋ม ตัดสินใจถูกแล้วในทางธุรกิจ คือ เมื่อมันไปไม่รอด ก็ควรยกเลิก ทิ้งมันไป จะฝืนทำต่อไปก็มีแต่เจ็บตัว

    ผมขอแสดงความคิดเห็นยาวๆ ต่อการขอยกเลิกการดำเนินกิจการทีวีดิจิตอล ของ นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ประธานกรรมการบริหารบริษัทไทยทีวี จำกัด ที่เมื่อเช้านี้ ได้ทำจดหมายถึง กสทช. ว่า "ขอเลิกใบอนุญาต และการประกอบกิจการ"

    อ่านจดหมายดู ก็พบว่า เป็นกล่าวอ้างโทษ กสทช. เสียเป็นส่วนใหญ่ เช่นเรื่องการแจกคูปอง การขยายโครงข่าย และเรื่องสัญญาณที่ไม่มีประสิทธิภาพ - ก็เลยเป็นเหตุผลหลักๆ ให้กิจการโทรทัศน์ของตนเองขาดทุน ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และต้องขอยกเลิกในที่สุด

    ส่วนตัวผมคิดว่า "ไม่แฟร์" นะ เพราะช่องทีวีดิจิตอลรายอื่นๆ ก็ดำเนินงานธุรกิจไปได้ด้วยความเข้มแข็ง เช่นช่อง 7 ช่อง 3 ช่อง Workpoint หรืออย่างช่อง อัมรินทร์ เนชั่น ไทยรัฐ ก็ทยอยจ่ายค่างวดตามสัญญาทั้งๆ ที่อาจจะไม่ได้กำไรหรือขาดทุน

    เหตุผลที่ผมคิดว่า ช่องไทยทีวี และโลก้า ต้องยกเลิกกิจการอย่างแท้จริง คือ

    (1) การบริหารงานธุรกิจที่มอง และคาดการณ์ผิดพลาดมาตั้งแต่แรก โดยเฉาะการคิดประมูลใบอนุญาต การทำรายงานศึกษาทางการเงิน เม็ดเงินคาดการณ์ที่จะได้ และการคำนึงถึงโอกาส และความเสี่ยงของโครงข่าย สัญญาณ ตลาด เม็ดเงินที่จะไหลเข้าสู่ทีวีดิจิตอล และจำนวนผู้เล่นในตลาด ล้วนมีส่วนต่อการทำ "วิเคราะห์การเงิน" ทั้งสิ้น

    (2) สายป่านการเงินที่ไม่มาก ไม่ยาว ไม่ไกล เหมือนช่องอื่นๆ อย่าลืมว่า การลงทุนทีวีดิจิตอล เหมือนน้ำพริกละลายแม่น้ำ ทำรายการโทรทัศน์ออกอากาศไป ฉายไป ไม่มีคนดุ คือเอาของดีไปละลายแม่น้ำ ไม่เหมือนกับทำนิตยสาร สิ่งพิมพ์ ที่มีอายุขายสินค้ายาวนาน สามสี่วันหรือสัปดาห์

    รายการทีวีมีอายุสั้น ดังนั้น ต้องลงทุนสูง และมีสายป่านการเงินที่ยาว และหากไม่สามารถมีเงินทุนระยะคืนทุน คุ้มทุนได้ในช่วงที่ชี้เป็นชี้ตาย ก็ไม่ควรประมูลตั้งแต่แรก

    (3) คุณภาพรายการที่ไม่มีคุณภาพ ขายข่าวบันเทิง ละคร และรายการอื่นๆ ที่คุณภาพต่ำ
    ข้อนี้เป็นอีกเหตุผลหลัก เพราะทีวีพูลโตมาในสายข่าวบันเทิง ทำรายการแบบง่ายๆ มาแต่แรก (ข่าวบันเทิง ทำง่ายที่สุด โดยเฉพาะข่าวดารา บันเทิง ชิงรัก หักสวาท ไม่มีอะไรมาก เป็นแค่ข่าววูบวาบ ไม่มีคุณภาพที่ต้องลงทุนสูง มันขายได้ดีตอนเป็นแท็บลอยด์นิวส์ตามนิยตยสาร แต่พอทำรายการทีวี มันคนละเรื่องกัน)

    (4) งบประมาณในการลงทุนผลิตมีน้อย ไม่กล้าเสี่ยง บางครั้งใช้กล้องตัวเดียว ทำรายการงบประมาณต่ำ หน้าตารายการใหม่บางรายการ ดูเป็นรายการแบบมือสมัครเล่น

    ผมดูรายการของไทยทีวีหลายรายการ คุณภาพพอๆ กับเคเบิ้ลทีวีต่างจังหวัด หรือบางช่องทีวีดาวเทียมเท่านั้น ไม่เหมาะสมที่จะลงทุนประมูลใบอนุญาตแพงๆๆ เลย เพราะคุณภาพการผลิตนั้นยังไม่ถึงระดับประเทศ

    (5) ไม่มีดาราในสังกัด สังเกตจากรายการละคร บันเทิง ใช้ดาราใหม่ ดาราโนเนม
    ข้อนี้สำคัญ แต่ละช่องใหญ่ๆ อย่างช่อง 3 , 7 , rs, gmm, workpoint ต่างก็มีดาราในค่ายในสังกัด มีผู้จัดละครที่อยู่ในช่อง เสมือนคนป้อนงานรายการดีๆ ให้ แต่ทีวีพูลนั้นไม่มีเลย ทำข่าวดาราของช่องอื่นมาโดยตลอด

    (6) รายการเด็กมีแต่การ์ตูน ซื้อมาจากต่างประเทศ และมีรายการโฆษณาสินค้าและบริการที่ไม่เกี่ยวข้องกับเด็กในยามค่ำคืน ทำให้รายการเด็กดูไม่ปลอดภัย ดูเก่า เชย โบราณ และไม่มีคุณค่าพอสมกับรายการเด็ก

    พอพ่อแม่เปิดมาดู ก็อาจจะไม่อยากให้ลูกดู และก็อาจเปรียบเทียบกับรายการสาระประโยชน์ความรู้ช่องอื่นๆ ที่มีมาก่อน เช่นนั้นก็ทำให้รายการช่องโลก้า ดูแย่และขาดทุนหนักไปอีก เพราะโฆษณาก็ไม่เข้า แถมโฆษณาสินค้าที่มีเข้ารายการเด็ก ก็น้อยกว่าปกติอยู่แล้ว และที่เข้ามาก็เป็นสินค้าที่ไม่มีความเหมาะสมกับเด็ก

    (7) วางโพสิชั่นนิ่ง ของช่อง ที่ไม่ชัดเจนแต่แรก เช่นไม่รู้ว่า ลูกค้าคนดูคือใคร ฐานจำนวนมีเท่าไร และใครเป็นผู้ชมที่มีกำลังซื้อจริงๆ ทำให้วางโฆษณา แผนรายได้ไม่ชัด อีกทั้ง การวางโฆษณาในรายการทีวี อาจไม่เหมือนวางในสื่อสิ่งพิมพ์บันเทิง เพราะ มีมูลค่าสูงกว่า เสี่ยงกว่า ด้วยหากคนไม่ดู เรตติ้งต่ำ ก็จะเรียกโฆษณาได้น้อย ขณะที่ต้นทุนการทำรายการโทรทัศน์นั้นสูงพอๆ กันในทุกๆ ช่อง

    (8) เข้าใจผิดเรื่องทำธุรกิจทีวี ไม่ใช่เฉพาะภาพคมชัดเท่านั้น แต่ผู้คนให้ความสำคัญกับเนื้อหามากกว่าสิ่งอื่นๆ การไม่สามารถต่อยอดคอนเท้นต์ธุรกิจบันเทิงของตัวเองในสื่อทีวีได้ บ่งบอกว่า ทีวีพูลนั้นเป็นเพียงธุรกิจข่าวบันเทิง ที่หากินกับกระแสข่าวบันเทิง ของคนอื่นๆ มากกว่าที่จะลิตคอนเท้นต์ของตนเอง

    แตกต่างกับไทยรัฐ เดลินิวส์ เนชั่น อมรินทร์ ที่มีการผลิตคอนเท้นต์แท้ๆ ของตนเอง ผ่านธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ (คือ มีนักเขียน มีคนเขียน มีทีมงานข่าว มีช่างภาพ มีคอลัมนิสต์)

    ธุรกิจแท็บลอยด์บันเทิงของทีวีพูลเลยไปไม่รอด ไปไม่ได้ เพราะแก่นแท้ของธุรกิจนั้น มิได้เข้มแข็งมีคุณภาพมาแต่แรกอยู่แล้ว - ข่าวบันเทิงที่ขายความกระหายใคร่รู้ของประชาชน อาจมีค่าแค่หมึกเปื้อนกระดาษอ่านฆ่าเวลาเล่นตามสถานที่างๆ (และคนซื้อหนังสือบันเทิงข่าวดาราชาวบ้าน ก็ไม่มีใครอยากควักเงินซื้ออ่านเอง แต่อาศัยอ่านเล่นตามร้านค้า ร้านทำผม ตามตลาดนัดที่สาธารณะทั่วๆไป )ผู้ชมย่อมอยากใช้เวลาไปกับหน้าจอด้วยคอนเท้นต์ที่มีคุณภาพ หากเจ๊ติ๋ม ทำรายงานศึกษาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ทางธุรกิจ เอาจริงกับการศึกษา สำรวจผู้ชมและตลาดก่อนที่จะตัดสินใจประมูล ก็คงจะไม่จบลงด้วยภาวะขาดทุนเช่นนี้ และข้อสุดท้าย

    (9) จริยธรรมในการทำธุรกิจ ท่าที ความรู้ ความเข้าใจของเจ๊ติ๊มในธุรกิจทีวีดิจิตอล ที่ว่าจะขอยกเลิก หรือต่อไป หากขอไม่จ่ายค่างวด หรือ ค่าประกัน หรือค่าขอยกเลิก ที่เป็นข้อตกลงกับระเบียบ กสทช. หากทิ้งทีวีดิจิตอลไป พูดง่ายๆ หากเบี้ยว ชักดาบ หนี ไม่จ่าย ไม่มี ไม่หนี ก็แสดงว่ามันได้สะท้อน "วิธีคิด ทัศนคติ ความรู้ ความเข้าใจ จริต และจิตใจ" ของผู้บริหารทีวี ต่อการประกอบธุรกิจอย่างมีจริยธรรมและความรับผิดชอบ

    การทำธุรกิจ คือ ความเสี่ยงที่จะได้ทั้งกำไรและขาดทุน หากไม่ยอมรับกฎเกณฑ์ของธุรกิจแต่แรก ก็ไม่ควรลงมาทำธุรกิจนี้อีกต่อไป

    เผลอๆ ต่อไป ข่าวบันเทิงของดารา ก็อาจจะแยกค่าย แยกช่อง ของใครของมัน เพราะแต่ละช่องก็ย่อมมองแล้วว่า ข่าวฉาว ข่าวคาว ของดาราในสังกัด ก็ย่อมมีมูลค่าทางการตลาดขายความกระหายใคร่รู้ของผู้ชมได้ เมื่อถึงตอนนั้น ข่าวเช่นนี้ก็มีลิขสิทธิ์ของแต่ละช่อง ใครเลยอยากจะปล่อยให้ปรสิต ให้เหยี่ยวข่าวคาว ฉาว มาหากินกับความฉาวโฉ่ เรื่องลับๆ รัก ของดาราตนเองในสังกัด

    นี่พิสูจน์ชัดเจนว่า "ธุรกิจที่พึ่งพิง พึ่งพาเนื้อหาของสื่ออื่นๆ" พอมาทำทีวีมาทำคอนเท้นต์เป็นของตนเอง ด้วยตนเอง เพื่อตนเองนั้น มันไปไม่รอดสักราย

    สุดท้ายคิดว่า ผู้ประกอบการคงต้องจ่ายเงิน ตามที่กสทช. กำหนดนะครับ และกรณีการฟ้องร้องเอาผิด กสทช. ในฐานะทำให้ทีวีดิจิตอลเสียหายนั้น คงจะยาก เพราะก็มีทีวีดิจิตอลช่องอื่นๆ เช่น 3 หรือ 7 และค่ายอื่นๆ ที่มีกำไร และสามารถเอาตัวรอดทางธุรกิจได้ ก็อาจไม่ได้มาร่วมฟ้องร้อง กสทช. ไปด้วย เพราะเขาทำแล้วมีผลกำไร

    และแน่นอนว่าคงมีอีกหลายช่อง ที่คงต้องล้มเลิกและปิดกิจการตามไปในเร็ววัน
    และนั่นก็เป็นสิ่งที่คนในวงการทีวีมองเห็นตั้งแต่แรกแล้ว!
    รอดูกันต่อไปนะครับ
    อย่าลืมว่า การลงทุนในทีวีดิจิตอล คือการวัดว่าคุณมีคอนเท้นต์ที่มีคุณภาพขายได้หรือไม่ ด้วยตัวคุณเอง"

    ….....................



    http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9580000059908
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 27 พ.ค.58 ให้ทายว่าที่เห็นนี้ราคาเคยแพงขนาดไหน
    ที่เห็นเป็นเศษเหล็ก และซาเล้งยิ้มร่า นี่คือ "เครื่องบิน F16" พร้อมบรรดาจรวด และอาวุธ ประจำการที่แสนจะไฮเทค และแสนแพงมหาศาลหลายพันล้านบาท ของกองทัพซาอุฯ ที่ซื้อมาเพียบจากอเมริกา แล้วโดนทหารรัฐบาลฮูที ของเยเมน สอยตกด้วยอาวุธจรวด BUK จากรัสเซีย ราคาหลักหมื่นบาท
    จนร่วงหัวปักเป็นว่าวปั๊กเป้าทุกวัน เห็นเป็นเรื่องชินตาของชาวเยเมนไปแล้ว แต่สื่อใหญ่ๆ ตะวันตกแถว่า "เครื่องบินซาอุฯ เทียม , ตัวหนังสือข้างเครื่องก็เทียม" น้าน..เตลิดเปิดเปิงไปถึงขนาดเป็นของอิสราเอลไปโน่น...เฮ้อ เมื่อไรพวกมุขเทียมๆ นี่จะเลิกสักที
    นี่ยังไม่นับกองกำลังผสมของเยเมน บุกภาคพื้นดิน ข้ามพรมแดนซาอุฯ ไปลุยบรรดาหน่วยทหารชายแดน รถถังหรูๆ ไฮโซ จากอเมริกาแพงๆ โดยถล่มซะยับด้วยจรวด และปืนใหญ่ลูกละไม่กี่พันบาท ล่าสุดกองทหารซาอุฯ ที่เคยแต่ฝึกมาหลายปี แต่ไม่เคยมีประสบการณ์รบจริง
    และยังขาดขวัญกำลังใจอีกด้วย แตกทัพเผ่นอ้าวไปแล้วกว่า 10,000 นาย แนวชายแดนของซาอุฯ ตอนนี้ จุดยุทธศาสตร์สำคัญ โดนกองกำลังผสมเยเมน ตีแตกแทบหมดแล้ว แถมส่งทหารไปถ่ายเซลฟี และเช็คอิน โซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่ในบรรดาเมืองชายแดนของซาอุฯ ที่ถูกยึดได้หน้าตาเฉย
    นายพลจัตวาบัซซาม อะฏียะฮ โฆษกกระทรวงต่างประเทศซาอุฯ แถลงว่า กองกำลังของ IS กำลังพยายามที่จะสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนของซาอุฯ และแบ่งดินแดนซาอุฯ ออกเป็น 5 ประเทศ..ถ้าใครจำได้ที่เพจนี้บอกมานานกว่า 2 เดือนแล้ว อเมริกา กำลังจะแบ่งซาอุฯ ออกเป็น 5 ชาติ ตรงกับการข่าวของซาอุฯ ที่แถลงล่าสุด
    ลุ้นระทึก ว่าซาอุฯ จะยับยั้งกองกำลังผสมของเยเมน ที่เคยเอาชนะกองทัพซาอุฯ แบบเบ็ดเสร็จ มาแล้วในอดีต และจะต่อสู้กับการแทงข้างหลังจากอินทรีย์กระหายสงคราม ไปได้นานสักกี่น้ำ..!!
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Twarath Sutabutr ได้แชร์โพสต์ของ กฟผ. ฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้

    [​IMG]

    มีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของ กฟผ. ใคร่ขอตอบข้อสงสัยเป็นข้อๆดังนี้นะครับ
    1. ถาม : ทำไม สายส่งไฟฟ้าของ กฟผ.ต้องกำหนดเป็นเขตเดินสายไฟฟ้า (ของ กฟภ. ไม่เห็นต้องกำหนดเป็นเขตเดินสายไฟฟ้า)
    ตอบ : สายส่งไฟฟ้าของ กฟผ. ส่งไฟฟ้าเป็นระยะทางไกล ส่งไฟฟ้าจากแหล่งผลิตไปยังจังหวัดต่างๆ ต้องการความมั่นคงในการส่งไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยและป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน พร้อมกับป้องกันปัญหาไฟฟ้าขัดข้องจึงต้องกำหนดเป็นเขตเดินสายไฟฟ้า หากสายส่งไฟฟ้าของ กฟผ.ขัดข้องก็จะเกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง อาจจะดับทั้งจังหวัด หรือหลายจังหวัดได้ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจและประชาชนเดือดร้อนจำนวนมาก

    [​IMG]

    2. ถาม : เขตเดินสายไฟฟ้าของ กฟผ.มีความกว้างเท่าไหร่กันแน่ ทำไมแต่ละพื้นที่มีความกว้างไม่เท่ากัน
    ตอบ : ต้องยอมรับว่าแต่ละภาค แต่ละพื้นที่ กฟผ.กำหนดความกว้างเขตเดินสายไฟฟ้าไม่เท่ากัน ซึ่ง กฟผ.ไม่ได้เลือกปฏิบัติหรือลำเอียงแต่อย่างได โดยตาม พรบ.กฟผ. ได้ให้อำนาจ กฟผ.กำหนดเขตเดินสายไฟฟ้าได้ข้างละไม่เกิน 40 เมตร (จากกึ่งกลางแนวสายรวม 2 ข้าง 80 เมตร) แต่ กฟผ.ได้กำหนดเขตเดินสายไฟฟ้าแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากันโดยกำหนดตามความจำเป็นที่ใช้งานจริงๆ เพื่อมิให้เป็นการรอนสิทธิ์ประชาชนมากเกินไป เช่น แนวสายแรงดันไฟฟ้า 115 กิโลโวลต์ ถ้าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่นา ก็จะกำหนดเขตเดินสายไว้ข้างละ 12 เมตร หรือ 15 เมตร แต่ถ้าพื้นที่เป็นสวนยาง ก็จะกำหนดเขตเดินสายไว้ข้างละ 25 เมตร , แนวสายแรงดันไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ จะกำหนดเขตเดินสายไว้ข้างละ 20 เมตร หรือ 25 เมตร เป็นต้น สำหรับพื้นที่ในภาคใต้ แนวสายไฟฟ้า ส่วนใหญ่ ทั้ง 115 และ 230 กิโลโวลต์ จะกำหนดเขตเดินสายไว้ข้างละ 25 เมตร เพราะพื้นที่สวนใหญ่ผ่านป่าเขามีต้นไม้สูงและสวนยางพารา

    3. ถาม : แนวสายไฟฟ้าเดียวกัน ทำไมกำหนดเขตเดินสายไฟฟ้าไม่เท่ากัน
    ตอบ : ตามข้อ 2 ครับ กฟผ.ได้กำหนดเขตเดินสายไฟฟ้าแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากันโดยกำหนดตามความจำเป็นที่ใช้งานจริง เพื่อมิให้เป็นการรอนสิทธิ์ประชาชนมากเกินไป แต่ปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นจำนวนมาก เช่น เดิมเป็นที่นา แต่ปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนเป็นสวนยางพารา สวนสน สวนปาล์ม อีกทั้งยังมีการขยายตัวของเมืองและชุมชน มีการปรับเปลี่ยนจากที่นา เป็นอาคารพานิชย์ก็มี แต่ กฟผ.ก็มิได้ปรับเปลี่ยนความกว้างของแนวสายเพิ่มเติม เพื่อมิให้ประชาชนได้รับผลกระทบมากนัก (แต่หากมีความจำเป็นจริงๆ ก็จะปรับเปลี่ยนความกว้างของแนวสาย ซึ่งเกิดขึ้นน้อยมาก)

    4. ถาม : แนวสายไฟฟ้าทำไมต้องผ่านชุมชน บ้านเรือนของประชาชน
    ตอบ : การกำหนดเขตเดินสายไฟฟ้าของ กฟผ.ถูกได้กำหนดให้สั้นที่สุดเพื่อประหยัดงบประมาณในการลงทุนก่อสร้าง พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงชุมชน,บ้านเรือน,พื้นที่ป่าสมบูรณ์และสถานที่สำคัญอยู่แล้ว (การลงทุนที่สูงมากก็จะมีผลต่อค่ากระแสไฟฟ้าแปรผัน(ft)ที่สูงขึ้นด้วยนะครับ) แต่บางครั้งการกำหนดเขตเดินสายไฟฟ้าแนวสายใหม่ อาจจะถูกบ้านเรือนของประชาชนบ้างซึ่งเป็นส่วนน้อย ทั้งนี้ กฟผ.ก็จะจ่ายค่าทดแทนตามหลักเกณท์ต่อไป ส่วนแนวสายเดิมที่มีอยู่แล้วมีการขยายตัวของเมืองและชุมชนอย่างรวดเร็วเข้าไปยังแนวสายไฟฟ้า ซึ่งมองเหมือนกับว่าสายส่งไฟฟ้าพาดผ่านชุมชน หากมีการก่อสร้างอาคารต้องทราบระยะความกว้างเขตเดินสายไฟฟ้าด้วยนะครับ(สอบถามได้ที่หน่วยงานของ กฟผ.ในจังหวัดนั้นๆ) ถ้ารุกล้ำเขตเดินสายไฟฟ้า จะต้องถูกรื้อถอนออกไป จะเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ

    5. ถาม : กฟผ.มีหลักการจ่ายค่าทดแทนทรัพย์สินเขตเดินสายไฟฟ้าอย่างไร
    ตอบ : การกำหนดเขตเดินสายไฟฟ้าจะต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา และจะต้องมีการจ่ายเงินค่าทดแทนให้ผู้ครอบครองทรัพย์สินที่มีหลักฐานถูกต้องตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่กำหนด ตามราคาที่คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นได้กำหนดไว้ (คณะกรรมการจะประกอบด้วยตัวแทนภาครัฐ+ตัวแทน กฟผ.+ตัวแทนภาคประชาชน ซึ่งการกำหนดราคาจะอ้างอิงจากราคาประเมินและสภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้น) โดยจะจ่ายให้กับเจ้าของทรัพย์สินคนแรกครั้งแรกเพียงครั้งเดียว หากผู้ที่ได้ทรัพย์สินที่ถูกเขตเดินสายไฟฟ้า จากการให้ หรือจากการซื้อขาย จะไม่สามารถเรียกร้องค่าทดแทนได้อีก ดังนั้นการซื้อที่ดินต้องตรวจสอบพื้นที่จริงให้ดี เพราะเขตเดินสายไฟฟ้าไม่ได้ระบุไว้ในโฉนดที่ดินและไม่สามารถเรียกร้องค่าทดแทนได้อีก
    ค่าทดแทนที่ได้รับจะประกอบด้วย ค่าทดแทนทรัพย์สินพืชผลไม้ยืนต้นที่ถูกเขตเดินสายไฟฟ้า,ค่าทดแทนสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเขตเดินสายไฟฟ้า,ค่าทดแทนที่ดินที่ถูกรอนสิทธิ์และค่าทดแทนพืชผลที่เสียหายระหว่างการก่อสร้างสายส่ง
    ส่วนการประกาศยกเลิกเขตเดินสายไฟฟ้า ก็จะต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาเช่นกัน ซึ่งเมื่อประกาศยกเลิกแล้ว เจ้าของที่ดินก็จะใช้ที่ดินได้เต็มสิทธิ์อีกครั้ง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    6. ถาม : ในเขตเดินสายไฟฟ้ามีข้อห้ามและให้ทำอะไรได้บ้าง
    ตอบ : ข้อ 1 ข้อห้าม
    1.1 ห้าม นำวัสดุ อุปกรณ์ หรือ เครื่องจักรกล เช่น รถเครน รถยก รถตัก รถขุด เข้าใกล้สายส่งไฟฟ้าแรงสูง ในระยะน้อยกว่า 4 เมตร ซึ่งจะทำให้ไม่ปลอดภัยอาจได้รับอันตรายจากไฟฟ้า จะทำให้เกิดไฟฟ้าดับและสายส่งได้รับความเสียหายได้
    1.2 ห้ามปลูกสร้างอาคารบ้านเรือน โรงเรือน หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ทุกชนิดรุกล้ำในเขตเดินสายส่งไฟฟ้า เพราะอาจได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้าได้
    1.3 ห้ามปลูกต้นไม้ยืนต้น ที่เมื่อโตเต็มที่แล้วมีตวามสูงเกิน 3 เมตร รุกล้ำในเขตเดินสายไฟฟ้า หากมีลมกรรโชคจะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรผ่านทางต้นไม้ เกิดไฟฟ้าดับ และเจ้าของอาจจะได้รับอันตราย ดังนั้นต้นไม้หรือพืชผลที่ปลูกขึ้นโดยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือไม่ได้รับ อนุญาต กฟผ. จะต้องรื้อถอน ตัดฟันตามควรแก่กรณี โดยไม่จ่ายค่าทดแทน
    1.4 ห้ามปลูกอ้อยในสายส่งแรงดัน 500 เควี เพราะเมื่อมีการเผาอ้อยควันไฟจะมีความชื้นสูงทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร เกิดไฟฟ้าดับได้
    1.5 ห้ามถอดชิ้นส่วนเสาโครงเหล็ก จะทำให้เสาส่งไฟฟ้า ขาดความมั่นคงแข็งแรง และล้มได้ และจะมีความผิดทางอาญาอีกด้วย
    1.6 ห้ามก่อสร้างถนนใกล้เสาไฟฟ้า หากเกิดอุบัติเหตุอาจจะทำให้เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหายได้
    1.7 ห้ามจุดไฟเผาอ้อย,เผาหญ้า,ป่าพง ในเขตเดินสายไฟฟ้า เพราะควันไฟจะมีความชื้นสูงทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร เกิดไฟฟ้าดับได้
    1.8 ห้ามติดตั้งป้าโฆษณา ในเขตเดินสายไฟฟ้า เพราะอาจได้รับอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจร อาจโค่นล้มถูกสายไฟฟ้าเกิดไฟฟ้าดับได้
    1.9 ห้ามเล่นว่าวใกล้สายไฟฟ้า เพราะอาจได้รับอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรได้
    1.10 ห้ามขุดดิน, ขุดสระ ถมดิน หรือกองวัสดุที่มีความสูง ในเขตเดินสายส่งไฟฟ้า ก่อนได้รับอนุญาต จาก กฟผ.
    1.11 ห้ามยิงนกหรือใช้อุปกรณ์ระบบส่งเป็นเป้าลองปืน เพราะจะทำให้อุปกรณ์สายส่งชำรุดและระบบควบคุมการจ่ายไฟฟ้าขัดข้อง
    ข้อ 2. ให้ดำเนินการได้แต่ต้องขออนุญาตก่อนดำเนินการ
    2.1 การขุดดิน, ขุดบ่อ หรือถมดิน กองวัสดุที่มีความสูง ในเขตเดินสายส่งไฟฟ้า ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก กฟผ. ก่อนดำเนินการ
    2.2 การทำถนนผ่านเขตเดินสายส่งไฟฟ้า ต้องห่างจากเสาไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 10 เมตร ต้องขออนุอนุญาตจาก กฟผ.
    2.3 การทำแปลงเพาะชำกล้ายางพารา,กล้าไม้ต่างๆ ต้องได้รับอนุญาตจาก กฟผ. ก่อนดำเนินการ (ทั้งนี้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ กฟผ. ได้แจ้งข้อกำหนดต่างๆด้านความปลอดภัยให้กับผู้ดำเนินการ หากดำเนินการผิดเงื่อนไข อาจเกิดอุบัติเหตุได้รับอันตรายได้ การขออนุญาตไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ)
    ข้อ 3.ดำเนินการได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
    การปลูกพืชล้มลุก และธัญญชาติ ในเขตเดินสายไฟฟ้า ดำเนินการได้โดย ไม่ต้องขออนุญาต ทั้งนี้ต้องเว้นพื้นที่ รอบโคนเสาไว้ เพื่อให้ กฟผ.เข้าซ่อมบำรุงรักษาเสาไฟฟ้าได้
    อนึ่ง กฟผ.ได้ผ่อนปรนเงื่อนไขข้อห้ามในเขตเดินสายไฟฟ้าเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ ในเขตเดินสายได้มากขึ้น โปรดสอบถามหรือมีข้อสงสัย ติดต่อได้ที่ หน่วยบำรุงรักษาสายส่งในพื้นที่จังหวัดนั้นๆ หรือ ติดต่อแผนกประชาสัมพันธ์ ฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ โทร 075-635005

    7. ถาม : ถ้ามีสิ่งรุกล้ำ กฟผ.จัดการอย่างไร
    ตอบ : หากมีการตรวจพบสิ่งรุกล้ำ กฟผ.มีจะเจรจาให้รื้อย้ายออกไป การรื้อย้ายจะใช้หลักการเจรจาและการประณีประนอมเป็นหลัก แจ้งให้เจ้าของสิ่งรุกล้ำได้ถึงทราบหลักเกณฑ์ ผลกระทบและอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น ให้เจ้าของยินยอม และลงนามในหนังสือที่ กฟผ.แจ้งรื้อถอน กฟผ.ก็จะทำการรื้อถอนต่อไป แต่หากเจ้าของไม่ยินยอม ก็จะให้หน่วยงานด้านกฎหมาย ดำเนินการฟ้องร้องต่อศาลต่อไป กฟผ.ไม่ต้องการให้เกิดการฟ้องร้องขึ้น เพราะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเจ้าของทรัพย์สินเป็นผู้จ่ายเองทั้งหมด

    ** กฟผ.ฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ ขอฝากประชาสัมพันธ์ต่อๆไปด้วยครับ **
     

แชร์หน้านี้

Loading...