ติดตามสถานะการณ์

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 23 พ.ค.58 พม่าย้อนเกล็ดอเมริกา จับผู้อพยพทางเรือขังลืม
หลังจากพม่า ถูกอเมริกา และ UN รวมทั้งเครือข่าย NGO ทุนอิลลูมินาติ บ่นอย่างหนักที่ไม่ดำเนินความพยายามมากพอในการช่วยเหลือผู้อพยพชาวโรฮินจา บนเรือที่ลอยลำอยู่กลางทะเล ล่าสุดทางการพม่าได้ย้อนเกล้ดอย่างแสบ โดยอ้างว่าได้ช่วยเหลือผู้อพยพกว่า 200 คน
บนเรือ 2 ลำจากบริเวณน่านน้ำของบังกลาเทศ ใกล้กับรัฐยะไข่ขึ้นฝั่ง ส่วนใหญ่เป็นชาวโรฮิงญาที่หลบหนีออกจากพม่า บางส่วนจากบังกลาเทศ
------------------------------------->
ดูเผินๆ เหมือนพม่าจะช่วย แต่หารู้ไม่ พม่าจะจับพวกนี้ขึ้นฝั่ง ในข้อหาเข้าเมืองผิดกฎหมาย และไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระไปอีกนานแสนนาน เพราะคุกของพม่านั้นแสนจะโหด และน่าสยอง
เมื่ออเมริกา และ UN กดดันพม่าให้ช่วยผู้อพยพทางเรือ ที่กำลังหนีออกจากแผ่นดินพม่าไปออกทะเล แล้วทางการพม่าก็ช่วยผู้อพเหล่านั้นจากทะเล ขึ้นเรือกลับมาอยู่บนแผ่นดินพม่าดังเดิมในคุกแล้วไง จะโดยวายเอาอะไรอีก..
สรุป..ผู้อพยพไม่ได้ไปไหนเลย อยู่ที่เดิม และถูกลงโทษฐานหลบหนีเข้าเมือง ไม่ยอมปล่อยตัวอีกนานด้วย..ย้อนเกร็ดได้แสบ !!
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

Jeerachart Jongsomchai


·
... "ฟินแลนด์ : ส่งจดหมายให้กองกำลังสำรอง 900,000 คนเตรียมพร้อมรับสภาวะสงครามกับรัสเซีย"
... นอกจากยูเครนที่มีพรมแดนติดต่อกับรัสเซียยาวที่สุดแล้ว ฟินแลนด์เป็นประเทศที่มีพรมแดนยาวที่สุดกับรัสเซียถึง 830 ไมล์ โดยทางการได้ประกาศและส่งจดหมายให้กองกำลังสำรอง 900,000 คน เตรียมพร้อมกับสภาวะสงคราม ที่อาจมาจากผลกระทบของความตึงเครียดกับรัสเซีย
... เพราะข่าวการที่รัสเซียงาบกินแหลมไครเมียของยูเครนไปนิ่มๆเหมือนปอกกล้วยเข้าปากนั้นประเทศอื่นอาจจะเฉยๆ ไม่ร้อนตัว แต่ฟินแลนด์กลับขนลุกไปทั่วประเทศเพราะในอดีตเคยโดนหมีขย้ำมานานร้อยกว่าปี
... แม้ว่าฟินแลนด์จะไม่ใช่สมาชิกของกลุ่มนาโต้ลูกน้องของอเมริกา แต่ฟินแลนด์เองก็ไม่ชอบขี้หน้าเพื่อนบ้านอย่างรัสเซียสักเท่าไหร่ จึงพอใจที่จะให้อำนาจอย่างอเมริกาหรือนาโต้มาถ่วงดุลอำนาจหมีขาวไว้บ้าง
... ในสมัยโบราณฟินแลนด์เคยเป็นส่วนหนึ่งของสวีเดนมาเป็นร้อยปีก่อนจะถูกรัสเซียที่เริ่มค่อยๆใหญ่โตบุกครอบครองเอาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในที่สุดในปี 1809 จากนั้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 รัสเซียที่อ่อนแอลงก็ทำให้ฟินแลนด์ถือโอกาศดีดตัวออกมาเป็นเอกราช แต่ก็แค่ชั่วคราว เพราะไม่นานรัสเซียก็ตามตีเอามาคืนในที่สุดในปี 1939 สู้กันนานกว่าจะได้เอกราชมาเสียชีวิตกันเป็นแสนคน ...
ช่วงสงครามเย็นฟินแลนด์พยายามวางตัวเป็นกลางไม่เข้าข้างทั้งอเมริกาและรัสเซีย (ลึกๆแล้วรัสเซียคุมอยู่)เพื่อไม่อยากสร้างศัตรูจากมหาอำนาจทั้งสองฝ่าย ด้วยเหตุนี้ฟินแลนด์จึงไม่เข้าเป็นสมาชิกนาโต้ เพราะเกรงใจรัสเซีย แม้แต่การเลือกตั้งในประเทศบางครั้งเองยังเกรงใจหมีขาวเลย
... ช่วงปี 2013 ทางการฟินแลนด์ได้มีการเปิดเผยว่า "จีน" และ "รัสเซีย" ได้แอบส่งสายลับเพื่อมาสืบดูความสัมพันธ์ระหว่างฟินแลนด์กับสหภาพยุโรป เพราะเกรงว่าฟินแลนด์อาจจะเอียงข้างไปทางนั่นมากขึ้น ซึ่งก็จริงจนถึงวันนี้ความจริงก็เปิดตัวออกมาแล้วว่าฟินแลนด์สนิทสนมกันอียูมากขั้นเรื่อยๆ โดยล่าสุดได้มีการร่วมมือทางการทหารกับกลุ่มประเทศนอร์ดิก
... ตอนนี้ทางการฟินแลนด์แสดงตัวชัดเจนว่าเอียงข้างไปทางอเมริกาและอียูชัดเจน จนประกาศเตรียมตัวให้กองกำลังสำรองเตรียมตัวรับสงครามแล้ว ประมาณ 900,000 คน ดังกล่าวเพราะช่วงหลังมีเรือดำน้ำรัสเซียมาป่วนเปี้ยนบ่อยๆขณะที่ลูกพี่เก่าสมัยโบราณอย่าง "สวีเดน" ที่เหม็นขี้หน้ารัสเซียมานานก็เริ่มจะมีการเคลื่อนย้ายพลทหารครั้งใหญ่นับจากสงครามเย็นเป็นต้นมาแสดงว่าเตรียมการรับสงครามครั้งใหญ่ที่จะมาถึง
... กองทหารฟินแลนด์มีขนาดเล็กมากแค่ 16,000 คนจึงต้องเรียกกองกำลังสำรองทั่วประเทศรวมทั้งที่อยู่ต่างประเทศด้วย ซึ่งไม่บ่อยเลยที่มีการเรียกเตรียมพร้อมแบบใหญ่โตเอิกเริกแบบนี้ มีกองกำลังสำรองคนหนึ่งบอกว่า เขาเป็นกองกำลังสำรองมานาน 15 ปี เพิ่งจะถูกจดหมายเรียกระดมพลครั้งนี้เป็นครั้งแรก แสดงว่าศึกครั้งนี้มีแววว่าจะไม่ธรรมดา
... กลิ่นสงครามโชยมาแต่ไกล เริ่มขยายโชยกลิ่นไปถึงสแกนดิเนเวียแล้ว อีกไม่นานก็คงจะมาถึงเอเชีย เตรียมตัวกันหรือยังคนเอเชีย อย่านิ่งนอนใจกระดิกเท้าสบายใจ สงครามบางครั้งเริ่มแทรกซึมมาในหลายรูปแบบที่เราก็เข็มขัดสั้นและคาดไม่ถึง อีกไม่นานเกินรอ
...
http://en.m.wikipedia.org/…/Finland–Russia_relations
http://www.telegraph.co.uk/…/Finland-tells-900000-reservist…

 

Thanong Fanclub



11. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
ผู้นำของระบบการเงินโลก ไม่ว่าChristine Lagardeกรรมการผู้จัดการใหญ่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ นายMark Carney ผู้ว่าธนาคารกลางอังกฤษ หรือนายStanley Fisher รองประธานธนาคารกลางสหรัฐต่างได้ออกมาเตือนเมื่อปีที่แล้วถึงความจำเป็นของการปรับโครงสร้างหนี้โลก เพราะว่าวิกฤติหนี้กำลังจะแบกไม่ไหวกันอยู่แล้ว
ในงานWorld Economic Forum ปี2014 Christine Lagardeกรรมการผู้จัดการของIMFบอกถึงความจำเป็นในการรีเซ็ทระบบโลกในหลายๆส่วน โดยที่เธอไม่ได้แตะปัญหาที่แท้จริงคือระบบแบงค์ที่ล้มละลายแล้ว ซึ่งเป็นต้นตอของปัญหาทั้งมวล แต่คำพูดรีเซ็ทของเธอสร้างความตกใจให้ผู้คนพอสมควร เพราะว่ารีเซ็ทแปลว่าการกดปุ่มล้างระบบเพื่อเริ่มต้นล้างระบบการเงินเพื่อนับหนึ่งใหม่ เหมือนคอมพิวเตอร์แฮ้งค์ต้องรีเซ็ทเพื่อบุ๊ทเครื่องใหม่
Lagardeบอกว่าจำเป็นต้องรีเซ็ท4ส่วนคือ:
1. การตรวจสอบและกำกับสถาบันการสถาบันการเงิน เพื่อให้ฝ่ายตรวจสอบสามารถตอบสนองกับความคิดสร้างสรรของนวัตกรรมทางการเงินใหม่ๆได้ (อนุพันธ์ไม่สร้างความเสี่ยงให้ระบบการเงินมากพอแล้วหรือไง)
2. ธนาคารกลางของประเทศที่พัฒนาแล้วได้ใช้นโยบายการเงินที่แหวกแนวในการกอบกู้เศรษฐกิจและการเงินผ่านการพิมพ์เงินQE หลังจากนี้อาจจะต้องเลิกQEกลับไปใช้นโยบายเดิม (แล้วตลาดการเงินและระบบเศรษฐกิจที่เป็นฟองสบู่กับQEมาแล้ว จะตอบสนองอย่างไร?)
3. ต้องรีเซ็ทการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ประเทศต่างๆจำต้องหันมามีวินัยการคลัง (หลังจากสร้างหนี้มานานจนระดับหนี้สูง ไปต่อไม่ไหว)
4. รีเซ็ทระบบโครงสร้างทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศที่กำลังพัฒนาเพื่อว่าจะได้มีการเจริญเติบโตที่ยั่งยืน เพราะว่าโลกเรากำลังโตต่ำกว่าศักยภาพ (เธอเชื่อว่าการเติบโตเศรษฐกิจโลกยังไปได้อีก ไปด้เรื่อยๆ ไม่มีเพดาน)
มองดูเผินๆ Lagarde อาจจะไม่ได้พูดอะไรที่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายมาก แต่คำว่ารีเซ็ทที่เธอใช้มันซ่อนเงื่อนอะไรอยู่อย่างแน่นอน และไพ่ที่เธอซ่อนเอาไว้ คือการยึดเงินฝากประชาชนเพื่อที่จะมาอุ้มแบงค์ อย่าลืมIMFเป็นตัวแทนของธนาคารยักษ์ในโลกตะวันตก ทั้งMark Carneyผู้ว่าBank of England Sและ Stanley Fisher รองประธานของUS Federal Reserveมีการรับลูกสิ่งที่Lagardeได้พูดเคยไว้เกี่ยวกับการล้างหนี้
Mark Carney ผู้ว่าBank of Englandเป็นผู้ทำรายงานการจัดการ”แบงค์ที่ใหญ่เกินไปที่จะปล่อยให้ล้ม”เสนอที่ประชุมสุดยอดของกลุ่มG-20ที่มีขึ้นที่เมืองBrisbane, Australia ในเดือนพฤศจิการยน 2014 ประเด็นคือเมื่อเกิดวิกฤติการเงินอีกรอบ แบงค์ยักษ์อย่างเช่นCitigroup, Barclays and BNP Paribas จะออกบอนด์มหาศาลได้อย่างไร เพื่อเพิ่มทุนตัวเอง และประการที่สองอาจจะต้องมีการยึดเงินฝากประชาชนมาเพิ่มทุนแบงค์เหมือนอย่างที่ไซปรัสได้ทำมาแล้วเป็นตัวอย่าง
แต่กลุ่มประเทศG-20มีกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติหรือธรรมเนียมไม่เหมือนกัน การที่จะใช้สูตรเดียวในการจัดการกับแบงค์ยักษ์เวลาเกิดวิกฤติการเงินอีกรอบจะไม่เหมือนกัน
ประเทศที่มีความเสี่ยงว่าแบงค์จะทำการbail-inยึดเงินฝากประชาชนในวิกฤติการเงินรอบใหม่ที่กำลังจะมาคือ กรีซ โปรตุเกส เสปน อิตาลี ฝรั่งเศส ไอร์แลนด์ อังกฤษ สหรัฐฯ และญี่ปุ่น
Stanley FisherรองประธานของUS Federal Reserveพูดที่กรุงสต๊อกโฮล์มเมื่อเร็วๆนี้ว่า อาจจำต้องใช้วิธีการอุ้มแบงค์ผ่านมากการbail-in ในที่นี้การbail-inคือการเอาเงินฝากประชาชนมาอุ้มฐานะการเงินที่ล้มละลายของแบงค์เนื่องจากปล่อยกู้แล้วหนี้เสียมาก หรือไม่ก็เล่นธุรกรรมการเงินที่สุ่มเสี่ยงจนเจ้ง
Fisherบอกว่า สหรัฐฯกำลังเตรียมมาตรการเพื่อให้แบงค์ที่มีความสำคัญต่อระบบการเงินสหรัฐฯสามารถที่จะออกหนี้ระยะยาว เพื่ออุ้มตัวเองด้วยการเพิ่มทุนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล Fisherไม่ได้พูดชัดลงรายละเอียด แต่พอจะเดาเอาได้ว่า แบงค์จะยึดเงินฝากประชาชนเอาไว้ และออกหนี้ให้ประชาชนถือแทน เพราะเงินฝากประชาชนจะกลายเป็นทุนที่แบงค์จะใช้ในการเพิ่มทุน
พูดง่ายๆ ฝากเงินกับแบงค์ในสหรัฐฯก็เตรียมตัวจูบลาเงินของตัวเองได้แล้ว เพราะคำพูดของFisherแสดงนัยว่าวิกฤติการเงินรอบใหม่ของสหรัฐฯกำลังจะมา และเมื่อมันมา เงินในระบบจะไม่พอดูแลผู้ฝากเงินทุกคน
ส่วนประเทศที่แบงค์ยังคงพอจะปลอดภัยไม่ยึดเงินฝากประชาชนคือ สวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ เยอรมัน แคนาดา ออสเตรเลีย นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ฮ่องกง
ถือว่าผู้นำโลกเหล่านี้ออกมาส่งสัญญานเตือนภัยก่อนที่เราจะเข้าสู่ปีเสียงแตร Year of Jubileeที่จะมีการปรับโครงสร้างหนี้ ยกเลิกหนี้ เบี้ยวหนี้แล้วแต่ว่ากันไป แต่เป้าหมายหลักของพวกนี้ คือจะอุ้มแบงค์ในเครือของตัวเอง เพื่อที่จะครอบงำระบบการเงินโลกต่อไปหรือไม่ อย่างไร
thanong
22/5/2015

 

Thanong Fanclub



12. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
ในปี2013 ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศออกรายงานชื่อว่า Fiscal Monitor: Taxing Times รายแบไต๋ออกมาแล้วว่า วิธีที่จะแก้ไขปัญหาวิกฤติการเงินของโลกตะวันตกคือต้องเก็บภาษีเงินฝากของประชาชน
นิตยสารForbesถึงกับพาดหัวข่าวว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศกำลังวางแผนที่จะยึดเงินฝากทั้งโลก (global wealth confiscation)
การเก็บภาษีฟังดูแล้วสวย แต่จริงๆแล้วเป็นการยึดเงินฝากของประชาชนเหมือนที่ไซปรัสทำ และประเทศวิกฤติอื่นๆกำลังจะเจริญรอยตาม การยึดเงินฝากประชาชนภาษาอังกฤษเรียกว่า bail in เพราะว่าหนี้ของโลกตะวันตกไปต่อไม่ไหว ยุโรป สหรัฐฯและญี่ปุ่นมีหนี้เฉลี่ย110%ต่อจีดีพี เพิ่มขึ้นถึง35% จากปี2007 ถ้าปล่อยไปแบบนี้เรื่อยๆ หนี้จะเพิ่มไม่มีที่สิ้นสุดและจะทำให้เกิดวิกฤติหนักพังกันไปทั้งระบบ
ในปี2011 ทางBoston Consulting Groupได้ทำการศึกษาและลงลึกไปถึงการ bail in ทั้งยุโรป สหรัฐฯ และอังกฤษ เพื่อเซฟระบบการเงินคือต้องเก็บภาษีคนรวยและคนชั้นกลาง เพื่อไม่ให้ระบบการเงินของประเทศล้มระเนระนาด เพราะว่าหนี้ยุโรปมากเหลือเกิน รัฐฯจำต้องเอาเงินภาษีที่ยึดมา เพื่อประคองฐานะการคลังของประเทศ ส่วนหนึ่งอาจจะไปดูแลแบงค์ที่ยังพอจะไปได้
คำนวนออกมาแล้วว่า ถ้าสามารถล้างหนี้$21ล้านล้านของครัวเรือน บริษัทและรัฐบาลของโลกตะวันตกได้ จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่พวกที่รวยเงินฝาก รวยหุ้นหรือสินทรัพย์ทางการเงินจะโดนbail in จนอ่วมอรทัย
คนอเมริกันมีทรัพย์สินทางการเงินรวม$43.13ล้านล้าน ถ้าหักมาได้$11.21ล้านล้านเพื่อbail inจะเทียบเท่ากับ26%; คนอียูมีสินทรัพย์ทางการเงิน รวม$24.49ล้านล้าน หักเป็นภาษีมา$8.32ล้านล้าน จะเทียบเท่า34%; ส่วนคนอังกฤษมีทรัพย์สินทางการเงิน$6.31ล้านล้าน หักภาษีมา$1.70ล้านล้าน หรือ27% จะช่วยในการbail inระบบ
รวมกันแล้ว ซุปเปอร์ภาษีจากการbail in รวมกัน$21.24ล้านล้าน หรือ28.7%จากทรัพย์สินทางการเงินทั้งหมด พอที่จะล้างหนี้ภาคครัวเรือน บริษัทและรัฐบาลของสหรัฐฯ อียูและอังกฤษ เพื่อที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ภายใต้กรอบเดิมๆ
การรีเซ็ทที่แท้จริงที่อยู่ในใจของLagardeคือbail inระบบการเงินโลก หรือการยึดเงินฝากหรือเงินบำนาญของประชาชนเพื่อเอาเงินมาอุ้มแบงค์ ให้แบงค์เดินหน้าต่อไปได้ และจะยังคงมีทุนเพื่อที่จะดูแลอำนาจทางการเมืองและระเบียบโลกปัจจุบันอีกต่อไป
คำถามคือ IMF จะหักคอรัฐบาลต่างๆเมื่อใด เพื่อให้ยึดเงินฝากประชาชนมาอุ้มแบงค์ในวันอาถรรพ์หมายเลข7ที่เธอส่งสัญญานมาแล้วหรือไม่ตั้งแต่ต้นปี
Martin Armstrong แห่งArmstrong Economics ทนไม่ไหวออกมาเขียนรายงานบอกว่าChristine Lagardeเป็นผู้หญิงที่อันตรายทีสุดในโลก Expropriation Is Back – Is Christine Lagarde The Most Dangerous Woman In The World? เพราะว่าเธอเป็นตัวแทนของอำนาจใหญ่ล้นฟ้าที่สามารถกำหนดนโยบายที่ชี้ความเป็นความตายทางการเงิน หรือยึดเงินของประชาชนโดยทั่วไปได้
IMF ได้เสนอ 1. Super Tax 10%ในยุโรป คือเก็บภาษีเงินฝากประชาชนทั้งระบบ10%เพื่อเอาเงินมาอุ้มแบงค์ยุโรป และรักษาสถานภาพเดิมของพวกแบงค์
และ2. IMFเสนอให้เอาเงินบำนาญและเงินประกันภัยของประชาชนเพื่อมาลดหนี้ภาครัฐในสหรัฐฯอเมริกา
สิ่งที่IMFของLagardeเสนอมันรุนแรงกว่ากฎอัยการศึกบ้าน หรือม. 44ของบ้านเราเสียอีก เพราะว่าอยู่ดีๆ ประชาชนตื่นขึ้นมาเงินฝากที่เก็มมาชั่วชีวิตหายไป10% หรือเงินบำนาญ และเงินประกันภัยที่จะใช้ประโยชน์ยามแก่โดนยึดไส่วนหนึ่งเพื่อที่จะมาอุ้มการเงินของรัฐบาลที่เจ้งแล้วทางการคลัง
การเตรียมการยกหนี้ ยึดทรัพย์ ยึดเงินฝากประชาชนสำหรับปีแห่งเสียงแตรมีมานานแล้ว เพราะฉะนั้นเวลามันมาถึงอย่างกระทันหันก็ไม่ต้องตกอกตกใจนะจ๊ะ
thanong
22/5/2015
http://www.forbes.com/…/the-international-monetary-fund-la…/

 

Thanong Fanclub



13. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
ในขณะที่วิกฤติการเงินโลกกำลังดิ่งเหวหลังการล่มสลายของWall Streetในปี2008 ในวันที่7 กรกฎาคม 2009 โป๊ปเบเนดิกท์ได้เขียนเอกสารเพื่อแสดงจุดยืนของวาติกัน โป๊ปเบเนดิกท์ระบุว่าการถดถอยทั่วโลกเกิดจากความตะกละตะกลาม และความลุ่มหลงโดยไม่มีศ๊ลธรรมในความก้าวหน้าของเทคโนโลยี่
แต่ที่สำคัญที่สุดโป๊ปเบเนดิกท์กล่าวว่า ต้องแก้ปัญหาด้วยการสร้างอำนาจทางการเมืองของโลกใหม่ (a global political authority) และระเบียบการเงินโลกใหม่ (financial order) ที่ไม่ได้มุ่งแสวงหากำไรอย่างเดียว แต่อยู่บนพื้นฐานของจริยธรรม และสำนึกของผลประโยชน์ของส่วนรวมที่ดี
ข้อเขียนของโป๊ปเบเนดิกท์มีความยาว144หน้า เป็นเอกสารเกี่ยวกับปัญหาของโลกและทางออก โป๊ปเขียนรายงานนี้3วันก่อนที่จะพบกับโอบามาเพื่อถกการแก้ปัญหาวิกฤติของโลก
จะเห็นได้ว่าโรมสนับสนุนรัฐบาลโลก เพราะว่าคำว่าa global political authorityแสดงนัยถึงอำนาจเด็ดขาดขององค์การสหประชาชาติที่จำต้องมีอำนาจทางการเมืองมากยิ่งขึ้นเพื่อที่จะดูแลทุกประเทศในโลกภายใต้กรอบอันเดียว ต่อไปไม่จำเป็นต้องมีรัฐบาลของแต่ละประเทศแล้ว เพราะว่ายูเอ็นจะเป็นรัฐบาลโลก One World Governmentดูแลทุกอย่างเอง
ข้อเสนอที่สำคัญอีกเรื่องของโรมคือระเบียบการเงินโลกใหม่ new financial order แสดงนัยว่าอำนาจทางการดูแลการเงินโลกต้องอยู่ในมือของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือIMF ที่จะทำหน้าที่เป็นธนาคารกลางโลก OPne World Central Bank โดยมีเงินspecial drawing rights หรือSDRเป็นเงินสกุลหลักของโลก
เงินบาท เงินกีบหรือเงินจ๊าดต่อไปไม่ต้องมี เพราะว่าโรมเตรียมการให้เราใช้เงินSDRแล้ว
ประเด็นคือหยวนหรือรูเบิ้ลจะยอมหรือ?
จะสร้างยูเอ็นให้เป็นรัฐบาลโลกได้ต้องทำลายโลกให้ทุกประเทศอ่อนแอ หรือทำสงคราม จะสร้างให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศให้เป็นธนาคารกลางของโลกได้ ต้องทำลายระบบการเงินหรือแม้แต่ดอลล่าร์
แผนการทุกอย่างนำไปสู่ปีเสียงแตร Year of Jubilee เพื่อครอบงำโลกอย่างเบ็ดเสร็จได้มีการเตรียมการมานานแล้ว เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ใหญ่ๆทุกเหตุการณ์บนโลกนี้เกิดขึ้นโดยการวางแผนหรือจงใจให้มันเกิด ไม่มีเรื่องบังเอิญ
โรมแย้มไพ่ให้ดูเป็นระยะๆ คนไทยที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติ กฎอัยการศึก หรือม.44 ให้มองออกไปข้างนอกก็แล้วกันว่าเรากำลังจะเจออะไร มัวลุ่มหลงในลัทธิประชาธิปไตยโดยหารู้ไม่ว่าความเป็นประเทศไทยจะรักษาได้หรือไม่ต่อไปภายใต้รัฐบาลโลกเดียว ธนาคารกลางโลกเดียว และศาสนาโลกเดียว
thanong
22/5/2015
http://www.theguardian.com/…/pope-new-political-financial-o…

 

Thanong Fanclub



14. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
ช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ น่าจะเป็นการชี้ชะตาระบบการเงินโลก เพราะว่าจีนจะเปิดเผยตัวเลขทองคำสำรองว่ามีเท่าใดตามข้อเรียกร้องของทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ จีนน่าจะช๊อคตลาดด้วยทองคำสำรองมหาศาลเพียงพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นในค่าเงินหยวนที่จะใช้ทองคำหนุนหลังค่าเงิน สร้างความแตกต่างกับดอลล่าร์ที่พิมพ์ออกมาเป็นเงินกระดาษเปล่าๆ
แต่จีนอาจจะเปิดเผยตัวเลขทองคำสำรองในเดือนกันยายนก่อนก็ได้ เพื่อให้สอดคล้องกับปีเสียงแตร Year of Jubileeไปเลย
จีนกำลังสมัครให้เงินหยวนเข้าไปอยู่ในตระกร้าเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งมีเงินดอลล่าร์ ปอนด์ ยูโรและเยนอยู่แล้ว ถ้าหากเงินหยวนเข้าไปในตระกร้าของSDRได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ที่ทางคณะกรรมการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ เงินหยวนจะกลายเป็นเงินสกุลโลกทันที
จีนต้องการลอยค่าหยวนอยู่แล้ว เพื่อมาไฟแนนซ์เส้นทางสายไหมที่จะทำให้จีนเป็นมหาอำนาจโลกที่แท้จริงในศตวรรษที่21 ถ้าจะให้หยวนมีความน่าเชื่อถือ จีนต้องมีทองคำสำรองหนุนหลังเป็นกระบุง
ผู้เชี่ยวชาญด้านทาองRob Kirby กล่าวว่าจีนอาจจะเปิดเผยว่ามีทองคำ30,000ตัน ซึ่งจะทำให้ตะวันตกอยู่ในฐานะลำบาก เพราะว่าในเมื่อจีนมีทองมากจะสร้างความเชื่อมั่นในหยวน ประเทศตะวันตกต้องโชว์ทองว่ามีเท่าไหร่เพื่อที่จะดึงความเชื่อมั่นกลับมา แต่Rob Kribyเชื่อว่าสหรัฐฯไม่น่าจะม่ทองคำ8,113ตันตามที่ประกาศเอาไว้่ ทองคำสหรัฐน่าจะถูกขายออกไป ยืมออกไป ให้เช่าออกไปเกือบหมดแล้ว เพื่อที่จะปกป้องค่าดอลล่าร์
เมื่อเป็นเช่นนั้นค่าเงินดอลล่าร์จะสูญเสียเสถียรภาพ Rob Kribyบอกว่า ค่าเงินดอลล่าร์จะตก เงินดอลล่าร์จะไหลกลับประเทศจำนวนมหาศาลเพราะว่าพวกนักลงทุนหรือกอลทุนจะขายดอลล่าร์มาถือทรัพย์สินในรูปหยวนแทน จะทำให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อหนักในสหรัฐ เมื่อมีเงินเฟ้อหนัก ปัญหาสังคมจะตามมา เพราะว่าประชาชนชาวอเมริกันจะไม่มีรายได้พอจับจ่ายใช้สอยเพราะว่าสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนมากนำเข้าทั้งนั้น จะมีราคาแพง
Rob Kirby บอกว่าปัญหาจลาจลทางสังคมเป็นสิ่งที่ทางทหารสหรัฐและเพนตากอนพูดมาตลอดว่าเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ และกำลังจะมาถึงอเมริกา
ปีแห่งเสียงแตรน่าจะเป็นจุดเริ่มของปัญหาของเศรษฐกิจและสังคมของสหรัฐรอบใหม่ เพราะว่าปัญหาหนี้สินถูกหมกเม็ดไม่ได้รับการแก้ไขตั้งแต่ตอนต้น ทำให้มีความเสี่ยงว่าสหรัฐหาเรื่องก่อสงครามตัวแทนกับจีนในทะเลจีนใต้
thanong
22/5/2015
Mis-typed address or a page does not exist.
Mis-typed address or a page does not exist.

 

Thanong Fanclub



15. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
George Sorosนักการเงินระดับโลกยอมรับว่าสหรัฐและจีนกำลังมีปัญหากันหนัก และเตือนว่าถ้าสหรัฐไม่ยอมประณีประนอมให้เงินหยวนเข้าไปอยู่ในตระกร้าเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ มีความเสี่ยงที่จีนจะเข้าไปเป็นพันธมิตรกับรัสเซียอย่างสุดตัวทั้งด้านการเมืองและการทหาร ทำให้มีความเสียงจะเกิดสงครามโลกครั้งที่3
Sorosพูดที่การประชุมของWorld Bank's Bretton Woods ว่าเขาเป็นห่วงว่าสงครามโลกจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจจีน ถ้าหากจีนล้มเหลวในการเปลี่ยนนโยบายจากการพึ่งพาการส่งออกมาเป็นการบริโภคภายในประเทศล้มเหลว จะมีความเป็นไปได้ที่ผู้ปกครองจีนจะสร้างความขัดแย่้งนอกบ้านเพื่อสร้างเอกภาพในประเทศและเพื่อรักษาอำนาจ
ดูเอาก็แล้วกันว่านายSorosแย่แค่ไหน เพราะว่ากำลังกล่าวหาว่าจีนจะเป็นตัวก่อสงครามโลกเสียเอง ก่อนหน้านี้เขาก็อัดรัสเซียมาแล้วว่าต้องการรุกรานเพื่อนบ้านผ่านวิกฤติยูเครน
เพื่อที่จะเลี่ยงสงครามหรือความขัดแย้ง นายSorosแนะนำว่า สหรัฐต้องยอมถอยหลายก้าวเพื่อให้เงินหยวนเข้าไปอยู่ในตระกร้าเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เมื่อเป็นเช่นนั้นเงินหยวนจะเป็นเงินสกุลหลักของโลกที่จะมาแข่งกับดอลล่าร์
นายSorosกล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการทดแทน จีนต้องยอมถอยเหมือนกันด้วยการปฏิรูปเศรษฐกิจของตัวเอง เช่นยอมรับหลักนิติรัฐ
เมื่อหยวนเป็นเงินสกุลที่อยู่ในตลาดโลก จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงกันระหว่างสองระบบ คือระบบของสหรัฐและระบบของจีน
ถ้าหากไม่มีข้อตกลงนี้ น่ากลัวว่าจะเกิดสงครามโลกรอบใหม่ เพราะว่าทั้งรัสเซียและจีนกำลังเพิ่มการใช้จ่ายด้านทหาร เพราะฉะนั้นต้องพยายามประณีประนอมกัน
นายSorosกล่าวว่า ถ้าหากเกิดความขัดแย่้งระหว่างจีนและพันธมิตรทางทหารของสหรัฐเช่นญี่ปุ่น มันจะไม่เป็นการพูดเกินเลยไปว่าเราอยู่ปากประตูของสงครามโลกครั้งที่3แล้ว
ต้องระวังนายSorosบิดเบือนความจริง สหรัฐต่างหากที่กำลังดำนเนินโยบายแซงชั่นรัสเซีย และปิดล้อมรัสเซียทางทหาร รวมทั้งกำลังต้องการเผชิญหน้าจีนทางทหารในทะเลจีนใต้ เพราะว่าเกรงว่าทั้งรัสเซียและจีนจะผลาดเป็นมหาอำนาจท้าทายความเป็นมหาอำนาจแต่ผู้เดียวของสหรัฐ
thanong
22/5/2015
http://www.zerohedge.com/…/george-soros-warns-no-exaggerati…

 

Thanong Fanclub



16. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
เฉลยQUIZ
ตลาดหุ้นS&P 500 ของสหรัฐกำลังเป็นไปตามสคริปท์ปีเสียงแตรอย่างไร (Year of Jubilee) ?
คำตอบ:
ในบทเลวีนิติ 25:8-12ของพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเขียนไว้ว่า:
"ปีกึ่งศตวรรษ (Year of Jubilee)เป็นวาระพิเศษสำหรับเจ้า อย่าหว่านและอย่าเก็บเกี่ยวสิ่งที่งอกขึ้นเอง หรืออย่าเก็บผลองุ่นที่ขึ้นเอง เพราะเป็นปีเฉลิมฉลองพิเศษ และเป็นปีบริสุทธิ์สำหรับเจ้า จงกินแต่พืชผลที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ"
สาเหตุหลักที่ทำให้หุ้นS&P 500ขึ้นมาในช่วงที่ผ่านมา เพราะว่าบริษัทไม่ทำอะไรมากกู้เงิน0%มาซื้อหุ้นตัวเอง stock buyback
Goldman Sachsเพิ่งจะออกรายงานว่าเงิน$1ล้านล้านที่บริษัทสหรัฐจะจ่ายคืนให้ผู้ถือหุ้นเป็นผลตอบแทนทั้งหมดในปีนี้ โดยที่การซื้อหุ้นคืนและเงินปันผลเป็นปัจจัยหลักในการพยุงตลาด
สอดคล้องกับปีเสียงแตรที่บอกว่า"อย่าหว่านและอย่าเก็บเกี่ยวสิ่งที่งอกขึ้นเอง หรืออย่าเก็บผลองุ่นที่ขึ้นเอง เพราะเป็นปีเฉลิมฉลองพิเศษ และเป็นปีบริสุทธิ์สำหรับเจ้า จงกินแต่พืชผลที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ" เทียบเท่ากับว่าบริษัทในตลาดหุ้นS&P500 ไม่ได้ลงทุนใหม่ หรือได้กำไรจากการขายของหรือการลงทุน แต่ผู้ถือหุ้นกินบุญเก่าจากการซื้อหุ้นคืน ทำให้หุ้นจะขึ้นต่อลำบาก เหลือแต่เงินปันผลของเก่าเท่านั้นที่ยังพยุงหุ้นอยู่ได้
thanong
22/5/2015
http://www.bloomberg.com/…/buybacks-and-dividends-all-that-…

 

Thanong Fanclub



17. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
Janet Yellenผู้ว่าธนาคารกลางสหรัฐออกมาพูดแล้วว่าอาจจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ภายในปีแห่งเสียงแตร (Year of Jubilee) นี้
เฟดกดดอกเบี้ย0.25%มาตั้งแค่หลังวิกฤติการเงินปี2008 พร้อมกับการทำQEหรือพิมพ์เงินเข้าไปซื้อทรัพย์สินของแบงค์ และพันธบัตรรัฐบาลออกมา การคงดอกเบี้ยต่ำมานานถึงเกือบ7ปี พร้อมกับการขยายงบดุลของเฟดจาก$900,000ล้านเป็น$4.5ล้านล้านผ่านการทำQE ทำให้เกิดภาวะฟองสบู่การเงิน ไม่ว่าจะเป็นบอนด์หรือหุ้น หรือทรัพย์สินทางการเงินอื่นๆ
ถ้าต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดฟองสบู่ หมายความว่าฟองสบู่จะแตก ผลกระทบจะเป็นอย่างไรก็เป็นที่รู้กัน เพราะว่ามันจะไม่จืดเลย
พวกนักวิเคราะห์เคยคาดว่าเฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้ แต่ตัวเลขหลายอย่างที่ออกมาทำให้มีการคาดการว่า เฟดอาจจะเลือกที่จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
ถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายน เฟดจะร่วมฉลองปีแห่งเสียงแตรที่จะเริ่มในวันที่23 กันยายน
แต่วิกฤติกรีซ และภาวะหนี้ที่สูงท่วมท้นของสหรัฐน่าจะทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยลำบาก Marc Faberไม่เชื่อว่าเฟดจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ ต้องเลี้ยงฟองสบู่ให้ถึงที่สุด และมีความเป็นไปได้มากกว่าที่เฟดจะต้องทำQE4 หลังจากที่หยุดการทำQEตั้งแต่เดือนตุลาคมปี2014
ต้องคอยดูว่าเฟดจะขยับดอกเบี้ยอย่างไร? ถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ยเพื่อทำลายฟองสบู่การเงิน เท่ากับว่าเฟดเป็นพวกที่ต้องการหนุนให้เกิดเงินสกุลโลกเดียวภายใต้การกำกับของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่ต้องการสร้างspecial drawing rightsให้เป็นเงินสกุลโลก
เงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศจะแจ้งเกิดได้ดอลล่าร์และยูโรต้องล่มสลาย หรือถูกทำให้อ่อนแอมากๆ เพื่อว่าประชาชนจะไม่มีทางเลือก แต่จะถูกมัดมือให้ยอมรับในเงินสกุลใหม่ที่จะมากอบกู้โลกในปีแห่งเสียงแตร
thanong
23/5/3025
http://www.zerohedge.com/…/yellen-speaks-prospects-economy-…

 

Thanong Fanclub



18. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
ที่ยุโรปมีการสร้างเรื่องให้ยูโรล่มสลายเหมือนกัน เหมือนกับว่าเพื่อเปิดทางให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศก้าวออกมาเป็นพระเอกกอบกู้โลกด้วยเงินสกุลโลกเดียว
วิกฤติกรีซมีการดึงเกมกันไปมาระหว่างเจ้าหนี้ยุโรปและกรีซเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่ที่เข้มข้นที่สุดก็ช่วงที่รัฐบาลใหม่ของนายAlexis Tsiprasขึ้นมาครองอำนาจในช่วงต้นปีที่ผ่านมา กรีซเหมือนเป็นลูกระเบิดเวลาของยุโรป เพราะว่าถ้าเจรจาเรื่องหนี้ไม่ได้ กรีซอาจจะออกจากยูโร จะทำให้ตลาดการเงินยุโรปปั่นป่วนวิกฤติหนัก เพราะว่านักลงทุนจะมองไปข้างหน้าว่าโปรตุเกส เสปนหรืออิตาลีจะตามกรีซออกไปจากยูโรหรือไม่ จะเกิดแบงค์รันไปทั่ว
กรีซเป็นระเบิดเวลาของยุโรป เหมือนกับLehman Brothersเป็นระเบิดที่ถูกโยนเข้าไปในกลางวงของตลาดการเงินสหรัฐในปี2008 ตรวจสอบให้ดีจะเห็นได้ว่า Lehman Brothersเป็นผู้ถือหุ้นUS Federal Reserve หรือธนาคารกลางของสหรัฐ ช่วงวิกฤติ2008 เฟดปล่อยให้สถาบันการเงินที่ไม่อยู่ในเครือผู้ถือหุ้นล้มกันระเนระนาด แต่แอบให้สภาพคล่องแบงค์ที่อยู่ในเครือ รวมทั้งแบงค์ต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นUBS, Deutschebank, Barclays Bank, Societe Generaleฯลฯ แสดงว่าผู้ถือหุ้นของเฟดเป็นพวกอิลิทในยุโรป
ที่เฟดปล่อยให้Lehman Brothersล้มก็เพื่อที่จะสร้างวิกฤติ และเปิดโอกาสให้เฟดเป็นพระเอกในการเข้าไปควบคุมและจัดการระบบการเงินและเศรษฐกิจทุกอย่างของสหรัฐ เพราะว่ารัฐบาลไม่มีทางก่อหนี้หรือออกบอนด์ได้จำนวนมากเพียงพอที่จะอุ้มระบบการเงินทั้งระบบจากการล่มสลาย
ถ้าหากว่าทุกวิกฤติเป็นเรื่องของการสร้าง นั้นก็หมายความว่าวิกฤติWall Streetปี2007-2008ถูกวางแผนให้เกิดแล้วตั้งแต่สมัยนายAlan Greenspanเป็นผู้ว่าเฟด เขาเป็นคนกดดอกเบี้ยต่ำ หนุนการเพ่ิมเครดิตมหาศาลในระบบการเงินอันนำไปสู่วิกฤติซับไพรมในสหรัฐและวิกฤติการเงินของWall Street ในเวลาต่อมาเพราะว่ามันเชื่อมโยงกัน โดยที่Lehman Brothersถูกจงใจปล่อยให้ล้ม ทั้งๆที่เป็นผู้ถือหุ้นของเฟด ถ้าเฟดอุ้มLehman Brothersวิกฤติอาจจะไม่หนักเหมือนฟ้าถล่ม
เมื่อเกิดวิกฤติ เฟดก็เข้ามาพิมพ์เงินอุ้มทั้งระบบในส่วนที่เป็นแบงค์ในเครือ ทำQEและกดดอกเบี้ยลง0% กลายเป็นว่าสหรัฐจะอยู่หรือจะไปอยู่ในมือเฟด ไม่ได้อยู่ในมือของทำเนียบขาว หรือนักการเมืองในสภาคอนเกรซ
วิกฤติWall Streetลามไปทำให้เกิดวิกฤติในยุโรปในปี2009เพราะว่าตลาดการเงิน และระบบเศรษฐกิจสหรัฐเชื่อมโยงกับยุโรป ตั้งแต่นั้นมายุโรปยังไม่ฟื้น เปิดโอกาสให้European Central Bankเป็นพระเอกออกมากอบกู้สถานการณ์ด้วยการพิมพ์เงินทำQE ซื้อพันธบัตรของรัฐบาลที่ล้มละลายแล้วทั้งนั้นด้วยปัญหาหนี้สินที่ล้นพ้น
ทั้งเฟดและECBต่างอยู่ในเครือเดียวกัน เพราะว่าช่วงวิกฤติ2009 เฟดเปิดสว๊อปไลน์ไม่อั้นให้ECB หมายความว่าECBขอดอลล่าร์จากเฟด โดยการเอายูโรของตัวเองไปวาง พอได้ดอลล่าร์มาก็เอามาปล่อยให้แบงค์ของยุโรปที่ขาดสภาพคล่องดอลล่าร์อย่างหนัก เนื่องจากตลาดมีวิกฤติขาดสภาพคล่อง ถ้าเฟดไม่ช่วย ก็จะพังทั้งระบบการเงินยุโรป
ผ่านมาถึงตอนนี้ กลายเป็นว่าชะตากรรมของยุโรปอยู่ในมือนายธนาคารกลางของECB และชะตากรรมของสหรัฐก็อยู่ในมือของนายธนาคารกลางของเฟด ที่มีอำนาจในการปล่อยสภาพคล่อง หรือชักสภาพคล่องกลับ พวกนายธนาคารกลางให้สภาพคล่องผู้ใด คนนั้นก็รอด ตัดสภาพคล่องผู้ใด ผู้นั้นก็ตาย วิกฤติการเงินที่เกิดขึ้นในปี2008-2009จึงเป็นแผนการอันแยบยลของพวกแบงค์เก้อที่จะเข้าไปควบคุมอย่างเบ็ดเสร็จระบบการเงินที่เป็นหัวใจของระบบทุนนิยมสมัยใหม่ โดยที่รัฐบาล นักการเมือง สถาบัน หรือประชาชนไม่มีอำนาจการต่อรองใดๆ
ล่าสุดทางเยอรมันบอกว่าให้กรีซออกจากยูโรได้ และพิมพ์เงินสมมุติยูโรกรีซเองเคียงคู่ขนานกับเงินยูโร เป็นไอโอยูเพื่อเตะถ่วงเวลาไปก่อน ทางธนาคารกลางอังกฤษแกล้งปล่อยข่าวออกมาว่า ต้องเตรียมการอย่างไรในกรณีที่อังกฤษมีประชามติให้ออกจากความเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป
ทั้งสองประเด็นร้อนดูเหมือนว่าเป็นเตรียมการให้ยุโรปมีวิกฤติหนักๆที่สุดเพื่อที่จะยิ่งจะเพิ่มอำนาจให้ECB ผู้มีสิทธิ์ขาดในการพิมพ์ยูโรแต่ผู้เดียว หรือวิกฤติหนักจนกระทั่งต้องมีการประณีประนอมกันให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศก้าวออกมาจากมุมมืดเพื่อเป็นพระเอกขี่ม้าขาว พิมพ์เงินSDRให้เป็นเงินสกุลหลักของโลก
ปีแห่งเสียงแตรอาจจะได้เห็นการคลี่คลายของแผนการฮุบระบบการเงินโลกอย่างเบ็ดเสร็จของโรม ลอนดอน และเทลอาวีฟ ส่วนดีซีเป็นแค่หมาก ใช้ประโยชน์เต็มที่แล้วจะถูกถีบหัวส่ง
thanong
23/5/2015
http://www.businessinsider.com/german-finance-minister-says…

 

Thanong Fanclub



19. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
วิกฤติที่ส่อเค้าทำให้มีการคาดการไปต่างๆนาๆ ว่าการซ้อมรบภายในประเทศสหรัฐในปฏิบัติการที่เรียกว่าJade Helm 15 เป็นการเตรียมการไปสู่เผชิญหน้ากันระหว่างพวกมิลิเทีย(militia) และเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางหรือไม่ ปฏิบัติการซ้อมรบจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่15 กรกฎาคมถึง วันที่15กันยายน
ซ้อมรบเสร็จ 8วันก่อนการเริ่มฉลองปีแห่งเสียงแตรในวันที่23 กันยายน
ทำให้Martin Armstrong แห่งarmstrongeconomics.comให้สัมภาษณ์ว่า ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ (Fall of 2015) อาจจะเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนแปลงโลกในวงจร300ปี โดยจะเกิดการจราจลทางสังคมในประเทศต่างๆ อันจะนำไปสู่การปฏิวัติประชาชนเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เมื่อเกือบ300ปีที่แล้วเป็นการครบวงจรอันนำไปสู่การปฏิวัติล้มล้างระบอบกษัตริย์ในยุโรป วงจรในปัจจุบันนี้จะเป็นการล้มล้างระบบการปกครองประชาธิปไตยที่เสแสร้ง (pretend democracy)
Armstrongพูดว่าตัวลั่นไกให้เกิดการปฏิวัติประชาชนจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯเพื่อสกัดภาวะฟองสบู่ทางการเงิน ในระยะสั้นดอลล่าร์จะยังคงเป็นราชาของเงินสกุลทั้งหลาย เนื่องจากยูโรและเยนเน่ามาก จะให้พวกกองทุนปาร์คเงินไว้ที่ใด ถ้าไม่ใช่ในดอลล่าร์ ในเมื่อทั้งรูเบิ้ลของรัสเซียและหยวนของจีนยังไม่มีสภาพคล่อง
เมื่อดอกเบี้ยขึ้น ดอลล่าร์ยิ่งแข็งขึ้น ประเทศหรือบริษัทในประเทศกำลังพัฒนาที่ได้กู้ดอลล่าร์ไปแล้ว$9.5ล้านล้านในระยะ6ปีที่ผ่านมาเพราะว่าดอลล่าร์มีค่าอ่อน จะมีปัญหาในการชำระหนี้เหมือนกรีซ จะพากันล้มละลายกัน เพราะว่าเศรษฐกิจอ่อนแอลงไม่มีรายได้เหมือนเดิม ส่งออกไม่ได้ หรืออาจจะเกิดวิกฤติหรือเหตุการณ์ที่รุนแรงอะไรบางอย่างอันนำไปสู่ปัญหาทางการเงิน ลามปามไปตามประเทศต่างๆ ทำให้เกิดการประท้วง การจราจลและการปฏิวัติประชาชนที่ตามมา
Armstrongไม่ได้เอ่ยถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิ หรือช่วงปีแห่งเสียงแตรที่จีนจะเปิดเผยทองคำสำรอง เพื่อทำตามมติของกองทุนการเงินระหว่างประเทศให้หยวนเป็นเงินโลกที่จะถูกรวมในตระกร้าเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เมื่อจีนเปิดเผยทองคำสำรอง และสหรัฐไม่กล้าเปิด เงินหยวนจะก้าวมาเป็นทางเลือกของนักลงทุนธนาคารพานิชย์และและธนาคารกลางทั่วโลก แล้วดอลล่าร์จะทำอย่างไร?
thanong
25/4/2016
Buy Gold Bullion Safely | Secure Storage | GoldCore

 

Thanong Fanclub



20. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
เบลเยี่ยมถือพันธบัตรของสหรัฐมากเป็นอันดับ3ของโลก รองจากจีนและญี่ปุ่น มีการเปิดเผยตัวเลขในเดือนกุมภาพันธ์2015ว่าเบลเยี่ยมถือพันธบัตรสหรัฐสูงถึง$341,000ล้าน มากกว่าจีดีพีของประเทศตัวเองเสียอีก
แน่นอนเบลเยี่ยมไม่มีเงินมากขนาดนั้นที่จะลงทุนถือพันธบัตรสหรัฐมากถึงขนาดนั้น แต่ทำตัวเองเป็นคัสโตเดียน หรือผู้ดูแลประโยชน์ให้ใครคนใดคนหนึ่ง
ก่อนหน้านี้ผมคาดการว่าเฟดอาจจะทำบัญชีสองแอบมาซื้อพันธบัตรสหรัฐและฝากไว้ที่เบลเยี่ยม เพราะว่ารัฐบาลสหรัฐออกหนี้ในปริมาณที่มาก เพื่อไฟแนนซ์งบที่ขาดดุลปีละอย่างน้อย$1ล้านล้าน และจ่ายหนี้ดอกเบี้ยและเงินต้นหนี้เก่า หรือโรลโอเวอร์หนี้ออกไป
ปรากฎว่าZerohedge.com เพิ่งจะออกรายงานล่าสุด โดยให้ความเห็นอย่างค่อนข้างมั่นใจว่าผู้ถือบอนด์สหรัฐที่ฝากที่เบลเยี่ยมที่แท้จริงนั้นคือ...
จีน
จะเห็นได้ว่าการถือพันธบัตรสหรัฐของเบลเยี่ยมเริ่มสูงขึ้นผิดปกติตั้งแต่เดือนพฤศจิการยน 2013 โดยถือในปริมาณ$201,000ล้าน เทียบกับระดับ$170,000-$180,000ล้านก่อนหน้านี้ และล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์2015เบลเยี่ยมถือครองพันธบัตรสหรัฐ$341,000ล้าน
ถ้าจีนถือพันธบัตรสหรัฐผ่านคัสโตเดี้ยนที่เบลเยี่ยมจริง แสดงว่าจีนแบกหนี้ของสหรัฐมากโขเลยทีเดียว เพราะว่าเท่าที่ประกาศอย่างเป็นทางการจีนถือพันธบัตรสหรัฐ$1.2ล้านล้านกว่า ถ้าหากว่ารวมกับที่ฝากไว้ที่เบลเยี่ยม อาจจะถึง$1.4-$1.5ล้านล้าน
ทำไมจีนถึงต้องอุ้มชูหนี้ของสหรัฐมากถึงขนาดนี้ ในเมื่อสหรัฐไม่มีทางจ่ายหนี้ที่ล้นพ้นได้ ยกเว้นพิมพ์เงินดอลล่าร์กระดาษเพิ่มตลอดเวลาเพื่อจ่ายหนี้ วีธีการนี้เรียกว่าPonzi Scheme คือการเอาหนี้ใหม่ไปโปะหนี้เก่า เพราะว่ารายได้ที่แท้จริงไม่มี
อาจจะมีการเจรจาต่อรองกันเบื้องลึกระหว่างจีนและสหรัฐในการดูแลดอลล่าร์ Jim Rickards ผู้แต่งThe Death of Moneyเล่าให้ฟังว่าจีนไม่สบายใจที่เฟดพิมพ์เงินผ่านQEทำให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อน เพราะว่าเป็นการเพิ่มปริมาณเงิน โดยหลักการจีนต้องทิ้งพันธบัตรสหรัฐเพราะว่าสหรัฐไม่มีเงินจ่ายหนี้แล้ว แต่สหรัฐเจรจาติดสินบนให้จีนอุ้มพันธบัตรต่อด้วยการขายทองให้จีนถือ เพราะว่าถ้าจีนล้างพอร์ตพนัธบัตรสหรัฐ ระบบการเงินสหรัฐจะเจ้ง ทุกคนหนีตายหมด
สหรัฐต้องโอนทองให้จีนต้องทำอย่างเงียบๆ ผสมกับการทุบราคาทองเพื่อให้จีนซื้่อทองได้ถูก เราจึงเห็นทองถูกทุบราคามาตลอด3ปีนี้
ผู้ที่ทำหน้าที่ตัวกลางคือBank for International Settlementsหรือธนาคารกลางของธนาคารกลาง โดยน่าจะมีมีลอนดอนและสวิตเซอร์แลนด์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แสดงว่าพวกนักการเงินอิลลิทโลกต้องการปกป้องดอลล่าร์ในระดับหนึ่งก่อน ผลก็คือจีนได้ทองมากมายจากโลกตะวันตกทำให้มีการคาดการว่าจีนตอนนี้อาจจะมีทอง3,510ตัน 8,000ตัน 16,000ตัน หรือ30,000ตันบ้าง
เพราะฉะนั้นจีนได้ทองมาจากสหรัฐหรือยุโรป แลกกับการถือพันธบัตรPonziของสหรัฐที่ไม่มีปัญญาจ่ายหนี้
แล้วเกมทองแลกการถือครองพันธบัตรสหรัฐนี้จะจบเมื่อใด? เกมนี้น่าจะจบลงในปีแห่งเสียงแตรนี้ เพราะว่าจีนต้องการลอยค่าหยวนเพื่อให้หยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลก และจะมีการเปิดเผยทองคำสำรองที่จีนถือในเดือนตุลาคม2015นี้ และเงินหยวนได้เข้าไปอยู่ในตระกร้าเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ต่อไปจีนไม่จำเป็นต้องถือดอลล่าร์มาก หลังลอยค่าหยวน เหมือนกับเฟดของสหรัฐที่ตอนนี้แทบที่จะไม่มีทรัพย์สินในรูปเงินของประเทศอื่น เพราะถือว่าพิมพ์ดอลล่าร์ที่เป็นเงินสกุลหลักของโลกอยู่แล้ว
สหรัฐต้องคิดหนัก เกมจะเป็นอย่างไรต่อไป เมื่อจีนมีทองแต่สหรัฐไม่มีทอง
thanong
23/5/2015
http://www.zerohedge.com/…/revealing-identity-mystery-belgi…

 

ผู้นมาซเสียชีวิตจากเหตุระเบิดในมัสยิดชีอะฮ์ในซาอุฯ + ภาพและวีดีโอ
Category: News & Event Published on Friday, 22 May 2015 20:33 Written by Islamicstudiesth Team.



ปฏิบัติการก่อการร้ายและการวางระเบิดในวันนี้ (วันศุกร์ ที่ 22 พ.ค.58) ในมัสยิดอิมามอะลี (อ.) ในเมืองกอเดี๊ยะห์ในเขตพื้นที่ "กอฏีฟ" ทางตะวันออกของซาอุดิอาระเบีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต (ชะฮีด) และได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง

อัลอาลัมรายงานว่า แหล่งข่าวซาอุฯ ได้กล่าวว่า : ผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งซึ่งสวมเข็มขัดระเบิดเข้าไปท่ามกลางผู้นมาซวันศุกร์ในมัสยิดอิมามอะลี (อ.) ในวันนี้ โดยเป็นการระเบิดฆ่าตัวตาย

บางแหล่งข่าวของซาอุฯ ได้ประกาศว่า ในการระเบิดก่อการร้ายครั้งนี้มีผู้เป็นชะฮีด (เสียชีวิต) และบาดเจ็บอย่างน้อย 30 คน

กระทรวงมหาดไทยของซาอุดิอาระเบีย ได้ประกาศในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า มีการระเบิดเกิดขึ้นในเมืองหนึ่งของจังหวัดกอฏีฟ แต่ไม่ได้รายงานถึงรายละเอียดใดๆ

ในขณะที่สื่อต่างๆ ของซาอุฯ ไม่ได้ชี้ถึงจำนวนโดยละเอียดของผู้ตกเป็นเหยื่อในครั้งนี้ แต่เว็บไซต์ "อาญิล" ในเครือของซาอุฯ ได้รายงานโดยอ้างจากแหล่งข่าวทางการแพทย์ว่า ในการระเบิดก่อการร้ายครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 20 คน

ส่วนโทรทัศน์อัลมะนารของเลบานอนรายงานว่า ในการระเบิดครั้งนี้มีผู้เป็นชะฮีด (เสียชีวิต) จำนวน 12 คนและได้รับบาดเจ็บ 70 คน

รูปภาพข่าว

ผู้นมาซเสียชีวิตจากเหตุระเบิดในมัสยิดชีอะฮ์ในซาอุฯ + ภาพและวีดีโอ

 

การยิงถล่มฐานบัญชาการกองกำลังรักษาชายแดนซาอุฯ ทหารซาอุฯ ตกเป็นเชลย 85 นาย Category: News & Event Published on Friday, 22 May 2015 22:54 Written by Islamicstudiesth Team.



การปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างกองกำลังเยเมนและกองกำลังซาอุฯ ในพื้นที่ภูเขาต่างๆ ในดินแดนของซาอุดิอาระเบียยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง

เว็บไซต์ของโทรทัศน์ "อัลมะยาดีน" รายงานว่า : กองกำลังของกองทัพเยเมนได้ยิ่งจรวดและปืนใหญ่ถล่มฐานบัญชาการกองกำลังพิทักษ์ชายแดนซาอุดีอาระเบียในเขตพื้นที่ "เซาะฮ์ราน"

แหล่งข่าวต่างๆ อย่างเช่น โทรทัศน์อัลอาลัม ได้รายงานว่า การปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างกองกำลังเยเมนและกองกำลังซาอุฯ ในพื้นที่ภูเขาต่างๆ ในดินแดนของซาอุดิอาระเบียยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง ในการปะทะกันครั้งนี้ ทหารซาอุฯ ประมาณ 85 นายได้ยอมมอบตัวกับคณะกรรมการประชาชนและชนเผ่าต่างๆ ของเยเมน

โทรทัศน์ "อัลมะซีเราะฮ์" รายงานว่า นายพลชะร็อฟ ลุกมาน โฆษกของกองทัพเยเมนในการให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์ "อัลมะซีเราะฮ์" ของเยเมน ได้กล่าวว่า : สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในวันนี้ในชายแดนต่างๆ ของซาอุดิอาระเบียนั้น เป็นส่วนหนึ่งจากการตอบโต้การโจมตีของซาอุฯ และพวกเขาจำเป็นต้องรอคอยการตอบโต้ที่มากไปกว่านี้

ขณะเดียวกันแหล่งข่าวของเยเมนได้รายงานว่า : รถถังสองคันและหอสังเกตการณ์ของกองทัพซาอุดิอาระเบียได้ถูกทำลายในการโจมตีของกองทัพและคณะกรรมการประชาชนของเยเมนยังด่าน "อัลเมี๊ยะอ์ซาบ"

ที่มา : jamnews


การยิงถล่มฐานบัญชาการกองกำลังรักษาชายแดนซาอุฯ ทหารซาอุฯ ตกเป็นเชลย 85 นาย

 

การนำโดมเหล็กอิสราเอลไปยังซาอุดิอารเบียเพื่อใช้ต่อสู้กับอันซอรุลลอฮ์
Category: News & Event Published on Saturday, 23 May 2015 15:38 Written by Islamicstudiesth Team.



ตะวันตกได้ประกาศการสนับสนุนต่อซาอุดิอาระเบียหลายต่อหลายครั้งในฐานะที่เป็นลูกค้าอันดับหนึ่งในตะวันออกกลางในการซื้ออาวุธ

ญอมนิวส์รายงาน : หนังสือพิมพ์ม "เราะยุลเยาม์" ได้เขียนว่า : "บรรดานักการทูตคนสำคัญของซาอุฯ ได้รับคำเสนอแนะให้ขนย้ายเทคโนโลยีโดมเหล็กไปจากอิสราเอลเพื่อใช้ในการปกป้องพื้นที่ยุทธศาสตร์ขอเมืองญีซานของซาอุดีอาระเบียจากชนเผ่าต่างๆ ของเยเมน"

หนังสือพิมพ์นี้ได้เขียนต่อไปอีกว่า : "แหล่งข่าวทางการทูตของตะวันตกกล่าวว่า ในระหว่างการประชุมต่างๆ ของเจ้าหน้าที่รัฐบาลของซาอุดิอาระเบียกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอิสราเอลที่จัดให้มีขึ้น ณ สถานทูตอเมริกาในจอร์แดนนั้น คำเสนอแนะของของเจ้าหน้าที่อิสราเอลเกี่ยวกับการอัพเกรดขีดความสามารถของระบบป้องกันขีปนาวุธโดมเหล็กได้ถูกหยิบยกขึ้นมา"

สิ่งที่ควรกล่าวถึงก็คือว่า : อิสราเอลก็เช่นเดียวกับอเมริกาที่ต้องการให้ตลาดอาวุธของตนเองบูมโดยอาศัยปิโตรดอลลาร์ (Petrodollar) ของซาอุดีอาระเบีย ตะวันตกได้ประกาศการสนับสนุนของตนต่อซาอุดิอาระเบียหลายต่อหลายครั้งในฐานะที่เป็นลูกค้าอันดับหนึ่งในตะวันออกกลางในการซื้ออาวุธ

ที่มา : Jamnews

การนำโดมเหล็กอิสราเอลไปยังซาอุดิอารเบียเพื่อใช้ต่อสู้กับอันซอรุลลอฮ์

 

อินโดนีเซียบอก “ผู้อพยพทางเรือ” ส่วนใหญ่ไม่ใช่ “โรฮีนจา” ตัวจริง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤษภาคม 2558 11:28 น.



เอเอฟพี – รัฐบาลอินโดนีเซียแจ้งให้ออสเตรเลียทราบว่า ผู้อพยพที่ล่องเรือเข้ามายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ส่วนใหญ่ไม่ใช่ชาวมุสลิมโรฮีนจาที่ถูกกดขี่ในเมียนมาร์ แต่เป็นชาวบังกลาเทศที่ต้องการหนีเข้ามาเป็น “แรงงานเถื่อน” จูลี บิชอป รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแดนจิงโจ้ เผยในบทสัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์วันนี้ (23 พ.ค.)

ช่วงสิบกว่าวันที่ผ่านมามีผู้อพยพกว่า 3,500 คนว่ายน้ำขึ้นฝั่ง หรือได้รับความช่วยเหลือจากทางการมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และบังกลาเทศ หลังจากรัฐบาลไทยมีมาตรการปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์อย่างจริงจังตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม

รัฐมนตรีหญิงแดนจิงโจ้ได้ให้สัมภาษณ์ต่อหนังสือพิมพ์ เดอะ วีคเอนด์ ออสเตรเลียน โดยระบุว่า ทางอินโดนีเซียประเมินว่า มีผู้อพยพทางเรือเพียง 30-40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เป็นชนกลุ่มน้อยโรฮีนจาจากรัฐยะไข่ของเมียนมาร์

“พวกเขา (อินโดนีเซีย) เชื่อว่า มีผู้อพยพล่องเรืออยู่กลางทะเลประมาณ 7,000 คน และ 30-40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เป็นโรฮีนจา นอกนั้นเป็นชาวบังกลาเทศ ซึ่งกลุ่มหลังนี้กรุงจาการ์ตาเรียกว่าเป็นแรงงานผิดกฎหมาย (illegal labourers) ไม่ใช่ทั้งผู้ที่ต้องการขอลี้ภัย (asylum seekers) หรือผู้ลี้ภัย (refugees)”

“อินโดนีเซียระบุด้วยว่า ชาวโรฮีนจาเดินทางไปบังกลาเทศ และปะปนกับกลุ่มชาวบังกลาเทศที่ล่องเรือมายังมาเลเซียเพื่อหางานทำโดยเฉพาะ”

บิชอป ยังอ้างถึง ฮาซัน เกลอิบ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายกิจการพหุภาคีของอินโดนีเซีย ซึ่งเล่าให้เธอฟังว่า พบเรือลำหนึ่งอัดแน่นด้วยชาวบังกลาเทศประมาณ 400-600 คน

นานาชาติพยายามกดดันให้รัฐบาลเมียนมาร์เข้ามามีส่วนช่วยสกัดคลื่นผู้ลี้ภัยโรฮีนจา และมอบความช่วยเหลือต่อผู้อพยพอีกหลายพันที่ยังติดค้างอยู่กลางทะเล

เมื่อวานนี้ (22) กองทัพเรือเมียนมาร์ระบุว่า ได้เข้าช่วยเหลือเรือผู้อพยพลำหนึ่งในอ่าวเบงกอล และนำคนบนเรือ 208 ชีวิตกลับเข้าฝั่ง

ทิน หม่อง ซเว เจ้าหน้าที่อาวุโสประจำรัฐยะไข่ ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า บนเรือลำดังกล่าวมีชาวบังกลาเทศอยู่ประมาณ 200 คน

“เบงกาลี” เป็นคำซึ่งเจ้าหน้าที่เมียนมาร์มักใช้เรียกชาวมุสลิมโรฮีนจาราว 1.3 ล้านคนซึ่งอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินเมียนมาร์ แต่ไม่ได้รับสิทธิความเป็นพลเมือง

รัฐบาลออสเตรเลียมีนโยบายปิดกั้นผู้ลี้ภัยทางเรืออย่างจริงจัง โดยนายกรัฐมนตรี โทนี แอบบ็อตต์ ได้แถลงวานนี้(22)ว่า ออสเตรเลีย “จะไม่ทำอะไรก็ตามที่ส่งเสริมให้คนเหล่านั้นคิดว่าพวกเขาสามารถล่องเรือมาได้ หรือคิดว่าออสเตรเลียจะจัดโครงการให้ที่พักพิงแก่พวกเขา เพราะนั่นเท่ากับสนับสนุนการค้ามนุษย์”

 

แผ่นดินไหว 5.3 เขย่า “รัฐเนวาดา” สะเทือนถึง “ลาสเวกัส” ยังไม่มีรายงานความเสียหาย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤษภาคม 2558 09:15 น.



รอยเตอร์ – เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.3 ตามมาตราแมกนิจูดที่รัฐเนวาดาของสหรัฐฯ วานนี้ (22 พ.ค.) โดยมีศูนย์กลางใกล้กับเมืองแคเลียนตี (Caliente) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของลาสเวกัส และยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกติดตามมาอีกหลายระลอก

สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดในระดับตื้น มีศูนย์กลางลึกลงไปใต้ดินเพียง 4 กิโลเมตร ห่างจากเมืองแคเลียนตีซึ่งมีประชากรเบาบางเพียงพันเศษๆ ไปราว 39 กิโลเมตร ใกล้กับพรมแดนรัฐยูทาห์

เจ้าหน้าที่จากสำนักงานผู้ปกครองเทศมณฑลลินคอล์นซึ่งอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว เล่าว่า แรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ทั่วทั้งเทศมณฑล แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย

แผ่นดินไหวซึ่งวัดความรุนแรงในเบื้องต้นได้ 5.4 ก่อนที่ USGS จะปรับลดตัวเลขลงเหลือ 5.3 ยังสามารถรับรู้ได้ถึงเมืองลาสเวกัสซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 160 กิโลเมตร

หลังแผ่นดินไหวระลอกแรกผ่านไปไม่ถึง 20 นาทีก็ได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกขนาด 3.8 และเกิดตามมาอีก 3 ครั้ง วัดความรุนแรงได้ระหว่าง 2.5-3.4 ตามมาตราแมกนิจูด

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000058548

 

น้ำมันลง$1 หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำปิดลบแคบตามความเห็นปธ.เฟด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤษภาคม 2558 05:14 น.



เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันลงแรงเมื่อวันศุกร์(22พ.ค.) หลังข้อมูลเงินเฟ้อดันดอลลาร์แข็งค่า ส่วนวอลล์สตรีทและทองคำปิดลบในกรอบแคบๆ จากความเห็นล่าสุดเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2013

ขณะเดียวกันค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงในช่วงบ่ายของการซื้อขายในวันศุกร์(22พ.ค.) ซึ่งดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นนี้ ก็ทำให้น้ำมันในรูปแบบดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันศุกร์(22พ.ค.) ปิดลบในกรอบแคบๆ หลังนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) บอกว่ายังไม่ตัดความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ แม้มีการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเมษายนที่ปรับตัวขึ้นเกินคาด

ดาวโจนส์ ลดลง 53.72 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,232.02 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 4.76 จุด (0.22 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,126.06 จุด แนสแดค ลดลง 1.43 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,089.36 จุด

นางเยลเลนบอกว่าหากปรับขึ้นดอกเบี้ยล่าช้าก็อาจเสี่ยงร้อนแรงเกินไป อย่างไรก็ตามเธอเตือนว่าเศรษฐกิจของอเมริกายังคงแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอ โดยอัตราคนว่างงานที่ลดลงแตะร้อยละ 5.4 ไม่ได้สะท้อนถึงความเอื่อยเฉื่อยในตลาดแรงงาน

ส่วนราคาทองคำเมื่อวันศุกร์(22พ.ค.)แทบไม่ขยับ เหตุนักลงทุนชั่งใจต่อความเห็นของประธานเฟดต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยและสัญญาณภาวะเงินเฟ้อที่ดีดตัวขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 10 เซนต์ ปิดที่ 1,204.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านกม.“ฟาสต์แทร็ก” ให้อำนาจเจรจาการค้าเร่งด่วนแก่ “โอบามา”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤษภาคม 2558 15:45 น.



เอเอฟพี – วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติรับรองร่างกฎหมายซึ่งจะให้อำนาจ “ฟาสต์แทร็ก” แก่ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ในการเจรจาการค้าระหว่างประเทศแบบเร่งด่วน ซึ่งรวมถึงความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership – TPP) ซึ่งเป็นเขตการค้าเสรีขนาดใหญ่ที่วอชิงตันกำลังเร่งผลักดัน

หลังผ่านด่านวุฒิสภาไปได้แล้วเมื่อวานนี้ (22 พ.ค.) ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกส่งต่อไปให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งยังไม่แน่ว่าจะผ่านฉลุยหรือไม่

แม้การเห็นชอบจากวุฒิสภาจะถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับโอบามา แต่มีแนวโน้มที่ร่างกฎหมายฉบับนี้จะถูกซักฟอกอย่างหนักในสภาล่าง ขณะที่สมาชิกบางคนในพรรคเดโมแครตเองก็ยังไม่เห็นด้วยกับนโยบายผลักดันทีพีพีของประธานาธิบดี

กฎหมายว่าด้วยอำนาจส่งเสริมการค้า (Trade Promotion Authority Bill - TPA) จะเปิดทางให้วอชิงตันสามารถเจรจาและสรุปข้อตกลงการค้ากับ 11 ประเทศในเอเชียและแปซิฟิก แล้วค่อยนำข้อตกลงที่ได้ไปเสนอต่อสภาคองเกรสเพื่อโหวตว่าจะ “รับ” หรือ “ไม่รับ” โดยที่คองเกรสไม่มีสิทธิ์ปรับแก้เนื้อหาในข้อตกลง

วุฒิสภาลงมติให้ไฟเขียวแก่ร่างกฎหมายทีพีเอด้วยคะแนน 62-37 เสียง โดย ส.ว.รีพับลิกันเกือบทั้งหมดยอมยกมือสนับสนุน

ออร์ริน แฮตช์ ประธานคณะกรรมการการคลังแห่งวุฒิสภา ระบุว่า “ทีพีเอถือเป็นกฎหมายสำคัญที่สุดที่เราจะต้องผ่านให้ได้ภายในปีนี้”

แฮตช์ ซึ่งสังกัดพรรครีพับลิกันได้ร่วมจัดทำร่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้น โดยวางเงื่อนไขสำคัญๆ ถึง 150 ข้อที่เน้นหนักเรื่องประเด็นสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม และการปกป้องแรงงาน

“ผลโหวตครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ถ้าประธานาธิบดีทำถูกต้อง พวกเรา (รีพับลิกัน) ก็พร้อมที่จะสนับสนุนเขา”

ฝ่ายที่ต่อต้านกฎหมายทีพีเอกลับเป็นกลุ่ม ส.ส. และ ส.ว. ในพรรคของ โอบามา เอง โดย เจฟฟ์ เมิร์กลีย์ ส.ว.เดโมแครต ได้สะท้อนความคิดเห็นของนักวิจารณ์หลายคนที่เตือนว่า ข้อตกลงทีพีพีจะยิ่งทำให้ชาวอเมริกันสูญเสียตำแหน่งงาน ไม่ต่างจากความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ที่เคยส่งผลร้ายต่อแรงงานอเมริกันรุ่นก่อนมาแล้ว

“เราต้องเสียงานไปถึง 5,000,000 ตำแหน่ง และโรงงานอีก 50,000 แห่ง” เมิร์กลีย์ แถลงต่อบรรดาเพื่อน ส.ว. พร้อมกับย้ำว่า “แนวทางเช่นนี้ผิดพลาดมหันต์”

อย่างไรก็ดี ฝ่ายที่สนับสนุนกลับมองว่า ทีพีพีเป็นข้อตกลงการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยมูลค่าเศรษฐกิจรวมกันถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของโลก ซึ่งจะช่วยทลายกำแพงการค้า ส่งเสริมศักยภาพด้านการส่งออกของสหรัฐฯ และยังเป็นกรอบแนวทางอันก้าวหน้าที่สุดให้แก่ข้อตกลงการค้าฉบับอื่นๆ

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000058645

 

ISอ้างบงการถล่มมัสยิดนองเลือด21ศพ โจมตีครั้งแรกในซาอุฯ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 พฤษภาคม 2558 01:01 น.



รอยเตอร์/เอเอฟพี - พวกรัฐอิสลาม(ไอเอส) แถลงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในวันศุกร์(22พ.ค.) อ้างอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีนองเลือดถล่มมัสยิดแห่งหนึ่งในจังหวัดอีสเทิร์น ทางตะวันออกของซาอุดีอาระเบีย คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 21 ศพและบาดเจ็บมากกว่า 50 คน นับเป็นครั้งแรกที่ทางกลุ่มออกมาอ้างอย่างเป็นทางการว่าดำเนินการโจมตีบนแผ่นดินซาอุดีอาระเบีย

ถ้อยแถลงของไอเอสระบุว่าทหารของกาหลิบอยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายในมัสยิดของเมืองกาตีฟ ซึ่งมีชาวชีอะห์เป็นชนกลุ่มใหญ่ พร้อมเผยแพร่ภาพมือระเบิดระบุชื่อว่าคือนายอาบู อาเมอร์ อัล-นาจดี

เหตุระเบิดคราวนี้ ยังถือเป็นการโจมตีที่เล็งเป้าหมายคร่าชีวิตชาวมุสลิมชีอะห์ในซาอุดีอาระเบีย ครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีก่อน โดยหนนั้นมือปืนลงมือสังหารไป 8 ชีวิต ในเหตุโจมตีพิธีฉลองทางศาสนาประจำปีของชาวชีอะห์ ทางภาคตะวันออกของประเทศเช่นกัน

มีความเป็นไปได้ว่าการโจมตีดังกล่าวจะกัดเซาะความสัมพันธ์ระหว่างชาวสุหนี่และชีอะห์ในอ่าวเปอร์เซียมากขึ้นไปอีก จากเดิมที่ก็ตึงเครียดหนักอยู่แล้วจากสถานการณ์ในเยเมน หลังพันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียปฏิบัติการทางอากาศโจมตีนักรบฮูตี ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวแทนของอิหร่าน มหาอำนาจฝ่ายชีอะห์ในภูมิภาคนี้

พยานผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งได้บรรยายถึงการระเบิดครั้งใหญ่ที่มัสยิดอิหม่ามอาลีในหมู่บ้านอัล-กอดีห์ ซึ่งนักแสวงบุญกว่า 150 คนกำลังสวดมนต์อยู่ "ตอนที่เราได้ยินเสียงระเบิดเรากำลังอยู่ในช่วงต้นของพิธีสวดมนต์" คามัล จาฟาร์ ฮัสซัน ผู้ร่วมสวดมนต์บอกกับรอยเตอร์ผ่านทางโทรศัพท์จากที่เกิดเหตุ

โฆษกของกระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นการก่อการร้าย ระบุว่า มือระเบิดจุดชนวนระเบิดติดเข็มขัดที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดของเขาภายในมัสยิด เป็นเหตุให้ประชาชนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

"หน่วยงานความมั่นคงจะไม่ลดละความพยายามในการตามล่าคนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายครั้งนี้" เจ้าหน้าที่กล่าวในถ้อยแถลง ซึ่งรายงานโดยสำนักข่าว SPA ของทางการ

เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลรายหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ผ่านทางโทรศัพท์ว่า มีคนตายราว 20 คน ในการโจมตีและกว่า 50 คนกำลังรับการรักษาที่โรงพยาบาล บางคนได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่อีกจำนวนหนึ่งได้รับอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนเมษายน ซาอุดีอาระเบียบอกว่าพวกเขาเฝ้าระวังขั้นสูงสุดต่อความเป็นไปได้ของการโจมตีก่อการร้ายต่อสถาบันน้ำมันและห้างสรรพสินค้า

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000058496