ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เผยโฉม “ยักษ์เขียว Hulk” รถไฟจีน-ลาว ได้เห็นตัวจริงสิงหาคมนี้
    .
    .
    MGR Online - ชาวลาวจะได้เห็นโฉมหน้าจริงของเจ้า “ยักษ์เขียว” ขบวนรถไฟ CR200J Fuxing ที่จะเริ่มทดลองวิ่งตามแนวทางรถไฟจากเวียงจันทน์ถึงบ่อเต็นในเดือนสิงหาคมนี้ ก่อนเปิดให้บริการจริงตอนฉลองวันชาติครบ 46 ปี ในเดือนธันวาคม
    .
    อีกประมาณ 2 เดือน หรือตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้เป็นต้นไป ประชาชนลาวที่อาศัยอยู่ 2 ข้างทางตามแนวรางรถไฟลาว-จีน ระยะทาง 422 กิโลเมตร ต้องได้มีโอกาสเห็นเจ้ายักษ์เขียว หรือ Hulk ที่จะเริ่มวิ่งขึ้น-ล่องตามเส้นทาง ตั้งแต่นครหลวงเวียงจันทน์ ถึงชายแดนจีนที่บ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา
    .
    Hulk เป็นฉายาที่สื่อมวลชนในจีนใช้เรียกขบวนรถไฟ Fuxing รุ่น CR200J ซึ่งบริษัททางรถไฟลาว-จีน ตัดสินใจนำรถไฟรุ่นนี้มาให้บริการ โดยได้สั่งซื้อจาก China Railway Corp ไปเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว 2 ขบวน มูลค่า 100 ล้านหยวน หรือประมาณ 14.2 ล้านดอลลาร์ หรือ 127 พันล้านกีบ
    .
    ตามกำหนดการ บริษัท CRRC ซึ่งเป็นโรงงานประกอบ จะส่งหัวรถจักรและตู้โดยสารมาถึงลาวในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อนำมาใช้วิ่งทดสอบความพร้อมของรางและการบริหารจัดการ ก่อนถึงกำหนดเปิดให้บริการจริงในวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันชาติครบรอบ 46 ปี การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
    .
    China Railway Corp ได้เปิดตัวรถไฟรุ่น CR200J เมื่อเดือนมกราคม 2562 เป็นรถไฟความเร็วปานกลาง สามารถทำความเร็วได้ตั้งแต่ 160-210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตู้โดยสารกว้าง 3.10 เมตร สูง 4.43 เมตร แบ่งความยาวของขบวนรถได้ 2 แบบ ขบวนยาวมีตู้โดยสารตั้งแต่ 11-20 ตู้ ยาวรวม 518 เมตร จุผู้โดยสารได้ 1,102 คน และขบวนสั้นมีตู้โดยสาร 9 ตู้ ยาวรวม 234 เมตร จุผู้โดยสารได้ 720 คน
    .
    เมื่อต้นเดือนมกราคม 2563 China Railway ได้เริ่มนำ CR200J มาวิ่งรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน กับเมืองพานจือฮวา มณฑลเสฉวน ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 199 กิโลเมตร ขณะที่สื่อออนไลน์ในลาวเองได้เริ่มเผยแพร่ภาพของเจ้ายักษ์เขียว เพื่อเป็นการปูพื้นให้คนลาวได้รู้จัก และสร้างความคุ้นชินตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
    .
    ทางรถไฟลาว-จีน เริ่มมีการสำรวจ-ออกแบบมาตั้งแต่ปี 2553 สภาแห่งชาติลาวได้ผ่านบทวิพากษ์ทางเศรษฐกิจโครงการนี้ในปี 2555
    .
    วันที่ 2 ธันวาคม 2558 ในวันชาติครบรอบ 40 ปี การก่อตั้ง สปป.ลาว พล.ท.จูมมาลี ไซยะสอน ประธานประเทศลาวขณะนั้น และจาง เต๋อเจียง ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการทางรถไฟลาว-จีน ที่บ้านไซ เมืองไซทานี นครหลวงเวียงจันทน์ แต่การก่อสร้างจริงเริ่มอีก 1 ปีถัดมา ในวันที่ 25 ธันวาคม 2559 โดยนายทองลุน สีสุลิด นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นได้เป็นประธานพิธีเปิดการก่อสร้างทางรถไฟลาว-จีน อย่างเป็นทางการที่แขวงหลวงพระบาง
    .
    มูลค่าก่อสร้างทางรถไฟสายนี้สูง 37,400 ล้านหยวน หรือ 5,965 ล้านดอลลาร์ 60% ของเงินลงทุนเป็นเงินกู้ที่รัฐบาลจีนให้แก่ลาวภายใต้เงื่อนไขผ่อนปรน ที่เหลืออีก 40% เป็นเงินลงทุนของบริษัททางรถไฟลาว-จีน บริษัทร่วมทุนที่มีฝ่ายจีนถือหุ้น 70% อีก 30% ถือโดยรัฐบาลลาว
    .
    ทางรถไฟสายนี้เป็นรางเดี่ยวขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า รางกว้าง 1.435 เมตร ใช้ร่วมกันทั้งขบวนขนส่งสินค้าที่กำหนดความเร็วไว้ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กับขบวนขนส่งผู้โดยสารที่กำหนดความเร็ว 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ระบบได้ออกแบบเผื่อไว้สำหรับช่วงพื้นราบ ตั้งแต่วังเวียงถึงเวียงจันทน์ ให้สามารถวิ่งได้ถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
    .
    เนื่องจากพื้นที่ภาคเหนือของลาวเป็นเทือกเขาสูง ทำให้ 41% ของทางรถไฟต้องถูกสร้างเป็นทางยกระดับเป็นระยะทางรวมประมาณ 175 กิโลเมตร มีการสร้างสะพาน 167 แห่ง เป็นสะพานสูงข้ามหุบเหว 154 แห่ง ระยะทางรวม 67.15 กิโลเมตร หรือ 16% ของทางรถไฟทั้งหมด
    .
    มีการเจาะอุโมงค์ทะลุภูเขา 75 แห่ง ระยะทางเฉพาะที่เป็นอุโมงค์รวมมากกว่า 190 กิโลเมตร หรือ 45% ของทางรถไฟทั้งหมด ใน 75 แห่ง มีอุโมงค์ที่ยาวเกิน 7 กิโลเมตร 7 แห่ง อุโมงค์ที่ยาวที่สุด ยาว 9.5 กิโลเมตร
    .
    อุโมงค์แห่งแรกที่ได้มีการวางรางรถไฟลอดผ่านหลังเจาะทะลุสำเร็จ อยู่ในเมืองแสนขุม แขวงเวียงจันทน์ บริษัทวิศวกรรมทางรถไฟหมายเลข 2 เริ่มวางรางรถไฟเข้าไปในอุโมงค์แห่งนี้เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2563
    .
    วันที่ 29 กันยายน 2563 อุโมงค์ทั้ง 75 แห่งถูกเจาะทะลุครบทั้งหมด อุโมงค์สุดท้ายที่เจาะทะลุสำเร็จในวันนั้น คือ อุโมงค์เชียงเงินหมายเลข 3 แขวงหลวงพระบาง
    .
    ตลอดแนวเส้นทางรถไฟลาว-จีน ต้องใช้พื้นที่รวมทั้งสิ้น 3,058 เฮกตาร์ (19,112.5 ไร่) พื้นที่ริมข้างทางรถไฟด้านละ 50 เมตรได้ถูกล้อมรั้วไว้เพื่อความปลอดภัย
    .
    ทางรถไฟสายนี้มีสถานีทั้งสิ้น 32 แห่ง แบ่งเป็นสถานีขนส่งสินค้า 22 แห่ง สถานีสำหรับรับส่งผู้โดยสาร 10 แห่ง ได้แก่ นครหลวงเวียงจันทน์ โพนโฮง วังเวียง กะซิ หลวงพระบาง งา ไซ นาหม้อ นาเตย และบ่อเต็น ในนี้เป็นสถานีหลัก 5 แห่ง คือนครหลวงเวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง นาเตย และบ่อเต็น
    .
    แม้ชื่อถูกเรียกเป็นทางรถไฟลาว-จีน แต่จุดตั้งต้นจริงๆ ของทางรถไฟสายนี้อยู่ที่นครคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลยูนนาน โดยการรถไฟของจีนได้วางรางจากคุนหมิง มายังเมืองยวี่ซี ผ่านเมืองผูเอ่อร์ เชียงรุ่ง (สิบสองปันนา) ลงมาถึงชายแดนจีน-ลาวที่เมืองบ่อหาน (ตรงข้ามบ่อเต็น)
    .
    ยวี่ซีอยู่ทางใต้ของคุนหมิงประมาณ 90 กิโลเมตร นอกจากเป็นต้นทางของรถไฟจีน-ลาวแล้ว ยังเป็นต้นทางรถไฟจีน-เวียดนามอีกด้วย
    .
    เส้นทางจากยวี่ซีลงมาถึงบ่อหาน ยาว 508 กิโลเมตร การรถไฟของจีนเริ่มต้นวางรางจากยวี่ซีลงมาเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 ส่วนในลาว บริษัทวิศวกรรมทางรถไฟหมายเลข 2 เริ่มวางรางรถไฟจากนครหลวงเวียงจันทน์ขึ้นไปเมื่อวันที่ 27 มีนาคมปีเดียวกัน หรือก่อนหน้าเริ่มวางรางที่ยวี่ซี 10 วัน
    .
    วันที่ 30 พฤษภาคม 2564 รางรถไฟทั้ง 2 เส้น ได้เชื่อมต่อกันที่ชายแดนลาว-จีน บ่อเต็น (แขวงหลวงน้ำทา)-บ่อหาน (สิบสองปันนา) โดยจุดบรรจบของรางรถไฟจาก 2 ประเทศ เป็นอุโมงค์ลอดภูเขายาว 9.68 กิโลเมตร ปากอุโมงค์อยู่ที่เมืองบ่อหานในฝั่งจีน ลอดทะลุภูเขามาออกยังเมืองบ่อเต็นในฝั่งลาว เส้นทางในอุโมงค์อยู่ทางฝั่งจีน 7.17 กิโลเมตร ฝั่งลาว 2.51 กิโลเมตร ถูกตั้งชื่อว่า “อุโมงค์มิตรภาพ”
    .
    จีนเริ่มระเบิดภูเขาเพื่อเจาะอุโมงค์มิตรภาพเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2559 สามารถเจาะทะลุตลอดแนวได้สำเร็จในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561.
    .
    .
    บรรยายภาพ
    1-2.โฉมหน้าจริงของเจ้า “ยักษ์เขียว” CR200J Fuxing ในวันเปิดให้บริการเส้นทางคุนหมิง (ยูนนาน)-พานจือฮวา (เสฉวน) เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2563 (ภาพจาก China Daily)
    3-4.ภายในโบกี้โดยสารของ CR200J Fuxing (ภาพจาก AeroLaos)
    5.พิธีวางศิลาฤกษ์โครงการทางรถไฟลาวจีน ที่นครหลวงเวียงจันทน์เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2558 (ภาพจากสำนักข่าวสารประเทศลาว)
    6.เส้นทางรถไฟจากสถานีต้นทางนครหลวงเวียงจันทน์ โดยมีปลายทางที่สถานีบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา (ภาพจากสำนักข่าวสารประเทศลาว)
    7.พิธีฉลองความสำเร็จในการเจาะอุโมงค์รถไฟทะลุครบทั้งหมด 75 แห่ง ที่เมืองหลวงพระบาง เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2563 (ภาพจาก CRI-FM 93)
    .
    .
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สหรัฐฯประกาศทุ่มกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ พัฒนา "ยาต้านไวรัสโควิด-19" หลัง “อนามัยโลก” ยันสุดสะพรึง “สายพันธุ์เดลต้า”แพร่ไปกว่า 80 ประเทศ
    .
    .
    .
    .
    เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(17 มิ.ย)รัฐบาลสหรัฐฯแถลงเตรียมแผนมูลค่า 3.2 พันล้านดอลลารเพื่อสร้างยาต่อต้านไวรัสโควิด-19สำหรับซัพพลายยาใช้รักษาในประเทศยามฉุกเฉินในอนาคต หลังองค์การอนามัยโลกแถลงวันพุธ(16 มิ.ย)สายพันธุ์เดลต้าที่พบครั้งแรกในอินเดียระบาดไปแล้วกว่า 80 ประเทศทั่วโลก
    .
    NBC News สื่อสหรัฐฯรายงานวานนี้(17 มิ.ย)ว่า โครงการต่อต้านไวรัสเพื่อวิกฤตระบาดทั่วโลก(Antiviral Program for Pandemics)ของรัฐบาลสหรัฐฯประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่ถูกประกาศว่าจะใช้งบประมาณร่วม 3.2 พันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างยาต่อต้านไวรัสโควิด-19ขึ้นมา โดยโครงการนี้จะทำให้เกิดการวิจัยทางคลินิกวิทยาและการผลิตทางอุตสาหกรรมขึ้นมามีเป้าหมายเพื่อได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ FDA เพื่อให้สามารถนำออกสู่สาธารณะได้ภายใน 1 ปีหลังจากนี้ กระทรวงสุขภาพและบริการมนุษย์สหรัฐฯกล่าวผ่านแถลงการณ์
    .
    ทั้งนี้พบว่าต่างจากวัคซีนโควิด-19ที่ต้องรับจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เท่านั้นเพราะยาต้านไวรัสโควิด-19นี้สามารถใช้ที่บ้านได้เพื่อป้องกันจำนวนผู้ป่วยล้นโรงพยาบาลและนำมาสู่จำนวนการเสียชีวิตที่ลดลง กระทรวงแถลงในการคาดการณ์ และกล่าวอีกว่า ความพยายามที่นอกเหนือจากการวิจัยไวรัสโควิด-19แล้วทางสหรัฐฯที่จะให้งบผ่านแผนกู้อเมริกา (American Rescue Plan)จะทำวิจัยรวมไปถึงไวรัสตัวอื่นๆที่คาดว่าอาจกลายเป็นภัยคุกคามโลกตัวใหม่
    .
    ด้านนายแพทย์แอนโธนี เฟาชี ผู้อำนวยการสถาบันด้านภูมิแพ้และการติดเชื้อกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “การต้านไวรัสใหม่ที่จะป้องกันจากโรคโควิด-19ที่ร้ายแรงและจากการเสียชีวิตโดยเฉพาะอยู่ในรูปยารับประทานนั้นสามารถใช้ที่บ้านเองได้ในช่วงการป่วยเบื้องต้นจะเป็นเครื่องมือที่ทรงอานุภาพสำหรับการต่อสู้กับวิกฤตโรคระบาดร้ายแรงและการช่วยชีวิต”
    .
    ซึ่งในการกล่าวในรายงานสรุปวันพฤหัสบดี(17)เขาระบุว่า “วิธีการรักษาไม่กี่วิธีจะเกิดขึ้นสำหรับไวรัสมากมายที่มีแนวโน้มว่าอาจทำให้เกิดการระบาดทั่วโลก แต่วัคซีนยังคงเป็นหัวใจของยุทธศาสตร์ต่อการสู้กับโรคโควิด-19ต่อไป แต่ทว่ายาต้านไวรัสนั้นจะมาเติมเต็มให้กับวัคซีนที่มีอยู่โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพที่ส่งผลทำให้วัคซีนมีประสิทธิภาพต่ำลง”
    .
    เฟาชียังชี้ให้เห็นถึงข้อดีของการมียาต้านไวรัสโควิด-19ว่า จะถือเป็นการเพิ่มเครื่องมือให้กับการต่อสู้โรคที่ในปัจจุบันโควิด-19นั้นมีการระบาดอยู่หลายสายพันธุ์โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้าซึ่งถูกพบครั้งแรกในอินเดีย
    .
    ซึ่งองค์การอนามัยโลก WHO ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ(16)พบว่า สายพันธุ์เดลต้าในเวลานี้ถูกพบแพร่กระจายไปแล้วกว่า 80 ประเทศทั่วโลก โดย CNBC รายงานว่า สายพันธุ์เดลต้าคิดเป็นสัดส่วน 10% ของเคสใหม่ในสหรัฐฯเพิ่มมาจาก 6%ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนในอังกฤษพบว่าสายพันธุ์เดลต้าคิดเป็น 60% ของเคสใหม่ในอังกฤษปัจจุบัน
    .
    WHO กล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า พบว่าไวรัสโควิด-19สายพันธุ์เดลต้านั้นยังคงกลายพันธุ์ต่อไประหว่างการแพร่ระบาดยิ่งเพิ่มความน่ากลัวเข้าไปอีก
    .
    ซึ่งในการศึกษาบ่งชี้ว่า เดลต้านั้นแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นๆ และบางรายงานยังบ่งชี้ว่าสายพันธุ์นี้อาจทำให้เกิดอาการป่วยร้ายแรงมากกว่าเดิมแต่จำเป็นต้องได้รับการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันในข้อสรุปนี้
    .
    CNBC กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกยังคงติดตามการรายงานการค้นพบสายพันธุ์ เดลต้า พลัส (delta plus) หัวหน้าด้านเทคนิกของ WHO มาเรีย วาน เคิร์กโฮฟ(Maria Van Kerkhove) ชี้ว่าในสายพันธุ์เดลต้านั้นมีความหลากหลายในตัวเองที่บางครั้งพบว่า บางทีมันกลายพันธุ์น้อยกว่า บางทีมันลบตัวเองมากกว่าทวีคูณ ดังนั้นทางองค์การอนามัยโลกจึงติดตามทั้งหมด
    .
    NBC News รายงานว่าตามแผนการกอบกู้อเมริกาจะให้เงิน 300 ล้านดอลลาร์สำหรับการวิจัยและการสนับสนุนทางแล็บวิทยาศาสตร์ และเกือบอีก 1 พันล้านดอลลาร์สำหรับกระบวนการก่อนทางคลินิกวิทยาและการประเมินทางคลนิก และเกือบ 700 ล้านดอลลาร์สำหรัลการพัฒนาและการผลิตเชิงอุตสาหกรรม และอีก 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อจัดตั้งกลุ่มที่เรียกว่า ศูนย์การค้นพบยาต้านไวรัส( Antiviral Drug Discovery Centers)สำหรับพาโธเจนที่น่าวิตกว่าอาจทำให้เกิดแพนเดมิกรอบใหม่ เพื่อเร่งการสร้างยาต้านไวรัส

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    KEY MESSAGES: เมื่อ ‘เดลตา’ กำลังกลายเป็นเชื้อโควิด-19 ‘สายพันธุ์หลัก’ ของโลก สถานการณ์การระบาดล่าสุดใน 5 ประเทศรวมทั้งไทยอยู่จุดไหน วัคซีนเอาอยู่แค่ไหน
    .
    1 เดือนเศษผ่านไป หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ไวรัสก่อโรคโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.167.2 หรือที่เรียกกันว่าสายพันธุ์เดลตา เป็น ‘สายพันธุ์ที่น่ากังวล (Variant of Concern)’ และล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศก็พร้อมใจกันรายงานว่าหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ WHO แถลงกลางวงสัมภาษณ์ว่า ‘เดลตา’ กำลังกลายมาเป็นเชื้อสายพันธุ์หลักสำหรับการระบาดทั่วโลก
    .
    แล้วสถานการณ์การระบาดของเชื้อสายพันธุ์นี้ในที่ต่างๆ เป็นอย่างไร เราสรุปสถานการณ์ใน 5 ประเทศรวมถึงไทย พร้อมหาคำตอบเบื้องต้นกับคำถามว่า วัคซีนจะรับมือไวรัสชนิดนี้ได้มากเพียงใด
    .
    WHO ระบุว่าไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวระบาดไปแล้วกว่า 80 ประเทศทั่วโลก มาเรีย ฟาน เคิร์กโฮฟ หัวหน้าทีมเทคนิคสำหรับโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลกชี้ว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแพร่เชื้อที่เพิ่มขึ้น และมันอาจสร้างภาระหนักให้กับระบบสาธารณสุข รวมถึงทำให้การใช้เตียงผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และล่าสุดเมื่อคืนที่วันที่ 18 มิถุนายน ตามเวลาในประเทศไทย มีรายงานว่า ดร.โสมญา สวามินาธาน หัวหน้าคณะนักวิทยาศาสตร์ของ WHO ระบุระหว่างการแถลงข่าวว่า เชื้อสายพันธุ์นี้กำลังกลายมาเป็น ‘สายพันธุ์หลัก’ สำหรับการระบาดทั่วโลก เนื่องจากความสามารถในการแพร่เชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
    .
    ที่สหรัฐอเมริกา ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) ของสหรัฐฯ ประกาศยกระดับสายพันธุ์เดลตาให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลในสหรัฐฯ แล้วเช่นกัน โดย CDC ระบุในแถลงการณ์ที่ส่งถึงสำนักข่าว NBC ว่า การยกระดับดังกล่าวอิงจากหลักฐานที่บ่งชี้ว่าสายพันธุ์เดลตาแพร่กระจายได้ง่ายกว่า และทำให้มีจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งรวมถึงสายพันธุ์ B.1.1.7 (อัลฟา) และข้อมูลรายสองสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 5 มิถุนายน ทำให้คาดการณ์ว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จากเชื้อสายพันธุ์เดลตาจะคิดเป็นเกือบร้อยละ 10 ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดในสหรัฐอเมริกาแล้ว เทียบกับช่วงวันที่ 22 พฤษภาคม ที่ผู้ติดเชื้อเดลตารายใหม่ในขณะนั้นคิดเป็นเพียงร้อยละ 2.7 ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดเท่านั้น
    .
    ส่วนในสหราชอาณาจักร เชื้อสายพันธุ์เดลตาเป็นความกังวลสำคัญที่นำมาซึ่งการประกาศเลื่อนการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ระยะที่ 4 ในอังกฤษ ออกไปอีก 4 สัปดาห์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยหนึ่งในการรับมือคือการเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรมากขึ้น ล่าสุดข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษ (Public Health England: PHE) พบว่า จำนวนผู้ป่วยทั้งที่ยืนยันแล้วและน่าเชื่อว่าจะติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 79 เทียบกับสัปดาห์ก่อน และในระยะ 1 สัปดาห์หลังสุดนับจนถึง 16 มิถุนายนนั้น ‘เดลตา’ ยังถือเป็นเชื้อสายพันธุ์ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ยืนยันแล้ว และน่าเชื่อว่าเป็นเชื้อสายพันธุ์ใดๆ มากที่สุดในสหราชอาณาจักร แซงหน้าสายพันธุ์อัลฟา ที่พบครั้งแรกในเมืองเคนท์ของอังกฤษไปแล้ว
    .
    ที่จีน มณฑลกวางตุ้งกลายเป็นพื้นที่ที่ถูกจับตาหลังพบการระบาดของเชื้อสายพันธุ์เดลตา โดยเฉพาะเมืองกวางโจวซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑลดังกล่าว หลังพบผู้ติดเชื้อรายแรกจากการระบาดระลอกนี้ในวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมาเป็นหญิงวัย 75 ปี สื่อทางการจีนอ้างรายงานของเมืองกวางโจวว่า มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในพื้นที่ (จากการแพร่ระบาดกันเองในท้องถิ่น) ตั้งแต่ 21 พฤษภาคมจนถึงเวลาเที่ยงของวันอังคารที่ผ่านมาทั้งสิ้น 147 ราย ในจำนวนนี้ 7 ราย ไม่แสดงอาการ และในระดับมณฑลกวางตุ้งนั้น ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา สถานการณ์มีแนวโน้มเบาบางลง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จากการแพร่ระบาดกันเองในท้องถิ่นต่อวันไม่เกิน 4 คน และไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเติมในวันอังคาร ขณะที่สื่อต่างประเทศยังรายงานว่ามีการใช้มาตรการในการควบคุมการระบาด เช่น การตรวจหาการติดเชื้อกว่า 32 ล้านครั้งทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งรวมถึงประชากรทั้งหมดของเมืองกวางโจวกว่า 18.7 ล้านคน, การกำหนดพื้นที่เพื่อใช้มาตรการล็อกดาวน์, การสั่งปรับหรือกักขังผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายโดยตำรวจ เช่น ผู้ที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย หรือไม่ให้ความร่วมมือเมื่อถูกขอให้ไปตรวจคัดกรองเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเรียกร้องให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนด้วย
    .
    และที่อินโดนีเซีย ปรากฏเป็นข่าวว่าบุคลากรทางการแพทย์กว่า 350 คนติดเชื้อโควิด-19 ทั้งที่ได้รับวัคซีน Sinovac ไปแล้ว สำนักข่าว Reuters รายงานคำให้สัมภาษณ์ของ บาดาอี อิสโมโย หัวหน้าสำนักงานสาธารณสุขในเขตคูดุสของเกาะชวา ว่าในเขตดังกล่าวกำลังมีการต่อสู้กับการระบาดที่ทำให้อัตราการครองเตียงสูงกว่าร้อยละ 90 ซึ่งเชื่อว่ามาจากสายพันธุ์เดลตา บุคลากรทางการแพทย์ส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อไม่แสดงอาการและแยกกักตัวอยู่ที่บ้าน แต่ก็มีจำนวนหนึ่งที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยอาการไข้สูงและระดับความเข้มข้นของออกซิเจนในเลือดลดลง อย่างไรก็ตาม สำนักข่าว Aljazeera รายงานคำให้สัมภาษณ์ของผู้เชี่ยวชาญ อาทิ ศาสตราจารย์กัสตี นูราห์ มาฮาร์ดีกา นักไวรัสวิทยาอาวุโสของบาหลี ที่ให้ความเห็นว่าเชื้อสายพันธุ์เดลตายังไม่ถูกพิสูจน์ว่าเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตมากกว่า และเขาเชื่อว่าเชื้อสายพันธุ์นี้กลายเป็น ‘แพะรับบาป’ จากการขาดความสามารถในการควบคุมโรคของรัฐบาล โดยการเคลื่อนที่ของผู้คนในช่วงเดือนรอมฎอนก็มีบทบาท เขาตั้งข้อสังเกตถึงความเหนื่อยล้าจากสถานการณ์โควิด-19 ของผู้คน ตลอดจนการโฟกัสที่เศรษฐกิจ และบอกว่าในเมืองเดนปาซาร์ที่เขาอาศัย คาเฟ่และร้านอาหารก็เต็มไปด้วยผู้คนยามค่ำคืน นอกจากนี้ยังบอกว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะฟันธงสาเหตุการเพิ่มขึ้นของการติดเชื้อรายใหม่ เพราะอัตราการติดเชื้อในอินโดนีเซียถูกรายงานต่ำกว่าความเป็นจริง นักระบาดวิทยายังคาดว่าในเดือนกรกฎาคมนี้ สายพันธุ์เดลตาอาจเป็นสายพันธุ์ที่นำในการระบาดในอินโดนีเซีย จะมีภาระงานในการดูแลผู้ป่วยจำนวนมากและอัตราการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นบนเกาะชวาด้วย ด้านโฆษกกระทรวงสาธารณสุขด้านการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก็ยอมรับว่า การเดินทางมีบทบาทในการเร่งการระบาดเช่นกัน โฆษกรายดังกล่าวยังให้ข้อมูลว่า มีการเตรียมกลยุทธ์การล็อกดาวน์ในระดับย่อยของพื้นที่ และยืนยันว่า ‘ไม่สายไป’ ในการป้องกันการระบาดไม่ให้ถึงระดับสูงสุด แต่นักระบาดวิทยาเชื่อว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะไม่ได้ผล โดยระบุว่าประสบการณ์จากประเทศอื่นๆ แสดงให้เห็นว่าการล็อกดาวน์พร้อมด้วยการเพิ่มการตรวจหาเชื้อ การติดตามผู้สัมผัสและแยกกักตัว ตลอดจนการฉีดวัคซีนขนานใหญ่คือหนทางที่มีประสิทธิภาพ
    .
    ในไทย เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน มติชนรายงานการแถลงจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบตัวอย่างเชื้อที่ส่งเข้ามาตรวจสอบที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เฉพาะระหว่างวันที่ 8-13 มิถุนายน ว่าส่วนใหญ่ยังเป็นเชื้อสายพันธุ์อัลฟาที่ 809 ตัวอย่าง ส่วนสายพันธุ์เดลตามี 137 ตัวอย่าง และสายพันธุ์เบตา 2 ตัวอย่าง และเมื่อดูยอดสะสมสำหรับการตรวจเชื้อที่ส่งเข้ามาตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึง 13 มิถุนายน พบว่าจากทั้งหมด 5,055 ตัวอย่าง มีสายพันธุ์อัลฟา 4,528 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 89.6 ส่วนสายพันธุ์เดลตามี 496 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 9.8 และสายพันธุ์เบตา 31 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 0.6 ซึ่ง นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า ความสามารถในการแพร่เชื้อของสายพันธุ์เดลตานั้นมากกว่าสายพันธุ์อัลฟา 40% ซึ่งต้องมีการจับตาอย่างใกล้ชิดเป็นรายสัปดาห์ หากยังมีการแพร่ระบาดแบบก้าวกระโดด คาดว่าประมาณ 2-3 เดือน อาจจะเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดมากขึ้นสัดส่วนครึ่งต่อครึ่งกับสายพันธุ์อัลฟา
    .
    และล่าสุด ยังมีการพบเชื้อเดลตาที่มีการกลายพันธุ์ต่อไปอีกเป็น ‘Delta Plus’ หรืออีกชื่อคือ ‘Delta AY.1’ โดยมีการเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่ง 417 (K417N) ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่พบครั้งแรกในสายพันธุ์เบตา และจนถึงวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อเดลตาพลัสนี้แล้วในหลายประเทศ ได้แก่ อินเดีย 6 ราย, แคนาดา เยอรมนี และรัสเซีย ประเทศละ 1 ราย, เนปาล 2 ราย, สวิตเซอร์แลนด์ 4 ราย, โปแลนด์ 9 ราย, โปรตุเกส 12 ราย, ญี่ปุ่น 13 ราย และสหรัฐฯ 14 ราย แต่ทางการอินเดียยังกำหนดให้เดลตาพลัสเป็นเพียงสายพันธุ์ที่น่าจับตามอง (Variant of Interest) และยังไม่ใช่สายพันธุ์ไวรัสที่น่ากังวล (Variant of Concern) เนื่องจากยังไม่พบว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้มีศักยภาพในการแพร่ระบาดที่รุนแรงมากกว่าเดิม จนสามารถสร้างผลกระทบต่อมนุษยชาติ
    .
    มาถึงคำถามที่ว่า วัคซีนจะรับมือสายพันธุ์เดลตาได้ดีแค่ไหน เรายกผลการศึกษามาจำนวนหนึ่ง การศึกษาแรกนั้นมีผลตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ The Lancet เมื่อต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งดูระดับของแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ที่สร้างขึ้นในผู้ที่ได้รับวัคซีน Pfizer-BioNTech ที่ได้รับเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา อัลฟา และเบตา ซึ่งพบว่าระดับแอนติบอดีในผู้ที่ได้รับวัคซีน Pfizer-BioNTech สองโดสเมื่อได้รับเชื้อสายพันธุ์เดลตานั้นต่ำกว่าเมื่อได้รับเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิมราว 6 เท่า ส่วนผลการศึกษาจาก Pasteur Institute ในฝรั่งเศสชี้ว่า ระดับแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ที่ถูกสร้างจากการฉีดวัคซีน Pfizer-BioNTech มีประสิทธิภาพลดลง 3-6 เท่าต่อเชื้อสายพันธุ์เดลตา เมื่อเทียบกับเชื้อสายพันธุ์อัลฟา
    .
    อย่างไรก็ตาม การดูเพียงระดับแอนติบอดีที่วัดในห้องปฏิบัติการอาจไม่เพียงพอกับการระบุประสิทธิภาพของวัคซีน มาดูอีกหนึ่งต้นฉบับงานวิจัยที่ยังไม่ผ่านการพิจารณาตรวจสอบ (Peer Review) จากคณะนักวิจัยที่นำโดย Julia Stowe จาก PHE ระบุข้อมูลจากการใช้งานจริง (Real World Data) จากประชากรกว่า 14,000 คน ว่าการได้รับวัคซีนของ Oxford-AstraZeneca 1 เข็ม หลังรับวัคซีน 21 วัน จะมีประสิทธิผล (Effectiveness) ในการป้องกันการป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากเชื้อสายพันธุ์เดลตาที่ 71% ส่วนถ้าได้รับครบ 2 เข็ม ประสิทธิผลดังกล่าวหลังรับวัคซีนเข็มที่สอง 14 วันจะอยู่ที่ 92% ส่วนวัคซีนของ Pfizer-BioNTech เมื่อฉีด 1 เข็ม หลังรับวัคซีน 21 วันจะมีประสิทธิผลในการป้องกันการป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากเชื้อสายพันธุ์เดลตาที่ 94% และเมื่อฉีด 2 เข็ม ประสิทธิผลดังกล่าวหลังรับวัคซีนเข็มที่สอง 14 วันจะอยู่ที่ 96%
    .
    นอกจากนี้ ยังมีอีกผลการศึกษาของ PHE ช่วงปลายเดือนพฤษภาคม ที่ระบุว่า วัคซีน Pfizer-BioNTech และวัคซีน Oxford-AstraZeneca สองเข็ม มีประสิทธิภาพ (Efficacy) ในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการสำหรับสายพันธุ์เดลตา 88% และ 60% ตามลำดับ
    .
    ทั้งนี้ การศึกษาในสหรัฐฯ ยังคงยืนยันว่า การเพิ่มจำนวนประชากรผู้ที่ได้รับวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญเพื่อลดการเกิดขึ้นของสายพันธุ์ใหม่ให้น้อยที่สุด และยุติการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ขณะที่ อองตวน ฟลาโฮลต์ หัวหน้าสถาบันสุขภาพโลกของมหาวิทยาลัยเจนีวา ยืนยันว่ายังคงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องรักษาการเว้นระยะห่างทางสังคม แบ่งปันข้อมูลการติดเชื้อ และปฏิบัติตามข้อจำกัดต่างๆ เมื่อจำเป็น เพื่อรักษาอัตราการแพร่ระบาดของไวรัสให้อยู่ในระดับต่ำ เพราะยิ่งไวรัสยังคงหมุนเวียนอยู่มากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะเกิดการกลายพันธุ์ได้มากขึ้นเท่านั้น
    .
    ภาพ: angellodeco via ShutterStock
    .
    อ้างอิง:
    https://www.aljazeera.com/news/2021/6/16/how-covid-vaccines-work-against-delta-variant
    https://www.astrazeneca.com/media-c...a-effective-against-delta-indian-variant.html
    https://www.cnbc.com/2021/06/07/china-guangzhou-delta-covid-variant.html
    https://www.cnbc.com/2021/06/16/chi...-new-cases-for-first-time-in-new-cluster.html
    https://www.globaltimes.cn/page/202106/1226349.shtml
    https://www.cgtn.com/special/Latest-updates-on-COVID-19-pandemic.html
    https://khub.net/web/phe-national/public-library/-/document_library/v2WsRK3ZlEig/view_file/479607329
    https://www.nature.com/articles/d41586-021-01505-x
    https://www.aljazeera.com/news/2021/6/18/indonesia-covid
    https://www.reuters.com/world/asia-...vid-19-despite-vaccination-dozens-2021-06-17/
    https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2779188
    https://news.in-24.com/world/38800.html
    https://www.cnbc.com/2021/06/18/who-says-delta-is-becoming-the-dominant-covid-variant-globally.html
    https://www.gov.uk/government/publi...riants-distribution-of-case-data-18-june-2021
    https://www.gov.uk/government/news/confirmed-cases-of-covid-19-variants-identified-in-uk
    https://www.nytimes.com/2021/06/12/...nt-guangzhou.html?partner=slack&smid=sl-share
    https://www.bbc.com/news/world-asia-india-57067190
    https://abcnews.go.com/Health/delta-covid-19-variant-now-80-countries/story?id=78339159
    https://time.com/6073345/delta-variant-covid-19/
    https://www.walesonline.co.uk/news/health/delta-variant-cases-uk-jump-20847003
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co
    #TheStandardNews #COVID19NOW #โควิด19 #วัคซีนโควิด19
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE : ‘ยิ่งใช้ยิ่งได้’ เปิดลงทะเบียน 21 มิ.ย. นี้ 4 ล้านสิทธิ์ คาดเงินเข้าสู่ระบบ 2.6 แสนล้านบาท
    .
    วันนี้ (19 มิถุนายน) อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เชิญชวนผู้สนใจร่วมโครงการ ‘ยิ่งใช้ยิ่งได้’ ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนในวันจันทร์ที่ 21 มิถุนายนนี้เป็นวันแรก ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. ผ่านเว็บไซต์ ยิ่งใช้ยิ่งได้ (shorturl.at/cuyS0) หรือผ่าน G-Wallet บนแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ทุกวันเป็นต้นไป จนกว่าจะครบ 4 ล้านสิทธิ์ เริ่มใช้จ่ายจริง 1 กรกฎาคมนี้ เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศผ่านผู้มีกำลังซื้อ ซึ่งหากเข้าร่วมเต็มจำนวน 4 ล้านคน ใช้จ่ายเต็มสิทธิ์ จะทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ 2.4 แสนล้านบาท และเมื่อมีการนำ E-Voucher กลับมาใช้ ก็จะมีเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มอีก 2.8 หมื่นล้านบาท รวมเป็น 2.68 แสนล้านบาท
    .
    ทั้งนี้ โครงการ ‘ยิ่งใช้ยิ่งได้’ เป็นการใช้จ่ายค่าสินค้าหรือบริการ เช่น ค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป ค่าบริการนวด สปา ทำผมทำเล็บ (ไม่รวมถึงสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ บัตรกำนัล (Gift Voucher) บัตรเงินสด (Gift Card) และสินค้าหรือบริการที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า) ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยภาครัฐ (G-Wallet) บนแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2564 กับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน ‘ถุงเงิน’ ที่เข้าร่วมโครงการ โดยจะได้รับวงเงินสนับสนุนในรูปของบัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (E-Voucher)
    .
    ทั้งนี้ วงเงินใช้จ่ายที่จะนำมาคำนวณสิทธิ์ E-Voucher ไม่เกิน 60,000 บาทต่อคน ยอดใช้จ่ายที่นำมาคำนวณสิทธิ์ต้องไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน และจะได้รับสิทธิ์ E-Voucher สะสมสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคนตลอดระยะเวลาโครงการ โดยยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 1-40,000 บาทแรก ได้รับ E-Voucher ร้อยละ 10 ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน และยอดใช้จ่ายจริงตั้งแต่ 40,001-60,000 บาท ได้รับ E-Voucher ร้อยละ 15 ของยอดใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ซึ่งสิทธิ์ E-Voucher จะคืนเป็นวงเงินใน G-Wallet ทุกวันที่ 7 ของเดือนถัดไป โดยสามารถใช้จ่ายด้วย E-Voucher ได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม - 31 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้ E-Voucher ‘โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้’ ไม่สามารถแลกเป็นเงินสดได้
    .
    โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังย้ำถึงคุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการว่า เป็นประชาชนสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือได้รับสิทธิ์โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ หรือไม่ใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งระยะที่ 3 นอกจากนี้ยังมีโครงการ ‘คนละครึ่ง ระยะที่ 3’ ที่ยังสามารถลงทะเบียนได้ทุกวัน จนกว่าจะครบ 31 ล้านสิทธิ์ ตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น. ขณะเดียวกันอยากเชิญชวนผู้ที่ยังมีวงเงินสิทธิ์เหลือในโครงการ ‘เราชนะ’ วางแผนใช้จ่ายก่อนที่วงเงินสิทธิ์จะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ เพื่อให้ทุกท่านได้รับประโยชน์จากโครงการที่เข้าร่วมสูงสุดและเต็มประสิทธิภาพด้วย
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co
    #TheStandardNews #ยิ่งใช้ยิ่งได้

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สถานการณ์โควิด-19 ในไทย (19 มิถุนายน 2564)
    .
    ยอดผู้ติดโควิด-19 วันนี้ 3,667 ราย จากเรือนจำ 435 ราย เสียชีวิตสะสม 1,609 ราย
    .
    วันนี้ (19 มิถุนายน) สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 3,058 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อจากต่างประเทศ 32 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 3,200 ราย มาจากเรือนจำ 435 ราย
    .
    โดยสรุปวันนี้มีรายงานผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่ม 4,948 ราย ทำให้มีผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 181,357 ราย ผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ 31,482 ราย
    .
    มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 32 ราย เสียชีวิตสะสม 1,609 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 214,449 ราย อาการหนัก 1,343 ราย และใช้เครื่องช่วยหายใจ 383 ราย
    .
    แต่หากนับผู้ป่วยสะสมของการระบาดระลอกเดือนเมษายน รวมทั้งสิ้น 185,586 ราย โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co
    #TheStandardNews #COVID19NOW #โควิด19 #วัคซีนโควิด19
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: ราชทัณฑ์ตั้งศูนย์ CARE ช่วยผู้พ้นโทษมีงานทำ หากติดเชื้อช่วงพ้นโทษให้หาที่รองรับ-ประสาน รพ. รักษาให้หายก่อน
    .
    วันนี้ (19 มิถุนายน) สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตนได้สั่งการให้กรมราชทัณฑ์มีมาตรการดูแลผู้ต้องขังที่ติดเชื้อ ทั้งในด้านการรักษาพยาบาลและการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว ทั้งยังคำนึงถึงการปล่อยตัวผู้ต้องขัง และการประสานงานส่งต่อผู้พ้นโทษที่ได้รับการปล่อยตัวในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยกรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานและส่งเสริมการมีงานทำ (CARE: Center for Assistance to Reintegration and Employment) หรือศูนย์ CARE โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานและช่วยเหลือผู้พ้นโทษให้มีงานทำ ทั้งขณะต้องโทษ และการนำความรู้จากการอบรมวิชาชีพไปประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ รวมทั้งเป็นศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้พ้นโทษในด้านต่างๆ เป็นการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้รับการปล่อยตัวพ้นโทษไปแล้ว เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการของหน่วยงานภาครัฐ และป้องกันการกระทำผิดซ้ำอีก
    .
    สมศักดิ์กล่าวอีกว่า ศูนย์ CARE ที่ตั้งอยู่ในเรือนจำ/ทัณฑสถาน แจ้งช่องทางการติดต่อ หมายเลขโทรศัพท์ของศูนย์ CARE จำนวน 137 แห่งทั่วประเทศ และจัดทำข้อมูลการติดต่อหน่วยงานเครือข่ายในพื้นที่ให้ผู้พ้นโทษทราบ เพื่อให้ผู้พ้นโทษสามารถขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ โดยการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่ไม่มีการติดเชื้อ แต่มีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ ให้มีการประสานงานส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือต่อไป ส่วนการปล่อยตัวผู้ต้องขังที่มีการติดเชื้อ หากผู้พ้นโทษยินยอมให้กักตัวภายในเรือนจำ/ทัณฑสถาน ให้กักตัวให้ครบกำหนด 14 วัน แจ้งให้ญาติทราบข้อมูล เพื่อบรรเทาความห่วงใยของญาติ เมื่อครบกำหนดให้เรือนจำ/ทัณฑสถานออกใบรับรองครบกำหนดกักตัว และแจ้งผู้พ้นโทษให้ไปรายงานตัวต่อสาธารณสุขในพื้นที่ และกักตัวให้ครบกำหนด 14 วัน ในที่พักอาศัย และให้ติดตามอาการหลังสิ้นสุดการรักษา แล้วบันทึกข้อมูลทุกรายที่ติดเชื้อระหว่างการปล่อยตัวพ้นโทษ ในระบบรายงานผลการพัฒนาและส่งเสริมอาชีพผู้พ้นโทษ/ผู้ถูกคุมประพฤติ (Care Support)
    .
    สมศักดิ์กล่าวว่า หากผู้พ้นโทษไม่ยินยอมให้กักตัวภายในเรือนจำ/ทัณฑสถาน ให้ประสานโรงพยาบาลแม่ข่ายหรือสำนักงานสาธารณสุขพื้นที่ ส่งต่อไปกักตัวหรือรักษาพยาบาลในพื้นที่ที่สาธารณสุขกำหนด หรือให้กักตัวหรือรักษาพยาบาลในพื้นที่ภายนอกเรือนจำ/ทัณฑสถานที่กำหนดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว (Shelter) แจ้งให้ญาติทราบข้อมูล โดยเมื่อครบกำหนดให้เรือนจำ/ทัณฑสถานออกใบรับรองครบกำหนดกักตัว แจ้งผู้พ้นโทษให้ไปรายงานตัวต่อสาธารณสุขในพื้นที่ และกักตัวให้ครบกำหนด 14 วัน ในที่พักอาศัย และให้ติดตามอาการหลังสิ้นสุดการรักษา แล้วบันทึกข้อมูลทุกรายที่ติดเชื้อระหว่างการปล่อยตัวพ้นโทษในระบบ Care Support
    .
    นอกจากนี้ สมศักดิ์ยังกล่าวด้วยว่า ได้กำชับให้กรมราชทัณฑ์มีการบูรณาการกับภาคสังคมในการยอมรับและให้ความช่วยเหลือผู้พ้นโทษ โดยเป็นการทำงานแบบมีส่วนร่วม คำนึงถึงความมั่นคงทางสังคม การเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับสังคม และการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ได้รับการปล่อยตัวด้วย
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co
    #TheStandardNews

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    UPDATE: จีนใกล้ฉีดวัคซีนครบ 1 พันล้านโดส คิดเป็นเกือบ 40% ของทั่วโลก หลังระดมฉีด 20 ล้านโดสใน 1 วัน
    .
    ภายในอีกไม่กี่วัน จีนจะฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนในประเทศได้ถึง 1 พันล้านโดส ซึ่งมากและเร็วกว่าทุกประเทศในโลก
    .
    นับจนถึงวันพุธที่ผ่านมา จีนฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 945 ล้านโดส ซึ่งมากกว่าสหรัฐอเมริกาถึง 3 เท่า และคิดเป็นเกือบ 40% ของทั่วโลกที่ฉีดวัคซีนไปแล้วรวม 2.5 พันล้านโดส
    .
    หากคิดว่านั่นน่าทึ่งแล้ว ปริมาณการฉีดวัคซีนของจีนน่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าจีนเริ่มรณรงค์ฉีดวัคซีนช้ากว่าหลายประเทศ โดยจีนเพิ่งฉีดวัคซีนครบหนึ่งล้านโดสไปเมื่อวันที่ 27 มีนาคม ซึ่งตามหลังสหรัฐฯ 2 สัปดาห์ แต่อัตราการฉีดวัคซีนนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในเดือนพฤษภาคม โดยมีการฉีดวัคซีนมากกว่า 500 ล้านโดสในเดือนที่ผ่านมา ตามข้อมูลจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน
    .
    ในวันอังคารที่ 15 มิถุนายนเพียงวันเดียว จีนฉีดวัคซีนได้มากกว่า 20 ล้านโดส ซึ่งหากการฉีดวัคซีนยังคงดำเนินต่อไปในอัตราดังกล่าว ก็มีแนวโน้มที่จีนจะฉีดวัคซีนเกิน 1 พันล้านโดสในช่วงสุดสัปดาห์นี้
    .
    การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศที่มีประชากร 1.4 พันล้านคนถือเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่ โดยในตอนแรกประชาชนไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องรีบฉีดวัคซีน เนื่องจากความสำเร็จของรัฐบาลจีนในการควบคุมการระบาดในประเทศ นอกจากนี้ เรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีนก็มีส่วนทำให้ชาวจีนลังเลใจที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนเช่นกัน
    .
    อย่างไรก็ตาม การที่หลายพื้นที่กลับมาพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งรวมถึงในมณฑลอันฮุยและมณฑลเหลียวหนิงทางตอนเหนือ และมณฑลกวางตุ้งทางตอนใต้ ทำให้ประชาชนเริ่มกลัวว่าจะติดโควิด-19 และเกิดความตื่นตัวที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาด
    .
    สำหรับผู้ที่ยังลังเล รัฐบาลจีนมีเครื่องมืออันทรงพลังที่จะนำมาใช้โน้มน้าวหรือบีบบังคับกลายๆ ให้ประชาชนยอมฉีดวัคซีน เครื่องมือที่ว่านั้นคือ ระบบพรรคเดียวที่มีการบริหารจากบนลงล่าง ซึ่งทำให้เข้าถึงประชาชนอย่างครอบคลุม รวมไปถึงระบบทางการที่แผ่ขยายกิ่งก้านสาขา ส่งผลให้จีนสามารถระดมกำลังในการฉีดวัคซีนได้อย่างรวดเร็ว
    .
    บรรดาเจ้าหน้าที่ของจีนต่างยกให้ระบบการบริหารประเทศจากบนลงล่างเป็นจุดแข็งที่ทำให้จีนประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาด และระบบดังกล่าวกำลังถูกนำมาใช้อีกครั้งเพื่อการเร่งปูพรมฉีดวัคซีน
    .
    การรณรงค์อย่างเต็มที่เพื่อ ‘ฉีดวัคซีนให้ทุกคนที่สามารถฉีดวัคซีนได้’ กำลังดำเนินการไปทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเมืองใหญ่หรือหมู่บ้านเล็กๆ โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐลงพื้นที่เพื่อโน้มน้าวให้ชาวบ้านเข้ารับการฉีดวัคซีน ส่วนในรัฐวิสาหกิจนั้น นายจ้างสนับสนุนให้พนักงานเข้ารับการฉีดวัคซีน ขณะที่สถานที่ฉีดวัคซีนก็มีการแจกบัตรกำนัลช้อปปิ้งไปจนถึงแจกสินค้าและไอศกรีมฟรี เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนออกมารับการฉีดวัคซีน
    .
    และนอกจากใช้ไม้นวมแล้ว ไม้แข็งก็ถูกหยิบมาใช้เช่นกัน เช่น หมู่บ้านบางแห่งเตือนว่าลูกบ้านจะไม่ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าหมู่บ้านอีกหากไม่ได้รับการฉีดวัคซีน ขณะที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ขอให้ลูกค้าแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนก่อนเข้าไปภายในห้าง ด้านสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในมณฑลเหอเป่ยทางเหนือของจีน ไม่ต้อนรับผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน
    .
    ขณะเดียวกัน เนื่องด้วยปริมาณการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้รัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งระงับการฉีดวัคซีนเข็มแรกในเดือนนี้ เพื่อกันวัคซีนเอาไว้ให้ผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สองได้รับวัคซีนตามกำหนด
    .
    คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนประชากรที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว แต่ข้อมูลจาก Reuters เผยให้เห็นว่า การกระจายวัคซีนนั้นไม่เท่ากัน โดยภายในสัปดาห์แรกของเดือนมิถุนายน เมืองใหญ่อย่างปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนครบสองเข็มแล้วเกือบ 70% และ 50% ตามลำดับ แต่ในมณฑลกวางตุ้งและซานตงนั้น อัตราการฉีดวัคซีนยังคงต่ำกว่า 20%
    .
    จงหนานซาน นักระบาดวิทยาชั้นนำและที่ปรึกษารัฐบาล เปิดเผยว่า จีนตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มให้ประชากร 40% ภายในสิ้นเดือนนี้ และเพิ่มเป็น 2 เท่าภายในสิ้นปีนี้
    .
    อย่างไรก็ดี เนื่องจากจีนมีประชากรจำนวนมาก ปริมาณการฉีดวัคซีนต่อประชากร 100 คนของจีนจึงยังคงตามหลังประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร แต่หากจีนยังคงปูพรมฉีดวัคซีนในอัตรานี้ต่อไป ก็คาดว่าจีนจะสามารถตามทันได้อย่างรวดเร็ว
    .
    ภาพ: Lin Andi / VCG via Getty Images
    .
    อ้างอิง:
    https://edition.cnn.com/2021/06/18/china/billion-vaccine-shots-mic-intl-hnk/index.html
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co
    #TheStandardNews #COVID19NOW #โควิด19 #วัคซีนโควิด19

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    HEADLINE: สถานการณ์โควิด-19 วันนี้ (19 มิถุนายน 2564)
    .
    วันนี้ (19 มิถุนายน) ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,667 ราย มาจากเรือนจำ 435 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมระลอกเดือนเมษายนจนถึงวันนี้ 185,586 ราย และยอดผู้ป่วยสะสมของการระบาดทั้งหมด 214,449 ราย
    .
    โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 32 ราย ทำให้การระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,515 ราย ภาพรวมของการเสียชีวิตจากโควิด-19 สะสมแล้ว 1,609 ราย
    .
    ทั้งนี้ เวลา 12.30 น. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) จะแถลงรายละเอียดอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
    .
    อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co
    #TheStandardNews #COVID19NOW #โควิด19 #วัคซีนโควิด19
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    3 อาการ ที่กำลังบอกว่าเรากำลังมีความวิตกกังวล
    .
    1. ต้องมั่นใจ 100% ก่อนตัดสินใจทุกครั้ง (100 percent certainty)
    .
    หากกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องตัดสินใจแต่ตัดสินใจไม่ได้ เพราะอยากรอให้มั่นใจก่อนจริงๆ อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณที่บอกว่าเรากำลังมีความวิตกกังวล เพราะ ในชีวิตจริงมันเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน เราไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตบ้าง ดังนั้นควรอยู่กับปัจจุบัน เพื่อไม่ให้กระทบกับชีวิตประจำวันจนนำไปสู่ภาวะวิตกกังวลต่อไป
    .
    2. ฉันต้องไม่ผิดพลาด (Perfectionist)
    .
    Perfectionist หรือ อาการเสพติดความสมบูรณ์แบบ มักเกิดขึ้นเมื่อต้องพบกับความกดดันมากๆ หรือ ต้องรับผิดชอบในงานที่สำคัญ อาจสร้างความวิตกกังวลต่อเราแบบไม่รู้ตัว บางครั้งอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องสมบูรณ์แบบ แต่ลองเปิดใจยอมรับในข้อผิดพลาดนั้นๆ แทน เราอาจพบความสุขที่แท้จริงหลังจากก้าวข้ามความกดดันที่เราสร้างขึ้นมาเองได้
    .
    3. เอาทุกอย่างมาแบกไว้ที่ตัวเองหมด (Over responsibility)
    .
    การรับเอาทุกอย่างรอบตัวมาแบกไว้ในกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ความสัมพันธ์ รวมทั้งเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้ เพื่อไม่ให้ภาวะวิตกกังวลมาเยือนจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ลองหากิจกรรมพักผ่อนให้ตัวเอง เติมพลังให้กับตัวเองในวันที่รู้สึกเหนื่อย ก็จะช่วยลดความวิตกกังวลที่สร้างขึ้นมา เพราะเราไม่สามารถแบกทุกอย่างไว้คนเดียวได้
    .
    รับฟัง R U OK EP.235 วิตกกังวลกับอนาคตได้ที่
    YouTube http://bit.ly/ruokyt2021
    Spotify http://bit.ly/ruokspotify
    Apple Podcasts http://bit.ly/ruokapple
    Google Podcasts http://bit.ly/ruokgoogle
    Website http://bit.ly/ruokweb
    .
    #RUOK #RUOKpodcast #TheStandardPodcast

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    จนท.ตำรวจเข้าจับกุม นายภัคภาคิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง โดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายฯ หลังหลอกขายเซิร์ฟสเก็ตและสินค้าอื่นๆ บนโลกออนไลน์ แก่เหยื่อหลายราย โดยจับกุมตัวได้บนถนนนางบัวคลี่ ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี

    การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก นายภัคภาคิน ซึ่งเคยเปลี่ยนชื่อสกุลมาแล้วหลายครั้ง อาทิ "เตชินท์ เเก้วสุทธิผล", "ศุภพิชญ์ แก้วสุทธิผล" ได้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก มากกว่า 20 บัญชี หลอกขายสินค้าประเภท Surfskate นาฬิกา mi watch และสินค้าวัยรุ่นอื่นๆ ในราคาถูกกว่าท้องตลาด ให้เหยื่อ โดยโพสต์ขาย ตามเพจรับหิ้วสินค้าต่างๆ มีผู้หลงเชื่อโอนเงินให้มากมาย แต่เจ้าตัวไม่ยอมส่งสินค้าให้ เหยื่อบางรายไม่พอใจและแสดงท่าทีจะดำเนินคดี นายภัคภาคิน ก็จะออกอุบายขอหักเงิน 50% ของยอดสินค้าที่เหยื่อโอนจ่าย บางรายก็ไม่ได้เงินคืน สร้างความเสียหายรวมแล้วหลายแสนบาท จนเหยื่อต้องรวมตัวตั้งเพจขึ้นบัญชีดำ นำข้อมูลออกมาประจานชื่อนามสกุล และเลขบัญชี ที่ นายภัคภาคิน ใช้ต้มตุ๋นจนโด่งดังในโลกออนไลน์ เมื่อชุดจับกุมสืบทราบว่า นายภัคภาคิน หนีไปกบดานในพื้นที่บ้านเกิด จ.สุพรรณบุรี จึงติดตามไปรวบตัวมาดำเนินคดี

    #ฉ้อโกง #จับกุม #เฟซปลอม #เซิร์ฟสเก็ต #เตือนภัย #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ลูกสาวร่ำไห้หนักโทษตัวเองเป็นต้นเหตุนำเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแพร่เชื้อทำพ่อป่วยสุดท้ายดับ หลวงพี่น้ำฝนเข้าให้กำลังใจพร้อมให้หลักสัจธรรม ทุกชีวิต ย่อมมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย อย่าโทษใคร แต่การป้องกันตัวและปฏิบัติตามกฎคือสิ่งที่ต้องทำ ซึ่งวัดไผ่ล้อมยังรับสวด เผาฟรี เพื่อให้กำลังใจกับญาติโยมเสมอ

    วันนี้ 18 มิ.ย. 64 ที่ ฌาปนสถาน วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นำคณะสงฆ์และเจ้าหน้าที่วัด ได้รับการประสานงานจาก โรงพยาบาลนครปฐม เพื่อขอให้ดำเนินการจัดพิธีฌาปนกิจศพให้นายสมหมาย เกตุพันธ์ อายุ 71 ปี ชาวอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

    ซึ่งพิธีการหลวงพี่น้ำฝน ได้มีการลงมาดำเนินการในการจัดสถานที่ซึ่งพบว่ามี ลูกหลานและญาติของผู้เสียชีวิตมาร่วมงานหลายคน โดยทุกคนอยู่ในความเศร้าโศกไม่ต่างจากศพรายก่อนหน้าที่วัดไผ่ล้อมได้มีการดำเนินการมา

    ระหว่างพิธีฯ นางนงนุช เกตุพันธ์ ลูกสาวคนเล็กของนายสมหมาย ซึ่งเริ่มร่ำไห้คร่ำครวญพร้อมกับกอดรูปภาพของบิดาไว้แน่น จนญาติหลายคนต้องเข้ามาช่วยกันประคองเอาไว้ ซึ่งเมื่อหลวงพี่น้ำฝน จัดได้พิธีการจนเสร็จกระบวนการทั้งหมด ได้เข้ามาช่วยดูแลและเข้ามาให้กำลังใจกับลูกหลานจึงได้ทราบว่าครอบครัวของนายสมหมายผู้เสียชีวิต

    ซึ่งมีนางนงนุช บุตรสาวคนเล็กก็ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วยและทุกคนรักษาอาการจนหายหมดเหลือแต่นายสมหมายผู้เป็นพ่อเนื่องจากอายุเยอะและมีอาการป่วยเป็นความดัน จึงทำให้อาการทรุดหนักลงเรื่อย ๆ และเสียชีวิตใจที่สุด

    โดยหลวงพี่น้ำฝน ได้อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ภาพแบบนี้อาตมาเห็นมาเยอะแล้ว มีหลายครอบครัว ที่บุตรหลานติดเชื้อโควิด-19 และเชื้อได้แพร่ไปถึงบิดามารดาจนทำให้เสียชีวิตหลายคนได้แต่โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุซึ่งจริงๆแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นในยุคนี้และไม่มีใครจงใจหรือตั้งใจจะให้เกิดขึ้น และเชื้อไวรัสนั้นก็ลอยอยู่ในอากาศและสถานที่ต่างๆได้นอน โอกาสของติดเชื้อก็ย่อมมีมาก ซึ่งวันนี้เราต้องรู้จักป้องกันตัวเองและปกป้องคนที่รัก ด้วยการปฏิบัติตามกฎ คือการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และควรเข้าสู่การรับการฉีดวัคซีนซึ่งจะสร้างภูมิให้เราได้ดีที่สุด

    #โควิด #โควิด19 #วัคซีนโควิด #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3,667 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 3,200 รายและ พบผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 32 ราย และจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 435 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 32 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,609 ราย ตอนนี้กำลังรักษาอยู่ 31,482 ราย อาการหนัก 1,343 (ใส่เครื่องช่วยหายใจ 383 ราย) รักษาหายวันนี้ 4,948 ราย รวมรักษาหายแล้ว 181,358 ราย รวมแล้วผู้ป่วยติดเชื้อสะสมทั้งหมด 214,449 ราย ไทยอยู่ที่ 78 ของโลก
    .
    โดยในรายละเอียดผู้เสียชีวิตวันนี้ 32 ราย เป็นชาย 15 รายและหญิง 17 ราย อายุอยู่ระหว่าง 40-89 ปี จากพื้นที่ของกทม. 19 ราย, นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร จังหวัดละ 3 ราย, เพชรบุรี ขอนแก่น จังหวัดละ 2 รายและสมุทรสาคร ชลบุรี ฉะเชิงเทรา จังหวัดละ 1 ราย ทั้ง 32 ราย พบมีโรคประจำตัวร่วมด้วย เช่น ความดันโลหิต/ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ไตเรื้อรัง โรคหัวใจ ภาวะอ้วน หลอดเลือดสมอง โรคปอด ฯลฯ โดยพบ 3 ราย ไม่มีโรคประจำตัว โดยปัจจัยส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนอื่นๆ เช่น เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน ผู้ดูแลหรือผู้ป่วยที่รพ.
    .
    5 อันดับจังหวัดพบผู้ติดเชื้อสูงสุดวันนี้ มาจาก กทม. 1,218 ราย, สมุทรปราการ 495 ราย, สมุทรสาคร 171 ราย, ปทุมธานี 167 รายและชลบุรี 145 ราย
    .
    #โควิด #โควิด19 #สถานการณ์โควิดวันนี้ #ศบค #ยอดผู้ติดเชื้อโควิด #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ ผบก.รฟ. เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ นำกำลังเข้าทำการจับกุม อภิชาตหรือติงลี่ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ตามหมายจับของศาลแขวงสงขลา ที่ 95/2564 ลงวันที่ 15 มิถุนายน 2564 คดีอาญา สภ.หาดใหญ่ ที่ 3062/2563 ในฐานความผิดยักยอกทรัพย์

    โดยในการจับกุมครั้งนี้จับกุมได้ที่บนขบวนรถด่วนที่ 86 (นครศรีธรรมราช-กรุงเทพ) ขณะหยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีรถไฟคลองจันดี ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช

    สอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นเซียนพระชื่อดัง ได้เอาพระเครื่องซึ่งเป็นพระรุ่นยอดนิยมหลวงปู่ทวด รุ่นปี 2497 ของลูกค้าไปให้ผู้อื่นเช่าต่อ ปรากฏว่าได้ส่งกันไปหลายคน พระเกิดสูญหาย ผู้เสียหายคิดเป็นราคา 300,000 บาท ผู้ต้องหาไม่มีเงินชดใช้ให้จึงได้หลบหนีไป

    จากนั้น ผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้ขอออกหมายไว้จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟจับกุมตัวได้บนขบวนรถไฟ ดังกล่าวนำส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

    #รถไฟ #ยักยอก #เซียนพระ #สงขลา #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พบสัตว์พันธุ์ใหม่ของโลก ฟอสซิล "แรดยักษ์" ขนาดเท่าช้างแอฟริกัน 4 ตัว!

    จีนค้นพบสัตว์พันธุ์ใหม่ของโลก ซึ่งมีหลักฐานว่ามันมีชีวิตอยู่เมื่อ 26.5 ล้านปีก่อน โดยสัตว์ดังกล่าวเป็น "แรดยักษ์" ที่มีน้ำหนักมากถึง 21 ตัน หรือขนาดเท่ากับช้างแอฟริกันถึง 4 ตัว และสูงถึง 7 เมตร

    นักวิจัยระบุว่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดมหึมานี้ ถูกพบที่มณฑลกานซู มีชื่อว่า "พาราเซราเธอเรียม ลินเซียนเส" โดยมีลักษณะคล้ายแรด แต่ไม่มีนอ และสูงกว่ายีราฟ

    การค้นพบดังกล่าวถูกตีพิมพ์ในวารสารด้านชีววิทยาที่ชื่อ Communications Biology โดยฟอสซิลดังกล่าวถูกพบเมื่อปี 2558 จากนั้น นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิเคราะห์ พบว่า มันไม่เหมือนสัตว์ชนิดใดที่เคยพบมาก่อนเลยในโลก ไม่ว่าจะเป็นกะโหลก กระดูกกราม หรือจมูกของมัน ก็มีความแตกต่างจากสัตว์อื่นๆ ที่เคยค้นพบ

    นอกจากนี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า แรดยักษ์ที่เพิ่งค้นพบนี้ มีสายพันธุ์ที่ใกล้เคียงกับแรดยักษ์ที่ในอดีตเคยอาศัยอยู่ในปากีสถาน ซึ่งเป็นไปได้ว่า ในอดีตสัตว์เหล่านี้อาศัยอยู่และมีการเคลื่อนย้ายไปทั่วเขตเอเชียกลาง

    #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29 #worldnews #china #giantrhino #newspecies #จีน #วิทยาศาสตร์ #ไดโนเสาร์ #ฟอสซิล #แรดยักษ์

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ลุฟท์ฮันซ่าเปิดให้บริการเช็คอินใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีน

    สายการบินลุฟท์ฮันซ่าของเยอรมนี เปิดให้บริการเช็คอินอย่างรวดเร็วด้วยใบรับรองการฉีดวัคซีนดิจิทัลแล้ว

    หลังจากเยอรมนีมีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนมากกว่า 1 ใน 4 ของทั้งประเทศ ล่าสุด แพทย์ ร้านขายยา และศูนย์ฉีดวัคซีนต่าง ๆ สามารถออกใบรับรองการฉีดวัคซีนดิจิทัล ในรูปแบบคิวอาร์โค้ด ให้กับผู้ได้รับวัคซีนได้แล้ว

    โดยผู้ที่จะเดินทางกับสายการบินลุฟท์ฮันซ่าต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนดิจิทัล เพื่อยืนยันสถานะ ผ่านทางแอปพลิเคชัน หรือพิมพ์ออกมาเป็นเอกสาร เพื่อทำการเช็คอินและรับบัตรโดยสาร

    #ข่าวต่างประเทศ #ข่าวโมโน29 #Mono29News #Mono29 #COVID #โควิด #วัคซีนโควิด #ฉีดวัคซีน #เยอรมนี #Germany #เปิดประเทศ #รับนักท่องเที่ยว #สายการบิน #ลุฟท์ฮันซ่า #Lufthansa #ใบรับรองฉีดวัคซีน

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ไทยเจ๋งระดับโลก! ลดเชื้อ “เอชไอวี-ซิฟิลิส” จากแม่สู่ลูก สำเร็จเป็นครั้งที่ 3
    .
    นับเป็นความสำเร็จครั้งที่ 3 ของประเทศไทย จากความสำเร็จครั้งที่ 1 เมื่อปี 2559 และครั้งที่ 2 เมื่อปี 2561 ในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีในทารกแรกเกิด ที่เกิดจากหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อเอชไอวี ให้ต่ำกว่า ร้อยละ 2 หรือประมาณปีละ 3,500 คน ช่วยลดจำนวนเด็กทารกติดเชื้อเอชไอวีได้ต่ำกว่า 50 รายต่อปี
    .
    ‘นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย’ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การป้องกันการถ่ายทอดเชื้อ “เอชไอวี” และ “ซิฟิลิส” จากแม่สู่ลูก ได้ให้คำปรึกษาแบบคู่แก่หญิงตั้งครรภ์และสามี เพื่อตรวจสถานะการติดเชื้อ การให้ยาต้านไวรัสที่มีประสิทธิภาพสูง (HAART) การให้ยาเพื่อรักษาโรคติดเชื้อฉวยโอกาส การตรวจวินิจฉัยการติดเชื้อในทารกโดยเร็วที่สุด (Early Infant Diagnosis) และการสนับสนุนนมผสมทดแทนนมแม่ หลังคลอดเป็นเวลา 12 เดือน ภายใต้สิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพในทุกกลุ่มประชากร รวมถึงประชากรข้ามชาติ กลุ่มประชากรเปราะบาง
    .
    ทั้งนี้ ประเทศไทยยังได้พัฒนาระบบป้องกัน และรักษาหญิงตั้งครรภ์ จากโรคติดเชื้อเอชไอวีและซิฟิลิส ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเผชิญกับติดเชื้อซิฟิลิสที่เพิ่มขึ้น ในหญิงตั้งครรภ์และทารก เนื่องจากมีการติดเชื้อในเยาวชนที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยได้พัฒนาระบบฐานข้อมูลติดตามสถานการณ์ การแพร่ของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายลดการติดเชื้อรายใหม่ ให้ต่ำกว่า 1,000 ราย ภายในปี 2573
    .
    #Mono29 #Mono29News #ข่าวโมโน29 #เอชไอวี #ซิฟิลิส

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ตื่นตาตื่นใจ!!! ฝูงวัวแดงโชว์ตัวกลางทุ่งหญ้าภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ออกเล็มหญ้าอย่างสุขใจ | “สัตว์ป่า แต่ละชนิดล้วนแต่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน พวกมันทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเข้มแข็งเพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลในระบบ ทั้งผู้ล่าและผู้ถูกล่า ดังนั้น ไม่ว่าจะเหตุผลกลได้ก็ตาม สัตว์ป่าย่อมมีคุณค่ามากที่สุดเมื่ออยู่ในผืนป่า มิใช่ในกรงเลี้ยง”

    16 มิถุนายน 2564 นายธนิตย์ หนูยิ้ม ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ได้ถ่ายภาพบนหอส่องสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี โดยเจอฝูงวัวแดง 2 ฝูง นับได้รวม 33 ตัว เป็นตัวเต็มวัย 26 ตัว ตัวน้อยๆ 7 ตัว

    บ้างก็กำลังแทะเล็มหญ้าอยู่อย่างเอร็ดอร่อย บ้างก็นอน บ้างก็กำลังกินผลมะเดื่อซึ่งกำลังสุกบ้างก็กำลังกินดินโป่ง บ้างก็กำลังให้นมลูก บ้างก็กำลังใช้เขาขวิดเล่นกัน บ้างก็เอาคอถูโคนต้นไม้ใหญ่ บ้างก็ดมก้นกัน บ้างก็กำลังกินน้ำ บ้างก็อยากอยู่เงียบเดินหนีเฉยหลบออกไปจากฝูง บ้างก็หวาดระแวงชูหัวคอยระวังภัย บ้างก็หยอกเล่นกับนกยูง ถือเป็นอิริยาบถที่เรียบง่าย ดูเขาสุขใจ แทะเล็มหญ้าไปสัก 1 ชั่วโมง นอนพักผ่อนเสีย 30 นาที แล้วลุกขึ้นแทะเล็มหญ้าต่อ

    วัวแดง หรือ วัวเพลาะ (Banteng) เป็นสัตว์ป่าที่เราน่าจะคุ้นเคยกันบ้าง แต่ก็ยังมีความสับสนในเรื่องการแยกแยะ ‘วัวแดง’ กับ ‘กระทิง’ ออกจากกัน แท้จริงแล้ว วัวแดง ก็เป็นสัตว์ในวงศ์วัวและควายเช่นเดียวกับกระทิง ... เท้ากีบเหมือนกัน เขาไม่แตกกิ่งเหมือนกัน กินพืชเหมือนกัน เคี้ยวเอื้องเหมือนกัน และรูปร่างรึก็คล้ายคลึงกัน แถมใส่ถุงเท้าขาวเหมือนกันอีก...จัดว่าเป็นปัญหาของชาวสัตว์ป่ามือใหม่พอสมควร

    วัวแดง มีขนาดตัวเล็กกว่ากระทิงเพียงเล็กน้อย การสังเกตด้วยลักษณะภายนอกจึงเป็นเรื่องยากสำหรับมือใหม่ แนะนำให้ดูที่ก้น...จริง ๆ นะ ไม่ได้ทะลึ่งเลย...ลองเดินวน ๆ ไปดูข้างหลัง...วัวแดง จะมีวงสีข้าวที่ก้นทั้งเพศผู้และเพศเมีย ซึ่งจุดนี้กระทิงไม่มี

    เรามักพบเห็นวัวแดงได้ตามป่าโปร่ง เพื่อหากินแทะเล็กใบหญ้า ผลไม้ หรือยอดอ่อน ๆ ของไม้พุ่ม และมักจะหลบภัยหรือพักผ่อนในป่าทึบ เห็นรูปร่างแบบนี้...กลับเคลื่อนไหวหลบหนีภัยได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว ไม่อืดอาดเหมือนวัวบ้าน

    ทั้งยังขึ้นชื่อว่ามีประสาทการดมกลิ่นขั้นดีเลิศ มีประสาทหูและตาในระดับดี ... ใช่ว่าจะตกเป็นเหยื่อของผู้ล่าได้ง่ายดายนัก

    ในประเทศไทย เราพบการกระจายตัวของวัวแดงอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ หลายแห่ง เช่น อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ฯลฯ...และที่สำคัญคือ...

    เป็น ‘7 สัตว์ป่า ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง’

    ด้านความเป็นอยู่ของวัวแดงในระบบนิเวศนั้น...คือ ‘เหยื่ออันโอชะของเสือโคร่ง’

    เสือโคร่ง คือ ผู้ล่า คือศัตรูตัวฉกาจในธรรมชาติของวัวแดง ด้วยสรีระของวัวแดง หากเสือโคร่งล่าวัวแดงได้ เราอนุมานได้ว่า...เสือโคร่งตัวนั้นต้องมีความแข็งแรงอย่างมาก

    มันคือ...ดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี...

    และนั่นคือเหตุผลที่เรายกให้วัวแดง เป็น ‘ผู้มีอุปการะคุณแห่งพงไพร’ นั่นก็เพราะ วัวแดง ถือเป็นเหยื่อหลักของเสือโคร่ง ความเป็นอยู่อันสุขสบายของเสือโคร่ง ย่อมมีปัจจัยขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของเหยื่อด้วย

    ดังนั้น การมีวัวแดงชุกชุม จึงเท่ากับ ความสำเร็จในการฟื้นฟูประชากรเสือโคร่ง

    สถานภาพปัจจุบันของวัวแดง เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ไอยูซีเอ็น (IUCN) จัดให้อยู่ในประเภทใกล้สูญพันธุ์ (EN)

    ที่น่ายินดีอย่างหนึ่งคือ ประเทศไทย เป็นประเทศเดียวในโลกที่มีการเพาะพันธุ์วัวแดงเพื่อปล่อยคืนสู่ป่าธรรมชาติ ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี พื้นที่ซึ่งวัวแดงเคยสูญพันธุ์ไปแล้ว แต่กลับมาฟื้นฟูจำนวนประชากรใหม่ได้อีกครั้ง...

    ทั้งนี้สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ยังได้ยืนยันอีกว่า...“สัตว์ป่า แต่ละชนิดล้วนแต่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน พวกมันทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเข้มแข็งเพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลในระบบ ทั้งผู้ล่าและผู้ถูกล่า ดังนั้น ไม่ว่าจะเหตุผลกลได้ก็ตาม สัตว์ป่าย่อมมีคุณค่ามากที่สุดเมื่ออยู่ในผืนป่า มิใช่ในกรงเลี้ยง”

    ข้อมูล : สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า Wildlife Conservation Office, Thailand, ประชาสัมพันธ์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ชวนดูแบบอย่างของโลก! เมืองไร้ขยะในญี่ปุ่น เพราะแยกขยะ 45 ประเภท! นำขยะกลับมาใช้ได้ใหม่มากกว่า 80% สร้างรายได้ให้ชุมชน
    .
    Kamikatsu เมืองไร้ขยะ ที่ไม่มีถังขยะ ไม่มีรถขนขยะ ปลอดหลุมฝัง ปราศจากเตาเผา เพราะทุกคนแยกขยะที่บ้าน และนำขยะไปจัดการที่สถานีแยกขยะ ที่คัดแยกขยะละเอียดยิบถึง 45 ประเภท ซึ่งถือว่าละเอียดสุดในญี่ปุ่น ทำให้อัตรารีไซเคิลสูงกว่า 80% โดยส่วนอีก 20% ที่เหลือเป็นขยะที่ไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้และนำไปจักการในรูปแบบอื่นแทน
    .
    Kamikatsu (คามิคัทสึ) มีจำนวนประชากรประมาณ 1,500 คน เป็นเมืองเล็กๆ ที่สงบ มีไร่ชา มีต้นไม้ปกคลุม และบ้านที่เก่าแก่ มีชื่อเสียงว่าเป็นเมืองไร้ขยะ โดยได้เริ่มต้นโครงการปลอดขยะ (zero waste) ในปี 2003 และมีเป้าหมายร่วมกันว่าจะสามารถทำให้กลายเป็นเมืองที่ปลอดขยะ 100% ได้ในปี 2020
    .
    ในอดีต เมืองคามิคัทสึมีปัญหาการจัดการขยะเหมือนทั่วโลก แทบจะไม่รีไซเคิลขยะเลย ผู้คนส่วนใหญ่ต่างกำจัดขยะด้วยวิธีการเผา หรือทิ้งในธรรมชาติ ก่อปัญหาควันพิษ และขยะตกค้าง แต่ในปัจจุบันเมืองนี้แทบไม่มีขยะ แม้ไม่มีถังขยะ ไม่มีรถขนขยะ ไม่มีหลุมฝังกลบ หรือเตาเผาขยะ
    .
    นั่นเป็นพราะทุกคนในเมืองแยกขยะจากที่บ้าน และนำไปจัดการต่อที่สถานีขยะ ที่คัดแยกขยะอย่างละเอียดถึง 45 ประเภท โดยมีหมวดหมู่แยกย่อยหลายหมวด เช่น ประเภทกระป๋อง ก็จะต้องแยกหมวดหมู่เป็นกระป๋องอะลูมิเนียม กระป๋องเหล็ก กระป๋องเสปรย์ ประเภทกระดาษ ก็จะสามารถแบ่งหมวดหมู่ขยะออกเป็น หนังสือพิมพ์ กระดาษลัง และกล่องนม เป็นต้น
    .
    ผู้อยู่เบื้องหลังความไร้ขยะของเมืองนี้คือคุณ Akira Sakano ผู้นำเมือง ประธานของ Zero Waste Academy ผู้ที่ร่วมผลักดันให้การจัดการขยะเกิดขึ้น โดยชี้ว่าตอนเริ่มก็ยากพอสมควร มีทั้งเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ตอนเริ่มจึงเริ่มด้วยการให้ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งทดลองทำก่อน เมื่อผลตอบรับออกมาดีก็เล่าปากต่อปาก จนกระทั่งทุกคนในเมืองหันมารีไซเคิลกันหมด
    .
    คำว่าแยกขยะ 45 ประเภทนั้นฟังดูน่าทึ่งและน่าปวดหัวในคราวเดียวกัน คุณอาคิระเล่าว่าเธอเองก็จำไม่ได้ทั้ง 45 ประเภท และทุกคนไม่จำเป็นต้องจำได้ว่าขยะ 45 ประเภทนั้นมีอะไรบ้าง สิ่งที่เธอทำคือที่ถังแยกประเภทขยะของเธอมีป้ายบอกอย่างชัดเจน และถ้ายังไม่เข้าใจก็ยังมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำที่จุดแยกขยะอีกด้วย
    .
    การจัดการขยะที่ดีของเมืองนี้สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชน จากการดึงคนจากทั่วโลกมาเรียนรู้ดูงาน กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มากไปกว่านั้นชาวบ้านยังนำสิ่งของที่ไม่ใช้แล้วหรือขยะ มาทำผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ที่สามารถขายได้อีกด้วย กลายเป็นตัวอย่างของคนทั่งโลก
    .
    การจัดการขยะของเมืองได้เปลี่ยนวิถีชีวิตคนมืองนี้ไปตลอดกาล เริ่มแรกอาจจะเป็นการยุ่งยากต่อผู้คนในการแยกขยะ แต่ทุกวันนี้ผู้คนเห็นความสำคัญ พยายามไม่สร้างขยะ พยายามนำขยะกลับมาใช้ใหม่ และต่างแยกขยะที่บ้าน
    .
    คามิคัทสึยังมีโรงต้มเบียร์และร้านเบียร์ชื่อดัง ที่สร้างมาจากวัสดุรีไซเคิลเหล่านี้ด้วย เช่น พื้นสร้างจากกระเบื้องที่ทิ้งแล้วจากโรงงานผลิตกระเบื้อง นำขวดที่ใช้แล้วมาตกแต่ง นำหนังสือพิมพ์มาทำเป็นวอลเปเปอร์ นอกจากนี้สีที่นำมาใช้ทาก็เป็นสีจากธรรมชาติ และมีการนำเศษไม้ที่ไม่ใช้แล้วมาใช้สร้างและตกแต่งตัวอาคารอีกด้วย
    .
    เมื่อถามว่าเธอคิดว่าเป็นไปได้ไหมที่ประเทศไทยจะสามารถจัดการขยะได้ดีขึ้น เธอยิ้มและตอบทันทีอย่างมั่นใจว่าได้ แถมยังเสริมอีกด้วยว่า ญี่ปุ่นเองก็เคยเป็นประเทศที่มีการทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลองมาก่อนและเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงในช่วง 50 กว่าปีที่ผ่านมานี่เองที่เราเห็นรูปภาพบนอินเตอร์เน็ตที่แม้แต่ในท่อระบายน้ำทิ้งของญี่ปุ่นก็สะอาดจนสามารถเลี้ยงปลาคาร์ฟได้ เพราะฉะนั้นเธอจึงเชื่ออย่างแรงกล้าว่าไม่ว่าที่ไหนก็สามารถเปลี่ยนได้เช่นกัน
    .
    เราควรจะเรียนรู้จากเมืองเล็กๆนี้ว่า ทุกอย่างเป็นไปได้หากเราร่วมกันเริ่มลงมือทำอย่างจริงจัง
    .
    ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก World Economic Forum และ บุญมีฤทธิ์ มีเดีย

    https://www.dailynews.co.th/article/701911

    https://www.designboom.com/architec...-public-house-micro-brewery-japan-10-28-2017/



    https://www.businessinsider.com/zero-waste-town-kamikatsu-japan-2017-7





    ที่มา





    ร่มธรรม ขำนุรักษ์

    https://www.facebook.com/1523107561151019/posts/3791161791012240/
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รองเท้าที่ทำจากขยะถึง 90% โดยทำมาจากขยะพลาสติกทะเล และขยะอุตสาหกรรมแฟชั่นรีไซเคิล
    .
    Alchemy-X เป็นรองเท้าแฮนเมด โดยสตาร์ทอัพออสเตรีย ที่ทำมาจากขยะพลาสติกในทะเล และขยะอุตสาหรรมแฟชั่นรีไซเคิลถึง 90% เพื่อที่จะลดขยะต่างๆที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อม และเพิ่มมูลค่าให้วัสดุเหลือทิ้ง
    .
    ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งรองเท้าที่ทำมาจากขยะมากที่สุด เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน พวกเขากำลังปิดระดมทุนและหวังว่าจะนำขยะมาสร้างรองเท้าได้มากถึง 1000 กิโลกรัมในล็อตแรกของการผลิต

    ที่มา

    https://www.effektfootwear.com

    https://www.designboom.com/design/e...ost-rubbish-sneaker-made-of-waste-06-16-2021/

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,989
    ค่าพลัง:
    +97,149
    CLIMATE CHANGE: งานวิจัยล่าสุดเผย โลกกักเก็บความร้อนมากขึ้น 2 เท่ามากกว่าเมื่อ 15 ปีที่แล้ว นักวิจัยเผยมันเป็นปริมาณที่ “น่าทึ่ง” ที่สามารถสร้างผลกระทบได้อย่างมหาศาลแล้ว
    .
    งานวิจัยนี้เป็นของ NASA และ National Oceanic and Atmospheric Administration ตีพิมพ์ในวารสาร Geophysical Research Letters ที่ได้วิเคราะห์ปริมาณความร้อนที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ
    .
    งานวิจัยพบว่า สิ่งที่เรารู้จักกันว่า Earth's energy imbalance หรือระบบพลังงานของโลกที่ไม่สมดุล ซึ่งเกี่ยวข้องกับความแตกต่างระหว่างปริมาณพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่โลกดูดซับ และปริมาณพลังงานความร้อนที่โลกแผ่กลับเข้าไปในอวกาศ มีความไม่สมดุลเพิ่มขึ้นสองเท่าตั้งแต่ปี 2005 ถึงปี 2019
    .
    พวกเขาใช้ดาวเทียมในการวัดความไม่สมดุลนี้ นักวิทยาศาสตร์จึงพบว่าโลกได้รับพลังงานมากกว่าที่มันควรได้รับ จนทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น
    .
    ผลลัพธ์นี้เป็นอะไรที่ "โดดเด่น" ทีมวิจัยชี้เพราะชีวิตบนโลกไม่สามารถอยู่ได้ถ้าปราศจากพลังงานจากแสงอาทิตย์ แต่เรื่องปริมาณแสงอาทิตย์ที่โลกสะท้อนกลับไปยังอวกาศก็สำคัญ ความไม่สมดุลเล็กน้อยเหล่านี้เป็นตัวกำหนดสภาพภูมิอากาศของโลกเราเช่นกัน
    .
    Norman Loeb นักวิทยาศาสตร์จาก NASA และผู้นำการวิจัยนี้ชี้ว่า “พลังงานที่โลกกักเก็บไว้เป็นปริมาณที่มาก ดังนั้น มันหมายความว่าอุณหภูมิโลกในอนาคตจะสูงขึ้น และหิมะกับน้ำแข็งในทะเลจะละลายมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สังคมมักให้ความสนใจ”
    .
    มากไปกว่านั้น Loeb เผยว่า “เรากำลังจะเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของการหมุนเวียนของบรรยากาศ รวมไปถึงเหตุการณ์ที่รุนแรงอย่างภัยแล้ง”
    .
    อีกอย่าง ประมาณ 90% ของพลังงานที่มากเกินนี้จะไปจบอยู่ที่ทะเล ทะเลจะดูดซับความร้อนทำให้น้ำในทะเลอุ่นขึ้น และมีค่าเป็นกรดในที่สุด ทำให้ปลาและสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายใต้น้ำอื่น ๆ ได้รับผลกระทบ
    .
    แน่นอน กิจกรรมของมนุษย์ที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เกิดความไม่สมดุลนี้ นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยตามธรรมชาติอื่น ๆ อย่าง El Niño เอลนีโญ ปรากฏการณ์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอุณหภูมิผิวน้ำทะเลของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกเป็นอุ่นขึ้น การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันดังกล่าวจากสภาพอากาศที่เย็นไปสู่สภาพอากาศที่อบอุ่นจะทำให้เมฆที่ปกคลุมมหาสมุทรลดน้อยลง ทำให้มหาสมุทรแปซิฟิกสามารถดูดซับรังสีดวงอาทิตย์ได้มากขึ้นด้วย
    .
    ซึ่งจากงานวิจัยนี้ Loeb หวังว่า อัตราความไม่สมดุลนี้จะลดน้อยลงใน 10 ปีข้างหน้า ไม่อย่างนั้นโลกของเราจะประสบกับปัญหาสภาพอากาศที่แปรปรวนมากขึ้นอีกเป็นแน่”
    .
    ที่มา
    1. https://edition.cnn.com/2021/06/17/us/earth-trapped-heat-doubled/index.html

    2. https://www.theguardian.com/science/2021/jun/17/earth-trapping-heat-study-nasa-noaa

    งานวิจัย
    https://agupubs.onlinelibrary.wiley.com/doi/10.1029/2021GL093047

     

แชร์หน้านี้

Loading...