ติดตามสถานะการณ์

เม็กซิโกส่อเค้าโดนเฮอร์ริเคน “แวนซ์”ถล่ม



พายุโซนร้อน “แวนซ์”เพิ่มกำลังแรงขึ้นเป็นเฮอร์ริเคนระดับ 1 และมีแนวโน้มพัดเข้าถล่มพื้นที่ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของเม็กซิโก



วันจันทร์ 3 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:17 น.
เว็บไซต์ข่าวอังกฤษ “เดอะ การ์เดียน” รายงานจากประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ว่า ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ(เอ็นเอชซี)เผย พายุโซนร้อน “แวนซ์” ทวีกำลังแรงขึ้นจนกลายเป็นพายุเฮอร์ริเคนระดับ 1 โดยมีอัตราเร็วลม 128.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ศูนย์กลางของพายุอยู่ห่างจากเมืองมันซานิโญ รัฐโกลิมาของเม็กซิโกไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 861 กิโลเมตร และกำลังเคลื่อนตัวขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยอัตราเร็ว 124.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง



อย่างไรก็ตาม เอ็นเอชซีระบุ พายุดัวกล่าวแม้มีแนวโน้มเข้าปะทะกับชายฝั่งทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของแดนจังโก้แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเป็นอันตรายต่อพื้นที่ชายฝั่งเม็กซิโกในเวลาอันใกล้ นอกจากนี้ ระบบเตือนภายชายฝั่งเองก็ยังไม่ได้รับผลกระทบอีกด้วย เนื่องจากพายุยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในทะเลและคาดว่าจะอ่อนกำลังลงในช่วงสายของวันจันทร์

เม็กซิโกส่อเค้าโดนเฮอร์ริเคน “แวนซ์”ถล่ม | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

โคลนถล่มศรีลังกาดับ5สูญหาย38ราย



ทางการศรีลังกายืนยันมีผู้เสียชีวิต 5 ราย สูญหายอีกราว 38 ราย จากเหตุโคลนถล่มในพื้นที่ทางตะวันออกของเมืองหลวง

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/eeaHFBNeHCA?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันจันทร์ 3 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:46 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ว่า ศูนย์จัดการภัยพิบัติศรีลังกาแถลงยืนยัน จากเหตุโคลนถล่มในหมู่บ้านทำการเกษตร "โคสลันดา"เขตบาดุลลา ซึ่งอยู่ห่างไปทางตะวันออกของกรุงโคลัมโบซึ่งเป็นเมืองหลวงราว 220 กิโลเมตรเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อยจำนวน 5 ราย สูญหายอีกราว 38 ราย ทั้งนี้ จำนวนของผู้เสียชีวิตอาจมีเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงทำการค้นหาอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางฝนที่ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างล่าช้า



ในตอนแรกทางศูนย์ฯได้ระบุว่า มีผู้สูญหายจำนวนอย่างน้อย 250 ราย อีกไม่นานเจ้าหน้าที่จึงปรับลดตัวเลขดังกล่าวลงอย่างรวดเร็วจากการอ้างอิงรายงานของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านเปิดเผยว่า อาจมีผู้ที่ยังสูญหายอีกราว 200 ราย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่ราว 100 หลังคาเรือน รวมทั้งยังมีวัดฮินดู ร้านค้าหลายแห่ง ตลอดจนสถานีบริการนม 2 แห่งซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากฝนที่เทลงมาจนเป็นเหตุให้เกิดโคลนถล่ม

โคลนถล่มศรีลังกาดับ5สูญหาย38ราย | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ลอร์ด เซย์เรน



จุดมืดดวงอาทิตย์ เฉลี่ยเดือน ตุลาคม ที่ผ่านมาครับ
60.6 จุด (ลดลงจากเดือน กันยายน ที่ 87.6 จุด) เนื่องจากเดือนนี้มีกลุ่มจุดมืดน้อย รวมไปถึงขนาดค่อนข้างเล็ก ยกเว้น กลุ่ม 2192 เพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่ใหญ่มาก (และใหญ่ที่สุดในวัฎจักร 24 เริ่มต้นเลย และยังทำให้ Solar radio flux สูงที่สุดในวัฎจักรอีกด้วยคือ 227 หน่วย)
* wolf number คือ การเก็บข้อมูลของจุดมืดแบบในอดีตและยังทำมาจนถึงปัจจุบัน โดยจะเห็นได้ทั่วไปในเว็บไซด์ นาซ่า NASA อีซ่า ESA หรือเช่นของญี่ปุ่น (ปัจจุบันเริ่มมีการเก็บข้อมูลจุดมืดหลายแบบยิ่งขึ้นทำให้ต้องลงหมายเหตุไว้ว่า เก็บแบบไหน เนื่องจากวิธีการที่ไม่เหมือนกันจะทำให้สถิติไม่เท่ากัน // ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้)

 

ข้อมูลจาก เฟสบุ๊ก คสช.คืนความสุขให้ชาติ



~ทุกวันนี้จะกินต้องระวัง
เมืองจีนเขาดังเรื่องของปลอมปลอม
อาหารมากมายรสชาดหวานหอม
แต่เป็นของปลอมที่ไม่รู้กัน

 

Voice TV
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง พร้อมออกพันธบัตรชำระหนี้จำนำข้าว มั่นใจจะไม่กระทบฐานะทางการคลัง ระบุขาดทุนกว่า 7 แสนล้านบาท ทำให้อาจต้องใช้หนี้นานถึง 30 ปี

คลังชี้ต้องใช้หนี้จำนำข้าวนาน 30 ปี
by Watchiraporn Nasuan 29 ตุลาคม 2557 เวลา 21:28 น.



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง พร้อมออกพันธบัตรชำระหนี้จำนำข้าว มั่นใจจะไม่กระทบฐานะทางการคลัง พร้อมระบุว่า ผลขาดทุนกว่า 7 แสนล้านบาท ทำให้อาจต้องใช้หนี้นานถึง 30 ปี

นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาขาดทุนโครงการรับจำนำข้าว 6-7 แสนล้านบาท อาจต้องใช้เวลานานกว่า 30 ปี โดยการล้างหนี้โครงการจำนำข้าว ส่วนหนึ่ง จะมาจากการขายข้าว หากขายได้เร็ว ก็จะไม่กระทบฐานะทางการคลังของรัฐบาล รวมทั้งการออกพันธบัตรออมทรัพย์ ระยะยาว 30 ปี แต่วงเงินพันธบัตรจะออกได้เพียงแค่ร้อยละ 10 ของจำนวนหนี้ที่ต้องชำระ เพราะต้องบริหารจัดการให้สอดคล้องกับภาวะตลาดเพื่อไม่ให้กระทบฐานะการคลัง รวมถึงต้องปรับโครงสร้างหนี้ และจัดสรรงบประมาณมาช่วยดำเนินงานเพิ่มด้วย

ทั้งนี้ การออกพันธบัตรเพื่อชำระผลขาดทุนจำนำข้าว ไม่จำเป็นต้องรอคณะอนุกรรมการปิดบัญชีจำนำข้าว ที่มีนายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เนื่องจากหนี้ที่เกิดจากโครงการรับจำนำข้าวขณะนี้ มีจำนวนมากอยู่แล้ว ทำให้สามารถดำเนินการบางส่วนได้เลย และบางส่วนจะรอเงินจากการระบายข้าว ของกระทรวงพาณิชย์ มาชำระคืน

สำหรับการปิดบัญชีจำนำข้าว อยู่ระหว่างการดำเนินการ หากปิดได้เร็วก็จะเป็นผลดี ได้ดำเนินการนำข้าวที่มีอยู่ในสต๊อกไปขาย ยอมรับว่า การตรวจข้าวในสต๊อก มีความซับซ้อน มีข้าวหลายประเภท มีคุณภาพที่แตกต่างกันมาก ทำให้ฝ่ายปฏิบัติต้องมีความระมัดระวังมาก เพราะมีเรื่องของการทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้อง และจะเป็นหลักฐานในการดำเนินการคดีต่อไป

คลังชี้ต้องใช้หนี้จำนำข้าวนาน 30 ปี - VoiceTV

 

Piyacheep S.Vatcharobol



วันนี้ (3 พย 57) ตอนนี้ เกิดพายุกัมมันตภาพรังสีครอบคลุมโลกนะครับ ระดับ S 1 ไม่เกิดมานานมากแล้ว เมื่อคืนนี้ที่เครื่องมือถือผมเตือนว่าพบกัมมันภาพรังสี ผมไม่ได้ตรวจสอบกับเครื่องคอมพิวเตอร์



ส่วนมากจะพายุสนามแม่เหล็ก มาตามดูปฏิกิริยาโลกนะครับ ๓-๖ นี้ ว่าจะมีอะไรไหม ลอยกระทง ๖ จำได้นะครับ

จากเว็บของ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น

จับตาการเรียงตัวของดาวเคราะห์ช่วงเดือน พฤศจิกายน คศ 2014 - update 1 พฤศจิกายน
ในเดือนพฤศจิกายนจะเป็นเดือนที่มีการเรียงตัวของดาวเคราะห์เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในแนวตั้งฉากระหว่างวันที่ 2-10 และในแนวเส้นตรงระหว่างวันที่ 26-28 ซึ่ง คาดว่าปริมาณจุดดับจะลดลงต่ำสุดในช่วงวันที่ 10 พฤศจิกายน และในช่วงวันที่ 26-28 พฤษจิกายน และคาดว่าจะเป็นช่วงที่โลกจะมีความเสี่ยงต่อปฏิกริยาใต้ผิวดินมากกว่าปกติ ส่วนช่วงที่ปริมาณจุดดับจะเพิ่มขึ้นสูงสุดอีกครั้งคาดว่าจะอยู่ระหว่างวันที่ 14-18 พฤศจิกายน
http://www.truth4thai.org/oldsite/planetaryalignment/Nov_2014

ระวังหน่อยนะครับ ร่างกาย ความเจ็บป่วย อารมร์ จิตใจ

Space Weather Alerts from SWPC

 

อาบแสงเพ็ญคืนลอยกระทง...ความเชื่อโบราณเสริมมงคลชีวิต
โพสต์เมื่อ : 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา 00:00:00

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม



"ความเชื่อ" เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนไทยมานานแสนนาน จึงไม่แปลกที่ในเทศกาลวันสำคัญต่าง ๆ เราจะได้ยินชื่อของพิธีกรรม และความเชื่อมากมายที่เราอาจไม่เคยรู้ อย่างเช่น "วันลอยกระทง" นอกจากจะมีพิธีลอยกระทง เผาเทียนเล่นไฟ ปล่อยโคมลอย การประกวดนางนพมาศ อย่างที่เรารู้จักกันดีแล้ว อีกหนึ่งพิธีกรรมความเชื่อที่ชาวบ้านบางแห่งปฏิบัติกันก็คือ "พิธีอาบน้ำเพ็ญ" หรือ "อาบแสงเพ็ญ"

สำหรับ "พิธีอาบน้ำเพ็ญ" นี้ เป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่โบราณ ที่คนเชื่อกันว่า การได้อาบน้ำตามแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ หรือแม้แต่อาบน้ำในภาชนะที่รองไว้ในที่โล่งแจ้งกลางแสงจันทร์ในวันพระจันทร์ เต็มดวง ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 และอธิษฐานในสิ่งดี ๆ จะช่วยเสริมบารมี และสิริมงคลให้แก่ชีวิต เพราะน้ำที่ต้องแสงจันทร์จะช่วยชำระบาป สาปส่งสิ่งที่ไม่ดี ช่วยสะเดาะเคราะห์ และขจัดสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายให้หายไปจากจิตใจและร่างกาย

ทั้งนี้ พิธีดังกล่าวเป็นการเอาเคล็ดเอาชัยซึ่งถือปฏิบัติกันมาในบางแห่ง และในบางครอบครัวที่มีความเชื่อเท่านั้น ไม่ได้เป็นที่แพร่หลายมากนัก ในสมัยก่อน ผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่มักจะเป็นบุคคลที่ได้รับรู้มา หรือได้รับการสืบทอดวิชาประเภทศาสตร์ลี้ลับ ไม่เป็นที่เปิดเผยแก่บุคคลหรือสาธารณชนทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้ ยังมีวัดบางแห่งที่มีการกระทำพิธีกรรมนี้เป็นประจำทุกปีในคืนวันลอยกระทง ที่จะมีพระสงฆ์ และฆราวาสมาร่วมพิธีในลานกลางแจ้ง และใช้น้ำที่พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์แล้ว บางแห่งก็จะมีสายสิญจน์โยงสู่ภาชนะที่เก็บน้ำต่อเนื่องไปยังผู้เข้าร่วมพิธี ทุกคน เพื่อให้มนต์และคาถาแผ่เมตตาเชื่อมโยงไปให้บังเกิดแต่สิ่งที่ดี มีความสำเร็จ มีความสุข สุขภาพแข็งแรง



สำหรับช่วงเวลาที่คนนิยมทำพิธีอาบแสงเพ็ญก็คือ ช่วงที่พระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นเห็นประกายแสงจ้าอยู่บนฟากฟ้า โดยเฉพาะช่วงเที่ยงคืน ที่ดวงจันทร์อยู่ตรงศีรษะพอดี ถือเป็นช่วงที่มีมนต์ขลัง และมีพลังมากที่สุด ที่เราจะสามารถดูดพลังจากพระจันทร์ได้ และในบางพื้นที่อาจไม่จำเป็นต้องอาบน้ำ หรือใช้น้ำเป็นสื่อกลางในการดูดพลังเลยก็ได้

ขณะเดียวกัน ยังมีข้อมูลระบุด้วยว่า "พิธีอาบแสงเพ็ญ" ในสมัยโบราณ เป็นพิธีทางไสยเวท ว่ากันว่า ผู้หญิงที่ทำพิธีนี้จะมีเสน่ห์เป็นที่รักใคร่จากเพศตรงข้าม ส่วนผู้ชายที่มีวิชาคาถาอาคมก็จะกระทำพิธีอาบแสงเพ็ญ เพื่อให้วิชาแกร่งกล้ามากยิ่งขึ้น และหากใครเจ็บไข้ได้ป่วย การอาบแสงเพ็ญก็จะช่วยให้อาการดีขึ้น แม้แต่เด็กนักเรียนที่ได้อาบแสงเพ็ญก็จะช่วยให้ความจำดีขึ้นด้วย

ก็เป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมความเชื่อของคนโบราณที่คนรุ่นใหม่ควรจะรู้จักไว้ เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงคติ และวิถีชีวิตของคนไทยสมัยก่อนอย่างเห็นได้ชัด...

 

ปีนี้ก็มีจัดน่ะครับ เมื่อวานผมเดินผ่านวัดสุทัศน์ และได้เดินเข้าไปถามแล้วครับ จัดวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 วันลอยกระทงครับ



อาบน้ำเพ็ญตำรับ'สังฆราช (แพ)'สิริมงคลคืนลอยกระทง ศาสนา-พระเครื่อง : ข่าวทั่วไป
วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2556
อาบน้ำเพ็ญตำรับ'สังฆราช (แพ)'สิริมงคลคืนลอยกระทง ที่วัดสุทัศนเทพวราราม เรื่องและภาพไตรเทพ ไกรงู
"วันลอยกระทง" ปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ ที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ วันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๑๒ เป็นเทศกาลสำคัญวันหนึ่งซึ่งชาวไทยทั้งประเทศตลอดจนชาวต่างชาติต่างก็รอคอยเพื่อร่วมงานอันชวนตื่นตาตื่นใจกับประเพณีที่สำคัญ



ในคืนวันเดียวกันนี้มีพิธีสำคัญอีกอย่างหนึ่งซึ่งนิยมประกอบในวันเดียวกัน และกำลังเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะเชื่อว่าเป็นพิธีที่ช่วยเสริมบารมีสะเดาะเคราะห์ เพิ่มพลังวาสนา นั่นคือ พิธีอาบน้ำเพ็ญ แต่เดิมนิยมประกอบพิธีในเดือน ๓ ตรงกับวันมาฆบูชาของทุกๆ ปี ต่อมามีการจัดขึ้นในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ เพราะถือเป็นวันที่สายน้ำทุกแห่งทั่วโลกมีความบริสุทธิ์ใสสะอาด ปีหนึ่งจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น

พิธีอาบน้ำเพ็ญ ปรากฏหลักฐานตามหนังสือพระราชพิธี ๑๒ เดือน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ความว่า "วันนี้ ทางศาสนาพราหมณ์เรียกว่า ศิวาราตรี ตอนเช้าพวกพราหมณ์จะนำหม้อทองเหลืองเดินทูนศีรษะไปยังแม่น้ำคงคา นั่งตามริมฝั่งน้ำแล้วใช้หม้อตักน้ำขึ้นมาบริกรรมคาถา แล้วนำมาล้างหน้าบ้วนปาก จากนั้นก็กระโดดลงไปในแม่น้ำคงคา ดำลงไปในน้ำ ๓ ครั้ง โกยดินตมที่อยู่ในน้ำมาฟอกถูตัวแทนสบู่แล้วจึงใช้น้ำชำระล้างถูตัวให้สะอาด เสร็จแล้วจึงเอาหม้อตักน้ำขึ้นมานุ่งผ้าให้เรียบร้อย เดินทูนหม้อน้ำมุ่งหน้าสู่เทวสถานเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป การปฏิบัติเช่นนี้ถือว่าได้อาบน้ำชำระบาปที่ได้ทำมาทั้งหมด"

สำหรับตำรับพิธีการอาบน้ำเพ็ญที่เลื่องชื่อ คือ การอาบน้ำเพ็ญของสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) อดีตเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ ซึ่งท่านจะอาบในวันเพ็ญเดือน ๑๒ เท่านั้น การอาบนั้นท่านจะให้อาบกลางแจ้ง โดยรอฤกษ์ที่พระจันทร์ลอยเด่นอยู่กลางศีรษะ ในช่วงเวลานั้นจะพบว่าเงาของพระจันทร์จะลอยอยู่กลางขันน้ำมนต์พอดิบพอดี เพราะทุกครั้งที่พระจันทร์เต็มดวง แรงพลังอำนาจจากพระจันทร์จะทำให้น้ำในโลกถูกยกตัวสูงขึ้นกว่าธรรมดาทั่วไป ซึ่งว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องแปลกตามธรรมชาติ

เมื่อเป็นเช่นนี้โบราณจารย์จึงได้จัดพิธีอาบน้ำเพ็ญ ผู้ที่เข้าพิธีอาบน้ำเพ็ญมีคติความเชื่อสืบต่อกันมาว่า น้ำในวันนี้เกิดจากพลังเทพประทานพร น้ำทุกหยดมีเทพในภพในภูมิต่างๆ ประกอบกับน้ำทุกสายที่ไหลบ่ามาจากป่าเขาลำเนาไพร ล้วนไหลผ่านดงสมุนไพรนานาพันธุ์ สารพัดคุณสารพัดประโยชน์ที่สามารถช่วยบำบัดเยียวยารักษาโรคได้ทุกชนิด ทำให้ผู้ได้อาบและดื่มกินมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน ผิวพรรณผ่องใส และอายุยืน

ส่วนพิธีอาบน้ำเพ็ญ ที่ถือปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน มักเป็นพิธีที่ถูกผสมผสานระหว่างศาสนาพราหมณ์กับพุทธ เพื่อให้เกิดพลังความเข้มขลัง เช่น มีการสร้างวัตถุมงคล พร้อมทั้งได้อาราธนาพระวิปัสสนาจารย์ผู้ทรงสมาธิคุณ เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนทั่วไป จากทั่วประเทศมาร่วมนั่งบริกรรมพระคาถานั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสกให้วัตถุ มงคลและน้ำที่นำมาเข้าพิธีบังเกิดความศักดิ์สิทธิ์ คล้ายกับงานพุทธาภิเษกพระเครื่องทั่วๆ ไป เพื่อให้ผู้ที่เข้าร่วม พิธีอาบน้ำเพ็ญ เกิดกำลังใจกล้าที่จะละชั่วทำแต่ความดี เสริมสร้างบารมีให้แก่ตนเองตลอดไป

สิริมงคลอาบน้ำเพ็ญ
"พระครูใบฎีกาพิทยา ญาณิกวังโส" พระผู้รับผิดชอบดูแลพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวราราม กล่าวว่า เนื่องด้วยวันสำคัญในทางศาสนาพุทธ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ หรือที่เรียกว่า "คืนเพ็ญ" จึงเกิดเป็นพิธีกรรมหนึ่งขึ้นมาคือ "พิธีอาบน้ำเพ็ญ" เพราะเชื่อว่าเมื่ออาบน้ำเพ็ญแล้วจะโชคดีมีลาภ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม ทำให้ชะตาชีวิตรุ่งโรจน์ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน

พิธีอาบน้ำเพ็ญเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งใน "ประเพณีลอยกระทง" คือ เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนที่พระจันทร์เต็มดวงตรงศีรษะ ก็จะลงอาบน้ำเพ็ญตามแม่น้ำลำคลอง พิธีการอาบน้ำมนต์น้ำเพ็ญนั้น มีบันทึกไว้เป็นหลักฐานคือการประกอบพิธีอาบน้ำเพ็ญที่วัดสุทัศนเทพวราราม สมัยสมเด็จพระสังฆราช (แพ) วัดสุทัศน์ เสด็จท่านจะประกอบพิธีเพียงปีละครั้งเท่านั้น โดยเลือกเอาวันเพ็ญเดือน ๑๒ ถือเป็นวันที่พิเศษอย่างยิ่ง

พิธีจะเริ่มจากพระสงฆ์ทำสังฆกรรม สวดพระปาติโมกข์ อันหมายถึงความบริสุทธิ์แห่งสงฆ์ทั้งปวง ต่อด้วยปฐมเทศนา เจริญพระพุทธมนต์ธัมมจักกัปปวัตนสูตร จากนั้นจะเป็นการสวดนพเคราะห์ บูชาเทพยดาประจำวันเกิด เสริมดวงชะตา เสริมวาสนา บารมี โดยพระสงฆ์จะเจริญพระพุทธมนต์ประจำแต่ละวัน สลับกับโหร หรือบัณฑิตอ่านโองการบูชาเทพยดานพเคราะห์ทั้ง ๙

ต่อด้วยเจริญพระคาถาพุทธาภิเษก หมายถึงพระพุทธ มีความยิ่งใหญ่ดุจดวงอาทิตย์ พระธรรม มีความเยือกเย็น งดงามดุจพระจันทร์ พระสงฆ์ เปรียบเหมือนดวงดาวที่รายล้อมอยู่ บารมี ๑๐ ทัศ สรรเสริญพุทธลักษณะ ๓๒ ประการ อนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ และบทเจริญเมตตาใหญ่ ต่อด้วยเจริญพระคาถาภาณวาร เป็นพระคาถาที่สวดตามวาระ ไม่ค่อยสวดบ่อยนัก เป็นพระคาถาขับไล่เสนียด สิ่งอัปมงคล ป้องกันภัย โรคร้ายต่างๆ และเจริญอายุวัฒนะ

สำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะร่วมจองขันน้ำมนต์นพพระเคราะห์ ร่วมทั้งร่วมพิธีอาบน้ำเพ็ญตำรับพระสังฆราช (แพ) สอบถามรายละเอียดได้ที่วัดสุทัศน์ฯ โทร.๐๘-๑๖๑๙-๖๓๙๖ และ ๐๘-๖๐๙๘-๗๒๑๗

วันเพ็ญวันเพ็ง
วันลอยกระทง เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชาวไทย ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ตามปฏิทินจันทรคติไทย ตามปฏิทินจันทรคติล้านนา มักจะตกอยู่ในราวเดือนพฤศจิกายน ตามปฏิทินสุริยคติ ประเพณีนี้กำหนดขึ้นเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอขมาต่อพระแม่คงคา

ในขณะที่บางหลักฐานเชื่อว่าเป็นการบูชารอยพระพุทธบาทที่ริมฝั่งแม่น้ำนัมทามหานที และบางหลักฐานก็ว่าเป็นการบูชาพระอุปคุตอรหันต์ หรือพระมหาสาวก สำหรับประเทศไทยประเพณีลอยกระทงได้กำหนดจัดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่ติดกับแม่น้ำลำคลอง หรือแหล่งน้ำต่างๆ ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจแตกต่างกันไป

ความเชื่อเกี่ยวกับวันลอยกระทง ๑.เป็นการขอขมาพระแม่คงคาที่มนุษย์ได้ใช้น้ำ ได้ดื่มกินน้ำ รวมไปถึงการทิ้งสิ่งปฏิกูลต่างๆ ลงในแม่น้ำ ๒.เป็นการสักการะรอยพระพุทธบาท ที่พระพุทธเจ้าทรงได้ประทับรอยพระบาทไว้หาดทรายแม่น้ำนัมมทานที ในประเทศอินเดีย ๓.เป็นการลอยความทุกข์ ความโศกรวมถึงโรคภัยต่างๆ ให้ลอยไปกับแม่น้ำ และ ๔.ชาวไทยในภาคเหนือมีความเชื่อว่าการลอยกระทงเป็นการบูชาพระอุปคุต ตามตำนานเล่าว่า พระอุปคุตทรงสามารถปราบพระยามารได้

ส่วนคำว่า "วันเพ็ญ" เป็นวันที่พระจันทร์ขึ้นเต็มดวง ได้แก่วัน กลางเดือน หรือวันขึ้น ๑๕ ค่ำของทุกเดือนนับตามจันทรคติ เช่น วันเพ็ญเดือนหก ก็คือ วันกลางเดือน ๖ หรือวันขึ้น ๑๕ เดือน ๖ วันเพ็ญเดือนสิบสอง ก็คือวันกลางเดือน ๑๒ ก็คือวันกลางเดือน ๑๒ หรือวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒

ทั้งนี้ คนภาคเหนือมักออกเสียง "วันเพ็ญ" ว่า "วันเพ็ง" จึงเรียกประเพณีลอยกระทงแบบล้านนาว่า ประเพณียี่เป็ง โดยคำว่า ยี่ แปลว่า สอง ส่วน เป็ง แปลว่า เพ็ญ หรือคืนพระจันทร์เต็มดวง ซึ่งหมายถึงประเพณีในวันเพ็ญเดือนสองของชาวล้านนา

 

"เทสโก้" ผ่าทางตัน รีเทลไทยลุ้นอนาคต "โลตัส"
updated: 03 พ.ย. 2557 เวลา 12:30:18 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์



กลายเป็นว่า "เทสโก้ โลตัส" ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของไทยในยามนี้ เป็นธุรกิจตกอยู่ภายใต้ความสนใจอย่างต่อเนื่องทั้งจากนักลงทุนไทยและต่างประเทศ หลังจากหลังบริษัทแม่ประสบปัญหาขาดความน่าเชื่อถืออย่างหนัก ภายหลังตรวจพบว่ารายงานผลประกอบการผิดพลาด ผลกำไรสูงกว่าความเป็นจริง ตามมาด้วยการจัดขบวนผู้บริหารใหม่และกอบกู้ยอดขายครั้งใหญ่ รวมถึงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การเงินที่กำลังรุมเร้าอย่างหนัก

ขณะที่ความเคลื่อนไหวที่เกิดกับเทสโก้ โลตัส ในขณะนี้ได้รับความสนใจจากแวดวงธุรกิจของไทยอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเทสโก้ โลตัสดำเนินธุรกิจมานานกว่า 20 ปี และในหลากหลายรูปแบบ อาทิ ไฮเปอร์มาร์เก็ต, เอ็กซ์ตร้า, ดีพาร์ตเมนต์สโตร์, คุ้มค่า, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ตลาด, เอ็กซ์เพรส, ร้านสะดวกซื้อ 365 และล่าสุดคือโลตัสพลัสมอลล์ มีสาขาทั้งสิ้น 1,800 แห่ง มีพื้นที่ขายและเช่ารวม 2 ล้าน ตร.ม. และมีพนักงานกว่า 36,000 คน แต่ละปีเทสโก้ โลตัส ยังมียอดขายมหาศาล

นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การดำเนินธุรกิจของเทสโก้ในประเทศต่าง ๆ รวมทั้งไทยยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนการเดินทางมาเยือนประเทศต่าง ๆ ที่เทสโก้มีฐานธุรกิจอยู่ รวมถึงประเทศไทยของนายเดฟ ลูว์อิสนั้น ถือเป็นวาระปกติของซีอีโอใหม่ ซึ่งเพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเพียง 8 สัปดาห์ และยังอยู่ในช่วงวางแผนกลยุทธ์และทิศทางการดำเนินธุรกิจ

ประชุมเข้มรีดยุทธศาสตร์

ท่ามกลางกระแสข่าวหาหนทางกู้วิกฤตทางการเงินที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท สื่ออังกฤษรายงานว่า เดฟ ลูว์อิส ซีอีโอคนล่าสุดของเทสโก้ ได้นำคณะผู้บริหารระดับสูงเข้าแคมป์ติวเข้ม โดยยกขบวนตระเวนสำรวจค้าปลีกในบ้าน พร้อมระดมสมองเพื่อรีดกลยุทธ์กู้วิกฤตซึ่งในจำนวนผู้บริหารที่เข้าแคมป์ในครั้งนี้ ปรากฏชื่อของ "โรบินส์ เทอเรล" รักษาการผู้บริหาร เทรเวอร์ มาสเตอร์ ซีอีโอประจำภูมิภาคเอเชีย, เบนนี้ ฮิกกินส์ หัวหน้าธุรกิจธนาคาร และรีเบคการ์ เชลเลย์ ผู้อำนวยการกลุ่มกิจการองค์กรรวมอยู่ด้วย

ทริปนี้นอกจากจะไม่ใช่การเข้าพักในโรงแรมหรูแล้ว เดฟ ลูว์อิส กำหนดให้ผู้บริหารแต่ละคนต้องไปซื้อสินค้าจากทั้งเทสโก้และร้านคู่แข่ง เพื่อมาทำอาหารทั้ง 3 มื้อ เดฟ ลูว์อิสได้ให้เหตุผลกับเดลี่เมล์ของอังกฤษว่า เป็นเรื่องที่ผิดพลาดมากหากคุณอยู่ในธุรกิจนี้แล้วไม่ได้ทุ่มเทเวลาให้กับการตรวจสอบคุณภาพของอาหารและสินค้าที่ตนเองวางขาย พร้อมกันนี้เทสโก้ได้ประกาศขายเครื่องบินเจ็ตสำหรับผู้บริหารรุ่นกัฟสตรีม จี 550 ในราคา 22 ล้านปอนด์

ชี้ชะตาสาขาในเอเชีย

เดอะการ์เดี้ยนของอังกฤษระบุว่า ซีอีโอคนใหม่ของบริษัทเทสโก้เตรียมเดินทางออกจากอังกฤษ โดยคาดว่าจะเป็นสัปดาห์นี้เพื่อสำรวจธุรกิจของเครือข่ายเทสโก้ในต่างประเทศ

จุดหมายแรกที่เขาจะเดินทางไปเยือน ได้แก่ ไทย, มาเลเซีย และเกาหลีใต้ ซึ่งเคยเป็นสาขาที่ทำยอดขายติดอันดับสูงสุดในต่างประเทศ แต่ขณะนี้แรงกดดันทางการเมืองและเศรษฐกิจกำลังกระทบยอดขายในประเทศดังกล่าว

ขณะที่เดอะไทมส์รายงานก่อนหน้านี้ว่า เฮดจ์ฟันด์หลายแห่งกำลังวางแผนเสนอซื้อธุรกิจในเอเชียมูลค่า 9 พันล้านปอนด์ของเทสโก้

โดยที่วาณิชธนกิจหลายแห่งเปิดเผยกับเดอะไทมส์ว่า พวกเขาได้ลงนามในข้อตกลงจะให้คำแนะนำกับบริษัทบริหารหุ้นเอกชน และสถาบันขนาดใหญ่ที่ต้องการจะร่วมเป็นหุ้นส่วนกับผู้ค้าปลีกของเอเชีย และจัดทำข้อเสนอเพื่อประมูลซื้อธุรกิจในเอเชียที่สำคัญของเทสโก้

สำหรับยอดขายที่ตกลง เทสโก้จะต้องคิดหาแผนเพื่อกู้ธุรกิจ และหาวิธีที่ดีที่สุดในการระดมทุนเพื่อบรรเทาภาวะการเงินของบริษัท

ทั้งวงการลุ้นอนาคตโลตัส

รายงานข่าวในวงการค้าปลีกเปิดเผยว่า มีข่าวว่าเทสโก้ โลตัสได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องประเมินราคาทรัพย์สิน ที่ดิน และตัวอาคารต่าง ๆ เตรียมไว้ แต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเพื่อวัตถุประสงค์อะไร อาจเป็นเพียงการเตรียมข้อมูลเพื่อตอบคำถามซีอีโอคนใหม่ก็ได้

ขณะที่ปรึกษาด้านการควบรวมกิจการ บอกกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ไม่แน่ใจว่ากลุ่มทุนภายในประเทศจะให้ความสนใจในเทสโก้ โลตัส เนื่องจากแต่ละรายใช้เงินลงทุนไปมากในช่วงที่ผ่านมา ที่สำคัญยังไม่มีใครรู้ว่าผู้บริหารของบริษัทแม่จะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร

"ถ้ามีการซื้อขายจริง ๆ ราคาคงสูงมาก เพราะตอนดีลคาร์ฟูร์กับบิ๊กซีก็ยังสูงถึง 868 ล้านยูโร"

นักสังเกตการณ์ทางการตลาดประเมินว่า ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับยักษ์ใหญ่รายนี้ย่อมอยู่ในความสนใจอย่างแน่ นอน เท่าที่ทราบแต่ละค่ายต่างติดตามข่าวนี้อย่างใกล้ชิด ไม่เพียงแค่คู่แข่งขัน แต่รวมถึงซัพพลายเออร์ผู้ผลิตสินค้าและพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ

ไม่มีใครละสายตากับการตัดสินใจของเทสโก้ โลตัสในครั้งนี้

"เทสโก้" ผ่าทางตัน รีเทลไทยลุ้นอนาคต "โลตัส" : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

 

Phitsanu Kerdsongkran
เจ๋งอ่ะ...ปลูกกล้วยกลิ่นตามสั่ง !!



ทำเอาตกตะลึงแชร์กันจ้าละหวั่นสำหรับไอเดียเรื่องกล้วยๆ ที่เพิ่มมูลค่าเจ้าพืชชนิดนี้อีกโข “การปลูกพืชตีกลับ และ กล้วยสารพัดกลิ่น” ส่งต่อความรู้จากเฟซบุ๊ก “หมอเกษตรและเทคโนโลยี เพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน” วิธีแสนง่ายแต่ผลลัพธ์สุดเจ๋ง การันตีจากเกษตรกรชาวหนองทะเล จังหวัดกระบี่ และอีกหลายๆ ความคิดเห็นในเฟซบุ๊กต่างยกนิ้วว่าวิธีนี้ได้ผลแจ่มจริง

“การปลูกพืชตีกลับ และ กล้วยสารพัดกลิ่น

ถ้าปลูกกล้วยโดยนำหน่อหรือโคนลงดินเหมือนที่ปลูกกันอยู่ทั่วไปจะได้ต้นกล้วย 1 ต้น เมื่อออกลูกจะได้เครือหนึ่งประมาณ 7-8 หวี แต่ถ้าปลูกเอาปลายลง จะได้ต้นกล้วย 3-4 ต้น ได้กล้วย 3-4 เครือ แต่ละเครือจะได้กล้วยถึง 10 หวี วิธีนี้สามารถใช้ได้กับกล้วยทุกชนิด

หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วต้นไม่ตายหรือ "ประมาณ 15 วัน มันจะรีบขึ้นมาอย่างน้อย 3-4 ต้น พร้อมกันเลย พอมันขึ้นมาแล้ว มันจะพึ่งตัวเองคือมันจะกินตัวมันเองที่มีจุลินทรีย์เราไม่ต้องใส่ปุ๋ย

ทั้งนี้ ต้นกล้วยที่ได้จะมีความสูง ไม่เกิน 1.50 เมตร และจะออกเครือเร็วกว่ากล้วยที่ปลูกด้วยการนำหน่อลงดิน ที่สำคัญขนาดของลูกจะใหญ่ขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีวิธีการเพิ่มมูลค่าของกล้วยด้วยวิธีการแต่งกลิ่นเข้าไป อยากได้กล้วยรสทุเรียน รสสตรอเบอรี่ รสวานิลลา รสชอกโกแลต หรือรสสละก็สามารถทำได้ตามใจชอบ จากเดิมขายกล้วยได้หวีละ 10 บาท แต่พอแต่งกลิ่นและรสชาติพวกนี้แล้วสามารถขายได้ถึงหวีละ 45 บาท

การปลูกกล้วย รสทุเรียน สตรอเบอรี่ รสชอกโกแลตวิธีการทำนั้นไม่ยากเลย พอตอนกล้วยออกปลีก็ไปเจาะหรือกรีดลำต้นเป็นรูปสามเหลี่ยมจนถึงไส้ทำให้เกิด แผล

จากนั้นนำหัวเชื้อเข้มข้นและกลิ่นต่างๆ ที่ต้องการ ซึ่งสามารถหาซื้อได้ในท้องตลาดจำพวกเดียวกับที่ใช้ทำกลิ่นไอศครีม ตกขวดละ 10 กว่าบาท นำมาชุบสำลีแล้วยัดเข้าไปในไส้ต้นกล้วย จากนั้นปิดไส้ต้นกล้วยให้เหมือนเดิม สักสองเดือนกล้วยก็สุกและจะได้กล้วยตามกลิ่นที่ใส่เข้าไป”

แถมท้ายยังมีการแบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติมกันในโลกออนไลน์อีกว่า “ควรทำตอนที่กล้วยแทงปลีออกมาใหม่ๆ และยังไม่แตกเป็นเครือต้นกล้วย แล้วลองตัดต้นกล้วยทิ้งไว้ซักคืน ต้นกล้วยจะงอกมาอย่างเร็วมากๆ ค่ะ ไม่เกินสองเดือนเราก็จะได้กล้วยกลิ่นแปลกกว่าเดิม”

โอ้โห บ้านใครมีต้นกล้วยอย่าลืมเอาเคล็ดลับดีๆ แบบนี้ไปลองทดสอบกัน โดยเฉพาะกล้วยมีกลิ่น ไม่ลองไม่ได้แล้ว!!

 

คลายข้อสงสัย!! ทำไมบะหมี่ถ้วยต้องมี ช่องว่าง วันที่ 3 พฤศจิกายน 2557 เวลา 11:12 น.



เป็นความคิดของคุณอันโดที่ออกแบบให้บะหมี่ในถ้วยอยู่ในโครงสร้างแบบ “ชั้นลอย” ที่ ช่วยรองรับเส้นบะหมี่ให้อยู่กลางถ้วย ซึ่งไม่ทำให้แตกหักง่ายระหว่างขนส่ง และด้วยโครงสร้างแบบลอยตัวนี้เอง ยังทำให้เวลาเติมน้ำร้อนลงไป ยังทำให้น้ำไหลผ่านลงไปถึงส่วนล่างของบะหมี่ได้อย่างทั่วถึง ทำให้บะหมี่คืนรูปได้อย่างสม่ำเสมอ

ที่มา : SpokeDark.TV | เจาะข่าวตื้น โมเมพาเพลิน คลิปวีดีโอ คลิปดารา คลิปเด็ดๆ คลิปข่าว ดูทีวี คลิปตลก คลิป

 

Ampaipan Wachaporn

ลาทีโลกนี้! สาวมะกันใช้สิทธิ์ “ฆ่าตัวตาย” หลังป่วยเป็นมะเร็งสมองในวัย 29 ปี
Cr:ผู้จัดการ



บริททานี เมย์นาร์ด วัย 29 ปี หญิงสาวชาวอเมริกันซึ่งป่วยเป็นมะเร็งสมองระยะสุดท้าย และตัดสินใจย้ายไปยังรัฐออริกอนเพื่อขอใช้สิทธิ์ "ฆ่าตัวตาย" ด้วยวิธีทางการแพทย์
เอเอฟพี – หญิงสาวชาวอเมริกันซึ่งป่วยเป็นมะเร็งสมองระยะสุดท้ายตัดสินใจจบชีวิตตัวเองแล้ว หลังประกาศความตั้งใจให้สังคมรับรู้มาระยะหนึ่ง จนทำให้เรื่องสิทธิในการฆ่าตัวตายกลายเป็นประเด็นถกเถียงอย่างกว้างขวาง



บริททานี เมย์นาร์ด ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งสมองด้วยวัยเพียง 29 ปี ตกเป็นข่าวพาดหัวหนังสือพิมพ์หลายฉบับในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา หลังคลิปวีดีโอที่เธอประกาศจะฆ่าตัวตายแพร่ไปในโลกอินเทอร์เน็ตจนมีผู้ชมนับล้านๆ คน
“ลาก่อนเพื่อนๆ และครอบครัวที่ฉันรัก วันนี้เป็นวันที่ฉันตัดสินใจตายอย่างมีเกียรติหลังจากที่ป่วยหนัก โรคมะเร็งสมองทำให้ฉันสูญเสียอะไรไปมากมาย... แต่อาจจะสร้างความสูญเสียไปมากกว่านี้”
“โลกนี้ช่างสวยงามนัก สำหรับฉันการท่องเที่ยวคือครูที่ยิ่งใหญ่ เพื่อนสนิททุกคนคือผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ แม้ขณะที่ฉันพิมพ์ข้อความอยู่นี้ก็มีกำลังใจอยู่รายรอบเตียง... ลาก่อนโลกนี้ จงเผยแพร่พลังที่ดี จงจ่ายมันออกไปให้ผู้อื่น”



ฌอน ครอว์ลีย์ โฆษกองค์กร Compassion & Choices ซึ่งเป็นกลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิในการจบชีวิตตนเอง ระบุว่า เมย์นาร์ด สิ้นลมหายใจลงอย่างสงบที่บ้านของเธอเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา



“บริททานี มีอาการชักบ่อยขึ้นและนานขึ้น ปวดหัวและปวดคออย่างรุนแรง และมีอาการคล้ายคนเป็นโรคหลอดเลือดสมอง... เธอได้จบชีวิตลงอย่างที่ตั้งใจไว้ ตายอย่างสงบบนเตียงนอนของเธอ ในอ้อมแขนของคนที่เธอรัก” ครอว์ลีย์ กล่าว
บาร์บารา คูมส์ ลี ประธานกลุ่ม Compassion & Choices แถลง “บริททานี จากไปแล้ว แต่ความรักในชีวิตและธรรมชาติ ความหลงใหล และจิตวิญญาณของเธอยังคงอยู่”
“เพื่อรำลึกถึง บริททานี ขอให้เราทั้งหลายจงลงมือทำในสิ่งที่สำคัญ และบอกคนที่คุณรักว่าพวกเขาสำคัญกับคุณมากเพียงใด องค์กรของเราจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อให้ชาวอเมริกันทุกคนได้มีสิทธิ์ในการเลือกวาระสุดท้ายของเราเอง เหมือนอย่างที่ บริททานี ได้ทำ”
เมย์นาร์ด ให้สัมภาษณ์ต่อ แจน ครอว์ฟอร์ด ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสเมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า “ฉันไม่ได้อยากตาย... ถ้าใครสามารถหยิบยื่นยาวิเศษที่จะรักษาชีวิตฉันไว้ และช่วยให้ฉันมีลูกกับสามีได้ ฉันก็จะรับไว้แน่นอน”
เมื่อเดือนมกราคม แพทย์ระบุว่า เมย์นาร์ด จะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 6 เดือน และมะเร็งร้ายที่กัดกินสมองอาจทำให้เธอต้องตายอย่างเจ็บปวดทรมาน
เวลานั้น เมย์นาร์ด กำลังพยายามมีบุตรคนแรกกับสามี แดน ดิแอซ แต่ก็ล้มเลิกความตั้งใจหลังทราบว่าตนเองป่วยเป็นโรคร้าย
เมย์นาร์ด เริ่มมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงหลังแต่งงานได้ไม่นาน จากนั้นเธอกับสามีก็ตัดสินใจย้ายจากรัฐแคลิฟอร์เนียไปยังรัฐออริกอน ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่รัฐในอเมริกาที่มีกฎหมายรับรอง “สิทธิในการเลือกความตาย” และด้วยเหตุนี้ แพทย์ผู้รักษาจึงสามารถสั่งยาที่จะช่วยจบชีวิตอันทรมานของเธอได้
เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว(30) เมย์นาร์ด ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอใหม่ซึ่งเธอกล่าวว่า อาจจะเลื่อนกำหนดดื่มยาพิษออกไปอีกระยะหนึ่ง แต่ปรากฏว่า “ระยะหนึ่ง” นั้นกลับไม่นานเลย
สื่อทั่วโลกตีแผ่เรื่องราวรันทดของ เมย์นาร์ด และนิตยสาร พีเพิล แม็กกาซีน ซึ่งวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ก็ได้นำรูปของเธอมาขึ้นปกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ตลอดเวลาไม่กี่สัปดาห์มานี้ เมย์นาร์ด ได้ลงมือทำหลายสิ่งหลายอย่างที่เธอปรารถนาจะทำก่อนจากโลกนี้ไป ซึ่งรวมถึงการไปเที่ยว “แกรนด์แคนยอน” เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

จับตาอุกกาบาตยักษ์ลูกใหม่ภัยคุกคามโลก



กล้องโทรทรรศน์หุ่นยนต์ของรัสเซีย ตรวจจับอุกกบาตยักษ์ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 370 ม. ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะพุ่งชนโลก แม้จะไม่ใช่ในเร็วๆ นี้ก็ตาม
วันอังคาร 4 พฤศจิกายน 2557 เวลา 21:50 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ว่า กล้องโทรทรรศน์หุ่นยนต์ "มาสเตอร์" (MASTER) ซึ่งตั้งอยู่ในเทือกเขาคอเคซัส ใกล้เมืองคีสโลวอดสก์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ตรวจพบอุกกาบาตยักษ์ "2014ยูอาร์116" มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 370 ม. อยู่ห่างจากโลกราว 4.5 ล้านกม. โดยมีความเป็นไปได้ว่าจะพุ่งเข้าชนโลกในอนาคต ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจะก่อให้เกิดการระเบิดมหาศาล รุนแรงกว่าแรงระเบิดจากอุกกาบาตที่ตกลงในเมืองเชลยาบินสค์ของรัสเซีย เมื่อปี 2556 ถึง 1,000 เท่า อุกกาบาตเชลยาบินสค์มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 17 ม. แม้จะแตกตัวก่อนตกถึงพื้นเป็นระยะทางกว่า 20 กม. แต่ก็มีแรงระเบิดถึง 300-500 กิโลตัน
อย่างไรก็ตาม แม้อุกกาบาตลูกนี้จะยังเดินทางมาไม่ถึงโลกภายใน 6 ปีนี้ รวมถึงยังมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลถึงวิถีการโคจรของอุกกาบาต เช่นแรงดึงดูดของดาวที่มันโคจรเข้าไปใกล้ แต่นักวิทยาศาสตร์จะต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวของมันอย่างใกล้ชิด.
จับตาอุกกาบาตยักษ์ลูกใหม่ภัยคุกคามโลก | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

In & Outside World
อุกกาบาต 2014 UR116



อุกกาบาตที่รัสเซียค้นพบเมื่อ ปี 2013 แต่เพิ่งแจ้งชาวโลก และมีเพียงข่าวจากทางรัสเซีย
....อุกกาบาต 2014 UR116 มีวิถีโคจร ห่างโลกประมาณ 4.5 ล้านกม หรือประมาณ 0.03020134 AD แต่รัสเซียไม่แจ้ง LD
...ซึ่งผมคาดว่า LD น่าจะสักประมาณ 20+ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อโลก
นอกจากวิถีโคจรเปลี่ยนแปลง
............
สิ่งที่น่าคิดจากข่าว...
..คุณรัสเซีย พบอุกกาบาต 2014 UR116 เมื่อปี 2013 แต่เพิ่งแจ้งชาวโลก ปี 2014 จะแจ้งเพื่อ ?
..และหากอนาคต คุณรัสเซีย พบเจอ อุกกาบาตที่อาจส่งผลรุนแรงต่อโลกจริง คุณรัสเซีย จะใช้เวลานานแค่ไหน ที่จะแจ้งชาวโลกและเราผู้ด้วย เทคโนโลยี
.........
(ส่วนตัวไม่เชื่อว่า 2014 UR116 จะมีผลกระทบต่อโลก)
..........
อุกาบาต ที่อาจส่งผลต่อโลก นอกจากขนาด มวลประกอบ แล้วยังมีวิถีโคจร
AD ระยะห่างจากโลก - ดวงอาทิตย์ และ LD ระยะห่างจากโลกเรา - ดวงจันทร์
..หากอุกกาบาต มีขนาดใหญ่ และ LD น้อยกว่า 0.5 ค่อยมาว่ากัน ...
...และดาวตกที่ สหรัฐและญี่ปุ่น วันนี้ไม่มีแจ้งล่วงหน้า 1 ไม่รู้มาก่อน 2 ไม่เปิดเผยข้อมูล
...และโลกเราแต่ละวันมี ดาวตกมากกว่าล้านลูก เกือบทั้งหมดเป็นชิ้นเล็กที่ สามารถเผาไหม้หมดในชั้นบรรยากาศโลก
http://rt.com/news/201827-dangerous-asteroid-discovered-ur116/

 

บันทึกการเข้าชนโลกของดาวเคราะห์น้อยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
Filed under: ภัยพิบัติ — Mr.Vop พฤษภาคม 6, 2011

NASA นิยามคำว่า Potentially Hazardous Asteroids (PHAs) คือดาวเคราะห์น้อยอันตรายที่มีวงโคจรเฉียดโลก โดยหลักเกณฑ์การจัดดาวเคราะห์น้อยเป็น PHA น้้นต้องมีขนาดใหญ่กว่า 100 เมตรและโคจรเฉียดโลกที่ระยะ 0.05 LD (ระยะห่างระหว่างโลกและดวงจันทร์โดยเฉลี่ย = 1 LD หรือ 384,401 กิโลเมตร)


@แนวควันที่เหลือจากการระเบิดของดาวเคราะห์น้อย 2008TC3 (ภาพจาก Shaddad)
หลายปีที่ผ่านมา ได้มีอาสาสมัครทั่วโลกช่วยกันตรวจสอบ สอดส่องและส่งข้อมูลการตรวจพบ PHA ต่างๆรวมถึงดาวเคราห์น้อยที่เข้าใกล้โลกในระยะอันตรายเพื่อส่งข้อมูลเข้าสู่ NASA ให้จัดทำทะเบียนรวมทั้งหางป้องกันอันตราย
แต่ก็ยังมีหลายๆกรณีที่ดาวเคราะห์น้อยหรือก้อนหินยักษ์พวกนี้ หลุดเข้าสู่บรรยากาศโลกได้ ซึ่งถือเป็นอันตรายอย่างยิ่ง เพราะหากวัตถุพวกนี้มีขนาดใหญ่เกิน 100 เมตร ก็จะเกิดความเสียหายมหาศาลซึ่งอาจไม่มีใครป้องกันได้ทัน
ยกตัวอย่าง 2008TC3 ซึ่งได้พุ่งเข้าสู่โลกและระเบิดขึ้นในบรรยากาศสูงขึ้นไป 37 กิโลเมตรเหนือน่านฟ้าของประเทศซูดาน เมื่อเวลา 9:46 น. ตามเวลาประเทศไทยในวันที่ 7 ตุลาคม 2008 ซึ่งดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ถูกค้นพบก่อนหน้านั้นเพียงหนึ่งวันเท่านั้น (สังเกตจากชื่อดาวเคาาะห์น้อยจะนำหน้าด้วยปีที่ค้นพบ)
จากขนาดที่ค่อนข้างเล็ก (3 เมตร) แต่การระเบิดจากการพุ่งชนก็มีความแรงเทียบเท่าระเบิดทีเอ็นทีหนึ่งกิโลตัน ส่องแสงสว่างพอกับพระจันทร์เต็มดวง
หากมีขนาดใหญ่กว่านี้ โดยเฉพาะเข้าขั้น PHA และเข้าชนโลกในระยะเวลาที่เรารู้ล่วงหน้าเพียง 1 วัน อะไรจะเกิดขึ้นนั้นไม่ต้องจินตนาการถึงความเลวร้าย
ดีที่ 2008TC3 มีขนาดเล็กจึงระเบิดหายไปในท้องฟ้าก่อน โดยแตกเป็นชิ้นส่วนเล็กๆราว 280 ชิ้นตามรายงานนี้ กด
ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2552 ก็ได้เกิดเหตุการณ์น่ากล้วขึ้นอีกครั้ง โดยได้มีการเข้าสู่บรรยากาศโลกโดยดาวเคราะห์น้อยอีกดวง และได้ระเบิดขึ้นเหนือท้องฟ้าประเทศอินโดนีเซียที่ระดับความสูง 15-20 กิโลเมตร คาดว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 10 เมตร พุ่งเข้าสู่บรรยากาศด้วยความเร็ว 72,000 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แรงระเบิดครั้งนี้รุนแรงกว่าระเบิดนิวเคลียร์สมัยสงครามโลกที่ฮิโรชิมาถึง 3 เท่า แต่เนื่องจากเกิดระเบิดแตกตัวที่ความสูงมากจึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายใดนอกจากแสงสว่างและเศษหินที่ตกกระจายไปทั่ว (ดูรายงานของ NASA)



บันทึกการเข้าชนโลกของดาวเคราะห์น้อยช่วง 3 ปีที่ผ่านมา | Mr.Vop's Blog

 

ชาวบ้านแตกตื่น!ลูกบอลไฟปริศนาพุ่งผ่านท้องฟ้าญี่ปุ่น(ชมคลิป)
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤศจิกายน 2557 04:00 น.

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/BaBTJ6S7T10" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/Dmoi8ccvp9A" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>[/IMG]


เจแปนไทม์/บีบีซี - เหล่าหอดูดาวและหน่วยงานอื่นๆของญี่ปุ่น ได้รับแจ้งเหตุพบเห็นวัตถุเปล่งแสงคล้ายลูกบอลยักษ์พุ่งผ่านน่านฟ้าเมืองต่างๆทางตะวันตกของประเทศเมื่อค่ำคืนวันจันทร์(3พ.ย.) ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดข่าวลือไปต่างๆนานา อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันน่าจะเป็นดาวตก



หอดูดาวโฮชิ โน บันกากัน ในจังหวัดฟุกุโอะกะ หนึ่งในหอดูดาวใหญ่ที่สุดของเกาะเคียวชู ได้รับแจ้งปรากฏการณ์ประหลาดบนท้องฟ้าจากผู้พบเห็นคนหนึ่ง ขณะที่หอดูดาวอื่นๆในจังหวัดฟุกุโอกะ จังหวัดฮิโรชิมาและจังหวัดเอฮิเมะ ต่างก็ได้รับรายงานแบบเดียวกัน



ทั้งนี้กล้องวงจรปิดที่ควบคุมจากระยะไกลของสนามบินฟุกุโอะกะ สามารถบันทึกภาพวัตถุดังกล่าวเปร่งแสงสีเขียวเข้มระหว่างที่มันพุ่งผ่านท้องฟ้า แต่กล้องบริเวณท่าเรือฮากาตะ กลับพบเห็นว่ามันเป็นสีส้มจางๆ และการพบเห็นดังกล่าวกระตุ้นข่าวลือต่างๆนานาบนอินเตอร์เน็ต
ฮิเดฮิโกะ อากาตะ รองศาสตราจารย์หอดูดาวแห่งชาติของญี่ปุ่น บอกว่าหลังจากได้ดูวิดีโอแล้ว สันนิษฐานว่ามีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่มันจะเป็นดาวตก และเศษซากที่เหลืออยู่ของมันอาจดิ่งลงสู่ทะเลไปแล้ว "ตอนนั้นเป็นช่วงหัวค่ำและสภาพอากาศปลอดโปร่ง ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้หลายคนพบเห็นมัน" เขากล่าว

 

สหรัฐจำคุก16ปีหญิงมะกันตั้งมหาลัยลวงโลก



ศาลสหรัฐจำคุกหญิงคนหนึ่งเป็นเวลา 16 ปีในความผิดปลอมแปลงเอกสารและตั้งมหาวิทยาลัยลวงโลก

วันพุธ 5 พฤศจิกายน 2557 เวลา 09:57 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซานฟรานซิสโกรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐเมื่อวันที่ 5พ.ย.ว่า ศาลสหรัฐพิพากษาจำคุกหญิงคนหนึ่งเป็นเวลากว่า16 ปีในความผิดที่อัยการบอกว่าตั้งมหาวิทยาลัยเก๊เป็นเครื่องบังหน้าเพื่อดำเนินการลักลอบนำผู้อพยพเข้าเมือง ซูซาน เสี่ยว-ผิงซู ผู้ก่อตั้งและประธานมหาวิทยาลัยไทร-แวลลีย์ ถูกศาลจำคุกไม่ต่ำกว่า 16ปี และปรับเงิน 5.6ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว179 ล้านบาท รวมทั้งชดใช้ค่าเสียหายกว่า900,000 ดอลลาร์หรือราว28 ล้านบาท

ซูซานถูกพิพากษาว่ามีความผิดในข้อหาปลอมวีซาและอื่นๆ หลังพนักงานหลายคนของไทร-แวลลีย์ให้การว่า มหาวิทยาลัยลวงโลกดังกล่าวไม่มีการสำเร็จการศึกษาจริง อีกทั้งซูซานบอกต่อพนักงานให้ปลอมแปลงใบรับรองการศึกษาและเอกสารอื่น ขณะที่ อัยการของรัฐบาลกลางสหรัฐกล่าวว่า ซูซานขายเอกสารที่เกี่ยวพันกับวีซาเพื่อให้ชาวต่างชาติส่วนใหญ่เป็นคนอินเดียเข้ามาอาศัยในสหรัฐ

สหรัฐจำคุก16ปีหญิงมะกันตั้งมหาลัยลวงโลก | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

“โปโรเชนโก” ขู่ทบทวนแผนสันติภาพ-ยัวะกบฏโปรรัสเซียจัดเลือกตั้ง “ผู้นำยูเครนตะวันออก” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2557 09:34 น.


----
@ประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครน
---

เอเอฟพี – ประธานาธิบดี เปโตร โปโรเชนโก แห่งยูเครนขู่จะทบทวนแผนสันติภาพที่ทำร่วมกับกบฏแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียในภาคตะวันออก เมื่อวานนี้(3) หลังฝ่ายกบฏได้จัดการเลือกตั้งผู้นำแคว้นเพื่อแสดงถึงความเป็นอิสระไม่ขึ้นตรงต่อกรุงเคียฟ
โปโรเชนโก เปิดแถลงข่าวโดยระบุว่า การเลือกตั้ง “จอมปลอม” เหล่านั้นถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่ทำไว้เมื่อเดือนกันยายน และหลังจากนี้ ตนกับหัวหน้าหน่วยงานความมั่นคงจะต้อง “ทบทวน” จุดยืนที่กรุงเคียฟมีต่อข้อตกลงหยุดยิง รวมถึง “ยกเลิก” รายละเอียดสำคัญที่เป็นการยินยอมให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนได้มีสิทธิ์ปกครองตนเองภายในเส้นเขตแดนยูเครนปัจจุบัน

การเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์(2) มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างความชอบธรรมแก่ฝ่ายบริหารของกบฏ ซึ่งได้ยึดครอง 2 เขตใหญ่ในภาคตะวันออกของยูเครนเอาไว้ตั้งแต่สงครามปะทุขึ้นเมื่อเดือนเมษายน

รัสเซียซึ่งถูกตะวันตกกล่าวหาว่าหนุนหลังกบฏยูเครนโดยตรงได้ประกาศยอมรับผลเลือกตั้ง โดยอ้างว่า “เคารพเจตจำนง” ของประชาชนในยูเครนตะวันออก ขณะที่สหรัฐฯ ประณามการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าน่าละอาย และยังตำหนิรัสเซียที่ยอมรับรองผลการเลือกตั้งที่ผิดกฎหมาย

ทำเนียบขาวแถลงว่า “การเลือกตั้งที่น่าละอายเช่นนี้ฝ่าฝืนทั้งรัฐธรรมนูญยูเครน... และหลักการเลือกตั้งขั้นพื้นฐานที่สุด” ส่วนกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ได้เตือนมอสโกว่า การยอมรับผลเลือกตั้ง “จะยิ่งทำให้รัสเซียถูกโดดเดี่ยวมากขึ้น”

โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี ชี้ว่า การที่รัสเซียยอมรับผลเลือกตั้งในยูเครนตะวันออกเป็นสิ่งที่ยากจะเข้าใจได้ และอาจทำให้วิกฤตการณ์ครั้งนี้ยิ่งรุนแรงขึ้นไปอีก

ด้าน พล.อ. ฟิลิป บรีดเลิฟ ผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังนาโต ได้ออกมาเตือนเรื่อง “ความเคียดแค้นของรัสเซีย” ซึ่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ได้ส่งฝูงบินขับไล่นานาชนิดเข้าไปป่วนน่านฟ้ายุโรป จนสร้างความกังวลต่อนาโต

กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ออกมาชี้แจงมุมมองของมอสโกว่า “ผู้ที่ชนะเลือกตั้งถือว่าได้รับมอบอำนาจจากประชาชนให้เข้าไปแก้ไขปัญหาการเมือง และคืนความสันติสุขให้แก่พวกเขา” หลังจากนั้น กริกอรี คาราซิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศแดนหมีขาว ยังออกมาสำทับอีกว่า กรุงเคียฟควรยุติปฏิบัติการทางทหารในยูเครนตะวันออก และยอมพูดคุยกับฝ่ายกบฏในฐานะคู่เจรจาที่มีความเท่าเทียมกัน


---
@อเล็กซานเดอร์ ซาคาร์เชนโก ว่าที่ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์
---
ที่นครนิวยอร์ก รัสเซียยังได้ใช้สิทธิ์วีโตมติวิจารณ์ผลเลือกตั้งในยูเครนตะวันออกโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วย
ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ ออลลองด์ แห่งฝรั่งเศส ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียคือสิ่งจำเป็น แต่คว่ำบาตรอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ “เป้าหมายหลักอยู่ที่การโน้มน้าวให้รัสเซียและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนยอมลดการเผชิญหน้า และกลับสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้ง”
ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงซึ่งมีรัสเซียร่วมลงนามด้วยนั้น ฝ่ายยูเครนและกบฏจะต้องยุติความรุนแรง และสร้างกระบวนการอันจะนำไปสู่การให้อำนาจปกครองตนเองเพิ่มขึ้นแก่แคว้นทางตะวันออก ซึ่งพลเมืองส่วนใหญ่มีเชื้อสายรัสเซีย
ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกดินแดนโปรรัสเซียซึ่งกำลังฮึกเหิมกับชัยชนะในการเลือกตั้ง กล่าวตำหนิกรุงเคียฟว่าเป็นต้นเหตุของความรุนแรงที่ไม่จบสิ้น
“รัฐบาลยูเครนไม่ได้ต้องการสันติภาพจริงดังอ้าง เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังตีสองหน้า” อเล็กซานเดอร์ ซาคาร์เชนโก ซึ่งได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์หมาดๆ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
ผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการระบุว่า ซาคาร์เชนโก วัย 38 ปี ซึ่งเป็นผู้บัญชาการสูงสุดในเมืองโดเนตสก์อย่างไร้เสียงคัดค้าน ได้คะแนนโหวตถึง 75% จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ประมาณ 1 ล้านเสียง ส่วนที่เมืองลูกานสก์ อิกอร์ พล็อตนิตสกี อดีตนายทหารยุคสหภาพโซเวียตซึ่งเป็นผู้นำกบฏ คว้าชัยชนะไปด้วยคะแนนโหวต 63%

 

ผู้นำกบฏยูเครนสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ



ผู้นำกบฏแบ่งแยกดินแดนในยูเครน เข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

วันอังคาร 4 พฤศจิกายน 2557 เวลา 20:46 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเขตโดเนตสก์ประเทศยูเครน เมื่อวันที่4พ.ย.ว่านายอเลกซานเดอร์ ซากาเชนโกผู้นำของกบฏแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครนเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันอังคารในโรงละครแห่งหนึ่ง ในเขตโดเนตสก์ฐานที่มั่นสำคัญของกบฏท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดหลังการเลือกตั้งเมื่อวันที่2พ.ย.ที่ผ่านมาซึ่งถูกประณามจากชาติตะวันตกว่ากำลังบ่อนทำลายเสถียรภาพ

กบฏแบ่งแยกดินแดนจัดการเลือกตั้งขึ้นทั้ง ๆ ที่นายซาการ์เชนโกไม่มีคู่แข่งขันที่เหมาะสมแต่ก็เป็นการเลือกตั้งเพื่อแสดงเจตจำนงในการเดินหน้าไปสู่เป้าหมายการแย่งแยกดินแดนของพวกเขาอย่างไรก็ตาม รัฐบาลยูเครนและตะวันตกกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ทำให้ข้อตกลงหยุดยิงที่ผ่านความเห็นชอบร่วมกันเมื่อต้นเดือนก.ย.ตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่งทั้งนี้ ข้อตกลงหยุดยิงที่ลงนามโดยผู้นำกบฏและเจ้าหน้าที่ยูเครนและรัสเซียกำหนดให้จัดการเลือกตั้งท้องถิ่นได้ทั่วภาคตะวันออกของยูเครนแต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของยูเครนเท่านั้น

ขณะเดียวกันนางอังเกลา แมร์เคิลนายกรัฐมนตรีเยอรมนีย้ำความไม่พอใจของเธอต่อบทบาทของรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อวันอังคารและกล่าวว่าไม่มีเหตุผลที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปหรืออียูต่อรัสเซีย

รัสเซียสนับสนุนการจัดการเลือกตั้งของกลุ่มกบฏในภาคตะวันออกของยูเครนซึ่งชาติตะวันตกกล่าวว่ากำลังทำลายข้อตกลงสันติภาพที่ลงนามกันในกรุงมินสก์เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา

นางแมร์เคิลกล่าวว่าจุดมุ่งหมายของเธอยังคงเป็นการแก้ปัญหาทางการทูตแต่เหตุการณ์เมื่อสุดสัปดาห์แสดงให้เห็นว่ามันยุ่งยากมากขนาดไหนในการรักษาข้อตกลงที่ทำกันไว้หากเรามองว่า การเลือกตั้งเป็นสิ่งผิดกฎหมาย

ด้านนายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ซึ่งกล่าวในกรุงเวียนมา กล่าวว่า การเลือกตั้งของกบฏยูเครนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา "น่าเสียดายและไม่สร้างสรรค์" และสถานการณ์ในภาคตะวันออกของยูเครน ยังคงเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง

ผู้นำกบฏยูเครนสาบานตนรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

นักวิจัยชี้ "การทำงานเป็นกะ” ระยะยาว มีส่วนเกี่ยวพันอาการหลงลืม - สมองเสื่อมพลัง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2557 11:37 น.



เอเอฟพี - ผลการศึกษาที่นำออกเผยแพร่วันนี้ (4 พ.ย.) ชี้ว่า คนที่ทำงานเป็นกะเป็นเวลานาน 10 ปีขึ้นไปอาจมีอาการหลงลืม และสมองเสื่อมพลัง นอกจากนี้งานวิจัยชิ้นนี้ยังสะท้อนความกังวลต่ออาชีพที่ต้องเสี่ยงอันตรายอีกด้วย
แม้ว่า คณะนักวิจัยที่ตีพิมพ์รายงานฉบับนี้ในวารสาร “Occupational & Environmental Medicine” จะระบุว่า ยังสามารถย้อนกลับไปแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการทำงานของสมองได้ แต่อาจต้องใช้เวลา 5 ปีเป็นอย่างต่ำ
งานวิจัยนี้ชิ้นนี้นับเป็นการศึกษาล่าสุดที่สะท้อนถึงภัยร้ายของการทำงานเป็นกะ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ทำให้นาฬิกาชีวภาพในร่างกายตีรวน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการศึกษาพบว่า การทำงานลักษณะนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับปัญหาสุขภาพต่างๆ อย่างแผลในกระเพาะอาหาร โรคหลอดเลือดและหัวใจ ตลอดจนมะเร็งบางชนิด
กระนั้น ก็ยังแทบไม่มีการศึกษาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการทำงานของสมอง
คณะนักวิจัยได้ทดสอบความจำทั้งระยะสั้น และระยะยาว, ความเร็วในการประมวลผลข้อมูล และความสามารถในการรับรู้ทั้งหมด จากแรงงานที่ยังทำงานเป็นกะในปัจจุบัน และที่เกษียณอายุแล้วรวมกว่า 3,000 คน โดยประชากรตัวอย่างกลุ่มนี้ทำงานในภาคส่วนต่างๆ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ในปี 1996, 2001 และ 2006
เมื่อทำการทดลองครั้งแรก กลุ่มตัวอย่างราวครึ่งหนึ่งซึ่งมีอายุ 32, 42, 52 และ 62 นั้นทำงานเป็นกะ โดยถูกจัดประเภทเป็นงานกลางคืน หรือกะที่มีการสลับสับเปลี่ยนในช่วงเช้า บ่าย และกลางคืน



นักวิจัยชี้ การทำงานเป็นกะ” ระยะยาว มีส่วนเกี่ยวพันอาการหลงลืม - สมองเสื่อมพลัง
เมื่อเวลาผ่านไป นักวิจัยได้เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงในผลการทดลองระหว่างคนทำงานทั้งสองกลุ่ม (งานกลางคืน และงานที่ทำเป็นกะ) นักวิจัยก็พบว่าการทำงานเป็นกะมีความเชื่อมโยงกับ “ความบกพร่องในการรับรู้เรื้อรัง”



“ความเชื่อมโยงกัน (ระหว่างการทำงานเป็นกะ กับความบกพร่องในการรับรู้) ปรากฏให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ในกลุ่มพนักงานที่ทำงานเป็นกะนานกว่า 10 ปี” ซึ่งพวกเขาชี้ว่า พฤติกรรมนี้ส่งผลให้การทำงานของสมองเสื่อมถอยเกินอายุสมองจริงไป 6.5 ปี
นอกจากนี้ ข้อมูลยังแสดงให้เห็นด้วยว่า “การฟื้นฟูกระบวนการรับรู้ของสมอง หลังลาออกจากการทำงานเป็นกะนั้นต้องอาศัยเวลาอย่างน้อย 5 ปี”
อย่างไรก็ตาม คณะนักวิจัยกล่าวว่า การศึกษานี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า การทำงานเป็นกะเป็นสาเหตุที่ทำให้ความสามารถในการรับรู้เสื่อมถอย ถึงแม้ว่าจะดูมีเหตุผลให้เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นอยู่มาก แต่ก็ยังจำเป็นต้องมีการวิจัยลงลึกกันต่อไป
นักวิจัยสรุปว่า การค้นพบครั้งนี้ไม่เพียงกระตุ้นเตือนผู้ที่ทำงานเป็นกะ ถึงปัญหาสุขภาพที่อาจตามมาเป็นรายบุคคลเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความตระหนักแก่สังคม พร้อมกันนี้พวกเขาได้ชี้ว่า อาชีพที่ต้องทำงานในเวลากลางคืนท่ามกลางสภาวะที่เสี่ยงอันตรายสูงกำลังมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“การค้นพบในตอนนี้สะท้อนให้เห็นความสำคัญของการคอยเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพของบรรดาแรงงานที่ทำงานเป็นกะ โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่ยังต้องทำงานเป็นกะ 10 ปีขึ้นไป”