ติดตามสถานะการณ์

#มอร์มูฟเป็นข่าว #มอร์มูฟเป็นข่าว COVID-19 สร้างผลกระทบอย่างหนัก!! ล่าสุด Alasdair Murdoch ซีอีโอแห่ง Burger King ออกโรงประกาศว่า Burger King ในอังกฤษอาจต้องปิดตัวราว 10% โดยอาจจะทำให้คนตกงานราว 1,600 คน แม้ว่าจะมีโครงการรัฐบาลเริ่มออกมาให้ความช่วยเหลือแล้ว

Murdoch บอกว่า โครงการช่วยเหลือดังกล่าวไม่น่าจะช่วยแก้ปัญหายอดขายตกและต้นทุนที่แบกรับอยู่ได้ครอบคลุมนัก "ถ้าเราสามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้มันปิดตัวลงได้ เราก็จะทำ ซึ่งไม่ใช่แค่ Burger King เท่านั้นที่ประสบปัญหานี้ ทุกคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ล้วนได้รับความเสียหายกันทั้งนั้น".
-------------------------------------------
อ่านต่อ : https://brandinside.asia/burger-king-will-shut-up-10-perc…/…

 

#มอร์มูฟเป็นข่าว เขาใหญ่มาวิน!!! ล่าสุด นายสมโภชน์ มณีรัตน์ โฆษกกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ระหว่างวันที่ 4-7 ก.ค.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวของกรมอุทยานเป็นจำนวนมาก สำหรับอุทยานแห่งชาติที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเป็นอันดับ 1 ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีนักท่องเที่ยว 45,547 คน โดยวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมามียอดสะสมเยอะสุดคือ 15,820 คน

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในพื้นที่อยู่ที่ 5,000 คน ซึ่งเมื่อครบตามกำหนด-นักท่องเที่ยวต้องรอให้นักท่องเที่ยวท่านอื่นออกจากพื้นที่ก่อนจึงจะสามารถเข้าเที่ยวชมในพื้นที่ได้.
----------------------------------------
อ่านต่อ : https://news.thaipbs.or.th/content/294430…

 

#มอร์มูฟเป็นข่าว ได้เวลาเที่ยวแล้วสิ!!! ทส.ชวนคนไทยท่องเที่ยววีถีใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติวิถีใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม (New Normal) จะจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับแต่ละขนาดอุทยาน

ประชาชนสามารถจองคิวล่วงหน้าผ่านแอพพลิเคชั่น QueQ โดยสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น QueQ ได้ในระบบ iOS : shorturl.at/mtFJ4. และ Android : shorturl.at/eHVY5

** สำหรับใครที่ไม่สะดวกใช้แอพฯไม่ต้องกังวลใจว่าจะอดเที่ยวอุทยานฯอีกต่อไป โดยประชาชนยังสามารถโทรฯจองการท่องเที่ยวล่วงหน้าโดยตรงหรือวอล์คอินเข้ามาได้ (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะแบ่งสัดส่วนโควต้าให้สำหรับการจองผ่านแอพพลิเคชั่น 70% และเผื่อสำหรับนักท่องเที่ยวที่วอล์คอิน 30%)

อย่างไรก็ตาม ทส.เน้นย้ำประชาชนว่าอย่าลืมเช็คอินเข้า-ออกอุทยานฯผ่านระบบไทยชนะเพื่อบันทึกข้อมูลสำหรับมาตรการควบคุมโรคระบาด COVID-19, สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อต้องมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น, รักษาระยะห่างระหว่างกัน และหมั่นล้างมือ

อนึ่ง เมื่อเข้าไปพักอาศัยหรือท่องเที่ยวในอุทยานฯ นักท่องเที่ยวยังคงต้องปฎิบัติตนเป็นนักท่องเที่ยวหัวใจสีเขียวด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้

▪️ไม่ส่งเสียงดัง
▪️ไม่ก่อกองไฟ
▪️ไม่นำสัตว์เลี้ยงเข้าพื้นที่อุทยานฯ
▪️ไม่นำบรรจุภัณฑ์ประเภทโฟมเข้าพื้นที่อุทยานฯ
▪️ไม่ให้อาหารสัตว์
▪️ไม่ตัดไม้มาทำเป็นฟืน
▪️ไม่ขีดเขียนในที่ต่างๆ
▪️ไม่เก็บดอกไม้ หรือพืชชนิดต่างๆ ออกจากพื้นที่อุทยานฯ
▪️สูบบุหรี่ในสถานที่ที่กำหนด
▪️ไม่นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
▪️ทิ้งและแยกขยะลงถังที่จัดเตรียมไว้
▪️ช่วยกันนำขยะออกจากพื้นที่อุทยานฯ

การท่องเที่ยววิถีใหม่-หากทุกคนช่วยกันรักษาความสะอาด-ทิ้งขยะในจุดที่จัดเตรียมให้ อุทยานฯจะคงความสวยงาม และไม่กระทบต่อสัตว์ป่า เพราะตลอด 3 เดือนที่ผ่านมาที่มีการปิดอุทยานฯ ไม่มีการตรวจพบสัตว์ป่าตายจากการกินขยะพลาสติกเลยจึงขอให้ช่วยกันรักษามาตรฐานดีๆ แบบนี้กันไว้

** การท่องเที่ยวอุทยานฯแบบ New Normol อาจไม่สะดวกสบายเหมือนแต่ก่อน เพราะมีมาตรการต่างๆ เข้ามาควบคุม อาจมีข้อผิดพลาดบ้าง โดยประชาชนสามารถตรวจสอบรายละเอียดการเปิด-ปิดอุทยานแห่งชาติ พร้อมจำนวนนักท่องเที่ยวที่รองรับในแต่ละแห่งได้ที่ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร 1362

นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือประชาชนที่ไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติหรือแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติทุกแห่งขอให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง จำกัดความเร็ว ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุต่อสัตว์ป่า เพราะนอกจากจะทำลายทรัพยากรธรรมชาติแล้ว ยังมีความผิดตามกฏหมายด้วย

#ท่องเที่ยววิถีใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
#คุณภาพสิ่งแวดล้อมคือคุณภาพชีวิต

 

จีน : เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เมืองหลิวโจวมวลน้ำได้ไหลท่วมเมือง ทางผ่านออกสู่ทะเล (น้ำเหนือ)
#แอดมินแนบแผนที่ในภาพ
คลิป

 

จีน : มณฑลเจียงซี
12 กรกฎาคม ประกาศเตือนภัยเฝ้าระวัง
หลัง ‘ทะเลสาบน้ำจืดใหญ่ที่สุดในจีน โผหยาง มีระดับน้ำสูงเป็นประวัติการณ์สูงสุดตั้งแต่บันทึกมา ทำลายสถิติปี1998 ที่ 0.01เมตร ปัจจุบันระดับน้ำ 22.53 เมตร
# ตั้งแต่ 4 ก.ค.มีแม่น้ำ 212 แห่งทั่วประเทศระดับน้ำสูง 19 แห่งทำลายสถิติความจุ ประชาชน 37.89 ล้านคนได้รับผลกระทบใน 27 เมือง 141 คนเสียชีวิต มูลค่าความเสียหายกว่า 82.23 พันล้านหยวน
** ข้อมูลทะเลสาบโผหยาง พื้นที่: 4,400 ตร.กม.ความยาว: 170 กม.
ที่ตั้งมณฑลเจียงซี
** แนบแผนที่ในโพส
** แอดมินแนบคลิปในช่องความเห็น
Cr : ภาพ CGTN

 

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปลายปีนี้ กำลังเข้มข้นขึ้น เมื่อนายโจ ไบเดน แห่งพรรคเดโมแครต บอกว่าจะเลือกสุภาพสตรีมาทำงานร่วมกับเขาในตำแหน่งรองประธานาธิบดี และชื่อที่สื่อหลายสำนักทั้งเก็งและเชียร์ก็คือ ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ วุฒิสมาชิกจากรัฐอิลลินอยส์ ที่นอกจากจะมีผลงานที่โดดเด่นมากมายแล้ว เธอคือลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เกิดและเติบโตที่กรุงเทพฯ ก่อนจะย้ายตามบิดากลับสหรัฐฯ หาก ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ ได้รับเลือกจริง จะเป็นมิติใหม่ในการเมืองสหรัฐฯ ที่น่าจับตามอง รวมถึงอนาคตของเธอในการก้าวสู่ทำเนียบขาวในอนาคต

อ่านต่อได้ที่
https://bit.ly/2DwBJz8

#RoundtableThailand
roundtablethailand.com

 

ช็อกวงการบอลลีวู้ด!!
สุดยอดตำนานของวงการ คุณปู่ “อมิตาป บาจัน” หรือ “อมิตาภ พัจจัน" หรือ “Big B” #AmitabhBachchan วัย 77 ปีผู้มีผลงานการแสดงภาพยนตร์มากกว่า 200 เรื่อง และบุตรชายของเขาซึ่งเป็นหนึ่งในซูเปอร์สตาร์บอลลีวู้ด “อภิเษก พัจจัน” #AbhishekBachchan วัย 44 ปี เผยว่าได้ตรวจพบว่าผลทดสอบเป็นบวก ติดเชื้อ #โควิด19 ทั้งคู่กำลังรับการรักษาที่โรงพยาบาล ล่าสุดมีอาการทรงตัว กำลังรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานาวิถี ในนครมุมไบ

คุณปู่อมิตาภได้ทวิตแจ้งให้ทุกคนได้รับทราบ “ผลตรวจโควิดของผมออกมาเป็นบวก .. ย้ายไปโรงพยาบาลแล้ว .. ทางโรงพยาบาลกำลังแจ้งทางการ .. ครอบครัวและพนักงานเข้ารับการตรวจ และกำลังรอผล .. ทุกคนที่ใกล้ชิดกับผมในช่วง 10 วันที่ผ่านมากรุณาเข้ารับการตรวจ!”

ด้าน อมิตาภ ก็ได้ทวิตบอกทุกคนอย่าเป็นห่วง “ก่อนหน้านี้ในวันนี้ ทั้งผมกับพ่อมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก เราทั้งคู่มีอาการป่วยเล็กน้อยและแอดมิทเข้าโรงพยาบาลแล้ว เราแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน สมาชิกครอบครัวและทีมงานของเรากำลังรับการตรวจ ผมขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบและอย่าตื่นตระหนก ขอบคุณ”

ด้านโรงพยาบาลนานาวิถี แจ้งว่า ตอนนี้พ่อลูกพัจจันมีอาการทรงตัว

Cr.Jaroensook Limbanchongkit Pone
#ไวรัสโคโรนา #coronavirus #COVID19 #Bollywood #India

 

... "นักวิเคราะห์จีนบอก : นายกออสเตรเลียทำตัวเหมือนสุนัขของอเมริกา"

... Shaun Rein นักวิเคราะห์ผู้ก่อตั้งสถาบันการวิจัยการตลาดของจีน, บอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับออสเตรเลีย กำลังย่ำแย่ลงเรื่อยๆและอาจจะหนักสุดในรอบสามสิบปี โดยทั้งหมดทั้งมวลนั้น มีอเมริกาเป็นตัวเสี้ยม

... เขาบอกว่า "จีน" เป็นผู้บริโภครายใหญ่สุดของ "ออสเตรเลีย" โดยการส่งออกของออสเตรเลียนั้น ร้อยละ 38 ส่งออกไปขายจีน ทั้งโลหะ แร่ ไวน์ เนื้อวัว สินค้าบริโภคเกี่ยวกับนม ดังนั้นออสเตรเลียควรจะทำอะไรที่ระวังมากขึ้นเพื่อจะไม่กระทบกับความสัมพันธ์ดังกล่าว

... โดยเขาบอกว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ จีนกับออสเตรเลียเริ่มซดเกาเหลากันก็คือ "อเมริกา" ที่หลอกใช้ออสเตรเลียประหนึ่งเป็น "ตัวแทนหรือเครื่องมือ" ในการปิดล้อมหรือสกัดการเจริญเติบโต สร้างความไม่มั่นคงให้เกิดขึ้นกับจีน รวมทั้งลดอิทธิพลของจีนที่จะมีมากขึ้นเรื่อยๆในเวทีโลก, ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ออสเตรเลียเท่านั้น ประเทศ Five Eyes ทั้ง อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ( ประเทศพวกคอเคซอยด์ นักล่าอาณานิคมในอดีต ก็ล้วนเป็นข้าทาสบริวารของอเมริกาทั้งสิ้น ที่พวกเขาจับมือแลกเปลี่ยนข้อมูลของหน่วยราชการลับระหว่างกัน เพื่อจะรักษาให้พวกผิวเขาเป็นใหญ่ ปั่นป่วนโลก ครองโลก เป็นโลกบาลต่อไป )

... ทั้งเรื่องสงครามการค้าจีนกับอเมริกา เรื่องหัวเหว่ย เรื่องการส่งเสริมการประท้วงในฮ่องกง เรื่องความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ ล้วนมาจากอเมริกาเป็นต้นทางในการบีบประเทศบริวารเหล่านี้ ( เช่น บีบ อังกฤษ ให้เลิกใช้ 5จี ของหัวเหว่ย บีบแคนาดาให้จับลูกสาวหัวเหว่ย เป็นต้น )

... โดย Scott Morrison ที่เป็นนายกรัฐมนตรีมาตั้งแต่ปี2018, นั้นทำตัวเหมือน "สุนัขเลี้ยง" Lapdog ของอเมริกา เพราะเขาได้ออกมาวิพากษ์จีนเอาใจอเมริกาเอง

... นอกจากนั้นแล้ว ยังมีกระแส "Sinophobia" หรือ "กระแสเกลียดกลัวคนจีน" รวมทั้ง "Yellow Peril" หรือ "อันตรายจากคนผิวเหลือง" ( เหมือนที่พวกเขาทำสำเร็จ มาแล้วในสงครามซีเรีย อิหร่าน เป็นกระแสเกลียดกลัวอิสลาม หรือ Islamophobia ช่วงที่มีการอพยพผู้ลี้ภัยจากสงครามในเอเชียตะวันตก ไปยุโรป ... ซึ่งเป็นการกีดกัน กดขี่เชื้อชาติ ขัดแย้งกับเรื่องความเท่าเทียม ที่พวกเขาพร่ำสอนชาวโลก เยาวชนในมหาวิทยาลัยทั่วโลก รวมทั้งฮ่องกง ตลอดมา )

... โดยมีแถวหน้าของนักคิดวิชาการของออสเตรเลีย เช่น กลุ่ม ASPI หรือ Australian Strategic Policy Institute ซึ่งนำคณะโดย ปีเตอร์ เจนนิ่งส์ ที่มีคนชาวบ้านเชื่อฟังนับถือมากมาย ออกมาตอกย้ำกระแสนี้ในสื่อสาธารณะมากขึ้นเรื่อยๆ โดยคณะนี้มักจะจับผิดการกระทำของจีนในเวทีโลกมาโดยตลอด เช่น เรื่องความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ กรณีซินเจียง

... ซึ่ง Shaun Rein บอกว่าที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่าสถาบันนี้ได้รับการอุดหนุนทางการเงินจากรัฐบาลต่างประเทศ ซึ่งก็คือ "อเมริกา" องค์กรนี้จึงทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับอเมริกาที่ส่งเสียรายได้ รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจาก Raytheon บริษัทผู้ผลิตอาวุธสงครามรายใหญ่จากอเมริกา ที่เป็นผู้รับเหมารายใหญ่ที่ได้สัมปทานการขายอาวุธให้กับกระทรวงกลาโหมของอเมริกา ด้วย

... ภาระหลักของกลุ่มนักคิดวิชาการอย่าง ASPI ที่รับเงินสนับสนุนมา ก็คือ "การสร้างและกระจายไวรัสความกลัวจีน" ให้กระจายไปทั่วทุกซอกมุมตึก ทุกผนังบ้านในออสเตรเลียให้ได้ ยิ่งมีความขัดแย้งมากขึ้นเท่าไหร่ พวกเขายิ่งขายอาวุธได้มากขึ้นเท่านั้น

... พิสูจน์จากล่าสุด ที่รัฐบาลออสเตรเลียประกาศการติดตั้ง ขีปนาวุธพิสัยไกล ที่ได้รับซื้อมาติดตั้งในประเทศแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ( ประมาณต้นเดือนกรกฎาคม 2020 ) โดยข้ออ้างในการซื้อก็คือ "เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากจีน" ผู้บริโภค ตลาดใหญ่ที่สุดในการส่งออกของพวกเขาเอง ซึ่งในรัฐสภาออสเตรเลียเอง ก็มีสมาชิกสภา อีกบางคน เช่นทิม วิลสัน, แอนดรู เฮสตี้ ที่ทำตัวเสมือนเป็นผู้ที่เป็นกระบอกเสียงให้กับอเมริกาและต่อต้านจีน ด้วยเสมอมา

... ซึ่ง ถ้ารัฐบาลออสเตรเลียไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายบางอย่าง ก็อาจจะทำให้ "ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับออสเตรเลีย" ที่รวมถึงการค้าขายระหว่างกัน อาจจะยิ่งตกต่ำย่ำแย่ลงกว่าเดิม ซึ่ง Shaun Rein มองว่ามันเป็นสิ่งที่โง่เง่าที่ปล่อยให้เกิดสิ่งเหล่านี้

.

...

...

...

 

... "ซีไอเอ : คือผู้ที่จับเนลสัน แมนเดล่าติดคุกในปี 1962 ?"

... "เนลสัน แมนเดล่า" คือผู้นำในการประท้วงการกดขี่ แบ่งแยกผิวสีในอาฟริกาใต้ ที่ต่อมาเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของประเทศ ได้ถูกจับติดคุกในปี 1962 และติดยาวเป็นเวลา 27 ปี โดยครั้งนั้น มีข่าวลือว่า ผู้ที่เป็นตัวการหลักในการจับเขาคือ หน่วยงานรัฐ ซีไอเอ ของอเมริกา

... โดยรายงานใน Sunday Times สื่อของอังกฤษ, ซึ่งอ้างโดยตัวแทนอดีต CIA ของ "โดนัลด์ ริคการ์ด" ที่ถูกกล่าวหาว่าเขาเป็นคนแนะนำเจ้าหน้าที่ซึ่งมีนโยบายการแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ที่นำไปสู่การจับกุมของแมนเดลา ในปี 1962

... Rickard ที่พูดกับ John Irvin ผู้อำนวยการสารคดีเกี่ยวกับแมนเดล่าว่า ในเวลานั้นแมนเดลาอยู่ในฐานะ "กบฏติดอาวุธ"

... "อเมริกา" ยังบอกว่า ในตอนนั้น "แมนเดลา" เป็นเป้าหมายของ "อเมริกา" เพราะการเคลื่อนไหวเขาอยู่ภายใต้อิทธิพลของ "สหภาพโซเวียต" เพราะช่วงปี 1962 คือช่วง "สงครามเย็น" และทางวอชิงตันก็กลัวว่าจะเกิดความขัดแย้งครั้งใหญ่กับมอสโก ถ้าแอฟริกาใต้ตกอยู่ใน "สงครามกลางเมือง" ( ซึ่งในตอนนั้น กลุ่มเอเอ็นซี ที่แมนเดล่า เป็นสมาชิกในการต่อต้านคนขาว มีสมาชิก 4 คน ที่มีความสัมพันธ์ลับกับพรรคคอมมิวนิสต์อาฟริกาใต้ ที่เป็นพันธมิตรกับโซเวียตรัสเซีย ) เห็นได้ชัดว่า Rickard ไม่รู้สึกเสียใจในสิ่งที่เขาทำลงไป “เราอเมริกากำลังเดินโซเซบนขอบ ที่นี่และต้องหยุดมันลง ซึ่งหมายความว่าแมนเดลาจะต้องหยุด” เขากล่าว“ และผมก็หยุดมันได้”

... และเป็นอีกเรื่องที่นักล่าอาณานิคม แทรกแซง ปั่นป่วน ไปทั่ว ในประวัติศาสตร์โลก

.

... https://www.washingtonpost.com/news...terious-role-in-the-arrest-of-nelson-mandela/

 

❗️ โควิดฮ่องกงวันนี้ (12 กค)
ติดเชื้อใหม่ทั้งหมด +38, ติดในฮ่องกง +30
.
โควิดระลอก 3 ยังคงกระหน่ำฮ่องกงค่ะ
.
ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาดคนดัง ศ. Yuen Kwok Yung ออกมาขอให้ #คนอยู่บ้าน เพื่อลดอัตราเร่งของตัวเลข และแนะนำให้รัฐบาล #ยกเลิกกฎยกเว้นการกักตัว ให้กับบางสาขาอาชีพซะ
.
ข้อหลังนี่ท่าน ศ. พูดตรงใจสุดๆ คือ ความเห็นพี่แป๋วจากที่อ่านรายงานอยู่ทุกวัน การระบาดระลอก 3 ครั้งนี้ พี่แป๋วว่า ต้นตออาจจะมาจาก #เรื่องกฎยกเว้นไม่ต้องกักตัวของรัฐบาล นี่แหล่ะ
.
ก่อนระบาดรอบนี้ซักประมาณอาทิตย์นึง มีเคสที่เป็นสัญญาณเตือนออกมาแล้ว
คือ เรือขนส่งสินค้าทางน้ำที่ออกจากฮ่องกงแล้วไปขึ้นฝั่งเมืองจีน จีนตรวจลูกเรือเจอโควิด คุ้นว่าเกือบ 10 คน พวกนี้ ตอนเข้ามาฮ่องกงนี่ เข้ามาจากยุโรป แล้วไม่ต้องกักตัวตามกฎหมายด้วย โฮกกกกเลย ออกไปไหนมาบ้างล่ะ
.
อันนี้ เฉพาะเคสที่เรื่องแดงออกมานะ พวกลูกเรือทั้งทางอากาศทางน้ำอีกเท่าไหร่ ที่ไม่มีอาการ แล้วเข้ามาเดินอยู่ในเมือง
.
นอกจากนี้ พวกนี้บางเคสไม่ต้องตรวจเชื้อด้วยนะ สธ วัยใสของเรา บอกว่า บางคนกว่าผลตรวจจะออกก็บินออกจากฮ่องกงไปแล้ว เลยตัดสินใจไม่ตรวจ
.
พอมีเคสมากเข้า เอ้า! เพิ่งจะตื่น คราวนี้ออกกฎตรวจหาเชื้อพวกลูกเรือทุกคน แต่ยังไม่ยกเลิกกฎยกเว้นกักตัวนะ
.
เมื่อวานเราก็เลยได้มา 1 เคส นักบิน FedEx บินจากเมกา เข้ามาพัก Sheraton กินข้าวที่ Din Tai Fung ได้ซะงั้น
.
=============
วันก่อนมีวาทะแห่งชาติจากท่าน รมว คนนึง คือ #ฮ่องกงไม่ได้ต้องการตัวเลขโควิดเป็นศูนย์ แต่เป้าหมาย คือ คุมตัวเลขไว้ในระดับที่ระบบสาธารณสุขของเรายังรองรับได้ เพราะเราไม่ได้จะต้องการล็อคดาวน์ขนาดเศรษฐกิจและผู้คนไม่ได้ขับเคลื่อน
.
อันนี้ พี่แป๋วเห็นด้วย แต่ขอให้ท่านไปอุดรูโหว่ของมาตรการต่างๆ ก่อนเถิด ณ ตอนนี้ เข้าใจว่า occupancy rate ของเตียง รพ เรื่องโควิด น่าจะแตะ 60+% แล้ว อัตราเร่งขนาดนี้ อีกไม่กี่วัน ท่านอาจจะฉุกคิดอะไรได้บ้าง
.
ช่องโหว่ทางมาตรการอีกอย่าง คือ #เรื่องให้กักตัวที่บ้านได้ อันนี้เข้าใจ facility ของเราอาจไม่พอ เพราะเราปล่อยไฟลท์เข้ามาได้เสรี
ไม่เหมือนไทยจับ state quarantine หมด แต่โน้ตว่า ไทยยังคุมไฟลท์เข้าประเทศอยู่ ต้องผ่านกงสุล/สถานฑูต ซึ่งเดือนๆ นึงมีไม่กี่ไฟลท์
.
เรื่อง #กักตัวที่บ้านในฮ่องกง อันนี้มีเคสหลุดมาแล้วเช่นกัน
.
คือ คู่พ่อลูกกลับจากเมกา อยู่ในกลุ่มประเทศที่ไม่ต้องกักตัวในศูนย์ของรัฐบาล เลยได้ไปกักที่บ้าน ตอนถึงสนามบิน ตรวจเชื้อยังไม่เจอ ผ่านไปจนเกือบหมดระยะเวลากักตัว 14 วัน จับตรวจเชื้ออีกครั้ง คราวนี้เจอเชื้อแล้ว
.
ที่พีค คือ ความที่กักตัวที่บ้าน เลยมาแพร่เชื้อให้แม่ต่อ ซึ่งแม่ไม่เคยเดินทางไปไหน แล้วระหว่างที่แม่ยังไม่รู้ว่า ตัวเองติดเชื้อแล้ว ก็ไปเจอเพื่อน นั่งกิน KFC ที่ตึก Dragon Centre Sham Shui Po ด้วยกัน แล้วเพื่อนคนนั้นก็รับเชื้อไปแล้ว
.
อันนี้ ใครที่เพิ่งกลับจากไทย เลือกกักตัวที่บ้านไม่ใช่โรงแรม ก็เคร่งครัดระวังกันนิดนึง เด๋วจะมาแพร่เชื้อต่อให้คุณที่คุณรักได้
.
================
ใครอยู่ฮ่องกงตอนนี้ รักษาตัวเองให้ดีนะคะ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนค่ะ ที่ผ่านมาเราอาจจะเริ่มชิวบ้างเพราะตัวเลขเหมือนคุมได้แล้ว
.
แต่ระลอกนี้ สธ เองยังยอมรับว่าหนักค่ะ
.
ยิ่งเห็นบางมาตรการที่บอกข้างบนแล้ว ลุ้นว่า ขอให้เราไม่เป็น สิงคโปร์ 2 ด้วยเถิด
.
พยามอยู่บ้านให้มากที่สุดนะคะ นี่นั่งอ่านข่าว รัฐบาลยังงุ้งงิ้ง ยังไม่ยอมยกเลิกงาน Book Fair อาทิตย์หน้าอีก อ่านข่าว professor คนไหนซักคนพูดก็ไม่รู้บอกว่า
.
โตเกียวโอลิมปิกเค้ายังเลื่อนเลยนะ(เว้ยเฮ้ย) ... เฮ้อออ ..... เพลีย วันนี้บ่นยาว
.
#eatlike852 #covid19hongkong

 

ความยากลำบากจะปรากฏไปทั่วโลกา

ชาวอิสราเอลนับพันคนชุมนุมในเทลอาวีฟประท้วงวิกฤตเศรษฐกิจและความล้มเหลวของรัฐบาลในการแก้ปัญหา

ข่าวโลกที่3

 

#ข่าวร้อนในญี่ปุ่น วันนี้ 12 ก.ค. เวลา 15.39 น. กรุงโตเกียว ประกาศมีผู้ติดเชื้อใหม่ทะลุ 206 รายแล้ว สูงเกิน 200 คนมาเป็นวันที่ 4 ขณะนี้มียอดรวมพุ่งไปที่ 7,927 รายแล้ว
.
รัฐบาลกรุงโตเกียวขอความร่วมมือ หลีกเลี่ยงการออกนอกเมืองหากป่วยหรือมีไข้ และไปในย่านตัวเมืองตอนกลางคืน ให้เลือกร้านค้าที่เหมาะสมในการเข้าไปทานอาหาร
.

 

#คิดแบบญี่ปุ่น ต้องรู้เรื่องเงินสไตล์ญี่ปุ่น
.
เงิน เงิน เงิน เป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวจนกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในชีวิตไปเสียแล้ว เรามาดูกันค่ะว่าคนญี่ปุ่นมีความคิด และเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับเงินบ้าง
.

 

รัฐบาลอินเดียได้ตัดสินใจขยายระยะเวลาการแบน
เที่ยวบินระหว่างประเทศออกไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม
เพื่อเปิดทางการทำ Travel Bubble กับสหรัฐฯ
.
สายการบินแห่งชาติของอินเดียได้วางแผนการบินไว้
31 เที่ยวบิน สำหรับไปและกลับจากสหรัฐอเมริกา
ในเมืองต่างๆ เช่น ชิคาโก, นิวยอร์ก, ซานฟรานซิสโก
และวอชิงตันดีซี ระหว่างวันที่ 3 ถึง 10 กรกฎาคม
.
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า อินเดียกำลังดำเนินการ
เกี่ยวกับการสร้าง Travel Bubble สำหรับการเดินทาง
กับสหรัฐอเมริกา แคนาดาและประเทศต่างๆในยุโรป
เพื่อให้เที่ยวบินระหว่างประเทศเดินทางไปและกลับ
จากประเทศเหล่านี้ได้
.
นาย Arvind Singh ประธานการท่าอากาศยาน
แห่งประเทศอินเดีย (AAI) กล่าวว่า
“ข้อตกลงการเดินทาง Travel Bubble นั้นทำขึ้นกับ
สหรัฐอเมริกา แคนาดาและประเทศในยุโรป
บางประเทศที่สายการบินของทั้งสองฝ่ายจะสามารถ
ให้บริการเที่ยวบินระหว่างกันได้
.
โดยรัฐบาลมีแผนจะเปิดให้บริการมากกว่า 500 เที่ยวบิน
ระหว่างวันที่ 3 กรกฎาคมถึงวันที่ 20 กรกฎาคม
.
ทั้งนี้จุดประสงค์หลักก็เพื่อเปิดโอกาสให้คนของ
ประเทศต่างๆที่มีความต้องการจะเดินทางกลับไปยัง
ประเทศของตนเอง ได้ใช้โอกาสนี้ในการเดินทาง
.
ปัจจุบันอินเดียคือประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ Covid-19
สูงเป็นอันดับที่ 3 ของโลก โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น
850,358 ราย เสียชีวิตแล้ว 22,687 ราย
ข้อมูล ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.00 น.
.
เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจ
จากเพจ Thailand State กด Like เพจ
และตั้งค่า See First ⭐️ เพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
.
Source :
https://www.americanbazaaronline.co...1HQslaUgEAKsD3PbOpCU1TICIszcTJA-wuy3x2SxChjmw
.
#ThailandState #ThailandStateUpdate

 

James Harrison ชายชาวออสเตรเลียวัย 83 ปี
ผู้มี “เลือดวิเศษ” ที่สามารถช่วยเหลือผู้คนได้นับล้านชีวิต
ด้วยการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลากว่า 60 ปี
.
วีรกรรมอันยิ่งใหญ่ของเขามีจุดเริ่มต้นมาจากการ
ผ่าตัดใหญ่ที่หน้าอก ตอนที่เขามีอายุได้เพียง 14 ปี
ซึ่งต้องใช้เลือดไปถึง 13 ยูนิต เพื่อให้เขารอดชีวิตมาได้
นับจากวันนั้นเป็นต้นมา เขาจึงสาบานกับตัวเองว่า
เขาจะบริจาคเลือดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเป็นการตอบแทน
สำหรับทุกสิ่งที่เขาได้รับในวันนี้
.
เมื่ออายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ James เข้าบริจาคเลือด
ครั้งแรก และทำแบบนั้นทุกๆ 3 สัปดาห์มาโดยตลอด
.
ภายหลังทางกาชาดออสเตรเลียพบว่า
ในเลือดของ James มีแอนติบอดี้ ที่หาได้ยากมากๆ
ซึ่งใช้ในการผลิต Anti-D เพื่อใช้ช่วยชีวิตทารก
ในครรภ์มารดาที่มีกลุ่มอาการของโรค rhesus disease
(เม็ดเลือดของมารดาทำลายเม็ดเลือดของทารกในครรภ์)
.
ไม่มีใครรู้ว่าเลือดที่สุดแสนจะพิเศษนี้มาจากไหน
แต่เขาคือ 1 ในชาวออสเตรเลียไม่ถึง 50 คน
ที่มีเลือดพิเศษแบบนี้
.
เลือดของ James ถูกนำไปทำวัคซีนที่ฉีดให้แก่คุณแม่
ในออสเตรเลียมากกว่า “สามล้านเข็ม” ตั้งแต่ในปี 1967
เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และแม้แต่ลูกสาวของเขาเอง
ก็ได้ฉีดวัคซีนจากเลือดของคุณพ่อที่ว่านี้ด้วยเช่นกัน
.
James บอกว่า “มันเป็นสิ่งที่ทำให้หลานคนที่สองของผม
เกิดมาแข็งแรงดี และนั่นทำให้ผมรู้สึกดีที่ได้ช่วยชีวิต
ใครสักคน และใครอีกหลายๆคนที่ผมไม่รู้จัก”
.
หลังจากการค้นพบดังกล่าว James ได้บริจาคเลือด
กับกาชาดเป็นประจำเกือบทุกสัปดาห์ และทำมาตลอด
จนถึงเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ปี 2018 ซึ่งเป็นการบริจาคเลือด
ครั้งสุดท้ายของเขา โดยนับเป็นครั้งที่ 1,173 นั่นเอง
.
กาชาดออสเตรเลียได้ประเมินว่า เลือดของ James
ช่วยชีวิตคนไปแล้วทั้งหมดถึง 2.4 ล้านคนเลยทีเดียว
.
จากในอดีตที่ James รอดชีวิตจาก “การให้” ของผู้อื่น
วันนี้เขาจึงกลายมาเป็น “ผู้ให้” เพื่อช่วยชีวิตผู้อื่นเช่นกัน
เขาสอนให้เรารู้ว่า ..
ทุกคนต่างก็เป็น "ฮีโร่" ของใครสักคนได้
เพราะคุณค่าของการให้ ไม่มีวันสิ้นสุด
.
เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจ
จากเพจ Thailand State กด Like เพจ
และตั้งค่า See First ⭐️ เพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
.
Source : https://edition.cnn.com/2018/05/11/health/james-harrison-blood-donor-retires-trnd/index.html
.
https://www.donateblood.com.au/learn/anti-d/james-harrison
.
https://www.ndtv.com/world-news/for...ed-blood-and-saved-2-4-million-babies-1851372
.
#ThailandState #ThailandStateCaseStudy

 

10 กรกฎาคม ตั๊กแตนมุ่งหน้าไปยังประเทศจีน: ประเทศจีน เผชิญกับ 'ภัยพิบัติ' ในขณะนี้และเดือนกันยายน โดยมีแมลงเข้ามารุกรานเมืองทางใต้แล้วเจ้าหน้าที่เตือน

เรื่องนี้เกิดขึ้นในพระคัมภีร์ในพระธรรมอพยพก่อนที่ผู้คนของพระเจ้าจะได้รับการปลดปล่อย ตอนนี้ภัยพิบัติตั๊กแตนหลายประเทศเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของการปลดปล่อยพระธรรมอพยพของพระเจ้า

พระเจ้าได้แยกทะเลแดงเมื่อ 3600 ปีก่อนและนำผู้คนของเขาผ่าน คราวนี้พระเจ้าจะแยกท้องฟ้าสีฟ้าและนำประชากรของเขาขึ้นมา

July 10. Locust plague heads towards China: Country faces 'DISASTER' between now and September with the insects already invading southern city, officials warn.

This happened in the Bible in the Book of Exodus right before God's people were delivered. Now these multi-nation locust plagues are part of the Exodus 2.0 deliverance of God's people.

God parted the Red Sea 3600 years ago and brought his people through. This time God's going to part the Blue Sky and bring his people up.

 

ภาพแสดงฝูงแมลงบินข้ามท้องฟ้าในเจียงเฉิง

Footage shows swarms of the insects flying across the sky in Jiangcheng

https://www.dailymail.co.uk/news/ar...ials-warn.html?ito=facebook_share_article-top

 

#พูดทั้งโลก
ทำไม Tiktok ถึงถอนตัวจากฮ่องกง?
ประโยชน์ร่วมกันของบริษัทกับรัฐบาลจีน
.
หลายวันก่อนหลายคนคงเห็นข่าวว่าแอพพลิเคชั่นดังอย่าง Tiktok ได้ประกาศถอนตัวออกจากฮ่องกง โดยในปัจจุบันแอพนี้ไม่สามารถดาวโหลดได้แล้วในทุกช่องทาง โดยการดำเนินการดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่กฎหมายความมั่นคงใหม่มีผลบังคับใช้ในเกาะฮ่องกง
.
นักวิเคราะห์หลายคนจึงมองว่าปฏิบัติการดังกล่าวนี้สะท้อนความกลัวของ Tiktok ต่อรัฐบาลจีน หรือบางมองถึงขั้นว่านี่เป็นการกระทำเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทไม่เห็นด้วยกับแนวทางการดำเนินงานของรัฐบาล
.
ในขณะที่บางส่วนมองว่าการกระทำดังกล่าวของ Tiktok เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงในอนาคตที่ทางแอพถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน การถอนตัวออกมาก็จะทำให้เกิดความโปร่งใสมากขึ้น หลังก่อนหน้านี้แอพนี้โดนแบนในอินเดียจากปัญหาเรื่องข้อมูล
.
แต่จริง ๆ แล้ว การถอนตัวของ Tiktok ในเกาะฮ่องกงเกิดจากเหตุปัจจัยข้างต้นจริงหรือไม่ วันนี้เลยอยากมาวิเคราะห์ให้เห็นว่าทำไม Tiktok ถึงถอนตัวจากเกาะฮ่องกง ซึ่งเราสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้
.
1. หลายคนเข้าใจผิดกันมากว่า Tiktok นั้นแพร่หลายในจีน แต่คำตอบคือไม่ใช่ เพราะในแผ่นดินใหญ่ไม่มีแอพชื่อว่า Tiktok แต่มีอีกแอพหนึ่งที่อยู่ภายใต้บริษัทเดียวกันชื่อว่า Douyin (抖音)
.
2. โดยทั้ง 2 แอพนี้ดำเนินการภายใต้บริษัท ByteDance ซึ่งเป็นบริษัทที่มีฐานอยู่ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ปัจจุบัน บริษัทนี้บริหารโดยคุณ Kevin Mayer ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารของวอลดิสนี่ย์
.
3. ความต่างของทั้ง 2 แอพคือ การมีตลาดการค้าที่ต่างกัน กล่าวคือ Douyin เน้นทำตลาดภายในประเทศจีน ส่วน Tiktok คือแบรนที่ถูกปั้นมาเพื่อขายทั่วโลก ความต่างสำคัญคือ Douyin จะอยู่ภายใต้กฎหมายต่าง ๆ ของรัฐบาลจีน รวมถึงการส่งข้อมูลต่าง ๆ ที่รัฐบาลร้องขอด้วย
.
4. ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นกับแอพพลิเคชั่นจำนวนมากที่เกิดขึ้นในจีน หรือต้องการเข้าไปทำตลาดในจีน หลายคนคงพอทราบว่า ตลาดแอพในจีนเป็นเหมือนอีกโลกหนึ่ง แม้แอพจพคล้ายคลึงกันมาก แต่ชื่อก็จะถูกเปลี่ยนไป หรือระบบการลงทะเบียนบางอย่างก็ไม่เหมือนกัน
.
5. ฉะนั้นผู้ใช้แอพพลิเคชั่นในจีนจึงจำเป็นต้องดาวโหลดแอพที่ผลิตเพื่อประเทศจีนเท่านั้น และหากต้องการจะเล่นแอพหรือเว็บต่างประเทศที่ไม่มีในจีน ก็จำเป็นต้องอาศัย VPN เข้าช่วย
.
6. การออกกฎหมายความมั่นคงใหม่ที่บังคับใช้ในเกาะฮ่องกงจึงเปลี่ยนสถานะบางอย่างในเรื่องนี้ทำให้แอพต่าง ๆ ที่มีในฮ่องกงแต่ไม่มีในจีนอย่าง Facebook Twitter เลือกปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลกับทางรัฐบาลเพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้
.
7. ในส่วนของ Tiktok นั้นเลือกที่จะถอนตัวออกไปเลย ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วมันเป็นผลประโยชน์ทางด้านธุรกิจมากกว่าที่จะเป็นผลโดยตรงจากเรื่องกฎหมายความมั่นคงใหม่
.
8. การถอนตัวดังกล่าวของ Tiktok ช่วยให้ภาพลักษณ์ของบริษัทในระดับโลกดีขึ้น เพราะบริษัทมักถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน ทำให้ก่อนหน้านี้โดนแบนในอินเดีย และถูกทางการสหรัฐอเมริกาเพ่งเล็ง
.
9. แต่ถามว่า Tiktok ทิ้งตลาดฮ่องกงไปหรือไม่ คำตอบคือไม่ใช่ แต่เป็นการเปิดทางให้ Douyin เข้าไปทำหน้าที่นี้แทนในอนาคต พูดง่าย ๆ ก็คือ บริษัทได้ทั้งภาพลักษณ์ในระดับโลกที่ดีขึ้น ในขณะเดียวกันความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีนก็ไม่เสียหาย
.
10. ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถรักษาฐานลูกค้าในฮ่องกงต่อไปได้ เพราะเอาเข้าจริงแล้ว Douyin นั้นแทบไม่มีอะไรต่างจาก Tiktok เลย แถบภาพรวมแอพยังเป็นภาษาจีนทั่งหมดอีกด้วย และ Douyin ก็ไม่ใช่แอพใหม่อะไร แต่มันก็คือ Tiktok เวอร์ชั่นจีนนั่นเอง ที่คนฮ่องกงที่มีความใกล้ชิดกับแผ่นดินใหญ่จำนวนมากก็เล่นอยู่แล้ว
.
11. โดยสรุปเราอาจกล่าวได้ว่าความเคลื่อนไหวของ Tiktok ในการออกจากตลาดฮ่องกงนั้นเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบตัดสินใจมาดีแล้วเพื่อผลประโยชน์โดยรวมของบริษัท ทั้งยังเป็น Win-Win ระหว่างแอพกับรัฐบาลจีนอีกด้วย
.
เนื้อข่าวบางส่วนจาก BBC
.
#กระแสเอเชียใต้ #เทคโนโลยี #จีน #ฮ่องกง #Tiktok

 

WWF จี้รบ.พม่าทบทวนเปิดเสรีฟาร์มเพาะเสือ-ตัวนิ่มส่งตลาดจีน หวั่นซ้ำรอย COVID-19

บรรดานักอนุรักษ์สัตว์ป่าและธรรมชาติ นำโดยองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) และ Fauna & Flora International (FFI) ออกแถลงการณ์เตือนรัฐบาลพม่า หลังพบว่ากระทรวงป่าไม้ แก้ไขกฎหมายเพื่อเปิดช่องให้มีการทำฟาร์มเพาะเสือและตัวนิ่มได้ โดยกลุ่มนักอนุรักษ์กังวลว่าจะไปกระตุ้นให้เกิดความต้องการซื้อมากขึ้นจากจีน ขณะที่รัฐบาลพม่าให้เหตุผลว่าเกิดขึ้นจากความต้องการที่จะลดสัตว์ป่า และลดจำนวนการเพาะพันธุ์สัตว์ที่ผิดกฎหมาย

https://www.tcijthai.com/news/2020/7/asean/10658

 

ทางการจังหวัดโอกินาวา ทางใต้ของญี่ปุ่นระบุว่าได้รับรายงานยืนยันกรณีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายใหม่ 61 กรณี ในกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับกองทัพสหรัฐ

ในจำนวนนี้มี 39 รายจากฐานทัพอากาศฟูเต็มมะ ของนาวิกโยธินสหรัฐ และ 22 รายจากแคมป์ฮันเซน

ก่อนหน้านี้ มีการยืนยันผู้ติดเชื้อ 16 รายจากฐานทัพทั้งสอง

ด้านนาวิกโยธินสหรัฐชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กของตน เมื่อวันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคมว่า ตรวจพบการติดเชื้อแบบกลุ่มสองกลุ่มในสัปดาห์นี้ ทั้งยังระบุอีกว่าได้สงวนสิทธิ์การจราจรผ่านทางเข้าฐานทัพทั้งสอง เฉพาะแก่เจ้าหน้าที่กองทัพบางส่วนเท่านั้น

นายทามากิ เดนนี ผู้ว่าการจังหวัดโอกินาวากล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ 11 ว่า เขาผิดหวังอย่างมากที่กรณีติดเชื้อรายใหม่จำนวนมากที่เชื่อมโยงกับผู้คนของฐานทัพสหรัฐ เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้น ในขณะที่ทั้งจังหวัดมุ่งมั่นป้องกันการติดเชื้อ

นายเดนนีกล่าวอีกว่า เขากังขาอย่างมากถึงประสิทธิภาพของมาตรการเชิงป้องกันของกองทัพสหรัฐ

เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ทางการโอกินาวาออกแถลงการณ์ยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจังหวัดอีก 2 กรณี

แถลงการณ์ฉบับนี้ระบุว่า เป็นวัยรุ่นชายคนหนึ่งและชายอีกคนในช่วงวัย 20 ปี โดยทั้งสองมาจากจังหวัดไซตามะ ใกล้กรุงโตเกียว และได้มาท่องเที่ยวที่โอกินาวา ทั้งยังมีชายอีกคนในช่วงวัย 30 ปี ซึ่งอยู่ในคณะทัวร์เดียวกันจากไซตามะ ตรวจพบว่าติดเชื้อ เมื่อวันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม โดยทั้งสามคนอยู่ที่โอกินาวาตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 9

ส่วนคนอื่น ๆ ในคณะทัวร์เดียวกันตรวจพบว่าไม่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวสองคนข้างต้นเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล แม้จะไม่แสดงอาการใด ๆ

มีการยืนยันกรณีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในโอกินาวา 4 วันติดต่อกันแล้ว โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อรวมทั้งสิ้น 148 คน

ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/