ติดตามสถานะการณ์

สำรวจโลก
มาชูปิกชู 1 ใน 20 แหล่งมรดกโลกที่งดงามที่สุด



มาชูปิกชู (Machu Picchu) เป็นซากอารยธรรมโบราณของชาวอินคา ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงในประเทศเปรู ที่ความสูงประมาณ 2,350 เมตร ในปี 1983 องค์กรยูเนสโกได้กำหนดมาชูปิกชูให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม นอกจากนี้มาชูปิกชูได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ จากการลงคะแนนทั่วโลกทั้งทางอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ





______________________________

สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ สำรวจโลก | Next Step สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้

 

ผู้พเนจร จากฟากฟ้า

12 ก.ย. ตะลึงอีก! เจอซากฟอสซิล 95 ล้านปี ไดโนเสาร์ยักษ์ ‘สไปโนซอรัส’ ว่ายน้ำได้



ทีมนักชีววิทยาพืช-สัตว์โบราณ ม.ชิคาโก ชี้ ซากฟอสซิลยักษ์ ที่พบใต้ดินในทะเลทรายซาฮารา คือ ไดโนเสาร์กินเนื้อขนาดใหญ่สุด และยังว่ายน้ำได้ พันธ์ุ ‘สไปโนซอรัส’ ซึ่งไม่เคยเห็นมาก่อนเลย และอยู่ในยุคตั้งแต่ 95 ล้านปีที่แล้ว
เมื่อวันที่ 12 ก.ย.สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า การศึกษาซากดึกดำบรรพ์ที่ตีพิมพ์ลงในวารวารวิทยาศาสตร์ โดย นิซาร์ อิบราฮิม นักชีววิทยาด้านพืชและสัตว์โบราณประจำมหาวิทยาลัยชิคาโก ในสหรัฐฯ ชี้ ซากฟอสซิลขนาดยักษ์ที่หลงเหลืออยู่ หลังจากพบครั้งแรกในทะเลทรายซาฮารา ถือเป็น ซากฟอสซิลที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เพราะมันคือไดโนเสาร์พันธุ์ ‘สไปโนซอรัส ’ ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ ประเภทกินเนื้อที่มีขนาดใหญ่สุด และสามารถว่ายน้ำได้ด้วย
เหล่านักวิทยาศาสตร์ ชี้ว่า การพบซากฟอสซิลขนาดยักษ์ อายุ 95 ล้านปีก่อน ถือ เป็นการยืนยันทฤษฎีที่มีมานานแล้วว่า สไปโนซอรัส คือไดโนเสาร์ที่รู้จักกันตั้งแต่แรกว่า เป็นไดโนเสาร์ยักษ์ ที่ว่ายน้ำได้
นิซาร์ อิบราฮิม นักชีววิทยาพืชและสัตว์โบราณ กล่าวว่า มันเป็นไดโนเสาร์ที่แปลกประหลาดมาก และไม่เคยมีภาพร่างของมันที่แท้จริงมาก่อนเลย ‘มันมีลำคอที่ยาว, ลำตัวยาว ,หางก็ยาว มีครีบสูงถึง 7 ฟุต หรือ 2 เมตร อยู่บนหลัง และส่วนที่เป็นจมูกและปากของมันก็คล้ายกับจระเข้’ นิซาร์ อิบราฮิม กล่าวอย่างตื่นเต้น
อ่านเพิ่ม
http://www.thairath.co.th/content/449821

 

ตะลึง! สาวผู้ดีถ่ายรูปเจอ ‘สัตว์ประหลาดลอช เนสส์’ โผล่กลางทะเลสาบ
โดย ข่าวต่างประเทศ 12 ก.ย. 2557 10:57



ช่างภาพสาวชาวอังกฤษ พบเรื่องตื่นเต้นไม่คาดฝัน สามารถถ่ายรูปสัตว์ประหลาด มีคอและลำตัวคล้ายไดโนเสาร์ ในทะเลสาบที่อังกฤษ ลักษณะคล้าย ‘สัตว์ประหลาด ลอช เนสส์’ ที่ชาวโลกเจอมาแล้วหลายครั้ง และพยายามค้นหาว่ามันคือสัตว์อะไรกันแน่

เมื่อวันที่ 12 ก.ย. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เอลลี่ วิลเลียมส์ ช่างภาพสาวชาวอังกฤษ สุดตื่นเต้น ไม่นึกไม่ฝัน จะถ่ายภาพ ‘สัตว์ประหลาด ลอช เนสส์’ (Loch Ness Monster) ได้ ขณะไปตั้งกล้องถ่ายรูปอยู่ที่ทะเลสาบของเมืองวินเดอร์เมียร์ ทางเหนือของอังกฤษ

เอลลี่ วิลเลียมส์ ช่างภาพสาวจากลอนดอน วัย 24 เล่าว่า เธอมาถ่ายรูปที่ทะเลสาบแห่งนี้ เพื่อต้องการบันทึกภาพสัตว์ป่าและธรรมชาติรอบทะเลสาบที่มีสีสันเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล แต่หลังจากเธอได้ตั้งกล้องในโหมดอัตโนมัติ เพื่อให้บันทึกภาพเองตลอดทั้งวัน และเมื่อลองย้อนกลับไปดูรูปที่ถ่ายไว้จากโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน ปรากฏว่า เธอได้เห็นเจ้าสัตว์ประหลาด ลอส เนสส์ ขณะโผล่ขึ้นเหนือน้ำในทะเลสาบรวมอยู่ด้วย

‘ตอนแรกที่เห็น ฉันคิดว่าเป็นหงส์ หรือห่านเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อดูอย่างละเอียด จึงรู้สึกตื่นเต้นมากที่ตั้งกล้องถ่ายภาพได้อย่างถูกที่ถูกเวลาจริงๆ’ เอลลี่ กล่าวด้วยความตื่นเต้นดีใจ หลังจากเธอสามารถบันทึกภาพสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ที่ทะเลสาบของวินเดอร์เมียร์ ซึ่งอยู่ห่างจาก เขตลอช เนสส์ ในสกอตแลนด์ ไปไกลถึง 241 กม.

สำหรับรูปถ่ายที่ช่างภาพสาวชาวอังกฤษ นำมาโชว์นั้น แสดงให้เห็น สัตว์ประหลาดตัวใหญ่ ที่มีลักษณะคล้ายไดโนเสาร์ ทั้งส่วนของลำคอ และลำตัวลอยตัวอยู่ในน้ำ โดยมีลักษณะคล้ายคลึงกับสัตว์ประหลาด ลอช เนสส์ หรือรู้จักในชื่อ ‘เนสซี่’ ที่เคยมีผู้พบเห็นในทะเลสาบที่สกอตแลนด์ และในที่อื่นๆ มาแล้ว

ทั้งนี้ สัตว์ประหลาดลอช เนสส์ คือสัตว์ปริศนาขนาดมหึมา ที่ปรากฏอยู่ในทะเลสาบ ขณะที่บางคนคิดว่ามันคือไดโนเสาร์น้ำที่ยังหลงเหลืออยู่จนถึงยุคปัจจุบัน อีกทั้งยังมีผู้คนสามารถบันทึกภาพของมันได้เป็นจำนวนมาก และพยายามค้นหาว่ามันคือสัตว์ประเภทใดกันแน่

ตะลึง! สาวผู้ดีถ่ายรูปเจอ ‘สัตว์ประหลาดลอช เนสส์’ โผล่กลางทะเลสาบ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

แม่ควักตาลูกชาย ออกจากเบ้า ด้วยช้อนเหล็ก ก่อนถูกตำรวจรวบทันควัน ศาลตัดสินจำคุกยาว 30 ปี





สำนักข่าวต่างประเทศอย่าง dailyoffbeat รายงานข่าวว่า ศาลสูงเม็กซิโก ได้ตัดสินจำคุก ครอบครัวคลั่งซาตาน จำนวน 5 ราย คนละ 30 ปี หลังพวกเขา นำโดย นาง คาร์เมน ริออส การ์เซีย ได้ ควักตาลูกชาย แท้ๆ วัย 5 ขวบ เฟอร์นันโด เซเลบ อัลวาราโด ริออส ด้วยช้อนเหล็ก ในพิธีกรรมบูชาซาตาน

สืบเนื่องจาก ครอบครัวของนาง คาร์เมน ที่ประกอบไปด้วย ปู่ ย่า น้า และ อา ของเด็กชาย เฟอร์นันโด เป็นครอบครัวคลั่งลัทธิซาตานจึงใช้ช้อน ควักตาลูกชาย ในพิธีกรรม ที่ครอบครัวนี้เชื่อว่า จะช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากแผ่นดินไหวในวันสิ้นโลก โดยผู้แจ้งตำรวจ คือ เพื่อนบ้านของพวกเขาหลังได้ยินเสียงร้องของเด็กชายวัย 5 ขวบ ที่ถูก แม่ควักลูกตา ออกมาจากบ้าน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าทำการจับกุมคนในครอบครัวและพาเด็กชายรายนี้ไปส่งโรงพยาบาลได้ทัน แม้ว่าท้ายสุดเด็กชายต้องสูญเสียลูกตาทั้ง 2 ข้าง จนกลายเป็นผู้พิการทางสายตา โดยเหตุการณ์ แม่ควักตาลูกชายบูชาซาตาน เกิดขึ้นตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 2012

<iframe width="628" height="385" src="//www.youtube.com/embed/GaS0FO-_qkQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ขอบคุณภาพและข้อมูล chinatopix
เรียบเรียง Boxza

แม่ควักตาลูกชาย ออกจากเบ้า ด้วยช้อนเหล็ก เซ่นบูชาซาตาน(มีคลิป) - ข่าว ควักตาลูกชาย แม่ควัก

 

‘ อุทกภัยหนักสุด ในรอบ100 ปี ที่แคว้นแคชเมียร์ ’
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 13 ก.ย. 2557 16:57







สถานการณ์น้ำท่วมครั้ง รุนแรงสุดในรอบศตวรรษ ในแคว้นแคชเมียร์ ทางภาคเหนือของอินเดีย และรัฐปัญจาบ ทางตะวันออกของปากีสถาน ยังคงวิกฤติ และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 450 รายแล้ว โดยพื้นที่ใน เมืองศรีนาคาร์ เมืองเอกของแควันแคชเมียร์ ต้องจมน้ำหมดทั้งเมือง ประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จนทำให้เกิดความไม่พอใจรัฐบาลนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี มากขึ้น เนื่องจากเห็นว่าดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยล่าช้ามาก





‘ อุทกภัยหนักสุด ในรอบ100 ปี ที่แคว้นแคชเมียร์ ’ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เรือนรับรองของโบสถ์ดังไนจีเรียถล่ม ดับ 17 ศพ
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 14 ก.ย. 2557 02:17



เรือนรับรองของโบสถ์ชื่อดังซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเมืองลากอสของไนจีเรีย พังถล่ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุเรือนรับรองของโบสถ์ชื่อดังซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเมืองลากอส เมืองใหญ่ที่สุดของประเทศไนจีเรีย พังถล่มระหว่างต่อเติมอาคาร เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ย.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บนัยร้อยคน และล่าสุดในวันเสาร์ตัวเลขผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 17 รายแล้ว

เรือนรับรองที่เกิดเหตุตั้งอยู่ในย่านอิโคตุน ที่สำนักงานใหญ่ของโบสถ์คริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ 'ซินากอก เชิร์ช ออฟ ออล เนชั่นส์' ของศาสดา ที.บี. โจชัวร์ ซึ่งมีสาวกอยู่ทั่วทั้งแอฟริกาและทั่วโลก


@เจ้าหน้าที่นำตัวผู้ได้รับาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

นายอิบราฮิม ฟารินรอย โฆษกสำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ (เอ็นอีเอ็มเอ) เผยต่อสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า ในวันเกิดเหตุสมาชิกของโบสถ์ซินากอกไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินเข้าไปปฏิบัติการช่วยเหลือโดยไม่บอกเหตุผล ทำให้การนับจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นไปอย่างยากลำบาก แต่ในวันเสาร์ พวกเขาได้รับอนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ได้ และขณะนี้กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่

ก่อนหน้านี้ นายฟารินรอยระบุว่า เรือนรับรองแห่งนี้เดิมมี 2 ชั้นและเปิดใช้งานในฐานะเรือนรับรองแล้ว แต่เหตุถล่มเกิดขึ้นในระหว่างที่คนงานกำลังต่อเติมอาคารเพิ่มอีก 3 ชั้น

เรือนรับรองของโบสถ์ดังไนจีเรียถล่ม ดับ 17 ศพ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เหยื่อบ้านรับรองของโบสถ์ดังไนจีเรียถล่ม พุ่ง 41 ศพแล้ว
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 15 ก.ย. 2557 00:48



จำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุด ในเหตุบ้านรองของโบสถ์ชื่อดังซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในเมืองลากอสของไนจีเรียพังถล่ม เพิ่มขึ้นเป็น 41 รายแล้วราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน...

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าของเหตุบ้านรับรอง 5 ชั้นของโบสถ์คริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ 'ซินากอก เชิร์ช ออฟ ออล เนชั่นส์' ของศาสดา ที.บี. โจชัวร์ ซึ่งมีสาวกอยู่ทั่วทั้งแอฟริกาและทั่วโลก ในเมืองลากอสพังถล่มเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ย.) ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 41 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บนับร้อยคน

ตามการเปิดเผยของนาย อิบราฮิม ฟารินรอย โฆษกสำนักงานจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ (เอ็นอีเอ็มเอ) เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตออกมาจากใต้ซากปรักหักพังแล้ว 130 คน และพบผู้เสียชีวิตแล้ว 41 ราย โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการเก็บกวาดซากอาคาร ซึ่งมีการขยายเวลาไปจนถึงวันจันทร์

ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้บ้านรับรองแห่งนี้พังถล่ม แต่เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินระบุว่า 2 ชั้นแรกของเรือนรับรองแห่งนี้เปิดใช้งานในฐานะเรือนรับรองแล้ว แต่เหตุถล่มเกิดขึ้นในระหว่างที่คนงานกำลังต่อเติมดัดแปลงอาคารอีก 3 ชั้นที่เหลือ

เหยื่อบ้านรับรองของโบสถ์ดังไนจีเรียถล่ม พุ่ง 41 ศพแล้ว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

สกอตแลนด์โหวตแยกตัวพฤหัสฯนี้ผลโพลคู่คี่
โดย ทีมข่าวต่างประเทศ 15 ก.ย. 2557 05:30



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเกาะติดสถานการณ์การลงคะแนนประชามติของสกอตแลนด์ว่าควรหรือไม่ที่จะแยกตัวเป็นเอกราช ที่จะเริ่มโหวตกันในวันที่ 18 ก.ย.นี้ ขณะที่ผลลัพธ์ยังคงคู่คี่ยากจะคาดเดา โดยล่าสุดผลสำรวจความคิดเห็นล่วงหน้าทางโทรศัพท์จัดทำโดยกลุ่มรณรงค์เบตเตอร์ ทูเกตเตอร์ พบว่า สนับสนุนการแยกตัว 46.5 เปอร์เซ็นต์ ไม่สนับสนุน 53.5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผลสำรวจของหนังสือพิมพ์เอิบเซิร์ฟเวอร์ พบไม่สนับสนุน 53 เปอร์เซ็นต์ ต่อสนับสนุน 47 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับของหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์ส ไม่สนับสนุน 50.6 เปอร์เซ็นต์ สนับสนุน 49.4 เปอร์เซ็นต์ และของซันเดย์ เทเลกราฟ ไม่สนับสนุน 46 เปอร์เซ็นต์ สนับสนุน 54 เปอร์เซ็นต์

การทำประชามติครั้งนี้เชื่อว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิมากเป็นประวัติการณ์ โดยเฉลี่ยจากการสอบถามพบว่า จะมีผู้มาใช้สิทธิสูงถึง 93 เปอร์เซ็นต์ ของผู้มีสิทธิลงคะแนน และยังเป็นครั้งแรกที่เยาวชนอายุ 16 และ 17 ปี จะมีสิทธิร่วมโหวตด้วย ขณะที่ก่อนหน้านี้นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ออกเรียกร้องให้ชาวสกอตช่วยกันโหวตไม่สนับสนุน พร้อมประกาศว่า หากสกอตแลนด์จะแยกตัวก็ต้องไม่ใช้เงินสกุลปอนด์อีกต่อไป ส่วนนายอเล็ก ซาลมอนด์ มุขมนตรีสกอตแลนด์ เรียกร้องให้ออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุด เพราะนับเป็นโอกาสครั้งหนึ่งในช่วงชีวิต.

สกอตแลนด์โหวตแยกตัวพฤหัสฯนี้ผลโพลคู่คี่ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ชาติอาหรับขอร่วมโจมตีทางอากาศ ถล่มกลุ่ม 'ไอเอส' ในอิรัก
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 15 ก.ย. 2557 04:53



กลุ่มชาติอาหรับหลายประเทศ ยื่นข้อเสนอขอเข้าร่วมในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ต่อต้านกลุ่ม ไอเอส ในอิรัก หากได้รับอนุญาตจากรัฐบาลอิรัก...

สำนักข่าว 'บีบีซี' รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ว่า กลุ่มชาติอาหรับหลายประเทศ ยื่นข้อเสนอขอเข้าร่วมในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ต่อต้านกลุ่มติดอาวุธมุสลิมสุหนี่ 'รัฐอิสลาม' (ไอเอส) ในประเทศอิรัก แต่ย้ำจะเคลื่อนไหวต่อเมื่อได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลอิรัก

ขณะที่นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจเยือนตะวันออกกลาง เพื่อขอแรงสนับสนุนต่อต้านกลุ่มไอเอส กล่าวที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสว่า เขามีกำลังใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก จากคำมั่นสัญญาการให้ความช่วยเหลือทางทหาร เพื่อจัดการกับกลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มนี้


@จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ

อนึ่ง ฝรั่งเศสกำลังจะเป็นเวทีประชุมนานาชาติ เรื่องความมั่นคงในอิรักและการรับมือกับกลุ่มไอเอส ในวันจันทร์นี้ (15 ก.ย.) โดยคาดว่าจะมีผู้แทนจาก 20 ประเทศมาเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่ในสัปดาห์หน้า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) จะจัดการประชุม ตามด้วยการประชุมของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ในช่วงปลายเดือนนี้

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ก่อน ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศแผนยุทธศาสตร์ปราบปรามกลุ่มไอเอสทั้งนอิรักและซีเรีย โดยจนถึงตอนนี้ กว่า 40 ประเทศรวมถึงชาติอาหรับ 10 ประเทศ ลงนามร่วมสนับสนุนแผนจัดการกลุ่มไอเอสซึ่งนำโดยสหรัฐฯแล้ว

ชาติอาหรับขอร่วมโจมตีทางอากาศ ถล่มกลุ่ม 'ไอเอส' ในอิรัก - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

แม่ฮ่องสอนอ่วม ฝนถล่มดินสไลด์
โดย ทีมข่าวหน้า1 14 ก.ย. 2557 06:28



ฝนถล่มแม่ฮ่องสอน น้ำป่าจากลำน้ำแม่สะงาไหลทะลักเข้าท่วม 2 หมู่บ้าน ดินถล่มปิดทับเส้นทางเข้าพระตำหนักปางตองและหมู่บ้านรักไทยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด แขวงการทางระดมเครื่องจักรกลเข้าเปิดเส้นทางแล้ว เช่นเดียวกับนครราชสีมาฝนที่ตกต่อเนื่อง ส่งผลให้น้ำจากแม่น้ำมูลและลำน้ำจักรราชเอ่อท่วมหลายพื้นที่ของ อ.พิมาย “อนุพงษ์” ประเดิมงานแรกลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาชัยนาท ผอ.ชลประทานที่ 12 ยืนยันสถานการณ์น้ำยังปกติ มั่นใจไม่ท่วมแน่นอน “อุตุฯ” เตือนอิทธิพลพายุโซนร้อน “คัลแมกี” ที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่ทางทิศตะวันออกของฟิลิปปินส์ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น

หลายจังหวัดยังคงเกิดฝนตกหนักและดินถล่ม โดยที่ จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 13 ก.ย. นายเพิ่มวิทยา กันทะทรง หน.สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่าเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักในพื้นที่แนวชายแดนบ้านรักไทย และบ้านนาป่าแปก ต.หมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ส่งผลให้น้ำป่าจากลำน้ำแม่สะงาไหลทะลักเข้าท่วมไร่นาของราษฎรบ้านห้วยขาน และบ้านทบศอก ต.หมอกจำแป่ เสียหายเป็นบริเวณกว้าง ถนนทางขึ้นไปยังพระตำหนักปางตอง และต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวบ้านรักไทย มีดินสไลด์ปิดทับเส้นทาง 1 จุด รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้ แขวงการทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนนำเครื่องจักรกลเข้าไปเปิดเส้นทางเร่งด่วนแล้ว โดยตลอดเส้นทางขึ้นไปยังพระตำหนักปางตอง และหมู่บ้านท่องเที่ยวบ้านรักไทย ยังถูกปกคลุมไปด้วยหมอกที่เกิดจากไอฝน นักท่องเที่ยวผู้ที่ไม่ชำนาญเส้นทาง ควรเปลี่ยนถ่ายใช้บริการรถยนต์ในพื้นที่จะดีที่สุด

จ.นครราชสีมา ฝนที่ตกต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเขตเทศบาลตำบลพิมาย อ.พิมาย โดยบางจุดระดับน้ำสูงถึงเข่า มีผู้ประสบภัย 1 ราย คือนายเทศ เร่งพิมาย อายุ 78 ปี อยู่บ้านเลขที่ 171/13 หมู่ 3 ต.พิมาย ต้องขนย้ายข้าวของไปอาศัยอยู่กับลูกในหมู่บ้านใกล้เคียง ขณะที่น้ำในแม่น้ำมูลและลำน้ำจักราชมีระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง นายดนัย ตั้งเจิดจ้า นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพิมาย สั่งการให้เจ้าหน้าที่เตรียมกระสอบทรายไว้พร้อมกว่า 5,000 กระสอบ และให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ทันท่วงที ส่วนบ้านเรือนราษฎรที่ถูกน้ำท่วมก็ได้นำถุงยังชีพไปช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อน นอกจากนี้ยังได้นำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งเพื่อเร่งทำการระบายน้ำในบริเวณจุดที่มีน้ำท่วมขังเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนพร้อมประสานกับทาง ปภ.จังหวัดนครราชสีมา และรายงานสถานการณ์ให้นายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา ทราบทุกระยะ

จ.ชัยนาท พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผวจ.ชัยนาท และหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ นายฎรงค์กร สมตน ผอ.สำนักชลประทานที่ 12 เผยว่า เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำ 920 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนน้ำอยู่ที่ 10.90 เมตร ถือว่าเป็นสภาวะปกติ ไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดอุทกภัยแต่อย่างใด สำนักชลประทานที่ 12 จะพยายามไม่ให้มีการระบายน้ำไปกระทบต่อประชาชนอย่างแน่นอน แต่อาจมีสภาวะน้ำเอ่อล้นตลิ่งบ้างเล็กน้อย ถือเป็นปกติของฤดูฝน จากการคาดการณ์ของกรมอุตุฯ หน้าฝนในปีนี้จะหมดเร็วกว่าทุกปี ระดับน้ำจะทรงตัวและลดลงในช่วงเดือนตุลาคม

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า ในช่วงวันที่ 14-18 ก.ย. ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นอยู่ในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป
ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก

อนึ่ง พายุโซนร้อน “คัลแมกี” (Kalmaegi) บริเวณด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มเคลื่อนที่ผ่านเกาะลูซอนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนในวันที่ 15 ก.ย. หลังจากนั้นจะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือในแนวเกาะไหหลำ ในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย. พายุนี้จะมีอิทธิพลต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย ทำให้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้นด้วย ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ส่วนในช่วงวันดังกล่าว เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่ง

แม่ฮ่องสอนอ่วม ฝนถล่มดินสไลด์ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

แคลิฟอร์เนียแผ่นดินไหว 3.5 แมกนิจูด



เกิดแผ่นดินไหวเบาบางระดับ 3.5 แมกนิจูด ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทางตะวันตกของสหรัฐ เบื้องต้นยังไม่พบความเสียหาย

วันจันทร์ 15 กันยายน 2557 เวลา 08:10 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโคเวโล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ว่าสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ( ยูเอสจีเอส ) ตรวจพบการเกิดแผ่นดินไหวเบาบางระดับ 3.5 แมกนิจูด เมื่อเวลา 13.17 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 03.17 น. วันจันทร์ ตามเวลาในประเทศไทย ) โดยมีจุดศูนย์กลางลึกลงไปใต้พื้นดินราว 13.2 กิโลเมตร ห่างจากเมืองโคเวโล ในเขตเมนโดซิโน ไปทางตอนใต้เพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น และห่างจากเมืองซาคราเมนโตไปทางตะวันตกราว 193 กิโลเมตร

แม้ยังไม่มีรายงานการเกิดความเสียหาย แต่แผ่นดินไหวครั้งนี้มีจุดศูนย์กลางห่างจากเขตนาปา ทางตะวันตกของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.0 แมกนิจูดเมื่อปลายเดือนส.ค. ไปทางตอนเหนืออีกราว 240 กิโลเมตร

แคลิฟอร์เนียแผ่นดินไหว 3.5 แมกนิจูด | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ควีนเอลิซาเบธทรงกล่าวถึงประชามติสกอตแลนด์



สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มีพระราชดำรัสเรื่องการลงประชามติของสกอตแลนด์ในวันที่ 18 ก.ย. นี้เป็นครั้งแรก โดยพระองค์ทรงขอให้ชาวสกอตคิดให้ดี

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/rnk9IATD4ck?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันจันทร์ 15 กันยายน 2557 เวลา 09:21 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ว่าสำนักพระราชวังบักกิงแฮมออกแถลงการณ์เรื่องสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จแปรพระราชฐาน ณ ปราสาทบัลมอรัล ในเมืองอาร์เบอร์ดีนเชียร์ ทางตะวันออกของสกอตแลนด์ เมื่อวันอาทิตย์ และพระองค์ทรงร่วมประกอบพิธีทางศาสนาในโบสถ์แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับปราสาทด้วย

หลังจากนั้น พระองค์มีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกรที่มารอเฝ้าฯรับเสด็จ โดยหลายคนทูลถามพระองค์เกี่ยวกับการลงประชามติแยกเอกราชของสกอตแลนด์ในวันที่ 18 ก.ย. นี้ ซึ่งพระองค์ตรัสว่า ชาวสกอตทุกคนควรคิดให้ดีเกี่ยวกับอนาคตของตัวเอง

ทั้งนี้ ทุกฝ่ายต่างพร้อมใจกันไม่ออกมาตีความหมายที่อาจแฝงอยู่ในพระราชดำรัสของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ผู้นำอังกฤษ กล่าวว่าจะเดินทางไปยังสกอตแลนด์อีกครั้งในวันจันทร์นี้ เพื่อย้ำเตือนว่า หากชาวสกอตต้องการแยกเอกราชจากสหราชอาณาจักรจริง การแยกตัวนั้นจะมีผล "ตลอดไป"

ขณะที่นายอเล็กซ์ ซัลมอนด์ รัฐมนตรีที่ 1 ของสกอตแลนด์ กล่าวในรายการ "ดิ แอนดรูว์ มาร์ โชว์" ของสถานีโทรทัศน์บีบีบซี ว่าการลงประชามติครั้งนี้คือโอกาสเดียวในชีวิตของชาวสกอต และโดยส่วนตัวเขาหวังว่าเสียงส่วนใหญ่จะเลือกการแยกเป็นเอกราช และยืนยันเรื่องการใช้ธนาคารกลางร่วมกับรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งหมายความถึงการยังคงร่วมใช้สกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิงเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม นายอลิสแตร์ ดาร์ลิง อดีตรมว.กระทรวงการคลังอังกฤษ ซึ่งเป็นแขกรับเชิญในรายการเดียวกัน และเป็นผู้นำการรณรงค์คัดค้านการแยกตัวของสกอตแลนด์ ยืนยันรัฐบาลเวสต์มินสเตอร์ไม่มีทางเห็นด้วยเรื่องการใช้ธนาคารกลางและสกุลเงินร่วมกัน พร้อมกับเตือนด้วยว่า สกอตแลนด์จะเผชิญกับปัญหามากมาย หากไม่อยู่กับสหราชอาณาจักรต่อไป

ควีนเอลิซาเบธทรงกล่าวถึงประชามติสกอตแลนด์ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

หมอชาวเซียร์ลาลีโอนติดไวรัสอีโบลาเสียชีวิต



หมอชาวเซียร์ราลีโอน เป็นคนที่สี่แล้ว ติดเชื้อไวรัส อีโบลา แล้วเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน องค์กรการกุศลของเนเธอร์แลนด์ก็ได้ทำการขนย้ายแพทย์ 2 คนที่สงสัยว่าจะติดเชื้อไวรัส เดินทางกลับไปเนเธอร์แลนด์ เพื่อตรวจรักษาอาการ

วันจันทร์ 15 กันยายน 2557 เวลา 05:14 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฟรีทาวน์ประเทศเซียร์ราลีโอน เมื่อวันที่15ก.ย.ว่านายบริมา คาร์จโบเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านสาธารณสุขของเซียร์ราลีโอนเปิดเผยว่า แพทย์หญิงโอลิฟบัค ซึ่งรับผิดชอบดูแลโรงพยาบาลลัมลีย์โรงพยาบาลของรัฐในกรุงฟรีทาวน์ติดเชื้อไวรัส อีโบลาจากการตรวจเมื่อวันอังคารสัปดาห์ที่แล้วและถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลคอนนอจในกรุงฟรีทาวน์นั้นได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันโฆษกขององค์กรเพื่อการกุศลของเนเธอร์แลนด์เปิดเผยว่า แพทย์ชาวดัทช์2คนซึ่งอาจจะติดเชื้อไวรัสอีโบลา ที่โรงพยาบาลในประเทศเซียร์ราลีโอนนั้นถูกนำตัวกลับไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์แล้วโดยถูกส่งไปยังแผนกกักกันโรคของโรงพยาบาลในเมืองไลเดนทางตะวันตกของเนเธอร์แลนด์เพื่อทำการตรวจซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่าติดเชื้อไวรัส อีโบลา มาหรือไม่

แพทย์หญิงโอลิฟบัค นับเป็นแพทย์คนที่ 4แล้วในประเทศเซียร์ราลีโอนที่เสียชีวิตจากไวรัส อีโบลาก่อนหน้านี้เป็นนายแพทย์3คน เสียชีวิตเพราะไวรัสอีโบลา ที่แพร่ระบาดมาตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมาขณะเดียวกันก็มีพยาบาลอีกราว50คนเสียชีวิตเพราะไวรัสอีโบลา เช่นกัน

ไวรัสอีโบลา แพร่ระบาดในแถบแอฟริกาตะวันตกคร่าชีวิตผู้ติดเชื้อไปแล้ว2,400ศพตามรายงานขององค์การอนามัยโลกประเทศที่พบการแพร่ระบาดมากที่สุดคือเซียร์ราลีโอน,กินี และไลบีเรีย

หมอชาวเซียร์ลาลีโอนติดไวรัสอีโบลาเสียชีวิต | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

เกาหลีเหนือลงดาบมะกันใช้แรงงาน6ปี



ศาลสูงเกาหลีเหนือมีคำพิพากษาให้นายแมทธิว มิลเลอร์ ชาวอเมริกัน ไปเข้าค่ายใช้แรงงานเป็นเวลา 6 ปี โทษฐานเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายและพยายามสอดแนม

วันอาทิตย์ 14 กันยายน 2557 เวลา 18:13 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเปียงยางประเทศเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่14 ก.ย.ว่า ในการพิจารณาคดีที่ใช้เวลาประมาณ90 นาทีเมื่อวันอาทิตย์ ศาลสูงเกาหลีเหนือระบุว่านายมิลเลอร์วัย24ปีชาวเมืองเบเกอร์สฟิลด์รัฐแคลิฟอร์เนียได้ฉีกวีซานักท่องเที่ยวที่สนามบินกรุงเปียงยางเมื่อเขาเดินทางมาถึงเมื่อวันที่10 เม.ย.พร้อมกับยอมรับว่า ต้องการเข้าไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในเรือนจำ เพื่อที่จะได้เข้าถึงสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือ

หลังจากนั้นนายมิลเลอร์ ที่สวมใส่กุญแจมือได้ถูกนำตัวออกไปจากห้องศาลและศาลประกาศว่าจะไม่พิจารณาการอุทธรณ์ต่อคำพิพากษานี้ ก่อนหน้านั้น มีการเชื่อกันว่านายมิลเลอร์พยายามหาทางลี้ภัยในเกาหลีเหนือแต่ทางการเกาหลีเหนือระบุว่าเป็นอุบาย และว่า นายมิลเลอร์ยังอ้างว่ามีข้อมูลลับเกี่ยวกับทหารอเมริกันในเกาหลีใต้ทั้งในไอแพดและไอพอด

ทั้งนี้นายมิลเลอร์เป็นหนึ่งในสามชาวอเมริกันที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเกาหลีเหนือ ขณะที่ นายเจฟฟรีย์ โฟว์เล คาดว่า จะขึ้นศาลในเร็วๆนี้ หลังถูกจับกุมเมื่อเดือนพ.ค.ในข้อหาทิ้งคัมภีร์ไบเบิลในโรงแรมที่พัก ส่วนนายเคนเนธ แบ นักสอนศาสนาชาวอเมริกันเชื้อสายเกาหลีใต้ถูกศาลพิพากษาให้เข้าค่ายแรงงาน15 ปีโทษฐานทำตัวเป็นปรปักษ์ต่อรัฐบาลเกาหลีเหนือ
เกาหลีเหนือลงดาบมะกันใช้แรงงาน6ปี | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

เตือนภัย

สถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง



วันที่ 15 กันยายน 2557 เวลา 06:59 น.จุดเสี่ยงอุทกภัยที่น่าจับตามองมากที่สุด ณ เวลา (๐๖.๕๙น.) ๑. แม่น้ำมูล ที่ จ.นครราชสีมา ต.ท่าลาด อ.ชุมพวง ต่ำกว่าตลิ่ง ๐.๒๔ ม. มีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ๒. แม่น้ำน่าน ที่ จ.พิษณุโลก ต.นครไทย อ.นครไทย ต่ำกว่าตลิ่ง ๐.๗๘ ม. มีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ๓.แม่น้ำมูล ที่ จ.บุรีรัมย์ ต.ไพศาล อ.ประโคนชัย ต่ำกว่าตลิ่ง ๐.๕๗ ม. มีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ๔.แม่น้ำมูล ที่ จ.บุรีรัมย์ ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง ต่ำกว่าตลิ่ง ๐.๗๑ ม. มีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ๕.แม่น้ำตะวันออก ที่ จ.ตราด ต.ห้วยแร้ง อ.เมืองตราด ต่ำกว่าตลิ่ง ๐.๗๔ ม. มีระดับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากฝนยังตกอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมได้ ประชาชนบริเวณดังกล่าวควรติดตามข่าวสารจากเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด หลีกเลี่ยงการสัญจรผ่านพื้นที่อุทกภัยและพื้นที่ที่มีปัญหาการระบายน้ำหรือน้ำท่วมขังควรเพิ่มความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการอาศัยใกล้สิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง ต้นต้นไม้ใหญ่เฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจเอ่อล้นตลิ่งทำให้พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนได้รับความเสียหาย และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ในระยะต่อไป

 

เตือนภัย
ระบบเตือนภัยน้ำหลากดินถล่ม ระดับเฝ้าระวัง ๖ หมู่บ้าน ที่ จ.พังงา และนครศรีธรรมราช



วันที่ 15 กันยายน 2557 เวลา 06:57 น.ระดับเฝ้าระวัง ๖ หมู่บ้าน ๑.ที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ลป.๒ (น้ำตกลำปี) ( ตำบล ท้ายเหมือง อำเภอ ท้ายเหมือง จังหวัด พังงา) ๒.บ้านคุ้งวังวัว ( ตำบล ควนกลาง อำเภอ พิปูน จังหวัด นครศรีธรรมราช) ๓.บ้านนาเขลียง ( ตำบล นาเขลียง อำเภอ ฉวาง จังหวัด นครศรีธรรมราช) ๔.บ้านต้นโพธิ์ ( ตำบล นาแว อำเภอ ฉวาง จังหวัด นครศรีธรรมราช) ๕.บ้านฝ่ายท่า ( ตำบล นาแว อำเภอ ฉวาง จังหวัด นครศรีธรรมราช) ๖.บ้านนางเอื้อย ( ตำบล กระทูน อำเภอ พิปูน จังหวัด นครศรีธรรมราช) ปริมาณฝนสะสม ๑๒ ชม. บ้านนางเอื้อย จังหวัดนครศรีธรรมราช วัดได้ ๑๐.๐ มม. ที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ลป.๒ วัดได้ ๘๖.๐ มม. การปฏิบัติตนเมื่อมีการแจ้งเตือนภัย - ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ - คอยฟังประกาศจากหอกระจายข่าว

 

Little Duck ได้แชร์รูปภาพของ Visudhi Punya



คลื่นสูงกว่า 4 เมตร
ซัดเรือบรรทุกปูนซีเมนต์ SCG ล่มกลางทะเลตรัง
ลูกเรือ 4 ชีวิตรอดตายหวุดหวิด ปูนจม 3,000 ตัน
เสียหาย 50 ล้านบาท
**************************************************
วันที่ 11 กันยายน 2557
เกิดเหตุเรือบรรทุกปูนซีเมนต์ของบริษัท เอสซีจี
น้ำหนักรวมกว่า 6,000 ตัน 4 ลำ
ล่มในระหว่างเดินทางไปส่งยังประเทศพม่า
ที่บริเวณบ้านหาดยาว อ.กันตัง จ.ตรัง
เนื่องจากเจอคลื่นสูงกว่า 4 เมตร
ทำให้เรือจมลงทันที 2 ลำ
พร้อมปูนซีเมนต์กว่า 3,000 ตัน

ลูกเรือ 4 คน ของเรือบรรทุกดังกล่าว
สามารถว่ายน้ำขึ้นเรือที่เหลืออีก 2 ลำได้อย่างปลอดภัย
ส่วนมูลค่าความเสียหายของปูนซีเมนต์ในครั้งนี้
ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้พยายามเข้ากู้ซากเรือแล้ว
แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากมีคลื่นสูงและฝนตกหนัก

Cr: สำนักข่าวไทย

Remark:
ปูนได้จากไหน.........ระเบิดภูเขา......เสียสมดุลโลกที่เมืองไทย
จะเอาไปไหน...........ย้ายภูเขาไปพม่า.......เสียสมดุลโลกที่พม่า
เอาไปทำอะไร..........เอาไปก่อสร้างป่าคอนกรีตที่พม่า.....เสียสมดุลโลกที่เมืองพม่า
เรือปูนล่มทำไม......ส่งสัญญาณว่า
สิ่งที่เกิดนั้น จงนำมา "ฉุกคิดเถิด" ......เตือน!

ป.วิสุทธิปัญญา
12-09-2014

 

ฤทธิ์เอลนีโญ!ไทยส่อเจอแล้งหนัก2-4ปี
14 กันยายน 2557 เวลา 07:37 น. |
โดย...นรินทร์ ใจหวัง



หลังสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ ปี2554 เป็นต้นมา ทุกครั้งที่เห็นน้ำท่วมทางภาคเหนือของประเทศ คนกรุงมักตั้งคำถามในใจว่า “ปีนี้น้ำจะท่วมกรุงเทพฯหรือไม่”

ทว่าในความเป็นจริงน้ำท่วมใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายนัก และมักกินเวลาหลายสิบปีที่จะเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง แต่ด้วยสภาพพื้นที่ราบลุ่มภาคกลาง อันอุดมสมบูรณ์ และภูมิอากาศแบบมรสุมเขตร้อนทำให้ช่วงฤดูฝน เริ่มต้นประมาณกลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนตุลาคมของทุกๆ ปีมีน้ำท่วมในทีราบลุ่มภาคกลางเป็นประจำ

เช่นเดียวกับในปีนี้ถึงแม้จะมีภาพข่าวน้ำท่วมทางภาคเหนือ แต่ในความเป็นจริง ปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่กลับมีอยู่น้อย และส่งผลให้หลังจากนี้ประเทศไทยต้องเตรียมตัวรับมือภัยแล้งหนัก

รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ระบุว่า สิ่งที่ต้องกลัวในปีนี้คือสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจกินเวลานานหลายปีมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำในอ่างเก็บน้ำหลักอย่างเขื่อนภูมิพล จ.ตากและเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ที่มีน้ำอยู่ในอ่างตอนนี้เฉลี่ยเพียง40-50% เท่านั้น และคาดว่าฝนจะหยุดตกในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป

"สาเหตุส่วนใหญ่ เกิดจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม- สิงหาคมที่ผ่านมามีจำนวนฝนที่น้อยว่าทุกปี ซึ่งน้ำท่วมที่ภาคเหนือเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเท่านั้นเอง"รศ.ดร.เสรีกล่าว

ไทยต้องเผชิญเอลนีโญไปอีก2-4ปี

รศ.ดร.เสรี ระบุว่า ขณะที่ไทยอยู่ในอิทธิพลเอลนีโญ ที่แห้งแล้งเพราะ ลมสินค้า (ลมซึ่งพัดออกจากบริเวณความกดอากาศสูงกึ่งโซนร้อนไปยังบริเวณความกดอากาศต่ำที่เส้นศูนย์สูตร ในซีกโลกเหนือจะพัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนในซีกโลกใต้จะพัดมาจากทิศตะวันออกเฉียงใต้) ที่อ่อนตัวลงส่งผลให้ด้านฝั่งอเมริกาได้ฝนดีจนน้ำอาจจะท่วมได้ แต่ทางภูมิภาคฝั่งไทยกลับไม่ค่อยมีฝน ซึ่งไทยจะต้องอยู่กับสถานการณ์แล้งแบบนี้ไปอีก2-4ปี ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นเอลนีโญลากสั้นหรือยาว ดังนั้นชาวนาภาคกลางที่ปลูกข้าวนาปรังจึงต้องระวังผลผลิตที่ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

"เรามาดูน้ำแค่2 เขื่อนที่มีผลกับภาคกลางคือภูมิพลและสิริกิติ์ ฝนที่ตกมาตอนนี้ มันเพียงทำให้ข้าวนาปีกระชุ่มกระชวยขึ้นเท่านั้น จริงๆ แล้วเราต้องการน้ำกว่า 6 พันล้านลูกบาศก์เมตรเพื่อข้าวนาปรังกว่า 4-5 ล้านไร่ แทบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แต่ตอนนี้ สองเดือนที่ผ่านมาน้ำเพิ่มเป็น 3 พันล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้นเอง"ดร.กล่าว

ส่วนการคาดการณ์ปรากฏการณ์เอลนีโญนั้น เพื่อความแม่นยำจะคำนวนไว้เพียง2ปี ดังนั้นขณะนี้ยังไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเอลนีโญจะอยู่แค่ปีหน้าหรือนานกว่านั้นจนถึง4ปี ซึ่งหมายถึงความแห้งแล้งที่ยาวนานนั่นเอง

ยิ่งเเล้งนาน ก็ยิ่งท่วมหนัก

รศ.ดร.เสรีระบุว่า ตามวัฏจักรของน้ำจะเกิดน้ำท่วมหนักหากเกิดการเเห้งเเล้งที่ยาวนาน คือเมื่อเอลนีโญไป ลานีญาก็พาฝนกลับมา ดังนั้นเรามีเวลาเตรียมตัวตั้งรับน้ำท่วมอย่างเร็วคือ 2 ปี อย่างช้าคือ 4 ปี เท่านั้น

"ถ้าลากสั้นเกิดเอลนีโญปีนี้ กับปีหน้าจะทำให้ปีหน้าน้ำไม่ค่อยดี ตอนนี้พูดได้เลยว่า 2558 นี่จะแล้งแน่นอน ถ้าเกิดเป็นเอลนีโญลากสั้นปีหน้าแล้งจัด พอถึงปี 2559 น้ำจะท่วมใหญ่เลย

แต่ถ้าลากยาว 2-5 ปีไม่มีใครรู้ สมมุติว่าปี 2558,2559 เอลนีโญอยู่ ที่นี่แหละ หลังปี 2560 น้ำก็จะท่วมหนัก ยกตัวอย่างที่ผ่านเช่น 2537 แล้ง พอปี 2538 กลายเป็นลานีญา น้ำก็ท่วมใหญ่เลย เราต้องดูอดีตเอามาประกอบ ฉะนั้นโอกาสน้ำท่วมคือตั้งแต่ปี 2559 -2561 ไม่รู้ว่าปีไหน น้ำท่วมใหญ่แน่ เท่ากับอย่างเร็วสุด 2 ปี ช้าสุด 4ปี เราจะทำอย่างไรได้บ้าง"รศ.ดร.เสรีสรุป

ด้าน ดร.รอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (องค์การมหาชน) ที่ระบุว่า ความเชื่อผิดๆ ว่าน้ำจะท่วมมาถึงกรุงเทพฯ ทำให้ต่างฝ่ายต่างพยายามเร่งระบายน้ำทิ้งจนหมด สิ่งที่ตามมาคือความแห้งแล้งที่ยาวนานมากกว่าปีอื่นนั่นเอง

"เราต้องดูก่อนว่า แม่น้ำทางภาคเหนือตอนนี้เป็นอย่างไร แม่น้ำปิง วัง น่านเป็นปกติ เหลือแม่น้ำยมที่ยังท่วมอยู่ แต่ก็ไม่มาก เป็นอันว่า 3ใน4 เป็นปกติ ต่อมาเราดูที่นครสวรรค์ ที่สะพานเดชาติวงศ์ เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนเข้าสู่ใจกลางเมืองจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งพบว่าน้ำไหลอยู่ที่1380 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แต่ขีดความสามารถของมันอยู่ที่ 3,500-3,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามันเป็นแค่เพียงครึ่งเดียว ซึ่งถือว่าเป็นปกติหมด พอเราย้ายมาดูน้ำที่อยุธยาซึ่งมันก็อยู่ในเกณฑ์ที่ปกติ"ดร.รอยลกล่าว

ดร.รอยล ยังระบุว่าสภาพอากาศของประเทศเดือนกันยายนในปีนี้ มีลักษณะคล้ายคลึงกับ เมื่อปี2539 คือฝนตกหนักในเดือนกันยายนที่เป็นปลายฤดูฝน ซึ่งเมื่อถึงเตือนตุลาคมฝนจะน้อยลงทันที แต่น้ำในเขื่อนใหญ่ๆ ก็ยังอยู่ในเกณฑ์น้อย ความลำบากคือจะทำให้น้ำที่มีอยู่ตอนนี้ เข้าไปอยู่ในเขื่อน สิ่งที่ทำได้อย่างเดียวคือ ต้องเก็บน้ำไว้ในพื้นที่เกษตร ทุ่งคลอง ให้มากที่สุด

"ผมอยากให้คนไทย ศึกษาข้อมูลด้วยตนเองด้วย ดีกว่าที่จะให้ใครมาตัดสินใจให้ว่าจะท่วมหรือไม่ สื่อก็มีบทบาทมากครับที่จะช่วยเปลี่ยน ผู้อ่านโดยการนำเสนอข้อมูลที่เป็นขั้นเป็นตอน วิเคราะห์ในเบื้องต้นเเล้วคอยสรุป"ดร.รอยลกล่าว



สังเกตปริมาณน้ำเพื่อประเมินน้ำท่วมกรุง

รศ.ดร.เสรีระบุว่ามวลน้ำที่มีผลกระทบต่อกรุงเทพฯมากสุด ต้องกลับไปดูจำนวนน้ำในเขื่อนเจ้าพระยาเป็นตัวหลัก(ตามกราฟ) โดยแบ่งสถานการณ์เป็นน้ำท่วมใหญ่ น้ำท่วมปกติ ดังนี้

ยกตัวอย่างปีเกิดน้ำท่วมใหญ่เช่น ปี พศ.2538, 2553 ,2545 ,2554 น้ำที่ผ่านเขื่อนเจ้าพระยาต้องมีถึง 2,000-3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

กลุ่มที่ 2 คือน้ำท่วมปกติเช่นปีพศ. 2551, 2552, 2555,2556 และปีนี้ที่เพิ่งวัดเพิ่งมีน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพียง1,000 ล้านลูกบาศก์เมตรเท่านั้น น้ำท่วมปกติ 2-5 ปี จะเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง โดยเฉลี่ยในที่ลุ่มต่ำ ที่มันท่วมกันซ้ำซาก แต่น้ำท่วมใหญ่ 20 -70 ปีจะเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง เช่น น้ำท่วมปี 2538 อยู่ในรอบ 30 ปี ส่วน 2554 อยู่ในรอบ กว่า70 ปี



ฤทธิ์เอลนีโญ!ไทยส่อเจอแล้งหนัก2-4ปี - โพสต์ทูเดย์ ข่าววิเคราะห์

 

คนไทย รักในหลวง



ลาวา ที่ ฮาวาย
ยังไหลต่อเนื่อง
Hawaiian Kilauea Lava Flow May Threaten Homes Near Pahoa

 

คนไทย รักในหลวง



ข่ากาโบราซี ยอดเขาหิมะ สูงที่สุดในอาเซียน
น้อยคนจะรู้ว่า ภูเขาในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ จะสูงพอมีหิมะปกคลุมได้ตลอดทั้งปี และมันก็มีจริงอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านใกล้ไทยเรานี่เอง ที่มียอดเขา ข่ากาโบราซี (Hkakabo Razi) ตั้งอยู่บริเวณทางด้านเหนือระหว่างชายแดนพม่าและจีน นับเป็นอีกหนึ่งอันซีนท่องเที่ยวของภูมิภาคอาเซียน
ข่ากาโบราซี ยอดเขาหิมะ สูงที่สุดในอาเซียน
ยอดเขา ข่ากาโบราซี อยู่ในจังหวัดปูเตา ตอนเหนือของรัฐคะฉิ่น ที่ตำแหน่ง 28 องศา 20 ลิบดา เหนือ 97 องศา 28 ลิบดาตะวันออกความสูง 5,881 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีหิมะปกคลุมตลอดปี เป็นยอดเขาสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งยอดข่ากาโบราซี เป็นส่วนหนึ่งของแนวเทือกเขาหิมาลัยทางด้านตะวันออก (แต่นักภูมิศาสตร์บางท่านยังให้ ยอดเขาปุนจักจายา ประเทศอินโดนีเซีย ความสูง 5,030 เมตร สูงที่สุดในอาเซียน เพราะข่ากาโบราซีเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย)
ยอดเขา ข่ากาโบราซี เป็นชื่อเรียกที่มาจากภาษาทะรองและภาษาระวาง คำว่า “ข่ากาโป” หมายถึง แม่ไก่ที่ปกป้องลูกน้อย ซึ่งตรงกับลักษณะการทอดตัวของเทือกเขาลูกนี้ ส่วนคำว่า “ราซี” เป็นภาษาระวางแปลว่า ภูเขา ปัจจุบันยอดเขาข่ากาโบราซี ได้ถูกจัดให้เป็น สถานที่ท่องเที่ยว พิเศษซึ่งอยู่ในเขตชายแดน นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวจะต้องมีบริษัททัวร์จัดการขอวีซ่าพิเศษและต้องมีมัคคุเทศก์ติดตามไปด้วย
สำหรับยอดเขา ข่ากาโบราซี เคยมีผู้พิชิตถึงยอดเขาเป็นคนแรกมาแล้ว ตามที่บันทึกไว้ คือ ทากาชิ โอซากิ (Takashi Ozaki) ชาวญี่ปุ่น และนูมา โจเสน (Nyima Gyaltsen) ชาวพม่า เมื่อ 15 กันยายน 1996 ใช้เวลาปีนขึ้นยอดเขา ประมาณ 30 วัน หลังจากนั้นมีผู้พยายามปีนให้ถึงยอดอีกหลายคน แต่ก็ยังไม่สำเร็จ บริเวณโดยรอบเป็นป่าไม้อุดมไปด้วยพืช และสัตว์ที่รอการสำรวจอีกมาก รัฐบาลพม่าได้ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติข่ากาโบราซี ตั้งแต่ ตุลาคม 1998
ถึงแม้จะยังไม่มีใครพิชิตยอดเขา ข่ากาโบราซี ได้อีกครั้ง แต่ทว่าถ้านักท่องเที่ยวที่ต้องการไปสัมผัสยอดเขา ข่ากาโบราซี นอกจากจะดำเนินการเอกสารเข้าพม่า และติดต่อไกด์นำทางเที่ยวเรียบร้อยแล้ว ควรที่จะฟิตร่างกายให้เต็มที่ เพราะแน่นอนเส้นทางขึ้นยอดเขาคงลำบากไม่แพ้ ยอดขุนเขาที่อื่นๆ ใดในโลก แต่มันก็คุ้มค่าเสี่ยง ถ้าได้ไปสัมผัสหุบเขาหิมะสูงสุดในอาเซียน..