ติดตามสถานะการณ์

Setiawan

การปะทุของภูเขาไฟ #Shishaldin, #Alaska ยังคงดำเนินต่อไป

ภาพล่าสุดที่ได้รับเมื่อวาน (28 ธันวาคม) โดย # Sentinel2 แสดงลาวาที่ไหลอ่อนๆ ทางด้านทิศเหนือ


The eruption of the #Shishaldin volcano, #Alaska continues

The latest image acquired yesterday (28 December) by #Sentinel2 shows a weak effusion of lava along the north side.

 

กรมการค้าต่างประเทศเผยเกาหลีใต้ออกมาตรฐานผลิตภัณฑ์พลาสติกที่สัมผัสผิวหนังได้ เตือนผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทยศึกษาและเตรียมความพร้อมให้สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดให้ดี ก่อนมีผลบังคับใช้ 22 ต.ค.63

#MGROnline

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Dec 30) "เทรดวอร์" โอกาสไทย ท่ามกลางวิกฤติ : สงครามการค้า บวกเงินบาทแข็งค่าฉุดภาคการส่งออกซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ช่วง 11 เดือนแรก ปี 2562 มูลค่าการส่งออกของไทยทำได้ที่ 227,090 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงหรือติดลบ 2.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ยอมรับว่าสิ้นปี 2562 การส่งออกของไทยคงไม่มีปาฏิหาริย์พลิกกลับมาเป็นบวกได้ แต่โอกาสการติดลบคงไม่เกิน 2%



ต้องยอมรับว่าสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนที่เริ่มเปิดฉากขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 ถึง ณ ปัจจุบันได้ขึ้นภาษีสินค้าตอบโต้กันไปมาหลายระลอก แม้ล่าสุดสถานการณ์มีท่าทีจะคลี่คลาย หลังทั้ง 2 ฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงการค้าระยะแรก(เฟส 1) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 สาระสำคัญ สหรัฐฯเสนอจะยกเลิกการขึ้นภาษีสินค้าจีนมูลค่า 1.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯอีก 15% (กำหนดเดิมจะขึ้นภาษีในวันที่ 15 ธ.ค. 62) พร้อมทั้งจะปรับลดภาษีสินค้า 1.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เหลืออัตรา 7.5%(จากอัตราเดิมบังคับใช้แล้วเมื่อ 1 ก.ย. 62) แต่ จะยังคงภาษี 25% สำหรับสินค้ามูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ



ส่วนจีนตกลงจะซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯมูลค่าไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯในเวลา 2 ปี รวมถึงการลดอุปสรรคทางการค้า การลงทุนที่สหรัฐฯมองว่าไม่เป็นธรรมอีกหลายประการ ข้อตกลงดังกล่าวทั้ง 2 ฝ่ายจะมีการลงนามในสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม 2563 แต่ในอนาคตยังไม่มีหลักประกันว่าสงครามการค้าครั้งนี้จะยังยืดเยื้อยาวนานแค่ไหน เพราะผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร



อย่างไรก็ตามท่ามกลางวิกฤติสงครามการค้าในช่วงที่ผ่านมา ด้านหนึ่งถือเป็นโอกาสของสินค้าไทยรวมถึงสินค้าของประเทศอื่น ที่จะส่งไปทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐฯ และส่งไปทดแทนสินค้าสหรัฐฯในตลาดจีนที่ทั้ง 2 ฝ่ายขึ้นภาษีตอบโต้กัน และเป็นโอกาสของประเทศในการดึงการลงทุนจากจีน และจากสหรัฐฯ เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตส่งออกไปจีน และสหรัฐฯ รวมถึงส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ เพื่อลดผลกระทบจากสงครามการค้า และเป็นโอกาสของไทยในการหาตลาดใหม่ๆ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯและจีน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรวมกันกว่า 25% ของการส่งออกไทยในภาพรวม ซึ่งยังต้องลุ้นว่าตัวเลขการส่งออกของไทยในปี 2563 จะพลิกกลับมาเป็นบวกได้หรือไม่


Source: ฐานเศรษฐกิจ

 

ไฟป่า (bushfire) ที่รุนแรงและความร้อนจัดส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ในรัฐวิกตอเรียประเทศออสเตรเลีย

https://www.abc.net.au/news/2019-12-30/victoria-braces-for-day-of-extreme-bushfire-danger/11831632

Serious bushfires and extreme heat are affecting many areas in the state of Victoria, Australia.

https://www.abc.net.au/news/2019-12-30/victoria-braces-for-day-of-extreme-bushfire-danger/11831632

 

John Traczyk


หิมะตกหนักยังคงดำเนินต่อไปในตอนเหนือของเม็กซิโก #หิมะ #เม็กซิโก #chihuahua

 

Setiawan

เมื่อคืนนี้ภูเขาไฟ #Suwanosejima ในเกาะ Tokara, Kagoshima, ญี่ปุ่นกำลังพ่นก๊าซภูเขาไฟอุณหภูมิสูงออกมา

ที่ 19: 10 ～ 19: 40, 29 ธันวาคม 2019 (JST)

 

การอัปเดตสดๆสำหรับ Victoria, NSW, South Australia และแม้แต่ Tasmania fires ในออสเตรเลียที่อากาศร้อนจัดและตอนนี้ลมแรง กำลังรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
* นักผจญเพลิงคนอื่นเสียชีวิตและคนอื่นได้รับบาดเจ็บเมื่อรถบรรทุกของพวกเขากลิ้งไปมาขณะต่อสู้กับไฟ
* สถานะของไฟไหม้ในเขตชานเมืองของเมลเบิร์นได้รับการปรับลดรุ่นเป็น Watch and Act หลังจากคุกคามบ้านชานเมือง

Live updates for Victoria, NSW, South Australia and even Tasmania fires in Australia where extreme heat, and now strong winds, are exacerbating conditions.
* Another firefighter has been killed and others injured when their truck rolled over while fighting a fire.
* The status of a fire on the outskirts of Melbourne has been downgraded to Watch and Act after threatening suburban homes.

 

รูปังอนิจจัง

มหาเศรษฐีที่ถูกรางวัลแจ็กพอตใหญ่ที่สุดในยุโรปเสียชีวิตแล้ว ได้อยู่ใช้เงินเพียง 8 ปี

#ข่าวต่างประเทศ

 

คลื่นกระแสลมตะวันตก (Westerly trough หรือ westerly wind wave) เป็นปรากฎการณ์ของกระแสลมในระดับบน (ที่สูงจากพื้นดินประมาณ 5.5 กม. หรือที่ระดับ 500 hPa) พัดจากทางด้านตะวันตก (จากประเทศเมียนมาร์) ไปทางด้านตะวันออก เกิดเป็นแนวคุ้ง หรือแนวโค้ง (trough) พัดผ่านบริเวณภาคเหนือ และอิสานตอนบน ประกอบในระยะนี้มีกระแสลมตะวันออก ในระดับล่าง ซึ่งเกิดจากอิทธิพลของความกดอากาศสูงพัดผ่านเข้ามา ทำให้เกิดการไหลเวียนเข้าหากันบริเวณภาคเหนือ เกิดเป็นพายุฝน/ฝนฟ้าคะนอง มีฟ้าร้องฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนฤดู (จากฤดูหนาวเป็นฤดูร้อน) อิทธพลของคลื่นกระลมตะวันตกดังกล่าวมักจะเกิดขึ้น 2 - 3 วัน ปีนี้มาเร็ว และกำลังจะผ่านไป

 

ลูกก๋งพระอินทร์ ยิงจากฟ้ามายังโลก ถูกหัวคนรับรองแตก...ที่อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่

 

ไปเล่นหิมะ ที่เมืองพม่ากัน...

ในภาพไม่ใช่เกาหลีไม่ใช่ญี่ปุ่นแต่ที่นี่คือเมียนมาร์...ที่เดียวในอาเซี่ยนที่มีหิมะตลอดทั้งปี..

...บรรยากาศท่ามกลางหิมะของหมู่บ้าน Shankke เมืองปูตาโอ แห่งหิมาลัยตะวันออก

.. ปูดาโอ เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของรัฐกะชิ่นในประเทศพม่า ในฤดูร้อนสามารถเดินทางไปได้โดยรถยนต์และในฤดูหนาวเดินทางได้เฉพาะทางเครื่องบิน

ปูเตามียอดเขาสูงสุด คือ ยอดเขาข่ากาโบราซี มีความสูง 5,881 เมตร ถือว่าสูงที่สุดในอาเซียน และเป็นส่วนหนึ่งของปลายเทือกเขาหิมาลัย มีหิมะปกคลุมตลอดปี รวมถึงมีธารน้ำแข็งบนภูเขา

.. ปัจจุบันเมืองแห่งนี้เปิดเพื่อการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการแล้ว..นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้ แต่ควรมีไกด์ท้องถิ่นเป็นผู้นำทาง
.
.
.
.
.
.
.
.
เครดิตภาพและข้อมูล เพจเชียงตุงอยู่ดีกินหวาน

 

ราวหิมะตกที่แม่ฮ่องสอน เกิดลูกเห็บตกขาวโพลนเช่นกันที่จ.แม่ฮ่องสอน

ภาคเหนือตอนบนโดนพายุลูกเห็บกันถ้วนหน้า...

เครดิตภาพ เฮินปิลันธร์ แม่ฮ่องสอน

 

รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลีย เผชิญไฟป่าที่ลุกลามอย่างรุนแรง ล่าสุดมีรายงานการเกิดไฟไหม้มากกว่า 70 จุดทั่วรัฐ โดยเตรียมอพยพประชาชนและนักท่องเที่ยวหลายพันคนออกจากพื้นที่เสี่ยง #ThaiPBSnews

 

ค่าเงินบาทแข็งค่าจนต่ำกว่า 30 แล้ว !

ล่าสุดกำลังซื้อขายอยู่ที่ 29.915 บาท/เหรียญ ถ้าหลุด 29 บาท/เหรียญ จะถือว่าแข็งค่าที่สุดในรอบ 23 ปี นับตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้งปี 40 !

โดยหากมองทางเทคนิดแล้วถ้าหลุดแนวรับที่ 29 บาท/เหรียญได้ เราจะได้เห็นค่าเงินบาทกลับไปทดสอบที่ระดับ 25 บาท/เหรียญ อย่างที่เราเคยคุ้นชิน แน่ๆครับ !

ทำไมค่าเงินบาทถึงแข็งค่าขึ้นมามาก ? แล้วจะกระทบอะไรกับเรา ? อ่านได้ที่นี่ครับ


และทำไมเราไม่ควรวัดความแข็งค่าของค่าเงินบาทเทียบกับแค่ US Dollar อย่างเดียว ?


#OilTradingKP

 

ทางการจีนออกมากล่าวย้ำว่าเจรจาการค้าขั้นที่หนึ่งจะเซ็นกันแน่ๆ หากว่าสหรัฐยังให้เกียรตินโยบาย One-China Policy ของจีนอยู่ นโยบาย "จีนหนึ่งเดียว" นี้หมายถึงอะไร ? และมีความสำคัญอย่างไร ?

นาย Cui Tiankai นักการทูตอาวุโสของจีนให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CGTN ของรัฐจีนเมื่อวานนี้ว่า "จีนจะเคารพข้อผูกพันทางการค้า เพราะสหรัฐฯได้ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามนโยบายจีนหนึ่งเดียว (One-China Policy) เราแค่หวังว่าพวกเขาจะยึดมั่นในคำของพวกเขา” โดยหวังว่าการที่รัฐบาลทรัมป์นั้นอาจจะมีการขายเครื่องบินรบ F16 ให้กับทางไต้หวันนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง (ใครไม่เข้าใจตรงนี้ให้อ่านที่สรุปด้านล่างได้เลยครับ )

ทางด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ก็เพิ่งได้กล่าวย้ำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าเขาและสี จิ้นผิง ตั้งใจจะพบกันและเซ็นสัญญาข้อตกลงระยะที่ 1 นี้ในเดือนมกราคม แต่ก็ยังไม่ได้มีการกำหนดวันแต่อย่างใด

สำหรับท่านที่ถามว่าข่าวดีเรื่องเจรจาการค้านั้นตลาดรับรุ้ไปหมดแล้วหรือยัง ทางเพจคาดว่าน่าจะรับรู้ไปแล้ว 80-90% ครับ แต่หากมีการกำหนดวันขึ้นมาจริงๆตลาดน่าจะยังพอขึ้น (มี Upside) ได้อยู่อีก แต่หากผ่านไปครึ่งเดือนแล้วยังไม่มีการนัดจริงๆ ตลาดน่าจะโดนเทขายลงมาอยู่ที่ความคาดหวังที่ 60-70% ได้อีกทีครับ

1️⃣ นโยบาย "จีนหนึ่งเดียว หรือ One-China Policy" นี้หมายถึงอะไร ?

นโยบายนี้รั้รไม่ใช่ One-child Policy หรือ นโยบายที่จีนให้แต่ละครอบครัวสามารถมีลูกได้คนเดียวนะครับ อย่าจำสับสน 55 แต่นโยบาย One-China Policy นี้คือการที่จะให้ทุกประเทศยอมรับว่าจีนนั้นมีเพียงแค่รัฐบาลเดียวที่ปกครองประเทศจีนอยู่เท่านั้น

2️⃣ อ้าว ? แล้วทุกวันนี้ทางจีนนั้นมี 2 รัฐบาลหรืออย่างไร ?

ถึงแม้ทุกวันนี้หลายคนอาจจะคิดว่าสาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China –PRC) นั้นน่าจะนำโดยรัฐบาลของสี จิ้นผิง แต่เพียงผู้เดียวนั้น แต่ในความจริงแล้วทางกลุ่มสาธารณรัฐจีน (Republic of China–ROC) หรือที่รู้จักกันคือประเทศไต้หวันอาจจะไม่ได้คิดแบบนั้น !

เพราะย้อนกลับไปตั้งแต่ในปี ค.ศ.1949 ที่เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง (Kuomintang– KMT) และพรรคคอมมิวนิสต์จีนโดยพรรค KMT ได้เป็นฝ่ายแพ้พรรคคอมมิวนิสต์จีน จนทำให้ต้องลี้ภัยไปอยู่ที่ไต้หวันพร้อมผู้สนับสนุนอีกราว 1.5 ล้านคน และพรรค KMT นี้ก็ได้ไปจัดตั้งรัฐบาลปกครอง ของตนเองบนเกาะไต้หวัน (Republic of China–ROC) ส่วนผู้ชนะอย่างพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก็ได้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China –PRC) ขึ้นมา

ทั้งสองนั้นได้ปกครองแยกดินแดนกันมาโดยตลอด โดยทั้งคู่นั้นก็หวังอยู่ในใจลึกๆว่า สักวันพรรคของตัวเองนั้นจะต้องนำจีนกลับมาปกครองแบบครบบริบูรณ์ให้ได้ (แม้แต่รัฐบาลฝั่งไต้หวันด้วยก็ตาม )

3️⃣ มันฟังดูแปลกๆไหมที่ต่างฝ่ายต่างคิดว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้นำประเทศในอนาคต ?

สำหรับเราแล้วอาจจะแปลก แต่สำหรับประเทศจีนนี้ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เลย มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมานานมากแล้ว คล้ายๆกับเรื่องสามก๊กที่เราคุ้นชินกันคือ ขุนนางหัวเมืองต่างๆคอยซ่องสุมกำลังเพื่อทำสงครามภายในกันจนแผ่นดินนั้นได้แตกออกเป็นสามส่วน โดยแต่ละก๊กนั้นก็ทราบดีว่าเราคือประเทศเดียวกันและหวังว่าวันหนึ่งต่างฝ่ายจะกลับมายึดครองจีนกลับโดยสมบูรณ์ โดยทางแผ่นดินจีนนั้นได้แตกแยกแล้วรวมเป็นหนึ่ง รวมเป็นหนึ่งแล้วก็แตกแยก มาตลอดเช่นนี้นานนับพันปี

ทางรัฐบาลจีนปัจจุบันของ สี จิ้นผิงนั้นก็ยังคงเป้าหมายเดิมคือ One-China Policy การรวมจีนกลับมาปกครองเป็นหนึ่งเดียว โดยทางเติ้งเสี่ยวผิง ผู้นำสูงสุดของจีนรุ่นที่ 2 ก็เคยกล่าวไว้ว่า “การบรรลุความเป็นจีนเดียว คือความปรารถนาของชนทั้งชาติ แม้ผ่านไป 100 ปียังไม่สำเร็จ จะใช้เวลา 1,000 ปีก็ไม่สายที่จะรวมกันเป็นหนึ่ง” เป็นสิ่งที่เค้าปรารถนาสูงสุดแม้ว่าตัวเค้าจะไม่ได้อยู่ถึงวันนั้นก็ตาม

4️⃣ ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวันนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ?

ในระยะแรกพรรค KMT มีความสัมพันธ์ที่แย่กับจีนมากๆ ไต้หวันคิดว่าตนเองเป็นประเทศเอกราช แต่ต่อมาในภายหลัง พอเริ่มมีการค้าขายกัน เศรษฐกิจเฟื่องฟูทั้งคู่นั้น ความสัมพันธ์ก็เริ่มดีขึ้นมาเรื่อยๆ และในที่สุดผู้นำทังสองประเทศก็ได้มีการพบปะกันเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2015 นี้เอง !

โดยทางไต้หวันนั้นจะมีพรรคการเมืองหลักๆสองแกน คือพรรคที่สนับสนุนจีน และพรรคที่ต้องการแยกไต้หวันให้เป็นอิสระจากประเทศจีน แต่ในขณะที่กระแสต่อต้านจีนเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ (อย่างที่เห็นในฮ่องกงตอนนี้) ทำให้ล่าสุด พรรค DPP ที่ต้องการแยกไต้หวันให้เป็นอิสระ จึงชนะการเลือกตั้ง และนาง ไช่ อิง เหวิน (Tsai Ing-wen) ก็ได้เป็นประธานาธิบดีในปัจจุบัน และยังก็ยังคงมีนโยบายเแยกตัวออกจากจีนอย่างชัดเจน

สรุป - แล้วสงครามการค้ากับสหรัฐมาเกี่ยวข้องอะไรกับ One-China Policy นี้ด้วย ?

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2016 หลังจากที่ทรัมป์ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี เขาได้ต่อสายตรงไปสู่นาง ไช่ อิง เหวิน ประธานาธิบดีของไต้หวันและได้กล่าวว่าทางสหรัฐนั้นไม่จำเป็นต้องสนับสนุนนโยบาย "จีนหนึ่งเดียว" นี้ และทางสหรัฐกับไต้หวันสามารถแลกเปลี่ยนนโยบายการค้าและการปกครองกันได้ (ทั้งที่ในรัฐบาลก่อนๆของสหรัฐนั้นก็ได้สนับสนุนนโยบาย "จีนหนึ่งเดียว" นี้มาตลอด)

เสมือนกับว่าทรัมป์นั้น ตั้งใจที่จะใช้นโยบายนี้เข้ามากดดันจีนและใช้เป็นข้อต่อรองทางการค้า เพราะทรัมป์ทราบดีว่านโยบายนี้มีความหมายกับทางจีนมากเพียงใด

และก็เป็นที่มาว่าทำไมรัฐบาลจีนจึงบอกว่า พวกเขาแค่หวังว่าสหรัฐจะได้ให้คำมั่นที่จะปฏิบัติตามนโยบายจีนหนึ่งเดียวนี้ และเจรจาการค้าจะบรรลุอย่างแน่นอนหากทางทรัมป์ไม่มีอะไรตุกติก

https://www.bloomberg.com/news/arti...onor-one-china-policy-as-trade-talks-progress

 

อิรักต้องปิดโรงกลั่นน้ำมันขนาด 25-30 kbd หลังผู้ประท้วงรัฐบาลกว่า 700 คนบุกกั้นพื้นที่โรงกลั่นจนไม่สามารถดำเนินการกลั่นได้

เมื่อเวลาทุ่มนึงเมื่อคืนนี้ ทางกลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากได้เข้าปิดทางเข้าออกของโรงกลั่น เหตุนี้ทำให้อิรักต้องปิดโรงกลั่นน้ำมัน Nasiriya ทางตอนใต้ชั่วคราวครับ

ทางรัฐมนตรีพลังงานกล่าวว่า การปิดโรงกลั่นในครั้งนี้อาจทำให้ประเทศต้องเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันในบริเวณนั้นเลยทีเดียว และทางอิรักกำลังเร่งการผลิตมาจากแหล่งพลังงานอื่นๆมาทดแทน

ส่วนสาเหตุของการประท้วงที่ยืดเยื้อนั้นทางเพจได้เขียนไว้เมื่อเดือนก่อนแล้ว และเตือนว่าอาจลุกลามเป็นสาเหตุให้กระทบการผลิตน้ำมันได้

การประท้วงรัฐบาลอิรักเรื่องคอรัปชั่นที่ยืดเยื้อมากว่า 3 เดือนนั้น รุนแรงขึ้นจนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 500 รายและบาดเจ็บมากกว่า 2 หมื่นคนแล้ว

และยังคงต้องจับตาต่อไปว่าจะมีผลกระทบอย่างไรบ้างกับผู้ผลิตน้ำมันมากที่สุดอันดับที่ 2 ของกลุ่มโอเปก

ที่มา: https://www.bloomberg.com/news/arti...-nasiriya-refinery-said-to-shut-over-protests

 

ด่วน ! ทางกลุ่มกองกำลังฮูติออกมากล่าวว่าทางกลุ่มยังมีเป้าหมายอีก 6 จุดที่วางแผนจะโจมตีซาอุดีอาระเบียไว้ ! เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อราคาน้ำมันเป็นอย่างมาก อย่างที่เห็นมาในคราวก่อน

กองกำลังติดอาวุธชาวฮูตี (Houthis) แห่งเยเมน คือกลุ่มที่ทุกฝ่ายเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงแปรรูปน้ำมันซาอุครั้งก่อน ที่เป็นเหตุให้การผลิตน้ำมันดิบในซาอุต้องชะงักไปกว่าครึ่งประเทศและราคาน้ำมันดิบก็ดีดขึ้นไปกว่า 20% ! วันนี้ทางกลุ่มได้ออกมาขู่ว่ายังมีแผนโจมตีจุดยุทธศาสตร์อีก 6 แห่งของซาอุ (Reuters รายงาน)

หากใครติดตามการวิเคราะห์จากทางเพจ จะเห็นได้ว่าความตึงเครียดในตะวันออกกลางนี้จะเป็นอีกหนึ่ง "โดมิโน" ที่ต้องจับตามองในปีหน้าอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว เพราะน่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดีดได้ โดยเฉพาะเมื่อไม่มีปัจจัยด้านสงครามการค้าเข้ามากดดันตลาดหนักเหมือนปีที่ผ่านมา

ข่าวนี้ออกมาพร้อมๆกับการตัดสินโทษประหารชีวิตชาวเยเมนที่ออกมาแทงชาวเสปนในโรงละครล่าสุดครับ แต่อาจจะไม่มีความเกี่ยวข้องกัน โดยทั้งสองฝั่งระหว่างชาวฮูตีและซาอุนั้นก็ได้มีความขัดแย้งทางศาสนามาโดยตลอดอยู่แล้วครับ

ที่มา: Reuters (ในคอมเม้นท์)

 

... “จีน : ปั้นมาเก๊า เป็นศูนย์กลางการเงิน การท่องเที่ยว ถ้าฮ่องกงแย่”

... “จีน” ได้มอบหมายให้ธนาคารและรัฐวิสาหกิจของรัฐบาล ช่วยเร่งจัดสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานใน “มาเก๊า” เพื่อช่วยเหลือการกระจายตัวทางการเงินและเพื่อใช้เป็น “แผนฉุกเฉิน” หากสถานการณ์ใน “ฮ่องกง” แย่ลง

... เจ้าหน้าที่สองคนที่เคยช่วยด้านพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ในเซี่ยงไฮ้ ได้ถูกส่งตัวให้ย้ายไปช่วยงานที่ “มาเก๊า” เพื่อช่วยสร้าง “ตลาดหลักทรัพย์” ที่อิงกับเงินหยวน แหล่งข่าวกล่าวว่าจะมีการผลักดัน “การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินในมาเก๊า” ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่จะหลีกเลี่ยงการหยุดชะงักของตลาดการเงินครั้งใหญ่ในฮ่องกง ที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของจีนในอนาคตอันใกล้ เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วนของจีน

... “อุตสาหกรรมการเงิน เคยเป็นเรื่องที่เราสงวนไว้สำหรับฮ่องกง เราเคยมอบนโยบายที่ดีทั้งหมดให้กับฮ่องกง แต่ตอนนี้เราต้องการที่จะกระจายมันไปที่อื่นด้วย”

... “แนวคิดนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับเอามาเก๊า เพื่อแทนที่หรือบ่อนทำลาย “ฮ่องกง” แต่สำหรับจีน ทำเพื่อที่จะมีแผนฉุกเฉินในกรณีที่สถานการณ์ในฮ่องกงแย่ลง”

... นโยบายใหม่ที่ร้อนแรงนี้ เพื่อจะเน้นหนักชัดเจนมาที่ “มาเก๊า” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายเศรษฐกิจที่เคยขึ้นอยู่กับ “คาสิโน” ของเมืองให้ปรับเปลี่ยนเป็น “ศูนย์กลางทางการเงิน” ผู้ประกอบการคาสิโนของมาเก๊าซึ่งกำลังได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจและสงครามการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา จะมีโอกาสในการพัฒนาใน “เกาะเฮงชิง” ( Hengqin) ที่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของจังหวัดกว่างตุ้งของจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ให้มาเก๊าเช่ามาตั้งแต่ปี 2009 จะมีโอกาสปรับตัวเองเป็น ศูนย์กลางทางการเงินในคราวนี้

... ลุงสีจิ้นผิง ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าต้องการมี “เศรษฐกิจที่หลากหลายของมาเก๊า” โดยมีเป้าหมายในอนาคตจะเน้นไปที่ การท่องเที่ยวและศูนย์กลางการเงินรวมทั้งให้เป็นศูนย์กลางในการจัดการประชุมนานาชาติ เหมือนเช่นประเทศสิงคโปร์ด้วย "

... นอกเหนือจากการจัดตั้ง “ตลาดหลักทรัพย์ที่เป็นสกุลเงินหยวน” และเร่งศูนย์การชำระเงินหยวนซึ่งกำลังพัฒนาอยู่ในปัจจุบันแล้ว นโยบายดังกล่าวจะพิจารณาเรื่องการจัดสรรที่ดินในมาเก๊าด้วย ส่วนหนึ่งของความพยายามดังกล่าวมาเก๊าจะได้รับการจัดสรรที่ดินเพิ่มเติมบน “เกาะเฮงชิง” ในแผ่นดินใหญ่เพื่อพัฒนาในด้านต่าง ๆ เช่น การศึกษา และ ศูนย์ดูแลสุขภาพ

... นโยบายเหล่านี้ถือเป็นการเปิดตัวใหม่ถอดด้าม ในโอกาสอันดี วันครบรอบ 20 ปีของอดีตอาณานิคมโปรตุเกสที่ได้กลับคืนสู่การปกครองของจีนตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม ปี 1999 ( หลัง ฮ่องกงสองปี 1997 ) บริเวณโดยรอบ “สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล” ซึ่งรวมถึงฮ่องกงด้วย

... และประธานาธิบดีจิสีจิ้นผิงก็ได้เดินทางสามวันไปที่มาเก๊า และได้กล่าวเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2019 ว่ารัฐบาลของลุง จะสนับสนุนอดีตอาณานิคมโปรตุเกสแห่งนี้ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาเป็นฐานบริการสำหรับความร่วมมือทางการค้า ระหว่างจีนและมาเก๊า ดินแดนที่ใช้ภาษาโปรตุเกสแห่งนี้ ( ตามท่าเรือจะเห็นป้ายเป็นภาษาจีนแนบข้างกับโปรตุเกส ในมาเก๊า ไม่ใช่ภาษาอังกฤาแบบฮ่องกง ) และเพื่อมุ่งเน้นไปที่ให้กลายเป็น ศูนย์กลางการเงิน การท่องเที่ยวและสันทนาการระดับโลก

... ลุงสีจิ้นผิงบอกต่อว่ารัฐบาลมาเก๊าควรกระจายการพัฒนาทางเศรษฐกิจในระดับปานกลางและยึดโอกาสที่มีโครงการ “เส้นทางสายไหม” และ Greater Bay Area หรือ “สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล” ที่มีทั้งมาเก๊าและฮ่องกงขนาบอยู่ ในการปรับเปลี่ยนนโยบายของเกาะตัวเอง ( ในอดีตนั้น กว่างโจว เคยเป็นเมืองปลายทางตะวันออกสุดของ “ทางสายไหมโบราณ” ของจีน และเชื่อมกับทะเลจีนใต้ได้ด้วย )

... โดยลุงสีเน้นความร่วมมือกับรัฐบาลเมืองจูไห่ในการพัฒนาเกาะเฮงชิงเนื่องจากจะเป็นการพัฒนาศักยภาพในระยะยาวของเมือง

... หลังจากส่งมอบมาเก๊าคืนจีน เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 1999 แผนระยะยาวของรัฐบาลมาเก๊าคือแค่ การใช้รายได้จาก “การท่องเที่ยวและคาสิโน” เพื่อช่วยส่งเสริมด้านวัฒนธรรม พัฒนาเมือง รวมถึงอุตสาหกรรมอื่น ๆ แต่ไม่เคยมีแผนครอบคลุมจากรัฐบาลแบบนี้ ซึ่งกว่าที่ลุงสีจิ้นผิงจะออกนโยบายที่ร้อนแรง ก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน 20 ปีพอดี ซึ่งมองมุมนี้ การประท้วงในฮ่องกงก็มีผลต่อการปรับเปลี่ยนนโยบายต่อมาเก๊าด้วยเช่นกัน

.

... https://www.finews.asia/finance/30481-china-wants-macau-as-a-financial-hub
https://www.scmp.com/business/banki...sident-xi-finally-set-macau-path-shedding-its

 

สรุปได้ว่า ชะลอตัวทุกด้าน ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งนำเข้าและส่งออก มีเพียงด้านการท่องเที่ยวเท่านั้นที่ขยายตัวต่อเนื่อง

---------------
ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย

 

เรื่องของ "อกโพ สยาดา"

หลังจากที่อังกฤษพิชิตพม่าตอนล่างแล้ว พระสงฆ์จำนวนมากจึงหนีไปทางเหนือเพื่อที่จะอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของกษัตริย์พม่าผู้เป็นอัครศาสนูปถัมภก

อารามหลายแห่งในพม่าตอนล่างที่อยู่ในการปกครองของอังกฤษถูกทิ้งให้ว่างเปล่า ปราศจากภิกษุดูแล หมู่บ้านทั้งหลายไม่มีโอกาสได้ทำบุญและศึกษาพระศาสนา

พระเจ้ามินดง ผู้ประทับในพม่าตอนเหนือที่ยังเป็นอิสระ ทรงตระหนักถึงสถานการณ์นี้ จึงทรงพยายามโน้มน้าวให้พระสงฆ์กลับไปพม่าตอนล่างเพื่อโปรดประชาชน ความพยายามของพระองค์ประสบความสำเร็จ มีพระหลายรูปกลับไปยังถิ่นฐานที่จากมา

แต่ในไม่ช้าก็เห็นได้ชัดว่าหากไม่มีพระราชาคอยปกป้องพระศาสนาแล้ว ภิกษุก็เริ่มหย่อนยานในพระวินัยพระหลายรูปเริ่มไม่ใส่ใจรักษาพระวินัยอย่างเคร่งครัด

ครั้งนั้น มีภิกษุรูปหนึ่ง ชื่อว่า อกโพ สยาดอ (Okpo Sayadaw) มาจากเมืองอกโพระหว่างย่างกุ้งและกับเมืองแปร ท่านพยายามยับยั้งไม่ให้ภิกษุจำนวนมากเดินทางจากพม่าตอนล่างไปทางพม่าตอนบนในช่วงที่เกิดการลี้ภัยครั้งใหญ่ปี 2398

ท่านรวบรวมกลุ่มภิกษุมาบอกกล่าวว่าพระสงฆ์ไม่จำเป็นต้องอาศัยอำนาจทางโลกมาปกป้องตนเอง หากรักษาพระวินัยอย่างเคร่งครัด อารามของท่านจึงกลายเป็นแหล่งกำเนิดของการเคลื่อนไหวของคณะที่ถือวินัยสงฆ์อย่างเข้มงวด

นอกจากนี้ท่านยังเน้นด้วยว่าเจตนาเป็นสิ่งสำคัญในพุทธศาสนา และการปฏิบัติบูชาด้วยความจิตใจที่ไม่บริสุทธิ์นั้นไม่มีผลอะไร ท่าทีของท่านนี้อาจเป็นการตอบโต้การปฏิบัติพิธีกรรมและขนบต่างๆ ทางพุทธศาสนาที่ละเลยสาระสำคัญไปอย่างมาก

อกโพ สยาดอ ให้ความสำคัญกับพระวินัยเป็นอย่างมาก ท่านถึงกับวิจารณ์การอุปสมบทของนิกายหลัก คือนิกายสุธรรมะว่าถือวินัยแต่ตัวอักษร ไม่ได้ถือวินัยโดยสาระ ท่านจึงทำการสั่งการว่าสีมาอุปสมบทจะต้องถูกต้องตามพระวินัยอย่างที่สุด เช่น อุทกสีมาจะต้องไม่มีสะพานพาดถาวรเหมือนที่นิกายสุธรรมะทำกัน

คณะสงฆ์อกโพสยาดอ มีส่วนสำคัญอย่างมากในการพิทักษ์รักษาพุทธศาสนาของพม่าตอนล่างไว้ แม้ว่าพม่าตอนล่างจะตกเป็นของอังกฤษ แต่ท่านใช้พระวินัยเป็นดั่งพระศาสดา ทำให้พระสงฆ์มีความมั่นใจ แม้จะอยู่ภายใต้การปกครองของฝรั่งต่างศาสนา

---------------------------------

ภาพ - ไม้แกะสลักประดับภายในวัดอะตุมะชิ เมืองมัณฑเลย์ ประเทศพม่า สร้างในสมัยพระเจ้ามินดง ปีค.ศ. 1857 ต่อมาเกิดเพลิงไหม้จนหมดในปีค.ศ. 1890 (ภาพจาก British Library)