ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภาพหาดูยาก "ทะเลลาวา" ผืนน้ำแปรสภาพคล้ายก้อนกรวด เกิดเสียงดังฉ่า 29 ส.ค. 62 โดย Supapong Jean
    aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL25zLzAvdWQvMTU3Ni83ODgwNDcwLzAxbGF2YXNlYS5qcGc=.jpg

    นักสำรวจค้นพบปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยได้บพบเห็นบ่อยครั้ง "ทะเลลาวา" หลังภูเขาไฟใต้น้ำระเบิด ทำให้ผืนน้ำสุดลูกหูลูกน้ำกลายเป็นก้อนกรวด ที่ส่งเสียงดังฉ่าๆ

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักสำรวจได้ล่องเรือผ่านไปยังน่านน้ำทะเลที่เพิ่งเกิดเหตุภูเขาไฟใต้ดินปะทุขึ้น ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่ไม่ค่อยได้พบเห็นบ่อยครั้ง เมื่อน้ำทะเลแปรเปลี่ยนเป็นลาวาหลอมละลายปกคลุมผืนน้ำสุดลูกหูลูกตา อีกทั้งยังก่อให้เกิดเสียงดัง "ฉ่าๆ" เหมือนวัตถุได้สัมผัสกับน้ำผสมลาวา

    จุดที่นักสำรวจค้นพบในครั้งนี้อยู่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ทางฝั่งตะวันออกของทวีปออสเตรเลีย ภูเขาไฟใต้น้ำลูกนี้ตั้งอยู่ใต้ทะเลใกล้ๆ กับหมู่เกาะตองกา โดยนักสำรวจได้ล่องเรือออกมาสำรวจน่านน้ำ ก่อนจะพบว่าผืนน้ำที่มองเห็นไกลสุดลูกหูลูกตามีลักษณะคล้ายกับก้อนกรวด หากมองอย่างผิวเผินก็อาจจะนึกว่ากำลังอยู่ใจกลางผืนแผ่นดินก้อนกรวดขนาดใหญ่

    เรือของนักสำรวจแล่นผ่านทะเลลาวาจุดนี้ไปอย่างช้าๆ ทำให้เกิดเสียงดัง "ฉ่าๆ" ที่เป็นเสียงธรรมชาติที่น่าพิศวงเป็นอย่างมาก โดยเสียงดังกล่าวเกิดจากการกระทบกันระหว่างวัตถุและน้ำผสมลาวา โดยเชื่อว่าอุณหภูมิผืนน้ำในบริเวณดังกล่างยังสูงกว่าปกติ เพราะยังได้รับอิทธิพลมาจากลาวาร้อนที่กำลังค่อยๆ เย็นตัวลง

    นักสำรวจยังระบุว่า ผืนน้ำผสมลาวาที่ค้นพบครั้งนี้มีความหนาประมาณ 6 นิ้ว ปกคลุมอยู่บนผิวน้ำมหาสมุทรแปซิฟิก ขณะที่เถ้าถ่านลาวาของภูเขาไฟใต้ทะเลที่ปล่อยพลังงานออกมา เมื่อสัมผัสกับความเย็นของน้ำทะเล ทำให้มันกลายเป็นก้อนกรวดขนาดเล็ก-ใหญ่ต่างกันไป แต่มวลของวัตถุเหล่านี้มักจะเบาและลอยตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ หลังจากนั้นจะถูกกระแสน้ำพัดไป และบางส่วนกลายเป็นทรายชายหาดที่สะสมอยู่ตามชายฝั่งบนหมู่เกาะต่างๆ ในพื้นที่

    aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL25zLzAvdWQvMTU3Ni83ODgwNDcwLzAxbGF2YXNlYS0xLmpwZw==.jpg


    https://www.sanook.com/news/7880470...C2QDOxxGxNtf8Lo8LDZFYGwII_PNj8tEE_v13QYxliBrM
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    _oc=AQm04eVS4o-DZhGtgKw6Ytal3ldtIqAitKmmTD3MjB7m8jJ5Z8wIB5ytzAUCRUnfnrg&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg


    (Aug 29) ปมภัยแล้ง-ลดพื้นที่ปลูก 'ข้าวเหนียว'ราคาพุ่งเท่าตัว : สถานการณ์ราคาข้าวเหนียวที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เฉลี่ยเพิ่มขึ้นเฉียด 100% เทียบกับปีที่ผ่านมา กำลังสร้างผลกระทบในวงกว้าง แม้ข้าวเหนียวจะไม่ใช้สินค้าหลักของการค้าข้าว แต่ข้าวเหนียวคืออาหารหลักของคนไทยในหลายพื้นที่ สาเหตุแห่งปัญหาดังกล่าวมาจากปัจจัยใดบ้างจะได้ไล่เรียงมาให้ทราบกัน

    ประสงค์ ประไพตระกูล อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า ปริมาณข้าวเหนียว ในตลาดมีน้อยมาก ขณะที่ความต้องการบริโภคนั้นมีมาก เพราะภาวะราคาข้าวเหนียวตกต่ำช่วงก่อนหน้า เหลือราคาเฉลี่ยไม่ถึง 1 หมื่นบาท ทำให้ชาวนาหันไปปลูกข้าวหอมมะลิแทน จึงทำให้ผลผลิตข้าวเหนียวทั้งนารอบที่ 1 (นาปี) และนารอบที่ 2 (นาปรัง) ที่ผ่านมา มีปริมาณน้อยกว่าทุกปี

    นอกจากนี้ราคาข้าวเหนียวยังปรับตัวสูงขึ้นมาก เนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อของฤดูกาล โดยข้าวเก่ามีปริมาณเหลือน้อย ส่วนข้าวใหม่ ยังไม่ถึงช่วงเวลาเก็บเกี่ยว อีกทั้งภาครัฐได้ระบายข้าวในสต็อกหมด ส่วนชาวนาในภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือเก็บที่เหลือไว้บริโภค ส่งผลราคาข้าวเหนียวในตลาด สูงขึ้น

    จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เพื่อแก้ปัญหาเรื่องราคาข้าวเหนียวแพงในขณะนี้ จะใช้ประกาศตามพ.ร.บ.การค้าข้าว ฉบับที่ 150 ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งอธิบดีกรมการค้า ภายในจะดำเนินการออกหนังสือสั่งการให้ ผู้ที่อยู่ในวงการค้าข้าวทั้งหมด ทั้งโรงสี ผู้ค้าส่ง และผู้ส่งออก รายงานสต็อกข้าวเหนียวมาที่กรมการค้าภายใน ภายในวันที่ 27 ส.ค.2562 สิ้นสุดเวลา 16.30 น. โดยแจ้งได้ที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และสามารถรายงานออนไลน์ได้ด้วย

    วันที่ 28 ส.ค.2562 กรมฯ จะเชิญโรงสี ผู้ค้าข้าวถุง และห้างสรรพสินค้า มาหารือ เพื่อพิจารณาในเรื่องการจัดทำข้าวเหนียวบรรจุถุงจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาถูกกว่าตลาด ซึ่งเบื้องต้นมีเป้าหมายจะ จัดทำขนาด 1, 3 และ 5 กิโลกรัม (กก.) แต่ต้องพิจารณาก่อนว่าขนาดไหนต้นทุนการผลิตถูกสุด แล้วถึงจะผลิตออกมาจำหน่าย

    โดยหากได้ข้อสรุปชัดเจนว่าจะใช้ข้าวจากที่ไหนมาผลิต ใครเป็นผู้บรรจุ และ ช่องทางการจำหน่ายทางไหนบ้าง เบื้องต้นจะวางจำหน่ายที่ร้านธงฟ้าพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และห้างค้าปลีก โดยเน้นช่วยผู้มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คาดว่า ภายในต้นเดือนก.ย.2562 ราคาน่าจะต่ำกว่ากก.ละ 50 บาท

    เกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ขอยืนยันเท่าที่ได้สอบถามสมาชิกโรงสีส่วนใหญ่ไม่ได้มีการกักตุน เพื่อหวังกำไรแน่นอน แต่ปัญหา ภัยแล้งที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง 2-3 ปี ทำให้ปริมาณข้าวสารมีไม่มาก บางพื้นที่มีน้อยแต่ บางพื้นที่ยังมีอยู่มากพอควร ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บข้าวสารเหนียวเพื่อหวังกำไรในช่วงเวลานี้

    ทั้งนี้ การที่กระทรวงพาณิชย์จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสต็อกข้าวเหนียว โรงสีและผู้ค้าข้าวจะไม่เก็บสต็อก ข้าวสารเหนียวเพื่อหวังกำไร เนื่องจากอีก 2 เดือนผลผลิตข้าวเปลือกเหนียวทำให้ ปริมาณและราคาจะกลับสู่ภาวะปกติ

    ระพีพัชญ์ ธนถาวรกิตติ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า สมาคมฯได้รับการติดต่อแล้วจากกรมการค้าภายใน เพื่อให้ผู้ผลิตข้าวถุงคิดคำนวณต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการจัดทำข้าวสารเหนียวบรรจุถุงเบื้องต้น

    สมาชิกสมาคมพร้อมให้ความร่วมมือ โดยไม่คิดกำไรจากการดำเนินการ และสามารถผลิตบรรจุได้ทันทีภายใน 2-3 วันหลังจากได้รับถุงและข้าวเหนียว อย่างไรก็ตามคงจัดหาข้าวเหนียวได้ยาก เนื่องจากข้าวเหนียวขาดตลาด

    เนื่องจากปริมาณข้าวน้อยแต่อุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูปใช้ข้าวเหนียวเพิ่มขึ้น และร้านสะดวกซื้อก็เพิ่มเมนูข้าวเหนียวทำให้ช่องทางกระจายสินค้ามากขึ้น

    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    safe_image.php?d=AQB9C1a58WJMUZun&w=540&h=282&url=https%3A%2F%2Fs2.reutersmedia.jpg

    (Aug 28) Update : สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษทรงอนุญาตให้สามารถกำหนดวันปิดประชุมสภาฯ สมัยปัจจุบันได้ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. (แต่ไม่เกินวันที่ 12 ก.ย.) ตามที่นาย Boris Johnson นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรนำเสนอ และจะเปิดสมัยประชุมสภาฯ อีกครั้งทำให้มีจำนวนวันประชุมสภาฯ ลดน้อยลง ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดสำหรับกลุ่มต่อต้าน no-deal Brexit ในการดำเนินการใดๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว

    สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษทรงอนุญาตให้สามารถกำหนดวันปิดประชุมสภาฯ สมัยปัจจุบันได้ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. (แต่ไม่เกินวันที่ 12 ก.ย.) ตามที่นาย Boris Johnson นายกรัฐมนตรี
    สหราชอาณาจักรนำเสนอ และจะเปิดสมัยประชุมสภาฯ อีกครั้งพร้อมกับมี Queen’s speech ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่แสดงถึงการเปิดประชุมสภาฯ อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 14 ต.ค. โดย Queen’s Speech จะถูกร่างขึ้นโดยรัฐบาล เพื่อแถลงถึงรายละเอียดแผนงานที่รัฐบาลให้ความสำคัญและกฎหมายที่รัฐบาลต้องการหารือเพื่อผ่านร่างกฎหมาย
    - กำหนดการดังกล่าวจะทำให้สภาฯ ปิดทำการเป็นระยะเวลาประมาณ 4 สัปดาห์ ก่อนจะถึงกำหนดการ Brexit วันที่ 31 ต.ค. ส่งผลให้ฝ่ายค้านและกลุ่มผู้ต่อต้าน no-deal Brexit แสดงความกังวลและไม่พอใจต่อการกระทำของรัฐบาล เพราะจะทำให้มีจำนวนวันประชุมสภาฯ ลดน้อยลง ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดสำหรับกลุ่มต่อต้าน no-deal Brexit ในการดำเนินการใดๆ ในช่วงเวลาดังกล่าว โดย นาย John Bercow (Speaker of the House of Commons) ได้เรียกการกระทำดังกล่าวว่า “Constitutional outrage” ขณะที่นาย Jeremy Corbyn หัวหน้าพรรค Labour (พรรคฝ่ายค้าน) แสดงความตกใจต่อการกระทำดังกล่าวของรัฐบาลและได้ร่างจดหมายถึงสมเด็จพระราชินีเพื่อขอเข้าพบ ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นสิ่งที่เสี่ยงต่อการดึงราชวงศ์ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมือง
    - นาย Johnson กล่าวตอบโต้ว่า สภาฯ มีเวลามากมายในการหารือเกี่ยวกับประเด็น Brexit, สหภาพยุโรป และอื่นๆ พร้อมทั้งปฏิเสธว่าไม่มีเจตนาที่จะพยายามหลีกเลี่ยงการขัดขวาง no-deal Brexit ของสภาฯ ทั้งนี้ ภายหลังการประกาศของรัฐบาล ประชาชนจำนวนกว่า 450,000 คนได้ร่วมกันลงชื่อเพื่อเรียกร้องให้หยุดการปิดสมัยประชุมสภาฯ (เกินกว่าจำนวนขั้นต่ำ 100,000 คน ที่จะทำให้สามารถนำข้อร้องเรียนดังกล่าวเข้าหารือในสภาฯ ได้) แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนจุดยืนของรัฐบาลที่ต้องการดำเนินการตามผลการลงประชามติเมื่อปี 2016 ได้

    Source: BoTSS

    **************
    ควีนเอลิซาเบธทรงมีพระบรมราชานุญาตเสด็จเปิดประชุมสภา 14 ต.ค.ตามที่นายกฯกราบทูล :สำนักพระราชวังบักกิ้งแฮมแถลงในวันนี้ว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงมีพระบรมราชานุญาตในการเสด็จเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 14 ต.ค.ตามที่นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กราบทูลก่อนหน้านี้

    ทั้งนี้ นายจอห์นสันประกาศกำหนดให้วันที่ 14 ต.ค.เป็นวันที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ประทานพระบรมราโชวาทต่อรัฐสภาอังกฤษเนื่องในวาระเปิดสมัยประชุมสภา

    สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะทรงอ่านถ้อยแถลงในวันดังกล่าวตามที่รัฐบาลจัดเตรียมไว้ โดยจะระบุถึงวาระด้านนิติบัญญัติในปีที่จะมาถึง

    ก่อนหน้านี้ สมาชิกรัฐสภาอังกฤษมีกำหนดกลับเข้าประชุมสภาในสัปดาห์หน้า โดยจะมีการประชุมไปจนถึงวันที่ 9 ก.ย. ก่อนที่จะมีการพักสมัยประชุมเป็นเวลา 3 สัปดาห์เพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆจัดการประชุมภายในพรรค แต่การดำเนินการของนายจอห์นสันในครั้งนี้ได้ทำให้การพักสมัยประชุมสภายาวนานขึ้นเป็น 5 สัปดาห์

    การดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีการปิดรัฐสภาอังกฤษตั้งแต่กลางเดือนก.ย.เป็นเวลาราว 1 เดือน ซึ่งจะทำให้รัฐสภามีเวลาน้อยลงในการออกกฎหมายเพื่อสกัดความพยายามของนายจอห์นสันในการนำอังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ในวันที่ 31 ต.ค.โดยไร้ข้อตกลง

    ที่ผ่านมา นายจอห์นสันยืนยันว่า อังกฤษจะแยกตัวออกจาก EU แม้ว่าจะไม่มีการทำข้อตกลงก็ตาม

    ถึงแม้ว่าการปิดรัฐสภาก่อนการเสด็จเปิดประชุมสภาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติตามปกติในอังกฤษ แต่การดำเนินการดังกล่าวของนายจอห์นสันในครั้งนี้เพื่อจำกัดสมัยประชุมสภาเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุการณ์สำคัญครั้งประวัติศาสตร์ที่อังกฤษจะแยกตัวจาก EU ได้สร้างความไม่พอใจต่อสมาชิกรัฐสภาอังกฤษ

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

    - Queen allows British PM Johnson to suspend parliament before Brexit: https://www.reuters.com/article/us-...DJW7qSBjBiWS4S0t2EInX5ySBan9Y6LllUABd98ELsTzk

    - หักดิบเบร็กซิต ส.ส.โวยลั่นนายกฯ อังกฤษเลื่อนเปิดสภา: https://www.thaipost.net/main/detail/44513

    *************
    รัฐมนตรีเบร็กซิตย้ำชัด 31 ตุลาคม ผู้ดีออกจากอียูชัวร์

    สตีเฟน บาร์เคลย์ รัฐมนตรีเบร็กซิตของอังกฤษ ระบุในวันพุธ (28 ส.ค.) ว่าสหราชอาณาจักรมีความมุ่งมั่นที่จะออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 31 ตุลาคม เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังความเคลื่อนไหวของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน ในการจำกัดอำนาจรัฐสภาไม่ให้ขัดขวางเรื่องเบร็กซิต

    บาร์เคลย์ ยังเน้นย้ำถึงการต่อต้านของอังกฤษต่อประเด็น "ไอริช แบ็คสต็อป" ที่นายกรัฐมนตรีคนก่อนเจรจาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาพรมแดนระหว่างไอร์แลนด์กับไอร์แลนด์เหนือ

    "แต่หากไม่สามารถประนีประนอมกันได้ เราก็มีความชัดเจนที่จะออกจากอียูในวันที่ 31 ตุลาคม ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร" บาร์เคลย์ ระบุในการพูดที่งานประชุมในปารีส จัดขึ้นโดยองค์กรธุรกิจ MEDEF ของฝรั่งเศส

    "ผู้คนโหวตให้ทำการเบร็กซิต และมันสำคัญต่อประชาธิปไตยที่เราจะต้องทำ" บาร์เคลย์ กระบุ

    ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตี บอริส จอห์นสัน ได้จำกัดโอกาสของรัฐสภาในการขัดขวางเบร็กซิต โดยการให้เปิดประชุมสภาในวันที่ 14 ตุลาคม ทำให้รัฐสภาทำอะไรไม่ได้จนกว่าจะถึงตอนนั้น

    Source: ผู้จัดการออนไลน์

    https://www.reuters.com/article/us-...IKvBTVuYfGpBDAKysQcluIG2WCNNIhOWhnQEsLDSQrVmk
    https://mgronline.com/around/detail/9620000082730
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบร่างคู่สามีภรรยาหายตัวไปเมื่อ 75 ปีก่อน ในธารน้ำแข็งที่เริ่มละลาย
    HomeEnvironmentพบร่างคู่สามีภรรยาหายตัวไปเมื่อ 75 ปีก่อน ในธารน้ำแข็งที่เริ่มละลาย
    NGThai 26 ก.ค. 2017

    01-swiss-couple-glacier-bodies.adapt_.885.1.jpg
    พบร่างคู่สามีภรรยาหายตัวไปเมื่อ 75 ปีก่อน ในธารน้ำแข็งที่เริ่มละลาย

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม ปี 2017 ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่สกีหิมะ จากบริษัท Glacier 3000 กำลังตรวจเช็คอุปกรณ์ บริเวณธารน้ำแข็ง Tsanfleuron บนเทือกเขาแอลป์ ของสวิสเซอร์แลนด์ พวกเขาสังเกตุเห็นรองเท้าบู๊ทโผล่ออกมาจากน้ำแข็ง และเมื่อเข้าไปสำรวจใกล้ๆ พวกเขาพบว่ารองเท้านั้นเป็นของมนุษย์คู่หนึ่ง นอกจากนั้นยังพบหมวก และข้าวของอื่นๆ อีกที่ถูกแช่แข็งไปพร้อมกับร่างดังกล่าว

    ทั้งคู่คือ มาเซย์ลิน และฟรานซิน ดูมอว์ลิน พวกเขาเป็นช่างทำรองเท้าและคุณครู ที่หายตัวไปอย่างปริศนาเมื่อ 75 ปีก่อน

    02-swiss-couple-glacier-bodies.adapt_.885.1.jpg
    ในวงกลมคือศพที่ถูกพบ เทียบกับขนาดของธารน้ำแข็งในเทือกเขาแอลป์
    “เขารายงานกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ส่วนผมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรจ” เบนฮาร์ด ทาชเนน ซีอีโอของบริษัทกล่าว และในวันต่อมาเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งก็บินมายังบริเวณดังกล่าว น้ำแข็งขนาดใหญ่ถูกตัดออก เพื่อนำร่างของทั้งคู่ไปตรวจสอบ ต่อมาในวันที่ 19 กรกฎาคม ผลการตรวจดีเอ็นเอยืนยันว่าทั้งคู่คือสามีภรรยาที่หายตัวไปเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี 1942 จริง

    รายงานจาก Le Matin หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของสวิสเซอร์แลนด์ ร่างของพวกเขาไม่ใช่ร่างแรกที่ถูกดึงออกมาจากธารน้ำแข็งนี้

    03-swiss-couple-glacier-bodies.adapt_.885.1.jpg

    รองเท้าคู่นี้เป็นของ นางดูมอว์ลิน ผู้เป็นภรรยาที่มีอาชีพครู และหายตัวไปอย่างปริศนาเมื่อปี 1942
    ศพของสามพี่น้องที่หายตัวไปในปี 1926 ถูกพบในปี 2012 ร่างของนักปีนผาที่พลัดตกลงมาเสียชีวิตในปี 1954 ถูกพบในปี 2008 และในปีเดียวกัน คู่รักคู่หนึ่งหายตัวไประหว่างเดินเขา ซึ่งต่อมาทั้งคู่ถูกพบในปี 2012

    นับตั้งแต่ปี 1925 เป็นต้นมา มีการพบศพของผู้คนที่หายตัวไปบนเทือกเขาแอลป์แล้วมากถึง 280 ศพ “ทุกๆปี เราสูญเสียชั้นน้ำแข็งไปเป็นเมตร” ทาชเนนกล่าว “เมื่อแปดปีที่แล้ว ธารน้ำแข็งมีขนาดใหญ่กว่านี้มาก”

    ทาชเนนกล่าวขอบคุณการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ที่มีส่วนให้พบร่างของคู่สามีภรรยาดูมอว์ลิน ธารน้ำแข็งที่ล้อมรอบเทือกเขาแอลป์อันงดงามกำลังละลาย แต่ละลายรวดเร็วแค่ไหนยังคงเป็นเรื่องถกเถียง

    04-swiss-couple-glacier-bodies.adapt_.885.1.jpg
    นาฬิกาพกพายังคงติดอยู่กับร่างของ มาร์เซลิน ดูมอว์ลิน
    ผลการศึกษาที่ถูกเผยแพร่ในปี 2006 คาดการณ์ไว้ว่าธารน้ำแข็งจะละลายหายไปจากเทือกเขาภายในฤดูร้อนของปี 2100 นี้ ส่วนอีกผลการวิจัยในปี 2007 ระบุ น้ำแข็งทั้งหมดในภูมิภาคจะหายไปในภายในปี 2050

    รายงานจากองค์กร World Glacier Monitoring Service โดยมหาวิทยาลัยซูริค ประมาณไว้ว่าตั้งแต่ปี 2000 – 2010 ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาแอลป์ละลายหายไปเป็นเมตรทุกๆปี จำนวนที่มากมายมหาศาลเช่นนี้ถือว่ามากเป็นประวัติการณ์

    “มันคือฝันร้าย” ทาชเนนกล่าวถึงโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัวดูมอว์ลิน “พวกเขาจากไปและทิ้งลูกๆ 7 คนไว้ข้างหลัง”

    05-swiss-couple-glacier-bodies.adapt_.885.1.jpg

    ร่างของผู้เสียชีวิตถูกพบพร้อมบัตรประจำตัว, กระเป๋า และหนังสือ
    สภาพศพของสามีภรรยาคู่นี้ยังคงดีอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ อากาศที่เย็นและแห้งบนเทือกเขาแอลป์ ส่งผลให้กระบวนการย่อยสลายเกิดขึ้นอย่างเชื่องช้า

    น้ำแข็งได้หยุดกาลเวลาเอาไว้ ก่อนหน้านี้มีการค้นพบซากศพของมนุษย์ที่เสียชีวิตเมื่อ 5,000 ปีก่อน โดยศพยังคงสมบูรณ์อย่างน่าอัศจรรย์ ร่างดังกล่าวถูกตั้งชื่อว่า Otzi ด้านผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า Otzi ถูกฝังใต้น้ำแข็งไม่นานหลังเขาเสียชีวิตลง

    ยังมีร่างอื่นๆ ที่ยังคงถูกฝังอยู่ใต้น้ำแข็งอีกหรือไม่ มีเพียงกาลเวลาเท่านั้นที่จะเปิดเผย

    เรื่อง ซาร่าห์ กิบเบ็นส์

    06-swiss-couple-glacier-bodies.adapt_.885.1.jpg
    ขวดน้ำของผู้เสียชีวิต

    https://ngthai.com/environment/3182...YPacUe4yKREWAoOC6xmpMKbktxjIquMMdyU1RIbUbolEI
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ก๊าซธรรมชาติ: ขุมทรัพย์รัสเซีย
    17 เม.ย. 2017

    14.jpg
    ก๊าซธรรมชาติ : ขุมทรัพย์รัสเซีย

    สองสามวันก่อนวันคริสต์มาสปี 2014 ใบหน้าคุ้นๆปรากฏบนจอภาพในห้องประชุมที่บาวาเนียนคาวาบนคาบสมุทรยามัลของไซบีเรีย ห่างจากเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลไปทางเหนือ 400 กิโลเมตร ใบหน้าของวลาดีมีร์ ปูตินดูเบลอๆจากการเชื่อมต่อสัญญาณดาวเทียมที่ค่อนข้างช้า อะเล็กซีย์ มิลเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือ ซีอีโอแห่งก๊าซพรอม (Gazprom) บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ยืนนิ่งมองจอภาพและประธานาธิบดีรัสเซีย นอกห้องประชุม หมู่อาคารสำเร็จรูปและท่อส่งน้ำมันแวววาวเปิดไฟสว่างไสวดูราวกับสถานีอวกาศที่ลอยอยู่ท่ามกลางความมืด บาวาเนียนคาวาคือแหล่ง ก๊าซธรรมชาติ ขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มิลเลอร์ร้องขอให้ปูตินอนุมัติการสูบก๊าซธรรมชาติจากแหล่งใหม่ที่นั่น

    “เริ่มได้” ปูตินเอ่ย

    rs1.jpg
    ที่เกาะคอลกูยอฟของรัสเซีย คนงานตรวจวัดระดับน้ำมันในแทงก์กักเก็บซึ่งเป็นของบริษัทยูราลส์เอเนอร์จี เลยชายหาดออกไปคือทะเลแบเร็นตส์ แหล่งน้ำมันแห่งนี้ผลิตน้ำมันดิบชนิดเบาคุณภาพสูงมาตั้งแต่กลางทศวรรษ 1980
    มิลเลอร์ส่งต่อคำสั่ง วิศวกรกดปุ่ม จากนั้น ก๊าซธรรมชาติจากอาร์กติกก็ไหลไปตามท่อความยาวกว่าหนึ่งพันกิโลเมตรเข้าสู่เครือข่ายโยงใยของรัสเซีย กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ คาบสมุทรยามาลเป็นที่รู้จักในฐานะดินแดนของชาวเนเนตส์ ซึ่งเป็นชนเร่ร่อนเลี้ยงกวางเรนเดียร์ และที่ตั้งค่ายกักกันหฤโหดสมัยโจเซฟ สตาลิน แต่บริษัทก๊าซพรอมคาดการณ์ว่า พอถึงปี 2030 ภูมิภาคนี้จะป้อนก๊าซธรรมชาติมากกว่าหนึ่งในสามของกำลังการผลิตในรัสเซียและน้ำมันอีกมหาศาล บาวาเนียนคาวาคือหนึ่งในแหล่งก๊าซธรรมชาติและน้ำมันมากกว่า 30 แหล่งเท่าที่ทราบบนคาบสมุทรและนอกชายฝั่งคาบสมุทรยามาลภูมิภาคนี้อาจกลายเป็นซาอุดีอาระเบียแห่งอาร์กติกที่ป้อนเชื้อเพลิงไฮโดรคาร์บอนให้โลกที่กระหายพลังงาน หรืออย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ปูตินคาดหวัง

    ขณะที่ภาวะโลกร้อนทำให้อาร์กติกอุ่นขึ้น รัสเซียก็เป็นหัวหอกนำทีมเข้าไปเพื่อหมายสูบทรัพยากรจากที่นั่น ปลายปี 2013 ก๊าซพรอมเป็นบริษัทแรกที่ผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งอาร์กติกจากแท่นขุดเจาะแห่งหนึ่งในทะเลเปโชราหลังจับกุมและยึดเรือของผู้ประท้วงกรีนพีซ 30 คน ขณะที่ทางตะวันออกของคาบสมุทรยามัลโนวาเท็ก (Novatek) บริษัทร่วมทุนของรัสเซียอีกแห่ง กำลังสร้างสถานีแปรรูปก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่เพื่อส่งออกไปยังเอเชียตะวันออกและยุโรปโดยอาศัยเรือบรรทุกน้ำมันตัดน้ำแข็ง แม้ว่ายิ่งนานวัน จะมีน้ำแข็งให้ตัดน้อยลงเรื่อยๆ ก็ตาม
    rs2.jpg
    คนงานแท่นขุดเจาะโดยสารเฮลิคอปเตอร์มาทำงานกะละหลายสัปดาห์ที่บ่อน้ำมันเทรบส์และตีตอฟในเขตอาร์กติกของรัสเซียทางตะวันตกของคาบสมุทรยามัล ภูมิภาคซึ่งเป็นถิ่นอาศัยดั้งเดิมของชนพื้นเมืองเลี้ยงกวางเรนเดียร์
    ไม่ใช่แค่รัสเซียเท่านั้น สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐฯประมาณการเมื่อปี 2008 ว่า น้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ยังไม่ได้สำรวจกว่าหนึ่งในห้าของโลกอยู่เหนือเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล และภูมิภาคนี้ยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุอื่นๆอีกด้วย เมื่อปีที่แล้ว นอร์เวย์สร้างแท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลแบเร็นตส์ ซึ่งอยู่เหนือยิ่งกว่าแท่นขุดเจาะของก๊าซพรอม ส่วนแคนาดาเปิดเหมืองเพชร ทอง และเหล็กในดินแดนนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์และ นูนาวุต และในเมื่อตอนนี้ ชายฝั่งไซบีเรียอยู่ในสภาพปลอดน้ำแข็งปีละหลายเดือน เรือขนส่งสินค้าจึงเริ่มใช้เส้นทางนอร์เทิร์นซีรูต (Northern Sea Route) เดินทางจากยุโรปไปเอเชียตะวันออก ฤดูร้อนปีนี้ เรือสำราญขนาดใหญ่คริสตัลซีรีนิตี มีกำหนดจะพานักท่องเที่ยวท่องไปตามเส้นทาง(เดินเรือ) ทางตะวันตกเฉียงเหนือ(Northwest Passage) เส้นทางเดินเรือในตำนานของแคนาดา

    การแข่งขันเพื่อแสวงประโยชน์จากทรัพยากรในอาร์กติกดูจะเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้และน่าวิตก ชั้นดินเยือกแข็งคงตัว (permafrost) ที่กำลังละลายปล่อยคาร์บอนที่ทำให้โลกร้อนขึ้นสู่บรรยากาศอยู่แล้ว ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ชี้ว่า ถ้าเราอยากให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่ในสภาพที่สามารถจัดการได้ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอาร์กติกคือแหล่งไฮโดรคาร์บอนลำดับต้นๆที่เราไม่พึงเข้าไปยุ่งเกี่ยว นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมยังเกรงด้วยว่า การพัฒนาจะส่งผลกระทบต่อผืนป่าบริสุทธิ์และส่ำสัตว์น่าทึ่งต่างๆ อีกทั้งผู้คนจำนวนมากในหมู่ชนพื้นเมืองสี่ล้านคนที่อาศัยอยู่รอบอาร์กติกต่างพากันวิตกถึงสิ่งที่จะคุกคามวิถีชีวิตของพวกเขา แม้ว่าหลายคนจะพอใจกับตำแหน่งงานใหม่ๆ และภาษีรายได้ที่การพัฒนาอาจนำพามาให้ก็ตาม

    rs3.jpg
    โกเลียต แท่นขุดเจาะแห่งใหม่รอเริ่มงานในฟยอร์ดแห่งหนึ่งนอกชายฝั่งประเทศนอร์เวย์ ปัจจุบันแท่นแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ 71 องศาเหนือในทะเลแบเร็นตส์ ถือเป็นแท่นขุดเจาะนอกชายฝั่งที่อยู่เหนือสุดของโลก
    หากพิจารณาจากคำกล่าวอ้างเกินจริงของทั้งสองฝ่าย ช่างน่าแปลกใจที่การเร่งรุดสู่อาร์กติกกลับไมหวือหวาอย่างที่คิด เพราะมีบริษัทเพียงหยิบมือที่เข้าไปชิมลางที่นั่น ส่วนที่กำไรได้ยิ่งมีน้อยกว่านั้นอีก เมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว จู่ๆบริษัทรอยัลดัตช์เชลล์ก็ล้มเลิกโครงการมูลค่าเจ็ดพันล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะใช้เวลาหลายปีในการสำรวจน้ำมันในทะเลชุคชี นอกชายฝั่งอะแลสกา หลังขุดบ่อน้ำมันแห่งหนึ่งและพบว่าไม่คุ้มทุน เหตุผลส่วนหนึ่งน่าจะมาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ต่ำเป็นประวัติการณ์ เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายมหาศาลของปฏิบัติการในภูมิภาคที่มีสาธารณูปโภคพื้นฐานน้อยนิด ระยะทางยาวไกล และสภาพอากาศเลวร้ายไม่แปรเปลี่ยน

    เรื่อง โจเอล เค. บอร์น, จูเนียร์

    ภาพถ่าย อีฟกีเนีย อาร์บูเกวา


    https://ngthai.com/environment/484/...bMCTU6S1L4CZjly3xnfCGVC_qdSQnDgFMdyLwhu-WdL7E
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำป่าทะลักท่วมถนนเขาหินซ้อน - สระแก้ว นอภ.กบินทร์บุรีรุดให้ความช่วยเหลือระวังภัย
    วันที่ 29 สิงหาคม 2562 เวลา 10.00 น. ได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถนนหมายเลข 359 (เขาหินซ้อน-สระแก้ว ) ฝั่งซ้าย (ฝั่งไปเขาหินซ้อน) บริเวณ สี่แยกเพชรกระจ่าง หมู่ที่ 6 ตำบลเขาไม้แก้ว อำเภอกบินทร์บุรี นายวัลลภ ประวัติวงค์ นายอำเภอกบินทร์บุรี พร้อมด้วยนายสมภพ ปราตรัย กำนันตำบลเขาไม้แก้ว นายสมศักดิ์ กุลบุตร นายก อบต.เขาไม้แก้ว เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบน้ำกำลังไหลหลากท่วมถนน 1 ช่องการจราจร สูงประมาณ 30 เซนติเมตร ยาวประมาณ 300 เมตร คาดว่าน้ำไหลหลากมาจากอำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา จึงได้สั่งการให้ อบต.จัดทำป้ายแจ้งเตือน วางแผงเหล็กบอกแนวน้ำท่วม ติดตั้งไฟสัญญาน จัดสมาชิก อส./อปพร. /และ ชรบ.คอยอำนวยความสะดวก และให้สัญญาณการจราจร ทั้งนี้ได้ประสานแขวงทางหลวงจังหวัดปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกบินทร์บุรี ให้การสนับสนุนและแก้ไขปัญหาด้วยแล้ว
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนเซินเจิ้นระทึก ตึก 6 ชั้นทรุดฮวบ เคราะห์ดีอพยพทัน ไม่มีผู้เสียชีวิต 29 ส.ค. 62 (02:30 น.)

    aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL25zLzAvdWQvMTU3NS83ODc5ODg2LzI0Y29sbGFwc2VidWlsZGluZy5qcGc=.jpg

    เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (28 ส.ค.) เกิดเหตุอาคารที่พักอาศัยสูง 6 ชั้นทรุดเอียงในถนนหนานหู เมืองเซินเจิ้น มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน แต่เคราะห์ดีที่ผู้คนถูกอพยพออกมาทันเวลา จึงไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

    แหล่งข่าวจากหน่วยงานประชาสัมพันธ์ของคณะกรรมการเขตลัวหูแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุว่า เจ้าหน้าที่ชุมชนท้องถิ่นได้ยินเสียงแปลกๆ ดังลอดออกมาจากใต้อาคาร จึงเคลื่อนย้ายผู้อยู่อาศัยออกไปก่อนจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในเวลา 11.20 น.

    ผู้อยู่อาศัยในท้องถิ่นกล่าวว่าชั้นล่างของอาคารดังกล่าวเป็นตลาดผักที่มีคนพลุกพล่าน และคับคั่งไปด้วยบรรดาลูกค้าในช่วงเช้าวันพุธ

    พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เขาเห็นอาคารดังกล่าวทรุดเอียงลงมาพิงอาคารใกล้เคียง โดยขณะนี้อาคารถูกปิดล้อมแล้ว และมีรถตำรวจและรถดับเพลิงหลายสิบคันจอดอยู่ทั่วบริเวณ ส่วนสาเหตุการทรุดตัวของอาคารครั้งนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน

    https://www.sanook.com/news/7879886/
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เงินปอนด์ร่วง หลังควีนทรงอนุญาตขยายเวลาปิดประชุมสภาฯ
    เมื่อวานนี้ ค่าเงินปอนด์ปรับตัวลดลงมากกว่า 0.5% เมื่อเทียบกับเงินยูโร และเงินดอลลาร์ โดยเงิน 1 ปอนด์ แลกเงินดอลลาร์ได้ 1.22 ดอลลาร์สหรัฐฯ และแลกเงินยูโรได้ 1.10 ยูโร ขณะที่เว็บไซต์ซูเปอร์ริชรับแลกเงิน 1 ปอนด์ที่ 37.45 บาท
    ซึ่งสาเหตุการร่วงของค่าเงินปอนนี้ มาจากหลังจากที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้รัฐบาลพักการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นการชั่วคราว โดยให้เริ่มตั้งแต่วันใดวันหนึ่งในช่วงวันที่ 9-12 กันยายน ไปจนถึง 14 ตุลาคมนี้
    นั่นหมายความว่าสภาผู้แทนฯ จะยังไม่เปิดประชุมจนกว่าจะถึงวันที่ 14 ตุลาคม
    ซึ่งความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ส่งผลให้ ส.ส. ที่ไม่ต้องการเห็นเบร็กซิทที่ไร้ข้อตกลง ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะผ่านกฎหมายใด ๆ ก่อนถึงกำหนดเส้นตายถอนตัวออกจากอียูวันที่ 31 ตุลาคมนี้ได้
    อ้างอิง BBC News
    หมายเหตุ :
    การซื้อขาย FOREX และ CFDs มีความเสี่ยงสูง อาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียเกินกว่าเงินทุนของคุณ
    Cr: infinoxthailand
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24
    ชิลี
    พายุหิมะ สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Las Gaviotas และเมือง Puerto Octay, 28 สิงหาคม
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ใน Saga น้ำท่วมเข้าโรงงานผลิตเหล็กและทำให้สิ่งที่ดูเหมือนว่าเป็นน้ำมันรั่วไหล
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ภาวะฝนตกหนักทำน้ำท่วมใหญ่เกาะคิวชู ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย
    .
    ญี่ปุ่น 29 ส.ค.- ภูมิภาคคิวชูเผชิญเหตุน้ำท่วมฉับพลันจากฝนที่ตกหนักตั้งแต่เช้าวานนี้ จนทางการต้องสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 800,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 2 ราย
    .
    สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ยกเลิกคำประกาศเตือนภัยฉุกเฉินระดับสูงสุด หลังจากเกิดภาวะฝนตกหนักในพื้นที่ต่างๆ บนเกาะคิวชู แล้ว แต่ก็ยังคงเตือนให้ประชาชนอยู่ในภาวะตื่นตัวอย่างมากต่อเหตุดินถล่มและภัยอันตรายอื่น ๆ เนื่องจากฝนยังคงตกกระหน่ำในภูมิภาคนี้ หลายพื้นที่ยังไฟฟ้าดับ ระบบคมนาคม และบริการสาธารณะ เช่น ธนาคารและที่ทำการไปรษณีย์ส่วนหนึ่งยังปิดทำการ
    .
    จังหวัดฟูกูโอกะ ซากะ และนางาซางิ เผชิญกับน้ำท่วมในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนเมื่อวานนี้ (28ส.ค.) ฝนที่ตกหนักเป็นประวัติการณ์ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมท้องถนนสายต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว
    .
    รถเมล์คันหนึ่งที่มีผู้โดยสารอยู่ด้านในถูกกระแสน้ำไหลเข้าท่วมภายในรถอย่างฉับพลัน รถยนต์จำนวนมากจมน้ำมิดหลังคา สถานีรถไฟ ร้านค้า บ้านเรือน ถูกน้ำท่วมสูง เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องฝ่าน้ำที่ท่วมสูงระดับหน้าอกเข้าช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านเรือน หรือภายในรถยนต์
    .
    สำนักอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นออกคำเตือนระดับสูงสุด เมื่อเวลา 5.50 น. ของวันพุธที่ 28 สิงหาคม และสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 800,000 คน ในพื้นที่จังหวัดฟูกูโอกะ ซากะ และนางาซางิ โดยปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่สามจังหวัดนั้น มากเป็นประวัติการณ์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
    .
    ที่จังหวัดซากะ มีชายคนหนึ่งเสียชีวิตหลังจากที่รถยนต์ของเขาถูกน้ำพัดไปตกในท้องนา และที่จังหวัดฟูกูโอกะ ชายวัย 70 ปีเสียชีวิต หลังจากพยายามช่วยเหลือผู้คนที่ถูกน้ำท่วมบนถนน นอกจากนี้ผู้หญิงอีกคนหนึ่งก็ถูกน้ำท่วมซัดรถของเธอตกลงไปในคูน้ำ เธอได้รับการช่วยเหลือ แต่นี้ยังคงหมดสติอยู่
    .
    สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ ระบุว่า จากการประสานงานกับเครือข่ายคนไทยในพื้นที่ต่าง ๆ ทราบว่าส่วนใหญ่ปลอดภัย และต่างใช้ความระมัดระวังและติดตามข่าวทางการญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด
    .
    ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถระบายน้ำที่ท่วมออกได้เกือบทั้งหมดแล้ว แต่สถานที่หลายแห่ง และระบบคมนาคมยังต้องใช้เวลาในการฟื้นฟู.
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รบ.อิเหนายันไม่ทิ้งจาการ์ตา! เตรียมทุ่ม 4 หมื่นล้านดอลลาร์พัฒนา ก่อนย้ายเมืองหลวง
    .
    รอยเตอร์ 29 ส.ค. – รัฐบาลอินโดนีเซียไม่ได้จะละทิ้งกรุงจาการ์ตาหลังจากประกาศแผนย้ายเมืองหลวงของประเทศ รัฐมนตรีกระทรวงวางแผน ระบุ โดยรับปากว่าจะทุ่มงบประมาณ 4 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเมืองที่กำลังจมลงอย่างช้าๆ นี้ในอีกสิบปีข้างหน้า
    .
    เมืองหลวงปัจจุบันของอินโดนีเซียจะได้รับการปฏิรูปเมืองมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า เงินกว่า 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์คาดว่าจะถูกใช้สร้างเมืองหลวงแห่งใหม่บนเกาะบอร์เนียว บัมบัง บรอดโจเนโกโร ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
    .
    “จาการ์ตาเป็นศูนย์กลางของทุกอย่างในอินโดนีเซีย สิ่งที่เรากำลังย้ายออกไปคือศูนย์กลางการปกครอง แต่ศูนย์การเงิน ธุรกิจ และการค้า จะยังคงอยู่” บรอดโจเนโกโร กล่าว
    .
    จาการ์ตาเป็นหนึ่งในเมืองประชากรแออัดที่สุดในโลก บ้านของประชากรกว่า 10 ล้านคน และหากนับรวมประชากรที่อาศัยเขตโดยรอบแล้วจะมากกว่านั้นอีกสามเท่า
    .
    บรอดโจเนโกโร กล่าวว่า การตัดสินใจย้ายทำเลเกิดขึ้นเนื่องจากรัฐบาลรู้ว่าจำเป็นต้องลดการรวมศูนย์ประชากรในกรุงจาการ์ตา
    .
    รัฐบาลคาดว่าจะเริ่มการย้ายไปเมืองหลวงใหม่ในจังหวัดกาลีมันตันตะวันออกในปี 2024 เขากล่าวเสริมว่า “ประชาชนคาดหวังว่าจาการ์ตาจะน่าอยู่ จาการ์ตาไม่ได้น่าอยู่เลย ปัจจัยเรื่องน้ำเป็นสาเหตุของความกังวล น้ำเสีย และมลพิษทางอากาศ”
    .
    บรอดโจเนโกโร กล่าวว่า เมืองนี้มีโครงสร้างพื้นฐานท่อส่งน้ำเพียง 60 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทำให้ประชาชนหลายล้านและหลายธุรกิจต้องขุดบ่อเพื่อใช้น้ำบาดาล ซึ่งทำลายสิ่งแวดล้อม
    .
    การขุดเจาะมากเกินไปทำให้จาการ์ตาเสี่ยงเผชิญน้ำท่วมและจมน้ำเนื่องจากการทรุดตัว ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นยิ่งทำให้เมืองนี้จมเร็วมากขึ้น ขณะที่พื้นที่บางส่วนของเมืองต่ำลงมากถึง 11 นิ้วต่อปี ทำให้จาการ์ตากลายเป็นเมืองใหญ่ที่จมเร็วที่สุดในโลก
    .
    ส่วนหนึ่งของโครงการใหม่ที่ถูกเสนอโดยหน่วยปกครองเมืองคือขยายท่อส่งน้ำให้ครอบคลุมทั้งจาการ์ตา เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องพึ่งน้ำบาดาลอีกต่อไป บรอดโจเนโกโร กล่าว และเสริมว่า รัฐบาลจะสร้างระบบบำบัดน้ำเสียใหม่ด้วย
    .
    เงินก้อนใหญ่สุดของงบประมาณนี้จะถูกใช้กับระบบขนส่งมวลชน เช่นการขยายเส้นทางสำหรับระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน (เอ็มอาร์ที) ทางรถไฟสายย่อยใหม่ๆ เที่ยวรถไปกลับประจำ เลนเฉพาะรถเมล์ และสะพานข้ามแยกที่มากขึ้น
    .
    จาการ์ตาเป็นหนึ่งในเมืองที่มีปัญหารถติดเลวร้ายที่สุดในโลก ฤดูแล้งปัจจุบัน มลพิษอุตสาหกรรม และการพึ่งพาโรงไฟฟ้าถ่านหินของเมืองนี้ทำให้จาการ์ตาเป็นหนึ่งในเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลกเช่นกัน.
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "ส.ส.ลูกหนี้ กยศ."โปรดทราบ กองทุนเตรียมหักเงินเดือน ชำระหนี้เงินกู้เร็วๆนี้
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกจับตา!! จีนส่งทหารชุดใหม่ผลัดเปลี่ยนประจำการใน ‘ฮ่องกง’
    .
    กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนส่งทหารชุดใหม่เข้าประจำการบนเกาะฮ่องกง โดยสื่อของรัฐบาลยืนยันว่าเป็นการผลัดเปลี่ยนกำลังพลตามวงรอบปกติ ท่ามกลางสถานการณ์การชุมนุมประท้วงต่อต้านจีนที่ทำให้เกาะศูนย์กลางพาณิชย์แห่งนี้ตกอยู่ในภาวะกึ่งอัมพาตมานานถึง 3 เดือน
    .
    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9620000082804
    #mgronline #จีน #ทหารชุดใหม่ #ผลัดเปลี่ยนกำลังพล #ฮ่องกง #ชุมนุมประท้วง
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    พายุเขตร้อน Dorian ใน Saba, แคริบเบียน ดัตช์
    ซาบา เป็นเกาะแห่งหนึ่งในหมู่เกาะลีเวิร์ดในทะเลแคริบเบียน และเป็นเทศบาลรูปแบบพิเศษ ที่เล็กที่สุดของประเทศเนเธอร์แลนด์
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    โมร็อคโค นี่คือเวลาที่น้ำท่วมถึงสนามฟุตบอล มีผู้เสียชีวิต 15 คน

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดูท่าทางโลกจะไม่รอด
    Posted on June 27, 2019 by vanchaitan

    header-polar-bear-plastic.jpg

    ช่วงเดือนมิถุนายน มีเหตุการณ์ระทึกคล้ายกันหลายแห่งเกิดขึ้น

    แต่เป็นเพียงข่าวเล็ก ๆ ที่ไม่เคยถูกพาดหัวเป็นข่าวใหญ่เหมือนเดิม

    ข่าวแรกเกิดในย่านอุตสาหกรรมชานเมืองนอริลสค์ ในเขตไซบีเรีย ประเทศรัสเซีย

    เมื่อชาวเมืองหลายคนพบหมีขาวเพศเมียตัวหนึ่ง มาเดินหาอาหารกินตามท้องถนนในเมือง

    เป็นหมีขาวผู้ผอมโซอดอยากมานาน



    หนังสือพิมพ์ไซบีเรีย ไทมส์ รายงานว่า หมีขาวตัวนี้น่าจะเดินทางไกลมาจากคาบสมุทรเทย์มีร์

    ที่ห่างออกไปถึง 1,500 กิโลเมตร

    ช่างภาพผู้บันทึกภาพถ่าย ได้บอกว่า หมีขาวอ่อนแรงมาก เดินแทบไม่ไหว

    เค้านอนพักเอาแรงอยู่นาน กว่าจะข้ามถนนเข้ามาในเขตอุตสาหกรรมของเมือง

    หมีขาวเดินทางมาจากบ้านเกิดของตัวเองนับพันกิโลเมตร

    เพราะน้ำแข็งละลาย และล่าสัตว์หาอาหารกินไม่ได้

    จึงเดินทางมาเรื่อย ๆ หวังจะพบอาหารในเมือง



    ไล่เลี่ยกับข่าวหมีขาวตัวนี้ มีรายงานข่าวว่า ผู้คนทางแถบเหนือก็แทบช็อก

    เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า น้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ได้ละลายอย่างรวดเร็วลงไปสู่ทะเลเป็นจำนวนถึง 2,000 ล้านตัน

    เกือบครึ่งหนึ่งของเกาะ ในชั่วเวลาเพียงอาทิตย์เดียว



    กรีนแลนด์เป็นเป็นดินแดนที่อยู่ทางตอนเหนือสุดของโลก

    คือ อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอาร์กติก

    และเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีพื้นที่ประมาณ 2,175,900 ตารางกิโลเมตร

    หรือใหญ่กว่าประเทศไทยประมาณ สี่เท่า

    แม้ว่าการละลายของน้ำแข็งบนเกาะแห่งนี้จะเป็นเรื่องปกติ

    แต่ที่น่าตกใจ เพราะฤดูกาลที่นั่น เพิ่งย่างเข้าสู่ฤดูร้อนเอง

    จึงไม่มีใครทำนายได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นหากกรีนแลนด์เข้าสู่หน้าร้อนอย่างเต็มตัว

    แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า น้ำแข็งที่ละลายในกรีนแลนด์ของปีนี้

    อาจส่งผลให้ระดับน้ำในทะเลสูงขึ้นแน่นอน

    จากขั้วโลกเหนือ ล่องมาทางใต้ไม่ไกลจากประเทศไทย

    เทือกเขาหิมาลัยกำลังประสบปัญหาเช่นเดียวกัน

    นักวิทยาศาตร์ได้พบว่า อัตราการละลายของน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัยเข้าขั้นวิกฤต

    ทุกวันนี้ธารน้ำแข็งบนหลังคาโลกแห่งนี้ ละลายถึงปีละ 8,300 ล้านตัน

    นับเป็นอัตราที่เร็วขึ้นเกือบ 2 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงปี 2518 – 2543

    นักวิทยาศาสตร์พบว่า ปริมาณน้ำแข็งที่ปกคลุมเทือกเขาหิมาลัย ลดลงเหลือเพียงร้อยละ 72 เท่านั้น

    การละลายของน้ำแข็งบนเทือกเขานี้ อาจไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับระดับน้ำทะเล

    แต่ที่สาหัสกว่านั้นคือ เทือกเขาหิมาลัยเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำนานาชาตินับสิบสาย

    อาทิ แม่น้ำคงคา แม่น้ำโขง แม่น้ำสาละวิน แม่น้ำพรหมบุตร แม่น้ำสินธุ ฯลฯ

    ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมจากปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    และในอนาคตไม่นาน หากน้ำแข็งที่ปกคลุมเทือกเขาหิมาลัยลดลงไปเรื่อย ๆ

    ปริมาณน้ำแข็งที่ละลายมาเติมแม่น้ำที่หล่อเลี้ยงผู้คนนับพันล้านคนที่อาศัยอยู่ด้านล่าง

    จะเริ่มขาดแคลนและก่อให้เกิดสงครามแย่งชิงน้ำในที่สุด

    ห่างจากเทือกเขาหิมาลัยไปไม่ไกล ในดินแดนตะวันออกกลาง ประเทศคูเวต

    ได้ทำลายสถิติวันที่มีอากาศร้อนที่สุดในโลก เว็บไซต์กัลฟ์นิวส์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2562

    ประเทศคูเวต เผชิญวิกฤตอากาศร้อนจัด มีอุณหภูมิสูงที่สุดในโลก อุณหภูมิในร่ม สูงถึง 52.2 องศาเซลเซียส

    และอุณหภูมิกลางแจ้ง สูงถึง 63 องศาเซลเซียส

    มีรายงานว่า มีคนร้อนตายเพียงคนเดียว จากร่างกายที่ถูกแสงแดดแผดเผาเป็นเวลานาน

    สาเหตุเป็นอื่นไม่ได้นอกจากปัญหาโลกร้อน

    20150527110429731.jpg

    มุ่งไปสู่ขั้วโลกใต้ ดินแดนที่มีน้ำแข็งปกคลุมมากที่สุดในโลก

    องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซ่า สำรวจพบว่า

    ภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมา ใหญ่กว่ารัฐนิวยอร์ค 2 เท่า

    กำลังแตกออกจากชั้นน้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติกา

    ที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์พบรอยแยกของก้อนน้ำแข็งมาหลายปีแล้ว

    แต่เกิดรอยแยกใหม่ และยาวเพิ่มขึ้นทุกปี จนเชื่อว่า อีกไม่นาน

    ภูเขาน้ำแข็งขนาด 1,700 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,00,000 ไร่

    ใหญ่กว่ากรุงเทพมหานคร จะแตกออกละลายสู่มหาสมุทร

    ทุกวันนี้น้ำแข็งทั่วโลกละลายปีละมากกว่า 370,000 ล้านตัน

    มากกว่าเมื่อห้าสิบปีก่อนถึงห้าเท่า

    ผู้เชียวชาญการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ เตือนเราว่า

    หากชาวโลกสามารถหยุดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้สำเร็จตอนนี้

    แต่น้ำแข็งก็ยังจะละลายต่อไปอีก10—30 ปี

    สาเหตุทั้งหมด ก็มาจาก ปัญหาโลกร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากก๊าซเรือนกระจก

    โดยเฉพาะปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปกคลุมชั้นบรรยากาศ

    นักวิทยาศาสตร์หวั่นเกรงว่า หากปริมาณก๊าซชนิดนี้เกิน 400 ppm

    (โมเลกุลในทุก ๆ 1 ล้านโมเลกุลของมวลอากาศ หรือ (parts per million) หายนะของโลกมาเยือนแล้ว

    แต่ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ในสหรัฐฯ ตรวจพบระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ

    เพิ่มสูงสุดในประวัติศาสตร์นับแต่เริ่มมีการบันทึก

    โดยพบว่าก๊าซเรือนกระจกนี้สูงมากกว่า 415 ppm เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ ในรอบ 3 ล้านปี

    นับเป็นสัญญาณเตือนภัยในขณะที่มนุษย์ยังคงปล่อยก๊าซชนิดนี้อย่างไม่ลดละ

    อากาศอันร้อนจัด และน้ำแข็งขั้วโลกละลายอย่างรวดเร็ว คือผลพวงจากสิ่งเหล่านี้



    สุดท้ายคนรุ่นหลังกำลังรับเคราะห์กรรมอันหลีกเลี่ยงไม่ได้

    ล่าสุดนักวิทยาศาสตรจากสหรัฐและอังกฤษพบว่า

    ธารน้ำแข็งทั่วโลกละลายเร็วขึ้นถึง 3 เท่าในแค่ช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา

    นั่นหมายความว่า อัตราการละลายเพิ่มขึ้นทุกปี อย่างน่าตกใจ

    จนไม่อาจคำนวณได้ว่า น้ำทะเลจะสูงขึ้นเพียงใด และเมื่อไรน้ำจะท่วมเมืองชายฝั่ง

    เพราะนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเห็นพ้องกันว่า

    ความรู้วิทยาศาสตร์ของมนุษย์ทุกวันนี้ ไม่เพียงพอจะทำนายผลกระทบของโลกร้อนได้อย่างแม่นยำ



    อีก 10 ปี 20 ปี หรือเร็วกว่านั้น

    กรุงเทพมหานคร ก็มิอาจรอดได้ จากน้ำท่วม

    อะไรที่ไม่เคยเห็น ชีวิตนี้โปรดติดตามดูด้วยใจระทึก

    gettyimages-171795035-2aaa9377-e56d-4e97-b8de-48f4083c0365-1.jpg

    https://onetonion.com/2019/06/27/ดูท่าทางโลกจะไม่รอด/
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดูท่าทางโลกจะไม่รอด 2
    Posted on August 6, 2019 by vanchaitan
    800.jpg
    ธารน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ละลายเกือบหมด ภาพ AP news
    เดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา มีข่าวเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยเป็นข่าว

    เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้พบว่า น้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ได้ละลายอย่างรวดเร็ว

    ลงไปสู่ทะเลเป็นจำนวนถึง 2,000 ล้านตัน

    เกือบครึ่งหนึ่งของเกาะ

    แต่ปลายเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา มีข่าวอันน่าตกใจกว่า แต่ก็ไม่ค่อยเป็นข่าวเหมือนเดิม

    องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐ หรือ นาซา เผยว่า

    ดาวเทียมสำรวจสภาพอากาศได้ตรวจสอบพบว่า

    ผิวน้ำแข็งถึง 97 เปอร์เซ็นต์ของเกาะกรีนแลนด์บริเวณขั้วโลกเหนือ

    ละลายหายไปหมด

    พร้อมระบุว่า ไม่เคยพบเห็นเหตุการณ์อย่างนี้มาก่อนในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา

    จากการวิเคราะห์ชั้นน้ำแข็งของนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า

    เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 1889 หรือว่า 123 ปีมาแล้ว

    กรีนแลนด์เป็นดินแดนอยู่ทางตอนเหนือสุดของโลก

    คือ อยู่ใกล้ขั้วโลกเหนือ ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอาร์กติก

    และเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

    มีพื้นที่ประมาณ 2,175,900 ตารางกิโลเมตร

    ใหญ่กว่าประเทศไทยประมาณ 4 เท่า

    รูท มอตแทรม นักวิจัยจากสถาบันอุตุนิยมวิทยาเดนมาร์กได้เปิดเผยว่า

    พื้นที่ที่มีความกดอากาศสูงหรือ blocking ridge ได้ก่อตัวเหนือเกาะกรีนแลนด์

    ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น เกิดการละลายของน้ำแข็งในวงกว้างและมีปริมาณมาก

    นักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า ในชั้นหินใต้เกาะกรีนแลนด์มีน้ำอุ่นขังอยู่

    ถ้าก้อนน้ำแข็งบนพื้นผิวละลายมากเท่าใด

    ยิ่งไปกระตุ้นให้น้ำอุ่นด้านล่างช่วยทำให้ก้อนน้ำแข็งละลายเร็วมากขึ้น

    head-1-1564828428_1100x513.jpg
    ภาพ https://www.mensxp.com/social-hits/news
    ผิวน้ำแข็งของเกาะกรีนแลนด์มีความบางเพียงไม่กี่ฟุตบริเวณใกล้ชายฝั่ง

    และความหนามากกว่า 3 กิโลเมตรตรงใจกลางเกาะ

    ทุกปีน้ำแข็งบนเกาะจะละลายประมาณ 55 เปอร์เซ็นต์ในช่วงฤดูร้อน

    และจะกลับมามีน้ำแข็งปกคลุมเหมือนเดิมเมื่อฤดูหนาวมาถึง

    แต่ปัจจุบันขณะที่ย่างเข้าสู่หน้าร้อนไม่นาน

    น้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ละลายเกือบหมดแล้ว

    และเมื่อหน้าหนาวมาเยือนอีกครั้ง

    ไม่มีใครรู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้น อากาศจะหนาวเย็นไหม

    น้ำแข็งจะกลับมาปกคลุมเหมือนเดิมไหม และระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นเท่าใด

    อีกด้านหนึ่ง ข่าวร้ายก็ถาโถมมาขั้วโลกเหนือ

    คลื่นความร้อนยุโรปในช่วงนี้ที่สร้างความปั่นป่วนให้กับ

    ปารีส ลอนดอน เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี นอร์เวย์ สวีเดน ฟินแลนด์ ฯลฯ

    และได้แผ่ขยายเป็นวงกว้างไปถึงอาร์กติก ขั้วโลกเหนือ

    อุณหภูมิในบางส่วนของสแกนดิเนเวีย

    จะเพิ่มขึ้นถึง 90 องศาฟาเรนไฮต์หรือ 32 องศาเซลเซียส

    ร้อนจัดเป็นประวัติการณ์ของผู้คนทางด้านที่ติดขั้วโลกเหนือ

    คลื่นความร้อนนี้รู้จักกันในชื่อโดมความร้อน หรือ heat dome

    เป็นปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิของชั้นอากาศใกล้พื้นดินอุ่นกว่าปกติ

    เพราะความร้อนโดยตรง

    โดมความร้อนนี้กำลังมีผลต่อเขตอาร์กติกอย่างที่นักวิทยาศาสตร์กำลังกังวล

    เขตอาร์กติก ขั้วโลกเหนือไม่ได้เป็นแผ่นดินหรือทวีป

    แต่เป็นทะเล มหาสมุทรอันเย็นยะเยือกจนกลายเป็นน้ำแข็ง

    คลื่นความร้อนได้ทำให้ทะเลน้ำแข็งอาร์กติกลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดของปี

    แซค ลาเบ นักวิจัยด้านสภาพภูมิอากาศแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า

    คลื่นความร้อนในบริเวณอาร์กติก อาจจะขยายตัวออกมาก

    และทำให้ทะเลน้ำแข็งลดลงไปที่ระดับทำสถิติต่ำสุดในช่วงสิ้นฤดูกาลน้ำแข็งละลาย

    ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก

    เราทราบเพียงว่า ฤดูกาลเพิ่งย่างเข้าสู่หน้าร้อนไม่นาน

    แต่แผ่นน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์และทะเลน้ำแข็งอาร์กติกได้ลดลงมากเป็นประวัติการณ์

    ลำพังทะเลน้ำแข็งอาร์กติกละลายเป็นน้ำ อาจไม่ค่อยส่งผลนัก

    แต่การละลายน้ำจากแผ่นน้ำแข็งในกรีนแลนด์ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น

    เพราะเป็นการเพิ่มน้ำในมหาสมุทร

    ขณะนี้ภาพถ่ายจากดาวเทียมชี้ให้เห็นว่า

    ระดับน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกที่ติดกับอาร์กติกส่งผลต่อชายฝั่งชุมชนในอลาสกาแล้ว

    ในเดียวกัน บริเวณอื่นของอาร์กติก หน้าร้อนขณะนี้อากาศร้อนสุด

    ทำให้เกิดไฟไหม้ป่าในอลาสกา ไซบีเรีย และอีกหลายแห่งนับล้านเอเคอร์ อย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน

    เกิดมาก็เพิ่งเคยได้ยิน ไฟไหม้ป่าอลาสกา

    ควันไฟที่ลอยสูงขึ้นสามารถจับภาพได้ด้วยดาวเทียม

    และยังมีผลต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เพิ่มขึ้น

    ปรากฏการณ์เหล่านี้เป็นผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

    หรือภาวะโลกร้อนที่มนุษย์ได้กระทำขึ้น

    และตอนนี้เคราะห์กรรมนี้กำลังตกอยู่กับสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่ไม่รู้เห็นด้วย

    มีรายงานข่าวว่า ในช่วงที่คลื่นความร้อนได้แผ่ขึ้นเหนือไปยังขั้วโลกเหนือ

    ปรากฎว่าบนเกาะสฟาลบาร์ ประเทศนอร์เวย์

    ในมหาสมุทรอาร์กติก นักวิจัยได้พบฝูงกวางเรนเดียร์กว่า 200 ตัว

    ต่างล้มตายเป็นเบือ

    เนื่องจากภาวะการอดอาหาร จากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรง

    ฝูงกวางเรนเดียร์เป็นกลไกสำคัญต่อระบบนิเวศในขั้วโลกเหนือ

    และการหายไปของกวางเรนเดียร์อาจส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมอย่างใหญ่หลวงในอนาคต

    หายนะจากโลกร้อน มาถึงก่อนเวลาอย่างระทึกใจจริง ๆ

    ธรรมชาติส่งสัญญาณเตือนเรานานแล้ว

    แต่เราไม่สนใจเอง

    วันหนึ่งมนุษย์ก็คงมีสภาพไม่ต่างจากกบที่ถูกต้มในน้ำร้อน

    ตอนแรก ๆ น้ำก็เย็น กบก็ว่ายสบายใจ

    และอุณหภูมิน้ำค่อย ๆ ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ

    แต่ก็สายเกินไปแล้ว

    2012-07-24-ap-greenland-meltsjpg-377353e40f16a9e8.jpg
    ภาพเปรียบเทียบการละลายน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ เครดิตภาพ Climate Central

    https://onetonion.com/2019/08/06/ดูท่าทางโลกจะไม่รอด-2/
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เอ๊าาาา น้องมาไงเนี่ย !!
    ชาวญี่ปุ่นตกตะลึง พบ "ฮิปโป" โผล่ที่แม่น้ำชิบูย่ากลางกรุงโตเกียว !!!
    .
    กลายเป็นไวรัลไปในโลกทวิตเตอร์ของญี่ปุ่นครับเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อมีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากอัพลงทวิตเตอร์กันรัวๆว่าพบ "ฮิปโปโปเตมัส" 3 ตัว ที่ไม่ทราบว่าหนีออกมาจากที่ไหน อยู่ดีๆก็มาโผล่อยู่กลางแม่น้ำชิบูย่า แม่น้ำที่ไหลผ่านกลางกรุงโตเกียว !! จนสร้างความแตกตื่นให้ชาวโตเกียวว่ามันมาได้ยังไงฟระ !!
    .
    หลายๆคนอาจจะไม่รู้ว่าชิบูย่ามีแม่น้ำไหลผ่านด้วย แม้แต่คนญี่ปุ่นเอง มันเหมือนเป็นสถานที่ที่คนไม่ค่อยนึกถึง จนถึงขั้นเคยมีคนแต่งเพลงถึงแม่น้ำชิบูย่าว่าเป็นสถานที่ที่ถูกลืมไปแล้ว บอกชื่อ "แม่น้ำชิบูย่า" ไปเธอคงนึกไม่ออกแน่ๆ (เพลง Shibuyagawa ของ Keyakizaka46) เพราะตัวแม่น้ำมันอยู่คนละฟากกับรูปปั้นหมาฮาจิโกะแล้วก็ห้าแยกชิบูย่าที่นักท่องเที่ยวชอบไปถ่ายรูปกัน แต่จริงๆมันอยู่ติดเกันสถานีเลยครับ เป็นแม่น้ำเล็กๆ หน้าตาเหมือนคลองชลประทาน แค่เดินมาอีกฟาก มีร้านอาหารน่ารักๆริมแม่น้ำเยอะเลย ผมชอบมาเดินที่นี่มากเวลามาชิบูย่าเพราะคนน้อยแล้วร่มรื่นดี คนแห่ไปอยู่ตรงรูปปั้นหมากับห้าแยกหมดแล้ว 555
    .
    แต่นี่มันร่มรื่นจนฮิปโปไหลตามคลองมาถึงที่นี่เลยเรอะ !!!
    หืมมมมมมมม
    .
    .
    .
    .
    .
    อย่าเพิ่งแตกตื่นไป เก็บปืนยาสลบเอาไว้ก่อน
    เพราะจริงๆแล้วมันคือของปลอมครับ !!
    .
    หลังจากปล่อยให้เป็นไวรัลอยู่แป๊บนึง เขาก็ออกมาเฉลยครับ ว่าไอ้ที่คนทำเป็นแตกตื่นว่ามีฮิปโปมาโผล่กลางแม่น้ำชิบูย่าน่ะ จริงๆแล้วมันเป็นกิจกรรมของ National geographic ครับ แล้วเจ้าฮิปโปสามตัวพ่อแม่ลูกที่ดูเนี๊ยนเนียนนั่น จริงๆแล้วก็เป็นฮิปโปปลอมครับ เขาเอามาวางไว้ให้คนถ่ายรูปโปรโมทช่องของเขานั่นแหล่ะ แล้วคนญี่ปุ่นที่ผ่านไปผ่านมาก็ร่วมรับมุกกันดีซะด้วย ทำเป็นถ่ายรูปแตกตื่นว่ามีฮิปโปบุกโตเกียว มันเลยยิ่งเนียนไปอี๊ก
    .
    ถึงขั้นบางคนเห็นข่าวในทวิตเตอร์แล้วหลงเชื่อจริงจังถึงขั้นรีบนั่งรถไฟมาดูเลยก็มี แล้วก็มีโทรศัพท์แจ้งไปที่เจ้าหน้าที่หลายครั้งด้วย (แต่เขาประสานงานกับเจ้าหน้าที่ไว้ก่อนแล้ว)
    ซึ่งเขาเอามาวางอยู่แค่ 2 วัน (เสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา) แล้วก็ยกออกไปแล้ว ใครไปตอนนี้ถ้ายังเจออยู่นี่อาจจะเป็นตัวจริงละนะ 5555
    .
    เขาบอกว่าจริงๆแล้วแม้จะหน้าตาดูซื่อบื้อน่ารัก แต่ฮิปโปตามธรรมชาติมันเป็นสัตว์ที่ดุร้ายแล้วก็โหดสัดมาก ทั้งโมโหง่าย พละกำลังมหาศาล หนังหนาและวิ่งเร็วอีกต่างหาก สามารถฟัดกับไอ้เข้ได้อย่างสู้สี นี่มันฮิปโปหรือเดอะฮัควะ 5555 ถ้ามันโผล่มากลางเมืองจริงนี่น่ากลัวพอๆกับก็อตซิลล่าโผล่มาเลยแหล่ะ 5555
    .
    ปล. ใครไปแม่น้ำชิบูย่าก็อย่าไปเที่ยวนอนเล่นแถวนั้นล่ะ
    เดี๋ยวชาวบ้านเขาแตกตื่นตกใจเรียกคนมายิงปืนยาสลบใส่ เตือนแล้วนะ!! //เสียงเชฟป้อม
    .
    ข่าวจากทวิตเตอร์ natgeotv.jp
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,705
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝายแจระแม ข้างหลังศาลากลางใหม่ ขาด
     

แชร์หน้านี้

Loading...