ตามหาคุณยายที่รักคะ

อิ อิ อิ

http://www.ethaimusic.com/songlist.php

 

กริ๊... กริ๊... กริ๊กกกก !!!

 

มอร์นิ้งจ้า ปวดท้องไม่หาย ปวดหัวใจด้วย หัวใจที่เต้นได้น่ะไม่ใช่หัวใจสะออนอ้อนรักนะคะ แต่คุยกันสักพักคงพอไหว อ้าว มาเร้ว มาเติมใจกันเร้ว

 

มึนหัวบ้างไหมคะนี่ ติดยาดมมาด้วยนะคะคราหน้า (b-2love)

 

ไปละ

 

ไปอีกแระ มาคุยเรื่องพระพิฆเณศร์จอมปลวกก่อนนะคะพี่ขา ใช่ที่เคยลงข่าวใช่ไหมพี่ Prarahu

P'NiNe Yai likes this photo... นางฟ้าปีกหัก!

 

ไม่ใช่ครับองค์นี้ได้มาจากสระบุรี อยู่ในจอมปลวกเป็นองค็พิฆเนศวร์ปางนั่งมันเป็นคดปลวกนั่นละครับ มีรูปแล้วครับตอนนี้ต้องขอร้องท่านผู้รู้ให้ส่งรูปให้ผมทางnet ความที่ผมเอารูปใส่เข้ามาในnetตรงๆไม่เป็น ความจริงของบางอย่างผมไม่กล้าโชว์มากกลัวโดนเคาะหัว มีคดนางพญาต่อได้มาจากลาวพระธุดงค์ท่านได้มาแปลกมากครับเป็นตัวต่อนี่ละครับแต่เป็นหินอยู่ในรังเลยครับ ของชิ้นนี้ใช้เวลาตื้ออยู่2ปีครับ ของแปลกๆในโลกยังมีอีกมากที่เราไม่รู้ครับ
ยายที่เมืองกาญที่เขาอึมครึมมีเหล็กไหลเนื้อดีครับว่างๆยายไปเรียกให้ผมหน่อยเถอะ
งูเหลือมปากเป็ดใครได้มาจะทำให้เป็นเศรษฐีครับในตำนานเล่าว่าเป็นส่วนปีกของนกการะเวกในป่าหิมพานต์หลุดข้ามมิติมาครับ ตัวเล็กเท่าก้านไม้ขีดเวลาเจอท่านให้ใช้แบงค์500หรือแบงค์1000ช้อนขึ้นใส่ในพานจากนั้นงูนั้นจะตายใน2-3วันและจะขดตัวเป็นวงกลม จากนั้นก็บูชาด้วยของหอมจะทำให้ผู้นั้นร่ำรวยเป็นเศรษฐี ทางภูเก็ตมีกันเยอะครับ

 

เกือบเผลอน๊อคหน้าคอม!!! ตื่นมาดื่มชากับไข่ต้มฟองเดียวน้ำส้มแก้ว จะแห้งตายแร้ว แง้ ...สมน้ำหน้ายายอยากไม่หากินเองเนอะ ...

 

งูเหลือมปากเป็ดเขามาเข้าฝันยายตอนไปทำงานในป่าต้นเดือนน่ะค่ะ ว่าจะไปนั่งเล่นให้โชคลาภนายเก่า ยายเห็นเป็นเทพธิดาในร่างงูค่ะ นางงูบอกว่าอย่าฆ่านางนะนางคุ้มครอง ยายเลยถามนายคือใคร คือคุณหนุ่มเหลือน้อยใช่ไหม นางยิ้มแล้วบอกยายก้อคือนายเก่า ยายตื่นมารีบโทไปบอกเต๋าอย่าฆ่านะถ้าเจองูเข้าร้าน เต๋าบอกไม่ทันแล้ว นอนตายมดตอม เจอตอนมาเปิดร้าน

เต๋าถามว่าทราบได้ไง!!!

bubu' ช่วยแนะนำพี่ prarahu เอาภาพลงในเวบหน่อยค่ะ...(b-glass)

 

หวัดดีครับ มาแอบเล่นที่ร้านเน็ต เพราะว่าเล่นที่หอมันเข้าเว๊ปพลังจิต กะเช๊คฮอตเมล์ไม่ได้...คงคุยมากไม่ไได้ มันแพง T_T

 

อ้นเปิดกิจการเน็ตเคลื่อนที่ในหอพักสิ หารายได้เสริมง่ะ ยายว่าดีนะจ๊ะ ...

 

<embed src="http://media.9dset.com/movie/aud/aud0753/4.wma" width="300" height="50"></embed>

โหลดอีกเพี่ยบ เด้อ อ้าย

http://www.bangkokcity.com/2003/member/room/room.php?rmid=3072</EMBED>

 

นางฟ้าฯ ...

 

ชอบภาพนี้จัง(ping)

 

เหงาจัง -*-

 

ฝากรูป เด๋ว

 

เขมรเพลงนี้ตอนทาร์ซานจีบยายนะเนี่ย แถมเอาใจยายด้วยการไปกร้อนผมทรงหนุ่มไท ด้วยล่ะ แต่ความดำคงพอๆกัน อุ้ย ตอนนั้นมีเดะมาตามจีบ อยากจะบ้าตาย แต่นี่เอาภาพอะไรมาลงย่ะ อิอิ...

Hi! P' NiNe?...

เหมือนน้องออมสาวน้อยคนเล็กของยายค่ะ แต่น้องออมหน้าผากโหนก ดั้งบานแด่นนิดๆ (แบบน่ารักย่ะ !) ตากลมขนตางอนๆ อิอิ คิดถึง...

 

ยาย ขอบคุณที่เปนห่วงค่ะ คงไม่ได้เปนมั้ง น่ากัวอ่ะ ไม่กล้าปายหาหมอ

สงสัย แค่ นอนไม่พอมั้ง

ดีจัยจังที่ยังมีคนเปนห่วง T T

ไปนอนก่อนนะคะ ยาย สุดที่ เลิฟ อิอิ

 

เชื่อใหมครับว่า กาลเวลา อวกาศ เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง เมือ ใดที่เราเริ่มสังเกตุ เมื่อนั้น เวลาเกิด ทันที เกิดพร้อมกับที่ว่างด้วย ทางพุทธ จะเรียก รูป กับนาม

การสังเกตุ เมื่อสิ่งภายนอกเริ่ม โยงใย ซับซ้อน ขึ้น พอ เรา จะไป จับทำความเข้าใจอาการ มัน กฎทฤษฎี ทางวิทยาศาสตร์จึงเกิด ขึ้น จิตเกิดสรรพสิ่งเกิด จิตดับสรรพสิ่งดับ

รูป คือ วัตถุธาตุ

นามคือ จิต(ผู้สังเกตุ)

แปลกตรง หลวงปู่ดุลย์ ท่านกล่าว ไว้เกี่ยวกับ จักรวาลด้วย ถ้าพิจารณาดีๆ ท่านอธิบาย ความสัมพันธ์ ของ ผู้สังเกตุ(จิต หรือ นาม) กับ วัตถุ(รูป)



สิ่งมีชีวิตและไม่มีชีวิตในจักรวาล มีนับไม่ถ้วนรวมแล้วมี รูปกับนาม สองอย่างเท่านั้น นามเดิม ก็คือ ความว่างของจักรวาล เข้าคู่กันเป็น เหตุเกิด ตัวอวิชชา เกิดเหตุก่อ ที่ใดมีรูป ที่นั้นต้องมีนาม ที่ใดมีนาม ที่นั้นต้องมีรูป รูปนามรวมกัน เป็นเหตุเกิดปฏิกิริยา ให้เปลี่ยนแปลงตลอดกาล และ เกิดกาลเวลาขึ้น คือรูปย่อมมีความดึงดูดซึ่งกันและกัน จึงเป็นเหตุให้รูปเคลื่อนไหว และหมุนรอบตัวเองตามปัจจัย รูปเคลื่อนไหวได้ ต้องมีนาม ความว่างคั่นระหว่างรูป รูปจึงเคลื่อนไหวได้

เมื่อสภาวธรรมเป็นอย่างนี้ สรรพสิ่งของวัตถุ สสารมีชีวิต และไม่มีชีวิตจึงต้องเปลี่ยนแปลง เป็นไตรลักษณ์ เกิด ดับ สืบต่อทุกขณะจิตไม่มีวันหยุดนิ่งให้คงทนเป็นปัจจุบันได้

จิต วิญญาณ ก็เกิดมาจาก รูปนามของจักรวาล มันเป็นมายาหลอกลวงแล้วเปลี่ยนแปลงให้คนหลง จากรูปนามไม่มีชีวิต เปลี่ยนมาเป็นรูปนามที่มีชีวิต จากรูปนามที่มีชีวิต มาเป็นรูปนามมีชีวิตที่มีจิตวิญญาณ แล้วจิตวิญญาณก็เปลี่ยนแปลงแยกออกจากกัน คงเหลือแต่ นามว่างที่ปราศจากรูป นี้ เป็นจุดสุดยอดของการหลอกลวงของรูปนาม

ต้นเหตุเกิดรูปนามของจักรวาลนั้น เป็นเหตุเกิด รูปนามพิภพ ต่างๆ ตลอดจนดวงดาวนับไม่ถ้วน เพราะไม่มีที่สิ้นสุด รูปนามพิภพต่างๆ เป็นเหตุให้เกิด รูปนามพืช รูปนามพืชเป็นเหตุให้เกิด รูปนามสัตว์ เคลื่อนไหวได้ จึงเรียกกันว่า เป็นสิ่งมีชีวิต

ความจริง รูปนามจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตมันก็เคลื่อนไหวได้ เพราะมันมีรูปกับนาม เป็นเหตุเป็นผลให้เกิดปฏิกิริยาอยู่ในตัว ให้เคลื่อนไหวตลอดกาล และ(เกิด) การเปลี่ยนแปลง บางอย่างเรามองด้วยตาเนื้อไม่เห็น จึงเรียกกันว่าเป็นสิ่งไม่มีชีวิต

เมื่อรูปนามของพืชเปลี่ยนมาเป็นรูปนามของสัตว์ เป็นจุดตั้งต้นชีวิตของสัตว์ และเป็น เหตุให้เกิด จิต วิญญาณ การแสดง การเคลื่อนไหว เป็นเหตุให้เกิดกรรม


คัดบางส่วนมาจาก จิตคือพุทธะ

http://www.geocities.com/pudule/dharma3.htm