ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

เซลเชื้อเพลิงสร้างกระแสไฟฟ้า​

 

เมื่อเนื้อสัตว์มีเชื้อโรค เราหันมากินมังสวิรัติกันดีกว่าครับ​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=fBWmHLqlG4Y]YouTube[/ame]

 

โป๊ปฟรานซิสเตือนไม่ควรนำ "ศรัทธา" มาล้อเลียน​

​

โป๊ปฟรานซิสทรงเตือนทุกฝ่ายว่า แม้การแสดงออกทางความคิดเห็นควรเป็นไปอย่างเสรี แต่ถ้าเกี่ยวข้องกับศาสนา "ศรัทธา" และ "ความเชื่อ" ขอบบุคคลหนึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรนำมาล้อหรือดูถูก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ประทานพระดำรัสตอบคำถามของผู้สื่อข่าวจำนวนมาก เมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งต้องการทราบพระดำริของพระองค์ เกี่ยวกับเหตุวินาศกรรมในฝรั่งเศสหลายระลอกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 17 ศพ ในจำนวนนี้ 12 ศพ เป็นผลจากการกราดยิงที่สำนักงานของหนังสือพิมพ์เสียดสีการเมืองและศาสนา "ชาร์ลี เอ็บโด"

โป๊บฟรานซิส พระชันษา 78 ปี ทรงมีพระดำรัสว่า การเข่นฆ่าผู้อื่นโดยนำศาสนามาเป็นข้ออ้างเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผลโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม หากมีผู้ใดพูดจาหรือแสดงออกในเชิงให้ร้ายกับมารดา ผู้เป็นบุตรย่อมยากที่จะทนอยู่เฉยได้ ฉันใดฉันนั้น ศาสนาทุกศาสนาล้วนมีเกียรติเป็นของตัวเอง ศาสนิกชนทุกหมู่เหล่าจึงควรปฏิบัติต่อศาสนาด้วยความเคารพและศรัทธา ไม่สมควรนำความเชื่อและความศรัทธาในสิ่งที่บริสุทธิ์ของแต่ละบุคคลมาล้อเล่นหรือดูถูก จริงอยู่ที่เสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็นเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่ไม่ควร "มากเกินไป"

พระดำรัสดังกล่าวของโป๊ปฟรานซิสเกิดขึ้นระหว่างพระองค์กำลังทรงปฏิบัติพระกรณียกิจในเอเชีย โดยพระองค์เสด็จฯเยือนศรีลังกาเมื่อวันอังคาร และเสด็จฯต่อไปยังฟิลิปปินส์เมื่อวันพฤหัสบดี ก่อนเสด็จฯกลับกรุงวาติกันในช่วงสุดสัปดาห์นี้

เดลินิวส์ วันศุกร์ 16 มกราคม 2558 เวลา 08:55 น.

ซึ้งน้ำใจแมวจรจัดช่วยชีวิตทารกน้อย​

​

'มาชา' แมวจรจัดในรัสเซีย ช่วยชีวิตเด็กทารกถูกทิ้งท่ามกลางอุณหภูมิติดลบ ด้วยการให้ไออุ่นเป็นเวลาหลายชั่วโมง จนเด็กน้อยรอดตายปาฏิหาริย์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ว่า สถานีโทรทัศน์ซเวซดา และเรนทีวี ของรัสเซีย เผยแพร่เรื่องราวอันน่าประทับใจระหว่างทารกน้อยเพศชายคนหนึ่งและ "มาชา" แมวจรจัดเพศเมียที่มีตาสีเขียวและขนฟูยุ่งเหยิงสีน้ำตาลเทา ซึ่งอาศัยหลับนอนในกล่องกระดาษที่ชั้นพักบันไดของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในเมืองออบนินสค์ แคว้นคาลูกา ทางตะวันออกของประเทศ โดยได้รับการดูแลให้ข้าวให้น้ำจากผู้ที่อาศัยในตึกนั้น

นางนาเดชดา มาโควิโกวา ผู้อาศัยคนหนึ่งของอพาร์ตเมนต์แห่งนั้น ได้ยินเสียงร้องเหมียวๆ ของมาชาดังไม่หยุด เธอจึงเดินออกมาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็พบว่า มาชากำลังนอนกกให้ไออุ่นกับทารกคนหนึ่งที่ถูกนำมาทิ้งไว้ในกล่องของมัน ท่ามกลางอุณหภูมิติดลบหลายองศาของวันเสาร์ที่ผ่านมา ไม่มีใครรู้ว่ามาชาและเด็กน้อยอยู่ในสภาพนั้นมานานเท่าไร

ทันทีที่เห็นเช่นนั้น นาเดชดารีบโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลในทันที เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงจึงนำตัวหนูน้อยขึ้นรถพยาบาลขับออกไป ระหว่างนั้น มาชาเอาแต่ส่งเสียงร้องและเดินตามไม่ห่างด้วยความเป็นห่วง และพยายามอยู่หลายครั้งที่จะตะกายขึ้นไปบนรถพยาบาล แต่ก็ไม่สำเร็จ มันจึงได้แต่นั่งเฝ้าอยู่ริมถนนหน้าอพาร์ตเมนต์เป็นเวลาหลายชั่วโมง เหม่อมองไปในทิศทางที่รถพยาบาลวิ่งจากไป ด้วยหวังว่าพวกเขาจะนำตัวหนูน้อยกลับมา

นางเวรา อิวานินา พยาบาลผู้ดูแลกล่าวว่า ทารกคนนี้เป็นเพศชาย คาดว่ามีอายุระหว่าง 6 - 12 สัปดาห์ มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี จากภายนอกจะเห็นได้ว่าเด็กสวมเสื้อผ้าสะอาดและได้รับการดูแลอย่างดี ในจุดที่ถูกทิ้งไว้ยังพบถุงใส่อาหารเด็กและผ้าอ้อมด้วย โดยตอนนี้เด็กได้รับการดูแลจากทางโรงพยาบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสืบหาตัวพ่อแม่อย่างเร่งด่วน.

เดลินิวส์ วันศุกร์ 16 มกราคม 2558 เวลา 03:02 น.

แบงก์ชาติสวิสสร้างเซอร์ไพรส์เลิกคุมเงินฟรังก์​

​

ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์สร้างความประหลาดใจไปทั่วโลก ด้วยการประกาศเลิกนโยบายควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนเงินฟรังก์สวิสกับเงินยูโร ส่งผลให้ค่าเงินสวิสแข็งตัวขึ้นทันทีและสร้างความปั่นป่วนให้กับบรรยากาศการลงทุน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ว่าธนาคารแห่งชาติสวิส ( เอสเอ็นบี ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี ยุติมาตรการตรึงอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ซึ่งอยู่ที่ 1.20 ฟรังก์สวิส ต่อ 1 ยูโร ที่ใช้มาตั้งแต่เดือนก.ย. 2554 พร้อมทั้งปรับลดอัตราดอกเบี้ยลดงอีกจาก -0.25% เป็น -0.75%

ทันทีที่มาตรการดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกไป ค่าเงินฟรังก์สวิสแข็งตัวขึ้นทันที 30% เมื่อเทียบกับเงินยูโร โดยอยู่ที่ราว 0.85 ฟรังก์สวิสต่อ 1 ยูโร ก่อนอ่อนค่าลงราว 13% ในช่วงใกล้ปิดตลาด มาอยู่ที่ราว 1.04 ฟรังก์สวิสต่อ 1 ยูโร ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ในนครซูริกปิดลบเกือบ 9 จุด

ต่อมานายโธมัส จอร์แดน ประธานเอสเอ็นบี แถลงเพียงว่า มาตรการดังกล่าวซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) เป็นมาตรการที่มีผลเพียง "ชั่วคราว" เท่านั้น เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ แม้สหภาพแรงงานสวิสออกมาแสดงความกังวลอย่างหนักและเตือนว่า การตัดสินใจของเอสเอ็นบีจะส่งผลอย่างหนักต่อตลาดแรงงาน รวมถึงทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจะได้รับผลกระทบในการส่งออกสินค้าด้วย

เดลินิวส์ วันศุกร์ 16 มกราคม 2558 เวลา 08:15 น.

ผู้นำฝรั่งเศสยืนยันปกป้องทุกศาสนา​

​

ประธานาธิบดีออลลองด์ ให้คำมั่น ฝรั่งเศสจะปกป้องทุกศาสนา พร้อมระบุชาวมุสลิมตกเป็นเหยื่อของลัทธิความบ้าคลั่ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 15ม.ค.ว่าประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศสให้คำมั่นว่า ฝรั่งเศสจะปกป้องทุกศาสนาโดยระบุว่าชาวมุสลิมตกเป็นเหยื่อสำคัญของลัทธิความบ้าคลั่ง โดยผู้นำฝรั่งเศสกล่าวที่สถาบันอาหรับเวิลด์ ว่า ศาสนาอิสลามมีความสอดคล้องกับประชาธิปไตย และต้องขอขอบคุณชาวอาหรับที่แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวในการต่อต้านการก่อการร้ายในกรุงปารีส

การโจมตีหลายครั้งต่ออาคารสำนักงานนิตยสารชาร์ลีเอบโด, ห้างสรรพสินค้าของชาวยิว และตำรวจหญิง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งกำลังมีการจัดพิธีการฝังศพให้กับเหยื่อหลายคน ซึ่งมีนักวาดการ์ตูนชื่อดังที่สุด 2 คน ของชาร์ลีเอบโด รวมอยู่ด้วย คือแบร์นาร์ด เวิร์ลแฮช และจอร์จส์ วอลินสกีนอกจากนี้ พิธีฝังศพยังจัดให้เอลซาคายัต คอลัมนิสต์ และแฟรงค์บรินโซลาโรตำรวจที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้คุ้มครองนายสเตฟาน ชาร์บองนิเยร์ บรรณาธิการของชารีล์เอบโด

นายออลลองด์ซึ่งกล่าวเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีระบุว่า ฝรั่งเศสมีความเป็นเอกภาพในการเผชิญหน้ากับการก่อการร้าย ชาวมุสลิมฝรั่งเศสมีสิทธิ์เท่าเทียมกับชาวฝรั่งเศสอื่นๆ ทั้งหมด เรามีพันธสัญญาที่ต้องปกป้องเขา การกระทำที่เป็นการต่อต้านชาวมุสลิมและชาวยิวต้องถูกประณามและถูกลงโทษ

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 15 มกราคม 2558 เวลา 22:58 น.

เฟดชี้ราคาน้ำมันร่วงกระทบหนักบริษัทสหรัฐ​

​

ธนาคารกลางสหรัฐ แถลงเมื่อวันพุธว่า ราคาน้ำมันที่ลดลงมากกว่าร้อยละ 50 ตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว กำลังส่งผลกระทบต่อหลายบริษัทผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซของสหรัฐ มีการปลดพนักงาน และกู้เงินมาเสริมสภาพคล่อง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตันประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ว่าธนาคารกลาง หรือเฟด ของสหรัฐแถลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา การดิ่งลงของราคาพลังงาน กำลังส่งผลกระทบต่อบริษัทผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซของสหรัฐ ซึ่งทำให้บางบริษัทถึงกับต้องปลดพนักงาน ขณะที่บางบริษัทก็ต้องดิ้นรนเพื่อกู้เงินมาเสริมสภาพคล่อง ทั้งผู้กำหนดนโยบาย,นักลงทุน และนักเศรษฐศาสตร์ ต่างพากันคิดว่าราคาน้ำมันที่ถูกลง จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ เนื่องจากถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้มีการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนมากขึ้น

รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ (Beige Book) เกี่ยวกับกิจกรรมด้านธุรกิจมีหลักฐานบางอย่าง ที่แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจได้รับผลดีโดยหลายบริษัทแจ้งเฟดว่า ราคาน้ำมันที่ลดลงช่วยยอดขายในช่วงวันหยุดในเขตชิคาโก และทำให้ประชาชนสามารถซื้อรถคันใหญ่ขึ้นในเขตแอตแลนตา แต่เฟดก็ได้ยกตัวอย่างของความเจ็บปวด ที่มาพร้อมกับราคาน้ำมันที่ลดลงมากกว่าร้อยละ 50 ตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าการสำรวจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติลดลงในนอร์ท ดาโกตาซึ่งเป็นรัฐที่เป็นศูนย์กลางการขนส่งอุตสาหกรรมพลังงานของอเมริกา

เฟดสาขาเขตแคนซัส ซิตี้ซึ่งรวมทั้งผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่เช่นโอคลาโฮมาหลายบริษัท คาดการณ์ว่ากิจกรรมในการขุดเจาะน้ำมันจะลดลงครั้งสำคัญ รวมทั้งการจ้างงานและการใช้จ่ายด้านเงินทุน มีไม่กี่บริษัทที่กล่าวว่าพวกเขากำลังตกที่นั่งลำบาก ด้วยการต้องกู้เงินมาเสริมสภาพคล่องเนื่องจากราคาน้ำมันลดลง

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 15 มกราคม 2558 เวลา 20:20 น.

เกาหลีใต้ปิดฟาร์มสกัดไข้หวัดนก-โรคปากเท้าเปื่อย​

​

รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมปิดฟาร์มปศุสัตว์และสัตว์ปีกทั่วประเทศในช่วงสุดสัปดาห์นี้เป็นเวลา 36 ชั่วโมง เพื่อควบคุมการระบาดของโรค

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ว่าเกาหลีใต้ประกาศปิดฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ปีก และปศุสัตว์ทั่วประเทศเป็นเวลา 36 ชั่วโมง ในช่วงสุดสัปดาห์นี้เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดต่อในสัตว์อย่างโรคปากเท้าเปื่อยและไข้หวัดนก กระทรวงเกษตรแถลงว่าห้ามขนย้ายสัตว์และคนหรือรถ ห้ามเคลื่อนไหวที่ฟาร์มต่างๆ หลายพันแห่งตั้งแต่เวลา 06.00 น.ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่นหรือตรงกับ 03.00 น.ตามเวลาในไทยเพื่อฆ่าเชื้อโรค หลังจากพบการระบาดของโรคปากเท้าเปื่อยเมื่อหลายเดือนก่อน ทำให้ต้องฆ่าสุกรทิ้งไปราว 25,000 ตัว จนเกิดความวิตกว่าโรคปากเท้าเปื่อย จะลุกลามเข้าสู่ฟาร์มใกล้กรุงโซล

รัฐบาลเกาหลีใต้ประเมินมูลค่าความเสียหายถึง 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 85,800 ล้านบาท ทั้งนี้ โรคปากเท้าเปื่อยส่งผลกระทบต่อสัตว์ที่มีกีบ เช่น วัว ควาย สุกร กวาง แพะและแกะ แต่การทำสงครามปราบโรคปากเท้าเปื่อยเ กิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่มีการระบาดของไข้หวัดนกในฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ปีกต่างๆ ส่งผลให้มีการฆ่าทิ้งสัตว์ปีกกว่า 500,000 ตัว ในรอบ 4 เดือน ที่ผ่านมา

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 15 มกราคม 2558 เวลา 17:54 น.

มลพิษทางอากาศในกรุงปักกิ่งพุ่งสูง 20 เท่า​

​

ระดับมลภาวะในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน เมื่อวันพฤหัสบดี เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 20 เท่า ขณะที่ปัญหาหมอกควันได้หวนคืนมาปกคลุมกรุงปักกิ่งอีกครั้ง แม้ว่ารัฐบาลให้คำมั่นว่าจะแก้ปัญหาเรื้อรังนี้ให้ได้

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงปักกิ่งประเทศจีน เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ว่าระดับอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ พีเอ็ม 2.5 ซึ่งเป็นอนุภาคขนาดเล็กที่สุดและอันตรายที่สุด โดยมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กเพียงพอที่จะแทรกซึมเข้าไปทำอันตรายต่อปอดได้ วัดได้ 568 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร โดยสถานทูตสหรัฐระหว่างช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี ส่วนค่าวัดที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นวัดได้ 631 ไมโครกรัม ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศทางตะวันออกของเมือง แต่ระดับที่องค์การอนามัยโลกจำกัดไว้สูงสุด คือ 25 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้จีนประสบปัญหามลภาวะทางอากาศที่รุนแรง ในช่วงหลายปีมานี้อันมีสาเหตุมาจากการใช้ถ่านหิน เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัว ซึ่งเป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก และการใช้รถยนต์จำนวนมากตามท้องถนน กรุงปักกิ่งได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควัน จนส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ โดยระดับอานุภาคฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นเกินระดับที่ฮูแนะนำไว้ ปรากฏการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะเลวร้ายลงในช่วงฤดูหนาวที่โหดร้าย เมื่อความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้น สำหรับการทำความร้อนเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น

เจ้าหน้าที่เตือนเมื่อต้นสัปดาห์ว่าสภาพอากาศ ที่เต็มไปด้วยหมอกควันจะแผ่ปกคลุมพื้นที่ทางตอนเหนือของจีน ในสภาพที่อากาศนิ่งสงบ ขณะเดียวกับ แนวโน้มของกระแสลม ก็อาจพัดมลภาวะให้กระจายไปมากกว่านี้ระดับมลภาวะที่สูงขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเริ่มลดลงในช่วงบ่าย เกิดขึ้นเกือบ 2 ปีหลังจากมลภาวะทางอากาศเลวร้ายที่สุดในเดือน ม.ค.2556 นับเป็นวิกฤติทางอากาศที่เลวร้ายที่สุดเมื่อสื่อจีน รายงานว่าวัดระดับอานุภาคฝุ่นละอองได้เกือบ 1,000 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์หรือเกือบ 40 เท่า จากระดับที่ฮูแนะนำไว้

เมื่อปีที่แล้วจีนผ่านร่างแก้ไขกฎหมายอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ครั้งแรกในรอบ 25 ปี กำหนดลงโทษรุนแรงยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ปล่อยมลภาวะ

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 15 มกราคม 2558 เวลา 17:45 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th

 

ต้องรอด : ภัยหนาวคร่าชีวิต​

เผยแพร่เมื่อ 14 ม.ค. 2015​

การท่องเที่ยวในช่วงอากาศหนาวต่ำกว่า 10 องศาบนยอดดอย คือความท้าทาย และความตื่นเต้นที่หลายคนสัมผัสไม่ได้ ในชีวิตประจำวัน กิจกรรมรอบกองไฟริมชายป่าการพักแรมในเต็นท­์ ก็เป็นเรื่องยอดฮิตของครอบครัวแต่เมื่อกอง­ไฟดับมอดลงในยามค่ำคืน อุณหภูมิก็ลดลงอย่างรวดเร็ว และความตาย ก็คลืบคลานสู่ผู้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ และคุณจะรอดจากภัยหนาวได้อย่างไรติดตามชม รายการ “ต้องรอด” วันพุธที่ 14 มกราคม 2558 เวลา 21.45 - 22.15 น. ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 HD

ติดตามเราได้ที่ ไทยรัฐทีวี
Facebook : ThairathTV
Twitter : Thairath_TV
Instagram : ThairathTV

 

ต้องรอด ตอน "ภัยน้ำท่วม"​

เผยแพร่เมื่อ 22 ต.ค. 2014
ติดตามชม รายการ “ต้องรอด”ทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32 HD​

 

Weeknight Show คุยเปิดกรรมกับเจน ญาณทิพย์​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=d7bvL3nJFXQ]YouTube[/ame]

เผยแพร่เมื่อ 15 ม.ค. 2015​

เทปที่ 16 : เปิดกรรมคุณสายฝน ชีวิตเฉียดตายจนนับไม่ถ้วน ทุกข์ทรมานทั้งกาย และใจ (คุณสายฝน มาน้อย)

 

ระบบผลิตไฟฟ้าขนาดจิ๋วพลังน้ำวนอิสระ​

เผยแพร่เมื่อ 16 ก.ค. 2014​

รายการ KKU RESEARCH งานวิจัยสู่สังคม ตอน นักวิจัย มข. สร้างระบบผลิตพลังงานไฟฟ้า จากพลังงานน้ำวนอิสระ สร้างง่าย ใช้ระดับหัวน้ำต่ำ มีประสิทธิภาพสูงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย รศ.ดร.รัชพล สันติวรากร หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

 

สารคดี พลังงานสะอาด​

 

สารคดี ปริศนา มณฑลเสฉวน​

เผยแพร่เมื่อ 13 ธ.ค. 2014​

 

สารคดี อาหารสุขภาพที่โลกลืม​

เผยแพร่เมื่อ 4 พ.ย. 2014​

ชาวอังกฤษที่อ้วน เดินทางหนีการกินอาหารฟาสฟูด นี่คือหนึ่งในที่ที่มีอาหารสุขภาพที่ดีที่­สุดในโลก โดยงดอาหารฟาสฟูดทั้งหมด 1 เดือนเต็ม หมู่บ้านทางตอนเหนือของปากีสถาน

 

สินทรัพย์งานวิจัย โปรตีนเกษตร​

เผยแพร่เมื่อ 22 พ.ย. 2012​

 

การทำขนมปังธรรมชาติและโปรตีนพลังลั่น​

 

รายการ กินอยู่คือ​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=2bAXUw_8oGY]กินอยู่คือ - ยะฟู บ้านเล็กป่าใหญ่ 5Dec12 - YouTube[/ame]

 

ภูเขาไฟตองกาปะทุผุดเกาะใหม่​

​

ภูเขาไฟในตองกาได้ทำให้เกิดเกาะขึ้นมาใหม่ หลังปะทุครั้งแรกในรอบ 5 ปี เมื่อปลายเดือนที่แล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงนูกูอะโลฟา ประเทศตองกาในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและที่ดินของตองกาแถลงว่า ภูเขาไฟลูกหนึ่งในตองกาที่อยู่ห่างจากกรุงนูกูอะโลฟาไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 65 กิโลเมตร ได้ทำให้เกิดเกาะขึ้นมาใหม่นับตั้งแต่เริ่มปะทุครั้งแรกในรอบ 5 ปี เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา และพ่นเถ้าถ่านกับหินร้อนจำนวนมาก ทำลายพืชผักที่อยู่ใกล้เคียง

ด้านผู้เชี่ยวชาญได้ขึ้นเรือเดินทางไปตรวจสอบแล้ว และยืนยันว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงทางภูมิประเทศท้องถิ่น สำหรับเกาะแห่งใหม่นี้มีลักษณะกว้างกว่าหนึ่งกิโลเมตรและยาว 2 กิโลเมตร สูงประมาณ 100 เมตร เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ มีการยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศจำนวนหนึ่ง เพราะวิตกต่อเถ้าถ่านของภูเขาไฟ จนกระทั่งวันพุธ สายการบินต่างๆได้กลับมาให้บริการตามปกติ ทางการตองการะบุว่าการปะทุพ่นเถ้าถ่านของภูเขาไฟ จะไม่สูงถึงชั้นบรรยากาศ

ตองกา อยู่ห่างจากนิวซีแลนด์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเกือบ 2,000 กิโลเมตร และการที่ภูมิประเทศตั้งอยู่บนวงแหวนไฟแปซิฟิก ซึ่งเป็นจุดรอยเลื่อนของเปลือกโลก ทำให้เกิดภูเขาไฟระเบิดและแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง

เดลินิวส์ วันศุกร์ 16 มกราคม 2558 เวลา 16:46 น.

เหยื่อน้ำท่วมมาลาวีพุ่ง 176 ศพ​

​

รองประธานาธิบดีมาลาวี เผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมในประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 176 ศพแล้ว และไร้ที่อยู่อาศัยอีก 200,000 คน

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากเมืองบลันไทร์ประเทศมาลาวี เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ว่ารองประธานาธิบดีเชาลอสชิลิมา แห่งมาลาวี แถลงว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมใหญ่ในประเทศมาลาวี เพิ่มขึ้นเป็น 176 ศพแล้ว ไร้ที่อยู่อาศัยอีก 200,000 คน และสูญหายอีกอย่างน้อย 153 คน ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ

รองประธานาธิบดีมาลาวีกล่าวต่อไปว่า กำลังทหารและตำรวจได้ร่วมปฏิบัติการกู้ภัย เพื่อเข้าไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยและติดอยู่ในหมู่บ้านอีกหลายแห่ง โดยทางการได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 15 เขต จากทั้งหมด 28 ในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย พร้อมกับขอความช่วยเหลือจากนานาชาติ ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของมาลาวี ได้แจ้งเตือนว่าอาจจะยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องอีกใน 2-3 สัปดาห์ ข้างหน้านี้

เดลินิวส์ วันเสาร์ 17 มกราคม 2558 เวลา 01:18 น.

หลายประเทศประท้วงต้านการ์ตูน "ชาร์ลี เอ็บโด"​

​

การที่หนังสือพิมพ์ "ชาร์ลี เอ็บโด" ของฝรั่งเศสยังคงตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียนและเสียดสีศาสนาลงในฉบับล่าสุด สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับประชาชนในหลายประเทศ ซึ่งพากันออกมาเดินขบวนประท้วงต่อต้าน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองการาจี ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ว่าชาวปากีสถานจำนวนมากในกรุงอิสลามาบัด เมืองลาฮอร์ และเมืองการาจี ออกมาเดินขบวนประท้วงไปตามท้องถนนเมื่อวันศุกร์ เพื่อแสดงความไม่พอใจการที่หนังสือพิมพ์เสียดสีการเมืองรายสัปดาห์ "ชาร์ลี เอ็บโด" ยังคงนำภาพศาสดามาเป็นการ์ตูนขึ้นปกฉบับล่าสุด โดยกลุ่มผู้ประท้วงในเมืองการาจีพยายามบุกเข้าไปภายในสถานกงสุลฝรั่งเศสด้วย ทำให้เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 4 คน หนึ่งในนั้นคือช่างภาพข่าวของเอเอฟพี

ขณะที่สถานการณ์ในเมืองซินเดอร์ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของไนเจอร์เรียกได้ว่ารุนแรง กลุ่มผู้ประท้วงจุดไฟเผาทำลายศูนย์วัฒนธรรมฝรั่งเศส และปล้นสะดมโบสถ์หลายแห่ง ส่งผลให้เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่เช่นกัน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 45 คน

นอกจากนี้ยังมีรายงานการชุมนุมและเดินขบวนต่อต้านการ์ตูนของชาร์ลี เอ็บโด ในอีกหลายประเทศ รวมถึงแอลจีเรีย เซเนกัล ตูนิเซีย อิหร่าน และมอริเตเนีย ซึ่งมีการฉีกทำลายธงชาติฝรั่งเศสและถือแผ่นป้ายข้อความว่า "ฉันไม่ใช่ชาร์ลี" ด้านกาตาร์และบาห์เรนออกมาเตือนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า การ์ตูนของชาร์ลี เอ็บโด คือการเติมเชื้อไฟให้ยิ่งเกิดความวุ่นวาย

นายเจฟฟรีย์ ราธเค โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยขอให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงต่อกัน ราธเคกล่าวด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐสนับสนุนเสรีภาพสื่อตาม "หลักสากล" แม้จะเป็นการตีพิมพ์ภาพหรือข้อความล้อเลียนก็ตาม

กองบรรณาธิการที่ยังเหลืออยู่ของชาร์ลี เอ็บโด ตีพิมพ์ฉบับพิเศษออกวางจำหน่ายเมื่อวันพุธ ครบรอบ 1 สัปดาห์เหตุดกราดยิง 12 ศพที่สำนักพิมพ์ในกรุงปารีส โดยพี่น้องมือปืนที่ประกาศต้องการแก้แค้นให้ศาสดา ทั้งนี้ การ์ตูนบนปกเป็นรูปศาสดามีหยดน้ำตาและถือแผ่นป้ายมีข้อความว่า "ฉันคือชาร์ลี" ส่วนพาดหัวด้านบนเขียนว่า "ให้อภัยทุกอย่าง"

เดลินิวส์ วันเสาร์ 17 มกราคม 2558 เวลา 08:05 น.

สหรัฐจับมืออังกฤษต้านภัยก่อการร้าย​

​

รัฐบาลสหรัฐและอังกฤษ จะแบ่งปันและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่จำเป็นต่อกัน เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากการก่อการร้าย เกิดขึ้นโดยฝีมือของพลเมืองในประเทศ แต่ได้รับแนวคิดที่บิดเบือนจากกลุ่มหัวรุนแรงในต่างแดน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ แถลงร่วมกับนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ในโอกาสที่ผู้นำอังกฤษเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันอย่างเป็นทางการ ว่าในอนาคตทั้งสองประเทศจะยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคง ที่รวมถึงการเพิ่มการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนข้อมูลสำคัญต่อกัน เพื่อป้องกันภัยก่อการร้ายรูปแบบใหม่ ที่เกิดขึ้นโดยฝีมือของพลเมืองในประเทศ แต่ได้รับแนวคิดที่บิดเบือนจากกลุ่มหัวรุนแรงในต่างประเทศ

เบื้องต้นคาดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศจะเสนอรายงานความคืบหน้าให้ผู้นำของตัวเองรับทราบเป็นครั้งแรกได้ภายในอีก 6 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ คาเมรอนยังเสนอเพิ่มความร่วมมือในปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มไอเอส ด้วยการส่งอากาศยานไร้คนขับ ( โดรน ) สำหรับการสอดแนมเข้าไปในพื้นที่ต้องสงสัยให้มากขึ้นด้วย

ทั้งนี้ การพบปะหารือกันระหหว่างผู้นำสหรัฐกับอังกฤษเกิดขึ้น 1 สัปดาห์ หลังเหตุก่อการร้ายหลายระลอกในกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 17 ศพ ในจำนวนนี้ 12 ศพ เป็นผลจากการกราดยิงที่สำนักงานของหนังสือพิมพ์เสียดสีการเมืองและศาสนา "ชาร์ลี เอ็บโด"

เดลินิวส์ วันเสาร์ 17 มกราคม 2558 เวลา 11:58 น.

ปธ.แบงก์ชาติสวิสป้องมาตรการเลิกคุมเงินฟรังก์​

​

ประธานธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ปกป้องการตัดสินใจของตัวเอง ที่ยกเลิกมาตรการตรึงค่าเงินฟรังก์สวิสกับเงินยูโรที่ใช้มานานกว่า 3 ปี ว่าเป็นผลจากความปั่นป่วนของเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ว่านายโธมัส จอร์แดน ประธานธนาคารแห่งชาติสวิส ( เอสเอ็นบี ) แถลงเมื่อวันศุกร์ ว่าเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วเกี่ยวกับมาตรการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารกลางแต่ละประเทศ ว่ามีผลเพียง "ระยะหนึ่ง" เท่านั้น หมายความว่า เมื่อภาวะเศรษฐกิจโลกไม่อยู่ในระดับที่ยั่งยืนอีกต่อไป ธนาคารกลางสามารถยุติการใช้มาตรการควบคุมค่าเงินของประเทศได้เสมอ และสวิตเซอร์แลนด์เดินทางมาถึงจุดนั้นแล้ว

ทั้งนี้ หากเอสเอ็นบียังคงใช้มาตรการควบคุมค่าเงินต่อไป มีความสูงเสี่ยงสูงที่จะส่งผลกระทบต่อนโยบายการเงินของสวิตเซอร์แลนด์ในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การที่เอสเอ็นบีตัดสินใจกลับมาลอยค่าเงินอีกครั้ง เป็นนโยบายที่มีผลเพียง "ชั่วคราว" เช่นกัน

นอกจากนี้ จอร์แดนยังกล่าวถึงท่าทีของนางคริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) ซึ่งแสดงความสงสัยแกมไม่พอใจ ที่เอสเอ็นบีตัดสินใจครั้งสำคัญโดยไม่แจ้งให้ทราบก่อน ว่าเอสเอ็นบีเป็นธนาคารกลางของสวิตเซอร์แลนด์ การตัดสินใจและกำหนดนโยบายทุกอย่างผ่านการพิจารณาอย่างละเอียดและรอบคอบที่สุดแล้วโดยคณะผู้บริหาร จึงไม่จำเป็นต้องปรึกษาบุคคลภายนอก

ถ้อยแถลงของประธานเอสเอ็นบีมีขึ้น หลังการออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี ยุติมาตรการตรึงอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินฟรังก์สวิสเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรที่ใช้มาตั้งแต่เดือนก.ย. 2554 ซึ่งกำหนดเพดานค่าเงินของประเทศเอาไว้ที่ 1.20 ฟรังก์สวิส ต่อ 1 ยูโร พร้อมทั้งปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกจาก -0.25% เป็น -0.75% สร้างความตกตะลึงอย่างหนักให้กับตลาดทั่วโลก และค่าเงินฟรังก์สวิสปรับตัวขึ้นทันทีเกือบ 30% เมื่อเทียบกับเงินยูโร แม้จะอ่อนตัวลงบ้างในช่วงใกล้ปิดตลาด แต่ค่าเงินของสวิตเซอร์แลนด์ยังคงสูงกว่าอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึง 15%

เดลินิวส์ วันเสาร์ 17 มกราคม 2558 เวลา 09:45 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

ประเทศไทยตอนบนยังหนาวต่อเนื่อง​

​

ความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบน ยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 17 ม.ค. กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ ลักษณะอากาศทั่วไปประจำวันระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปอย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้บริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง และอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศา อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-29 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า และอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 14-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา อากาศเย็นในตอนเช้า ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 17-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

เดลินิวส์ วันเสาร์ 17 มกราคม 2558 เวลา 06:14 น.

ล่าคนใจเหี้ยมฉุนหมาเห่ารถยิงดับ​

​

บาดตาคนรักสัตว์ คนเลือดร้อนโมโหหมาวิ่งไล่เห่ารถ ชะลอจอดก่อนชักปืนซัลโวร่วงคาที่ เจ้าของโร่แจ้งจับ ชี้เหยื่อคือ 'เจ้าซื่อบื่อ' ไม่เคยกัดใคร อย่างมากแค่เห่า เผยไม่คิดว่าจะใจร้ายขนาดนี้

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. น.ส.ภณิตา สุนทรัตต์ อายุ 45 ปี พร้อมด้วย นายโรเจอร์ โลหนันทน์ กรรมมาธิการร่าง พรบ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และสวัสดิภาพสัตว์ สมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ปฏิพัทธ์ ทองทับ ร้อยเวร สน.โชคชัย เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายเลือดร้อนใช้ปืนยิงสุนัขตนเองจนเสียชีวิต โดยได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดมาให้เป็นหลักฐานด้วย

น.ส.ภณิตา ให้การด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 13 ม.ค. สุนัขของตนเองคือ "เจ้าซื่อบื่อ" พันธุ์ผสมเพศเมีย วัย 9 ปี ถูกคนร้ายยิงอย่างเลือดเย็นบริเวณ ซอยลาดพร้าว 81 ช่วงหน้าศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม ลาดพร้าว ก่อนจะเสียชีวิตที่ รพ.สัตว์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน ในเวลาต่อมา ซึ่งเจ้าซื่อบื่อไม่มีนิสัยก้าวร้าวหรือเคยกัดใครมาก่อน อย่างมากก็แค่เห่า ชาวบ้านแถวนี้ก็รู้จักกันดี ไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนใจร้ายถึงขนาดยิงมันจนตาย แพทย์ระบุว่าถูกยิงเข้าที่ช่วงหัวไหล่ขาคู่หน้า กระสุนทะลุอวัยวะจนเลือดคั่งปอด ซึ่งทางมูลนิธิเดอะวอยซ์ (เสียงจากเราเพื่อสัตว์ยากไร้) ได้ช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาพยาบาลให้ มันเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุมาก เชื่อว่าคนที่รักสัตว์น่าจะเข้าในความรู้สึก จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ขณะที่ผู้ก่อเหตุขับรถเก๋งสีดำ เห็นป้ายทะเบียนไม่ชัด ผ่านเข้ามายังจุดเกิดเหตุ จากนั้นได้มีสุนัข 3 ตัว วิ่งไล่เห่ารถ ก่อนที่รถจะชะลอจอด ก่อนที่ผู้ก่อเหตุซึ่งไม่ชัดว่าเป็นชายหรือหญิงจะโมโหชักปืนขึ้นมาเล็งยิงเจ้าซื่อบื่อที่ยืนอยู่ในระยะประชิดจนล้มแน่นิ่งลงอย่างน่าสลดใจ.

เดลินิวส์ วันเสาร์ 17 มกราคม 2558 เวลา 02:05 น.

จวกยับสังเวยชีวิตลูกเจี๊ยบมหาศาลให้ปลากิน​

​

รุมจวกสนั่นโซเชี่ยล คลิป 2 หนุ่มคล้ายคนโรงงาน หอบลูกเจี๊ยบมหาศาลที่ยังมีชีวิต เทลงบ่อน้ำสังเวยเป็นอาหารให้ปลาที่เลี้ยง บางตัวหนีตายขึ้นฝั่งยังโดนเตะกระเด็นตกบ่อไปอีก กรมประมง-สมาคมป้องกันทารุณสัตว์ ประสานเสียง วิธีนี้ผิดกฏหมายแน่ ชี้เข้าข่ายทารุณกรรม

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. มีการแชร์เผยแพร่ไปอย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์ ซึ่งสร้างความอนาถใจให้กับผู้ที่ได้ดู สำหรับคลิปวีดิโอปรากฏภาพชาย 2 คน กำลังให้อาหารปลาในบ่อน้ำ แต่ที่สร้างความสลดใจก็คือ อาหารที่อยู่ในถังพลาสติกสีน้ำเงินขนาดใหญ่กลับเป็น "ลูกเจี๊ยบ" หรือลูกไก่ที่เพิ่งฟักออกมาจากไข่ได้ไม่นาน โดยมีจำนวนลูกเจี๊ยบมากมายมหาศาล ที่สำคัญทุกตัวยังมีชีวิตอยู่ ทำให้ปลาในบ่อต่างว่ายปรี่เข้ามาตอดงับและกินอย่างชุลมุนวุ่นวาย ท่ามกลางเสียงร้องของบรรดาลูกเจียบที่ตื่นตระหนก หาทางปีนป่ายเอาชีวิตรอด แถมบางตัวที่วิ่งขึ้นฝั่งได้ ยังโดนชายที่แต่งกายคล้ายคนโรงงานใช้เท้าเตะเรียงตัวจนมันกระเด็นตกน้ำไปอีกรอบ ซึ่งมีการระบุอ้างว่า ปลาทั้งหมดที่อยู่ในบ่อนี้จะถูกจับไปจำหน่ายที่ท่าเรือ จ.สมุทรสาคร จนกระทั่งกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์และติเตียน ว่าทรมานสัตว์อย่างโหดร้ายเกินไปหรือไม่

ทั้งนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” ได้สอบถามไปยัง นายนพดล ภูวพานิช ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด กรมประมง ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยให้ข้อมูลว่า ตนเห็นคลิปดังกล่าวแล้ว แต่ภาพไม่ชัดเจนนัก จึงไม่แน่ใจว่าเป็นกลุ่มปลาสวายหรือไม่ แต่การให้อาหารปลาแบบนี้ไม่ถูกต้องตามมาตรฐานที่กรมประมงประกาศไว้ โดยต้องมีมาตรฐานจีเอ็มพี (GMP)คือ ฟาร์มเลี้ยงปลาจะต้องขึ้นทะเบียนกับทางกรมประมง และห้ามใช้ยาหรือสารต่างๆเร่งให้ปลาโตเร็ว อีกทั้งต้องถูกสุขอนามัยด้วย การนำลูกเจี๊ยบเป็นๆ มาให้เป็นอาหารปลาเช่นนี้ ไม่เหมาะสมตามหลักทางวิชาการแน่นอน ซึ่งหากตรวจไปที่โรงงานที่รับปลาไปแปรรูปจะพบเจอแหล่งที่มาทันที

ขณะที่ นายชัยชาญ เลาหศิริปัญญา เลขาธิการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) กล่าวว่า ถือว่าเข้าข่ายกระทําการทารุณกรรมต่อสัตว์ ตามมาตรา 20 ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร สามารถกล่าวโทษเอาความผิดกับผู้ที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์ได้ ถึงแม้ไก่จะเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อบริโภค ก็ยังถือว่าเข้าข่ายทารุณกรรม เพราะการให้อาหารปลาโดยใช้ลูกไก่เป็นๆไม่ได้เป็นการฆ่าสัตว์ตามกฎหมายแน่นอน.

เดลินิวส์ วันศุกร์ 16 มกราคม 2558 เวลา 19:19 น.

แก่งหางแมวประกาศพื้นที่ภัยพิบัติช้างป่า​

​

ผวจ.จันทบุรี ออกประกาศให้พื้นที่ ต.พวา อ.แก่งหางแมว จ.จันทุบรี เป็นพื้นที่ภัยพิบัติช้างป่า หลังพบโขลงช้างป่านับร้อยตัวบุกรุกเข้าหากินในพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้าน

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีโขลงช้างป่าจาก เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.จันทบุรี บุกรุกที่ทำกินชาวบ้านพื้นที่ อ.แก่งหางแมว หมู่ 1 หมู่ 8 และ หมู่ 9 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จนเข้าขั้นวิกฤติ หลังชุดดูแลช้างป่าพบโขลงช้างเขาอ่างฤาไน ได้เดินขบวนย้อนกลับเข้ามาหากินในพื้นที่เกษตรกรรมของชาวบ้านอีก ซึ่งการกลับมารวมตัวในครั้งนี้ พบโขลงช้างมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นจากเดิมรวมแล้วกว่า 100 ตัว ขณะ นายสามารถ ลอยฟ้า ผวจ.จันทบุรี มีคำสั่งให้ ปภ.จังหวัด ออกประกาศให้พื้นที่ ต.พวา อ.แก่งหางแมว เป็นพื้นที่ภัยพิบัติช้างป่า ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบการกลับมาของโขลงช้างป่าเขาอ่างฤาไน เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา พบว่าโขลงช้างป่ากว่า 80 ตัวได้เดินขบวนบุกเข้าหากิน และทำลายไร่สับปะรด ไร่มันสำปะหลัง ของ นายถวัลย์ เจริญศรี อายุ 62 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.พวา อ.แก่งหางแมว จนได้รับความเสียหายทั้งแปลง รวมเนื้อที่กว่า 60 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 1 แสนบาท

ด้าน นายสามารถ ผวจ.จันทบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.จันทบุรี ได้ออกประกาศเขตพื้นที่ผู้ประสบภัยพิบัติจากสัตว์ป่า ช้างป่า ครอบคลุม ต.พวา อ.แก่งหางแมว เพื่อที่จะได้นำเงินทดรองราชการออกช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ พร้อมกันนี้ได้จัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากช้างป่า เบื้องต้นได้รับบริจาคเงินจากกองทุนพุทธอุทยานเขาคิชฌกูฏเป็นเงิน 1 ล้านบาท และเปิดรับบริจาคจากประชาชนทั่วไป โดยบริจาคได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จ.จันทบุรี หรือที่ว่าการอำเภอแก่งหางแมว ส่วนในเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้สนธิกำลังร่วมกับทหารจากกองร้อยรักษาความสงบที่ 8 กองทัพเรือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จัดเวรยามออกตระเวรรักษาความปลอดภัยให้แก่ชาวบ้านเป็นกรณีพิเศษ พร้อมสั่งการให้ผู้นำชุมชนประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ที่โขลงช้างป่าหากิน ตลอดจนพื้นที่ใกล้เคียงใช้ความระมัดระวังในการขับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น ในส่วนของชาวบ้านว่าหากพบเห็นช้างป่า อย่าได้ทำร้ายโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะการยิงปืน หรือจุดประทัดไล่ เพราะอาจจะทำให้ช้างแตกตื่นตกใจ แต่ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้หรือผู้นำชุมชนในหมู่บ้านให้ทราบทันที.

เดลินิวส์ วันศุกร์ 16 มกราคม 2558 เวลา 16:53 น.

อหิวาต์เทียมทำยอดขายข้าวมันไก่ฮวบ​

​

กระแสเชื้ออหิวาต์เทียมในเลือดไก่พ่นพิษ กระทบร้านข้าวมันไก่แบบเต็มๆ ยอดขายลดฮวบ พ่อค้าเผย ต้องชี้แจงว่าสะอาดถูกหลักชัวร์ แนะทางการเร่งประชาสัมพันธ์

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลกระทบเรื่องกระแสข่าวที่พบผู้ป่วยโรคอหิวาต์เทียม จากการกินเมนูข้าวมันไก่ใส่เลือดใน จ.นครราชสีมา ส่งผลให้ยอดขายร้านข้าวมันไก่ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมาลดฮวบ ผู้บริโภคส่วนหนึ่งต่างตื่นตระหนกหยุดบริโภคชั่วคราว หรือหากจะกินก็เลือกรับประทานที่ไม่ใส่เลือดไก่

ซึ่งร้านหมงโอชา2ริมถนนช้างเฝือก ใกล้ รพ.มหาราชนครราชสีมา มีการติดป้าย “ ช่วงนี้งดขายเลือดตุ๋น” โดย นายพงษ์พันธ์ เชื้อเชิญชม อายุ48ปี เจ้าของร้านฯ ต้องคอยชี้แจงทำความเข้าใจกับลูกค้าว่าหากต้องการเลือดตุ๋น ร้านจะแจ้งให้ทราบว่าไม่มีส่วนประกอบของเลือดแน่นอน อย่างไรก็ตามแม้จะชี้แจงแต่ก็ยังทำให้ยอดขายลดลงเฉลี่ยร้อยละ25 ยังดีที่มีลูกค้าบางส่วนมั่นใจและไมตื่นตูม ขอวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ร้านข้าวมันไก่อีกครั้ง ไม่อย่างนั้นต้องเดือนร้อนมากแน่.

เดลินิวส์ วันศุกร์ 16 มกราคม 2558 เวลา 12:57 น.

โลมาสีชมพูเกยตื้นตายหาดขนอม​

​

โลมาหลังโหนก หรือโลมาสีชมพู ขนาดโตเต็มที่ อายุประมาณ 10 ปี ความยาวประมาณ 2.5 เมตร เกยตื้นตายอีกที่หาดขนอม จ.นครศรีธรรมราช เผยในรอบ 2 เดือนตายแล้วเกือบ 10 ตัว

เมื่อวันที่ 16 ม.ค. นายสันติ นิลวัตร นักวิชาการชำนาญการ จากศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง จ.สงขลาได้เดินทางตรวจสอบซากโลมาสีชมพูที่ลอยมเกยตื้นตายที่หาดหน้าด่าน หมู่ 6 ต.ขนอม อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช เบื้องต้นพบว่า เป็นโลมาหลังโหนก หรือโลมาสีชมพู ขนาดโตเต็มที่ อายุประมาณ 10 ปี ความยาวประมาณ 2.5 เมตร น้ำหนักกว่า 150 กิโลกรัม ไม่ทราบเพศ เนื่องจากซากอยู่ในภาพเน่าเปื่อย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน หลังจากเจ้าหน้าที่ชันสูตรในเบื้องต้นก็ได้นำซากฝังไว้ที่ริมหาด

ด้าน นายวชิรพงศ์ สกุลรัตน์ ประธานชมรมพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งขนอม กล่าวว่า ปัญหาโลมาตายเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงระยะหลังนี้ จนน่าเป็นห่วงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาตรวจสอบหาสาเหตุการตายของโลมาอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะพื้นที่ อ.สิชล และ อ.ขนอม นั้น ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา มีโลมาเสียชีวิตเกือบ 10 ตัวแล้ว ซึ่งเกรงว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปโลมาที่มีอยู่บริเวณนี้อาจสูญพันธุ์ได้.

เดลินิวส์ วันศุกร์ 16 มกราคม 2558 เวลา 10:33 น.

กบประหลาดร้องคล้ายนก​

​

พ่อค้าอาหารตามสั่ง สุดฉงนพบกบที่ซื้อมาเตรียมปรุงอาหารขาย ร้องเสียงประหลาดคล้ายนก ซ้ำนิสัยดุร้ายกระโดดกัดทุกสิ่งที่เข้าใกล้ เตรียมปล่อยคืนธรรมชาติ

เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายบุญรอด นางดาวเรือง ปรากฎรัฐ อายุ 53 ปี และ52 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 12 บ้านแกใหญ่ ต.แกใหญ่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ว่า พบกบประหลาดตัวหนึ่งโดยบังเอิญ ซึ่งชอบส่งเสียงร้องคล้ายเสียงนก เสียงของเล่นเด็ก และชอบกัดสิ่งของที่เข้าไปใกล้ตัว ผู้สื่อข่าวจึงไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ดังกล่าวพบว่าเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง โดยนายบุญรอด และนางดาวเรืองพาผู้สื่อข่าวไปชมกบประหลาดตัวดังกล่าวที่ขังรวมไว้ในโอ่งน้ำรวม 3 ตัว โดยหนึ่งในจำนวนนั้น เมื่อเอานิ้วไปแตะ หรือใกล้ตัวจะร้องเสียงดังคล้ายนก และกระโดดเข้ากัดทันที ซึ่งผิดปกติจากกบทั่วไปที่จะแสดงความกลัว และกระโดดหนี

นายบุญรอด เปิดเผยว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมาตนไปชื้อกบที่เพื่อนบ้านเลี้ยงไว้ขายมาประกอบอาหารขายตามปกติ โดยชื้อมา 8 ตัว และทำอาหารไปแล้ว 4 ตัว เหลืออีก 4 ตัว ซึ่งหนึ่งใน 4 ตัวได้กระโดดออกจากถังที่ขังไว้ เหลือเพียง 3 ตัว แต่พบว่ากบดังกล่าวจะมีพฤติกรรมแปลก ๆ เนื่องจากชอบส่งเสียงร้องอี๊ดๆ เหมือนไม่ใช่เสียงกบ แต่เป็นเสียงคล้ายเสียงนก หรือเสียงตุ๊กตาของเล่นเด็ก และแสดงอาการดุร้ายเมื่อมีสิ่งของเข้าไปใกล้มันจะกระโดดงับ ตนเคยคิดจะเอากลับไปคืนเจ้าของฟาร์มกบที่ชื้อมา แต่สุดท้ายก็ตัดใจขังไว้ในโอ่งน้ำที่บ้าน โดยตั้งใจว่าอาจนำไปปล่อยตามท้องนา มันแปลกที่มันส่งเสียงร้อง ที่ไม่ใช่เสียงกบเป็นเสียงคล้ายเสียงนกร้อง เสียงดังมาก ขนาดเพื่อบ้านที่อยู่บ้านใกล้เคียงยังแปลกใจว่า ใครเอาของเด็กเล่นมาเล่นทุกวัน เพราะเมื่อใดที่มันกัดกันจะส่งเสียงร้องดังมาก.

เดลินิวส์ วันพฤหัสบดี 15 มกราคม 2558 เวลา 21:33 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/

 

สารคดีจานอร่อยกู้โลก​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=FyEgEneic1g]YouTube[/ame]

เผยแพร่เมื่อ 10 มี.ค. 2013​

สารคดีนี้จัดทำขึ้นโดยมูลนิธิสิ่งแวดล้อมศ­ึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน(ประเทศไทย) เป็นสรุปภาพรวมของโครงการโรงเรียนใหญ่รอยเ­ท้าเล็กของโรงเรียนพระยามนธาตุราชศรีพิจิต­ร์ สำนักงานเขตบางบอน กรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ดำเนินโครงการโดยมีกิจกรรมในโครงกา­รคือการปลูกผักสวนครัวในบริเวณโรงเรียน

ผักที่ได้จะถูกนำไปเป็นวัตถุดิบในการทำอาห­ารร่วมกับโครงการเด็กยิ้มอิ่มท้องของ กทม.ท­ี่จัดสรรอาหารเช้าให้นักเรียนฟรี เศษอาหารที่ได้จากการรับประทานอาหารจะถูกค­ัดแยก ส่วนที่ย่อยสลายได้จะถูกนำมาบด และผ่านกระบวนการผลิตก๊าซชีวภาพ ได้เป็นปุ๋ยน้ำสำหรับรดน้ำผักสวนครัว และแก๊สชีวภาพสำหรับการทำอาหารได้อีกด้วย

 

สารคดี พิศวงเมืองใต้ดิน​

เผยแพร่เมื่อ 20 ธ.ค. 2014​

 

สารคดี ห้างสรรพสินค้า​

เผยแพร่เมื่อ 11 ธ.ค. 2014​

 

สารคดี พลิกประวัติศาสตร์โลก​

เผยแพร่เมื่อ 10 ธ.ค. 2014​

 

จีนสังเวยเหยื่อหวัดนก 2 ราย​

​

ไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช7เอ็น9 คร่าชีวิตชาวจีน 2 ศพ จากผู้ป่วย 15 ราย ตั้งแต่เข้าสู่ปี 2558

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงปักกิ่งประเทศจีน เมื่อวันที่ 17 ม.ค.อ้างสำนักข่าวซินหัวรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ศพ เพราะไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช7เอ็น9 ในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกของจีน แต่ไม่มีการระบุว่าทั้งคู่เสียชีวิตเมื่อใด กระนั้นมณฑลฝูเจี้ยนยืนยันตัวเลขผู้ป่วยหวัดนก 15 ราย ตั้งแต่ต้นปี 2558 เช่นเดียวกับมณฑลเจียงสีและเจ้อเจียง รวมทั้งเมืองเซี่ยงไฮ้ รายงานคนติดเชื้อไวรัส เอช7เอ็น9

ทั้งนี้ ไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวติดต่อกันระหว่างสัตว์ปีก แต่ไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าแพร่ระบาดระหว่างคนด้วยกัน จีนเผชิญปัญหาจากไข้หวัดนกมาเป็นเวลาหลายปี และการติดเชื้อของผู้ป่วยรายใหม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในช่วงฤดูหนาว ไวรัสหวัดนกสายพันธุ์ เอช7เอ็น9 ปรากฎครั้งแรกเดือนมี.ค.ปี 2556 โดยมีคนติดเชื้อครั้งแรก 3 ราย นับแต่นั้นมา มีคนป่วยด้วยไวรัสดังกล่าวกว่า 450 คน เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 170 ราย

เดลินิวส์ วันเสาร์ 17 มกราคม 2558 เวลา 16:43 น.

ฝรั่งเศสกับเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิด​

​

การสังหารหมู่ 12 ศพที่หนังสือพิมพ์ "ชาร์ลี เอ็บโด" จุดประเด็นเรื่อง "เสรีภาพ" ในการแสดงออกทางความคิดเห็นให้เป็นที่ถกเถียงในสังคมของฝรั่งเศสทันที โดยเฉพาะในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับศาสนา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุกราดยิงสะท้านโลก 12 ศพที่สำนักงานของหนังสือพิมพ์เสียดสีการเมือง "ชาร์ลี เอ็บโด" ในกรุงปารีส เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ แถลงสดต่อชาวฝรั่งเศสผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ยืนยันจะปกป้องเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็นของประชาชน

อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ตำรวจฝรั่งเศสจับกุมประชาชนไปแล้ว 54 คน ฐานปลุกระดมให้เกิดความแตกแยกและความรุนแรงในสังคมผ่านการใช้ "เฮท สปีช" หรือการใช้วาจายุยงให้เกิดความเกลียดชังและพาดพิงบุคคลอื่นให้ได้รับความเสียหาย ผ่านการปราศรัยในสถานที่สาธารณะ และใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเริ่มทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ตามมาว่า รัฐบาลฝรั่งเศสแสดงออกในเรื่องนี้ "2 มาตรฐาน" หรือไม่

ขณะที่นายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ ชี้แจงว่าประชาชนไม่ควรสับสนระหว่าง เสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็น กับการปลุกระดมให้ต่อต้านศาสนา การเหยียดเชื้อชาติและสีผิว และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หลังในเวลาเดียวกันมีนักเขียนการ์ตูนคนหนึ่งถูกจับกุมและดำเนินคดี จากการโพสต์ข้อความบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ว่า "ฉันคือชาร์ลี กูลิบาลี" ซึ่งเป็นนามสกุลของนายอเมดี กูลิบาลี มือปืนก่อเหตุจับตัวประกันในซูเปอร์มาร์เก็ต ที่มีตัวประกันเสียชีวิต 4 ศพ แม้นักเขียนรายนี้จะยืนยันว่า ทำลงไปเพียงเพราะความคึกคะนองชั่ววูบก็ตาม

ทั้งนี้ สภานิติบัญญัติของฝรั่งเศสผ่านกฎหมายต่อต้านการก่อการร้ายออกมาฉบับหนึ่งเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ที่ระบุให้การแสดงออกทางตรงที่เป็นการกระตุ้นหรือสื่อถึงการสนับสนุนการก่อการร้าย อาจทำให้ต้องรับโทษจำคุกสูงสุดนานถึง 5 ปี และปรับอีกไม่เกิน 75,000 ยูโร ( ราว 2.86 ล้านบาท ) หากเป็นการปลุกปั่นผ่านสื่อออนไลน์ บทลงโทษจำคุกอาจได้รับการขยายเพิ่มเป็น 7 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 ยูโร ( ราว 3.82 ล้านบาท ) แล้วผู้ที่ไม่สนับสนุนแนวคิดของชาร์ลี เอ็บโด ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในสังคมฝรั่งเศสตอนนี้ จะแสดงออกอย่างไร

"ปฏิญญาว่าด้วยสิทธิของมนุษย์และของพลเมือง" ที่บัญญัติเอาไว้ในรัฐธรรมนูญของฝรั่งเศส ฉบับปี 2332 ระบุให้ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นผ่านการพูด เขียน และพิมพ์ผ่านสื่อ อาทิ หนังสือพิมพ์ ขณะที่ "กฎหมายเสรีภาพสื่อ วันที่ 29 ก.ค. 2424" เป็นกฎหมายที่กำหนดกรอบการทำงานของสื่อทุกแขนงในฝรั่งเศส ที่แม้ได้รับการตีความใหม่หลายครั้ง แต่กฎหมายฉบับนี้ยังคงมีผลบังคับใช้จนถึงปัจจุบัน โดยมีการให้คำจำกัดความของการหมิ่นประมาท การพูดจาดูหมิ่น และการปลุกระดมให้เกิดความเกลียดชังอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม กฎหมายของฝรั่งเศสยังไม่เคยให้คำจำกัดความการแสดงออก ที่สื่อถึงการดูหมิ่นหรือลบหลู่ศาสนาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ออกมาอย่างชัดเจน และนายกรัฐมนตรีมานูเอล วาลส์ เคยออกมากล่าวว่า รัฐบาลยังไม่ประสงค์ให้มีการตรากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ออกมา

เดลินิวส์ วันเสาร์ 17 มกราคม 2558 เวลา 14:05 น.

เรือจีนล่มในแม่น้ำแยงซีดับ 22 ศพ​

​

เกิดอุบัติเหตุเรือโยงอับปาง ขณะแล่นทดสอบกลางแม่น้ำแยงซี ทางตะวันออกของจีน เป็นเหตุให้ผู้โดยสารเสียชีวิต 22 จาก 25 คน มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ว่าหน่วยกู้ภัยของทางการจีนทำการยกเรือโยง "หว่านเฉินโจว 67" ซึ่งประสบอุบัติเหตุอับปางพร้อมผู้อยู่บนเรือ 25 คน ระหว่างแล่นทดสอบในแม่น้ำแยงซี แม่น้ำสายยาวที่สุดของประเทศ ในช่วงที่ไหลผ่านพื้นที่ของมณฑลเจียงซู ได้สำเร็จเมื่อวันเสาร์ โดยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 22 ศพ ในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย 8 ศพ แบ่งเป็นชาวสิงคโปร์ 4 ศพ ชาวอินเดีย ชาวอินโดนีเซีย ชาวญี่ปุ่น และชาวมาเลเซียประเทศละ 1 ศพ ขณะที่จำนวนผู้รอดชีวิต 3 คน เป็นชาวจีนทั้งหมด

ทั้งนี้ กระแสน้ำที่แรงและเชี่ยวกรากเป็นอุปสรรคสำคัญในภารกิจกู้ภัยของเจ้าหน้าที่ ทำให้การยกเรือขึ้นต้องใช้เวลานานเกือบ 3 วัน หลังประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำและอับปางเมื่อวันพฤหัสบดี สำหรับสาเหตุที่ทำให้เรืออับปางยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ทางการมณฑลเจียงซูเผยว่า เรือโยงลำที่เกิดเหตุมีความยาว 30 เมตร และมีระวางขับน้ำ 368 ตัน จดทะเบียนในชื่อของบริษัทแห่งหนึ่งในมณฑลอานฮุย เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่นาน แต่บริษัทนำออกมาทดสอบการเดินเรือพร้อมคณะผู้สังเกตการณ์ ทั้งที่เรือยังไม่ผ่านการอนุมัติตามกระบวนการ ซึ่งรวมถึงการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบสภาพเรือก่อนด้วย

เดลินิวส์ วันเสาร์ 17 มกราคม 2558 เวลา 12:27 น.

มูดีส์ลดความน่าเชื่อถือตราสารหนี้รัสเซีย​

​

บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน "มูดีส์" ลดเครดิตตราสารหนี้ของรัสเซียลงสู่ระดับต่ำสุด และสถานะจะเป็น "ขยะ" หากมีการปรับลดลงอีกในอนาคต

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ว่า มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส หนึ่งในบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือด้านเศรษฐกิจชั้นนำของโลกจากสหรัฐ ประกาศปรับลดระดับความน่าเชื่อถือในตราสารหนี้ของรัฐบาลรัสเซีย จาก "บีเอเอ2" ลงสู่ระดับ "บีเอเอ3" ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดที่เหมาะสมสำหรับการลงทุน หมายความว่าหากมีการปรับลดสถานะลงอีกในอนาคต ความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลมอสโกจะอยู่ในขั้น "ขยะ" เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ทศวรรษ

ทั้งนี้ มูดีส์ให้เหตุผลประกอบการปรับลดระดับความน่าเชื่อถือในตราสารหนี้ของรัสเซีย ว่าเป็นผลจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2557 บวกกับมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของตะวันตกนำโดยสหรัฐ ที่ต้องการ "ลงโทษ" มอสโกกรณีปัญหาทางการเมืองในยูเครน ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อค่าเงินรูเบิลและฉุดรั้งให้เศรษฐกิจของรัสเซียเข้าสู่ภาวะถดถอย

รายงานของมูดีส์ระบุด้วยว่า หากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังคงลดต่ำลงถึงปี 2559 เศรษฐกิจของรัสเซียอาจชะลอตัวนับจากนั้นไปอีก 2 ปี ขณะที่มีการคาดการณ์เศรษฐกิจของรัสเซียในปีนี้ว่าจะหดตัวราว 5.5% ในปีนี้ และ 3.0% ในปีต่อไป ซึ่งในทางทฤษฎีเท่ากับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของรัสเซียในรอบ 10 ปี จนถึงปี 2561 เป็นศูนย์

เดลินิวส์ วันเสาร์ 17 มกราคม 2558 เวลา 11:08 น.

ที่มา http://www.dailynews.co.th/