จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    ขอกล่าวคํา "อนุโมทนาสาธุ" กับ ท่านtjs ด้วยนะค่ะท่านได้กล่าวดี กล่าวชอบแล้วไม่มีทางอื่นเลยที่ท่านจะไปสู่ความสงบสุขได้นอกจากท่านจะได้ทําตามข้อความข้างต้นนี้ เพราะถ้าไม่มี"ปัญญาณาน"หรือ"ญาณ"แล้วก็ยากที่จะเจอสุขแท้ค่ะ จึงขออนุโมทนาสาธุค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2013
  2. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151

    " การทำความเพียรต้องเป็น..ผู้รักษาสัจจะ
    คือให้มีสัจธรรม ตั้งใจอย่างไรแล้ว..อย่าทำลายสัจจะ
    สัจจะเมื่อตั้งให้ถูกต้องตามอรรถตามธรรมแล้ว
    จะเกิดเป็นพลังของจิตอย่างดีเยี่ยม "

    ธรรมโอวาทหลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
    วัดป่านิโครธาราม ต.หมากหญ้า
    อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี


    ที่มา fb เครือข่ายกลุ่มพุทธธรรมกรรมฐาน สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
     
  3. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ที่สุดแห่งความอิ่ม คือไม่อิ่ม
    ที่สุดแห่งความหิว คือไม่หิว
    ที่สุดแห่งความจน คือไม่จน
    ที่สุดแห่งความมั่งมี คือไม่มี
    ที่สุดแห่งความทุกข์ คือไม่ทุกข์
    ที่สุดแห่งความสุข คือไม่สุข
    ที่สุดแห่งกุศล คือไม่กุศล
    ที่สุดแห่งอกุศล คือไม่อกุศล
    ที่สุดของความมืด คือความสงบ
    ที่สุดแห่งความสงบ คือความสว่าง
    ที่สุดแห่งความสว่าง คือปัญญา

    ที่สุดของปัญญาและความรู้
    คือความไม่ต้องรู้อะไรเลย ความไม่ต้องรู้อะไรเลยคือความว่าง
    ที่สุดแห่งความว่างพร้อมกับความความหลุดพ้นคือพระนิพพาน สาธุครับ
     
  4. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    "จำเอาไว้ว่าเราไม่สามารถจะแก้ไขคนรอบข้างได้ เพราะนั่นเป็นเรื่องของโลก เราแก้ไขได้เฉพาะเรื่องของเรา เพราะฉะนั้นอย่าไปเอาเรื่องของโลกมาเป็นเรื่องราวของเรา กอง ๆ ไว้ตรงนั้นแหละ รู้ก็สักแต่รู้ว่าไม่ต้องรับเข้ามาเลย ตัวนี้เป็นกิเลสมารอย่างหนึ่ง ให้เรารู้ว่ากิเลสแท้จริงของมารเป็นอย่างนี้"

    พระอาจารย์เล็ก เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน
    อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
    ที่มา Motanaboon.Com
     
  5. จินตา

    จินตา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2012
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +30
    สวัสดีค่ะ คุณภูฯ
     
  6. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    วิปัสสนาญาณ คือ"ปัญญาที่ละเอียด" ปัญญาได้หยั่งทราบทุกเรื่องจะเหมือนการเปิดไฟ... จิตที่สะว่างจ้าก็เช่นเดียวกันก็จะมองเห็นสิ่งต่างๆได้ชัดเจน การจะทําได้อย่างนี้ก็มีวิธีการตามแต่จริตนิสัยที่ท่านชอบ ก็คือ"กรรมฐาน ๔๐ กอง" ที่ท่านได้มอบให้ไว้แต่ละกองก็เพื่อทําให้จิตสงบได้คือ...ใช้วิชาธรรมมีวิชาธรรมเท่านั้นที่สามารถฆ่ากิเลสได้อย่างอื่นไม่มี และให้พิจารณาใน"ไตรลักษณ์" คือทั้ง ๓ ไตรลักษณ์ แล้วแต่ท่านจะยกมาก่อนหรือหลังเพราะ"ไตรลักษณ์" ก็เปรียบเหมือนส่วนประกอบในร่างกายที่มีส่วนหน้า ส่วนหลัง ส่วนข้าง แต่ก็คือ ส่วนประกอบของร่างกายนั้นเองแยกไม่ออก... แต่ให้ท่านนํามาพิจารณาตามแต่ท่านถนัด เช่น จะพิจารณา... อนิจจังก่อนก็ได้ ก็คือ ความหมุนเวียนเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาไม่เที่ยง
    ทุกขัง ก็คือ การพิจารณาความทุกข์ที่เกิดขึ้นกับเราอยู่ตลอดเวลานั้นเช่น ปวดหัว ปวดท้อง ได้รับทุกข์ตลอดในร่างกายเรานี้
    อนัตตา ก็คือ จะหาสาระอะไรในร่างกายนี้ว่าเป็นแก่นสารสาระมันเป็นแค่ธาตุ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ไม่ใช่เราไม่ใช่เขา ก็ให้พิจารณาอยู่อย่างนี้ แล้วท่านก็จะเข้าถึงซึ้งความไม่ยึดมั่นถือมั่นแล้วความสุขก็จะเกิดขึ้นกับนักปฏิบัติแน่... ตามภูมิวาสนาค่ะ
    ที่มา จากเทปธรรมะขององค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน. ลูกขอน้อมกราบองค์หลวงตาด้วยเศียรเกล้า.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2013
  7. 77WILL77

    77WILL77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +1,674
    เพิ่งเข้ากระทู้นี้ครั้งแรก ยังไม่ได้อ่านเลย

    ถ้าเริ่มติดตามอ่านตั้งแต่วันนี้ จะทันไหมคะ
     
  8. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    ทำดีก่อนตาย

    “คนเราประมาทในบุญเล็กน้อย เมื่อตายไปแล้ว จะมาทำบุญกุศลน่ะ มันยากนัก ยากยังไง กายก็ไม่เหมือนกายมนุษย์ จะมาพูดกับมนุษย์ก็ไม่ได้ จะมาใส่บาตรทำบุญก็ไม่ได้ อย่างดีก็เพียงมายืนคอยอนุโมทนาเท่านั้น ถ้าใครตาดีก็เห็น ใครตาไม่ดีก็ไม่พบพาน ถ้าใครมีภูมิรู้ในทางจิต ก็พอจะแนะนำสั่งสอนกันบ้าง ถ้าไม่มีคนเช่นนั้น เทวดาก็ไม่มีหนทางที่จะบำเพ็ญคุณงามความดีต่อได้เลย นี่มันเป็นอย่างนี้

    ฉะนั้น จึงอย่าพากันประมาท เมื่อเรามีโอกาสและเวลา คุณงามความดีใดๆ ในโลกพอจะสามารถและมองเห็น เราก็ควรจะต้องรีบขวนขวาย พยายามทำความดีนั้นเสียโดยเร็ว ถ้าความตายเกิดขึ้นเดี๋ยวนี้เราจะไปเอาอะไร ไม่มีอะไรสักอย่าง อย่างดีที่สุดก็จะได้แค่ห่อข้าวตากของตนที่ทำไว้แล้วนั่นแหละ คือความดีที่เราสับสร้างมาแต่ก่อน แล้วก็มาระลึกขึ้นความดีนั้นก็จะไปช่วยบำรุงน้ำใจของเรา อำนวยผลให้บุคคลผู้นั้นไปในทางสุคติ โลกสวรรค์ ถ้าใครได้มีนิสัย ได้อบรมในทางจิต หรือในทางสมาธิให้แก่กล้าก็สามารถบำเพ็ญให้ตนพ้นไปจากโลกียวิสัย ทำใจของตนให้ก้าวขึ้นไปสู่โลกุตรธรรมได้

    ฉะนั้น พวกเราที่ยังไม่เกิดความดีอย่างสมใจนึกก็ดี อย่าประมาท ผู้ทำความดีได้ยังไม่สมใจอย่างนึกก็อย่าประมาท ก็ควรจะถือว่าสิ่งที่เราทำลงไปนั้น เป็นทรัพย์ของเรา ทรัพย์ของเรานี้ เป็นเครื่องป้องกันชีวิตของเรามิให้ตกไปในฝ่ายต่ำ แม้อยู่ในโลกนี้เราก็อาศัยความดีคือธรรมะนี้ เป็นผู้บงการชีวิต ถ้าเราดับจิตไปจากโลกนี้ ความดีก็จะต้องติดตามตนไปเหมือนกับเงาของบุคคลย่อมตามตนไปทุกเมื่อฉะนั้น”

    หลวงปู่ลี ธัมมธโร


    fb..Motanaboon.Com
     
  9. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    ยังทันเสมอครับ :cool::cool: ถ้าเน็ทไม่ล่มก่อน อิๆๆๆ
     
  10. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    สุขทุกข์...เนื่องจากการมีแห่งขันธ์

    เมื่อรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ มีอยู่

    ความรู้สึกเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ในใจย่อมเกิดขึ้น

    เพราะอาศัย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

    ผู้ใดเพลินอยู่กับรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

    ผู้นั้นย่อม...เพลินอยู่ในสิ่งที่เป็นทุกข์

    ผู้นั้นย่อม...หลุดพ้นไปได้จากทุกข์.

    กุหลาบธรรม.
     
  11. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ใจ... นั่นแลเป็นผู้ก้าวทยาน

    ออกจากมหาสมมุติมหานิยมอันเป็นเครื่องดึงดูดจิต

    สู่อวกาศนอกสมมุติคือ วิมุติหลุดพ้น

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน.
     
  12. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    ถ้าสนใจหลักการจิตเกาะพระ อ่านหน้า 1-20 ก่อนนะคะ(rose)
     
  13. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ถ้าเมื่อใดจิตสว่าง แม้ชั่วขณะหนึ่งวันหนึ่ง

    หรือคนหนึ่งก็ตาม แล้วเแต่ศีลของแต่ละบุคคลที่

    มันก็มีศีลที่แท้จริง เมื่อใดจิตสว่างไม่ว่าจะสว่างได้

    แม้จะชั่วขณะ ชั่วคู่ ชั่วยาม หรือแม้แต่เท่างูแลบลิ้น

    ก็จะรู้สึกว่าแม้แต่สว่างแป้บเดียว แต่ความสว่างนั้น

    มันก็จะเกิดความสุข ความสว่าง อย่างมหัศจรรย์

    ซึ่งความสว่างนั้นจะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป

    แล้วถ้าศีลของเราเป็นศีลบริสุทธิ์ ความสว่างในจิตในใจเรา

    ก็จะสว่างตลอดเวลาเหล่านั้นได้.....

    ธรรมะจากท่านพุทธทาส.
     
  14. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    คนที่มีจิตว่างไม่ยึดไม่ถือมั่นใจในตนของตนนั้น

    เรียกว่าเป็นคนที่มีศีลแท้จริง และเต็มเปี่ยมถึงที่สุดด้วย

    ศีลนอกนั้นเป็นศีลที่ล้มลุกคลุกคลานคือ

    ศีลที่ตั้งเจตนาไว้ว่า เราจะเว้นอย่างนั้น เราจะเว้นอย่างนี้

    แล้วก็เว้นไม่ได้.....ลุ่มๆ ดอนๆ อยู่นั่นเอง

    เพราะว่าไม่รู้จักปล่อยวางตน ปล่อยวางของๆตนเสียก่อน.....

    คิกข้อไม่มีความว่างจากตัวตนเสียก่อน ศีลก็มีขึ้นไม่ได้

    แม้จะมีก็ลุ่มๆ ดอนๆ.....ไม่เป็นอริยกันตศีล.....

    คือ ไม่เป็นศีลชนิดที่พอใจของพระอริยะเจ้าได้ เป็น โลกียศีล ลุ่มๆ ดอนๆ

    ไม่เป็น โลกุตตรศีล ขึ้นมา ถ้าเมื่อใดมีจิตว่างแม้ชั่วขณะหนึ่ง วันหนึ่ง

    หรือคืนหนึ่งก็ตามมันก็มีศีลที่แท้จริง ตลอดเวลาเหล่านั้น.

    ธรรมะจากท่านพุทธทาส.
     
  15. Patcharawan

    Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +3,980
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=d9D2y-CF1Xo]ก้อนหินก้อนนั้น - โรส ศิรินทิพย์ - YouTube[/ame]
     
  16. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอประกาศอีกครั้ง!

    บางท่านกล่าวว่าพี่ภู ทิ้งปัญหา ทิ้งสัจจะ หรือสารพัดจะทิ้ง...
    ก็แล้วแต่ใครจะคิด จะพูด จะทำกันไป ก็ไม่เป็นไร
    แต่จิตผมรู้ดีว่า อะไรคืออะไร อะไรเป็นอะไร แต่ไม่ได้วิ่งตาม เท่านั้นเอง
    เมื่อตัวเรารู้แล้ว และก็วางได้แล้ว ย่อม=ว่างได้ เช่นกัน
    ใครมีปัญหา แต่ผมไม่มี..ปัญหา

    (อย่าลืมนะ! จิตเท่านั้น ที่จะเป็นผู้ที่/ทำหน้าที่ปล่อย-วาง มิใช่อย่างอื่น อย่าหลงทางกันนะ)

    ขอให้ถามตนเองให้ดีๆนะว่า เราปฎิบัติธรรมเพื่ออะไร? (ถ้าไม่ใช่เพื่อความหลุดพ้น)
    แต่ก่อนจะพบกับความหลุดพ้น พวกเราต้องฝึกจิตกันก่อน
    แต่ก่อนจะฝึกจิต เราต้องฝึกสติก่อน? เพราะยังหาจิตกันไม่เจอ?
    สรุปแล้ว
    พระกรรมฐานทั้ง ๔๐ กองนั้น (การเจริญสติภาวนา) ก็เพื่อเป็นกุศโลบายทำให้จิตนิ่ง
    (การฝึกจิต ก็คือ ฝึกจิตจากที่ไม่นิ่งและฝึกจิตให้มันนิ่ง)

    พี่ภูขอกล่าวตามตรงว่า พี่ภูไม่ใช่ อรหันต์ และมีขันธ์ ๕ เหมือนพวกเราทุกประการ นั่นแหล่ะ!
    มิใช่เป็นคนเหนือคน หรือคนเหนือโลก หรือวิเศษวิโสไปกว่าใครๆเลย
    เพียงแต่ยอมรับและศรัทธาในผลการปฎิบัติของตนเอง ซึ่งมิได้ไปเปรียบกับผู้ใดเลย
    แค่เปรียบเทียบก่อนและหลังการปฎิบัติของตนเท่านั้นเอง
    และไม่เคยไปเปรียบเทียบว่าตนเองดีกว่า เท่ากับ หรือแย่กว่า เ้พราะให้เกียรติผู้อื่นและตนเองด้วย

    นับจากนี้เป็นต้นไป พี่ภูจะไม่พูดเรื่องอื่น นอกจาก จิตเกาะพระ (ที่ได้รับมอบหมายมาเท่านั้น)
    ส่วนเรื่อง ปัจจัตตัง หรือ อจินไตย
    จะไม่ขอกล่าวในที่สาธารณะอีกต่อไปแล้ว นอกจากสหธรรมิกด้วยกันเอง
    เพราะที่ผ่านมานั้น ถือเป็นบทเรียนของตนเอง และของพวกเราไปด้วย
    ไม่เป็นไร คนเราอยู่ร่วมกัน ย่อมมีปัญหา ย่อมมีความเห็นต่าง ก็เสมือนลิ้นกับฟัน หรือ ผัวกับเมีย
    แต่ขอให้พวกเรายอมรับและเคารพความเห็นต่าง ซึ่งกันและกัน แบบประชาธิปไตย
    หรือผู้ที่มีจิตใจเจริญแล้ว หรือ ฝึกมาดีแล้ว นั่นเอง

    พี่ภู มิได้หนีปัญหา เพราะปัญหาเขามีไว้ให้แก้ มิใช่ มีไว้ให้
    แต่ทุกปัญหา ต้องแก้ไขด้วยสติ+ปัญญา มิใช่อารมณ์
    ปัญหาไม่มี มีแต่ปัญญา เพราะปัญญามี จึงไร้ปัญหา..ทันที
    ว่าแต่ว่า มีปัญญาเป็นของตน? หากันเจอ?
    ปัญญาในทางธรรม มิใช่ปัญญาทางโลก

    ปัญญาในทางธรรม(ภาวนามยปัญญา) ที่ได้จาก(จิตนิ่ง) จิตเป็นสมาธิ/ฌาน/ญาณ ลำดับต่างๆ
    ตามมรรคมีองค์ ๘ หรือ ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นต้น
    มิใช่ปัญญาที่ได้การสดับตรับฟัง การศึกษาเล่าเรียน (สุตมยปัญญา) หรือ การคิดค้น การตรึกตรอง (จินตามยปัญญา)
    เพราะปัญญาทั้งสองอันหลังนี้ ใช้กับวิปัสสนาไม่ได้ ใช้ได้แต่ทางโลก
    แต่ปัญญาที่จะใช้สำหรับในการวิปัสสนา หรือพิจารณาธรรมตามความเป็นจริงได้นั้น
    ต้องเป็นปัญญาที่ได้จาก ภาวนามยปัญญา
    และภาวนามยปัญญานี้เท่านั้น ที่สามารถรู้เท่าทันการเกิดของกิเลสต่างๆได้
    หรือ ถึงมองเห็นความเกิด-ดับของกิเลสต่างๆภายในจิตตนเองได้
    (ขอพูดย้ำและทิ้งท้ายเพียงเท่านี้ก่อน)

    ปล.
    ขอให้ชาวพุทธบริษัททั้งหลาย ทั้งปวง
    จงมีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง หรือเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
    และจงเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยของพวกท่านด้วยเทอญ
    เพราะอย่างอื่น อย่าได้ไปหลงยึด หรือ อย่าพึ่งไปเชื่อหรือไม่เชื่อ
    ขอให้ยึดหลักการกาลามสุตรของพระพุทธองค์นั้น
    เพราะป้องกันการหลงทางโลกและทางธรรม
    กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อ ที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน
    ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ
    ซึ่งมีอยู่ 10 ประการนั้น

    สรุปว่า..
    พี่ภูยังไม่ตาย หรือหนีหายไปจากพวกเรา
    แต่นานๆ จะเข้ามาตอบสักทีนึงก็แล้วกัน เฉพาะในกระทู้นี้ เท่านั้น
    และขอขอบพระคุณและก็ขอบใจ พวกเราทุกคนที่ยังไม่(ยอม)ทิ้งกัน เอ๊ย! กระทู้

    โดยเฉพาะ คุณ◎(ทอดปริยัติ) คุณก้องภพภูมิ(tjs)(ไขปริศนา) คุณพี่ต้อย(สอยดวงจิต)
    คุณตรี(น้ำผึ้งเดือน5.5) คุณพี่มาลินีและคุณเพ็ญ2(ละลายธรรมะ) เป็นต้น


    ขอเชิญทุกท่านละลายธรรม เอ๊ย! ให้ธรรมะ เพื่อธรรมาทานพวกเราต่อไป
    บางที บางท่าน บางเวลา บางโอกาส อาจจะพูดหวานจนเลี่ยน หรือ ขมจนรับไม่ได้
    ขอให้พวกเรามีสติ+ปัญญา รู้เท่าทัน หรือ รับรู้ในแต่สิ่งที่ดีๆ
    หรือ เลือกเอาเฉพาะ แต่บุญกุศลเท่านั้น นะครับ
    เพราะสรรพสิ่งในโลกนี้ ล้วนมีดีและไม่ดีปะปนกันไป
    แต่มีมนุษย์จำพวกที่รู้เท่าทันกับสิ่งเหล่านี้ได้ ก็คือ สติปัญญา หรือ ภูมิจิต ภูมิปัญญา เท่านั้น
    เพราะสติเท่านั้น ที่จะแยกแยะว่าอะไรดี อะไรไม่ดี อะไรเหมาะสม อะไรไม่เหมาะสม อะไรควร อะไรไม่ควร
    พระพุทธองค์หรือครูบาอาจารย์ทุกท่าน ถึงได้คอยหมั่นเตือนพุทธบริษัทหรือลูกหลานของท่าน ว่า..
    "จงอย่าประมาท" ในการมีหรืออยู่ในขันธ์ ๕ ของตน
    โดยให้พวกเราคอยหมั่นเจริญสติภาวนาเป็นนิจ ไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัยแห่งตน
    โดยเฉพาะ ให้เจริญสติปัญญาภายในจิตแห่งตน มิใช่ไปหาปัญญาจากภายนอกจิตตน
    ขอให้ทุกท่านปฎิบัติตาม หรือเจริญรอยตามอริยมรรคของพระพุทธองค์
    หรือตามปฎิปทาของครูบาอาจารย์ของพวกเรา โดยเฉพาะผู้ที่ได้ปฎิบัติสำเร็จหรือบรรลุธรรมแล้วจริงๆ
    อย่างเช่น องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เป็นต้น ด้วยเทอญ สาธุๆๆ

    ขอให้ทุกๆท่าน จงมีแต่ความสุขกาย สบายใจ และเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปด้วยเทอญ
    ขอให้ทุกสติ ทุกดวงจิต ก้าวข้ามให้พ้น กับคำบัญญัติหรือรูป-นามสมมุติ เข้าสู่ปรมัตถธรรมกันให้ได้

    ภูทยานฌาน2
    คนสู้ ทั้งทางโลกและทางธรรม
    (คือผู้ที่สอน/แนะนำผู้อื่นได้หรือผู้อื่นสอน/แนะนำตนเองก็ได้เช่นกัน หรือ ติ-ชมได้ ตามสบาย..พัก)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 กุมภาพันธ์ 2013
  17. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=HkmUCNwELH0]วันวานยังหวานอยู่ น้อยวงพรู - YouTube[/ame]

    ไม่มีใครไปเรียกร้องหาอดีตได้
    เห็นมีแต่คน..ที่จะพยายามทำอดีตให้กลายเป็น ปัจจุบัน (ให้ได้)

    Impossible!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 กุมภาพันธ์ 2013
  18. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    อันหนึ่งสมณะ อันหนึ่งวิปัสสนา มันถูกกับจิตอันใด

    การภาวนามันสบายก็ให้เอาอันนั้น ถ้ามันถูกกับจิตเรา

    จิตสงบ จิตสบาย ไม่ฟุ้งซ่านไปที่อื่น จิตรวมอยู่ นั่นแหละมันถูกนิสัย

    ครั้นมันไม่ถูกนิสัยแล้ว นึกพุทโธหรืออันใดมันก็ฟุ้งซ่าน

    หายใจยาก หายใจฝืดเคือง นั่นหมายความว่ามันไม่ถูกจริตของตน

    อันใดมันไม่ถูกกับจริตมันก็ไม่สบายใจ ใจสว่าง จิตไม่ฟุ้งซ่าน

    เบื้องต้นไครเอาอันใดก็เอา อันนั้นเสียก่อน พิจจารณาอาการ

    สามสิบสอง นี่เรียกว่าวิปัสสนา เรียกว่าค้นคว้า.

    ธรรมะหลวงปู่ขาว อนาลโย.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2013
  19. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ผู้สร้างบาป ก็เหมือนการดื่มยาพิษ

    อย่างไรเสียย่อมได้รับโทษภัยแน่นอน

    เพียงแต่ว่าพิษนั้นจะออกผลเร็วหรือช้าเท่านั้นแหละ


    หลวงปู่ศรี มหาวิโร.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2013
  20. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    เมื่อเกิดอารมณ์ไม่พอใจ

    ไม่ต้องหาว่าใครผิด ใครถูก

    ให้ระงับใจร้อนของตนเองก่อน

    แล้วหายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ

    ใจสงบแล้วจึงค่อยคิด

    คิดด้วยสติปัญญา และเหตุผล

    ตั้งมั่นอยู่ในคิดดี พูดดี ทำดี

    อารมณ์เราก็จะดี ไม่มีสิ่งใดมากระทบได้.

    พระอาจารย์มิตชูโอะ.
     

แชร์หน้านี้

Loading...