จะทราบได้อย่างไรว่า บรรลุโสดาบัน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Sir-Pai, 21 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    มรรค เขามี 8 อย่าง
    เอ เราทำ สัมมาทิฎฐิ ได้หรือยังหว่า เขาว่าได้นะ เพราะตำราเขาบอกมาว่า ต้องทำแบบนั้นต้องทำแบบนี้ เราคิดแบบนี้ เราได้แล้วน่า

    สัมมาสังกัปโป ตรงนี้มันอยู่ตอนไหนหละหว่า เขาบอกว่า ดำริชอบ เราดำริชอบหรือยังหว่า
    แล้ว ดำริชอบนี้ มันตอนไหน ยังไงกันละนี้


    นี่ หากเรายังไม่มีพระธรรมในใจ เราต้องพึ่ง เห็นไหม เราพึ่งคนอื่น เราพึ่งตำรา

    แล้ว เราจะเป็นพระโสดาบันได้อย่างไร ในเมื่อพระโสดาบันท่านเป็นที่พึ่งให้คนอื่น

    นี่ ให้สำรวจตน
     
  2. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    พระธรรมเวลา เกิด เกิดที่ใจเรา ให้ซึ้ง เรียกว่า ญาณ
    บ้าง ก็เกิด ญาณทัสนะ ให้รู้ว่า นี่กิเลส นี่ไม่ใช่กิเลส นี่มรรค นี่ไม่ใช่มรรค
    นี่ยังเรียกว่า ยังอยู่ในญาณทัสนะ แต่ยังไม่ก้าวเดิน เป็นกัลยาณปุถุชน

    เกิดขึ้น เมื่อเกิดขึ้นแล้ว อบรมให้ถ่องแท้ แจ้งขึ้นมา เดินเอง ทำเอง รู้เอง เห็นเอง เป็นปัจจัตตัง ทั้งก้อน เมื่อไร เรียกว่า มรรคญาณ เป็น โสดาปัตติมรรคญาณ

    อันนี้ว่าตาม โบราณจารย์ พิจารณากันเอาเอง

    เดี๋ยวจะหาว่า ขันธ์ อวดตัวในที
     
  3. kongkiatm

    kongkiatm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +1,263
    ตามความเห้นของข้าพเจ้าน่ะครับ

    การสงสัยของคุณ Sir-Pai ว่าตนเองเป็นพระโสดาบันหรือไม่ นั้น
    ไม่ใช่การสงสัยต่อพระรัตนตรัย

    เปรียบเหมือนกับ เราอยู่กรุงเทพ จะเดินทางไปเชียงใหม่ แล้วสงสัยว่า เส้นทางนี้ไปเชียงใหม่หรือไม่ เป็นการสงสัยแบบเดียวกันครับ
     
  4. 789654561

    789654561 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +333
    ฮึๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    รับยาที่ช่อง 3 นะคะ เอา prozac 20 mg ครั้งละ 1 เม็ด วันละ 2 ครั้งหลังอาหารเช้า-เย็น นะคะ

    เอ...........ดิฉันเปลี่ยนใจ สั่งให้ใหม่ดีกว่าให้ตรงกับอาการของโรคที่วินิจฉัยใหม่ เปลี่ยนจาก multipersonality disorder เป็น Schizophrenia รับยา Haloperidol กับ Resperidone พร้อมกันเลยนะคะ ถ้าคุ้มคลั่งมากๆ ก็เอาตะกร้อตามร้าน vet ได้คะ

    หวังว่าคงจะหายละเมอนะคะ ขอบคุณๆ Sparta ที่เข้าใจคะ ไปละคะไม่มาแถวนี้อีกแล้ว ใกล้หน้าร้อนแล้ว เดี๋ยวโดนน้ำลาย ดิฉันกลัวเป็น rabies
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2011
  5. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ความสงสัย หรือ วิจิกิจฉา อันเป็นสังโยชน์ นั้น

    เปรียบเหมือน คนตาบอด สงสัยทางเดิน เวลาคลำทาง ก็ต้องคลำไป

    เพราะทิฎฐิ ปัญญา ยังไม่ถึงพร้อม

    ลองพิจารณาดูนะ
    ส่วน ที่พระท่านว่า ไม่สงสัยในพระรัตนตรัย นั้นท่านย่นย่อมาให้ แต่ ความเข้าใจในอรรถนั้น เราเข้าใจแค่ไหน ขึ้นอยู่กับ ปัญญาของเราแล้ว
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ทีนี้ ใครจะได้หรือไม่ได้ พระโสดาบัน เราไม่สนใจ เราเอาตัวเรา ให้เกิดปัญญา

    การเกิดปัญญา ก็ต้อง เจริญ มหาสติ

    เห็น ธรรม เห็น จิต ได้เมื่อไร ค่อยมาพูดกัน เรื่อง ละ สังโยชน์ 3

    ไม่เช่นนั้น ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ จิตตน เลย
     
  7. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ผมจะนำคำสั่งสอนของท่าขันธ์ไปปฎิบัติละกันครับ

    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2011
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    พูดโดยทั่วไป ไม่ได้เจาะจง
     
  9. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ไม่ได้ว่าคร้าบบบ

    แซวเล่นๆ ท่าน อย่าโกรธนร้า
     
  10. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    หมดแล้ว ธรรม ที่ผุดขึ้นมีให้แค่นั้น
     
  12. อโศ

    อโศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,689
    ค่าพลัง:
    +5,830
    "ธรรมทั้งหลายล้วนมาจากเหตุ และดับไปด้วยเหตุนั้น"

    สภาวะธรรมทั้งหลาย ล้วนเกิดมาแต่เหตุ
    เพราะ จิตหลงสำคัญผิด จึงเป็นที่มาแห่งมหาเหตุ
    คือ มหาทุกข์ เป็นเหตุให้เกิดอุปทานความยึดมั้นถือมั่น ในขันธ์๕
    เพราะไม่เข้าใจในเหตุแห่งทุกข์ ที่มาจากใจที่หลงสำคัญผิดยึดมั่นในสิ่งที่เป็นทุกข์ทั้้งหลาย
    ทุกข์ เกิดจากใจที่ไม่คลายทิฐิในความยึดมั่นถือมั่น ในสิ่งที่ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา

    เมื่อเกิดดวงตาเห็นธรรม ธรรมที่เป็นเครื่องชำระล้างกิเลส
    เมื่อรู้ทุกข์ เห็นเหตุแห่งการดับทุกข์ คือ ดับต้นเหตุแห่งกองทุกข์ทั้งหลาย
    มรรค จึงเป็นทางเดินแห่งพระอริยะเจ้าฯ
    ดุจ คำว่า "จิต เห็นจิต เป็นมรรค"
    ความหมาย เปรียบเช่น "ตนเห็นตน พึงชนะตน นั่นแหละดี"

    มรรค จึงเป็นวิธีการแห่งการดับทุกข์
    นิโรธ จึงเป็นผลแห่งทุกข์ดับสนิท

    "มรรคสมังคี ประชุมลงที่ใจ" ในองค์แห่งอริยมรรค ในสัมมาสมาธิ
    นิโรธ เป็นผลแห่งมรรคสมังคี เกิดขึ้นที่ใจ คือ ทุกข์ดับสนิท
    จิตพระอรหันต์ ไม่เกิดไม่ดับ เป็นจิตบรมสุข เสวยอารมณ์พระนิพพาน
    เพราะไม่มีความทุกข์ให้เกิดให้ดับ เพราะทุกข์ดับสนิท

    ที่เกิดๆดับๆ คือ กิเลส เกิดขึ้นที่หัวใจ
     
  13. watchayun

    watchayun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2010
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +54
    789654561 คุณทำไมพูดแรงจังครับ เล่นใช้ศัพท์ต่างประเทศ ผมอ่านไม่ออก และแปลไม่รู้เรื่องเลย เอาเป็นว่า รับ sperm ไหมครับ อิอิ รับฉีดให้ครับ ฮ่าๆๆ ใจเย็นๆๆครับ ขำๆๆครับ ล้อเล่น
     
  14. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    ผมตัดไม่ได้ก็เรื่องเดียวนี่แหละ ไม่งั้นบวชตลอดชีวิตแล้วฮะ

    เรื่องผู้หญิงนี่แหละผมตัดใจจากเธอมิได้
     
  15. Phusaard

    Phusaard เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    436
    ค่าพลัง:
    +349
    ขอบคุณมากครับ กระทู้นี้ทำให้ผมรู้จักกับวัดนาป่าพง :cool:
     
  16. ritta

    ritta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +228
    ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข.

    ( เหล่าภูตทั้งหลายทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี )

    สัพเพวะ ภูตา สุมะนา ภะวันตุ

    ( ขอหมู่ภูตทั้งปวงนั้น จงเป็นผู้มีใจดีเถิด )

    อะโถปิ สักกัจจะ สุณันตุ ภาสิตัง

    ( และเชิญฟังคำสดุดีพระรัตนตรัย อันข้าพเจ้ากล่าวโดยเคารพเถิด )

    ตัสมา หิ ภูตา นิสาเมถะ สัพเพ

    ( ดูก่อนภูตทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลายทั้งปวง จงฟังข้าพเจ้า )

    เมตตัง กะโรถะ มานุสิยา ปะชายะ

    ( ขอท่านทั้งหลาย จงกระทำเมตตาจิต ในประชาชาวมนุษย์เถิด )

    ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เย พะลิง

    ( ซึ่งเขาทั้งหลาย ทำเทวตาพลีอยู่ ทั้งกลางวันและกลางคืน )

    ตัสมา หิ เน รักขะถะ อัปปะมัตตา

    ( เพราะเหตุนั้นแล ท่านทั้งหลาย จงเป็นผู้ไม่ประมาท ช่วยคุ้มครองรักษาเขาเหล่านั้นด้วยเถิด )

    ยังกิญจิ วิตตัง อิธะ วา หุรัง วา

    ( ทรัพย์อย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้ หรือในโลกอื่น )

    สักเคสุ วา ยัง ระตะนัง ปะณีตัง

    ( หรือรัตนะใดอันสูงค่า ในสรวงสวรรค์ )

    นะ โน สะมัง อัตถิ ตะถาคะเตนะ

    ( ทรัพย์หรือรัตนะนั้นๆ ที่จะเสมอด้วยพระตถาคตเจ้า มิได้มีเลย )

    อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง

    ( ข้อนี้ จัดเป็นรัตนะอันสูงส่ง ในพระพุทธเจ้า )

    เอเตนะ สัจเจนะสุวัตติ โหตุ

    ( ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงบังเกิดมีเถิด )

    ขะยัง วิราคัง อะมะตัง ปะณีตัง ยะทัชฌะคา สักยะมุนี สะมาหิโต

    ( พระศากยมุนีเจ้า ทรงมีพระหฤทัยดำรงมั่น ได้บรรลุธรรมอันใด

    เป็นที่สิ้นกิเลส เป็นที่สิ้นราคะ เป็นอมตะอย่างแท้จริง )

    นะ เตนะ ธัมเมนะ สะมัตถิ กิญจิ

    ( สิ่งใดๆที่เสมอด้วยพระธรรมนั้น ย่อมไม่มี )

    อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง

    ( ข้อนี้ จัดเป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระธรรม )

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

    ( ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด )

    ยัมพุทธะเสฏโฐ ปะริวัณณะยี สุจิง

    ( พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุด ทรงสรรเสริญสมาธิใด ว่าเป็นธรรมอันสะอาด )

    สะมาธิมานันตะริกัญญะมาหุ

    ( บัณฑิตทั้งหลาย กล่าวถึงสมาธิใด ว่าให้ผลไม่มีสิ่งใดคั่นได้ )

    สะมาธินา เตนะ สะโม นะ วิชชะติ

    ( สมาธิอื่น ที่เสมอด้วยสมาธินั้น ย่อมไม่มี )

    อิทัมปิ ธัมเม ระตะนัง ปะณีตัง

    ( ข้อนี้ ก็จัดเป็นรัตนคุณอันสูงส่งในพระธรรม )

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

    ( ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดีจงบังเกิดมีเถิด )

    เย ปุคคะลา อัฏฐะ สะตัง ปะสัตถา

    ( บุคคลเหล่าใด นับเรียงองค์ได้เป็น ๘ )

    จัตตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนติ

    ( นับเป็นคู่ได้ ๔ คู่ อันสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแล้ว )

    เต ทักขิเณยยา สุคะตัสสะ สาวะกา

    ( บุคคลเหล่านั้น เป็นสาวกของพระสุคตเจ้า เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน )

    เอเตสุ ทินนานิ มะหัปผะลานิ

    ( ทานทั้งหลาย ที่บุคคลถวายในท่านเหล่านั้น ย่อมมีผลเป็นอันมาก )

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

    ( ข้อนี้ จัดเป็นรัตนคุณอันสูงส่ง )

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

    ( ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด )



    เย สุปปะยุตตา มะนะสา ทัฬเหนะ นิกกามิโน โคตะมะสาสะนัมหิ

    ( บุคคลทั้งหลายเหล่าใด ประกอบความเพียรอย่างดี ดำเนินไปในศาสนา ของพระโคดมเจ้า ด้วยใจอันมั่นคง )

    เต ปัตติปัตตา อะมะตัง วิคัยหะ

    ( บุคคลทั้งหลายเหล่านั้น หน่วงเอาพระนิพพานเป็นอารมณ์ ได้บรรลุคุณอันควรบรรลุ คือ พระอรหัตตผลแล้ว )

    ลัทธา มุธา นิพพุติง ภุญชะมานา

    ( จึงได้เสวยอมตะรส คือ ความสงบเย็น จากความเร่าร้อนทั้งปวง )

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง แม้ข้อนี้

    ( ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์ )

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

    ( ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด )

    ยะถินทะขีโล ปะฐะวิง สิโต สิยา จะตุพภิ วาเตภิ อะสัมปะกัมปิโย

    ( เสาเขื่อนที่ฝังลงดิน อย่างมั่นคงแล้ว ลมทั้งสี่ทิศ ไม่พึงทำให้หวั่นไหวได้ ฉันใด )

    ตะถูปะมัง สัปปุริง วะทามิ โย อะริยะสัจจานิ อะเวจจะ ปัสสะติ

    ( เราตถาคตกล่าวว่า สัตบุรุษผู้หยั่งเห็นอริยสัจธรรม ก็มีอุปมาฉันนั้น นั่นแล )

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

    ( แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์ )

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

    ( ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด )

    เย อะริยะสัจจานิ วิภาวะยันติ คัมภีระปัญเญนะ สุเทสิตานิ

    ( บุคคลเหล่าใด กระทำอริยสัจธรรมทั้งหลาย ที่พระบรมศาสดา

    ผู้มีปัญญาอันลึกซึ้ง ทรงแสดงดีแล้ว ให้แจ่มแจ้งแก่ตนได้ )

    กิญจาปิ เต โหนติ ภุสัปปะมัตตา

    ( บุคคลเหล่านั้น ถึงจะยังเป็นผู้ประมาทอยู่มาก )

    นะ เต ภะวัง อัฏฐะมะมาทิยันติ

    ( แต่ท่านก็ย่อมไม่ถือเอา ซึ่งภพที่ ๘ )

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

    ( แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์ )

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

    ( ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด )



    สะหาวัสสะ ทัสสะนะสัมปะทายะ ตะยัสสุ ธัมมา ชะหิตา ภะวันติ,

    สักกายะทิฏฐิ วิจิกิจฉิตัญจะ สีลัพพะตัง วาปิ ยะทัตถิ กิญจิ

    สังโยชน์ ๓ ประการ คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา และสีลัพพตปรามาส

    ซึ่งเป็นกิเลสเครื่องผูกสัตว์ไว้ในภพ อันพระโสดาบันละได้แล้ว

    เพราะความถึงพร้อมแห่งญาณทัสนะ

    จะตูหะปาเยหิ จะ วิปปะมุตโต

    อนึ่ง พระโสดาบันเป็นผู้พ้นได้แล้ว จากอบายภูมิทั้ง ๔

    ฉะ จาภิฐานานิ อะภัพโพ กาตุง

    ทั้งไม่อาจที่จะทำอภิฐาน คือ ฐานะอันหนัก ๖ ประการ (คือ อนันตริยกรรม ๕ และการเข้ารีต)

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

    แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

    ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด

    กิญจาปิ โส กัมมัง กะโรติ ปาปะกัง กาเยนะ วาจายุทะ เจตะสา วา

    พระโสดาบันนั้น ยังทำความผิดเล็กน้อยทางกาย ทางวาจา หรือทางใจ อยู่บ้างก็จริง

    อะภัพโพ โส ตัสสะ ปะฏิจฉะทายะ

    ( แต่เมื่อทำแล้ว ท่านเปิดเผย ไม่ปกปิดความผิดนั้นไว้ )

    อะภัพพะตา ทิฏฐะปะทัสสะ วุตตา

    ( ความที่บุคคลเข้าถึงกระแสพระนิพพานแล้วเป็นผู้ไม่ปกปิดความผิดไว้นี้ อันเราตถาคตกล่าวแล้ว )

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

    ( แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่งในพระสงฆ์ )

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

    ( ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด )



    วะนัปปะคุมเพ ยะถา ผุสสิตัคเค คิมหานะ มาเส ปะฐะมัสมิง คิมเห

    ( พุ่มไม้ในป่า แตกยอดในเดือนคิมหันต์แห่งคิมหันตฤดูฉันใด )

    ตะถูปะมัง ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ

    ( พระตถาคตเจ้า ได้ทรงแสดงธรรมอันประเสริฐ )

    นิพพานะคามิง ปะระมังหิตายะ

    ( ซึ่งเป็นหนทางให้ถึงพระนิพพาน เพื่อประโยชน์อย่างยิ่งแก่สัตว์ทั้งหลาย ก็มีอุปมาฉันนั้น )

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

    แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

    ( ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด )

    วะโร วะรัญญู วะระโท วะราหะโร

    พระตถาคตเจ้า ทรงเป็นผู้ประเสริฐ ทรงเป็นผู้รู้สิ่งอันประเสริฐ

    ( ทรงเป็นผู้ให้สิ่งอันประเสริฐ ทรงเป็นผู้นำมาซึ่งสิ่งอันประเสริฐ )

    อนุตตะโร ธัมมะวะรัง อะเทสะยิ

    ( ทรงเป็นผู้ไม่มีใครยิ่งกว่า ได้ทรงแสดงแล้วซึ่งพระธรรมอันประเสริฐ )

    อิทัมปิ พุทเธ ระตะนัง ปะณีตัง

    ( แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระพุทธเจ้า )

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

    ( ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด )

    ขีณัง ปุราณัง นะวัง นัตถิ สัมภะวัง

    ( กรรมเก่า ของพระอริยบุคคลเหล่าใดสิ้นแล้ว กรรมสมภพใหม่ย่อมไม่มี )

    วิรัตตะจิตตายะติเก ภะวัสมิง

    ( พระอริยบุคคลเหล่าใด มีจิตอันหน่ายแล้ว ในภพต่อไป )

    เต ขีณะพีชา อะวิรุฬ หิฉันทา

    ( พระอรหันต์เหล่านั้น มีพืชคือวิญญาณสิ้นไปแล้ว ไม่มีความพอใจที่จะเกิดอีกต่อไป )

    นิพพันติ ธีรา ยะถายัมปะทีโป

    ( เป็นผู้มีปัญญา ย่อมนิพพาน เหมือนดังดวงประทีปที่ดับไปฉะนั้น )

    อิทัมปิ สังเฆ ระตะนัง ปะณีตัง

    ( แม้ข้อนี้ ก็เป็นรัตนคุณอันสูงส่ง ในพระสงฆ์ )

    เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหตุ

    ( ด้วยคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีเถิด )

    ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข.

    ( เหล่าภูตทั้งหลายทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี )

    ตะถาคะตัง เทวะสะนุสสะปูชิตัง พุทธัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ

    ( เราทั้งหลายจงนมัสการพระพุทธเจ้าผู้มาแล้ว อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสุขสวัสดีจงมีเถิด )

    ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข.

    ( เหล่าภูตทั้งหลายทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี )

    ตะถาคะตัง เทวะสะนุสสะปูชิตัง ธัมมัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ

    ( เราทั้งหลายจงนมัสการพระธรรมอันมาแล้ว อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสุขสวัสดีจงมีเถิด )

    ยานีธะ ภูตานิ สะมาคะตานิ ภุมมานิ วา ยานิวะ อันตะลิกเข.

    ( เหล่าภูตทั้งหลายทั้งที่อยู่ ณ ภาคพื้นก็ดี ทั้งที่อยู่ในอากาศก็ดี ที่มาชุมนุมกันอยู่ ณ สถานที่นี้ก็ดี )

    ตะถาคะตัง เทวะสะนุสสะปูชิตัง สังฆัง นะมัสสามะ สุวัตถิ โหตุ

    ( เราทั้งหลายจงนมัสการพระสงฆ์ผู้มาแล้ว อันเทวดาและมนุษย์บูชาแล้ว ขอความสุขสวัสดีจงมีเถิด )

    ที่มา...คุณน้ำใส http://palungjit.org/threads/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3-%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87-%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99.100079/
     
  17. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    รู้สึกว่า อากาศ มันร้อนๆยังไงไม่รู้ 555
     
  18. ผู้เตือน warn

    ผู้เตือน warn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +688


    She แรง!!


    คุณก็ไม่ธรรมดา


    บร์อดธรรมะ เพลาๆกันหน่อยก็ดี

    ผม Mr. Warning.
     
  19. สปาต้า

    สปาต้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +46
    เดียวจะเข้าใจผิด ที่โพสต์นี้ เรารู้สึกจริงๆไม่ได้เสียดสี นะ ไหนๆคุณ789654561 ก็ไม่ได้เข้ามาอ่านตรงนี้แล้ว เลยขออธิบายหน่อย

     
  20. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    เดี๋ยวเค้าก็มาอ่านฮะ เค้าอดใจไม่ไหวหรอก อิอิ

    กระทู้ผมเริ่มออกนอกเรื่องละ 5555
     

แชร์หน้านี้

Loading...