คุณชอบสวดมนต์บทใดมากที่สุด

ก็ชอบทุกบทอะครับ
เมื่อก่อนก็พลังยุทธน้อยก็พาหุงมหากา กับชินบัญชร ไปก่อน
หลังๆ แก่กล้า ก็สวดบทที่ยาวๆ มากขึ้นครับ
โดยเฉพาะ พระอาการวัตตาสูตร ครับ
เพราะอานิสงค์นั้นมากมาย
ในพลังจิตก็กล่าวไว้หลายกะทู้ครับ​

 

บทนี้ สรรเสริญพุทธคุณด้านต่างๆและช่วยคุ้มครองภัยนานา
มีอานุภาพเหมือนดวงอาทิตย์ 7 ดวงที่ขึ้นพร้อมกันในวันโลกาวินาศ ​

พระธารณะปริตร<O</O

​

<O</O
พุทธานัง ชีวิตัสสะ นะ สักกา เกนะจิ อันตราโย กาตุง ตถา เม โหตุ <O</O
อตีตังเส พุทธัสสะ ภควโต อัปปฏิหะตะญานัง,<O</O
อนาคะตัง เส พุทธัสสะ ภควโต อัปปฏิหะตะญานัง,<O</O
ปัจจุปปันนัง เส พุทธัสสะ ภควโต อัปปฏิหะตะญานัง,<O</O
อิเมหิ ตีหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภควโต<O</O
<O</O
อันพระชนม์ชีพของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย บุคคลใดไม่อาจกระทำอันตรายได้ฉันใด <O</O
ขออันตรายทั้งปวงจงอย่ามีแก่ข้าพเจ้าเช่นเดียวกัน<O</O
ทรงมีพระญาน ทั้งอดีต อนาคต และปัจจุบันที่ไม่มีเครื่องกระทบ ไม่มีการปิดกั้น ไม่มีถดถอย <O</O
ทรงเป็นผู้มีพระคุณสมบูรณ์ด้วยพระญานทั้ง3 ดังกล่าวแล้วนี้ <O</O
สัพพัง กายะกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง,<O</O
สัพพัง วจีกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง,<O</O
สัพพัง มโนกัมมัง ญาณะปุพพังคะมัง ญาณานุปริวัตตัง,<O</O
อิเมหิ ฉะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะภควโต <O</O
กายกรรมทั้งปวง วจีกรรมทั้งปวง มโนกรรมทั้งปวง ของพระองค์ <O</O
ทรงมีพระญานเป็นเครื่องนำเป็นไปตามลำดับพระญาน <O</O
ทรงเป็นผู้มีพระคุณสมบูรณ์ด้วยพระญานทั้ง6 ดังกล่าวแล้วนี้<O</O

นัตถิ ฉันทัสสะ หานิ,นัตถิ ธัมมะเทสะนายะ หานิ,นัตถิ วีริยัสสะ หานิ<O</O
นัตถิ วิปัสสะนายะ หานิ,นัตถิ สมาธิสสะ หานิ,นัตถิ วิมุตติยา หานิ<O</O
อิเมหิ ทวาทะสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภควโต <O</O

ความเสื่อมถอยลงของพระพุทธประสงค์ ย่อมไม่มี<O</O
ความเสื่อมถอยลงของการแสดงธรรม ย่อมไม่มี<O</O
ความเสื่อมถอยลงแห่งความเพียร ย่อมไม่มี<O</O
ความเสื่อมถอยลงของวิปัสสนาญาณ ย่อมไม่มี<O</O
ความเสื่อมถอยลงของสมาธิ ย่อมไม่มี<O</O
ความเสื่อมถอยลงของความสุขในอรหัตผล ย่อมไม่มี<O</O
พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้มีพระคุณ สมบูรณ์ด้วยคุณธรรมทั้ง 12 ประการ ดังกล่าวแล้วนี้<O</O
<O</O
นัตถิ ทวา, นัตถิ รวา,นัตถิ อัปผุฏตัง, นัตถิ เวคายิตัตตัง<O</O
นัตถิ อัพยาวะฏะมโน,นัตถิ อัปปฏิสังขารุเปกขา,<O</O
อิเมหิ อัฏฐาระสะหิ ธัมเมหิ สะมันนาคะตัสสะ พุทธัสสะ ภควโต <O</O
นโม สัตตันนัง สัมมาสัมพุทธานัง.<O</O
<O</O
พระพุทธองค์ผู้ทรงสมบูรณ์ด้วยคุณธรรม ดังนี้ <O</O
การหัวเราะสรวลเสเฮฮา ย่อมไม่มี<O</O
การพูดพลั้งเผลอโดยขาดสติ ย่อมไม่มี <O</O
พระธรรมที่มิได้สัมผัสด้วยพระญาณ ย่อมไม่มี<O</O
การหุนหันพลันแล่นขาดวิจารณญาณ ย่อมไม่มี<O</O
การปล่อยใจเหม่อลอยขาดสติ ย่อมไม่มี<O</O
การเพ่งเฉยโดยปราศจากการพิจารณา ย่อมไม่มี<O</O
พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยคุณธรรมทั้ง 18 ประการ ดั้งกล่าวแล้วนี้ <O</O
ข้าพเจ้าขอน้อมไหว้ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้ง 7 พระองค์<O</O
<O</O
นัตถิ ตถาคะตัสสะ กายะทุจริตตัง,<O</O
นัตถิ ตถาคะตัสสะวจีทุจริตตัง,<O</O
นัตถิ ตถาคะตัสสะ มโนทุจริตตัง,<O</O
การประพฤติไม่ดี ที่เรียกว่า กายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริต ย่อมไม่มีแก่พระพุทธเจ้าซึ่งเป็น<O</O
ผู้เสด็จมาดีแล้ว เหมือนดังพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ<O</O

นัตถิ อตีตังเส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปฏิหะตะ ญานัง,<O></O
นัตถิ อนาคะตัง เส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปฏิหะตะ ญานัง,<O</O
นัตถิ ปัจจุปันนังเส พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปฏิหะตะ ญานัง,<O</O
พระญานที่เป็นไปในส่วนอดีต อนาคต และปัจจุบันซึ่งมีการปกปิด กีดกั้น ถดถอยไม่มีแก่พระพุทธเจ้า<O</O

นัตถิ สัพพัง กายะกัมมัง ญาณานุปุพพังคะมัง ญานัง นานุปริวัตตัง,<O</O
นัตถิ สัพพัง วจีกัมมัง ญาณานุปุพพังคะมัง ญานัง นานุปริวัตตัง,<O</O
นัตถิ สัพพัง มโนกัมมัง ญาณานุปุพพังคะมัง ญานัง นานุปริวัตตัง,<O</O
กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมที่ไม่มีพระญานเป็นประธาน ไม่เป็นไปตามพระญาน ย่อมไม่มีแก่พระพุทธองค์
<O</O
อิมัง ธาระนัง อะมิตัง อะสะมัง, สัพพะสัตตานัง ตาณัง เลณัง,<O</O
สังสาระ ภะยะภีตานัง อัคคัง มหาเตชัง.<O</O
อิมัง อานันทะ ธารณะปริตตัง ธาเรหิ วาเรหิ ปริปุจฉาหิ,<O</O
<O</O
พระธารณะปริตรที่ได้สาธยายเป็นประจำนี้ ไม่มีอะไรเสมอเหมือน เป็นที่พึ่งพิงอาศัยของสรรพสัตว์ทั้งหลายผู้กลัวภัยในวัฏสงสาร ดูก่อนอานนท์ เธอจงท่องสาธยายพระธารณะปริตรนี้ จงสอนและให้สอบถามพระคาถาอันประเสริฐยิ่ง มีเดชมากนี้เถิด<O</O
ตัสสะ กาเย วิสัง นะ กะเมยยะ อุทะเก นะ ลัคเคยยะ อัคคิ นะ ฑะเหยยะ, นานาภะยะวิโก,<O</O
นะ เอกาหาระโก, นะ ทวิหาระโก, นะ ติหาระโก, นะ จตุหาระโก, <O</O
นะ อุมมัตตะกัง, นะ มูฬะหะกัง, มนุสเสหิ อะมนุสเสหิ นะ หิงสะกา.<O</O
<O</O
ผู้สวดมนต์นี้เป็นประจำไม่ตายด้วยพิษงู พิษนาค ไม่ตายในน้ำ ในไฟ เป็นผู้พ้นภัยนานา ใครคิดทำร้ายวันเดียวไม่สำเร็จ สองวัน สามวัน สี่วันก็ไม่สำเร็จ ไม่เป็นโรคบ้าฟุ้งซ่าน ไม่หลงสติ มนุษย์ อมนุษย์ทั้งหลาย ไม่สามารถทำร้ายหรือเบียดเบียนได้<O</O
<O</O
ตัง ธารณะปริตตัง ยะถา กะตะเม ชาโลมหาชาโล, ชาลิตเตมหาชาลิตเต, ปุคเคมหาปุคเค,<O</O
สัมปัตเตมหาสัมปัตเต,ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง,<O</O
อันว่าพระธารณะปริตรนี้ศักดิ์สิทธิ์อย่างไร<O</O
- มีอานุภาพ เหมือนพระอาทิตย์ 7 ดวงขึ้นพร้อมกันในเวลาโลกาวินาศ <O</O
- มีฤทธิ์เดชเหมือนตาข่ายเหล็กกางกั้นภัยจาก เทวดา นาคา ครุฑ ยักษ์ รากษส เป็นต้น<O</O
- สามารถป้องกันอันตรายที่เกิดจากน้ำ ไฟ พระราชา โจร ศัตรูทั้งหลาย<O</O
- มีอานุภาพให้พ้นจากกัปทั้ง3 คือ โรคันตรกัป สัตถันตรกัป และ ทุพภิกขันตรกัป<O</O
- มีอานุภาพให้พ้นจากโรคต่างๆในขณะปฏิสนธิ คือเป็นใบ้ บอด หนวก เป็นบ้าฟุ้งซ่าน และไม่ ตกต้นไม่ ตกเขา ตกเหวตาย<O</O
- สามารถได้สมบัติที่ยังไม่ได้ ทรัพย์สมบัติที่ได้แล้วก็เจริญเพิ่มพูนขึ้น<O</O
- สามารถกำจัดความมืด ให้เข้าถึงความสว่างได้<O</O

อิมัง โข ปนานันทะ ธารณะปริตตัง สัตตัง สัตเตหิ สัมมาสัมพุทธะโกฏีหิ ภาสิตัง,<O</O
วัตเตอะวัตเต, คันธะเวอะคันธะเว, โนเมอะโนเม, เสเวอะเสเว,<O</O
กาเย, อะกาเย, ธาระเณ, อะธาระเณ, อิลลิ, มิลลิ, ติลลิ, มิลลิ,<O></O
โยรุกเข, มหาโยรุกเข,ภูตัง คะมะหิ ตะมังคะลัง,<O</O
- ดูก่อนอานนท์ พระธารณะปริตรนี้ อันพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย 77 โกฏิ ตรัสไว้ว่า:<O</O
- พึงทำประโยชน์ที่ดี ไม่พึงทำประโยชน์ที่ไม่ดี<O</O
- พึงนำมาซึ่งกลิ่นรสแห่งธรรมะที่ดี ไม่นำมาซึ่งธรรมะที่ไม่ดี<O</O
- พึงน้อมนำมาซึ่งจิตใจดี ไม่น้อมนำมาซึ่งจิตใจร้าย<O</O
- พึงสมาคมกับคนดี ไม่พึงสมาคมกับคนไม่ดี<O</O
- พึงทำกายให้เป็นกายดี ไม่ทำให้เป็นกายร้าย<O</O
- พึงนำมาแต่การกระทำที่เป็นฝ่ายดี ไม่นำมาซึ่งการกระทำไม่ดี<O</O
- พึงหลับฝันเห็นแต่สิ่งดี ไม่พึงหลับฝันร้าย<O</O
- พึงเห็นอดีตนิมิตที่ดี ไม่พึงเห็นอดีตนิมิตที่ไม่ดี<O</O
- ต้นไม้ที่ตายแล้วสามารถฟื้นคืนมาได้<O</O
- ต้นไม้ที่ยังเป็นอยู่ก็ทำให้เจริญงอกงาม<O</O
- สามารถกำจัดความมืด ให้เข้าถึงความสว่างได้ <O</O
อิมัง โข ปะนานันทะ ธาระณะปริตตัง นะวะนะ วุติยา สัมมาสัมพุทธะโกฏิหิ ภาสิตัง,<O></O
ทิฏฐิลา ทัณฑิลา มันติลา โรคิลา ขะระลา ทุพภิลา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา. <O</O
ดูก่อนอานนท์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 99 โกฏิ ได้ตรัสแสดงไว้ว่าพระธารณะปริตรนี้ช่วยให้:<O</O
- รู้ความคิดร้ายของผู้อื่น<O</O
- แคล้วคลาดจากอาวุธเครื่องประหารทุกชนิด<O</O
- สามารถทำให้เวทมนต์คาถาศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น<O</O
- กำจัดปัดเป่าอันตรายจากโรคต่างๆได้<O</O
- รอดปลอดภัยจากโรคร้ายแรง<O</O
- หลุดพ้นจากเครื่องจองจำ พันธนาการได้<O</O
ด้วยอำนาจแห่งสัจจะวาจานี้ ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ข้าพเจ้าทุกเมื่อเทอญ

*พระปริตร ต่าง ๆ ไม่คุ้มครองคน3 พวก
1.คนมีความเห็นผิด 2.คนทำอนันตริยกรรม 3.คนที่ไม่เชื่อในอานุภาพพระปริตร
**ผู้สวดควรมีคุณสมบัติ 3 ประการคือ
1. สวดให้ถูกอักขระ 2. รู้ความหมาย 3. มีความเมตตาแก่ผู้ฟัง <O</O

 

อิติปิโส 8 ทิศ....ยอดมงกุฎพระพุทธเจ้า.....ขึ้นเขาลงห้วย...เดินป่า....ไปในทุกทิศ...ทุกทางใช้ได้ตลอด....พุทธคุณสุดยอด

 

ลุงคนเก่าคะ...ลุงใช้เวลาสวดมนต์กี่ ชม. /day คะ

 

บทนี้ สรรเสริญพุทธคุณด้านต่างๆและช่วยคุ้มครองภัยนานา
มีอานุภาพเหมือนดวงอาทิตย์ 7 ดวงที่ขึ้นพร้อมกันในวันโลกาวินาศ



พระธารณะปริตร<O</O

​

คุณธัมมนัตา คะ บทสวดของคุณน่าสนใจมากๆค่ะ หาฟังได้จากไหนคะ

 

มีใครนิยมทำวัตรเช้าระหว่างขับรถไปทำงานเหมือน onlyone บ้างมั้ยคะเนี่ย
(b-smile)

เสียดายไม่มีใครชอบสวดโอวาทปาติโมกข์เลย....คิดว่าจะเจอเนื้อคู่ซะละ
หุหุ

 

ที่ชอบเป็นพิเศษสำหรับผม คือ พระปริต ครับ โดยเฉพาะ มงคลสุตตะปริต จะเปิด CD และสวดพร้อมกันไป เวลาขับรถไปทำงาน

 

ผมสวดบทนี้สลับกับชินบัญชร

http://www.kanlayanatam.com/sara/sara32.htm

 

ใครชอบสวดบทนี้เหมือนสมัยเด็กๆมั้ยคะ ....จนมาถึงบัดนี้ สวดทีไร ได้น้ำตาทุกที .........

สวดบทพระพุทธคุณ
[SIZE=-1] อิติปิโส ภควา อรหํ สมฺมา สมฺพุทฺโธ วิชฺชาจารณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถาเทวมนุสสานํ พุทฺโธ ภควาติ[/SIZE]
[SIZE=-1] (สวดทำนองสรภัญญะ)[/SIZE] <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD>[SIZE=-1] องค์ใดพระสัมพุทธ[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] สุวิสุทธสันดาน[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1] ตัดมูลเกลศมาร[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] บ มิหม่น มิหมองมัว[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1] หนึ่งในพระทัยท่าน[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] ก็เบิกบานคือดอกบัว[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1] ราคี บ พันพัว[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] สุวคนธกำจร[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1] องค์ใดประกอบด้วย[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] พระกรุณาดังสาคร[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1] โปรดหมู่ประชากร[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] มละโอฆกันดาร[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1] ชี้ทางบรรเทาทุกข์[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] และชี้สุขเกษมสานต์[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1] ชี้ทางพระนฤพาน[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] อันพ้นโศกวิโยคภัย[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1] พร้อมเบญจพิธจัก[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] ษุจรัสวิมลใส[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1] เห็นเหตุที่ใกล้ไกล[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] ก็เจนจบประจักษ์จริง[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1] กำจัดน้ำใจหยาบ[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] สันดานบาปแห่งชายหญิง[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1] สัตว์โลกได้พึ่งพิง[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] มละบาปบำเพ็ญบุญ[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1] ข้าขอประณตน้อม[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] ศิระเกล้าบังคมคุณ[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1] สัมพุทธการุญ[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1] ญภาพนั้นนิรันดร ฯ (กราบ)[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ตอนนี้ภาวนา สัมปจิตฉามิ สลับกับคาถาเงินล้านป็นประจำครับ

(b-smile) ​

 

ทำวัตรเย็นและธรรมจักร
ท่อนที่ชอบมากเป็นพิเศษ พุทโธ สุสุทโธ กรุณา มหัณณโว พระพุทธเจ้าผู้บริสุทธิ์ มีพระกรุณาดุจห้วงมหรรณพ และ บทที่ขึ้นว่า ชะราธัมโมมหิ
บทที่ชอบฟัง(หลวงพ่อจรัญสวด ยถา วาริวหา ปุรา ปริปูเรนติสาครํ.... เพราะดี)

 

โมทนาค่ะ (kiss)

 

.....รักไม่ยุ่ง มุ่งนิพพาน......

กู๊ดไอเดียค่ะคุณ pong-sit​

<!-- / sig -->

 

บทนี้สวดกันมากในพม่าและภาคเหนือ พระธุดงค์ไทยท่านได้มาขณะทำวัตรร่วมกัน และได้เผยแผ่ เรื่อยมาตั้งแต่ประมาณ2526

พระไทยทั่วไปแถบภาคอื่นจึงไม่ค่อยมีนำมาสวดนัก แต่ผมได้สวดเองแล้วรู้สึกมีพลังจากมนตร์บทนี้

อาจนำบางบาท สั้น ๆ เช่น

ทิฏฐิลา ทัณฑิลา มันติลา โรคิลา ขะระลา ทุพภิลา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เม โหตุ สัพพะทา.

นำมาสวดไว้ป้องกันตัวยามฉุกเฉินได้

ไม่ทราบที่ไหนมีไฟล์เสียง สวดเองดีที่สุดครับ

 

ไว้จะลองหัดสวดค่ะคุณธัมมนัตา ขอบคุณนะคะที่นำมาบอกกล่าวกัน

 

สวดบทพระพุทธคุณ
[SIZE=-1]อิติปิโส ภควา อรหํ สมฺมา สมฺพุทฺโธ วิชฺชาจารณสมฺปนฺโน สุคโต โลกวิทู อนุตฺตโร ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถาเทวมนุสสานํ พุทฺโธ ภควาติ[/SIZE]
[SIZE=-1](สวดทำนองสรภัญญะ)[/SIZE] <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD>[SIZE=-1]องค์ใดพระสัมพุทธ[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]สุวิสุทธสันดาน[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]ตัดมูลเกลศมาร[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]บ มิหม่น มิหมองมัว[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]หนึ่งในพระทัยท่าน[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]ก็เบิกบานคือดอกบัว[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]ราคี บ พันพัว[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]สุวคนธกำจร[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]องค์ใดประกอบด้วย[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]พระกรุณาดังสาคร[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]โปรดหมู่ประชากร[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]มละโอฆกันดาร[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]ชี้ทางบรรเทาทุกข์[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]และชี้สุขเกษมสานต์[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]ชี้ทางพระนฤพาน[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]อันพ้นโศกวิโยคภัย[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]พร้อมเบญจพิธจัก[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]ษุจรัสวิมลใส[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]เห็นเหตุที่ใกล้ไกล[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]ก็เจนจบประจักษ์จริง[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]กำจัดน้ำใจหยาบ[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]สันดานบาปแห่งชายหญิง[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]สัตว์โลกได้พึ่งพิง[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]มละบาปบำเพ็ญบุญ[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]ข้าขอประณตน้อม[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]ศิระเกล้าบังคมคุณ[/SIZE]</TD></TR><TR><TD>[SIZE=-1]สัมพุทธการุญ[/SIZE]</TD><TD>[SIZE=-1]ญภาพนั้นนิรันดร ฯ (กราบ)[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / message -->

บทนี้ก็ชอบเหมือนกันค่ะ คุณ onlyone อาจจะจำบทท่องไม่ได้แม่นนัก แต่ทำนองนี่จำได้แม่นเลยหล่ะ ท่องแล้วคิดถึงครั้งที่อยู่ประถมเลยค่ะ คุณครูจะพานักเรียนท่องทุกวันศุกร์ ตอนนั้นไม่คิดอะไร เบื่อ เพราะมันยาว อยากให้โรงเรียนเลิกเร็วๆ แต่ตอนนี้รู้เลยว่า บทสวดมนต์บทนี้มันหยั่งลึกถึงก้นบึ้งหัวใจ ผสมอยู่ในเลือดเนื้อเลย ถึงแม้เราจะไม่ได้สวดทุกวัน แต่ลองขึ้นทำนองหน่อยนึง มันไปเลย สวดได้เลย (kiss)

 

บทพระมหาจักรพรรดิ์ ครับ

 

โมทนาค่ะ

Rx = เป็นเภสัชกรรึปล่าวคะ?[b-nurse]

 

ใครชอบสวดบทนี้ยกมือขึ้น

คำไหว้บารมี 30 ทัศ(แบบครูบาศรีวิชัย)

ทานะ ปาระมี สัมปันโน , ทานะ อุปะปารมี สัมปันโน , ทานะ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา
สีละ ปาระมี สัมปันโน , สีละ อุปะปารมี สัมปันโน , สีละ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา
เนกขัมมะ ปาระมี สัมปันโน , เนกขัมมะ อุปะปารมี สัมปันโน , เนกขัมมะ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา
ปัญญา ปาระมี สัมปันโน , ปัญญา อุปะปารมี สัมปันโน , ปัญญา ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา
วิริยะ ปาระมี สัมปันโน , วิริยะ อุปะปารมี สัมปันโน , วิริยะ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา
ขันตี ปาระมี สัมปันโน , ขันตี อุปะปารมี สัมปันโน , ขันตี ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา
สัจจะ ปาระมี สัมปันโน , สัจจะ อุปะปารมี สัมปันโน , สัจจะ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา
อะธิฏฐานะ ปาระมี สัมปันโน , อะธิฏฐานะ อุปะปารมี สัมปันโน , อะธิฏฐานะ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา
เมตตา ปาระมี สัมปันโน , เมตตา อุปะปารมี สัมปันโน , เมตตา ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา
อุเปกขา ปาระมี สัมปันโน , อุเปกขา อุปะปารมี สัมปันโน , อุเปกขา ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา
ทะสะ ปาระมี สัมปันโน , ทะสะ อุปะปารมี สัมปันโน , ทะสะ ปะระมัตถะปารมี สัมปันโน
เมตตา ไมตรี กะรุณา มุทิตา อุเปกขา ปาระมีสัมปันโน , อิติปิ โส ภะคะวา
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ นะมามิหัง

 

อิติปิโส