ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

รูปจารหนุ่ยดีจัง ถ่ายรูปคนจากอ้วนเป็นผอมหมดเลย เอาใจนางแบบนายแบบกันน่าดู

 

จารเม้าท์อ้อนซะขนาดนี้ เห็นทีจารหนุ่ยจะปฏิเสธไม่ลงซะแล้ว เอิ๊ก เอิ๊ก

 

มีเรื่องมาเล่าให้ฟังครับ

สืบเนื่องมาจากงานลงนะของหลวงปู่คำเป็ง ที่ บ้านพุทธามหาเวท
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สมาชิกเรียกร้องอยากให้มีการสแกนกรรมด้วย
เพราะรู้ว่าผมจะต้องไปกราบถวายปัจจัยให้กับหลวงปู่

มีพี่สาวของน้องสาวท่านหนึ่งโทรมาหาผมในวันนั้น
บอกว่า ได้ลงชื่อให้น้องสาวมาสแกนกรรม ที่พุทธาฯในวันที่ ๗ กุมภา
แต่ชักไม่แน่ใจ เนื่องจากน้องสาวได้ไปสแกนกรรมมาหลายที่
หมดเงินไปก็มากหลาย แต่ก็ไม่เห็นดีขึ้น นึกสงสารน้องสาวเป็นอย่างมาก
ไม่ทราบว่า งานที่พุทธามหาเวท ครั้งนี้ ต้องเสียปัจจัยเท่าไร

ผมได้บอกไปว่า ทั้งสแกนกรรม รักษาโรค
ไม่ต้องเสียปัจจัย เงินทอง แต่อย่างใด ทั้งหมดทั้งสิ้น
ทางกลุ่มประสานงานฯ(เขากะลา) ทำกิจกรรมเช่นนี้ขึ้นมา
ด้วยความรัก ความเมตาที่มีต่อกัน ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
แม้แต่ค่ารถ ค่าเดินทางของบรรดาเหล่าอาจารย์ ที่เขาสมมุติเรียกกันขึ้นมา
ก็ต้องออกค่าเดินทางมากันเอง บ้างก็อยู่ไกล บ้างก็อยู่ใกล้
แต่ก็ไม่เคยมีปัญหา เนื่องจาก เป็นงานระบบ
ระบบ เขาก็จัดสรร ให้ได้อย่างลงตัว

แม้แต่ บก.พุทธามหาเวท จะขอร้องให้มีการรับบริจาคค่าใช้จ่าย
จากผู้มาร่วมงาน ทางกลุ่มฯ ก็ยังต้องขอปฏิเสธ หากเป็นการรับมาเพื่อใช้ส่วนตัว ก็จะปฏิเสธทั้งสิ้น

ดังนั้น ขอให้ผู้ที่มีความทุกข์กาย ทุกข์ใจ ทุกข์จากปัญหาติดขัดในการปฏิบัติธรรม
สบายใจ คลายความคลางแคลงสงสัยในเรื่องเหล่านี้ไปได้เลย
มาแต่ตัว มาถึงแล้ว บก.สุรศิลป์ ก็ยังมีอาหารเลี้ยงฟรีตั้งแต่เช้ายันเลิกงาน
มีกาแฟ โอวัลติน ให้ชงกินกันเองตามอัธยาศัยตลอดวัน

ผมไปมาแล้ว บก.สุรศิลป์ ท่านเป็นคนดี มีเมตตา
ไม่เอาเปรียบใคร ไม่เบียดเบียนเบียดบังเอาทรัพย์ของใคร
และไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเป็นอันขาด

ทุกคนที่ก้าวเข้ามาในบ้านพุทธามหาเวท
ต่างมีความรู้สึกอบอุ่น เป็นกันเอง เหมือนพี่เหมือนน้อง
ที่เอื้ออาทรต่อกันและกัน

เปรียบไปก็เหมือนกับการซักซ้อม ให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน
เมื่อภัยพิบัติมาถึง ความรักและความเมตตาที่เราท่านเคยได้รับ
ก็จะฝังจิต ฝังใจ ให้เกิดผลแห่งการอยู่ร่วมกันโดยสันติ และปลอดภัยได้ในที่สุด

 

เสียงหัวเราะ ของจารย์กัลยา มันคุ้นหูยังไงชอบกล เอิ๊ก เอิ๊ก






<TABLE class=tborder id=threadslist cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY id=threadbits_forum_2><TR><TD class=alt1 id=td_threadtitle_86674 title="">ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) (46 คน กำลังดูอยู่) ( 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
สุดใจเขากะลา
</TD><TD class=alt2 title="จำนวนตอบ: 12,782, จำนวนอ่าน: 669,893">

วันนี้ 10:50 AM​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เมื่อเช้าเดินออกไปทิ้งขยะเเล้วมีคนเอาใบปลิวมาเสียบไว้หน้าประตูบ้าน

เห็นว่าน่าสนใจเลยเอามาช่วยประชาสัมพันธ์บอกต่อค่ะ (พิมพ์สดๆ เสร็จเมื่อกี้ค่ะ)

คนไหนอยู่เเถวเพชรเกษม ไม่น่าพลาดนะคะ

6-7 ก.พ.53 วัดประดู่ในทรงธรรม

~จัดพิธีขอขมาวิญญาณเด็กถูกทำเเท้ง~
​

ภาพประกอบจากอินเตอร์เนต

วัดประดู่ในทรงธรรม
​

ขอเชิญไหว้พระปิดทอง หลวงพ่อใหญ่ เเละ หลวงพ่อพระอาทิตย์ พระศักดิ์สิทธิ์ ในอุโบสถสมัยพระเจ้าอู่ทอง เเละร่วมพิธีมหามงคลสะเดาะเคราะหฺปีชง ปี 53

มีปีขาล ปีวอก ปีมะเส็ง ปีกุน หรือท่านที่อายุ 6 15 24 33 42 51 66 75 84 93 เป็นอริกับปีขาลโดยตรง

มีดาวอัปมงคลเพ่งเล็งอยู่หลายดวงโชคชะตาจึงตกต่ำมัวหมองเกิดเรื่องร้ายมากกว่าดี ถูกอุปสรรครุมเร้า เงินทองไหลออก

การงานไม่เจริญก้าวหน้า ต้องระวังอุบัติเหตุเเละเคราะห์ภัยต่างๆ หรือท่านที่เกิดวันเดือนปีราศีต่างๆมาทำพิธี ให้ปราศจากเคราะห์กรรมอันตราย

เพื่อความเจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองในชีวิต เเละ ครอบครัว โดยทางวัดได้นิมนต์ พระสงฆ์มหานาคจากวัดโพธิ์ท่าเตียน

ชุดเดียวกับที่สวดออกรายการบันทึกลึกลับทางช่อง 5 มาทำพิธีสวดภาณยักษ์ใหญ่

พิธีเป่ายันต์เกราะเพชร พิธีครอบเศียรพ่อเเก่ พระพิฆเณฆ พิธีบูชา-รับส่งพระราหู พิธีสวดนพเคราะห์ สวดอาพาธพินาศ บังสุกุลตาย-บังสุกุลเป็น

สวดภาณยักษ์ใหญ่ สวดนพเคราะห์ บูชารับ-ส่งพระราหูด้วยของดำ 8 อย่าง

เพื่อเเก้เคล็ดอาถรรพ์ บันดาลโชคลาภ เนื่องจากราหูย้อนศร จากราศีมังกรไปสู่ราศีธนู

แก้เคล็ดอาถรรพ์ปีชง หรือท่านที่เกิด วัน เดือน ปี ราศีต่างๆไม่ดี หรือมีเคราะห์กรรมต่างๆ

เช่น ดวงไม่ดี ถูกคุณไสย์ ถูกลมเพลมพัด ถูกผีเข้าเจ้าสิง โดนเสน่ห์ยาเเฝด ถูกมนต์ดำ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ นอนสะดุ้ง นอนผวา

นอนหลับฝันร้าย สามวันดีสี่วันร้าย ทำงานไม่ก้าวหน้า การค้าไม่ก้าวไกล เจ้านายไม่รัก จิตใจเศร้าหมอง

มีเเต่เรื่องเืดือดร้อนเสียทรัพย์สินเงินทองตลอดมาเเละป้องกันอาถรรพ์สิ่งไม่ดีจากหมายเลขโทรศัพท์มรณะ

เพื่อความสบายใจ เชิญเข้าพิธีนี้เพื่อเสริมบารมี เพื่อความเป็นสิริมงคล เเละความเจริญรุ่งเรืองในปี 53

ในงานนี้ทางวัดได้จัด พิธีขอขมาวิญญาณเด็กถูกทำเเท้ง โดยถวายสังฆทานชุดเด็ก

เเละพระสงฆ์สวดมาติการบังสุกุล ด้วยการเขียนชื่อนามสกุลเด็กทีทำเเท้งเเล้วบังสุกุลตาย โดยเผาชื่อนามสกุล

เเล้วกรวดน้ำให้เเก่วิญญาณเขาเเละทำพิธีซิโกวเด็ก ร่วมถวายมหาสังฆทาน ตัดวิบากกรรม

เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เเละญาติผู้ล่วงลับ คนอันเป็นที่รักเพื่อไปสู่สุขคติภพที่ดี

ผู้ที่ทำเเท้งลูก จะทำโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม เเม้กระทั่งหมอ พยาบาล ผู้ร่วมให้เงินเป็นธุระพาไป เห็นดีด้วย

จะเป็นตราบาปมาก วิญญษณเด็กจะอาฆาตเเรงมาก เพราะเขารอที่จะเกิดเเต่พรากชีวิตเขา

เพราะดวงวิญญาณไม่สามารถกลับโลกเดิมได้ ต้องเวียนว่ายอยู่ในสภาพมีเเต่วิญญาณ ไม่มีร่างกาย จนกว่าจะศูนย์ ดุลยกรรม

เพราะเขารอที่จะเกิดเป็นมนุษย์เเสนยาก ต้องการมาสร้างบารมีใช้กรรม ฉะนั้นผู้กระทำควรทำบุญ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล

เช่น ถวายมหาสังฆทานชุดเด็ก พระปางสดุ้งมาร ผ้าไตรจีวร ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ เเผ่เมตตาให้กับเขา

วิญญาณเหล่านี้เขาจะได้ไปเกิดใหม่ ถ้าไม่หมั่นสร้างบารมีให้เขา ก็ไม่สามารถจะไปเกิดใหม่ได้ เเละผู้กระทำจะทำมาหากินไม่ขึ้น

จะมีเเต่เรื่องเเตกร้าว ทุกข์ผิดหวังความรัก ลาภก็ถูกปิดกั้น ถ้าเขารู้ว่าเรารักใคร เขาก็จะทำให้รู้ว่า กาีรพลัดพรากจากกัน

ความสูญเสียเป็นอย่างไร เหมือนที่เราได้พรากชีวิตเขา ถ้าเราดวงตกเขายิ่งซ้ำเติม ดวงวิญญาณจะมาอยู่ตามร่างกายให้เป็นโน่นเป็นนี่

เจ็บไข้ได้ป่วย สามีเจ้าชู้ ติดการพนัน ลูกติดยา วิญญาณเหล่านี้ เขาจะดลใจให้เป็นไป เเละให้ทำในสิ่งไม่ดี

เเก้กรรมเสร็จเเล้วต้องหมั่นทำความดี กตัญญูต่อบิดาเเละผู้มีพระคุณ จากกรรมหนักจะกลายเป็นเบา ถ้ากรรมเบาก็จะหายไป

ณ วัดประดู่ในทรงธรรม

ถ. เพชรเกษม ซ.15 สี่เเยกท่าพระ

เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ

(ทางเข้าเดียวกับวัดประดู่ฉิมพลี)

วันที่ 6-7 กุมภาพันธ์ 2553

ช่วงเช้าเริ่มทำพิธีเวลา 11.39 - 13.39 น.

ช่วงเย็นเริ่มทำพิธีเวลา 17.39-19.39 น.

ดังนั้นทางวัดจึงขอเชิญท่านเข้าร่วมพิธี ขอขมากรรมเด็ก สวดส่งวิญญาณโดยสังฆทานชุดเด็ก สวดภาณยักษ์ใหญ่

เป่ายันต์เกราะเพชร สวดนพเคราะห์ บูชารับ-ส่งพระราหู ครอบเศียรพ่อเเก่ เศียรพระพิฆเณฆ เทพเจ้าเเห่งความสำเร็จ

เพื่อความเป็นสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรื่องในชีวิตเเละหน้าที่การงาน เสริมบารมีแก่ตนเองเเละครอบครัว

ท่านที่มาเข้าพิธี ทางวัดเเจกฟรี เบี๊ยเเก้จนของหลวงพ่อน้อย วัดชัยมงคล

ทางวัดได้เตรียม สังฆทานชุดเด็ก พระปางสดุ้งมาร ผ้าไตรจีวร ซิโกวเด็ก เเละ ของใช้ในพิธีไว้ให้เเล้ว

ท่านที่เป็นร่างทรง องค์เทพ สักว่าน สักน้ำมัน สักหัวใจจากสำนักต่างๆ มาเข้าพิธีเพื่อเสริมบารมีให้กับตนเอง

สอบถามพิธี โทร.087-082-4927 หรือ 081-404-8251

วัตถุประสงค์: เพื่อหายรายได้สร้างกุฏิหลังใหม่
​

 

เมื่อปู่ลอง มาขอดูกรรม

เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓๑ มกราคม ๕๓
ปู่ลอง ได้มาพบที่บ้านพุทธามหาเวท
มากราบหลวงปู่คำเป็ง และขอดูกรรม

ได้พาปู่ลอง(ไว้หนวดเคราขาวเหมือนปู่ชีวก)
ไปห้องหลังบ้าน แล้วนั่งกับพื้นดูกรรม ทันที

ระบบ ส่งภาพเปรตตัวสูงยาว แต่หัวเล็กนิดเดียว มาให้ชม
จึงถามปู่ลอง ไปว่า ทำไมเปรต ถึงมาให้เห็น
ปู่ลอง บอกว่า ก็ไม่รู้เหมือนกัน
ถามปู่ลองไปอีกว่า ปู่อยากรู้ไหม ถ้าอยากรู้ว่าเปรต มาจากไหน
ปู่ก็อธิษฐาน ขอรู้เอาเอง เพราะเป็นการดูกรรมของปู่เอง

ปู่ลองตอบรับอยากรู้ แล้วนั่งหลับตา อธิษฐานขอทราบ
ความเป็นมาของเปรตตนนี้

ชั่วอึดใจเดียว
มีภาพชายชราหนวดเคราสีขาว นอนอยู่ภายในถ้ำ
มีผ้าห่มคลุมตัวอยู่
สักพักชายชราดังกล่าว ก็ลุกขึ้นมานั่ง
ผ้าห่มหลุดมากองที่ตัก
มองเห็นร่างกายของชายชรา กำลังซูบผอมลงๆๆ
แล้วตัวก็ค่อยๆยืดยาวสูงขึ้นๆ
มองภาพแล้ว คือเปรตชัดๆ

เมื่อบอกกล่าวเล่าภาพที่เห็นให้ปู่ลอง ทราบแล้ว
ปู่ลอง มีท่าทางซึมไปเล็กน้อย แล้วกล่าวว่า
เข้าใจแล้วๆ มันเป็นอย่างนี้เอง

ปู่ลองบอกว่า ช่วงนี้ น้ำหนักตัวลดไปตั้ง ๒๐ กิโล
ใบหน้าผอมตอบผิดไปจากเดิมมาก

จึงบอกปู่ว่า ภาพที่เห็นนั้น เป็นภาพในอดีตของปู่
ดังนั้น ปู่ต้องระวัง อย่ากระทำการใดๆ เหมือนในอดีตชาติ
พูดแค่นี้ปู่คงรู้ดี

จริงๆแล้ว ปู่สามารถสำเร็จได้ในชาตินี้ แต่ปู่กลับถอยหลัง
ปู่จะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ตัวปู่เอง

ปู่ลองได้ฟัง รีบยกมือพนมก้มกราบกับพื้น
แล้วบอกว่า เคยอธิษฐานขอความสำเร็จมาตลอด
ไม่นึกว่าจะมีคำตอบ เช่นวันนี้
ตั้งแต่นี้ไป เข้าใจทุกอย่างแล้ว


ก็ขอเป็นกำลังใจให้ปู่ลอง มุ่งไปในกิจอันควร เพือความสำเร็จ
สมดังที่ตั้งใจ อย่ากระทำเหมือนเช่นอดีตเด็ดขาด

 

กิจกรรมวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ ผมคิดว่า คนไปเยอะ แน่ๆครับ
มีผู้แจ้งความประสงค์มาแล้วร่วมร้อยคน ส่วนผู้ที่ไม่ได้แจ้ง แต่จะไปงานครั้งนี้ด้วย
ผมว่าก็ยังมีอยู่อีกมากนะครับ

ผมเองกับเพื่อน ก็ตั้งใจจะไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วยครับ

 

อนุโมทนาสาธุ กับผู้ที่ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นทุกๆท่านค่ะ ช่วยอัพด้วยค่ะ

 

ไปงานวันที่7นี้ด้วยเหมือนกันค่ะ

 

ขอแจ้งชื่อผมไว้อีกคนนะครับ
ผมจะพา ขันธ์5 ของผมไปด้วยนะครับ พอดี ขันธ์5 ผมเกิดชำรุดอะครับ
และก็ใกล้ๆบ้านผมด้วย
ผมจะได้เจอพวกคนแปลกๆ อีกแล้วดีใจจัง

 

ขอสะเอิ๊กอีครั้งนะครับ
รถเมล์ที่ผ่านบ้านแปลกหลังนั้น(พุทธมหาเวทย์)

รถเมล์ที่ผ่าครับ เท่าที่จำได้
ทุกวันนี้ขี่แต่มอไซค์ผมก็จำได้แค่นี้แหละครับ


168(สวนสยาม-อณุเสาวร์ชัย)
58(มีนบุรี-คลองตัน)
113(มีนบุรี-หัวลำโพง)
173(มีนบุรี-เคหะธนบุรี)
519(สวนสยาม-สาธุประดิทธิ์)อันนี้ก็ผ่านครับ
143 (มาจากแฮปปี้แลนด์ ผ่านนะครับ)
514(มีนบุรี-สีลม)

 

บุญไม่ได้หมายถึงการบริจาคเงินหรือต้องเดินทางไปแก้กรรมเพียงอย่างเดียว

การร่วมอนุโมทนาบุญหรือบอกต่อๆกันไป

ช่วยกันกระจายข่าวให้คนอื่นได้รับทราบ

หรือ ส่งฟอร์เวิร์ดเมลล์ไปให้เพื่อนๆก็ได้บุญไม่ต่างกันค่ะ

เพราะเราต้องการช่วยคนอื่นเเก้กรรมก็เท่ากับเราเเก้กรรมด้วยค่ะ

 

สาธุ สาธุ มหาชนคนมีจิตคิดช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ลั่นฆ้องกลองชัย บอกกล่าวเล่าขาน ถึงงานกุศล
ช่วยเหลือคนทุกชนชั้น ที่ทุกข์กาย ทุกข์ใจ ทุกข์เพราะไม่เข้าใจธรรม

ไม่ใช่เป็นการปลุกระดมมวลชน เพื่อความวุ่นวาย
แต่เป็นการปลุกระดมมวลชนคนมีทุกข์ ให้พ้นทุกข์ พ้นโทษภัยในวัฏฏะ
ให้มีสุขภาพกายที่แข็งแรง ปลอดเจ้ากรรมนายเวร มีสติปัญญา นำพาชีวิตให้พ้นทุกข์
มาเถิด มาร่วมด้วยช่วยเหลือกัน
เงินทอง ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ที่สำคัญที่สุดคือ ใจ
ใจดวงเดียวกัน

 

ของแท้ตัองแบบนี้
ทุกอย่างต้องเริ่มจากความรัก
ความรัก เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่
ความรักเป็นได้ทั้งสร้างสรรค์และทำลาย
แต่ความรักของพระเจ้า หรือจะใช้คำว่าอะไรก็ตาม เป็นความรักแบบสร้างสรรค์
ไม่ได้รัก เพราะมีเงินหรือไม่มีเงิน
แต่รักทุกคน ที่รักพระองค์ และไม่รักพระองค์
เงินไม่ใช่ปัจจัยหลัก
จะมาเรียกเงินดูกรรมแสกนกรรม เป็นพัน เป็นร้อย โดยใช้สิ่งของที่ได้มาจากพระเจ้า จากสมาธิ หรือจากอะไรก็ตาม เช่นที่ออกทีวีโปรโมท ลองโทรไปถามดู อย่างต่ำ ห้าร้อย พันหนึ่ง สองพัน ย่อมไม่ถูกต้อง แม้จะบอกว่า เอาไปช่วยคน ผิดตั้งแต่วิธีคิด สนับสนุนพี่เม้า ที่ใช้จิตอาสานำพาอุปกรณ์ของระบบมาช่วยเหลือมนุษย์ ช่วยมนุษย์โดยไม่เลือกว่าเป็นใคร รักมนุษย์ทุกคน ตั้งแต่จำได้ตั้งแต่คบกันมา ไม่เคยเห็นพี่เม้านินทาว่าร้ายใคร นี้คือของจริงครับ
คารวะจากใจจริง 1 จอก

 

สาธุ สาุธุ สาธุ

 

สวัสดี คุณเม้าตาอิน
การตรวจกรรมของคุณแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ เป็นศาสตร์และศิลป์อีกแขนง
หนึ่ง ซึ่งไม่มีสอนกันตามสถาบันของรัฐและเอกชน ไม่มีประกาศนียบัตรหรือ
ปริญญารับรอง ความเชื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคล การรับรู้สิ่งแปลกใหม่นอกเหนือ
จากที่เรียนกันมาตามสถานการศึกษา ก็นับว่าเป็นประสบการณ์อีกแขนงหนึ่ง
ผมไม่รู้จักคุณมาก่อน ไม่เคยคุยกัน รู้แต่ว่าเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2552 ไปลงนะกับ
หลวงปู่คำเป็งครั้งที่ 2 ที่บ้านคุณสามเหลี่ยม ไม่รู้จับพลัดจับหูยังไง แม่บ้านผมจึง
ไปขอตรวจกรรมกับคุณ เพราะที่บ้านคุณสามเหลี่ยมไม่มีการบอกว่าจะมีการสแกน
กรรม รู้แต่ว่าแม่บ้านไปเข้าห้องน้ำ แล้วหายไปเกือบ 20 นาที ส่วนผมนั่งอยู่ที่เก้าอี้
ในพิธีเตรียมลงนะ เมื่อแม่บ้านกลับมาบอกว่าไปเข้าคิวให้พี่คนหนึ่งดูกรรมให้ แต่
ไม่มีดอกไม้ ธูปเทียน น้ำ ดูกรรมแล้วแนะนำให้ไปปล่อยปลา 3 ตัว เดือนละครั้ง
จึงได้เริ่มปฏิบัติตามที่แนะนำตลอดมา แต่อาการปวดศีรษะก็ไม่ทุเลา ปวดๆ หายๆ
ซึ่งเป็นมานานหลายปีมาก จนผมสัพพะยอกแม่บ้านว่า หากกรอกแบบสอบถามว่า
ประกอบอาชีพอะไร ให้กรอกว่า “ ไปหาหมอ” อาหารหลักที่ชอบรับประทานคือ
อะไร ให้กรอกว่า “ยาแผนปัจจุบัน” อาหารสำรองคืออะไร ให้กรอกว่า ”พืช
สมุนไพร” เมื่อกลับจากลงนะวันแรกก็ยังปวดศีรษะตั้งแต่ออกจากบ้านพุทธามหา
เวทไปถึงบ้าน แม่บ้านบอกว่าคล้ายกับระบมไปทั้งหัว จะมาลงนะครั้งที่ 2 วันที่
31 มกราคม 2553 ก็ลุกไม่ขึ้น แทบไม่อยากจะมา อยากจะขอนอนต่อ ผมก็เลย
บอกว่าลองไปสแกนกรรมอีกครั้งหนึ่งดูซิ และยังเปิดเวปและอ่านให้ฟังตั้งแต่ตี
5 และย้ำว่าทางคุณสุรศิลป์ก็โทรบอกให้คุณเม้าตาอินมาแต่เช้า แม่บ้านก็
พยายามพยุงสังขารมา ผลการสแกนกรรมและกรวดน้ำ ปรากฏว่าระหว่างทางไม่
บ่นปวดศีรษะ แถมอยากจะกินอาหารทะเล แต่ผมต้องเดินทางกลับชุมพรโดยรถ
ทัวร์ จึงติดค้างไว้ก่อน ในส่วนของแม่บ้านต้องทำตามคำแนะนำ
ในส่วนของผมเป็นเรื่องแปลก คุณถามชื่อและนามสกุล แค่นั้น เหมือน
กับคนอื่นๆ ผมกับคุณไม่ใช่ญาติพี่น้อง วันที่ไปลงนะเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2553 แม่บ้านยังจำคนผิด จำคุณทอฟฟี่(น่าจะเรียกอาจารย์มากว่า เพราะเป็นคนถ่าย
ทอดพลังให้) ว่าเป็นคนสแกนกรรมให้เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2552 จนกระทั่งคุณเม้า
ตาอินตัวจริงเข้ามาที่บ้านพุทธามหาเวท แม่บ้านสะกิดว่า พี่คนนี้แหละที่สแกน
กรรมให้ ขนาดแม่บ้านยังจำคนผิด แล้วผมจะไปรู้จักคุณได้อย่างไร
เมื่อคุณเม้าตาอินสแกนกรรมแล้ว ไม่พบกรรมเก่า แต่กลับบอกว่าภาพที่ส่งมา
1.มีวิถีชีวิตเกี่ยวข้องกับพระเยซู ยืนอยู่บนเชิงเขา
2.มีหน้าที่คอยรับทุกข์ชาวบ้าน และยังบอกอีกหลายอย่าง .....
เมื่อมาทบทวนอดีตที่ผ่านมากับปัจจุบัน เป็นจริงร้อยล้านเปอร์เซ็นต์....
แฮ่ะ !!! อะไรจะแม่นปานนั้น หยั่งกับตาเห็น ไม่จำเป็นต้องยกยอกัน จริงก็ว่าจริง
เอาอย่างนี้ ผมอยากจะบอกว่า
ก. เมื่อปี 2522-2523 ชีวิตมีอันต้องเข้าเรียนภาษาอังกฤษกับครูฝรั่ง (ช่วงเย็น
จันทร์ พุธ ศุกร์) กับเรียนกีตาร์ที่คริตจักร...(จำชื่อไม่ได้)...ใกล้โรงเรียนเรียนมิตร
พลพานิชยการ จำได้ว่านั่งรถเมล์สาย 57 เรียนตอนเย็นวันอาทิตย์ เรียนเข้าเดือน
ที่ 6 ครูที่สอนกีตาร์(คนไทย) บอกให้รออยู่ห้องนี้แหละ สักครูก็มีผู้ที่นับถือศาสนา
คริตเข้ามาในห้องประมาณ 20 คน จากนั้นเขาก็สวดอะไรไม่รู้ ทำนองสรรเสริญ
พระเยซูแล้วแต่คนไหนจะพรรณนา และครูที่สอนกีตาร์พูดว่าวันนี้เรามีสมาชิกมา
เพิ่มอีก 1 คน และแนะนำตัวผม(เหมือนกับว่าเรานับถือศาสนาคริต) จากนั้นเป็น
ต้นมาผมก็อยู่สวดแบบงูๆปลาๆ เกือบ 2 ปี ผมเห็นว่าการเรียนกีตาร์ไม่มีความคีบ
หน้า ก็เลยเลิกเรียน (ค่าเรียนเดือนละ 50 บาท(เพราะจน)หากเป็นสยามกลการจะ
เสียเดือนละ 1,000 บาท) และไม่เคยไปที่คริตจักรนั้นเลยจนถึงปัจจุบัน
ข. แรกเริ่มก็ไปเรียนทางวิชาชีพครู แต่พอเรียนได้ระดับหนึ่ง มีความรู้สึกว่า
ไม่ชอบ จึงแบนเข็มไปศึกษาวิชาชีพใหม่ ก็ประสบผลสำเร็จถึงปัจจุบัน และมีชีวิต
ที่มีความสุขมากๆ ๆ ๆ (แต่ยังมีหนี้สินอยู่เท่านั้นเอง) มีหน้าที่ตรงแป๊ะ !!! ตามที่
คุณสแกนนั่นแหละ!!! เมื่อคุณดูเสร็จผมก็กระซิบเบาๆ ว่าผมประกอบอาชีพ
อะไร...? แล้วคุณก็อุทานว่า นั่นไง..เห็นมั้ย ? แม่บ้านนั่งฟังอยู่ใกล้อึ้ง..!! ไป
เลย.... (และพูดขอให้คุณปกปิด....นอกจากคุณสุรศิลป์ คุณบุญเอื้อ และคุณ
แล้ว ก็มีอาจารย์ทอฟฟี่ที่ถ่ายทอดพลังให้ ที่ทราบ เพราะคนที่ทำอะไรให้เรา
หรือเพื่อเรา เราต้องแสดงตัวตนที่แท้จริงให้ทราบและยังเป็นการช่วยตรวจสอบ
ความจริงที่คุณเม้าตาอินสแกนด้วย การปกปิดก็ไม่ต่างอะไรกับเราไม่จริงใจต่อ
กัน)
ค. ผมชอบทานขนมปังเป็นชีวิตจิตใจ ตั้งแต่เด็กถึงวัยรุ่น และยังจนอยู่
ก็ซื้อขนมปังแบบหัวกะโหลกมาฉีกจิ้มนมตรามะลิ หรือไม่ก็ฉีกใส่แก้วโอวัลตินกิน
พอทำงานมีรายได้(ยังไม่รวย) ไปห้างทีไรต้องซื้อขนมปังมียี่ห้อ เช่น ยามาซากิ
การ์โตว์ ทุกครั้ง และยิ่งกินมากขึ้นเมื่ออยู่ชุมพรซื้อขนมปังได้ง่าย ห่างจากบ้าน
พัก 200 เมตร มีร้านทำขนมปังทุกรูปแบบขาย ทุกเย็นจะเอากล่องไปใส่ ซื้อวันละ
30-40 บาท ทุกวัน ผมทานขนมปังกับกาแฟทุกเช้า ทุกวัน เกือบจะ 3 ปี ติดต่อ
กัน กลับกรุงเทพจะต้องซื้อกลับไปทานด้วย เพราะติดใจ บางวันตอนเย็น อยู่คน
เดียวก็ทานขนมปังกับกล้วยเล็บมือนาง (จะบอกให้เข้ากันดีมาก) คนอื่นบอกว่า
หากไม่ได้กินข้าว เหมือนไม่อิ่ม แต่ผมอิ่ม และอยู่ได้ทั้งคืน ที่เล่าให้ฟังซ่ะ ยืดยาว
เนี่ยะ! เพื่อจะยืนยันว่าตรงที่ว่าผมมีวิถีชีวิตเกี่ยวข้องกับพระเยซูอย่างไร เพราะ
พระเยซูคงไม่ทานขนมจีนแกงเขียวหวานไก่ หรือแกงไตปลา หรือน้ำพริกปลาทู
หรือส้มตำปลาร้า หรือแหนมเนือง หรือโรตี หรือมะตะบะ อะไรทำนองนั้น

ผมไม่รู้จะใช้คำพูดอะไรที่กินใจและมีความหมายจากใจผม เอาเป็น
ว่าในสุดขั้วของหัวใจผม ผมขอขอบคุณจากสุดขั้วหัวใจของผม จากคำพูดของคุณ
ตอนหนึ่งว่า “ให้เอาน้ำที่อุทิศให้แก่เจ้ากรรามนายเวรไปเทใส่ต้นไม้ที่มีรากหยั่งถึง
ดิน” ผมกับแม่บ้านมีข้อโต้แย้ง(มิใช่โต้เถียง)เกี่ยวกับเรื่องนี้มานานมากโขแล้ว
ต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลสนับสนุนความคิดเห็นของตน ทุกครั้งที่ออกไปใส่บาตร
ผมจะเอาน้ำเปล่าใส่ขวดน้ำดื่ม พร้อมแก้วพลาสติก เมื่อใส่บาตรองค์สุดท้าย จะ
ให้พระกวดน้ำให้ พระก็จะสวดยะถา-สัพพี ให้ เสร็จแล้วก็จะเอาน้ำไปเท ทุกครั้ง
หากมีโอกาสใส่บาตรร่วมกัน แม่บ้านก็จะบอกให้เทใส่กระถางต้นไม้(หมู่บ้านใน
กรุงเทพหรือถนนสายหลักในตัวเมือง จะหาต้นไม้ที่มีรากหยั่งถึงดินยาก) ผมโต้
แย้งว่าไม่ได้ เจ้ากรรมนายเวรจะไม่ได้รับ (จิตใจของผมคล้ายกับว่าครั้งใดหากเท
ใส่กระถางต้นไม้ มีความรู้สึกขัดๆ ต่อความรู้สึกแบบบอกไม่ถูก เหมือนกับว่าผมไม่อยากทำแบบนี้ แต่ทำไมต้องให้ผมทำ) บางครั้งต้องขับรถไปใส่บาตรจะให้แม่บ้าน
ถือแก้วน้ำไว้ พบต้นไม้ใหญ่ ใบดก หนาทึบ จะจอดรถลงไปเท แม่บ้านจะหงุด
หงิด ที่ต้องถือแก้วน้ำแบบระวัง ไม่ให้น้ำหก จะบ่นตลอดทางจนรำคาญ เขาจะ
บอกว่า....เป็นต้นไม้ ไม่ว่าปลูกอยู่ที่ไหนก็เทได้เหมือนกัน (แม่บ้านจะใส่บาตร
อาทิตย์ละ 2-3 วัน) ทำอย่างนี้มาตลอด ไม่เห็นเป็นไรเลย ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่
23 ธันวาคม 2552 แม่บ้านแม่บ้านมาชุมพร (เพื่อช่วยขับรถจากชุมพรกลับ
กรุงเทพ) ตอนเช้าไปใส่บาตรด้วยกัน ก็ทำอย่างที่บอก พอพระสวดเสร็จ แม่บ้านก็
บอกให้เทน้ำลงในกระถางต้นไม้หน้าตึก ใกล้กับบริเวณใส่บาตร ผมก็โต้แย้งอีก จะ
ถือเอาไปเทที่ต้นไม้ใหญ่ที่บริเวณศาลหลักเมือง ระหว่างทางก็โต้แย้งกันอีก จนถึง
บ้านพัก โดยผมก็อธิบายว่า สรรพสัตว์ทั้งหลายเมื่อตายลง กายจะทอดลงพื้นสู่
อ้อมอกแม่พระธรณี (หากท่านผู้อ่านมีความคิดเห็นว่า ไม่จริง!!! ตายบนเตียงใน
บ้านหรือโรงพยาบาล แล้วใส่อยู่ในโลง ตั้งบนตั่ง ยกขึ้นเมรุแล้วเผา ก็ถูกของท่าน
ครับ....หากเป็นมนุษย์ แต่ถ้าเจ้ากรรมนายเวรที่มิใช่มนุษย์ล่ะ.....!!!) เมื่อเทน้ำรด
ต้นไม้ไหลลงสู่มือแม่พระธรณี ท่านก็จะอุ้มไว้ ส่งผ่านไปให้เจ้ากรรมนายเวรที่
กายถูกฝัง เจ้ากรรมนายเวรก็จะได้รับ หากเทลงกระถางต้นไม้ น้ำก็จะขังอยู่ใน
กระถาง แม่บ้านก็บอกว่าเจ้ากรรมนายเวรได้รับตั้งแต่ตอนที่อธิษฐานและระลึกถึง
ขณะเอาวัตถุทานใส่ในบาตร เออ!! ก็จริงอย่างว่า ผมตัดบทว่า...เอาอย่างนี้ คุณ
คิดเห็นอย่างไร ก็ทำอย่างนั้น ตามแนวทางคิดของแต่ละคน จนคุณเม้าตาอิน
บอกนั่นแหละ จึงเดินเอาไปเทที่ต้นไม้รากหยั่งถึงดินอยู่ในซอยตรงข้ามกับซอย
เข้าบ้านพุทธามหาเวท มิฉะนั้นคงเทลงใส่กระถางต้นไม้หน้าบ้านพุทธามหาเวทนั่น
แหละ ยิ่งแดดร้อนๆ อยู่ด้วย มิน่าล่ะ....อาการปวดหัวจนระบม รักษามานานหลาย
ปี ไม่มีทีท่าว่าจะหาย กลับระบมหนักแทบจะไม่มาลงนะและสแกนกรรม ในวันที่
สอง เพราะเจ้ากรรมนายเวรที่คุณเม้าตาอินสแกนเห็นนั้นอาฆาตไว้หนักมาก ไม่
ยอมรับการขอขมากรรม แต่ประสงค์จะทรมาน โดยดลจิตดลใจวิธีการกรวดน้ำ
เพื่อไม่ให้ไปถึง รวมทั้งปกปิดไม่ยอมให้เห็นเมื่อดูครั้งแรก
อีกอย่างหนึ่ง คุณเม้าตาอิน ถามเฉพาะชื่อแม่บ้าน และชื่อนี้ได้เปลี่ยน
มา 1 ครั้ง กลับรู้ว่าชาติที่แล้ว แม่บ้านผมเป็นมนุษย์ผู้ชาย..? ใช่ครับ.....แม่บ้านผม
เกิดปีมะเส็ง (งูเล็ก) ตามตำราโหราศาสตร์กล่าวว่า ธาตุกำเนิดเป็นมนุษย์ผู้ชาย แต่
คุณไม่ได้ถามวัน เดือน ปีเกิด ซักหน่อย กลับรู้ว่าเป็นมนุษย์ผู้ชาย....ทำกรรม
อะไรมา...!!! แปลกไหม.....คุณสุรศิลป์
เชื่อหรือไม่นั้น เป็นเรื่องยากที่จะพิสูจน์ด้วยวิธีวิทยาศาสตร์ แต่หากนำไป
เปรียบเทียบกับวิถีชีวิต....มันถูกต้อง คนที่ถูกยิงด้วยอาวุธสงครามหลายสิบนัด
ลูกซองสาดเต็มหน้าเต็มตัว ถูก .38 จ่อยิงเผาขน หลักฐานทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์
แล้วว่า บริเวณบาดแผลที่ผิวหนังเป็นจ้ำๆ นั้น ลึกลงไปเป็นหัวใจ ม้าม ตับ ปอด
และอนุภาพของอาวุธปืนจากปลอกกระสุนปืนที่เก็บได้ ต้องตายร้อยล้าน
เปอร์เซ็นต์ กลับไม่ตาย แต่ยังมาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมสาเหตุต่อหน้าผม
นับ 10 เรื่อง เป็นฉาก ๆ พอถามเขาว่าทำไมไม่ตาย เขาบอกว่า จริงๆ แล้ว น่าจะ
ตายมากกว่า แต่มีวัตถุมงคลของ...........อย่างนี้เขาเรียกว่า “งมงายหรือ” เข้า
ทำนองที่ว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ผมถือว่าทำตามที่ผู้รู้เห็นผู้รู้แนะนำก็เปรียบเสมือน
มีแผนที่นำทางชีวิต กำไรเหนาะๆ ๆ ๆ ในชีวิตไม่เคยไปสถานเสาวภาเพื่อเลี้ยงงู
ประเดี๋ยวก็ได้ไป ไม่เคยไปทำบุญที่โรงพยาบาลสงฆ์ ประเดี๋ยวก็ได้ไป ไม่เคย
ทำสังฆทานชุดใหญ่ประเภทมีไตรจีวรครบชุด ซึ่งอาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.
ปัตตานี เคยกล่าวว่าเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่มาก
ขอขอบคุณอาจารย์ทอฟฟี คุณเม้าตาอิน ที่สละเวลาพักผ่อนของท่าน มา
เหน็ดเหนื่อยกับคนมีกรรม ไม่มีกรรม และไม่ค่อยร่ำรวย(กำลังจะร่ำรวย รอรางวัล
ที่ 1 อยู่) อย่างพวกผม และขอขอบคุณคุณสุรศิลป์ที่เปิดบ้านให้ผมเข้าไปเหยียบ
ย่ำตามอำเภอใจ หวังว่ามังคุดกวนคงอร่อย เหมือนผมกับแม่บ้านน่ะ เพิ่งจะ
รับประทานครั้งแรกเหมือนกัน ก็ติดใจซะแล้ว เลยเอาของที่ติดใจไปฝาก !!!!!


นำมาจาก http://www.buddhamahawet.com/webboard.php










<TABLE id=threadslist class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY id=threadbits_forum_2><TR><TD class=alt2></TD><TD id=td_threadtitle_86674 class=alt1 title=""> ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) (58 คน กำลังดูอยู่) ( 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
สุดใจเขากะลา
</TD><TD class=alt2 title="จำนวนตอบ: 12,794, จำนวนอ่าน: 670,484">

วันนี้ 09:48 PM​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สวัสดีคะ ท่านผู้พิพากษา ชอบทานขนมปังเหมือนกันคะ แต่ชอบขนมปังไส้สัปปะรด

 

<TABLE class=tborder id=post2199091 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 20-06-2009, 12:23 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#41 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Chayutt<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2199091", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Aug 2005
สถานที่: Vietnam
อายุ: 37
ข้อความ: 2,689

พลังการให้คะแนน: 2423



</TD><TD class=alt1 id=td_post_2199091 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->
(pic2000-1)
<O</O
การกระทำของพลังจากสวรรค์เพื่อช่วยเหลือมนุษย์<O</O
กับการกระทำของพลังจากความมืดทีเพื่อควบคุมมนุษย์<O</O
ดูภาพเอาเองนะครับ..ดูเข้าใจได้ไม่ยากครับ
<O</O
มนุษย์ผู้ใดที่มีความคิดด้านบวกและมีความรักความเมตตาในหัวใจ
ก็จะแผ่คลื่นความสั่นสะเทือนความถี่สูงออกมา
พลังจากสรวงสวรรค์ และจากรูปธรรมชีวิตชั้นสูงรวมถึงจากเทพต่างๆด้วย
ที่จะแผ่ส่งลงมาช่วยเหลือก็จะซึมซับเข้าไปในจิตใจของผู้นั้นได้

แต่พลังจากโลกมืด หรือจากสิ่งมีชีวิตด้านลบทั้งหลาย
ก็จะแทรกเข้ามาควบคุมมนุษย์ผู้นั้นได้น้อยกว่าคนปกติ
(แต่ก็ยังมีสิทธิแทรกได้อยู่ถึง 10% ของชีวิตทั้งหมดของคนผู้นั้นนะ)

ตรงข้ามกับมนุษย์ผู้ที่มีความคิดในด้านลบไร้ความรักความเมตตาในหัวใจ
ก็จะมีระดับความสั่นสะเทือนของคลื่นความคิดและจิตวิญญาณหยาบ
ก็จะถูกมารถูกพลังด้านลบควบคุมได้มากกว่า คืออย่างน้อย 90% เลยทีเดียว

และพลังจากด้านบวกจากสรวงสวรรค์ และจากรูปธรรมชีวิตชั้นสูงทั้งหลาย
ที่แผ่ลงมาก็จะไม่สามารถแทรกผ่านจิตใจของผู้นั้นได้
เพราะว่าระดับความสั่นสะเทือนของคลื่นไม่ตรงกัน

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post2199113 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Chayutt<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2199113", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Aug 2005
สถานที่: Vietnam
อายุ: 37
ข้อความ: 2,689
พลังการให้คะแนน: 2423


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2199113 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ข้อมูลจากบรรยายของนาย Ivo A.Benda:<O</O
ชาวโลกผู้ที่ได้รับการติดต่อจากจิตวิญญาณชั้นสูงนอกพิภพ
ที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งแสงสว่าง


<O</O

(obr403)

ผู้ที่สามารถติดต่อกับมิตรจากต่างพิภพได้ ต้องเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความรักความเมตตาในจิตใจ
ไม่เช่นนั้นแล้วการติดต่อสื่อสารก็มิอาจจะเกิดขึ้นได้

การเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถติดต่อสื่อสารกับจิตวิญญาณชั้นสูงต่างพิภพเหล่านี้ได้
มนุษย์ผู้ที่ต้องการติดต่อต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของการติดต่ออย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
ไม่แหกกฎของจักรวาล และต้องมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้รับความรู้
ด้วยจิตใจเปี่ยมไปด้วยความรักและความอ่อนน้อมถ่อมตน

เมื่อได้รับการติดต่อแล้ว มนุษย์ผู้นั้นจะได้รับการปรับแต่งสายเกลียว DNA สายที่ 6,8 และ 10 ให้
(เป้าหมายคือครบทั้ง 12 สาย) โดยจิตวิญญาณชั้นสูงต่างพิภพที่มีความชำนาญ
ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ ในระหว่างที่คนผู้นั้นหลับอยู่ และโดยไม่รู้ตัว
แต่มนุษย์ผู้นั้นก็จะถูกแจ้งให้ทราบในภายหลัง

การติดต่อสื่อสารกับจิตวิญญาณชั้นสูงต่างมิตินั้น จะสื่อสารผ่านทางโทรจิต
โดยการเริ่มจากเราต้องตั้งความปรารถนาที่จะสื่อสารขึ้นในจิต
ด้วยจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความรักและอ่อนน้อมถ่อมตนอย่างแท้จริงต่อพระผู้สร้าง
แล้วเขียนคำอธิษฐานลงบนกระดาษด้วยดินสอ รูปแบบของคำอธิษฐาน เช่น

“ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า อันเป็นที่รักของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าปราถนาจะติดต่อสื่อสารกับพระองค์
และกับมิตรต่างพิภพของข้าพเจ้า เช่นท่านแอชต้า (Ashta) ท่านพทาฮ์ (Ptaah)
ท่านจามาฮามา (Jamahama) ท่านเพลย่า (Pleya) และท่านอื่นๆ”<O</O
จากนั้น ก็ให้หมั่นมาตรวจดูกระดาษที่เราเขียนเอาไว้ให้ดี
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post2199118 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("2199118")</SCRIPT> </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=1 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=thead></TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option></TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option></TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option></TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option></TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option></TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option></TD></TR><TR><TD class=vbmenu_option></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder id=post2199133 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 20-06-2009, 12:50 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#46 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Chayutt<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2199133", true); </SCRIPT>

​

ผู้สนับสนุนบริจาค ​

​

วันที่สมัคร: Aug 2005

สถานที่: Vietnam​

อายุ: 37​

ข้อความ: 2,689 ​

พลังการให้คะแนน: 2423 ​

​

</TD><TD class=alt1 id=td_post_2199133 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ข้อมูลจากบรรยายของนาย Ivo A.Benda:<O</O

ปฏิบัติการชำระโลก – ความหายนะของโลก<O</O

(Catastrophe of the Earth)​

<O</O​

(obr535)<O</O

สาเหตุจาก ความเป็นจริงที่ผู้คนบนโลกประพฤติตัวในทางลบ และปลดปล่อยความคิดในทางลบออกมา ​

แล้วส่งคลื่นความสั่นสะเทือนระดับหยาบออกไปสู่จักรวาล<O</O​

หากผู้คนไม่เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมและวิธีคิดโลกนี้ก็จะถูกนำเข้าสู่ความหายนะ

ซึ่งจะเป็นการชำระล้างให้เกิดความบริสุทธิ์ และเป็นการกำจัดพลังงานด้านลบที่สั่งสมไว้ออกไป ​

ด้วยวัตถุประสงค์อันนี้ พวกเขาจึงได้สร้างกองทัพยานอวกาศเพื่อการอพยพขึ้น

เพื่ออพยพผู้ที่เหมาะสม (ผู้ที่พร้อมแล้ว) ซึ่งมีจำนวนประมาณ 1/15 ถึง 1/5 ของประชากรโลก ​

ให้ไปอาศัยอยู่ในที่ๆจัดเตรียมไว้ให้ ในมิติที่ 5 ​

พวกเขาจะช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่มีระดับการสั่นสะเทือนของพลังงานที่เหมาะสมเท่านั้น

ส่วนประชากรส่วนใหญ่ของโลกซึ่งมีระดับของการสั่นสะเทือนด้านจิตวิญญาณ​

และร่างกายที่ต่ำเกินไป เมื่อไปถึงมิติที่ 5 แล้ว พวกเขาก็จะตายทันที ​

สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือชาวโลกควรเปิดใจ เพื่อรับคลื่นพลังความรัก

ที่มีการสั่นสะเทือนละเอียดอ่อนเข้ามาในใจ และชาวโลกต้องแผ่กระจายพลังงานความรักนี้ออกมา ​

ด้วยวิธีนี้ ชาวโลกก็จะสามารถได้รับการนำทางจากพระผู้สร้างได้​

<O</O​

ถ้าชาวโลกไม่ยอมเปลี่ยนระดับการสั่นสะเทือนของคลื่นไปสู่ระดับที่จำเป็น ​

(โดยการเปลี่ยนพฤติกรรม และวิธีการคิดไปสู่กระแสความคิดที่เป็นบวก) แล้ว ​

..กระบวนการการชำระล้างโลก ก็จำเป็นต้องเกิดขึ้น ..​

ชาวโลกจะถูกจำแนกแยกแยะออกเป็นกลุ่ม ตามระดับพัฒนาการทางจิตวิญญาณของแต่ละคน​

ได้แก่<O</O​

1. ไปอยู่ในสังคมของประชากรแห่งจักรวาล ในร่างกายปัจจุบันนี้

อยู่ในมิติที่ 5 ซึ่งเป็นดวงดาวที่เจริญแล้วดวงหนึ่ง แต่ก็ยังมีแยกย่อยไปอีกอย่างน้อย 2 กลุ่ม<O</O​

2. ไปอยู่ในสังคมของดวงดาวที่กำลังพัฒนา สูญพันธุ์ไปจากร่างกายนี้

อยู่ในมิติที่ 3 ซึ่งดวงดาวที่กำลังพัฒนาส่วนใหญ่จะมีสภาพเหมือนกับสมัยยุกต์กลาง​

ของดาวเคราะห์โลกของเรา<O</O​

3. ไปอยู่ในสังคมของมนุษย์ดึกดำบรรพ์ สูญพันธุ์ไปจากร่างกายนี้

ซึ่งที่นั่นจะเป็นสวรรค์ใหม่สำหรับชาวโลกที่ก้าวร้าวส่วนใหญ่ อย่างเช่นผู้คนในยุกต์นี้​

<O</O​

ขั้นตอนการอพยพข้ามมิติไปสู่มิติที่สูงกว่า​

<O</O​

การเปลี่ยนรูปแบบไปสู่มิติใหม่จะเป็นไปตามขั้นตอนดังนี้<O</O ​

1. อยู่ในยานอวกาศ เปลี่ยนรูปแบบจากมิติที่ 3 ไปสู่มิติที่ 5

ซึ่งเป็นการเปลี่ยนระดับการสั่นสะเทือนของพลังงานจากมิติที่ 3 ไปสู่มิติที่ 5​

2. อพยพไปหลบภัยอยู่ในดวงดาวที่จัดไว้ให้ดวงใดดวงหนึ่ง ในช่วงเวลาที่มีการชำระล้างโลก<O</O​

3. อพยพกลับลงมาอยู่ในดาวเคราะห์โลกนี้เหมือนเดิม แต่อยู่ในมิติที่ 5<O</O<!-- google_ad_section_end -->





​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

อ่านเพิ่มเติมได้จากกระทู้นี้ครับ http://palungjit.org/threads/การเตร...-และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก.193101/page-3






...........