ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ท่านพาราซิทัลแจ้งดร. เทพนม (พูดถึงที่งานรวมพลคน UFO ที่ซอยลาซาล พย. 2550) ว่าจะเกิดมหันตภัยใหญ่กับโลก เรียงตามลำดับเป็นภัยจากน้ำ ภัยแผ่นดินไหว ภัยนิวเคลียร์ และเกิดอุกกาบาตชนโลกในที่สุด

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภัยจากน้ำ 2004 สึนามิมหาสมุทรอินเดีย
    [​IMG]



    [​IMG]

    ภัยจากน้ำ 2005 เฮอริเคนคาทริน่า


    [​IMG]

    [​IMG]

    ภัยจากน้ำ 2008 ไซโคลนนาร์กิส ประเทศพม่า

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภัยแผ่นดินไหว 2009 เสฉวน ประเทศจีน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภัยแผ่นดินไหว 2010 ประเทสเฮติ

    ลองฟังที่ท่านพาราซิทัลพูดจะเริ่มเห็นว่าภัยธรรมขนาดใหญ่เกิดขึ้นต่อเนื่อง (เดิมจะห่างเป็นสิบๆปี และสเกลไม่ใหญ่เท่านี้ ทุกเหตุการณ์ที่กล่าวถึงต้องใช้ความช่วยเหลือระดับนานาชาติ)

    แจ้งเพื่อทราบและเพื่อพิจารณา

    ขอแสดงความเสียใจต่อผู้ประสบภัยและผู้วายชนม์จากทุกเหตุการณ์ที่กล่าวถึง
    ขอให้ท่านได้รับบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำมาและมีภพภูมิที่สูงขึ้นด้วยเทอญ

    ขอขอบคุณภาพทั้งหมดจากอินเตอร์เน็ตค่ะ
     
  2. namjaii

    namjaii เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +276
    ขอแสดงความเสียใจด้วยคน
     
  3. หลวงจีน

    หลวงจีน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    861
    ค่าพลัง:
    +1,326
    อนุโมทนา ในความช่วยเหลือของทุกๆฝ่าย ที่มีให้ชาวเฮติ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  4. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    ขอส่งจิตไปช่วยเหลือชาวเฮติด้วยคนค่ะ น่าสงสารมากๆเลย ดูภาพข่าวแล้ว รู้สึกสลดใจจริงๆ
     
  5. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    ขอขอบคุณ และอนุโมทนาบุญ คุณสันโดษ และผู้ที่ลงบทสวดอุปปาตะสันติด้วยค่ะ
     
  6. Likely

    Likely เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    4,151
    ค่าพลัง:
    +3,821


    ใครพอมีอันจะกินมากกว่าพวกเขาก็เชิญร่วมไปบริจาคได้ค่ะ
     
  7. เซี่ยมหล่อนั๊ง

    เซี่ยมหล่อนั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +665
    เรื่องเฮติ คงเป็น case study ให้หลายประเทศได้ตระหนัก โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคิดได้แล้ว รวมพี่ไทยด้วย วางแผนเป็นขั้นตอน ตั้งสมมุติว่าหากเกิดภัยเช่นว่านี้ แล้ว ต้องจัดตั้งทีมงานเตรียมการกัน แบ่งส่วนงานออกให้ชัดเจน ซักซ้อม ล้อมคอก ตอกย้ำ ให้ข้อมูลสำคัญต่อเนื่องตามสี่แยกที่มีป้ายไฟ ขอความร่วมมือกับเอกชนสละเวลาโฆษณา สักวันละ 5 นาที ให้ข้อมูลเรื่อย ๆ ย้ำ ๆ ๆ ให้เกิดการจดจำได้อ่าน ได้ลองทบทวนปฏิบัติ พร้อมทั้งระบุศูนย์แจ้งภัย หากเกิดภัยจริง จะได้ไม่เสียสติ อย่างน้อยก็น่าต้องเริ่มคิดกันได้แล้ว ตัวอย่างเห็นตรงหน้า ถ้าไม่ทำ case วันนี้ อาจต้องทำจริงในวันหน้า เห็นด้วยอย่างยิ่งกับ อ.ไก่ ผู้เคยผจญมาแล้ว ในภัยคลื่นซีนามิ มีประสบการณ์ ก็อยากให้กำลังใจในการส่งข้อมูลสำคัญ เพื่อได้อ่านกันต่อไป ขอเอาใจช่วยนะครับ ({)
     
  8. เซี่ยมหล่อนั๊ง

    เซี่ยมหล่อนั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +665
    ขอให้ดวงวิญญาณทุกดวงในประเทศเฮติ ที่ประสบชะตากรรมแผ่นดินไหว จงไปสู่สุคติภพ ด้วยเทอญ
     
  9. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>น่าคิด-น่าเชื่อว่า ‘ผี’‘มนุษย์ต่างดาว’ เขาว่ามี 6 จำพวก

    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>เขียนโดย suroo.com






    น่าคิด-น่าเชื่อว่า ‘ผี’‘มนุษย์ต่างดาว’ เขาว่ามี 6 จำพวก

    ปกติมักจะเป็นที่ร่ำลือกันบ่อย ๆ ในต่างประเทศ แต่ก็ใช่ว่าในเมืองไทยเราจะไม่มีการกล่าวอ้างว่าได้ “เห็น” สิ่งมีชีวิตที่เชื่อว่ามาจากนอกโลก หรือที่เรียกกันว่า “มนุษย์ต่างดาว”

    “...รูปร่างคล้ายคนแคระ ไม่สวมเสื้อผ้า ระบุเพศไม่ได้ สูงประมาณ 70 ซม. ผิวสีน้ำตาลเทา ศีรษะมนกลมโต ตาโตสีน้ำตาลเป็นมันวาว ไม่มีจมูก ปากบางเล็ก หน้าอกแบนราบ ลักษณะร่างกายไม่กลมมนเหมือนมนุษย์ ถ้ามองจากด้านข้างจะแบนราบ...”

    ...นี่คือลักษณะคร่าว ๆ ของสิ่งที่เชื่อว่าเป็นมนุษย์ต่างดาว ที่มีคนอ้างว่าพบเห็นในเมืองไทยล่าสุด ที่ทุ่งนาพื้นที่บ้านห้วยน้ำราก หมู่ 5 ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย เมื่อเช้าวันที่ 3 ก.ย. 2548 หลังจากที่คืนวันที่ 2 ก.ย. มีการกล่าวอ้างว่าพบเห็นลูกไฟลึกลับตกพุ่งลงมาจากฟ้าในบริเวณดังกล่าว !?!

    ไม่ใช่แค่คนเดียวที่อ้างว่าเห็น...แต่เป็นสิบคน ไม่ใช่การอ้างว่าเห็นในระยะไกล...แต่ใกล้แค่ประมาณ 10 เมตร และไม่ใช่อ้างว่าเห็นแค่บนพื้นดินแวบเดียวแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย...แต่เห็นวนเวียนในท้องนาเหมือนหาอะไรอยู่เป็นชั่วโมง ก่อนจะค่อย ๆ ลอยตัวสูงขึ้นจากพื้นดินไปอยู่เหนือยอดไม้สูงประมาณ 10 เมตร จากนั้นก็หยุดแล้วหันหน้ามองลงมายังกลุ่มคนที่อ้างว่าเห็น ก่อนจะพุ่งลิ่วขึ้นสู่ท้องฟ้าหายลับตาไป ?!?

    อีกครั้ง...ที่มีการร่ำลือว่า “มนุษย์ต่างดาว” โผล่ในไทย
    คราวนี้เรื่องราวชวนให้ฮือฮา...ทั้งยังโผล่ในนาข้าว !?!

    เรื่องราวเกี่ยวกับ “มนุษย์ต่างดาว” นั้น เป็นเรื่องชวนให้สนใจของผู้คนทั่วโลก...รวมถึงคนไทยจำนวนไม่น้อย ซึ่งในเมืองไทยเราก็มีบุคคลระดับ “นักวิชาการ” ให้ความสนใจ และบางคนก็ระบุว่า “เคยเห็น” หรือเคยติด ต่อกับมนุษย์ต่างดาวทาง “จิต” หรือจากการฝึกทำ “สมาธิ”

    เมื่อเดือน มิ.ย. ปี 2540 เคยมีการจัดสัมมนาเรื่อง “มนุษย์ต่างดาว” ซึ่งเป็นครั้งแรกในเมืองไทย และในการสัมมนาถึงกับมีการระบุว่า...มนุษย์ต่างดาวจะ “บุกโลก” ในอีก 25 ปี หรือในปี 2565 โดยมีการวางแผนแบ่งกำลังกันบุกเป็นโซน ๆ ของโลก ทั้งแถบทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป และรวมถึงทวีปเอเชีย

    “...14 ครั้งที่ผมเคยเห็น จานบิน มีลักษณะแตกต่างกันไปบ้าง มีอยู่ครั้งเดียวที่เห็นเป็นจานกลม ๆ ที่สวิตเซอร์แลนด์ นอกนั้นจะอยู่ไกลซึ่งมองเห็นไม่ชัดด้วยตาเปล่า

    ยกเว้นที่ จ.ขอนแก่น ผมเห็นลักษณะเหมือนไข่สีส้ม ๆ มีแสงสว่างของมันเอง วิ่งไปช้า ๆ แต่ที่แปลกก็คือ มันมีแสงสว่างเล็กๆ 5 ดวงวิ่งไปวิ่งมารอบ ๆ รูปไข่ที่กำลังวิ่งไป แสงนั้นเป็นแสงสีขาว ๆ เหลือง ๆ ไม่เหมือนยานแม่รูปไข่

    นอกนั้นผมจะเห็นแสงสว่างเหมือนดาวมากกว่า คือเล็กมาก วิ่งในลักษณะไม่เหมือนกับดาว เพราะวิ่งมาด้วยความเร็วสูงแล้วก็เปลี่ยนทิศทางเป็นมุมฉาก 90 องศา โดยไม่มีการโค้งหรือช้าลงเลย...”

    ...นี่เป็นข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีการระบุว่าเป็นคำกล่าวตอนหนึ่งในงานสัมมนาครั้งแรกเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว โดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้ทรงคุณวุฒิในวงการวิทยาศาสตร์ของไทย ซึ่งเคยร่วมโครงการสำคัญ ๆ กับทางนาซา หรือองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งสหรัฐ

    มีจานบินหรือ “ยูเอฟโอ (UFO)” ก็ต้องมีมนุษย์ต่างดาว ?!?

    นักวิชาการอีกคนหนึ่งซึ่งให้ความสนใจเรื่อง “มนุษย์ต่างดาว” มาก คือ ศ.ดร.น.พ.เทพนม เมืองแมน ประธานอำนวยการฝ่ายสถาบันวิทยา ศาสตร์ทางจิต ซึ่ง ศ.ดร.เทพนมได้เคยระบุไว้ว่า...เคยติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวทาง “โทรจิต” หรือการทำสมาธิหลายครั้ง และว่าในต่างประเทศก็มีการทำกันอยู่

    ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ ครั้งที่ 9 เมื่อปลายปี 2547 ศ.ดร.เทพนมระบุไว้ว่า... เคยได้รับการติดต่อจากมนุษย์ต่างดาวว่าเคยมาที่เมืองไทยตั้งแต่เมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว และพบหลักฐานปรากฏอยู่ในถ้ำบนยอดเขาที่ จ.กาญจนบุรี เป็นภาพที่วาดโดยมนุษย์ถ้ำ ประมาณ 100 กว่าภาพ เป็นภาพ “มนุษย์ต่างดาวตากลมโต” ซึ่งทางกรมศิลปากรเอาหินในถ้ำไปตรวจก็พบว่ามีอายุประมาณ 5,000 ปี

    ที่ จ.เชียงใหม่ ก็มีการระบุว่าจานบินของมนุษย์ต่างดาวเคยมาตกเมื่อต้นปี 2541 ถึงขั้นสหรัฐส่งทีมมาสำรวจ...แต่ไม่พบ อย่างไรก็ตาม ศ.ดร. เทพนมบอกไว้ว่าได้ไปลองหาจนเจออยู่ในเขตป่าสงวนฯ !?!

    ไม่เท่านั้น...ยังมีการระบุว่าตอนที่ทางนาซามาประชุมในไทยที่มหาวิทยาลัยฯสุรนารี จ.นครราชสีมา ครั้งนั้นก็มีจานบินมาปรากฏ ซึ่งถ้าเป็นเช่นที่ว่ามาจริง ๆ ก็หมายถึง “มนุษย์ต่างดาว” มาเมืองไทยบ่อย ?!?

    นอกเหนือจากเรื่องราว “มนุษย์ต่างดาว” ที่เคยถ่ายทอดไว้ ซึ่งมีทั้งที่ระบุว่าเป็นประสบการณ์และรับทราบจากผู้อื่น ศ.ดร.เทพนมยังเคยบอกไว้ด้วยว่า...ในต่างประเทศแบ่งมนุษย์ต่างดาวเป็น 6 กลุ่มตามรูปร่างลักษณะคือ... 1.เหมือนมนุษย์, 2.คล้ายมนุษย์...แต่ผิวหนังเป็นสีเทา, 3.คล้ายสัตว์, 4.คล้ายหุ่นยนต์, 5.รูปร่างประหลาด, 6.คล้ายผี ซึ่งที่ว่ามาป้วนเปี้ยนในนาข้าวที่เชียงรายเหมือนหาของที่ทำตก...ไม่รู้กลุ่มไหน ??

    ทั้งนี้ หากเทียบกับ “ผี” ในเรื่องความเป็นไปได้-ความน่าจะมีแล้ว... “มนุษย์ต่างดาว” ดูจะมีภาษีมากกว่า ซึ่งหลายคนก็ว่าดาวโลกยังมีมนุษย์ได้ แล้วดาวอื่นอีกมากมายในห้วงอวกาศอันกว้างใหญ่ล่ะ ??

    คนที่ไม่เชื่อเรื่องผี....หลายคนเชื่อว่า “มนุษย์ต่างดาวมีจริง”
    ชาวโลกจำนวนไม่น้อยเชื่อว่ามีมนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลก
    แต่ล่าสุดที่เชียงรายใช่หรือไม่...แล้วแต่วิจารณญาณ !?!?!.
     
  10. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    ก็แปลกที่ว่ามนุษย์ต่างดาวเขาเอาอุปกรณ์เพื่อใช้งานภัยพิบัติที่มองไม่เห็นมาให้ แล้วก็มีการใช้งานได้ตามกล่าวอ้างโดยผู้ใช้ไม่ได้ฝึกตนมาในด้านนั้นๆ

    วันก่อนพระสงฆ์ท่านอาพาธเนื่องจากถูกตัวต่อห้าตัวต่อย อ.จุกส่งพลังงานไปรักษาทางไกลท่านก็รับได้ ช่วยกันกับหมอแผนปัจจุบัน ท่านถามว่าหมอจุกเขาเป็นหมอหรือ กราบเรียนท่านว่า "ไม่ใช่เจ้าค่ะ เขาเป็นอดีตปลัดอำเภอทำงานอยู่กกต."

    5555
     
  11. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    <TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD style="OVERFLOW: hidden" vAlign=top width="16%" rowSpan=2>AVATAR นักโพสท์ระดับ 1
    [​IMG]



    กระทู้: 5

    [​IMG]




    </TD><TD vAlign=top width="85%" height="100%"><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center>[​IMG]</TD><TD vAlign=center>จากจักรวาลสู่ดาวโลก



    </TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" vAlign=bottom align=right height=20></TD></TR></TBODY></TABLE><HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>ข้อความต่อไปนี้ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน หาไม่ท่านอาจถูกกล่าวหาว่างมงาย ไร้สาระ

    สาส์นฉบับที่ ๑

    ปู่จักรวาล ให้แจ้งว่า หากมนุษย์ยังไม่เร่งขวนขวายปฏิบัติตน ให้เป็นผู้นิ่งสงบ ไม่ไปกระทบกระทั่งผู้อื่น
    เรียนรู้ในตนให้ถ่องแท้ให้ได้เสียก่อน ดาวโลก ก็จะมีแต่ความวุ่นวายไม่เลิกรา หาสันติสุขอันใดมิได้
    เป็นภัยในตัวที่กำลังกัดกินหัวใจที่เคยประเสริฐ ให้เป็นหัวใจที่ถดถอยด้อยค่า แม้ภัยธรรมชาติบังเกิด
    เราจะมีใจไปช่วยใครได้ กระทั่งตัวเอง ก็ยังช่วยไม่ได้เลย



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2010
  12. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    สาส์นฉบับที่ ๒

    ขอให้มนุษย์จงหยุดทำร้ายทำลายธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การตัดไม้ทำลายป่า
    ในประเทศไทย จากปี ๒๕๔๑ ป่าไม้มีอยู่ ๕๑ % แต่มาปี ๒๕๕๒ ป่าไม้เหลือเพียง
    ๒๕ % ไม่น่าเชื่อว่า จะมีประสิทธิภาพทำได้เร็วถึงเพียงนี้ แล้วสมดุลธรรมชาติจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
    ภัยทั้งหลายที่เกิดจากธรรมชาติ ท่านจะโทษธรรมชาติไม่ได้ ตัวท่านเองนั่นแหละเป็นผู้กระทำ
    ขอให้หยุดให้ได้ โดยหยุดที่ใจใคร่คิดใคร่กระทำให้ได้ก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2010
  13. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    สาส์นฉบับที่ ๓

    ปู่จักรวาล เน้นข้อนี้เป็นพิเศษ ท่านให้แจ้งว่า

    การฝึกผู้อาสาช่วยเหลือภัยพิบัติ มีกระจายไปทั่วทุกมุมโลก
    ในแต่ละจุดของการฝึก จะเน้นด้านการชำระจิตใจ การไม่สำคัญผิดคิดว่าเป็นตัวตน
    มิฉะนั้น ผลการช่วยเหลือจะไม่เป็นไปตามที่คาดไว้

    การฝึกเช่นนี้ ย่อมต้องอาศัยความสลับซับซ้อน มีการทดสอบ ทดลอง
    และทดแทน สลับกันไป เพื่อกลั่นกรองให้ได้ซึ่งผู้มีปัญญา สามารถนำพา
    ชีวิตมนุษย์ให้หลุดรอดพ้นจากภัยพิบัติได้

    ผู้เข้ารับการฝึก ต้องแยกพฤติกรรมจากตัวตนที่อิงระหัสกรรมมาเกิด
    กับสภาวะจิตใจที่เกิดดับอยู่ทุกขณะปัจจุบัน ให้ได้

    พฤติกรรมจากตัวตนที่อิงระหัสกรรมมาเกิดของเขา เราไปบังคับให้เป็นดั่งใจเราไม่ได้
    เพราะเขาไม่ใช่เรา ระหัสกรรมที่นำมาเกิด ก็คนละระหัส
    ดังนั้น อย่าให้พฤติกรรมของผู้อื่น มาทำลาย สภาวะจิตที่เริ่มใสบริสุทธ์
    และพร้อมที่จะทำงานของเรา โดยเด็ดขาด

    เขาก็คือเขา จะทำให้เหมือนอย่างเรานั้น เป็นไปไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2010
  14. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    สาส์นฉบับที่ ๔


    เหตุผลที่ต้องฝึกที่ใจ ก่อนภัยพิบัติจะมาถึง

    เมื่อภัยพิบัติมาถึง แม้คนรวยมีเงินทองมากมาย สามารถเตรียมเสบียงอาหาร กักเก็บไว้
    ในที่ที่ทำไว้หลบภัย เพื่อบริโภคในยามฉุกเฉิน แต่ก็ไม่พ้นสายตาของพวกที่อดอยาก
    พวกเขาย่อมกระทำการสิ่งใดก็ได้ เพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารสำหรับประทังชีวิต โดยไม่ฟังใครทั้งสิ้น
    ความโกลาหล วุ่นวายจะเกิดไปทั่วทุกหย่อมหญ้า

    คนรวย มีอาหารไว้เก็บกิน ก็อาจตายเพราะภัยจากผู้หิวโหย
    ผู้หิวโหย ก็อาจตาย จากผู้หิวโหยด้วยกัน

    ดังนั้นจะหาความปลอดภัยได้จากที่ไหน

    บนความทุกข์ ความเดือดร้อน ที่เข้ามากระทบอายตนภายใน
    หากเราสามารถฝึกแยกแยะ ปล่อยวาง และเข้าใจในสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น
    เราย่อมเป็นผู้พบ และเป็นผู้พ้นจากทุกข์ทั้งปวง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2010
  15. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    สาส์นฉบับที่ ๕

    เตรียมตัวตายกันได้แล้ว

    ท่านปู่จักรวาล กล่าวด้วยสีหน้าแสดงแววเมตตาและห่วงใย ว่า

    มนุษย์โลก ต้องเรียนรู้และเข้าใจ ในเรื่องของชีวิตใหม่ กันได้แล้ว
    ขณะนี้ความตายกำลังจ่ออยู่ตรงหน้า
    สิ่งที่จะนำมาถึงซึ่งความตายนั้น มีอยู่มากมาย
    ซึ่งมนุษย์มีความเข้าใจ และรับรู้ได้ดีอยู่แล้ว

    แต่จะหาใครได้สักกี่คน ที่จะเข้าใจ ในเรื่องของความตาย
    ซึ่งเป็นความตายที่ปราศจากทุกข์ทรมาณ
    ตายด้วยความสุข เห็นอนิจจัง เป็นของไม่เที่ยงแท้ ได้จริง
    ไม่ยึดติดในกายรูปสังขาร ที่หล่อหลอมรวมตัวขึ้นมาจากธาตุทั้งสี่
    คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

    คนที่ยังยึดติดในตัวตน ยังรักห่วงใย ทนุถนอมรักใคร่ในตัวตน
    ไม่ยอมทิ้งอัตตาตัวตน
    เมื่อถึงคราวประสบชะตากรรม ภัยร้ายเล่นงาน
    จนจวนเจียนใกล้ตาย แต่ก็ยังไม่ยอมตาย เพราะความห่วงใยในตัวตน
    ย่อมยึดไว้จนถึงที่สุด ปล่อยให้ทุกข์กัดกินรุมเร้า จนจิตวิญญาณต้องรับระหัสกรรมแห่งทุกข์
    หลุดลอยลงสู่อเวจีมหานรก หรือภูมิสัตว์เดรัจฉาน คนแล้วคนเล่า

    เป็นที่น่าอเน็จอนาถ แก่บรรดาเหล่าเทพพรหม พระโพธิสัตว์ ทั้งหลาย
    ซึ่งพระองค์ได้พยายามช่วยมนุษย์เท่าที่ช่วยได้
    บัวเหล่าใด ยังจมมิดโคลนอยู่ ก็คงต้องปล่อยไปตามยถากรรม

    แม้พระพุทธองค์ ก็ยังมิอาจโปรด บัวเหล่านั้นได้

    เมื่อเห็นเป็นเช่นนี้แล้ว ใยทุกคนยังตั้งตนอยู่ในความประมาทอีกเล่า




    นำมาจาก จากจักรวาลสู่ดาวโลก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2010
  16. KritZ_2530

    KritZ_2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +293
    ให้ทุกคนคล้อยสิ่งที่มีพลังงานเป็นบวกเอาไว้ที่คอ

    วัตถุเหล่านี้ที่มีพลังงานบวก จะปรับพลังงานความคิดของเราให้กลายเป็นบวกด้วย

    เมื่อทุกคนถูกปรับด้วยสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็จะมีพลังงานพอที่จะยับยั้งภัยพิบัติได้

    (มันเป็นกลไกทางจิต ผมรู้!!!)

    ส่วนใครที่ไม่ต้องการสิ่งที่เป็นบวกห้อยคอ

    ด้วยความไม่สะดวกในทุกประการ ให้คิดในแง่บวกเข้าไว้
     
  17. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ธรรมะจากวัด

    ดร.พระมหาจรรยา สุทธิญาโณ วัดพุทธปัญญา แคลิฟอร์เนีย

    อยู่กับตัวเอง

    เมื่อมีเวลาว่าง นั่งมองเส้นทางชีวิตที่เดินผ่านมา มนุษย์ต่างใช้เวลาส่วนใหญ่เพื่อผู้อื่น ในนามของการทำงาน การทำธุรกิจ ยิ่งชีวิตสัมพันธ์กับสังคมเมืองที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมากเท่าไร ชีวิตเกือบทั้งหมดต้องอุทิศเพื่อผู้อื่นแทบทั้งหมด

    อาชีพหลายๆ อย่าง คนทำงานต้องอยู่ในสำนักงาน โรงงานหรือที่ทำงานถึงวันละ 8 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อย และมีคนจำนวนไม่น้อยในสังคมเมืองที่ทำงานถึงวันละ 16 ชั่วโมง นักธุรกิจที่มีเครือข่ายธุรกิจโยงใยไปทั่วประเทศหรือทั่วโลกล้วนต้องทำงานอย่างหนัก แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อน เพื่อให้งานต่างๆ สำเร็จลุล่วงผ่านพ้นไปด้วยดี

    มองให้ดีๆ สิ่งที่เรียกว่า งานที่ทำไปในแต่ละแห่ง เป็นการทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่บุคคลอื่นแทบทั้งสิ้น เช่นร้านอาหารที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง จุดประสงค์ที่ชัดเจนและเป็นจริงที่สุดก็คือ ให้บริการแก่ผู้ที่หิวโหยในยามค่ำคืนได้มีอาหารกินอย่างอิ่มหนำสำราญ ซึ่งมีจุดประสงค์ที่ซ้ำซ้อนอยู่คือ เจ้าของร้านได้เงินมากขึ้น

    เมื่อเจ้าของร้านได้เงินจากการบริการคืนละหลายหมื่นหลายแสนบาทแล้ว เจ้าของร้านนั้นจะอิ่มหนำสำราญด้วยเงินจำนวนนั้นไหม เปล่าเลย เจ้าของร้านจะต้องนำเงินจำนวนนั้นไปซื้อของใช้ต่างๆ เข้าร้านเพื่อทำอาหารวันต่อไป หรือหากว่าเธอหรือเขากู้เงินธนาคารมา เงินจำนวนนั้นจะต้องนำไปส่งธนาคารทั้งต้นทั้งดอกให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ หากสถานที่นั้นเป็นสถานที่เช่าต้องเก็บเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อจ่ายค่าเช่าแก่เจ้าของสถานที่

    ทั้งธนาคาร ทั้งแม่ค้า พ่อค้าขายของ ทั้งเจ้าของอาคารให้เช่า ล้วนได้รับประโยชน์จากการทำงานของเจ้าของร้านอาหารบริการโต้รุ่งนี้ทั้งสิ้น ส่วนตัวเขาเองที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ คงจะได้กินอาหารเพียงน้อยนิด เพราะอาจจะยุ่งอยู่กับการบริหารธุรกิจที่แสนจะฟูเฟื่อง หรือเมื่ออยากรับประทานอาหารดีๆ และรับประทานให้ได้มากๆ ตามใจปรารถนา แต่อนิจจาตอนนี้เขาแทบแตะอาหารอะไรไม่ได้เลย นั่งดูขนมหม้อแกงที่ตกแต่งอย่างสวยงามหอมกรุ่น แต่ไม่กล้าแตะเพราะเขาเป็นเบาหวานเรื้อรังมานาน หากกินขนมหม้อแกงเข้าไปน้ำตาลที่สูงอยู่แล้ว ต้องพุ่งสูงขึ้นไปอาจทำร้ายชีวิตเขาได้ ด้วยสภาพที่ไม่พร้อม อาหารอันโอชะอาจจะกลายเป็นยาพิษไปในพริบตา

    ร้านอาหารของเขาหรือของหล่อน อาจจะมีเมนูเด็ดเป็นขาหมูรมควัน ข้าวมันไก่ หรือต้มเครื่องใน ที่ลูกค้าคนไหนก็มุ่งหน้ามาลิ้มรส แต่เขาหรือเธอที่เป็นเจ้าของร้านต้องนั่งมองคนอื่นกินด้วยความขมขื่น เพราะเขาแตะขาหมู หรือแม้แต่ไข่ต้มเข้าไปมากตามที่ปรารถนาไม่ได้ เพราะไขมันของเขาสูงเกินกว่าที่จะประนีประนอมกับอาหารประเภทมันๆ ได้อีกแล้ว

    เจ้าของร้านอาจจะต้องนั่งทอดถอนใจแล้วหันไปหาของง่ายๆ กิน เช่น ปลาร้าสับ หรือปลาเค็มดีๆ แต่พอจะกินเข้าไปต้องชะงัก เพราะนึกได้ว่าความดันโลหิตสูงมากเกินกว่าระดับที่คนปกติจะเป็น

    ทำไม ร้านของเขาหรือเธอมีคนอุดหนุนมากมาย มีรายได้เป็นเงินแสนแทบจะทุกคืน เขาต้องอยู่ดูแลธุรกิจถึงตีหนึ่งและต้องตื่นนอนตั้งแต่ตีห้าทุกวัน เพื่อเข้ามาดูแลธุรกิจที่กำลังรุ่งเรืองอย่างสุดขีด ต้องชุลมุนกับการนับเงินทำบัญชีแทบจะไม่ได้ลุกจากเก้าอี้ เวลาใครชวนไปเที่ยวที่ไหน ก็พูดได้คำเดียวว่า ยุ่งมาก

    เจ้าของภัตตาคารอาหารดังคนนี้คือตัวอย่างของคนในสังคมเมือง ที่ทุ่มเททำงานเพื่อคนอื่นอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยด้วยเหยื่อล่อหลอกๆ ที่เรียกว่า เงิน แต่ผลที่ได้รับอันเห็นทันตาคือ ตัวเองไม่มีโอกาสได้รับความสุขหรือสงบจากความร่ำรวยที่ถาโถมเข้ามาดั่งน้ำป่านั้นเลย

    รางวัลที่ได้รับแล้วก็คือ เบาหวาน ความดัน และไขมันสูง หากเขาต้องนั่งนับเงินและบริหารธุรกิจอยู่อย่างนี้ภายในห้องแอร์จนไม่มีเวลาไปชมท้องฟ้าสีคราม รับแสงแดดอุ่นๆ ยามเช้า วันหนึ่งเขาอาจจะต้องย้ายที่อยู่ จากเก้าอี้ทำงานที่ตั้งอยู่ในห้องหรู ไปนอนในห้องผู้ป่วยอย่างดี มีสายระโยงระยางเสียบต่อตามจุดต่างๆ ของร่างกาย โดยไม่ต้องทำอะไรเลยก็เป็นได้ เวลารับประทานก็ไม่ต้องเคี้ยว ไม่ต้องกลืน อาหารไหลตรงเข้ากระเพาะ เวลาถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระอันเป็นกฎธรรมชาติที่จะต้องเป็นไป ก็ไม่ต้องทำเอง เพราะต่อท่อยางลงโถส้วมโดยตรง

    หรือเส้นทางของนักธุรกิจผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายที่มีธุรกิจมากมาย มีเงินเหลือล้น สามารถซื้อประกันชีวิตอย่างดีไว้ยามป่วยไข้ วาระสุดท้ายต้องล้มป่วยจนช่วยตัวเองไม่ได้ เพื่อจะได้ใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่า หรือชีวิตที่เดินเหินได้มีไว้เพื่อผู้อื่น แต่วาระสุดท้ายต้องอยู่กับตัวเองบนเตียงผู้ป่วยทันสมัยในห้องหรูที่เก็บค่าบริการแพงลิ่ว

    เอ๊ะ! จะเป็นรางวัลแห่งความมั่งคั่งที่ทำงานยุ่ง เพื่อผู้อื่นมาตลอดชีวิต หรือว่า เป็นโทษที่ได้รับจากการมองข้ามความสำคัญของตัวเองไป เขาหรือเธอกำลังรับรางวัลหรือรับโทษกันแน่

    การอยู่กับตัวเองบ้าง สนใจตัวเองบ้าง ดูแลตัวเองบ้าง ในเวลาที่ร่างกายยังเคลื่อนไหวได้ จึงเป็นเวลาที่มีค่ามากกว่าการอยู่กับตัวเองในวันที่ช่วยตัวเองไม่ได้แล้ว แม้จะนอนสบายไม่ต้องขยับอะไรแล้ว ตามคติที่ว่า นั่งกินนอนกินนั่นแหละ แต่จิตใจก็กระวนกระวาย เพราะอวัยวะต่างๆ สูญเสียความสำคัญไป กว่าจะเห็นค่าก็ต้องมานอนแอ้งแม้งอยู่อย่างนี้

    ธรรมชาติให้เท้ามาแล้ว เพื่อทำหน้าที่เดิน ก็ควรจะเดินให้คุ้มค่า ในเวลาที่ขายังเดินได้เต็มที่ เวลาติดขัดหรือต้องซ่อมแซมแล้วเดินไม่สะดวกจะเสียใจภายหลัง มีมือไว้หยิบฉวยทำสิ่งต่างๆ ก็เร่งทำให้เต็มที่ เคลื่อนไวไว้จะได้มีคุณค่า เพราะการได้เคลื่อนไหวร่างกายเป็นการออกกำลัง ทำให้เลือดลมและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายทำงานได้ดี

    เมื่อหมั่นดูแลร่างกายให้เคลื่อนไหวอย่างเหมาะสมแล้ว ควรมีเวลาดูแลใจด้วย เพราะใจมีส่วนสำคัญมากสำหรับชีวิต จะสุขหรือทุกข์ก็อยู่ที่ใจ ใจนี่แหละเป็นผู้รับรู้สุขหรือทุกข์ แม้ทรัพย์สินเงินทองจะมีความสำคัญให้ความสะดวกแก่ชีวิต แต่ใจจะเป็นผู้อ่านผลการดำเนินชีวิตว่าใช้สอยทรัพย์สินเหล่านั้นได้ถูกต้องสอดคล้องกับสิ่งที่ร่างกายต้องการหรือไม่

    การออกกำลังกายเคลื่อนไหวกายมาก ทำให้ร่างกายแข็งแรงนอนหลับดี แต่ถ้าปล่อยให้ใจท่องเที่ยวไปมากไม่มีสถานีหยุด ไม่ยอมพัก ก็จะทำให้ร่างกายพักผ่อนไม่ได้ เช่น ล้มตัวลงนอนยามดึกแล้วยังครุ่นคิดเรื่องราวต่างๆ สารพัด ก็จะนอนไม่หลับเพราะปล่อยใจให้เที่ยวไปไม่ยอมหยุดแม้ร่างกายจะหยุดแล้วก็ตาม

    แต่ถ้ากายและใจหยุดท่องเที่ยวไป อยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งอย่างพร้อมหน้า ขณะนั้นจะเป็นเวลาที่ชีวิตสมบูรณ์ สงบ ปกติ เพราะมีกายกับจิตเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์

    ชีวิตหนึ่งๆ จึงต้องมีเวลาทำธุรกิจการงาน ที่เรียกว่า ทำเพื่อส่วนรวม

    และควรจะมีเวลาอยู่กับตัวเองอย่างพร้อมหน้า ทั้งกายและจิต ซึ่งจะเป็นการให้เวลาแก่ตัวเองอย่างแท้จริง เพราะตัวเองจะได้รับความสุขสงบเย็นด้วยตัวเอง ชนิดที่ไม่มีใครมาช่วงชิงได้ อวัยวะทั้งหลายของร่างกายก็จะได้ใช้อย่างคุ้มค่าและพัฒนารักษาไว้อย่างมั่นคงแข็งแรงอีกด้วย

    ผู้ที่สนใจการเจริญสติ หรือเคยภาวนาเป็นพื้นฐานมาบ้างแล้ว การอยู่กับตัวเองด้วยการเจริญภาวนาหรือเจริญสติ จะเป็นการอยู่กับตัวเองที่ครบถ้วนที่สุด การเจริญสติมีหลายวิธี ปัจจุบันนี้มีหนังสือหรือตำราด้านการเจริญสติมากมาย สามารถเลือกหาข้อมูลแล้วทำ ลองปฏิบัติด้วยตนเอง หรือเวลาที่สถานปฏิบัติธรรมหรือวัดวาอารามใดๆ สอนการภาวนาก็ไปร่วมปฏิบัติดู ถ้าถูกอัธยาศัยก็นำมาปฏิบัติด้วยตนเองต่อไป สะสมไปเรื่อยๆ เพื่อเตรียมชีวิตให้พร้อมที่จะอยู่กับตัวเองอย่างไม่เร่าร้อนกระวนกระวายหรือหงอยเหงาเศร้าซึม

    หรือหากต้องการปฏิบัติการอยู่กับตัวเองแบบง่ายๆ ก็ทดลองหาที่สงบภายในห้องของตนเอง ป่า สวนสาธารณะ หรือที่ใดๆ ที่หนึ่งที่เห็นว่าสงบพอสมควร แล้วนั่งสบายๆ อย่างผ่อนคลาย มองไปรอบตัวอย่างผ่อนคลาย จนรู้สึกสัมผัสความสงบได้อย่างเต็มที่แล้วค่อยหลับตาลง ปล่อยลมหายใจให้ดำเนินไปตามธรรมชาติไม่กดดัน บังคับ หรือปรุงแต่งใดๆ เฝ้าสังเกตการหายใจเข้าออกแบบสบายๆ ไม่ต้องเพ่งจนเครียด เพียงแต่รู้ว่า เรากำลังหายใจอยู่

    นั่งไปเรื่อยๆ ก็จะรับรู้ได้ถึงความแผ่วเบาของลมหายใจที่ค่อยๆ ละเอียดลงตามลำดับ จับเบาๆ พอดีๆ พอดีเหมือนจับลูกไก่น้อยๆ ไว้ในกำมือ ไม่ค่อย ไม่เบา เมื่อลมหายใจเบาลง ร่างกายจะเย็นลงทั่วร่างจะผ่อนคลายเยือกเย็น เลือดลมในร่างกายรู้สึกว่าจะเคลื่อนไวอย่างไม่ติดขัด ความเมื่อยขบเล็กๆ น้อยๆ ก็จะค่อยๆ ผ่อนคลายลงจนหายสนิท

    เมื่อจิตใจจับลมหายใจพอดีๆ ไม่มีเวลาปรุงแต่ง ใจยุติการปรุงแต่งเมื่อใด เท่ากับใจได้หยุดพักจากการทำงาน หรือทำงานน้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น ใจก็มีโอกาสได้พัก หากทั้งกายและใจได้พักผ่อนพร้อมๆ กันอย่างนี้บ่อยๆ หรือหากได้พักทุกวันในเวลาที่เห็นว่าว่างจากการงาน ก็จะพบกับชีวิตที่พร้อมหน้าทั้งกายและใจได้ทุกวัน ชีวิตได้พักผ่อนทุกวัน ได้พลังงานทุกวัน และได้ความสุขทุกวัน เป็นความสุขที่ไม่ต้องซื้อหาด้วยราคาแพงจากอัครสถานใดๆ เพียงแต่เฝ้าดูลมหายใจที่ปลายจมูกดีๆ ก็จะพบสุขแท้ๆ แบบง่ายๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2010
  18. Hillary

    Hillary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +338
    รู้จริง มาละเมอ เพ่งตื่น ชะแว้บ
     
  19. KritZ_2530

    KritZ_2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +293
    ร่างกายผมสามารถสัมผัสพลังงานจากหินได้ ผลก็เลยทราบว่า

    การห้อยของมงคลที่คอจึงเป็นการเหนี่ยวนำให้ร่างกายเรามีพลังงานเป็นบวก

    ถึงแม้ว่าเราจะมีความคิดในแง่ลบ
    แต่พอใจเราสงบเมื่อไหร่ มันก็จะถูกของมงคลที่ห้อยไว้ที่คอ
    เหนี่ยวนำให้ร่างกายเรามีพลังงานเป็นบวก

    ร่างกายของคุณทำได้อย่างร่างกายผมหรือเปล่า??? คุณ Hillary

    ปลายนิ้วของผมสัมผัสพลังงานจากหิน และเกิดผลความรู้สึกไปทั่วร่างกาย
    จับหินปั๊บ มันก็รู้ปุ๊บ...ไม่ต้องตั้งสมาธิ มันเป็นไปเอง(มันซ่านไปทั่วผิวหนัง)
     
  20. KritZ_2530

    KritZ_2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +293
    ไม่รู้สึกแปลกที่มันจะเกิดภัยพิบัติ
    ร่างกายผมสัมผัสกับอากาศมันก็ยิบๆๆๆๆ คันคะเยอออที่บริเวณผิวหนัง

    ถ้าให้ประเมินคะแนนความสะอาดของอากาศ A B C D F

    ผมตีให้สักเกรด C+ ถึงเกรด D (แย่นะเีนี่ย)

    จึงรู้ว่าอากาศที่นี่ไม่ปลอดภัยต่อกายออร่าของผม

    คนมีความคิดเป็นลบ ทำให้รังสีออร่าที่ผิวหนังมีพลังงานลบ
    พออากาศไปสัมผัสกับผิวหนังเข้า ก็เกิดการเหนี่ยวนำให้เป็นพลังงานลบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2010
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...