ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

<TABLE id=post2188585 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>เมื่อวานนี้, 02:07 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#9900 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->mead<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2188585", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Apr 2005
ข้อความ: 5,634
Groans: 2
Groaned at 7 Times in 6 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 57,418
ได้รับอนุโมทนา 79,567 ครั้ง ใน 5,691 โพส
พลังการให้คะแนน: 6127




</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2188585 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->งานปั้นตกแต่งบนผนังในรูปเค้าทำได้งดงามล้ำลึกจริงๆครับ
ต้นไม้เทียมที่เห็นนั่นก็น่าลองทำด้วยวัสดุง่ายๆดูเหมือนกัน
เอามาใช้ตกแต่งสวนที่ Area 11 ของเขากะลาได้ด้วย
ถ้ามีโอกาสก็ลองทำกันดูสักตั้งมั๊ยครับ อิอิ

เมื่อวานนี้พี่สุดใจ พี่สมจิตร คุณโสภาและผม ก็พากันไปเลือกต้นไม้ใหญ่ๆ
ที่จะนำไปปลูกที่เขากะลาในช่วงหน้าฝนเหมือนกันครับ
สวนนี้อยู่ที่ อ.โกรกพระ มีหลายต้นน่าสนใจและราคาไม่สูงมาก
ชมบรรยากาศกันก่อนครับ<!-- google_ad_section_end -->


<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>








</FIELDSET>


</TD></TR></TBODY></TABLE>

ขอบคุณค่ะ คุณ mead ที่นำภาพสวย ๆ มาฝาก

เนื่องจากทีมงานก่อสร้าง และออกแบบ รวมถึงกรรมการ การก่อสร้างสถานธรรม ได้มีการหารือกันเพื่อที่จะจัดนำต้นไม้ใหญ่มาลงโดยรอบสถานที่ก่อสร้างอาคารก่อนที่ตัวอาคารจะสร้างเสร็จ เพื่อให้เกิดความร่มรื่น และต้นไม้จะยืนต้นได้สมบูรณ์ พร้อม ๆ กับอาคารแล้วเสร็จพอดี

ดังนั้น จึงได้มีการวางแผนที่จะจัดวางต้นไม้ใหญ่ตามจุดต่าง ๆ ก่อน โดยมีการวางแบบแปลนสวนร่วมกันหลายท่าน และคุณ mead ได้เดินทางมาจากอุทัยธานี เพื่อมาดูต้นไม้ด้วยตนเอง และทำการคัดเลือกไปปลูกที่เขากะลา

 

แบบแปลนที่คุณ mead เขียนขึ้นเพื่อวางต้นไม้ตามจุดต่าง ๆ ณ สถานที่ก่อสร้างอาคารสถานปฏิบัติธรรม

ได้ออกแบบมาให้ดูคร่าว ๆ ก่อน เพื่อคัดเลือกต้นไม้ใหญ่นำไปปลูกตามจุดต่าง ๆ ตามความเหมาะสม และให้ความร่มรื่น

แบบแปลนการจัดสวนที่สมบูรณ์แบบ จะเขียนมาให้ชมอีกครั้งค่ะ

 

คุณ mead ได้เดินดูต้นไม้และคัดเลือกต้นไม้แต่ด้วยความตั้งใจ พร้อมทั้งเก็บรายละเอียดทั้งหมดไว้ด้วย

สมกับเป็นมัณฑนากร และนักออกแบบจริง ๆ

 

ชุดที่ 4 ​

พิธีวางศิลาฤกษ์ ​

สถานปฏิบัติธรรม จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน​

วันที่ 17 พฤษภาคม 2552​

ณ เขากะลา นครสวรรค์​

ขอนำภาพ
พิธีวางศิลาฤกษ์และยกเสาเอก เสาโท เสาตรี
จนเสร็จพิธีมาให้ชมกันค่ะ

​

[vdo]http://palungjit.org/attachments/a.613655/[/vdo]​

 

เอาหมวกกันน๊อค มาให้จารย์โม่เลือก
ถูกใจใบไหน เลือกไว้ก่อน ค่อยบุตะกั่ว ทีหลังครับ

 

ตัวยาไม่ทำให้คนนอนหลับมากขนาดนี้หรอกค่ะ

เเต่ที่นอนหลับยาวขนาดนี้ เพราะว่า

คุณ นีโมใช้พลังจิตในการ ถ่ายพลังลงประคำประมวลพลังมาก เเถบหมดตัวค่ะ

เมื่อพลังจิตได้ถูกถ่ายไปมาก กายสังขาร = ถ่ายพลังจิตลงในลูกประคำ

ดังนั้นร่างกาย จึงต้องการพักผ่อนเเละชาร์ตพลัง เพื่อให้กายสมดุลค่ะ

เเต่ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ เพราะ คุณนีโม ถ่ายพลังเยอะก็จริง

เเต่ พลังจะได้กลับคืนทุกครั้งที่ มีคน ระลึกถึง คุณนีโม

ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่มีอาการ นอนหลับยาว หรือ ป่วย ให้ นั่งสมาธิเพิ่มพลัง

แต่ถ้า สังขารไม่ไหวมากจริงๆ การนอนหลับยาวจะเป็นการ เพิ่มพลังได้ดีที่สุด

กาย มาจาก ดิน น้ำ ลม ไฟ เมื่อ ถ่ายออก ย่อมสูญเสียค่ะ

ขอให้หายไวไว เเละ อนุโมทนากับการช่วยเหลือผู้คนค่ะ


ยิ่งให้ ยิ่งได้ ยิ่งให้ ยิ่งเพิ่มพลัง ^0^ (ถ้าเรื่องพลังจิตพอเเจมได้)

 

ลูกประคำ หรือ เครื่องรางของขลังในศาสนาต่างๆ จะไม่มีพลังเลย ถ้าผู้ทำไม่บริสุทธิ์จริง

บริสุทธิ์จริงในที่นี้ หมายถึง ว่าง

เรื่อง พลังจิต เป็นเรื่อง ของ คลื่นความถี่ที่กระจายอยู่ในอากาศ

พลังจิต เป็น เรื่อง ของการรวมของจิต ที่อยู่ในอากาศเข้าสู่ตัว

ดังนั้น สิ่งเดียวที่เป็นตัวรับสัญญาณ คลื่นความถี่ คือ ร่างกายมนุษย์

เพราะร่างกายมนุษย์ (อย่างที่บอกว่าเป็นเพียงเเค่ องค์ประชุมของ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ)

ส่วน จิต คือ ธาตุรู้ เป็น เพียงเเค่ รับรู้การผ่านเข้ามาของ คลื่นความถี่

เเต่มนุษย์โดยทั่วไป ไม่ได้ทำสมาธิ จิตไม่ว่างจริง

จึงไม่สามารถรับ คลื่นความถี่ที่ละเอียดมากๆได้

ดังนั้น จึงไม่สามารถสัมผัส คลื่นบริสุทธิ์ เช่น วิญญาณ สิ่งศักดิสิทธิ์ เเละ พลังงานจักรวาล

พลังดังกล่าวผ่านเข้าออกในร่างกายของมนุษย์อยู่ เสมอ หรือ ที่เรียกว่า ธรรมจักรในกาย

คลื่นดังกล่าว จะมีการหมุนอยู่ในร่างกายตลอดเวลา เป็น พลังงานไดนาโม

ถ้าผู้ใดก็ตามปฏิบัติจนถึงความว่าง จะทำให้ รับรู้ถึง พลังจิตใต้สำนึกได้อย่างง่ายดาย

ดังนั้น กายจะขับเคลื่อน ไปตาม พลังจิตตามศักยาภาพที่เเท้จริง ของจักรวาลได้

เวลา รวมจิต หรือ ถ่ายพลัง ลงวัตถุ ก็ เหมือน การ ชาร์ต คลื่นความถี่ (พลังจิต)

เพราะฉะนั้น ดิน น้ำ ลม ไฟ ได้ทำหน้าที่ถ่ายพลัง ลงไป ในสิ่งเหล่านั้น

ถ้า คนที่ ถ่ายพลังมีจิต เหนี่ยวนำอย่างไร เครื่องรางเหล่านั้น จะเป็นไปตามที่ คิด

ร่างกายมนุษย์ เป็น สิ่งที่ มหัศจรรย์ที่สุด ในจักรวาลค่ะ

เพราะ มีกลไกซับซ้อน ที่ มนุษย์ต่างดาว เขา ไม่เข้าใจว่า ใครเป็นผู้สร้าง

เเต่ เท่าที่ศึกษา คือ มนุษย์ คือ สิ่งเดียว ที่สามารถ สื่อสารได้กับทุกสรรพสิ่ง

เพียงเเต่ สังคมส่วนน้อยที่ เปิดรับเรื่องเหล่านี้ สันโดษ ก็เป็นคน ที่ไม่มีความคิด

พวกคุณอาจจะเรียกว่า ระบบ บางคนอาจจะเรียกว่า มีองค์ บางคนอาจจะเรียกว่า เจตสิก

หรือ บางคนอาจจะเรียกว่า พระวิญญาณ บริสุทธิ์ ทุกอย่างล้วนเเล้วเเต่ สิ่งที่พวกคุณประสบมา

เพียงเเต่สำหรับสันโดษไม่ได้ยึด ไม่รู้หรอกค่ะว่ามี จิตอะไรมาสิง

จิตสั่งให้พิมพ์ก็พิมพ์สิ่งต่างๆในเว็บพลังจิต ให้เพื่อนๆได้อ่าน

สันโดษ ว่าง มาก เเต่ สันโดษ รู้ว่า สิ่งอะไรก็ตาม ที่กำลังใช้ร่างสันโดษ สื่อสารกับพวกคุณ

เป็น พลังจิตที่ปราถนาดี เเละต้องการช่วยเหลือผู้คนด้วยตัวอักษร เท่านั้นเองค่ะ

 

อยากจะคลิกอนุโมทนาให้ทุกท่าน ท่านละหลายๆรอบ
ขออนุโมทนากับผู้อาวุโส อาจารย์ทุกท่าน พี่ๆ เพื่อนๆ
และทุกท่านที่แวะเข้ามา ติดตามกระทู้เขากะลาแห่งนี้ครับ


ทุกท่านๆคือแบบฝึกหัด(อาจารย์)ชั้นยอดของผม
ในระยะเวลา 6เดือนที่ผ่านมานี้
อัดทั้งทุกข์ และ ทุกข์ และ ทุกข์.. ให้มากมาย
ไม่เคยว่างเว้น นึกถึงเมื่อไหร่ ได้ทันที สมใจปรารถนา....
และดูท่าว่า จะไม่มีทางน้อยลงเลย
ขอให้เป็นแบบนี้ตลอดไปครับ


ข้าพเจ้าขอกราบขอขมา กรรมใด ที่เคยทำกับทุกท่านไว้
ด้วยกาย วาจา ใจ
และกรรมที่ผู้ใดทำกับข้าพเจ้าไว้
ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งหมด

 

โดนเลยครับ อันนี้ ทิ่มแทงสุดๆๆ

 

อ่านกระทู้คุณสันโดษเย็นขึ้นกว่าแต่ก่อนมากนะครับ อนุโมทนา

 

พอดีได้รับฟอร์เวิดเมล์ เมื่อสักครู่นี้อีกเองค่ะ .. ระบบให้นำมาข้อมูลนี้มาแจ้งเพื่อทราบ ..


FW: ภัยพิบัติล้างโลก 2012....You must read this...whether you believe it or not!!!‏


ข่าวใหม่ล่าสุด 23 พ.ค. 2552 ช่อง 11 (4 ทุ่ม) มีการคุยเรื่อง ภัยพิบัติล้างโลก 2012
อาจารย์ สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญไฮโดรเจน จากองค์การนาซ่า และเป็นผู้บุกเบิกรถยนต์ Hydrogen ในประเทศไทย ด้วยวิธีการใช้ไฟฟ้าแยกน้ำที่มีประสิทธิภาพสูง


"อาจารย์ สุมิตร" ทำงานในองค์การ NASA ในสายงานคือ ร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก เพื่อสร้างยานอวกาศ
เพื่ออพยพผู้คนจาก อุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 (แต่รู้ในวงจำกัด)

"อาจารย์ สุมิตร" ยืนยันว่าอีก 3 ปี ข้างหน้านี้ โลกกำลังจะเกิดหายนะขึ้นจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 แน่นอน
และคนในองค์การ NASA ทุกคนทราบเรื่องนี้มานานแล้ว แล้วได้สร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนจาก
อุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 ใกล้เสร็จแล้ว (แต่ "อาจารย์ สุมิตร" ไม่ได้บอกว่าสร้างไว้กี่ลำ)



"อาจารย์ สุมิตร" ยังยืนยันด้วยว่า มนุษย์ต่างดาวนั้นมีจริง ปัจจุบันมีมนุษย์ต่างดาวมาทำงานร่วมกับองค์การ NASA
โดยสื่อสารทาง "โทรจิต" ในการถ่ายทอดความรู้ทางเทคโนโลยี เพื่อช่วยมนุษย์จากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012
(มนุษย์บางคนเท่านั้นที่ถูกเลือกให้รอด)

"อาจารย์ สุมิตร" ยังยืนยันด้วยว่าโลกมนุษย์เรา ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ในจักรวาลอื่นๆ ก็มีมนุษย์ต่างดาวประมาณ 200 จักรวาล
ซึ่งโลกของเราเป็นเพียงจักรวาลเล็กๆ 1 จักรวาล เท่านั้น เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวหรอกนะ



"อาจารย์ สุมิตร" บอกว่า มนุษย์โลกสามารถติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวมานานแล้วโดยทาง "โทรจิต" แต่ทาง "สหรัฐอเมริกา" นั้นค่อนข้างปกปิด
เรื่องนี้ ทำให้คนส่วนมากในโลกไม่รู้ ในเมื่อไม่รู้ ก็จะมองว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวเป็นเรื่องเหลวไหล

"อาจารย์ สุมิตร" เป็นนักวิทยาศาสตร์องค์การ NASA มาหลายปีแล้ว ท่านเคยไปบอกให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ของไทยควรเร่งสร้างยานอวกาศ
เพื่ออพยพคนไทยจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 โดยเร็ว เพราะ "คุณสุวิช" มีเทคโนโลยีในการสร้างแล้ว ขาดก็แต่งบประมาณเท่านั้น
แต่กลับไม่มีใครเชื่อ แถมมองว่าท่านเป็นบ้าอีกด้วย พวกฝรั่งเขารู้กันมานาน เขาสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน
ค.ศ. 2012 เกือบเสร็จแล้ว แต่คนไทยยังไม่เชื่อ จะจมน้ำตายกันอยู่แล้ว ไม่รู้วันๆ คนไทยทำอะไรกันอยู่ น่าสงสารคนไทยจริงๆ

"อาจารย์ สุมิตร" ยืนยันว่าอีก 3 ปี ข้างหน้านี้ โลกกำลังจะเกิดหายนะขึ้นจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 แน่นอน นี่เป็นเรื่องจริง ที่ฝรั่ง
เค้าตื่นตัวกันมาก โดยเฉพาะในหมู่นักวิทยาศาสตร์อวกาศ แต่คนไทยเกือบทั้งหมดยังไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ น่าสงสารคนไทยจริงๆ

"อาจารย์ สุมิตร" กล่าวว่า คนไทยน่าจะเลิกทะเลาะกันได้แล้ว อีก 3 ปี ได้จมน้ำตายแน่ๆ เพราะอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012
นั้นเป็นวันหายนะที่ร้ายแรงมาก ร้ายแรงขนาดล้างโลกเลยทีเดียว ไม่งั้นมนุษย์ต่างดาวเค้าคงไม่มาทำงานร่วมกับองค์การ NASA
เพื่อช่วยในการสร้างยานอพยพผู้คนในครั้งนี้เป็นแน่



นี่เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล เพราะ อาจารย์ สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นนักวิทยาศาสตร์องค์การ NASA จริง มีตัวตนจริงๆ
ลองหาข้อมูลของ อาจารย์ สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา ใน Google ดูนะ

 

วันนี้ผมไปบริจาคเลือดที่นิคมอมตะช่วงเช้า ซึ่งผมรอมาสามเดือนหลังจากที่บริจาคครั้งที่แล้ว แต่เสียดายที่ผลตรวจเลือดมันต่ำกว่ามาตรฐาน เลือดจางนิดหน่อย ( คงนอนดึกไปหน่อย ) เลยต้องมาใหม่อีกครั้งสัปดาห์หน้า เมื่อก่อนผมกลัวเข็มมากอยากบริจาคเลือดแต่ไม่กล้าถึงขั้นจะเป็นลมหน้าซีด แต่พอมาศึกษาพลังตัวเบาจากเขากะลาแล้วสบายมาก ชิว ชิว ความรู้สึกกลัวไม่เกิด เรื่องจริง จริง นะ ไม่ได้โม้ 5555555555555+

 

เมื่อคุณอยู่กับดิน คุณจะต้องมั่นคง

เมื่อคุณอยู่กับน้ำ คุณต้องลื่นไหล

เมื่อคุณอยู่กับไฟ คุณต้องร้อนที่ใจ

เมื่อคุณอยู่กับลม คุณต้องนำพาสิ่งที่ดี


การที่เราอยู่กับมนุษย์ เราต้องรู้จักที่จะเปลี่ยนเเปลงเเละต่อสู้ค่ะ

เมื่อก่อน เรื่องพลังจิต คนมีองค์ หรือ มนุษย์ต่างดาว เป็นเรื่องที่ถูกต่อต้าน

จากกลุ่มคนที่เชื่อใน พระพุทธศาสนา

เเต่สันโดษพยายามที่จะทำให้ทุกคนเข้าใจซึ่งกันเเละกัน

ว่า นิพพาน, ความว่าง เเละ สุญญตา ล้วน คือ สิ่งเดียวกัน เเต่อย่าไปยึดติด

อะไรก็ตามที่เข้ามา ล้วนเป็นจิต มันไม่เเน่นอนหรอกค่ะ

เพราะว่า สันโดษก็สามารถกลับไปร้อนเหมือน พระเเม่กาลีได้อีกเมื่อถึงเวลาที่ต้องต่อสู้

จิต ก็ คือ จิต เราไม่สามารถควบคุม จิตได้ เเต่ถ้าเรารู้เท่าทัน

มันก็ไม่เป็นอันตรายกับใคร

ตอนนี้สันโดษ เเค่อยากจะช่วย กลุ่มต่างๆในส่วนที่ช่วยได้เท่านั้นเองค่ะ

ไปเรื่อยๆ ไม่มีสังกัด ช่วยตรงนี้นิด ตรงนี้หน่อย สบายใจดีค่ะ

ความจริงก็เคยอยากไป งานของกลุ่มเขากะลาด้วย

เหมือนตอนไปงาน ชุมนุมพลังจิตของ อจ.สามตา เเต่ว่า มันไกล เกิ๊นrabbit_scary

 

ขออนุโมทนากับคุณ Little Duck ด้วยค่ะ

เป็นข้อมูลเดียวกันค่ะ ที่เช้าวันนี้ ระบบให้พี่สุดใจอ่านข้อมูลของ อาจารย์สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา เรื่องของการเตือนภัยพิบัติ 2012 พร้อมทั้งประวัติของท่าน อยู่พอดี

และเพิ่งพิมพ์ข้อมูลเสร็จ เตรียมจะลงโพส ก็พร้อมกับที่คุณLittle Duck ลงโพสพอดี จึงขอเพิ่มเติมข้อมูลดังนี้ค่ะ


เช้าวันนี้ ระบบให้อ่านกระทู้หนึ่งที่ชื่อ

เตือนภัยพิบัติล้างโลก ปี 2012 โดย อาจารย์สุมิตร

<O</O
จากเว็บไซด์พลังจิต หมวดวิทยาศาสตร์-ลึกลับ ซึ่งเจ้าของกระทู้คือคุณ wisarn it ที่นำข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
มาให้สมาชิกเว็บไซด์พลังจิตได้รับทราบกัน<O
<O
พี่สุดใจได้เคยฟังการสัมภาษณ์ของ อาจารย์สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา ท่านนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ในรายการ THE TAXI ซึ่งมีการให้สัมภาษณ์ในเรื่องของภัยพิบัติปี 2012 และเรื่องขององค์การนาซ่า ร่วมกับมนุษย์ต่างดาว สร้างยานอวกาศขึ้นมา เพื่อเตรียมการอพยพผู้คนในระดับแนวหน้าไปอยู่ในอวกาศในขณะที่เกิดภัยพิบัติ<O
<O
ในตอนนั้น ยังไม่มีใครทราบ ไม่มีใครรู้จักบุคคลท่านนี้เท่าใดนัก ว่าเป็นใคร มาจากไหน ที่กล่าวมานั้นเชื่อถือได้เพียงใด พี่สุดใจ จึงได้แต่เพียงรับฟังไว้ เพื่อเป็นข้อมูลเท่านั้น<O
<O
มาในวันนี้ ได้รับทราบข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ที่ได้ไปสัมภาษณ์ อาจารย์สุมิตร หรือ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา และนำข้อมูลมาให้ประชาชนได้รับทราบ ผ่านทางหนังสือพิมพ์ข่าวสด จึงเท่ากับ มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือเพิ่มเติมขึ้นมาอีก

<Oและเนื่องจาก ข้อมูลดังกล่าวที่อาจารย์สุมิตร ได้ให้สัมภาษณ์นั้น มีบางส่วนเกี่ยวเนื่องกับสิ่งที่กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) กำลังดำเนินการอยู่

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ มนุษย์ต่างดาว ที่มาวางโครงการเพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติครั้งใหญ่บนโลกมนุษย์

<Oการเตรียมการฝึกบุคคลจำนวนหนึ่งขึ้นมาเพื่อทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว

<Oการเตรียมอุปกรณ์เทคโนโลยีของต่างดาว โดยเป็นอุปกรณ์ที่มนุษย์ต่างดาวเป็นผู้จัดเตรียมมาเองเพื่อให้ความช่วยเหลือมนุษย์โลก เพราะประเทศไทย คนไทยที่ต้องทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว มิได้มีปัจจัยเพียงพอที่จะจัดเตรียมได้ ซึ่งแตกต่างจากต่างประเทศ ที่ต้องจัดเตรียมเอง

แต่มีความแตกต่างกันตรงที่

<O
โลกตะวันตก หรือองค์การน่าซ่า ปกปิดเรื่องมนุษย์ต่างดาว เป็นความลับสุดยอด ทั้งเรื่องของการทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว และการสร้างยานอวกาศเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ

<O
แต่โลกตะวันออก หรือแม้ในประเทศไทยเอง กลับเปิดเผยอย่างเต็มที่ กระจายข่าวออกไปเพื่อให้สาธารณะชนได้รับรู้ ถึงการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว การเตรียมการเรื่องภัยพิบัติ และการวางแผนให้การช่วยเหลือจากมนุษย์ต่างดาว<O

แต่กลับไม่มีใครเชื่อ<O

เหมือนคำที่มนุษย์ต่างดาวได้บอกไว้เมื่อ 11 ปีก่อน และได้เคยนำมาลงไว้หลายครั้งแล้วว่า

<O
<O
"มนุษย์ต่างดาว ไม่ได้เป็นความลับ แต่บอกไปก็ไม่มีใครเชื่อ มันจึงยังเป็นความลับต่อไป"

<O</O
<O
ทำให้เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่า ที่จริงแล้วมนุษย์ต่างดาวไม่ได้พยามยามที่จะปกปิด ไม่ได้พยายามที่จะปิดบังใด ๆ

จะเห็นได้จากการปรากฏจานบินมากมายทั่วโลก สื่อสารกับคนหลายหลายกลุ่ม หลากหลายประเทศ หลากหลายสถานที่

<Oแต่มนุษย์ด้วยกันเองต่างหากที่พยายามปกปิด บิดเบือนกันเอง และพยายามที่จะกลบเกลื่อนเรื่องราวต่าง ๆ ให้ดูเหมือนเป็นการเพ้อเจ้อ เป็นเรื่องไร้สาระ ไม่น่าเชื่อถือ

<O<O
ดังนั้น คนที่พบเจอจานบิน คนที่สัมผัสคลื่น หรือติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว จึงกลายเป็นผู้ที่ถูกมองว่าเพ้อเจ้อ ไร้สาระ บ้า เพื้ยน ไปโดยปริยาย
<O
<O
วันนี้ ได้มีโอกาสเปิดมุมมองในเรื่องของภัยพิบัติ ในเรื่องของมนุษย์ต่างดาว ในเรื่องของการเตรียมการของประเทศที่เจริญทางเทคโนโลยีสูงสุด คือองค์การนาซ่า ของสหรัฐอเมริกา

<Oเปิดเผยโดยคนไทยท่านหนึ่ง ที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมหลักฐานต่าง ๆ โดยการเข้าไปทำงานอยู่ในองค์การนาซ่า และเห็นถึงสิ่งต่าง ๆ ที่คนภายนอกไม่มีโอกาสได้รับทราบ พร้อมทั้งนำข้อมูลเหล่านั้น มาเปิดเผยให้คนไทยได้รับทราบ

ก็น่าจะเป็นอีกข้อมูลหนึ่ง ที่นำมาให้เพื่อนสมาชิกได้รับทราบ และพิจารณาในความเป็นไปได้ของข้อมูลที่ได้กล่าวมาแล้วนี้

<Oต้องขออนุญาต คุณ wisarn it เจ้าของกระทู้ ขอนำข้อมูลนี้มาโพสให้เพื่อน ๆ สมาชิกในกระทู้กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้รับทราบกันด้วยค่ะ ขอขอบคุณอย่างยิ่ง


อ้างอิง จากกระทู้ http://palungjit.org/posts/2190502"][B]1[/B] </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->wisarn_it<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2190502", true); </SCRIPT> [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]
สมาชิก



วันที่สมัคร: Nov 2005
ข้อความ: 444
Groans: 2
Groaned at 7 Times in 6 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 4,294,967,295
ได้รับอนุโมทนา 2,624 ครั้ง ใน 362 โพส
พลังการให้คะแนน: 235








</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2190502 class=alt1> <CENTER><!-- google_ad_section_start -->เตือนภัยพิบัติล้างโลก ปี 2012 โดย อาจารย์สุมิตร<!-- google_ad_section_end --></B>

</CENTER>
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--//<![CDATA[ var m3_u = (location.protocol=='https:'?'https://www.palungjit.org/ads/www/delivery/ajs.php':'http://www.palungjit.org/ads/www/delivery/ajs.php'); var m3_r = Math.floor(Math.random()*99999999999); if (!document.MAX_used) document.MAX_used = ','; document.write ("<scr"+"ipt type='text/javascript' src='"+m3_u); document.write ("?zoneid=86"); document.write ('&cb=' + m3_r); if (document.MAX_used != ',') document.write ("&exclude=" + document.MAX_used); document.write ("&loc=" + escape(window.location)); if (document.referrer) document.write ("&referer=" + escape(document.referrer)); if (document.context) document.write ("&context=" + escape(document.context)); if (document.mmm_fo) document.write ("&mmm_fo=1"); document.write ("'><\/scr"+"ipt>");//]]>--></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://www.palungjit.org/ads/www/delivery/ajs.php?zoneid=86&cb=69102666742&loc=http%3A//palungjit.org/threads/%u0E40%u0E15%u0E37%u0E2D%u0E19%u0E20%u0E31%u0E22%u0E1E%u0E34%u0E1A%u0E31%u0E15%u0E34%u0E25%u0E49%u0E32%u0E07%u0E42%u0E25%u0E01-%u0E1B%u0E35-2012-%u0E42%u0E14%u0E22-%u0E2D%u0E32%u0E08%u0E32%u0E23%u0E22%u0E4C%u0E2A%u0E38%u0E21%u0E34%u0E15%u0E23.192764/&referer=http%3A//palungjit.org/threads/%u0E27%u0E34%u0E17%u0E22%u0E32%u0E28%u0E32%u0E2A%u0E15%u0E23%u0E4C%u0E17%u0E32%u0E07%u0E08%u0E34%u0E15-%u0E25%u0E36%u0E01%u0E25%u0E31%u0E1A/"></SCRIPT>
<NOSCRIPT></NOSCRIPT>

​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอคุณภาพประกอบจาก หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เมื่อราวเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ.2551 (ค.ศ.2008) อาจารย์สุมิตร หรือ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา กลายเป็นที่รู้จักของคนไทย จากการเป็นผู้คิดค้นรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนในประเทศไทยเป็นคนแรก โดยพัฒนาอุปกรณ์แยกไฮโดรเจนจากน้ำ ทำให้รถยนต์สามารถใช้พลังงานน้ำแทนน้ำมัน เชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนได้สำเร็จ หรือเรียกง่ายๆ ว่า รถใช้น้ำที่ใครหลายคนฝันไว้ ได้เกิดขึ้นได้จริงจากนักวิจัยท่านนี้

แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่านอกจากการเป็นนักวิจัยของไทยที่นับว่ามีความรู้ความ สามารถท่านหนึ่งแล้ว อาจารย์สุมิตรยังทำงานอยู่ในองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซ่า ในสายงานที่อาจเรียกว่าพิเศษก็ไม่ผิดนัก กล่าวคือ ต้องทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก สร้างยานอวกาศ เพื่ออพยพผู้คนจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือ ปี ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้กันในวงจำกัดเท่านั้น!!!

อาจารย์สุมิตร บอกเล่าผ่านรายการ The Taxi ทางช่องเอ็นบีที เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติของโลก ว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า โลกจะเกิดหายนะขึ้นจากเหตุอุทกภัย น้ำจะท่วมโลกอย่างแน่นอน ซึ่งคนในองค์การนาซ่าทุกคนต่างทราบเรื่องนี้มานานแล้ว จึงได้พยายามสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนหนีภัยน้ำท่วมโลก โดยอาจารย์สุมิตร เผยว่า ยานอวกาศดังกล่าวใกล้เสร็จแล้ว แต่ไม่ได้ระบุว่าสร้างไว้ทั้งหมดกี่ลำ

พร้อมกันนี้ อาจารย์สุมิตร ยังระบุด้วยว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริง และปัจจุบันมีมนุษย์ต่างดาวมาทำงานร่วมกับองค์การนาซ่า โดยใช้วิธีสื่อสารทางโทรจิตในการถ่ายทอดความรู้ทางเทคโนโลยี เพื่อช่วยมนุษย์จากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 (พ.ศ.2555) อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ ทางสหรัฐอเมริกา ค่อนข้างปกปิด ทำให้คนส่วนมากในโลกไม่รู้ เนื่องจากอาจมองว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวเป็นเรื่องเหลวไหล

"โลกมนุษย์เรา ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ในจักรวาลอื่นๆ ก็มีมนุษย์ต่างดาวประมาณ 200 จักรวาล ซึ่งโลกของเราเป็นเพียงจักรวาลเล็กๆ 1 จักรวาล เท่านั้น เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวหรอกนะ"

เมื่อรู้เช่นนี้ อาจารย์สุมิตร จึงเสนอต่อกระทรวงวิทยาศาสตร์ของไทย เพื่อให้เร่งสร้างยานอวกาศเตรียมไว้สำหรับอพยพคนไทยจากอุทกภัยน้ำท่วมโลก ค.ศ.2012 แต่กลับไม่มีใครเชื่อ เนื่องจากอาจเห็นว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่มีน้ำหนักมากพอในเชิงหลักฐาน

"อีก 3 ปี ข้างหน้านี้ โลกกำลังจะเกิดหายนะจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 แน่นอน นี่เป็นเรื่องจริง ที่ฝรั่งเค้าตื่นตัวกันมาก โดยเฉพาะในหมู่นักวิทยาศาสตร์อวกาศ แต่คนไทยเกือบทั้งหมด ยังไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ มันเป็นวันหายนะที่ร้ายแรง ไม่งั้นมนุษย์ต่างดาวคงไม่มาทำงานร่วมกับองค์การนาซ่า เพื่อช่วยในการสร้างยานอพยพผู้คนในครั้งนี้เป็นแน่"

นี่เป็นคำยืนยันจากปากของ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์ไทยจากองค์การนาซ่า ที่หลายคนอาจเชื่อ แต่หลายคนอาจไม่เชื่อ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคล อย่างไรก็ดี นอกจากอาจารย์สุมิตรแล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์อีกลายคนที่พยายามจะมาเตือนคนไทยเรื่องภัยพิบัติน้ำท่วม ล้างโลกก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ทำนายกรุงเทพฯ จมใต้น้ำในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) และอีกท่านที่รู้จักกันดี คือ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ทำนายอนาคตโลกต้องเกิดภัยพิบัติครั้งมโหฬารในปี พ.ศ.2560 (ค.ศ.2017) โดยท่านทำนายไว้เมื่อปี พ.ศ.2548

ย้อนกลับไปดูผลงานรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนของอาจารย์สุมิตร เป็นรถที่ใช้น้ำแทนน้ำมัน วิ่งได้ 56 กิโลเมตร/ลิตร โดยอาศัยหลักการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า ทำให้ได้ก๊าซไฮโดรเจน 2 อะตอม และ ออกซิเจน 1 อะตอม โดยใช้อุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นเรียกว่า "รีแอคเตอร์" เป็นตัวแยก เมื่อนำไปติดตั้งกับรถยนต์จะใช้ไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่รถ 12 โวลต์ เข้ามาทำการแยกโดยขั้วบวกจะมีปฏิกิริยาของออกซิเจน ขั้วลบจะเป็นปฏิกิริยาของไฮโดรเจนในการแยกโมเลกุลน้ำ และได้ไฮโดรเจนซึ่งเป็นเชื้อเพลิง แล้วส่งเข้าไปสันดาปในเครื่องยนต์

"จุดประสงค์ที่คิดค้นเกิดจากอยากให้โลกรู้ว่า น้ำสามารถเป็นพลังงานทดแทนได้ในอนาคต จึงได้พัฒนาอุปกรณ์ตัวนี้ขึ้นมา นอกจากนี้รีแอคเตอร์ยังเป็นตัวแก้ปัญหามลพิษ สภาวะปัญหาของโลกในปัจจุบันที่เกิดสภาวะโลกร้อน เพราะการใช้น้ำมาเป็นพลังงานเป็นเชื้อเพลิง จะทำให้ลดภาวะโลกร้อนและแก้ปัญหามลพิษไปด้วย ผลงานชิ้นนี้จะไม่ใช่ชิ้นแรกและชิ้นสุดท้าย ขอให้คนไทยเป็นกำลังใจให้ผมและทีมงานทำหน้าที่ต่อไปให้สำเร็จ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป" พ.อ.อ.สุมิตร กล่าว

สำหรับ อาจารย์สุมิตร หรือ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา เดิมเป็นชาว จ.ราชบุรี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ และเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนจ่าอากาศ เริ่มต้นรับราชการที่กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี เป็นเวลา 6 ปี จากนั้นได้ศึกษาต่อในหลายสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ กระทั่งจบการศึกษาในระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรมอากาศยาน จากประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์การทำงานกว่า 30 ปี ในบริษัทผู้ผลิตอากาศยานยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น โบอิ้ง หรือแอร์บัส ทำงานในองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา มีผลงานการประดิษฐ์ที่ทำให้ประหลาดใจหลายอย่าง จนเพื่อนร่วมงานขนานนามว่า "พ่อมด" แห่งองค์การนาซ่า

การศึกษา

• ปริญญาโทสาขาศิลปกรรม ด้านวิศวกรการบิน สหรัฐอเมริกา (19 มีนาคม พ.ศ.2550)
• ปริญญาตรีสาขาศิลปกรรม ด้านวิศวกรการบิน สหรัฐอเมริกา (13 มิถุนายน พ.ศ.2545)
• ประกาศนียบัตรจากบริษัทการบินไทยจำกัด มหาชน ( 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2533 – พ.ศ.2542)
• A -300- B 4/ A- 300-600 Familiarization Course
• B -747-400 Basic course
• B -737-400 ใบอนุญาตวิศวกรท่าอากาศยาน
• ประกาศนียบัตรจากโรงเรียนฝึกช่างเทคนิคการบิน
• จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดราชบุรี

รางวัลที่เคยได้รับ

• รางวัลปฏิบัติการยอดเยี่ยม ปี ค.ศ.1982 (พ.ศ.2525), Wing 23 ฐานการบินอุดร ,การบินไทย
• พนักงานยอดเยี่ยม ค.ศ.1988 (พ.ศ.2531) US Air Force สหรัฐอเมริกา
• รางวัลยอดเยี่ยมของผู้บังคับการกองทัพทหารบก สหรัฐอเมริกา กองทัพอัจฉริยะ ครั้งที่ 204,การสำรวจแผนที่จากอากาศ

โครงการและสิ่งประดิษฐ์

• ระบบควบคุมน้ำอัจฉริยะ (อยู่ในระหว่างจดสิทธิบัตร)
• น้ำ-ไฮโดรเยน พลังงานเชื้อเพลิงในอนาคต สำหรับโครงการมนุษยชาติในประเทศไทย
• Fuel Cell (พลังงานเชื้อเพลิง)
• รถวิ่งโดยใช้น้ำ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก


- digogas.com
- hgvcenter.com


:z6

<!-- google_ad_section_end -->
__________________

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->จงรู้ทุกอย่างที่จิตรู้ แต่อย่าติดในรู้นั้น​

<!-- google_ad_section_end -->






อ้างอิง ... ประวัติและผลงานของอาจารย์ สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา

- digogas.com
- hgvcenter.com




</TD></TR></TBODY></TABLE><O</B>

 

ดังนั้น คนที่พบเจอจานบิน คนที่สัมผัสคลื่น

หรือติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว จึงกลายเป็น

ผู้ที่ถูกมองว่าเพ้อเจ้อ ไร้สาระ บ้า เพื้ยน ไปโดยปริยาย


สาธุค่ะ สันโดษ ถูกจับเข้า รพ. ศรีธัญญา 2007 เเละ รพ. บ้านสมเด็จ 2009

สันโดษพูดคนเดียว จนที่บ้าน เขาเป็นห่วง ตอนนั้น คุยกับ มนุษย์ต่างดาวค่ะ

เเต่ก็คุยกับอย่างอื่นด้วย เช่น โลก ดิน น้ำ ลม ไฟ ธรรมชาติก็คุยค่ะ

เเต่ไม่เคยเห็น จานบิน เเค่ สื่อผ่านทางจิตเท่านั้น

สันโดษ โดนต่อต้านจากที่บ้านเยอะมากๆ เเม้เเต่ในเว็บพลังจิต

ทางการเเพทย์ เขาเรียกว่า โรคไพโบล่าร์น่ะคะ ต้องทานยา เเละ นอนเเต่หัวค่ำถึงจะหาย

สันโดษ เลยไม่กล้าพูดอะไร เเต่ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไม วันนี้ถึงได้พูด

เพราะตัวเองก็รักษาโรคดังกล่าว โดยการปฏิบัติธรรม เเปลกดี ^0^

คนอื่นอาจจะว่า สิ่งที่สันโดษพูดว่าเพี้ยน

เเต่สำหรับสันโดษเวลาเเสดงท่าทาง หรือ พูดอะไร สันโดษเเค่รับรู้

ตอนที่สื่อจะเหมือนหุ่นยนต์ เดิน พูด เป็นเรื่องเป็นราว คนเดียว เจาะระบบคอมพิวเตอร์

เหมือนโทรศัพท์ มือถือ ไม่ได้คิด ไม่ได้ยึดติด เป็นพักๆ เเต่ตอนนี้ ก็ ไม่มีอะไรค่ะ

เน้นไปทางปฏิบัติธรรม สวดมนต์นั่งสมาธิ ไปทางธรรมะบำบัดจิตเเทนค่ะ

คิดว่า สิ่งที่เกิด เป็นวิบากกรรม ในปัจจุบันชาติที่เรา ต้องยอมรับ สบายใจมากกว่าคิดว่าตนเอง บ้าคะ

 

มาส่งการบ้านครับ [ผังรวม]
ต้องบอกก่อนครับว่าเรื่องต้นไม้นั้นผมเองไม่ถนัดเหมือนงานออกแบบหรือวาดรูป
ยังไงต้องขอคำแนะนำเรื่องต้นไม้จากผู้เชี่ยวชาญการเกษตรแถวนี้ด้วยครับ

เอาว่าทำแบบผังรวมออกมาประมาณนี้ก่อน
ต้นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่นั้นจะเป็นต้นอะไรบ้างก็มาเลือกกันได้ครับ
หลังจากทำโครงสร้างอาคารเสร็จแล้วจะใส่ต้นไม้ขนาดกลางและขนาดเล็ก
ในสเต็ปแรกนี้ขอเน้นไปที่ต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาก่อน
จะมีต้นไม้อย่างน้อย 7 ชนิดครับ


ทิศตะวันตก..(ทางซ้ายมือ)
แดดบ่ายจัดเลยต้องใส่ต้นไม้ไว้บังแดด 7 ต้น.....
อาจเป็นต้นหางนกยูง (ดอกสีส้ม) หรือราชพฤกษ์ (ดอกสีเหลือง)

ทางทิศเหนือ... (ด้านบน)
บริเวณสวน Crop Circle มีต้นไม้ใหญ่รอบบริเวญ 11 ต้น.... (รวมต้นโพธ์)
ทางเจ้าของสวนแนะนำเป็นต้นเสลา..(ดอกสีชมพูคล้ายซากุระ)

ทิศใต้...(ด้านล่าง)
รอบสระใส่ต้นมะพร้าว 7 ต้น....
พี่วรรณบอกว่ามีเพื่อนปลูกมะพร้าวขาย (มาลงตรงนี้นะครับ)
ด้าวนี้วิวสวยมากมองเห็นภูเขา ใช้เป็นต้นปาลม์ หรือมะพร้าวน่าจะเหมาะครับ

ส่วนรอบอาคาร...
จะเป็นไม้ใบ ที่ไม่มีละอองเกษร (เผื่อบางคนมีอาการแพ้ครับ)
อาจปลูกตะไคร้หอมรอบๆ เพื่อไล่ยุง..
หรือเป็นไม้ไทยๆ ที่มีกลิ่นหอมก็เหมาะ
ใครมีความเห็นอะไรแนะนำได้เลยครับ

 

ขอแสดงความเห็นนิดนึงครับ
1.อยากใ้ห้มีทางเดินแบบมีหลังคาเชื่อมระหว่างอาคารด้วยครับ เวลาฝนตกจะได้ไม่ต้องเดินตากฝน เพราะเผื่อเกิดภัยพิบัติแล้วน้ำฝนเป็นพิษ โดนตัวจะไม่ดีครับ

2.อยากให้มีจุดที่ไม่มีต้นไม้ เป็นคล้ายลานหินขนาดใหญ่ เคยอ่านพบเกี่ยวกับเกี่ยวกับร่องรอยของมนุษย์ต่่างดาวว่า เขามักสร้างลานหิน หรือพวกปิรามิดที่ทำด้วยหินล้วน ๆ เช่นเป็น วงกลมหิน ซึ่งกล่าวกันวาเป็นฐานของจานบินสมัยก่อน หรือเวทีหิน สโตนเฮนจ์ ซึึ่งเล่าว่าเป็นฝีมือของมหนุษย์ต่างดาวเช่นกัน และให้ห่างจากตัวอาคาร เยอะ ๆ หน่อย เผื่อจานบินมาจอด ครับ จุดนั้นจะมีกัมมันตภาพรังสีสูง เขาจะได้ไม่ต้องไปหาที่จอดไกลครับ (อีกจุดประสงค์นึงคือเป็นเหมือนหลักฐานทางประวัติศาสต์ในอนาคตเพราะ หินอยู่ได้เป็นพันปีครับ อาจเป็นเหมือนร่องรอยทางประวัติศาสตร์)

3.อยากให้ทำแผ่นหินสำหรับสลักข้อความ เช่นรูปภาพ เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการติดต่อระหว่างกลุ่มเขากะลาฯ กับ มนุษย์ต่างดาว เช่นที่พบตามผนังถ้ำ เช่นภาพเขียนบนหินที่ภูเขาแอลป์ส (อิตาลี) และรูปคนบนที่ราบสูงนาซคา (เปรู) หรือรูปมนุษย์ต่างดาวติดเสาอากาศ ที่ภูเขาทัสซิลี ในทะเลทรายซะฮารา แม้แต่การทำภาพพิมพ์บนหินรูปของมนุษย์ต่างดาวตลอดจน อุปกรณ์ที่ทันสมัยที่ยังไม่ีมีในยุคปัจจุบัน (เช่นภาพมนุษย์ต่างดาวถือเครื่องอัดเทป ที่พบในทิเบต) หรือรูปสัญลักษณ์ของดาวที่ติดต่อด้วย หรือรูปร่างของมนุษย์ต่างดาว เป็นหินรูปคน(หรือมนุษย์ต่างดาว) (ที่เกาะอีสเตอร์) ตลอดจนเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของกลุ่มเขากะลากับมนุษย์ต่างดาวที่ทำงานร่วมกัน ผมว่าเป็นภาพที่น่าประทับใจมาก ๆ ทีเดียว เป็นเหมือนตัวแทนของความหวัง ความรัก ความสามัคคีของจักรวาลทีเดียวนะครับ


ผมเห็นว่า เรื่องเหล่านี้อาจจะเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติเลยทีเดียว
ผมจินตนาการไปว่า ต่อไปเกิดน้ำท่วม แล้ว พื้นที่ต่างๆ จมอยู่ใต้น้ำ ซากปรักหักพัง
พวกหิน พวกภาพแกะสลัก จะยังคงอยู่เหมือนหลักฐานของพวกแอตแลนติส ที่จมอยู่ใต้น้ำ หรือพื้นที่นี้อาจกลายเป็นเกาะ พื้นที่ไม่กี่กิโลเมตรก็ได้


ขออภัยที่แสดงความคิดที่แสดงความเห็นมากไปหน่อย ถือว่าเป็นแบบคร่าว ๆ แล้วกันครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยทางกลุ่มเขากะลาฯด้วยครับ
ขอบคุณครับ

 

อยากให้ปลูกต้นไม้เยอะๆครับ เป็นสวนป่าได้ยิ่งดี เวลานั่งสมาธิใกล้ชิดธรรมชาติ จิตสงบได้ง่าย

พวกเราไม่ควรเน้นอาคารสิ่งก่อสร้างหรูหรา เพราะพวกเราเน้นการปล่อยวางอยู่แล้ว ดังนั้นทำให้เป็นธรรมชาติดีที่สุด

 

UFO ถ่ายโดยนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น (Must See)

เป็นคลิป VDO ที่ดีมากๆคลิปหนึ่งคือถ่ายได้ภาพชัดเจนมาก และที่สำคัญ คือเป็น ของแท้ จนขนาดนักท่องเที่ยวคนแรกที่เห็นภาพ อุทานออกมาว่า ufo da zettai แปลว่า ufo แน่นอนอ่ะ. ko no jo tai แปลว่า รูปร่างแบบนี้. หลังจากนั้น ก็ส่งกล้องต่อให้เพื่อนอีกคนหนึ่ง confirm (จะมีช่วงจังหวะที่ส่งมอบกล้องให้กันภาพจะสั่นไหวมากหน่อย) หลังจากเพื่อนคนนั้นได้รับกล้องแล้ว ก็ซูมภาพดูพร้อมอุทานออกมาด้วยความตกใจ อย่างแรง เพื่อนคนแรกก็พูดอีกว่า ufo da be = เห็นม่ะ ยูโฟ อย่างที่กูพูด (ภาษาที่ใช้พูดเป็นคำที่พูดกับเพื่อนสนิท)
ลองดาว์นโหลดไปชมกันน่ะครับ..
[VDO]614301[/VDO]

 

ขอบคุณเช่นกันครับที่ให้ข้อแนะนำ
บางเรื่องที่คุณคิดมานี่ทางเราก็แอบคิดกันไว้เช่นกันนะครับ
เช่น Stargate สร้างจุดที่ยานลงจอด..(เผื่อเอาไว้)
ทำแท่งหินปิรามิดหรือวัตถุที่สื่อถึงอารยธรรมของเพื่อนต่างมิติไว้บ้าง
อาจเป็นเครื่องหมายสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลอะไรแบบนี้ครับ
ไหนๆก็จะทำเรื่องนี้แล้วต้องทำให้เข้าเรื่องหน่อย (ไม่ทำก็ยังไงอยู่ใช่มั๊ยครับ)
อนาคตอาจเป็นแหล่งดึงดูดกลุ่มผู้สนใจ UFO แบบ Area 51 ที่เนวาด้าก็ได้
แต่ที่นี่คงเพิ่มในเรื่องของการให้ความรู้..และหลักฐานที่พิสูจน์ได้
พร้อมกับตำนานที่จะเล่าขานสืบต่อไปครับ..(ซึ่งเรื่องยังไม่จบ)

ส่วนเรื่องการป้องกันภัยก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องคำนึงถึง
การเตรียมตัวคือการฝึกจิตข้ามสู่มิติที่ 5 ครับ

ขอบคุณคุณอภิชาญด้วยครับ
เรื่องต้นไม้จะค่อยๆเขียวและครึ้มขึ้นเรื่อยๆค่อยเป็นค่อยไป วัตถุก็สร้างเท่าที่จำเป็น
โครงการนี้น่าจะเหมือนห้องทดลองมากกว่า ทั้งภาคเกษตรและเทคโนโลยี่
อาจจะมีการนำพลังงานกังหันลมหรือโซล่าเซลล์มาใช้ การผลิตน้ำหมุนเวียน-การลดโลกร้อน
ให้อาศัยอยู่ได้แบบไม่ต้องพึ่งพาภายนอกจนเกินไปครับ
พื้นที่ตรงนี้ยังมีสื่งให้คิดละทดลองทำอีกหลายไร่ครับ