ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

คุณmicrowaveขยายระบบให้กับคุณอ้อม Blog17



อ.สุดใจช่วยขยายระบบสงสัยคุณอ้อมงานเข้าแน่นอน

 

จนจะเข้านอนกันอยู่แล้ว คุณtaksamunกับคุณsutasseeและคุณA41 เพิ่งจะมาถึง

 

ขออนุโมทนากับอาจารย์หนุ่ย อาจารย์เม้าท์ อาจารย์แตง และช่างภาพทุก ๆ ท่าน ที่ได้นำภาพในพิธีวางศิลาฤกษ์สถานปฏิบัติธรรมมูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน มาให้ได้ชมกันอย่างเต็มที่

ภาพแต่ละภาพบ่งบอกถึงความสมัครสมานสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ร่วมแรงร่วมใจ ช่วยกันคนละไม้ละมือ ด้วยความเต็มอกเต็มใจ รอยยิ้มสดใสฉาบบนใบหน้าของผู้ที่มาร่วมงานในวันนั้น จวบจนพิธีสำคัญสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี


ขออนุโมทนาสาธุด้วยกับทุก ๆ ท่านค่ะ

บันทึกตำนานอีกหน้าหนึ่งของ
กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัีย(เขากะลา)


แผ่นศิลาฤกษ์ สถานปฏิบัติธรรมมูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน

​

พระอาจารย์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ปิดแผ่นทองบนแผ่นศิลาฤกษ์




ผู้เข้าร่วมพิธี อธิฐานบารมีกันอย่างตั้งอกตั้งใจ







ได้เวลา พระอาจารย์ทำพิธิวางศิลาฤกษ์ลงบนสถานที่ก่อสร้างอาคาร
สถานปฏิบัติธรรมมูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน






ผู้อาวุโสทั้ง 4 แผนก และ คุณพีท ทองเจือ ซึ่งรับหน้าที่ประธานฯ แทนคุณธนวรรณ ได้ร่วมปิดทองลงบนแผ่นศิลาฤกษ์




ผู้ร่วมพิธี ช่วยกันโปรยข้าวตอกดอกไม้ และปิดทองแผ่นศิลาฤกษ์





ร่วมแรงร่วมใจกันยก เสาเอก เสาโท และเสาตรี เพื่อลงหลักปักฐานของการสร้างอาคาร

สถานปฏิบัติธรรมมูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน

ได้เริ่มต้นก่อตั้งอย่างเป็นทางการแล้ว


​

ณ วันที่ 17 พฤษภาคม 2552

เวลา 07.17 นาฬิกา
​

ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาบุญกับเพื่อนสมาชิกทุก ๆ ท่านที่เดินทางไปร่วมงานในครั้งนี้ค่ะ

 

ขออนุโมทนากับคุณ wellrider และคุณอรัญญา เจนชัยภูมิ ที่ได้บริจาคเงินสมทบทุนร่วมเป็นเจ้าภาพการก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมมูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ร่วมกัน

ในตอนนี้ พี่สุดใจ ได้เบิกเงินจ่ายค่าสาธารณูปโภคทั้งหมดที่ค้างจ่ายอยู่เสร็จสิ้นแล้ว ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา

ส่วนที่ได้รับบริจาคเพิ่มเติมเข้ามานี้ จะเก็บรวบรวมไว้ และส่งเข้าร่วมสมทบทุนการสร้างอาคารในส่วนที่ยังคงขาดต่อไป

ดังนั้น หากท่านใดจะร่วมสมทบทุนการก่อสร้างสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ สามารถโอนเข้ามาร่วมสมทบทุนได้ในบัญชีดังกล่าว ซึ่งในตอนนี้ ได้ไปปรับสมุดบัญชีมาแล้ว มีเงินโอนเข้ามาจำนวน 2,000 บาท ซึ่งเป็นของทั้งสองท่านที่ได้บริจาคเข้ามา

หากท่านใดจะร่วมบริจาค กรุณาช่วยโพสแจ้งไว้ในกระทู้แห่งนี้ด้วยนะคะ เพื่อพี่สุดใจจะได้รับทราบผู้ร่วมบริจาค และทุกคนจะได้เป็นพยานร่วมกัน ถึงจำนวนเงินที่มีเพิ่มเข้ามาในบัญชีดังกล่าว ว่ามีเพิ่มขึ้นเท่าไรในขณะนี้

หากจะมีการนำเงินในส่วนนี้ไปใช้ในสิ่งจำเป็นของสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ จะมีการพิจารณาตามความเหมาะสม จากคณะกรรมการบริหารของแผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิตร่วมกัน อย่างน้อย 2 ท่าน จึงจะสามารถนำเงินไปดำเนินการได้ตามจุดมุ่งหมาย

และจะแจ้งลงในกระทู้นี้ทุกครั้ง หากมีการนำเงินไปดำเนินการในเรื่องใด ๆ

ขณะนี้ มียอดเงินบริจาคสมทบอยู่ในบัญชี จำนวน 2,000 บาท

ขออนุโมทนากับผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพทั้งสองท่านด้วยค่ะ




<table id="post2114773" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">19-05-2009, 02:21 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #9006 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->wellrider<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2114773", true); </script>
ผู้สนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Jan 2007
ข้อความ: 3,190
Groans: 0
Groaned at 19 Times in 15 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 12
ได้รับอนุโมทนา 28,318 ครั้ง ใน 2,696 โพส
พลังการให้คะแนน: 1393


</td> <td class="alt1" id="td_post_2114773" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->สวัสดีครับ
พอดีช่วงนี้ยุ่งๆแต่ก็ได้ติดตามอ่านตลอดนะครับ
วันนี้ ตอน 12:52
ผมได้โอนเงินเข้าบัญชีของคุณสุดใจ
1000 บาท

ช่วยบริจาคเป็นค่าใช้จ่ายของศูนย์ปฏิบัติธรรม
ที่เหลือค้างอยู่ครับ

ขอบคุณครับ ^^
</td></tr></tbody></table>





<table id="post2120129" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">21-05-2009, 03:58 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #9119 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Bizan<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2120129", true); </script>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 10
Groans: 0
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 422
ได้รับอนุโมทนา 111 ครั้ง ใน 7 โพส
พลังการให้คะแนน: 0


</td> <td class="alt1" id="td_post_2120129" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2552 เวลา 16-17 น.
คุณอรัญญา เจนชัยภูมิ ได้โอนปัจจัยร่วมทำบุญ
สร้างสถานปฏิบัติธรรม จำนวน 1,000 บาทค่ะ

อนุโมทนาค่ะ
</td></tr></tbody></table>

 

พี่สุดใจคะ ขออนุญาตนอกเรื่องนิดนึงค่ะ คือรูป (จากภาพถ่าย) ที่พี่สุดใจเพิ่งโพสไว้นี้สวยจังค่ะ ไม่ทราบทำยังไงคะ ขอความกรุณาแนะนำด้วยค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

 

ในช่วงนี้ พี่สุดใจอาจจะไม่ค่อยได้เข้ามาโพสในกระทู้นี้บ่อยครั้งเช่นเคย แต่ก็ขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ได้ติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และขอฝากกระทู้นี้ไว้กับเพื่อน ๆ สมาชิกทุก ๆ ท่าน เป็นเจ้าของร่วมกัน

ส่วนพี่สุดใจ กำลังรวบรวมข้อมูลส่งให้ทีมงาน blog 17 เพื่อจัดทำเวปไซด์ UFO at KAOKALA ต่อไป

ในตอนนี้ ได้จัดทำข้อมูลโดยใช้คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ แทนเครื่องเก่าที่เสียไปแล้ว ได้รับการสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์มาจากคุณพีท ทองเจือ ซึ่งทำให้การทำงานจัดทำข้อมูล ทำได้ไวกว่าเครื่องเดิมมาก ต้องขออนุโมทนากับคุณพีทด้วยอย่างยิ่ง

เสร็จสิ้นภารกิจในการเตรียมงานเพื่อวางศิลาฤกษ์ และตอนนี้พิธีวางศิลาฤกษ์ได้สำเร็จลุล่วงไปแล้ว ขณะนี้ พี่สุดใจจึงต้องเริ่มดำเนินการจัดทำข้อมูลอย่างจริงจังและต่อเืนื่อง เพื่อจะได้เผยแพร่ข้อมูลอย่างครบถ้วน ถูกตรง และมีประสิทธิภาพ

เพื่อรองรับสถานปฏิบัติธรรมที่จะเสร็จสมบูรณ์ในไม่ช้านี้

 

พี่สุดใจคิดว่า น่าจะมีโปรแกรมแต่งภาพหลาย ๆ โปรแกรมที่สามารถทำได้นะคะ

แต่สำหรับพี่สุดใจใช้โปรแกรม Photoshine ค่ะ (โหลดจากอินเตอร์เน็ตก็ได้ค่ะ)

เข้าไปในโปรแกรมแล้ว จะมีแถบด้านบน เป็นรูปหัวตุ๊กตา 3 หัวเรียงกันอยู่ ไปที่รูปตุ๊กตาตัวสุดท้าย จะเป็นภาพแบ่งครึ่ง สีครึ่งหนึ่ง และขาวครึ่งหนึ่ง (นั่นคือทำภาพสีให้เป็นภาพวาด) ถ้าเอาลูกศรชี้ไปที่ภาพตุ๊กตานั้น จะมีภาษาอังกฤษว่า Sketch Photo

เลือกภาพที่ต้องการเข้ามาในโปรแกรมก่อนนะคะ แล้วค่อยคลิ๊กที่รูปตุ๊กตาภาพที่ 3 ภาพถ่าย ก็จะเปลี่ยนเป็นภาพวาดทันที

ขอให้สนุกกับการแปลงภาพถ่ายเป็นภาพวาดนะคะ

 

อ้างถึงข้อความของคุณนีโม่

..."แล้วเรามั่นใจแล้วหรือว่า ในขณะที่เรากำลังจะตายจะด้วยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม
จิตและอารมณ์ในขณะที่จะดับไปนั้นเราสามารถประคับประคองอยู่ด้วยสติ
อันบริบูรณ์ได้หรือไม่ จิตมีความผ่องใสปราศจากความหวาดหวั่นวิตกหรือ
หวาดกลัวหรือไม่ จิตจะไม่เกิดโทสะ หรือโมหะ หรือโลภะหรือไม่
ท่านไม่ต้องให้ใครมาประกันหรอก ท่านลองตรองดูว่า ท่านสามารถทำได้
หรือไม่ในสภาวะอย่างนั้น คำตอบอยู่ที่ตัวท่านเอง นี่ยังไม่นับรวมถึงการตาย
โดยอุปัทวเหตุ การตายโดยฉับพลัน การตายโดยหลงลืมสติ นอนหลับ
หมดสติ ฯลฯ นั่นก็ยากจะคาดเดาแล้วว่าผลจะเป็นอย่างไร"...

จริงๆแล้วก็ชอบและตรงใจทั้งดุ้นหนะแหละครับ..
เพราะตัวเองก็กำลังตระหนักถึงเรื่องจิตสุดท้ายนี่อยู่เหมือนกัน

อ่านแล้ว..
..เหมือนโดนไม้หน้าสามฟาดโผ๊ะเข้ากลางแสกหน้าเหมือนกันนะเนี่ย..

มันสะท้าน สะเทือน ไปถึงข้างในเลยทีเดียว..
แต่ไม่ใช่ว่าจะหวาดกลัวหรอกนะครับ..เพียงแต่ทุกวันนี้
เท่าที่ซ้อมๆอยู่นี่ ยังสอบไม่ผ่าน ยังไม่มีสติพร้อมบริบูรณ์
และถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ยังไม่พร้อมที่จะตาย (อย่างนักรบแห่งธรรม)

โดยเฉพาะกับเรื่องความฝันนี่ ถ้าท่านได้อ่านกระทู้นี้มานานๆ
ท่านก็อาจจะพอรู้นะครับ ว่าผมกับความฝันนี่ มีอะไรพิเศษต่อกันอยู่

จนบางครั้ง ผมยังกลัวตัวเองเลย กลัวว่า
ถ้าฉันตายไปตอนที่ฉันยังหลับฝันอยู่นี่
ฉันจะไปตกที่ไหนกันเนี่ย..

เพราะหลายครั้ง ในความฝัน มันจะชัดเจน
และรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าแจ่มแจ้ง
เหมือนกับในความจริง ไม่มีผิดเพี้ยนเลย
และบ่อยครั้งที่ผมแยกไม่ออกว่าอันไหนจริง อันไหนฝัน
เพราะมันชัดเจนเหมือนกัน ทั้งๆที่ในขณะที่ฝันนั้นหนะ
ก็พยายามถามตัวเองอยู่ว่านี่จริงหรือฝัน ก็จนคิดไปว่าคงจะจริง
แต่พอตื่นขึ้นมา ถึงได้รู้ว่าถูกความฝันหลอกเอาอีกแล้ว

ที่ผมบอกว่าผมยังไม่พร้อมที่จะตายอย่างนักรบแห่งธรรม
ก็เพราะว่า ตอนนี้ผมก็กำลังฝึกสติอยู่ และตราบใดที่ผมยังแยกไม่ออก
ว่าอันไหนจริง อันไหนฝัน (ในขณะที่ฝัน) ผมก็จะยังวางใจไม่ได้
ว่าผมจะมีสติเพียงพอในเวลาที่จะตายได้

มีเหมือนกันครับ ที่ในขณะที่กำลังฝันอยู่ แล้วแยกออกว่านี่แหละ
..กำลังฝันอยู่..
แต่คิดเป็น % แล้ว น้อยครั้งมาก ส่วนใหญ่จะแยกไม่ออก

เฮ้อ..คงต้องซ้อมกันไปทั้งในตอนตื่น และตอนหลับนั่นแหละครับ
ประมาทไม่ได้เลย เพราะมีคำเฉลย ให้รู้ตัวเองอยู่ตลอด (ฝัน)
ว่าก้าวหน้า หรือพร้อมแค่ไหน

 

คุณชยุต ฝันได้ชัดเจนราวกับจริง จนแทบแยกแยะไม่ออกว่าอย่างไหนจริงอย่างไหนฝัน นั้น

หากวิเคราะห์ตามที่ อาจารย์โนวา อนาลัย กล่าวไว้ ถือว่า เป็นผู้มีสติ ในขณะนอนหลับ จึงทำให้ภาพในฝันชัดเจน และจดจำได้แม่นยำ

ขออนุโมทนาครับ

 

พ่อ-แม่ คือพระในบ้าน
การไหว้พระในบ้าน (พ่อแม่)
เมื่อเราไหว้พระรัตนตรัยแล้ว ก่อนนอนทุกวันพึงไหว้พ่อแม่ ผู้เป็นพระในบ้าน ซึ่งมีพระคุณอันยิ่งใหญ่แก่เรา รำลึกถึงพระคุณของท่าน กล่าวคำไหว้
" มัยหัง มาตาปิตูนังวะ ปาเทสุ วันทามิ สาทะรัง "
นึกถึงพ่อแม่ และนึกเห็นตัวเราหมอบกราบแทบเท้าท่านทั้งสอง

 

อ้าว..ข้อความของอาจารย์นีโม่อันหลังนี่
ขอขยายความเพิ่มหน่อยนะครับ เพราะมีที่ต้องชี้แจงเพิ่มอยู่ครับ

ในความเห็นของผม การทำบุญด้วยทานนั้น ก็หาใช่ไร้ประโยชน์ซะทีเดียวไม่
เพราะความดีที่ทำง่ายที่สุด ก็เริ่มจากทานนี้แหละ และพอเริ่มทานได้แล้ว
ความดีอื่นๆที่ยิ่งๆกว่า ก็จะตามกันมาเอง อันนี้ไม่ได้พูดลอกใครมานะครับ
เพราะเป็นเอง ประสบมาด้วยตัวเอง และคาดว่าที่อื่นๆ คนอื่นๆก็จะเป็นแบบเดียวกันนี้ด้วย

เมื่อความดี มันก่อฐานขึ้นหนาแน่นระดับหนึ่ง อันดับแรก มันก็จะไปเกาะความสุข
ความสบาย และหนีทุกข์คติภูมิอยู่ที่สวรรค์ แปลว่าเราก็จะเริ่มหวังมนุษย์สมบัติ
สวรรค์สมบัติไปก่อน

แต่พอความดีหรือพลังบุญมาหนาแน่นขึ้นอีก ก็จะย้ายมาหวังพระนิพพาน หรือพุทธภูมิกันหละทีนี้

ที่อาจารย์นีโม่พูดมานั้นก็ถูก สำหรับผู้ที่อยู่ตรงจุดนี้แล้ว แต่สำหรับคนที่ทำบุญหวัง "ผลบุญ"อยู่
เขาก็ทำถูก และหวังถูกด้วย เพราะนั่นเป็นขั้นตอน เป็นเป้าหมายของเขาในระดับนั้นๆ
และผมก็เชื่อว่า เป็นไปไม่ได้ ที่อาจารย์โม่เองจะไม่เคยทำบุญ และหวังผลบุญมาก่อนเลย

ถูกไหม๊ครับ..

ที่นี้ มาถึงจุดที่อยากจะแชร์ไอเดียหละนะครับ..

จิตสุดท้าย คือตัวตัดสินที่ที่จะไปเกิดต่อ หรือ ภพภูมิที่จะไปเกิดต่อ
อย่างที่หลวงพ่อวัดพระธรรมกาย (วัดที่อาจารย์โม่เขม่นอยู่นั่นแหละ)
ท่านใช้คำว่า "ศึกชิงภพ" คือจะได้ไปที่ไหน ก็อยู่ตรงนี้แหละ
มันเป็นเรื่องหน้าสิ่ว หน้าขวาน และสำคัญยิ่งใหญ่มากๆเลยทีเดียว..

ในความเห็นของผมนะครับ ถ้ามาดแม้นว่าไปไม่ถึงพระนิพพาน ก็ขออย่าได้หลุด
ลงไปถึงทุขคติภูมิโน่นเลย ดังนั้น ที่ทำบุญเอาไว้ ก็เพื่อให้จิตชินอยู่กับความดี
อยู่กับบุญ จะได้นึกออก ว่าเราเคยทำดีมาจนเป็นนิสัย ให้ใจมีที่เกาะยังไงหละครับ

...แต่ถ้าบังเอิญมีใครที่ไม่ค่อยได้ทำบุญ แต่บังเอิญฟลุ๊คๆจิตสุดท้ายเกิดเป็นกุศลเข้าพอดี
ได้ไปเกิดในสุขคติภพพอดี..ก็ในเมื่อไม่ค่อยมีบุญญาธิการอะไรกับเขาเลย
จะอยู่ได้สักกี่วัน กี่เดือน กี่ปีหละครับ และก็จะไปเกิดเป็นชนชั้นอะไรของเขาหละ?...

...ไม่ทันไร..ก็จะต้องหล่นตุ๊บกลับลงไปในที่ๆควรจะลงไปตั้งนานแล้วอยู่ดีนั่นแหละครับ..


ดังนั้นหากมีบุญมากกว่า ก็สามารถใช้เป็นพลังเกื้อหนุนให้การเกิดเป็นมนุษย์ของเรา
ในชาติภพต่อไป ให้มีสภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการสร้างสมบารมีสืบต่อจากชาติปัจจุบันนี้
ได้สะดวกยังไงหละครับ แต่ก็ต้องอธิษฐานกำกับเอาไว้นั่นแหละ ว่าเราจะต้องเป็นผู้
ที่มีสัมมาทิฐิ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ และสัมมาปัญญา

ฉะนั้น ไม่ได้แปลว่าเกิดมารูปสวย รวยทรัพย์ สุขภาพดี อายุยืน ปัญญาดี จะมีโอกาสได้สร้าง
บารมีน้อยกว่าคนที่เกิดมาจน พบเจออุปสรรคมามากๆอย่างโชกโชน ซะที่ไหนหละครับ

...เผลอๆนะ..ฟังเทศนาจากพระพุทธเจ้าเพียงไม่กี่ประโยค..ก็บรรลุได้แล้ว..

แถมอีกนิดนะครับ..และโดยเฉพาะการบำเพ็ญสายพุทธภูมินี้ มันก็บังคับอยู่ในตัวอยู่แล้ว
ว่าเราต้องกระเตงบุญ กระเตงบารมี 30 ทัศน์ ไปไหนต่อไหนด้วย ตลอดหลายสิบอสงไขย
จนกว่ามันจะเต็มพร้อมบริบูรณ์ โน่นแหละ

...โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกที่หวังจะบรรลุเป็น "พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์สุดท้าย" หรือ
"ไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม" (คือรื้อขนสรรพสัตว์เข้านิพพานให้ได้หมดแล้ว ตัวเองค่อยไปว่างั้นเถอะ)
คิดดูซิว่า มันต้องใช้เรี่ยวแรง ใช้เชื้อเพลิง (แรงบุญ แรงบารมี) ในการขับดันสักแค่ไหน

ลำพังแค่ไปให้ถึงพระนิพพานด้วยลำพังตัวเองคนเดียวนั้น..ก็คงไม่ต้องกักตุนพลังงาน
และเผาผลาญพลังงานสิ้นเปลืองสักเท่าไหร่..ใช่ไหมครับ


ฯลฯ

 

จริงๆแล้วก็ชอบและตรงใจทั้งดุ้นหนะแหละครับ..
เพราะตัวเองก็กำลังตระหนักถึงเรื่องจิตสุดท้ายนี่อยู่เหมือนกัน

อ่านแล้ว..
..เหมือนโดนไม้หน้าสามฟาดโผ๊ะเข้ากลางแสกหน้าเหมือนกันนะเนี่ย..

มันสะท้าน สะเทือน ไปถึงข้างในเลยทีเดียว..
แต่ไม่ใช่ว่าจะหวาดกลัวหรอกนะครับ..เพียงแต่ทุกวันนี้
เท่าที่ซ้อมๆอยู่นี่ ยังสอบไม่ผ่าน ยังไม่มีสติพร้อมบริบูรณ์
และถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ยังไม่พร้อมที่จะตาย (อย่างนักรบแห่งธรรม)

โดยเฉพาะกับเรื่องความฝันนี่ ถ้าท่านได้อ่านกระทู้นี้มานานๆ
ท่านก็อาจจะพอรู้นะครับ ว่าผมกับความฝันนี่ มีอะไรพิเศษต่อกันอยู่

จนบางครั้ง ผมยังกลัวตัวเองเลย กลัวว่า
ถ้าฉันตายไปตอนที่ฉันยังหลับฝันอยู่นี่
ฉันจะไปตกที่ไหนกันเนี่ย..

เพราะหลายครั้ง ในความฝัน มันจะชัดเจน
และรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าแจ่มแจ้ง
เหมือนกับในความจริง ไม่มีผิดเพี้ยนเลย
และบ่อยครั้งที่ผมแยกไม่ออกว่าอันไหนจริง อันไหนฝัน
เพราะมันชัดเจนเหมือนกัน ทั้งๆที่ในขณะที่ฝันนั้นหนะ
ก็พยายามถามตัวเองอยู่ว่านี่จริงหรือฝัน ก็จนคิดไปว่าคงจะจริง
แต่พอตื่นขึ้นมา ถึงได้รู้ว่าถูกความฝันหลอกเอาอีกแล้ว

ที่ผมบอกว่าผมยังไม่พร้อมที่จะตายอย่างนักรบแห่งธรรม
ก็เพราะว่า ตอนนี้ผมก็กำลังฝึกสติอยู่ และตราบใดที่ผมยังแยกไม่ออก
ว่าอันไหนจริง อันไหนฝัน (ในขณะที่ฝัน) ผมก็จะยังวางใจไม่ได้
ว่าผมจะมีสติเพียงพอในเวลาที่จะตายได้

มีเหมือนกันครับ ที่ในขณะที่กำลังฝันอยู่ แล้วแยกออกว่านี่แหละ
..กำลังฝันอยู่..
แต่คิดเป็น % แล้ว น้อยครั้งมาก ส่วนใหญ่จะแยกไม่ออก

เฮ้อ..คงต้องซ้อมกันไปทั้งในตอนตื่น และตอนหลับนั่นแหละครับ
ประมาทไม่ได้เลย เพราะมีคำเฉลย ให้รู้ตัวเองอยู่ตลอด (ฝัน)
ว่าก้าวหน้า หรือพร้อมแค่ไหน



อย่าคิดว่าไม่พร้อม อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไป มันเป็นเช่นนั้นเอง

อย่าคิดว่าฝันมันหลอก มันเป็นธรรมชาติของจิตวิญญาณ บางครั้งยามฝันก็ชัดเจนคมชัดกว่ายามตื่นเสียอีก

ยามตื่น ยามฝัน ต่างกันตรงไหน จริงหรือไม่จริงก็เท่ากันในเมื่อเราอยู่ทุกมิติ

อยู่ในฝันก็ฝึกแยกแยะได้ พยายามอย่าได้วิตกกังวลเมื่ออยู่ในฝัน หากไม่แน่ใจก็ตั้งสติทำสมาธิในฝันซะเลย พอว่าสงบก็รู้เอง

 

รายชื่อผู้จองประคำประมวลพลัง

1. แบบเม็ดประคำทำจากผงเหล็กน้ำพี้ ร่วมบูชาสร้างสถานปฏิบัติธรรม เส้นละ 199.-บาท(หนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าบาท)

๑. คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->EUROPE<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2101397", true); </SCRIPT> ........................................ 1 เส้น
๒. คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->naraiyana...................................... 2 เส้น
๓. คุณJoypor........................................... 5 เส้น(โอนแล้ว 21/5)
๔. คุณamadi (สีดำ 1,สีน้ำตาล 1)................... 2 เส้น
๕. คุณดาวดวงน้อย...................................... 2 เส้น
๖. คุณwanpos.......................................... 3 เส้น
๗.คุณอินทรียสงวร (สีดำ 1,สีน้ำตาล 1).............. 2 เส้น
๘. คุณซุปเปอร์แมน....................................... 3 เส้น
๙. คุณsitprogpo (สีดำ)............................... 1 เส้น
๑๐.คุณศราวุธ (สีดำ)..................................... 1 เส้น
๑๑.คุณอภิญญา8 (สีดำ 1,สีน้ำตาล 1)................. 2 เส้น
๑๒.คุณengporn (สีดำ 3,น้ำตาล 2).................. 5 เส้น
๑๓.คุณton344 (สีดำ)................................... 2 เส้น
๑๔.คุณทนงศักดิ์ ศิริภูวณิชย์.............................10 เส้น
๑๕.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Surajeng........................................ 1 เส้น<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2122443", true); </SCRIPT> (โอนแล้ว 22/5)
<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2102131", true); </SCRIPT>๑๖.คุณBlog 17 (สีดำ).................................. 2 เส้น
๑๗.คุณก้านแก้วเก้า (ดำ 2,น้ำตาล 2)................. 4 เส้น

รวม....48 เส้น


2. แบบเม็ดประคำเป็นหินมงคล มีสีขาว แดง ดำ ฟ้า เป็นต้น
ร่วมบูชา เส้นละ 999.-บาท(เก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาท)


๑. คุณsitprogpo จองประคำหินสีขาว......................1 เส้น
๒. คุณLuoShanHui (ไม่ระบุสี).............................1 เส้น
๓. คุณจิตตานุปัสสนา (ฝาก อ.นีโม่ พิจารณาสี)........... 1 เส้น
๔. คุณลุงจิ๋ว (จองสีขาว 1 และสีแดง 1).................... 2 เส้น
๕. คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->pkanlaya<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2103650", true); </SCRIPT> (จองสีขาว 1,สีแดง 1).................. 2 เส้น
๖. คุณamadi (จองสีเขียว).................................. 1 เส้น
๗. คุณrutchanon (จองสีเขียว)............................ 1 เส้น
๘. คุณprapaanpong (อ.โม่ พิจารณาให้ด้วย).......... 1 เส้น
๙. คุณnanasaratamma (สีแดง)......................... 1 เส้น(โอนแล้ว 18/5)
๑๐.คุณ<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->chanasorn<!-- google_ad_section_end --> (สีเขียวเข้ม)............................1 เส้น
๑๑.<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2107843", true); </SCRIPT> คุณศราวุธ (หินสีเขียว).................................... 1 เส้น
๑๒.คุณอภิญญา8 (หินสีเขียว)................................. 1 เส้น
๑๓. คุณAriyaporn (แดง 1,ขาว 1)......................... 2 เส้น
๑๔.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->guyvettanajittham<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2112285", true); </SCRIPT> (พิจารณาสีให้ด้วย)......... 1 เส้น
๑๕.คุณsuwat.su (สีฟ้า)...................................... 1 เส้น (โอนแล้ว19/5)
๑๖.คุณkwok (สีฟ้า)............................................ 1 เส้น
๑๗.คุณลูกแก้วแววตา (สีเขียว,สีฟ้า).......................... 2 เส้น
๑๘. คุณengporn (สีเขียว,สีแดง)............................. 2 เส้น
๑๙.คุณBlog 17 (สีฟ้า,สีแดง)................................. 2 เส้น

รวม....26 เส้น

(สรุปถึง 17.09 น. 23/5/52)<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

คุณพี่สมจิตร ชื่นสำนวน
คุณพีทและคุณสายฟ้า
ให้สัมภาษณ์กับประชาสัมพันธ์จังหวัดฯ

 

การที่เห็นกลุ่มเขากะลา ทานอาหารกันดีๆนั้น ก็เพราะมีเจ้าภาพเลี้ยงตามที่ทราบกันอยู่ในกลุ่ม แต่เบื้องหลังการทานอาหารของพี่สุดใจที่บ้านนั้นจะเล่าให้เพื่อนๆฟัง และขออนุญาตอาจารย์สุดใจด้วยค่ะ

จากการที่ได้สนทนาทางโทรศัพท์เมื่อเร็วๆนี้ ถามอาจารย์สุดใจว่า
วรรณ.....พี่สุดใจคะ ทานข้าวหรือยังคะ(ตอนเย็น)
พี่สุดใจ.....ทานแล้วค่ะ
วรรณ......ทานกับอะไรคะพี่
พี่สุดใจ.....ทานกับไก่ทอดไปซื้อที่ตลาด
วรรณ(อยากรู้อยากเห็น).....กี่ชิ้นคะ
พี่สุดใจ......ชิ้นเดียว อิ่มแล้วค่ะ
วรรณ......แล้วตอนกลางวันทานอะไรคะ
พี่สุดใจ......ทานลาดหน้า
วรรณ......แล้วเอาตังค์ที่ไหน
พี่สุดใจ......มีตังค์จากที่ถักด้ายแดงแรงฤทธิ์ กับท่านอาวุโสและคนในบ้าน แล้วเก็บเงินคนละ ๑๐ บาท(ได้ซักกี่สิบไม่ทราบ/วรรณ) ไปซื้อเส้นก๋วยเตี๋ยว ซื้อหมู ซื้อคะน้ามาผัดลาดหน้า ทำกินเองประหยัดค่ะฯลฯ

เล่าสู่กันฟังอย่างย่อๆ และพี่ท่านก็ไม่ได้มีความทุกข์ใดๆ ทำไมถึงไม่ทุกข์ ก็ต้องไปถามพี่สุดใจเองว่า ทำอย่างไร

และขอบอกให้เพื่อนที่ต้องการเข้ามาฟังธรรมะทฤษฎีระบบ ก็ขอเชิญมาฟังโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ตอนนี้มาหลายๆคน ที่อยู่แผนกข้อมูลและตอบปัญหาชีวิต ก็สามารถที่จะขยายระบบให้กับคนที่ต้องการจะฟังค่ะ

และเมื่อศูนย์ปฏิบัติธรรมที่เขากะลาสร้างเสร็จ ก็จะเปิดให้คนมาปฏิบัติธรรม ทำกิจกรรมต่างๆ และ ค้างคืนได้ รายละเอียดต่างๆ รวมทั้งมีอาหารเลี้ยงด้วยนั้น ก็จะแจ้งให้ทราบภายหลังค่ะ

 

และต้องขออนุญาตอาจารย์นีโม่ด้วยค่ะ ที่จะขอเล่าเรื่องส่วนตัวให้เพื่อนๆ ฟัง
ส่วนอาจารย์นีโม่ เท่าที่ทราบ บางมื้อก็ต้องอด เพราะไม่มีปัจจัย

เมื่อครั้งที่ไปพบกันครั้งแรกที่เมืองไทยเมื่อตอนเย็นวันที่ ๔ มีนาคม ๕๒ อ.นีโม่ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดไปหัวเราะไป แต่เมื่อถามว่า อาจารย์ทานข้าวยัง บอก ยังไม่ได้ทาน เลยชวนไปทานข้าวด้วยกัน และถามอาจารย์อยากทานอะไรดี เมื่อพบกันครั้งแรก ก็ต้องขอเลี้ยงและให้อาจารย์เลือกร้านอาหารว่าจะทานที่ไหนกันดี อาจารย์นีโม่ก็เลือกที่จะไปที่ร้านเรือนเพชรสุกี้ วันนั้นก็ไปกันหลายคน มีอาจารย์สุดใจด้วยค่ะ

โถ..ตอนนั้นก็เย็นแล้ว อาจารย์นีโม่ยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลย ถ้าวรรณไม่ได้ไปหาอาจารย์นีโม่เย็นวันนั้น ก็คงต้องถือศีลอดไปโดยธรรมชาตินะอาจารย์นะ

 

บางทีระบบก็มีจุดประสงค์ที่จะให้คนระบบไปทำงาน อย่างเช่น Digital เอง มีอาชีพเป็นชาวเกาะสามีกิน ก็ไม่จำเป็นต้องออกไปทำงานหาเงินแต่อย่างใด แต่เมื่อใดก็ตามที่ระบบเขาต้องการให้ไปทำงานของเขา ก็จะมีข้อมูลมาให้อยากจะไปสมัครงาน หางานทำ ความรู้เราก็ไม่มี ปริญญาก็ไม่ได้ จึงต้องไปทำงานเสริฟเครื่องดื่ม เช็ดโต๊ะอาหาร เดินซะขาลากเลย เงินที่ได้มาจากการทำงาน ก็ไม่ได้เอามาใช้ส่วนตัวหรอกค่ะ ใช้แต่เงินของสามี ระบบเขาให้เอาเงินที่เราได้จากการเสริฟน้ำไปใช้ในงานของเขาเสียนี่

บางทียังบอกกับพี่สุดใจว่า "มีเงินต้องรีบใช้ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวระบบเอาไปใช้หมด" ก็ยังขำกันอยู่บ่อยๆค่ะ

เพราะฉะนั้น คนระบบก็จะเข้าใจดีว่า เราจะทำอะไรหรือไม่ทำ จะทำมากหรือน้อย แม้เรื่องบริจาคทรัพย์ ไม่ว่าใครจะบริจาคมากหรือน้อย ล้วนแล้วแต่ระบบจัดการทั้งสิ้น แต่ละคนมาตามงานนั้นๆ ตามคำของระบบที่ว่า งาน งาน งาน และงาน

หากคนระบบที่มีงานทำอยู่แล้ว นึกๆ อยากจะออกจากงานละก้อ นั่นเป็นสัญญาณแล้วว่าระบบเขากำลังจัดการงานของเขา ให้เป็นตามจุดประสงค์ของระบบที่ได้จัดวางไว้แล้ว ส่วนDigital เอง ระบบก็จัดการให้ออกจากอาชีพเสริฟน้ำเมื่อปลายเดือนพ.ย.ปีที่แล้วค่ะ

 

เข้ามาเช้าวันนี้ ธรรมะจากระบบมากันเพียบเลย
ต้องขออนุโมทนากับจารย์ไอย,จารย์โม่ และจารย์วรรณ ด้วยครับ

เงียบๆซบเซามาหลายเพลาตั้งแต่เสร็จพิธีวางศิลาฤกษ์
wave ให้พักผ่อนอยู่เฉยๆ รอเวลางานเข้า

ตอนนี้กลุ่มฯเขากะลา งานเข้าแน่ๆครับ

 

แจ้งเพื่อทราบ


มีบางท่านได้สอบถามมาว่า อยากที่จะร่วมทำบุญ โดยบริจาคเงินเข้ามูลนิธิ สถานปฏิบัติธรรมมูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน เพื่อร่วมก่อสร้างอาคารสถานปฏิบัติธรรม และขอใบเสร็จรับเงินของมูลนิธิฯ ด้วย เพื่อนำไปใช้ในการหักภาษีฯ


จึงขอเรียนชี้แจงดังนี้


มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน เป็นชื่อที่ระบบได้ตั้งไว้นานแล้ว หากภายหน้าจะมีการจดทะเบียนเป็นมูลนิธิ หรือทำการใด ๆ ณ จุดที่ตั้งคือสถานที่บริเวณเขากะลาแห่งนี้ ก็ให้ใช้ชื่อนี้ในการดำเนินการ


เพราะชื่อนี้ เป็นเสมือนสัญญลักษณ์ เป็นโลโก้ เป็นสิ่งที่บุคคลต่าง ๆ ได้รับรู้ว่า หากเอ่ยชื่อ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน จะต้องนึกถึงเรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา เรื่องของการเตรียมการเพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติ โดยมนุษย์ต่่างดาวจากหลายดวงดาว พร้อมทั้ังอุปกรณ์เทคโนโลยีในหลายรูปแบบ

รวมทั้งมีการฝึกปฏิบัติเพื่อปล่อยวาง ฝึกการละอุปปาทานขันธ์ห้าควบคู่กันไปด้วย เพื่อเตรียมความพร้อมในการใช้อุปกรณ์เหล่านั้นทำงานเพื่อช่วยเหลือเพื่อน มนุษย์ด้วยกัน


ตอนนี้ เริ่มมีการก่อสร้างอาคารสถานปฏิบัติธรรมหลังแรกขึ้นมา

แต่ยังไม่ได้มีรูปแบบว่าจะต้องดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องใด ๆ เป็นหลัก นอกจากใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม สนทนาธรรม และขยายทฤษฎีของระบบให้นำมาเทียบเคียงเพื่อการปล่อยวาง และอาจมีการเสริมเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาว ที่มาเตรียมโครงการช่วยเหลือภัยพิบัติด้วย

และสถานที่แห่งนี้ ก็มิได้มีจุดมุ่งหมายที่จะรับบริจาคเิงิน ในนามของมูลนิธิฯ แต่อย่างใด

ดังนั้น สถานที่แห่งนี้ จึงยังมิได้ทำการจดทะเบียนเป็นมูลนิธิฯ ในขณะนี้ เนื่องจากจุดประสงค์ของการจัดตั้ง มิได้เป็นการทำเพื่อการค้า เชิงพาณิชย์ หรือทำเพื่อหารายได้เข้ามาใช้เพื่อดำเนินกิจกรรมใด ๆ ในขณะนี้

นอกจากการรวมกลุ่มกันเพื่อศึกษาธรรมะ ปฏิบัติเพื่อการละวางอัตตาตัวตน และศึกษากลไกของขัันธ์ห้าเป็นหลัก ที่เหลือก็คือการทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว เพื่อรับข้อมูลการสื่อสารจากมนุษย์ต่างดาว เพื่อเตรียมการช่วยเหลือภัยพิบัติควบคู่กันไปด้วย

และหากสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้สร้างเสร็จแล้ว ก็จะเปิดรับทุกท่านที่ต้องการศึกษาเกี่ยวกับธรรมะเพื่อการละวาง ธรรมะที่เน้นเรื่อง ความว่างจากอุปปาทานขันธ์ห้า ว่างจากอัตตาตัีวตน หากต้องการศึกษาธรรมะที่เป็นแก่น สามารถเดินทางมาศึกษา มาพักผ่อน มาปฏิบัิติ มาสนทนาธรรม มาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ได้ตลอดเวลา โดยไม่จำกัดว่าท่านเป็นใคร และไม่จำกัดว่าต้องเป็นสมาชิกอยู่ในกลุ่มนี้เท่านั้น

นั่นเป็นเพราะว่า ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นได้
เท่าเทียมกัน


ดังนั้น ณ สถานที่แห่งนี้ ณ ขณะนี้ จึงยังไม่ได้มีการจดทะเบียนเป็นมูลนิธิฯ ดังที่หลายท่านเข้าใจ แต่ในภายหน้าที่มีความพร้อมในทุกด้าน มีความพร้อมที่จะดำเนินการจัดตั้งเป็นมูลนิธิแล้ว จึงจะทำการจดทะเบียนเป็๋นมูลนิธิฯ ในชื่อ มูลนิธิ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง

ดังนั้น เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดของเพื่อน ๆ สมาชิก และบุคคลทั่วไป


กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
จึงขอเปลี่ยนมาใช้ชื่อสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ว่า


สถานปฏิบัิติธรรม จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน


ตั้งแต่วันนี้ 24 พฤษภาคม 2552 เป็นต้นไป


จึงแจ้งมาเพื่อทราบทั่วกัน



​