ข่าวสารจากจิตจักรวาล

ไม่มีข่าวอะไรเหรอ???

 

มีข่าว!
ว่าจะมีบรรยายธรรมในวันอาทิตย์ที่ 11 ก.ค. 53
ที่โรงแรมมิโด้ สะพานควาย เวลาบ่ายโมงถึงหกโมงเย็น
ท่านที่อยู่ กทม. ไปฟังแล้วเก็บมาเล่าบ้างซิจ๊ะ

มีข้อคิดมาฝากจดบันทึก
จากการฟังธรรมะบรรยายจากจิตจักรวาล ตอน ถอดรหัสฯ
คนโง่ 5 ประเภท
1. แก้วล้ม - ดำเนินชีวิตไปตามเวรตามกรรม
2. แก้วคว่ำ - ปิดใจไม่ใฝ่รู้ อยู่ไปวันๆ
3. แก้วน้ำเต็ม - กูรู้อยู่แล้ว ที่กูรู้นะดีที่สุด ไม่รับอะไรอีก
4. แก้วรั่ว - รู้เยอะ แต่ทำไม่ได้ ได้หน้าลืมหลัง
5. แก้วปิดฝา - ไม่เอาเลย จงใจปฎิเสธไม่รับเอาเลย

 

เห็นด้วยค่ะ คล้ายๆบัวสี่เหล่าใช่หรือเปล่าคะ

 

แนะนำตัวหน่อยครับ

ผมเพิ่งจะหัดเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับจิตจักรวาล แล้วก็สนใจมากด้วยเนื่องจากว่า ผมก็ใฝ่หาอยากรู้ในสิ่งที่เป็นจุดหมายของชีวิต ตราบใดไม่เห็นความจริง ไม่ว่าจะด้วยตาเนื้อหรือตาทิพย์เราย่อมยังอยู่ในสงสัย แต่อย่างน้อยก็ได้ใช้วิจารณญาณพอสมควรเท่าที่ปัญญาของผมจะมีได้ แล้วก็ตกลงเชื่อในสิ่งเหล่านี้ เพราะมีเหตุมีผล ไม่ใช่อ่านแล้วคิดอย่างงมงาย อีกทั้งตัวผมเองก็เชื่อในเรื่องของจิตวิญญาณ แม้ว่าตัวเราจะไม่มีอะไรที่วิเศษหรือพิสูจน์ได้ว่าสิ่งเหล่านั้นมีจริง แต่ผมก็รักแล้วเคารพศาสนาพุทธและพระพุทธเจ้า

หากลองคิดดูแล้วพระพุทธองค์เคยสอนว่าสิ่งที่ท่านสอนในศาสนานั้นมีจำนวนเท่ากับเพียงใบไม้เพียงหยิบมือเดียวเมื่อเทียบกับใบไม้ทั้งหมดในป่า ดังนั้นความรู้ในเรื่องของมิติ จักรวาล และสิ่งที่เราเรียกว่าจิตจักรวาลหรือผู้สร้างสรรค์สรรพสิ่ง อาจจะเป็นใบไม้ในป่าที่ท่านไม่ต้องการสอนในขณะนั้น อาจเนื่องจากวิทยาการ วิทยาศาสตร์ในเวลานั้นไม่สามารถทำให้เชื่อได้ว่ามีจักรวาลหรือกาแลคซี่หรืออะไรที่คนยุคนั้นไม่มีทางเห็นได้เหมือนในสมัยนี้ที่มีรูปภาพหรือวิทยาการทางด้านดาราศาสตร์ ท่านจึงไม่ต้องการกล่าวถึงสิ่งเหล่านี้เพราะถึงอย่างไรก็ตาม การรู้ในสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่หนทางแห่งการพ้นทุกข์ที่มนุษย์ควรรู้

ดังนั้นหากเราเปิดใจแม้เราจะเป็นคนพุทธ เราอาจจะได้รู้บางอย่างอันเป็นความรู้สักเศษเสี้ยวหนึ่งของพระพุทธองค์ที่ท่านยังไม่พึงสอนแก่เรา การที่เราดำเนินชีวิตตามคำสอนหรือคิดตามที่พระพุทธองค์สอนมิได้หมายความว่าสิ่งอื่นๆ ที่ท่านไม่เคยกล่าวสอนและกล่าวถึงจะเป็นเรื่องเหลวไหล จากที่อ่านกระทู้นี้มาเนิ่นนานก็ไม่ได้เห็นว่าสิ่งที่ อ.ปริญญา นำมาบอกนั้นจะเป็นการเผยแผ่ศาสนาอื่นเสียด้วยซ้ำ แม้จะกล่าวถึงพระเจ้าแต่ก็เป็นเรื่องในทางพุทธโดยตรง ซึ่งนั่นอาจเป็นความจริงก็ได้ เพราะผมลองพิจารณาทางนี้แล้วก็จึงเชื่อในสิ่งเหล่านี้

แต่ถึงอย่างไรก็ตามถ้าปฏิบัติยังไม่ได้ไม่ดีพอก็ไม่อาจจะเห็นได้ว่า ที่ท่านทั้งหลายในกระทู้นี้นำมาบอกเล่ากันนั้นจะเป็นความจริง จึงอยากให้ใครก็ตามที่ยังมีอคติอยู่โปรดสองใช้วิจารณญาณดูอีกสักครั้ง หรือถ้าหากคิดว่าการเดินทางตามแนวความคิดนี้จะเป็นการเสียเวลาก็สุดแล้วแต่ แต่ถ้าไม่คิดอย่างยึดถือตนเป็นแก้วที่มีน้ำเต็มแล้ว วันนึงท่านก็จะต้องพบทางที่ทุกต้องอย่างแน่นอน แม้ว่าสิ่งที่เลือกอยู่ในปัจจุบันนี้จะถูกต้องหรือไม่ก็ตาม

หากมีปัญหาลองถามคำถามมาในกระทู้นะครับ ถ้ามีคนตอบอย่างไรก็ให้คิดพิจารณา ถ้ามีคำถามเพิ่มให้ถามต่อ ผมเชื่อว่ากระทู้นี้มีคนเต็มใจตอบข้อสงสัยของผู้ที่ยังไม่เข้าใจอย่างแน่นอน อย่าใช้การยึดมั่นถือมั่นว่าตนนั้นคิดถูกต้องเสมอ เพราะอันที่จริงแล้ว การยึดถือพระพุทธเจ้าหรือพระพุทธศาสนาเป็นสิ่งที่ดี แต่หากยึดถือโดยไม่รับอะไรเลยหรือมองสิ่งอื่นผิดไปหมดเลยก็คงเป็นหลักการเดียวกันกับที่ศาสนาบางศาสนาสอนไม่ให้เราเคารพศาสนาอื่น ซึ่งก็แน่นอนว่าผิดทางที่พระพุทธองค์สอนอย่างแน่นอน เพราะท่านไม่สอนให้ล่วงเกินศาสนาอื่นเช่นกัน

"เมื่อเราเชื่อในพุทธ ก็เดินทางพุทธ เพียงอย่าตะแบงในศาสนาพุทธโดยมองสิ่งที่พระพุทธยังไม่ทรงสอนว่าเป็นสิ่งผิด" และแม้ว่าเราจะเป็นคนพุทธก็อย่ายึดถือว่าสิ่งที่เราเรียนมา รู้มา ได้ยินมานั้นจะถูกต้องที่สุด ตราบใดไม่เห็นได้ด้วยตนเอง แม้มีเหตุผลหนักแน่นเพียงใดก็ยังไม่ใช่สิ่งที่แท้จริงครับ

ความจริงอยู่เหนือสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะดีจะชั่ว เราย่อมอยู่ภายใต้สัจธรรมคือความจริง

 

*** หลักเดียวที่มั่นคง ****

สัจจะธรรม ปักไว้มั่นคง
"ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน"

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมค่อนข้างครุ่นคิดตั้งแต่เริ่มอ่านกระทู้นี้ใหม่ๆ ตอนนั้นยังไม่อยากออกความเห็นอะไรมากนัก พอสมัครสมาชิกแล้วจึงอยากจะเรียนถามครับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o></o>
แต่ก่อนจะอ่านข้อความข้างล่างนี้ ผมขอเกริ่นไว้ก่อนนะครับว่า ถ้าอ่านบรรทัดเดียวจะเข้าใจผิดทันที...<o></o>
<o></o>
สิ่งที่ผมจะบอกคือ<o></o>
<o></o>
ถ้าสังเกตุเห็นข้อความของคุณ หนุมาน ผู้นำสาร ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะหงุดหงิด เพราะเนื่องมาจากลักษณะการเขียนที่มองได้หลายมุม เชื่อว่าบางท่านต้องคิดว่าคุณหนุมานเป็นคนขวางโลก ที่มักจะตอบอะไรที่มันสั้นและยึดถือคำว่า "สัจจะ" เท่านั้น บางท่านก็ไม่คิดอะไรในทางที่ลบ เพราะคิดว่าสิ่งที่คุณหนุมานโพสลงมานั้น ก็เป็นสิ่งที่ดีและก็ควรต้องรับฟัง <o></o>
<o></o>
ผมเคยเห็นบางข้อความที่โพสในลักษณะที่ไม่พอใจในการใช้คำหรือลักษณะการตอบของคุณหนุมาน ด้วยคิดว่าการใช้คำหรือตอบในลักษณะดังกล่าวเป็นการตอบที่เหมือนกับกำลังมองว่าตนเองรู้มากกว่าหรืออะไรทำนองนั้น ซึ่งอันที่จริงแล้วผมเองก็เคยคิดอย่างนั้นด้วย ผมคิดว่าคุณหนุมานมักใช้ข้อความเป็นสำนวนแบบพระเหมือนที่เคยอ่านในพระพุทธประวัติอะไรประมาณนั้น<o></o>
<o></o>
จนได้อ่านข้อความนึง ( ขอโทษด้วยนะครับที่ไม่ขยันเปิดกลับไปว่าเป็นคห. ที่เท่าไหร่ ) ที่ให้ความเห็นว่า คุณหนุมาน กำลังหมายถึงว่าเมื่อเราตั้งสัจจะแล้วทำตามสัจจะนั้น เราก็จะค่อยๆ ละทางกิเลสไปเรื่อยๆ เช่นตั้งสัจจะว่าจะไม่ขโมยเป็นเวลาเท่านั้นเท่านี้ เมื่อทำได้ตามสัจจะแล้วก็จะเป็นการฝึกตนให้ความอยากขโมยลดลง เมื่อตั้งสัจจะกับเรื่องอื่นๆ ไปอีกก็ยิ่งลดกิเลสลงอีก จนในที่สุดแล้วก็หมดสิ้นกิเลสไปได้ด้วยสัจจะ

ผมก็เห็นด้วยกับ คห. นั้น แล้วก็ลองมานึกดูว่าเราจะลองทำดู แล้วก็เริ่มทำสร้างสัจจะกับตัวเองในเรื่องเล็กๆ ในตอนนั้นยอมรับว่านี่เป็นวิธีที่ดีจริงๆ ที่ทำให้เราขัดเกลาตัวเองได้ เพราะว่าก็เคยได้ยินมาว่า สัจจะนั้นสร้างบารมีได้มาก และจะได้รับผลตอบแทนในทางกุศลด้วย แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีความอคติอยู่ไม่มากนัก แต่ก็เนืองๆ มาตลอดกับ คห. ของคุณหนุมาน เพราะบอกตรงๆ เลยว่าไม่ชอบวิธีการสื่อสารแบบคุณหนุมานเลยจริงๆ
<o> </o>
จนวันนี้ได้สมัครสมาชิกเวปนี้แล้วก็ได้โพสข้อความเป็นครั้งแรก อยากจะบอกว่าตอนที่กำลังพิมพ์อยู่ก็ยังกลัวว่าคุณหนุมานจะมาออกความเห็นอะไรต่อจากคห. ผมรึเปล่า
<o> </o>
พอเห็นข้อความคุณหนุมาน ด้วยความคิดแบบเดิมๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่ก็พลันให้นึกในทางที่อคติอีกจนได้ ก็เลยมาลองนั่งคิดว่า ถ้าผมยึดติดว่าใครจะให้ความเห็นหรืออะไรที่เสียดแทงใจมากน้อยแค่ไหนหรืออย่างไร ผมคงไม่มีความสุขที่จะอ่านหรือแสดงความเห็นในกระทู้นี้หรือเวปไซท์นี้<o></o>
<o> </o>
เผอิญจังหวะนั้นก็กำลังคิดดูว่าทำไมคุณหนุมานถึงได้ชอบออกความเห็นที่ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจจะดูเหมือนขัดแย้ง แต่ในขณะที่กำลังคิดก็มองดูข้อความคุณหนุมาน แล้วเห็นคำว่า “หลักเดียวที่มั่นคง” เท่านั้นเองครับ เหมือนปลดล็อคความคิดเดิมๆ ออกไปเลย แล้วก็เลยเข้าใจข้อความของคุณหนุมาน ทั้งที่ถ้าตั้งสติดีๆ ก็ไม่ใช่อะไรที่ยากมากที่จะเข้าใจ แต่เพราะอคติในใจทำให้ไม่สามารถนึกได้ ( ถึงตรงนี้ก็ยังอยากจะบอกว่า ไม่รู้ว่าจะเข้าใจถูกหรือไม่ )
<o> </o>
“แท้จริงคุณหนุมานอยากจะบอกให้คนเข้าใจว่า ไม่ว่าเราจะหาความรู้อะไรที่ไหน ไม่ว่าเราจะหาวิธีป้องกันหรือทำอะไรอย่างใด จักรวาลนี้จะเป็นอย่างไร โลกนี้จะมีภัยพิบัติแค่ไหน นั่นคือเราอาจจะกำลังหลงทางไปนอกลู่นอกทาง ไปสู่ความรู้ที่ทำให้อยากรู้ไปเรื่อยๆ โดยลืมสิ่งสำคัญที่สุดนั่นคือการปฏิบัติให้พ้นทุกข์ ไปๆมาๆ การกระทำเพื่อการแก้ไขกลับกลายเป็นการพยายามหาความรู้มาเป็นหนทางเลี่ยงปัญหานั่นเอง เมื่อยิ่งครุ่นคิดหาความรู้หรือหาทางแก้ไขโดยไม่ได้ปฏิบัติเลย สุดท้ายก็ไม่พ้นที่จะต้องรับปัญหานั้นอยู่ดีเพราะตัวเราไม่ได้ปฏิบัติเพื่อให้รอด แล้ว “สัจจะธรรม” ก็ย่อมจะไม่มีทางเลี่ยง”<o></o>
<o> </o>
แม้แต่ขณะนี้ที่ผมนั่งคิดเพ้อไปเองคนเดียวนี้ก็คือการออกนอกลู่นอกทางนั่นเอง สรุปแล้วคิดไปเองกังวลไปเองว่าใครจะมีปฏิกิริยายังไง และก็เพราะมัวแต่หาความรู้ว่าอะไรจะเกิดและจะเลี่ยงอย่างไรด้วยความกลัว จนไม่คิดเรื่องขัดเกลาตัวเอง หรือสำหรับบางคนก็เพียงตอบโต้กันว่าความคิดเขาไม่ถูกความคิดเราถูกกว่า แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรให้เกิดผลแม้ว่าคนจะคิดถูกกว่าหรือไม่ก็ตาม จึงไม่ทราบว่าที่ผมเข้าใจนี้ถูกหรือไม่อย่างไร
<o> </o>
ท้ายที่สุดนี้ก็ยังพอรู้ตัวว่าตัวผมนี้เป็นเพียงเด็กใหม่เพิ่งจะหัดคิด เพื่อนๆ ทั้งหลายที่เคยฝาก คห. ไว้มากมายคงฝึกตนขัดเกลาจิตใจไปได้เยอะและไกลกว่าผมมากนัก ก็ขอขอบคุณสังคมอันสวยงามแห่งนี้ที่ทำให้ผมได้รู้สึกว่ามีเพื่อนที่ต่างก็พากันเดินทางไปสู่จุดหมายอันประเสริฐของชีวิต การหลุดพ้นจากความทุกข์ อย่างไรก็ตามถ้าพอมีเวลาเหลือผมก็คงได้ไปอยู่ในยุคใหม่กับเพื่อนๆ ทั้งหลาย หวังว่าผมคงไม่โดนภัยพิบัติคาบไปกินก่อนถึงวันนั้น
<o> </o>
ใครมีกิจกรรมอะไรดีๆ หรือต้องการแนะนำอะไรก็ขอความกรุณาด้วยนะครับ ถ้าอยากแนะนำเป็นการส่วนตัวก็รบกวนมาทางอีเมล์ของผมก็ได้ครับ
<o> </o>
sillypool@hotmail.com

------------------------​

ขออนุญาตินำข้อความที่คุณหนุมานเคยโพสไว้มาให้ลองอ่านอีกครั้ง​

<o> </o>
*** ทุกอย่างรอดพ้น จบลง สิ้นสุด ด้วยสัจจะ ****

.......อย่ามารับรู้ธรรมะโอวาทของพระบิดา แลัวก็ยังไปแสวงหาอะไรที่เป็นอวิชชาในสิ่งอื่น หาความรู้เพิ่มเติมแต่ต้องใช้ปัญญา เพราะปัญญานั้นจะหยิบฉวยมานิพพานในสิ่งใดเรื่องใดก็ได้อย่างง่ายดาย ขอให้เข้าถึงสิ่งนั้นอย่างแท้จริง.......

.......นั้น คือสิ่งที่ จะติงเตือนพี่ๆ น้องๆ ทั้งหลายเอาไว้ ถ้าเราดีแต่เหลวไหล เอาแต่ทำผิดเอาแต่คิดชั่วมั่วๆกันไป และเข้าใจผิดคิดว่า ตักบาตรทุกวัน นั่งสมาธิทุกคืน แล้วก็มั่นทำบุญสุนทานเยอะๆ แต่ขณะที่ลืมจะชำระจิตของตนเอง .......

.......ทุกๆ คน จะต้องมีสำนึกที่จะประพฤติและปฎิบัติตน อย่างเข้มแข็ง .......

.......หน้าที่ของเรา คือ รักโลกและต้องพิทักษ์โลกใบนี้ เอาไว้ให้สมดุลย์ .......

.......สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่บุตรเอกแห่งบิดามิได้กล่าวเพ้อเจ้อ ไม่ได้กล่าว อย่างละเมอเพ้อพบ เพราะคำกล่าวทุกคำล้วนเป็น สัจจะ ที่ได้ยินกันทั่วทั้งไตรภพ คือ สวรรค์ โลกมนุษย์ และนรก นอกจากนั้นแดนสุญญตา ที่องค์พระบิดาสถิตย์อยู่ ก็มีเสียงนี้สั่นสะเทือนอยู่ ก้องไปทั้งจักรวาลที่เป็นสากล.......

.......ถึงแม้เวลาที่เหลือจะน้อยนิดก็ตามนะ ลูกก็จะได้ชื่อว่าเป็นลูกที่ภักดี ลูกก็จะได้ชื่อว่าเป็นลูกที่มีสัจจะ สิ่งที่ดาวเคราะห์โลกเสรีถูกกล่าวหามากที่สุด ในจักรวาลอันไพศาลนี้ ก็คือมนุษย์แห่งโลกเสรีเป็นคนที่ไม่มีสัจจะ นั่นคือ คำกล่าวที่น่าอนาถใจ เป็นคำที่น่าอับอายเป็นที่ยิ่ง.......

.......จงระลึกไว้เสมอว่า สัจจะ นั้นต้องเป็น สัจจะตลอดสัจจะ จะต้องศักดิ์สิทธิ์โดยตลอด ถ้าไม่ต้องการเกิดความศักดิ์สิทธิ์ ก็ต้องไม่ผลิตสัจจะ ถ้าผลิตสัจจะ สร้างสัจจะขึ้นมา สัจจะที่ผลิตที่สร้างนั้นต้องศักดิ์สิทธิ์ ถ้าจะให้ศักดิ์สิทธิ์นั้น หมายความว่ามันต้องเป็นอย่างที่คิด มันต้องเป็นอย่างที่พูด และมันต้องเป็นอย่างที่กล่าวว่าจะกระทำ หรือให้สัญญาไว้ว่าจะทำ .......

.......ถ้าทุกคนมีสัจจะ รู้สำนึกที่จะปฎิบัติหน้าที่ตามจิตวิญญาณในขณะที่โอกาสที่เหลือยังมีอยู่พอสมควรในขณะนี้ ดาวเคราะห์โลกเสรีดวงนี้ก็จะเป็น สวรรค์บนดินได้ง่ายขึ้นความบอบช้ำของดาวเคราะห์โลกเสรี ก็จะน้อยลง จะไม่ถึงขั้นที่เรียกว่าโลกแตก.......

................................
ถึง ทุกท่านที่เชื่อ พระโอวาทขององค์จิตจักวาล

ถึงเวลาที่พวกท่านควรจะออกค้นหา สัจจะธรรม โลกุตตระธรรม ได้แล้ว
ท่านต้องหากันเอง
................................
<o> </o>
<o> </o>

 

ขอบคุณมากครับคุณแม่นายมล คุณแม่นายมลทำให้ผมมีกำลังใจด้วยรู้สึกว่ามีเพื่อนที่มีอัธยาศัยที่ดีต่อกันแบบนี้ เห็นคห. ของคุณแม่นายมลที่ผ่านมาก็เคยหวังไว้ว่าสักวันอาจจะได้รู้จักกันและก็ได้รับคำแนะนำดีดีจากคุณแม่นายมลบ้าง

น่าเสียดายเรื่องการบรรยายของท่านอาจารย์ ปริญญา ผมอยากไปฟังบรรยายมาก แต่พอดีวันที่ 12 สิงหาคม ก็เลยไม่แน่ใจว่าผมจะว่างไปได้รึป่าว

แต่ก็ยังโชคดีที่ผมอยู่ไม่ไกลจากสำนักพิมพ์จิตจักรวาลตรงซ. ลาดพร้าว 35 วันนี้ก็เพิ่งจะไปหาหนังสือมาอ่าน ได้มาสามเล่มคือหนังสือชื่อ

"วิทยาศาสตร์แห่งนิพพาน"
"คัมภีร์นิพพาน"
"56 วัน 7 ราตรี ปฏิบัติการชำระโลกสู่ยุคพลังงานใหม่"

เท่าที่เห็นคือหนังสือของท่านอาจารย์ปริญญานั้นมีหลายซีรีส์มาก จนไม่ทราบว่าจะเลือกอ่านเล่มไหนก่อน ก็เลยอยากลองถามเพื่อนๆ ว่า มีหนังสือเล่มไหนบ้างที่คิดว่าน่าแนะนำ และก็หนังสืออื่นๆที่ไม่ใช่ของอาจารย์ด้วย บางเล่มก็อาจจะหาออกมานานแล้ว อาจจะหาซื้อยาก ช่วยแนะนำทีนะครับว่าเล่มไหนดีและสามารถหาซื้อที่ไหนได้บ้าง

 

แนะนำ

ดู Vcd ชุดพิเศษ มนุษย์แห่งจักรวาลโลก ก่อน

หนังสือของสำนัก Oh My God Publishing

สนทนากับพระเจ้า เล่ม 1 - 2

 

ถึงคุณ Sillypool ตามนี้เลย ที่คุณ vijit_j แนะนำ
เห็นสมาชิกจิตจักรวาลบางคนพกไปอ่านระหว่างรอ อ.ปริญญา ขึ้นบรรยาย
หนังสือแนวนี้ไม่ค่อยมีในบ้านเรา หายาก ถ้ามีคำว่าพระเจ้า ล่ะก็....เป็นที่รู้กัน

ตอนอ่านซี่รีส์แรกๆ ก็กลัวคำว่า พระเจ้า เหมือนกัน
แต่ไปสะดุดคำว่า นิพพานเข้า ด้วยความสงสัยก็อ่านต่อไป ไม่มีประโยคไหน
โน้มน้าวให้เราเปลี่ยนศาสนา หรือโจมตีศาสนาใดๆ เลย ทุกวันนี้ความคิดเปลี่ยนไปแล้ว ดีนะที่ ไม่ไปตัดสินหนังสือ เพียงแค่อ่านหน้าแรกเท่านั้น

ขอแนะนำ ซีรี่ส์ 13 จดหมายถึงโลก และ ซีรี่ส์ 15 จิตจักรวาลจิตแห่งจักรวาล
ไปอ่านด้วยนะคะ

 

เคยฝากให้หลานไปหาซื้อให้ที่ กทม.(เพราะเราอยู่ ตจว.)
หลานซื้อมาให้ ตามที่แม่นายมลแนะนำเป๊ะเลย แต่ซีรี่ส์ 15 ข้างหลังคำว่าแห่ง มีคำว่าจักรวาลต่อท้ายด้วย อิอิ..

 

ลืมพิมพ์น่ะ อิ อิ แก้แล้ว
ขอบคุณนะคะที่ช่วยตรวจทาน

 

End Of Lifes

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=11iCmzGnOI8&feature=related"]YouTube - ‪December 21 2012 THE END‬‎[/ame]

 

จริงหรือหลอก
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=OnUOKTBfSFY&feature=related]YouTube - ‪LUNA SEGRETA: scoperte Astronavi Vimana sulla superficie lunare‬&lrm;[/ame]

 

เรื่องนี้นะ น่าไปถาม อ.ปริญญา แต่ถามก่อนขึ้นเวทีนะ
อาจจะได้คำตอบ ตอนบรรยาย มีใครว่างๆ วันแม่นี้ไปถามที

 

มนุษย๋เอ๋ย...โลกเราใบนี้ ต่อให้ไม่มีมนุษย์หรือสัตว์ต่างๆมันก็ต้องเปลี่ยนแปลง เพราะทุกสิ่งต้องเปลี่ยนแปลง แม้กระทั้งตัวคุณ ดวงอาทิตย์ก็เปลี่ยน ดวงจันทร์ก็เปลี่ยน ฝนตก ฟ้าร้อง น้ำท่วม ซึนามิ แผ่นดินแยก แผ่นดินร้าว เปลือกโลกขยับ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ตราบใดที่มนุษย์อยู่บนโลกใบนี้ แต่ไม่เรียนรู้โลกใบนี้ ...ท่านจะอยู่บนโลกใบนี้ยาก ต่อไปโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ฤดูจะเปลี่ยน ขั่วโลกจะเปลี่ยน..เรื่องปรกติ พระพุทธเจ้าบอกไว้หมดแล้ว....มีในศาสนาพุทธ ถ้าชาวพุทธศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าถึงแก่น ท่านจะถึงบางอ้อ.....แต่ขณะนี้...ตอนนี้ มีคนแอบอ้างว่าเป็นคำพูดของพระเจ้าและอำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาปนกับพระเจ้า...

 

พระเจ้ากับ พระพุทธศาสนา มันอยู่บนคนละหลักการ
ตราบใดที่ยังปราถนานิพพาน ก็ให้อยู่กับหลักการของพระพุทธศาสนา
พระเจ้า มีลักษณะพอ ๆ กับไสยศาสตร์
อย่าได้ไปไข้วเขวไปกับพระเจ้า เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ต้องการให้ใครมาพิสูจน์
พระพุทธศาสนา เป็นเรื่องที่ต้องการให้ทุกคนพิสูจน์เองด้วยการปฏิบัติ

อ.ปริญญา อาจจะเห็นจริง และพูดตามที่ อ. เห็น
แต่สิ่งที่ อ.ปริญญา เห็นไม่แน่ว่าเป็นของจริงทั้งหมดก็ได้

ตั้งแต่เกิดมา
ไม่เคยเห็นหลวงปู่ทวด หลวงตามหาบัว หลวงพ่อฤาษี สอนให้สนใจพระเจ้าจิตจักรยาน อะไรเลย
ประชาชนชาวพุทธ ควรจะยึดมั่นตามที่พระพุทธองค์ให้ปฏิบัติ ด้วยทาน ศีล ภาวนา
จะ work กว่าหลงไปกับพระเจ้าอะไรก็ไม่รู้
__________________
ธรรมาธิปไตย แปลว่า ศีล๕ปกครองแผ่นดิน ก๊อปมาจาก hi5

 

:z2สวัสดีค่ะ สมาชิกใหม่ เพิ่งเข้ามาค่ะ

ขอติดตามด้วยนะคะ:z2

 

สำหรับท่านที่อยากได้หนังสือชุดจิตจักรวาล (หากมีท่านใดบอกไปแล้ว ขออภัยด้วยครับ)

หนังสือชุดจิตจักรวาลทั้งหมดมีอยู่หลายเล่ม

ท่านใดคิดไว้ว่าจะซื้อให้ครบทุกเล่ม(ซีรีส์) แนะนำให้ไปซื้อที่สำนักพิมพ์โดยตรงจะได้ส่วนลดมากถึง 40 % เลยทีเดียว จะลดค่าใช้จ่ายมากกว่าไปซื้อที่อื่นมาก

หากไม่ได้ซื้อที่สำนักพิมพ์(ครบทุกซีรีส์) ราคาตกอยู่ประมาณ 5,000 บาท (ราว ๆ นี้นะครับ จำแน่นอนไม่ได้)
แต่หากซื้อที่สำนักพิมพ์(ครบทุกซีรีส์) จะได้ส่วนลดประมาณ 40 % ครับ ก็จะเหลือประมาณ 3,000 บาท เท่านั้น

สำนักพิมพ์จิตจักรวาลอยู่ตรง ลาดพร้าว 35/1 (ถนนฝั่งเดียวกับยูเนี่ยนมอลล์,คาร์ฟูร์ ลาดพร้าว) เข้าซอยไปนิดเดียว จะอยู่ทางขวามือ เป็นตึกแถว

เบอร์โทรศัพท์และโทรสาร 02-5123176, 02-9380062, 02-5113260

(ข้อมูลนี้ประมาณ 1-2 ปีที่แล้ว ปัจจุบันหากมีการเปลี่ยนแปลงขออภัยครับ ระยะหลังไม่ค่อยได้ตามเท่าไหร่)

 

ช่วงนี้กระแสข่าวการเกิดภัยพิบัติมีเยอะมาก จึงขอนำคำตอบจาก
อ.ปริญญา ใน FB มาให้อ่านและพิจารณากัน

Visudhi Punya ‎:-

1. จากนี้ไป ตามสื่อสารมวลชนและสังคมออนไลน์ทั้งหลาย จะมีผู้คนทั้งคุ้นหน้าคุ้นตาและหน้าตาแปลกๆ ออกมากล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับภัยพิบัติที่น่าสะพรึงกลัวกั...นมากขึ้นเรื่อยๆ และภัยพิบัติทั่วโลกรวมทั้งไทยด้วย มันก็จะเกิดขึ้นถี่ๆ และใกล้ตัวพวกเธอมากขึ้นจริงๆ ด้วย

2. แต่การเกิดขึ้นจริงของภัยพิบัติทั้งหลายนั้น มิใช่บรรดานักโหนกระแสภัยพิบัติพวกนี้มีความแม่นยำ ศักดิ์สิทธิ์ หรือเป็นผู้วิเศษที่สามารถล่วงรู้ล่วงหน้าได้หรอก

3. นักเรียนจักต้องรู้ว่า แผนปฏิบัติการชำระโลกของช่างเท็คนิกหรือเจ้ากรรมนายเวรนั้น พวกเขามิได้กำหนดแผนการอย่างชัดเจนเอาไว้ล่วงหน้าหรอกว่า ณ วันเวลาใดตรงพิกัดตำแหน่งใด พวกเขาจะปฏิบัติการอย่างไร จะสร้างความหายนะให้ได้แค่ไหน? แต่พวกเขาจะลงมือปฏิบัติการกันแบบกะทันหันเสมอ

4. ด้วยเหตุนี้เอง พวกโหนกระแสคนแล้วคนเล่า ที่ออกมากล่าวคำทำนายหรือพยากรณ์ในเรื่องเหล่านี้โดยระบุวันที่เดือนปีเวลาและสถานที่ พร้อมรูปแบบภัยพิบัติที่จะเกิดกันล่วงหน้านั้น พอถึงเวลาก็ปรากฏว่าไอ้สิ่งที่พยากรณ์กันไว้นั้นมันมิได้เกิดขึ้นดังที่กล่าวไว้แต่อย่างใด เจ้าตัวคนที่โผล่หน้าออกมากล่าวก็ผลุบหน้าหายตัวไปทุกที คนแล้วคนเล่า แต่ก็ยังมิรู้หลาบจำ

5. นักเรียนจะต้องจดจำเอาไว้ว่า ตามปกติแล้ว ต่อให้มนุษย์มีเท็คโนโลยีสูงล้ำขนาดไหนก็จะมิอาจบอกได้ว่า จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ขึ้นที่ไหนบ้าง จะเกิดเมื่อไหร่ จะเกิดพายุหมุนรุนแรงพัดถล่มที่ไหน วันไหน จะเกิดคลื่นสึนามิที่ประเทศไหน เมื่อไหร่ หรือจะเ...กิ...ดภูเขาไฟระเบิดรุนแรงเอาชีวิตมนุษย์หมู่มากขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ เป็นต้น เธอจะต้องจำไว้ว่านักวิทยาศาสตร์โลกก็มิอาจบอกความจริงล่วงหน้าได้ นอกจากนั้น ต่อให้เป็นรูปธรรมทางพลังงานชั้นสูง หรือมนุษย์ที่มีหูทิพย์ตาทิพย์ ก็ยังมิอาจสามารถล่วงรู้เกี่ยวกับวันเวลาสถานที่ที่จะเกิดภัยพิบัติล่วงหน้าได้

สาเหตุที่ไม่รู้ :

6. เหตุที่ไม่มีผู้ใดบอกกล่าวล่วงหน้าได้ ก็เพราะมัน คือ "ความลับ" ที่ไม่มีใครล่วงรู้ไงล่ะ ไม่รู้แม้กระทั่งบรรดาช่างเท็คนิกด้วยกันเองด้วยซ้ำไป

6.1) ไม่รู้เพราะเป็นปฏิบัติการแบบกะทันหัน ไม่มีแผนการล่วงหน้า

6.2) ไม่รู้เพราะมันเป็นคว...ามลับ แพร่งพรายให้มนุษย์รู้ก่อนไม่ได้เลย ถ้ารู้แผนการนี้จะเป็นโมฆะไปทันที เช่น มนุษย์ในกลุ่มเป้าหมายของการเกิดมหันตภัย ก็จะพากันหลบหนีออกไปจากเป้าหมายบริเวณนั้นๆเสีย ซึ่งมันจะทำให้แผนการนั้นต้องล้มเหลว

6.3) รูปธรรมชั้นสูงบางกลุ่มที่พอรับรู้เรื่องนี้อยู่บ้าง ก็ไม่อาจออกมาบอกกล่าวฟันธงให้มนุษย์ล่วงรู้ได้ เพราะมิใช่หน้าที่ของท่าน ซึ่งรูปธรรมชั้นสูงเหล่านี้เขาจะไม่กระทำในสิ่งที่ผิดสัจจะโดยเด็ดขาด มิหนำซ้ำยังจะต้องเข้ามาเกี่ยวเวรเกี่ยวกรรมกับเจ้ากรรมนายเวรและมนุษย์บาปหนา อันจะเป็นอุปสรรคบนเส้นทางนิพพานอีกต่างหากด้วย

7. นักเรียนจึงรับรู้เอาไว้ตรงนี้ว่า อย่าไปเชื่อข่าวลือ ข่าวร้ายจากใครๆ อีก เพราะมันเป็นเรื่องของการเดา การทาย การพยากรณ์ หรือจากการวิเคราะห์เชิงวิชาการที่อาจผิดมากกว่าถูก เช่น หลังแผ่นดินไหวใหญ่ที่เกาะฮอนชูแล้ว ยังมีแผ่นดินไหวรุนแรงตามมาอี...กเ...รื่อยๆ จนวันนี้ก็ยังมีไหวอยู่เป็นระยะๆ พวกเขาวิเคราะห์ว่าเป็น "อาฟเตอร์ช็อก" เป็นต้น แล้วในที่อื่นๆที่มันไหวอย่างต่อเนื่องทุกวันๆ เช่น แผ่นดินซีกตะวันตกของอเมริกา มาจนกระทั่งที่มันไหวอยู่ในพม่าทุกวันๆ ล่ะจะเรียกว่าอาฟเตอร์ช็อกอีกมั้ย?

8. ขอบอกนักเรียนว่า ต่อนี้ไปภัยพิบัติมันจะเกิดไปทั่วโลก และรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ มันจะเกิดจริง แต่ไม่มีใครบอกได้หรอกว่า มันจะเกิดตรงไหน เหมือนพายุทอร์นาโดนั่นแหละ ในอเมริกาตั้งแต่ต้นปีมาไม่รู้กี่ร้อยลูกแล้ว และไม่รู้ว่ามันจะไปเกิดที่ไหนบ้...า...ง วันสองวันนี้ไปโผล่ที่กลางเมืองไต้หวัน โชว์ศักยภาพจิ้บๆ ดูดเอารถตู้ขึ้นไปในอากาศหนึ่งคัน ก่อนจะปล่อยให้มันหล่นลงมากระแทกรถอีกคัน ทั้งๆ ที่พายุหมุนแบบนี้ไม่เคยมีที่ไต้หวันมาก่อนเลยล่ะพี่น้อง!!!

9. สาเหตุของการเกิดมหันตภัยเหล่า นี้ พระบิดาคือองค์จิตจักรวาล ได้ทรงเมตตาพวกเธอกล่าวถึง เหตุแห่งการเกิด วิธีการเกิด เป้าหมายของการเกิด พิกดัตำแหน่งแห่งที่ๆเป็นสีแดงที่มันจะเกิด รวมทั้งระยะเวลาแห่งการเกิด เอาไว้ให้พวกเธอผู้เจริญทางวิญญาณและปัญญาได้ล่วงรู้ล่วงกันมานานแล้วใช่มั้ยล่ะ? หน้าที่ของพวกเธอมีอย่างเดียว คือ "เตรียมตนเองและจิตวิญญาณให้พร้อม เพื่อการผจญภัย" เท่านั้นแหละ จงอย่ารีบ "ตายก่อนตาย" เลยนะ

10. เพราะเรารู้เบื้องลึกเบื้องหลังเหล่านี้ไงล่ะ เราจึงไม่อาจฟันธงบอกพวกเธอได้ว่า วันไหนเวลาใดจะเกิดอะไรขึ้นที่ไหนบ้าง เพราะมันเป็นเรื่องของช่างเท็คนิกเขา และมันเป็นเรื่องราวของมนุษย์ด้วยกันเอง เรารู้เท่าที่บอกไปและเรารู้ว่ามันจะเกิดตรงไหน...บนแผนที่โลกบ้างเท่านั้น (โปรดดูแผนที่ของจิตจักรวาล) ส่วนที่เราแอบกระซิบๆ ข่าวให้รู้ล่วงหน้าบ้างนั้น เป็นเพราะพระบิดาทรงเมตตาให้ช่างเท็คนิกบอกเรา เพื่อบอกพวกเธอต่อเพื่อขอทดสอบจิตสำนึกของพวกเธอบางคนก็เท่านั้นเอง อย่างไรก็ดี ข่าวสาร(เรื่องจริงที่จะเกิดขึ้น) กับคำทำนาย(เดาล่วงหน้า)มันจึงต่างกัน

ขอให้นักเรียนของเราโปรดใช้ปัญญาพิจารณาก่อนเสพข่าวลือ
ข่าวลวงเหล่านั้นด้วย

(ป.วิสุทธิปัญญา)