ข่าวสารจากจิตจักรวาล

กลับไปอ่านหน้าแรกๆ พบว่า ยิ่งมั่วกันเข้าไปใหญ่

พระเจ้าส่ง พระพุทธเจ้ามาเกิดเพื่อสอนให้มนุษย์ไปนิพพาน แต่คุณคิดดูละกันว่า ใครฉลาดกว่ากัน ระหว่าง พระเจ้า ที่สร้างมนุษย์มาแล้วเกิดทุกข์ พระเจ้าก็ทุกข์ แต่ขณะเดียวกัน พระพุทธเจ้าที่พระเจ้าคนนี้อ้างว่าได้ส่งพระพุทธเจ้ามา กลับสอนให้คนไม่ต้องเกิดเพื่อไปนิพพาน







ลองอ่านตรงนี้ดู

พระเจ้าบอกว่า มนุษย์รับอาสาขอมาเกิดบนโลก ผมว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไง ถ้าพระเจ้าไม่สร้างวิญญาณ หรือมนุษย์ขึ้นมาก่อน แล้วมนุษย์จะมา"ขออาสา"ไปได้อย่างไง แสดงว่าพระเจ้าสร้างวิญญาณ ขึ้นมาก่อนแล้ว







ที่น่าตลกที่สุด ตรงนี้ครับ

ตลกไหม พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมา เพื่อจุดประสงค์ว่าา "เพื่อให้มนุษย์มาค้ำจุนความสมดุลของโลกทั้งระบบ"

ขำไม่ออกเลยใช่ไหม



ก็ในเมื่อว่า หากพระเจ้าไม่ต้องสร้างอะไรขึ้นมาเลย ไม่ว่าจะเป็น คน โลก ดวงดาว จักรวาล หรืออะไรก็ตาม แล้วจะมีระบบของโลกที่ พระเจ้า หรือมนุษย์ ต้องมานั่งคอยสร้างสมดุลให้กับมันหรือไม่

ตอบว่า ไม่มีหรอก มันจะไปมีระบบอะไรอีกล่ะก็ในเมื่อพระเจ้าไม่ได้สร้างมันขึ้นมา



พวกคุณลองนึกภาพดูนะ หากผมนั่งอยู่ที่บ้านผมดีๆมีความสุข แต่แล้วผมโทรไปสั่งซื้อ เสาไฟฟ้า มาไว้ที่บ้านสวนบ้านผม จากนั้นผมก็ไม่ต้องทำอะไรอย่างอื่นแล้ว ทั้งวันทั้งคืน ต้องมายืนจับเสาไฟฟ้านั้นเพื่อรักษาสมดุลไม่ให้มันล้ม เพราะเมื่อล้มแล้วจะทับบ้านผมได้

จากนั้นมีคนเห็นมาถามผมว่า ทำอะไรอยู่ดีๆทำไมไปยืนกอดเสาไฟอยู่ตลอดเวลาล่ะ

ผมตะโกนตอบเขาไป " ผมกำลังรักษาสมดุลของเสา ถ้าไม่รักษาสมดุลให้ดี เดี๋ยวมันล้มทับบ้านผม"



คุณว่า มันบ้าไหม ถามจริงๆ



ถามว่าถ้าวันนั้นพระเจ้าตัดสินใจไม่สร้างอะไรเลยซักอย่าง ถามว่าวันนี้ จะมีพระเจ้าต้องมาคอยสั่ง คอยกำกับมนุษย์ให้ทำตามพระเจ้าหรือไม่


ถ้าพระเจ้ามีจริงๆ ผมว่า เขาต้องเป็นคนอมทุกข์แน่ๆ วันๆได้แต่บ่นกับตัวเองว่า "กูไม่น่าเลยๆ " อิอิ...



ผมว่ามันผิดปกติอย่างมากแล้วล่ะ กับเรืองนี้

 

เท่าที่อ่าน ผมสัณนิฐานว่า นี่เป็นการ "ยำ" ของความเชื่อของศาสนาต่างๆ ทั้งที่มีพระเจ้า และไม่มีพระเจ้าเข้าไว้ด้วยกัน พูดง่ายๆว่า เป็นการหาทางออกให้กับการไม่เข้ากันของศาสนาต่างๆให้เข้ากันได้นั่นเอง


เหมือนกับที่คุณพยายามเอานิ้วโป้งยัดเข้าไปในรูจมูกคุณนั่นแหละ ทั้งๆที่มันยัดเข้าไปไม่ได้ ก็ฝืนมันเข้าไป สุดท้ายจมูกจะเป็นอย่างไง

 

ทั้งหมดที่ผมเขียนมาทุกๆ คคห ถ้าพวกคุณเห็นว่า คคห ไหนเป็นเท็จ คคห ไม่เป็นตรรกะ บอกได้เลยนะครับ



แต่ถ้าใครอ่าานแล้ว เชื่อผม ก็ขอให้ถอยออกมายืนดูห่างๆนะครับ จากนั้น ยึด คำสอนของพระพุทธเจ้าไว้ คำสอนของท่าน มีเหตุมีผล เป็นตรรกะที่สุดแล้วล่ะ

 

*** กรรมประเทศ ****

ต่อไปเราจะได้เห็น ความพยายามทำลายศาสนา
สร้างสถานการณ์ แสดง บันทึก เผยแพร่ วิจารณ์ โจมตี
สังเกต ผู้ทำลายศาสนาเขาไม่มีสัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ขอให้ท่านเป็นผู้มีสัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

IN THE weird world of quantum mechanics, the phenomenon of entanglement trumps all for strangeness - and maybe also for speed. Two entangled particles are so deeply linked that measuring one influences the other, regardless of the distance between them. In some interpretations, a signal passes between the two particles faster than light.

To test this idea, Daniel Salart and colleagues at the University of Geneva in Switzerland sent pairs of entangled photons to labs 18 kilometres apart. By measuring the properties of each photon in many of these pairs, the team showed that if superluminal signals are responsible for entanglement they must travel at more than 10,000 times the speed of light. The team favour an alternative idea - that a measurement on one photon instantly influences the other (Nature, DOI: 10.1038/nature07121).

แปลคร่าวๆ นะครับ

แล็ปที่สวิตเซอร์ แลนด์ส่งคู่อนุภาึคโฟตอนที่เชื่อมกันด้วย Quantum entanglement แยกไปสองแล็ปที่ห่างกัน 18 กิโล แล้วทั้งสองแล็ปวัดค่าต่างๆ ของโฟตอนแต่ละอนุภาค ปรากฏว่าแต่ละอนุภาคเหมือนรู้ และสามารถเหนี่ยวนำสถานะของอีกอนุภาคด้วยวิธีการบางอย่าง แต่ถ้ามีการส่งสัญญาณสื่อสารระหว่างอนุภาคนั้น ข้อมูลต้องถูกส่งด้วยความเร็วเหนือแสงอย่างน้อย 10,000 เท่า แต่ทีมทดลองเชื่อว่าการเหนี่ยวนำของสองอนุภาคน่าจะเกิดขึ้นแบบฉับพลัน (ความเร็วเข้าใกล้อนันต์)

รายละเอียดเพิ่มเติมดูใน Nature ฉบับล่าสุดครับ


คืออ่านแล้วอึ้งๆ แถมการทดลองได้ตีพิมพ์ใน nature ซะด้วย

มีใครพออธิบาย Quantum entanglement ให้เข้าใจได้ง่ายๆ รึเปล่าครับ
คือเค้ารู้ได้อย่างไร หรือทำอย่างไรให้สองอนุภาคมัน entangled กัน

จากคุณ : Geneticist - [ 14 ส.ค. 51 11:08:18 ]


<HR>
ความคิดเห็นที่ 1

ลิ้งค์ไปที่ paper ครับ

http://www.nature.com/nature/journal...ture07121.html

จากคุณ : Geneticist - [ 14 ส.ค. 51 11:10:38 ]


<HR>
ความคิดเห็นที่ 4

Quantum entanglement อธิบายให้ง่ายยยยยยที่สุดคือ

หากมีอนุภาคสองอนุภาคที่มีจุดกำเนิดเดียวกัน

ปรากฏการณ์ใดก็ตามที่เกิดขึ้นกับอนุภาคหนึ่งจะส่งผลต่ออีกอนุภาคในทางตรงข้ามในทันที
แม้ว่าทั้งสองอนุภาคจะอยู่ห่างกันนับล้านปีแสงก็ตาม

อย่างเช่น มีอนุภาค A กับอนุภาค B Entangle กันอยู่ห่างกันล้านปีแสง

เราจับ A ไปไว้ในสนามอะไรสักอย่าง ทำให้ A Spin up

B ก็จะ Spin down ทันที


อธิบายมากกว่านี้ไม่ได้ เดี๋ยวมั่ว รอท่านอื่นมาเสริม

จากคุณ : Cryptomnesia - [ 14 ส.ค. 51 11:47:39 ]


ใกล้ความจริงแท้ ทางจิตวิญญาณ แล้วน่ะ มนุษยชาติ
นักสู้ เพื่อการรู้แจ้ง
hello6hello6;aa6;26
เคยสงสัย กันมั้ยว่า???
อะตอม โมเลกุล อนุภาคต่างๆของ หิน ดิน ทราย ทำไม??
อิเล็กตรอนตัวนี้ โปรตรอนตัวนี้ นิวตรอนตัวนี้ จึงจำกันได้ว่า ต้องอยู่ร่วมกัน ในอะตอมนี้ โมเลกุลนี้ ทรายเม็ดนี้ ดินเม็ดนี้ หินก้อนนี้
หรือว่า พวกเขามีสัญญาต่อกัน อันเป็นข้อมูลที่มีอยู่ใน จิตวิญญาณ ธาตุรู้ อันเป็นพื้นฐานของชีวิต นั่นเอง
และจิตวิญญาณธาตุรู้นี้ ก็ตัดสัญญาจาก รูปสังขารเหล่านี้มิได้ เพราะมีเวทนา อารมณ์ รักไม่รัก ชอบไม่ชอบ ละไม่ละจาก รูปสังขารเหล่านี้ ทั้งตัวเองและสิ่งแวดล้อมที่คิดว่าเป็นของตัวเอง จึงเป็นที่มาของภพชาติใหม่ๆวนไปเวียนมาไม่สิ้นสุดซะที จนกว่าจะละวางได้ เท่านั้นเอง
แสดงว่า
ในอะตอมหนึ่งๆ ล้วนมีขัณฑ์ 5 ครบมั้ย? หรือควรสรุปได้ว่า
ทุกสรรพสิ่ง ธาตุสี่ อะตอมทั้งหลาย โมเลกุลทั้งหลายฯลฯ ล้วนมีชีวิตทั้งสิ้น???
แต่ จะเคลื่อนไหวเองได้ ไม่ได้ อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งน่าจะบอกได้ว่า
วิทยาศาสตร์ วัตถุยุคใหม่ อธิบายสิ่งมีชีวิตได้ไม่ครอบคลุม หรือผิดนั่นเอง

 

*** จิตวิญญาณ ****

มีตัวกระทำอยู่ในทุกอนุภาค
ผลการกระทำไม่ตาย ไม่สูญสลาย ติดตัวไป

เหตุผล ของทุกอย่างสรรพสิ่ง
คือ... "หลักสัจจะธรรม"

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ขนก็มีชีวิต
เล็บก็มีชีวิต
หัวใจหยุดเต้นไปแล้ว ยังมีชีวิตได้

 

ร่างกายเรา มาจากพ่อแม่เรา
เมื่อเราทำความดี พ่อแม่ก็จะได้รับบุญกุศลทันที

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

หินที่มีพลัง
พลังคือ ตัวกระทำที่เขาเคยทำสะสมเอาไว้
ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน
คือ หลักสัจจะธรรม

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ความคิดมนุษย์ ****

มีความเร็ว ๗ รอบโลกต่อวินาที

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ไม่ควรตัดสินด้วยตา
ใช้ความคิด พิจารณาด้วยใจ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

หมายถึง หลวงพ่อที่มรณภาพนอนแช่น้ำในโลง ที่วัดถ้ำกระบอก ใช่ม๊ะ

 

คือ หินที่แช่น้ำในโลง ใช่ปล่าว
เล็บและขนก็เลยงอกได้

 

เขาไปขอถ่ายหนังเรื่อง โลงต่อตาย
อนุญาติจึงถ่ายได้ ... คือ โลกุตตระภูมิ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

การสื่อพระโอวาทจากจิตจักรวาล ครั้งที่ 145
เรื่อง "นิพพานเถอะลูก"
ที่ โรงแรมมิโด ห้อง ทิพย์พิมาน
วันอาทิตย์ที่ 28 ก.ย. 2551 เวลา 13.00-18.00 น.

 

การบรรยายธรรมที่ผ่านมาเมื่อ 28 ก.ย. 51 เรื่อง "นิพพานเถอะลูก" ณ โรงแรมมิโด
ผู้คนล้นหลาม จนต้องนั่งกับพื้นบ้าง ยืนบ้าง ยืนแล้วยังจดไปด้วยมุ่งมั่นจริงๆ เลิกดึกด้วย
ประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง เนื้อหาเยอะจึงจดบ้างนิดหน่อย ต้องหยุดตั้งใจฟังและคิดตามขณะนั้น
เพราะฉะนั้นในครั้งต่อไป ควรไปจองที่นั่งเสียแต่เนิ่นๆ อาจมีการแจกบัตรคิว
มีการแจกของที่ระลึกในวันครบรอบ 16 ปี ของการบรรยายวันนั้นด้วย

ครั้งต่อไป อ. ปริญญา ตันสกุล บรรยายที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
เก้าอี้อาจไม่มีเสริม เป็นครั้งที่ 146 เรื่อง "สะเดาะห์เคราะห์ สะเดาะห์ธรรม"
วันอังคารที่ 21 ต.ค. 2551 ห้อง Meeting Room 3
บู้ธของสำนักพิมพ์อยู่ที่ M30โซน C ชั้นล่าง แต่ที่หน้าก็จะมีหนังสือและซีดีนะ

ชวนกันไปฟังเยอะๆ ลงทะเบียนไว้ก็ดี ถ้ามีการบรรยายเขาจะได้แจ้งไปที่บ้าน หรือ ทาง email
ใกล้วันชำระใหญ่เข้ามาเรื่อยๆ "ต้องหยิบปัญญา ไปนิพพานกัน"
อยากให้ซื้อซีดีมาฟังกันเองได้รายละเอียดเยอะแน่นกว่า ถ้ามีปัญหาจดไว้ไปถามอาจารย์

ช่วงนี้กินเจ ใครกินครบ 9 วัน แล้วยังไม่ตายก็กินต่อไปจนตาย (เป็นมังก็ได้)
ข้อนี้ช่วยชะลอภัยได้อาจารย์แนะนำมา และก็ต้นปีหน้า หิมะยังตกในเมืองนะ
เมื่อคนตื่นตัวเยอะภัยพิบัติมันไม่เกิดหร็อก เพราะฉะนั้นตื่นไว้อย่าหลับ

 

แล้วถ้าตื่นกันหมดจะล้างคนไม่ดีอย่างไรละคะ (ก็ตื่นไปแล้วนี่นา)
จะอยู่ด้วยกันไม่ไหวแล้ว....

 

พิมพ์ตกไปนิดนึงค่ะ มาแก้ไข
ว่า.....ต้นปีหน้า หิมะยังไม่ตกในเมืองไทยนะ

มาเล่าต่ออีกเรื่อง คือพายุงวงช้างนะปีนี้เกิด 4 ครั้งแล้ว
เป็นการซ้อมดูดน้ำของช่างเทคนิคฯ เพราะว่ารอเก็บไอน้ำไม่ไหว
ต้องดูดเอาน้ำขึ้น แล้วนำไปเทพื้นที่เป้าหมาย

(ความเห็นส่วนตัว)
เรื่องตื่นตัวเนี่ยะนะ เชื่อเถอะ ชาวบ้านตาแข็งได้ไม่นานหรอก(เริ่มง่วง)
ก็หมายถึงว่า เขาชินกับการป่าวประกาศแล้วภัยมันไม่เกิด หรือ
ภัยย่อยๆ มันเกิดถี่มาก จนรู้สึกเฉยๆแล้ว รอตอนเผลอ..ใครกลับตัวตอนนี้ทัน

ฝากถึงอ.ไก่ และทุกท่านไว้คิดยามว่าง

"อยู่กับทุกข์ ก็สุขได้" ... " ในความทุกข์ก็มีสุขเป็นเงา และในความสุขก็มีทุกข์เป็นเงา "

 

อยากถามคุณแม่นายมล

คุณแม่นายมลเคยบอกว่า อ.ปริญญา บอกว่า เหตุการณ์ทางการเมืองไทย คนไทยจะฆ่ากัน 3 ครั้ง ความเสียหายจะน้อยไปหามาก ครั้งที่ 3 จะเสียหายมากสุด

ผมได้ติดตามดูพบว่า เกิดขึ้นจริงแล้ว 2 ครั้ง
คือ วันที่ 2 กันยา มีการปะทะกันระหว่างม๊อบ มีผู้เสียชีวิต 1 คน
วันที่ 7 ตุลา ม๊อบปะทะกับตํารวจ มีผู้เสียชีวิต 3 คน
วันที่ ? พฤศจิกา ?????? จะเป็นอย่างไรต่อไปครับ