ข่าวสารจากจิตจักรวาล

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 12 มกราคม 2007.

  1. ดาบจันทรา

    ดาบจันทรา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2007
    โพสต์:
    986
    ค่าพลัง:
    +1,953
    ค่ะ เป็นคำพูดเดียวกันกับที่ไอยถามเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถึงไม่เล่าให้ฟัง
    เนื่องจากจิตตนเองก็ยังไม่ถึงเหมือนกัน ลุงบอกว่าอยากรู้ความจริงให้ไปนั่้ง
    ที่ถ้ำแล้วจะรู้เอง และก็มีอีกทีหนึ่งที่ถ้ำวิมานจักรี อยู่เลยไปหน่อย
    เนื่องจากที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ เป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้า .......... และหลาย ๆ ที่ในสระบุรี ก็มีประวัติเหมือนกัน เพราะฉะนั้นถึงได้บอกว่า
    อยากรู้ความจริง ก็ให้ไปหาเอง ถ้าท่านไม่หา ไม่ไป แล้วท่านจะรู้ได้อย่างไรเล่า
    แล้วอย่าลืมไปกราบรอยพระพุทธบาทด้วยนะ อยู่ใกล้ ๆ กัน นั่งมอร์เตอร์ไซด์
    จากตลาดเข้าไป 15 บาทนะจ๊ะ (ถ้าคนต่างถิ่นจะโดน 20 บาท)
     
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สัจจะการกระทำ ประมาณค่าไม่ได้ ****

    หัวข้อธรรมใดๆ...
    หากไร้ "สัจจะ" ก็ไร้ค่า
    ทำทุกอย่างให้เป็น "สัจจะ"

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  3. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี
    ณ สำนักปฏิบัติธรรม “ปรียนันท์ธรรมสถาน” อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์
    วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2551 เวลา 13.00 น.


    ********************

    ด้วยสมาชิกกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ จากเว็บพลังจิต.คอม ได้ร่วมกันสร้าง "ปรียนันท์ธรรมสถาน" ขึ้น ณ อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อเป็นสถานปฏิบัติธรรมและเพื่อใช้เป็นสถานที่พักพิงและหลบภัยแก่ประชาชนทั่วไปเมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้น เนื่องจากการสร้างสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งตัวอาคารและระบบต่างๆ อาทิ ระบบระบายอากาศ ระบบน้ำใช้และระบบพลังงานภายในตัวอาคาร จำนวนประมาณ 5 - 7 ล้านบาท แต่ยังขาดปัจจัยอยู่เป็นจำนวนมาก จึงบอกบุญมายังผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลายร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกัน

    ด้วยอำนาจกุศลผลบุญที่กระทำในครั้งนี้ จงส่งผลให้ท่านและครอบครัวประสพความสุข ความเจริญ ในหน้าที่การงาน มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติทุกประการ ถ้ามาดแม้นท่านผู้ร่วมกระทำมหากุศลในครั้งนี้ปรารถนาซึ่งพระโพธิญาณก็ดี หรือปรารถนาขอถึงซึ่งพระนิพพานในปัจจุบันชาติก็ดี ขอกุศลผลบุญที่กระทำร่วมกันนี้จงให้ความมั่นคงเป็นพลวะปัจจัยหนุนนำให้ทุกๆท่านจงสมปรารถนาทุกประการอย่างสะดวกสบาย ไร้อุปสรรคทั้งปวง ในฉับพลันนี้ด้วยเทอญ


    กำหนดการ

    วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2551

    เวลา 07.00 น. ออกเดินทางจากซอยด้านข้างโรงเรียนหอวัง กรุงเทพมหานคร
    เวลา 10.30 น. เดินทางถึงปรียนันท์ธรรมสถาน
    เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์
    เวลา 12.00 น. รับประทานอาหารเที่ยง
    เวลา 13.00 น. ถวายผ้าป่า

    ประธานฝ่ายสงฆ์

    พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เจ้าคณะตำบลชะแล เขต 2
    อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี


    ประธานฝ่ายฆราวาส

    คุณนิติธรรม์ พิชิตเธียรธรรม และครอบครัว ดร.ณัฐพัชร จันทรสูตร คุณสุเชษฐ์ (ksuchet)
    ศ.พญ. เยาวลักษณ์ ภมรประวัติ รศ.ดร.สุธาทิพ ภมรประวัติ ดร.ซิลวิโอ เอเมอรี่
    พลโท คมน์ จันทร์เด่นแสง ผศ.ดร.กัลยา ปรีชานุกูล คุณคณานันท์ ทวีโภค
    คุณลุงชัยมงคลสถาน คุณทศพล โอภานุรักษ์ และครอบครัว คุณเกษม
    คุณสนั่น และครอบครัว คุณวุฒิพงษ์ และครอบครัว
    ผศ.นท.นพ.คมสันต์ สุวรรณฤกษ์ นาวาเอกอรรถพล – คุณทิพาพร เพชรฉาย
    ผศ.ดร.จรรยา ภัทรอาชาชัย คุณมนตรี คงอุทัยกุล และครอบครัว
    คุณหลาน (dearestguardian) คุณชานนท์คนไทย คุณ ahhaboy
    คุณ june_cl คุณ Catt Bewer คุณนิพพานะ
    คุณพรหมประกาศิต คุณนาคา คุณ ksriuta
    คุณพจชนะ ทองทวีวิวัฒน์ คุณอดิเรก ใจผ่อง คุณวิจิตร จันทร์ประสิทธิ์
    คุณพุทธารา เหลือดี และคุณทิพย์ญาร์ภาร์ รังสีบวรกุล บริษัท สบู่ดำไทย จำกัด
    คุณเจษฎา กระจง และคุณโศรดา สุขวัฒนานุกิจ คุณไพเดช อภิสิทธานุรักษ์
    ครอบครัวเห็นสุข และครอบครัวไชยพรรค
    ครอบครัวกิ่งทอง และครอบครัวศรีเงิน
    คุณประไพ เหตระกูล และครอบครัวสัมมาทิฏฐิ
    คุณอมรรัตน์ อุ่นเรือน และครอบครัว
    ครอบครัวโพธิสิงห์ ครอบครัวร่านสำราญ ครอบครัวเหล่าอัน ครอบครัวแสงตารัตน์ และครอบครัววงศ์ประณุท
    คุณแม่อุไร คุณ Mallika logue และครอบครัว


    รองประธานกรรมการ

    คุณรัตนาพร (คุณนาย) คุณ 4 ร้านข้าวแกงเทพารักษ์ กม.8
    คุณนวพร บุญปก คุณนวลฉวี โคสาสุ คุณจินตนา สีดาพันธ์
    คุณปาริชาติ ศิลปอาชา คุณประทุม – คุณสาลี่ ช่วงทอง คุณกุสุมา ศรียากูล
    คุณจุฑาทิพย์ สุดดี คุณทิพวรรณ สงสนธิชัย และครอบครัว คุณ pat3112
    คุณสวัด- คุณคิด ดวงศิลป์ คุณพศิน รัศมีพลายโยธิน


    คณะกรรมการ

    แม่ชีศิริลักษณ์ จันทรสูตร คุณจิรัชชญา เบญจนันทกุล และครอบครัว
    คุณชาญสิทธิ์ ขจายศรสิทธิ์ และครอบครัว คุณประชา แต้มงาม คุณพิภพ ขจรกล่ำ
    คุณปุณณเกติ์ ขำขนิษฐ์ และครอบครัว คุณวรินทร ยั่งยืน คุณสู้จึง แซ่ก๊วย
    คุณอารัณย์ - คุณชัชนันท์ - คุณวรพล เอเมอรี่ คุณอนันต์ - คุณบุญยอด ศรีเชียงหวาง
    คุณอริสรา ดวงศิลป์ พ.ต.สนธยา - คุณสุภาภรณ์ ศตวรรษ และครอบครัว
    ผศ. ดร . โสภาพรรณ เอี่ยมรัตนาวงศ์ คุณประจักร ตันติบุญยานนท์ และครอบครัว
    คุณดุษณี คุณโสภา และครอบครัว คุณวิมล - คุณวีณา พรพ่วง และครอบครัว
    คุณจิระพร – คุณตรีเทพ วงศ์สว่าง และครอบครัว คุณลำพัง ศรีสอน และครอบครัว
    คุณประสิทธิ์ วิศิษฎ์จินดา และครอบครัว คุณอารมณ์ ระย้า และครอบครัว
    นักศึกษาแพทย์ ม.ธรรมศาสตร์ ปี 3 กลุ่ม 11 คุณสมคิด เอี่ยมประเสริฐ และคณะ
    คุณอภิฌาน กาญจนวาปสถิตย์ และครอบครัว ครอบครัวสงวนวงษ์ทอง
    คุณ merin คุณ Viroj คุณ famnakub
    คุณ bnbk คุณ note_bank คุณ nice00000 กับแฟน
    คุณ ren



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 ธันวาคม 2013
  4. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เรื่องของสมอง:- ขยายความเป็นความรู้ครับ
    สัตว์ทั้งสี่ตัวอยู่รายรอบแท่นประทับ
    สัตว์ทั้งสี่ตัวมีตาเต็มทั้งตัว แต่ละตัวมีปีกหกปีก ได้ถูกถอดความหมายที่แท้จริงออกมาแล้วซึ่งหมายถึง สมองมนุษย์ทั้งสี่ส่วน นั่นเองครับ:-

    สัตว์ทั้ง 4 ตัวหมายถึง สมองที่สามารถให้สติปัญญาทั้งสี่ส่วน ดวงตาที่มีแทนเซลล์สมองจำนวนมากคือตัวสัมผัสรู้

    สัตว์ตัวที่หนึ่งหน้าเหมือนสิงห์..หมายถึงสมองซึกขวา ที่หน้าเหมือนสิงห์เพราะเป็นสัตว์ชั้นสูง เลยยกให้เป็นระดับหนึ่งแทนสมองซึกขวา+สติปัญญาที่แยบยล กล้าหาญ ละเอียดลึกซึ้ง เป็นผู้นำในตัวเอง นำผู้อื่นแบบเจ้าป่า

    สัตว์ตัวที่สองนั้นเหมือนโค...โคเป็นสัตว์ประจำโลก ช่วยเหลือมนุษย์ไถนา ใช้ลากเกวียน แทนสมองส่วนท้ายทอย เรื่องการ "ใช้กำลัง"ไม่ใช่ปัญญา

    สัตว์ตัวที่สามนั้นหน้าเหมือนมนุษย์... คือสมองซีกซ้ายนั่นเอง เนื่องจากมนุษย์ส่วนใหญ่มักใช้สมองซึกซ้ายนำขวากันมาตลอดตั้งแต่เริ่มเติบโตเป็นผู้ใหญ่

    ต่อไปคือ สัตว์ตัวที่สี่ เหมือน นกอินทรีย์กำลังบิน นี่คือปัญญาณขั้นสูงที่จะได้รับจากสมองส่วนกลางทำหน้าที่ร่วมกับต่อมพิทูอิทารี่ ถ้าสั่นสะเมื่อเมื่อไหร่ ต่อมทุกต่อมในร่างกายจะสั่นสะเทือนพร้อมกันหมด ทำให้มีพลังอำนาจสูงมาก ในการขับเคลื่อนปัญญาญาณ ด้วยกระบวนการหยั่งรู้ขั้นสูงสุด แต่ยังต้องใช้วิธีการสังเคราะห์ข้อมูล โดยการใช้สมองซีกขวานำซ้ายเข้ามาช่วย นั่นคือการเข้าถึงความสามารถในการใช้ปัญญาญาณสูงสุดที่เป็นสมองส่วนกลาง เหมือนนกอินทรีกำลังบินสื่อสารไปได้ทั่วทั้งจักรวาลไกลแสนไกล รู้ทุกสิ่งทั้งมิติทางกายภาพและมิติทางพลังงาน อธิบายได้ทุกสิ่งที่มนุษย์ส่วนมากไม่รู้

    สมองถูกเปรียบเทียบไว้กับสัตว์ทั้งสี่ โดยแบ่งเป็นกลุ่มได้สี่ส่วน
    รูปปกข้างล่างนี้เคยทำให้อาจารย์ปริญญา แต่ไม่ได้ใช้ ซึ่งบรรยายภาพสมมุติออกมาเหมือนกัน<!-- / message --><!-- attachments -->




    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG]

    คนกับกลไกสมอง

    http://palungjit.org/showthread.php?t=44991






    </FIELDSET>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2008
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [​IMG]

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 05.jpg
      05.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.1 KB
      เปิดดู:
      2,553
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ภาพพี่เกษมชัดมากครับ ตามพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเลยนะครับ
    เพิ่มเติมเรื่องที่ สัตว์แต่ละตัวมีหกปีก หมายถึงจิตวิญญาณมนุษย์จะมีเหลื่ยมมุมทั้งหมด หกเหลื่ยมมุม คือรูปธรรมพลังอำนาจของมนุษย์ที่หมุนรอบตัวเองตลอดเวลา เพื่อทำให้เหลื่ยมมุมทั้งหกนั้นรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกันให้ได้

    [​IMG]

    ส่วน คบเพลิงทั้ง 7 กระถาง หมายถึง คลื่นความถี่ที่เป็นสุญญตา 70 % ที่เกิดขึ้นจากการแบ่งภาคเป็นมนุษย์ที่มาเกิดในมิติโลก (70 % ก็คือ 7ดวง) คบเพลิงเหล่านั้นคือจิตวิญญาณทั้ง 7 ของพระเจ้า
    ความหมายที่อาจารย์เล่าให้ฟังเป็นแบบนี้ครับ:- สรุปว่าเราทุกคนมีจิตวิญญาณพระเจ้า หรือจิตที่เป็นพุทธะอยู่กับเราทุกๆคน และอยู่ใกล้แค่นัยย์ตานี่เอง..
    ในความเป็นจริงแล้ว จิตวิญญาณไม่มีจำนวนนับ จิตวิญญาณเป็นระบบเครือข่าย จิตวิญญาณคือความรู้ และเพิ่มขึ้นและหด-ขยายได้มากมายกว่าที่เราคิดไว้ซะอีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กุมภาพันธ์ 2008
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** จะรู้เอง ****

    เมื่อถึงเวลา...
    กลุ่มจิตจักรวาล....จะจบลงที่ โลกุตตระธรรม หลักสัจจะธรรม และการปฏิบัติสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** โลกุตตระ ****

    มี มนตรีพระ ๓๒ องค์
    มีหน้าที่ดูแลเป็นส่วนๆ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    ชมรมจิตจักรวาลฯ มีข่าวสารเกี่ยวกับการรับฟังบรรยายธรรมะภาคปฏิบัติ
    โดยท่านอาจารย์ปริญญา ตันสกุล ครั้งที่ 138
    ในวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2551
    ที่โรงแรมมิโด ห้อง ทิพย์พิมาน
    13.00 - 18.00 น.
    เรื่อง - เปลี่ยนแปลงวิธีคิด วิถีชีวิตจึงจะเปลี่ยน

    ครั้งที่ 139
    6 เม.ย. 51
    Meeting Room 1
    ที่ศูนย์สิริกิต์
     
  10. sarantip

    sarantip Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +88
    ขอบคุณมากๆ ค่ะสำหรับทุกกระทู้ทุกคำตอบ เป็นสิ่งดีมากๆ เลย แล้วก็มีความภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วภูมิใจที่สุดคือได้เกิดในพุทธศาสนา ของเราค่ะ
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    จิตจักรวาล...คือ โลกุตตระ
    ไปให้ถึง โลกุตตระภูมิ
    รับสัจจะ ทำให้เกิดขึ้นจริง
    ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด

    สัจจะ...สัจจะธรรม ....สากลโลก

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** โลกุตตระภูมิ ****

     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** พระหน้าเป็นผู้หญิง ****

    - " หนุมาน ผู้นสาร "
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  15. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สัจจะ คือแก่นสาร ****


    โลกุตตระ กล่าวไว้.......
    สัจจะ คือแก่นสาร
    นอกเหนือสัจจะ ไม่ใช่แก่นสาร
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  16. แม่นายมล

    แม่นายมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +6,258
    ขอแก้ไขการจากการโพสครั้งก่อน
    -----------------------------------------------------------------------
    กำหนดการสื่อพระโอวาทฯ ครั้งที่ 139
    เรื่อง : "อนัตตา ก็มีอัตตา"
    ห้อง : ทิพย์พิมาน
    สถานที่ : โรงแรมมิโด
    วัน : อาทตย์ที่ 9 มี.ค. 2551
    -----------------------------------------------------------------------
    กำหนดการสื่อพระโอวาทฯ ครั้งที่ 140
    เรื่อง : "การเตรียมตนเองเพื่อการผจญภัย " (อีกครั้ง)
    ห้อง : Meeting Room 1
    สถานที่ : ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
    วัน : อาทตย์ที่ 6 เม.ย. 2551
    -----------------------------------------------------------------------
    อจ.ปริญญา เปิดโอกาสให้ถามธรรมะก่อนบรรยาย ซึ่งที่ผ่านมายังไม่เคยมี
    ให้รับฟังอย่างเดียว เหตุการณ์ น่าจะงวดเข้ามาแล้ว เกิดอย่างแน่นอน
    ดูจากเรื่องที่จะพูด ครั้งที่ 140 มีวงเล็บว่า (อีกครั้ง)

    อจ.ปริญญา เคยพูดไว้ครั้งนึง เมื่อ 15-16 ก.ย. 2545
    เรื่อง "การเตรียมตนเองและจิตวิญญาณเพื่อการผจญภัย"
    ในตอนนั้น ข้อมูลบอกมาว่า ยุคพลังงานใหม่คือ 11 ม.ค. 2546
    แต่ตอนนั้นไม่ปรากฏ เค้าลางภัยพิบัติในที่ต่างๆ ให้เห็น เช่นปัจจุบัน
    ฉะนั้นสมาชิกไม่น่าพลาด ใกล้แล้ว ค่อนข้างแน่.....
     
  17. apichan

    apichan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    825
    ค่าพลัง:
    +4,424
    โรงแรมมิโด อยู่ตรงไหนครับ ถ้ามีโอกาสจะได้ไปฟังด้วย
     
  18. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    [​IMG]

    ถ้ามาจากอนุสาวรีชัยฯ ไปทางถนนพหลโยธินครับ
    ถึงแยกสะพานควาย เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประดิพัทธ์
    โรงแรม Mido จะอยู่ทางซ้ายมือ เป็นโรงแรมเก่าแก่หาไม่ยากครับ..
    น่าไปฟัง..ถ้าไม่ติดอะไรซะก่อน
     
  19. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    -:รายละเอียดของกระบวนการชำระโลกโดยจิตจักรวาล:-
    กระบวนการทางเทคนิคของพระบิดาต่อไปนี้ จะเปิดเผยเฉพาะบางส่วนที่มนุษย์ควรรู้เท่านั้น เพื่อให้มนุษย์ได้ใช้เป็นข้อพิสูจน์ว่าความรู้ทั้งหมดทั้งสิ้น ล้วนเป็นพระเมตตาที่พระบิดาประทานมาให้เผยแพร่ มิใช่เป็นการกระทำขึ้นมาเองของมนุษย์ที่อวดอุตริ..ว่าจริงแท้หรือไม่?
    หากทุกอย่างเป็นความจริงตามที่เผยให้รู้ไว้ล่วงหน้านี้ ย่อมจะเป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนว่าองค์จิตจักรวาล ผู้เป็นพระบิดาหรือพระผู้สร้างหรือว่าพระเจ้าล้วนมีจริงเป็นแน่แท้ แต่จะมีใครสักกี่คนกันเล่า ที่จะมีโอกาสข้ามผ่านกลียุคครั้งที่ 4 นี้ไปได้เพื่อถึงวันเวลาแห่งการพิสูจน์นั้น?

    -:ขั้นตอนโดยสังเขปของช่างเทคนิค:-
    1. ก่อนวันชำระครั้งใหญ่จะเริ่มต้นขึ้น 15 วัน แกนหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์โลก ที่ทำมุมกันแนวดิ่งอยู่ 23.5 องศานั้น จะถูกกำหนดให้มันค่อย ๆ ขยับตัวเพื่อเบี่ยงเบนไปจากแนวเดิมเรื่อย ๆ จะทำให้ขั้วโลกเหนือก้มหัวลงหันเข้าหาดวงอาทิตย์มากขึ้น

    2. น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกเหนือจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น จากกรณีที่เกิดขึ้นในข้อแรก ทำให้น้ำแข็งละลายกลืนกับน้ำในมหาสมุทรอย่างรวดเร็ว

    3. เมื่อโลกเอียงในลักษณะก้มหัวมากขึ้นเรื่อย ๆ น้ำจากขั้วโลกก็จะพากันไหลหลั่งลงสู่เบื้องล่างเป็นคลื่นน้ำระลอกใหญ่ ในอันที่จะนำไปสู่คลื่นยักษ์ถาโถมแผ่นดิน และบริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่จะกลืนแผ่นดินต่อไป

    4. ขณะเดียวกันก็จะกำหนดให้เกิดการสั่นสะเทือนใต้มหาสมุทรบริเวณขั้วโลกใต้ เพื่อกระเทาะเอาก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ให้หลุดออก เพื่อใช้เป็นมวลในการถ่วงดุลด้านน้ำหนักมวลระหว่างขั้วโลกเหนือกับขั้วโลกใต้ ในกระบวนการทางเทคนิคที่จะกล่าวถึงในข้อ 5 และ 6 เป็นลำดับต่อไปนั่นเอง

    5. เมื่อครบ 15 วันตามกำหนดที่จะชำระความครั้งใหญ่แล้ว แกนหมุนรอบตัวเองของดาวเคราะห์โลกจะเบี่ยงเบนไปจากเดิม 8.5 องศา หรืออยู่ที่ 32 องศากับแนวดิ่งแล้ว ตรงพิกัดตำแหน่งนี้จะเป็นกำหนดเวลาที่ส่วนโค้งของโลก จะเริ่มบดบังแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ได้อย่างเหมาะเจาะพอดีอีกต่างหากด้วย ดังนั้นวันแรกแห่งการชำระความในกรณีชำระโลกครั้งใหญ่ ที่มนุษย์จะสังเกตมายาได้ก็คือ ฟ้าจะเริ่มมืดสลัวลง ผิดปรกติ

    6. ดาวเคราะห์โลกจะค่อย ๆ ม้วนตัวก้มหัวเอาขั้วโลกเหนือ คว่ำลงแทนที่ตำแหน่งขั้วโลกใต้อย่างช้า ๆ โดยมีน้ำหนักจากขั้วโลกเหนือที่ไหลลงสู่ด้านล่าง และก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์ทางด้านขั้วโลกใต้ช่วยส่งเสริม กระบวนการทางเทคนิคนี้ให้แนบเนียนกลมกลืนยิ่งขึ้น เมื่อขั้วโลกเหนือย้ายตนเองไปสู่ขั้วโลกใต้แล้วก็จะค่อย ๆ พลิกม้วนตัวขึ้นเพื่อย้อนคืนสู่ตำแหน่งเดิมของตนต่อไป โดยไม่ย้อนรอยเดิม แนวแกนหมุนรอบตัวเองตำแหน่งใหม่ในยุคพลังงานใหม่ก็คือ 22 องศากับแนวดิ่ง เพื่อสร้างฤดูกาลใหม่ที่สมดุลให้กับมนุษย์ยุคพลังงานใหม่แห่งโลกเสรี
    ระยะเวลาที่โลกม้วนตัวตีลังกาครบ 1 รอบ จะใช้เวลาดำเนินการทั้งสิ้น 30 วัน !

    7. คำกล่าวที่ว่า “น้ำจะท่วมฟ้า ปลาจะกินดาว” จะเกิดขึ้นภายใน 7 ราตรี คือ 49 วันอันมีแต่กลางคืนนั่นเอง หมายความว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะจมอยู่ใต้บาดาล ผู้ที่อยู่ใต้น้ำย่อมมองเห็นเหมือนน้ำท่วมท้องฟ้าและปลาจะแหวกว่ายอยู่ไปมา ทำให้คนที่จมอยู่ใต้น้ำแลประหนึ่งว่า ปลาจะกินดาวนั่นเอง

    8. ตึกสูงใหญ่ วัตถุเทคโนโลยีขยะ มนุษย์ขยะ สัตว์ประจำโลก ต้นไม้ใหญ่น้อย ภูเขาสูงชันและอื่น ๆ จะถูกชำระออกไปจากระบบ เพื่อลดจำนวนและน้ำหนักมวลบนพื้นผิวโลกให้น้อยลง เพื่อสร้างสมดุลใหม่ให้กับดาวเคราะห์ดวงนี้

    9. สัตว์ประจำโลกบางชนิดจะสูญพันธุ์ เพราะพวกเขาหมดหน้าที่แล้ว โดยพระบิดาจะเรียกนำจิตวิญญาณพวกเขาทั้งหมดกลับคืน คือ กระต่าย และ หนู

    10. เมื่อครบ 49 วันหรือ 7 ราตรีแล้ว พระบิดาจะใช้น้ำฝนดั่งน้ำทิพย์ที่บริสุทธิ์ของพระองค์หลั่งลงมาเพื่อเก็บกวาดชำระล้างเศษซากทุกสิ่ง และชุบชีวิตให้กับจิตวิญญาณบุตรที่รักดีที่เหลือรอด
    ขั้นตอนการชำระความโดยสังเขป:-

    การชำระระบบโลก
    1. ให้มีการ ชำระความ ก่อนวันชำระใหญ่ได้เรื่อย ๆ นับแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา

    2. การชำระความ กระทำโดยกลุ่มของช่างเทคนิค ผู้เป็นเจ้ากรรมนายเวรของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่ทั้งสิ้นในสนามพลังงานดาวเคราะห์โลก จำนวน 20 เท่าของประชากรโลกที่มีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน โดยเจ้ากรรมนายเวรของมนุษย์ในประเทศใดก็จะทำหน้าที่เป็นช่างเทคนิคเพื่อชำระความกับมนุษย์ในประเทศนั้น

    3. การชำระความของเจ้ากรรมนายเวรผู้เป็นช่างเทคนิค หมายถึง การแก้แค้นเอาคืนอย่างสาสมกับมนุษย์ที่เคยก่อกรรมด้านลบต่อพวกเขามาก่อน

    4. เจ้ากรรมนายเวร หมายถึง พี่ ๆ น้อง ๆ ของมนุษย์ในภพชาติปัจจุบันนี้เอง ที่ได้รับความทุกข์ทรมานจากการจองจำด้วยความอาฆาต โกรธแค้นต่อมนุษย์ปัจจุบันที่เคยกระทำผิดคิดร้ายต่อพวกเขา โดยพวกเขาไม่ยอมไปผุดเกิดยังภพภูมิใด ๆ ได้แต่รอคอยโอกาสเพื่อติดตามแก้แค้นทวงคืนอยู่อย่างเดียว บางรูปธรรมได้จองจำมนุษย์ไว้นานร่วมสองหมื่นปีมาแล้วก็มี

    5. เจ้ากรรมนายเวร หมายถึง รูปธรรมทางพลังงานจิตวิญญาณของผู้ที่เคยเกิดเป็นมนุษย์ หรือ สัตว์ประจำโลก ที่เคยถูกมนุษย์ทำร้ายให้ทุกข์ทรมานอย่างทารุณ ด้วยการเข่นฆ่าเอาชีวิต และกินเลือดกินเนื้อพวกเขาอย่างเมามัน เช่น หมู เป็ด ไก่ ห่าน วัว ควาย และอื่น ๆ เป็นต้น

    6. วิธีการชำระความก็คือ การอยู่เบื้องหลังภัยธรรมชาติที่รุนแรง เพื่อจัดการกับมนุษย์ผู้เป็นบุคคลเป้าหมายที่จะเอาความของพวกตนเช่น การโอบอุ้มน้ำฝนไปถล่มซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อก่อให้เกิดอุทกภัยที่รุนแรงต่อมนุษย์ในเป้าหมายชำระของพวกตน การร่วมกันทำให้เกิดฟ้าฝ่าบุคคลเป้าหมาย การทำให้เกิดลมพายุพัดถล่มซ้ำ การทำให้เกิดคลื่นยักษ์ การทำให้เกิดแผ่นดินไหว ด้วยการใช้เสียงดังของฟ้าฝ่าในระดับ 30 เดซิเบลขึ้นไปเพื่อเป็นเงื่อนไขให้เกิดการสั่นสะเทือนนั้น การผลักเคลื่อนตัวของรอยแยกของเปลือกโลกอันเกิดจากการระเบิดในใจกลางโลก การสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่รุนแรง และการระเบิดของภูเขาไฟ ในสถานที่ ๆ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

    7. ชำระความด้วยเสียงอันดัง เพื่อทำลายประสาทหูและใช้พลังงานด้านลบที่เข้มข้น เพื่อทำลายสติและเอาชีวิตมนุษย์เป้าหมายนั้นในฉับพลัน

    8. ชำระความมนุษย์ด้วยโรคระบาดร้าย ๆ ที่มากับน้ำเน่าเสีย เช่น อหิวาตกโรคชนิดใหม่ที่มนุษย์ต้องตายภายใน 6 วันหลังการได้รับเชื้อนั้น หรือภัยร้ายจากเชื้อโรคพันธุ์ใหม่ชื่อ Virusteria ที่มนุษย์โลกไม่เคยรู้จักซึ่งสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วกว่าเชื้อโรคชนิดใด ๆ บนโลกใบนี้

    9. ชำระความด้วยความอดอยากหิวโหย ไม่มีที่อยู่ ไม่มีน้ำดื่ม ไม่มีอาหารบริโภค เพราะน้ำท่วมเสียหายหมด และไม่มีใครช่วยเหลือใครได้เพราะต่างต้องประสบเคราะห์กรรมโดยทั่วหน้ากัน

    10. ช่วงเวลาแห่งการชำระความครั้งใหญ่ จะใช้เวลานานถึง 7 ราตรี โดยที่ 1 ราตรี หมายถึง การที่โลกจะปกคลุมไปด้วยความมืดมิดคือ มีแต่กลางคืนติดต่อกัน 7 วันเต็ม ๆ ขณะที่ภัยธรรมชาติที่วิปริตแปรปรวนอันเกิดจากน้ำมือของช่างเทคนิค เป็นผู้กระทำอยู่เบื้องหลังจะรุกกระหน่ำเอาความกับมนุษย์อย่างไม่ลืมหูลืมตา แม้จะปิดตาก็แลเห็นจะปิดหูก็ได้ยิน ทั่วทั้งแผ่นดินจะเจิ่งนองไปด้วยน้ำ บอบช้ำไปด้วยพายุถล่ม แผ่นดินถล่ม และตึกสูงใหญ่ที่ถล่มทลายลงมากองเป็นภูเขาเลากา ท่ามกลางเสียงหวีดกรีดร้องของมนุษย์กับเจ้ากรรมนายเวร ประสานเสียงกันอย่างบาดหัวใจ

    11. แผ่นดินบางแห่งจะลุกเป็นไฟ เพราะแสงเพลิงและสายธารของลาวาจากใต้โลก บางแห่งจะยุบตัวลงกลืนเมืองลงไปทั้งเมือง แล้วราดทับด้วยเปลวถ่านร้อน ๆ ของลาวาอย่างน่าพรั่นพรึง

    12. แผ่นดินจำนวนมากจะถูกกลืนหายไปใต้แผ่นน้ำ และมหาสมุทรอย่างถาวร เพราะคลื่นยักษ์ แผ่นดินไหว และแรงดูดดึงจากใต้สมุทรจนทำให้เกาะน้อยใหญ่ไม่แตกกระจาย ก็จะจมหายลงไปใต้ผืนทะเลตลอดกาล

    [​IMG]

    โลกจะพลิกตัวลงไปทางใต้ แล้วกลับขึ้นไปใหม่ ขั้ว S กลับเป็น N ใข้เวลาราว 2เดือน ตามรหัส 49+7

    1.แนวแกนหมุนของโลกทำมุมกับแนวดิ่ง 32 องศา (เอียงเพิ่มอีก 8.5 องศาจากเดิม 23.5 องศา)ทาง NE*
    2.แนวแกนแม่เหล็กโลก จะย้ายไปอีก 3องศา (เดิม 11 องศา) + 3องศา
    3.ระบบโครงข่ายสนามแม่เหล็ก จะยกตัวสูงขึ้น 60.000 กม.
    4.น้ำหนักมวลบนผิวโลกจะลดลง
    5.ความเข้มสนามแม่เหล็กโลกเปลี่ยนเป็น 22 เกาส์ (จากเดิม 14 เกาส์)
    6.โลกจะหมุนเร็วขึ้นจาก 24 ชม. เป็น 22 ชม.ต่อรอบ

    จากหนังสือ 56 วัน 7 ราตรี ปฎิบัติการชำระโลก สู่ยุคพลังงานใหม่ ถ่ายทอดคลื่นความคิดจากจิตจักรวาลโดย อาจารย์ปริญญา ตันสกุล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2008
  20. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    การเตรียมตนเองเพื่อการผจญภัย " (อีกครั้ง)
    อาทิตย์ที่ 6 เม.ย. 2551 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ Meeting Room 1
    หัวข้อนี้หาเวลาไปฟังกันครับ อาจารย์อาจแจ้งสัญญาณเตือนก็ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...