ขอเชิญร่วมอนุรักษ์ พระสมเด็จวัดระฆัง ทุกยุค ทุกเนื้อ ทุกพิมพ์ เพื่อบูชาหลวงปู่โต

ด้านหน้า กระผมว่าเป็นบางขุนพรมพิมพ์สังฆาติมีหูหรือบางที่ที่คนสมัยก่อนเรียกบางขุนพรมพิมพ์สังฆาติหูช้าง องค์นี่น่าจะอยู่ล่างๆของกรุและผ่านน้ำท่วมใหญ่๒๔๘๕ สภาพคราบตะใคร่น้ำและรอยสึกกร่อนขององค์พระท่านเล่าเหตุการณ์อย่างนั้น รอยกระเทาะบางส่วนบริเวณพระเพลา(แข้ง)และและฐานชุกชีแลเห็นเนื้อในงามดีครับ
ด้านหลัง เห็นรอยตะใคร่เกาะบางทั่วไป แต่ลักษณะธรรมชาติไม่มีรอยกร่อนจากการกัดเซาะเหมือนด้านหน้าออกจะงงๆครับdannce_

ดีใจกะท่านจขกท.ด้วยครับ กระผมไปประชุมรับมอบนโยบายมาไม่ได้เข้าเสียหลายวัน โห....มีดาวด้วยอ่ะ

 

องค์นี้ผมเอาไปถ่ายรูปแบบรอบด้านมาให้ช่วยดูอีกรอบครับ แบบชัดๆยิ่งกว่าส่องจริง(มั่ง) เผื่อจะดูได้ง่ายและชัดเจนขึ้น ซึ่งน่าจะช่วยในการวิเคราะห์ได้ครับ มีความคิดเห็นเพิ่มเติมอย่างไรกันบ้างครับ


Thanks: ฝากรูป



Thanks: ฝากรูป


Thanks: ฝากรูป


Thanks: ฝากรูป

ภาพนี้ผมซูมตรงรอยปริด้านหลังครับ..

 

ขอบคุณครับที่ช่วยให้ความรู้ ...........

 

Thanks: ฝากรูป
ของท่านnmonthonจะให้ตอบเวลานี้ยากครับเนื่องจากพระล้างผิวมา ทำให้เนื้อในยังคงดูใหม่ ร่องรอยธรรมชาติสังเกตุได้ยาก แม้แต่เศษคราบรักที่คงหลงเหลืออยู่ก็ยังดูใหม่เลยครับ แต่มวลสารดูดีมีพระธาตุหลายชนิดหลายสี ตอนนี้ผิวเริ่มคืนตัวเล็กน้อยแล้วครับ เหมือนอย่างของผม(แม่พิมพ์ที่๓)คงต้องรออีกปีเช่นกันรอให้ผิวคืนแล้วค่อยมาลุ้นครับว่าจะเฮหรือฮา


ส่วนองค์นี้พิมพ์ไม่ได้แถมล้างธรรมชาติออกไปด้วยไม่ขอฟันธงเช่นกันครับ แต่มวลสารชอบเม็ดพระธาตุกลางอกจังครับ

 

ร่วมด้วยช่วยดันกระทู้ดีครับ ชมพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ฐานแซม ผิวสีแดง เนื่องจากเจ้าของเดิมห่อผ้ายันต์สีแดงไว้ แล้วใส่กระเป๋าเสื้อ พอเหงื่อออกจึงซึมเข้าเนื้อครับ ปัจจุบันองค์นี้ให้น้องชายไปแล้วครับ

 

ของพ่อให้มานานมากแล้ว สมเด็จรุ่นไหนครับดูที แท้ หรือ ไม่แท้ครับ

 

พระสมเด็จ ฯ อยู่ในกรอบครับ แน่นมากไม่กล้าเอาออกมาถ่ายครับ เชิญติชมได้ครับ

 

สวยงดงามมากครับ จัดเป็นพระแท้ดูง่ายครับ

 

เป็นพระแท้แน่นอนครับ แต่จะเป็นวัดไหนดูจากรูปแล้วตอบยากจริง ๆ ครับ
ต้องขออภัยด้วยนะครับ

 

ร่วมบูชาหลวงปู่โตครับ

 

ขอบคุณมากครับท่าน รักษ์สยาม ที่แวะมาเยี่ยมชมและร่วมอนุรักษ์พระสมเด็จ ฯ ครับ สำหรับองค์นี้เป็นพิมพ์ใหญ่เกศทะลุซุ้ม พิมพ์ทรงถูกต้องครับ ซอกแขนซ้ายมือองค์พระสูงกว่าด้านขวา ด้านหลังเห็นเม็ดมวลสาร และความเก่าธรรมชาติได้ชัดเจน สวยงามครับ

 

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ องค์นี้ถูกล้างมาครับ ไม่มั่นใจว่าเป็นรักหรือคราบน้ำหมากครับ ลองศึกษาดูครับ

 

วันนี้เอาเนื้อปูนดิบกะปูนสุกมาให้ดูผิวกันจะ ท่านเห็นอะไรบ้างครับที่แตกต่างกัน ตามที่ผมเห็นก็มีดังนี้ครับ หากใครมีข้อสังเกตุเพิ่มเติมก็บอกด้วยครับเพราะไม่มีใครบอกได้แต่เรียนรู้ด้วยตนเองอยากศึกษาเพิ่มน่ะครับ
เนือปูนสุก พอดีว่าองค์นี้เป็นเนื้อปูนุ่มโครงสร้างของมวลสารค่อนข้างหลวมทำให้เมื่อองค์พระชื้นหรือเปียกจะมีการขับน้ำปูนออกมา เซียนโบราณจะเห็นเป็นคราบแป้งโรยพิมพ์อันนี้ห้ามกันไม่ได้ เป็นลักษณะฟิล์มบางๆสามารถมองทะลุเข้าไปในเนื้อได้คล้ายกระดาษสาเปียกน้ำมัน คาดว่าเกิดจากการประสานตัวกับน้ำมันตังอิ๊วที่ขับออกมาในภายหลัง บางนักวิชาการเรียกผิวแคลแซียมบ้างผิวมุกบ้าง อันเนื่องจากปูนเปลือกหอยต้นกำเนิดนั่นเอง ทำให้น้ำปูนที่ขับออกมามีความมันวาวในตัวเอง


เนื้อปูนดิบ จะไม่พบคราบน้ำปูนผุดออกมาเคลือบเนื่องจากปฏิกิริยาความเป็นด่างหรือเบสไม่มีนั่นเองมีแต่น้ำมันตังอิ๊วขับออกมาตามกาลเวลาเป็นแผ่นแข็งกับร่องรอยยุบย่นแยกแยะให้เห็น

 

รบกวนดูองค์นี้อีก 1 องค์ครับ น่าจะเป็นองค์สุดท้ายแล้วครับ..

 

ขอบคุณครับพี่ tbravo

 

กำลังศึกษาอยู่ครับ ช่วยพิจารณาองค์นี้ด้วยครับ ตอนได้มามีคราบดินมาก เลยใช้ผงซักฟอกและแปรงสีฟันขัดออก สภาพเลยเป็นแบบนี้

 

ขอบคุณ คุณ noitak ครับที่เผยแพร่ความรู้
พยามจดจำเผื่อมีโอกาสพบของจริง