ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    <TABLE id=post4314028 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>29-01-2011, 03:06 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#3483 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ดอกไม้เมืองบน<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4314028", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Mar 2008
    ข้อความ: 186
    พลังการให้คะแนน: 88 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4314028 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    "ลูกหลาน...ทหาร...ข้า"

    แว่ว ดำรัสตรัสมา..พระพายแผ่ว...
    สั่งความแล้ว..เหล่าลูกหลาน..ทหาร เอ๋ย
    แผ่นดินนี้.จำฝากเจ้าเหมือนพ่อเคย
    รักษาไว้..ให้ชื่นเชย...ถึงเจ้ามา

    ถ้าแม้นใครคิดร้าย..ทำลายล้าง
    ไม่ใส่ใจ.. ปล่อยทิ้งขว้าง...อนาถา
    วิญญาณพ่อ..แม้ อยู่ไกล จะไคลคลา
    มา..กอบกู้พารา...เจ้า..ทำลาย..

    ถึงแม้นว่า ครานี้.. มิมี.. ทัพ
    สูญ กาย..ลับ แดดิ้น...สิ้นสลาย
    แต่ วิญญาณ..พ่อ..ยั้ง....อยู่ คอยดูไทย
    ไม่อภัย...ใคร เหยียบย่ำ ทำปฐพี

    เหวย เหวย..พระเสื้อเมือง ผู้เรืองเดช
    องค์พระกาฬ องค์พระเจตตคุปต์..ศรี
    อกแผ่นดิน..องค์พระแม่ ธรณี
    แผ่นดินไทย กู ผู้นี้ นาม องค์ดำ

    พลีชีวิต แค้น..เก็บกด.. รันทดแสน
    จำโดนเขา หยามทั้งแคว้น ถ้อยถลำ
    เก็บความช้ำ แม้..วันหน้า หาคืนคำ
    วิญญาณ.ย้ำ.. หน้าที่ กู กู้..แผ่นดิน<!-- google_ad_section_end -->


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. weruwan

    weruwan เวฬุวัน ว.มุจลินทร์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +537
    ผู้มาจากอโยธยาศรีรามเทพนคร
    พระองค์ทรงช้างเราขี่ช้าง
    พระองค์ทรงม้าเราขี่ม้า
    พระองค์อยู่ข้างหน้าเราอยู่ข้างหลัง
    พระองค์อยู่ข้างหลังเราอยู่ข้างหน้า
    พระองค์อยู่ที่ใดเราอยู่ที่นั้น
    ผู้นั้นคือเรา

    สิ้นราตรีวันพรุ่งรุ่งทิวาวันศุกร์
    ขอสายญาณพระนเรศวร์เจ้า
    พึงตื่นจากการหลับไหลทั้งสิ้นเถิด
    ปีหน้าปีมะรืนแผ่นดินจำต้องพึ่งท่าน

    เราจักกลับมาอีกครา
    เรามาเพื่อกิจนี้เท่านั้น

    http://palungjit.org/posts/4590000
     
  3. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
  4. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ..มาบัดนี้ กูมุ่งมาด ประกาศสั่ง <O:p</O< font>
    สัจจะตั้ง ไทยจะสู้ มิรู้สิ้น<O:p</O< font>
    อธิษฐาน ยกบุญญา ฟ้าจรดดิน<O:p</O< font>
    ประกาศสิ้น ถิ่นเมืองแครง แจ้งทั่วกัน ..
     
  5. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    รำลึกย้อนกลับไปเมื่อคราที่ทัพศรีอยุธยาได้ชัยชนะในการตีเมืองคังครั้งนั้นทำให้ฝ่ายพม่าเริ่มรู้ว่าฝีมือทัพอยุธยา มีความเก่งกล้าสามารถน่าเกรงขามยิ่งกว่าแต่ก่อน นอกจากนี้แล้วต่อมาพวกเขมรยกทัพมากวาดต้อนผู้คนในเมืองนครราชสีมาและหัวเมืองชั้นใน ก็ถูกกองทัพของพระนเรศวรโจมตีแตกกระเจิงและเลิกทัพถอยกลับไปความเก่งกล้าสามารถของพระนเรศวรมีมากขึ้นเพียงไร ความหวาดระแวงของหงสาวดีก็เพิ่มทวีมากขึ้นเยี่ยงนั้น พระเจ้านันบุเรงเริ่มไม่ไว้วางพระทัยพระนเรศวร คอยจับจ้องดูความเปลี่ยนแปลง และความสามารถของยอดนักรบพระองค์นี้อยู่ตลอดเวลา คิดว่าหากมีโอกาสเมื่อใดก็จะกำจัดตัดไฟแต่ต้นลม

    เมื่อปี พ.ศ. 2126 พระเจ้าอังวะเป็นกบฎ เนื่องจากไม่พอใจทางกรุงหงสาวดีอยู่หลายประการ จึงแข็งเมืองพร้อมกับเกลี้ยกล่อมเจ้าไทยใหญ่อีกหลายเมืองให้แข็งเมืองด้วย พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงจึงยกทัพหลวงไปปราบ ในการณ์นี้ได้สั่งให้เจ้าเมืองแปรเจ้าเมืองตองอูและเจ้าเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งทางกรุงศรีอยุธยาด้วย ให้ยกทัพไปช่วยทางไทย สมเด็จพระมหาธรรมราชาโปรดให้สมเด็จพระนเรศวรยกทัพไปแทนสมเด็จพระนเรศวรยกทัพออกจากเมืองพิษณุโลก เมื่อวันแรม 6 ค่ำ เดือน 3 ปีมะแม พ.ศ. 2126 พระองค์ยกทัพไทยไปช้า ๆ เพื่อให้การปราบปรามเจ้าอังวะเสร็จสิ้นไปก่อน ทำให้พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงแคลงใจว่า ทางไทยคงจะถูกพระเจ้าอังวะชักชวนให้เข้าด้วย จึงสั่งให้พระมหาอุปราชาคุมทัพรักษากรุงหงสาวดีไว้ถ้าทัพไทยยกมาถึงก็ให้ต้อนรับและหาทางกำจัดเสีย และพระองค์ได้สั่งให้พระยามอญสองคน คือ พระยาเกียรติและพระยาราม ซึ่งมีสมัครพรรคพวกอยู่ที่เมืองแครงมาก และทำนองจะเป็นผู้คุ้นเคยกับสมเด็จพระนเรศวรมาแต่ก่อน ลงมาคอยต้อนรับทัพไทยที่เมืองแครง อันเป็นชายแดนติดต่อกับไทย พระมหาอุปราชาได้ตรัสสั่งเป็นความลับว่า เมื่อสมเด็จพระนเรศวรยกกองทัพขึ้นไป ถ้าพระมหาอุปราชายกเข้าตีด้านหน้าเมื่อใด ให้พระยาเกียรติและพระยารามคุมกำลังเข้าตีกระหนาบทางด้านหลัง ช่วยกันกำจัดสมเด็จพระนเรศวรเสียให้จงได้ พระยาเกียรติกับพระยารามเมื่อไปถึงเมืองแครงแล้วได้ขยายความลับนี้แก่พระมหาเถรคันฉ่องผู้เป็นอาจารย์ของตน ทุกคนไม่มีใครเห็นดีด้วยกับแผนการของพระเจ้ากรุงหงสาวดี เพราะมหาเถรคันฉ่องกับสมเด็จพระนเรศวรเคยรู้จักชอบพอกันมาก่อน.....
     
  6. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ...
    กองทัพไทยยกมาถึงเมืองแครง เมื่อวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีวอก พ.ศ. 2127 โดยใช้เวลาเดินทัพเกือบสองเดือน กองทัพไทยตั้งทัพอยู่นอกเมือง เจ้าเมืองแครงพร้อมทั้งพระยาเกียรติกับพระยารามได้มาเฝ้าฯ สมเด็จพระนเรศวร จากนั้นสมเด็จพระนเรศวรได้เสด็จไปเยี่ยมพระมหาเถรคันฉ่องซึ่งคุ้นเคยกันดีมาก่อน พระมหาเถรคันฉ่องมีใจสงสารจึงกราบทูลถึงเรื่องการคิดร้ายของทางกรุงหงสาวดี แล้วให้พระยาเกียรติกับพระยารามกราบทูลให้ทราบตามความเป็นจริง เมื่อพระองค์ได้ทราบความโดยตลอดแล้ว ก็ทรงมีพระราชดำริเห็นว่าการเป็นอริราชศัตรูกับกรุงหงสาวดีนั้น ถึงกาลเวลาที่จะต้องเปิดเผยต่อไปแล้ว จึงได้มีรับสั่งให้เรียกประชุมแม่ทัพนายกอง กรมการเมือง เจ้าเมืองแครงรวมทั้งพระยาเกียรติพระยารามและทหารมอญมาประชุมพร้อมกัน แล้วนิมนต์พระมหาเถรคันฉ่องและพระสงฆ์มาเป็นสักขีพยาน ทรงแจ้งเรื่องให้คนทั้งปวงที่มาชุมนุม ณ ที่นั้นทราบว่า พระเจ้าหงสาวดีคิดประทุษร้ายต่อพระองค์ จากนั้นพระองค์ได้ทรงหลั่งน้ำลงสู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร (พระน้ำเต้าทองคำ) ประกาศแก่เทพยดาฟ้าดินว่า "ด้วยพระเจ้าหงสาวดี มิได้อยู่ในครองสุจริตมิตรภาพขัตติยราชประเพณี เสียสามัคคีรสธรรม ประพฤติพาลทุจริต คิดจะทำอันตรายแก่เรา ตั้งแต่นี้ไป กรุงศรีอยุธยาขาดไมตรีกับกรุงหงสาวดีมิได้เป็นมิตรร่วมสุวรรณปฐพีเดียวกันดุจดังแต่ก่อนสืบไป"
     
  7. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.922771/[/MUSIC]


    พระนเรศวรมหาราช ประพันธ์/ขับร้อง อ.กัญญนัทธ์ ศิริ
     
  8. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ...พระองค์ได้ตรัสถามชาวเมืองแครงว่าจะเข้าข้างฝ่ายใด พวกมอญทั้งปวงต่างเข้ากับฝ่ายไทย สมเด็จพระนเรศวรจึงให้จับเจ้าเมืองกรมการพม่าแล้วเอาเมืองแครงเป็นที่ตั้งประชุมทัพ เมื่อจัดกองทัพเสร็จก็ทรงยกทัพจากเมืองแครงไปยังเมืองหงสาวดีเมื่อวันแรม 3 ค่ำ เดือน 6

    ฝ่ายพระมหาอุปราชาที่อยู่รักษาเมืองหงสาวดี เมื่อทราบว่าพระยาเกียรติพระยารามกลับไปเข้ากับสมเด็จพระนเรศวร จึงได้แต่รักษาพระนครมั่นอยู่ สมเด็จพระนเรศวรเสด็จยกทัพข้ามแม่น้ำสะโตงไปใกล้ถึงเมืองหงสาวดี ได้ทราบความว่า พระเจ้ากรุงหงสาวดีมีชัยชนะได้เมืองอังวะแล้ว กำลังจะยกทัพกลับคืนพระนคร พระองค์เห็นว่าสถานการณ์ครั้งนี้ไม่สมคะเน เห็นว่าจะตีเอาเมืองหงสาวดีในครั้งนี้ยังไม่ได้ จึงให้กองทัพแยกย้ายกันเที่ยวบอกพวกครัวไทยที่พม่ากวาดต้อนไปแต่ก่อนให้อพยพกลับบ้านเมือง ได้ผู้คนมาประมาณหมื่นเศษให้ยกล่วงหน้าไปก่อน พระองค์ทรงคุมกองทัพยกตามมาข้างหลัง

    ฝ่ายพระมหาอุปราชาทราบข่าวว่า สมเด็จพระนเรศวรกวาดต้อนคนไทยกลับจึงได้ให้สุรกรรมาเป็นกองหน้า พระมหาอุปราชาเป็นกองหลวงยกติดตามกองทัพไทยมา กองหน้าของพม่าตามมาทันที่ริมฝั่งแม่น้ำสะโตง ในขณะที่ฝ่ายไทยได้ข้ามแม่น้ำไปแล้ว และคอยป้องกันมิให้ข้าศึกข้ามตามมาได้ ได้มีการต่อสู้กันที่ริมฝั่งแม่น้ำ สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้พระแสงปืนคาบชุดยาวเก้าคืบ ยิงถูกสุรกรรมาแม่ทัพหน้าพม่าตายบนคอช้าง กองทัพของพม่าเห็นแม่ทัพตาย ก็พากันเลิกทัพกลับไป เมื่อพระมหาอุปราชาแม่ทัพหลวงทรงทราบ จึงให้เลิกทัพกลับไปกรุงหงสาวดี พระแสงปืนที่ใช้ยิงสุรกรรมาตายบนคอช้างนี้ได้นามปรากฏต่อมาว่า "พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง" นับเป็นพระแสงอัษฎาวุธ อันเป็นเครื่องราชูปโภค ยังปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้เมื่อสมเด็จพระนเรศวรเสด็จกลับถึงเมืองแครง ทรงพระราชดำริว่าพระมหาเถรคันฉ่องกับพระยาเกียรติพระยารามได้มีอุปการะมาก สมควรได้รับการตอบแทนให้สมแก่ความชอบ จึงทรงชักชวนให้มาอยู่ในกรุงศรีอยุธยา พระมหาเถรคันฉ่องกับพระยามอญทั้งสองก็มีความยินดีพาพรรคพวกเสด็จเข้ามาด้วยเป็นอันมาก ...



    แหล่งที่มา : สมเด็จพระนเรศวรมหาราช - วิกิพีเดีย
     
  9. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ทูลเชิญพระพี่นางสุพรรณกัลยาเสด็จกลับอโยธยา

    ก่อนที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจะได้กระทำพิธีหลั่งทักษิโณทกประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง พระองค์ได้ลอบส่งกองม้าเร็วที่ทรงมอบหมายให้พระยาไชยบูรณ์นำพระราชสาส์นส่วนพระองค์ไปถวายพระพี่นางที่หงสาวดีเพื่อขอให้เสด็จกลับอโยธยา แต่พระพี่นางก็ได้ทรงตัดสินพระทัยอย่างเด็ดเดี่ยวที่จะประทับอยู่ที่หงสาวดีต่อไป ด้วยเหตุผลและความจำเป็นหลายๆประการที่ทุกท่านคงจะยังจำกันได้ และกระทู้นี้ก็ได้นำมากล่าวไว้แล้วในหลายๆตอน ต้องขออนุญาตที่จะไม่กล่าวซ้ำอีก

    เรื่องที่ทั้งสองพระองค์ต่างตระหนักในพระทัยก็คือภยันตรายและความปลอดภัยของพระพี่นางหลังจากนั้นไป เมื่อสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าได้ประกาศอิสรภาพไม่ขึ้นต่อหงสาวดีอีกต่อไป พระพี่นางก็จะเปรียบเสมือนตกอยู่ในถ้ำเสือวังมังกร พระเจ้านันทบุเรงคงจะต้องหาเหตุที่จะรังแกข่มเหงเป็นแม่นมั่น อย่างน้อยก็คงจะต้องถูกพูดจาถากถางดูหมิ่นดูแคลนให้ได้รับความอับอายและเจ็บช้ำพระทัย
    ลองจินตนาการกันดูนะครับ พระนางจะต้องทนทุกข์ทรมานสักเพียงใด อย่างไรก็ตามพระพี่นางสุพรรณกัลยาก็ยังทรงหวังที่จะได้มีโอกาสเสด็จกลับบ้านเกิดเมืองนอนของพระองค์ พระนางได้ทรงตั้งพระทัยไว้ว่าวันใดที่ได้เสด็จกลับศรีอโยธยา จะทรงสร้างพระพุทธปฏิมาถวายเป็นพุทธบูชาอุทิศบุญกุศลให้กับชนชาวมอญที่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลต่อพระองค์

    อนิจจา...แก้วกัลยา แห่งแผ่นดิน
    ยอมสิ้น พระเกียรติ พระวงศา
    ยอมระทม ขมขื่น พระวิญญา
    ยอมสละ พระชนมา เพื่อแผ่นดิน
    ไม่มี...จารจด บันทึกไว้
    ไร้ความ สำคัญ หมดสิ้น
    พระโลหิต หยาดหยด รดแผ่นดิน
    ซึมซาบ แล้วก็สิ้น มลายไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2011
  10. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    กระทู้นี้ได้รับความกรุณาจากท่าน พลตรี พิจิตร ขจรกล่ำ แจ้งให้ทราบเรื่องการ

    กระทำพีธีบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่วัดวรเชษฐ์ (นอกเกาะ) จังหวัดอยุธยา ในวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๕๔ ตั้งแต่เวลา ๘ โมงเช้าเป็นต้นไป

    ในระหว่างพิธีจะมีการขับเสภาถวายสมเด็จพระนเศวร โดยศิษย์ของครูแจ้ง คล้ายสีทอง ด้วยครับ (ขออภัยที่จำชื่อท่านไม่ได้)
     
  11. Florence125

    Florence125 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +6

    ...พระนางได้ทรงตั้งพระทัยไว้ว่าวันใดที่ได้เสด็จกลับศรีอโยธยา จะทรงสร้างพระพุทธปฏิมาถวายเป็นพุทธบูชาอุทิศบุญกุศลให้กับชนชาวมอญที่ได้ช่วยเหลือเกื้อกูลต่อพระองค์

    อนุโมทนา สาธุ ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2011
  12. Florence125

    Florence125 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +6

    จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดข้อหนึ่งที่ได้มีการจัดสร้าง "พระสิวลี อัญมณีหยกขาว
    บารมี ๓ พระองค์" ถวายให้กับวัดตาลเอน อ.บางปะหัน จ.อยุธยา เมื่อ ๑๙ มี.ค. ๒๕๕๔ ....

    ...นับเป็นโอกาสสมควรและเหมาะสมที่จะสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา ให้สำเร็จลุล่วงเป็นรูปธรรม เพื่อน้อมอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลให้กับพระนางและสมเด็จพระอนุชาอีกทั้งสองพระองค์ คือสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าและสมเด็จพระเอกาทศรถ ด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ไพศาล ที่ได้ทรงกู้ชาติบ้านเมือง ช่วยให้ไทยหลุดพ้นจากความเป็นทาส จากการเป็นเมืองขึ้นของพม่าดังที่ได้ทราบกันดีอยู่แล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2011
  13. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466


    อนิจจา...แก้วกัลยา แห่งแผ่นดิน
    ยอมสิ้น พระเกียรติ พระวงศา
    ยอมระทม ขมขื่น พระวิญญา
    ยอมสละ พระชนมา เพื่อแผ่นดิน
    ไม่มี...จารจด บันทึกไว้
    ไร้ความ สำคัญ หมดสิ้น
    พระโลหิต หยาดหยด รดแผ่นดิน
    ซึมซาบ แล้วก็สิ้น มลายไป





    สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2011
  14. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1051783/[/MUSIC]


    เทิดไท้พระสุพรรณกัลยา

    เนื้อร้อง /ทำนอง / ขับร้อง / กัญญนัทธ์ ศิริ

    เผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน
    สงวนลิขสิทธ์ ในการใช้หาผลประโยชน์ส่วนตน
    <!-- google_ad_section_end -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • สุ4.jpg
      สุ4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.5 KB
      เปิดดู:
      44
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2011
  15. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ผู้ยอมพลัดพรากจากแผ่นดินไทย
    พลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก
    จากไอศวรรย์สมบัติ...จากฐานันดรอันสูงส่ง
    ยอมเป็นองค์ประกันในแผ่นดินที่ผู้คนเหยียบย่ำในศักดิ์ศรีของคนไทย
    ใครจะรู้ถึง...ในพระทัยที่ทนเจ็บปวดทรมาน
    ใครจะได้เห็น...พระอัสสุชลที่หลั่งไหล...ท่วมท้นดวงพระทัย
    ...นับรวมสิบปี...
    ก่อนที่จะทรงพลีชีพเพื่อชาติ...หลั่งโลหิตในแผ่นดินพม่า...
    สิ้นพระชนม์ชีพ...อย่างไร้พิธีอันสมพระเกียรติ
    ในขณะที่บุคคลอันเป็นที่รัก...พระชนก...พระชนนี...และพระอนุชา
    ...อยู่ในแผ่นดินอันไกลโพ้น...
    เพื่อให้แผ่นดินไทย...ได้ดวงแก้วอันมีค่ายิ่งกลับคืนมา...กอบกู้เอกราช
    สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    ...ให้เราทุกคน มีวันนี้ได้...​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • สุ6.jpg
      สุ6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      8.9 KB
      เปิดดู:
      98
  16. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ขออนุญาตคั่นจังหวะด้วยเรื่องของความรับผิดชอบต่อสังคม ในข้อคิดและมุมมองที่ทุกคนสามารถช่วยกันได้ไม่ยากครับ


    ปัญหาที่ต้องแก้


    <!-- main-content-block --><!--19 เมษายน 2554 - 00:00-->
    19 เมษายน 2554 - 00:00


    เทศกาลสงกรานต์ที่สนุกสนานที่สุดในรอบ 3 ปีผ่านพ้นไป พร้อมควันหลงต่างๆ มากมายให้สังคมไทยได้ขบคิดแก้ปัญหาร่วมกันว่า เทศกาลสงกรานต์นับแต่ปีหน้าเป็นต้นไป มีสิ่งไหนต้องแก้ไข ดัดแปลง หรือควบคุม ให้เทศกาลนี้ยังถูกเรียกว่า "เทศกาลสงกรานต์" ต่อไป มิใช่เทศกาลเปลี่ยนที่กินเหล้า เสพยา แก้ผ้าโชว์
    และที่ลืมเสียมิได้คือ อัตราการเสียชีวิต แม้ปีนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในการเดินทางและระหว่างร่วมเฉลิมฉลองสาดน้ำช่วง 7 วันอันตราย จะลดลงจากปีก่อน 90 ศพก็ตาม แต่ยังคงเป็นความสูญเสียที่ไม่สมควรแก่เหตุมากมายเหลือคณานับอยู่ดี
    สาเหตุแห่งการตายก็เป็นที่รับรู้เป็นการทั่วไปอยู่แล้วว่า ส่วนใหญ่มาจาก "เมาขับ" วิธีการแก้ปัญหาที่เท่าปรากฏออกมา เพื่อไม่ให้ปีต่อๆ ไปต้องมานั่งนับศพในเทศกาลรื่นเริงคือ ควบคุมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะผู้แก้ปัญหามองว่าต้นเหตุของปัญหาคือ บรรดาของมึนเมาทั้งหลายที่หาซื้อได้ง่ายกว่าลูกอม
    ส่วนหนึ่งอาจจะถูก แต่อีกด้านหนึ่งอาจเป็นการแก้ปัญหาที่ตื้นเกินไป แม้วิธีนี้อาจจะลดการดื่มสุราลงได้บ้าง แต่ไม่ได้ไปแก้ปัญหาที่ต้นตอโดยตรง เพราะเอาเข้าจริงถึงไม่มีสุรายาเมาขายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ บรรดาคอเหล้าทั้งหลายซื้อตุนไว้ล่วงหน้าก็ได้
    วิธีการแก้ไขทุกปัญหาในโลกนี้ ถ้าต้องการให้ได้ผลอย่างจริงจังนั้นไม่มีอะไรง่าย เพราะต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ เพื่อให้สังคมมองปัญหาตรงกันและพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาร่วมกัน ดูอย่างการแก้ไขปัญหาบุหรี่ แม้จะมีการพิมพ์รูป "ความตาย" ข้างซอง บรรดาสิงห์อมควันก็ยังคงเกลื่อนเมือง นั่นเพราะความรับผิดชอบต่อส่วนรวมยังน้อย เว้นเสียว่าการสูบบุหรี่นั่นกระทบกับคนในครอบครัว เราจึงมักได้ยิน "ผมเลิกบุหรี่เพราะลูกครับ" "หนูเลิกบุหรี่เพราะคุณแม่ขอร้องคะ" แต่ไม่เคยได้ยิน "เลิกบุหรี่เพราะสังคมจะได้มีอากาศบริสุทธิ์หายใจ"
    แต่ที่ผ่านมา ใช่ว่าการรณรงค์จะไม่ได้ผลไปเสียทีเดียว อย่างน้อยๆ มีความสำนึกรับผิดชอบต่อครอบครัว ดังนั้นต้องก้าวไปอีกขั้นคือ ต้องรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นงานที่ยาก และต้องใช้เวลานาน แต่การไปตั้งเป้าว่าปีหน้าต้องตายน้อยกว่าปีนี้นั้นอาจแก้ปัญหาไม่ตรงจุดนัก แม้อัตราการตายจะลดลงมาเรื่อยๆ ก็ตาม เพราะเอาเข้าจริง เมื่อไปถามเรื่องจิตสำนึกต่อสังคม คำตอบที่ได้-ไม่ได้สัมพันธ์กับอัตราการตายที่ลดลงแต่อย่างใด
    การแก้ไขเรื่องจิตสำนึกเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ เพราะต้องรื้อความเชื่อของสังคมใหม่ทั้งหมด หลายประเทศในยุโรป เอเชียตะวันออก อเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย สอนคนให้รู้จักกับคำว่า "ส่วนรวม" ตั้งแต่ตัวยังแดง แต่สังคมไทยสอนให้ลูกหลานแข่งกันเพื่อวงศ์ตระกูลตั้งแต่ยังเขียน ก.ไก่ ไม่เป็น และนี่คือต้นทางที่แท้จริงของการแก้ไขปัญหาทั้งปวง.


    ปัญหาที่ต้องแก้ | ไทยโพสต์
     
  17. โมเย

    โมเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +3,210
    ภาพนี้เป็นภาพ คุณ วรัทยา นิลคูหา (จุ๋ย) รับบทพระสุพรรณกัลยา
    จากละครเรื่อง พระสุพรรณกัลยา
    บทบาทและการแสดง ของเธอ สวย สมเป็นหญิงไทยมากเลยค่ะ
     
  18. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    โมทนา สาธุ ครับ

    ขอขอบคุณ คุณโมเย ที่ช่วยเพิ่มเติมและขยายความให้สมบูรณ์ครับ
     
  19. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คลี่ปม “มิดะ-ลานสาวกอด” กู้ศักดิ์ศรีหญิงชาวอาข่า</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>19 เมษายน 2554 09:15 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>‘หมี่ดะ’ หญิงสาวชาวอาข่า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>โดย....ทิติยา เถาธรรมพิทักษ์


    ในที่สุดสังคมไทย คงเข้าใจกันเสียทีว่า “มิดะ” ไม่ใช่ครูสอนเพศศึกษา และ “ลานสาวกอด” ไม่ใช่สถานที่พลอดรัก เป็นเวลายาวนาน ที่พวกเราต่างมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนต่อชนชาวอาข่า ส่งผลให้วาทกรรม “มิดะ” และ “ลานสาวกอด” กลายเป็นต้นเหตุทำให้ชาวเขากลุ่มนี้ต้องทนทุกข์และก่อเกิดเป็นปมฝังใจมาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี โดยที่มาของความเข้าใจผิดนี้เกิดจากหนังสือ บทเพลง ละคร ภาพยนตร์ การ์ตูน ที่คนต่างวัฒนธรรมสร้างขึ้นโดยไม่เข้าใจอย่างท่องแท้ว่าแท้จริงแล้ว มิดะ และสานสาวกอด คืออะไร


    นายอาจู จูเปาะ ประธานชมรมอาข่าในประเทศไทย บอกว่า คนส่วนใหญ่รู้จักมิดะและลานสาวกอดจากหลายสื่อด้วยกัน แต่ที่รู้จักกันมากที่สุดก็มาจากบทเพลงของ “จรัล มโนเพ็ชร” ศิลปินชาวเหนือ ซึ่งเพลงนี้ได้กล่าวถึง"มิดะ"หญิงสาวผู้เป็นครูสอนเพศศึกษาให้แก่ชายหนุ่มชาวอาข่าที่กำลังเข้าสู่วัยออกเรือน และยังกล่าวถึง “ลานสาวกอด”ที่ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดคิดว่าเป็นสถานที่ไว้พลอดรัก สามารถกอดสาวได้ตามใจชอบอีกด้วย และด้วยความเข้าใจที่บิดเบือนไม่ตรงกับความเป็นจริงนี้เองก็ทำให้ชาวอาข่าโดยเฉพาะผู้หญิงชาวอาข่าถูกมองในแง่ไม่ดี รวมทั้งยังกลายเป็นปมที่ฝังลึกอยู่ในใจจนถึงปัจจุบัน


    “แท้จริงแล้ว มิดะ หรือในภาษาอาข่าอ่านออกเสียงว่า “หมี่ดะ” หมายถึงหญิงสาวบริสุทธิ์ที่ยังไม่เคยผ่านการแต่งงานมาก่อน และในสังคมชาวอาข่า ไม่เคยมีผู้หญิงที่มีหน้าที่สอนเรื่องเพศให้แก่หนุ่มสาวเช่นนี้ ขณะที่ลานสาวกอด โดยความเป็นจริงแล้วชาวอาข่าไม่มีสถานที่แบบนี้เลย มีแต่บริเวณลานดินที่ใช้สำหรับร้องเพลงตามประเพณีเรียกว่า “แดข่อง” และเป็นสถานที่สำคัญที่หมู่บ้านอาข่าทุกหมู่บ้านจะต้องมี โดยมีลักษณะเป็นลานดิน ชาวบ้านจะนำท่อนไม้มาวางต่อกันเป็นวงกลมรอบๆ ลานแล้วหนุ่มสาวตลอดจนคนทุกวัยสามารถมาร่วมกันใช้สถานที่นี้เพื่อร้องรำทำเพลงตามประเพณีได้”





    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD vAlign=top width=500 align=middle>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ลานวัฒนธรรม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ขณะที่น.ส.พรเพ็ญ แซ่ดู่ เยาวชนชาวอาข่า ได้สะท้อนให้เห็นว่านอกจากความเข้าใจผิดที่มาจากบทเพลง หรือสื่อต่างๆ แล้วปัจจุบันอินเทอร์เน็ตยังเป็นอีกช่องที่ทำให้คนภายนอกรับข่าวสารผิดๆ เกี่ยวกับ มิดะ และลานสาวกอด และนำมาซึ่งผลกระทบมากมาย เช่น ทำให้คนต่างวัฒนธรรมมีการแสดงออกในทางลบกับชาวอาข่า ทั้งคำพูด ทัศนคติ ที่เป็นการลดทอนศักดิ์ของผู้หญิงอาข่า รวมทั้งเมื่อเสพข้อมูลเข้าไปก็ทำให้คนอยากขึ้นมาพิสูจน์ความจริงว่ามิดะและลานสาวกอดมีจริงๆ หรือไม่ ดังนั้นทำให้ชาวอาข่าบางคนจึงเลือกที่จะปิดบังฐานะตนเองต่อสังคม โดยไม่บอกว่าตนเองคือชาวอาข่า ไม่กล้าพูดภาษาอาข่า เพราะอาจจะถูกดูถูกเหยียดหยามและไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม


    นางหมี่จู มอแลกู่ นายกสมาคมศูนย์รวมการศึกษาและวัฒนธรรมของชาวไทยภูเขาในประเทศไทย บอกว่า วัฒนธรรมชาวอาข่าไม่ได้กีดกันว่าชาย-หญิงจะต้องแต่งงานกันภายในเผ่าเท่านั้น ที่ผ่านมาก็มีคนอาข่าหลายคนที่แต่งงานกับคนต่างวัฒนธรรม ต่างชาติ ต่างภาษา และจากความเข้าใจที่ไม่ตรงกันนี้ย่อมมาซึ่งผลกระทบแน่นอน

    "อย่างที่บอกว่าหญิงอาข่าต้องผ่านผู้นำชุมชนหรือชายต้องผ่านแม่หม้ายในการสอนเพศสัมพันธ์ก็ทำให้สามีหรือภรรยาที่ต่างวัฒนธรรมกันเกิดข้อสงสัยว่าคู่ของตนเองนั้นเป็นอย่างที่บทเพลง หนังสือ สื่อต่างๆ เสนอหรือเปล่า ถ้าเป็นชาวอาข่าแต่งงานด้วยกันเองก็จะเข้าใจและไม่เกิดประเด็นนี้ขึ้น เพราะต่างก็รู้ว่าไม่ได้เป็นจริงดังเช่นคนภายนอกพูดถึง กระนั้นผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้มีเฉพาะชาวอาข่าเท่านั้นที่โดนแต่ชนเผ่าทุกชนเผ่าต่างก็ได้รับผลกระทบด้วย เพราะคนภายนอกไม่รู้ว่าเผ่าไหนคืออาข่า เผ่าไหนคือม้ง ลีซอ"

    ด้านศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) บอกว่า การแก้ไขปัญหาความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนในเรื่องนี้อยากจะให้มีการจัดเวทีสาธารณะเพื่อให้คนนอกวัฒนธรรมเข้าใจชาวอาข่า โดยจะให้สื่อทั้งสื่อดั้งเดิม และสื่อสมัยใหม่เข้ามามีบทบาทในรูปแบบเกลือจิ้มเกลือคือ ส่งสัญญาณกลับไปสู่สาธารณะว่าสิ่งที่คนเมืองเข้าใจกันนั้นคลาดเคลื่อนไม่เป็นความจริง เป็นจุดเริ่มต้นให้เจ้าของวัฒนธรรมเข้ามาชี้แจงอธิบายให้สังคมเข้าใจในสิ่งที่ตรงกัน นอกจากนี้อยากจะมีผลิตการ์ตูนชุดใหม่ โดยให้ชุมชนกลุ่มอาข่าเข้ามามีส่วนร่วมในการนำเสนอเนื้อหาข้อมูล หลังจากนั้น สวธ.ก็จะเป็นเจ้าภาพในการผลิตไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบการ์ตูนแอนิเมชัน ภาพยนตร์สั้น


    แม้อดีตจะไม่สามารถแก้ไขได้ สื่อต่างๆ ที่เคยมีการผลิตก็ยังมีอยู่แต่สิ่งที่ทำได้ต่อจากนี้ คือ การผลิตสื่อหรือหนังสือที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้องหักล้างข้อมูลเก่าๆ และเผยแพร่ให้คนนอกรับทราบ พร้อมๆ กับการเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำมาเนิ่นนาน เพื่อกู้ศักดิ์ศรีของหญิงชาวอาข่ากลับคืนมา



    แหล่งที่มา:Quality of Life - Manager Online - ������ ��Դ�-�ҹ��ǡʹ� ����ѡ������˭ԧ����Ң��

    ครับเพื่อกู้ศักดิ์ศรีของเพศแม่ หญิงชาวอาข่า ก็ต้องช่วยกันเผยแพร่และกระจายข่าวสารที่ถูกต้องนี้ให้ได้รับทราบและเข้าใจถึงความจริงที่ถูกต้องครับ ส่วนท่านใดที่ชอบฟังเพลง "มิดะ"นี้ก็คงสุดแต่วิจารณญาณของท่านเองนะครับ


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><SCRIPT language=JavaScript src="/JavaScript/AC_RunActiveContent.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript>AC_FL_RunContent( 'codebase','http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=7,0,19,0','width','600','height','100','src','/home/images/bn_myfirst6','quality','high','pluginspage','http://www.macromedia.com/go/getflashplayer','wmode','transparent','movie','/home/images/bn_myfirst6' ); //end AC code</SCRIPT><OBJECT class=inlineimg title=Open-mouthed border=0 codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=7,0,19,0" alt="" classid="clsid:d</OBJECT><NOSCRIPT></NOSCRIPT></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><!--<table width="100%" cellspacing="0" cellpadding="0"> <tr align="left" valign="top"> <td width="365" height="29">[​IMG]</td> <td background="http://palungjit.org/images/sms_bg.gif"> </td> <td width="5">[​IMG]</td> </tr></table>--></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2011
  20. zelphyroth

    zelphyroth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +898
    สาธุครับ ผมเป้นคนหนึ่งที่ศรัทธาในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    ผมเคยเช่ารูปองค์ลอยพระนเรศวร มาจากวัดแถวแม่สาย
    พอตกกลางคืน ผมไปพักที่วัดท่าตอน ก่อนจะนอน ผมเห็นสมเด็จพระนเรศวรองค์ใหญ่มากในแบบท่านั่งรินน้ำตัดขาดไมตรีจากเมืองหงสา ลอยอยู่ในห้อง เพียงแปปเดียวก็หายไป สงสัยผมคงเคยเป็นลูกหลานท่านมาในอดีต
     

แชร์หน้านี้

Loading...