ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย จงรักภักดี, 28 เมษายน 2009.

  1. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,898
    ค่าพลัง:
    +6,434
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD vAlign=top height=137>[FONT=MS Sans Serif, Tahoma, sans-serif]ตั้งอยู่บนทางหลวงสายเชียงราย – เชียงใหม่ กิโลเมตรที่ 129 – 130 ห่างจากเชียงราย 52 กิโลเมตร เนื้อที่ 69 ไร่ สันนิษฐานว่า เมื่อปีมะโรง พ.ศ.2147 วันพฤหัสบดี เดือนยี่ แรม 6 ค่ำ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กับสมเด็จพระเอกาทศรศ เสด็จยกกองทัพออกจากกรุงศรีอยุธยา จะไปตีเมืองอังวะ แล้วได้เสด็จตั้งค่ายพักบริเวณที่ตั้งศาลฯ ปัจจุบัน และจากข้อสันนิษฐานตามประวัติศาสตร์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2512 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จประกอบพิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ณ ที่ตั้งศาลฯ ปัจจุบัน ในบริเวณด้านหน้าทางเข้าศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทางอำเภอแม่สรวยได้จัดตั้ง “ลานค้าอำเภอแม่สรวย” เพื่อเป็นลานค้า ลานวัฒนธรรมของชาวอำเภอแม่สรวย เป็นศูนย์รวมสินค้าหัตถกรรม วัฒนธรรมพื้นบ้านและชาวเขา เป็นศูนย์สินค้าการเกษตรของดีอำเภอแม่สรวย เป็นศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวพร้อมอาหาร เครื่องดื่ม สำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวได้แวะสักการะศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช แวะชม และซื้อสินค้าของฝาก ของที่ระลึกตามซุ้ม ต่าง ๆ[/FONT]</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=137><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  2. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,898
    ค่าพลัง:
    +6,434
    [​IMG]

    สำเนา
    ประกาศบวงสรวงสังเวย
    สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    ณ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
    วันที่ 25 มกราคม พุทธศักราช 2512
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p> </o:p>​
    สรวมชีพข้าพระยุคลบาท รับพระบรมราชโองการเหนือเกล้าในพระบาทเจ้าจอมธาณินทร์ สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ให้ขานพจนประกาศิตแก่เทพยดาข้าทูลละอองธุลีพระบาทประชาราษฎรไทยทั่วหน้า บรรดาที่มาร่วมประชุมในพิธีได้ทราบสารคดีบรรหาร
    <o:p> </o:p>
    การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชอุตสาหะเสด็จพระราชดำเนินมาถึงอำเภอแม่สรวยนี้ ก็ด้วยมีข้อสันนิษฐาน ถึงเหตุการณ์ในอดีตสมัย เมื่อครั้งไทยยกไปชิงเมืองอังวะ พระพุทธศักราช สองพันร้อยสี่สิบเจ็ด สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเสด็จกรีธาทัพ พร้อมกับสมเด็จพระอนุชาธิราช ยกพยุหยาตรามาทางเมืองกำแพงเพชรแล้วเสด็จขึ้นมา จนถึงเมืองเชียงใหม่ พักพยุหทัพชัยอยู่ ษ เมืองนั้นเดือนหนึ่ง จึงสมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้า โปรดเกล้าให้จัดทัพหลวงเป็นสองทัพ สรรพด้วยช้างม้ารี้พลยกจากเชียงใหม่ขึ้นไปตีอังวะ ให้สมเด็จพระเอกาทศรถยกไปทางเมืองฝางทางหนึ่ง ส่วนทัพหลวงซึ่งทรงยกไปนั้นไปทางเมืองห้างหลวงคงจะได้เดินทวยหาญทั้งปวงผ่านเวียงป่าเป้าและแม่สรวยนี้โดยลำดับขึ้นมา
    <o:p> </o:p>
    วาระนี้เป็นวันที่ระลึกถึงสมเด็จพระนเรศวรเป็นเจ้าได้เคยโปรดเกล้าให้บวงสรวง ถวายราชสักการะมาแล้วแต่หลัง จึงได้เสด็จพระราชดำเนินมายังสถานที่นี้ ณ ตำบลที่อยู่ในเส้นทางเดินทัพหลวงโดยสันนิษฐาน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งการพระราชพิธี บวงสรวงสังเวยเป็นราชพลีและทรงบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายให้ประกาศพระบรมราชโองการ แก่ผู้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาททั้งหลายให้ทราบทั่วหน้าว่าพระมหาราชเจ้าทรงเป็นวีรกษัตริย์ของชาติไทยได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจยิ่งใหญ่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละด้วยมีพระราชปณิธานแน่วแน่ที่จะรวบรวมไทยให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงดำรงอิสรภาพ ถึงจะต้องทรงทำศึกสงครามปราบปรามยุคเข็ญเป็นการหนักเพียงใดก็มิได้ย่นย่อ หวังพระราชหฤทัยแต่จะก่อกำลังสร้างชาติไทยทั้งเอกราชอธิปไตยอันสมบูรณ์ เพิ่มพูนเกียรติประวัติสถาพร
    <o:p> </o:p>
    ควรที่ประชานิกรผู้ร่วมชาติไทยจักได้จดจำรำลึกถึงบรรพชนผู้มีใจมั่นในชาติแนบแน่นหวงแหนแผ่นไผท ทั้งมีใจทะนงในศักดิ์ในชาติสามารถสละแม้เลือดเนื้อเพื่อบูชาความเป็นไทย บูชาคุณให้พระนเรศวรและมวลบูรพชนไทยผู้ได้เสียสละแต่โบราณเพื่อให้ลูกหลานสวัสดี มีอิสรภาพรุ่งโรจน์
    <o:p> </o:p>
    อนึ่งโสดขอพระราชทาน ตั้งสัตยาธิษฐานขออำนาจพระราชกฤดาภินิหารพระนเรศวร และเทเวศทุกทิพยวิมานจงอภิบาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระขัตติยราชโอรสธิดาและพระประยุรญาติทุกพระองค์ทรงพระเกษมสวัสดิ์นิรันดร ขอเทพยนิการจงอภิบาล ให้ข้าราชการทุกตำแหน่งทั่วราชอาณาจักรมีความซื่อตรงจงรักในหน้าที่ มีความสุจริตพร้อมด้วยกายใจวจีทุกถ้วนหน้ารักประโยชน์ของปวงประชาดุจประโยชน์ตน ขอให้เจริญสุขเจริญชนม์ทุกสถาน ขอองค์พระโบราณมหาราชจงปกป้อง คุ้มครองเหล่าทหารของชาติให้แคล้วคลาดจากสรรพภัย มีพลานามัยเข้มแข็งเรี่ยวแรงรบประสบแต่ความมีชัยดุจทหารสมัยพระมหาราช เชิดเกียรติชาติและพระปรมาภิไธย แห่งภูวไนยเจ้าหล้า ให้อยู่คู่ฟ้าคู่ตะวัน อย่ารู้พลันเสื่อมสูญ ขอประชาชนไทยทั้งมูลจงมีความสุข ปราศจากทุกข์ ปราศจากภัยมีน้ำใจอาจหาญ ทำการงานทุกหน้าที่ให้มีแต่ผลเลิศเกิดประโยชน์แก่ตนและชาติ ขอพระนเรศวรมหาราชจงทรงพระเมตตาบันดาลดลใจประชาให้ตั้งอยู่ในสามัคคีอย่ามีแบ่งแยก อย่าให้แตกใจกัน อย่าให้มีวันขุ่นข้อง ขอให้ไทยป้องปกไทย ตลอดไป ชั่วกัลป์ปา ให้ไทยอยู่คู่ดินฟ้า จงประสิทธิ์ดั่งข้าบาทพร้องทุกประการ นี้เทอญ.<o:p></o:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,898
    ค่าพลัง:
    +6,434
    [​IMG]

    กลอนที่เกี่ยวกับดอกจำปี
    หน้าอนุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
    อ. แม่สรวย จ.เชียงราย

    จำเอ๋ย จำปี.................. จำพี่ได้ไหม
    จำพรากจากไกล............ ผ่านไปเดือนปี
    จำจดจดจำ.................. เคยพร่ำพาที
    จำปามาหนี.................. จำปีมาหน่าย
    จำเจ็บเจ็บจำ................ ชอกช้ำใจกาย
    จำปีเคยหมาย............... หายหน้าหม่นหมอง
    หากเกิดชาติหน้า............ ข้าขอจับจอง
    ขอเป็นเจ้าของ.............. จำปีสีนวล..


    ป.ล. ภาพที่ประกอบใช่หรือเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ เด็กเทพก็แบบนี้แหละ ไม่รู้เรื่องต้นไม้ (อ้างๆ) เด็กเทพแปลว่า เด็กกรุงเทพค่ะท่านพี่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • m4.jpg
      m4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      66.5 KB
      เปิดดู:
      1,434
  4. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    สถานที่ตั้งและภูมิทัศน์ของศาลฯที่แม่สรวยแห่งนี้งดงามมากทีเดียวนะครับ

    ต้นจำปีคงจะเป็นต้นใหญ่ที่เห็นในรูป เพราะเป็นไม้ใหญ่
    ครับ
     
  5. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,898
    ค่าพลัง:
    +6,434
    หนังสือ : ลัทธิชาตินิยมกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เทพเจ้าแห่งความรักชาติของคนไทย
    ผู้เขียน : เอื้อ บุษปะเกศ หงสกุล
    เนื้อหา : บทที่ 3 ผลงานของลัทธิชาตินิยมที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงนำมาใช้ ..หน้า 42

    เหตุการณ์ก่อนเริ่มงาน

    เมื่อตีกรุงศรีอยุธยาได้แล้ว บุเรงนองก็นำทัพหนีน้ำท่วมไปอาศัยอยู่ในกรุงตลอดฤดูฝน ใช้เวลานั้นเก็บเกี่ยวผลของชัยชนะจัดการทุกอย่างที่จะไม่ให้เมืองไทย หลุดพ้นจากอำนาจของพม่าได้แต่งตั้งให้พระมหาธรราราชาปกครองเมืองไทย โดยให้มีพลเมืองอยู่ในกรุงศรีอยุธยาเพียงหมื่นเศษ นอกนั้นกวาดต้อนเอาไปอยู่ในกรุงหงสาวดีหมด ให้เจ้าเมืองพรหมคุมทหารสามพันควบคุมกรุงศรีอยุธยาไว้ส่วนเมืองใหญ่ๆทางฝ่ายเหนือของไทยคือ พิษณุโลก สุโขทัย กำแพงเพชร กับเมืองเล็กเมืองน้อย ก็แบ่งทหารพม่าไปควบคุมไว้ทุกเมือง ซึ่งดูอย่างผิวเผินแล้วเมืองไทยไม่มีทางจะกู้ชาติให้เป็นเอกราชได้เลย แต่สมเด็จพระนเรศวรกู้ชาติได้ ท่านมีวิธีการอย่างไรจะได้บรรยายต่อไปในบทนี้
    <O:p</O:p
    ข้อแรกที่พม่าทำผิดพลาด ก็เกิดจากตัวบุเรงนองนั่นเอง คือ บุเรงนองเป็นคนมีนิสัยเจ้าชู้มีเมียมาก ไม่มีอิ่มในความรัก บุเรงนองได้ชื่อว่าเป็นผู้ชนะสิบทิศ สร้างอาณาจักรให้พม่ากว้างใหญ่ไพศาลแต่ก็ได้ทำลายอาณาจักรที่สร้างขึ้นนั้นด้วยมือของตนเอง เพราะความผิดพลาดในก้าวแรกของบุเรงนองเอง ความผิดนั้นก็คือเมื่อพระมหาธรรมราชาเห็นบุเรงนองมองดูพระสุวรรณเทวี ราชธิดาของพระองค์ด้วยสายตาที่แสดงความพึงพอใจ พระมหาธรรมราชาก็ฉวยโอกาสถวายพระสุวรรณเทวีให้เป็นมเหสีของบุเรงนองและขอรับเอาเจ้าองค์ดำ ราชโอรสของพระองค์ที่บุเรงนองเอาไปเป็นตัวประกันโดยอ้างว่าขอเป็นบุตรบุญธรรมนั้น กลับมาเป็นรัชทายาท เพื่อช่วยเหลือราชการ ความปรารถนาใคร่ได้พระสุวรรณเทวีไปเป็นมเหสีมีมากกว่าทำให้บุเรงนองขาดความรอบคอบ ยอมตกลงทันที

    (โปรดติดตามตอนต่อไปพรุ่งนี้ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ)
     
  6. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    ....เมืองใหญ่ๆทางฝ่ายเหนือของไทยคือ พิษณุโลก สุโขทัย กำแพงเพชร กับเมืองเล็กเมืองน้อย ก็แบ่งทหารพม่าไปควบคุมไว้ทุกเมือง ....

    บุเรงนองวางแผนไว้รัดกุมมากทีเดียว ถ้าเวลาเนิ่นนานออกไปหัวเมืองฝ่ายเหนือก็จะอยู่ในกำมือของพม่าอย่างแน่นแฟ้นเรียกว่าถูกกลืนไปเลย กลายเป็นอาณาเขตของพม่า
    ต่อไปพม่าก็สามารถที่จะยกทัพเข้ามาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วเหมือนขับรถบนทางด่วนอย่างไรก็อย่างนั้น ถ้าปล่อย
    ไว้เช่นนี้แล้ว ก็คงไม่มีประเทศไทยเหมือนอย่างทุกวันนี้นะครับ แล้วก็จะไม่มีพวกเราด้วย "ฤๅจะเป็นฟ้าดินลิขิต"
     
  7. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,898
    ค่าพลัง:
    +6,434
    [​IMG]

    แม้ว่าเมื่อก่อนจะไม่ค่อยได้สนใจข้อมูลอันเกี่ยวกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้ามากนัก

    เรียนประวัติศาสตร์สมัยประถม เท่าที่จำได้ทางสายธาตุเสียดายที่ไม่น่าจะมีพระชนม์มายุสั้น 50 พรรษาเท่านั้น

    แต่ในใจทางสายธาตุนั้น ตลอดเวลาตั้งแต่ 2535 พฤษภาทมิฬเป็นต้นมา ทางสายธาตุเห็นแล้วไทยเรามีดี

    ทั้งๆที่เหตุการณ์วิกฤตแล้ว เผชิญหน้าแล้ว ยิงกันแน่ คืนนั้นข่าวสองทุ่ม ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    พระองค์ท่านเรียกทั้งสองฝ่ายเข้ามาคุยต่อหน้าพระพักตร์ ไม่รู้ทำไม หนูกราบทีวี รอดแล้วประเทศไทย

    ตั้งแต่นั้นหนูเชื่อมั่นมากๆว่าประเทศไทยนี้ มีพระมหากษัตริย์ทรงทศพิธราชธรรมสืบต่อเนื่องมาช้านาน

    บูรพกษัตริย์ท่านทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างแข็งขัน และเมื่อพระองค์ทรงเสด็จจากไปแล้ว

    พระองค์มิได้เสด็จไปไกล ยังคงปกปักรักษาผืนแผ่นดินนี้ หลายๆพระองค์ทรงเป็นพระสยามเทวาธิราช

    ทางสายธาตุจึงไม่เคยเสื่อมศัทธาที่มีต่อองค์พระมหากษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรมพระองค์นี้

    และเชื่อมั่นในบุญฤทธิ์ เทวฤทธิ์ ของพระสยามเทวาธิราชที่จะนำไทยพ้นวิกฤตเสมอมา

    -------------------------------------------------------------------------------

    สยามนี้อยู่รอดได้เพราะผู้นำทรงทศพิธราชธรรม และจะอยู่รอดได้แน่นอนท่านพี่

    เพราะที่นี่เป็นที่มั่นสุดท้ายของพระพุทธศาสนา

    ประเทศไทยนี้เปรียบเหมือนเป็นเมืองหลวงของพระพุทธศาสนาของโลกแล้ว

    เทวดา เทพ บรรพบุรุษท่านไม่ยอมทิ้งที่มั่นสุดท้ายนี้แน่นอน

    ขอแค่พวกเราหลายๆคนร่วมมือกัน ช่วยกันทำให้พระพุทธศาสนาแข็งแรง และ

    ทำให้ตนเองก็ต้องแข็งแรง ช่วยกันหลายๆแรง รอดแน่นอน ฟันธง คอนเฟริม์

    รักเธอประเทศไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2009
  8. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,898
    ค่าพลัง:
    +6,434
    หนังสือ : ลัทธิชาตินิยมกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เทพเจ้าแห่งความรักชาติของคนไทย
    ผู้เขียน : เอื้อ บุษปะเกศ หงสกุล
    เนื้อหา : บทที่ 3 ผลงานของลัทธิชาตินิยมที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงนำมาใช้ ..หน้า 43-44

    พระสุวรรณเทวีเป็นราชธิดาองค์ใหญ่ที่เกิดจากพระมหาธรรมราชากับพระวิสุทธิกษัตรีย์ ชื่อเดิมชื่อปก มีน้องร่วมท้องอีกสองคน คือ เจ้าองค์ดำ ซึ่งต่อมาคือพระนเรศวรมหาราช กับเจ้าองค์ขาวซึ่งต่อมาคือพระเอกาทศรถ

    เจ้าองค์ดำนั้นประสูติเมื่อปีเถาะ พ.ศ. 2098 ร่างสันทัด ผิวพระองค์เป็นสีน้ำตาลไหม้ มีน้ำพระทัยโอบอ้อมอารี แต่เข้มแข็ง ห้าวหาญเด็ดขาด มีพระอิริยาบถสนุกสนานร่าเริงเป็นปกติ ส่วนเจ้าองค์ขาวพระชนม์อ่อนกว่า 5 ปี พระรูปงามผิวขาวเหลืองอวบอ้วน น้ำพระทัยโอบอ้อมอารี กล้าหาญแต่ไม่เด็ดขาด รักความสงบมากกว่าผจญภัย เจ้าขู้และชอบสนุก ทั้งสองพระองค์ก็รักกันมาก ไปไหนก็ไปด้วยกัน รบก็รบด้วยกัน ฝ่ายหนึ่งเกรงใจเพราะความรัก อีกฝ่ายโอนอ่อนผ่อนตาม เพราะความรักสงบทั้งสองฝ่ายจึงไปด้วยกันได้ ไม่มีการขัดใจกันเลย


    [​IMG]

    เจ้าองค์ดำถูกพระราชบิดานำไปส่งเป็นตัวประกันอยู่ที่ กรุงหงสาวดีตั้งแต่ พ.ศ. 2108 เมื่อมีพระชนม์ 9 พรรษา ไปอยู่กับพระเทพกษัตรีย์ผู้เป็นน้า พระเทพกษัตรีย์น้ำก็คือผู้ที่พระมหาจักรพรรดิพระราชทานให้พระเจ้าไชยเชษฐา เจ้ากรุงศรีสัตนาคนหุตล้านช้าง นำไปเพื่ออภิเษกเป็นเอกอัครมเหสี แต่ถูกบุเรงนองส่งกองทหารไปชิงเอามาในระหว่างเดินทางจากกรุงศรีอยุธยาไปยังกรุงศรีสัตนาคนหุต และบุเรงนองก็เอามาเป็นมเหสีองค์หนึ่งในหลายๆองค์ที่บุเรงนองมีอยู่แล้ว เมื่อพิจารณาดูตามรูปการแล้ว ทั้งน้าและหลานคงจะอยู่อย่างไม่เป็นสุขนัก เพราะอยู่ในฐานะที่น่าอัปยศ แม้ไม่ได้อยู่ในที่คุมขังก็เสมือนถูกคุมขัง เพราะไม่มีโอกาสจะออกไปนอกวังและไปไหนๆ ได้ตามอำเภอใจ
    <O:p</O:p
    ในกรุงหงสาวดีนั้น เจ้าองค์ดำได้ศึกษาศิลปะศาสตร์ร่วมกับมังกะยอชะวา โอรสของนันทะบุเรง หลานปู่ของบุเรงนอง เจ้าองค์ดำเป็นเด็กฉลาดมีความสำนึกตนดีอยู่กับพม่าถึง 7 ปี แต่ไม่ได้ถูกกลืนให้กลายเป็นคนนิยมพม่าไปด้วย มิหนำกลับรู้ซึ้งถึงความเป็นอยู่นิสัยใจคอของพม่า และกลับมามีใจรักชาติไทยมากขึ้น อันนี้ก็เป็นความรู้สึกของคนปกติที่ไปอยู่ในต่างประเทศ ย่อมภาคภูมิใจเมื่อรู้ว่าประเทศเราเจริญกว่าเขาในส่วนใด และย่อมรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจในสิ่งที่ประเทศชาติของตนด้อยกว่าเขา ทำให้เกิดมานะที่จะกลับมาสร้างประเทศของตนให้ดีกว่าเขาบ้าง นี่ก็เป็นความรู้สึกของบุคคลธรรมดา

    [​IMG]

    แต่สำหรับความรู้สึกของเจ้าองค์ดำนั้น ย่อมจะมีความเข้มข้นกว่าคนธรรมดามาก พระองค์ย่อมสำนึกว่าพระสุริโยทัยอัยยิกาของพระองค์ ก็สิ้นพระชนม์คาคอช้างเพราะฝีมือคนพม่าเป็นผู้ฆ่า น้าของพระองค์ แทนที่จะได้เป็นเอกอัครมเหสีของกษัตริย์แคว้นล้านช้าง ก็กลับต้องมาเป็นเสมออนุภรรยาของคนพม่าที่ไปปล้นชิงมา พระราชบิดาของพระองค์ก็ต้องตกเป็นเสมือนคนทรยศต่อชาติ ก็เพราะคนพม่า พระองค์เองก็ต้องมาเป็นตัวประกันเพราะคนพม่า กรุงศรีอยุธยาและเมืองไทยทั้งหมดต้องตกเป็นเมืองขึ้นของพม่าประชาชนคนไทยอีกหลายหมื่นคนก็ตกมาเป็นเชลยของพม่า และอีกไม่รู้กี่หมื่นชีวิตได้ถูกพม่าฆ่าตายไปในการต่อสู้เพื่อป้องกันการรุกรานของพม่า และในบัดนี้พี่คนเดียวของพระองค์ก็ต้องตกมาเป็นเมียเชลยของพม่าอีกคนหนึ่ง ความรู้สึกของเจ้าองค์ดำนั้นจะพึงเห็นได้จากพระดำรัสของพระองค์ เมื่อมังกะยอชะวานำไก่ที่ใหญ่กว่ามาท้าชนกับไก่ของพระองค์ซึ่งตัวเล็กกว่า ครั้นไก่ของมังกะยอชะวาพ่ายแพ้ไก่ของพระองค์อย่างยับเยิน มังกะยอชะวาได้จับไหล่เจ้าองค์ดำสั่นและกล่าวหยามต่อหน้าผู้คนว่า ไก่เชลยตัวนี้เก่งเกินเจ้าของเสียอีก เอาชนะไก่เราได้ เจ้าองค์ดำได้ตอบโต้ไปในทันทีว่า ไก่ตัวนี้อย่าว่าแต่ชนเอาเดิมพันกันเลย จะชนเอาเมืองกันก็ยังได้ พระดำรัสนี้ของพระองค์ได้แสดงถึงเจตนาอันแรงกล้า ที่ซ่อนอยู่ในพระทัยโดยแท้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2009
  9. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,898
    ค่าพลัง:
    +6,434
    หนังสือ : ลัทธิชาตินิยมกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เทพเจ้าแห่งความรักชาติของคนไทย
    ผู้เขียน : เอื้อ บุษปะเกศ หงสกุล
    เนื้อหา : บทที่ 3 ผลงานของลัทธิชาตินิยมที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงนำมาใช้ ..หน้า 45-46


    ครั้นบุเรงนองกลับไปถึงกรุงหงสาวดีไม่ช้า ก็จัดการส่งพระองค์ดำกลับมายังกรุงศรีอยุธยาตามสัญญา บุเรงนองคงไม่ทันคิดว่านั่นเป็นการปล่อยลูกเสือร้ายให้กลับถิ่น พระมหาธรรมราชาได้แต่งตั้งเจ้าองค์ดำเป็นพระนเรศวรดำรงตำแหน่งรัชทายาท ให้ขึ้นไปครองพิษณุโลกปกครองหัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งปวง ในขณะที่เจ้าองค์ดำมีพระชนม์เพียง 16 พรรษาเท่านั้น พร้อมกันนั้นก้แต่งตั้งเจ้าองค์ขาวเป็นพระเอกาทศรถ อยู่ช่วยราชการในกรุงศรีอยุธยา
    <O:p
    เมื่อขึ้นไปอยู่พิษณุโลกแล้ว พระนเรศวรก็ได้ศึกษาตำราพิชัยสงครามอย่างละเอียด แต่เดิมตำราพิชัยสงครามเป็นคำกลอนทรงเรียบเรียงใหม่เป็นความเรียงร้อยแก้ว ยังมีปรากฏอยู่ในหอพระสมุดทุกวันนี้ พระองค์คงจะได้ค้นคว้าถึงมูลเหตุทั้งหลายที่ทำให้เมืองไทยต้องพ่ายแพ้สงครามต่อพม่า ข้อได้เปรียบสียเปรียบของทั้งสองฝ่าย วิธีที่จะทำลายข้อได้เปรียบของศัตรูควรจะทำอย่างไร พระองค์ทรงแก้ไขตำราพิชัยสงครามปรับปรุงให้ดีขึ้น ทรงนำไปใช้เป็นหลักฝึกสอนอบรมยุทธวิธีแก่ทหารด้วยพระองค์เอง
    <O:p
    พระนเรศวรคงต้องค้นพบว่า การที่คนไทยแตกแยกกันเป็นหลายฝักหลายฝ่าย ก็เพราะไปแบ่งแยกการปกครองออกไปตามบุคคลที่แต่งตั้งไปเป็นเจ้านายบังคับบัญชา ทำให้คนเคารพและเห็นแก่เจ้านายของตนเท่านั้น เช่นคนในหัวเมืองฝ่ายเหนือก็เคารพและเชื่อฟังต่อพระมหาธรรมราชาเท่านั้น ซึ่งที่ถูกนั้นควรเคารพเชื่อฟังต่อพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นประมุขของชาติ และ เป็นศูนย์รวมแห่งการบังคับบัญชา คนเชื้อชาติเดียวกันก็ควรจะเห็นแก่ชาติเป็นส่วนรวมไม่ใช่เห็นแก่บุคคลที่เป็นเจ้านายของตนเท่านั้น ดังจะเห็นได้ว่าในสมัยที่พระองค์เป็นกษัตริย์ก็ไม่ได้แต่งตั้งผู้ใดไปเป็นเจ้านายปกครองหัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งหมด เหมือนที่พระเจ้าจักรรพรรดิ์แต่งตั้งพระมหาธรรมราชา
    <O:p
    การแต่งตั้งผู้ใดไปเป็นแม่ทัพนายกอง หรือเจ้าเมืองต่างๆ พระนเรศวรทรงแต่งตั้งถูกตามหลักวิชาการบริหารงานบุคคล คือถือความสามารถของคนเป็นสำคัญกว่าสิ่งอื่น และคนที่ได้รับการแต่งตั้งนั้นก็จะต้องมีความรับผิดชอบในหน้าที่ มิได้แต่งตั้งไปตามอารมณ์รักชอบสนิทสนมแต่อย่างใด ดังจะเห็นว่าขนาดคนที่เป็นข้าหลวงเดิม เมื่อทำงานผิดก็ต้องรับโทษ โดยไม่มีการยกเว้นหรือเห็นแก่หน้า
    <O:p
    พระนเรศวรทรงเตรียมการกู้ชาติเป็นการลับ มิให้พม่าซึ่งมาตั้งกองคุมอยู่ทราบได้ พระองค์ได้ฝึกทหารที่เป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกันกับพระองค์ไว้จำนวนหนึ่งให้เป็นกองทหารที่มีความสามารถในการรบเป็นพิเศษ สามารถแจกจ่ายไปเป็นผู้นำในกองทัพต่างๆได้ พระองค์มีทหารทะลวงฟันคู่พระทัยถึง 136 คน ขึ้นโดยตรงต่อพระองค์ ทหารกองนี้พร้อมที่จะตายกับพระองค์ได้
    <O:p
    ครั้งนั้น เพราะบ้านเมืองมัวยุ่งอยู่กับการสงคราม การปราบปรามโจรผู้ร้ายจึงหยุดไป ได้เกิดมีพวกโจรซ่องสุมกันขึ้นเป็นก๊กๆ อย่างมากมาย ครั้นเมื่อการสงครามสงบแล้ว แต่ผู้คนยังระส่ำระสายอยู่ พวกโทรก็ยังหาได้สงบลงด้วยไม่ พระนเรศวรได้ใช้โอกาสนั้นฝึกทหารให้มีประสบการณื โดยเอาพวกโทรสมมุติเป็นข้าศึก พระองค์นำทหรารออกทำการปราบปรามเองบ้าง ให้นายทหารไปปราบบ้าง ถึงแม้ทหารของพระองค์มีจำนวนน้อยกว่าโจรแต่ด้วยมียุทธวิธีที่ดีกว่าและมีระเบียบวินัยเข้มงวด ในที่สุดพวกโจรก๊กต่างๆ ก็ถูกกวาดล้างราบเรียบไป
    <O:p
    ขอย้อนกล่าวถึงเหตุการณ์ในกรุงศรีอยุธยา เมื่อพม่ายกทัพกลับไปแล้วในฤดูแล้ง พ.ศ. 2112 พระนเรศวรยังมิได้กลับจากพม่า พระบรมราชาเจ้ากรุงกัมพูชาที่เคยเป็นประเทศราชของไทยได้ยกทัพเข้ามา 20,000 คน มากกว่าพลเมืองกรุงศรีอยุธยาหนึ่งเท่าตัว เมืองนครนายกบอกเข้ามา พระมหาธรรมราชาปรึกษาท้าวพระยาทั้งหลาย ต่างให้ความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า ทหารไทยรวมกับทหารพม่าที่ควบคุมอยู่ ก็มีไม่พอขึ้นประจำหน้าที่ ปืนใหญ่ก็ถูกพม่าริบเอาไป มีเหลืออยู่น้อยกระสุนดินดำก็มีไม่พอ ควรหนีไปอยู่พิษณุโลกเสียก่อน พระมหาธรรมราชาก็ให้ขุนเทพอรชุนเตรียมเรือไว้
     
  10. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466


    ผมก็มีความเชื่อมั่นเช่นเดียวกันครับ ภายใต้พระบรมโพธิ

    สมภารของพ่อหลวง ไพร่ฟ้าประชาชีจะต้องอยู่กันอย่าง

    ร่มเย็นเป็นสุขครับ ขอเพียงให้รู้รักสามัคคี อย่าแบ่งแยก

    อย่าแตกใจกัน
     
  11. ไก่เหลืองหางขาว

    ไก่เหลืองหางขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +493
    พม่านี่ร้ายครับ ปัจจุบันนี้ผมว่าก็ยังไม่ค่อยน่าวางใจ ล่าสุดเห็นในข่าวว่า ติดตั้งเตาปฏิกรณ์ปรมณูเพื่อทำอะไรซักอย่างแต่ผมไม่มั่นใจว่ามันคืออะไร ถ้าเป็นโรงไฟฟ้าหรืออื่นๆเพื่อสันติก้อดีไปครับ อย่าให้เป็นหัวรบนิวเคลียร์เลย น่ากลัว

    เพราะถ้าเป็นหัวรบนิวเคลียร์แล้วเรายังทะเลาะกันอยู่แบบนี้ เขาอาจจะยิงเราเอาก้อได้นะครับ น่ากลัวจัง
     
  12. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    อนูโมทนา ครับ ได้ยินข่าวนี้อยู่เหมือนกันครับ แต่ยังไม่เห็นตัวข่าวครับ
     
  13. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    แต่เราคงไม่ก้าวล่วงออกไปเพราะเดี๋ยวจะออกนอกกรอบ ข่าวนี้ทาง
    หน่วยข่าวกรองของเราคงต้องทำงานกันหนักล่ะครับ ต้องใช้อุปนิก
    ขิตที่เราได้คุยกันอยู่ไปหมาดๆ
     
  14. ไก่เหลืองหางขาว

    ไก่เหลืองหางขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +493
    เห็นด้วยครับ คุณทางสายธาตุนี่เป็นอุปนิขิตที่เก่งมากๆ
     
  15. จงรักภักดี

    จงรักภักดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,229
    ค่าพลัง:
    +2,466
    เรื่องการข่าวนี่ จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก แต่ไม่เคยได้เห็นใครนำมากล่าวถึงกันเลยนะครับ เอาแค่การติดต่อส่งข่าวสาร
    กัน ถ้ายามปกติเป็นมิตรไมตรีกันอยู่ ก็ใช้นำสารกันโดยการขี่ม้าเป็น
    หลักนะครับ หรืออาจจะมีการส่งสัญญาณควันไฟกันบ้าง แต่เอ! นก
    พิลาปนำสารจะมีหรือเปล่า หรืออาจจะมีการใช้เหยี่ยวสื่อสารก็ได้
    นะครับ เดาอีกก็ถูกอีก
     
  16. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,898
    ค่าพลัง:
    +6,434
    นั่นซิคะ ท่านพี่CO ท่านพี่เคยเป็นหรือเปล่าคะ ลองจับ Feeling ดีๆซิค่ะ

    เผื่อสัญญาเก่าจะแลบๆออกมา จะได้เอาเรื่องอุปนิขขิตอันน่าตื่นเต้น

    มาคุยกัน เป็นเรื่องที่สนุกมากเลยค่ะ สายลับเนี่ย

    เรื่องสังเกตุเนี่ย ถูกสอนตอนเรียนวิทยาศาสตร์ ที่ให้จุดเทียนไขหนึ่งเล่ม

    แล้วให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเล่มเทียนทั้งหมด 54 อย่างตามที่เอดิสันเคยบันทึกไว้

    นึกคนเดียก็แล้ว นึกเป็นกลุ่มก็แล้ว ไปให้ที่บ้านช่วยๆกันนึกก็แล้ว นึกแล้วนึกอีก มันได้ 20 กว่าอย่าง

    นี่ก็ว่าหรูแล้ว มิสเตอร์เอดิสัน เห็นความเปลี่ยนแปลงทั้งหมด 54 อย่าง ทำไปได้... อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤศจิกายน 2009
  17. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,898
    ค่าพลัง:
    +6,434
    อย่าเอา 20 กับ 54 ไปทำเล่นหวยนะคะ มันเป็นตามหนังสือวิทยาศาสตร์ที่เรียน

    นึกสนุกเล่นข่าวเก่าข่าวนี้ดีกว่า

    ------------------------------------------------------------------------

    ข่าวจาก... สำนักข่าวศรีอโยธยานิวส์

    เรื่อง... เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับผู้ที่เคยดำรงตำแหน่ง ทัพหน้าและจาตุรังคบาทราชอารักษ์ สมัยสมเด็จพระนเรศวร

    ผู้สืบเสาะหาข่าว ... ทางสายธาตุ

    แหล่งข่าว ... http://palungjit.org/threads/เรื่องเล่า-ก่อนนอนคืนนี้-ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์.158289/page-29

    ผู้ให้ข่าว ... (ล็อกอิน) CHAYA MARUTY (แอบเอามาลง อ่านทีไรนึกภาพตามทุกที)

    <!-- google_ad_section_end -->



    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><HR style="COLOR: rgb(255,255,255); BACKGROUND-COLOR: rgb(255,255,255)" SIZE=1>
    พอกลับมาถึงบ้าน เราก็คุยกันเล็กน้อย และคืนนี้

    จะเป็นคืนที่ผมรอคอยที่อยากจะรู้นิมิตที่ผมเห็นมาตลอด
    เข้าพรรษา คือเห็นตัวเองเป็นทหารไทยโบราณ
    รบกับพม่า โดยไม่ได้หลับตา หรือนึกอยากจะเห็นแต่อย่างใด
    มันเห็นเองเลยโดยไม่ต้องกำหนด เห็นทั้งหลับตา
    และลืมตา แต่ว่าจะเห็นตอนที่ ว่าง ๆ
    คือตอนที่ไม่ได้ทำงาน หรือทำกิจกรรมใด ๆ
    ก็เห็นเองแล้ว ก็อยากรู้เหมือนกันว่า เรารบอยู่สมัย
    จะเป็นสมัยสมเด็จพระนเรศวรหรือเปล่า
    พระเรารักท่านเป็นทุนเดิมตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว
    ก็ไม่อยากจะคิดอย่างนั้น เพราะกลัวจะเป็นอุปทาน
    ก็จึงได้ปรึกษากับ หมอวิรุฬ หมอก็เลยเรียกมาที่บ้านนี่ละครับ
    ....................................................................................​


    กำหนดการเวลาดีที่จะนั่งสมาธิก็คือ 4 ทุ่ม ซึ่งจะเงียบมาก
    หมอวิรุฬ ก็ได้อธิบาย วิธีการระลึกชาติัดังนี้ครับ
    ถ้าใครจะลองเอาไปทำดูก็ไม่ว่ากันครับ
    คื่อเริ่มจาก

    1.ไหว้พระสวดมนต์
    2. ทรงพรหมวิหาร
    3. ทรง มรณังนุสติ
    4. อธิฐานจิตว่าต้องการจะเห็นภาพอะไรตอนไหน
    5. เข้าสมาธิให้ได้ระดับสูงสุดเท่าที่ทำได้
    แล้วถอยออกมาอยู่ที่อุปจาระสมาธิ
    6. อธิฐานจิตว่าต้องการจะเห็นภาพอะไรตอนไหน
    อีกครั้งหนึ่ง
    ก็จะเห็นเป็นภาพและจิตก็จะรับรู้เรื่องราวที่เห็นภาพ
    ส่วนผมตอนนั้น ผมอธิฐานจิตว่า
    หากเป็นทหารของสมเด็จท่านจริง ก็ขอให้เห็นภาพ
    เหตุการณ์ การรบที่สำคัญ ที่ได้รบร่วมกับพระองค์่ท่านมา
    ผมก็ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง จนถึงขั้นตอนที่ 6
    ....................................................................................​


    ก็ปรากฎเป็นภาพเหตุการณ์ และมีความรุ้สึกว่า
    เหมือนตัวเองกำลังรบอยู่ในสนามรบใหญ่ มีทหารมากมาย
    และมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นทหารที่ทำหน้าที่คุ้มกันพระองค์
    โดยเฉพาะ แต่กำลังบกพร่องต่อหน้าที่ มองไปข้างหน้า
    ราว ๆ 300-400 เมตร สมเด็จพระนเรศวรเจ้า
    พระองค์ท่านกำลังทรงทำยุทธหัตถีย์ ชนช้างกับ
    พระมหาอุปราชาอยู่ ซึ่งเป็นเพียงลาง ๆ เป็นแบบเงาดำ ๆ
    เพราะมีแต่ฝุ่นคลุ้งไปหมด มีความรู้สึกเกิดขึ้นกับจิต
    ในขณะนั้นว่า มีทั้งอารมณ์โกรธ และโมโห
    และความห่วงกังวล อย่างสูงสุด ..
    ...............................................................................​


    โกรธ คือโกรธพม่าที่ยกทัพมาตีกรุงของเรา
    มีแต่ความมุ่งมั่นจะฆ่าทหารพม่าอย่างเดียว ซึ่งจิตรับรู้ว่า
    สมรภูมินี้ ที่เดียว ผมคนเดียวฆ่าพม่า
    ไปหลายร้อยคน
    ....................................................................​

    โมโห คือ โมโหตัวเองและทหารในบังคับบัญชา
    ที่บกพร่องต่อหน้าที่ ที่จะต้องอารักขาพระองค์ท่าน
    หน่วยราชอารักษ์ มีทหารอยู่ 5 กอง กองละ 2500 คน
    ตามเสด็จทันเพียง 40 กว่าคน คนส่วนใหญ่จะคิดว่า
    ในสนามรบ จะมีทหารจตุรังคบาทแค่ 4 คน
    ที่รักษาเท้าช้างเท่านั้น เข้าใจผิดครับ ในกองทัพพระองค์ท่าน
    มีทหารอยู่แสนกว่าคน จะเอามาคุ้มกันพระเจ้าอยู่หัว
    เพียง 4 คน ดูเหลือเชื่อมากครับ จตุรังคบาทมีเป็นหมื่นครับ
    และจะมีพวกราชอารักษ์ประเภท ไปไหนไปด้วย 24 ชั่วโมง
    ประมาณ 100 กว่าคน พวกนี่ล่ะครับ ที่คัดเลือกกันสุด ๆ
    ต้องเก่งเอามาก ๆ ใช้อาวุธได้ทุกประเภทเรียกว่า
    หยิบอะไรมาก็ฆ่าพม่าได้หมดครับ ผมมีความรู้สึกว่า
    บังคับบัญชาหน่วยนี้ครับ หน่วยนี้ มีทั่งพลหอก
    พลดาบสองมือ พลม้า พลปืนไฟ เวลาพระองค์เสด็จทางน้ำ
    หน่วยนี้ล่ะครับ ที่ทำหน้าที่เป็นทั้งฝีพายเรือพระที่นั่ง
    เรื่องราวละเอียดผมจะเล่าให้ฟังทีหลังครับ ....

    ...................................................................
    ตอนนั้นมีความกังวลสูงสุด เป็นห่วงพระองค์มาก
    ห่วงมากกว่าชีวิตตัวเอง รู้ว่าตัวเองจบงานนี้ต้อง
    โดนอาญาถึงตายแน่ แต่ว่าไม่ห่วงตัวเองตรงนั้นเลย
    ห่วงแต่พระองค์ท่าน สั่งการให้ทหารในบังคับบัญชาว่า
    ให้ฝ่าเข้าไปให้ได้ เหล่าทหาร ก็บ้าคลั่งพอกัน
    ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนในตอนนั้นครับใครขวางฆ่าให้เรียบ
    เรียกว่าเลือดเข้าตา ฆ่าอย่างเดียว
    ตัวเองก็ทั้งสั่งทั้งรบ ใช้ดาบ ฟัน เพราะใช้อาวุธอย่างอื่น
    ไปหมดแล้ว ทั้งมีดสั้น 8 เล่ม ใช้ขว้าง ก็หมด หลือดาบไขว้หลัง 2 เล่มเท่านั้น
    หอกยาว 4 อัน เหน็บอยู่ข้างม้าก็หมด
    ก็บุกฝ่าไปเรื่อย ๆ กับเหล่าทหารอย่างบ้าคลั่ง
    เรียกว่าสมรภูมินี้ล่ะครับที่ ทหารอโยธยาบ้าคลั่ง
    ฆ่าพม่ามากที่สุด ด้วยความรักและเป็นห่วงพระองค์ท่าน
    จึงรบแบบลืมตายถวายชีวิต จิตมีความรู้สึกอย่างนั้นเลยจริง ๆ
    ครับ จนกระทั่ง เข้าไปกู้เอาพระองค์ได้
    จึงได้คลายกังวล แต่ความโมโหตัวเองและทหารนั้นยังมีอยู่ครับ .....
    .....................................................................​

    ภาพเริ่มจางหายไป และมีให้ภาพใหม่มาแทนครับ
    มีความรู้สึกว่าตัวเองกำลังปีนบันไดเข้าปล้นค่ายพม่าครับ
    บันไดที่พาดขึ้นบนค่ายพม่านั้นมีเป็น 10 อัน
    บันไดของผมจะอยู่ค่อนข้างกลาง ...
    บันไดที่ผมขึ้นอยู่นี้ มีขึ้นมา 3 คน ผมเป็นคนที่ 2
    คอยเอาดาบปัดหอกของพม่าที่แทงลงมา
    จะแทงคนที่อยู่เหนือผมขึ้นไป
    ซึ่งผู้ที่ผมคอยเอาดาบปัดป้องหอกให้อยู่นี้ก็คือ
    พระองค์ท่านนั้นเอง ซึ่งปีนขึ้นไปเป็นคนแรก
    ซึ่งในขณะนั้นพระองค์ทรงคาบดาบขึ้นไป
    ฟันทหารพม่าตายไปหลายคนแล้ว
    ทหารพม่าเห็นดังนั้น มันก็เลยผลักบันไดให้หงายหลัง
    มันผลักแรงมากครับ จนกระทั้งบันไดเสียหลัก
    หงายหลังตกลงมา ผมและพระองค์ท่านก็หงายหลัง
    ตกลงมา พระองค์ท่านไม่เป็นไร เพราะมีตัวผมรองรับอยู่
    และทหารข้างล่างคอยรับอยู่ แต่ทหารด้านล่างมัีนคอย
    รับแต่พระองค์ครับ มันไม่รับผม ผมตกลงพื้น
    จนจุกแอ็ก แล้วก็เลยตกใจ คลายสมาธิออกมาในตอนนี้เองครับ ......
    ........................................................................​


    เมื่อคลายสมาธิออกแล้ว ก็มานั้งพิจรณา เรื่องราวและ
    ภาพที่ได้เห็นทั้งหมด ก็รู้ว่า เราเคยเป็นทหารของ
    พระองค์อย่างแน่นอน แต่ในตอนนั้น ผมก็ไม่ปักใจเชื่อซะ
    100เปอร์เซ็นต์ ด้วยที่ว่า การดูอดีต ดูอนาคตนี้
    ผมทำสมาธิมานานก็จริง โดยมาก ผมจะสัมผัสแบบเรียวไทม์
    คือ ถ้าผีมา ก็เห็นเลย นางไม้ นางฟ้ามา ก็คุยกันเลย
    แต่การดูอดีตแบบนี้ นี่เป็นครั้งแรก ก็เกรงว่าจะเป็นอุปทาน
    หรือเปล่า วิรุฬก็บอกว่า ตอนนี้ไม่ต้องเชื่อก็ได้
    เดี๋ยว กลับไปบ้านนั่ะ รับรองว่า จะต้องเชื่อ ล้านเปอร์เซ็นต์
    ...........ครับ..........ในเวลาต่อมา ก็มีเหตุให้ผมต้องเชื่อ
    ล้านเปอร์เซ็นต์ครับ เหตุอะไรหรือ.....
    ..........เดี๋ยวจะมาเล่าต่อครับ.................ท่านใดที่มีทิพย์จักษุ
    หรือตาที่ 3 ช่วยตรวจสอบด้วยน่ะครับ...[​IMG]



    ป.ล.หลังจากแฝงตัวอ่านกระทู้นั้นอยู่นาน ผู้สืบเสาะหาข่าวแอบสืบทราบมาว่าจะมีการโพสเพิ่มเร็วๆนี้ หากได้เนื้อหาอันใดเพิ่ม จะมาลงศรีอโยธยานิวส์อีกครั้ง

    ป.ล.2 ถามคุณ Fort นะคะ ถ้าจะเอาความเห็นทั้งความเห็น โดยเอามาทั้งกรอบสีฟ้า ชื่อล็อกอินที่อยู่ด้านหน้า และเนื้อหาทั้งความเห็นจะทำยังไง เหมือนตอนที่คุณ Fort ทำเรื่องปาฎิหารย์เททองหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรแล้วมาวางในกระทู้นี้อ่ะคะ ทำไม่เป็นค่ะ ขอบคุณนะคะ

    ป.ล.3 ใครเคยเป็นทหารสมัยสมเด็จท่านจะเอาประวัติมาลง ศรีอโยธยานิวส์ จักเป็นพระคุณอย่างสูงและไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆ ชะอุ้ย แต่ได้รับความขอบคุณแทนค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2009
  18. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,898
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ลัทธิชาตินิยมกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เทพเจ้าแห่งความรักชาติของคนไทย

    หนังสือ : ลัทธิชาตินิยมกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เทพเจ้าแห่งความรักชาติของคนไทย
    ผู้เขียน : เอื้อ บุษปะเกศ หงสกุล
    เนื้อหา : บทที่ 3 ผลงานของลัทธิชาตินิยมที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงนำมาใช้ ..หน้า 47-48

    ขณะนั้น พระเพชรรัตน์เจ้าเมืองเพชรบุรี มีความผิดถูกถอดจากตำแหน่ง ได้ซ่องสุมผู้คนไว้แก้แค้นดักปล้นพระมหาธรรมราชาในเวลาเดินทางหนีเขมรไปพิษณุโลก แต่เคราะห์ของคนยังไม่ถึงที่พระมหาธรรมราชาถามขุนเทพอรชุนว่า การคิดหนีจากพระนครไปครั้งนี้มีความเห็นเป็นประการใด ขุนเทพอรชุนทูลว่า พระยาละแวกมิได้ยกมาเป็นศึกใหญ่ ควรอยู่รบพุ่งป้องกันดูกำลังศึกก่อน ถ้าด่วนทิ้งพระนครไป พระเจ้าหงสาวดีจะติเตียนได้ พอเอ่ยถึงพระเจ้าหงสาวดีแล้วพระมหาธรรมราชาเป็นเกรงนัก จึงให้ขุนเทพอรชุน เตรียมเรือไว้ให้พร้อม แล้ว พระองค์จัดกำลังขึ้นประจำหน้าที่เรียงรายอยู่กำแพงพระนคร
    <O:p</O:p
    ข้างพระยาละแวกยกมาถึงชานพระนครก็ตั้งค่ายลง จัดกำลังลงเรือข้ามมาปล้นพระนคร ทหารไทยก็ยิงต่อสู้ข้าศึกถอยไปขณะนั้น พระมหาธรรมราชาเห็นนายทัพเขมรยืนบัญชาการอยู่ หมั่นไส้นัก ตรัสให้ยิงปืนจ่ารงค์ไปยังช้างข้าศึกที่บัญชาการอยู่ กระสุนปืนถูกพระจำปาธิราช นายทัพหน้าตายกับคอช้าง พระยาละแวกตกใจขวัญเสียจึงถอยทัพห่างออกไป พยายามยกเข้าปล้นกรุงอีกหลายครั้งก็เข้าเมืองไม่ได้ เลยถอยทัพกวาดเอาผู้คนชาวเมืองจันทบุรี ระยอง ฉะเชิงเทราและนาเกลือพาไปเมืองเขมร นี่ก็แสดงว่าข้าราชการใหญ่ๆนั้นไม่แน่ ข้าราชการผู้น้อยมีความคิดฉลาดกว่าผู้ใหญ่ก็มี เพราะฉะนั้นผู้นำที่ดีก็ควรฟังเสียงผู้น้อยด้วย
    <O:p
    ครั้นอยู่ต่อมาอีก 5 ปี ตอนนั้นพระนเรศวรกลับมาแล้ว บุเรงนองอาฆาตพระไชยเชษฐาไม่หาย ทั้งที่ชิงเอาเจ้าสาวเขาไปแล้วนั้นแหละ ก็ยกไปตีเมืองล้านช้างใน พ.ศ. 2118 กลัวเมืองไทยจะตีตลบหลัง ก็เกณฑ์เอาพระมหาธรราราชากับพระนเรศวรให้ยกทัพไปด้วยมีพระเอกาทศรถรักษาพระนคร พอได้ข่าวเจ้าของไม่อยู่บ้านพระยาละแวกก็ยกทัพเรือมาตีท้ายครัว ตีเมืองเล็กเมืองน้อยขึ้นมาถึงธนบุรี
    <O:p
    บังเอิญพระนเรศวรเกิดประชวรไข้ทรพิษขึ้นมา พม่ากลัวจะติดต่อกันไปทั้งกองทัพ บุเรงนองจึงสั่งให้กลับจากเมืองล้านช้างก่อนแต่ครั้งนั้น บุเรงนองก็ตีเมืองล้านช้างไม่แตก พอใกล้ฝนตกชุกพม่าก็ยกทัพหนีฝนกลับไป
    <O:p
    ข้างกองทัพไทยได้ข่าว่าพระยาละแวกมารังแกอีกแล้ว พระมหาธรรมราชาให้เจ้าเมืองยโสธร นำทหารสองพันลงไปธนบุรีต่อสู้ต้านทานไม่ได้ทัพเมืองยโสธรถอยขึ้นมายังพระนคร พระยาละแวกตามขึ้นมาตั้งอยู่ที่วัดพนัญเชิง ถูกปืนใหญ่ในพระนครยิงเอาล้มดายมาก พระยาละแวกจึงถอยทัพจับเอาคนเมืองธนบุรี พระประแดง เมืองสาคร เมืองชลบุรีไปเป็นอันมาก
    <O:p
    การที่เขมรยกมาจับคนมาบ่อยๆ เช่นนี้กลับเป็นผลดี ทำให้คนไทยที่หลบหนีกระจัดกระจายไปตั้งแต่ตอนกรุงแตกนั้น พากันกลัวเขมรจับจึงกลับเข้ามาอยู่ในพระนคร ทำให้ไทยมีกำลังรี้พลเพิ่มขึ้นมากและเป็นโอกาสให้ไทยจัดการป้องกันพระนครให้เข้มแข็งขึ้นโดยพม่าไม่สงสัย
    <O:p
    อยู่ต่อมาพระยาละแวกให้พระยาอุเพสราช กับพระยาจีนจันตุยกทัพเรือข้ามอ่าวไปตีเมืองเพชรบุรี เข้าปล้นอยู่สามวันรี้พลตายมากเข้าเมืองไม่ได้ ต้องยกทัพกลับไป แต่พระยาจีนจันตุไม่กล้ากลับเพราะไปรับกับพระยาละแวกเป็นมั่นเหมาะว่าตีได้แน่ จึงต้องมาหาความชอบอย่างอื่นไปให้แทน โดยพาครอบครัวเข้ามาอาศัยในพระนครในฐานะผู้บี้ภัยทั้งๆที่ไปปล้นเมืองเพชรไม่สำเร็จมาหยกๆ พระมหาธรรมราชาก็อุตส่าห์รับไว้ได้ ซ้ำยังโปรดปรานประทานข้าวของให้อีกมาก ครั้นสืบได้เหตุการณ์ในกรุงไทยได้เรื่องพอแล้วก็ลงเรือสำเภาหนีจากกรุงไปในเวลากลางคืน

    [​IMG]
    <O:p
    ขณะนั้นบังเอิญพระนเรศวรลงมาประทับอยู่วังใหม่ ทราบเข้าก็รู้สึกผิดใจ มาอยู่ดีๆ แล้วหนีไปอย่างนี้ ต้องมีอะไรไม่ดีแน่ จึงยกกองเรือตามไปกับพระอนุชาไปทันกันเข้าที่ใกล้ปากน้ำ ก็เข้าล้อมสำเภาไว้ คนบนสำเภาก็ยิงลงมา พระนเรศวรก็ให้ทหารปีนขึ้น สำเภานอกนั้นก็ช่วยกันยิงต่อสู้ พระยาจีนจันตุให้โล้สำเภาออก กลางน้ำรบต้านทางชะลอไป พระนเรศวรให้เรือเข้าไปใกล้ แล้วยิงปืนนกสับถูกจีนชั้นนายตายลงไปสามคน พระยาจีนจันตุยิงโต้มาถูกรางปืนที่พระนเรศวรทรงแตกไป พระเอกาทศรถเกรงพระนเรศวรเป็นอันตรายก็เอาเรือเข้าไปขวางไว้ ทหารปีนขึ้นเรือสำเภาไม่ได้ พระยาจีนจันตุหนี้พลางสู้พลางไปถึงเมืองธนบุรี เรือสำเภาก็ตกน้ำลึกออกปากน้ำหนีไปได้ การรบกับพระยาจีนจันตุแสดงให้เห็นว่าพระนเรศวรนั้นว่องไว กล้าหาญชาญชัย รบกับใครออกหน้าทุกที
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • naresuan21.jpg
      naresuan21.jpg
      ขนาดไฟล์:
      13.8 KB
      เปิดดู:
      3,693
  19. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,898
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ลัทธิชาตินิยมกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เทพเจ้าแห่งความรักชาติของคนไทย

    หนังสือ : ลัทธิชาตินิยมกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เทพเจ้าแห่งความรักชาติของคนไทย
    ผู้เขียน : เอื้อ บุษปะเกศ หงสกุล
    เนื้อหา : บทที่ 3 ผลงานของลัทธิชาตินิยมที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงนำมาใช้ ..หน้า 49-50

    พระยาละแวกก่อเหตุใหม่ คราวนี้ยกข้ามอ่าวไปปล้นเมืองเพชรบุรีใหม่ พระมหาธรรมราชาให้เจ้าเมืองสามคนยกไปช่วย แต่เจ้าเมืองทั้งสามทำงานไม่ประสานกันจึงเสียเมืองไป เจ้าเมืองเพชรบุรี เจ้าเมืองยโสธร เจ้าเมืองเทพราชธานี ตายในที่รบ พระยาละแวกมีชัยแล้วไม่ได้ยึดเมืองไว้ เอาแต่คนเมืองเพชรบุรีไปไว้เมืองเขมร

    คราวนี้ได้ใจ พระยาละแวกให้ยกกองทหารมาเที่ยวกวาดต้อนผู้คนแถวเมืองนครราชสีมา แต่โชคร้ายประจวบกับพระนเรศวรเสด็จลงมาจากเมืองพิษณุโลก พระองค์ส่งทหารม้าเร็ว ช้างเร็ว และทหารล้อมวังสามพันคนขึ้นไปต้อนรับทันที ทรงจัดการให้ทหารซุ่มอยู่สองข้างทางข้าศึกจะยกมา ทหารเขมรทัพหน้าเดินเกินเข้ามาในที่ซุ่ม ทหารไทยก็ออกจู่โจมรบกันจนถึงขึ้นตลุมบอน ทหารเขมรแตกพ่ายไป ทหารไทยได้ทีตามตีขึ้นไปจนถึงทัพใหญ่ ฆ่าฟันข้าศึกตายลงอีกมาก ทหารเขมรก็แตกหนีกลับไปเมืองละแวก
    <O:p
    ศึกเมืองคัง
    <O:p
    <O:p>[​IMG]</O:p>​
    <O:p
    <O:p
    ตอนนี้เป็น พ.ศ. 2124 บุเรงนองเป็นโรคปัจจุบันสิ้นพระชนม์ลง มังเอิงหรือมังไชยสิงห์ ราชโอรสที่เป็นพระมหาอุปราชา เคยมารบกรุงศรีอยุธยากับพ่อได้รับราชสมบัติเป็นพระเจ้าหงสาวดี มีนามว่านันทะบุเรง และตั้งมังกะยอชวา หรือมังสามเกลียด ราชบุตรคู่ปรับของพระนเรศวรเป็นมหาอุปราชา เป็นประเพณีที่เปลี่ยนกษัตริย์ใหม่ เมืองขึ้นทั้งหลายต้องไปแสดงความจงรักภักดีมิฉะนั้นต้องถูกหาว่าเป็นกบฏ พระนเรศวรขณะนั้นมีพระชนม์ 26 พรรษา ลงมาทูลขออาสาไปแทนพระราชบิดา เรื่องอะไรจะให้พ่อเราไปกราบกษัตริย์พม่าองค์ใหม่ กราบแต่บุเรงนองคนเดียวก็พอแล้ว แต่แท้จริงนั้นพระองค์ต้องการไปสืบดูเหตุการณ์ในเมืองพม่า
    <O:p
    บรรดาเมืองขึ้นทั้งหลายเขาพากันไป แต่เมืองคังนิดเดียวไม่ยอมไป เจ้าฟ้าไทยใหญ่ก็เป็นคนเผ่าเดียวกับไทยเรา ตั้งแข็งเมืองเสียเฉยๆ ฉันไม่ยอมค้อมหัวให้แก ใครจะทำไม นันทะบุเรงขัดพระทัย ที่เจ้าฟ้าไทยใหญ่ไม่เกรงพระราชอำนาจ แต่ก็อยากจะให้ราชบุตรแสดงฝีมือให้ปรากฏ จึงสั่งให้แม่ทัพหนุ่มๆ รุ่นราวคราวเดียวกันประลองฝีมือผลัดกันเข้าตีเมืองคังคนละวัน ผู้ที่ถูกกะตัวให้เข้าแข่งขันคือพระมหาอุปราชามังกะยอชะวาทัพหนึ่ง พระสังกะทัตเมืองตองอูทัพหนึ่ง กับพระนเรศวรแห่งกรุงศรีอยุธยาอีกทัพหนึ่ง แต่มิได้สั่งให้เพลาๆมือไว้ เพราะนึกว่าคงจะนึกได้เอง
    <O:p
    พระมหาอุปราชายกทัพขึ้นไปตีเมืองคัง ในวันจันทร์เดือน 5 ขึ้น 7 ค่ำ เวลา 4 ทุ่ม เดือนตกแล้ว เมืองคังนั้นตั้งอยู่บนเขาเมื่อทหารพระมหาอุปราชาป่ายปีนขึ้นไป ชาวเมืองก็งัดศิลากลิ้งลงมาถูกทหารแข้งขาหักศรีษะบี้แบนไปตามๆกัน ไม่มีทางจะบุกบั่นขึ้นไปได้ พอจวนรุ่งมองเห็นตัวกันแล้วพระมหาอุปราชาก็ถอยมา

    ครั้นวันอังคารขึ้น 8 ค่ำ พระสังกะฑัตนำทัพขึ้นไปบ้าง ก็ถูกชาวเมืองคังงัดหินกลิ้งลงมาปะทะไว้อีก ทหารล้มตายมากไม่สามารถจะขึ้นไปถึงกำแพงเมืองได้สักคน
    <O:p
    พระนเรศวรนั้น ได้สดับตรัสฟังข่าว สองทัพแรกเขาไปรบมาแล้วจึงแอบไปตรวจภูมิประเทศดูก่อนตั้งแต่ตอนกลางวัน ก็เห็นทางที่จะขึ้นไปยึดเมือคังได้ ครั้นวันพุธเวลา 11 ทุ่ม พระองค์ก็ยกไปทำการโห่ร้องยิงปืนตีฆ้องกลอง มีอาการดั่งจะปีนขึ้นไป แต่หาได้ขึ้นไปจริงๆไม่ คงทำเสียงอึกทึกครึกโครมอยู่ แค่ตีนเขานั้นเอง พวกชาวเมืองคังก็นึกว่าข้าศึกจะพยายามขั้นไปเหมือนที่พยายามมาสองคืนแล้ว จึงช่วยกันงัดก้อนศิลากลิ้งลงมาเช่นเคย แต่มันหาได้ถูกผู้ใดไม่

    พระนเรศวรได้ให้ทหารปืนแอบปีนแซงขึ้นไปสองข้าง เงียบๆ พอขึ้นไปถึงระยะใกล้แล้ว พอเห็นตัวได้รางๆ พลปืนก็ระดมยิงเข้าไปอย่างหนาแน่น ถูกชาวเมืองล้มตาย และระส่ำระสาย เป็นการใหญ่จนคุมกันไม่ติด ครั้นสามโมงเช้าก็ปีนเข้ายึดเมืองได้จับตัวเจ้าฟ้าเมืองคังได้ คมตัวลงมาถวายพระเจ้าหงสาวดีนันทะบุเรง พระเจ้าหงสาวดีนั้นแม้จะรู้สึกไม่พอพระทัย เพราะไม่สมพระประสงค์ ที่เจตนาไว้ก็ได้แต่ตรัสชมเชยและพระราชทานรางวัลให้ แต่พระมหาอุปราชากับพระสังกะทัตนั้นรู้สึกละอาย และเกลียดชังพระนเรศวรมาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. ทางสายธาตุ

    ทางสายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,898
    ค่าพลัง:
    +6,434
    ลัทธิชาตินิยมกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เทพเจ้าแห่งความรักชาติของคนไทย

    หนังสือ : ลัทธิชาตินิยมกับสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เทพเจ้าแห่งความรักชาติของคนไทย
    ผู้เขียน : เอื้อ บุษปะเกศ หงสกุล
    เนื้อหา : บทที่ 3 ผลงานของลัทธิชาตินิยมที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงนำมาใช้ ..หน้า 51

    พระนเรศวรกลับมาถึงเมืองพิษณุโลก ก็เปลื้องเครื่องทรงออกถวายพระพุทธชินราช และพระพุทธชินสีห์ กับมีมหรสพสมโภชสามวันแล้วลงมาเฝ้าพระราชบิดา และทูลว่าเจ้าเมืองประเทศราชทั้งหลายไม่เกรงกลัวพระเจ้าหงสาวดีนันทะบุเรง เหมือนบุเรงนอง ต่างกำลังคิดเอาใจออกห่างอยู่ คะเนว่าอีกไม่ช้าคงจะมีเหตุการณ์ขึ้นเป็นแน่ แล้วพระองค์ก็เร่งตระเตรียมกำลังไว้อย่างเงียบๆ คอยโอกาสอยู่


    [​IMG]

    การที่พระนเรศวรทรงแสดงฝีมือในการตีเมืองคังครั้งนั้น ทำให้ฝ่ายพม่าเริ่มมีความไม่ไว้วางใจ และสร้างสัตรูให้เกิดมีขึ้นอย่างลับๆ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีผลดีสำหรับการที่พระนเรศวรจะกู้ชาติเพราะทำให้คนไทยมีความภาคภูมิใจ เป็นการชักจูงให้คนไทยรู้สึกไว้วางใจในผู้นำของตน อนึ่ง การที่พระนเรศวรทรงสละเครื่องทรงถวายพระพุทธชินราช และพระพุทธชินสีห์นั้น ก็เป็นการชักนำให้ทหารไทยมีที่พึ่งทางใจ ยึดมั่นในพระพุทธคุณ ทำให้บังเกิดความกล้าหาญ ทรหดอดทน พร้อมที่จะต่อสู้เพื่อชาติและพระพุทธศาสนา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...