การสอนดูจิตตอนนี้ ไม่ต่างไปจากท่านสัญชัยปริพาชกในครั้งพุทธกาล

จิตตื่นหรือไม่ตื่น คุณต้องมาศึกษา คนหลับจะรู้ตัวหรือว่าตัวเองตื่น
แต่คนตื่นนั่น จึงจะรู้ตัวว่า ที่ผ่านมานั้นหลับไป

คนตื่น มันก็ต้องหลุดออกจากวังวน ความคิดอันไร้สติสิ
ไม่ใช่ ตามเรื่องตามราว

อย่างที่สอนๆ กัน นั่นมันสอนให้คนหลับ ไม่ใช่สอนให้คนตื่น

คนตื่นจะต้องผ่านอารมณ์ หน่าย กิเลส คือ ลุกไปเดี๋ยวนั้น แหละว่าไม่เอากันอีกกับ ไอ้กิเลสตัวนี้ แล้วหาทาง ละมันนั่น
ไม่ใช่ มันเกิดกี่ครั้งก็ไม่รู้ ดูมันเฉยๆ มันยังไม่มีนิพพิทา เลย

 

<table id="post2586532" class="tborder" style="border: 1px solid rgb(239, 239, 239); background-color: rgb(255, 255, 255); color: rgb(0, 0, 0); min-width: 0px;" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="border-width: 1px 0px 1px 1px; border-top: 1px solid rgb(255, 255, 255); border-left: 1px solid rgb(255, 255, 255); border-bottom: 1px solid rgb(255, 255, 255); padding: 4px; font-family: tahoma,verdana,geneva,lucida,'lucida grande',arial,helvetica,sans-serif; font-style: normal; font-variant: normal; font-size: 12px; line-height: normal; font-size-adjust: none; font-stretch: normal;" http:="" palungjit.org="" images="" gradients="" blue.gif);="" target="_blank">
</td><td class="thead" style="border-width: 1px 1px 1px 0px; border-top: 1px solid rgb(255, 255, 255); border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255); border-bottom: 1px solid rgb(255, 255, 255); padding: 4px; font-family: tahoma,verdana,geneva,lucida,'lucida grande',arial,helvetica,sans-serif; font-style: normal; font-variant: normal; font-size: 12px; line-height: normal; font-size-adjust: none; font-stretch: normal;" http:="" palungjit.org="" images="" gradients="" blue.gif);="" target="_blank"></td></tr><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-width: 0px 1px; border-left: 1px solid rgb(255, 255, 255); border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255); font-family: verdana,geneva,lucida,'lucida grande',arial,helvetica,sans-serif; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; font-size: 12pt; line-height: normal; font-size-adjust: none; font-stretch: normal; background-color: rgb(247, 243, 247); color: rgb(0, 0, 0);" width="175">คนต้นยุค
สมาชิก

วันที่สมัคร: Apr 2008
ข้อความ: 1
Groans: 0
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 0
ได้รับอนุโมทนา 0 ครั้ง ใน 0 โพส
พลังการให้คะแนน: 0

</td><td class="alt1" id="td_post_2586532" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255); font-family: verdana,geneva,lucida,'lucida grande',arial,helvetica,sans-serif; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; font-size: 12pt; line-height: normal; font-size-adjust: none; font-stretch: normal; background-color: rgb(239, 235, 239); color: rgb(0, 0, 0);">ตามมาอ่านมันส์จริงๆ(ได้ประโยชน์)
</td></tr><tr><td class="alt2" style="border-width: 0px 1px 1px; border-left: 1px solid rgb(255, 255, 255); border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255); border-bottom: 1px solid rgb(255, 255, 255); font-family: verdana,geneva,lucida,'lucida grande',arial,helvetica,sans-serif; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; font-size: 12pt; line-height: normal; font-size-adjust: none; font-stretch: normal; background-color: rgb(247, 243, 247); color: rgb(0, 0, 0);"> </td><td class="alt1" style="border-width: 0px 1px 1px 0px; border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255); border-bottom: 1px solid rgb(255, 255, 255); font-family: verdana,geneva,lucida,'lucida grande',arial,helvetica,sans-serif; font-style: normal; font-variant: normal; font-weight: normal; font-size: 12pt; line-height: normal; font-size-adjust: none; font-stretch: normal; background-color: rgb(239, 235, 239); color: rgb(0, 0, 0);" align="right"></td></tr></tbody></table>
คงจะมันส์จริงๆนะเนี่ย สมัครตั้งแต่ Apr 2008 เนี่ยเม้นท์แรกเลยนะ

(smile)

 

คุณคะ คุณเอาอะไรมาปล่อยวางขันธ์ ๕
ในเมื่อพวกคุณเห็นว่าจิตเป็นขันธ์ ๕

(smile)

 

ขอแสดงความเห็นครับ

ผมขออ้างคำสอนพ่อแม่ครูบาอาจารย์สักหน่อยนะครับ
หลวงปู่มั่นเคยสอนว่า...
"ทำความสงบมาก เนิ่นช้า
คิดพิจารณามาก ฟุ้งซ่าน
แก่นแท้ของการปฏิบัติคือ
การเจริญสติในชีวิตประจำวัน"

ผมไม่ได้พยายามจะอนุรักษ์คำว่า "ดูจิต" หรอกนะครับ
แต่ที่คุณกล่าวว่า "การดูจิตล้วนๆ ไม่ทำไห้กิเลสตัณหา ราคะ โทสะ โมหะ หมดไปจากจิตได้แน่นอน" นั้น...
ผมไม่เห็นด้วยครับ

อย่างที่เคยกล่าวไว้แล้วว่า การดูจิตเป็นศัพท์ที่บัญญัติขึ้นมาเองในหมู่แวดวงผู้ที่เจริญสติปัฏฐานในหมวด เวทนา จิต และธรรม (อาจเลือกหมวดใดหมวดหนึ่งก็ได้) ถ้าคุณฟังคำสอนให้ดีๆ จำหลักการปฏิบัติให้แม่นๆ แล้วลองปฏิบัติตามอย่างต่อเนื่อง คุณจะพบกับความอัศจรรย์ของคำพูดที่ว่า "แค่รู้" นั้นเป็นอย่างไร

และตัวสติที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในยามที่กิเลสเกิดขึ้นนั้น
มันจะเป็นตัวตัดเชื้อเพลิงของกิเลสนั้นให้น้อยลงๆ
พอกิเลสเกิด
มีสติรู้ทัน
กิเลสจะดับลงไปต่อหน้าต่อตา
แต่เดี๋ยวมันก็เกิดใหม่
ก็รู้ทันต่อไปอีก
ทำให้มากๆ ดังนี้...
แล้ววันหนึ่งปัญญาจะสรุปรวมพลังเพื่อทำลายล้างอาสวะกิเลสแบบเด็ดขาด
และกิเลสนั้นๆจะไม่กลับมาเกิดอีก
คือการเกิดอริยมรรค อริยผลนั่นเอง
(ต้องดูเรื่องสังโยชน์ 10 ด้วยครับว่ามรรค ผล นิพพานแต่ละขั้นนั้น พระอริยบุคคลท่านละข้อไหนได้บ้าง)

อันนี้ว่าโดยย่อนะครับ...

ด้วยความเคารพ

 

ร่วมกันยกขัน....

 

อันนี้ก็ยกขัน....



พวกชอบยึดถือ...

 

ก็อย่างว่าครับ
ก็ต้องแก้ที่ตัวเรานี่ล่ะ

จะไปแก้ที่หลวงพ่อได้เหรอ
หรือจะไปแก้ที่คนด่าหลวงพ่อได้เหรอ

มันทุกข์ที่ใจเรา
ก็ต้องดับที่ใจเรา

 

ถ้าอย่างนั้นคุณคิดว่า จิตเป็นอะไรหรือครับ

ด้วยความเคารพ

 

รีบๆ พากัน วาง ......

 

การแค่รู้ที่ทำกันนี้ มันแค่รู้จริงหรือ
แค่รู้ที่แท้คือ เมื่อจิตสิ้นเชื้อของกิเลส ตัณหา ราคะ โทสะ โมหะแล้ว การที่จิตจะรับรู้ อารมณ์ หรือสิ่งๆที่กระทบ จึงจะเป็น แค่รู้ที่แท้ได้ครับ

ไม่ไช่เพียรสร้าง แค่รู้ ไห้เกิดล้วนๆ เพื่อจะได้ แค่รู้จริงๆ

 

เบื่อระ - -"

 

ชาติ เอ็ง นี่ เบื่อง่ายจัง วะ

 

"มันทุกข์ที่ใจเรา
ก็ต้องดับที่ใจเรา"
อนุโมทนาด้วยนะครับ _/|\_

คือว่าที่ผมพยายามจะสื่อมาทั้งหมดนี้เนี่ย...
ผมได้กล่าวเพื่อแก้ต่างให้ใคร
หรือแย้งเพราะใครมาด่าใครหรอกครับ
เข้าใจผิดแล้ว...
ผมเพียงแค่เห็นว่า...
หัวข้อกระทู้ที่ตั้งขึ้นมานี้มันดูจะเป็นความเข้าใจผิดอะไรบางอย่าง
จึงชี้แนะให้เฉยๆ
ไม่ได้จะมาบอกว่าของฉันนี้ถูก ของเธอนั้นผิดนะครับ...
แล้วก็ไม่ได้มาเกลี้ยกล่อมใครๆด้วย
ผมไม่มีความจำเป็นต้องทำอย่างนั้นเลยนี่ครับ
ถ้าใครออกมาแสดงความเห็นได้
ผมก็ต้องสามารถแสดงความเห็นกลับได้เช่นกัน
ไม่งั้นก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยสิครับ
เพราะมัวแต่คิดว่า ผู้วิจารณ์นั้นอยู่ฝ่ายโน้นฝ่ายนี้
แล้วพยายามรักษาชื่อเสียงสถาบันของตน...

อย่าซีเรียสกันนะครับเพื่อนชาวพุทธ
มันเป็นไปตามเสรีภาพของบุคคล
ตราบใดที่ยังไม่ล่วงละเมิดผู้อื่น...^__^

ด้วยความเคารพ

 

สำหรับ คนที่ มาพูดวาง ขัน

คุณเอาธรรมมาโพสดีกว่า

และ คนอื่น ถ้า เถียง ไม่ได้ พูดนั่นพูดนี่ไปเรื่อย ก็นั่นแหละ ให้รู้ไว้ว่า ตนเองไม่มีทางไป

 

วันนี้ห้องสนทนาเสียงคนคงจะน้อย....เห็นคุณวิษณุอยู่ที่นี่...

 

ผมกำลังนึกนะว่าชื่อกระทู้นี้ เข้าได้กับคุณตรงไหน...

หลวงพ่อปราโมทย์ มีบุญคุณต่อ คุณ
เหมือนกับ
สัญชัยปริพาชก มีบุญคุณ ต่อพระสารีบุตร

นะ

 

ไม่พูดไม่จาแอบอยู่หลังไมล์...สังเกตุการณ์เหรอ....

 

สังเกตให้ดี ผมพูดเรื่องธรรม โน่น ละเมอเพ้อพก ไปเรื่องอื่น
นั่นแหละ เขาเรียกว่ายังไม่ตื่น

พอเอาธรรม เอาเหตุผลเข้ามา เพ้อไปเรื่องอื่น นั่นแหละ ยังไม่ตื่น

ถ้าตื่นมันต้องจ้องมองธรรม ถ้าเลี่ยงธรรม มันพวกกิเลส จำเอาไว้

 

ก็ต้อง ตามรู้กายรู้ใจไปเรื่อยๆ ... สงสัยมาฟังหลวงปู่พุธ ท่านเทศน์อีกที