กระจกส่องใจ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย satan, 24 ธันวาคม 2007.

  1. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    กระจกส่องใจ
    กระจก...ไม่เลือกที่จะสะท้อนภาพทุกชนิด ฉันใด
    จิตใจ.....จงเอาเยี่ยงอย่างกระจก
    กระจก...รับรู้แต่ไม่ยึดถือครอบครอง
    ดังนั้น....จึงไม่มีภาพใดๆหลงเหลือติดอยู่ในกระจก
    สายฝน...ในกระจก หาได้เปียกในกระจกไม่
    เปลวไฟ...ในกระจก ก็หาได้เผาลนกระจกเช่นกัน
    ทั้งนี้.......เพราะในกระจกไม่ได้ให้อำนาจแก่สายฝนและเปลวไฟ
    ดังนั้น......จงทำจิตใจของท่านให้เป็นดุจการรับรู้ของกระจก เพราะถ้าหากจิตของท่านหลงยึดถือ หรือตกเป็นทาสของกิเลสเมื่อใด ความทุกข์ ความเศร้าหมองใจย่อมตามมาเมื่อนั้น


    นายเศกวิชช์ สัตยารักษ์
    ที่ระลึกในงาน กษิณาลัย ครูภิญโญ โยนกระโทก
    ---------------------------------------
    พูดถึงกระจกทำให้นึกถึงกลอนของ "ผลบุญ"

    อันกระจก นั้นไว้ส่อง มองดูหน้า
    ลักขณา ว่าเฉิดโฉม หรือน่าขัน
    ส่องแล้วสวย ส่องแล้วหล่อ จึงยึดกัน
    แข่งประขัน ปรุงแต่งกาย งมงายใจ

    ใช้กระจก ส่องแต่กาย เสียดายยิ่ง
    ประโยชน์จริง ต้องส่องใจ ให้สุกใส
    ส่องความดี บุญและบาป ก้นบึ่งใจ
    เห็นแล้วไซ้ร ปรับปรุงตน คือคนดี

    หากส่องใจ ส่องไปเถิด ประเสริฐค่า
    เกิดปัญญา พ้นยึดรูปและแสงสี
    แม้ตัวดำ แต่ใจบุญ คือเทพี
    เพราะความดี นั้นสูงค่า กว่ารูปกาย
    (ผลบุญ 9 ตค .40)

    ด้วยความปรารถนาดี
    พอล เลอมัง
     
  2. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ไม่เจอนานนะครับคำอ้น...สบายดีไหมครับ(good) (good) (good)
     
  3. Noppadol.Ve

    Noppadol.Ve เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +245
    กระจกส่องใจ กับ กระจกหกด้าน

    เหมือนกันใช่หรือไม่ครับ ?
     
  4. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ครับผมเป็นเช่นเดียวกันครับท่าน...

    กระจกหกด้าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 ธันวาคม 2007
  5. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,982
    สบายดีครับ

    กำลังจะหวนกลับมาอีกที..ไม่รู้จะอยู่ได้นานแค่ไหน
     
  6. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    เป็นกำลังใจให้นะคำอ้น...(good) (good) (good)
     
  7. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,982
    โดนใครบางคนสั่งให้กลับมาทำหน้าที่เดิม...เหอๆ

    ขอบคุณที่ให้กำลังใจครับ ก็เหนื่อยใจมานาน
     
  8. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    อืม..ก็อนุโมทนาด้วยก็แล้วกันนะครับ...ก็ดีแล้วที่กลับมาอีกครั้ง...^O^ สู้ๆ...
     
  9. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    ศีลส่องใจ
    สะอาดกายไร้ธุลีนิรทุกข์

    เจิรญวัยได้สุขทุกสถาน

    สะอาดใจไร้ธุลีกิเลสมาร

    เจริญสุขทุกกาลนั้นมงคล

    สังคมมนุษย์เป็นสังคมที่ดำเนินชีวิตและทำกิจกรรมร่วมกันบ่อยครั้ง

    ที่เราจะเห็นภาพแห่งความขัดแย้ง แย่งอาหารกันกิน แย่งถิ่นกันอยู่ แย่งคู่กันครอง ซึ่งล้วนแต่เป็นความวุ่นวายหม่นหมองที่เกิดขึ้นในสังคมมนุษย์อย่างแท้จริง จากความต้องการขั้นพื้นฐานของชีวิตและเรียกร้องสิ่งที่ต้องการจนเกินพอดี อันนำมาซึ่งการย่ำยีบีฑามนุษย์ด้วยการประหัตประหารกัน ด้วยสงครามและความโลภนานา เริงร่าอยู่ในกามารมณ์ นิยมในวาจาว่าร้าย พาใจพากายให้หลงไหลไปกับสุรายาเสพติดและอบายมุขต่างๆ

    พระพุทธศาสนาจึงเป็นดุจยาขนานเอกที่จะเสกสรรมนุษย์ให้หลุดพ้นจากความมืดมิดในใจพาให้พบความสว่างไสวด้วยแสงแห่งปัญญา

    เป็นดังสายฝนที่โปรยปรายมาจากฟากฟ้าให้ความเย็นชุ่มฉ่ำใจ ดุจน้ำอมฤตที่หล่อเลี้ยงใจคนทั้งโลก ปัดเป่าทุกข์โศกให้จางหายไปจากใจ ศีลจึงเป็นดังยาคอยบรรเทาไฟ คือ กิเลส ที่เป็นเหตุเผาผลาญกายใจให้ร้อนรน ไม่ใช้สับสนวุ่นวายไปกับปัญหาต่างๆๆ เป็นระเบียบที่ควบคุม กาย วาจา ที่ทำให้ชีวิตมีคุณค่า งามสง่าทุกวัย เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ มี ๕ ประการ อันเป็นพื้นฐานที่เป็นระเบียบวินัยของชีวิต เรียกว่า เบญจศีล ดังนี้

    ๑ เจตนางดเว้นจากการฆ่าสัตว์ อาฆาตพยาบาทเบียดเบียนกัน ในบรรดาความอยาก ความอยากมีชีวิตถือเป็นยอดสูงสุด การมีชีวิตคือการมีโอกาสได้ทุกสิ่งทุกอย่าง การสิ้นชีวิตคือการสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ผลแห่งความโหดร้ายทำลายชีวิต ทำให้อายุสั้น ต้องหมั่นชำระโทสะด้วยธรรม คือเมตตากรุณา ช่วยเหลือเอื้ออาทรกันและกัน

    ๒. เจตางดเว้นจากการลักทรัพย์ ดำเนินชีวิตด้วยการไม่เบียดเบียนทรัพย์สินและละเมิดกรรมสิทธิ์ของผู้อื่น ผู้ขโมยทรัพย์ของผู้อื่น แม้จะได้ทรัพย์มา แต่ก็เป็นฝ่ายสูญเสียประโยชน์ คือเสียมนุษย์ธรรมในใจของเรา ปัญญาคือธรรมชาติติดตัวมนุษย์ แต่มนุษย์ไม่ใช่ปัญญาหาเลี้ยงชีพจะมีค่าน่าชื่นชมได้อย่างไร จงใช้สันโดษขจัดความโลภ ประกอบสัมมอาชีวะ มีอาชีพสุจริตยุติธรรมอยู่กับสิ่งที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ฝันและทำการงานนั้นให้ดี่ที่สุด

    ๓.เจตนางดเว้นจากการประพฤติผิดในกามทั้งหลาย ความรักเป็นเครื่องยึดโยงให้เกิดความผูกพันเป็นที่สุด แต่ศาตราที่คอยบั่นความรักให้ขาดสะบั้นคือการนอกใจการนอกใจในคู่ครองของตนจึงเป็นอาวุธทำลายความไว้วางใจในครอบครัว เพื่อป้องกันการแตกร้าวในหมูมนุษย์ จงยินดีในครู่ครองของตน ระวังตนไม่ให้ถูกความใคร่ครอบงำ เปลี่ยนจากควาใคร่ในกาม เป็นความใครีในธรรม

    ๔. เจตนางดเว้นจากการพูดเท็จ คำหยาบ ส่อเสียด เพ้อเจ้อ แม้เราจะสามารถโกหกคนได้หลายคน แต่เราไม่อาจโกหกตนเองได้ คนพูดเท็จคือคนทำลายสัจธรรม ผู้ทำลายสัจธรรมย่อมเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ ควรพูดแต่คำจริงและไพเราะอ่อนหวาน ก่อประสานประโยชน์แก่ชนทุกหมู่เหล่า

    ๕. เจตนางดเว้นจากการดื่มสุรา สิ่งมีนเมาและยาเสพติดทุกชนิด สงครามดับชีวิต ยาเสพติดดับอนาคต น้ำเมาทำให้ผู้ดื่มเป็นคนประมาทขาดสติ ขาดการเฝ้าดูตนเอง หลงลืมหน้าที่ของตน มีทั้งความดีที่ตนควรกระทำ น้ำเมาคือตัวการทำลายสติและสมรรถภาพทางจิต ให้เสื่อมโทรามลงไป ควรใช้สติสัมปชัญญะพิจารณาตนเอง เพื่อกำจัด โลภะ โทสะ โมหะให้หมดไป

    น้ำฝน น้ำประปา เพียงชำระความสกปรกทางกาย แต่ศีลเป็นดุจน้ำที่ชำระมลทินทางกายวาจาและรดใจให้ชุ่มเย็นไปด้วย

    ไม่มีความเย็นใดจะเย็นเทียมเท่าความเย็นแห่งผู้มีศีล ไม่มีกลิ่นใดจะส่งพลังหอมหวลทวนลมและตามลมได้เท่ากลิ่นแห่งศีล ไม่มีอาภรณ์ประดับใด จะทำให้บุคคลงามสง่าได้เท่ากับอาภรณ์คือศีล ไม่มีบันใดก้าวข้ามใดจะสูงส่งเท่ากับบันใดแห่งศีล เพราะศีลคือบันไดที่ยังผู้ปฏิบัติให้ก้าวข้ามสู่สวรรค์และก้าวข้าวสู่ประตูแห่งนิพพานในที่สุด เพราะฉะนั้น พึงชำระศีลให้บริสุทธิ์หมดจด และปัญหาต่างๆ ในสังคมจะหมดไป

    มีศีลธรรมนำให้การงานสะอาด

    ทั้งสามารถคุมหมู่ให้อยู่มั่น

    เป็นหลักครองสังคมอุดมครัน

    สถาบันสรรพ์ประชาสาธุการ

    (ธรรมะรุ่งอรุณวิถีพุทธ พระครูประทีปธรรมพิมล)
    ----------------
    ขอขอบคุณ เว็บไซต์ วัดยานนาวาและ
    http://variety.teenee.com/foodforbrain/5478.html
     
  10. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    จันทร์ในบ่อ
    มองในมิติที่หนึ่ง ถ้ามองที่จันทร์เป็นหลัก มันจะแสดงให้เห็นถึง ความไม่จีรังยั่งยืนของสรรพสิ่งที่อยู่ในกฏเกณฑ์แห่งธรรมชาติ เกิดขึ้น คงอยู่และดับสูญตามกาลเวลา

    ถ้ามองในมิติที่สอง มองที่ผืนน้ำในบ่อ ถ้าน้ำในบ่อนั้น ใสสะอาดบริสุทธิ์ สงบนิ่ง ไม่ขุ่นมัว ไม่กระเพื่อมและไม่แส่ส่ายไปมา ไม่บ้าคลั่งดั่งคลื่นซัดสาด เราจะเห็นภาพของดวงจัทร์ในบ่อน้ำนั้นอย่างแจ่มแจ้ง และเราจะเห็นตัวตนที่แท้จริงของเราอยู่ ณ ตรงนั้น
     
  11. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,982
    ไปส่องที่วัดสิครับ หมอกน้อย..กระแสดี...ที่วัดเป็นที่เหมาะแก่การปฏิบัติ

    เวลาส่องใจ อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้วิปัสสนาญาณมากครับ ใช้แค่ พรหมวิหาร4 นี่ก็เหลือกินแล้ววว...เป็นกลางไง ไม่เอาเข้าตัว ช่วยคนอื่นอย่างเดียว ช่วยไม่ไหวก็อุเบกขา
     
  12. satan

    satan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    5,045
    ค่าพลัง:
    +17,915
    การดูจิตของตนเองนั้น ดูได้ทุกขณะจิต ไม่จำกัดสถานที่และกาลเวลาและทุกอิริยาบถ กระทำได้ทั้ง นั่น ยืน นอน เดิน ^O^
     

แชร์หน้านี้

Loading...