เรื่องเด่น เปิดกรุพระดี.....สำหรับมีไว้บูชาอย่างแท้จริง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 16 มีนาคม 2012.

  1. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    พระแหวกม่านอกใหญ่ ลพ.กวย พิมพ์ใหญ่ ชุดลงกรุ
    เนื้อแกร่งแห้งชัดเจน พิมพ์คมชัด สภาพสวยสมบูรณ์

    Chawin จองบูชาแล้ว
    แหวกม่านลงกรุ-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2020
  2. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    โชว์เพื่อแบ่งกันชม...กุมารี (กุมารทอง) ของหลวงพ่อกวย
    ชิ้นนี้สร้างยุคต้น แกะจากกระดูกมนุษย์ เฮี้ยน ขลังและแรง
    กุมารทอง ลพ.กวย -4.jpg
     
  3. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    โชว์เพื่อแบ่งกันชม..กุมารทองของหลวงพ่อกวย
    สร้างในยุคต้น แกะจากกระดูกมนุษย์ ของหายาก
    กุมารทอง-8.jpg
     
  4. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    โชว์..กุมารทองยุคต้นของหลวงพ่อกวย แกะจากไม้ด้วยฝีมือของท่านเอง
    กุมารทอง-21.jpg
     
  5. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    โชว์...กุมารทองผมจุกยุคต้นของหลวงพ่อกวย
    รุ่นนี้มีอิทธิฤทธิ์เยอะ ท่านแกะเอง จารไว้ทั้งตัว
    กุมารทอง-22.jpg
     
  6. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,850
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ
     
  7. นพพร 2553

    นพพร 2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    743
    ค่าพลัง:
    +1,230
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  8. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ยืนยันการรับจอง หนุมานหลวงพ่อกวย เนื้อผง ของดีราคาเบาไว้แล้วครับ ขอบคุณครับ
     
  9. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    โชว์...ภาพถ่ายกระดานสามแผ่น ลพ.กวย ภาพนี้คนรุ่นเก่าจะเรียกภาพกระรอก เพราะมีกระรอกอยู่ด้านหลังท่าน ส่วนกระดานมีมากกว่า3แผ่น
    564-2.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 563.jpg
      563.jpg
      ขนาดไฟล์:
      345.1 KB
      เปิดดู:
      70
  10. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    โชว์ภาพบูชา ลพ.กวย แบบที่พบเจอไม่บ่อยนัก มีจารกำกับ
    561-2.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 562.jpg
      562.jpg
      ขนาดไฟล์:
      475 KB
      เปิดดู:
      65
  11. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    วันนี้ทีมงานผู้จัดทำหนังสือ "มรดกหลวงพ่อกวย" ได้นำต้นฉบับไปส่งให้ทางวัดโฆสิตารามตรวจสอบความถูกต้อง โดยมีท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน มีลูกศิษย์ยุคเก่าที่เคยอยู่ทันหลวงพ่อกวยและคณะกรรมการชุดปัจจุบันมาร่วมตรวจสอบภาพวัตถุมงคลและข้อมูลในหนังสือมรดกหลวงพ่อกวย มีการซักถามรายละเอียดและความถูกต้องในภาพวัตถุมงคลบางรายการ ซึ่งมีศิษย์เก่าของท่านยืนยันในข้อเท็จจริง ก่อนจะลงนามอนุญาตให้พิมพ์เผยแพร่ได้

    พร้อมกันนี้ได้ถวายภัตตาหารเพลพระภิกษุทั้งหมดในวัดโฆสิตาราม ขออนุโมทนากุศลนี้กับเพื่อนสมาชิกทุกท่านด้วยครับ เพราะผมใช้เงินจากค่าบูชาวัตถุมงคลไปดำเนินการครั้งนี้ รวมทั้งขอบคุณเพื่อนสมาชิกบางท่านคือคุณ Yutthakarn ที่ร่วมทำบุญมาด้วย1,000.บาท

    เลี้ยงพระเพล-4.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ขอขอบคุณ บทความจากครูเฒ่า สุพรรณ
    พระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบ
    สกุ๊ปพิเศษ สุดยอดพระสมเด็จหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร

    ต่อไปผู้เขียนจะขอบันทึกถึงสุดยอดพระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบ ที่หลวงพ่อได้บรรจงสร้างไว้ โด่งดังและมีมนต์ขลังติดอันดับระดับประเทศไทย ถ้าจะเป็นรองก็รองแต่สมเด็จวัดระฆัง เพราะพระของท่าน(สมเด็จ) หลวงพ่อก็ผสมผงของสมเด็จโต วัดระฆัง เรื่องผงนี้พี่ชายคุณหมอเฉลียว เดชมา ได้ผงสมเด็จโตพร้อมพระที่สมเด็จโตทำไว้เกือบ 10 องค์ ผงอีก 1 บาตรใหญ่ มาถวายหลวงพ่อ ครั้งเมื่อไปเรียนหนังสือและพักที่วัดระฆัง (ได้จากตู้จันอับ) พระพิมพ์นี้หลวงพ่อเรียกว่า พิมพ์ร่มโพธิ์ หลวงพ่อพูดว่า“พระพิมพ์ร่มโพธิ์นี้อยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครรังเกียจ (หลวงพ่อพูดว่า) จะร่มเย็นเหมือนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่” ต้นโพธิ์เป็นสัญลักษณ์ของความร่มเย็น แม้พระพุทธเจ้าก็ตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ คาถาที่เสก หลวงพ่อให้ไว้เขียนด้วยลายมือชัดเจน (บทสำคัญและเสกด้วยบทอื่นประกอบด้วย) ท่านเสกด้วยคาถา 3 บท บทแรก เป็นคาถาเชิญพระแม่ธรณี คาถามี 6 ตัว ท่านจะเขียนด้วยภาษาขอม ขึ้นต้นด้วย “โพ อะ ...” ท่านเขียนไว้ 2 ครั้ง คำว่า โพ ท่านเขียนด้วย (พอ-พาน) อีก ครั้งหนึ่งเขียนด้วย (ภ-สำเภา) คาถา 6 ตัวนี้ ห้ามท่องบ่น ถ้าไม่มีความจำเป็นจริง ๆ

    บทที่ 2 เป็นคาถาบอกเรียกให้พระแม่ธรณีมาช่วยผจญพระยามาร, เสนามาร, ธิดามาร คือพระพุทธองค์เคยบำเพ็ญเพียรมามาก ได้ตรวจ (กรวด) น้ำ หลั่งอุทกวารี บีบออกมาจากมวยผม เพื่อมาช่วยพระพุทธองค์ ผจญกับพระยามาร เราจะพบภาพจิตรกรรมฝาผนัง จากในพระอุโบสถ หรือเมรุเผาศพ หลวงพ่อยังเขียนไว้ ตอนจดคาถาไว้ในสมุดคาถา หลวงพ่อเขียนไว้ยาว คัดลอกพอได้อ่านกันพอสังเขป “เมื่อแรกพระพุดทะเจ้า เทอจึงมาประจนด้วยหมู่มารให้พ่ายแพ้ในครั้งนี้ ส่วนนางพระแม่ทอระณี ทั่นจึงจะชำแลกแซกแพ่นดินขึ้นมา ทะหวายวันทาบังคมคัน บิดน้ำในมวยผม บ่อมีรู้หยุด บ่อมีรู้ยั้ง ย่อมล้นเหลือเผื่อฝั่ง พระชลนัดทีด้วยเด็จ สะเดชะพระบารมี...” เป็นลายมือของหลวงพ่อคัดลอกจากลายมือเดิม (หน้าสุดท้ายหนังสืออิทธิปาฏิหาริย์ ท่านเขียนผิด ต้องเข้าใจด้วยว่า ท่านเรียนมาแค่ประถม 2 แต่ท่านเขียนขอมเก่ง แต่เอาเข้าจริง ภาพจิตรกรรมฝาผนังนั้น เป็นการวาดขึ้นตามจิตนาการ เพื่อให้ผู้รู้น้อยได้เข้าใจ ไม่มีพระยามาร ขี่ช้างมาทำร้ายพระพุทธองค์, ไม่มีเสนามาร (ลูกน้อง), ไม่มีธิดามาร, ไม่มีจระเข้ คือพระจะไปอธิบายให้ญาติโยมเข้าใจ ญาติโยมที่ปัญญาน้อย จะไม่เข้าใจเลยจริง ๆ พระยามาร, เสนามาร, ธิดามาร คือ กิเลส มีโลภ, โกรธ, หลง คือ อยากมีระลึกถึงสมบัติ เวียงวัง, ลูก, เมียฯ โกรธ คือ ปล่อยไปตามอารมณ์ โมโห, โทสะฯ หลง คือหลงในรูป, รส, กลิ่น, เสียง (ธิดามาร) คืนวันสุดท้ายที่พระพุทธองค์ได้ต่อสู้กับกิเลส และชนะกิเลสจนหมดสิ้น ก็ได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (ตอนที่พระพุทธองค์บำเพ็ญเพียร 6 ปี) หนีออกบวชได้ศึกษากับอาจารย์อาฬารดาบสและอาจารย์อุทกะดาบส แต่ไม่อาจค้นพบหนทางพ้นทุกข์ พระองค์จึงต้องมาบำเพ็ญเพียรเอง โดยบำเพ็ญทุกกรกิริยา ฉันแต่ผลไม้ (พุทรา), ใบไม้ เดิมนั่งบำเพ็ญเพียรใต้ต้นพุทรา ฉันแต่ลูกพุทรา ที่หล่นลงมา อยู่ต่อมาฉันแต่น้ำ และไม่ฉันน้ำ แต่ไม่สำเร็จ จึงฉันอาหารที่นางสุชาดานำมาถวาย ทรงสรงน้ำ และบำเพ็ญเพียรใต้ต้นโพธิ์จึงสำเร็จ ฉะนั้นต้นโพธิ์จึงเป็นสัญลักษณ์ของความร่มเย็น

    คาถาบทที่ 3 เป็นคาถาบารมี 10 แตกแยกออกมา 30 ข้อ เรียกว่า คาถาบารมี 30 ทัศ (ทัศน่าจะแปลว่า ข้อ) คาถาบารมี 30 ทัศนี้ เป็นบารมีของพระพุทธเจ้า ที่บำเพ็ญเพียรมา เวลาทำน้ำมนต์ 3 บท ต้องใช้คาถาบทที่ 3 นี้ด้วย เล่ากันว่า ครูบาศรีวิชัย ตอนบูรณะเมืองเชียงใหม่, ลำพูน, ลำปางฯ (บูรณะวัด, เจดีย์) ท่านสวดบทนี้ 5 ทุ่ม ตี 1, ตี 2 เศรษฐีไม่อาจนอนหลับได้ ต้องให้คนใช้หาบเงินมาทำบุญกับท่าน คาถา 3 บทนี้ บทที่ 1 และ 2 เป็นทั้งมนต์ดำและมนต์ขาว บทที่ 2 ขึ้นต้นด้วย “ตัสสา เกสีสะโต...” สวดอยู่ยามค่ำคืน ใครจะทำอะไรไม่ได้เลย คนที่คิดไม่ดีต่อเรา จะแพ้ภัยตัวเอง คาถา 3 บทนี้ใช้ทำน้ำมนต์ รดอาบจะชนะศัตรู, ใช้เสกข้าวให้สุนัข (หมา) กิน 1-3 ก้อน จะชนะศัตรู คาถานี้ขึ้นต้นด้วย (บทที่ 3) “อะยันตุ โพนโต...”

    ส่วนพระพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบนี้ เดิมหลวงพ่อใช้ได้ดำหริสร้างไว้ 2 -3 แบบ แต่รูปแบบ ยังไม่เป็นที่พอใจ สร้างก่อน พ.ศ. 2513 มีพิมพ์ด้านหลังเป็นรูปพระพุทธชินราช ด้านพระพุทธชินราชนูนออกมาไม่สวย, อีกพิมพ์หนึ่งเป็นยันต์ดวงแก้ว (ยันต์คล้ายของเจ้าคุณนร) ในปี พ.ศ. 2512 สร้างเป็นยันต์พระเจ้า 5 พระองค์ (ตุ๊กตา) แต่เป็นยันต์นูน (ทำไม่มาก ปลอมยากสักหน่อย) ในปี พ.ศ. 2513 สร้างด้วยยันต์จม (เขียน พ.ศ. ว่า 2513 ยันต์ตุ๊กตา) และมีแบบหลังแม่ธรณี เส้นจมอยู่ด้านหลัง ทางวัดราชนัดดา กรุงเทพ ท่านเจ้าอาวาส นับถือหลวงพ่อเป็นอาจารย์ (ท่านก็เป็นพระเกจิอาจารย์) ได้ปรึกษากันขอสร้างพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบ และพระสมเด็จหลังพระสิวลี ก็สร้างประมาณ พ.ศ. ใกล้เคียงกัน แต่ของวัดราชนัดดา เขาใส่พลอยเป็นเม็ดเล็ก ๆ ได้สร้างขนาดบูชา เนื้อผงด้วย (ดินก็สร้างแต่ปลอมมาก โดยมากปลอม)

    พระพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบที่พบมากและนิยม จึงมีเพียง 2-3 แบบ ที่พบมากคือหลังยันต์จม (มีทั้งบอก พ.ศ. 2513 และไม่บอก พ.ศ. ที่แพงและนิยมสุดๆ คือพิมพ์หลังแม่ธรณี มีทั้งแบบผ้าถุงถี่และผ้าถุงห่าง ผ้าถุงถี่ทำน้อยกว่า) เล่ากันว่าหลังยันต์ดีทางคุ้มภัย เรียกให้ช่วย ถ้าเป็นหลังแม่ธรณีเขาว่าเงินทองจะไหลมาเทมาคล่องกว่า จึงนิยมกว่า

    การสร้างและการกดพิมพ์ พระใน พ.ศ. 2513 (ยันต์จมและหลังแม่ธรณี) ได้ทำ 2 ครั้ง คือ พ.ศ. 2513 หลวงพ่อทำเองกับมือ แต่ทำได้น้อย จึงทำครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2516 พระที่บูชาใช้กัน ส่วนมาก (โดยมาก) เป็นการทำครั้งที่ 2 พระทำครั้งที่ 2 นี้แจกไม่หมด ศิษย์ไม่อยากได้เท่าไรเพราะพระใหญ่โต มาเล่นหากันตอนที่รู้ว่าพระของท่านเก่ง เก่งมากๆ โตก็จะใช้ พระเก็บไว้ในหีบหนัง ท่านพูดว่าพระนี้เขามีเจ้าของ ไม่ช้าไม่นานเจ้าของเขาก็จะมาเอา พระพิมพ์นี้ใช้น้ำมันตังอิ๊วเป็นตัวประสาน พระจึงดูไม่แห้งเท่าอายุ (พระชุด 2 นี้มีปลอมแกะพิมพ์ใหม่ แกะพิมพ์ได้สวยกว่าของเดิม มวลสารที่ใส่มากกว่าของเดิม)

    มวลสารที่ผสมใส่ หลวงพ่อจะใส่ผงสมเด็จโต, ผงของท่าน, เกศา, พระธาตุ, เกศาผู้มีบุญ, แร่ต่าง ๆ, เถ้าอังคารหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, เถ้าอังคารหลวงพ่อศรี (สี) วัดพระปรางค์, ดอกไม้ดอกกาหลง, ดอกพิกุล, ว่านเสน่ห์จันทร์, ว่านสาวหลง, แป้งสาวพรหมจรรย์, แร่เพชรหน้าทั่ง, แร่โคตรเหล็กไหล, ขนนกการะเวก พระพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบ (พิมพ์ 2 ครั้ง) ท่านทำไว้เกือบ 12 สี มีน้ำตาล, ชมภู, ดำ, ขาว, ดอกมะลิ, ส้ม, เขียวฯ แต่ชนิดสีพบน้อย ที่พบมาก คือ เปือกไข่, ขาว, พิกุล, ส้มฯ สีดำพบน้อยดูยากสักหน่อย

    การเสกท่านจะเสกด้วยคาถา 3 บท มากที่สุด เพื่อช่วยเหลือคน (ศิษย์) โดยอ้างอิง พระแม่ธรณีให้มาช่วย นอกจากนั้นก็เสกด้วยพระปริตร แก้โรคระบาด แก้และกันห่ากินคนและกินสัตว์ และเสกด้วยบทอื่น ๆ อีกหลายบทเป็นเรื่องแปลก แปลกมาก ๆ และมหัศจรรย์ คือ พระพิมพ์ปรกโพธิ์ 9 ใบนี้ สามารถบอกเล่าเวลามีภัย สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ ภายใน 5 วินาที ถึง 5 นาที เหมือนเช่นกำลังโดนจับ ค้น ขอดูใบขับขี่, ขอดูสำเนารถ, รถชนกันฯ แล้วเราโทรไปหาตำรวจ ยศสารวัตร โทรติดให้เขาช่วยพูดเรื่องจบเลย เมีย (พวกบ้าน, ภรรยา) จับได้ว่า ไปมีกิ๊ก สามารถบอกเล่ากับคาถา 6 ตัว บางคนแก้ไขไม่ได้ อาจต้องบอกเล่ากับหลวงพ่อและพระปรกโพธิ์ 9 ใบ อาจแก้ไขสถานการณ์ได้ ภายใน 5 นาที ถึงครึ่งชั่วโมง (ถ้าแก้ไม่ได้อาจถึงบ้านแตก) พระนี้มีเทพยดาที่ใจร้อน, ใจไว, จิตไว, ปกปักรักษาอยู่ (ขอจัดอันดับ 1 แหวกม่านอกใหญ่ก็อันดับ 1 หลังรูปรุ่นแรก พิมพ์เล็กนิยมก็อันดับ 1 เก่งทั้ง 3 แบบ ไม่ขอจัดเป็นรองพระ 3 แบบ เนื้อผงนี้ ถ้าท่านมีปัจจัยมาก ทำธุรกิจหลายร้อยล้าน ควรหาไว้ พระนี้ไม่เป็นรองใคร ถ้าจะเป็นรอง ก็เป็นรองแต่ของสมเด็จโต แต่ก็ใช้ผงสมเด็จโต ผสมสร้างองค์จริงๆ หาได้ยาก ดูยากด้วย ดูยากกว่าแหวกม่านอกใหญ่ และหลังรูป 1 พิมพ์นิยม)
     
  13. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ขอขอบคุณ บทความจากครูเฒ่า สุพรรณ
    หนุมาน ลพ.กวย

    หลวงพ่อกวย สืบทอดวิชาคาถาและยันต์ของสำนักหลวงพ่อเฒ่า รื้อค้นตำราเก่าของหลวงพ่อเฒ่า สืบวิชาจากหลวงพ่อสอน เจ้าอาวาสองค์ต่อมา เจ้าอาวาสองค์ต่อมาชื่ออาจารย์ดิษฐ์ ก็นับถือหลวงพ่อกวยเป็นอาจารย์ ทั้ง 2 องค์นี้รักและชอบพอกับหลวงพ่อกวยมาก ได้ยกตำราของหลวงพ่อเฒ่าให้มาหลายเล่ม เขียนจากกระดาษสา (เดิมเป็นกระดาษสมุด) ใช้จดเรื่องราวต่างๆ ยาวหลายวา หลายเล่ม สีแดงคล้ายเลือด เขียนหน้าปกว่าครูแรง หลวงพ่อเรียนคาถาและยันต์ จากสำนักนี้ โดยเฉพาะยันต์และคาถาเกี่ยวกับหนุมาน หลวงพ่อนำยันต์และคาถา มาผสมผสานกับยันต์และคาถา สำนักหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ อยุธยา โดยสืบทอดวิชาจากครูรุน, ครูเพ็ง และอาจารย์แหล่ม วัดท่าช้าง (สิงห์บุรี) โดยใช้คาถาหินเบาปลุกเสก วัตถุมงคลทุกแบบ คาถาเป็นของอิสลามที่เรียกว่า 9 เฮ หลวงพ่อเขียนชื่อวัดผิด โดยเขียนว่า หลวงพ่อกลั่น วัดทะยาน (พระญาติ) เมื่อได้เสกด้วยคาถาหินเบา ยันต์และรูปหนุมานของหลวงพ่อ จึงเข้มขลัง ทางต้านอาวุธได้สูง ศิษย์ที่สักยันต์จากหลวงพ่อจึงเข้มขลัง เหนียวมาก ถ้าสักยันต์หนุมาน (รูปหนุมาน) บางคนได้สักเป็นรูปยันต์ ถึงกับยิงไม่ออก ต่อมาหลวงพ่อได้สร้างรูปหนุมานด้วย ไม้แกะ (ไม้แก่นสีดำ) เป็นแบบหนุมานไม่ทรงเครื่อง คือแกะง่ายๆแต่สวย ที่แกะสวยคือแกะจากงาและเขา แต่ทำน้อยแกะทรงเครื่อง นั่งชันเข่า เอามือพาดเข่า แต่ทำน้อย หายาก คนเลยนำไปขายเป็นหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน

    ต่อมาประมาณ พ.ศ. 2512-15 หลวงพ่อได้สร้างหนุมานจากทองเหลือง ทองแดง เรียกว่าสำริดก็ได้ ลงหินก็ได้ คือเนื้อทองแดงผสมทองเหลือง หล่อแบบนั่งสมาธิ สร้างจำนวนองค์ไม่แน่ชัด น่าจะ 1,000-2,000 องค์ พ.ศ. ก็ พ.ศ. 2512 หรือ 2515 เสกประมาณ 5 ปี คือ พ.ศ. 2517 ผู้เขียนไปวัดกับอาจารย์เหวียน มณีนัย ได้พบในตู้ (ตู้พิพิธภัณฑ์) 2 องค์ กรรมการหยิบออกมาให้รู้ว่า หลวงพ่อมีหนุมานจำหน่าย ถ้าสนใจก็ถามหรือขอบูชาจากหลวงพ่อ (หลวงพ่อไม่นำวัตถุมงคลมาวางจำหน่ายในตู้ แบบวัดทั่วไป ในตู้ก็มีไม้เท้า, ดาบ, ลูกปืน (เครื่องบิน), เต่า 2 ตัว ท้องติดกันดองไว้, กระดูกผี, แร่ฯ ในตู้มีดินน้ำมันรูปสมเด็จหลังรูป รุ่นแรกตัวอย่าง 1 องค์, รูปหนุมาน 2 องค์ฯ) ให้จำหน่ายสมัยนั้น 50 บาท ถือว่าแพง ใต้ฐานบรรจุกริ่ง ปาดเรียบแน่นหนา โดยมากจะจารใต้ฐานด้วยนะ หนุมาน อมพลับพลา นะนี้ถ้าท่านลงกระหม่อม หรือยันต์ให้ใคร สู้กับใคร ไม่มีการแพ้ ถ้าตั้งใจสู้ อย่างเลวคือเสมอ นะตัวนี้รูปร่างคล้ายแว่นตาของคน หลวงพ่อสร้างจากโลหะศักดิ์สิทธิ์ คือตะกรุด, ชนวนลงยันต์และเสก, ดาบ, พร้า, มีด, 3 ง่ามทองเหลือง (ได้จากนายชิ่น แซ่โอ 1 อัน, เจ็กฉัน (นายฉัน) 1 อัน, นายแป๊ะเล็ก คนหัวเด่น 1 อัน) คือหนุมานนี้ ถ้าจะสร้างให้ถูกต้องตามตำรา ต้องสร้างจากโลหะ (อาวุธ) หนุมานรูปนี้ ผู้รู้ได้เขียนเป็นกลอนไว้ว่า

    • นี้คือรูปขุนกระบี่ มีศักดา
    ฤทธิ์แรงแข็งกล้า ชาญสมร
    ปางพระราม รบราพย์ ราญรอน
    คือวานรหนุมาน หาญณรงค์ ๛

    คือ หลวงพ่อสร้างหนุมาน ปางรบกับไมยราพย์ ไมยราพย์ได้พรมาเข้าใจว่า ได้จากพระอินทร์ ใครสู้ด้วยต้องแพ้ ไมยราพย์สามารถสะกด ให้หลับไหล เมื่อหลับก็จะแพ้ ถูกไมยราพย์ฆ่าตาย ไมยราพย์ตั้งใจมาฆ่า พระราม และกองทัพ หนุมานได้แปลงร่างเป็นพลับพลานำพระราม, พระลักษณ์ ทหารคนสำคัญให้เข้าไปอยู่ในพลับพลา ไมยราพย์มา หวังจะฆ่าพระราม แต่หาไปพบ พบแต่พลับพลา รูปลิงหมอบอยู่ งานนี้ถือว่าเสมอกัน (ภายหลังหลวงพ่อได้ใช้ยันต์หนุมานยกพล (ยกธงรบ) ใส่ให้ไว้ที่หลังเหรียญรุ่น 3 ที่เรียกว่าเหรียญหนุมาน เหรียญรุ่นนี้ถือว่าเก่งมาก เล่นหากันแซงเหรียญรุ่น 2 ราคาแพงเป็นแสนบาท แสนต้นๆและเก่งจริง ต้านปืนเอ็ม 16 ได้, ต้านอาร์ก้าได้, ต้านระเบิดได้, จะกล่าวถึงในตอนต่อไป ปี 2562 ผู้เขียนคิดสร้างเหรียญหลังหนุมานย้อนยุค ไว้แจกผ้าป่า จะได้แบ่งปันกันบูชาได้)
     
  14. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ขอขอบคุณ บทความจากครูเฒ่า สุพรรณ
    เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อกวย ผู้วิเศษแห่งเมืองสรรค์

    หลวงพ่อได้บรรจงสรรค์สร้าง เหรียญรูปของท่าน คือรุ่นแรก สร้างปี 2504 เสก 2 ปี จึงแจกศิษย์ ปี 2506 (เดิมผู้เขียนพูดว่า เหรียญรุ่นแรกปี 2506 แต่ทางศิษย์ เขาจะพูดปีเกิด คือปีสร้าง คือ 2504 ผู้เขียนจึงฟังเขา เอาเป็นว่า 2504) เหรียญสร้างประมาณ 5,000 เหรียญ (ห้าพันเหรียญ) มีเนื้ออัลปาก้า 20 เหรียญ (ข้อมูลเก่า 9 เหรียญผิด) สมัยก่อนการสร้างเหรียญและรูปหล่อทำได้ยากมาก (โดยเฉพาะรูปหล่อปั้ม) เล่ากันว่าต้องเอาแบบเหรียญ ยังไม่ตัดขอบเอาไปเผาไฟ จึงจะปั้มให้เป็นรูปได้ แบบตีมีดเหรียญที่ 20 เหรียญอัลปาก้า อันสุดท้าย เผาไฟไม่ได้ขนาด คือความร้อนและเวลาไม่ได้ โลหะแข็งตัวพอปั้ม ปั้มไม่ลงไม่ได้รูป พอปั้มซ้ำ เหรียญเขยื้อน เหรียญเสีย บล๊อคก็เสีย เหรียญที่ 20 หลวงพ่อให้หลานท่านไว้ (ป้าสมนึก ภู่งาม)

    เหรียญไม่ได้บอก พ.ศ. ด้านหลังยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้า ใส่แบบเต็ม ๆ เหรียญจึงค่อนข้างโต แต่บาง เหรียญจึงไม่หนักคอ คาถายันต์มงกุฏพระพุทธเจ้านี้ป้องกันภัยได้ทุกแบบ กันอาวุธปืน, กันเขี้ยวงา, ปักเป้า, จระเข้, งูพิษ, กันภัยได้สูงมาก เป็นคาถาที่มีอยู่ในตำราพิชัยสงคราม แม่ทัพแต่ก่อนต้องเรียน เป็นคาถาสำคัญพอๆกับคาถากันภัย 8 ทิศ หลวงพ่อเคยเขียนตะกรุดและผ้ายันต์ โดยใช้คาถายันต์มงกุฏพระเจ้า แล้วล้อม 8 ทิศ ด้วยคาถากันภัย 8 ทิศ กันภูติ, ผี, โจร, เสือ, ช้าง ได้ อาวุธก็กันได้ จะเตือนภัยบอกเหตุให้ตื่นได้ เวลามีภัย (ยันต์ลายมือของท่าน มีอยู่ในตำรายันต์เล่ม 3 หน้า 37 (75)

    ส่วนคาถาภาวนาประจำเหรียญ คือคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า คาถานี้น่าเรียน คาถาว่าดังนี้
    • อิ ติ ปิ โส วิ เส เส อิ
    อิ เส เส พุท ธะ นา เม อิ
    อิ เม นา พุท ธะ ตัง โส อิ
    อิ โส ตัง พุท ธะ ปิ ติ อิ
    • คาถาลงท้ายด้วย ปิ ติ อิ ขึ้นต้นด้วย อิ ติ ปิ

    คาถานี้ถ้าจะเสกข้าวกิน ให้ว่าคาถาต่อท้ายว่า “ตะ โจ พระพุทธเจ้า จงมาเป็นหนัง, มังสัง พระธรรมเจ้า จงมาเป็นเนื้อ, อัฏฐิ พระสังฆเจ้า จงมาเป็น กระดูก, ตรีเพชร์ ฆง ฆง อิสวาหะ หะสวาสุ สุสวาอิ พุทธปิติ อิ” ฯ (คาถานี้เรียก มงกุฎของพระพุทธเจ้า) ประเสริฐนัก

    คาถานี้เขียนตามลายมือของท่านทุกอย่าง หน้า 95 (79) เล่ม 3 คาถาที่ใช้เสกข้าวนี้ ไม่เคยเขียนมาก่อนนี้ และไม่พบในตำราคาถาของอาจารย์องค์อื่น ส่วนคาถาท่อนบน คือคาถามงกุฏพระพุทธเจ้านี้ เล่ากันว่าหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เคยประทานให้พระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ตอนเสด็จประพาสยุโรป (ฝรั่งเศส) และพระเจ้าอยู่หัวของฝรั่งเศส ได้ประทานม้าพยศพันธุ์ฝรั่งเศส ใหญ่โตมาก ไม่เชื่องให้รัชกาลที่ 5 เพื่อทดสอบบารมีและบุญญาธิการ พระพุทธเจ้าหลวงได้ใช้คาถา มงกุฏพระพุทธเจ้าท่อนบนที่เป็นภาษาขอม เสกหญ้าให้ม้ากิน และทรงขี่ได้โดยง่าย และนำกลับมาประเทศไทย ภายหลังได้ปั้นพระบรมรูป โดยทรงอยู่บนหลังม้า ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า


    ยันต์นี้นิยมเขียนหรือพิมพ์เพื่อรองหมวกเวลาเข้าสงคราม ถ้าจะสัก จะสักได้ตำแหน่งเดียว คือศีรษะ เพราะเป็นยันต์สูง แม้ยันต์ดวงแก้วพระพุทธเจ้า หลวงพ่อยังสักตรงกระดูกคอ ด้านหลังใต้ขอบเสื้อ คาถานี้ภาวนาเป็นกำบังได้ (หายตัว) ดับขันให้แอบที่กอหญ้า ยึดกอหญ้าหลับตาภาวนาคาถานี้ แม้หลับอยู่ก่อนหลับภาวนาคาถานี้ เมื่อหลับคนจะหาไม่พบ (ถ้ามาไม่ดี) เสกกิ่งไม้ใบไม้ นำมาผูกประตูเข้าบ้าน (ด้านนอก) คนร้ายจะหาบ้านไม่เจอ ไปเผาผีมา ไม่อยากให้ผีตามมาบ้านถูก ให้เสกกิ่งไม้ใบไม้ ผูกประตูบ้าน ผีหาบ้านไม่เจอ ป้องกันผีแม่หม้าย ก็ทำแบบเดียวกัน ภาวนาเป็นกำบัง, แคล้วคลาด, มหาอุด, จังงัง, เมตตา ได้ แล้วแต่จะนึกเอาภาวนาก่อนนอน เป็นกำแพงล้อมรอบตัวเอง ล้อมรอบบ้าน, ล้อมสิ่งของได้ ภาวนาเป็นกำแพงล้อมตัวเอง ผีจะเข้ามาทำร้ายไม่ได้เลย

    จริงๆแล้วในเมืองสรรค์และใกล้เคียง ยังมีพระที่เก่งทางกันอาวุธพอ ๆ กับหลวงพ่อหรืออาจเก่งกว่า ได้สร้างเหรียญไว้องค์ละ 1 รุ่น สมควรบันทึกเอาไว้ เพราะเขาเก่งจริง สร้างไว้ทันตัว ถ้าท่านพอมีฐานะควรหาไว้ แต่จะหายากสักหน่อย (เพราะทำไว้น้อย เหรียญและรูปหล่อ) เรียงไว้ตามลำดับอายุ ดังนี้

    (1) หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง วัดอยู่หลังตลาดสรรค์บุรี ตรงข้ามบ้านพระเอก กุ้ง สุทธิราช วงศ์เทวัญ อยู่คนละฝั่งแม่น้ำ (แม่น้ำน้อย) เหรียญท่านเป็นเนื้ออัลปาก้า รูปไข่
    (2) หลวงพ่อปลื้ม วัดสังฆาราม อยู่หลังตลาดสรรค์ วัดอยู่ริมแม่น้ำน้อย ขึ้นไปทางเหนือของตลาดสรรค์ ประมาณ 1 กิโลเมตร สร้างเหรียญรูปใบมะยม อัลปาก้า
    (3) หลวงพ่อคง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ วัดอยู่ทางทิศตะวันออก ของตลาดสรรคบุรี มาทางสรรพยา วัดเดียวกับหลวงพ่อเชื้อ สุกวัณโณ เหรียญทองแดง รูปไข่เต็มองค์ ออกแบบสวยมาก เนื้อหาเก่าเป็นสำริดเลย (เหรียญหลวงพ่อปลื้ม เนื้ออัลปาก้า ใบมะยม แบบหลวงพ่อศรีวัดพระปรางค์) หลวงพ่อคง เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อโม และหลวงพ่อเชื้อ
    (4) หลวงพ่อโม ธัมมรักขิโต วัดจันทนาราม วัดอยู่ทางแยกเข้าวัด หลวงพ่อคงและหลวงพ่อเชื้อ ติด ๆ กัน เป็นศิษย์หลวงพ่อศุข วัดปากคลองฯ และหลวงพ่อเดิม หนองโพ องค์นี้สร้างเหรียญรูปไข่ครึ่งองค์เหรียญขนาดกลาง, รูปหล่อปั้มสวยมาก องค์นี้บู๊ล้างผลาญเลย เหนียวสุด ๆ (เหนียวแบบไก่ตี), หลวงพ่อโต คล้องอยู่ จะทำอะไรใครก็ไม่ได้ เขาจะมาทำอะไรก็ไม่ได้, หลวงพ่อปลื้ม คงกระพันสูง ยันต์ที่ลง คือ อุทธัง อัดโธ โธอุด ทังอัด (ลงชัดเจน), หลวงพ่อคง ดีทางคงกระพัน มหาอุดถอนคุณของด้วย (บ้านเดิมท่านอยู่โคราช) เหรียญหลวงพ่อเชื้อ ปี 2506 รุ่นแรกก็เก่ง เช่นกัน

    สี่องค์นี้ผู้เขียน ขอรับประกันความเก่งของเหรียญและวัตถุมงคลขึ้นเหนืออีกหน่อย ก็เหรียญรุ่นแรก หลวงพ่อปากคลองมะขามเฒ่า (ศุข) ไปทางใต้อีกนิ๊ด ก็เหรียญรุ่นแรกใบมะยม หลวงพ่อศรี (สี) วัดพระปรางค์ หลวงพ่อกวย เรียนวิปัสสนา ตอนอายุ 28 ปี 8 พรรษา กับหลวงพ่อศรี (สี) และเรียนยันต์มงกุฏพระเจ้า จากหลวงพ่อศรี ทำได้ขลังมาก ถ้าสักลงศีรษะ จะรัดเตือนภัยได้ เวลามีภัย ตำรวจกักด่าน ก็จะรัดเตือนภัย คนไม่ดีมาบ้านก็จะรัดเตือนภัยได้ นายเชนเคยทำแหวนแขวนขาด (เตือนภัยถึงตาย) ได้ไปขอแหวนแขนจากท่านใหม่ ท่านให้โกนหัวแล้วสักยันต์มงกุฏพระพุทธเจ้าให้เขาจะรัดเตือนภัยทุกครั้ง ถ้ามีภัย

    ปัจจุบันเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อกวยนี้ เดือนธันวาคม 2560 เช่าหากันเนื้อฝาบาตร 1 ล้าน 5 แสนบาท เนื้ออัลปาก้า ปลายปี 2559 เช่าหากัน 3 ล้านบาท นับว่าแพงมาก รุ่นต่อๆมา 2-3 (ออกให้วัดเขาใหญ่ 1 รุ่น, วัดเดิมบางฯ 1 รุ่น) ก็แพงตามๆกันมา แม้จะสร้างในรุ่นหลัง ศิษย์ก็นิยมใช้ดีด้วยไม่ต้องจ่ายแพง เช่นเหรียญหนุมานต้องจ่ายถึงเกือบ 1 แสนบาท ถึงแสนเศษ ถ้าสวย (2560) แต่ถ้าบูชาของใหม่ จ่ายแค่ 200 บาท ก็ได้คล้องขลังด้วยโก้ด้วย คล้องออกนอกเสื้อเลย ทั้งตลาดสรรค์, ตลาดหันคา, ตลาดท่าช้างฯ หลวงพ่อมีความพิเศษกว่า หลวงพ่ออีกหลายองค์ ซึ่งศิษย์รุ่นหลังให้เหตุผล คือ วัตถุมงคลที่สร้างในนามหลวงพ่อ เช่น รูปของท่าน จะเก่าจะใหม่ จะมีคุณวิเศษ คล้าย ๆ กัน ขอให้สร้างปลุกเสกถูกต้อง บอกเล่าท่าน เจตนาบริสุทธิ์ จะขลังไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน คุณวิเศษที่กล่าวถึงนี้ พอสรุปได้ดังนี้ (1) คงกระพัน, แคล้วคลาด, กำบัง, กันศาตราวุธ, สุนัขกัดไม่เข้า, เหนียว

    บางคนคล้องอยู่เหยียบตะปูทะลุรองเท้า ตะปูคดเลย ไม่เข้า, ขี่รถชนหลักกิโลเมตรรถไม่พังมาก คนกระดูกไม่เคยหักเลย รถใหญ่กระบะ, เก๋ง ถ้าจะชนกัน ก็เล็กน้อย ตกข้างทาง คนไม่เป็นอะไร, แหวนนิ้ว วงเดียว คุ้มเด็กในรถ 8-9 คนได้ พลิกคว่ำหลายตลบ (หมอเฉลียว เดชมา) เรื่องแรกนี้ ผู้เขียนว่าไม่เท่าไร หลวงพ่อองค์อื่นก็ทำได้ (2) รักศิษย์ หลวงพ่อมีความเมตตาต่อศิษย์เหมือนพ่อรักลูกศิษย์ทุกข์ร้อนทางใจ ไม่ว่าเรื่องเล็ก, เรื่องใหญ่, เรื่องไม่เป็นเรื่อง, เรื่องไร้สาระ, ถ้าช่วยได้จะช่วยเลย ไม่มีการครอบครูเอาหัวโขนมาใส่ ไม่มีการเรียกร้องค่าครู อยากมีผัวฝรั่งก็หาให้, มีหนี้เป็น 10-20 ล้านมาบอก ให้ช่วยก็ช่วย, จะสอบเป็นครู, เป็นตำรวจ, ทหาร, มาบอกให้ช่วย ช่วยได้ก็ช่วย นายหม่อง เป็นตำรวจ สภอ.บ้านไร่ ชื่อจริง (ลำพอง) ปัจจุบันคงติดนายร้อยแล้ว ตอนสอบเป็น พล.ตำรวจ วิ่งสู้เขาไม่ได้ รั้งท้ายเลย บอกกับหลวงพ่อในใจ พอจะเข้าเส้นชัย เหมือนมีคนมาถีบ หัวทิ่มเข้าเส้นชัยได้ที่ 1 หลานป้าสมนึก ภู่งาม บ้านอยู่ตรงข้ามป้ายปากทางเข้าวัดสี่แยก มีหลานสาวจบครูมา ปริญญาตรี ชื่อ ปู สอบบรรจุไม่ได้มา 2-3 ปีแล้ว สาเหตุเพราะหนุปู เป็นครูที่ดี เด็กรักมาก เวลาจะสอบบรรจุ ก็บนกับหลวงพ่อ ขอให้สอบบรรจุให้ได้ เด็กนักเรียนรู้เข้าก็ไปบนบ้าง ยกห้องไป 2-3 ห้อง ขอให้คุณครูปู จงอย่าสอบได้ เพราะพวกหนูรักคุณครูปูมาก ไม่อยากให้ไปสอนที่อื่น ผลการสอบ แรงสินบนของเด็กเป็นร้อยคนชนะ ครูปูก็สอบไม่ได้ หลวงพ่อก็ไม่เท่าไร

    ผมเคยขอให้ถูกหวย 90 ล้าน ชื้อหวยที่วัดเลย คิดเพ้อฝันไปว่าถูกหวย 90 ล้าน จะให้พี่, ให้น้อง ที่เหลือ 80 ล้านให้ลูกและเมีย พอหวยออกมาถูกแต่ตัวแรกกับตัวสุดท้าย หนูปูก็เสียใจ ป้าสมนึก ยิ่งเสียใจใหญ่ สอบมา 2-3 ปีไม่ได้ เดือน ธันวาคม 60 ผมไปวัด โทรหาป้า ป้าไม่อยู่บอกว่า พาหลานไปสอบบรรจุครูที่ชัยนาท กลัวเด็กมาบนไม่ให้สอบได้ ป้าพูดด้วยความน้อยใจ ผมตำหนิว่าป้าทำไม่ถูก ไม่น่ามองข้ามหลวงพ่อ ป้าพูดว่าให้ผมบอกเล่าหลวงพ่อให้ที ผมบอกได้ มาบอกกับหลวงพ่อให้ช่วยหนูปูด้วย บนว่าจะบวชพระให้ 1 รูป ผ่านมา 3 วัน ผมโทรไปถามป้า ป้าบอกว่า สอบติดแล้วได้ที่ 1 ของชัยนาทเลือกโรงเรียนอนุบาลสรรคบุรี ตรงข้ามบ้านกุ้ง สุทธิราช วงศ์เทวัญ ผมดีใจมาก ถ้าผ่านไปวัดว่าจะลงขันบวชพระด้วย เมื่อถามถึงว่า 2-3 ปีมานี้ ทำไมสอบไม่ได้ ป้าพูดว่าสงสัยหลวงพ่อจะไม่ให้ไป ป้าบอกก็สอบที่น่าน, เถิน, แม่สอด, อุ้มผาง, โค้ง 100 ศพฯ หลวงพ่อเลยไม่ให้ไป ป้านึกได้ ป้ากราบขอโทษหลวงพ่อครูปูก็ด้วย

    เรื่องหลวงพ่อรักศิษย์นี้ แม้พวกแข่งรถก็มาบอกเล่าหลวงพ่อ เขาพูดว่าหลวงพ่อชอบแข่งรถ ผมก็งง หลวงพ่อไปชอบตอนไหน หลายครั้งมีคนขับรถแข่งมาแก้บนที่วัด วันเสาร์-อาทิตย์ มากันมาก ขนาดวัดต้องตั้งโรงทานเลี้ยง 5 ธันวาคม 60 ผมไปวัดหลวงพ่อเฒ่า เสก 12.30 น. เอาเหรียญรุ่นมงคลคู่ชีวิต และ “มงคลถาวร” รุ่นกันปืน เอาไปเสก 17 ธันวาคม 60 ที่วัดเสกรุ่นแรงครู ผมนำเหรียญ 2 รุ่นนี้ไปเสก พระรุ่นแรงครู เขาตั้งใจทำดีมาก เจ้าคณะจังหวัดชัยนาทสร้าง นำปัจจัยเพื่อดูแลพระและเณรในจังหวัดชัยนาท พระมาเสกหลายองค์ บางองค์มาก่อนเสก บางองค์หมดฤกษ์แล้วก็ยังเสกต่อ เสกให้นานมาก ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ทางเจ้าคณะจังหวัด มีหนังสือเชิญผมไปเททองเหรียญน้ำมนต์, เต่าอาคม, พระสิวลี และวันเสกก็เชิญให้ไปบอกเล่า ผมบอกกับท่านว่า “หลวงพ่อจะเสกหรือไม่เสก เขาก็ว่าหลวงพ่อเสก ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เสกให้เต็มที่เลย เพื่อสร้างบุญบารมี ในภพต่อ ๆ ไป จนเป็นพระปัจเจกโพธิ์ เสกให้เหมือนเสกเหรียญรุ่น 1-2-3 เลย” (ดูเหมือนท่านจะรับรู้ และอยากฟังความเห็นของผู้เขียนอยู่) วันนั้นตลกโป้งเหน่งก็มา เข้าใจว่าเขาชื่อโป้งเหน่ง ตัวดำ ๆ โกนหัว ล่ำ ๆ รูปร่างคล้ายนักมวย รถแข่งก็มาแก้บนหลายสิบคัน คือ ที่ศิษย์รักหลวงพ่อตรงที่ ท่านช่วยในเรื่องปัจจุบัน ค้าขาย, สอบเลื่อนขั้น, เลื่อนตำแหน่ง, ทวงหนี้, ขอยืมสตางค์, ปวดหัวตัวร้อน, ผีเข้า, เจ้าสิง, ซึ่งเป็นเรื่องของคนในปัจจุบัน น้อยคนนักที่จะโดนยิง แต่ท่านช่วยในเรื่องปัจจุบัน ท่านจึงอยู่ในหัวใจศิษย์เสมอมา และมากขึ้นเรื่อง ๆ (ศิษย์)
     
  15. berbapor

    berbapor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,850
    ค่าพลัง:
    +21,862
    สวัสดียามดึกครับพี่หนุ่มเมืองแกลง เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน และผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงพ่อชาญณรงค์ อภิชิโต ทุกๆท่าน มาติดตามข้อมูลพี่หนุ่มเหมือนเดิมครับ
     
  16. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ขอขอบคุณบทความจาก ครูเฒ่า สุพรรณ
    ปืนปลิดวิญญาณและมีดหมอ (มีดเทพศาสตรา)


    หลวงพ่อกวยเป็นพระสายบู้และเมตตาและค้าขาย เล่ากันว่าท่านคือราชครู องค์ก่อนของเมืองสรรคบุรีกลับชาติมาเกิด (เมืองแพรกศรีราชา หรือ เมืองพญาแพรก) เมืองสรรค์เป็นเมืองใหญ่จะมีวัดมหาธาตุอยู่ภายหลัง เมืองชัยนาทและเมืองสรรค์ ต้องมารวมกันจึงหาอำเภอเมือง ระหว่างชัยนาทกับสรรค์ สรรค์มีแม่น้ำน้อยเล็กมาก เลยแพ้เมืองชัยนาท มีแม่น้ำเจ้าพระยา สมัยก่อนใช้แม่น้ำ เป็นทางส่งของ คมนาคม หลวงพ่อปากคลอง (ศุข) คือ ราชครูองค์ก่อนของชัยนาทกลับมาเกิด ลักษณะของราชครูองค์ก่อน (สมัยสมเด็จโต ยังใช้ราชครูปกครอง คล้ายเจ้าคณะจังหวัด) คือสำเร็จวิชาหลายแขนง คงกระพัน, กำบัง, แคล้วคลาด, เมตตาฯ ทำพระไว้มากพอสมควร เมื่อมรณภาพแล้ว แม้สร้างขึ้นใหม่ ศิษย์ก็นิยม เช่น หลวงพ่อเงิน บางคลาน, หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ, หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่, หลวงปู่ทวดฯ (ท่านเหล่านี้ เคยเป็นราชครู องค์ก่อนกลับชาติมากเกิด)


    แต่ทางศิษย์ที่เกเร นักเลงทางชัยนาท เขาจะหาหลวงพ่อปากคลองและยุคต่อมาก็นับถือหลวงพ่อโม, (โต, ปลื้ม, คง) และนับถือหลวงพ่อต่อมา นับถือแบบเทพเจ้า คนจีนเชื่อว่าท่านเป็นเซียน หลวงพ่อปรงก็บอกลูกศิษย์อย่างนั้น ให้มากราบเซียน คือหลวงพ่อกวย พระอาคมก็ตามราชครูของตนเองจนพบ พระครูร้อย เดชมา เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท ก็ดีใจที่ตามหาราชครูของตัวเองเจอ (พระอื่นๆก็ด้วย เจ้าคณะอำเภอหันคา วัดอรัญวาสี, พระครูพิมพ์ เจ้าคณะอำเภอสรรค์ ก็ดีใจที่ตามหาเจอ) เรื่องหลวงพ่อเสกของแล้วยิงไม่ออก ท้าให้ลองได้ ตำรวจ สภ. อ. หันคา, สภอ.สรรคบุรี ทหารจากลพบุรี ไม่รู้ไปรู้ข่าวอะไรผิดๆมา ว่าหลวงพ่อลงปืนให้ใคร ถ้าเอาปืนนั้นไปยิงใคร ถ้าปืนนั้นไปยิงคน คนเหนียวขนาดไหนก็ยิ่งออก เรียกกันว่า ปืนอาคม, ปืนหมอ, ปืนปลิดวิญญาณฯ ตำรวจ สภอ.หันคา, สภอ.สรรคบุรี และที่อื่นๆ เอาปืนมาให้ลงให้เชื่อกันว่าคัดวิชาได้ มีดหมอชิดซ้ายไปเลย ปั้งเดียว สำลักเลือดตายเลย

    ผู้เขียนเคยไปเจอตำรวจหนุ่มๆ เอาปืนมาให้ท่านลง ท่านรู้ว่าตำรวจมา ท่านวางย่ามของท่านไว้ข้างๆ ท่านหยิบปืนของท่านออกจากย่าม เอาโผล่แต่ด้าม ตำรวจเห็นปืนก็ตกใจเพราะหลวงพ่อพกปืน ตำรวจถามว่า หลวงพ่อพกปืนเลยหรือท่านตอบ เออ สักพักตำรวจก็เอาปืนสั้นให้ท่านลงให้เอาไว้ยิงโจร ยิงเสือ (โจร) ที่หนังเหนียวยิงไม่ออก (เรื่องปืนท่านพูดกับตำรวจว่า เดี๋ยวนี้คนมันใจร้าย ยิงได้แม้เจ้าคณะจังหวัด (เจ้าคุณโกย อยุธยา ตำรวจถามท่านว่า ถ้าโจรมันมาปล้น หลวงพ่อตอบว่า ก็สู้กับมัน ถ้ามันกล้ามาปล้น กูจะยิงกับมัน จะยิงให้ไส้แตกเลย ท่านพูดหน้าตาเฉย) แล้วท่านก็เข้าไปในกุฏิ ลงปืนปลิดวิญญาณให้ตำรวจ ตำรวจบอกว่า เอาให้ออกน๊ะ ท่านบอก เออ ท่านเอาตัวตอกลายมีดตอกปืนให้ ลงให้ เสียงลงปืนดังมาก ดังปั้ง, โป้ง, ปังฯ ท่านออกมาเอาปืนส่งให้ ท่านพูดว่าที่นี้ออกแน่ ให้มีวิชาดีขนาดไหนก็ออก ตำรวจหยิบสตางค์จะทำบุญกับท่าน ท่านไม่รับ ท่านได้แต่พูดว่า คราวนี้มึงจะดังใหญ่ อยู่ต่อมาโจรรู้ข่าวว่า หลวงพ่อลงปืนให้ตำรวจ เขาก็มามั่ง ทหารก็มา ผู้เขียนก็ไป แต่บอกกับท่านว่า ลงไว้ป้องกันตัว ไม่คิดฆ่าใคร เอาว่าเขายิงมา ให้ยิงไม่ออกเท่านั้น ปืนลงอาคมของผู้เขียน จึงมีแต่รอยจาร ยิงแม่นมาก แม่นอันดับ 2 ของหมู่บ้าน (อันดับ 1) เขาใช้ .22 แมคนั่มเล็กมาก

    ท่านเคยลงปืนผู้หญิงให้ป้าสมนึก ภู่งาม (หลาน) บอกว่าถ้าโจร, ขโมยเข้าปล้นบ้าน ลักวัวควาย เร่งด่วน ไม่ต้องจุดธูปให้ยิงปืนขึ้นฟ้า (ปืนไม่ต้องเสก) แล้วค่อยจุดธูปบอกท่าน บังเอิญในบ้านแคมีคน (โจร) ขโมยควาย เอาไป 5-6 ตัว เจ้าทรัพย์รู้พอดี ได้ยิงปืนขึ้นฟ้า บอกหลวงพ่อ บอกเพื่อนฝูง โจร (ขโมย) ได้ไล่ควายข้ามแม่น้ำน้อย อิทธิฤทธิ์ของหลวงพ่อบังเกิด โจรเอาควายข้ามแม่น้ำ ควายตกใจ เชือกผูกคอควายได้พันขาโจร ควายว่ายน้ำเร็ว เชือกผูกคอควาย มาพันขาโจร ลากลงแม่น้ำ โจรสำลักน้ำตายเลย (จำชื่อเจ้าของบ้านไม่ได้ ต้องไปถามป้าสมนึก) โจรเห็นเพื่อนตายแล้ว ก็แกะเชือกออกทิ้งศพเอาไว้ เจ้าทรัพย์ตามมาทันและตามควายได้ทั้งหมด (เรื่องของหลวงพ่อลงปืนให้ตำรวจ โปรดให้ความเป็นธรรมกับท่านด้วย และต้องอ่านต่ออย่ากระพริบตา) อยู่ต่อมาตำรวจที่ได้ปืนลงอาคม ก็ได้ใช้ของจริง มีตำรวจ สภอ.หันคาเจอก่อน ควายบ้าหนีออกจากโรงฆ่าสัตว์ คำสั่งคือจับตาย ตำรวจ 3 นาย มีปืนลงอาคมของหลวงพ่อ ยิงควายจนหมดโม่ ยังยิงควายไม่ถูก ภายหลังไปจับโจรก็ยิงโจรไม่ถูก ไปยิงเป้า (ทดสอบก็ยิงไม่เข้าเป้าเลย จ่าหนูสิน เวชคง เขยคนหัวเด่นก็โดน ต้องซื้อปืนใหม่กัน ไม่รู้ว่าว่ากี่คน ก็ไปบอกกับท่านให้ยิงออก ท่านก็ทำให้จะเอาอะไรกับท่านอีก เพียงแต่ให้ยิงไม่ถูกเฉยๆ (ไม่พูด) จ่าแดง, จ่านุ้ย สภอ.สรรคบุรี ก็โดน ต้องซื้อปืนใหม่กันทั้งหมด ส่วนปืนที่ท่านพกเป็นปืนบีบีกัน ใช้ยิงหมาของท่านเวลามันพูดไม่รู้เรื่อง หมอเฉลียวซื้อให้ ท่านชอบหักไม้ข่มหนาม หรือเขียนเสือให้วัวกลัว

    ผู้เขียนก็เป็นลูกน้องอาจารย์ฝ้าย (เสือฝ้าย) ชอบพอกันหลายคน ผม 30-40 ปี เขาอายุ 70-80-90 ปี มาเป็นเพื่อนกัน คุยกัน เขาคุยว่าเส้นมือเขาขาด ยิงใครก็ออก ผมก็คุยมั่ง คุยว่าหลวงพ่อกวยให้คาถาคัดวิชา คนยิงไม่ออก ท่านได้ให้ไว้ ท่านพูดว่าเหนียวขนาดไหนก็ยิงออก ท่านให้ไว้ให้ผมเป็นเทพสังหาร (ฆ่าคนฟรี (คนเลว)) ใครว่าแน่ๆ เจอปืนผมไส้แตกทุกคน เขาเลยลดตัวเป็นเพื่อนผู้เขียน มีเสือว่อน, เสือวุ่น, เสือคอย, กำนันสำราญ (กำนันโจร), เสือเบิ้มฯ แต่จริงๆแล้วหลวงพ่อเคยให้แค่คาถาคัดวิชา เป็นคาถาบทท้ายในคาถาอาวุธ 5 ใช้คัดผี และผู้เขียนก็ไม่นิยมยิงใคร มันบาป พ่อเขาต้องเสียใจถ้าลูกโดนยิงตาย ลูกเมียก็ขาดพ่อ จะอยู่อย่างไร ถ้าเขาแย่จริง ๆ ผู้เขียนก็จะให้พรกับเขา ไม่ว่าเขาจะเป็นมะเร็ง, เบาหวาน, ไต, เอดส์, อัมพฤกษ์, อัมพาตฯ ขอโรคเหล่านั้นจงทำอะไรเขาไม่ได้ ทำอย่างไรก็ไม่ตาย อยู่ไปสัก 100 ปี จบเรื่องปืนหมอแล้ว
     
  17. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ขอขอบคุณบทความจาก ครูเฒ่า สุพรรณ
    คราวนี้จะกล่าวถึงมีดหมอ

    มีดหมอเป็นเครื่องรางอมตะ ยาว(เรื่องยาว) และมีมนต์เสน่ห์ในตัวเองสูงมาก ทำได้ยาก ถ้าจะทำให้เก่ง เป็นเครื่องรางชั้นสูง ลูกผู้ชายไทยที่ชอบเล่นหาเครื่องราง ถ้าไม่มีมีดหมอถือว่าเล่นหาเครื่องรางไม่เป็น หลวงพ่อที่สร้างมีดหมอได้ขลังและโด่งดังกว่าเขาคือ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ นครสวรรค์ หลวงพ่อเป็นศิษย์ไปเรียนมา 2470-2484 ทำได้ขลังไม่แพ้องค์อาจารย์ หลวงพ่อทำมีดหมอตั้งแต่สมัยสงคราม ทำเรื่อยมาถึง พ.ศ. 2521 (งานฝังลูกนิมิต) ตำราเก่าของหลวงพ่ออยู่ที่หลวงพ่อเฒ่า วัดคังคาว หลวงพ่อเฒ่าทำมาก่อน ตั้งใจทำแจกทหาร สมัย ร. 4 มีกบฏเชียงใหม่เกิดขึ้น หลวงพ่อเฒ่าทำก่อน (อาจารย์ของหลวงปู่ศุข) ต่อมาเจ้าอาวาสองค์ต่อมา ชื่อหลวงพ่อสอน (ศร) ได้ถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ ให้กับหลวงพ่อ สมัยหลวงพ่อมีเจ้าอาวาส วัดคังคาว ชื่อ บัญฑิต (ดิษฐ์) เป็นเจ้าอาวาสวัดคังคาว แต่เป็นศิษย์ของหลวงพ่อ ได้ยกตำราถวายให้หลวงพ่อหลายเล่ม ประกอบกับวัดคังคาว, ไม่สนใจในตำรามากนัก ถ้ากุฎิไหนว่าง (ไม่มีพระอยู่) ลิงเป็นหมื่น ๆ ตัว จะเข้าไปอาศัยนอนกลางคืน และรื้อค้นตำราเล่น เสียหาย ตำราถวายหลวงพ่อมามาก


    ต่อไปขอกล่าวถึง ประวัติความเป็นมาของมีดหมอของหลวงพ่อ ก่อน พ.ศ. 2500 หลวงพ่อทำมีดร่วมกับ หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา ใบมีด หลวงพ่อตีถวายให้หลวงพ่ออิ่ม มีนาคเกี้ยวบ้าง ไม่มีบ้าง (อักขระ 2 ด้าน) ถ้าเป็นรูปฤาษี, ท้าวเวสสุวรรณ, พระพิฆเนศฯ หลังจากหลวงพ่ออิ่ม มรณภาพ ด้ามที่แกะรูปเทพ ไม่มีช่างแกะ เป็นด้ามธรรมดา รับอิทธิพลมาจากหลวงพ่อเฒ่า ภายหลังตีกันเองในวัด (ต้นโพธิ์เก่า ปัจจุบันคือศาลา) ปี 2500 ก็ยังรับมีดที่ศิษย์ตีมาจำหน่าย (ราคา 180 บาทต่อ 1 เล่ม ยังไม่ได้บรรจุ) หลัง พ.ศ. 2500 มีมีด ด้ามไม้ฝักไม้ มาส่งอยู่บ้าง โดยช่างเตือน (คนจีน), พ่อแก่อุ้ย, ลุงคลี่ (เขยพ่อแก่อุ้ย) ลุงรินทร์ (ช่างตีเฉย ๆ ค้าข้าว) พ.ศ. 2500 เริ่มมีมีดช่างพยุหามาส่งให้ (พ.ศ. 2505-2515 อาจารย์ทรง (อดีตเจ้าอาวาสวัดแหลมคาง) มาอยู่ด้วย ได้หามีดมาส่งหลวงพ่อ แบบไม้ฝักไม้ ลายง่าย ๆ และมีดช่างพยุหะ มาส่งหลวงพ่อ บางเล่มออกแบบสวยมาก ตอนหลังได้ไปอยู่วัดชัณสูตร และเป็นเจ้าอาวาสวัดแหลมคาง สร้างโบสถ์ 1 หลัง (สัก 3 ปี) ขณะไปอยู่วัดแหลมคางก็มีมีดหมอออกจำหน่าย เอาให้หลวงพ่อเสกบ้าง ไม่เสกบ้าง รูปแบบตีที่ลายมีด เป็นรูปเพชรพญาธร (ไม่นุ่งผ้า), และส่งให้หลวงพ่อเป็นแบบนุ่งผ้า (ผ้าเตียว)

    มีดหมอด้ามไม้ฝักไม้ สั่งมาจากช่างทางนางลือ นครสวรรค์ (บริเวณสะพานใหม่ชัยนาท มีดสั่งจากนางลือ ถ้าเป็นยุคเก่า อลูมิเนียม จะเป็นแบบโบราณ (ทันหลวงพ่อ) ปัจจุบัน (2562) ยังมีชีวิตอยู่ บ้านอยู่ทางโรงเรียนหนองตาแก้ว อำเภอเดิมบางนางบวช หลังจากอาจารย์ทรงไปแล้ว (พ.ศ. 2515) ท่านก็ยังส่งมีดให้หลวงพ่ออยู่บ้าง, ช่างพยุหะบ้าง, ลุงคลี่ก็ตีมาส่งบ้าง (พ.ศ. 2512-2515-2522) มีดตีโบราณ เริ่มไม่มี ต้องสั่งช่างพยุหะ พ.ศ. 2512- 2515 หลวงพ่อทำมีดเล่มโตบ้าง (ช่างพยุหะ), เล่มปากกาบ้าง เล่มปากกา ทำขนาดใหญ่ใบเหล็กบาง นิยมมาก ใส่กระเป๋าเสื้อ เต็มกระเป๋าเลย แพงมากรุ่นนี้ แพงกว่าของอาจารย์ ว่ากันเป็นแสนบาท ก่อนและหลังรุ่นนี้ก็ทำแต่ มีขนาดเล็กกว่าไม่แพง พ.ศ. 2521 (งานฝังลูกนิมิต) ทำขนาดใหญ่ประมาณ 10 นิ้ว และขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ด้ามงาฝักไม้ จำหน่าย 600 บาท ขนาดปากกา จำหน่าย 350 (เช่าหากัน 4-5-6 หมื่น)
     
  18. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
    ขอขอบคุณบทความจาก ครูเฒ่า สุพรรณ

    มีดหมอของหลวงพ่อ หลวงพ่อจะบรรจุด้ามเอง เช่นบรรจุผง, ทรายเสก, แร่อุกาบาต, เหรียญสตางค์เล็ก, ข้าวเปลือกพิรอด, เกศา, พระธาตุ, ก้นบุหรี่, ชานหมาก, อักขระมีจารฯ ท่านจะบรรจุของวิเศษเหล่านี้ สุดแท้แต่จะสะดวกหรือหาได้ คาถาบรรจุต้องกลั้นใจตอกให้ได้ 3 ที่ มิดด้ามเลยคาถาว่าดังนี้

    คาถาบรรจุมีด (ใช้ปลุกยันต์ได้ด้วย) ( อุทธัง อัดโธ อุมะอุอะ อุทธะ อัตตะรัง ปิดจะ ๛

    (คาถาลายมือ หน้า 97 ใช้ปลุกยันต์ที่สัก เมื่อไปที่ต่ำมา รดน้ำมนต์แล้ว ปลุกด้วยคาถานี้ เฉพาะศิษย์สัก) เมื่อบรรจุแล้ว ถ้าจะจารที่ฝัก นิยมจารคาถามงกุฏพระเจ้า และพระเจ้า 16 พระองค์ จารยันต์ครู ด้ามจารกันภัย 8 ทิศ (คาถานี้จารบางเล่ม ถ้ามีเวลา), อาจจารกันภัย 8 ทิศเพิ่มฯ

    เสกด้วยอาวุธ 5 และอื่น ๆ มีดนี้ห้ามนำไปฆ่าคน, ฆ่าสัตว์เด็ดขาด ถ้านำไปฆ่าคน, ฆ่าสัตว์ มีดจะไม่อยู่ปืน (ถ้าเจตนาไม่ดี) หลวงพ่อจะนำมีดมาเสกในโอ่งน้ำมนต์ มีดหมดปากกาเสกในบาตร ใส่น้ำมนต์ลงไป เสกจนมีดลอยขึ้นมา จึงใช้ได้ มีเรื่องควรเล่าไว้คือ ปี พ.ศ. 2521 งานฝังลูกนิมิต หลวงพ่อสั่งมีดหมอมา ท่านเหนื่อยอายุมากแล้ว เลยวานให้คนบรรจุมีดหมอปากกาให้ แต่หลวงตาสมาน (ช่างสมาน) ไม่เก่งในอาคม เมื่อนำมีดหมอไปปลุกในบาตร หลวงพ่อปลุกอย่างไรก็ปลุกไม่ขึ้น (มีดไม่ลอย) แสดงว่าอาจารย์สมาน บรรจุประจุขาด คือขาดสมาธิ ตอนบรรจุด้าม หลวงพ่อต้องใช้ไฟถอดใบมีดออก แล้วบรรจุใหม่ มีดหมอนี้ในงานชนิดปากกา จำหน่ายดีมาก หลวงพ่อต้องแอบเก็บไว้ 6-7 เล่ม เมื่องานเสร็จ มีเซียนพระชื่อดำ (เป็นคนดี) เคยมาหากินที่ท่าช้าง บ้านผู้เขียน คิดถึงหลวงพ่อ ได้ไปขอบูชามีดหมอปากกาจากท่าน โดยพูดว่า งานฝังลูกนิมิตผมไม่ได้มาเลย เลยมาขอเช่ามีดเอาตอนนี้ (เลิกงาน) หลวงพ่อได้พูดว่า มึงนะหรือไม่ได้มา (จริง ๆ พี่ดำมา) พี่ดำขอบูชาที่เหลือถ้าไม่ยาก ได้ไป 6-7 เล่ม (พี่ดำจริง ๆ บ้านเขาอยู่สุรินทร์ เดี๋ยวนี้กลับไปอยู่สุรินทร์แล้ว คิดถึงเสมอ) พี่ดำคนนี้เคยเช่าบูชามีดหมอหลวงพ่อเดิม เล่มใหญ่ ด้ามงาแตกหัก ได้ทำด้ามใหม่ นำไปให้หลวงพ่อบรรจุใหม่ ผู้เขียนได้ขอแบ่งมาใช้ เคยเข้าบ้านคน สุนัขไม่เห่าเลย สะกดสุนัขได้ น่าจะเป็นเพราะของวิเศษ ที่หลวงพ่อบรรจุ ภายหลังทดลองนำผ้ายันต์หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง มาผูกไว้ที่ด้ามมีด เข้าบ้านใครไม่ได้เลย หมาเห่า หลวงพ่อโตไม่ชอบโจร ไม่ชอบขโมยฯ เขาว่ามีดหมอหลวงพ่อเดิม จะล้างอาถรรพ์คนเหนียวได้ เหนียวขนาดไหนก็เข้า

    ผู้เขียนได้ทดลองดู เอามีดหมอหลวงพ่อเดิม (ด้ามหลวงพ่อกวย) มาเชือดแขนดู เชือดตั้งแต่ข้อมือถึงข้อศอก ได้ขอขมาก่อนปรากฏว่า หนังกรำพร้า ขาดเป็นทางตั้งแต่ข้อมือถึงข้อศอก มีรอยสีดำเกิดขึ้นเพราะหนังขาด รอยดำเป็นทาง ใช้เวลา 1 ปี รอยดำจึงหาย ก่อนเชือดได้ทำวิชาก่อน (เสกใบพลูกิน) จะขอเล่าเพื่อบันทึก อภินิหารของมีดหมอไว้พอจะยืนยันว่ามีดหมอของหลวงพ่อเก่งจริง


    เรื่องแรก เจ้าของเรื่องเป็นคนทางดง อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ไม่ขอเอ่ยนาม ไม่ดีอันตราย เจ้าของเรื่อง มีมีดหมอขนาดใหญ่ 1 เล่ม ด้ามงา โดนศัตรูปาด้วยระเบิด (น้อยหน่าหรือลูกเกลี้ยง ไม่แน่ชัด) ผลคือโดดหนี แต่ไม่พ้น ระเบิดไม่ทำงานเฉย ๆ เจ้าของมีดเห็นว่าระเบิดไม่ทำงาน เลยหยิบระเบิดปาไปที่คนร้าย คราวนี้ทำงาน ระเบิดดังตูม ไปดูคนเป็นศพ มือหนึ่งยังกำสลักระเบิดอยู่ เขาได้หยิบสลักระเบิดจากมือ (แขนขาด) นำมาประดับที่มีดหมอ มีห่วงกลม ๆ และที่เหน็บ (ลงภาพที่ลานโพธิ์ ฉบับ กันยายน 2562 หน้า 31) ข้อมูล กิจชัย เขาราวเทียนทอง อำเภอหันคา

    เรื่องที่ 2 อาจารย์เหวียน มณีนัย คนท่าทอง (อยู่ใกล้ปากน้ำ (ติด) เขตติดต่อกัน เป็นศิษย์พี่ สติไม่ดีนัก ภายหลังอพยพมาอยู่ปากน้ำ วัดเดียวกัน อาจารย์เหวียนเป็นคนมีวิชา ถือวิชาขึ้น สามารถผ่าไม่รวกด้วยแขนได้ มีคนนับถือ เป็นคนที่ยืนยันว่าหลวงพ่อเหนียวจริง เคยใช้คาถานะโมตาบอด (หลังเหรียญรุ่น 2) หายตัวหนีออกจากโรงพยาบาลศรีธัญญาได้ ถ้าใครอยากลองว่า หลวงพ่อกวยจะเหนียวจริงหรือเปล่า เขาจะแอบยิงอาจารย์เหวียน อาจารย์เหวียนจะพกมีดหมออยู่เสมอ จะยิงไม่ออกเลย ที่ออก 1 ครั้ง คือ ขาดสติ ไปทุบรถ 10 ล้อ ของนายอิม คนตลาดปากน้ำ นายอิมเลยขับยิง แต่วิ่งหนีไป มันเหนื่อย เลยคิดสู้ได้ชักมีดหมอ กะจะแทงนายอิม พอจะแทงเท่านั้น ปืนยิงออกเลย โดนตรงกราม ภายหลังมีอายุ คางเบี้ยวเลย ครั้งสุดท้าย ได้บวชที่วัดปากน้ำ กุฏิอยู่ติดกับที่นั่ง คนมา เผาศพ (ติดเมรุ) อาจารย์เหวียนเอาปืนลูกซองยาวมาขู่คนเผาศพ คน 50 คนได้หนีไปหมด เหลือแต่ผู้เขียน คือ ผู้เขียนเป็นคนไม่ค่อยนำพาความตายสักเท่าไร นั่งให้อาจารย์เหวียนยิงดู ยิงไป 3-4 นัด ไม่ออก (มีรูปหล่อรุ่น 1 คล้องคออยู่) และหัวค่ำของวันนั้น เจ้าอาวาสได้แจ้งจับ อาจารย์เหวียนข้อหาก่อความไม่สงบ ตำรวจมา 3 คน ตำรวจก็บ้าโง่ด้วย จะเอาของในย่ามอาจารย์เหวียน, ปืนด้วย ตำรวจ 3 คนยิงอาจารย์เหวียนไม่ออก ยิงหลายสิบนัดไม่ออก ตำรวจเลยเอาไปช๊อต จับตัวไปส่งสถานีตำรวจอำเภอเดิมบางนางบวช สารวัตรด่าตำรวจเสียหาย ในห้องขังมีคนเมา 1 คน ขังปนกับคนขาดสติ คงไม่ได้นอน วันสองวันก็ปล่อยตัวมา มีดหมอ, พระ, ปลัด, โดนยึด ตะกรุดด้วย อย่างละ 2-3 องค์ (ชิ้น) ผู้เขียนไปเยี่ยมไปตามได้ปลัดงาคืนมาตัวเดียว ได้ถามอาจารย์เหวียนว่า ยิงผมทำไม เขาตอบว่า กูทดลองยิงเงาของมึงดูว่าจะยิงออกหรือเปล่า (หลงดีใจว่าตัวเองยิงไม่ออก เคยพาอาจารย์เหวียนไปวัดหาหลวงพ่อ ไปมอเตอร์ไซค์หลายครั้ง)

    เรื่องที่ 3 อาจารย์ตี๋ เขาเขียว กับอาจารย์ตี๋ วัดทุ่งมะกรูดเป็นองค์เดียวกัน ภายหลังไปอยู่วัดทุ่งมะกรูด เป็นศิษย์ของหลวงพ่อ, ศิษย์หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่, ศิษย์หลวงปู่อิ่ม วัดหัวเขา มีพลังจิตนั่งบนน้ำได้ ร้อนวิชา (ผู้เขียนเคยพาท่านไปวัดหลวงพ่อบ่อยพอ ๆ กับ อาจารย์เหวียน) ถ้าท่านว่างจะมาเที่ยวบ้าน แม่บ้านผัดข้าวผัดให้ฉัน แล้วก็นอนเล่น จับยามสามตาแม่น ผู้เขียนเคยเล่นพนันมวย สมัยแสนศักดิ์, เขาทราย, ชนะน๊อคเอาท์หรือเปล่าตอบได้ ว่าคาถาปัดลมปัดฝนได้เก่ง เคยมาบ้านเจอมีดหมอวางเรียงกันที่โต๊ะบูชาพระ ขอผู้เขียน 1 เล่มต้องรีบหยิบให้ เอาขี้เหล่สุด เล่มที่ผู้เขียนตีใช้เอง อาจารย์ตี๋ท่านไม่ค่อยจะเรียบร้อย คนเลยเคารพมั่ง ไม่เคารพมั่ง อยู่เขาเขียว แต่องค์เดียว อยู่กุฏิเก่า คล้ายบ้านเก่าๆ โทรมๆ มีคนร้ายมางัดกุฏิของท่านขณะยังอยู่เห็น ๆ มันกะงัดเข้าไป ถ้าขัดขืนมันก็จะทุบ, ตี, ฆ่าฯ ท่านก็พูดกับมัน แต่มันไม่สนใจ ท่านหยิบมีดหมอมาอธิษฐานปาไปที่ประตู แล้วคนร้ายก็หนีไป วันรุ่งขึ้น 2 - 3 วัน มีงานศพที่วัดกำมะเชียร (วัดใกล้กัน) เขานิมนต์ท่านไป ปรากฏว่าคนตายเป็นคนร้าย นอนตายร้องลิ้นจุกปากตาย

    ถัดไปที่วัดที่ปากดง (ไม่ไกลกัน) ก็เป็นศพตายอีก 2 ศพ ทราบว่ามาด้วยกัน นี่คืออิทธิฤทธิ์ของมีดหมอของหลวงพ่อ ผิดบาปอย่างไรไม่รู้ เพราะคนร้ายก็ร้ายจริง ๆ ร้ายกว่านี้ ที่วัดท่าน มีกรรมการวัดอยู่ แต่โกงเงินวัด อาจารย์ตี๋จะนำมาก่อสร้างก็ไม่ให้ ทวงกันไปทวงกันมา อาจารย์ตี๋ ออกเสียงทางไมค์ (ตามสาย) คนร้ายเลยเผาวัดเลย อยู่ต่อมาก็งัดแงะ (อยู่กุฏิอีกฝั่ง อยู่ติดเขาเขียว) ได้งัดแงะเข้าไป ทุบตีสลบเลย แต่ยิงไม่ออก ทุบ 2 ครั้ง ขนของไปได้ ครั้งสุดท้ายวิญญาณออกนอกร่างไปบอกศิษย์ที่กรุงเทพ ให้พาไปส่งโรงพยาบาลหน่อย ครั้งสุดท้ายคนร้ายตีท่านคางเบี้ยวเลย อาจารย์ตี๋นี้ได้สร้างรูปขาว-ดำ ของหลวงพ่อ ปี พ.ศ. 2515 ให้หลวงพ่อเสกให้ สร้างที่ร้านศิลป์ธรรมชาติ อำเภอสามชุก สุพรรณบุรี เป็นรูปโปสการ์ดรูปกระดาน 3 แผ่น (สร้างขนาด 24 นิ้วด้วย), และทำรูปเสกวัตถุมงคล ปี 12, 15 ทำรูปคู่กับไอ้ธง (ทำขนาด 24 นิ้วด้วย), ทำรูปหลวงพ่อปากคลอง, ทำรูปอาจารย์เย็น วัดสระเปรียญ, ทำรูปหลวงปู่บุดดาด้วยฯ รูปตกค้างที่ลูกสาวบุญธรรมวัดทุ่งมะกรูด ส่วนมีดนายแจ้ง ได้ไป (คนแต่งเพลงไก่จ๋า ให้สายัณห์ร้อง) ภายหลังผู้เขียนได้ซื้อคืน ฑิต ท่ายาง ได้ไป

    ผู้เขียนเคยพาท่านไปวัดหลวงพ่อ ไปหาไปเรียนวิชา ระหว่างทางผ่านวัดอาจารย์เตี้ย (พระครูปลัดฝุ่น) ท่านแวะไปหาอาจารย์เตี้ย เพราะเป็นศิษย์ของหลวงพ่อ ระหว่างสนทนา อาจารย์ตี๋พูดว่า เขาว่าท่านเตี้ย สะเดาะกลอนได้จริงหรือ อาจารย์เตี้ย ตอบว่า ฆ้อน, ใช้ฆ้อน, อาจารย์เตี้ยถามว่า เขาว่าท่านตี๋นั่งบนน้ำได้จริงหรือ อาจารย์ตี๋ตอบว่า คนนะไม่ใช่เทวดา จะได้นั่งบนน้ำได้ อาจารย์เตี้ย (พระครูปลัดฝุ่น) เคยทำไม่ดีครั้งหนึ่ง คือจัดให้คนสามเอก (แม่น้ำวังกุลา เคยเป็นที่อยู่ของชาวกุลา) แข่งเรือกัน เรือเล็กๆ ตอนจบของงาน ท่านบอกว่า เดี่ยวมาดูเรือของท่านแข่งกันบ้าง ชาวบ้าน 2 ฝั่งแม่น้ำกุลา เต็มไปหมด แล้วท่านก็จุดธูป 2 ดอก ปักริมแม่น้ำ สักพักมีจระเข้ 3 ตัว โผล่จากแม่น้ำ แล้วว่ายแข่งกัน แบบลอย ๆ ทั้งตัว ชาวบ้านสั่นกันไปหมด วิ่งหนี และแล้วก็ไม่มีใครลงอาบน้ำในแม่น้ำ นานเป็นปี อาจารย์เตี้ย เคยโดนยิงหลายสิบครั้ง จากเจ้ามือหวย เพราะท่านชอบให้หวย ยิงไม่ออกเลย ท่านมีมีดหมอของหลวงพ่อเหน็บเอวตลอดเวลายามคนร้ายมา (ค่ำคืน) อาจารย์ตี๋ก็ยิงไม่ออก เพราะพกมีดหมอ แม้คนร้ายจะค้นตัวก็ไม่เจอ มาขอผู้เขียนประจำ ขอยุติ (สมมุติ) ว่าจบตอนมีดหมอแต่เท่านี้...
     
  19. หนุ่มเมืองแกลง

    หนุ่มเมืองแกลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2007
    โพสต์:
    32,522
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +210,857
     
  20. kajit

    kajit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,656
    ค่าพลัง:
    +3,351
    มีที่อ้างอิงแล้ว ได้มานานแล้ว แต่ไม่แน่ใจเป็นพระหลวงพ่อกวยหรือเปล่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...