telwada ทำไมจึงคิดว่าตัวเองเป็น พระศรีอารย์ ?

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 25 กันยายน 2004.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,702
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,016
    ทำไมจึงคิดว่าตัวเองเป็น พระศรีอารย์ ?
    ขอแบบเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมจึงคิดว่าและเชื่อว่าตัวเองคือพระศรีอารย์100%
    คุณใช่พระศรีอารย์องค์เดียวกับที่พระพุทธเจ้าทำนายไหม
     
  2. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,702
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,016
    จากกระทู้เก่า ผมเคยโพสถาม
    คุณให้เหตุผลว่า ที่เชื่อว่าตนเองเป็นพระศรี เพราะว่า เพื่อนทหารของคุณ เห็นคุณมีแสงออกจากกาย

    ++ การที่คนมีแสงออกจากกาย ก็ไม่ได้หมายความว่าตัวเองเป็นพระศรีอาริย์
     
  3. bluecoral

    bluecoral Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +70
    ยังไม่น่าจะถึงยุคพระศรีนา ... แต่ก็เห็นได้ยินหลายๆคนบอกว่า ตนเองเป็นพระศรี ก็เยอะเหมือนกัน ... อะไรที่พิสูจน์ได้เหรอ อันนี้สงสัยจิงๆนะพี่ telwada เพราะอาร์ม ก็สงสัยเหมือนกันว่า ..คนเราจะรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นใครได้โดยแท้จริง ... อย่างแม่ชีพิมพา ท่านว่า ท่านเป็นพระกฤษณะ ... ก็เพราะท่านสามารถมองเห็นได้ด้วยตาทิพย์ หรือ อาจจะมีองค์กระซิบบอก ... แต่ถ้าอย่างเราๆ ถ้าไม่มีองค์ แล้วจะรู้ได้ไงว่าใครเป็นใคร ???? ... ถ้าเป็นแสง อย่างที่ websnow พูดถึง ... คาดว่า คนที่มีบารมี ทุกคนจะมีแสงนั้นนะ ... ขึ้นอยู๋กะบารมีมากหรือน้อย ... แสงก็จะน้อย หรือ มาก ตามแต่บารมีของบุคคลนั้นๆ ...
     
  4. ทันใดนั้นเอง

    ทันใดนั้นเอง บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    หากจิตยึดมั่นว่าจะเป็นนั่นเป็นนี่ย่อมไม่หลุดพ้นจากการเป็นนั่นเป็นนี่และจะวนเวียนเช่นนี้ต่อไป
     
  5. มารวิกะ

    มารวิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2004
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +526
    บางทีก็มีความจำเป็นที่ต้องวนเวียนอยู่ในวัฏ:)
     
  6. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    คุณเวบสโนว์ ข้าพเจ้าเองก็ต้องขอบอกคุณตามความสัจจริงว่า ข้าพเจ้าไม่เคยคิดว่าข้าพเจ้าคือ พระศรีอริยเมตไตย

    แต่ทว่า ข้าพเจ้ามีเหตุผล หลายประการที่รู้ว่า ขอใช้คำว่า รู้ว่า นะขอรับ ข้าพเจ้ารู้ว่า ข้าพเจ้าคือ พระศรีอริยเมตไตย องค์เดียวกับที่พวกคุณคิดว่า พระสมณ โคดมทำนายไว้ นั้นแหละคุณ

    เริ่มแรกทีเดียว ข้าพเจ้าก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าข้าพเจ้าเป็นใคร กล่าวคือรู้แต่ว่า ข้าพเจ้าชื่อ เทวฤทธิ์ ทูลพันธ์ มี บิดา มารดา และน้องๆ อีก 6 คน มีภรรยา มีลูกสาว ก็ยังไม่รู้

    แต่เมื่อประมาณปี 2524-2526 ตัวของข้าพเจ้าก็ประสบกับเหตุการณ์ประหลาดๆ อันเกิดกับตัวข้าพเจ้า ความว่าเหตุการณ์ประหลาดๆนั้น ความจริงแล้ว ข้าพเจ้ามีความประหลาดติดตัวข้าพเจ้ามาตั้งแต่จำความได้ เช่น ข้าพเจ้าสามารถมองเห็นภายในสรีระร่างกายของผู้อื่น กล่าวคือ มองเห็นเส้นเลือด หรืออวัยวะภายในของผู้อื่นอยู่เนืองๆ แต่ข้าพเจ้าก็ไม่ค่อยสนใจ เพราะเป็นวัยเด็กไม่คิดอะไรมาก อีกประการหนึ่ง ข้าพเจ้ามีพลังงานพิเศษ มีแรงมากเกินวัย กระโดดได้สูงและไกลเกินกว่าเด็กธรรมดาจะทำได้ และยังมีอีกหลายๆอย่าง

    เมื่อมาถึงประมาณปี 2524 - 2526 ความคิดของข้าพเจ้าเริ่มหมุนกลับ ถึงกับรู้สึกว่าตัวเอง เป็นลูกของพระมหากษัตริย์ แต่เมื่อไปพบจิตแพทย์ ก็ได้รับคำตอบว่า ผมอยู่ในภาวะสับสน เมื่อรู้แล้ว ผมจึงได้หายคิดบ้าๆแบบนั้น

    แต่อยู่มา ข้าพเจ้า ก็ค้นพบวิชชา 3 วิชชา 8 ซึ่งข้าพเจ้าเอง จำเป็นต้องค้นหา เพราะเมื่อได้เริ่มฝึกฝน พบความลำบากมากมาย ไม่ฝึกก็ไม่ได้ เหมือนมีใครคอยคุมอยู่ ไม่ฝึกก็จะเหตุต่างๆอันไม่ดีเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า ไม่ฝึกก็จะมีอาการคล้ายกับคนบ้าเดี๋ยวดีเดี๊ยวร้าย สับสน ต่อมาเมื่อข้าพเจ้าได้หลักการหรือธรรมะจนครบและรู้วิธีการฝึกตนแล้ว ข้าพเจ้าก็มองเห็นสิ่งที่มนุษย์มองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็น พระพิฆเณศน์ พระศิวะ พระพรหม นางฟ้า ที่ว่าเห็นนี้ไม่ใช่หลับฝันนะคุณ เห็นจะจะตา ไม่ใช่ภาพหลอนด้วย โดยเฉพาะเทพผู้มีเศียรเป็นช้าง ข้าพเจ้าขึ้นไปนั่งบนตักของพระองค์เลยละคุณ
    อีกทั้งเวลาคุยกับเพื่อนร่วมงานหรือผู้ใกล้ชิด พูดอะไร ก็เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น เช่น เรียกพระภุมิเจ้าที่ เรียกรุกขเทวา เรียกผี ที่ยังไม่ไปเกิด(เขาเรียกว่าอะไรนะ)

    และอีกหลายๆอย่าง
    ในชั้นแรกข้าพเจ้าคิดว่า ใช้คำว่าคิดว่า นะขอรับ เพราะตอนนั้นคิดว่าตัวเอง น่าจะเป็นพระมาลัย แต่ข้าพเจ้าก็พบพระมาลัย ลอยมาหาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเริ่มสงสัยในตัวเองแล้วว่า ตัวเองเป็นใครนอกเหนือจากที่เป็นอยู่ปกติ ข้าพเจ้าตรวจสอบลายนิ้วมือ ทุกนิ้ว ลายนิ้วเท้าทุกนิ้ว ตรวจดูลายเท้าทั้งสองเท้า ลายเท้าข้างหนึ่ง คล้ายคันไถ อีกข้างหนึ่ง เป็นคล้ายดาว ซึ่งมันก็เกี่ยวโยงไปถึงการเหาะด้วย

    ช่วงเวลานั้น ก็มีใครก็ไม่รู้อยู่ที่สันกำแพง เขียนป้ายโฆษณาว่า เป็นศรีอริยเมตไตย ข้าพเจ้าก็นิ่งเฉยไว้ เพราะยังไม่รู้แน่ชัดว่าตัวเองเป็นใครนอกเหนือจากที่เป็นอยู่ปกติ จนในที่สุด ตำรวจก็ได้ไปขอร้องให้เขาที่โฆษณาว่าเป็นศรีอริยเมตไตยนั้น เอาป้ายโฆษณาออก จากนั้นมา ข้าพเจ้าก็วิจัยค้นคว้ามาเรื่อยๆ จนได้ข้อยุติว่า ข้าพเจ้าคือ ศรีอริยเมตไตย ด้วยเหตุผล

    1.ข้าพเจ้าสามารถศึกษาค้นคว้าและวิจัย จนพบหลักการหรือธรรม ที่สามารถทำให้บุคคลบรรลุสู่ นิพพานได้ และรู้อีกว่า นิพพานมีลักษณะอาการอย่างไร และคำว่านิพพานนี้ แม้จะเป็นการหยิบยืมเอาคำที่มีอยู่เดิมมาใช้ ก็เพราะเห็นว่า หลักการหลายข้อ เฉพาะที่เป็นวิชาการ ข้าพเจ้าได้นำมาจากพุทธศาสนา แต่หลักการของข้าพเจ้ามิได้มีแต่เพียงของศาสนาพุทธเท่านั้น หลักการหรือธรรมรวมไปถึงวิธีการฝึกตนของข้าพเจ้า มีหลักการหรือธรรมะของศาสนาทุกศาสนาที่มีอยู่บนโลกใบนี้

    2. มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า มีอยู่ช่วงหนึ่งที่หากข้าพเจ้า อ้าปากโลกทั้งหมด ก็จะเข้ามาอยู่ในปากของข้าพเจ้า

    3. ข้าพเจ้า มีฉัพพรรณรังสี อันเกิดจากการขจัดอาสวะ

    นี้เป็นเหตุผลคร่าวๆ อันทำให้ข้าพเจ้ารู้ว่า ข้าพเจ้า คือ ศรีอริยเมตไตย องค์ที่ 5 แต่ต้องขอบอกไว้ก่อนว่า ข้าพเจ้ามีหน้าที่เพียง ทำศาสนาทุกศาสนาให้เจริ_รุ่งเรือง ไม่ใช่มาตั้งตัวเป็นศาสดา และข้าพเจ้าจะเป็นผู้มาไขความลับให้รู้ว่า ศาสนาที่แท้จริงเกิดจากไหนจากใครศาสนาไหนที่เป็นต้นตอแห่งศาสนาทั้งปวง ในที่นี้หมายถึง หลักการและธรรม และวิธีการ ฉะนี้
     
  7. jtr2

    jtr2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +2
    กรรมๆๆๆ -_-"
     
  8. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ลืมบอกไปอย่างหนึ่งว่าที่สำคั_ที่สุด ฉัพพรรณรังสีที่เกิดจากสรีระร่างกายของข้าพเจ้านั้น มีหลายสี และทุกคนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
    ข้าพเจ้ากล้าท้าให้พิสูจน์ได้ด้วยขอรับ

    ย้ำ อีกครั้งว่าที่สำคั_ที่สุด ฉัพพรรณรังสีที่เกิดจากสรีระร่างกายของข้าพเจ้านั้น มีหลายสี และทุกคนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ขอรับ
     
  9. jtr2

    jtr2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +2
    มองตาเปล่าเห็น ถ่ายรูปก็ต้องติดสีด้วยสิครับ ช่วยลงรูปได้มั่ยครับ
     
  10. mastertana

    mastertana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +201
    คนที่ถึงเขารู้เองว่าถึง

    ผมเคยอ่านประวัติพระอริยะเจ้า มาเยอะต่อ เยอะท่านเองก็ไม่เคยบอกคุณสมบัติอะไร กับใครเลยหละ เพราะท่านถือว่า มันไม่มีประโยชน์อะไรต่อความสุขความทุกข์ของใครที่ได้รับฟัง และ อีกอย่างถ้ายิ่งคิดยิ่งหลงมันก็ ติด กิเลสไปหละ มานะ ทิฐิ มัน ย่อมเกิด ท่านดี เห็นเราดีอย่างนั้นวิเศาอย่างนั้น กิเลสดีๆ นั้นเอง ดีนักเขาไม่พูดไม่คุยว่าดีเพราะ เขาไม่อยากจะหลง คนที่ถึงแล้วเขาไม่ต้องบอกคนเขารู้ เนื้อนาบุ_มีแต่คนอยากจะ ปลูกด้วย มิใช่ว่าประกาศให้คนมาปลุก ไม่มีที่ไหนหรอก ของดีคนเขาเสาะแสวงหละ ศรัทธาเขามาด้วย บุ_บารมีและความดี จิตใจคน สัมผัสได้หละ ถ้าคุณเป็นสิ่งที่คุณเป็นมันจะส่งผลเอง มิต้องพูดในสิ่งที่คุณเป็นหละ กิเลสตัสให้ได้คงจิตเป็นประภัสสร เสีย.... คนเขาทำได้แบบคุณมีเยอะเขายังเฉยๆ เลย เด็กก็ทำได้เยอะเขาก็ไม่สนใจเลย .... เพราะเขาถึงธรรม ธรรมย่อมรักษาเขา ไม่ให้หลุดจากธรรม ....

    อือ อีกอย่าง ธรรมนะ จะรวม ศาสนาเหรอ ธรรมของพุทธมี 84000 พระธรรมขันธ์ เลยหละนะ ท่านเรียบเรียงไหวเหรอ... แล้วอยากจะฟังเทศธรรมจากท่าน นิพพานสำหรับ ท่าน ท่านว่าหมายความว่าไง นิพพานมีหนทางไป ที่นั้น อย่างไร วิชาการนั้น มันเกิดมาจากสมัยใหม่ ของพระท่านนั้นเรียกว่า สัจธรรม หละนะ เอามาปนกันเสียหมด...

    นะโมฯ 3 จบ ...

    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต
    อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
    สัพพัง อะปะรงธัง ขะมะถะ เมภันเต
    อุกาสะ ขะมามิ ภันเต ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2004
  11. Unregistered

    Unregistered บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ถึงคุณ telwada
    คุณนั้นไม่ใช่พระศรีอริยเมตไตยหรอกคะ พระศรีอริยเมตไตย ต้องอยู่ในเพศสงฆ์ต้องตัดหมดซึ่งกิเลสตัณหา แต่คุณยังมีบุตรและภรรยาและไม่ได้อยู่ในเพศของสงฆ์ด้วย เป็นไปไม่ได้.

    พระศรีอริยเมตไตยนั้นได้เกิดในช่วงต่อของพระพุทธศาสนาแล้ว ดิฉันได้เห็นแล้วและพระภิกษุท่านนั้นก็มิได้ประกาศว่าท่านเป็นใคร แต่ดูจากการปฏิบัติของท่านแล้วดิฉันรู้ว่าศาสนาของพระศรีอริยเมตไตยได้เริ่มขึ้นแล้ว และก็คงอีกหลายร้อยปีกว่าปีที่ศาสนาจะเริ่มปรากฏเป็นรูปเป็นร่างเด่นชัด แต่ถึงกระนั้นตอนนี้ศาสนาก็มีรูปแบบที่แยกให้เห็นเด่นชัดอยู่เหมือนกัน แต่ยังไม่แผ่กระจายกว้างขวางเท่านั้นเอง.

    การที่คุณได้เห็นสิ่งต่างๆ ก็อาจจะเป็นบุ_เก่าที่คุณเคยได้ปฏิบัติมาหรือเทพที่แฝงคุณทำให้คุณได้เห็น แต่ก็นั่นแหละคุณควรที่จะพิจารณาให้ถ้วนถี่กว่านี้ ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไรไม่ใช่ประกาศออกมาแบบนี้.
     
  12. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,773
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    เป็น ไป เลย จะ เป็น อะไร ก็เป็นไปเลย

    เป็นแล้ว ทำความดี อย่างน้อย ก็เกาะ ดี ติดดี ไม่ดือด ร้อนใคร

    เรื่อง ภพภูมิ โพธิจิต ของเหล่า พระโพธิสัตว์ บางทีผมบอกได้คำเดียวว่า

    สุดหยั่งว่ะ


    ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ
     
  13. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    ข้าพเจ้าแปลกใจอยู่อย่างหนึ่งว่า พวกที่ว่า พระศรีอารย์ต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้ ข้าพเจ้าก็สงส้ยว่า เขาไปรู้ที่ไหนมา ข้าพเจ้าบอกแล้ว ว่า ข้าพเจ้ามิใช่คิดว่าตัวเองคือศรีอริยะเมตไตย แต่รู้ว่าตัวเองคือ ศรีอริยเมตไตย ไม่ใช่อยากดัง แต่จำเป็นต้องประกาศตัว ทำได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้นแหละคุณ ไม่มีใครเชื่อข้าพเจ้าก็ไม่เดือดร้อน ไม่วิ่งโร่เรี่ยไร ไม่วิ่งโร่เที่ยวแจกซีดี หรือแจกหนังสือธรรมะให้ใคร อย่างแน่นอน
    ส่วนที่คุณคนหนึ่งกล่าวถึง พระธรรม 84,000 พระธรรมขันธ์นั้น ท่านรู้ไหมว่า 84000 พระธรรมขันธ์นั้น แม้ข้าพเจ้าจะไม่สามารถเขียน ออกมา หรือสอนให้ครบทุก 84000 แต่ข้าพเจ้า ก็สามารถบอกหรือสอนให้รู้ว่า อะไรบ้างที่แบ่งเป็น 84000 พระธรรมขันธ์
    84000 ขันธ์ ของข้าพเจ้า ไม่เหมือนในพระไตรปิฎกดอกนะ เพราะ 84000 ขันธ์ของข้าพเจ้านั้น เป็นหลักธรรมชาติ อาจต้องพึ่งพา นักวิชาการหลายๆนักวิชาการเป็นคนชี้แนะ
    เช่น เมตตา ย่อมมีในสรรพสิ่ง แบ่งได้เป็น เพศผู้ เพศเมีย แบ่งเป็นมนุษย์ พืช สัตว์
    แต่ละอย่างรวมกันแล้ว จะได้ 84000 อย่าง กล่าวคือ มีเมตตา ที่แตกต่างกันออกไป 84000 อย่างฉะนี้
     
  14. Arri

    Arri บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ไป กัน ให_่ เอ้อ !!
     
  15. mastertana

    mastertana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +201
    รู้อะไรรู้ให้มากรู้ด้วยปัยยา

    คนที่บรรลุเขาไม่พึ่งนักวิชาการอะไรหลอกหละนะ พูดมั่วๆ หละ เมตรตามีใน
    เมตตา ย่อมมีในสรรพสิ่ง แบ่งได้เป็น เพศผู้ เพศเมีย แบ่งเป็นมนุษย์ พืช สัตว์
    รู้ไม่ลึกมั่วๆ ที่คุณบอกนั้นคือ จิต อธิบายไร... เลิกเถอะหลายขุมเลยหละนะ มั่วๆ คนเขารู้กันทั่วใครๆ ที่เขาทำได้ ทำถึงไม่คิดว่าตนเองทำแบบนั้นแบบนี้ เขารู้หมด ว่าอะไรเป็นไร... 84000 พระธรรมขันธ์หนะ กว่าจะได้มา พระพุทธเจ้าท่าน บำเพ็ยบารมี ทิ้งวังมาอยู่ป่า มานักต่อนักหละท่าน แล้วท่านหละ ท่านอยู่กับลุกเมียก็บันลุหละ อือ....นรกมันลึกมันร้อนมันไม่สนุกนะจะตกโก้ๆ....:D (ไปเมื่อไหร่ขอลุงพุฒดูหน่อยว่าท่านหนะไปอยู่เทวทัศ แน่นอนเห่อๆ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กันยายน 2004
  16. เด็กบ้านยางสีสุราช

    เด็กบ้านยางสีสุราช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2004
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +48
    Greeeeeeeeeeeeeeeeeeeeedddd !! :( :(
     
  17. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    นักวิชาของแต่ละแขนงเขาจะมีความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติเฉพาะทาง ตัวอย่างเช่น แมลง ย่อมแบ่งออกได้ เป็น 84000 ชนิด
    สัตว์ ย่อมแบ่งได้ 84000 ชนิด อย่างนี้เป็นต้น
    แต่ในหลักการหรือธรรมะแห่งศรีอารย์นั้น ได้แบ่งสภาวะจิตใจแห่งสรรพสิ่งไว้ อย่างละ 10500 (หนึ่งหมื่นห้าร้อย) เช่น เมตตาเพศผู้10500,เพศเมีย, กรุณาเพศผู้10500,เพศเมีย 10500, อย่างนี้เป็นต้น
    พระพุทธเจ้าบำเพ็_เพียร หรือคุณ คุณเคยเห็นพระพุทธเจ้าที่ไหนละ เห็นตามวัดใช่ไหมละ เขียนออกมาแบบไม่มียางอายเลยนะคุณ
    ข้าพเจ้าเองก็บำเพ็_เพียรมา เอาที่เห็นเห็นกัน ตั้งแต่จำความได้ ก็ประมาณ 50 ปี เฉพาะบนโลกมนุษย์นะ
     
  18. ธุลีดิน

    ธุลีดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2004
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +156
  19. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,105
    ค่าพลัง:
    +2,696
    เรื่องนี้ทำให้คุณธุลีดินงงได้ต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่
    หุหุหุ

    ก็รอดูกันต่อไป
     
  20. กรุงเก่า

    กรุงเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +335
    คุณ unregistered ครับที่บอกว่าได้พบพระศรีอารย์ที่มาเกิดในช่วงรอยต่อนะ บอกหน่อยซิว่าอยู่ที่ไหนอยากไปฟังธรรม ไม่สะดวกก็ email มาได้ครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...