ใครมีประสบการณ์จากการ "สวดมนต์" ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Navylaws, 27 พฤศจิกายน 2013.

  1. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    แล้วปกติที่สวดๆ กันนั้น
    สวดแบบออกเสียง หรือสวดในใจคะ
    ตั้งแต่สวดบูชาพระรัตนตรัย
    แ้ล้วมาสวดชินบันชรเก้าจบ
    สวดมหาจักรพรรดิ์อีกเก้าจบ
    ยาวมากๆ
    กว่าจะสวดจบนี่ คอแห้งแน่ๆ เลย
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663

    ปกติถ้าผมอยู่คนเดียวหรือสวดในหอพระที่เป็นที่เฉพาะตัว ผมจะสวดออกเสียงพอที่ตัวเองได้ยินได้ครับ ถ้าอยู่ในสถานที่มีคนอยู่หลายคน ที่อาจรบกวนคนอื่นได้ผมก็จะสวดในใจ ...

    ถ้าอยู่บ้านสวดเองก็ไม่มีปัญหาหละครับ น้ำอุ่นสักแก้ว หรือ น้ำผลไม้สักแก้ว วางไว้ข้างๆตัว สวดด้วยถ้าคอแห้งมากก็จิบด้วยนิดๆหน่อยๆก็ไม่มีปัญหาหลอกครับ พระท่านไม่ได้ห้ามนะ ไม่ถือเป็นการปรามาส แต่คุณสวดถึงขนาดกับคอแห้งเลยเหรอครับ....ถ้าอย่างนั้นก็โมทนาสาธุบุญในความเพียรนะครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2013
  3. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    การสวดมนต์เป็นสิ่งดีงาม ที่ยังปฏิบัติธรรมด้วยการสวดมนต์ไม่เคยขาดทุกวันนั้นเพราะ การที่เราบูชาพระรัตนคุณ ต้องทำ ด้วยกาย วาจา ใจ เราเห็นประโยชน์ในการกล่าวสรรเสริญพุทธมนต์อันมีมากมายนานาประการ

    หลังจากนั้นเราต้องทำสมาธิเข้าสู่ฌาณ และเดินวิปัสสนา ทุกวัน เพื่อสร้างสั่งสมปัญญาให้มากยิ่งๆขึ้นไป

    สองส่วนนี้กระผมทำทุกวันก่อนนอนไม่เคยขาดครับ และรู้ดีว่า แม้จิตพระอรหันต์ทั้งหลาย ก็ยังคงสวดมนต์และภาวนา ไม่เคยขาดครับ จนกว่าจะเข้าสู่พระนิพพานครับ
     
  4. InvisibleForce

    InvisibleForce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2012
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +659
    เห็นด้วยกับความเห็นของท่าน Phanudet ทุกอย่างครับ

    แต่ในอีกแง่มุม สำหรับผมเอง ก็คือ ผมจะสวดออกเสียง
    เพื่อสร้างกรรมดีทางวาจาครับ ซึ่งมีการกล่าวสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย
    เป็นต้น .. ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ด้วย เช่น
    กรณีอยู่บ้าน ก็จะออกเสียงได้ระดับหนึ่งไม่กวนบ้านข้างๆ
    ส่วนกรณีอยู่นอกบ้าน ก็สวดในใจเพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่น
    หรือ คนที่ไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤศจิกายน 2013
  5. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชโปรดสวดชินบัญชรคาถา

    [​IMG]

    เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหารนั้น ทรงสนพระทัยพระคาถาชินบัญชรเป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดทรงเคยศึกษาและไต่ถามข้อมูลเบื้องลึกเกี่ยวกับประวัติที่มาของพระคาถานี้กับพระเถระผู้ทรงคุณและเหล่านักปราชญ์ราชบัณฑิตเป็นอันเอนกปริยาย ทำให้ทรงสามารถเข้าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพระคาถาชินบัญชรได้ลึกซึ้งอย่างยิ่ง
    ได้ยินข่าวจากศิษย์ใกล้ชิดเล่าให้ฟังว่า ในทุกคราวที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชทรงอธิษฐานจิตนั่งปรกพุทธาภิเษกนั้น หนึ่งในพระคาถาที่จะทรงบริกรรมลงสู่วัตถุมงคลทั้งปวงอันจะขาดมิได้เลย นั่นก็คือชินบัญชรคาถานั่นเอง โดยครั้งหนึ่ง ทรงมีรับสั่งกับศิษย์ใกล้ชิดทีเดียวว่า
    "อานุภาพของพระคาถาชินบัญชรนี้ สามารถคุ้มได้ทั้งตัวของเราและคนรอบข้างทีเดียวน๊ะ..!!!!!!!!"
    ขอถวายอนุโมทนาสาธุการ..........


    [​IMG]

    http://palungjit.org/posts/8472797
     
  6. M_Y

    M_Y เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +220
    สวดอิติปิโส พาหุง มหากา แต่ถ้าช่วงไหนทุกข์มากๆ เราจะสวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก สำหรับเรานะ บทสวดบทนี้จะเหนี่ยวนำพลังด้านบวกสู่จิตเราได้มากเลย แล้วแต่จริตของแต่ละคนนะคะ ตามด้วยแผ่เมตตา ถ้าแผ่ให้ใครไม่ออก ก็แผ่ให้ตัวเองเนี่ยล่ะค่ะ
     
  7. แมวธนู

    แมวธนู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +856
    -ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎิก
    - พาหุงมหากา
    -ชินบัญชร
    -ธัมมจักรกัปวัตนสูตร
    -กรณียเมตตาสูตร

    ก่อนอื่น คุณต้องเข้าใจก่อนว่า อนุภาพของพระคาถาใดๆ จะมากหรือน้อยขึ้นกับ"จิต และสมาธิ"ของคุณในขณะสวด

    เท่าที่เคยลอง ผมเข้าใจว่า อนุภาพของพระคาถา เป็นของแถมที่เบื้องบนมอบให้หลังจากที่คุณสวดมนต์ ( ถ้าสวดด้วยจิตที่ดี และสมาธิที่ตั้งมั่นผลที่ได้ย่อมดี)

    ดังนั้น หากคุณสวดด้วยความตั้งใจอย่างน้อยเพื่อเป็นการปฏิบัติบูชาแก่พระพุทธศาสนา เท่านี้อนุภาพของพระคาถาก็จะสำแดงให้คุณประจักษ์แล้ว (ความตั้งใจอย่างสูงคือ สวดเพื่อขัดเกลาจิตใจตน ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติบูชา และ เป็นการตัดภพตัดชาติเวียนว่ายตายเกิดให้สั้นลง ไปพร้อมกัน)

    อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในเชิงอรรถ อันประกอบด้วย ถ้อยคำและประโยคต่างๆที่รจนาลงในพระคาถา มักมีการเรียบเรียงและท่วงทำนองที่ต่างกันออกไป และจากการทดลอง (สวดบทเดียวติดต่อกันนาน 1อาทิตย์ หรือ 1 เดือน) ผมไม่ปฏิเสธว่า พระคาถาที่ต่างกัน ย่อมให้ผลเด่นที่ต่างกัน เช่น

    ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก
    - อย่างที่สมาชิกท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า เป็นบทที่เหนี่ยวนำพลังงานบวกให้เข้ามาสู่ตัวเรา อันนี้เหมือนกับที่ผมเคยลอง ยิ่งใครที่ชอบนั่งสมาธิเจริญกรรมฐาน บอกได้เลย บทนี้ สุดยอด สวดบ่อยๆ แล้วทำสิ่งใดก็ประสพความสำเร็จเหมือนมีคนช่วยทำ/กระซิบบอก และช่วยให้แคล้วคลาดจากอันตรายใดๆด้วย ( บทนี้ สูงส่งมาก ต้องลองเองแล้วจะเห็นรู้ เอง)

    พาหุงมหากา - บทนี้ เด่นเรื่อง บารมี และแคล้วคลาด เพราะ ระดับความั่นใจที่ทะยานขึ้น จะบังเกิดขึ้นกับผู้สวด จากที่เคยท้อแท้จะกลับมาฮึกเฮิมและมีสติ สู้อีกครั้ง หรืออีกกี่ครั้งก็ยังสู้ไหว ศัตรูหมู่มารก็จะแพ้ภัยตัวเองไปในที่สุด

    ชินบัญชร - บทนี้เด่นเรื่อง กันภัย แคล้วคลาด และความมีชัยชนะเหนือศัตรูหมู่มาร เพราะพวกเขาจะไม่สามารถกล่ำกลาย (แพ้ภัยไปเอง) รวมถึงอุปสรรคที่มีก็จะทุเลาเบาบาง

    ธัมมจักรกัปวัฒนสูตร - บทนี้เด่นเรื่อง พลิกกลับชะตา หากเคยมืดบอด (หาทางไปไม่เจอแล้ว) หรือตกต่ำอย่างถึงที่สุด หากสวดติดต่อกันบ่อยๆ จะพบทางแก้ไข รวมถึง ทุเลาแคล้วคลาดจากอุปสรรค

    กรณียเมตาสูตร- บทนี้เด่นเรื่อง เมตา แคล้วคลาด เป็นที่รักของมนุษย์และอมนุษย์ทั่วไป เอาไม่ต้องมากก็ได้แค่บทย่อที่ว่า "เมตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อัปปะริมานัง" ว่างตอนไหน สวดตอนนั้น แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้ว เอาง่ายๆ ผมมักสวดตอนขับรถ ซึ่งตั้งแต่ผมขับรถมา ผมไม่เคยมีอุบัติเหตุเลยแม้ซักครั้งเดียว หรือ ตอนเข้าหาผู้ใหญ่ท่านก็จะเมตตาทุกครั้ง

    อันนี้คือเท่าที่ผมเคยลองและสังเกตดูกับตัวเอง ครับ

    ตอนนี้ ผมสวดแค่บทสั้นๆ ก่อนไปทำงานแทบทุกวัน แต่อาศัยว่าผมสวดด้วยความเคารพต่อพระพุทธศาสนา สวดมนต์ตอนเช้าก่อนไปทำงานแค่ช่วงอึดใจเดียว แค่นี้ก็ชิวทั้งวันแบบสบายสบายแล้วครับ

    บทสวดประจำของผมได้แก่
    นะโม 3 จบ
    บทขอขมาพระรัตนไตร
    บทอิติปิโส
    บทอาราธนาพุทธคุณ/ธรรมคุณ/สังฆคุณ
    คาถามงกุฏพระพุทธเจ้า
    คาถาอิติปิโสแปดทิศ
    ว่างๆระหว่างขับรถก็ท่อง บท เมตัญจะ

    วันไหนว่างๆ ผมค่อยสวดบทยาวๆ

    หวังว่า คงจะช่วยให้ความรู้ต่อ ท่าน จขกท ได้บ้างนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2013
  8. สัตตบงกชเหนือน้ำ

    สัตตบงกชเหนือน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    681
    ค่าพลัง:
    +629
    ขออนุญาติคัดลอกไปให้เพื่อนในเฟสบุคอ่านหน่อยน่ะค่ะ จะได้เป็นกำลังใจกัน ขอบคุณมากค่ะ ;20
     
  9. Kessara99999

    Kessara99999 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +10
    ดิฉันสวด หลายบท แต่ที่จะจำขึ้นใจและใช้บทสวดทำสมาธิไปด้วยก็จะ3บทคือ พระไตรปิฏก พระธัมมจักรกัปวตนสูตตัง พระชินบัญชร เพราะ3บทเป็นบทที่ยาวก็จะสงบมากขึ้น ส่วนประสบการณ์มีมากมายค่ะ สวดมนต์ไหว้พระ หมอดูบอกวันเดือนปีเกิด เราไม่ดี แต่ไม่จริงค่ะ คนสวดมนต์ไหว้พระ อยู่เหนือดวง มีเรื่องดีๆ สิ่งดีๆ คนดีๆเข้ามาค่ะ
     
  10. อัครไมตรี

    อัครไมตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    418
    ค่าพลัง:
    +8,434
    บทสวดดีๆทั้งนั้นและผมก็เคยสวดทั้งหมด คาถาเงินล้านของหลวงพ่อฤาษี คาถาแก้วสารพัดนึกของหลวงปู่โต๊ะ อยากให้ลองสวดบทคาถา พระมหาจักรพรรดิ ของหลวงปู่ดู่ ซึ่งเป็นคาถาที่ไม่ยาวแต่มีอานุภาพมาก ลองสวดวันละ 21 จบดูก่อนก็ได้ครับ ปัจจุบันนี้ผม ก็จะเหลือแค่สวด คาถาธรรมจักรวันพระใหญ่ คาถาเงินล้าน 9 จบ ส่วนคาถาพระจักรพรรดิ จะสวดมากที่สุดเลยครับ บางครั้งก็สวด 108 จบ คาถานี้ผมแนะนำให้เพื่อนลองสวดเพื่อนโพสต์มาว่าเป็นคาถาประทานพรได้จริงๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,367
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    ผมสวดบทพระจักรพรรดิ

    จากร้ายกลายเป็นดี
    ตามความเข้าใจผม ก็คือ เริ่มแรกนั้นเราก็มี มิจฉาสติ เป็นทุนเดิมมาอยู่แล้ว
    สิ่งที่เราเคยเห็นว่าดีว่างามแล้ว มันก็ยังดีไม่จริงและสิ่งที่ดีแล้วก็ยังมีที่ดียิ่งๆขึ้นไปอีก
    ปัญหาต่างๆที่ว่าคลี่คลายไปได้ ก็ด้วยกำลังของสติ

    สวดแล้วก็เป็นการเจริญสติ สมาธิ ปัญญา ไปตามลำดับ
    ที่เรานั้นสามารถที่จะระลึกรู้ได้เพิ่มขึ้น จากวงแคบๆก็เริ่มไปสู่วงกว้างขึ้นเรื่อยๆ

    เมื่อสามารถรู้เห็นสิ่งที่ดีๆภายนอกได้เพิ่มขึ้น
    โอกาสที่ดีๆเราก็เริ่มที่จะรู้เห็นมากขึ้น
    ก็เป็นอันว่า ก็เริ่มที่จะมีแต่เรื่องดีๆ สิ่งที่ดีๆให้ได้พบได้เจอ ประมาณนั้นครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...