แฟนเพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง, 2 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ทำบุญทำไมต้องอธิษฐาน โดย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
    ทำบุญทำไมต้องอธิษฐาน

    ถาม : “หลวงพ่อคะ การทำบุญทุกอย่าง แต่ไม่ได้ปรารถนาอะไรเลย จะได้ไหมคะ…?”

    ตอบ : ได้โยม ทำไมจะไม่ได้ คือถ้าไม่ตั้งมโนปณิธานปรารถนา บุญมันก็ต้องเป็นบุญ แต่ว่าอานิสงส์เบื้องปลายมันไม่เหมือนกัน

    ถาม : “เป็นไงคะ…?”

    ตอบ : การปรารถนาจัดเป็นอธิษฐานบารมีนะ ตั้งใจว่าการทำบุญอย่างนี้เพื่อผลอะไร อย่างที่ไม่ปรารถนาพุทธภูมิ ไม่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ไม่ปรารถนาเป็นอัครสาวก แต่ปรารถนาเพื่อการหมดกิเลส ก็ชื่อว่ายังปรารถนาอยู่

    ถาม : “ถ้าหากว่าทำเฉย ๆ เล่าคะ…?”

    ตอบ : ถ้าหากว่าทำเฉย ๆ ไม่ปรารถนาอะไรเลย ตัวอย่างก็มีท่าน อาฬวีเศรษฐี คือว่าท่านอาฬวีเศรษฐีพ่อท่านเป็นมหาเศรษฐี พอพ่อท่านตายลงท่านก็เป็นเศรษฐีแทน เศรษฐีสมัยนั้นพระราชาต้องแต่งตั้ง แล้ว ต่อมาพวกขี้เมาก็ชวนกินเหล้าเมายา ในที่สุดทรัพย์สินก็หมดไป จนกระทั่งกลายเป็นขอทาน วันหนึ่งพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์เสด็จไปที่เมืองอาฬวี เห็นอาฬวีเศรษฐีนั่งขอทานอยู่ข้างฝาเรือนชาวบ้าน พระพุทธเจ้าก็ทรงแย้มพระโอษฐ์ พระพุทธเจ้าตามปกติจะไม่แย้มพระโอษฐ์ ถ้ายิ้มแล้วต้องมีเรื่อง
    พระอานนท์จึงทูลถามว่า
    “พระองค์ยิ้มด้วยเรื่องอะไร พระพุทธเจ้าข้า…?”

    พระพุทธเจ้าถามว่า
    “อานนท์ เธอเห็นอาฬวีเศรษฐีไหม…?”

    พระอานนท์มองไปมองมาไม่เห็น เห็นแต่ขอทาน

    พระพุทธเจ้าก็บอกว่า ขอทานนั่นแหล่ะคืออาฬวีเศรษฐี แล้วพระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า ถ้าอาฬวีเศรษฐีสมัยเมื่อเป็นเศรษฐี ถ้าฟังเทศน์ของเราเพียงจบเดียวจะได้บรรลุพระอนาคามี เมื่อเงินน้อยลงมาเป็นอนุเศรษฐี ถ้าฟังเทศน์จากเราเพียงจบเดียวจะได้เป็นพระสกิทาคามี เมื่อมีฐานะเป็นคหบดี ถ้าฟังเทศน์จากเราเพียงจบเดียวจะได้เป็นพระโสดาบัน แต่ว่านี่อาฬวีเศรษฐีเป็นขอทานเสียแล้ว เราเทสน์จึงไม่มีผล

    ตอนนี้พระอานนท์ทูลถามว่า
    “ตามธรรมดาคนจะบรรลุมรรคผล องค์สมเด็จพระทศพลเคยตรัสว่าจะตายก่อนก็ยังไม่ได้ ต้องบรรลุมรรคผลก่อนนี่ พระพุทธเจ้าข้า…?”

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า
    “นั่นเขามี อธิษฐานบารมี”

    ตอบ : เป็นอันว่าอาฬวีเศรษฐี ไม่มีอธิษฐานบารมีใช่ไหมโยม

    ถาม : “ใช่ค่ะ”

    ตอบ : คนจะได้ดี เลยไม่ได้ดี ต่อไปอธิษฐานเสียนะ.

    61477821_2411943842159819_6219602575822422016_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  2. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  3. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  4. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    การดับความโกรธ โดยหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

    ถ้าเราไม่ฆ่าเขา เขาจะตายไหม ตาย! ไม่มีใครมันอยู่ค้ำฟ้าหรอก แล้วจะไปนั่งฆ่ามันให้มันเมื่อยมือทำไม ใช่ไหม มันไม่อยากทำให้ดีก็เป็นความเลวของมัน มันทำให้เราโกรธ แต่เราไม่โกรธ แล้วความโกรธมันเป็นของเลว แต่ใหม่ๆ ก็อดโกรธไม่ได้นะเพราะฉะนั้นเราก็นิ่งเสีย บอกมันจะเลวก็เลวไปคนเดียว มันมาด่า เหวยๆ ๆ เราก็อดใจ มันโกรธเราก็อดใจ ช่างมันเถอะ! ทีนี้ถ้ามันเก่งจริงมันต้องด่าไม่เลิก ถ้ามันเลิกเมื่อไหร่ มันแพ้เราเมื่อนั้น ใช่ไหม อีตอนนี้ใหม่ๆ ก็ฝืนยากหน่อย แต่ฝืนบ่อยๆ น่ะ อารมณ์มันจะชินทีนี้การตัดความโกรธ พระพุทธเจ้าท่านให้ทรง “พรหมวิหาร ๔” พอตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าคิดว่าตั้งแต่เช้าจนกว่าจะหลับ เราจะไม่มีจิตคิดเป็นศัตรูกับใคร ถึงแม้ว่าเขาจะคิดเป็นศัตรูกับเราก็ตาม เราจะไม่คิดตามนั้น เราจะถือว่าคนและสัตว์ทั้งหมดในโลกนี้ เป็นเพื่อนที่ดีสำหรับเรา แต่ทว่าใจเราเป็นยังงั้น บังเอิญเขาเลว เราก็ต้องวางอุเบกขาพ่วงท้าย เฉย! ไม่คบหาสมาคมแต่ไม่ได้โกรธนะ ใช่ไหม ต้องถือตาม “มงคลหมวดที่หนึ่ง” ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า
    “อเสวนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง” ท่านบอกว่า
    จงอย่าคบคนพาล คือไม่คบคนชั่วหนึ่ง คบแต่บัณฑิตหนึ่งจงบูชาบุคคลที่ควรบูชาหนึ่ง
    ทั้ง ๓ ประการ จัดว่าเป็นอุดมมงคล ใช่ไหม!
    ทีนี้ในเมื่อเรามี “พรหมวิหาร ๔” เราดีกับเขา แต่เขาเลวกับเรา เขาคิดเป็นศัตรูเรา เราไม่คบ เราแยกออกมา วางเฉยเสีย ด้วยตัวอุเบกขา ใช่ไหมทีนี้ถ้าหากว่าจะถามว่า ถ้ายังงั้นไม่เป็นการถือตัวถือตนรึ! ไม่ใช่เราถือ ถ้าเขาดีเราก็คบ เพราะอะไรเพราะหากว่าเราขืนคบหาสมาคมกับคนเลว เราก็จะเลวไปด้วย ถึงแม้ว่าเราไม่เลว กลิ่นเลวมันก็ติดท่านอุปมาไว้ในมงคลบอกว่า ถ้าเราเอาใบตองมาห่อของเน่า ไอ้ของเน่านี่มันไม่ซึมลงไปในเนื้อของใบตอง แต่ทว่ากลิ่นเหม็นมันจะติดใบตอง โยนของเน่าทิ้งไป เอาใบตองมาดมมันยังเหม็น ใช่ไหม!ถ้าเราคบหาสมาคมกับคนพาล เขากินเหล้า เราไม่กินเหล้า เขาสูบเฮโรอีน เราไม่สูบเฮโรอีน เขาลักเขาขโมย เราไม่ลักเราไม่ขโมย เขาไปข่มเหงชาวบ้าน เราไม่ไปแต่เราถือว่าเป็นเพื่อนกัน เราเดินด้วยกัน คนเขาเห็นเข้าเขาจะหาว่าเราเป็นคนชั่วเท่ากับคนนั้น อย่างกลิ่นติดที่ใบตอง ใช่ไหม!ทีนี้เราก็ต้องใช้วางอุเบกขา วางเฉยไว้ก่อน ในเมื่อเขาเลวเราไม่ใช่เกลียด แต่ว่าเราก็วางเฉย ยังไม่คบ คบไม่ได้เพราะเขายังเลวอยู่ ถ้าเขาดีเมื่อไหร่เราคบเมื่อนั้น.

    จากหนังสือ หลวงพ่อเล่าให้ฟัง เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๒๐ โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    62402023_2428813683806168_6351177000559837184_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  5. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ทำไมจึงต้องกำหนดเอาการดื่มสุราเข้าไว้ในศีล ๕ ด้วย?

    “หลวงพ่อครับ ผมก็ไม่เห็นว่าสุราจะเลวร้ายอะไรนักหนา ทำไมจึงต้องเอามากำหนดเข้าไว้ในศีล ๕ ด้วยเล่าครับ?”

    “ไอ้สุรานี่แหละตัวร้ายที่สุดละคุณ เพราะมันเป็นตัวทำลายสตินะ หากดื่มเข้าไปแล้วจะทำให้ขาดสติ และทำลายศีลทั้ง ๔ ข้อแรกได้ทั้งหมดเลยนะ เป็นยังไง ดูคุณอาลัยอาวรณ์มากจริงนะ” หลวงพ่อตอบและเย้าข้าพเจ้า

    “ก็เป็นบ้างครับ แต่ผมสงสัยว่าสุราจะไปทำลายศีลทั้ง ๔ ข้อแรกได้อย่างไรครับหลวงพ่อ?” ข้าพเจ้ารับอ่อยๆ

    “อ้าว ก็ดื่มแก้วแรก แก้วสอง แก้วสาม ก็ยังคุยกันได้เป็นเรื่องเป็นราวสนุกสนานครื้นเครงดี พอแก้วที่สี่ ที่ห้า ชักหน้าตึง หูตึง ลิ้นไก่สั้น เสียงเริ่มดัง ใครเก่งทางใดก็เริ่มอวดลวดลาย คุยอวดความเก่งกล้าสามารถของตัว บางรายก็ชักแสดงอิทธิฤทธิ์ด้วยการเคี้ยวแก้วเล่นก็มี บางรายก็ถอดถุงเท้าของตัวเองลงในแก้ว แล้วนั่งดื่ม บางรายก็ร้องไห้ หากมีการพูดผิดหูกันขึ้นอาจถึงขั้นมีการท้าดวล ยิ่งโต๊ะข้างเคียงไม่ถูกกันมาก่อน พูดจาแขวะกันไปแขวะกันมาก็ขาดสติ ยั้งคิด ถึงขั้นฆ่ากันตาย ก็ผิดศีลปาณาขึ้นมาด้วยขาดสติใช่ไหม?
    และถ้าคุณเมามายขาดสติ แล้วเกิดไปหยิบฉวยข้าวของมีค่า เช่นปากกาปลอกทอง หรือนาฬิกาของเพื่อนฝูงที่เมาด้วยกัน ติดไม้ติดมือกลับบ้าน หรือทำเงินที่เขาฝากมาหายไป แล้วพอได้สติก็หาใช้เขาไม่ได้ ก็เป็นการผิดศีลอทินนาเข้าอีก
    หรือถ้าคุณเกิดเมามายขาดสติ กลับเข้าบ้านเกิดไปสะดุดสายมุ้ง มุดเข้าไปหลับนอนกับใครที่มิใช่เมียของคุณ ก็ผิดศีลกาเมเข้าไปอีก
    หรือถ้าในขณะที่คุณเมามายขาดสติ เกิดไปรับปากสัญญาอะไรกับใครเขาไว้แต่พอวันรุ่งขึ้นเมื่อสร่างเมา คุณก็ลืมเสียสิ้น ปล่อยให้เขาต้องเสียเวลาไปรอคอยก็ดี หรือผิดหวังที่คุณผิดสัญญาในเรื่องที่คุณรับปากไว้ก็ดี ก็ผิดศีลมุสา อีกใช่ไหม?
    นี่แหละฉันจึงว่าสุรานั้นเป็นตัวทำให้ขาดสติและทำลายศีลทั้ง ๔ ข้อแรกได้ หรือคุณว่าไม่ใช่?” หลวงพ่ออธิบาย

    65188672_2441280512559485_8325853408204423168_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  6. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    .png
    .png
    งานอุปสมบทหมู่ครั้งต่อไป คือ งานอุปสมบทหมู่เพื่อจำพรรษา จะลาสิกขาได้ก็ต่อเมื่อรับกฐินแล้ว รับสมัครตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๒ อุปสมบทในวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๒

    ติดต่อสมัครได้ที่พระฉัตรฐิภัค อริโย (ท่านเก่ง) เลขานุการเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน เลขานุการรองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๙๗-๙๙๐-๙๐๕๙ ครับ

    *ถ้าบวชตามกำหนดการนี้ ทางวัดจัดบวชให้ ฟรี
    *ถ้าบวชนอกกำหนดการนี้ ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง
    *สามารถดาวน์โหลดใบสมัครบวช, คู่มือในการสมัครบวชและระเบียบปฏิบัติต่าง ๆ ของวัดได้ที่นี่

    โอนปัจจัยร่วมบวชพระได้ที่
    ธนาคารกรุงไทย สาขาทองผาภูมิ
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ ๗๑๘ – ๐ – ๒๔๔๖๑ – ๙
    ชื่อบัญชี วัดท่าขนุน

    ที่มา http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=138&page=3

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  7. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    คนเรามีต้นกรรมไม่เหมือนกัน

    ต้องทราบไว้เสมอว่า คนที่เกิดมานี่ มีต้นกรรมไม่เสมอกัน คนในโลกแบ่งออกเป็น ๔ ระดับคือ

    ๑. คนฉลาดมาก ที่ทำบุญไว้เต็มแล้ว มีบารมีครบถ้วน เพียงแนะนำแต่เพียงหัวข้อย่อ ๆ ก็บรรลุมรรคผลทันที

    ๒. บางพวกปัญญาบารมีหย่อนนิดหน่อย พออธิบายก็บรรลุมรรคผล

    ๓. บางพวกพอแนะนำให้เข้าใจในกุศลเบื้องต้นได้ แต่เอาบรรลุมรรคผลไม่ได้

    ๔. พวกสุดท้าย เป็นพวกเหลือขอ พูดไม่รู้เรื่อง อวดตัวว่าเป็นผู้วิเศษหมดทางแนะนำ

    คนในโลกแบ่งออกเป็น ๔ พวกอย่างนี้ลูกจงอย่าคิดว่าเขาจะเหมือนเราเสมอไป การแนะนำเป็นของดี แต่อย่าเอาใจเข้าไปผูกพัน ถือว่าบอกปล่อยเขาทำตามก็ดี ไม่ทำตามก็ช่างเอาตัวเรารอดเป็นการพอแล้ว ปล่อยเขา เขาจะคิด จะพูด จะทำอย่างไร อย่าสนใจเป็นอันขาด

    จากหนังสือ โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๙ โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    65210515_2455129231174613_9100460578333261824_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  8. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    65544705_1300344540142082_5099907552397754368_n.jpg
    65526747_1300344546808748_1779479893617147904_n.jpg
    65394850_1300344533475416_4820283710886641664_n.jpg
    65637173_1300344596808743_322678608025878528_n.jpg
    65483105_1300344603475409_4902510919898103808_n.jpg
    จุดบริการรถตู้ ที่ร้านอาหาร อรวรรณ์ ตรงข้ามทางเข้าวิหารแก้ว 100 เมตร วัดท่าซุง เป็นจุดบริการรถตู้เดินทาง อุทัยธานี-กรุงเทพฯ ไม่ต้องไปขึ้นรถที่ บขส. สำรองที่นั่งจาก บขส.อุทัยได้ที่ โทร 088-879-8229 โทรจองแล้วขึ้นตรงหน้าวัดได้เลย

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  9. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  10. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    จงกล่าวโทษโจทย์ความผิดตัวเองไว้เสมอ หลวงพ่อฤาษี

    จงอย่าสนใจในจริยาของบุคคลอื่น เขาจะดีเขาจะเลวอย่างไร มันเป็นเรื่องของชาวบ้านชาวเมืองเขา อย่าใช้อารมณ์เข้าไปยุ่งไปเกี่ยว เรามีหน้าที่อย่างเดียวคืออัตตนา โจทยัตตานังจงกล่าวโทษโจทย์ความผิดตัวเองไว้เสมอนั่นก็หมายความว่า ดูความดีหรือความชั่วของตัวเอง ความดีไม่ต้องดู ดูแต่ความชั่ว ในเมื่อชั่วมันไม่มี มันก็เหลือแต่ดี ไม่เป็นไร คือระวัง อย่าให้มันชั่วซ้ายชั่วขวา ชั่วหน้าชั่วหลัง ชั่วล่างชั่วบน อย่าให้มันชั่ว แม้แต่นิดหนึ่งอย่าให้มันมีคนอื่นเขาจะกินมาก เขาจะกินน้อย จะเลวมาก จะเลวน้อย เขาจะดีมาก เขาจะดีน้อย มีสมบัติมาก มีสมบัติน้อย มีจริยาวาจาไม่ดี นั่นเป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา อย่าไปสนใจเด็ดขาด อันนี้ถ้าไปสนใจ พระพุทธเจ้าทรงกล่าวว่าเป็น อุปกิเลส คือความชั่วที่หนึ่ง ที่เราควรเว้น

    จากหนังสือ โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่มที่ ๒ หน้าที่ ๒๒ โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    67521336_2509715139049355_6131895345023549440_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  11. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    คนเรามีต้นกรรมไม่เหมือนกัน

    ต้องทราบไว้เสมอว่า คนที่เกิดมานี่ มีต้นกรรมไม่เสมอกัน คนในโลกแบ่งออกเป็น ๔ ระดับคือ

    ๑. คนฉลาดมาก ที่ทำบุญไว้เต็มแล้ว มีบารมีครบถ้วน เพียงแนะนำแต่เพียงหัวข้อย่อ ๆ ก็บรรลุมรรคผลทันที

    ๒. บางพวกปัญญาบารมีหย่อนนิดหน่อย พออธิบายก็บรรลุมรรคผล

    ๓. บางพวกพอแนะนำให้เข้าใจในกุศลเบื้องต้นได้ แต่เอาบรรลุมรรคผลไม่ได้

    ๔. พวกสุดท้าย เป็นพวกเหลือขอ พูดไม่รู้เรื่อง อวดตัวว่าเป็นผู้วิเศษหมดทางแนะนำ

    คนในโลกแบ่งออกเป็น ๔ พวกอย่างนี้ลูกจงอย่าคิดว่าเขาจะเหมือนเราเสมอไป การแนะนำเป็นของดี แต่อย่าเอาใจเข้าไปผูกพัน ถือว่าบอกปล่อยเขาทำตามก็ดี ไม่ทำตามก็ช่างเอาตัวเรารอดเป็นการพอแล้ว ปล่อยเขา เขาจะคิด จะพูด จะทำอย่างไร อย่าสนใจเป็นอันขาด

    จากหนังสือ โอวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่มที่ ๑ หน้าที่ ๙ โดย…หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    67717739_2526730447347824_6726558593929183232_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
  12. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
  13. ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง

    ศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2017
    โพสต์:
    4,338
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +121
    ไม่มีเงินทำบุญแต่อยากได้บุญ
    ผู้ถาม : “กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือลูกไม่มีเงินจะทำบุญ ก็ต้องไปขอพี่บ้าง น้องบ้าง เวลาไปขอเขาทีไรเขาชอบพูดกระแนะกระแหน หาว่าลูกไม่เจียมบอดี้… อยากเรียนถามหลวงพ่อก็คือว่า คนที่ไม่มีเงินจะทำบุญแล้วอยากจะได้บุญ หลวงพ่อมีคำแนะนำจะให้ทำอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ?”
    หลวงพ่อ “ไม่ยาก.. บุญที่ไม่ต้องลงทุนก็มี ถ้าต้องการ ๑.รักษาศีล ศีลไม่ต้องใช้เงิน ๒.เจริญภาวนา ไม่ต้องใช้เงิน ๓.การให้ทาน เราต้องใช้เงินใช่ไหม…จะไม่ใช้ก็ได้ เขาเดินถวายทานเป็นแถว ๆ ปัตตานุโมทนามัย ดีใจกับเขา คนละ ๙๐ เปอร์เซ็นต์ ตั้ง ๑๐๐ คนเท่าไรล่ะ?”
    ผู้ถาม : “อย่างนี้เราไม่ต้องถวายสตางค์หลวงพ่อก็ได้ซิครับ:”
    หลวงพ่อ : “ฉันไม่รับเงินมานานแล้วนะ รับแต่แบงก์อย่างเดียว”
    ผู้ถาม : “อย่างนั้นคนจนก็ไม่ต้องตกใจนะ อาศัยปัตตานุโทมนามัย”
    หลวงพ่อ : “ถ้ามีบ้างก็ทำเท่าที่มีได้ ถ้าไม่มีทำก็นั่งโมทนา นึกในใจยินดีในผลที่เขาทำแล้ว เท่านี้แหละ ๙๐ เปอร์เซนต์ วัน ๆ นับไม่ไหว อย่างที่นี่หาบไม่ไหว ต้องเอาพ้อมมาใส่ และบุญนีไม่สลายตัวด้วย”
    ผู้ถาม : “แหม…คนที่ยกมือ ไม่ต้องลงทุนเลยนะ”
    หลวงพ่อ : “ลงทุนเหมือนกัน ลงทุนแค่ยกมือ ถ้าเขาไม่ยกมือก็ได้ ยินดีด้วยจิตนอบน้อม อย่างฉันนี่ยกทั้งวันปวดแขน ก็เลยไม่ต้องยก เมื่อไม่ต้องยกก็มีผลสมบูรณ์แบบนะ”
    จากหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๙ หน้า ๕๔-๕๕

    69384196_2566259346728267_3318375531996512256_n.jpg

    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษี (ลิงดำ)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...