แผนทำลายพระศาสนา ทำลายพระสงฆ์ที่เป็นที่ยึดเหนี่ยวของชาวพุทธ มีจริง

คำสารภาพก่อนตายของ "นาง...... ....." ที่ใส่ร้าย #พระยันตระ

-------------
กรณีเดียวกับที่ #พุทธโธภาวนา โดนมาแล้วเช่นกัน ที่หาว่ามีอะไรกับเด็กชาวเขา 6 คน ใส่ร้ายว่าโดนข่มขืน แต่เวลายกฟ้องออกข่าวกรอบเล็กนิดเดียว ติดคุกไปตั้งกี่ปี ต้องสึกจากพระ ชื่อเสียงพินาศป่นปี้
เมื่อปี พ.ศ. 2536 มีข่าวครึกโครม "พระยันตระ อมโร" พระหนุ่มรูปงามแห่งเกริงกระเวีย มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกาสาว "นาง........"
.
สื่อต่างๆ ทั้งโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์แย่งกันนำเสนอข่าวหลากรูปแบบ
เพื่อกระตุ้นยอดขายโดยไม่สนใจข้อมูลเท็จจริงแต่อย่างใด พฤติกรรมสามานย์สารพัดถูกนำมาใช้ ใส่ร้ายป้ายสีเพื่อให้ดูชั่ว ถึงขนาดส่งคนไปเผากุฏิไม้ที่ท่านอาศัยปฏิบัติธรรมบนยอดเขา เพื่อสร้างข่าวเอามาขาย แม้พระพุทธรูปทองเหลืองยังต้องหลอมละลายเพราะความร้อน
.
รุ่งเช้าก็มีข่าวพาดหัวตัวไม้ใหญ่ยักษ์ "ฟ้าพิโรธ ลงโทษยันตระ" สื่อแบกะดินที่แทบไม่ใครรู้จักและอยู่ในภาวะใกล้ล้มละลาย กลับรุ่งเรืองเฟื่องฟูขึ้นมาทันที เพราะจับทางคนได้ว่า นิยมเสพข่าวร้ายมากกว่าข่าวดี
.
แต่สื่อยักษ์ใหญ่อย่าง "ไทยรัฐ" สมกับเป็นสื่ออันดับหนึ่งของเมืองไทยคือ ยึดหลักขายความจริงมากกว่ามุ่งยอดขายข่าวเท็จที่หวือหวา
ได้ส่งนักข่าวเกรดเอเงินเดือนสูงไปบวชเป็นพระเพื่อสืบค้นความจริง
.
ก่อนที่พระนักข่าวรูปนั้นจะลาสิกขา ได้กล่าวสารภาพความจริงต่อหน้าพระสงฆ์และญาติธรรมว่า
.
"ผมเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ถูกส่งมาบวชเพื่อมาเจาะหาความจริง ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ได้ร่วมปฏิบัติธรรมกับหมู่คณะ ผมประจักษ์ชัดทั้งด้วยตัวเองและข้อมูล ขอสารภาพเปิดใจ ณ ที่ตรงนี้ต่อหน้าทุกท่านว่า.....
.
"ผมเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของพระอาจารย์ยันตระ อมโร ครับ"
.
หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปไม่นานนัก "นาง................." ก็ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง แต่อนิจจจาสื่อไทยที่จรรยาบรรณตายไปแล้วไม่มีสื่อใดลงข่าวคำสารภาพของ "นาง............." ก่อนเสียชีวิตเลย นอกจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และลงเพียงกรอบสี่เหลี่ยมเล็กๆ เท่านั้น
.
"ก่อนตายดิฉันขอสารภาพความจริงเพื่อไถ่บาปว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับพระอาจารย์ยันตระไม่มีมูลความจริง แต่เพราะความโกรธแค้นที่ถูกลูกศิษย์ขัดขวางไม่ให้เข้าใกล้พระอาจารย์
.
กอปรกับดิฉันอยู่ในภาวะร้อนเงินด้วย เมื่อมีคนว่าจ้างรับปากจะช่วยเหลือและสัญญาจะส่งเสียลูกสาวเล่าเรียน ดิฉันจึงต้องทำงานนี้ให้กับเขา"


ที่มา https://web.facebook.com/profile.php?id=100050450021648&__cft__[0]=AZVrow5skg5fM-52rkLsFfy6iqfyTiOTIOeqmazYh4owNNqsFawlT7HZ9dhHQM33K1PpcVvzCcZqQrzLQv3jGzsDaLRRQsJDhAdaLbSjjD6tyNP-H1oHttzdrllH4klKFA-Vd0AIvelJNnPMsrkf5BZZVBR6J4eHCsEuEIy8GVabhg&__tn__=-UC,P-R




สืบหาข้อเท็จจริง จากบุคคลากรที่เชื่อถือได้
ก่อนที่ความจริงจะถูกลบเลือนไปกับเวลา
และผู้ทราบความจริง ที่ทยอยสิ้นอายุขัยไป

 

เป็นที่ทราบกันว่า

แม้แต่พระอริยสงฆ์รุ่นเดิมๆมา ทั้งหลวงตาพระมหาบัว พระอาจารย์เปลี่ยน ฯลฯ มันยังทำถึงขั้นวางยาพิษ และ บุกขึ้นยิงถึงกุฏิ แต่ปืนไม่ทำงาน .... ส่วนเรื่องยาพิษ พระท่านเล่าให้ฟังว่า ท่านทราบก่อน จึงคลาดแคล้วไป

 

การส่งนักวิชาการ หรือ นักพูด นักคิด ที่ใช้ภาษา ทักษะการโน้มน้าว มาทำงานร่วมกับ
พวกที่สร้างสถานะการณ์ เพื่อให้ภาพลักษณ์ของบุคคลากรที่มีคุณต่อพระศาสนา ต้องมัวหมอง

และ เสริมสถานะการณ์ให้เลวร้าย ด้วยสื่อ ที่พวกเค้าเข้าซื้อ เข้ายึด ( ปัจจุบันนี้ ยึดสื่อใหญ่ๆ หลายเจ้าแล้ว )