แก้อารมณ์อย่างไร...

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย อนุชิต, 1 กรกฎาคม 2020.

  1. อนุชิต

    อนุชิต สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ในขณะที่ภาวนาจับอานาปานุสติไปด้วยนั่งทำงานไปด้วย เกิดอารมณ์หงุดหงิด เสียงใครๆพูดอะไรมากระทบก็เกิดอารมณ์หงุดหงิด แต่ยังคงรู้อารมณ์นั้นอยู่ แบบนี้เรียกอะไร มีวิธีแก้ไขอารมณ์เหล่านี้หรือเปล่า...ขอความเมตตาผู้รู้ช่วยชี้แนะ
     
  2. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,923
    ค่าพลัง:
    +2,262
    กรรมฐาน ที่เหมาะ จะภาวนาตอนทำงาน คือ งานวิปัสสนา

    พอพักจากงาน เช่น เดินไปเข้าห้องน้ำ ไปทานข้าว ตรงนี้
    ต้องสับ ปิติมา ทำสมถะ

    ดังนั้น

    ต้อง ฉลาดในการ เจริญโพชฌงค์ ธรรมเครื่องตัด "อาสวะ"

    วิปัสสนานั้น จะอาศัย การเห็นโลภะ โทษะ โมหะ มีในจิต
    งานจะเดิน จะต่างกันกับ ทำสมถะ ที่เน้น พัก ด้วยการ
    กดข่มกิเลส

    ลองพิจารณา ความต่าง ระหว่าง สมถะ และ วิปัสสนา
    ให้เข้าใจ

    พอเข้าใจ หายใจหนึ่งครั้ง หากเห็นกิเลส เช่น ลมหยาบ
    ลมสั้น ลมร้อน เพราะ จิตมีโทษะ โลภะ แล้วขณะนั้น
    สมาทาน วิปัสสนา ก็จะเข้าเป้า เกิดการเห็นกิเลสดับ
    โดยที่ สติ(ที่ไปเห็นกิเลส)ต้องดับด้วย หากค้างเติ่ง
    แปลว่า สมาทานสมถะ จะผิดงาน

    พอสามารถ ยกวิปัสสนาได้ คราวนี้ จิตจะเปลี่ยน

    จะสามารถ ภาวนา วิปัสสนาให้เป็น สมถะก็ได้
    จะภาวนสมถะ ให้เป็น วิปัสสนาก็ได้(พิจารณา
    องค์ฌาณที่เจริญ เสื่อม เพื่ออาศัยเห็น โลภะ
    โทษะ โมหะ ละเอียด ปราณีต)


    พอยกได้ทั้งวิปัสสนา และ สมถะ จะพบว่า
    เหมือน คนที่ได้ทำงานแล้วไม่มีวันขอลา
    ออกได้อีก หายใจในแต่ละครั้ง จะเป็น
    งานหมด คือ ไม่เป็นสมถะ ก็เป็นวิปัสสนา
    อย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่มี ลืมหลง(ปุถุชนขาดการสดับ)
     
  3. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,916
    ค่าพลัง:
    +4,612


    สงบ ใน ท่าม กลาง ความ วุ่น วาย นะ โยม นะ..

    หงุดหงิดเกิด ไม่พอใจเกิด โทสะเกิด ด้วยโยมคาดหวังและต้องการความสงบ..

    หยุดคาดหวังแล้วตั้งใจดูมันเกิดดับไปงั้นๆแหละโยม ทำไปดูไป สงบก็ช่าง ไม่สงบก็ช่าง แล้วไม่ช้าไม่นาน ช่างจะทำกิจที่ควรทำสำเร็จ..
     
  4. hbrsjdat

    hbrsjdat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2020
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +46
    อย่าไปสนใจอารมณ์อื่นๆ ให้สนใจแต่ลมหายใจเข้าออกและการงานที่ทำอย่างเดียว มารที่มันแฝงมาตามรูปเสียงกลิ่นรสสัมผัสมันอยากลองของ พวกมารมันอยากจะดูว่าคุณจะไปได้กี่น้ำ อยู่กับธรรมได้นานแค่ไหนโดยสติไม่แตกไปเสียก่อน

    แต่ไม่เป็นไรถ้าเพิ่งหัดใหม่ๆสู้กิเลสมารไม่ไหวหรอก กำลังมันเยอะกว่าสติธรรม แพ้มารวันยังค่ำ แพ้ก็สู้ใหม่ครับ ว่าแต่ว่าคุณจะสู้หรือจะเลิกใครก็บังคับคุณไม่ได้นะ
     
  5. Nelumbo

    Nelumbo บัว เป็นดอกไม้น้ำชนิดหนึ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2020
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +128
    วิธีเราขอเสนอนะ จากการที่ฟังธรรม อ่านธรรม

    รับรู้ว่าหงุดหงิด แล้วปล่อยไปค่ะ
    ไม่ได้หมายถึงไม่ต้องคิดถึงมันนะ
    แต่เหมือนกันกับแยกชั้นจิตออกมาแบบ...
    อืมม รู้แล้วว่าหงุดหงิด
    คือแบบ...
    ตัวหนึง หงุดหงิด
    อีกตัวนึง เออ รู้ว่าหงุดหงิด รู้แล้ว รู้แล้ววาง รู้แล้วจบ
    แล้วก็โยนมันทิ้ง

    จากการที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    1.อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข
    ความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์
    2.ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข,
    ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์
    3.ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง,
    มีความปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์

    ดังนั้นสิ่งที่คุณเจอแล้วรู้สึกแบบนี้มันก็ตามคำสอนท่านทุกสิ่ง

    เพราะฉะนั้น รับรู้แล้ว อืมรู้ แล้วจบ

    อีกวิธีนำเสนอ คล้ายๆกัน อันนี้ส่วนตัวเราจะชอบใช้วิธีนี้นะ

    เราเรียกมันว่า วิธีรับรู้และปิดกั้น

    คือทำงาน+สวดมนต์/นิมิตองค์พระไว้ แยกเป็น2แชนแนลแล้ว
    เอามันมารวมกันไม่ดี ควรจะต้องแยกแชนแนล
    ไม่แนะนำให้รวม รวมแล้วงานผิดพลาดได้

    แยกแชนแนล3<< คลื่นแทรก ที่แยกได้ยากเวลาฝึกใหม่ๆ
    พยายามแยกแชนแนล3ให้ได้
    คือ
    มันจะกลายเป็น3แชนแนล

    1.ทำงาน 2.สวดมนต์/นิมิตองค์พระ 3.ฟังคนอื่นคุยกัน
    (รับรู้ว่าเขาคุยอะไร จำได้หมด แต่ไม่มีอารมณ์กับสิ่งนั้นๆ)
    วางอุเบกขา(วางเฉย) ไว้

    แล้วปิดแชนแนลที่3 คือคนอื่นคุย ปิดแบบไม่รับรู้ถ้าไม่มาคุยกับเรา
    ต่อให้พาดพิงใครสักคนหรือต่อให้เป็นเราเราก็ไม่รับรู้สิ่งนั้น

    เท่านี้ก็ไม่รับรู้แล้ว

    แต่ผลที่ตามมาน่ะนะ...ต้องตะโกนข้างหูนะถึงได้ยินอะค่ะ
    บางครั้งคนตะโกนก็ไม่ได้ยินด้วยค่ะ เพื่อนต้องจิ้มๆ บอก แกๆ ถึงรู้สึกตัว

    .........
    มันก็มีข้อเสียของมันนะ

    ดังนั้นเราว่ารับรู้แล้ววางจะดีกว่า

    วิธีเรามันเหมือนเอาโล่ห์กันครอบตัวเอาไว้แยกโลกกับชาวบ้านอ่ะ
    คือมีความสุขแบบด๊องๆๆของเรา ไม่มีเรื่องกับใคร แต่ไม่มีใครสนิทกับเราจริงๆเช่นกัน
    เวลาใครนัดเที่ยวนอกรอบเวลางานก็จะแบบชวนเราบ้างไม่ชวนเราบ้าง เพราะเราเหมือนจะอยู่แต่ก็เหมือนไม่มีตัวตนในขณะเดียวกัน

    เหมือนแบบ คนอื่นอยู่ร้อนๆ เราเอาพัดลมมาจ่อแล้วนั่งจ๋อมๆลั่ลล๊าปรือๆ
    อะไรประมาณนั้น
     
  6. DrG

    DrG สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +4
    ยิ่งคุณทำอย่างนั้นอัตตาคุณยิ่งเพิ่ม คุณยิ่งทุกข์มาก เวลาทำแบบนั้นลองสังเกตุตรงความโกรธง่ายของตัวเองให้ดีที่จะเพิ่มมากขึ้น สังเกตุให้ดี

     
  7. DrG

    DrG สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +4
    พอรู้ว่าที่ทำอยู่มันไม่ดี และได้ข้อมูลละ ก็ให้เลิกเสีย หรือหากยังจะอยากทำต่อไปเรื่อยๆ จนทุกข์หนักขึ้นเรื่อยๆ ก็ตามใจ....
     
  8. DrG

    DrG สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +4
    แต่ระวังเวลาทำอะไรแบบนั้น แรกๆ มันอาจจะรู้สึกเหมือนดี แต่ทำไปเรื่อยเป็นอย่างไร...
     
  9. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ผมว่าน่าจะขาดความอดทนอดกลั้นคับ
    และขาดความเมตตาตัวเองคับ
    ลองย้อนกลับมองดูตัวเองคับ
    ร่างกายที่เราใช้ทุกวันการหงุดหงิดง่าย
    คือการทำร้ายตัวเองคับ
    วิธีแก้ผมคิดว่าต้องมีความเมตตา
    ที่มาพร้อมกับความอดทนอดกลั้น
    สงสารร่างกายตัวเองคับ
    การรักษาสุขภาพกายสุขภาพใจ
    ผมมองว่าคือชัยภูมิที่เหมาะกับการปฏิบัติธรรม

    ร่างกายที่ไม่พร้อมสมบูรณ์
    จิตใจที่ไมมีความอดทนอดกลั้น
    จะไปได้ช้าคับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...