เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๔

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 29 มิถุนายน 2021.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๖๔


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 29 มิถุนายน 2021
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    วันนี้เป็นวันอังคารที่ ๒๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔ วันนี้ที่ไม่ได้บิณฑบาตไปหนึ่งวัน ก็เพราะต้องรีบไปบ้านเติมบุญ แล้วกลับให้ได้ภายในวันเดียว

    ภารกิจแรกที่ไปก็คือไปทำฟัน จุดอ่อนประจำตัว..ฟันแตก..! ภารกิจที่สองก็คือไปอัญเชิญพระพุทธรูปไม้โพธิ์นิพพาน ที่สร้างตามตำราสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว กลับมาไว้ที่วัดท่าขนุน พระพุทธรูปองค์นี้บรรจุดวงพิชัยสงครามของตัวผม/อาตมภาพเอง ปกติก็เก็บ ๆ ซ่อน ๆ เอาไว้ เพราะว่ากลัวจะช่วยให้เจริญรุ่งเรืองมากเกินไป แล้วคนจะหมั่นไส้เอา..!

    แต่ตอนนี้พอย้ายบ้าน ไม่มีที่ให้เก็บ ก็เลยจำเป็นต้องอัญเชิญกลับมาตั้งในที่อันเหมาะสมภายในวัดท่าขนุน ซึ่งดูแล้วก็มีที่เดียว ก็คือมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ สรุปว่า ถ้าจะรุ่งเรืองก็จำเป็นต้องรุ่งเรือง ไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงได้อีกแล้ว..!

    อีกส่วนหนึ่งก็คือ ไปอัญเชิญเบี้ยแก้ตัวครูของหลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว ที่ท่านเมตตาทำให้ไว้หลาย ๑๐ ปีแล้วกลับมาไว้ที่นี่ เพราะเกรงว่าญาติโยมส่วนหนึ่งที่จะมาพักปฏิบัติธรรมระยะยาว ๆ ที่วัดท่าขนุน อาจจะนำเชื้อไวรัสสารพัดสายพันธุ์มาฝากคนที่นี่..! จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีตัวจัดการไวรัส ที่ไม่เป็นที่เชื่อถือของทางแพทย์ศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์

    ส่วนหนึ่งที่อยากจะพูดในวันนี้ก็คือ แจ้งต่อญาติโยมทั้งหลายที่วางแผนจะมาอยู่ยาวที่วัด ต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า ไม่ว่าสถานที่ไหนก็ตาม คนก็ยังคงเป็นคนอยู่เสมอ สถานที่ดี ครูบาอาจารย์ดี ไม่ได้แปลว่าคนที่นั่นจะดีไปด้วย


    ส่วนหนึ่งที่กระผม/อาตมภาพตั้งความหวังไว้ก็คือ พระภิกษุ สามเณร แม่ชี ฆราวาสภายในวัด ตั้งใจปฏิบัติธรรมเพื่อ ลด ละ กิเลสให้ได้ทุกคน แต่ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะว่าหลายคนก็ไม่รู้ตัวว่าแบก รัก โลภ โกรธ หลง ไว้ท่วมหัว ไม่คิดแก้ไขตัวเองไม่พอ ยังช่วยกันปิดบังอีก ต่อหน้าทำอย่างหนึ่ง ลับหลังทำอย่างหนึ่ง แล้วยังมีการกำชับกันด้วยว่า "อย่าพูดไป เดี๋ยวหลวงพ่อจะรู้" ฟังแล้วตลก..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    ดังนั้น...ท่านทั้่งหลายที่จะมาวัด ต้องทำใจล่วงหน้าไว้เลยว่า เราจะต้องมาปะทะกับอารมณ์ที่ไม่ชอบใจอย่างแน่นอน หลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านบอกว่า ถ้าในสถานที่ซึ่งดีที่สุดแล้วมีคนชั่ว ก็แปลว่าคนพวกนั้นชั่วที่สุด..! ในเมื่อเป็นไปในลักษณะนั้น เราก็ต้องตั้งใจว่าเราจะมาพบกับคนชั่วภายในวัด..! เพื่อที่จะได้เตรียมใจให้พร้อมไว้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง

    เนื่องจากว่าปุถุชน คือบุคคลที่หนาแน่นด้วยกิเลส มักจะไม่เห็นข้อผิดพลาดหรือข้อด้อยของตัวเอง เหมือนกับปลาที่อยู่ในน้ำแต่มองไม่เห็นน้ำ ว่ายไปว่ายมาทั้งชีวิต ไม่รู้เสียด้วยซ้ำไปว่าน้ำหน้าตาเป็นอย่างไร ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายและน่าเสียใจ เพราะว่าการได้อยู่ในสถานที่ดี ได้อยู่กับครูบาอาจารย์ที่ดี แต่ไม่คิดจะเอาดีใส่ตัว สั่งสมแต่กาย วาจา ใจ ที่ชั่ว ๆ เอาไว้อยู่ตลอดเวลา

    ลักษณะแบบนั้น โอกาสไปทุคติมีสูงมาก ก็คือปฏิปทาแทนที่จะปฏิบัติเพื่อเป็นเทวดา เพื่อเป็นนางฟ้า เพื่อเป็นพรหมหรือว่าเพื่อหลุดพ้นไปพระนิพพาน ก็ปฏิบัติเพื่อความเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน..!

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าเราไม่สนใจ ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ รักษากาย วาจา ใจ ของเราให้ดีที่สุด ทุกเรื่องก็จบ อาตมาเองเผชิญกับเรื่องเหล่านี้มาหลายสิบปี ไม่ว่าจะอยู่สถานที่ไหนก็เหมือนกัน จนสรุปกับตนเองได้ว่า "วางก่อน สบายก่อน ใครอยากจะแบกไว้ก็ช่างหัวแม่มัน..!"

    คราวนี้..การที่เราจะวางลงได้เป็นเรื่องยาก เพราะว่าต้องเข้าถึงธรรมในระดับหนึ่ง ถึงจะเห็น "ความเป็นธรรมดา" ว่า การอยู่ในโลกนี้ เราต้องเจอกับคนแบบนี้อยู่แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ

    ต้องสร้างกำลังใจของเราให้สูงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะกำลังสมาธิ จะได้มีกำลังในการกด รัก โลภ โกรธ หลง ในใจของเราไม่ให้กำเริบ
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    ประการที่สองก็คือ ต้องสำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เอาไว้ ถ้าหากว่าเป็นปริศนาธรรมของทางเซน เราก็จะเห็นว่ามีลิงปิดหู ปิดตา ปิดปาก ก็คือไม่ดูสิ่งชั่ว ไม่ฟังสิ่งชั่ว ไม่คิดสิ่งชั่ว ไม่พูดสิ่งชั่ว เป็นต้น ใครอยากจะชั่ว ใครอยากลงนรก ให้เขาชั่วไป ให้เขาลงไป เราอย่าไปยุ่งกับเขา รักษาใจของเราให้ดีที่สุด

    คราวนี้การที่เราจะสำรวมอินทรีย์ ไม่ใส่ใจรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสต่าง ๆ ได้ สมาธิก็ต้องทรงตัว ไม่เช่นนั้นแล้ว สติไม่เพียงพอที่จะรู้เท่าทันและป้องกันอายตนะ ๖ ของเราไว้ได้

    ท้ายที่สุดสิ่งที่เราต้องวางกำลังใจในการอยู่วัดก็คือ ตั้งใจว่าเราต้องทำกาย วาจา ใจ ของเราให้ดีที่สุด เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธัมมบูชา สังฆบูชา อานิสงส์นี้ เราปรารถนาที่เดียวคือพระนิพพาน ให้ตั้งเป้าหมายสูงสุดเอาไว้ก่อน เพื่อที่เราจะได้ขวนขวายอย่างเต็มที่ ถ้าหากว่าเราขวนขวายเต็มที่เต็มสติกำลังของตนเองแล้ว ถึงจะไปไม่ได้ตามเป้าหมายสูงสุด อย่างน้อยก็ต้องไปได้สุดกำลังที่เราทำได้ ซึ่งอาจจะมากกว่าคนอื่นอีกหลายคน

    ในส่วนนี้ท่านใดไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ สามเณร แม่ชี หรือฆราวาส ถ้าหากว่ายังแบกอยู่มาก ก็รีบวางได้แล้ว เพราะว่าชีวิตของเราเป็นของไม่แน่นอน บาลีบอกว่า อะธุวัง ชีวิตัง ชีวิตเป็นของไม่แน่นอน ธุวัง มะระณัง ความตายเป็นของแน่นอน ถ้าตายแล้วลงอบายภูมิ เป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน ก็ถือว่าเกิดมาแล้วขาดทุน..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,394
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,530
    ค่าพลัง:
    +26,369
    ดังนั้น..เราต้องคิดอยู่เสมอว่าวันนี้เราจะต้องตาย ในเมื่อเราจะตาย เราก็ต้องสร้างคติ คือที่ไปของเราให้ดีที่สุดเท่าที่จะพึงทำได้ ก็คือขัดเกลากาย วาจา และใจของเรา ด้วยศีล สมาธิ และปัญญา

    ถ้าทุกคนตั้งกำลังใจไว้และทำแบบนี้ได้ทุกวัน ขึ้นชื่อว่าโอกาสที่จะรอดจากอบายภูมิไปสู่สุคติก็จะมีสูง แต่ถ้าหากว่าเราคิดว่าอยู่วัดแล้วทุกอย่างต้องดี เมื่อเผชิญกับสิ่งที่ไม่ดีแล้วเอากิเลสไปชนกิเลส ก็กลายเป็นว่าคนอื่นกระโดดลงนรก แล้วเราก็กระโดดตามไปด้วย ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้มีแต่จะพาให้ขาดทุนทั้งสิ้น


    ดังนั้น...การที่ท่านทั้งหลายจะได้รู้เรื่องเหล่านี้ไว้ หรือไม่ก็หลายท่านอาจจะเจอมาแล้วในหลายสถานที่ ก็จะได้ทำใจเอาไว้ล่วงหน้าว่า เราจะต้องเผชิญหน้ากับอะไรบ้าง และขณะเดียวกันก็จะได้ตั้งใจทุ่มเทสรรพกำลังใน ศีล สมาธิ ปัญญา ของตน เพื่อที่จะดึงตนเองให้หลุดพ้นจากห้วงกิเลส ขึ้นไปสู่ที่สูงที่สุดเท่าที่เราจะพึงทำได้


    ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งบอกกล่าวให้แก่บรรดาแม่ชีและฆราวาส ทั้งที่อยู่ที่นี่และอยู่ทางบ้าน ไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม ให้รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำ ถ้าบุคคลที่ได้อภิญญาได้สมาบัติต้องการรู้ ไม่มีอะไรที่ไม่รู้ เพียงแต่ว่าจะมีคุณค่าเพียงพอที่จะสนใจหรือไม่ ถ้าหากว่าพยายามบอกกล่าวให้แก้ไขแล้ว ไม่สามารถที่จะแก้ได้ ก็จำเป็นต้องปล่อยวางให้ลงนรกไปตามใจของตนเอง..! ก็ขอเจริญพรเอาไว้แต่เพียงเท่านี้


    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๒๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๔
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...