เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 6 กรกฎาคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,373
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,373
    วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๘ อีกไม่กี่วันก็จะเข้าพรรษาอีกแล้ว

    วันนี้กระผม/อาตมภาพออกไปร่วมงานแห่ผ้าและเปลี่ยนผ้าถวาย หลวงพ่อ ภปร. พระพุทธกาญจนธรรมพิทักษ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวอำเภอทองผาภูมิเป็นอย่างยิ่ง เนื่องเพราะว่าเป็นพระพุทธรูป ภปร. ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ก็คือหน้าตักประมาณ ๙ เมตร

    โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินมาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บนพระเกตุขององค์พระพุทธรูป เมื่อวันที่ ๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๒๙ ก็คือ ๓๖ ปีล่วงมาแล้ว ซึ่งทางด้านวัด หน่วยราชการ โรงเรียน และชุมชนได้ร่วมกันจัดขบวน เพื่อแห่ผ้าไปถวายและเปลี่ยนถวายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ตรงส่วนนี้เราจะเห็นว่า ถ้านับตามทฤษฎีบวรแล้ว ทางด้านวัดท่าขนุนก็ดี ทางวัดทองผาภูมิเจ้าของพื้นที่ก็ตาม ตลอดจนกระทั่งที่ว่าการอำเภอทองผาภูมิ นำโดยนายนภเดช เกลียวศิริกุล นายอำเภอทองผาภูมิและคุณนาย

    เทศบาลตำบลท่าขนุนซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ นำโดยนายจิตรกร ว่องประเสริฐ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลท่าขนุน

    เทศบาลตำบลทองผาภูมิ ซึ่งต้องบอกว่าอยู่ในพื้นที่ใกล้ชิดที่สุด นำโดยนายประเทศ บุญยงค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ก็ได้พร้อมเพรียงกันมาร่วมขบวนแห่ในครั้งนี้

    โดยมีคณะครูและนักเรียนของโรงเรียนเทศบาลทองผาภูมิ โรงเรียนทองผาภูมิวิทยา และโรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิ ก็มาร่วมขบวนโดยพร้อมเพรียงกัน

    ความสามัคคีกลมเกลียวกันตามหลักทฤษฎีบวรของในหลวงรัชกาลที่ ๙ เกิดขึ้น โดยที่พวกเราไม่จำเป็นที่จะต้องไปบังคับให้เกิด หรือว่าพากเพียรพยายามให้เกิด เพราะว่าสิ่งที่ทำนี้เป็นความภาคภูมิใจของชาวทองผาภูมิรวมกันว่า เรามีพระพุทธรูป ภปร. องค์ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วยังได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ว่า พระพุทธกาญจนธรรมพิทักษ์ ซึ่งพระพุทธรูป ภปร. ทั่วประเทศไทยนั้น อย่างเก่งก็หน้าตักประมาณ ๙ นิ้ว แต่ว่าชาวทองผาภูมิของเรามีพระพุทธรูป ภปร. หน้าตักกว้างถึง ๙ เมตร ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดขึ้นในโลก
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,373
    มีเรื่องเล่ากันเป็นตำนาน ซึ่งชาวทองผาภูมิจดจำขึ้นใจโดยเฉพาะรุ่นเก่า ๆ ที่ผ่านมา เนื่องจากว่าหลวงพ่ออาบ ปคุโณ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อสาย วัดท่าขนุนนั้น ท่านได้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ไว้หน้าวัดทองผาภูมิ ต้องขอกล่าวย้อนหลังไปว่าวัดทองผาภูมินั้น โยมแป้น (นางปรียา สิทธิสร) เป็นผู้ถวายพื้นที่ให้กับหลวงพ่อสาย วัดท่าขนุน เพื่อสร้างวัดใหม่ไว้ใจกลางชุมชน

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าวัดท่าขนุนนั้น แม้ว่าจะเป็นวัดสำคัญประจำอำเภอทองผาภูมิก็ตาม แต่ว่าชาวบ้านต้องลำบากในการข้ามน้ำ เพื่อที่จะมาทำบุญที่วัดท่าขนุน จึงมีผู้ที่เห็นว่าควรจะมีวัดประจำชุมชนเอาไว้ตรงกึ่งกลาง ไม่ต้องอ้อมโลกไปยังวัดท่าขนุน หรือไม่ต้องข้ามน้ำไปยังวัดท่าขนุน

    ดังนั้น...โยมแป้น (นางปรียา สิทธิสร) ซึ่งเป็นคหปตานีสำคัญของอำเภอทองผาภูมิยุคนั้น จึงได้ถวายพื้นที่ให้หลวงพ่อสาย วัดท่าขนุน ซึ่งเป็นเจ้าคณะอำเภออยู่ในขณะนั้น ได้สร้างเป็นวัดทองผาภูมิขึ้นมา และได้มอบให้ลูกศิษย์องค์สำคัญคือหลวงพ่ออาบ ปคุโณ ที่ภายหลังได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นพระครูกาญจนประสิทธิ์ ได้มาครองวัดนี้

    ดังนั้น..วัดท่าขนุนกับวัดทองผาภูมิจึงเป็นวัดพี่วัดน้อง หรือว่าเป็นวัดพ่อวัดลูกกันตั้งแต่ดั้งเดิมมา แล้วก็เป็นส่วนที่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายที่สุด โดยเฉพาะในการตั้งศพเพื่อบำเพ็ญกุศล เพราะว่าอยู่เยื้องกับโรงพยาบาลทองผาภูมินิดเดียวเท่านั้น พูดง่าย ๆ ว่าถ้านำศพออกจากโรงพยาบาลข้ามถนนมาก็เข้าวัดได้พอดี จึงทำให้มีความนิยมในการตั้งศพ เพื่อที่จะบำเพ็ญกุศลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    แม้ว่าภายหลังพระเดชพระคุณหลวงพ่อสาย หรือว่าพระครูสุวรรณเสลาภรณ์ได้สร้างสะพานแขวนหลวงปู่สาย เพื่อให้ญาติโยมทั้งหลายได้เดินทางมาทำบุญที่วัดท่าขนุนได้สะดวกขึ้น แต่ว่าทุกคนก็ยังสะดวกใจที่จะบำเพ็ญกุศล โดยเฉพาะงานศพกันที่วัดทองผาภูมิมากกว่า ยกเว้นคนรุ่นเก่าจริง ๆ ที่ยึดมั่นถือมั่นกับคำว่า "วัดหลวงพ่อสายของเรา" ก็จะสั่งให้ลูกหลานนำศพมาตั้งเพื่อบำเพ็ญกุศลที่วัดท่าขนุน ดังนั้น..วัดท่าขนุนจึงนาน ๆ ครั้งที่จะมีงานศพ แต่ว่าวัดทองผาภูมินั้น แทบจะมีงานศพอยู่ทุกวัน
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,373
    ประกอบกับว่า ทางราชการสามารถกราบทูลอัญเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ มาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่เบื้องพระเกตุมาลาองค์หลวงพ่อ ภปร. พระพุทธกาญจนธรรมพิทักษ์ด้วย ก็ยิ่งเป็นประวัติศาสตร์สำคัญของชาวทองผาภูมิ ว่าเรามีพระพุทธรูป ภปร.องค์ใหญ่ที่สุด ซึ่งในหลวง ร.๙ พระราชทานให้เป็นขวัญและกำลังใจแก่ชาวทองผาภูมิทั้งหลายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

    แม้ว่าภายหลังกระผม/อาตมภาพได้สร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๒๑ ศอกไว้ที่หน้าวัดท่าขนุน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่บุคคลที่เดินทางไปยังสังขละบุรี ที่จะต้องฝ่าฟันเส้นทางทุรกันดาร ประกอบไปด้วยหุบเหวมากมายก็ตาม ชาวบ้านก็ยังคงรักหลวงพ่อ ภปร. ของเขา และทำการเปลี่ยนผ้าถวายให้อยู่ทุกปีเป็นประจำ ก็คือจะเปลี่ยนผ้าในวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๘ ของทุกปี

    ประกอบกับกระผม/อาตมภาพเอง ปีนี้ไม่ได้ติดภารกิจภายนอก เนื่องจากว่าเป็น "ผู้เสี่ยงสูง" จึงสามารถที่จะมาร่วมงานได้ โดยที่ทางราชการ ตลอดจนกระทั่งประชาชนทุกหมู่ทุกเหล่า และหลวงพ่อพระครูสมุห์ฉันธ์ วรปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดทองผาภูมิ ก็มีความยินดีที่กระผม/อาตมภาพได้มาร่วมงานด้วยกัน

    แม้จะบอกกับทุกคนว่าเป็นผู้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่ทุกคนก็รายล้อมเป็นไข่แดงไม่ยอมให้ไปไหนอยู่ดี ดังนั้น...ถ้าหากว่ามี "คลัสเตอร์" ใหญ่จากการแห่ผ้าถวายหลวงพ่อ ภปร. พระพุทธกาญจนธรรมพิทักษ์ ก็ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าเกิดจากฝีมือของกระผม/อาตมภาพเอง..!

    อีกส่วนหนึ่งก็คือ หลังจากนั้นในช่วงบ่าย กระผม/อาตมภาพได้ไปเข้าร่วมการพิจารณาโครงการต่าง ๆ ตามแผนพัฒนาท้องถิ่นของทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ซึ่งท่านนายกเทศมนตรี ก็คือนายประเทศ บุญยงค์ ได้นิมนต์และเชิญผู้ร่วมงานทุกคนมาร่วมกันพิจารณาดูว่า โครงการนั้น ๆ เป็นประโยชน์แก่ชุมชนในพื้นที่อย่างแท้จริงหรือไม่ ? และขณะเดียวกันก็คือมีการใช้งบประมาณอย่างสมเหตุสมผลหรือไม่ ?
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,528
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,536
    ค่าพลัง:
    +26,373
    ถ้าหากว่าที่ประชุมมีการคัดค้าน ก็จะได้ถอนโครงการนั้นออกจากแผนพัฒนาของเทศบาลตำบลทองผาภูมิ แต่ถ้าหากว่าไม่คัดค้าน ก็จะนำเข้าสู่แผนพัฒนาประจำปี ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐ ซึ่งต้องเสนอต่อทางด้านสำนักงบประมาณแผ่นดิน ในการใช้งบประมาณประจำปีนั้น ๆ

    กระผม/อาตมภาพเมื่อพิจารณาดูความสอดคล้อง ระหว่างวัตถุประสงค์และผลที่คาดว่าจะได้รับของแต่ละโครงการแล้ว ก็ได้ทักท้วงว่า ในส่วนของโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยของทางเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ซึ่งตั้งเป็นงบประมาณผูกพันเอาไว้ปีละ ๑๐๐,๐๐๐ บาท เป็นระยะเวลา ๕ ปีต่อเนื่องกันนั้น เป็นจำนวนเงินที่น้อยไปนิดหนึ่ง

    เหตุเพราะว่าการที่เราจะใช้งบประมาณได้นั้น ก็ต่อเมื่อเกิดเหตุสาธารณภัยขึ้น อย่างเช่นว่า น้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือว่าเขื่อนแตก เป็นต้น แต่ว่าจากปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ร่วมกันไปช่วยเหลือบ้านที่ถูกไฟไหม้ จะเห็นว่าทางด้านสำนักงบประมาณนั้นได้จำกัดยอดเอาไว้ว่า ช่วยเหลือได้ไม่เกินบ้านละ ๔๖,๐๐๐ บาท แล้วถ้าหากว่าปีนั้นเกิดไฟไหม้ขึ้นมาสัก ๓ หลัง งบประมาณในส่วนนี้ก็ไม่น่าที่จะเพียงพอ

    ดังนั้น...เพื่อความไม่ประมาทและความอุ่นใจ ว่าเราไม่ต้องไปควักเอางบสะสมมาใช้งาน เพราะว่างบประมาณสะสมนั้นมีเป้าหมายใหญ่ ที่กระผม/อาตมภาพได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะให้ทางเทศบาลตำบลทองผาภูมินั้น เอามาใช้ในการนำสายไฟลงสู่ใต้ดิน ซึ่งเป็นโครงการใหญ่โตมโหฬารมาก งบประมาณที่มีอยู่ไม่น่าจะเพียงพอ จึงขอให้ทางเทศบาลตำบลเพิ่มงบประมาณช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยขึ้นมา จนกระทั่งในที่ประชุมตกลงกันว่า ตั้งงบประมาณเอาไว้ปีละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท

    แล้วขณะเดียวกัน ก็จะนำเอาเรื่องของการนำสายไฟทั้งหมดลงสู่ใต้ดิน เพื่อภูมิทัศน์อันงดงามของทองผาภูมิของเรา จะได้ไม่มีอะไรมาเกะกะต่อสายตา เข้าสู่โครงการ เพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณผูกพันกันต่อไป

    ดังนั้น...แม้ว่าจะเป็นผู้เสี่ยงสูง โดนกักตัวอยู่ก็ดี แต่ว่างานที่รับปากทางเจ้าภาพเขาเอาไว้แล้วทั้ง ๒ งาน กระผม/อาตมภาพก็ต้องไปร่วมงานด้วยความระมัดระวัง และในการแห่ผ้านั้น กระผม/อาตมภาพได้เดินจากหน้าหลวงพ่อ ภปร. ลงไปจนถึงกระทั่งบริเวณด้านหน้าศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อที่จะถ่ายรูปขบวนแห่ แล้วเดินกลับจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวขึ้นมายังหลวงพ่อ ภปร.อีกครั้งหนึ่ง

    ระยะทางก็ประมาณ ๒ กิโลเมตร ไปกลับอยู่ที่ ๔ กิโลเมตร ยังรู้สึกว่าสบายดี ไม่มีอะไรผิดปกติ น่าจะอยู่ที่ว่าไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แต่อย่างใด แต่เพื่อความไม่ประมาทก็ยังคงจะกักตัวอยู่ จนกว่าจะครบตามเวลาที่ทางคณะ อสม.ตำบลท่าขนุนได้แนะนำเอาไว้

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสงฆ์สามเณรของเรา ตลอดจนกระทั้งบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพุธที่ ๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...